รีวิวฉบับที่ 639 … Mr.Oe จะพาไปดูคอนโด ที่มีรูปแบบห้องแปลกและกล้าทำมาก ในซอยสุขุมวิท 62/1 กันนะครับ โครงการ The Unique สุขุมวิท 62/1 ของ Ten Thai Development นี้ เดิมทีไม่ใช่การบ้านที่ผมต้องเข้าไปเก็บครับ แต่ความที่ห้องมันแปลก Tri-Plex 3 ชั้น ไม่ใช่ใครๆอยากทำก็ทำได้ เจ้าของต้องใจกล้ามากด้วย เพราะห้องใหญ่และขายยากกว่า 1 Bedroom ขนาดปกติแน่นอน ของแปลกนานๆเจอทีแบบนี้ ผมไม่ดูไม่ได้หรอกครับ ก็เลยต้องขออาสาทำการบ้านฉบับนี้เองซะเลย 🙂
Fact @ 26 July 2014
- The Unique Sukhumvit 62/1 (ดิ ยูนีค สุขุมวิท 62/1)
- Developer : Ten Thai Development
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ซอยสุขุมวิท 62/1 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 116 ยูนิต (ปรับแก้ไขแบบล่าสุด)
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 25 ยูนิต
- ที่จอดรถในช่องจอด 72 คันคิดเป็น 62% รวมจอดซ้อนคันนับได้ราว 84 คัน หรือ 72%
- ที่ดินประมาณ 1-2-01 ไร่ (601 ตารางวา)
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ปี 2559
- 1 Bedroom 33 – 39 ตารางเมตร ราคา 2.89 – 3.5 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 43 – 80 ตารางเมตร ราคา 4.99 – 8.2 ล้านบาท
- Tri-Plex 3 Bedrooms 90 – 163 ตารางเมตร ราคา 8.9 – 18.0 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.89 ล้านบาทหรือประมาณ 87,500 บาทต่อตารางเมตร
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 100,000 บาท
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างยื่นขออนุญาต
- www.tenthai.com/u62
- สำนักงานขาย : 02-311-3387 , 099-056-3959
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : 13.691883,100.603193
แผนที่โครงการครับ ไม่มีอะไรซับซ้อน โครงการอยู่ในซอย สุขุมวิท 62/1 ซึ่งเกือบจะเป็นกึ่งกลางระหว่างสถานีรถไฟฟ้า BTS บางจาก กับ BTS ปุณณวิถี แต่จะใกล้ไปทางสถานีบางจากมากกว่า … ซอย 62/1 เป็นซอยเล็กและตื้น ยาวแค่ราวๆ 650 เมตร ตอนนี้เริ่มมีโครงการเข้ามาบุกเบิกในซอยนี้กันสามโครงการแล้ว เพราะมันเหมาะเป็น Residence แนวสงบๆ แต่เดินทางสะดวก ปากซอยพอจะไปรถไฟฟ้าได้ ส่วนท้ายซอยทะลุไปขึ้นทางด่วนได้อีกต่างหาก จุดกลับรถตรงถนนสุขุมวิทก็เป๊ะ คือถ้ามาจากในเมืองยูเทิร์นแล้ววิ่งอีกนิดเลี้ยวเข้าซอยได้พอดี … แต่มีข้อด้อยตรงถนนแคบ และความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินเท้าสบายๆไม่เกิน 300 เมตร ไม่มี อยู่ในระดับกันดาร ยกเว้นจะขยันเดินหน่อย เพราะเดินมาปากซอยระยะ 400 เมตรนิดๆ มีปั๊ม ปตท ที่มี 7-11 ให้พึ่งพิงครับ… และถ้าเดินมาถึงปากซอยได้ จะกลายเป็นคนละโลกกับในซอย เพราะนี่คือถนนสุขุมวิท ที่มีรถไฟฟ้าอยู่ไม่ไกล สามารถเดินทางไปหาแหล่งอารยธรรมในเมืองได้ ไม่ยากนัก
แผนที่ Google ผมวัดให้ดูว่าจากปากซอยมาถึงโครงการ The Unique สุขุมวิท 62/1 นี่คือ 420 เมตรนะครับ เท่ากับหนึ่งรอบสนามฟุตบอลครับ จะว่าไกลก็ไม่เท่าไหร่นะ จำได้ว่า ไมเคิล จอห์นสัน ใช้เวลาวิ่งแค่ 43 วินาทีเท่านั้นเอง … ระยะนี้ถ้าเป็นผมวิ่งนะ คงราวๆ 15 วินาที … ไม่ได้โม้ครับ เพราะวิ่งได้แค่ 15 วินั่นแหละ ที่เหลือ เดินไปหอบไป 😀 … ระยะนี้ถ้าเป็นชาวต่างชาติโคตรจะชิลครับ อยู่ในระยะเดินของเค้าที่เรียกว่าใกล้ แต่ถ้าคนไทย ต้องดูแดดดูฝนด้วย เราคนไทยไม่รักแดดกันเท่าไรเนอะ… อ้อ พูดมาซะน้ำเยอะ จะบอกว่า สาระ มันอยู่ที่ปากซอยมีปั๊ม ปตท และมี 7-11 ครับ และเผื่อจะต้องขึ้น Taxi ต้องออกมาปากซอยนะครับ ซอย 62/1 รถไม่ค่อยผ่านครับ
วัดระยะให้ดู ว่าถ้าไป BTS สถานีปุณณวิถี จากหน้าโครงการระยะจะราวๆ 830 เมตรครับ เดินไม่ไหว แต่เหมาะจะนั่งมอไซค์มาครับ เวลาเราจะกลับบ้าน ลงสถานีนี้ สะดวกในการเรียกพี่วินใต้สถานี หรือ Taxi ถ้าฝนตกหรือตอนดึกๆ หรือห่วงผมเสียทรง เพราะ Taxi และ พี่วิน สามารถวิ่งตรงมาหน่อยเดียวแล้วเลี้ยวเข้าซอยได้เลย ระยะนี้ ถ้ารถไม่ติด จ่ายค่า Taxi ไม่เกิน 40 บาท คุ้มและสบายกว่านั่งพี่วินนะ
