รีวิวฉบับที่ 1501 … สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการ The Trust Condo @ BTS เอราวัณ คอนโด High Rise สไตล์ Modern Simplicity ตัวใหม่จาก Q House ติดถนนสุขุมวิท ใกล้ BTS เอราวัณ รถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อขยายมาทางสมุทรปราการ และใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนบางพลี-สุขสวัสดิ์ เราไปชมกันค่ะ 

Fact @ 13 December 2017 

  • The Trust Condo @ BTS Erawan (เดอะทรัสต์ คอนโด @บีทีเอส เอราวัณ)
  • บริษัท เดอะคอนฟิเด้นซ์ จำกัด (โดยบมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์)
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : อำเภอเมืองสมุทรปราการ
  • คอนโด High Rise 30 ชั้น 1 อาคาร 1,570 ยูนิต และร้านค้า 7 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 55 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 476 คันคิดเป็นประมาณ 30% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ที่ดินประมาณ 7-2-84.1 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : สิงหาคม 2558
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : กันยายน 2560
  • Studio 23.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 28.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • 2 Bedroom (Combined)
  • ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการประมาณ 80,000 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด n/a บาท/ตร.ม.
  • สถานะโครงการ : สร้างเสร็จพร้อมอยู่
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • โทร  : 02-380-6000 หรือ 087-606-4334
  • Call Center : 1388

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ 

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.620166, 100.589398

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

The Trust Condo @ BTS เอราวัณ ตั้งอยู่ติดถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้าในอ.เมือง จ.สมุทรปราการ ห่างจากพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณประมาณ 1 กม. หน้าโครงการติดกับรถไฟฟ้าสถานี พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ  ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวในอนาคตที่ต่อขยายมาจากสถานีแบริ่ง  ทำเลในย่านนี้ เป็นย่านแหล่งงานสำคัญอีกจุดนึงที่มีโรงงานผลิตสินค้าต่างๆ ทั้งเล็กและใหญ่อยู่ค่อนข้างมากทั้งถนนสุขุมวิทและถนนข้างเคียงอย่างถนนปู่เจ้าสมิงพรายและถนนรางรถไฟเก่า ซึ่งทำให้มีทั้งรถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งเข้า – ออกบริเวณพื้นที่นี้มาก ในเรื่องของสภาพแวดล้อมรอบข้างยังไม่อุดมสมบูรณ์และเจริญเท่าถนนสุขุมวิทช่วงก่อนแยกบางนา โดยส่วนใหญ่สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จะอยู่แถบสำโรง อย่างห้างร้าน และตลาด ที่กระจุกตัวกันอยู่เยอะทีเดียว แต่สำหรับในอนาคตของทำเลนี้เมื่อมีรถไฟฟ้าเปิดให้บริการแล้วก็คงจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เปิดขึ้นมามากขึ้นตามการคมนาคมที่เจริญขึ้นค่ะ

สำหรับในย่านนี้ผู้คนที่อยู่อาศัยนอกจากจะเป็นคนในท้องถิ่นแล้วยังมีอีกกลุ่มคนที่ทำงานในสำนักงานหรือโรงงานแถบนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้อยู่ในระดับปานกลาง – สูง เนื่องด้วยในย่านนี้ส่วนใหญ่เลยเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น จึงมีชาวญี่ปุ่นและคนที่ทำงานโรงงานมาพักในแถบนี้พอสมควรเหมือนกันนะคะ การจะซื้อคอนโดอยู่อาศัยในย่านนี้จึงทำให้มีความสะดวกสบายในการเดินทางไปทำงานในระยะใกล้ๆ และยังมีกลุ่มคนที่ต้องการคอนโดติดรถไฟฟ้า ในงบประมาณที่ไม่มากนักเท่าในเมือง สามารถขยับขยายที่ทางไปอยู่ไกลเมืองหน่อยได้ เพราะเน้นการเดินทางหลักคือรถไฟฟ้าค่ะ

สำหรับการเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวนั้น สะดวกพอสมควรทีเดียว แต่อาจจะมีรถติดบ้างใน ช่วงเช้าติดขาเข้าเมือง ส่วนช่วงเย็นจะติดขาออกนอกเมือง ประกอบกับที่อยู่ในช่วงการก่อสร้างรถไฟฟ้าด้วย ส่วนใครที่ต้องการเลี่ยงรถติดบนถนนสุขุมวิทนั้นสามารถขึ้น วงแหวนกาญจนาภิเษก ที่ใช้ข้ามไป พระราม 2 ได้ หรือจะข้าม สะพานวงแหวนอุตสาหกรรม ไป สุขสวัสดิ์, พระราม 3 ก็ได้ วงแหวนอีกฝั่งหนึ่งใช้ไป บางนา, สุวรรณภูมิ, ลาดกระบัง ถนนเทพารักษ์ ใช้ไป ศรีนครินทร์เพื่อไปรามคำแหง มีนบุรี ได้ รวมทั้ง ทางด่วนบางนา เข้าเมืองก็ได้ด้วย ส่วนใครจะออกไปภาคตะวันออกก็ใช้ถนนบางนา-ตราดยิงยาวอย่างเดียว มีทางด่วนให้ขึ้นด้วยค่ะ

สำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้รถ (ในอนาคต) นั้นเรียกได้ว่าสะดวกมากค่ะ เนื่องจากหน้าโครงการอยู่ติดกับสถานีพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ซึ่งเป็นสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ต่อขยายช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ โดยในตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างนะคะ ส่วนระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ก็มีให้บริการค่อนข้างหลากหลาย เช่นรถเมล์ ที่มีป้ายรถเมล์อยู่ห่างจากหน้าทางเข้าโครงการไม่ไกล และมีพี่วิน พี่แท็กซี่ รถสองแถว ข้อดีสำหรับโครงการที่อยู่ติดถนนนั้นคือไม่ต้องเดินเข้า – ออกในซอยเปลี่ยว ช่วยให้สาวๆ ไม่ต้องกังวลมากนักเมื่อต้องเดินทางกลับคนเดียวในเวลามืดค่ะ ^^

ในบริเวณรอบๆ โครงการนั้นจะไม่ค่อยมีร้านอาหาร หรือตลาดให้ซื้อของได้ในระยะเดิน โครงการจึงจัดพื้นที่ให้มียูนิตร้านค้าในโครงการเพื่อตอบสนองให้ผู้ใช้โครงการมีความสะดวกสบายมากขึ้น โดยส่วนใหญ่แล้วความอุดมสมบูรณ์จะไปเกาะกลุ่มกันอยู่แถบสำโรง ที่ห่างจากโครงการไปประมาณ 3 กิโลเมตร มีทั้งห้างอิมพีเรียลสำโรง, สำโรงเซ็นเตอร์ หรือจะเป็นตลาดเอี่ยมเจริญให้เลือกช็อปปิ้ง หรือจับจ่ายซื้อของได้ รวมทั้งมี Big C Jumbo ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 2.2 กม. ที่ภายในมีทั้ง Supermarket และร้านอาหาร, ศูนย์อาหาร, ร้านขายเสื้อผ้า สำหรับคนที่ไม่ต้องการเดินทางไกลมากนักและซื้อเพียงข้าวของเครื่องใช้หรืออาหารสดในห้างแอร์

การเดินทางของเราในวันนี้เริ่มต้นจากถนนสุขุมวิทฝั่งขาออกในย่านสำโรง ตรงไปยังปากน้ำตามถนนสุขุมวิท ผ่านพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณแล้วตรงไปอีกประมาณ 1 กม. กลับรถเข้าโครงการได้เลยค่ะ

การเดินทางในวันนี้ เราใช้ถนนสุขุมวิทฝั่งขาออกวิ่งตรงมาเรื่อยๆ จนถึงตลาดธรรมโรจน์พินิจ อีกด้านหนึ่งจะเป็นตลาดสำโรงขายทั้งอาหารสดและเสื้อผ้าเครื่องใช้ บริเวณหน้าตลาดสำโรงนี้เป็นอีกจุดที่รถค่อนข้างติดมากในชั่วเวลาเร่งด่วน เนื่องจากเป็นจุดรับ – ส่งจุดใหญ่อีกจุดซึ่งมีทั้งรถเมล์และรถสองแถวมากมายเป็นจุดที่มีป้ายรถเมล์ยาวมากค่ะ

ขับตรงมาอีกหน่อยจะผ่านห้างอิมพีเรียลสำโรง ห้างสรรพสินค้าหลักของผู้คนในย่านนี้ ภายในมีของขายมากมายทั้งห้างและ Big C Supercenter ด้านใน รวมทั้งโรงหนังด้วยค่ะ

อิมพีเรียลสำโรงและ Big C ห้างคู่ใจของคนย่านนี้ค่ะ

ตรงไปขึ้นสะพานข้ามคลอง ใต้สะพานก็จะมีที่กลับรถ และก่อนจะกลับรถจะมีตลาดเอี่ยมเจริญ เป็นตลาดขายอาหารสดค่ะ ส่วนทางขวามือเป็นทางเข้าสำโรง เซ็นเตอร์ มีทั้งร้านค้าขายของทั่วไปและตลาดสดอีกจุด

บรรยากาศภายในตลาดเอี่ยมเจริญค่ะ

ตรงมาอีกหน่อยก็จะเจอกับสถานีสำโรง

เมื่อลงสะพานข้ามคลองสำโรงมาจะเจอทางแยกตัดกับถนนเทพารักษ์ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมถนนหลักสุขุมวิทและถนนศรีนครินทร์ แต่เราจะมุ่งหน้าตรงไปกันก่อนนะ

ตรงมาเรื่อยๆจนถึงสามแยกไปยังถนนปู่เจ้าสมิงพรายและสามารถเชื่อมเข้าถนนคู่ขนานอย่างถนนรางรถไฟเก่าได้ด้วย บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของโรงงานเล็ก-ใหญ่มากมาย ต้องรอสัญญาณไฟกันนิดนึง ที่แยกนี้จะมีรถใหญ่ค่อนข้างเยอะ เพราะต้องเข้า-ออกโรงงานและไปส่งสินค้า และคนที่ทำงานในละแวกนี้

เลยมาอีกนิดนึงก็จะเจอ Big C Jumbo อยู่ทางซ้ายมือ เป็นอาคารสูง 2-3 ชั้น หากเดินทางมาจากโครงการสามารถเลี้ยวตรงเข้า Big C ได้เลยค่ะ

ขับตรงไปทางสมุทรปราการกันอีกประมาณ 2 กม.ค่ะ โดยต้องเริ่มเบี่ยงเข้าเลนขวากันแล้วนะคะ ส่วนใครที่จะขึ้นทางด่วนวงแหวนรอบนอก (ถนนกาญจนภิเษก) นั้นให้ชิดซ้ายได้เลยค่ะ

ขับตรงมาเรื่อยๆ จะเจอกับพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ หรือช้างสามเศียรที่เป็น Landmark หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดสมุทรปราการ ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท บริเวณที่ตัดกับถนนกาญจนาภิเษก

ตรงมาอีกหน่อยบริเวณฝั่งตรงข้าม BTS สถานีเอราวัณจะเป็นโครงการ The Trust Condo @ BTS เอราวัณ ของเราค่ะ เราตรงไปหาที่กลับรถกัน

ขับตรงมาอีกหน่อยจะมีทางให้กลับรถ

พอกลับรถมาก็จะถึงโครงการ The Trust Condo @ BTS เอราวัณ แล้วค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ The Trust Condo @ BTS เอราวัณ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นพื้นที่โล่งๆ บ้านพักอาศัยแนวราบ และ พื้นที่ธรรมชาติ ยกเว้นทางฝั่งทิศเหนือที่จะมีคอนโดมิเนียม High Rise มาอยู่ข้างๆกันเลย โดยมีแต่ละด้านของที่ดินติดกับ

ทิศเหนือ – ติดกับคอนโดมิเนียม High Rise ที่สูงพอๆกันเลย ดังนั้นฝั่งนี้ก็จะถูกบังวิวไปโดยปริยายค่ะ

ทิศตะวันออก – ติดกับที่ดินเปล่า และ ถนนสุขุมวิท

ทิศใต้ – ติดกับโกดังตู้คอนเทนเนอร์ เป็นพื้นที่โล่งๆ

ทิศตะวันตก – ติดกับคลองบางนางเกร็งและพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่

ทิศเหนือ ติดกับ Asipre เอราวัณ คอนโดมิเนียม High Rise ที่มีความสูงพอๆกัน ตั้งอยู่ข้างๆกันเลย

ทิศตะวันออก ติดกับที่ดินเปล่าของโครงการ และ ถนนใหญ่สุขุมวิท ฝั่งที่ติดถนนบ้านเรือนจะเป็นอาคารพาณิชย์และตึกแถว

ทิศใต้ ติดกับโกดังตู้คอนเทนเนอร์ เป็นพื้นที่โล่งๆ

ทิศตะวันตก หรือด้านหลังโครงการติดกับคลองบางนางเกร็งและพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ~ 1 กิโลเมตร
  • โรงเรียนนายเรือ ~ 1.1 กิโลเมตร
  • Big C Jumbo ~ 2.2 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์ ~ 2.2 กิโลเมตร
  • ตลาดเอี่ยมเจริญ ~ 4.9 กิโลเมตร
  • สำโรง Center~ 5.3 กิโลเมตร
  • อิมพีเรียล สำโรง ~ 6 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลสำโรงการแพทย์ ~ 6.3 กิโลเมตร


เจาะลึกตัวโครงการ

The Trust Condo @ BTS เอราวัณ เป็นคอนโด High Rise สไตล์ Modern Simplicity สูง 30 ชั้น จำนวน 1570 ยูนิต ตัวอาคารเป็นรูปตัว H ชั้นล่างเป็นที่จอดรถ จอดได้ประมาณ 30% สวนหย่อม และ Lobby พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 5 โดยจะมีสระว่ายน้ำ ห้องสมุด ห้องเด็กเล่น สวนหย่อม และ ฟิตเนสที่จริงๆอยู่ชั้น 6 แต่ต้องเดินขึ้นจากชั้น 5 เท่านั้น ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ไปจนถึง 30 ซึ่งในชั้น 2 จะมีห้องซักรีดอยู่ด้วย ห้องพักมีอยู่ทั้ง Studio 1 Bedroom และมี 2 Bedroom(Combined) ด้วย ตอนนี้โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้ว บรรยากาศจะเป็นอย่างไรตามมาชมกันค่ะ 

มาดูผังก่อนนะคะ ชั้น 1 พอขับรถตรงเข้ามาจะเจอกับ Drop Off บริเวณหน้าทางเข้า Lobby ถัดมาจะเป็นทางขึ้นที่จอดรถ จอดได้ตั้งแต่ชั้น 1-4 ด้านหน้าอาคารมีร้านค้าอยู่ 7 ร้าน ส่วนภายในอาคารนั้นจะมี Lobby สำนักงานนิติบุคคล และ โถงลิฟต์ซึ่งประกอบด้วยลิฟต์โดยสาร 6 ตัว และ ลิฟต์ Service อีก 2 ตัว เป็นแบบล็อคชั้น อัตราส่วนลิฟท์เท่ากับ 261:1 ซึ่งในช่วงเวลาเร่งด่วนอาจจะต้องมีรอคิวกันบ้างค่ะ

ซุ้มทางเข้าโครงการร่นระยะจากถนนใหญ่เล็กน้อย ทั้งสองฝั่งตกแต่งด้วยป้ายโครงการและสวนหย่อม

ระบบรักษาความปลอดภัยหน้าโครงการจะมีป้อมรปภ. CCTV รั้วกั้นไม้กระดกซึ่งต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้าไป ส่วนผู้มาติดต่อต้องแลกบัตรบริเวณนี้ค่ะ

เข้ามาในโครงการถ้าขับรถมาก็ตรงเข้าไปหาที่จอดด้านในเลย แต่ถ้าเดินมาทางโครงการก็มีทำทางเดินที่มีหลังคาพอกันแดดได้มาให้

เข้ามาจะเจอกับตัวอาคาร ทางไปที่จอดรถจะอยู่ทางฝั่งขวา ส่วนถ้าตรงไปจะเป็นทางไปสวนหย่อม

เลี้ยวขวามาจะเจอกับที่จอดรถสำหรับผู้มาติดต่อ และ ทางเข้าที่จอดรถ

บริเวณหน้าทางเข้า Lobby เป็น Drop off ให้มาจอดรถรับ-ส่ง มีจัดสวนหย่อมตกแต่งด้วยน้ำพุและรูปปั้นช้าง เข้ากับ BTS เอราวัณ

อีกฝั่งหนึ่งเป็นที่จอดรถสำหรับผู้มาติดต่อค่ะ

ที่จอดรถแยกทางเข้า-ออก บริเวณนี้จะต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้าไปค่ะ ใครไม่มีหมดสิทธิ์นะจ้ะ

Keycard Access ระยะใกล้ และ CCTV ค่ะ

ที่จอดรถจะมีตั้งแต่ชั้น 1-4 ซึ่งก็คือก้อนด้านหน้าอาคารนี้นี่เอง ภายนอกดีไซน์เป็นลายกราฟฟิคสลับกับสวนแนวตั้ง ดูมีลูกเล่นดี

ผ่านจากไม้กระดกก็จะเจอกับทางขึ้นไปที่จอดรถ โดยถ้าอ้อมไปทางซ้ายจะเป็นทางเข้าที่จอดรถชั้น 1

แต่ถ้าขึ้นไปจะเข้าที่จอดรถชั้น 2

บรรยากาศภายในที่จอดรถ โดยจอดได้ประมาณ 30% ซึ่งในช่วงแรกๆที่รถไฟฟ้ายังไม่เสร็จการเดินทางด้วยรถยนต์จะสะดวกกว่า แต่ถ้าเสร็จแล้วก็ใช้รถไฟฟ้าได้ชิลล์ๆ ส่วนตอนนี้ถ้าไม่มีรถก็สามารถใช้บริการ Shuttle Bus ไปส่งที่ BTS สำโรงค่ะ

พอเราจอดรถแล้วก็จะมีทางเข้าอาคารได้จากชั้นจอดรถเลย โดยชั้น 2 นอกจากที่จอดรถแล้วนั้น ก็จะเป็นห้องพักอาศัยเลย ทางฝั่งขวาคือห้องซักรีดค่ะ

ชั้น 2 มีห้องซักรีดด้วย ซักผ้า อบผ้าได้ ค่อนข้างสะดวกสำหรับคนทำงาน หรือคนที่ไม่มีเครื่องซักผ้าเป็นของตัวเอง

มีตู้กดน้ำด้วย ค่อนข้างสะดวกทีเดียว

กลับมาที่เดิม จากทางเข้าที่จอดรถ ถ้าเราอ้อมมาด้านหลัง เห็นทางฝั่งซ้ายนั่นไหม คือทางเข้าอาคารจอดรถชั้น 1 ค่ะ ส่วนถ้าตรงไปจนสุดทางจะเป็นสวนหย่อม

ด้านหลังโครงการฝั่งที่ติดกับคลองมีสวนหย่อมมาให้เราเดินเล่นกัน บรรยากาศร่มรื่นใช้ได้ ถ้าผ่านไปซักระยะพอต้นไม้โตก็จะแน่นกว่านี้ค่ะ

ในสวนหย่อมก็จะมีซุ้มสำหรับนั่งเล่นหรือใช้มาจัดปาร์ตี้ มาตอนเย็นน่าจะชิลล์ดี แต่ถ้ามากลางวันเจอแดดเมืองไทยเข้าไปอาจจะร้อนหน่อย

มีมุมให้นั่งเล่นพักผ่อน

ฝั่งตรงข้ามเป็นสวนเล่นระดับ จัด Landscape เป็นเส้นลายกราฟฟิกสวยดี

มีม้านั่งยาว วางเป็นคู่ให้นั่งเล่นพักผ่อน

จากตรงนี้มองขึ้นไปจะเจอ Facilities อีกจุดหนึ่งอยู่ที่ชั้น 5 ซึ่งเดี๋ยวเราจะพาไปชมกันนะคะ

เดินมาจนสุดทางก็จะเจอกับทางอ้อมไปฝั่งหน้าโครงการ

มองย้อนกลับไปบรรยากาศสวนหย่อมเป็นประมาณนี้ค่ะ

เรามาดูกันต่อที่ฝั่งด้านหน้าอาคาร จะเป็นทางเข้า Lobby และร้านค้าอีก 7 ร้านซึ่งตอนนี้บางส่วนใช้เป็นพื้นที่ของสำนักงานขายและแผนกช่างอยู่

ด้านหน้าอาคารมีมุมนั่งเล่นพักผ่อนอยู่อีกจุดหนึ่ง มีบ่อน้ำพุและสวนหย่อมด้วย

สำหรับใครที่ไม่มีรถก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะทางโครงการมี Shuttle Bus วิ่งรับส่งไปที่ BTS สำโรงให้ รถออกทุกชั่วโมง แต่ให้บริการ 6 โมงเช้าถึง 2 ทุ่มเท่านั้น ถ้ากลับบ้านดึกก็เรียกแท็กซี่เอานะจ้ะ

ร้านค้าจะมี 7-11 มาเปิดที่นี่เร็วๆนี้ด้วย หิวๆก็ลงมาหาซื้อของกิน ของได้

ทางเข้า Lobby ผนังเป็นกระจกบานใหญ่ทั้งแนวแบบนี้เลยค่ะ

Lobby เป็น Double Space ฝ้าเพดานสูงโปร่ง

จัดที่นั่งมาให้หลายชุดทั้งมาเดี่ยว มากลุ่มก็ใช้งานได้สะดวก

ตรงกลางเป็นเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ส่วนทางฝั่งซ้ายที่เห็นเป็นประตูกระจกคือทางเข้าโถงลิฟต์ค่ะ

เดินมาด้านในจะเจอกับทางเข้าโถงลิฟต์ ถัดไปเป็นสำนักงานนิติบุคคลและห้องน้ำ

ทางฝั่งขวาคือสำนักงานนิติบุคคล ส่วนห้องน้ำต้องเลี้ยวไปทางซ้าย

พอเลี้ยวมาจะเจอห้องน้ำแยกชาย-หญิง และประตูทางเข้าอาคารจากทางที่จอดรถ

บรรยากาศภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยโทนสีขาว

มีห้องน้ำมาให้หลายห้อง เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งาน

ทางเข้าโถงลิฟต์กั้นด้วยประตูกระจกอีกชั้นเพื่อความปลอดภัย

ซึ่งถ้าจะเข้าบริเวณนี้ต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้าไป

ลิฟต์โดยสารโครงการนี้มีทั้งหมด 6 ตัว และ มีลิฟต์ Service อีก 2 ตัว

หน้าลิฟต์ชั้น1 ตกแต่งด้วยไม้และสเตนเลสดูหรูดี

ห้องจดหมายก็จะอยู่บริเวณนี้ด้วย มีประตูกั้นเป็นสัดส่วน

ตู้จดหมายทุกห้องจะมารวมกันอยู่บริเวณนี้ค่ะ แบ่งเป็นล็อคๆ

ต่อมาเราจะขึ้นไปดูพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 5 ซึ่งจะมีสระว่ายน้ำ ห้องสมุด ห้องเด็กเล่น สวนหย่อม และ ฟิตเนสที่จริงๆอยู่ชั้น 6 แต่ต้องเดินขึ้นจากชั้น 5 เท่านั้น ส่วนห้องพักชั้นนี้จะมีห้องพิเศษคือห้องที่อยู่ติดกับส่วนกลางที่จะได้ระเบียงค่อนข้างใหญ่ค่ะ

โถงลิฟต์ชั้นนี้ ตกแต่งใช้โทนสีน้ำตาล ไม้ๆอยู่ แต่จะออกแนวอบอุ่น ไม่หรูเท่าชั้นล่าง

พอเดินเข้ามาทางฝั่งซ้ายเป็นสระว่ายน้ำซึ่งมีพื้นที่นั่งเล่นอยู่รอบๆสระ ทางฝั่งขวาเป็นห้องสมุด ห้องเด็กเล่น และ ทางไปสวนหย่อม

พื้นที่นั่งเล่นริมสระว่ายน้ำค่ะ จัดเป็นชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งกันได้ประมาณ 2-3 กันต่อชุด

นอกจากนั้นยังมีที่นั่งแบบที่เป็นม้านั่งพักผ่อนด้วย เอาไว้นอนเอนหลังชมบรรยากาศริมสระ

ในสระก็มีม้านั่งยาว เผื่อว่ายน้ำเหนื่อยๆก็มานั่งพัก ซึ่งพนักพิงจะปรับได้ว่าเราอยากจะนั่งหรือจะนอนลงไปเลย

สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือขนาด 16 x 27 เมตร ลึก 1.2 เมตร แบ่งออกเป็นสระเด็กและสระผู้ใหญ่

มีสระเด็ก และ Jacuzzi ด้วยค่ะ

ด้านบนสระว่ายน้ำก็จะเป็นห้องฟิตเนส ฝ้าเพดานสูงกินพื้นที่ประมาณ 2 ชั้น มีผนังเป็นกระจกมองออกมาเห็นวิวสระว่ายน้ำได้

ข้างสระเป็นพื้นที่ล้างตัว มีมาให้ 2 จุด

ระหว่างสระและห้องพักจะมีระยะห่างพอประมาณ มีการจัดสวนหย่อมตลอดทั้งแนว

ซึ่งห้องที่อยู่บริเวณนี้จะเป็นห้องแต่งขาย มาพร้อมเฟอร์ฯที่มีระเบียงขนาดใหญ่กว่าห้องอื่นๆ มีกันสาดยื่นออกมาแบบนี้ค่ะ

อย่างห้องมุมจะได้ระเบียงเป็น L-Shape แบบนี้เลย พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างเยอะทีเดียว เอาชุดโต๊ะเก้าอี้ออกมาตั้งได้

ถัดมาเป็นพื้นที่นั่งเล่น ชมวิว ทำกิจกรรมกลางแจ้ง มีจัดที่นั่งมาให้เป็นชุดๆ

ห้องน้ำมีมาให้แยกชาย-หญิง

บรรยากาศภายในห้องน้ำตกแต่งคล้ายกับชั้นล่างเลยคือเน้นโทนสีขาว มีทั้งอ่างล้างหน้า ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ล็อคเกอร์ และซาวน่า

บรรยากาศภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำ

อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นทางไปห้องสมุด ห้องเด็กเล่น และ สวนหย่อม

เราไปดูห้องสมุด และ ห้องเด็กเล่นกันค่ะ

เข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่นพักผ่อน ใช้เป็นห้องต้อนรับพบปะพูดคุยกับแขกได้ ถ้าไม่อยากพาขึ้นไปที่ห้องให้เสียความเป็นส่วนตัว ประตูด้านหลังเป็นทางไปห้องสมุด

ห้องสมุดอยู่ด้านในค่ะ มีชุดที่นั่งมาให้หลายชุด ผนังเป็นกระจกมองออกไปเห็นวิวสวน ถ้าทำงานในห้องเบื่อๆก็ลงมาใช้บริการได้

บรรยากาศภายในห้องเด็กเล่นค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของชั้นนี้คือสวนหย่อม ถือว่ามีพื้นที่สีเขียวให้ใช้อยู่หลายจุด

สวนเป็นแบบเล่นระดับ และ ตกแต่งพื้นให้เป็นลายกราฟฟิก

มีซุ้มสำหรับนั่งพักผ่อนหรือจัดกิจกรรมกลางแจ้งเช่น ปาร์ตี้บาร์บีคิว

ซุ้มนี้จะเชื่อมต่อกับพื้นที่สวนด้วย

สวนนี้มีทางเดินรอบๆ มาเดินเล่นออกกำลังกายหรือชมวิวได้นะคะ

เราจะขึ้นไปดูห้องฟิตเนสกันค่ะ โดยฟิตเนสถึงแม้ว่าจะอยู่ชั้น 6 แต่จะต้องเดินขึ้นจากทางชั้น 5 เท่านั้น เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยค่ะ

เดินขึ้นมาก็จะเจอกับห้องฟิตเนสเลย

ฟิตเนสค่อนข้างกว้าง มีเครื่องเล่นที่หลากหลายทั้งลู่วิ่ง ปั่นจักรยาน และอุปกรณ์เวทต่างๆ ผนังรอบๆเป็นกระจกและเป็นห้องที่ฝ้าเพดานสูง ดังนั้นบรรยากาศจึงโปร่ง โล่ง ไม่อึดอัด

จากชั้น 6 จะมีผนังเป็นกระจกมองเข้ามาเห็นห้องฟิตเนสเลย แต่เข้าไม่ได้จากทางนี้ค่ะ ต้องลงไปเข้าที่ชั้น 5 ทางที่เราพาขึ้นมานั่นแหละ

เราจะพาเข้าไปดูที่โซนห้องพักอาศัยกัน ซึ่งจะต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้าไปอีกชั้นหนึ่ง

การจัดพื้นที่ห้องพักของโครงการนี้จะแยกห้องไฟฟ้าและห้องขยะออกมาอยู่ในตำแหน่งที่ประตูไม่ชนกับห้องใคร

ส่วนโถงทางเดินตกแต่งด้วยบรรยากาศสีขาวๆ มีช่องแสงบริเวณสุดทางเดินทำให้โถงทางเดินไม่มืดค่ะ

โถงลิฟต์ชั้นพักอาศัยอื่นๆ ดีไซน์เป็นแบบเรียบๆ โทนสีขาวค่ะ

สำหรับชั้นพักอาศัยนั้นจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ไปจนถึงชั้น 30 เลยค่ะ ผังคล้ายๆกันหมดประกอบด้วยห้อง Studio ขนาด 23.50 ตร.ม. และ 1 Bedroom ขนาด 28.50 ตร.ม. เนื่องจากอาคารเป็นรูปตัว H และโถงลิฟต์อยู่กลางๆอาคาร จึงทำให้มีห้องบางตำแหน่งที่เดินไกลจากลิฟต์ เช่น บริเวณขาของตัว H

สำหรับวิวแต่ละด้านว่าใครอยู่ทิศไหนจะเห็นอะไรบ้าง เริ่มจากทิศเหนือจะถูกบดบังวิวด้วยคอนโด High Rise ที่อยู่ข้างๆกัน

ทิศตะวันออกเป็นวิวที่มองออกไปเห็นถนนสุขุมวิท และ แนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย วิวทิศนี้โล่งๆเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบเป็นส่วนใหญ่

ทิศใต้วิวสวยค่ะ เห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา และ พื้นที่สีเขียวของพื้นที่ธรรมชาติและคลองข้างๆโครงการ

ทิศตะวันตกเป็นวิวเปิดโล่งของพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่  ซึ่งเป็นพื้นที่ว่างเปล่าที่ไม่สามารถใช้สร้างสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ได้ เนื่องจากยังไม่มีถนนหลักตัดเข้าไป

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 16 x 27 เมตร แบ่งสระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร และสระเด็กลึก 0.5 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
  • ห้องน้ำแยกชาย-หญิง และ ซาวน่า
  • ห้องสมุด
  • ห้องเด็กเล่น
  • สวนหย่อมรอบโครงการที่ชั้น 1 และ 5
  • ลิฟต์โดยสาร 6 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 261 :  1
  • Service Lift : 2 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 476 คันคิดเป็น 30% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบ CCTV / Access Card


Product Walkthrough

สำหรับโครงการนี้จะขายแบบ Fully Furnished คือให้ทั้งวัสดุมาตรฐานและเฟอร์นิเจอร์ด้วย เวลาเข้าไปชมสังเกตง่ายๆ ถ้าชิ้นไหนแถมให้จะมีสติกเกอร์ติดอยู่ค่ะ โดยห้องตัวอย่างที่จะพาไปชมจะมีทั้ง Studio และ 1 Bedroom

ห้อง Studio ขนาด 23.50 ตารางเมตร เข้ามาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นที่จะเชื่อมต่อกับส่วนนอนพักผ่อนเลย ไม่ได้กั้นห้องเป็นสัดส่วน ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้า เตียงวางได้แบบ 5 ฟุต ซึ่งจะติดกับบานหน้าต่างเลย สามารถนอนชมวิวได้ อีกฝั่งหนึ่งของตัวห้องเป็นครัวเปิดที่จัดวางฟังก์ชั่นเป็นสัดส่วน มีมุมรับประทานอาหารเข้ามุมนั่งได้ 2 ที่นั่ง เชื่อมต่อกับระเบียงที่มีขนาดพอเหมาะกับห้องแบบ Studio เอาไว้ซักล้าง-ตากผ้า เปิดระบายอากาศเวลาทำครัวหรือออกไปยืนสูดอากาศได้ อีกฝั่งเป็นห้องน้ำที่แยกส่วนแห้งส่วนเปียกเป็นสัดส่วน

ประตูทางเข้าห้องเป็นบานไม้สำเร็จรูป HDF บานเรียบสีขาวเซาะร่อง

พื้นห้องมีการยกระดับสูงกว่าพื้นโถงทางเดินเล็กน้อย สามารถกันฝุ่นผงไม่ให้เข้าห้องได้บ้าง

เข้ามาในห้องจะเจอกับพื้นที่ต่อเนื่องกันของส่วนนั่งเล่นและพักผ่อนเลย ฝั่งซ้ายเป็นทางไปห้องครัว ห้องน้ำ และ ระเบียง ถึงแม้ว่าห้องจะมีขนาดกะทัดรัด พอไม่ได้กั้นห้องและได้แสงสว่างจากบานหน้าต่าง ก็ทำให้ดูโปร่งได้ ฝ้าเพดานห้องนี้สูง 2.40 เมตร พื้นเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. สำหรับผนังที่ทางโครงการใช้จะเป็น WALLi-T (Wall innovation by Tiger Mortar) ของ SCG ซึ่งมีข้อดีคือ แข็งแรง ทนไฟ กันเสียง ได้ระดับไร้รอยต่อ ปัญหาการซ่อมแซมและแก้ไขงานลดลง

หน้าห้องเป็นพื้นที่ นั่งเล่นดูทีวีค่ะ ระยะทางของทีวีอยู่ที่ 1.8 เมตร เป็นระยะที่สามารถวางทีวี 40 – 42 นิ้วได้สบายๆ

สำหรับเฟอร์นิเจอร์โครงการขายแบบ Fully Furnished ให้ทุกชิ้นที่ติดสติกเกอร์สีน้ำเงิน อย่างเช่นตู้วางทีวีชุดนี้

โซฟาก็มีแถมให้ค่ะ เป็นแบบนั่งได้ 2 คน

พื้นที่นั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับห้องนอนแบบนี้เลย นั่งดูทีวีอยู่ถ้าง่วงก็เดินไปกลิ้งลงบนเตียงได้เลย

ห้องนอนวางเตียงได้ 5 ฟุต ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้า ส่วนข้างเตียงในชั้นอื่นๆจะเป็นบานหน้าต่าง แต่ห้องที่อยู่ชั้น 5 จะเป็นห้องที่ได้ระเบียงค่อนข้างกว้าง ดังนั้นห้องนี้จึงเป็นประตูบานเลื่อนออกไปที่ระเบียงแทน

โต๊ะข้างเตียงชิ้นนี้ทางโครงการแถมให้

เตียงก็ได้แต่ไม่รวมฟูกค่ะ

ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อน หน้าบานลายไม้ เหมาะกับการใช้งาน 1-2 คน

พื้นที่ข้างเตียงทางฝั่งซ้ายพอมีระยะให้เดินผ่านได้ ส่วนทางฝั่งขวาไม่ติดกับอะไร

ปลายเตียงระยะเหลือไม่มากเท่าไหร่ แต่พอเดินผ่านได้สะดวก

ข้างๆเตียงห้องนี้เป็นทางเดินออกไปที่ระเบียง

ระเบียงบริเวณชั้น 5 จะได้ค่อนข้างกว้างและมีกันสาดมาให้ด้วย

ระเบียงจะอ้อมยาวจากห้องนอนไปจนถึงห้องครัวเลยค่ะ เราสามารถออกมานั่งเล่น สูดอากาศได้

อีกฝั่งเป็นทางไปห้องน้ำและครัวค่ะ

ครัวไม่ได้มีประตูกั้นก็จริงแต่จัดวางเป็นสัดส่วน มีมุมนั่งทานข้าว และยังเชื่อมต่อกับระเบียงสามารถเปิดระบายอากาศได้

ชุดโต๊ะทานข้าวแบบเข้ามุม นั่งได้ 2 ที่นั่ง ทางโครงการแถมให้ค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวเราได้ตามนี้เลย มีอ่างล้างจานให้ ถ้าใครอยากทำครัวให้หาเตาไฟฟ้าแบบพกพามาใช้เอาค่ะ

อ่างล้างจานเป็นแบบหลุมเดียวค่ะ

ครัวจะเชื่อมต่อกับระเบียงเลย สามารถเปิดประตูระบายอากาศได้

ถัดจากครัวไปจะเป็นห้องน้ำ

ห้องน้ำแบ่งออกเป็นส่วนแห้งและส่วนเปียก มีสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆมาให้ครบ พื้น-ผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิค

ผนังด้านบนอ่างล้างหน้ามีติดกระจกเงาส่องหน้ามาให้

อ่างล้างหน้าเป็นของ Englefield หรือ เทียบเท่า

โถสุขภัณฑ์เป็นของ Englefield หรือ เทียบเท่าค่ะ

พื้นที่อาบน้ำเป็นสัดส่วน ไม่ได้มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ ซึ่งเราสามารถหามาติดตั้งเองได้ไม่ยาก

พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.90 x 1.10 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิค

พื้นที่อาบน้ำมีติดตั้งอุปกรณ์และเตรียมงานระบบสำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้พร้อม ด้านข้างมีช่องสำหรับเอาไว้ใช้วางของได้ด้วย

ฝักบัวจับที่ทางโครงการแถมมาให้ค่ะ

พื้นห้องน้ำมีการลดระดับลงมาจากพื้นห้อง และ บริเวณพื้นที่อาบน้ำมีธรณียกสูงขึ้นมาเล็กน้อย เวลาอาบน้ำจะไม่กระเด็นไปโดนส่วนแห้งค่ะ

ปลั๊กและสวิทช์ของ bticino ค่ะ

ต่อมาคือห้อง 1 Bedroom 28.50 ตารางเมตร เข้ามาจะเจอส่วนของครัวและรับประทานอาหารก่อนเลย ครัวเป็นครัวเปิดเหมาะกับการซื้ออาหารมาทานและทำอาหารง่ายๆมากกว่า ถัดเข้าไปจึงเป็นพื้นที่นั่งเล่น อยู่ติดกับทางเดินออกไปที่ระเบียง อีกฝั่งเป็นห้องน้ำ และ ห้องนอน ภายในห้องนอนวางเตียงได้ 5 ฟุต มีตู้เสื้อผ้าอยู่ข้างเตียงค่ะ

เข้ามาในห้องเราจะเจอพื้นที่ต่อเนื่องกันของโซนทานข้าวและรับแขก ครัวจะอยู่บริเวณหลังประตู ส่วนอีกฝั่งหนึ่งของตัวห้องเป็นห้องน้ำและห้องนอน วัสดุต่างๆของห้องนี้เหมือนกับห้องแบบ Studio ค่ะ

มองย้อนกลับมาที่หน้าห้อง เราจะเห็นครัวที่เมื่อสักครู่เปิดประตูมาบัง พื้นที่ครัวและทานข้าวอยู่ใกล้ๆกันเลยดังนั้นพอเตรียมอาหารเสร็จก็ยกมาทานได้สะดวก

ครัวก็ได้เหมือนกับห้อง Studio ค่ะ

ส่วนพื้นที่ทานข้าวก็จะอยู่ติดๆกับพื้นที่นั่งเล่นเลย

บริเวณหน้าห้องมีพื้นที่ให้สำหรับวางตู้เย็น แต่ชุด Built-in นี้ทางโครงการไม่ได้มีให้นะคะ เราดูเป็นไอเดียไว้สำหรับแต่งห้องเพิ่มเติมค่ะ

ชุดรับประทานอาหารชุดนี้ได้ทั้งโต๊ะเก้าอี้

และให้ม้านั่งที่ด้านล่างเปิดออกมาเป็นตู้เก็บของและข้างๆเป็นตู้บานเปิด

ถัดไปเป็นพื้นที่นั่งเล่นค่ะ อยู่ติดกับประตูทางออกไปที่ระเบียงเลย ชมวิวไปด้วยได้อย่างห้องนี้อยู่ชั้น 5 ก็จะเป็นวิวสระ

อย่างที่บอกไปว่าห้องที่อยู่ชั้น 5 จะได้ระเบียงขนาดค่อนข้างใหญ่ เอาชุดโต๊ะเก้าอี้ออกไปวางทำเป็นมุมรับประทานอาหารได้เลย

กลับมาที่ภายในห้องเดี๋ยวเราจะไปดูอีกฝั่งหนึ่งกันต่อ

อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นห้องน้ำและห้องนอน อยู่ข้างๆกันใช้งานได้สะดวก ถ้ามีแขกมาก็เข้ามาใช้งานได้โดยไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนให้เสียความเป็นส่วนตัว

ภายในห้องน้ำแบ่งออกเป็นส่วนแห้งส่วนเปียก พื้นที่อาบน้ำเราต้องหาฉากกั้นอาบน้ำมาติดตั้งเพิ่มเอง ส่วนการตกแต่งและโทนสีสไตล์เดียวกับห้องก่อนหน้าค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งเป็นอ่างล้างหน้า มีพื้นที่ว่างๆด้านข้างสามารถหาตู้เล็กสำหรับวางของเอามาวางเพิ่มได้

ห้องนอนวางเตียงได้ประมาณ 5 ฟุต ข้างเตียงเป็นตู้เสื้อผ้าที่โครงการแถมให้ทั้งชุด

เราได้เตียงด้วยค่ะแต่ไม่รวมฟูก

พื้นที่ข้างเตียงทั้งสองฝั่งมีระยะเหลือพอเดินผ่านได้สบายๆนะคะ ทางฝั่งขวาผนังในห้องตัวอย่างติดเป็นกระจกเงา เวลาแต่งตัวก็หันมาตรวจเช็คความเรียบร้อยได้ เป็นอีกไอเดียที่เราจำไปแต่งห้องเพิ่มได้ เพราะของจริงผนังทั้งหมดจะเป็นฉาบเรียบทาสีขาวค่ะ

ปลายเตียงมีระยะประมาณนี้

ฝั่งหน้าห้องมีตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ค่ะ

โต๊ะเครื่องแป้งแบบ Built-in ชุดนี้มีให้

ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเลื่อนเปิดได้ 2 ฝั่ง

แอร์เราจะได้ 1 ตัวที่บริเวณห้องนอนค่ะ จำนวน BTU ขึ้นอยู่กับขนาดห้องนะคะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 13 December 2017 

  • Studio ชั้น 8 เนื้อที่ 23.36 ตร.ม. ราคา 1.89 ล้านบาท หรือ 80,907 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ชั้น 7  เนื้อที่ 28.95 ตร.ม. ราคา 2.1 ล้านบาท หรือ 72,538 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ชั้น 8  เนื้อที่ 29.57 ตร.ม. ราคา 2.0 ล้านบาท หรือ 70,307 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ชั้น 5  เนื้อที่ 35.29 ตร.ม. (รวมพื้นที่ระเบียง) ราคา 3.6 ล้านบาท หรือ 80,907 บาท/ตร.ม. (ห้องแต่งขาย)

  • Fully Furnished 
  • ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • Shuttle Bus ไปกลับ BTS สำโรง
  • เงินจองและเงินทำสัญญา 10,000 บาท
  • ค่ากองทุน 450 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

The Trust Condo @ BTS เอราวัณ ทำเลตั้งอยู่ติดถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้าในอ.เมือง จ.สมุทรปราการ ห่างจากพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณประมาณ 1 กม. หน้าโครงการติดกับรถไฟฟ้าสถานี พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ  ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวในอนาคตที่ต่อขยายมาจากสถานีแบริ่ง ในบริเวณรอบๆ โครงการนั้นจะไม่ค่อยมีร้านอาหาร หรือตลาดให้ซื้อของได้ในระยะเดิน โครงการจึงจัดพื้นที่ให้มียูนิตร้านค้าในโครงการเพื่อตอบสนองให้ผู้ใช้โครงการมีความสะดวกสบายมากขึ้น โดยส่วนใหญ่แล้วความอุดมสมบูรณ์จะไปเกาะกลุ่มกันอยู่แถบสำโรง ที่ห่างจากโครงการไปประมาณ 3 กิโลเมตร มีทั้งห้างอิมพีเรียลสำโรง, สำโรงเซ็นเตอร์ หรือจะเป็นตลาดเอี่ยมเจริญให้เลือกช้อปปิ้ง หรือจับจ่ายซื้อของได้ รวมทั้งมี Big C Jumbo ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 2.2 กม. ที่ภายในมีทั้ง Supermarket และร้านอาหาร, ศูนย์อาหาร, ร้านขายเสื้อผ้า สำหรับคนที่ไม่ต้องการเดินทางไกลมากนักและซื้อเพียงข้าวของเครื่องใช้หรืออาหารสดในห้างแอร์ แต่สำหรับทำเลนี้ในอนาคตของทำเลนี้เมื่อมีรถไฟฟ้าเปิดให้บริการแล้วก็คงจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เปิดขึ้นมามากขึ้นตามการคมนาคมที่เจริญขึ้นค่ะ

สำหรับในย่านนี้ผู้คนที่อยู่อาศัยนอกจากจะเป็นคนในท้องถิ่นแล้วยังมีอีกกลุ่มคนที่ทำงานในสำนักงานหรือโรงงานแถบนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้อยู่ในระดับปานกลาง – สูง เนื่องด้วยในย่านนี้ส่วนใหญ่เลยเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น จึงมีชาวญี่ปุ่นและคนที่ทำงานโรงงานมาพักในแถบนี้พอสมควรเหมือนกันนะคะ การจะซื้อคอนโดอยู่อาศัยในย่านนี้จึงทำให้มีความสะดวกสบายในการเดินทางไปทำงานในระยะใกล้ๆ และยังมีกลุ่มคนที่ต้องการคอนโดติดรถไฟฟ้า ในงบประมาณที่ไม่มากนักเท่าในเมือง สามารถขยับขยายที่ทางไปอยู่ไกลเมืองหน่อยได้ เพราะเน้นการเดินทางหลักคือรถไฟฟ้าค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถยนต์ สะดวกพอสมควรทีเดียว แต่อาจจะมีรถติดบ้างใน ช่วงเช้าติดขาเข้าเมือง ส่วนช่วงเย็นจะติดขาออกนอกเมือง ประกอบกับที่อยู่ในช่วงการก่อสร้างรถไฟฟ้าด้วย ส่วนใครที่ต้องการเลี่ยงรถติดบนถนนสุขุมวิทนั้นสามารถขึ้น วงแหวนกาญจนาภิเษก ที่ใช้ข้ามไป พระราม 2 ได้ หรือจะข้าม สะพานวงแหวนอุตสาหกรรม ไป สุขสวัสดิ์, พระราม 3 ก็ได้ วงแหวนอีกฝั่งหนึ่งใช้ไป บางนา, สุวรรณภูมิ, ลาดกระบัง ถนนเทพารักษ์ ใช้ไป ศรีนครินทร์เพื่อไปรามคำแหง มีนบุรี ได้ รวมทั้ง ทางด่วนบางนา เข้าเมืองก็ได้ด้วย ส่วนใครจะออกไปภาคตะวันออกก็ใช้ถนนบางนา-ตราดยิงยาวอย่างเดียว มีทางด่วนให้ขึ้นด้วยค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ (ในอนาคต) นั้นเรียกได้ว่าสะดวกมากค่ะ เนื่องจากหน้าโครงการอยู่ติดกับสถานีพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ซึ่งเป็นสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ต่อขยายช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ โดยในตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างนะคะ ส่วนระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ก็มีให้บริการค่อนข้างหลากหลาย เช่นรถเมล์ ที่มีป้ายรถเมล์อยู่ห่างจากหน้าทางเข้าโครงการไม่ไกล และยังมีพี่วิน พี่แท็กซี่ รถสองแถวค่ะ ข้อดีสำหรับโครงการที่อยู่ติดถนนนั้นคือไม่ต้องเดินเข้า – ออกในซอยเปลี่ยว ช่วยให้สาวๆ ไม่ต้องกังวลมากนักเมื่อต้องเดินทางกลับคนเดียวในเวลามืด และมีรถ Shuttle Bus ให้บริการไปที่ BTS สำโรงค่ะ

วัสดุ ให้มาทั้งพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ผนังที่ทางโครงการใช้จะเป็น WALLi-T (Wall innovation by Tiger Mortar) ของ SCG ซึ่งมีข้อดีคือ แข็งแรง ทนไฟ กันเสียง ได้ระดับไร้รอยต่อ ปัญหาการซ่อมแซมและแก้ไขงานลดลง กระเบื้องในห้องน้ำเป็นเซรามิค ได้เฟอร์นิเจอร์ครบชุดทั้งชุดครัว ตู้เสื้อผ้า โต๊ะ-เก้าอี้ทานข้าว เตียง โต๊ะข้างเตียงเป็นต้น 

การออกแบบ ตัวอาคารมาในสไตล์ Modern Simplicity เรียบๆแต่มีลูกเล่นด้วยลวดลายกราฟฟิก การวางผังทำออกมาได้ดีแยกพื้นที่ส่วนกลางออกมาที่ชั้น 5 โดยห้องพักที่อยู่ชั้นนี้จะมีบางห้องได้ระเบียงที่ค่อนข้างกว้างใช้งานได้เต็มที่ ส่วนผังอาคารเป็นรูปตัว H จะมีห้องบางตำแหน่งที่จะเดินไกลลิฟท์หน่อย ห้องพักมีอยู่ 2 แบบ Studio และ 1 Bedroom ทำออกมาได้ลงตัว เหมาะกับคนทำงานหรืออยู่อาศัยไม่เกิน 1-2 คน

สาธารณูปโภค มีสวนหย่อมอยู่รอบๆอาคาร ภายในอาคารชั้น 1 มี Lobby ขาดค่อนข้างใหญ่ ฝ้าเพดานสูง พื้นที่ส่วนกลางหลักๆเลยจะอยู่ที่ชั้น 5 โดยจะมีสระว่ายน้ำขนาด 16 x 27 เมตร ลึก 1.2 เมตร ห้องสมุด ห้องเด็กเล่น สวนหย่อมอยู่อีกจุดหนึ่ง และ ฟิตเนสที่จริงๆอยู่ชั้น 6 แต่ต้องเดินขึ้นจากชั้น 5 เท่านั้น และในชั้น 2 จะมีห้องซักรีดอยู่ด้วย

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 80,000 บาท/ตร.ม., 13 December 2017 

  • ทำเล 7.5/10 – ทำเลติดถนนสุขุมวิท ใกล้รถไฟ้าและทางด่วน แต่ความอุดมสมบูรณ์ยังสูงไม่เท่าย่านสำโรง (คนที่อยากได้วิวดีเลือกห้องเห็นแม่น้ำบวกคะแนนไปอีก 0.5 ได้นะคะ)
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – สะดวกทั้งถนนหลัก และใกล้ทางด่วน ได้ที่จอดรถรวมซ้อนคัน 42%
  • ไม่ใช้รถ 9/10 – ใกล้ถนนใหญ่เรียกรถง่าย ใกล้ทางขึ้นรถไฟฟ้า มี Shuttle Bus รับส่ง BTS สำโรง (คะแนนตอนรถไฟฟ้าสร้างเสร็จ)
  • วัสดุ 7.5/10 – ได้ตามมาตรฐาน มีเฟอร์นิเจอร์มาให้ครบ 
  • แบบ 7.5/10 – ออกแบบมาได้ลงตัว เหมาะกับการใช้งาน 
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – ให้มาครบครันน่าใช้งาน แต่หนาแน่นไปหน่อยถ้าเทียบกับจำนวนยูนิต
  • MAIN CLASS
  • 7.76/ 10.00

BOTTOM LINE

The Trust Condo @ BTS เอราวัณ เหมาะกับคนทำงานในย่านนี้ หรือคนในพื้นที่ เดินทางสะดวกใกล้ที่ทำงาน ติดถนนใหญ่ไม่เปลี่ยว เดินทางเข้า – ออกเมืองด้วยทางด่วน คาดหวังการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าแบบติดกับทางขึ้นสถานีฝั่งบันไดเลื่อน มี Facilities ให้ใช้ครบครัน อยากชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาในราคาที่ถูกกว่าคอนโดติดริมแม่น้ำ มีงบประมาณเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท