Via 61 (เวีย 61) คอนโดใจกลางย่านทองหล่อ-เอกมัย ใกล้ BTS เอกมัย ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัวสูง จาก แสนสิริ

Via 61 (เวีย 61) ณ วันที่ 2 กันยายน 2567

พิกัด Google Maps : 13.723120 , 100.583120
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ แสดงตำแหน่งที่ตั้งของ Via 61 (เวีย 61) ซึ่งอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 61 ห่างจากถนนสุขุมวิทประมาณ 200 เมตร และอยู่ระหว่าง BTS สถานีทองหล่อ – เอกมัย 500 – 700 เมตร โดยจุดเด่นของทำเลนี้อยู่ที่ “บรรยากาศเงียบสงบ เป็นส่วนตัว” เหมาะกับคนที่อยากอยู่คอนโดใจกลางเมือง แต่ไม่ชอบความพลุกพล่าน โดยลักษณะซอยจะเป็นซอยตัน จัดเป็นย่านพักอาศัยดั้งเดิม มีคอนโด และบ้านพักอาศัยเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้ในซอยไม่ได้คึกคักเท่าซอยหลักอย่างทองหล่อ – เอกมัย แต่ก็สามารถเดินออกมาจับจ่ายใช้สอย หาของกิน ของใช้ได้ง่าย ตรงข้ามโครงการเป็น Community Mall อย่าง Park Lane ที่มีร้านค้า , ร้านอาหาร และ Supermarket ที่เปิด 24 ชั่วโมงอย่าง MaxValu อยู่ด้วย ซึ่งจากโครงการก็สามารถเดินหรือขับรถทะลุไปออกซอยสุขุมวิท 63 ได้เลย ไม่ต้องอ้อมออกไปถนนใหญ่ค่ะ

พูดถึงในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ นอกจาก Park Lane ที่อยู่ภายในซอย เดินออกมาบริเวณปากซอยก็จะเจอ Major Cineplex เอกมัย หรือใครที่เพิ่งออกจาก BTS ก็เดินเข้า Gateway เอกมัยได้เลย ซึ่งภายในก็มีร้านให้เลือกช็อปปิ้งได้หลากหลาย ส่วนห้างใหญ่ๆใกล้กันก็มีห้างตระกูล Em อย่าง The Emporium , Emquartier และ Emsphere ที่อยู่ห่างออกไปแค่ 2 – 3 กิโลเมตร ซึ่งเป็นห้างที่ถือเป็น Iconic ของเมือง สำหรับสายชิลล์หรือ Hangout ทองหล่อ – เอกมัย จัดเป็นย่านไลฟ์สไตล์ที่มีความคึกคักทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะมีทั้งร้านอาหารระดับ Hi – end , คาเฟ่ชิคๆ และบาร์ลับให้เลือกอยู่เพียบ

นอกจากเป็นแหล่ง Lifestyle คนเมือง ทำเลของโครงการยังจัดอยู่ในย่าน CBD รอบๆมีทั้งออฟฟิศขนาดใหญ่  , โรงพยาบาล และโรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง อาทิ โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูว์ส , โรงเรียนนานาชาติเอกมัย , โรงเรียนนานาชาติบางกอกเพรพ เหมาะกับทั้งคนที่กำลังมองหาคอนโดใกล้ที่ทำงาน หรือครอบครัวที่อยากได้ที่อยู่อาศัยใกล้โรงเรียนให้ลูกๆ ซึ่งก็จะช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางได้อีกเยอะเลยนะคะ

การเดินทางเข้า – ออกโครงการจะใช้ถนนสุขุมวิทเป็นหลัก ซึ่งถือเป็นถนนเส้นสำคัญที่ใช้ตัดผ่านเข้า – ออกใจกลางเมือง สำหรับคนที่ใช้รถส่วนตัวในการเดินทาง จะใช้ถนนสุขุมวิทวิ่งยาวไปอ่อนนุช – บางนาก็ง่าย หรือใครทำงานอยู่ฝั่งอโศก – สีลมก็สามารถกลับรถวิ่งไปแค่ 3 กิโลเมตรก็ถึงแยกอโศกเลย โดยโครงการยังอยู่ใกล้ทางด่วนถึง 3 สาย เส้นที่ใกล้ที่สุดคือ ทางพิเศษฉลองรัช ขับเลยแยกพระขโนงมาหน่อยก็ถึงแล้ว ใช้วิ่งเข้า – ออกเมืองไปลงรามอินทรา – วัชรพล หรือพระราม 2 ได้เลย

ทางพิเศษเฉลิมมหานคร อยู่บนถนนพระราม 4 เราสามารถใช้ซอยสุขุมวิท 40 ซึ่งเป็นถนน oneway เพื่อลัดมาออกเส้นนี้ได้ ส่วนขากลับก็ใช้ซอยสุขุมวิท 42 ที่เป็นถนน oneway เช่นเดียวกันกลับเข้าโครงการ สุดท้ายคือ ทางพิเศษศรีรัช บนถนนกำแพงเพชรใช้วิ่งตรงไปลงแจ้งวัฒนะได้ แต่ต้องผ่านซอยสุขุมวิท 63 (เอกมัย) เพื่อไปจุดขึ้น – ลง ซึ่งซอยนี้ก็อย่างที่ทราบกันดีว่าการจราจรค่อนข้างติดขัด จึงทำให้ต้องเผื่อเวลาในการเดินทางสักนิดนึงนะคะ หรือใครจะใช้ทางพิเศษฉลองรัชที่อยู่ใกล้สุดก็ได้ แค่ต้องจ่ายค่าผ่านทางเพิ่มเพื่อซื้อเวลาเท่านั้นเอง 🙂

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

ที่ตั้งของโครงการ Via 61 (เวีย 61) จัดว่าอยู่ช่วงต้นซอยห่างจากถนนสุขุมวิทประมาณ 200 เมตร จาก BTS เรามองว่ายังสามารถเดินได้นะคะ เมื่อเข้ามาในซอยทั้ง 2 ฝั่งจะมีฟุตบาทให้พอเดินสวนกันได้ ตรงกลางเป็นถนน 2 เลน การจราจรไม่แออัดเท่าซอยสุขุมวิท 63 เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความพลุกพล่าน รอบโครงการส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัย มีทั้งบ้านเดี่ยวและคอนโด มีตึกสูงอยู่ซอยข้างๆ แต่ก็ไม่ได้ใกล้ในระยะประชิด ทำให้ไม่ได้เสียความเป็นส่วนตัว