เวลาเราจะออกจากบ้านไปขึ้น รถไฟฟ้า ไปสถานี BTS บางจาก จะสะดวกสุด ไม่ใช่แค่เพราะระยะทางมันใกล้กว่าที่ 720 เมตรอย่างเดียว แต่แนวการเดินรถ เราออกจากปากซอยแล้วเลี้ยวซ้ายได้เลย วิ่งไปนิดเดียวก็ถึงสถานีแล้ว … นี่คือข้อดีเพียงข้อเดียวเท่าที่ผมพอจะนึกได้ของการมาอยู่กึ่งกลางระหว่างสองสถานีแบบนี้ครับ… อ้อ ระยะ 720 เมตร จะบอกว่าชาวต่างชาติ เดินไหว จัดอยู่ในระยะเดินครับ แต่ไม่ใช่ระยะเดินสบายแน่นอน
จุดเด่นในการเดินทางของโครงการนี้ หลายคนที่ไม่คุ้นเคยทำเลย่านนี้จะนึกไม่ถึงครับ … ท้ายซอยมันวันไปออกซอย 62 ได้ ซึ่งเราสามารถม้วนตัวอีกหนึ่งทีเพื่อวนขึ้นสะพานไปขึ้นทางด่วนได้หน้าตาเฉย … ตรงนี้สำคัญครับ เพราะซอยอื่นที่เขาวนแบบนี้ไม่ได้ ต้องออกมาติดกันบนถนนสุขุมวิท ก่อนจะหาทางเลี้ยวขึ้นทางด่วนกัน แต่ 62/1 ไม่ต้องออกสุขุมวิทเลย ด้านท้ายซอยนี้ ถ้าไม่ติดสะสมกันจริงๆ ก็ไม่ติดมาถึงนี่หรอกครับ (แต่ถึงจะติด ระยะเดินทางเราสั้น ก็ใช้เวลาติดน้อยกว่าชาวบ้านเขาอยู่ดี) เดี๋ยวผมจะพาเดินทางให้ดูตามแนวเส้นแดงนี้ครับ ขออธิบายสภาพแวดล้อมรอบโครงการอีกสักรูปก่อนนะ ใจเย็นๆ
ทำเลรายรอบโครงการ “ในวันนี้” ดูง่ายนะครับ เพราะมันโล่งเชียว มีแต่บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม สูง 2-3 ชั้นเท่านั้นเอง เพิ่งจะมีตึก 8 ชั้น คือ คอนโด ชาโตว์ สุขุมวิท 62/1 ขึ้นอยู่ห่งไปราว 40 เมตรทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือแท่งนึง… ดังนั้น จะเลือกห้องด้านไหน ที่ชั้น 4 ขึ้นไป ก็น่าจะยังโล่งๆอยู่… แต่ในอนาคต ไม่แน่ครับ เนื่องจากแถวนี้ระดับราคาคอนโดมันพอจะเร้าใจเพียงพอให้เจ้าของที่ดินหรือเจ้าของบ้านในซอย ยอมขายที่ดินและย้ายออกดูจะเหมาะกว่า ที่ดินเริ่มได้ราคาและมีมูลค่าเกินกว่าจะเป็นบ้านเดี่ยวอีกต่อไป และเมื่อคอนโด บุกเข้ามา ชาวบ้านในซอยจะไม่ได้อยู่แบบอารมณ์เดิมครับ ความเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งสามัญที่ต้องทำใจเผื่อไว้นะครับ … ดังนั้นในอนาคตซอยนี้มีโอกาส มีคอนโดขึ้นอีกหลายแท่ง ซึ่งจะมีทั้งข้อดีและเสีย สำหรับ The Unique นะ ข้อดีคือคึกคักขึ้น ปลอดภัยขึ้น และน่าจะมีร้านค้าร้านอาหารให้พึ่งพิง … แต่ข้อเสียคือ คนเยอะขึ้น รถอาจติดวุ่นวายขึ้น และคาดเดาได้ยากว่าจะถูก Block วิวระยะประชิดในด้าน ตะวันออกเฉียงเหนือ (ขวา) และด้านตะวันออกเฉียงใต้ (ตรงข้ามโครงการ) หรือไม่นะครับ
ไปดูของจริงกันได้แล้วครับ 🙂
ผมมาจากบางนานะครับ วิ่งตรงแน่วววมาบนถนนสุขุมวิทมาเรื่อยๆ จนถึงสถานีปุณณวิถีนี่แหละครับ
เราวิ่งผ่านสถานีปุณณวิถีไป
ตรงไปครับ ผมถ่ายบันไดทางลง BTS ให้ดู จะเห็นว่า มีแนวเส้นแดง และแนวรั้วกั้นตลอด เพื่อกันคนจอดรถรับส่งกันใต้สถานี เนื่องจากถนนมันแคบครับ นี่เป็นการออกแบบระบบขนส่งมวลชนของบ้านเราที่ยังอ่อนหัดนัก อยากให้เขาใช้รถไฟกัน แต่ดันไม่รู้จักเตรียมพื้นที่จอดรถสะดวกๆให้เขา … พูดแล้วขัดใจขอสวดมนต์แผ่เมตตา ห้าวินาทีครับ …..
ดูแนวที่เขากั้นสิครับ … นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่คอนโด “ติด” รถไฟฟ้ามันราคาพุ่งไปไกล กว่าคอนโด ห่างรถไฟฟ้าระยะ 1 กิโลเมตร แบบไม่ make sense เพราะคนอยู่ไกล เขาต่อรถมารถไฟไม่สะดวกครับ
เลยสถานีมานิดหน่อย เราจะเจอ U Turn ที่รถเมล์กำลัง U อยู่ข้างหน้านั่นครับ ชิดซ้ายได้แล้วนะ ใกล้ถึงแล้ว
ผ่านหมู่บ้านเรืองศิริไป เป็นอีกหนึ่งจุดสังเกต
ตรงมาอีกนิด เราจะเจอปั๊ม ปตท ครับ เราชิดซ้ายไว้นะครับ ซอย 62/1 จะอยู่ติด ปั๊มนี่แหละครับ
ปั๊ม ปตท ปั๊มนี้ เป็นที่พึ่งพิงแน่นอน มี 7-11 และ ร้านกาแฟ อเมซอน
ปากซอย 62/1 อยู่ตรงที่รถสีขาวเลี้ยวเข้าไปนี่เองครับ เราเลี้ยวตามเข้าไปเล้ย
เลี้ยวเข้าซอยมาแล้วนะครับ ซอยสองเลนรถวิ่งสวนกันแบบนี้
ตรงมาหน่อยนึง จะเจอคอนโดกำลังก่อสร้างอยู่ อันนี้ก็ ชาโต้วครับ ในซอยนี้ มี ชาโต้ว 2 แท่ง
ตรงเข้ามาราวๆ 300 เมตรตรงจุดนี้ เราจะมองเห็น ชาโต้ว สุขุมวิท 62/1-2 อยู่ทางขวานั่นครับ
เราขับตรงมาอีกร้อยเมตร ก็จะเห็นแปลงที่ดินโครงการอยู่ขวามือนั่นไงล่ะ หญ้าเขียวววเชียวววว
ถึงแล้วครับ จากปากซอยระยะ 420 เมตร ตอนนี้ปักป้ายด้านหน้า แต่ยังไม่ปรับพื้นที่ โครงการยังอยู่ระหว่างขอ EIA ครับ ก่อนที่เขาจะล้อมรั้ว ผมขอเดินเข้าไปดูหน่อยละกัน
