รีวิวโครงการ
คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.201 – รีวิวคอนโด U Delight @ตลาดพลู สเตชั่น
3 เมษายน 2016
รีวิวฉบับที่ 556 … Mr.Oe จะพาไปดูโครงการ U Delight @ตลาดพลู สเตชั่น ของ Grand U นะครับ โครงการนี้เป็นตึกสูงอาคารคู่ อยู่ติดกับ Parkland รัชดา-ท่าพระ ตรงข้ามกับ The Mall ท่าพระครับ ตัวโครงการอยู่ติดถนนสองด้าน อยู่ไม่ไกลรถไฟฟ้าในระยะพอจะเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าสถานี ตลาดพลูได้ ซึ่งถือเป็นของแปลกสำหรับ Grand U เพราะปกติเค้าไม่นิยมอยู่ในระยะใกล้รถไฟฟ้าขนาดนี้ครับ ใครที่นึกชอบแบบห้องและเนื้อโครงการของ Grand U แต่ขัดใจในทำเลที่ไม่ใกล้รถไฟฟ้า ตอนนี้ก็จะได้มีทางเลือกล่ะนะ
Fact @ 27 March 2014
- U Delight @Talat Phlu Station (ยู ดีไลท์ แอท ตลาดพลู สเตชั่น)
- บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี
- คอนโด High Rise 2 อาาร อาคาร A สูง 34 ชั้น อาคาร B สูง 27 ชั้น
- จำนวน ห้องพัก 973 ยูนิต + 3 ร้านค้า ตึก A = 548 Units, ตึก B = 425 units
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 17 ยูนิตเหมือนกันทั้ง 2 อาคาร
- ที่จอดรถในช่องจอดประมาณ 45%
- ที่ดินประมาณ 5-3-72 ไร่ ( 5 ไร่ 2 งาน 72 ตารางวา)
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : มี.ค. 2559
- 1 Bedroom 30 – 45.5 ตารางเมตร ราคา 2.2 -4.1 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 51 – 72 ตารางเมตร ราคา 3.81 – 4.97 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.19 ล้านบาทหรือประมาณ 73,000 บาทต่อตารางเมตร
- ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 73,000 – 100,000 บาท
- http://www.grandu.co.th
- โทร 02-652 4000
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
พิกัด : 13.709858, 100.479432
แผนที่โครงการ เอาไว้ดูคร่าวๆ ว่าตั้งอยู่ตรงไหนครับ ส่วนการวิเคราะห์เรื่องทำเล ผมได้ทำเป็นบทความไว้ ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งใครที่ยังไม่เคยอ่านบทความรีวิวทำเล ก็กดไปอ่านตาม Link นี้เลยครับ “รีวิวทำเล U Delight @ตลาดพลู สเตชั่น”
เจาะลึกตัวโครงการ
รูปโครงการ ด้านหน้า และ ด้านหลัง สีและหน้าตา อยากจะบอกว่า เหมือน U Delight โครงการก่อนหน้านี้ แต่จะแตกต่างกันตรงรูปแบบตึกครับด้วยข้อจำกัดเรื่องที่ดินและสภาพแวดล้อม เดี๋ยวค่อยๆลงรายละเอียดไปเรื่อยๆครับ ไม่ต้องรีบร้อน 🙂
รูปสวนทางด้านโซนหน้าอาคาร
รูปด้านหลังโครงการที่ติดซอยเทอดไท33 จะทำเป็น 7-11 และเปิดทางเข้าออกสำหรับลูกบ้าน ให้ “เดิน” หรือจักรยานผ่านได้ รถยนต์ผ่านเข้าออกด้านนี้ไม่ได้นะจ๊ะ 🙂
รูป Main Facility ที่จัดวางไว้บนชั้น 5 ระหว่างตึก A และ B เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ราวๆ 1 ไร่ ซึ่งนอกจากจะมีของเบสิคอย่าง สระว่ายน้ำ(ระบบเกลือ), สวน, Fitness, Staem, Sauna, และ ห้องสมุดแล้ว… ยังมีของแปลกที่นี่ด้วยนะ คือ พื้นที่ปลูกผักสวนครัวร่วมกันครับ ปลูกแล้วเอาเข้าส่วนกลาง ขายให้ลูกบ้านเอาไปทำสลัด รายได้เข้าส่วนกลาง … ฟังดูน่าสนุกดี
รูปพื้นที่สวน ที่ชั้น 5
รูปสระว่ายน้ำ ที่ชั้น 5 เป็นสระระบบเกลือ ขนาด 5 x 30 เมตร
