รีวิวฉบับที่ 650 … Mr.Oe ทยอยส่งการบ้านย่าน BTS แบริ่งอย่างต่อเนื่องนะครับ โครงการ Villa Lasalle ของ Origin Property เจ้าถิ่นย่านแบริ่ง-ลาซาล นี้ เป็นโครงการคอนโดตึกคู่โครงการใหม่ที่เปิดมาพร้อมๆ กับอีกหลายเจ้าที่เริ่มเข้ามาสร้างความคึกคักรายรอบสถานีรถไฟฟ้า BTS แบริ่ง และผมคงจะได้ส่งการบ้านโครงการย่านนี้อีกหลายโครงการ เพราะกำลังจะมีทยอยขึ้นเพิ่มเติมอีกหลายตึกครับ ทำเลลาซาลนี้ หลังจากปรับปรุงถนนซอยเสร็จ ก็เหมือนสาวบ้านๆที่ไป Upgrade ตัวเองมาจากเกาหลีครับ Developer มาจีบกันตรึม เริ่มเข้าสู่ช่วงร้อนแรงที่ต้องเหลียวแลมองกันได้แล้ว 🙂
Fact @ 16 Aug 2014
- Villa Lasalle (วิลล่า ลาซาล)
- Developer: Origin Property
- Economy Class (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน : ซ.ลาซาล 18 ถ.สุขุมวิท 105 เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร อาคาร Monet 178 Units อาคาร Renoir 175 units
- จำนวนห้องพักอาศัยรวมทั้งโครงการ 353 ยูนิต
- ที่ดินประมาณ 2-1-58 ไร่
- ที่จอดรถ รวมจอดซ้อนคัน 40%
- 1 ห้องนอน 25 ตร.ม.
- 1 ห้องนอน+1 ห้องเอนกประสงค์ 35 ตร.ม.
- 2 ห้องนอน 50-56 ตร.ม.
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.49 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรเริ่มต้นประมาณ 59,600 บาท
- เริ่มก่อสร้าง : ไตรมาส 4 ปี 2557
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ไตรมาส 1 ปี 2559
- http://www.villalasalle.com
- Tel : 087-123-1001, 091-575-8963
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด 13.660429, 100.611238
แผนที่จากทางโครงการครับ
โครงการ วิลล่า ลาซาล นี้ ทาง ThinkofLiving เคยได้มีโอกาสทำรีวิวทำเลไปแล้ว สำหรับท่านที่ยังไม่เคยอ่านเรื่องทำเล สามารถ Click ตรงนี้ เพื่ออ่านรีวิวทำเลโครงการ Villa Lasalle ได้เลยครับ
ปกติ Developer เจ้านี้ เขาจะมี Theme สำหรับตัวโครงการในทุกโครงการนะครับ โดยเฉพาะในย่านแบริ่งนี่จะออกแนววินเทจ ยุโรปทุกตัวเลย…โครงการ วิลล่า ลาซาล จะเป็นแนว Modern French Serviced Condo ได้แรงบันดาลใจมาจากการพักอาศัยและใช้ชีวิตในเมืองใหญ่อย่างฝรั่งเศส ซึ่งเค้าเอาชื่อกับ รายละเอียดเล็กๆน้อยๆมาใส่ในตึกทั้งสองตึก เป็น Gimmick ซึ่งไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะสาระจริงๆมันคือห้องครับ … โครงการเน้นการออกแบบให้ห้องเด่นเป็นหลัก อันมาจากความเชื่อที่ว่า คนเมืองใช้ประโยชน์และใช้ชีวิตในห้องตัวเองค่อนข้างมาก ตัวโครงการเลยจัดรูปแบบโดย focus ที่ห้อง โดยตึกและส่วนกลางส่วนอื่นๆต้องยืดหยุ่นตามห้อง เราเลยเห็นตึกบิดเป็นรูปที่ค่อนข้างประหลาดหน่อย ไม่ใช่แท่งตรงๆแบบปกติ แลกมากับการได้ห้องหน้ากว้างที่ขนาด เป๊ะพอดี กับฟังค์ชั่นที่ต้องการจัดลงไป และตัวโครงการจะมี Service อย่างพวก Concierge และ Room Service มาให้เข้าไปอีก… ถามว่าจัดออกมาแล้วเป็นยังไง มันเวิร์คไหม และมันเหมาะกับใคร? ผมจะค่อยๆ อธิบายให้ฟังทีละส่วน และขอเน้น เรื่องห้องของเขาเป็นพิเศษครับ มันแปลกดี…
รูปด้านหน้าโครงการ
รูปโครงการ ดูจากด้านนี้ จะดูเป็นโครงการสองอาคารธรรมดา…
รูปสระว่ายน้ำภายใน โครงการ ซึ่งจะถูกโอบล้อมโดยตัวอาคาร