ท่ามกลางทุ่งหญ้าเขียวขจีนี้ คือที่ตั้งโครงการนะครับ ผมมองไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้ (ถ้าเราหันหน้าเข้าหาโครงการ มันคือด้านซ้ายของโครงการครับ) จะเห็นแผงทาวน์โฮมเก่าๆ สูง 3 ชั้น เรียงอยู่แบบนี้ แปลว่าคนที่อยากได้วิวโล่งๆหน่อย ควรจะต้องเลือกชั้น 4 ขึ้นไปสินะ แต่ถ้าจะเอาสวย 6-7-8 สวยและชัวร์กว่า
มุมด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และทิศเหนือ อย่างโล่งเลย มีแต่บ้านคนที่อยู่ใกล้ๆ ด้านนี้เลือกชั้น 3 ขึ้นไปก็โอแล้ว
มุมด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ มีแนวต้นไม้บังบ้าน และตึก ชาโต้ว 62/1-2 อยู่นะครับ ตัวตึกชาโต้ว สูง 8 ชั้น แต่ก็อยู่ห่างไปพอควร ราวๆ 40 เมตรนะ
เราออกเดินทางต่อไปครับ ผมขับไปทางท้ายซอย เพื่อจะพาไปดูการวนขึ้นทางด่วนครับ
ขับมาสุดซอยแล้ว เลี้ยวขวานะครับ .. อ้อฝั่งท้ายซอยไม่ค่อยน่าอยู่ครับ มันใกล้ทางด่วนไปหน่อย
เราเลี้ยวขวามาแล้วนะครับ ตอนนี้อยู่บนถนนคู่ขนานทางด่วน เราตรงไปครับ
ตรงไปนิดเดียว ก็จะเจอสะพานข้างหน้า ใหเราเลี้ยวขวาครับ
เลี้ยวขวามาแล้ว ตอนนี้เราอยู่บนถนนซอยสุขุมวิท 62 แล้วครับ
ตรงมานิดเดียว จะเจอจุดสามเหลี่ยมนี้ ให้เราเลี้ยวซ้าย เพื่อจะวนกลับรถมาเพื่อเลี้ยวขวาย้อนกลับขึ้นสะพาน
…. อันเนื่องมาจาก อุปกรณ์ถ่ายภาพวันนี้ของผม ไม่เหมาะกับการกดถ่ายในรถ ขณะที่ขับรถไปด้วย ตรงแยกและเส้นทางวิกฤติ ผมไม่สามารถถ่ายภาพได้ เพื่อความปลอดภัยของเพื่อนร่วมทางคนอื่นครับ … จึงขออนุญาตใช้รูปของ Google นะครับ ขออภัยที่ทำข้อมูลมาไม่สมบูรณ์ครับ…
ตรงนี้คือจุดที่เราจะวนย้อนเลี้ยวขวาขึ้นสะพานครับ
เลี้ยวขวาได้แล้ว เราตรงไป ขึ้นสะพานข้างหน้าได้เลย
สะพานที่จะพาเราไปด่านเก็บเงินครับ
วนลงมาแล้ว เห็นด่านเก็บเงินอยู่ไม่ไกล
ด่านเก็บค่าผ่านทางด่วนครับ จากตรงนี้ไปได้เกือบหมด.. เข้าเมือง, ไปรามอินทรา, พระราม9, รัชดา, ดาวคะนอง, พระราม2, แจ้งวัฒนะ ไปได้ครับ … อย่าลืมเงินค่าทางด่วนก็แล้วกัน 😀
ตัวโครงการ The Unique สุขุมวิท 62/1 มีจุดเด่นตรงที่มี Unit น้อย เพียงแค่ 116 Unit เพราะทำเป็นห้อง Tri-Plex ไปซะ 25 ห้อง ดูเหมือนสัดส่วนห้องไม่น่าจะเยอะใช่ไหม 25 จาก 116 แต่ถ้าคำนวนเป็นพื้นที่แล้วจะพบว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของตึกนี้คือห้อง Tri-Plex ครับ ที่ราวๆเกือบ 3,000 ตารางเมตร ในขณะที่ห้อง 1 Bedroom มีจำนวนห้อง 65 ห้อง แต่มีพื้นที่รวมแค่ราวๆ 2,200 ตารางเมตรเท่านั้นเอง… น้ำหนักของโครงการจึงอยู่ที่ห้อง Tri-Plex เป็นหลัก… แต่ก่อนจะไปดูห้อง Tri-Plex เราต้องทำความเข้าใจภาพรวมของตัวโครงการและการวางรูปแบบตึกกันก่อน ถึงจะเข้าใจว่า ทำไมเขาจัดวางห้อง Tri-Plex กันแบบนี้ครับ
รูปหน้าตาตึกมองจากด้านหน้าครับ
รูปตัวตึก ด้านหน้าฝั่ง Lobby เค้าเปิดทางเข้าแยกจากทางรถเข้าออกครับ จะมีประตูกระจก เปิดเข้าส่วนโถงรับรอง เหมือนพวกโรงแรม
รูป Facility ด้านใน ส่วนตรงกลางที่เป็นสระว่ายน้ำ … ตัวสระมันจะยกสูงขึ้นมาจากพื้นปกตินะครับ สังเกต Fitness ที่อยู่ต่ำกว่าได้
รูปสระว่ายน้ำอีกมุม ออกแบบมาให้มีต้นไม้ และร่มเงา เพราะไม่เน้นการว่ายแบบเอาเป็นเอาตาย แต่จะเป็นโทนผ่อนคลายสงบๆแนวรีสอร์ทมากกว่า
นี่คือรูปห้อง Tri-Plex ติดสระว่ายน้ำครับ ให้ดูแนวการตกแต่ง Exterior ของเค้า.. ห้องนี้ชั้นล่างเป็น Living Area วิวสระ มีบันไดเดินลงมาเชื่อมกับ Facility ชั้นสองเป็น Master Bedroom และ ชั้นสามเป็นห้องนอนอีกสองห้อง ทุกห้องได้วิวสระทั้งหมดแบบเต็มๆเพราะให้ผนังกระจกพื้นถึงฝ้าครับ
รูป Lobby ด้านล่าง
รูป Fitness ด้านล่าง
ตัวสำนักงานขาย ไม่ได้อยู่ที่ Site งานนะครับ แต่จะอยู่ติดถนนสุขุมวิทติดกับ BTS บางจาก ระหว่างซอยสุขุมวิท 97 กับซอยสุขุมวิท 97/1 เวลาเราขับรถมา ให้ขับเข้าซอย 97/1 แล้วชิดซ้ายเลี้ยวเข้าที่จอดรถของสำนักงานขายได้ครับ ที่จอดเยอะแยะ
ด้านหน้าสำนักงานขาย
โมเดลโครงการ มุมด้านหน้า
ถ้ามองแบบตรงๆ จะเห็นตึกหน้าตาแบบนี้
บนดาดฟ้าไม่มีอะไรนะครับ
ทางเข้าออก แยกชัดเจนระหว่าง รถเข้าออกกับ คนเดินเข้าออกนะครับ เดี๋ยวจะค่อยๆอธิบายตามภาพให้เข้าใจขึ้นครับว่าเขาแยกทำไม
ระยะความสูงของด้านรถเข้าออกเพดานมันเตี้ยครับ เพราะเขากดระยะลงมาเนื่องจากมีอาคารจอดรถใต้ดินด้วย หากทำทางเข้าออกให้คนเดินเข้าด้านนี้ด้วย มันไม่อลังครับ