โมเดลหน้าตาตึกครับ ขวามือคือหน้าโครงการ ติดถนนรัชดาภิเษก ตึกขวาคือตึก A ส่วนตึกซ้ายคือตึก B ตรงกลางเขาเว้นไว้ตั้ง 1 ไร่ ไม่ทำเป็นตึกสูงแนวยาว เพราะมันมีสาเหตุครับ…
โมเดล แบบจำลองโครงการ อันนี้ เรามองจากด้านหน้าโครงการ จะเห็นตึก A อยู่ซ้ายมือ ส่วนอีกตึกที่เตี้ยกว่าอยู่ทางขวาคือ Parkland รัชดา-ท่าพระครับ การที่มีตึกสูงอยู่ในระยะประชิดกันแบบนี้ ย่อมไม่ดีแน่นอน เพราะมันบังวิว ทั้งลูกบ้าน U Delight และ ลูกบ้าน Parkland ที่อยู่มาก่อน
นี่เป็นสาเหตุที่ Grand U เขาออกแบบตึกแบบนี้ครับ คือหั่นตรงกลางออกไปเลย ไม่ให้มีห้องพัก จับตึก A – B ยืดห่างออกจากกัน เพื่อให้ไม่ Block บังวิวกับ Parkland
ดูอีกมุม
อีกมุม
การที่ทำตึกแบบนี้ มีทั้งข้อดีและข้อเสียนะครับ ข้อดีคือทุกฝ่ายสบายใจ ลูกบ้าน U Delight เลือกห้องโดยไม่ต้องไปกังวลเรื่องบังวิวนัก ส่วน ลูกบ้าน Parkland ก็ไม่มีตึกมาบังวิวโล่งๆที่อยู่มาแต่เดิม แม้จะไม่ได้เปิดโล่งเท่าเดิม แต่นี่ก็ถือว่า ดีมากแล้วครับที่ไม่มีตึกมาติดบังวิวระยะประชิดมากๆ … ส่วนข้อเสีย คือมันทำให้ต้นทุนห้องที่จะนำมาขาย สูงขึ้นแน่ๆครับ
โมเดลโครงการ ด้านหน้า ถนนรัชดาภิเษก
โมเดลโครงการมองจากด้านหลัง ถนนเทอดไทย33
หน้าโครงการ อยู่ติดถนนแบบนี้ ตรงตำแหน่งที่เคยเป็นปั๊มน้ำมัน ปิโตรนาส แต่กาลก่อน
ทางเข้าออก รถยนต์ เข้าออกด้านหน้านี้ ด้านเดียว
โปรดสังเกต คลองระบายน้ำ ด้านขวาโครงการ ซึ่งจะมีกระจายในย่านนี้เยอะนะครับ น้ำในคลองนี้ ไม่ใช่น้ำเน่า แต่ก็ไม่สวยสะอาดใสนัก มีทางเดินเล็กๆเลียบคลอง
ดูสภาพของจริงครับ แนวคลองเล็กๆนี้ใช้ระบายน้ำ เชื่อมต่อกับระบบคลองของฝั่งธน ซึ่งตัวคลองที่อยู่ติดรั้วโครงการ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย … ข้อเสียคือกลิ่นน้ำ ซึ่งโชคดีที่ไม่ได้มีกลิ่นมากนัก อีกข้อคือเป็นเส้นทางที่เดินผ่านได้ ถ้าสร้างรั้วเตี้ยไปหรือดูแลเรื่องความปลอดภัยไม่ดี ก็ลำบากหน่อย… ข้อดีคือแนวคลองยาวๆ ที่เชื่อมคลองต่างๆนี้ เปรียบดังช่องลมดีๆนี่เอง ดังนั้น ลมที่ผ่านด้านนี้ จะมีตลอดครับ
ด้านหลัง มี 7-11 แต่ไม่ได้เปิดทางสำหรับรถยนต์นะ เข้าออกได้โดยเดินหรือจักรยานเท่านั้น .. ด้านนี้สำคัญพอๆกับด้านหน้า เพราะเดินออกมามีของกินร้านค้าเยอะ มอไซค์ลัดเลาะไปไหนต่อไหนได้เยอะ และเดินไปรถไฟฟ้าจากด้านนี้ ระยะราว 500 เมตร เดินได้ๆ
Facility ชั้น 5
ภาพมุมสูง ให้ดูแปลงที่ดินโครงการ E= East ทิศตะวันออก ซึ่งเป็นด้านหน้าโครงการติดถนนรัชดา W=West ทิศตะวันตก เป็นด้านหลังที่ติดถนนเทอดไทย33 S=South ทิศใต้ ติดแนวอาคารพาณิชย์ 4-5-6 ชั้น ด้านนี้ค่อนข้างโล่ง N=North ทิศเหนือ ด้านนี้คือด้านปัญหาเพราะติดปาร์คแลนด์ ตึกสูงสีขาวๆที่เห็นนั่นแหละ อันเป็นสาเหตุที่ต้องออกแบบ แยกตึกแบบนี้
มาดูวิวมุมสูงกันนะครับ สูงนี่คือสูงจริงๆ ดูเพื่อให้รู้ว่า ด้านนี้มันมีอะไรนะ ไม่ใช่บอกว่า วิวชั้นเจ็ดจะเห็นแบบนี้ 😀 ด้านทิศตะวันตก คือด้านหลังโครงการ ทางด้านถนนเทอดไทย 33 ด้านนี้ จะเห็นชุมชนแนวราบดั้งเดิม แบบโล่งๆแบบนี้ ซึ่งต่อไปในอนาคต ด้านขวาของรูปจะมีตึกสูงเกาะแนวรถไฟฟ้าอีกหลายตึก
วิวด้านทิศใต้ ซึ่งเป็นอีกด้านที่ยังโล่งๆนะครับ โอกาสที่จะมีตึกสูงขึ้นมาติดๆกันระยะประชิด มีเหมือนกันแต่ยากมากเพราะเป็นอาคารพาณิชย์เกาะถนนซอยเป็นแถวๆ ใครจะสร้างตึกนอกจากจะต้องไล่ซื้อให้ได้ทุกหลังแล้ว ยังเจอระยะร่นของซอยอีก… ยาก
วิวด้านทิศเหนือ ซึ่งนี่คือวิวจากตึก B ซึ่งหลบ Parkland มาแล้ว จะมองเห็นสถานี BTS ตลาดพลู อยู่ลิบๆ
