รีวิวโครงการ

คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.110 – รีวิวคอนโด U Delight รัตนาธิเบศร์

21 ธันวาคม 2014

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวฉบับที่ 275 … U Delight รัตนาธิเบศร์ เราได้โอกาสไปเยี่ยมเยียนสำนักงานขายก่อนเปิดโครงการในวันที่ 8 ธันวาคม 2555 โดย U Delight รัตนาธิเบศร์ โครงการล่าสุดจากค่าย Grand Unity Development ซึ่งเป็นโปรเจคตึกสูง 23 ชั้น เกือบๆ 1,000 ยูนิต ที่สถานี MRT รถไฟฟ้าสายสีม่วง ศูนย์ราชการนนทบุรี ใกล้สี่แยกแคราย, Esplanade รัตนาธิเบศร์ และ Tesco Lotus แครายครับ

Fact @ 2 December 2012

  • U Delight รัตนาธิเบศร์ (ยูดีไลท์ รัตนาธิเบศร์)
  • Grand Unity Development Co., Ltd.
  • คอนโดมิเนียม High Rise 23 ชั้น 989 ยูนิต
  • ที่ดินโครงการ  5-1-40 ไร่
  • 1 – 2 Bedrooms
  • ขนาดพื้นที่ใช้สอย 29 – 54.5 ตารางเมตร
  • ราคาเริ่มต้น 1.78 ล้านบาท
  • ราคาต่อตารางเมตรเริ่มต้น 49,600 บาท
  • เปิดตัววันที่ 7 (ลูกค้าเก่า) – 8 ธันวาคม 2555 (บุคคลทั่วไป)
  • www.grandu.co.th
  • เริ่มก่อสร้าง มีนาคม 2556
  • สร้างเสร็จ กันยายน 2557

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

แผนที่ของโครงการ U Delight รัตนาธิเบศร์ โดยที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนใหญ่-รัตนาธิเบศร์ งามวงศ์วาน ใกล้สี่แยกแคราย ใกล้จุดขึ้น-ลงทางพิเศษศรีรัช-ด่านงามวงศ์วาน  ในอนาคตการเดินทางจะถูกเชื่อมต่อด้วยรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง-สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ห้างที่ใกล้ที่สุดคงจะไม่พ้น Esplanade รัตนาธิเบศร์

จากสะพานพระนั่งเกล้าวิ่งมาเรื่อยๆ ก็จะถึง Esplanade รัตนาธิเบศร์ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการนะครับ

เราเลยต้องกลับรถไป ไม่ขึ้นสะพานข้ามแยกแครายเพื่อจะข้ามไปฝั่งของโครงการ บริเวณจุดกลับรถตรงนี้

กลับรถแล้ววิ่งตรงไปผ่านหน้าร้าน Hobby Lobby

อีกนิดเดียวก็จะถึงสำนักงานขายและแปลงที่ดินของโครงการ U Delight รัตนาธิเบศร์

ซึ่งตรงนี้หากมาจากทางงามวงศ์วานแล้วข้ามสะพานก็จะเลยหน้าโครงการไป ต้องวิ่งด้านล่างผ่านสี่แยกแครายซึ่งมีปัญหาการจราจรติดขัด

จากหน้าโครงการจะเห็น Esplanade อยู่ฝั่งตรงข้าม สามารถเดินขึ้นสะพานลอยข้ามไป Esplanade ได้ในระยะทางประมาณ 200 เมตร ค่อนข้างสะดวก

เดินข้ามไปแบบนี้

ด้านในโครงการล้อมสังกะสีอยู่รอการก่อสร้าง

ที่ดินยังไม่ได้ปรับ แต่จะมีทาวน์โฮมอยู่ด้านหน้าชุดหนึ่งก่อนถึงตัวคอนโดมิเนียม เป็นของ Grand U เช่นเดียวกัน

หากวิ่งจากโครงการมากอีกหน่อยประมาณ 400 – 500 เมตร ก็จะถึงศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี และรถไฟฟ้าสายสีม่วง แต่ถ้าจะเดินไปก็ต้องดูให้ดีนิดนึงครับ เดินข้างถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์สภาพเป็นแบบนี้ ผมว่านั่งรถตู้ที่โครงการเตรียมไว้ให้ดีกว่า Shuttle Bus เหมือนกับ U Delight โครงการอื่นๆ

สถานีศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี

ซึ่งเป็นสะพานกลับรถพอดี

ถ้าออกจากโครงการจะขึ้นทางด่วนก็ต้องกลับรถตรงนี้เป็นหลัก

มาถึงฝั่งตรงข้ามครับ

เจาะลึกตัวโครงการ

เนื่องจากโมเดลที่โครงการยังไม่เรียบร้อย เลยต้องถ่ายรูปโมเดลชั่วคราวมาแทน ตัวตึกเป็นรูปตัว S ยึกๆวิ่งเข้ามาแบบนี้ โซนด้านหลังมีสวนอยู่ตรงกลางส่วนหนึ่ง

พื้นที่โครงการนี้ค่อนข้างใหญ่ 5 ไร่เศษๆ

หน้าโครงการติดถนนรัตนาธิเบศร์ ด้านขวาขาวๆจะกลายเป็น Town Home Unit ด้านในเป็นตัวตึก มีส่วนกลางอยู่บนชั้น 8 ซึ่งเป็นหลังคาที่จอดรถ

ซูมไปที่ช้ัน 8

บริเวณทาวน์โฮม 5 ยูนิตด้านหน้าและพื้นที่หน้าโครงการ

สวนด้านใน

สระว่ายน้ำเป็นแบบ Infinity Edge

ฟิตเนสอยู่บริเวณมุมตึกแบบนี้

หน้าตาของ Sales Office สร้างมาเป็น 2 ชั้น เดี๋ยวขายหมดก็ต้องรื้อออก

ห้องตัวอย่างอยู่ด้านบน สำนักงานขายอยู่ด้านล่าง

แปลนชั้นต่างๆ

 

หน้าตาของ Unit Plan คร่าวๆ ของยูนิต ทั้ง 5 แบบ ของ North Wing

หน้าตา Unit Plan ของฝั่ง South Wing

ชั้น Ground Floor มีห้องพักทั้งหมด 24 ห้อง โดยเป็นห้องพักฝั่ง South Wing ทั้งหมด ส่วนฝั่ง North Wing และชั้นล่างของที่จอดรถนั้นถูกทำเป็น Lobby , ร้านค้าและที่จอดรถโดยรอบ

ชั้น 3-6 จะมีแต่ห้องชุดฝั่ง South Wing เป็นหลักนะครับ ซึ่งทิศตะวันออกของฝั่ง South Wing จะเว้าเข้าไปเป็นสวน ทำให้ชั้นเตี้ยๆอย่าง 3F-6F บริเวณฝั่งนี้ได้รับสวนไปเต็มๆ และยังเป็นชั้นที่มีความหนาแน่นปานกลาง คือ 24 ยูนิตต่อชั้น

พอขึ้นมาถึงชั้น 8F ซึ่งเป็น ชั้นของส่วนกลางหลัก มีฟิตเนส สระว่ายน้ำ สตีม ซาวน่าอยู่บนชั้นนี้ ซึ่งจะมียูนิตพักอาศัยทั้งหมด 48 ห้องต่อชั้น เพิ่มความหนาแน่นเป็นสองเท่า แต่ชั้น 8F นี้ บริเวณโถงลิฟท์ยังเว้นไว้สองห้อง ทำให้มีแสงธรรมชาติลอดเข้ามาได้ เพิ่มความโปร่งโล่ง บริเวณหน้าลิฟท์ ให้มองวิวสระว่ายน้ำและส่วนกลางได้

พอขึ้นมาถึงชั้น 9 – 23F ซึ่งเป็น Floor Plan หลักของตึกนี้ ก็จะพบว่าจำนวนห้องต่อชั้นวิ่งขึ้นไปถึง 50 Units / Floor ทำให้ความหนาแน่นสูงมาก ส่วนลิฟท์คงไว้ที่ 4 ลิฟท์ใช้โดยสารทั้งหมด ไม่มีลิฟท์บริการแยกต่างหาก ซึ่งหารออกมาจะได้อัตราส่วนลิฟท์เท่ากับ 248:1 สูงมากเช่นกัน

ข้อดีของที่ U Delight รัตนาธิเบศร์อีกหนึ่งข้อคือมีการทำที่แยกขยะโดยละเอียด เพื่อเอาไป Recycle ได้ ขายเอาเงินเข้าส่วนกลาง