ที่จอดรถชั้น G ก็จอดได้ราว ครึ่งหนึ่งของที่จอดรถทั้งหมด อีกครึ่งจอดใต้ดิน มีบันไดลงไปที่จอดรถด้านที่เห็นอยู่นี้
ด้านนี้เป็นทางเข้าออกแบบคนเดิน จะเข้าสู่ โถงต้อนรับ และ Lobby ซึ่งดูดีกว่า เพราะมันโปร่งๆสูงโล่ง
ทางเข้าด้านนี้ จะปูกระเบื้องลายนี้ครับ เป็นแนวเส้นนำทางไปด้านข้างตึก
ด้านข้างตึก เป็นพื้นที่โล่งๆ อเนกประสงค์ เดินต่อไปสระไม่ได้นะครับ มีแนวรั้วกั้นอยู่ การจะ Access เข้าสระ ต้องผ่านทาง Lobby หรือจากด้านในตึก ซึ่งต้องเป็นลูกบ้านหรือคนที่มี Key card เท่านั้น
บันไดที่เดินขึ้นสู่ Podium สระ ที่ยกระดับขึ้นจากพื้นปกติครับ
สระว่ายน้ำระบบเกลือ และพื้นที่รอบสระ ที่เอาไว้นั่งเล่นนอนเล่น ตัวสระว่ายน้ำได้ทั้งช่วงเช้าและบ่ายนะครับ มีตึกโอบล้อมช่วยบังแดดให้ และมีต้นไม้ให้ร่ม และสร้าง Privacy ให้กับคนที่ว่ายน้ำหรือนอนเล่นริมสระครับ
โมเดลอีกมุม จะเห็นตึกเป็นรูปตัว U โอบสระอยู่ตรงกลาง
ห้องที่โอบล้อมสระด้านในทั้งหมด เป็น Tri-Plex 3 ชั้นนะครับ อารมณ์เหมือนเป็นเจ้าของสระกันเลยทีเดียว
การออกแบบ Pool Access ของห้อง Tri-Plex จะมีบันไดเดินออกมาจาก Living Area ของห้องตัวเองแบบนี้ มีรั้วเตี้ยๆและประตูโปร่งๆกั้นอยู่ นุ่งผ้าเช็ดตัวออกมากระโดดลงสระได้เลยนะ
Floor Plan ชั้นใต้ดิน The Unique สุขุมวิท 62/1 ซึ่งเป็นชั้นจอดรถครับ การขึ้นลงชั้นนี้สามารถใช้ได้ทั้งบันไดและลิฟท์
ชั้น G จะเป็นชั้น Lobby และ Fitness ครับ มีที่จอดรถใต้ตึก และที่จอดรถ 7 จุดที่เห็นเป็นสีเทาเข้มนั่น เป็นที่จอดส่วนตัวของห้อง Tri-Plex พิเศษที่ได้ที่จอดรวมในโฉนด และมีบันได private ขึ้นบ้านตัวเองนะครับ … อารมณ์เหมือนทาวน์โฮมที่แทรกอยู่ในคอนโดนี่เอง
Floor Plan ชั้น 2 จะเป็นชั้นเริ่มต้นของส่วนพักอาศัย โดยมีสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลาง ที่ไม่ใช่ชั้นสองนะ จะอยู่ในระดับต่ำกว่าพื้นชั้นสองนิดหน่อย ห้องทั้งหมดในชั้นนี้มี 20 ห้อง โดย 7 ห้องที่โอบล้อมสระว่ายน้ำ เป็นห้อง Tri-Plex (ชั้นล่างสุด) ห้องมุมอีกสามด้าน เป็นห้อง 2 Bedroom และที่เหลือจะเป็นห้อง 1 Bedroom ทั้งโครงการมีลิฟท์ 2 ตัว ต่อห้อง 116 ห้อง อัตราส่วนลิฟท์ 58 ห้องต่อลิฟท์ 1 ตัว ถือว่าสบายๆ กดปุ๊บได้ปั๊บ … คนที่เลือกชั้นนี้ ต้องทำใจว่าไม่เน้นวิวนะครับ แต่ได้เรื่องสะดวก เดินขึ้นลงบ้านไม่ต้องใช้ลิฟท์ และไม่สูง (สำหรับคนไม่ชอบความสูง) นอกจากนี้การเดินมาใช้ Facility จะสะดวกไม่ต้องขึ้นลิฟท์
ผังชั้น 3 เป็นชั้นพักอาศัยแบบเต็มตัว จัดแบ่งแบบชั้น 2 แต่มีห้อง Triplex เพิ่มมา 2 ห้อง มีห้อง 2 Bed ตัวเล็กเพิ่มมา 1 ห้อง และห้อง 1 Bed เพิ่มมา 3 ห้อง ห้อง Tri-Plex 7 ห้องแรกที่เริ่มชั้น 2 พอมาชั้น 3 จะเป็นส่วน Master Bedroom ไม่มีทางเข้าออกที่ชั้นนี้ ห้องที่อยู่ตรงข้ามห้อง Tri-Plex เหล่านั้นจึงได้อารมณ์แบบ Single Corridor นะครับ … ชั้นนี้ ห้องฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ (ซ้ายมือ) ยังไม่พ้นระยะบังวิวของทาวน์โฮมสามชั้นที่อยู่ถัดออกไปนะครับ ส่วนด้านอื่นๆ ค่อนข้างจะโล่งพ้นระยะหลังคาบ้านแถวนั้นแล้ว
ผังชั้น 4 จะเหมือนชั้น 3 ครับ เพียงแต่รอบด้านได้วิวโล่งแล้ว
ผังชั้น 5 รอบใน จะเหลือห้อง Tri-Plex แค่สองห้องทางขวามือสีเทาเข้ม และจะมีห้อง 1 Bedroom มาเพิ่มแทน รวมห้องทั้งหมดของชั้นนี้คือ 25 ห้อง ถือเป็นชั้นที่มีห้องเยอะที่สุดนะครับ ห้องวงนอกได้วิวเปิดโล่ง ส่วนห้องวงในเหมือนจะได้วิวสระสวน แต่ชีวิตจริงต้องก้มดูซึ่งดูไม่ดีเท่าไร การก้มดูคนว่ายน้ำ มันดูเสียบุคคลิกอันดีงามยิ่งนัก ถ้าอยากดูเดินลงมาดูระยะจ่อๆแบบพูดคุยกันได้จะดูงดงามเนียนตากว่าครับ… ห้องวงด้านใน จะเสีย Privacy จากการเปิดหน้าต่างมาเจอเพื่อนบ้านโครงการเดียวกันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามนะครับ คนที่ชอบออกมาทำอะไรที่ระเบียงก็อาจจะไม่ชอบเท่าไร
ผังชั้น 6 เป็นชั้นที่เริ่มมี Tri-Plex กลับมาอีกครั้ง แต่จะไม่ใช่ Tri-Plex ติดสระแล้วนะ จะเป็นแบบเน้นวิวเปิดโล่งแทน ชั้นนี้ มีห้อง Tri-Plex 10 ห้อง และห้อง 2 Bedroom 3 ห้อง อีก 10 ห้องเป็นห้อง 1 Bedroom และแอบมีห้อง Duplex 75 ตารางเมตร แซมมา 1 ห้อง (สีกากี) ชั้นนี้มีสวนและพื้นที่นั่งเล่นเล็กๆตรงมุมด้านในมาให้ 1 จุด