• ทิศเหนือ ติดกับ อาคารพักอาศัยสูง 3 – 7 ชั้น
• ทิศใต้ ติดกับ อาคารแนวราบ , อาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้น
• ทิศตะวันออก ติดกับ ซอยสุขุมวิท 61 , Park Lane
• ทิศตะวันตก ติดกับ อาคารแนวราบ , อาคารพักอาศัยสูง 36 ชั้น

บรรยากาศด้านหน้าโครงการภายในซอยสุขุมวิท 61 ตรงข้ามเป็น Community Mall อย่าง Park Lane ซึ่งมีถนนภายในทะลุไปเชื่อมต่อกับซอยสุขุมวิท 63 ได้

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• Park Lane เอกมัย ~ 10 เมตร
• Major Cineplex สุขุมวิท ~ 160 เมตร
• Gateway เอกมัย ~ 650 เมตร
• Marché ทองหล่อ ~ 1.3 กิโลเมตร
• เวิ้งโบราณ (Ekamai Shopping Mall) ~ 1.4 กิโลเมตร
• Eight ทองหล่อ ~ 1.7 กิโลเมตร
• Seenspace ทองหล่อ ~ 2 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลสสุขุมวิท ~ 750 เมตร
• โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ~ 2.2 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลคามิลเลียน ~ 2.6 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลกรุงเทพ ~ 4 กิโลเมตร

โรงเรียน

• St. Andrews International School ~ 1.4 กิโลเมตร
• Trinity International School ~ 1.4 กิโลเมตร
• Ekamai International School ~ 2.3 กิโลเมตร
• Adventist Ekamai School ~ 2.4 กิโลเมตร
• Bangkok Prep International School ~ 3.5 กิโลเมตร

การเดินทาง

• รถไฟฟ้า BTS เอกมัย ~ 450 เมตร
• รถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ ~ 750 เมตร
• ทางด่วนพิเศษฉลองรัช ~ 2.8 กิโลเมตร
• ทางด่วนพิเศษศรีรัชฯ ~ 5.7 กิโลเมตร

Via 61 (เวีย 61) เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร บนเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 61 และห้องพักอาศัยในโครงการยังมีเพียง 61 ยูนิตอีกด้วย ถือเป็นจำนวนที่น้อยเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน จึงทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง ประกอบกับบรรยากาศภายในซอยที่ตั้งโครงการ ที่มีความเงียบสงบถึงจะอยู่ใจกลางเมือง จึงทำให้กลายเป็น Hidden gems แห่งหนึ่งของกรุงเทพเลยก็ว่าได้นะ ซึ่งโครงการก็ได้นำจุดเด่นในเรื่องนี้มาใช้ในการออกแบบด้วย โดยมาในแนวคิด “Carve & Craft” สะท้อนในการออกแบบอาคารและผังที่จะมีการหั่นแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง เพื่อให้เห็นถึง Space และวัสดุที่ซ่อนอยู่ด้านใน ช่วยเพิ่มมิติให้อาคาร เปิดมุมมองทั้งภายนอกและภายในโครงการให้ดูโปร่งโล่ง แตกต่างกับคอนโด Low Rise ทั่วไป โดยรายละเอียดข้างในจะเป็นยังไงบ้าง ไปชมกันเลย

ปัจจุบันโครงการกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปี 2569 สำหรับใครที่สนใจวันนี้เราเลยขอนำภาพแปลนและบรรยากาศโดยรวมมาให้ชมกันก่อน เริ่มจาก Masterplan โดยโครงการนี้เค้าจะแบ่งออกเป็น 8 ชั้น และชั้นใต้ดิน 1 ชั้น สำหรับจอดรถแบบ Automatic Parking จำนวน 29 คัน ส่วนที่เหลือจะเป็นจอดในร่มใต้อาคารทั้งหมด คิดเป็น 108% หรือประมาณ 66 คัน ก็ถือว่าเพียงพอกับลูกบ้าน 61 ยูนิตนะคะ เริ่มจากทางเข้าด้านหน้า จะไม่ได้มีไม้กั้นหรือรั้วเปิด – ปิดบริเวณทางเข้า – ออก แต่จะมีเจ้าหน้าที่รปภ.คอยดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้ 24 ชั่วโมงเลย ซึ่งในการออกแบบทางเข้าด้านหน้าก็ถือเป็นจุดเด่นแรกของอาคารเลยนะ เพราะเค้าออกแบบมาเป็นฝ้าเพดานสูงถึง 5.30 เมตร ให้ความรู้สึกโอ่อ่า โปร่งโล่ง ไม่เหมือนกับเป็นทางเข้าคอนโด Low Rise เลย

ฟังก์ชันชั้น 1 นอกจากพื้นที่จอดรถ จะมี Lobby , ห้องนิติบุคคล (Juristic) โถงลิฟต์โดยสารที่ให้มา 2 ตัวต่ออาคาร ยังมี Pet Park ตอบโจทย์คอนโดที่เป็นแบบ Pet Allowed ที่ลูกบ้านสามารถพาน้องหมา , น้องแมวลงมาสูดอากาศ ยืดเส้น ยืดสายกันได้ ถึงขนาดจะไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีการจัดวางอุปกรณ์ที่คำนึงถึงการใช้งานของน้องๆได้ครบ มีทั้งมุมนั่งเล่นให้พักดื่มน้ำ มุมขับถ่าย และถังขยะอยู่ด้านใน รวมถึงมีรั้วกั้นป้องกันน้องๆวิ่งซนออกมาด้านนอกได้ด้วย

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะมองเห็น Shape ของอาคารที่แบ่งเป็น 2 ฝั่งได้ชัดเจนขึ้น โดยชั้นนี้จะเป็นชั้นเริ่มของส่วนพักอาศัย หน้าห้องส่วนใหญ่จะหันขนานไปกับทิศเหนือ – ใต้ ซึ่งเป็นทิศที่ไม่โดนแดดโดยตรง ทำให้ภายในห้องไม่ร้อน  โดยอาคารฝั่งซ้ายจะเป็นแปลนแบบ Typical คือตำแหน่งและรูปแบบห้องจะเหมือนกันจนถึงชั้น 7 มีให้เลือกคือ 1 Bedroom , 2 Bedroom และ 2 Bedroom Extra ซึ่งมีจำนวนยูนิตเยอะสุดในโครงการ