แบ่งค่อนข้างละเอียดแบบนี้จะขายได้ราคามาก หากเทียบกับการแยกขยะแบบธรรมดา แต่ก็ต้องอาศัยความมีวินัยของลูกบ้านทุกๆคนช่วยๆกันนะครับ ขายได้ก็เอาเงินมาบริหารส่วนกลางกันเอง

สาธารณูปโภคส่วนกลาง

  • พื้นที่สีเขียวจำนวนรวมมากกว่า 1 ไร่
  • Sunken Courtyard รายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่
  • Lobby เพดานสูง
  • ห้องสมุด
  • พื้นที่สวนสีเขียว
  • Infinity-edged Swimming Pool และ Popup Deck
  • ฟิตเนส
  • Sauna และ Steam Room แยกชาย-หญิง
  • กล้องวงจรปิดมากกว่า 100 ตัว
  • ระบบคีย์การ์ด เข้าออกเฉพาะชั้น
  • Shuttle Van รับส่ง คิดค่าบริการเป็นเที่ยวๆ

Product Walkthrough

ประเภทห้องชุดทั้งหมด

  • 1 ห้องนอน 29-30 ตร.ม.
  • 1 ห้องนอน Deluxe 40.5 ตร.ม.
  • 1 ห้องนอน Suite 39-41.5
  • 1 ห้องนอน Plus 47
  • 2 ห้องนอน 50.5
  • 2 ห้องนอน Deluxe 51
  • 2 ห้องนอน Suite 54.5 ตร.ม.

เนื่องจากเราติดลูกค้าท่านอื่นที่กำลังเข้าดูห้อง 1 Bedroom กันอยู่ เราเลยมาดูห้อง 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 50.5 ตารางเมตร กันก่อน ดีเหมือนกันนานๆทีเราจะดูไล่จากห้องใหญ่ไปห้องเล็กกันบ้าง

ที่นี่ขายเป็นห้องเปล่า ไม่มี Furniture

พอเดินเข้าไปถึงก็จะเห็นส่วนของ Living Room ก่อนเลย ด้านริมสุดติดหน้าต่างเป็น Dining + Working Area โต๊ะเอนกประสงค์ที่สามารถเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้สองอย่าง

ด้านซ้ายของห้องเป็นทางเข้า Master Bedroom อยู่ด้านหลังโซฟาตัวนี้

ระยะโซฟากับทีวีดูแล้วผ่านฉลุย วางโต๊ะกลาง เหลือที่เดิน ไม่อึดอัด ถ้าอยากจะใช้โซฟาตัว L ก็ยังทำได้

มุมนี้ใช้ประโยชน์ได้ดี กินข้าว 4 คนสบายๆ เพราะพื้นที่วางโต๊ะได้ค่อนข้างยาว ฝั่งตรงข้ามใช้ Sofa แบบ Built-in ติดผนังทำให้ประหยัดที่ และสามารถนอนอ่านหนังสือริมกระจกได้ ถ้าทำออกมาให้ความกว้างเพียงพอ แต่ทางด้านซ้ายอาจจะติดเสานิดหน่อย

โซฟาในห้องตัวอย่างใช้แบบดึงออกมาเก็บของได้

พื้นห้องเป็นลามิเนตหนา 8 มม.

ฝั่งตรงข้าม ชั้นวางทีวี จะใช้แบบแขวนผนังหรือวางบนชั้นก็ได้ ค่อนข้างโอเคทั้งคู่

ทางซ้ายเป็นประตูบานที่เดินไปเข้าห้องครัว ด้านขวาเป็นห้องน้ำ

เรามาดูห้องน้ำก่อน ไม่ใช้กระเบื้องปูผนังแต่ทาสีแทนในส่วนแห้ง

ส่วนเปียกเช่นบริเวณเหนือขอบซิงก์ก็มีกระเบื้องให้เหมือนเดิม ซิงก์ Built ยาวไปติดผนัง วางของได้เยอะแบบไม่ต้องมี Top

ห้องอาบน้ำและห้องสุขาแยกเป็นสองห้อง โซนห้องอาบน้ำจะปูกระเบื้องผนังเพราะเป็นส่วนเปียก

มีการแยกสีกระเบื้องและทำโซนปิดเป็นสัดส่วนเรียบร้อย

กั้นด้วยกระจกฝ้า

ห้องสุขาด้านข้างทาสีขาว ด้านหลังปูกระเบื้อง

ฝักบัวของ VRH

ชุดก๊อกของ VRH มีที่วางสบู่เรียบร้อย

หน้าตากระเบื้องห้องน้ำและลามิเนต

ส่วนห้องรับแขกไม่ตีฝ้า เปิดเพดานโล่งเป็น Floor to Floor ติด Down Light แบบนี้

ข้อดี – ช่วยเพิ่มความโปร่งของเพดาน ได้สูง 2.6 เมตร จากปกติที่ U Delight ทำ 2.4 เมตร