รูป Fitness ของโครงการ
รูปดาดฟ้าอาคาร ซึ่งจัดเป็นสวนยุโรป
รูปสวนบนดาดฟ้าอาคาร
รูปห้องไวน์ ซึ่งจริงๆคือห้องนั่งเล่นของลูกบ้านนั่นแหละ ห้องนี้ได้วิวสระด้านใน
รูป Lobby ที่จัดเป็น Lobby 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นส่วนต้อนรับ และพบเจอแขก
ด้านบน Lobby จัดเป็น ห้องสมุด และห้องนั่งเล่นของลูกบ้าน
อันนี้สำนักงานขายของจริง เขาพยายามจัดแต่งให้คล้ายกับ Lobby ของโครงการครับ
ภายในสำนักงานขาย วิลล่า ลาซาล
ตัวสำนักงานขายตั้งอยู่ปากซอยย่อย ลาซาล18 อันเป็นแปลงที่ดินที่ตั้งโครงการวิลล่า ลาซาล ครับ เวลามาที่นี่ อย่าลืมเดินดูสภาพแวดล้อมรอบๆแถวๆนี้ด้วย ว่าเราชอบไหม เหมาะกับเราไหม
สำนักงานขาย หน้าตาแบบนี้นะครับ มีที่จอดรถอยู่ด้านข้าง จอดได้หลายคันอยู่
โมเดลโครงการ มองจากด้านนี้ เป็นตึกคู่ปกติ
โมเดลโครงการ มองจาก ซอยลาซาล
ตัวทางเข้าออกโครงการ จะอยู่ในซอยลาซาล 18 นะครับ
ทางเข้าออกเป็น one way วนรอบอาคาร
มองจากมุมบน
ตัวโครงการมีสวนอยู่บนดาดฟ้า ทั้งสองอาคารนะครับ
มองจากมุมด้านบน จะเห็นสวนที่อยู่บนดาดฟ้า
รูปแบบหน้าตาการวางตัวตึกจะแปลกหน่อยนะครับ เหมือนตัว G กับตัว S
Plan ชั้น 2 ของโครงการ villa lasalle ครับ ชั้น G เป็นที่จอดรถ เขาไม่มี Plan มาให้ดู ตึกด้านซ้ายมองจากด้านนี้เป็นรูปตัว S ชื่อ Monet นะ (โมเนต์) ส่วนตึกด้านขวา มองจากมุมนี้คล้ายตัว J ชื่อ Renoir (เรอนัวร์) ตัวตึกซ้ายแทบไม่มี Facility อะไร นอกจากสวนบนดาดฟ้า เพราะส่วน Facility เกือบทั้งหมด มารวมอยู่ที่ตึก Renoir หมดเลย ทั้ง Lobby สระ Fitness ห้องสมุดห้องอเนกประสงค์ ตึก Renoir จะโอบสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลาง ตัวสระไม่ใหญ่ขนาดราวๆ 5×15 เมตร การวางตึกแบบนี้ ห้องวงในได้วิวสระสวนก็จริง แต่จะ Block วิวกันเองและเสีย Privacy ด้วย เปิดหน้าต่างหรือยืนที่ระเบียงก็จะเห็นเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามที่อยู่ห่างไปไม่ไกล ส่วนห้องที่อยู่วงนอก จะได้วิวที่เปิดโล่งกว่ามาก
ถ้าดูจากแผนที่ Google ตัวโครงการจะอยู่ในลักษณะนี้ วิวรอบด้านยังค่อนข้างโล่งครับ แต่ก็ไม่ได้การันตีว่าจะโล่งแบบนี้ไปตลอดนะ เพราะในอนาคตมีตึกมีอาคารมาขึ้นรอบข้างตามความเจริญและการพัฒนาพื้นที่ย่านนี้แน่นอน
ผัง Facility ชั้นสองด้านบนของ Lobby ครับ ซึ่งชั้นนี้จะเดินขึ้นบันไดมาจากส่วน Lobby หรือมาจากทางลิฟท์ก็ได้ Facility ส่วนนี้จะประกอบไปด้วย Library เล็กๆ ซึ่งอยู่ติดกับ Fitness ขนาดวางเครื่องเล่นได้แค่ 4 ชิ้น มี Sauna แยกชายหญิงอยู่ในห้องน้ำที่เป็น Locker ไปในตัว ทำบันไดทางเชื่อมลงสระว่ายน้ำไว้ด้านนี้ครับ
Floor Plan ชั้น 2-8 ของตึก Monet จัดเป็นรูปตัว S มีห้องอยู่ทั้งหมด 178 ห้อง จัดมา 25 ห้องต่อชั้น ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ 89 ห้องต่อลิฟท์ 1 ตัว ถือว่าปกติ ตามมาตรฐาน ตึกนี้เรียกว่าแทบไม่มี Facility ในตึกเลย จะมีก็แต่สวนบนดาดฟ้า ส่วนพวกสระว่ายน้ำและ Fitness จะไปแปะอยู่กับตึก Renoir