ผังชั้น 7 เป็นการวางห้องรูปแบบ Duplex เป็นหลักครับ ซึ่งเป็น Duplex ขนาดใหญ่ 130 ตารางเมตรซะด้วย ชั้นนี้ถ้านับจากในผังทื่อๆ จะนับได้ 21 ห้อง แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่นะครับ เพื่อนบ้านที่อยู่ด้วยกันชั้นนี้จริงๆแล้วมีแค่ 10 ห้องเอง ที่มีประตูเข้าออกที่ชั้นนี้ เพราะห้อง Tri-Plex และ Duplex 75 ตารางเมตร ประตูห้องเขาอยู่ที่ชั้น 6 ครับ
ผังชั้น 8 มีห้อง Combine 105 ตารางเมตร มาหนึ่งห้อง ..ชั้นนี้เป็นชั้นที่ Private สุดๆ เพราะเพื่อนบ้านที่มีประตูเข้าออกชั้นนี้มีแค่ 5 ห้องเอง … ไม่โชคดีจริงๆคงไม่เจอกันนะฮะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby
- Fitness
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ
- สวนหย่อมรอบโครงการ
- สวนและพื้นที่นั่งเล่น ชั้น 6
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อ/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 58 : 1
- ที่จอดรถในช่องจอด 72 คันคิดเป็น 62% รวมจอดซ้อนคันนับได้ 84 คัน คิดเป็น 72%
- ระบบ CCTV / Access Card
ห้องของโครงการ The Unique สุขุมวิท 62/1 มีหลากหลายแบบมากครับ เริ่มตั้งแต่ 1 Bedroom 33 – 39 ตารางเมตร, 2 Bedroom 43 ตารางเมตร, Duplex 75-130 ตารางเมตร, Tri-Plex 90.5 – 163 ตารางเมตร แบบมีที่จอดเป็นของตัวเอง และมีห้อง Combined 105 ตารางเมตรอีก รูปแบบห้องจัดมาได้เกิน 20 แบบครับ แต่ผมคงไม่เอามาเล่าทั้งหมดนะครับ จะขอพูดถึงห้องตัวอย่าง 1 Bedroom 33 ตารางเมตร กับ Tri-Plex 99 ตารางเมตรเท่านั้น ใครสนใจห้องแบบอื่น ลองดูข้อมูลใน เว็บไซต์โครงการนะครับ
ขอเริ่มจากห้อง 1 Bedroom 33 ตารางเมตรก่อนนะครับ ห้องนี้ขายแบบ Full Fur พร้อมอุปกรณ์ Smart Home ควบคุมการเปิดปิดไฟ ผ่านมือถือ เพดานห้องสูง 2.5 เมตร ทางโครงการจัดห้องมาให้ดูเต็มเหนี่ยว (ของที่เขาไม่ให้จะมีสติกเกอร์แปะไว้นะครับ) … ตัวห้องได้ครัวปิด มีส่วน Living Area นั่งดูทีวีติดกับระเบียง และห้องน้ำวางไว้ในห้องนอนครับ
พื้นห้องเป็นพื้นลามิเนตนะครับ ตัวจบธรณีประตูยังไม่ทราบ เอาชัวร์ๆก็ต้องรอดูตอนตึกเสร็จครับ
ประตูไม้บานทึบสีนี้
โครงการแถม Digital Door Lock มาให้ทุกห้อง
ด้านในมีตัว Lock อีก อะไรมันจะ Lock เยอะแยะขนาดน้านนนน แต่ดีนะครับ เผื่อคนเคยรักหรือ ใครก็ไม่รู้ที่เก็บ Key Card เราได้ จะได้เข้าห้องเราไม่ได้ง่ายนัก
ระบบไฟอัตโนมัติที่ประตู จะติดเองเมื่อเราเปิดประตูครับ
อุปกรณ์ Smart Home ของ bticino ที่แถมให้ทุกห้อง แต่ห้อง 1 Bed จะได้ชุดที่ Spec ด้อยกว่าห้อง Tri-Plex นะ ของห้อง 1 Bed ใช้เปิดปิดไฟและปลั๊กในจุดต่างๆผ่านแอพลิเคชั่นบนมือถือ หรือแท็บเลต แต่ Tri-Plex นี่ควบคุมแอร์ และสั่งเปิดปิดน้ำในอ่างแถมตั้งอุณหภูมิได้อีกต่างหาก … จินตนาการว่าก่อนกลับบ้านสิบห้านาที สั่งเปิดแอร์ไว้ เปิดน้ำไว้ กลับถึงบ้านเย็นๆ กระโดดลงอ่างแช่น้ำกินเบียร์…. อ่าห์ฟินยิ่งนัก (ชีวิตจริง กลับมาบ้าน แฟนสั่งให้ล้างจาน ถูบ้าน ซักผ้า… โถ…ชีวิต)… อ้อ ห้อง 1 Bedroom ถ้าอยากได้ชุดควบคุมแอร์ด้วย ก็เพิ่มตังค์ได้นะครับ เป็น option เสริม
ชุดควบคุม ที่เป็นแอพลิเคชั่น ในแท็บเลต นี้มันใช้ง่ายดีนะ เราจิ้มรูปไฟและสวิทช์ ที่อยู่ในหน้าจอแบบนี้ เพื่อเปิดปิด หรือตั้งโหมด relax, party, movie time อะไรพวกนี้ได้เลย
พวกไฟ ที่ต่อเชื่อมกับชุด Smart Home จะมี สวิทช์เปิดปิดหน้าตาแบบนี้
ส่วนไฟในตำแหน่งที่ไม่เชื่อกับ Smart Home จะมีสวิทช์หน้าตาแบบนี้นะจ๊ะ
แอร์ SAMSUNG ที่แถมมา
ก่อนดูห้องต้องบอกก่อนว่า ให้เงยหน้าดูเพดาน … เพดานที่นี่สูง 2.5 เมตร แต่ได้ฝ้าปกติและเป็นไฟดาวน์ไลท์เจาะฝังฝ้าปกติ ไม่ได้ยื่นเป็นโคมลงมาแบบห้องตัวอย่างนี้
เปิดประตูเข้ามาจะเจอส่วน Living ที่มีโต๊ะทานข้าว และชุดโซฟาดูทีวีอยู่ถัดไป
มองย้อนกลับไปที่ประตูครับ ตู้แขวนผนังขวามือเพิ่มพื้นที่เก็บของได้ดีทีเดียว แต่หยิบยากหน่อยนะ
พื้นที่โต๊ะรับประทานอาหาร วางโต๊ะสองที่นั่งมาให้แบบนี้ แต่ของจริงที่ได้ จะไม่ใช่วัสดุหินแบบนี้ จะได้เป็นไม้ปิดผิวลามิเนตครับ
อีกมุม
ครัว เป็นครัวปิด อยู่ใกล้ทางเข้าห้อง
ครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนสามตอน เปิดได้กว้างครับ
Pantry ได้เป็นชุดหน้าตาแบบนี้ พื้นที่เก็บของคงได้อาศัยตู้แขวนเป็นหลัก
Counter Top หินแกรนิตดำ ได้เตาและเครื่องดูดควันครบ ใต้เตาไฟฟ้า มีช่องให้วางไมโครเวฟ
ตำแหน่งเตาและเครื่องดูดควัน … ทำร้ายจิตใจคนถนัดขวายิ่งนัก เพราะค่อนข้าชิดผนัง เวลาต้มผัดแกงทอด ถือกะทะหรือตะหลิวมือขวา จะชิดกำแพง ไม่ค่อยถนัดเท่าไร ง่ายๆคือต้องยืนทำครัวในตำแหน่งที่ผมยืนนี่แหละ
ผนังด้านในติด Pantry เขาติดแผ่นกระจก กันเลอะเทอะมาให้ เวลาน้ำมันกระเด็นจะล้างง่ายหน่อย น่าเสียดายที่ติดมาด้านเดียว น่าจะติดด้านขวาให้ด้วย เพราะมันก็ใกล้เตาพอๆกันนั่นแหละ
ส่วนโซฟานั่งเล่นดูทีวี วางติดส่วนระเบียงครับ
ระยะดูทีวีของส่วนนี้หักพนักพิงหลังไปแล้ว อยู่ที่ราวๆ 2.1 เมตรครับ วางทีวีขนาด 40 นิ้วก็พอ และแนะนำให้เอาแขวนผนังไปเลย โล่งๆ
ชั้นวางของจุกจิกที่แขวนผนังเหนือทีวี
ระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน
ขนาดของระเบียง กว้าง 1 เมตร ยาว 2.4 เมตร เมื่อหักพื้นที่วางเครื่องซักผ้าแล้ว จะเหลือพื้นที่ใช้สอยของระเบียงราวๆ 1 x 1.5 เมตรครับ
หน้าห้องนอน มี Built ตู้วางของจุกจิกมาให้อีก
ห้องนอน
ชุดหน้าต่างรับวิวและแสง ได้สูงพื้นถึงฝ้า แต่ไม่เต็มผนังดีนะครับ
ปลายเตียง Built ตู้แขวนทีวีมาให้หน้าตาแบบนี้ … ขออภัยมือสั่น ถ่ายมาเบลอไปเยอะเลย
ตู้เสื้อผ้าวางข้างหัวเตียงครับ
โต๊ะแป้ง วางอยู่ด้านห้องน้ำ
สตู โต๊ะแป้งห้องจริง จะไม่ได้หน้าตาแบบนี้นะ เป็นสตูสี่เหลี่ยมธรรมดา
ห้องน้ำห้องจริงพื้นจะลดระดับเล็กน้อย
ภาพรวมพื้นที่ในห้องน้ำ
ตำแหน่งพื้นที่วางอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ ซึ่งได้ของ American Standard ทั้งคู่ .. ตำแหน่งที่แขวนทิชชู่ ควรย้ายมาอยู่ผนังขวามือครับ จะหยิบทิชชู่ได้ง่ายกว่าตำแหน่งที่เห็นนี้มาก คนสูงวัย เอื้อมไปหยิบ อาจจะเจ็บกล้ามเนื้อได้ … ผมยังไม่สูงวัยนะ ฟังผู้ใหญ่เขาเล่ามาอีกที
อ่างล้างหน้า ของ American Standard มีที่เก็บของเล็กน้อย … ตำแหน่งติดตั้งทำร้ายจิตใจคนถนัดซ้ายด้วยการเอาไปชิดผนังด้านซ้าย เวลายืนแปรงฟันด้วยมือซ้าย ลำบากน่าดู … มีวิธีแก้ครับ คือให้ใช้มือขวาแปรงแทน .. ฝึกไว้ๆ
อ่างล้างหน้า
โถสุขภัณฑ์
Shower Box กั้นกระจกมาให้เรียบร้อย พื้นที่ยืนอาบ แคบกว่าที่ควรจะเป็นนิดหน่อย อาบได้ทีละคน หมดสนุกเลย…
ชุดฝักบัวที่จัดมาให้
ต่อด้วยห้อง Tri-Plex ที่ถือว่า เป็น Product ที่แปลก … ไม่ใช่ว่าทำยากนะครับ แต่ Developer ส่วนมากกลัวกันว่าจะขายยาก เพราะห้องมันใหญ่ ราคาต่อห้องมันก็สูงตาม Tri-Plex ที่นี่ เริ่มต้นก็ปาเข้าไป 8.9 ล้านแล้ว (ขนาด 90.5 ตารางเมตร) แถมตัว TOP ที่ขนาด 163 ตารางเมตร กดไป 18 ล้าน ซึ่งราคาสูงทีเดียว … แต่เขามั่นใจว่าขายได้ เพราะอะไร ยังไง อย่าใจร้อน ดูห้องกันก่อน แล้วผมจะสรุปให้ฟังตอนท้ายครับ
ผังห้อง Tri-Plex ขนาด 99 ตารางเมตร ซึ่งมี 3 ชั้น แบ่งเป็นชั้นล่างสุดคือชั้นนี้ ทำเป็นส่วนครัว รับประทานอาหาร และ Living Area มีระเบียงชุดนึง ห้องน้ำที่เห็น เรียกว่า powder room คือเข้าห้องน้ำ ล้างมือล้างหน้าได้ แต่ไม่มีส่วนอาบน้ำ มีพื้นที่เล็กๆเก็บของใต้บันได อารมณ์เหมือนทาวน์โฮมขนาดเล็กๆครับ ระยะพื้นถึงฝ้า 2.5 เมตร ขายแบบ Full Fur และแถม Smart Home ของ bticino ที่ควบคุมการเปิดปิดไฟและปลั๊ก คุมแอร์ เปิดปิดน้ำในอ่างน้ำ ผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือหรือแท็บเลต … อ้อ คุมได้ถึงชั้นสองนะ ชั้นสามสงสัยสัญญาณไม่ถึง เพิ่มตังค์ก็ติดถึงได้ ส่วนม่านเดินระบบไว้ให้แล้ว แต่เป็น Option ที่ต้องจ่ายเพิ่มสำหรับตัว Control การเลื่อนเปิดปิดม่านอัตโนมัติ… Spec ของพื้นฐานโดยรวม จะคล้ายๆกับห้อง 1 Bed ครับ
ผังชั้น 2 ของห้อง Tri-Plex นี้จะยกให้เป็นส่วนของ Master Bedroom ทั้งหมด ห้อง Master Bedroom นี้ ไม่มีระเบียงนะครับ แต่ได้ห้องน้ำอลังดี Counter อ่างล้างหน้าใหญ่ โถสุขภัณฑ์ได้ Wall Hung (แบบแขวนผนัง ซึ่งดีต่อสุขอนามัย ทำความสะอาดง่าย ดูดีและเรียบร้อยกว่าแบบวางพื้น) ส่วนอาบน้ำได้ทั้ง Shower และ อ่างอาบน้ำ ที่มีระบบเชื่อมต่อกับ Smart Home สั่งงานผ่านมือถือได้ … ในรูปนี้ จะเห็นเหมือนมีช่องเปิดเป็นหน้าต่างเล็กที่ตรงเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ซึ่งของจริงไม่ใช่นะครับ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดไปแบบนั้น เพราะข้างนอกนั่นคือโถงทางเดินครับ ขืนมีหน้าต่างเปิดแบบนี้ ชาวบ้านเขาจะได้โผล่หน้ามาทักทายตอนเรากำลังนั่งเล่นบนโถสุขภัณฑ์กันพอดี…