ข้อเสีย – ไม่มีฝ้าอาจจะเห็นความไม่เรียบร้อยของเพดานได้

ถ้าทำงานก่อสร้างออกมาดี จุดนี้จะช่วยเพิ่มเป็นข้อดี เนื่องจากได้ความโปร่งโล่ง และช่างไม่สามารถหมกอะไรรกๆไว้เหนือฝ้าได้

เดินจากห้องรับแขกไปยังห้องครัว จะมีกั้นด้วยธรณีประตู พื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องเซรามิคแผ่นใหญ่ ด้านหลังห้องครัวเป็นระเบียง

ห้องครัวเป็นห้องครัวปิด

เลื่อนประตูกระจกฝ้าบานนี้มาปิด ก็จะสามารถกันกลิ่นอาหารเข้าห้องนั่งเล่นได้

ครัวได้เป็นรูปตัว L แบบนี้ มีซิงก์อยู่ทางขวา พร้อมที่วางจาน ผนังดา้นหลังปูกระเบื้อง

พร้อมตู้ด้านบนเข้ามุมเป็นรูปตัว L

หน้าตาซิงก์หลุมค่อนข้างลึก

ที่ดูดควันของ MEX

เตาไฟฟ้าแบบ Hot Plate ของ MEX ประเภท 2 หัว วางนอน

ระเบียงขนาดประมาณ 80 เซนติเมตร ด้านนอกเป็นที่วางเครื่องซักผ้า

คอมเพรสเซอร์แอร์แขวนไว้แบบนี้

กรอบกระจกอลูมิเนียม

จากห้องตัวอย่างมองเข้าไปก็จะเห็นเป็นแปลงที่ดิน

ข้างในมีต้นไม้ใหญ่เยอะ ต้องหาวิธีรักษาต้นไม้หน่อย อย่างต้นทางขวานี้สวยมาก ถ้าตัดทิ้งไปจะเสียดายสุดๆ

ตำแหน่งวางเครื่องซักผ้า

ท่อด้านขวาระบายอากาศมาจากด้านใน

กลับมาดูโซนนั่งเล่นกันต่อ โต๊ะทานข้าวกับโซฟา

ห้องนอนเล็กเข้ามุม มีหน้าต่างเป็นบานกระทุ้งด้านข้าง วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต

ปลายสุดเหลือที่พอให้ Built-in เป็นโต๊ะทำการบ้านได้

พอมีกระจกสองทางห้องก็จะโปร่ง  ไม่อึดอัด

ด้านซ้ายเป็นตู้เสื้อผ้าหน้าบานกระจก

ห้องนอนเด็กแต่งได้น่ารักดีครับ ชอบ

ห้องนอนใหญ่ติดกับทางเข้าห้อง

วางเตียง 5 ฟุต แต่งออกมาค่อนข้างธรรมชาติ

มีการซ่อนไฟนิดๆหลังหัวเตียง

ตู้เสื้อผ้าบานกระจก วางทีวีเอียงๆจากเตียงไปหน่อย และวางได้แต่ทีวีขนาดเล็ก

ด้านข้างห้องนอนใหญ่มีระเบียง

เป็นระเบียงแบบ 270 องศา

มองเห็น 3 ด้านแบบนี้ ขนาดความกว้างประมาณ 95 – 100 ซม. วางกระถางต้นไม้ขนาดเท่านี้ได้สองอัน

แต่แอร์จะติดแบบฟิตๆหน่อย ทำให้ต้องวางรางม่านแบบนี้

อ่อ ตรงห้องนั่งเล่น พอไม่มีฝ้าเลยต้องเอาระบบ Sprinker หัวส้มๆมาติดไว้ที่ผนังแบบนี้

ต่อจากห้อง 2 Bedrooms ก็มาที่ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 30 ตารางเมตร ขนาดที่เล็กที่สุดของโครงการ U Delight

ห้องนี้ค่อนข้างเบสิกเหมือนกับห้อง 30 ตารางเมตรสมัยก่อนที่ U Delight ทำขึ้นมา แต่จะเห็นว่ามีการเปิดฝ้าเช่นเดียวกับห้องแบบ 2 Bedrooms เพื่อให้เพดานโปร่งขึ้น