ส่วนอาคารฝั่งขวา เป็น Double Volume เชื่อมต่อจากชั้นล่าง จากที่จอดรถสามารถใช้บันไดหนีไฟขึ้นมาได้ สำหรับลูกบ้านที่อยู่ชั้น 2 ลงไปซื้อของ รับของ แล้วไม่อยากเดินไปขึ้นลิฟต์ ก็สามารถใช้ได้ ซึ่งก่อนจะเข้าส่วนห้องพักจะมีประตูกั้นอีกชั้น ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยเลย ซึ่งทางเดินตรงกลางเค้าออกแบบมาให้เป็น Semi Outdoor ด้านบนมีหลังคาคลุม เดินได้สบายๆ อีกทั้งตรงมุมอาคารยังมีการแทรกพื้นที่สีเขียวทุกๆ 2 ชั้น ช่วยเพิ่มความสดชื่นได้ดีนะคะ

ชั้น 3 – 4 จะเป็นชั้นที่มีห้องพักอาศัยทั้ง 2 ฝั่ง จากโถงลิฟต์ที่อยู่บริเวณกึ่งกลางโครงการ ก็ถือว่าเดินไม่ไกลนะ ซึ่งเรามองว่าอาคารฝั่งขวาค่อนข้างได้ความเป็นส่วนตัวเลย เพราะมีเพื่อนบ้านแค่ 2 – 3 ยูนิตเท่านั้น อย่างชั้น 5 จะมีแค่ห้อง Penthouse ยูนิตเดียว ให้ความรู้สึกเหมือนเราได้พื้นที่ใช้สอยทั้งชั้นเลย ส่วนชั้น 6 Layout จะเหมือนกับชั้น 4 มีห้องให้เลือก 3 รูปแบบเช่นเดียวกัน ชั้น 7 อาคารฝั่งขวาจะยกให้เป็นพื้นที่งานระบบ เพื่อใช้รองรับส่วนกลางที่อยู่บนชั้น 8 ส่วนอาคารฝั่งซ้ายจะเป็นห้องพักอาศัยเหมือนกับชั้นล่างๆ

ชั้น 8 เป็นชั้นที่มีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดเพียง 3 ยูนิต และเป็นชั้น Facilities หลักของโครงการ โดยรูปแบบห้องจะประกอบด้วย Penthouse , 3 Bedroom และแอบมีห้อง 1 Bedroom ขนาดเริ่มต้นอยู่ที่ชั้นนี้ด้วยนะ ซึ่งเรามองว่าเป็นยูนิตที่ค่อนข้าง Rare Item เลยนะคะ ทั้งได้ความเป็นส่วนตัว เดินมาใช้พื้นที่ส่วนกลางได้ง่าย และยังได้วิวมุมสูงอีกด้วย

พื้นที่ส่วนกลางชั้น 8 ประกอบด้วย Sky Lounge , Gym , Private Dining และ Meeting Room ที่มีฟังก์ชันสามารถเปิดเชื่อมต่อกันได้ เหมาะกับลูกบ้านที่อาจจะชวนแขกหรือเพื่อนร่วมงานมานั่งคุยงาน แล้วสามารทานข้าวด้วยกันต่อได้เลย หรือจะจองไว้เป็นพื้นที่สำหรับปาร์ตี้เล็กๆ ก็ได้ความเป็นส่วนตัวดีนะคะ

ส่วนสระว่ายน้ำจะต้องเดินเชื่อมไปยังอาคารฝั่งขวา ได้มาเป็นระบบเกลือขนาด 15.60×4.30 เมตร ใช้ว่ายออกกำลังแบบจริงจังได้ แล้วยังมีมุม Jacuzzi ให้นั่งนวดผ่อนคลายสบายๆได้ด้วย ส่วนใครอยากจะขึ้นไปสูดอากาศ นั่งเล่นชมวิวมุมสูง ก็สามารถขึ้นบันไปบน Rooftop ได้นะคะ โครงการเค้าออกแบบมาเป็น Terrace พร้อมมุมนั่งเล่นในสวน ให้ความรู้สึกร่มรื่น ผ่อนคลายในบรรยากาศใจกลางเมือง

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• Lobby
• Pet Park
• Car Waiting Lounge
• Sky Lounge
• Private Dining
• Meeting Room
• Gym
• Rooftop Terrace
• Sky Pool
• Jacuzzi Seat / Bed
• Sansiri Backyard
• ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
• ที่จอดรถประมาณ 66 คัน คิดเป็น 108% แบ่งเป็นที่จอด Automatic Parking 29 คัน และที่จอดปกติ 37 คัน
• จุดบริการ EV Charger 1 จุด
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการใช้ระบบ Face Scan

โครงการ Via 61 (เวีย 61) เป็นคอนโด Low Rise ที่มีจำนวนยูนิตน้อย แต่มีรูปแบบห้องและ Layout ให้เลือกเยอะ  รองรับได้ทั้งคนที่อยากซื้อเพื่ออยู่อาศัยคนเดียว หรือจะอยู่กันเป็นครอบครัว 4 – 5 คนก็ได้สบายๆ การออกแบบเน้นเป็นห้องไซส์ใหญ่ หน้ากว้าง พื้นที่ใช้สอยภายในใช้งานได้เป็นสัดส่วน รูปแบบการขายเป็น Fully Fitted ในราคาเริ่มต้น 10.9 ล้านบาท* โดยรายละเอียดต่างๆจะมีดังต่อไปนี้

• 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 50.00 – 55.50 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 54.75 – 66.00 ตร.ม.
• 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 92.75 ตร.ม.
• 2 Bedroom Extra พื้นที่ใช้สอยภายใน 98.25 – 126 ตร.ม.
• 3 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 124.25 – 127 ตร.ม.
• Penthouse พื้นที่ใช้สอยภายใน 186.50 – 188.75 ตร.ม.