ผังชั้น 3 จัดแบ่ง เป็น 2 ห้องนอน คู่แฝดหน้าตาเหมือนกัน และมีห้องน้ำอยู่ด้านนอก ให้ทั้งสองห้องแชร์กันใช้ ซึ่งการออกแบบห้องน้ำ ออกแบบให้ใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้ เพราะมีประตูกั้นส่วนอาบน้ำ+โถสุขภัณ์กับ ส่วนอ่างล้างหน้า ที่ได้เป็น Counter ตัว L .. เวลาคนนึงแปรงฟัน อีกคนก็เข้าไปอาบน้ำได้ .. อ้อและถ้าจำเป็นต้องทำธุระพร้อมกัน อีกคนสามารถลงไปเข้าห้องน้ำชั้นล่างได้เช่นกัน
พื้นห้อง ลามิเนต เหมือนห้อง 1 Bed นะฮะ
เปิดประตูเข้ามาจะเป็นส่วน Living Area แบบนี้
อีกมุม
มองย้อนไปทางประตู
โต๊ะทานอาหาร จัดวางให้ในตำแหน่งนี้ นั่งได้ 6 ที่
ผนังที่ติดกับส่วนรับประทานอาหาร จัดเป็นตู้เก็บของจุกจิกนะครับ
ส่วนครัวเป็นครัวปิด กั้นด้วยกระจกบานเลื่อน 2 ตอน
ระยะพื้นที่ในครัว
ชุด Pantry พร้อมตู้แขวนเก็บของ
ตู้เย็นคงวางได้ขนาดราวๆนี้ครับ พื้นที่มัน Fit พอดีแล้ว
ตำแหน่งเตา เอามาวางใกล้ตู้เย็นละ ไม่ได้ชิดผนังเหมือนห้อง 1 Bed
ตู้แขวนผนัง พื้นที่หลักในการเก็บของ
พื้นที่นั่งเล่น ระยะดูทีวีเหลือเฟือ เอาทีวี 55 นิ้ววางกำลังดี
ชุดโซฟาดูทีวี
ชุดวางทีวี เขาใช้แขวนแบบนี้นะครับ
ระเบียง
พื้นที่ระเบียง ไม่ได้ใหญ่อะไรมาก เมื่อเทียบกับขนาดของห้อง
บันไดขึ้นชั้นสอง จะติดตั้งระบบไฟอัตโนมัติไว้ให้บนเพดานนะครับ เวลาเราเดินมาใกล้ๆมันจะเปิดเอง … คุณพ่อบ้านที่ชอบแอบหนีออกจากบ้านไปเซเว่นตอนดึกๆ แนะนำให้เอาหลอดหมดอายุมาติดแทนครับ
พื้นที่ใต้บันได สามารถเก็บวางของได้อีกนิดหน่อย
Powder Room ชั้นล่าง ไม่มีส่วนอาบน้ำ
บันไดของที่นี่ เขาติดตั้งไฟบันไดแบบอัตโนมัติมาให้ดู (ที่แถมให้มีเฉพาะชุดไฟอัตโนมัติบนเพดาน)
เวลาเราเดินมาใกล้บันได ไฟLED ที่บันไดจะติดอัตโนมัติแบบนี้
ชั้นสอง เป็นห้อง Master Bedroom นะ
ห้องนอน Master Bedroom
ตรงหัวเตียงมีติดโคมไฟอ่านหนังสือ หน้าตาแบบนี้มาให้
พอดึงออกมานิดหน่อย มันจะเปิดให้แสง
สามารถ บิด และปรับ ให้ไดเไฟในองศาที่ต้องการได้
ผนังกระจกเขาให้ระยะพื้นถึงฝ้าเลย มองวิวมุมก้มได้สวย
ปลายเตียง Built ที่วางทีวีมาให้แบบนี้
ตู้เสื้อผ้า เต็มผนัง
ภายในห้องน้ำ จะได้แบบนี้เลยนะครับ Counter อ่างล้างหน้ายาว และโถสุขภัณฑ์แบบ Wall Hung
อีกมุม
ส่วนอาบน้ำ จะได้ทั้งยืนอาบแบบ Shower และแช่อ่างนะครับ
ชุดฝักบัว
อ่างอาบน้ำ ระบบอัตโนมัติ ชุดนี้แหละ ที่ควบคุมผ่านมือถือได้
ชุดควบคุมข้างอ่าง สั่งเปิดปิดน้ำและไฟในอ่างรวมถึงควบคุมระบบจากุชชี่ด้วย
บันไดทางขึ้นชั้น 3 ตัวบันไดจะแคบกว่าบันไดมาตรฐานบ้านเดี่ยวทั่วไปนะ
ชั้นสาม ขึ้นมาแล้วจะเจอโถงหน้าห้อง แยกไปห้องนอนเล็ก 2 ห้อง และห้องน้ำ
ไปดูห้องน้ำกันก่อน
Counter อ่างล้างหน้า ได้แบบ ตัว L วางของจุกจิกได้เยอะดี
โถสุขภัณฑ์ พื้นที่นั่งเยอะ
ส่วนอาบน้ำ กว้างคูณยาว 130 x 130 ซม. ใหญ่กว่ามาตรฐานปกติ
ได้ Rain Shower ด้วย
ห้องนอนเล็ก 2 ห้อง Lay out เดียวกันเลย แค่จัดโทนสีต่างกันเท่านั้น เราดูห้องซ้ายก่อน
ห้องนอนซ้าย ยังติดทีวีปลายเตียงได้ แม้ระยะเดินผ่านปลายเตียงจะแคบไปนิด
หัวเตียง
พื้นที่ข้างเตียง เหลือแค่นี้ แต่มีข้อดีตรงได้ผนังกระจกถึงพื้นเลย ก้มมองวิวมุมกดได้
ตู้เสื้อผ้า
ห้องนอนขวา จะเข้มกว่าห้องซ้าย แต่ Lay out เดียวกัน
หัวเตียง
ปลายเตียง
ผนังกระจก
เปิดหน้าต่างได้ เป็นบานกระทุ้งแบบนี้
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 26 July 2014
- 1 Bedroom เนื้อที่ 33-39 ตร.ม. ราคา 2.89 – 3.5 ล้านบาท หรือ 87,575 – 89,743 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom (มีแบบธรรมดาและ Duplex) เนื้อที่ 43-80 ตร.ม. ราคา 4.99 – 8.2 ล้านบาท หรือ 109,300 – 116,046 บาท/ตร.ม.
- Triplex 3 Bedroom เนื้อที่ 90.5 – 163 ตร.ม. ราคา 8.9 – 18.0 ล้านบาท หรือ 98,342 – 110,430 บาท/ตร.ม.