ด้านใน ที่ดินโครงการ กำลังเริ่มปฏิบัติการ เตรียมการรื้อถอนและปรับพื้นที่ดิน จะสังเกตว่าในนี้มีต้นไม้ใหญ่ดั้งเดิมเยอะ ซึ่งไม่ต้องใจหายหรือเสียดายนะฮะ ต้นสวยๆหลายต้น เขาเก็บไว้ บางต้นอาจได้อยู่ที่เดิม บางต้นอาจถูกขยับย้ายที่ไป ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าต้นไหนบ้างนะ 🙂 … ด้านซ้ายเราจะเห็นแนวอาคารพาณิชย์ ส่วนด้านขวาก็เป็น Parkland
ด้านหน้าของโครงการ จะโล่งๆ เพราะติดถนน
แนวอาคารพาณิชย์ ซึ่งอยู่ด้านทิศใต้ของโครงการ เรียกว่าติดรั้วกันเลย ก็ต้องเรียนตรงๆ ว่า เป็นด้านหลังบ้านเขาจึงไม่ได้ดูสวยงามเป็นระเบียบนัก … ผมเคยเห็น U Delight บางซื่อ ที่อยู่ติดอาคารพาณิชย์แบบนี้นะ อันนั้น Grand U แก้ปัญหาด้วยรั้วสูง + จัดสวน + ทาสี ปรับให้ดูเรียบร้อยขึ้น … แต่อันนี้ ผมไม่ทราบครับ
ตึก Parkland ที่อยู่ติดกัน
Master Plan ของโครงการ นอกจากสวน และพื้นที่จอดรถแล้ว ยังเห็นพื้นที่ร้านค้าด้านล่างตึกด้วยนะครับ ซึ่งทั้งสองตึก จะมีชุด Facility แยกของตัวเอง
Floor Plan ชั้น 2-4 ซึ่งตรงกลางระหว่างตึก A และ B จะเป็นที่จอดรถ ส่วนพักอาศัยเริ่มจากชั้นสองทั้งสองตึก จะมีห้องแปลกๆแทรกอยู่ในนี้คือห้องสีฟ้าๆ A15 และ B03 ที่เรียกว่าไปแปะอยู่กับส่วนจอดรถเลย
ขยายรูปให้ดูกันชัดๆ สำหรับห้อง A15 คือการที่มีห้องอยู่ตรงนั้น ทำให้ต้องจัด Layout ในห้องใหม่ ประเด็นที่ผมจะบอกคือ Layout ห้องมันไม่เหมือนห้องอื่นนะครับ จะแปลกๆตรงตำแหน่งวางครัวและระเบียงครับ ซึ่งทั้งตึกมีห้องแบบนี้แค่ ตึกละ 3 ห้อง ถือเป็นของหายาก แต่ไม่ใช่ว่าจะดีกว่าห้องมาตรฐานนะ
Floor Plan ชั้น 5 ซึ่งเป็นชั้น Facility จะมีห้องแปลกๆอีกเช่นเคยคือ A11-13-14-15 ส่วนตึก B คือ B03-04-05-07 ซึ่งเป็นห้องติดสวน ได้ระเบียงพิเศษ ของหายากเช่นเคย ทั้งโครงการมี 8 ห้อง ซึ่งห้อง A11 และ B07 (ห้องสีชมพู) จะมีระเบียงติดสระ เหมาะแก่การนั่งจิบเบียร์ดูสิงโตทะเลว่ายน้ำในตอนกลางวัน และชมนางเงือกในตอนกลางคืน … ห้องที่อยู่ชั้นนี้ จะได้ความสะดวกในการเดินมาใช้ Facility แต่ ก็จะต้องแลกกับความพลุกพล่านวุ่นวายจากเพื่อนบ้านที่มาใช้งานชั้นนี้เช่นกันครับ
ชุด Facility ที่ชั้น 5 จะมี Step บันได เดินขึ้นไป Fitness ซึ่งอยู่ด้านบนห้องน้ำ+steam&sauna ส่วนห้องสมุดจะมีสองชั้นนะครับ
Floor Plan ชั้น 6-26 ซึ่งเป็นชั้นหลัก ตึก A และ B จะเหมือนกัน คือเป็นตัว L นะครับ มีลิฟท์ โดยสาร 3 ตัว+ ลิฟท์ Service 1 ตัวต่อตึก อัตราส่วนลิฟท์โดยสารตึก A = 183 ห้องต่อลิฟท์ 1 ตัว ถือว่าแน่น และต้องรอลิฟท์นานในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ส่วนตึก B = 142 ห้อง ต่อลิฟท์ 1 ตัว ดีกว่าตึก A แต่ก็ยังค่อนข้างแน่นครับ… ตึก B จะมีแค่ 27 ชั้นนะครับ ส่วนตึก A จะเป็นผังเดียวกันไปหมดเลยตั้งแต่ 6-34
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby และร้านค้า
- สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 5×30 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย
- สวนหย่อมรอบโครงการและที่ชั้น 5
- ลิฟท์โดยสาร 3 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมเฉลี่ยทั้งโครงการ 162 : 1
- อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 183:1
- อัตราส่วนลิฟท์ตึก B 142:1