วัสดุในห้อง

• วัสดุพื้น : Hybrid Engineering Wood
• Digital Door Lock ใช้งานได้ 5 ระบบ จากยี่ห้อ Philips
• สวิตช์และปลั๊กไฟ จากยี่ห้อ Bticino (หรือเทียบเท่า)
• เครื่องปรับอากาศระบบ Concealed Type ทุกยูนิต

ห้องครัว

• วัสดุพื้น : กระเบื้องพอร์ซเลน ลาย Travertine ขนาด 60×60 เซนติเมตร
• ท็อปเคาน์เตอร์ & Backsplash : หินอ่อน รุ่น DIANA BEIGE (Penthouse : หินควอทซ์ รุ่น TAJ MAHAL*)
• หน้าบานตู้กรุลามิเนต ลาย Brushed Bronze / Satin Beige
• หน้าบาน Island กรุ PVC
• Induction Hob , Hood , Sink จากยี่ห้อ Kuppersbusch (1 Bedroom : 2 Zone / 2 – 3 Bedroom : 4 Zone)

ห้องน้ำ

• วัสดุพื้น : กระเบื้องพอร์ซเลน ลาย Travertine ขนาด 60×60 เซนติเมตร
• สุขภัณฑ์ระบบอัตโนมัติ* จากยี่ห้อ TOTO
• อ่างล้างมือ , ก็อกน้ำ , ฝักบัว จากยี่ห้อ KOHLER
• อ่างอ่าบน้ำ จากยี่ห้อ KOHLER (เฉพาะห้อง 2 Bedroom ขึ้นไปได้)
• ฉากกั้นอาบน้ำ
• เดินท่อรองรับระบบน้ำร้อน – น้ำเย็นในห้องน้ำทุกห้อง

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

โครงการเป็นแบบ Pet Allowed หรือคอนโดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ทุกยูนิต แต่ก็มีการจำกัดจำนวนในแต่ละรูปแบบห้อง โดย 1 Bedroom สามารถเลี้ยงได้ 1 ตัว 2 Bedroom เลี้ยงได้ 2 ตัว 3 Bedroom เลี้ยงได้ 3 ตัว และ Penthouse เลี้ยงได้ถึง 4 ตัว แต่จะไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ปีก , สัตว์มีพิษ หรือสัตว์เลื้อยคลาน* นะคะ

อย่างที่แจ้งไปแล้วว่าโครงการจะไม่มี Sale Gallery ให้เข้าไปชมห้องตัวอย่างกันนะคะ ดังนั้นรีวิวที่เรานำมาให้ชมกันวันนี้ จะเป็นการวิเคราะห์แปลนห้อง ภาพจำลองบรรยากาศ และวัสดุหลักที่จะได้ในห้องมาตรฐาน เพื่อเป็นตัวเลือกให้ทุกคนได้นำไปใช้ประกอบการตัดสินใจก่อนไปดูของจริงเพิ่มที่งาน Exclusive Sale Event วันที่ 27 – 28 กันยายนนี้ได้เลย 🙂

• 1 Bedroom (1A) พื้นที่ใช้สอยภายใน 50.00 ตร.ม.

เริ่มที่ห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการ เป็นรูปแบบ 1 Bedroom ได้พื้นที่ใช้สอย 50.00 ตร.ม. ถือว่าได้มาค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านในทองหล่อ – เอกมัยที่ส่วนใหญ่จะได้ห้องเริ่มต้นขนาดประมาณ 30.00 – 40.00 ตร.ม. ซึ่งเรามองว่าก็เหมาะกับคนที่อยากซื้อคอนโดเพื่ออยู่อาศัยแค่ 1 – 2 คน แต่อยากได้ห้องไซส์ใหญ่ ไม่ต้องแบ่งห้องเยอะ มีพื้นที่ใช้สอยภายในให้ใช้งานได้กว้างขวาง ชอบความโปร่งโล่ง ซึ่ง Layout ของห้องนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์เลยนะคะ เพราะลักษณะแปลนได้เป็นแบบหน้ากว้าง ฟังก์ชันแบ่งเป็น 2 ฝั่งชัดเจน คือ Common Area ขนาดใหญ่ และห้องนอนที่ได้ไซส์มาเป็นแบบ Master Bedroom ในบ้านได้เลย

ฟังก์ชันในส่วน Common Area จะประกอบด้วย ครัวแบบเปิด ที่โครงการ Built – in มาให้ครบทั้งเคาน์เตอร์และ Island ใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหาร หรือมุมดริปกาแฟยามเช้าได้ ด้านซ้ายเหลือพื้นที่ไว้เหลือเฟือ สามารถทำตู้เก็บของหรือชั้นวางรองเท้าเพิ่ม ใช้งานง่าย ส่วนอีกฝั่งเป็นประตูเปิดเชื่อมต่อกับห้องน้ำ ซึ่งสามารถเปิดเข้า – ออกจากภายในห้องนอนได้ด้วยนะคะ เป็นจุดที่เราชอบมาก เวลามีแขกมาห้องแล้วอยากจะใช้ห้องน้ำ ก็ไม่ต้องเดินอ้อมเข้าไปในห้องนอนซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัว เจ้าของห้องเองก็ใช้งานได้สะดวก สำหรับคนที่ชอบทำอาหารแบบจริงจัง พื้นที่ครัวนี้ก็สามารถกั้นเพิ่มเป็นครัวปิดได้ โดยเราแนะนำว่าให้กั้นเป็นผนังกระจก เพื่อให้บรรยากาศในห้องยังดูโปร่งโล่ง แต่สามารถกันกลิ่นและควันไม่ให้ฟุ้งกระจายได้

ถัดเข้ามาด้านในเป็นส่วนนั่งเล่นอยู่ติดกับระเบียง จากในแปลนจะเห็นว่าประตูได้มาเป็นบานเลื่อนกระจก 3 ตอน แบบ Full Heigh สูงถึงฝ้า (2.65 เมตร) ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งในห้องได้ดี นอกจากมองเห็นวิวได้เต็มตา ยังทำให้แสงจากธรรมชาติส่องเข้ามาได้อย่างทั่วถึง ส่วนรับประทานอาหารอยู่ด้านหลัง วางโต๊ะได้ถึง 4 ที่นั่ง หรือใครไม่ได้เน้นพื้นที่ทานข้าวขนาดใหญ่ ก็สามารถจัดเป็นมุมนั่งทำงานได้นะคะ ส่วนห้องนอนโครงการกั้นมาให้เป็นผนังและประตูบานทึบ ได้ความเป็นส่วนตัว หากอยู่กัน 2 คนก็สามารถแบ่งพื้นที่กันได้สบายๆ คนนึงนอนพักผ่อนอยู่ด้านใน อีกคนนั่งดูซีรี่ส์อยู่ด้านนอก ก็ใช้งานได้ไม่รบกวนกัน ซึ่งภายในห้องนอนก็ได้ขนาดมากว้างขวาง เรามองว่าวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้เลยนะ ด้านข้างยังสามารถจัดเป็นมุม Walk – in Closet ในตัว อยู่ติดกับห้องน้ำพอดี เดินเชื่อมต่อใช้งานง่าย