จุดนี้เป็นโซฟา โต๊ะกลาง และโต๊ะรับประทานอาหาร รวมไว้ในห้องนั่งเล่นห้องเดียว

พื้นที่รับประทานอาหารเป็นโซฟา Built-in ด้านล่างมีช่องเก็บของ และโต๊ะสามขา ตัดไปขาหนึ่งจะช่วยในการเดินเข้าออกให้ง่ายขึ้น แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเสถียรของโต๊ะ เวลาใช้งานอย่างท้าวแขนแรงๆ

มุมนี้แต่งออกมาได้สวยงามดี ด้านบนมีชั้นให้วางของโน่นนี่ด้วย

ฝั่งนี้เป็นโซฟาชุดเดิม

ที่แปลกไปคือโต๊ะกลางทำเป็นเบาะผ้า Stool วางเท้าสำหรับโซฟา แต่มีแผ่นไม้รูปตัว U มาวางซ้อนไว้ให้วางแก้วได้ หรือยกขึ้นมาวางคร่อมตัวเวลาจะนั่งเล่น Notebook ก็ได้

ครัวปิดเหมือนเดิม เปิดระบายอากาศออกไปที่ระเบียงได้

เตาสองหัววางนอนและเครื่องดูดควันของ MEX

ระเบียง 90 ซม.

ซิงก์อันเล็กหน่อยและ Counter เล็ก

จากครัวมองออกไปยังห้องนั่งเล่น

วงกบบานเลื่อนครัวปิด

ทางออกไปยังระเบียง

เตาวางนอนแบบนี้

มาที่ห้องน้ำกันบ้าง เป็นแบบห้องน้ำอยู่ในห้องนั่งเล่น ไม่ได้อยู่ในห้องนอน ด้านซ้ายมีหางสุนัขไว้แขวนกุญแจ เก๋ดี

สุขภัณฑ์ American Standard

ซิงก์ Built เต็มพื้นที่ หัวก๊อก VRH

ฉากกั้นอาบน้ำของ CHARMER

ส่วนเปียกปูกระเบื้องเต็ม ในห้องน้ำมีฝ้าเหมือนเดิมนะครับ สังเกตจาก Down Light และงานระบบ

ห้องน้ำรวมๆอีกที

ไปดูห้องนอนกันบ้าง

วางเตียง 5 ฟุต ด้านข้างเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง

กระจกห้องนอนเข้ามุมแบบนี้ เห็นมุมกว้างกว่าเดิม ทีวีวางปลายเตียงพอดีเป๊ะ ไม่เกะกะ

ตู้เสื้อผ้าวางข้าง

ข้างในใส่ของได้โอเค สไตล์มูจิ

พื้นที่โต๊ะเครื่องแป้ง วางติดเตียงเลย จะได้ไม่ต้องใช้โต๊ะข้างเตียงอีกตัว

กระจกเข้ามุมช่วยเรื่องมุมมองได้เยอะ

จบด้วยตู้ Built-in หน้าห้องที่เป็นตู้ใส่รองเท้านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 2/12/2012

  • ห้อง 30 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.8 ล้านบาท(อยู่ชั้น 10 กว่าๆ)
  • ห้อง 39 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.28 ล้านบาท(อยู่ชั้น 7 ตึก B, 2 ระเบียง ทิศตะวันออก-ใต้)
  • เปิดขายจริง 8 ธันวาคม 2555
  • Fully Fitte
  • จอง – บาท
  • ทำสัญญา – บาท
  • ค่ากองทุน – บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง – บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

เจาะลึกรวบยอด

ช่วงนี้คอนโดมิเนียมเกาะแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงทยอยกันเปิดตัวเยอะขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ Parkland เป็นเจ้าแรกๆ ต่อด้วย ศุภาลัย Park, LPN Park รัตนาธิเบศร์, Aspire, The Hotel Serviced Condo, U Delight และ The Trust และผมก็คิดว่าคงยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ที่ดินสองฝั่งถนนรัตนาธิเบศร์เหลืออีกเพียบ สามารถตัด 2-3 ไร่มาพัฒนาเป็นโปรเจคคอนโดมิเนียมได้อย่างสบายๆ ยิ่งถ้าเป็นฝั่งที่ข้ามสะพานพระนั่งเกล้าไปไทรม้า, ท่าอิฐแล้วจะยิ่งง่ายกว่าฝั่งสี่แยกแครายอีก