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถ ในช่องจอดประมาณ 45% เก็บค่าจอดรถเดือนละ 300 บาทต่อคัน
- ระบบ CCTV / Access Card
- Shuttle Service รถตู้ 2 คัน ค่าบริการ 15 บาท
Product Walkthrough
ห้องตัวอย่างมีให้ดู 2 ห้องนะฮะ ซึ่งช่วงนี้ผมว่างนะฮะ เลยจะพาไปดูแบบละเอียดๆ มันทั้งสองห้องเลย 😀
ห้อง แรกคือห้อง 1 Bedroom 30 ตารางเมตร ภาพรวมผังห้องจะจัดเป็นสัดส่วน เดี๋ยวดู Room Layout ดีกว่า
Room Lay out ห้อง 1 Bedroom 30 ตรม ห้องนี้จัดมาเป็นสัดส่วนนะครับ จุดเด่นคือเป๊ะเรื่องพื้นที่และ Function การใช้งานมาก ตรงไหนที่แคบและไม่สะดวกในการเข้าออกก็ทำเป็นประตูบานเลื่อน 3 ชิ้น ให้เปิดได้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ ห้องนั่งเล่นจัดพื้นที่แนวยาวให้ได้ระยะดูทีวีสบายตา และมีพื้นที่วางตู้ …ครัวต่อเนื่องกับระเบียง มีประตูปิดมิดชิด ระบายอากาศออกทางระเบียงได้ แต่พื้นที่ครัวบังคับให้ต้องแยก Pantry เป็นสองด้าน ไม่ใช่ชิ้นเดียวต่อเนื่อง… ห้องนอนได้ Bay Window ดูวิวจากบนเตียงได้ และเพิ่มพื้นที่ช่องแสงธรรมชาติ ห้องเค้าขายแบบ Fully Fitted ให้ครัว และส่วนสุขภัณฑ์นะครับ ถ้าอยากได้ Full Fur ครับชุดแบบในห้องตัวอย่าง ต้องเพิ่มเงิน 150,000 บาทสำหรับห้อง 1 bedroom ซึ่งเป็นชุดเฟอร์ ที่ออกแบบมาให้จัดวางลงห้องได้พอดีนะครับ เดี๋ยวเราค่อยๆดูไปด้วยกัน ทั้งห้องทั้งเฟอร์ ว่ามันพอดีจริงไหม
ห้องของที่นี่จะสูง 2.60 เมตร เพราะเค้าไม่ใส่ฝ้านะครับ ข้อดีคือปริมาตรของห้องเพิ่มขึ้น ได้พื้นที่เก็บของแนวตั้งมากขึ้น แต่การติดตั้งไฟของเค้าจะไม่ใช่ Downlight ฝังฝ้า แต่จะเป็นโคมยื่นลงมาครับ
พื้นห้อง เป็นลามิเนต ตัวจบตรงธรณีประตู ก็ลามิเนต มีโอกาสบวมตอนแม่บ้านถูพื้นระเบียง
เปิดประตูมาจะเจอส่วนกว้าง ของ Living Area
ระยะดูทีวีระดับ 3 เมตร วางทีวี 50 นิ้วได้นะ
พื้นถึงฝ้า 2.6 เมตร แต่จะได้โคมไฟยื่นลงมาแบบนี้นะ
พื้นที่วางโซฟา ที่ลากไปวางทางขวาติดครัว ส่วนโต๊ะทางข้าวอเนกประสงค์เอามาวางชิดผนังด้านประตู มีเหตุผลเรื่องเสาหลังโซฟา และไม่ให้เกะกะทางเข้าครัวจนเกินไปครับ
อีกมุม ลองดูที่โซฟา วางแล้วพอจะมีช่องเข้าครัวได้ แคบหน่อย แต่ดีกว่าเอาโต๊ะทานข้าวมาวางแน่นอน มันจะยิ่งแคบเข้าไปอีก
โซฟาและโต๊ะกลาง ขนาดพอดีเป๊ะกับเสาด้านหลัง
โต๊ะทานข้าวอเนกประสงค์ ออกแบบมาให้นั่งทานข้าวได้ นั่งกดคอมพ์ทำงานก็ได้ แต่นั่งนานๆไม่ดีต่อหลังนะจ๊ะ ควรใช้เก้าอี้ดีๆหน่อย
พื้นที่วางโต๊ะ และที่นั่งที่เขาออกแบบให้มีพื้นที่วางของและติดปลั๊กข้างที่นั่ง เอาไว้เสียบมือถือและอุปกรณ์ต่างๆ ไม่วางเบาะมาเต็ม
ใต้ที่นั่งก็เป็นลิ้นชักเอาไว้แอบซุกซ่อนของที่สำคัญ เช่น ซองมาม่า และขนมขบเคี้ยวกรุบกรอบต่างๆ 😀
เวลานั่งที่โซฟา จะเห็นทีวีแอบๆ อยู่หน้าห้องนอนแบบนี้
ตู้แขวน วางรองเท้าและของต่างๆ ติดกระจกหน้าบาน ไว้ให้ส่องกระจกชะโงกดูตัวเองก่อนออกจากบ้าน
เปิดให้ดูพื้นที่วางของ วางได้ถึงเพดาน
ทางเข้าห้องน้ำ เป็นธรณีก่อขึ้นมากันน้ำ เดินเข้าออกระวังสะดุด
ภาพรวมพื้นที่ในห้องน้ำ
อ่างล้างหน้าของ Charmer เช่นเคย
พื้นที่วางของ พอได้
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard
พื้นที่ยืนอาบน้ำ ขนาดแคบหน่อยสำหรับคนตัวโตๆ
ฉากกั้นอาบน้ำเป็นอคิลิคบานเลื่อนสามชิ้น
ฝักบัวของ VRH และที่วางสบู่
ทางเข้าครัว ซึ่งมีระยะประมาณนี้ เพราะติดโซฟา