ภาพจำลองบรรยากาศด้านหน้าเมื่อเข้ามาภายในห้อง ประตูได้ขนาดมากว้างถึง 1.40 เมตร ความพิเศษอยู่ที่ประตูนี้สามารถเปิด – ปิดได้ทั้ง 2 ฝั่ง เวลาใช้งานปกติก็เปิดประตูบานใหญ่ ซึ่งโครงการติดตั้ง Digital Door Lock ที่สามารถใช้งานได้ 5 ระบบ (กดรหัส , คีย์การ์ด , สแกนลายนิ้วมือ , Bluetooth และ Application) จากยี่ห้อ Philips มาให้ หรือถ้าต้องขนของชิ้นใหญ่ๆเข้าห้อง ก็สามารถเปิดประตูบานเล็กด้านข้างได้ โดยฟังก์ชันพิเศษยังมีช่องไว้ให้นิติสามารถนำจดหมายมาเสียบไว้ให้ลูกบ้านได้ ไม่ต้องเสียเวลาลงไปติดต่อด้านล่างเลย

ส่วนเคาน์เตอร์จะได้ Built – in มาให้ครบพร้อม Island เหมือนในภาพจำลองเลยนะคะ วัสดุท็อปเคาน์เตอร์และ Backsplash เป็นหินอ่อนรุ่น DIANA BEIGE ซึ่งเป็นลวดลายที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติแต่ก็ยังแฝงไว้ด้วยความหรูหราเวลาใช้งาน ด้านบนและด้านล่างติดตั้งตู้เก็บของมาให้ครบพร้อมหน้าบาน กรุด้วยลามิเนตผิว Brushed Bronze และ Satin Beige อุปกรณ์ในครัวได้ Induction Hob 2 เตาสำหรับห้อง 1 Bedroom มี Hood และอ่างล้างจานจาก Kuppersbusch ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องครัวระดับ Hi – end จากประเทศเยอรมนี

วัสดุพื้นครัวจะแตกต่างกับส่วนอื่นชัดเจน โดยโครงการปูมาให้เป็นกระเบื้องพอร์ซเลนลาย Travertine ขนาด 60×60 เซนติเมตร ซึ่งนอกจากจะดูสวยงาม ยังแข็งแรง ทนทาน ทำความสะอาดง่าย เหมาะสมกับการใช้งานในห้องครัว ที่อาจจะต้องโดนทั้งความร้อน ความชื้น และคราบสกปรก ส่วนวัสดุปูพื้นด้านในได้มาเป็น Hybrid Engineering Wood ซึ่งเป็นพื้นไม้ที่พัฒนามาจาก Engineering Wood เดิม จะได้คุณสมบัติในเรื่องการทนต่อความชื้นและรอยขีดข่วนได้ดีกว่า อีกทั้งยังได้ผิวสัมผัสเหมือนไม้จริงเลย

ภาพจำลองบรรยากาศภายในห้องน้ำ เรามองว่าการออกแบบแต่ละส่วนทำออกมาได้ดีเลยนะคะ โดยเฉพาะในเรื่อง Mood&Tone ของวัสดุ อย่างในห้องนี้ พื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลน ลาย Travertine ขนาด 60×60 เซนติเมตรเช่นเดียวกัน ส่วนอุปกรณ์ในห้องจะติดตั้งมาให้ครบเหมือนในภาพ พื้นที่ใช้งานแยกส่วนเปียก – ส่วนแห้งชัดเจน

อ่างล้างมือได้เป็นแบบฝังเคาน์เตอร์ ด้านล่างเป็นตู้ใช้เก็บของได้ ติดตั้งมาพร้อมก็อกน้ำจาก KOHLER ขวามือเป็นโถสุขภัณฑ์ระบบอัตโนมัติ* จากยี่ห้อ TOTO ส่วนอาบน้ำติดตั้งฉากกั้นกระจกมาให้ ด้านในมีผักบัวทั้งแบบ Hand Shower และ Rain Shower เลย สำหรับคนชอบอาบน้ำอุ่นๆ ก็ไม่ต้องติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเพิ่มเลยนะคะ เพราะโครงการเค้าเดินท่อระบบรองรับน้ำร้อน – น้ำเย็นมาให้แล้วเรียบร้อย

รูปแบบห้อง 1 Bedroom ในโครงการจะมีทั้งหมด 19 ยูนิต โดยสิ่งที่ทำให้มี Layout แตกต่างกันก็คือ ตำแหน่งของห้องในอาคาร อย่าง 1 Bedroom (1A) จะมีให้เลือกเพียงห้องเดียว ตำแหน่งจะอยู่บนชั้น 8 ส่วนห้อง 1B – 1D มีให้เลือกตั้งแต่ชั้น 2 – 7 ซึ่งก็มีเพียงชั้นละห้องเท่านั้น แต่ฟังก์ชันภายในจะได้มาเหมือนกัน ยกเว้น 1B และ 1BM ที่จะได้ Multipurpose Area เพิ่มมา ใช้เป็นมุมนั่งทำงานส่วนตัวได้ ส่วนที่เราชอบคือ ทุกห้องจะได้หน้าต่างมาหลายจุด โดยเฉพาะห้องที่อยู่ตำแหน่งมุม จะได้เพิ่มในส่วนครัวและรับประทานอาหาร ใช้เปิดรับลม ระบายอากาศได้จริง ซึ่งไม่ค่อยได้เห็นในโครงการปัจจุบันเท่าไรนะคะ

• 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 54.75 – 66.00 ตร.ม.