ผังชั้น 2 ตึก Renoir เป็นตึกที่อยู่ด้านใน โครงการจัด Facility หลักไว้ที่ตึกนี้ ทั้ง Lobby, Library, Fitness, wine court และสระว่ายน้ำ โดยจัดวาง Lobby ไว้ทางซ้ายติดกับทางเข้าออกโครงการ ลูกบ้านตึก Monet เดินข้ามมาใช้ได้เพราะมันอยู่แทบจะเป็นตึกเดียวกันอยู่แล้ว ตึกนี้มี 175 Units สำหรับชั้น 2 นี้ มี 22 ห้อง มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์โดยสาร 88 ห้อง ต่อลิฟท์ 1 ตัว พอๆกันกับตึก Monet
ผังชั้น 3-8 ของตึก Renoir มีห้องต่อชั้น 25 ห้อง ชั้น 3-8 ของห้องวงรอบนอกตึกนี้ เรียกว่าค่อนข้างโล่งแล้วครับ สำหรับคนที่ชอบวิวเปิดโล่ง ก็เลือก ห้องซีกขวามือวิวทิศใต้ จะโล่งสุด ส่วนพวกห้องวิวสระสวนจะอยู่วงในครับ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby 1 ชุดที่ตึก Renoir
- Library
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 5 x 15 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
- สวนหย่อมรอบโครงการ และบนดาดฟ้าของทั้งสองตึก
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อ/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟท์ตึก Monet 89:1
- อัตราส่วนลิฟท์ตึก Renoir 88:1
- ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคันประมาณ 141 คันคิดเป็น 40%
- ระบบ CCTV / Access Card
- Shuttle Service
- Concierge
- บริการทำความสะอาดห้อง, สั่งอาหาร, ซักรีด
ห้องตัวอย่างมี 3 ห้อง ผมจะพาไปดูทั้งสามห้อง แต่ขอเริ่มจากห้อง 1 Bedroom 25 ตารางเมตรก่อนนะครับ
ห้อง 1 Bedroom 25 ตารางเมตร เขามี 2 แบบให้เลือก แบบนี้โครงการเรียกว่า Paris Deluxe เป็นห้อง 1 Bedroom ที่ได้ครัวเปิด และห้องน้ำอยู่ในห้องนอน ห้องนี้ขายแบบ Fully furnished ที่ Built ส่วนตู้เก็บของและครัวเชื่อมกัน มีที่นั่งกินข้าวเล็กๆพับได้เชื่อมกับ Pantry ซึ่งสามารถใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารได้ แต่ขนาดมันไม่ใหญ่เหมาะกับการนั่งกินมาม่าเหงาๆคนเดียวมากกว่า ตัวตู้เย็นและเครื่องซักผ้าจะวางตรงข้ามกับ Pantry ระเบียงจะได้โล่งๆ และเขาเอาคอมแอร์ แขวนด้านบนเป่าลมร้อนออกนอกอาคาร ระเบียงที่นี่เลยสามารถใช้งานปลูกต้นไม้ได้นะครับ ห้องนอนเป็นประตูกระจกบานเลื่อน และมีลูกเล่นการเปิดปิดประตูตู้เสื้อผ้ามาให้เพื่อเพิ่ม Privacy อีกนิดหน่อย ห้องน้ำอยู่ในห้องนอนครับ … ระยะพื้นถึงฝ้าของห้องนี้คือ 2.4 เมตร มีของแถมพิเศษเพิ่มเติมคือ Digital Door Lock และ ติดตั้งระบบ Sound System มาให้ทุกห้อง
พื้นห้องที่นี่เป็นไวนิลนะครับ ไม่ใช่ลามิเนต พื้นไวนิลจะดีในแง่ทนความชื้นน้ำหกใส่ไม่ต้องไปกังวลไม่บวมไม่โก่ง และมันไม่เป็นเชื้อราครับ
ประตูห้องเป็นบานทึบสีแบบนี้
Digital Door Lock ของ Yale ที่แถมมาให้
ด้านในของ Digital Door Lock ครับ
เปิดประตูเข้ามาจะเจอส่วน Living Area ที่มีครัวอยู่ด้านหน้า และวาง ชุดโซฟานั่งเล่นดูทีวีไว้ติดระเบียง
ส่วน Built in ที่แถมให้ จะ Built พวกตู้วางของต่อเนื่องมาจาก Pantry ไปถึงชั้นวางทีวีเลย ดูเป็นเนื้อเดียวกัน
มองย้อนกลับไปที่ประตู จะเห็นการจัดวาง ตู้เย็นกับเครื่องซักผ้าไว้ด้านตรงข้าม Pantry เพื่อให้การเชื่อมต่อของตู้ Built in ด้าน Pantry มันไม่สะดุด
เครื่องซักผ้าที่วางอยู่ จะอยู่ในช่องที่เตรียมไว้ให้ สามารถใช้เป็นที่วางของได้ ส่วนเรื่องน้ำและความชื้น เนื่องจากตัวพื้นเป็นไวนิลก็ไม่ต้องกังวลมากเหมือนพื้นลามิเนต