เวลาทำครัว สามารถปิดประตูให้เป็นครัวปิดแบบนี้
ประตูเข้าครัว เป็นบานเลื่อนพับสามชิ้น พับได้สุดเท่านี้ เวลาตรวจห้องอย่าลืมดูดีๆ ว่าดันไปสุดแล้วมันต้องไม่ไหลกลับมานะฮะ
ห้องครัวเขาปูกระเบื้อง และกั้นส่วนครัวด้วย curb ก่อขึ้นมาสูงไปหน่อยนะ เวลาถือถ้วยกับข้าวเดินเข้าออกระวังสะดุด
พื้นที่ครัว เขาแยก Pantry ออกสองด้าน ด้านซ้ายเป็นอ่างล้างจานและตู้เย็น ด้านขวาเป็นเตาและพื้นที่เก็บของ
อ่างล้างจาน วางคู่ตู้เย็น ตำแหน่งวางถูกต้อง เปิดตู้เย็นเอาของมาล้างง่าย
มีกรุกระเบื้องที่ผนังให้แล้ว
Pantry ด้านขวา จะเป็นเตา และที่วางไมโครเวฟ
Pantry ออกแบบมาค่อนข้างแคบนะครับ แคบกว่า Pantry มาตรฐานทั่วไป
อ่างล้างจาน กว้าง 56 ซม แคบกว่ามาตรฐานเล็กน้อย
ส่วน Pantry ส่วนเตา กว้างแค่ 42 ซม แคบกว่ามาตรฐานพอสมควร
ระเบียง วางติดครัว เปิดระบายอากาศได้
คอมแอร์ แขวนผนัง และมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าด้านล่าง
คอมแอร์ จะติดกริลดันลมร้อนออกไปด้านนอกอาคาร
ห้องนอน
ผนังหน้าต่าง ไม่ได้กระจกถึงพื้น
ตัวกระจกรับวิวและแสง ไม่ได้ถึงพื้น แต่ได้เป็น Bay Window กระจกเข้ามุม มองเห็นวิวจากบนเตียง
ปลายเตียง มีพื้นที่ติดทีวีปลายเตียงได้
ส่วนหัวเตียง จะมีโต๊ะอเนกประสงค์ ด้วย
หัวเตียง วางของจุกจิกหรือไอโฟนได้
ตู้เสื้อผ้า วางอยู่ทางด้านหัวเตียง
อีกมุม
สำหรับเฟอร์นิเจอร์ แบบ Fully Furnished เขามีรายการให้ดูว่าให้อะไรบ้างนะครับ
หน้าตาเฟอร์ที่ให้ ก็ให้แบบตามรูปนี้… สำหรับคนขี้เกียจแต่งห้องเอง ก็เลือกแบบ Full Fur ส่วนคนชอบแต่งห้องเอง แนะนำให้จัดตู้แขวนใส่มาเยอะๆ ใช้ประโยชน์จากความสูงของห้องให้เต็มที่ จะได้มีที่เก็บของเยอะๆครับ
ห้อง 2 Bedroom ขนาด 51.5 ตารางเมตร จัดเป็นสัดส่วน มีห้องนอนใหญ่และเล็ก รายละเอียดดูในผังห้อง Room Lay Out ด้านล่างฮะ
ผมกลับรูปให้ดูนะ จะได้ไม่งง ห้อง 2 Bedroom 51.5 ตารางเมตร ห้องนี้มีจุดเด่นหลายอย่าง เริ่มจากห้องน้ำ ที่เป็น Function แยก ใช้ได้ 3 คนพร้อมกันถ้าจำเป็นจริงๆ เพราะแต่ละส่วนมีประตูแยกของตัวเองมิดชิด คนนึงแปรงฟัน อีกคนอาบน้ำ และอีกคนทำธุระหนักเบาได้…Living Area เป็นพื้นที่แนวกว้าง สามารถทำกิจกรรมเล่นเกมส์ หรืออื่นๆกันได้ … ส่วนรับประทานอาหาร วางติดหน้าต่างรับวิวและแสงธรรมชาติ แถมมี Bay Window อีก ส่วนนี้ออกแบบให้เป็นโต๊ะอเนกประสงค์ ด้านติดหน้าต่างเป็นเก้าอี้ยาว มีเบาะนุ่มๆ สามารถดัดแปลงเป็นโต๊ะอ่านหนังสือ นั่งสอนการบ้าน หรือนั่งทำงานดูลูกๆเล่นเกมส์ได้ สบายๆ.. ครัวพื้นที่เล็กไปนิด แต่ได้ Pantry ตัว L เหมาะกับการทำอาหารคนเดียวแบบเหงาๆ… ห้องนอนเล็กออกแบบมาดี โดยเฉพาะกับเด็กมีโต๊ะทำการบ้านปลายเตียง รับแสงธรรมชาติ และมีหน้าต่างสองด้าน เวลาเปิดพร้อมกัน จะได้ลมพัดผ่าน ขณะทำการบ้าน ห้องนี้ปลายเตียงไม่เหมาะวางทีวี
ส่วน Living Area คือพื้นที่ตรงกลาง ด้านขวาฝั่งหลังโซฟา จะเป็นห้องนอน 2 ห้อง ส่วนด้านซ้ายฝั่งทีวี จะเป็นห้องน้ำ ครัว และระเบียง
ระยะดูทีวี ราวๆ 3 เมตรเช่นกัน ถ้าเอาทีวีแขวนผนังยิ่งไกลได้อีก
ชุดโซฟาสามที่นั่ง นอนหนุนตักกันได้ หรือเวลาถูกไล่ออกจากห้องนอน ก็มีที่นอนเหยียดขาได้ สบายหน่อย
ผนังส่วนวางทีวี
พื้นที่วางโต๊ะอาหาร ดันไปไว้ติดผนังกระจก ใกล้กับครัว
โต๊ะทานอาหาร ทำมาเป็นโต๊ะอเนกประสงค์ไปด้วย