เป็นรูปแบบห้องที่ค่อนข้างได้รับความนิยม สำหรับคนที่ชอบความเป็นสัดส่วน สามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยในห้องไว้จัดฟังก์ชันเพิ่มเองได้ อย่างในโครงการนี้ก็สามารถทำเป็นห้องทำงานแยกโซนเป็นส่วนตัว เหมาะกับคนที่ต้องการพื้นที่ทำงานแบบ WFH หรือจะทำเป็นห้องของสัตว์เลี้ยงก็สามารถปรับเปลี่ยนได้สบายๆ โดยภายในห้องอเนกประสงค์จะได้หน้าต่างมาทุกห้อง ทำให้ได้บรรยากาศโปร่งโล่ง น้องหมา น้องแมวอยู่ได้ไม่อึดอัดนะ Layout ห้อง 1E – 1 F จะคล้ายกับรูปแบบห้อง 1 Bedroom เลย เพียงแต่ได้ห้องเพิ่มเข้ามา ส่วนห้อง 1G ได้แปลนเป็นแบบหน้ากว้าง มีห้องอเนกประสงค์อยู่ตรงกลาง ช่วยแบ่งพื้นที่ระหว่าง Common Area และห้องนอนที่เป็นส่วนพักผ่อน เพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ดี

ภาพจำลองบรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom Plus (1E) จะเห็นว่าโครงการกั้นประตูบานเลื่อนกระจกในห้องอเนกประสงค์แยกมาให้เป็นสัดส่วนแล้วนะ ด้านหลังส่วนนั่งเล่นเป็นห้องนอนและ Walk – in Closet ที่ถือเป็นอีกจุดเด่นของรูปแบบห้องนี้เลย เพราะได้ขนาดมาใหญ่มาก จากในแปลนจะเห็นว่าสามารถ Built – in ตู้เสื้อผ้าเพิ่มได้แบบเต็มผนังทั้ง 2 ฝั่ง เหมาะกับสายแฟชั่นที่มี Accessories เยอะ หรือคู่รักที่อยู่ด้วยกัน 2 คน ก็สามารถแบ่งใช้งานกันได้สบายๆ

• 2 Bedroom (2A) พื้นที่ใช้สอยภายใน 92.75 ตร.ม.

เหมาะกับครอบครัวขนาด 2 – 4 คนที่กำลังมองหาห้อง 2 Bedroom ในย่านทองหล่อ – เอกมัย โดยเฉพาะในซอยสุขุมวิท 61 ก็ถือว่ามีตัวเลือกค่อนข้างน้อยแล้วนะคะ โดยฟังก์ชันได้มาเป็นแบบ 2 Bed 2 Bath แบ่งเป็นห้องน้ำกลางที่สามารถใช้ร่วมกันได้ และห้องน้ำที่อยู่ภายใน Master Bedroom ซึ่งห้องนี้จะมีอ่างอาบน้ำติดตั้งเพิ่มมาให้ด้วย

สำหรับครอบครัวพ่อ แม่ ลูกที่อยากซื้อไว้เป็นบ้านหลังที่ 2 ใช้อยู่ในช่วง Weekday เพื่อเดินทางไปเรียนหรือทำงานก็ถือว่าค่อนข้างเหมาะ เพราะพื้นที่ใช้สอยที่ได้แยกเป็นสัดส่วน และขนาดที่แทบจะใกล้เคียงกับบ้านเลย Common Area ได้มาขนาดใหญ่ วางโซฟารูปตัว L พร้อมโต๊ะทานข้าว 6 ที่นั่งได้เลย ภายในห้องนอนรองสามารถวางเตียงขนาด 3 – 5 ฟุต ด้านข้างจัดเป็นพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าได้ครบ ส่วนห้องนอนใหญ่ก็ได้ Walk – in Closet แยกเป็นสัดส่วนใช้งานสะดวก

ภาพจำลองบรรยากาศห้องน้ำใน Master Bedroom อ่างล้างหน้าได้ขนาดใหญ่ขึ้น แบ่งเป็น His&Her ใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้เลย ภายในส่วนอาบน้ำได้ฝักบัวทั้ง Hand Shower และ Rain Shower นอกจากนี้ในห้องยังได้อ่างอาบน้ำแบบฝังจาก KOHLER มาด้วย ใช้นอนแช่น้ำเพื่อผ่อนคลายระหว่างวันได้สบายๆ

• 2 Bedroom Extra พื้นที่ใช้สอยภายใน 98.25 – 126 ตร.ม.

เป็นรูปแบบห้องที่มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดในโครงการ อย่างในห้อง 2B และ 2E จะได้พื้นที่รับประทานอาหารแยกเป็นสัดส่วน แต่ยังสามารถเดินเชื่อมต่อกับส่วนนั่งเล่นและครัวได้ง่าย โดยจุดเด่นของรูปแบบห้องนี้อยู่ที่ฟังก์ชันที่เพิ่มเข้ามาอย่างห้องเก็บของ , ห้องน้ำ Powder Room ที่อยู่ด้านนอก และห้องนอนที่ได้ห้องน้ำแยกใช้งานในตัวทั้ง 2 ห้อง ซึ่งไซส์ของห้องนอนก็ได้มากว้างขวางใกล้เคียงกันเลย มีพื้นที่ให้จัด Walk – in Closet ได้ขนาดใหญ่ แตกต่างกันแค่ที่ห้องนึงจะได้อ่างอาบน้ำและอ่างล้างหน้าแบบ His&Her

• 3 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 124.25 – 127 ตร.ม.

เป็นรูปแบบห้องที่มีให้เลือกเพียง 2 ยูนิตอยู่บนชั้น 8 จะได้ 2 ห้องนอนขนาดใหญ่ที่ได้ห้องน้ำในตัว และห้องนอนอีกห้องที่ใช้ห้องน้ำกลางบริเวณโถงด้านนอก ซึ่งจะมีส่วนอาบน้ำรองรับอยู่ด้วย จะใช้เป็นห้องนอนแขก หรือปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานส่วนตัวอีกห้องก็ได้

• Penthouse พื้นที่ใช้สอยภายใน 186.50 – 188.75 ตร.ม.