- Fully Furnished + Smart Home
- ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- จอง และทำสัญญา 3% จากราคาขาย
- ดาวน์ 7% ผ่อนดาวน์ 22 งวด (นับจาก สิงหาคม 2557)
- ค่ากองทุน 700 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 45 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
โครงการ The Unique สุขุมวิท 62/1 อยู่ในทำเลใกล้ทางด่วน และพอจะไปสถานีรถไฟฟ้าได้ไม่ไกล แต่แม้ว่าโครงการจะเรียกว่า “สุขุมวิท” แต่ก็ไม่ใช่สุขุมวิทตอนต้นอย่าง เพลินจิต ชิดลม อโศก พร้อมพงศ์ หรือทองหล่อนะครับ โครงการขยับออกมาอีกไกลพอสมควร เลยอ่อนนุชออกมาอีก ซึ่งความเจริญรายรอบ และความอุดมสมบูรณ์ มันจะเทียบกันไม่ได้เลยตั้งแต่แรก
ตัวโครงการอยู่ในซอย 62/1 ซึ่งเป็นซอยเล็กๆ สั้นๆ สงบๆ ดีในแง่ไม่พลุกพล่านเลย แต่ต้องแลกมากับความไม่อุดมสมบูรณ์ ไม่มีร้านค้าให้พึ่งพิงในระยะ 300 เมตรรอบโครงการ จะซื้อข้าวของต้องเดินมา 7-11 ปากซอย ระยะทางราวๆ 420 เมตร แต่ถ้าเดินมาถึงปากซอยได้ เดินต่ออีกหน่อย สามารถเข้าเมืองไปย่านสุขุมวิทตอนต้น นี่สบายเลย ห้างดีๆ อยู่เส้นนี้เกือบหมด … สภาพแวดล้อมรายรอบโครงการ เป็นบ้านเดี่ยวแนวราบ และเริ่มมีเพื่อนบ้านเป็นคอนโด Low Rise ในซอยบ้างแล้ว อนาคตต่อไป คงมากันได้อีกหลายแท่งนะครับ สำหรับทำเลย่านนี้
การเดินทางโดยใช้รถค่อนข้างสะดวกมาก เมื่อเทียบกับสุขุมวิทย่านนี้ด้วยกัน เพราะมีทางลัดด้านท้ายซอย ลัดเลาะไปขึ้นลงทางด่วนได้ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากในช่วงเวลาเร่งด่วน ส่วนที่จอดรถจัดมาได้เต็มที่ราวๆ 72% รวมจอดซ้อนคัน บริหารจัดการดีๆ ไม่น่าจะยากที่จะจัดให้พอเพียงนะครับ อ้อสำหรับห้องพิเศษ มีที่จอดรถเป้นของตัวเองด้วย ก็คงไม่ต้องห่วงอะไร
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ สะดวกพอใช้ตรงที่พอจะไปรถไฟฟ้าได้ไม่ลำบาก มันจะลำบากเอาตอนที่จะหา Taxi ซึ่งถ้ารอในซอยคงช้า ต้องออกมาปากซอยสุขุมวิท ถ้ากลางวันปกติไม่เท่าไร แต่ถ้าดึกๆ หรือวันฝนตกหนัก คนไม่มีรถลำบากแน่นอน ด้วยต้องเดินออกมาไกล และตอนกลางคืนก็ไม่ได้น่าเดินสักเท่าไหร่นัก ณ.วันนี้ซอยนี้มันยังเงียบอยู่ครับ คงต้องรอให้มีคอนโด มาขึ้นอีกหลายๆตึก ถึงจะคึกคักขึ้น และมี รปภ หน้าตึกแต่ละตึก จะช่วยดูแลความปลอดภัยโดยรวมได้บ้าง
วัสดุ ที่ให้มา มีดีมีด้อย ปนกันบ้างแต่โดยรวมจัดอยู่ในระดับค่อนข้างดี และที่ดีมากคือจัดมาให้เยอะมาก ครบเลย รวมถึงการติดตั้งระบบต่างๆ และ Smart Home มาให้ด้วย ส่วนการออกแบบจัดว่าออกแบบมาแปลกแหวกแนวดี โครงการทำมาให้มี Unit แค่ 116 ห้อง ซึ่งจะได้ความ Private ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว รูปแบบห้องใหญ่และราคาที่ค่อนข้างสูง จึงคัดลูกบ้านไปในตัว ส่วนการจัดวางและออกแบบตึก เน้นการให้ Privacy ในส่วนกลางครับ
Facility ของโครงการ จัดมาค่อนข้างใช้ได้ เมื่อเทียบกับขนาดของโครงการที่ถือว่าเล็ก Unit น้อยแบบนี้ มีของให้ใช้ครบ และค่อนข้างน่าใช้ แต่จะออกแนว Private หน่อย ไม่เน้นใช้งานจริงจังนักนะครับ
รูปแบบห้องที่ออกแบบมา โดยเฉพาะห้อง Tri-Plex ไม่ได้เหมาะกับคนทั่วไป แต่เหมาะกับคนมองหาห้องใหญ่ๆ หรือแม้แต่มองหาทาวน์โฮมในย่านสุขุมวิทที่ใกล้รถไฟฟ้า ซึ่งมันไม่มีใครทำขายเลยนะครับ ต่อให้มีคนทำในทำเลลักษณะแบบนี้ ราคา 9 ล้านคงซื้อไม่ได้ ซึ่งแน่นอนครับ ทุกอย่างเมื่อนำมาเทียบกัน มันจะเทียบกันตรงๆไม่ได้ และมีข้อดีข้อด้อยต่างกัน ทาวน์โฮม ได้พื้นที่ใช้สอยมากกว่าแน่นอน 2-3 เท่าด้วยซ้ำไป ได้เนื้อที่ดิน ได้ความอิสระที่จะเลี้ยงหมาแมว ปลูกต้นไม้ … ส่วนห้อง Tri-Plex ได้ความสะดวก และทำเลคอนโด ได้ความง่ายไม่ต้องมานั่งดูแล ได้ความปลอดภัยแบบคอนโด และที่สำคัญ ได้ Facility ที่ดีกว่า ทาวน์โฮมแน่ๆ … จุดดีอีกข้อที่ทำให้ Developer เจ้านี้เขากล้าทำห้อง Tri-Plex ออกมาคือ ตลาดผู้ซื้อชาวต่างชาติ ที่สามารถหยิบจับเป็นเจ้าของได้ เพราะมันเป็นคอนโด … ถ้าเป็นทาวน์โฮม ชาวต่างชาติเขาคงไม่สามารถซื้อได้ครับ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 100,000 บาทต่อตารางเมตร, 26 July 2014 (การเปรียบเทียบโครงการนี้ ด้วยราคาต่อตารางเมตรอย่างเดียว อาจทำให้ตัดสินใจผิดได้ ราคาต่อตารางเมตร พอใช้ได้กับห้องปกติ 33-43 ตารางเมตรเท่านั้น ส่วนห้อง Tri-Plex ควรเอาราคารวม 9-18 ล้านเป็นตัวเทียบครับ… อย่างไรก็ดี ใน Judgement นี้ผมขอใช้ราคาต่อตารางเมตร เทียบห้องมาตรฐานไปก่อนนะครับ)
- ทำเล 7.25/10 – ทำเลพอใช้ได้ แต่ราคานี้ ในย่านนี้ มีทำเลที่เด่นกว่านี้ให้เลือกพอสมควรเลย
- เดินทางด้วยรถ 8.25/10 – สะดวกมาก ทางเลี่ยงมี ทางด่วนใกล้
- ไม่ใช้รถ 7.0/10 – กลางวันโอเค กลางคืนลำบากหน่อย ราคานี้ ในย่านนี้ มีทำเลอื่นที่เหมาะกับคนไม่ใช้รถอีกหลายทำเล
- วัสดุ 8.5/10 – จัดเต็ม และมีของน่าสนใจหลายอย่าง
- แบบ 9.0/10 – โดยรวมออกแบบมา Private และค่อนข้างดีอยู่แล้ว ผมบวกคะแนนความกล้าทำให้เพิ่มครับ
- สาธารณูปโภค 8.0/10 – รูปแบบเน้น Privacy มีให้ใช้ครบ
- UPPER CLASS
- 7.80 / 10.00
BOTTOM LINE
The Unique สุขุมวิท 62/1 เหมาะกับคนมองหาบ้านย่านสุขุมวิท ที่เดินทางด้วยรถเป็นหลัก แต่หวังพึ่งพิงรถไฟฟ้าบ้าง พักอาศัยหลายคน หรือเป็นคนต้องการพื้นที่มาก ชอบความสงบไม่พลุกพล่านวุ่นวาย เน้นอยู่ในห้องไม่ได้สนใจวิว มีนิสัยเลือกของมองหา Function ที่ถูกใจและเหมาะกับตัวเองไม่สนใจรื้อหาของราคาถูกสุด หรือดูแต่ป้าย Brandname มีงบประมาณระดับ 2.9 – 18 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือน 18,000 บาทขึ้นไป
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