ที่นั่งอเนกประสงค์ เวลาไม่ได้นั่งกินข้าว ก็นั่งทำงาน นั่งเล่นได้ นอนเล่นได้
มองย้อนกลับไปทางเข้าห้อง
ตู้เก็บของ และรองเท้า วางไว้ด้านหน้า
ทางเข้าห้องน้ำ อยู่ด้านหน้า เข้าออกจากส่วน Living Area มีอยู่ห้องเดียว แต่ใช้งานพร้อมกันได้
เข้าห้องน้ำมา จะเจอส่วนอ่างล้างหน้าด้านซ้าย ส่วนด้านขวา จะกั้นประตูแยกเป็นส่วนโถสุขภัณฑ์ และ Shower box
อ่างล้างหน้า
ส่วนกั้นระหว่าง นั่งทำธุระกับส่วนอาบน้ำ ได้ในเรื่องฟังค์ชั่นความสวยงาม แต่ความสวยงามจะด้อยลงไปเพราะมันจะดูทึบๆ
สุขาวดี พื้นที่จะแคบ เพราะกั้นห้อง
ส่วนอาบน้ำ เป็นประตูบานผลักเข้า
ฝักบัวและพื้นที่อาบน้ำ
ระเบียงและครัวอยู่ติดกัน วิธีเชื่อมพื้นที่เขา เจตนาทำให้เวลานั่งอยู่ที่โซฟาแบบนี้ จะมีพื้นที่เปิดโล่ง และมีช่องแสงส่องเข้า Living Area เพิ่มขึ้น
การกั้น ครัวกับระเบียง ตรงจุดนี้ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของห้อง Type นี้
ครัวเล็ก ได้ Pantry ตัว L
พื้นที่ครัวแค่นี้แหละ เราผู้ชายจึงไม่ควรเข้าไป ปล่อยให้คุณผู้หญิงเขาครอบครองครัวแต่เพียงผู้เดียวจะดีกว่า
Pantry และตูแขวนเก็บของด้านบน
อ่างล้างจาน
เตาวางใกล้ตู้เย็น ทำครัวลำบากหน่อยนะมันแคบๆ
พื้นที่วางตู้เย็น
ขนาดและพื้นที่ระเบียง
ที่วางคอมแอร์ และเครื่องซักผ้า
ห้องนอน จะอยู่ด้านโซฟา เดี๋ยวเราไปดูห้องนอนใหญ่กันก่อน
ห้องนอนใหญ่
พื้นที่หัวเตียง วางโต๊ะอเนกประสงค์ไว้ตัวนึง
ช่องแสงและหน้าต่างรับวิวด้านข้าง เล็กไปนิด
ปลายเตียง วางตู้เสื้อผ้าใหญ่ แต่แลกมาด้วยพื้นที่วางทีวีปลายเตียง ที่ไม่ Center
หัวเตียงวางของจุกจิกและโทรศัพท์ได้เช่นเดียวกับห้อง 1 Bedroom
ห้องนอนเล็ก วางเตียงเล็กให้ดู
ที่วางของข้างเตียง
ปลายเตียงวางโต๊ะทำการบ้านไว้ ไม่แนะนำให้วางทีวี
โต๊ะทำการบ้าน
ตู้เสื้อผ้า
ตรงปลายเตียง ที่เป็นจุดวางโต๊ะทำการบ้าน มีหน้าต่างสามบาน รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ และเวลาเปิด จะได้ลมธรรมชาติ พัดผ่าน
พื้นที่หน้าต่างด้านข้างสองด้านแบบนี้ ให้เด็กได้อ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมใต้แสงธรรมชาติได้เหมาะพอดี
หน้าต่างข้างโต๊ะเปิดได้
เปิดได้กว้าง เพราะตรงนี้มีวางคอมแอร์ จะได้ออกไปซ่อมบำรุงได้
รูปเฟอร์นิเจอร์ ที่จัดมาแบบ Full Fur ในห้อง 2 Bedroom
รายการของที่ให้สำหรับ Full Fur
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 27 Mar 2014
- 1 Bedroom เนื้อที่ 30 ตร.ม. อาคาร A ทิศใต้ ราคา 2.20 – 3.00 ล้านบาท หรือ 73,300 – 100,000 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom เนื้อที่ 30 ตร.ม. อาคาร A ทิศเหนือ ราคา 2.20 – 2.87 ล้านบาท หรือ 73,300 – 95,600 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom เนื้อที่ 45.5 ตร.ม. อาคาร A ทิศตะวันตกวิวสระ ราคา 4.10 ล้านบาท หรือ 90,100 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom เนื้อที่ 51 ตร.ม. อาคาร A ทิศใต้ ราคา 3.81 – 4.97 ล้านบาท หรือ 74,700 – 97,450 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom เนื้อที่ 51 ตร.ม. อาคาร A ทิศตะวันตกวิวสระ ราคา 4.17 – 4.94 ล้านบาท หรือ 81,760 – 96,860 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom เนื้อที่ 72 ตร.ม. อาคาร A ทิศตะวันตกวิวสระ ราคา 6.61 ล้านบาท หรือ 91,800 บาท/ตร.ม.