เป็นรูปแบบห้องที่มีขนาดใหญ่สุดในโครงการ และถือเป็น Type ที่หายากในโซนนี้เลยนะคะ โดยฟังก์ชันจะประกอบด้วย Common Area ขนาดใหญ่ สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 8 – 10 ที่นั่งได้เลย ซึ่งสำหรับคนที่อยากได้ห้อง Penthouse ก็มักจะเป็นคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง การออกแบบจึงมีการแยกประตูทางเข้าห้องสำหรับเจ้าของห้องเองและประตูสำหรับแม่บ้าน ให้สามารถเดินใช้งานได้ง่าย ไม่ต้องอ้อมผ่านส่วนนั่งเล่น อีกทั้งยังได้ห้องพักผ่อนส่วนตัวอยู่ติดกับครัวอีกด้วย พื้นที่ใช้สอยแบ่งเป็นส่วนพักผ่อนและ Service ชัดเจน โถงกลางมีห้องน้ำ Powder Room ไว้รองรับการใช้งานของแขกได้ ส่วนห้องนอนจะได้มา 3 ห้อง พร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้องเลย เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ที่ต้องการพื้นที่ใช้งานแยกกันเป็นส่วนตัว

สำหรับ Penthouse จะมีการอัพเกรดวัสดุให้มีความพรีเมี่ยมขึ้นจากห้องธรรมดา เพื่อให้ดูหรูหรา โอ่อ่าเหมาะสมกับราคา เริ่มจากเคาน์เตอร์ครัวที่ท็อปและ Backsplash จะได้เป็นหินควอทซ์ รุ่น TAJ MAHAL* ที่มีความพรุนต่ำแต่มีความทนทานสูง ส่วนในห้องน้ำจะได้อ่างอาบน้ำแบบลอยตัว ผนังกรุกระเบื้องไซส์ใหญ่ ช่วยเพิ่มลูกเล่นและความสวยงาม ดูแตกต่างจากห้องน้ำทั่วไป

Via 61 (เวีย 61) ราคา ณ วันที่ 2 กันยายน 2567

• 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 50.00 – 55.50 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 54.75 – 66.00 ตร.ม.
• 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 92.75 ตร.ม.
• 2 Bedroom Extra พื้นที่ใช้สอยภายใน 98.25 – 126 ตร.ม.
• 3 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 124.25 – 127 ตร.ม.
• Penthouse พื้นที่ใช้สอยภายใน 186.50 – 188.75 ตร.ม.
• ราคาเริ่มต้น 10.9 ล้านบาท*

• รูปแบบการขาย Fully Fitted
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.65 เมตร
• จองและทำสัญญา : 1 Bedroom จอง 100,000 บาท ทำสัญญา 200,000 บาท / 2 Bedroom จอง 300,000 บาท ทำสัญญา 300,000 บาท / 3 Bedroom จอง 500,000 บาท ทำสัญญา 500,000 บาท / Penthouse จอง 500,000 บาท ทำสัญญา 1,000,000 บาท
• ค่ากองทุน 700 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง ปีที่ 1 – 2 : 120 บาท/ตร.ม./เดือน ปีที่ 3 เป็นต้นไป : 142 บาท/ตร.ม./เดือน
• ค่าแรกเข้าสำหรับสัตว์เลี้ยง 20,000 บาท
• ค่าธรรมเนียมรายปี 10,000 บาท/ปี
• *อนุญาตให้เลี้ยงยูนิตละ 1 ตัว สูงไม่เกิน 15 นิ้วและหนักไม่เกิน 25 กิโลกรัม / ไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ปีก , สัตว์มีพิษ , สัตว์เลื้อยคลาน*

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล :

ที่ตั้งโครงการ Via 61 (เวีย 61) อยู่ในซอยสุขุมวิท 61 ห่างจากถนนสุขุมวิทประมาณ 200 เมตร อยู่กึ่งกลางระหว่า BTS ทองหล่อและเอกมัยประมาณ 500 – 700 เมตร ลักษณะซอยเป็นซอยตัน จัดเป็นย่านพักอาศัยที่มีคอนโดและบ้านเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้บรรยากาศเงียบสงบ ไม่พลุกพล่านเท่าซอยหลักอย่างทองหล่อ เอกมัย เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว

ในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ ฝั่งตรงข้ามเป็น Community Mall อย่าง Park Lane ให้เดินออกมาจับจ่ายใช้สอยได้ง่าย อีกทั้งยังมีทางให้ทะลุไปซอยเอกมัยได้ สำหรับคนที่อยากไปเอ็นจอยกับย่าน Lifestyle หรือ Hangout นอกจากนี้รอบๆโครงการยังอยู่ใกล้ออฟฟิศขนาดใหญ่ , โรงพยาบาล และโรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง ตอบโจทย์คนที่อยากได้คอนโดใจกลางเมือง หรือผู้ปกครองที่กำลังมองหาบ้านหลังที่ 2 ไว้อยู่อาศัยช่วง Weekday จะเดินทางไปเรียนหรือไปทำงานก็ง่ายค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ :

โครงการตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิทฝั่งเลขคี่ ถึงจะอยู่บนเส้นฝั่งขาออก แต่จากปากซอยก็สามารถเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าเมืองหรือเลี้ยวขวาเพื่อออกนอกเมืองได้ ช่วยประหยัดเวลาในการกลับรถได้ดี โดยถนนหลักที่ใช้เข้า – ออกโครงการคือถนนสุขุมวิท ซึ่งถือเป็นถนนหลักที่ตัดผ่านใจกลางย่าน CBD และยังสามารถไปเชื่อมต่อกับถนนใหญ่ได้อีกหลายสาย ทั้งถนนพระราม 4 , อโศก , รัชดาภิเษก , เพชรบุรี และพัฒนาการ

หรือใครอยากจะเลี่ยงรถติดในการเดินทางก็สามารถไปใช้ทางด่วนได้ถึง 3 สาย ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการแค่ 2 – 7 กิโลเมตรเท่านั้น สะดวกกับคนที่ใช้รถส่วนตัวในการเดินทางทีเดียวค่ะ โดยโครงการยังมีที่จอดรถไว้รองรับถึง 108% จัดว่าให้มาเยอะ สำหรับโครงการที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