Pantry ได้ของ RCD มีตู้แขวนเก็บของด้านบน ตัวไมโครเวฟวางด้านล่าง
Top ครัวเป็น ลามิเนต ได้อ่างล้างจาน เตาและเครื่องดูดควันของ TEKA
ที่แขวนคว่ำจานเหนืออ่างนี่ดีนะ น่าไปหามาติดที่บ้าน ล้างเสร็จเล็กๆน้อยๆเราคว่ำจานตรงนั้นเลยง่ายและน้ำมันไหลลงอ่างด้วย เออแต่อันนี้ผมลืมถามไปนะครับว่าเขาแถมให้ไหม
ที่นั่งอเนกประสงค์ที่เหมาะแก่การนั่งกินมาม่าคนเดียว วางอยู่ติด Pantry ครับ แม้โครงการจะจัดที่นั่งทานข้าวที่โซฟา อันเนื่องมาจากไม่มีที่วางโต๊ะทานข้าวแบบจริงจัง แต่ผมเชื่อว่านั่งกินที่โซฟาไม่สะดวกเท่านั่งกินตรงนี้ครับ
โต๊ะอเนกประสงค์นี้ พับเก็บได้ง่ายๆ เวลาต้องการให้มันดูโล่งๆก็พับซะ แต่ถ้าอยากใช้งาน ก็ดึงขึ้นมาได้ครับ
ระยะดูทีวีหักพนักพิงด้านหลังโซฟาแล้วจะอยู่ที่ราวๆ 2.2 เมตร วางทีวี 40 นิ้วก็พอครับ
ตู้วางทีวี Built ต่อเนื่องมาจาก Pantry เลย
ชุดโซฟา
เขามี Drop ฝ้าเพื่อบังม่านให้ ส่วนไฟซ่อนถ้าอยากได้แบบนี้ ต้องติดตั้งเพิ่มเอง
พื้นที่ระเบียงวางติดกับที่นั่งเล่นดูทีวี ระเบียงยาว 2.5 เมตร กว้างราวๆ 72 ซม. ไม่ต้องเสียพื้นที่ให้กับเครื่องซักผ้าและคอมแอร์ จึงสามารถวางกระถางต้นไม้ได้นะ
ระเบียงกั้นด้วยชุดประตูกระจกบานเลื่อนกรอบอลูดำวางบน Curb สูงราวๆ 10 ซม. แบบนี้ กันน้ำโอเค แต่เดินเข้าเดินออกก็ระวังสะดุดด้วยล่ะ
พื้นที่ระเบียง มองไปทางฝั่งห้องนอน จะเห็น Bay Window ของห้องนอน
ระเบียงอีกด้าน
คอมแอร์ (คอล์ยร้อน) จะแขวนไว้ด้านบนแบบนี้ เป่าลมร้อนออกด้านนอกอาคาร
ห้องนอน ไม่ใช่ประตูปกติ แต่จะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน เพื่อให้ได้ความโปร่งโล่ง
ชุดกรอบประตูกระจกบานเลื่อน และระยะเดินผ่านจะเหลือเท่านี้ เพราะติดโซฟานิดนึง
เปิดเข้ามาในห้องนอน จะเจอตู้อเนกประสงค์ชุดนี้ก่อน
ห้องนอน วางเตียงห้าฟุตไว้ให้
ปลายเตียงมีระยะเดินผ่าน แต่เหลือพื้นที่ไม่มาก ถ้าจะติดทีวี ต้องเอาแบบบางๆและแขวนผนังครับ
หน้าต่าง Bay Window เวลานอนที่เตียง จะได้มุมมองภายนอกที่ดีขึ้น มันจะช่วยทำให้ห้องดูโล่งขึ้นครับ
ผนังฝั่งห้องน้ำนี้ มีตู้เสื้อผ้าอยู่ เค้าออกแบบประตูตู้เสื้อผ้าให้เป็นบานเลื่อนใหญ่ เลื่อนมาปิดห้องเพิ่ม Privacy และ Function ได้.. function อะไร โปรดสังเกตห้องน้ำก่อนนะ เดี๋ยวผมจะเลื่อนประตูตู้เสื้อผ้าให้ดู
ผมเลื่อนให้ดูนะ
พอเลื่อนประตูตู้เสื้อผ้ามาขวาสุด มันจะกลายเป็นปิดห้องนอนอีกชั้นหนึ่ง สมมุติว่าอยู่กับแฟนแล้วแฟนจะนอน แต่เราจะดูฟุตบอลกับเพื่อนด้านนอก พอปิดประตูนี้ก็ได้เป็นห้องนอนมิดชิด และเราสามารถเดินเข้าห้องน้ำจาก Living Area ได้สบายไม่รบกวนคนในห้องนอน เพราะอย่าลืมว่า ห้องน้ำมันอยู่ในห้องนอนนะ พอปิดแบบนี้ กลายเป็นห้องน้ำอยู่นอกห้องนอนเรียบร้อยแล้วครับ… คนออกแบบแก้ปัญหาเก่งนะ… อ้อ ส่วนผนังที่เป็นกระจกด้านขวามือ เราควรติดมู่ลี่หรือม่านด้วยนะ
ตู้เสื้อผ้าออกแบบมาให้เข้าไปแอบ และวางของชิ้นใหญ่ๆได้
ห้องน้ำกั้นด้วยธรณีก่อแบบนี้
ภาพรวมพื้นที่ในห้องน้ำ
ชุดสุขภัณฑ์ที่ได้ เป็นของ American Standard
อ่างล้างหน้า มีตู้เก็บของเล็กๆด้านล่าง
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard แบบ slow closed