- Fully Fitted
- ห้อง 1 Bedroom Full Fur จ่ายเพิ่ม 150,000 บาท ห้อง 2 Bedroom 250,000 บาท
- เพดานสูง 2.6 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- จอง 25,000 บาท สำหรับห้อง 1 Bedroom และ 35,000 บาท สำหรับห้อง 2 Bedroom
- ทำสัญญา ไม่ต้องวางเงิน
- ดาวน์ 10% (รวมเงินจองแล้ว) ผ่อนดาวน์ 24 งวด
- ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 35 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
- ค่าจอดรถยนต์ คันละ 300 บาท มอเตอร์ไซค์ 50 บาท ต่อเดือน
เจาะลึกรวบยอด
U Delight @ตลาดพลู สเตชั่น เป็นโครงการของ Grand U ที่นานๆ จะโผล่มาเกาะใกล้รถไฟฟ้าในระยะเดินได้นะครับ ตัวทำเลโครงการนี้ ต้องบอกว่าทำมาสำหรับคนฝั่งธนหรือคนคุ้นเคยพื้นที่โซนนี้ ด้านหน้าติดถนนหลักอย่างรัชดาภิเษก เดินไป The Mall ได้ ส่วนด้านหลังติดถนนเทอดไทย 33 ซึ่งเดินไปสถานีรถไฟฟ้า BTS ตลาดพลูได้ ในย่านนี้ มีที่ดินให้ทำแบบนี้ยากอยู่นะ เพราะเป็นตึกแถวไปหมดแล้ว เหลือที่แปลงนี้ที่ด้านหน้าเป็นปั๊มด้านหลังเป็นบ้าน พอทุ่มซื้อมารวมกัน ก็ได้เป็นที่ยาวๆลากไปเชื่อมสองถนนได้แบบนี้แล… แต่ทำเลที่ีแปลงนี้ ก็ไม่ใช่ว่าดีไปหมด เพราะดันติดติกสูง Parkland ทำให้โครงการต้องหั่นตึกมาแบบเว้นพื้นที่ตรงกลางไว้แบบนี้ เพื่อตัดปัญหาห้องบังวิวกันระยะประชิด ซึ่งเสียพื้นที่ขายไปเยอะ และแน่นอน ต้นทุนต่อตารางเมตรมันเพิ่มขึ้น เราเลยเห็นเขาทำราคาออกมาที่ระดับนี้
สภาพแวดล้อมของโครงการ จัดอยู่ในระดับที่เรียกว่า โล่งๆ ตั้งแต่ชั้น 7 ขึ้นไปแล้วนะครับ รอบด้านไม่มีที่รกร้างเปลี่ยว หน้าติดถนนหลังติดถนน ด้านข้างด้านหนึ่งติดคลองระบายน้ำ ที่มีทางสัญจร โครงการคงต้องดูแลเรื่องกำแพงและ Security หน่อย … บ้านเรือนย่านนี้ ส่วนมากเกือบทั้งหมดเป็นอาคารพาณิชย์นะครับ ดังนั้นจะมีการทำค้าขายเล็กๆน้อยๆอยู่ทั่วไป ความอุดมสมบูรณ์และร้านค้าเลยเยอะมาก มีตั้งแต่ร้านชำอาแปะดั้งเดิม ร้านกาแฟ ร้านทำผม ร้านล้างรถ รถเข็นขายอาหาร ร้านอาหาร ตลาด และห้างอย่าง The Mall ท่าพระ … ถ้าคุณเป็นคนขยันเดิน หรือมีจักรยานคันเล็กๆติดห้อง ชุมชนย่านนี้ ถือว่า อุดมสมบูรณ์แบบครบเครื่องเลยทีเดียวเชียวนะจะบอกให้
การเดินทางโดยรถส่วนตัว ถือว่าสะดวกสำหรับคนใช้ชีวิตย่านนี้ แต่ถ้าต้องเดินทางทำงานโดยข้ามสะพานไปอีกฝั่งละก็ .. การใช้รถจะกลายเป็นความลำบากในชีวิตมิใช่น้อย ด้วยคอขวดรถติดตามสะพานในเวลาเช้าและเย็น จะช่วยกันบั่นทอนสุขภาพจิตและกระเพาะปัสสาวะแบบสะสมทบต้นทบดอก ส่วนวันหยุดหรือเวลากลางวันที่มนุษย์เงินเดือนเขาไม่ได้เดินทางกัน ก็โล่งสบายดีอยู่ ดังนั้นถ้าเรารู้ตัวว่า เราไม่ได้เดินทางเหมือนชาวบ้านเขา เช่น เป็นอาเฮียที่ตื่นไปทำงานกี่โมงก็ได้ หรือเข้างานช้ากว่าเขาได้ หรือไม่ได้เดินทางเข้าเมือง หรือเดินทางสวนกับชาวบ้าน … การใช้รถส่วนตัว ก็เป็นทางเลือกที่ดีอยู่นะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ถือเป็นจุดเด่น แม้ว่าโครงการ จะไม่ได้อยู่ติดสถานีรถไฟฟ้าเหมือนเพื่อนบ้านที่มากันก่อนแล้ว แต่ก็ไม่ได้ไกลมาก ระยะ 500 เมตร คนขยันเดินหน่อย คงจะเดินกันชิลครับ ส่วนคนขี้เกียจ ก็นั่งพี่วินนะ สิบบาท นอกจากรถไฟฟ้า สามารถเดินออกด้านหลัง นั่ง Taxi หรือ พี่วินออกทางลัดลัดเลาะหลบหนีรถติดได้ ส่วนการเดินทางปกติใช้ถนนรัชดาภิเษก ก็ได้ครบทั้ง รถเมล์ และ BRT อยู่แล้ว นอกจากนี้ เขามี Shuttle Service ให้ เป็นรถตู้ 2 คัน ซึ่งเก็บเงินนะครับ 15 บาท แฟร์สำหรับคนที่เขาไม่ได้ใช้ จะได้ไม่ไปเบียดบังค่าส่วนกลาง