ส่วนตัวเรามองว่าจาก BTS เอกมัยสามารถเดินเข้าโครงการได้อยู่นะคะ (ระยะห่างจากโครงการประมาณ 500 เมตร) สำหรับใครที่ไม่ได้เร่งรีบมาก เพราะถนนและฟุตบาทในซอยค่อนข้างกว้างเลย อีกทั้งยังสามารถใช้ทางเชื่อมใน Major Cineplex เดินลัดได้ หรือใครเดินมาถึงหน้าซอยแล้วเหนื่อยก็มีวินมอเตอร์ไซต์ให้เรียกใช้ได้ค่ะ

วัสดุ :

รูปแบบการขายเป็น Fully Fitted ให้ชุดครัว Built – in , Island และเครื่องครัวอย่าง Hob , Hood , Sink จาก Kuppersbusch ในห้อง 1 Bedroom – 3 Bedroom ได้ท็อปและ Backsplash เป็นหินอ่อน ภายในห้องน้ำได้สุขภัณฑ์ครบจากยี่ห้อ KOHLER และ TOTO ซึ่งสเปคที่ได้จะเป็นแบบเดียวกับในห้อง Penthose เลย เพียงแต่วัสดุบางตัวจะมีการอัพเกรดให้ดูมีความหรูหรามากขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับราคา ส่วนวัสดุพื้นได้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้และพื้น Hybrid Engineering Wood แยกพื้นที่การใช้งานได้ดี เครื่องปรับอากาศภายในห้องได้เป็น Concealed Type ทุกยูนิตเลย

การออกแบบ :

โครงการมีจำนวนยูนิตน้อยเพียง 61 ยูนิต เน้นห้องพื้นที่ใช้สอยเยอะ ได้ความโปร่งโล่งและเป็นส่วนตัวสูง เราชอบการออกแบบโครงการที่มีการหั่นอาคารออกเป็น 2 ฝั่ง ช่วยเพิ่มลูกเล่น ทำให้ไม่เป็นอาคารทึบเหมือนคอนโด Low Rise ทั่วไป ทั้งยังช่วยเปิดมุมมองให้ภายในอาคารได้ความโปร่งโล่ง รูปแบบห้องมีให้เลือกเยอะ ตั้งแต่ 1 Bedroom ไปจนถึง Penthouse ได้พื้นที่ใช้สอย 50.00 – 188.75 ตร.ม.

แปลนห้องได้เป็นหน้ากว้างเกือบทุกยูนิต มีบางห้องได้แปลนตอนลึก แต่ก็ยังดูกว้างขวาง ใช้งานสะดวก ห้องครัวเป็นแบบเปิดเหมาะกับบ้านที่ไม่ได้ชอบทำอาหารจริงจังมากนัก ภายในห้องได้ช่องแสงมาหลายจุด โดยเฉพาะแปลงมุมที่ได้เพิ่มในส่วนครัวและรับประทานอาหาร ซึ่งไม่ค่อยได้เห็นในคอนโดปัจจุบันเท่าไรนะคะ ส่วนห้อง 2 Bedroom จะมีทั้งแบบ 2 Bed 2 Bath และ 2 Bed 3 Bath ที่ได้ห้องน้ำในห้องนอนทุกห้อง และมีห้องน้ำ Powder Room มาให้ด้วย ส่วนห้อง 3 Bedroom และ Penthouse มีให้เลือกเพียงแบบละ 2 ยูนิต รองรับครอบครัวขนาดใหญ่ 3 – 5 คนได้สบายๆ

สาธารณูปโภค :

ภาพรวมถือว่าจัดฟังก์ชันมาให้ครบครันตามาตรฐาน ทั้ง Lobby , Sky Lounge , Private Dining , Meeting Room , Gym , Rooftop Terrace , Sky Pool และ Pet Park ไว้สำหรับรองรับน้องหมา น้องแมวได้ โดยฟังก์ชันหลักจะถูกยกขึ้นไปไว้บนชั้น 8 เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว และเปิดมุมมองให้ดูโปร่งโล่ง ทั้งนี้สิ่งที่เรานำมาให้ชมเป็นเพียงภาพจำลองบรรยากาศ สำหรับคนที่สนใจ ก็สามารถเข้าไปชมบรรยากาศจริงเมื่อโครงการแล้วเสร็จ ก่อนตัดสินใจกันได้นะคะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 219,000 บาท/ตร.ม. , 2 กันยายน 2567

• ทำเล 8.5/10 – ใจกลางทองหล่อ – เอกมัย , หาของกินง่าย ใกล้โรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง
• เดินทางด้วยรถ 8/10 – ใกล้ถนนใหญ่และทางด่วนถึง 3 สาย
• ไม่ใช้รถ 8/10 – ใกล้ ​BTS เอกมัย หน้าซอยมีวินมอเตอร์ไซต์เรียกใช้ได้
• วัสดุ 8/10 – ขายแบบ Fully Fitted ให้วัสดุมาเหมาะสมกับการใช้งาน
• แบบ 8.5/10 – คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ รูปแบบห้องเยอะ ได้แปลนหน้ากว้าง มีห้อง Penthouse ให้เลือก
• สาธารณูปโภค 8/10 – มีพื้นที่ส่วนกลางรองรับสัตว์เลี้ยง , แชร์กับเพื่อนบ้าน 61 ยูนิตกำลังดี

• HIGH CLASS
• 8.16 / 10.00

Via 61 (เวีย 61) เหมาะกับใคร

โครงการ Via 61 (เวีย 61) เป็นคอนโดหรูโครงการใหม่ใจกลางทองหล่อ – เอกมัย มีรูปแบบห้องให้เลือกเยอะตั้งแต่ 1 Bedroom ไปจนถึง Penthouse ชอบแปลนห้องใหญ่ หน้ากว้าง ได้ยูนิตน้อย อยากได้ทำเลที่เดินทางได้สะดวกทั้งรถส่วนตัวและรถไฟฟ้า เดินออกมาหาของกิน ของใช้ได้ง่าย ใกล้แหล่ง Lifestyle และ Hangout เหมาะกับคนที่ทำงานอยู่โซนใจกลางเมือง หรือผู้ปกครองที่กำลังมองหาคอนโดใกล้โรงเรียนให้กับลูกๆ ชอบบรรยากาศเงียบสงบ แต่ยังได้สิ่งอำนวยความสะดวกใจกลางเมืองแบบครบครัน มีงบประมาณเริ่มต้น 10 ล้านนิดๆ ไปจนถึงระดับร้อยล้าน

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่