พื้นที่ยืนอาบน้ำขนาดใหญ่กว่ามาตรฐานเล็กน้อย กว้าง 105 ซม. ยาว 115 ซม. เขาแถมฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยให้ด้วย แต่วันที่ไปถ่ายรูป ช่างยังติดไม่เสร็จครับ
ฝักบัวและที่วางสบู่
ปลั๊กต่างๆ ของ SIEMENS หน้าตาแบบนี้
สวิทช์ไฟ
แอร์ได้ของ Daikin ครับ
ชุด Sound System ที่โครงการแถมมาให้ด้วยนี้ ยังติดตั้งไม่เสร็จ ผมเอาหน้าตามาให้ดูเป็นรูปจากโครงการอื่นนะครับ ตัวนี้เขาจะมีลำโพงฝังฝ้า และนี่คือชุดควบคุมซึ่งสั่งงานให้เล่นเพลงได้ด้วยระบบ Bluetooth, USB, FlashDrive, ฟังวิทยุได้ เรานอนสั่งงานบนเตียงโดยกดจากมือถือได้นะ สำหรับคนชอบมีเพลงเบาๆฟังไปเรื่อยๆในห้อง ก็น่าจะชอบ
ผังห้อง 1 Bedroom ขนาด 25 ตารางเมตร ที่โครงการเรียกว่า Nice Derluxe (อ่านว่า นีซ นะครับเป็นเมืองตากอากาศของฝรั่งเศส) ห้องนี้จะแตกต่างจากห้องแรก (Paris Deluxe) ตรงมีครัวปิดติดระเบียง พื้นที่ทำครัวเป็นสัดส่วน มีโต๊ะทานข้าวฟีเจอริ่งกับโซฟา ส่วนห้องนอนเหมือนห้องแรก คือได้ Bay Window ห้องน้ำในห้องนอนและมี Function ประตูเลื่อนกั้นห้องอีกชั้นเช่นกัน
เปิดประตูเข้ามาจะเจอส่วนโซฟานั่งดูทีวีก่อนนะครับ ครัวไปอยู่ติดระเบียง
ชุดโซฟา เขาวางยาวๆให้เอนหลังได้แบบนี้ แต่ตรงปลายจะไม่มีพนักพิง จะได้ยืดเท้าได้เต็มที่
อ้อ การวางโซฟาแบบนี้ไว้ติดโต๊ะทานข้าวเล็กๆนี่ ทำให้สามารถนั่งกินมาม่าสองคนได้ไม่เหงาจนเกินไป
มองย้อนกลับไปที่ประตู ให้ดูระยะทีวี ซึ่งเมื่อหักพนักพิงหลังไปแล้วจะเหลือราวๆ 2.2 เมตรเท่าห้องแรก อันนี้วางทีวี 40 นิ้วเช่นกัน
ชั้นวางทีวีวางบนตู้แขวนแบบนี้ ใต้ตู้มีพื้นที่ให้วางพวกกล่องรองเท้าได้อีกหลายคู่อยู่
ส่วนที่เป็นครัว ถือเป็นตัวสร้างความแตกต่างที่สำคัญของห้องแบบ Paris และ Nice นะครับ ห้องนี้ทำครัวมาดี เอามาวางติดระเบียงและเป็นครัวปิด มีพื้นที่ทำครัวมาก ยืนกอดกันทำครัวแบบในหนังได้สบายๆ … 🙂
ครัวกว้าง 2.5 เมตร และมีระยะยืนโล่งๆตรงกลางราวๆ 1.4 เมตร เขาจัดวาง Pantry ไว้ด้านขวา เอาตู้เย็นและเครื่องซักผ้าไว้ด้านซ้าย
สิ่งที่มีให้เห็นดีเทลเล็กๆน้อยๆสำหรับรายละเอียดในการออกแบบห้องคือประตูปิดครัว ทำมาเป็น 3 ชิ้น เวลาปิด ก็ปิดสนิทแบบนี้ แต่มันเปิดได้กว้าง เวลาเปิดสุด ก็แทบจะโล่งๆแล้ว ถือตระกร้าผ้า หรือของชิ้นใหญ่ หรือของร้อน เข้าออกสะดวกดี
ชุด Pantry สเปคเดียวกับห้องแรก ขนาด ยาว 1.2 เมตรนะครับ
Top ลามิเนต เตาและเครื่องดูดควันจัดมาครบ
ตู้เย็นและเครื่องซักผ้า วางคู่กัน และเครื่องซักผ้าวางในช่องที่ทำมาให้ เรียบร้อยดี วางของด้านบนได้ แต่อย่าขึ้นไปนั่งเล่นล่ะ มันรับน้ำหนักคนไม่ไหวนะฮะ … ผมแนะนำให้วางพวกหม้อหุงข้าว กระติกน้ำร้อนนะ เขาทำปลั๊กมาให้แล้วด้วย
ชั้นวางของเหนือตู้เย็น วางของจุกจิกได้นิดหน่อย
ระเบียงที่อยู่ติดครัว ขนาดยาว 2.5 เมตร กว้างราวๆ 72 ซม. ตากผ้าหรือปลูกต้นไม้ได้เต็มที่
คอมแอร์ แขวนด้านบนนะครับ
ประตูเข้าห้องนอน จะแตกต่างจากห้องแบบ Paris นะ อันนี้เป็นประตูมาตรฐานปกติ และผนังก็เป็นผนังทึบ
เปิดประตูห้องนอนเข้ามาจะเจอตู้อเนกประสงค์นี้
ภายในห้องนอนเรียกว่า เหมือนห้อง Paris เป๊ะ
หน้าต่าง Bay Window
ระยะปลายเตียง … ทีวีต้องแขวนผนังเช่นเคย