โครงการที่อยู่ติดถนนใหญ่ลักษณะนี้ จะมีข้อได้เปรียบในเรื่องความปลอดภัย และความสะดวกในการเดินทาง สำหรับคนไม่ใช้รถ เพราะไม่ต้องเดินเข้าซอยเปลี่ยว และตอนเรียก Taxi ก็ใช้ รปภ เรียกเข้ามาในโครงการที่มี ทีวีวงจรปิดช่วยบันทึก การเดินทางออกจากโครงการ จึงเรียก Taxi ง่าย สะดวก และปลอดภัย อันเป็นหัวใจที่สำคัญในการอยู่คอนโด อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งคนมักจะลืมคิดไป
วัสดุอุปกรณ์ของที่ให้มา ถ้าไปดูโครงการ U Delight อื่นๆ จะพบว่า มัน Spec เดียวกันเลย … แต่ๆๆๆ โครงการรุ่นพี่เหล่านั้น ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร ถูกกว่านี้พอสมควร แถมนี่ไม่ได้ Fully Furnished ถ้าอยากได้ ต้องจ่ายเพิ่ม จึงดูไม่ค่อยจะคุ้มเท่าไรนะสำหรับส่วนของวัสดุเมื่อเทียบกับราคา นี่ยังไม่ได้เอาไปเทียบกับเพื่อนบ้านแถวนี้ในระดับราคาใกล้เคียงกันนะ Spec ของที่ได้ แบบ Fully Fitted ไม่ใช่ Full Fur ถือว่า พอจะคุ้มสำหรับห้องที่ราคาไม่เกิน 80,000 บาทต่อตารางเมตรครับ
การออกแบบ ต้องยอมเขาตรง กล้าหั่นตึกลดพื้นที่ขายเพื่อให้ได้โครงการที่ไม่บังวิวกันกับเพื่อนบ้าน และจัดวางตัว Lay Out มาค่อนข้างดี ไม่หนาแน่น ตัวห้องยกเอาหนึ่งในแบบห้องที่ดีที่สุดของ Grand U มาวางไว้ที่นี่ ซึ่งค่อนข้างลงรายละเอียดในการออกแบบดีครับ เป็นจุดเด่นของเขา … การออกแบบอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องพิจารณา คือเฟอร์นิเจอร์ ออกแบบมา Fit พอดีกับห้อง น่าเสียดายที่ต้องเสียตังค์เพิ่ม
สาธารณูปโภค จัดมาดีนะ ยกมาไว้ที่ชั้น 5 และมีพื้นที่เยอะระดับ 1 ไร่ ไม่นับพวก Facility บนดินและร้านค้า ที่เตรียมมาให้ลูกบ้านสะดวกขึ้น … สิ่งที่น่าเสียดายสำหรับ Facility คือ ที่จอดรถที่ได้มา 45% ในช่องจอด นับรวมที่จอดรอบๆตึกแล้ว แปลว่าที่จอดในตึกในร่ม มีแค่ระดับไม่ถึง 40% เท่านั้น และอัตราส่วนลิฟท์ของตึก A จะหนาแน่นไปหน่อย
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 85,000 บาทต่อตารางเมตร, 27 Mar 2014
- ทำเล 8.0/10 – ทำเลครบเครื่องดีสำหรับย่านนี้ แต่พอดีราคามันเกินเพื่อนบ้านไปหน่อย
- เดินทางด้วยรถ 8.0/10 – สะดวกใช้ได้ แต่รถติดเป็นเวลา และที่จอดรถน้อยไปหน่อย
- ไม่ใช้รถ 8.5/10 – สะดวกครบเครื่องดีมากโดยเฉพาะคนขยันเดิน
- วัสดุ 7.0/10 – พอจะเรียกได้ว่า ด้อยกว่าระดับราคาสำหรับย่านนี้ แต่ถ้าเลือก Option Full Fur ถือว่าคุ้มดี
- แบบ 8.5 /10 – ออกแบบมาดี โดยเฉพาะห้อง และการหั่นตึกที่ได้คะแนนพิเศษไป
- สาธารณูปโภค 8.0/10 – ดีหลายอย่างและน่าใช้ แต่มีจุดด้อยตรงลิฟท์ และความสะดวกที่จอดรถ
- MAIN CLASS
- 7.97 / 10.00
BOTTOM LINE
U Delight @ตลาดพลู สเตชั่น เหมาะสำหรับคนที่หาบ้านย่านฝั่งธนที่ไม่ใช้รถ หรือคนใช้รถที่เดินทางไม่เหมือนคนทั่วไป มองหาโครงการที่มีความอุดมสมบูรณ์รายรอบเยอะในระยะเดิน เป็นคนมีนิสัยซื้อของมองหาฟังค์ชั่นที่ชอบ ดูหน้าคนขาย พลิกดูป้ายรับประกัน มากกว่ารื้อหาของที่ราคาถูกที่สุดในห้าง มีงบประมาณระดับ 2.2 – 5.0 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือน 15,000 – 35,000 บาท
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