ถนนรัตนาธิเบศร์เป็นหนึ่งในถนนใหญ่ที่เจริญเติบโตรวดเร็วมาก นับตั้งแต่การขยายถนน สร้างรถไฟฟ้า มีห้างสรรพสินค้าเพิ่มอีก เรียกว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่ต่อเชื่อมจากนนทบุรีเข้ามาที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งในอนาคตอันใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง MRT บางใหญ่ก็จะเปิดให้ใช้บริการ

เรื่องศักยภาพของทำเลในภาพรวมจึงไม่เป็นอุปสรรคใดๆกับโครงการเกาะเส้นรัตนาธิเบศร์ แต่ต้องมาดูว่าทำเลในภาพเล็กของแต่ละโครงการนั้นเป็นอย่างไร อย่าง U Delight นั้นอยู่ใต้สะพานข้ามแยกแคราย ทำให้การเดินทางเข้าออกด้วยรถยนต์อาจจะมีความสะดวกลดลงไปบ้าง เพราะหากมาจากทางงามวงศ์วานจะไม่สามารถขึ้นสะพานข้ามแยกแคราย ต้องวิ่งฝ่ารถติดมาด้านล่าง แต่ในทางกลับกันหากมาจากฝั่งสะพานพระนั่งเกล้า ก็สามารถกลับรถใต้แยกแครายเข้าคอนโดมิเนียมได้เลย ไม่ต้องข้ามแยกรถติดๆ ส่วนเช้าๆถ้าจะออกจากโครงการไปขึ้นทางด่วนก็ต้องวิ่งไปกลับรถแถวๆศูนย์ราชการนนทบุรี เพื่อไปขึ้นทางด่วนฝั่ง Esplanade

การเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ อนาคตรถไฟฟ้าเปิดใช้ก็สามารถเดินเท้าไปยังสถานีได้ไม่ไกลเท่าไร หรือจะขึ้น Shuttle Bus ไปก็ได้ ซึ่งโครงการมีเตรียมไว้ให้แล้ว ถ้าจะหาของกินหรือเข้า Super เล็กๆน้อยๆก็สามารถเดินข้ามสะพานลอยไป Esplanade ได้ในระยะราว 200 เมตร ทำให้การใช้ชีวิตทั่วไปทำได้ค่อนข้างโอเค

วัสดุอุปกรณ์ที่ให้ก็เป็นมาตรฐานแบบพออยู่ได้ ไม่มีอะไรพิเศษเพราะห้องของ U Delight รัตนาธิเบศร์ไม่ได้แถมเฟอร์นิเจอร์นะครับ สำหรับโครงการนี้เป็นโครงการแรกที่มีการเอาฝ้าในห้องนั่งเล่นออก เพื่อช่วยให้เพดานโปร่งขึ้น จาก 2.4 เป็น 2.6 เมตร ซึ่งเป็นข้อดี แต่ก็ต้องดูว่างานก่อสร้างโอเคไหม ทำออกมาจริงๆแล้วเรียบร้อยหรือไม่ วัดกันที่คุณภาพผลงานอีกทีตอนตึกเปิดใช้

โครงการนี้ค่อนข้างหนาแน่นเมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆของ U Delight ด้วยกันเอง อัตราส่วนลิฟท์วิ่งสูงลิ่วขึ้นไปถึง 248 ต่อ 1 และจำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นที่ 9F – 23F อยู่ที่ 50 ยูนิต ซึ่งจัดว่าเยอะมาก ตึกเดียวเกือบ 1,000 ยูนิต ทำให้ต้องมาดูขนาดจริงๆของสาธารณูปโภคที่ให้ไว้ว่า เมื่อลูกบ้านเข้าอยู่กันครบแล้วจะเพียงพอหรือไม่ อีกทีหนึ่งครับ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา – บาทต่อตารางเมตร

  • ทำเล x/10 –
  • เดินทางด้วยรถ x/10 –
  • ไม่ใช้รถ x/10 –
  • วัสดุ x/10 –
  • แบบ x/10 –
  • สาธารณูปโภค x/10 –

  • ECONOMY – MAIN CLASS
  • x / 10.00

BOTTOM LINE

รอราคาเปิดตัววันที่ 8 ธันวาคม นิดนึงนะครับ

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