ห้องนี้ได้ประตูตู้เสื้อผ้าแบบเลื่อนปิดห้องนอนได้เหมือนห้อง Paris นะครับ พอดีห้องนี้ ช่างยังติดไม่เสร็จครับ
ห้องน้ำ Spec และการจัดวาง เหมือนห้องแรก
ผังห้อง 2 Bedroom 50 ตารางเมตร ที่โครงการเรียกว่า Versailles Grand Suite (แวร์ซาย แกรนด์ ซวีท) เป็นห้อง 2 Bed หน้ากว้าง 2 นอน 2 น้ำ 2 ระเบียง ขายแบบ Fully Furnished จัดให้สวยได้ง่ายเพราะทรงห้องหน้ากว้างและขนาดกว้างคูณยาวมันพอดี ตัวโครงการ จัดพื้นที่ Living ไว้ตรงกลางแบ่งห้องออกซ้ายขวา เพื่อให้มีระยะห่างกันให้เป็นส่วนตัว พื้นที่ Living คือพื้นที่ที่ให้น้ำหนักมาก มีครัวเปิด พื้นที่นั่งทำงานอ่านหนังสือ ที่นั่งดูทีวี โต๊ะทานข้าวอเนกประสงค์ และได้ระเบียง 2 อันอยู่ในส่วน Living
เปิดประตูเข้ามาจะเป็นส่วน Living Area แบบนี้
อีกมุม
ตู้วางรองเท้าแอบไว้ด้านนี้
โต๊ะทานข้าว ใช้เป็นโต๊ะนั่งอเนกประสงค์ได้ เค้าวางโต๊ะแคบไปนิดด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ นั่งสี่คนจะวางจานลำบาก ลงทุนเปลี่ยนเป็นโต๊ะที่ยืดขยายเพิ่มพื้นที่ได้จะนั่งสบายขึ้นมากครับ
ครัวเป็นครัวเปิด นะครับ Spec ของเหมือนห้อง 1 Bed แต่ขนาดจะใหญ่กว่า
ยืนเรียงแถวให้ดู
ตัว Pantry Top ลามิเนตนี้ยาว 1.8 เมตร ไม่เน้นทำครัวจริงจังนะ เพราะเป็นครัวเปิด
ตู้เก็บของชิ้นยาวๆ วางข้างตู้เย็น
พื้นที่ทำงานและนั่งเล่นดูทีวี
ระเบียงคู่ ขนาดยาว 1.8 เมตร 2 ระเบียง วางอยู่ติดส่วน Living Area แบบนี้
พื้นที่นั่งเล่นดูทีวี มีระยะดูทีวี ร่วมๆ 2.6 เมตร และขยับได้มากกว่านี้อีก สามารถวางทีวี 50 นิ้วได้สบายๆ
ตู้แขวนวางทีวี
โซฟาวางชิดโต๊ะทำงานแบบนี้
โต๊ะทำงานอเนกประสงค์
Living Area อีกมุม
มาดูห้องนอนเล็กกันนะครับ ห้องนอนเล็กนี้วางไว้ด้านใกล้ทางเข้าห้อง และอยู่ติดกับห้องน้ำซึ่งเปิดเข้าออกได้สองทางทั้งจากห้องนอนเล็กและ living area
ภาพรวมพื้นที่ในห้องน้ำ
ห้องนอนเล็ก
ปลายเตียงแขวนทีวีที่ผนังได้ และมีโต๊ะอเนกประสงค์ด้านปลายเตียงมาให้ด้วย
โต๊ะชุดนี้พับเก็บได้นะครับ
ห้อง Master Bedroom จะอยู่อีกด้าน โดยมีพื้นที่ Living กั้นอยู่
ห้อง Master Bedroom
วางเตียง 5 ฟุตแล้วเหลือพื้นที่ประมาณนี้
ระยะปลายเตียงติดทีวีได้
ปลายเตียงอีกมุม
เขามีโต๊ะพับได้อเนกประสงค์ที่ด้านปลายเตียงด้วยนะครับ
หน้าห้องน้ำจะมีตู้ชุดหนึ่ง
หน้าบานเปิดปิดแปลกดี ทำเป็นบานเฟี้ยม
วางของชิ้นใหญ่ๆได้สบายเช่นเคย
ภาพรวมพื้นที่ในห้องน้ำ
แถมผังห้องที่จัดได้คุ้มค่าเนื่องจากเป็นห้องหน้ากว้างให้ดูกันครับ ห้องนี้ขนาดแค่ 35-36 ตารางเมตรเท่านั้นเอง จัดมาแบบ 1+1 คือ 1 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ที่จัดเป็นห้องนอนอีกห้องได้ครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 15 Aug 2014
- 1 Bedroom Paris Deluxe (ครัวเปิด) ชั้น 2 ห้อง A207 เนื้อที่ 25.64 ตร.ม. ราคา 1.49 ล้านบาท หรือ 58,112 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom Paris Deluxe (ครัวเปิด) ชั้น 5 ห้อง A519 เนื้อที่ 24.75 ตร.ม. ราคา 1.64 ล้านบาท หรือ 66,262 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom Nice Deluxe (ครัวปิด) ชั้น 2 ห้อง B216 เนื้อที่ 24.31 ตร.ม. ราคา 1.49 ล้านบาท หรือ 61,292 บาท/ตร.ม.
- 1+1 Bedroom Deville Suite ชั้น 2 ห้อง A209 เนื้อที่ 35.13 ตร.ม. ราคา 2.19 ล้านบาท หรือ 62,340 บาท/ตร.ม.
- 1+1 Bedroom Deville Suite ชั้น 7 ห้อง A710 เนื้อที่ 35.13 ตร.ม. ราคา 2.39 ล้านบาท หรือ 68,033 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom Versailles Grand Suite ชั้น 2 ห้อง A212 เนื้อที่ 52.10 ตร.ม. ราคา 3.19 ล้านบาท หรือ 61,228 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom Versailles Grand Suite ชั้น 8 ห้อง A812 เนื้อที่ 52.10 ตร.ม. ราคา 3.49 ล้านบาท หรือ 66,986 บาท/ตร.ม.
- Fully Furnished + แอร์ + Digital door Lock + Sound System
- ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- Shuttle Bus ไปกลับ BTS แบริ่ง
- จอง 10,000 บาท สำหรับห้อง 1 Bedroom และ 1+1 Bedroom, 20,000 บาทสำหรับห้อง 2 Bedroom
- ทำสัญญา 40,000 บาทสำหรับห้อง 1 Bedroom และ 1+1 Bedroom, 60,000 บาทสำหรับห้อง 2 Bedroom
- ดาวน์ 12% ผ่อนดาวน์ 16 งวด
- ค่ากองทุน 420 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 42 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
Villa Lasalle อยู่ในทำเลลาซาลแบริ่งนะครับ ตัวโครงการอยู่ลาซาล 18 ซึ่งเข้าซอยมาจากปากทางสุขุมวิท ราวๆ 1 กิโลเมตร ไกลเกินระยะเดินไปรถไฟฟ้า BTS แบริ่ง ดีที่ซอยนี้เป็นชุมชนดั้งเดิมที่คึกคักด้วยมีทางเลี่ยงทางลัดเชื่อมต่อกับบางนาตราด แบริ่ง และศรีนครินทร์จึงมีรถผ่านค่อนข้างตลอดเวลา ความอุดมสมบูรณ์รายรอบโครงการ พวกของกินของใช้มินิมาร์ทร้านยา มีค่อนข้างเยอะและหลากหลาย น่าเสียดายที่ตัวซอยค่อนข้างแคบ ไม่งั้นจะเจริญกว่านี้อีกมาก… สภาพแวดล้อมรายรอบโครงการในปัจจุบัน ด้านที่ติดซอยแบริ่งจะเป็นพวกอาคารพาณิชย์ ส่วนด้านข้างจะเป็นที่อยู่อาศัย ด้านในยังเป็นที่ว่างๆนะครับ ค่อนข้างเปิดโล่งพอสมควร
การเดินทางโดยใช้รถ เดินทางสะดวกมาก ทางเลี่ยงทางลัดเยอะ สามารถเลือกใช้ได้หลายเส้นทาง เวลาเส้นทางหลักติดมากๆ มีทางด่วนให้ใช้เป็นหลักก็คงเป็นด่านบางนา น่าเสียดายที่แม้จะสะดวกต่อการใช้รถมาก แต่เค้าจัดที่จอดรถรวมซ้อนคันแล้วได้มาที่ 40% จึงอาจจะมีปัญหาหากบริหารจัดการเรื่องที่จอดรถกันไม่ดีนะครับ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถแม้จะอยู่ในซอย แต่เป็นซอยหลักของย่านนี้ ที่มีการสัญจรพลุกพล่าน จึงสามารถหา Taxi ได้เรื่อยๆ และมีพี่วินให้เรียกใช้มากมาย น่าเสียดายที่ไกลเกินระยะเดินไป BTS ไม่งั้นจะสะดวกกว่านี้มาก อย่างไรก็ดีทางโครงการเขามี Shuttle Service รับส่งที่สถานีรถไฟฟ้า ซึ่งคงจะพอช่วยให้ลูกบ้านสบายได้ในช่วงที่ Shuttle Service ยังให้บริการ แต่ถ้าค่ำๆ หรือเช้ามากๆ คงต้องเรียกรถเองครับ
วัสดุที่ให้มาค่อนข้างคุ้มค่ามาก หลายอย่างดีกว่าระดับราคานี้ และเขาขายแบบจัดเต็มให้เฟอร์แบบ fully furnished มีพวก Digital Door Lock และ Sound System มาให้ด้วย
การออกแบบจัดห้องดีมาก เป็นห้องหน้ากว้างที่มีมิติกว้างคูณยาว ที่จัดห้องง่าย และออกแบบให้มีทางเลือกที่เหมาะกับแต่ละคนได้ค่อนข้างดี ผมนับรวมไปถึงรายละเอียดในการจัดฟังค์ชั่น Furniture ที่จัดมาให้ด้วยนะครับ เพราะเขาออกแบบมาลงตัวพอดีกับห้อง ถือว่าห้องเป็นจุดแข็งของโครงการ แต่การออกแบบแบบนี้ ทำให้รูปแบบตึกและโครงการ จะได้ตึกหน้าตาแปลกหน่อย เนื่องจากต้อง Balance ให้ได้ความคุ้มค่าของพื้นที่ขายด้วย และในภาพรวมจะมีห้องที่ Block View ระยะไกลกันเองหลายห้อง ห้องพวกนี้คงจะเหมาะกับคนไม่เน้นวิวล่ะนะ … รูปแบบห้องที่จัดมาเน้นห้อง 25 ตารางเมตร เมื่อคำนวนราคารวมแล้ว จะอยู่ในระดับ 1.5-1.8 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่เจ้าของโครงการเขาถนัด และน่าจะหยิบง่ายหน่อยครับ
สาธารณูปโภค ถือว่าเป็นจุดด้อยของโครงการ ซึ่งไม่ใช่แค่โครงการนี้นะ โครงการ Low Rise ส่วนมาก ก็มักจะจัด Facility ออกมาได้ไม่ค่อยจะอลัง หรือมีขนาดที่ไม่ใหญ่เป็นปกติอยู่แล้ว ตัวโครงการเท Facility ไปกองที่ตึกใน หรือตึก Renoir ค่อนข้างมาก ตัวตึก Monet เหลือแค่สวนบนดาดฟ้าเท่านั้นเอง จริงอยู่ที่มันเดินมาใช้งานไม่ไกลไม่ลำบากอะไรนัก แต่การมี Facility อยู่ในตึกตัวเองยังไงมันก็สะดวกและน่าใช้งานกว่าอยู่แล้ว… ตัวโครงการนี้ จะมี Facility ที่จับต้องไม่ได้พ่วงเข้ามานะครับ เป็นพวก Service ต่างๆ เช่น Concierge, Shuttle Service, Room Service พวกทำความสะอาดห้อง สั่งอาหาร และซักรีดครับ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 62,000 บาทต่อตารางเมตร, 15 Aug 2014
- ทำเล 7.5/10 – ทำเลใช้ได้เมื่อเทียบกับราคา น่าเสียดายที่อยู่ไกลเกินระยะเดินไปรถไฟฟ้า
- เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – เดินทางสะดวกมาก ไปมาได้หลากหลายด้าน น่าเสียดายที่ให้ที่จอดรถมา 40%
- ไม่ใช้รถ 7.75/10 – เรียกรถง่ายมีรถผ่านตลอด โครงการมี Shuttle Service พอจะใช้รถไฟฟ้าได้ไม่ลำบากนัก
- วัสดุ 8.5/10 – จัดเต็ม ให้ของเยอะ และ Spec ค่อนข้างคุ้ม
- แบบ 8.5/10 – ออกแบบห้องได้ดีมาก น่าเสียดายที่ภาพรวมโครงการจะแน่นและเสีย Privacy ไปหน่อย
- สาธารณูปโภค 7.0/10 – มีให้ใช้ แต่ค่อนข้างเล็ก มี Service ที่พ่วงเข้ามาค่อนข้างเยอะ
- ECONOMY CLASS
- 7.77 / 10.00
BOTTOM LINE
วิลล่า ลาซาล เป็นโครงการที่เหมาะกับคนมองหาบ้านย่านลาซาลแบริ่งบางนา ยอมขยับเข้ามาในซอยระยะ 1 กิโลเมตร เพื่อให้ได้ห้องราคาหยิบง่ายขึ้น แต่ยังเป็นระยะที่พอนั่งมอไซค์ไปปากซอยต่อ BTS ได้ไม่ลำบากนัก เป็นคนทำงานกลับมาบ้านก็อยู่ห้องไม่เน้น Facility ส่วนกลาง และไม่สนใจวิว มีงบประมาณระดับ 1.5 – 3.5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนราว 10,000 – 24,000 บาท
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ
