รีวิวโครงการ
รีวิวตึกเสร็จ The Rich เพลินจิต – นานา คอนโด High Rise ในซอยสุขุมวิท 3 (นานาเหนือ) ใกล้ BTS นานา 350 เมตร จาก Richy Place [รีวิวฉบับที่ 2204]
11 มีนาคม 2021
รีวิวฉบับที่ 1350 … สวัสดีครับวันนี้พาไปรีวิวคอนโด The Rich นานา จาก Richy Place เป็นโครงการในทำเลที่เฉพาะมากติดถนนนานาเหนือ ที่อยู่กลางดงของชาวต่างชาติมารวมตัวย่านนานานี้ เป็นแหล่งของโรงแรม ห้าง ร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิงเต็มไปหมด อีกทั้งยังอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า BTS แค่ 350 เมตรเท่านั้น ไปชมกันเลย
Fact @ 11 May 2017
- The Rich Nana (เดอะ ริช นานา)
- บริษัท ริชี่เพลส 2002 จำกัด (มหาชน)
- SUPER LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน : สุขุมวิทซอย 3, เขตวัฒนา
- ที่ดินประมาณ 2-0-37.8 ไร่
- คอนโด High Rise 32 ชั้น 1 อาคาร 427 ยูนิต
- Mixed Used Building – Retail 3 Floors (B1 ,G,2nd FLOOR)
- จอดรถใต้ดินลึกลงไป 6 ชั้น ระบบ Automatic Parking (จอดรถได้ 60%)
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 17 ยูนิต (ที่ชั้น 6 – 16)
- แบบห้อง 1 BEDROOM ขนาด 34 – 40 ตร.ม. ราคาอยู่ที่ 6.9 – 10.5 ล้านบาท
- แบบห้อง 1 BEDROOM PLUS ขนาด 50 – 60 ตร.ม. ราคาอยู่ที่ 10.6 – 14.4 ล้านบาท
- แบบห้อง 2 BEDROOM ขนาด 70 – 87 ตร.ม. ราคาอยู่ที่ 16.8 – 24.6 ล้านบาท
- เริ่มก่อสร้าง : มิถุนายน ปี 2017
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : n/a
- ฝ้าเพดานสูง 2.70 เมตร (ส่วนงานระบบแอร์เหลือ 2.50 เมตร)
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ n/a บาท/ตร.ม.
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 02-886-1817
- มองหาทำเลน่าอยู่ BTS นานา “คลิกที่นี่”
- มองหาทำเลน่ากินฉบับพกพา(พร้อมพงษ์ – นานา) “คลิกที่นี่”
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
Update การก่อสร้าง 29 June 2018
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : 13.743564, 100.553080
แผนที่จากทางโครงการครับ The Rich Nana ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทซอย 3 หรือเรียกอีกชื่อว่า ถนนนานาเหนือ เป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนหลักอย่างเพชรบุรีและถนนสุขุมวิท แต่ว่าเป็นวันเวย์นะครับ มีความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ เป็นย่านเศรษฐกิจของชาวต่างชาติเกือบทั้งเส้นในย่านนร้ มีร้านค้า ห้างสรรพสินค้า โรงแรม อาคารสำนักงาน และใกล้โรงพยาบาลชื่อดังอย่างบำรุงราษฎร์อีกด้วย ปากซอยตรงถนนสุขุมวิทมีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านทำให้เดินทางทั้งทางรถยนต์ และรถสาธารณะสะดวกมาก
The Rich Nana ตั้งอยู่ติดสุขุมวิทซอย 3 (ถนนนานาเหนือ) อยู่ในทำเลที่คึกคักและเป็นทำเลเฉพาะของชาวต่างชาติมากๆ เส้นนี้จะหาคนไทยที่อาศัยอยู่จริงๆมีน้อยนะ สิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับชาวต่างชาติ ทั้งร้านอาหารต่างชาติ ผับ บาร์ สถานบันเทิง ร้านขายของที่ระลึก เกสต์เฮ้าส์ หากใครที่ชอบความคึกคักบันเทิง ร้านอาหารสไตล์นานาชาติก็น่าจะชอบย่านนี้ แต่ไม่ได้มีแค่อาหารนานาชาติเท่านั้น อาหารตามสั่งธรรมดา หรือรถเข็นก็มีให้เลือกกิน และมีศูนย์การค้า นานาสแควร์ที่อยู่ไม่ไกลจาก BTS นานา มากนัก / สถานที่สำคัญอีกอย่างที่ใกล้กับโครงการสุดก็คงจะเป็นโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ที่การรักษาที่นี่มีชื่อระดับต้นๆของประเทศแต่ค่าใช้จ่ายรักษาก็สูงพอสมควรเช่นกัน
ซึ่งย่านนานานี้จะขึ้นชื่อเรื่องเป็นย่านคนแขกเยอะมาก จะมีร้านรวงต่างๆที่มีป้ายภาษาอินเดียให้เห็นเยอะแยะ มีอาหารอินเดียและร้านอาหารต่างๆก็มักจะงดเมนูหมูด้วย สิ่งที่เราจะเห็นได้เยอะนอกจากร้านอาหารในซอยนี้ก็คงหนีไม่พ้นโรงแรมทั้งเล็กๆอย่าง Hostel ยันไปโรงแรมห้าดาวเลย รวมทั้งสถานบันเทิงด้วย อยู่ที่นี่จึงไม่ต้องกลัวเงียบเหงา
ทำเลมีจุดเด่นตรงที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS เดินลงรถไฟฟ้า BTS นานา ประมาณ 250 เมตร ก็ถึงหน้าปากซอยสุขุมวิท 3 แล้ว พอถึงหน้าซอยก็เดินเข้าไปอีกประมาณ 100 เมตร ก็ถึงโครงการ รวมระยะทางจากรถไฟฟ้า BTS ถึงโครงการ ประมาณ 350 เมตรครับ โดยสถานีใกล้เคียงคือ BTS เพลินจิต ที่เป็นแหล่งของสำนักงานใครทำงานแถวนั้น มาอยู่ที่นี่ถือว่าสะดวก และใกล้กับ BTS อโศก ที่เป็นสถานี Interchange ไป MRT(สถานีสุขุมวิท) ได้
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : หากมาจากถนนเพชรบุรี เมื่อถึงแยกมิตรสัมพันธ์ให้เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 3 หรือ(ถนนนานาเหนือ) ได้เลยซึ่งเป็นทาง One way ซึ่งเจ้าวันเวย์นี้แหละเป็นข้อเสียหน่อยของการเดินทางมาโครงการนี้ เราต้องหัดใช้เส้นทางลัดอื่นๆให้เป็นครับ
หากมาจากถนนอโศกมนตรี พอถึงแยกอโศกสามารถเข้าทางถนนสุขุมวิทพอถึงหน้าซอยสุขุมวิท 11 ก็เลี้ยวเข้าวิ่งตามทางมาจนสุดซอยจะกลับมาโผล่ที่นานาเหนือนี่ละครับ แล้วก็เลี้ยวขวาเข้าโครงการได้เลย หรือเราจะสามารถใช้ทางลัดเลาะอย่างซอยสุขุมวิท 19, 17, 15, 13 เพื่อมาเชื่อมกับซอย 11 และก็ออกนานาเหนือได้เช่นกัน
การเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ : บนเส้นสุขุมวิท ซอย 3 (นานาเหนือ) ตลอดทั้งเส้น เราจะเห็นทั้ง TAXI, รถตุ๊กๆสามล้อ, มอเตอร์ไซค์รับจ้าง วิ่งผ่านไปมาตลอดทั้งวันยันไปถึงดึกๆตี 2-3 เลยล่ะครับ เนื่องจากเป็นทำเลเฉพาะที่ครึกครื้นทั้งกลางวันและกลางคืนจากชาวต่างชาติเหล่านี้นั่นเอง และสุดท้าย BTS นานา ระยะ 350 เมตรครับ
อันนี้ผมทำแผนที่สำหรับวันเวย์ต่างๆของสุขุมวิทตอนต้น เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจเวลาจะออกจากโครงการแล้วกลับบ้านเข้ามาครับ
**ขอเสริมนิดนึงครับ จริงๆแล้วมีเส้นทางลัดอยู่อันนึงคือถ้าใครมาจากเพลินจิต หรือด่วนเพลินจิต เราสามารถใช้สุขุมวิท ซอย 1 แล้วตัดเข้าหลังรพ.บำรุงราฎร์มาโผล่ซอย 3 (นานาเหนือ)หน้าโครงการได้เลยนะ ระยะทางจะสั้นกว่าใช้ซอย 11 แต่ว่าทางนี้ไม่ได้เป็นทางสาธารณะนะครับ เป็นทางส่วนบุคคล ต้องเช็คเรื่องกฎระเบียบเวลาในการใช้งานอีกที
สำหรับโครงการที่เรียกว่าอยู่ใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานครด้วย คือถ้าเราออกจากบ้านจะไปขึ้นทางด่วนนี่สะดวกมากๆ ระยะทางสั้นมากแค่ราว 6-700 เมตรเท่านั้น แต่จะลำบากหน่อยตรงทางลงกลับบ้านนี่ละครับต้องไปอ้อมเข้าซอย 11 (หรือใช้ทางลัดอย่างที่บอกไปรูปข้างบนก่อนหน้าก็ได้นะ)
การเดินทางด้วยการเดิน เราจะพาดูรอบจาก BTS นานานะครับ ลงทางออกที่ 1 ผ่านสุขุมวิทซอย 7 –> 5 –> 3/1 –> สุขุมวิทซอย 3 (นานาเหนือ) แล้วเลี้ยวขวาต่อไปอีก 100 เมตร ก็จะถึงที่ตั้งโครงการอยู่ทางซ้ายมือติดถนนครับ
เริ่มที่กันที่ชานชาลา BTS สถานี นานา ประตูทางออกที่ 1
ฝั่งขาลงจะเป็นบันไดทางลงปกตินะครับ ลงมาเจอกับปากซอย 7/1 กลับหลังหันนะ
เดินมาหน่อยจะเจอกับบันไดฝั่งขาขึ้น ซึ่งเป็นบันไดเลื่อน ขึ้นสบายๆ
และก็จะเจอกับซอยแรกคือสุขุมวิท ซอย 7 มีวินตุ๊กๆอยู่อยู่ด้านหน้า
ตามริมฟุตบาทถนนฝั่งนี้ก็คึกคักไปด้วยร้านต่างทั้งสะดวกซื้อ อาหาร ฯลฯ
ต่อมาจะเจอกับปากซอยสุขุมวิท ซอย 5 ครับ ที่หัวมุมมีร้าน McDonald’s เด่นๆ
ในซอยสุขุมวิท ซอย 5 เป็นซอยวันเวย์รถไปออกซอย 7 ครับ มองจากต้นซอยเข้าไปนิดหน่อยมี Foodland อยู่ทางซ้ายมือ
เดินกันต่อ ริมฟุตบาทตรงนี้มีการพัฒนาให้เข้ากับการตกแต่งของตึกแถวชุดนี้ทั้งเซ็ต มีต้นไม้ริมทาง ชายคาบังฝน และป้ายโลโก้หน้าร้านเป็นสัดส่วน
หลังจากนั้นเราจะเจอซอยสุขุมวิท 3/1
ซึ่งเจ้าซอยสุขุมวิท 3/1 เนี่ยขอบอกเลยว่าคึกคักมากๆ ผมลองเดินเข้าไปดูสั้นๆ เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านผลไม้ ของกิน ดื่ม เต็มแน่นเอี๊ยดไปหมด ซึ่งตรงนี้กลางคืนตี 1-2 ก็ยังเปิดอยู่นะครับ เป็นย่านเฉพาะของชาวต่างชาติ ราคาของกินจะสูงกว่าทั่วไปนิดหน่อย
เดินกันต่อ หลังจากที่เดินมาจาก BTS ได้ประมาณ 250 เมตร เราก็จะเจอกับกับสุขุมวิทซอย 3 (ถนนนานาเหนือ) แล้วครับ
ให้เราข้ามทางม้าลายมาเลยครับ สังเกตฝั่งตรงข้ามจะมีห้างขนาดใหญ่อย่าง Nana Square ตั้งอยู่
ด้านหน้าทางเข้า Nana Square มีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ นับว่าห้างนี้ใกล้โครงการสุดละห่างไปอีก 100 เมตรเท่านั้น
เดินมาด้านหลังห้าง Nana Square ริมฟุดตบาททั้งสองฝั่งเต็มแน่นขนัดไปด้วยเหล่าตึกแถวร้านค้า ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหาร และ Hostel สำหรับชาวต่างชาติ ดูจากภาษาป้ายหน้าร้านแล้ว จะเป็นพวกแขกเหนือนะ เพราะเส้นนี้มีสถานฑูตปากีสถานด้วย
ธนาคารบนเส้นนานาเหนือเนี่ยมีให้เลือกหลายเจ้าเลยครับ ไม่ต้องห่วง พวกร้านต่างๆในการดำรงชีวิตกับมินิมาร์ทก็มีตลอดเส้น
เดินมาได้ราว 70 เมตร จะเจอกับทางเข้าของธนาคารกรุงไทยสำนักงานใหญ่
มองเข้าไปด้านใน ตึกของธนาคารกรุงไทยสำนักงานใหญ่ ที่จะอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของโครงการเรา ตึกนี้สูงประมาณ 17 ชั้น ส่วนคอนโดสูง 32 ชั้นครับ
รั้วของธนาคารกรุงไทยสำนักงานใหญ่ จะติดกับที่ตั้งโครงการเลย รวมระยะทางเดินมาจาก BTS นานา 350 เมตร พอดี
Sale Office Gallery ตั้งอยู่ติดกับถนนเลย เป็นอาคาร 2 ชั้น โทนเป็นสีขาว ดูสะอาดตา
แปลงที่ดินทั้งหมดหน้ากว้างประมาณ 50 เมตร (วัดจาก google maps)
ลองมายืนที่ฝั่งตรงข้าม Sale Office ถ่ายไปให้ดูหน้าแปลงที่ดินครับ ตอนนี้ยังไม่เริ่มก่อสร้างนะ
ถ้าเราเดินเลยไปอีกหน่อยติดกันเลย จะเป็นร้านอาหารต่างๆที่เป็นห้องแถวชั้นเดียวแบบนี้
มองไปที่ฝั่งตรงข้ามจากร้านอาหาร จะเห็น Grace Hotel ที่ส่วนติดกับถนนด้านหน้า จะเป็นโรงแรมสูง 7 ชั้น และส่วนที่ลึกเข้าไปหน่อย จะสูงประมาณ 18 ชั้น
ที่ฝั่งตรงข้ามกับที่ตั้งโครงการ The Rich Nana เลย จะเป็นตึกแถวร้านค้า ห้องพัก ร้านอาหาร มินิมาร์ทต่างที่มีความสูงอยู่ที่ 5-7 ชั้น ไม่เท่ากัน
เข้ามาดูด้านในของ Sale Gallery กันหน่อย ชั้นล่างเป็นพื้นที่แบบเปิดโล่งสำหรับ Visitor มีที่จอดรถให้
เข้าสู่โถงทางเดิน ที่ผนังจะตกแต่งด้วยไม้ระแนงสลับกับช่องเจาะออกแล้วติดไปด้วยสีเขียวของลวดลายพันธุ์ไม้ต่างๆ ส่วนทางขวามือมีบันไดทางขึ้นไปชั้นบน
ที่ชั้นบนมี Reception Counter จะมี Sale ประจำการอยู่ พร้อมโต๊ะนั่งรับแขกกระจายตามจุด ที่ผนังมีจอแสดงรายละเอียดโครงการส่วนต่างๆเอาไว้ให้
อีกมุมนึงครับ ที่ชั้นนี้เป็นแบบ High Ceiling สูงโปร่งดูสบายจา ซึ่งในชั้น 4 ของโครงการที่เป็น Co-Working Space ก็จะตกแต่งประมาณนี้นะครับ (เดี๋ยวด้านล่างมีรูปจำลองให้ดู)
เดินถัดมาจะมีบันไดปูหินอ่อนทางขึ้นไป Mock up room
ขึ้นมาที่ชั้นบนแล้วทางซ้ายมือจะเป็นทางเข้าห้องตัวอย่าง 1 BedPlus 50 sq.m. / ส่วนทางขวามือเป็นห้องตัวอย่าง 2 Bedroom 70 sq.m.
ทิศเหนือ ในระยะที่ประชิดจะเป็นห้องแถวบ้านเดี่ยว 1-2 ชั้นครับ ต้องเลยไปหน่อยประมาณ 130-180 เมตร จะเห็นอาคารสูงอย่างโรมแรม Zenith และ ตึกของรพ.บำรุงราษฎร์
ทางทิศตะวันออก ติดกับซอยสุขุมวิท 3 (ถนนนานาเหนือ) ซึ่งเป็นทางเข้า-ออก หลักของโครงการ ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นเหล่าแนวตึกแถวรวงร้านต่างๆที่สูง 5-7 ชั้นไม่เท่ากัน ถ้าเฉียงๆหน่อยจะเห็น Grace Hotel ส่วนตึกสูงแต่ไม่ได้บังเราตรงๆ
ทิศใต้ ติดกับ พื้นที่จอดรถของสำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงไทย แต่ก็เห็นส่วนอาคารสูง 17 ชั้นของสนง.ใหญ่บ้างประมาณ 20% ที่เหลือมองไปไกลๆจะเห็น Nana Square และ ข้ามสุขุมวิทไปมี JW Marriott Hotel
ทิศตะวันตก ในระยะประชิดติดกับ อาคารจอดรถประมาณ 4-5 ชั้น ถัดไปเป็นอาคาร 7 ชั้น ฝั่งนี้ถ้ามองตรงจะโล่ง แต่เฉียงซ้ายหน่อยจะติดสำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงไทยบ้างด้วย
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- ติดกับ KTB Headquarter
- NanaSquare ~ 100 เมตร
- Foodland ~ 180 เมตร
- JW Marriott Hotel ~ 230 เมตร
- โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ~ 240 เมตร
- The Landmark Bangkok ~ 280 เมตร
- BTS นานา ~ 350 เมตร
- สถานเอกอัครราชทูตสวีเดน ~ 450 เมตร
- สวนชูวิทย์ ~ 700 เมตร
- Central Embassy ~ 900 เมตร
- Sheraton Grande Sukhumvit ~ 1 กิโลเมตร
- Times Square Building NKS ~ 1 กิโลเมตร
- The Westin Grande Sukhumvit Bangkok ~ 1 กิโลเมตร
- Central Chidlom ~ 1.1 กิโลเมตร
- Terminal 21 ~ 1.2 กิโลเมตร
- NIST International School ~ 1.3 กิโลเมตร
- โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ~ 1.6 กิโลเมตร
- สวนเบญจกิติ ~ 1.8 กิโลเมตร
- EM District ~ 2.3 กิโลเมตร
มาดู Master Plan ของโครงการกันบ้าง เริ่มที่ชั้น Ground Floor ส่วนของทางเข้า-ออกโครงการจะอยู่ติดกับซอยสุขุมวิท 3 พอเข้าโครงการมาแล้วระบบเดินรถจะเป็นวันเวย์ ผ่านตัวอาคารไปด้านหลัง จะมีทางเลี้ยวเข้าส่วนในอาคารซึ่งจุดนี้จะเป็นส่วนเข้าไปจอดรถของลูกบ้านผู้พักอาศัย ซึ่งเป็น Automatic Parking 2 ช่อง ลงไปชั้นใต้ดิน 6 ชั้น (จำนวนที่จอดรถ 60%) ที่ด้านนอกทางทิศเหนือ มี Private Garden จัดแยกส่วนการใช้งานออกจากตัวอาคารมีเนื้อที่ประมาณ 70 ตารางวา
เข้ามาดูในส่วนของอาคารกันบ้า งที่โครงการนี้เป็นโครงการผสม Mix Used นะครับ ซึ่งชั้น B1, Ground และชั้น 2 จะเป็นส่วนของ retail shop ที่โครงการจะดิวกับร้านค้าต่างๆทั้งมินิมาร์ท ร้านกาแฟ ฯลฯ (ยังไม่ได้ระบุแบรนด์ร้านค้า) ซึ่งในส่วน Retail จะแยกการใช้งานทั้งลิฟท์และบันไดเลื่อนออกจากส่วนพักอาศัยไปเลย
ชั้น 3rd จะเป็นชั้นแรกสำหรับชั้นพักอาศัย ส่วนที่อยู่ทางทิศใต้ทั้งแนวจะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด ที่เหลือจะเป็นส่วนของห้องงานระบบต่างๆ จากตรงนี้เราจะเห็นส่วนของลิฟท์โดยสารซึ่งมีมาให้ 3 ตัว และ Service Lift 1 ตัว (อัตราส่วนลิฟท์อยู่ที่ 142:1) ถือว่าปานกลาง ไม่มากไม่น้อย
ชั้น 4 จะเป็นทั้งที่มีส่วนของห้องพักอาศัยเหมือนกับชั้นก่อน แต่ชั้นนี้ยังเป็น Main Floor Facility อีกด้วย ประกอบไปด้วย Business Room, Multipurpose Room, Club Lounge, Library, Kid’s room, Locker Room แยกชายหญิงมีซาวน่าในตัว และสุดท้ายสระว่ายน้ำ Freeform ขนาดใหญ่ที่ยาวประมาณ 25 เมตร กว้าง 5-7.5 เมตร ลึก 1.2 เมตร แยกสระเด็ก
ชั้น 5 ยังมี Facility อยู่เหมือนกันนะครับ จะเป็นส่วนของห้องออกกำลังกาย และห้องโยคะ ซึ่งมองวิวลงไปทางสระว่ายน้ำชั้น 4 ที่เหลือจะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยที่มีจำนวนยูนิต 10 unit/floor
ชั้น 6 – 16 จะเป็น Typical Plan เป็นชั้นที่มีส่วนของห้องพักอาศัยเยอะที่สุดและเต็มพื้นที่อาคาร โดยเริ่มดูจาก Corridor โถงทางเดินกันก่อนจะเป็นรูปตัว h แนวนอน ซึ่งมีช่องแสงตามปลายอาคาร 2 จุด และจุดพิเศษก็คือ ด้านข้างๆบันไดหนีไฟหลัก (ช่องสีเหลี่ยมสีขาวตรงกลางอาคาร) นั้นถูกเจาะเป็นช่องลม เพื่อให้เกิด Ventulation การระบายหมุนเวียนของลมเข้าสู่โถงทางเดินครับ
Floor 17
ทีนี้ตั้งแต่ชั้น 17 เป็นต้นไป ตัวอาคารจะมีการร่นลดน้อยลงเป็นขั้นๆไปเรื่อย ส่วนของดาดฟ้าชั้นที่ร่นถอยลงจะถูกทำเป็น Green Area ให้ลูกบ้านออกไปใช้งานชมวิว เดินเล่นได้ จะมีที่ชั้น 17, 20, 23, 26 และ 30 ครับ / อ้อขอเสริมนิดนะครับส่วนห้องพักอาศัยไม่เกินชั้น 25 จะมีแต่แบบ 1 Bed กับ 1 Bed+ เท่านั้น ถ้าใครจะมองหาห้องแบบ 2 Bedroom จะเริ่มมีที่ชั้น 26 ขึ้นเป็นต้นไปนะ
สุดท้ายส่วนของอาคารที่ถูกร่นลดลงเรื่อยจนเหลือแค่ 5 Unit/floor ที่ชั้น 30-32 และ Corridor(โถงทางเดิน) จะกลายเป็นรูป H ไปเลยครับ 😀
ภาพจำลองบรรยากาศภายนอกส่วนของตัวอาคารโครงการ ที่เน้นดีไซน์ดูเรียบๆโทนสีขาวสว่าง ภาพจำลองจะแสดงให้เห็นลักษณะอาคารชัดเจน โดยตัวอาคารมีการร่นระยะทำให้ชั้นบนๆจะมีจำนวนยูนิตน้อย และทำเป็นพื้นที่ Green Area ระหว่างชั้นให้แก่ลูกบ้าน
ภาพจำลองบรรยากาศภายนอกส่วนด้านหน้าทางเข้าโครงการ เนื่องจากโครงการจะทำเป็นรูปแบบของ Mix Used จะมีผ่านยูนิตร้านค้าในโครงการ ตรงนี้ก็จะสะดวกสำหรับลูกบ้านเพราะไม่จำเป็นต้องออกไปไหนไกล เพียงลงมาใต้โครงการก็จะมีร้านค้าให้จับจ่ายใช้สอย แต่ก็ต้องแลกกับความเป็นส่วนตัวของการอยู่อาศัยไป แต่โครงการลักษณะนี้บนทำเลที่มีแต่ชาวต่างชาติ การเลือกทำ Retail Shop ภายในโครงการจะเป็นการดึงดูดให้น่าอยู่มากกว่าและมีประโยชน์แก่ลูกบ้านเองด้วย
ภาพจำลองบรรยากาศส่วนของพื้นที่สวนภายในโครงการ ที่แยกส่วนออกจากตัวอาคารที่ชั้น Ground เนื้อที่ประมาณ 70 ตารางวา จะมีมุมนั่งเล่นและพื้นที่ให้เดินเล่นตามทางเดินและมีลงต้นไม้ใหญ่เอาไว้
ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการให้เห็นถึงส่วนของ Lobby (ทางขวามือ) และพื้นที่ทางเข้าไปช่องจอดรถส่วน Automatic Parking (ทางซ้ายมือ) อยุ่หลังอาคาร
ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ ส่วนของ Business Room ที่ชั้น 4 มีผนังกระจกช่องแสงรอบด้านและภายนอกจัด Landscape เป็นสวนเล็กๆ
ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ ส่วนของ Club Lounge ที่ชั้น 4 ที่ดูน่าใช้งาน และผนังตกแต่งในห้องนี้จะเหมือนกับส่วนของ Sale Gallery ที่ด้านบนพาไปชมกันแล้ว
ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ ส่วนของสระว่ายน้ำ Freeform ขนาดใหญ่ที่ยาวประมาณ 25 เมตร กว้าง 5-7.5 เมตร ลึก 1.2 เมตร แยกสระเด็ก ทางซ้ายมือสุดจะมีส่วนของสระแช่ตัวทีมีการตกแต่งเป็นเสมือนศาลาเล็ก และมองตรงไปจะมีการตกแต่งเป็น Mini Waterfall อีกด้วย
ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ ส่วนของห้องออกกำลังกายที่ชั้น 5 มองวิวลงมาที่สระว่ายน้ำ
ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ เป็นมุมสูงมองลงมายัง Main Facility ที่ชั้น 4-5
Green Area Zone ที่ตัวอาคารร่นระยะลงมาเรื่อยๆและจัดเป็นพื้นที่สีเขียวให้แก่ลูกบ้าน
ทีนี้มาดูส่วนของวิวโครงการกันบ้างไล่จาก A-B-C-D ไปนะครับ (เหนือ-ออก-ใต้-ตก) โดยรูปที่เอามาจากเว็ปไซต์หลัก ความสูงอยู่ที่ประมาณชั้นที่ 20 นะ
ทิศเหนือ ในระยะที่ประชิดจะเป็นห้องแถวบ้านเดี่ยว 1-2 ชั้นครับ ต้องเลยไปหน่อยประมาณ 130-180 เมตร จะเห็นอาคารสูงอย่างโรมแรม Zenith และ ตึกของรพ.บำรุงราษฎร์
ทางทิศตะวันออก ด้านหน้าติดกับซอยสุขุมวิท 3 (ถนนนานาเหนือ) ซึ่งเป็นทางเข้า-ออก หลักของโครงการ ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นเหล่าแนวตึกแถวรวงร้านต่างๆที่สูง 5-7 ชั้นไม่เท่ากัน ถ้าเฉียงๆหน่อยจะเห็น Grace Hotel ส่วนตึกสูงแต่ไม่ได้บังเราตรงๆ
ทิศใต้ ติดกับ พื้นที่จอดรถของสำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงไทย แต่ก็เห็นส่วนอาคารสูง 17 ชั้นของสนง.ใหญ่บ้างประมาณ 20% ที่เหลือมองไปไกลๆจะเห็น Nana Square และ ข้ามสุขุมวิทไปมี JW Marriott Hotel
ทิศตะวันตก ในระยะประชิดติดกับ อาคารจอดรถประมาณ 4-5 ชั้น ถัดไปเป็นอาคาร 7 ชั้น ฝั่งนี้ถ้ามองตรงจะโล่ง แต่เฉียงซ้ายหน่อยจะติดสำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงไทยมาด้วย ฝั่งนี้จะเห็นเยอะกว่าฝั่งทิศใต้อีกนะครับ
หรือสามารถไปทดลองดูวิวเอง จากความสูงอื่นๆที่ชั้น 10 และชั้น 30 จากทางเว็ปไซต์หลักได้เลย “กดคลิกที่รูป”
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำสระ Freeform ระบบเกลือ กว้าง 5.5-7 เมตร ยาว 25เมตร แบ่งสระเด็ก, มีสระแช่ตัว ตกแต่งด้วย Mini Waterfall
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องขนาดปานกลางใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง(ดูจากแปลน)
- สวนหย่อมแยกส่วนที่ชั้น Gound เนื้อที่ประมาณ 70 ตารางวา
- Mix Used Retail Shop ที่ชั้น B1, Ground และ 2 (แยกลิฟท์และบันไดเลื่อน)
- Business Room, Multipurpose Room, Club Lounge, Library, Kid’s room (ชั้น 4)
- Locker Room แยกชายหญิงมีซาวน่าในตัว (ชั้น 4)
- Yoga Room (ชั้น 5)
- ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว / Service Lift 1 ตัว
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 142:1
- ที่จอดรถระบบ automatic parking system จอดได้ประมาณ 60%
- ระบบ CCTV / Access Card
มาดูห้องตัวอย่างห้องแรกเป็นแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 50 ตร.ม. พื้นที่การออกแบบแยกเป็นสัดส่วนชัดเจน เปิดเข้าไปส่วนแรกที่เจอจะเป็นพื้นที่ครัว ฝั่งซ้ายมือเป็นมีพื้นที่ให้วางชั้นวางของหรือชั้นวางรองเท้าและตู้เย็น ส่วนฝั่งขวามือเป็นชุดครั้วทั้งหมด ถัดไปจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น พื้นที่ส่วนนี้กับครัวจะไม่มีประตูกั้น แต่พื้นจะเปลี่ยนไปจากกระเบื้องมากลายเป็นลามิเนตแทนให้อารมณ์ฟังก์ชั่นที่ถูกเปลี่ยนไป ห้องนั่งเล่นวางโซฟาตัวใหญ่ได้ ด้านหลังมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่ง ติดกันเป็นพื้นที่ระเบียงที่กว้างสามารถวางโต๊ะไว้นั่งเล่นได้ และเป็นพื้นที่สำหรับวางคอมแอร์ทั้งหมด 3 ตัว
ส่วนที่เป็นห้อง Plus ของที่สามารถจัดฟัง์ชั่นของห้องได้ตามความต้องการของเจ้าของอาทิเช่น ห้องอ่านหนังสือ ห้องทำงาน ห้องนอนเล็ก ห้องดูหนัง หรือจะเป็นห้องแต่งตัวพิเศษสำหรับสาวๆที่ชอบแฟชั่นการแต่งตัว ห้องนี้จะมีประตูบานเลื่อนกั้นให้เป็นสัดส่วนชัดเจน ห้องน้ำสามารถเข้าได้จากทางห้องนั่งเล่นทำให้สะดวกต่อการใช้งานเวลามีแขก และสุดท้ายห้องนอนได้พื้นที่ภายในห้องกว้างพอสมควร วางเตียง KingSize และพื้นที่รอบด้านเตียงเหลือ มีมุมตู้เสื้อผ้าและมุมโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่แยกออกมาเดินไปมาสะดวก
ประตูห้องเป็นประตูบานไม้ปิดผิวด้วยลามิเนตสีขาวครีม บานกรอบเป็นสีขาว มีตาแมวและ Digital door lock มาให้
Digital door lock ที่มีให้มาตรฐานโครงการ ของ KABA เป็นแบบสามารถใช้รหัสเข้าห้อง, คีย์การ์ด
เข้ามาด้านในก็จะเจอกับพื้นที่ส่วนครัว โดยด้านขวามือจะเป็นเคาน์เตอร์ครัว ด้านซ้ายเป็นพื้นที่วางตู้เก็บของ, ชั้นวางรองเท้า และตู้เย็น โดยปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิโต้สีขาว
ด้านซ้ายมือห้องมาตรฐานจะไม่ได้เฟอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้านะครับ อันนี้จัดตกแต่งให้ดูตำแหน่งการวาง
ส่วนของชุดครัว เราจะได้มาตรฐานตามแบบนี้เลยยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเครื่องซักผ้าและไมโครเวฟ ชุดตู้ติดผนังด้านบนหน้าบานจะเป็น ไฮกลอสสีขาวมันวาวและฟิตติ้งการเปิดปิดเป็น Softing close ทั้งหมด
ลองเปิดหน้าบานชุดตู้ด้านบนให้ดู มีการแบ่งชั้นวางเก็บของเป็นสัดส่วน
เคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์สีขาวโดยผนังรอบๆไม่ได้ติดกระเบื้องหรือกระจกเอาไว้ให้ ถ้าใครชอบทำอาหารทานเองก็หารติดเพิ่มเลย
ส่วนของอ่างล้างจานและ Hob&Hood ทั้งหมดจะได้ของ Mex เตาเป็นแบบแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว
ช่องเก็บไมโครวเวฟและเครื่องซักผ้าจะพอดีกับช่องที่เตรียมเอาไว้ให้
ถัดไปนั้นจะเป็นพื้นที่ส่วนของห้องนั่งเล่น โดยปูด้วยลามิเนตหนา 12 มม.
ห้องนั่งเล่นจะกว้างขวางเป็นพิเศษ พื้นที่ทั้งหมดจะได้รับแสงธรรมชาติเพราะอยู่ติดกับประตูกระจกบานใหญ่ที่ออกไประเบียง
โดยด้านหน้าจะจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นรับแขกเอาไว้และด้านหลังโซฟา แบ่งไว้วางโต๊ะทานอาหาร
มุมรับประทานอาหารที่จัดวางโต๊ะแบบ 2 ที่นั่งเหมาะสมกับห้อง 1 Bed ที่น่าจะอยู่ 2 คนไม่เกินนี้ถึงเหมาะสม
ประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ เปิดไปจะเป็นพื้นที่ระเบียง กรอบอลูมิเนียมเคลือบสีซะฮาร่า(ออกน้ำตาลทองผิวด้าน)
ให้ดูชัดๆถึงตัวสีอลูมิเนียมครับ
ตัวพื้นของระเบียงจะลดระดับลงมาเล็กน้อยเอาไว้กันฝนสาดเข้าห้อง พื้นระเบียงมีขนาดกว้างประมาณ 90 ซม. สามารถใช้งานได้จริง ทั้งจัดสวนขนาดเล็ก วางโต๊ะนั่งเล่น หรือเก็บของชิ้นใหญ่ ตากผ้าก็สบายๆ / ส่วนทางขวามือเป็นพื้นที่เก็บคอมแอร์อยู่ด้านหลังระแนงอลูมิเนียม แต่ว่าคอมแอร์หันลมร้อนเข้าหาห้อง แนะนำให้ไปหากริลล์บังคับทิศทางลมมาติดซะ ให้ลมร้อนหันหน้าออกไปนอกระเบียงจะได้ใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่
ตัวเซฟตี้ของระเบียงได้เป็นกระจกนิรภัยใส ที่มีโครงสแตนเลส ความสูงประมาณ 1.10 เมตร
จากที่ระเบียง มองย้อนกลับไปยังในห้อง ในห้องนี้ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานคือ 2.70 เมตร ส่วนที่มีงานระบบของแอร์(ฝังฝ้า)จะลดไป 20 ซม.เหลือ 2.50 เมตรนะครับ ซึ่งตรงกลางเราจะเห็นห้องพิเศษที่เป็น Plus+ เดี๋ยวไปดูกัน
ห้องนี้ในแปลนเขียนเอาไว้ว่า Study Room ซึ่งเราสามารถทำเป็นห้องอเนกประสงค์ได้ตามใจเจ้าของห้องอย่างเช่น ห้องทำงาน, ห้องนอนเล็ก หรือถ้าสาวๆที่รักแฟชั่นก็ทำเป็นห้องแต่งตัวแยกออกมาไปเลยก็ได้ครับ
ห้องนี้จะทำเป็นประตูกระจกบานเลื่อน โดนติดตั้ง “ราง” เอาไว้ด้านบน แบบนี้จะดีต่อการเดินเข้าออกไปมาเพราะไม่ต้องกลัวจะสะดุดเกิดอุบัติเหตเล็กๆได้
เข้ามาในห้องก็มีพื้นที่เล็กๆไม่ใหญ่ แต่ในห้องตัวอย่างที่จัดเอาไว้เป็นห้องทำงานส่วนตัว ใช้เป็นไอเดียได้นะ
ถัดมาพอออกมาจากห้องแล้วเลี้ยวซ้าย จะเจอกับห้องน้ำ และห้องนอนซึ่งก็ต้องออกมาใช้ห้องน้ำร่วมกับกับห้องนั่งเล่นนะ
พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ไซส์ 60 ซม. แบบผิวด้านสีขาว
เข้ามาด้านในขนาดจะเจอกับฟังก์ชั่นใช้งานมาตรฐานอย่างอ่างล้างมือ และสุขภัณฑ์ ผนังติดกระจกเงาขนาดใหญ่เอาไว้ให้
อ่างล้างมือและชุดก๊อกแยกระบบน้ำร้อนเอาไว้ให้ 2 หัว เป็นของ kasch
ด้านล่างมีชุดตู้ใต้อ่างแบบนี้
ชุดสุขภัณฑ์เป็นของ kasch เช่นกันเป็นแบบกึ่งอัตโนมัติที่ต่างประเทศใช้กัน พวกระยะด้านข้างสองฝั่งเหลือสบายๆไม่อึดอัด
ส่วนของพื้นที่อาบน้ำแยกส่วนเปียก ได้ Shower Box แบบ Templer Glass มา
พื้นที่อาบน้ำค่อนข้างกว้างทีเดียว ถึงแม้ทำส่วนของที่นั่งอาบเพิ่มมาด้วยแล้วนะ
ที่ผนังฝั่งนึงมีการเซาะร่องเอาไว้สำหรับเก็บของใช้ทั่วไปในห้องน้ำ ส่วนของชุดฝักบัวของ kasch หรือเทียบเท่าหน้าตาเช่นนี้จ้า
ที่ด้านบนฝ้าเพดานมีการเล่นไฟซ่อนหลืบฝ้าเอาไว้ให้ จะได้ไม่แยกตาตรงๆเวลาอาบน้ำ
มาดูส่วนของห้องนอนกันบ้าง พื้นลามิเนตเชื่อมต่อไปในห้อง จะเห็นทางขวามือเป็นส่วนของตู้เสื้อผ้า
ตู้เสื้อผ้าที่โครงการให้มาเป็นมาตรฐานในทุกห้องนอน หน้าบานเป็นกระจกเงาขนาดใหญ่บานเลื่อน 2 ตอน
ผมลองเปิดออกให้ดูฟังก์ชั่น ชั้นการแบ่งเก็บของด้านในครับ
ติดกันกับตู้เสื้อผ้า ตรงนี้เป็นส่วนตกแต่งนะครับ ไม่ได้มา โครงการจัดทำเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งขนาดยาว พร้อมติดกระจกเงาที่ผนังขนาดใหญ่ ช่วยทั้งในเรื่องให้ห้องดูกว้าง อีกทั้งยังส่องเวลาแต่งหน้า แต่งตัวได้ด้วย
ในส่วนของห้องนอนที่ได้พื้นที่ค่อนข้างกว้าง วางเตียง King Size ลงไปยังกลางห้องแล้ว พื้นที่ทางเดินรอบด้านเหลือเดินไปมาสะดวกไม่ต้องเบี่ยงตัว และได้รับแสงธรรมชาติจากหน้าต่างขนาดใหญ่เกือบถึงฝ้าเพดาน
ระยะด้านข้างเตียงทั้งสองฝั่งเหลือประมาณ 50 – 60 ซม.
ที่ปลายเตียงสามารถเอาทีวีมาติดแขวนผนังแบบนี้ได้ถ้าใครชอบนอนดูทีวี ส่วนตำแหน่งของแอร์ในห้องนอน จะอยู่มุมขวาบนที่ผนังใกล้กับหน้าต่าง (ผนังของจริงในห้องจะเป็นฉาบเรียบทาสีทั้งหมด)
หน้าต่างช่องแสงขนาดใหญ่ภายในห้องนอน ความกว้างเต็มผนัง ความสูงจรดฝ้าเพดาน เรียกว่าได้ช่องแสงแบบจุใจ
ส่วนของฝ้าที่ดรอปเอาไว้ให้เอาไว้ส่วนติดรางม่าน จะได้ดุเรียบร้อยเวลามองมาครับ
ห้องตัวอย่างอีกห้องเป็นแบบ 2 Bedroom ขนาด 70 ตร.ม. (ห้องแบบนี้จะมีแค่ชั้น 26 ขึ้นไปอย่างที่บอกนะ) ห้องนี้จะเป็นแบบ 2 ห้องนอนและ 2 ห้องน้ำ แยกทุกฟังก์ชั่นเป็นสัดส่วนชัดเจน แปลนดูง่ายมาก เข้ามาเจอจะพื้นที่ด้านข้างประตู้ให้วางชั้นวางรองเท้าได้ และก็ห้องน้ำอยู่ตรงข้ามเป็แบบอาบน้ำได้ ถัดไปจะเจอกับส่วนของครัวจะใหญ่กว่าห้อง 1 Bed ส่วนโต๊ะทานอาหารจะอยู่ติดครัว ถัดไปเป็นห้องนั่งเล่น โดยทั้งสามส่วนนี้จะเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกัน พื้นจะปูด้วยกระเบื้องแบบเดียวกัน และระเบียงจะอยู่ตรงกุ่งกลางห้องมุมนั่งเล่น ยังคงคอนเซ็ปท์ระเบียงกว้างใช้งานจริงได้เหมือนเดิม
ห้องนอนเล็กจะอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ(ด้านหลังของโซฟา) ห้องนี้จะไม่มีห้องน้ำในตัวต้องออกมาใช้ด้านนอกร่วมกับห้องนั่งเล่น แต่ขนาดภายในห้องกว้างทีเดียว) ส่วนของ Master Bedroom ที่กินพื้นที่ซีกขวาประมาณ 1ใน3 ของห้อง เลยมีพื้นที่สำหรับฟูลฟังก์ชั่นที่ห้องนอนควรจะมีหมดเลย และมีห้องน้ำในตัว ขนาดห้องน้ำใหญ่และกว้าง มีแยกพื้นที่อาบน้ำด้วยกระจกนิรภัยและด้านในมีอ่างอาบน้ำและ Rain Shower
เปิดประตูเข้ามา จะเจอกับทางขวามือเราจะเห็นตู้เก็บของและเก็บรองเท้า และทางซ้ายมือเป็นห้องน้ำ
ตู้เก็บของและเก็บรองเท้าขนาดใหญ่จากพื้นถึงฝ้าเพดาน ตรงนี้ต้องไปติดหน้าบานเองนะครับ โครงการทำให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น
ส่วนของประตูทางเข้าห้องน้ำที่ห้องนอนเล็กต้องออกมาใช้ร่วมกับรับแขกที่ตรงนี้นะ
พื้นที่ทางเดินในห้องน้ำ ค่อนข้างแคบหน่อย พอขยับได้ไม่กี่ก้าว แต่ฟังก์ชั่นการใช้งานครบ 3 ประการ
ทางซ้ายมือเป็นส่วนของตำแหน่งที่ตั้งสุขภัณฑ์ ซึ่งดูดีๆไซส์ของมันใหญ่พอสมควรเลยนะ นั่งสบายๆ
ตรงกลางเป็นตำแหน่งที่ตั้งอ่าง วัสดุเหมือนห้องก่อน แต่กว้างกว่านิดหน่อย
เงยหน้ามาเป็นกระจกเงาติดผนัง
ส่วนทางขวามือเป็นพื้นที่อาบน้ำแยกส่วนเปียกเอาไว้เหมือนกันมาตรฐาน
ห้องนี้ไม่มีพื้นที่นั่งอาบนะครับ แต่พื้นที่ก็ยังโอเคนะไม่เล็กไม่ใหญ่ ประมาณ 0.8 x 1.3 เมตร
ส่วนของฝักบัวที่ได้ทั้งแบบธรรมดาและ Rain Shower ผนังมีติดกระจกชั้นวางของเอาไว้ให้เสร็จสรรพ
ตัวหัวฝักบัวสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของน้ำได้ 3 แบบ ในรูป
ถัดมาจะเป็นส่วนห้องห้องครัว – รับประทานอาหาร – ห้องนั่งเล่น ซึ่งจะเชื่อมต่อกันทั้งด้วยพื้นที่และพื้นแกรนิตโต้สีขาวแบบเดียวกัน
โต๊ะรับประทานอาหารที่ถูกจัดไว้ติดกับครัว อีกทั้งยังมีพื้นที่เหลือ ถ้าจะอัพเดรดเป็นแบบ 6 ก็ได้สบายๆ สำหรับคนชอบทานข้าวที่บ้านมีแขกไปมาบ่อยๆ
ส่วนตรงฝ้าเพดานครัวเป็นงานระบบแอร์เลยสูงแค่ 2.50 เมตร พอมาเป็น Living จะสูง 2.70 เมตร
ชุดครัวที่วัสดุอุปกรณ์เหมือนกับห้อง 1 Bedroom แตกต่างกันที่ “ความยาว” ที่ได้พื้นที่จัดเตรียมอาหาร ชุดตู้เก็บของเพิ่มขึ้นมา
ส่วนที่เพิ่มมาอีกอย่างคือ Hob&Hood by MEX ที่อัพเกรดมาเป็นแบบ 4 หัว
พื้นที่เก็บของด้านล่าง
อีกมุมนึงจ้า
ส่วนของ Living Area ที่อยู่ใจกลางห้อง ไดความกว้างพอสมควร ระยะห่างดูทีวีประมาณ 3 เมตร จัดทีวี 50-60 นิ้วมาได้โลด อีกทั้งมุมนี้ยังอยู่ติดกับ “ช่องแสง” ขนาดใหญ่ เวลากลางวันมานั่งเล่นห้องจะสว่างโปร่งโล่ง
พื้นที่จัดวางโซฟที่เราสามาเลือกแบบ 2-3 ที่นั่งก็ได้ (ด้านหลังเป็นทางเข้าห้องนอนเล็ก)
ประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญที่เป็นช่องแสงให้กับเรา โครงการนี้ใช้บานกระจกเป็นกระะจกใสนะครับ
พื้นที่ระเบียงยังคงความกว้าง และใช้งานได้จริงเหมือนกับห้องก่อน แต่ห้องนี้กว้างกว่าเสียอีกนะประมาณ 1 เมตรเลยได้ แถมมีการทำรางระบายน้ำเอาไว้ให้อีก
ฝั่งซ้ายมือเป็นส่วนที่วางคอมแอร์ 3 ตัว
ให้ดูความกว้างครับ จัดชุดเก้าอี้นั่งเล่นไซส์กลางมาวางนั่งชมวิวก็ดีนะ
ส่วนของ “ประตู” ทางเข้าห้องนอนเล็ก จะเป็นบานไม้ 2 ตอน บานเลื่อนขนาดใหญ่ ซึ่งของจริงจะเป็นบานไม้เรียบๆนะครับไม่ใช่แบบนี้
ลองเปิดออกให้ดูได้ความกว้างที่มากทีเดียว สามารถยกของชิ้นใหญ่เข้าออกได้สบายๆ และพอเปิดแล้วจะทำให้ห้องเสมือนเชื่อมต่อกัน และได้แสงธรรมชาติส่องผ่านถึงกันได้เวลากลางวัน
เข้ามาในห้องนอนเล็กแล้ว ขวามือได้ตู้เสื้อผ้า 2 ตอนมาตรฐานครับ
ที่ผนังด้านนี้เป็นตำแหน่งขอปลายเตียง ห้องตัวอย่างจัด Built-In เป็นโต๊ะทำงานที่เชื่อมต่อเป็นชั้นวางทีวีเอาไว้เลย
เตียงในห้องตัวอย่างที่เลือกเอามาวางแค่ไซส์ 3.5 ฟุต แต่จริงๆแล้วพื้นที่เหลือเฟือนะครับ จัด 5 ฟุตมาดีกว่านอนสบาย
หน้าต่างเหมือนห้อง 1 Bed ก่อนหน้าทุกประการ ไม่พูดซ้ำแล้วนะครับ
ถัดไปเดี๋ยวไปดู Master Bedroom กันบ้าง อยู่ตรงข้ามกัน
มุมนี้ยืนที่ประตูทางเข้า ขวามือจะเป็นตู้เสื้อผ้า ถัดไปเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ มองตรงไปเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้ง และซ้ายมือเป็นที่ตั้งเตียงนอน
ตู้เสื้อผ้าของห้องนอน Master จะได้ไซส์ที่กว้างเพิ่มมาหน่อยเป็นแบบ 3 ตอนหน้าบาน
ที่ปลายเตียงตั้งแต่หน้าห้องน้ำ โครงการ Built เป็นไซด์บอร์ดชั้นวางยาวไปเลยมุมนี้ทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง
ลากยาวไปจนถึงปลายเตียงและผนัง เป็นชั้นวางของใช้ภายในห้อง จะเอาทีวีวางก็ได้ แต่ถ้าแขวนผนังจะได้พื้นที่วางของเป็นสัดส่วนมากกว่า ระยะทางเดินปลายเตียงเหลือประมาณ 60 ซม.ถึงแม้ติดตั้งชั้นวางแล้ว เดินสบาย
ตำแหน่งเตียง King Size วางเอาไว้กลางห้องเลย ข้างหัวเตียงทั้งสองฝั่งเหลือวางโต๊ะหัวเตียงขนาดใหญ่ได้ทั้งคู่
ที่นี้ไปดูกันในห้องน้ำบ้าง จะเห็นว่าขนาดทางเดินกว้างกว่าห้องด้านนอกมากๆถึง 2-3 เท่าเลย
ทางซ้ายมือที่ผนังติดกระจกเงา Over Size มาให้
ด้านล่างมีการติดตั้งชั้นวาง และเป็นชุดอ่างล้างมือ มีอุปกรณ์ต่างๆที่ต้องใช้งานในห้องน้ำครบ
พื้นที่วางสุขภัณฑ์อยู่ที่ปลายทางเดินครับ ส่วนทางขวามือเป็นทางเข้าแยกส่วนเปียกของพื้นที่อาบน้ำเอาไว้
พื้นที่อาบน้ำที่ “กว้างมากกกกกก” มีทำที่นั่งอาบเอาไว้ทางขวามือ และตรงกลางมีอ่างอาบน้ำมาให้ เป็นไซส์ขนาดใหญ่ที่ลงไปนอนแล้วเหยียดขาได้
ซ้ายมือเป็นตำแหน่งฝักบัว และผนังมีการเซาะร่องเอาไว้ทำเป็นชั้นวางของ
ที่ฝ้าเพดานมี Rain Shower แบบติดตั้งบนฝ้าเอาไว้พร้อมไฟซ่อนหลืบเช่นเคย
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
สุดท้ายเอาแปลนห้อง 1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. มาให้ดูกัน ห้องนี้ไม่ได้ทำห้องตัวอย่างนะครับ แปลนจะมาตรฐานเห็นได้บ่อยโดยเอาส่วนครัวและห้องน้ำไว้ชิดโถงทางเดิน ห้องถูกหั่นครึ่งโดยซ้ายมือเป็น Living มีทางออกไประเบียง และขวามือเป็น Bedroom ขนาดกว้างมีห้องน้ำในตัว
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 11 May 2017
- แบบห้อง 1 BEDROOM ขนาด 34 – 40 ตร.ม. ราคาอยู่ที่ 6.9 – 10.5 ล้านบาท
- แบบห้อง 1 BEDROOM PLUS ขนาด 50 – 60 ตร.ม. ราคาอยู่ที่ 10.6 – 14.4 ล้านบาท
- แบบห้อง 2 BEDROOM ขนาด 70 – 87 ตร.ม. ราคาอยู่ที่ 16.8 – 24.6 ล้านบาท
- ชั้น 9 – 1 Bedroom ขนาด 34.60 ตร.ม. ราคา 8.338 ล้านบาท เฉลี่ยตร.ม.ละ 240,982 บาท
- ชั้น 14 – 1 Bedroom ขนาด 34.20 ตร.ม. ราคา 8.464 ล้านบาท เฉลี่ยตร.ม.ละ 247,485 บาท
- ชั้น 20 – 1 Bedroom ขนาด 34.75 ตร.ม. ราคา 8.913 ล้านบาท เฉลี่ยตร.ม.ละ 256,489 บาท
- ชั้น 26 – 2 Bedroom ขนาด 70.70 ตร.ม. ราคา 18.841 ล้านบาท เฉลี่ยตร.ม.ละ 266,492 บาท
- Fully Fitted (ได้ชุดครัว, แอร์ทุกห้อง)
- ฝ้าเพดานสูง 2.70 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- Shower Box & Rain Shower
- Digital Door Lock
- จอง 50,000 – 200,000 บาท (แล้วแต่ขนาดห้อง)
- ทำสัญญา 5% (1 สัปดาห์หลังจอง)
- ดาวน์ 15% ผ่อนดาวน์ 30 งวด (เริ่มเดือนแรกหลังทำสัญญา)
- ค่ากองทุน 700 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 70 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
The Rich Nana ตั้งอยู่ติดสุขุมวิทซอย 3 (ถนนนานาเหนือ) อยู่ในทำเลที่คึกคักและเป็นทำเลเฉพาะของชาวต่างชาติมากๆ เส้นนี้จะหาคนไทยที่อาศัยอยู่จริงๆมีน้อยนะ สิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับชาวต่างชาติ ทั้งร้านอาหารต่างชาติ ผับ บาร์ สถานบันเทิง ร้านขายของที่ระลึก เกสต์เฮ้าส์ หากใครที่ชอบความคึกคักบันเทิง ร้านอาหารสไตล์นานาชาติก็น่าจะชอบย่านนี้ แต่ไม่ได้มีแค่อาหารนานาชาติเท่านั้น อาหารตามสั่งธรรมดา หรือรถเข็นก็มีให้เลือกกิน และมีศูนย์การค้า นานาสแควร์ที่อยู่ไม่ไกลจาก BTS นานา มากนัก / สถานที่สำคัญอีกอย่างที่ใกล้กับโครงการสุดก็คงจะเป็นโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ที่การรักษาที่นี่มีชื่อระดับต้นๆของประเทศแต่ค่าใช้จ่ายรักษาก็สูงพอสมควรเช่นกัน ซึ่งย่านนานานี้จะขึ้นชื่อเรื่องเป็นย่านคนแขกตะวันออกกลางอยู่กันเยอะมาก จะมีร้านรวงต่างๆที่มีป้ายภาษาอินเดีย อาหรับให้เห็นเยอะแยะ มีอาหารมุสลิมและร้านอาหารต่างๆก็มักจะงดเมนูหมูด้วย สิ่งที่เราจะเห็นได้เยอะนอกจากร้านอาหารในซอยนี้ก็คงหนีไม่พ้นโรงแรมทั้งเล็กๆอย่าง Hostel ยันไปโรงแรมห้าดาวเต็มไปหมดเลย รวมทั้งสถานบันเทิงมากมายด้วย อยู่ที่นี่จึงไม่ต้องกลัวเงียบเหงา
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หากมาจากถนนเพชรบุรี เมื่อถึงแยกมิตรสัมพันธ์ให้เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 3 หรือ(ถนนนานาเหนือ) ได้เลยซึ่งเป็นทาง One way ซึ่งเจ้าวันเวย์นี้แหละเป็นข้อเสียหน่อยของการเดินทางมาโครงการนี้ เราต้องหัดใช้เส้นทางลัดอื่นๆให้เป็นในช่วงสุขุมวิทตอนต้นเลขคี่ครับ แต่จะสะดวกอีกอย่างเพราะอยู่ใกล้กับทางด่วนเฉลิมมหานคร และที่จอดรถที่ได้มามาน้อยไปนิด 60% (แบบ Automatic Parking)
การเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ บนเส้นสุขุมวิท ซอย 3 (นานาเหนือ) ตลอดทั้งเส้น เราจะเห็นทั้ง TAXI, รถตุ๊กๆสามล้อ, มอเตอร์ไซค์รับจ้าง วิ่งผ่านไปมาตลอดทั้งวันยันไปถึงดึกๆตี 2-3 เลยล่ะครับ เนื่องจากเป็นทำเลเฉพาะที่ครึกครื้นทั้งกลางวันและกลางคืนจากชาวต่างชาติเหล่านี้นั่นเอง และสุดท้าย BTS นานา ระยะ 350 เมตรครับเรียกว่าสะดวกมากทีเดียว
วัสดุ ที่นี่ต้องบอกเลยว่าถ้าเทียบกับราคาที่ต้องจ่ายไปข้อนี้ไม่คุ้มค่าที่สุดเลยครับ อาจเป็นเพราะว่าโครงการนี้ที่ดินมีราคาสูงถึง 1.2 ลบ.ต่อตร.วา เลยได้ของมาน้อยหน่อย โดยพื้นห้องที่ให้เป็นลามิเนตหนา 12 มม.และก็กระเบื้องเซรามิค ส่วนกรอบประตูหน้าต่างอลูมิเนียมเคลือบสี ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ในห้องที่ได้จะมีชุดครัว, Hob&Hood, แอร์ทุกห้อง, ตู้เสื้อผ้า Built-In, สำหรับชุดอุปกรณ์ในห้องน้ำมีให้ครบโถสุขภัณฑ์ก็เป็นแบบกึ่งอัตโนมัติและ RainShower
การออกแบบโครงการ – หน้าตาโทนสีอาคารเป็นแนวโมเดิร์น ที่ใช้โทนของสีขาว สีสว่างตา ดูเรียบหรู โครงการนี้เป็นลักษณะของ Mix Used ที่ดึงในส่วนของ Retail Shop มาถึง 3 ชั้นในพื้นที่ชั้นล่างของโครงการ ซึ่งการทำแบบนี้นับว่า “เหมาะ” และสอดคล้องกับทำเลที่ตั้งที่เป็นแหล่งของชาวต่างชาติเกือบทั้งหมด ปกติจะชอบอยู่โรงแรมและมี Facility ร้านค้า สิ่งอำนวยความสะดวกในตัวอีกทั้งทำให้ลูกบ้านสะดวกมากขึ้น ส่วนชั้นที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางก็มีหลากหลายห้อง มีพื้นที่สีเขียวหลายจุด ยูนิตต่อชั้นถือว่าไม่เยอะนัก
การออกแบบห้อง – ห้องของโครงการนี้หลักๆจะมีแค่ 3 แบบคือ 1 Bed, 1Bed+ และ 2 Bed ซึ่งทุกห้องมีขนาดที่เหมาะสมกับการอยู่อาศัยได้จริง ไม่ได้ถูกย่อสเกลเกินไป ถ้าดูจากแปลนทุกแบบถือว่าจัดฟังก์ชั่นได้ลงตัวดีเลยนะ จะเป็นแปลนห้องที่ออกแบบได้คล้ายกับพวกโรงแรมนิดหน่อย น่าจะเอาไอเดียมาดัดแปลงด้วย โดยรวมถือว่าแบบห้องดีครับ
สิ่งอำนวยความสะดวก Facility ของที่นี่จะเกิดแล้วดีมากๆก็ต่อเมื่อโครงการสามารถดึงและดิว กับร้านค้าสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นต่อผู้อยู่อาศัยมาได้ที่ส่วน Retail 3 ชั้นล่างนี่แหละครับต้องรอดูอนาคตต่อไป / แยกมาดูส่วนของที่ให้ลูกบ้านใช้เฉพาะกันบ้างเริ่มจากพื้นที่สีเขียวที่มีให้ชั้น G ด้านนอกอาคารและก็ Green Area ที่อยู่ตามชั้นร่นระยะต่างๆถือว่ามีพื้นที่สีเขียวให้พอสมควน ส่วนกลางหลักอยู่ที่ชั้น 4-5 มีมาให้เยอะหลากหลาย และสระว่ายน้ำจัดออกมาได้น่าใช้มาก มีน้ำตกจำลองด้วย โดยรวมให้มาเยอะดีแต่เสียดายนิดหน่อยที่ไม่เอาไว้ชั้นสูงๆเพื่อให้ชม City View ได้ด้วย
Judgement
**โครงการนี้ เป็น Project เฉพาะ ที่มุ่งเน้นกลุ่มพื้นที่ในย่านชาวต่างชาติ ไม่เหมือน Project ทั่วไป รูปแบบการให้คะแนน จึงพิจารณาตามคนพื้นที่(ชาวต่างชาติ)เป็นหลักครับ ไม่สามารถเอามาเทียบกับทำเลสุขุมวิทตอนต้นตัวอื่นและโครงการอื่นๆได้ เพราะว่าซอยคอนโด High Rise ที่อยู่ถนนนานาเหนือไม่เคยมีมาก่อนเป็นของเฉพาะมาก จะยึดคะแนนนี้เป็นมาตรฐานเปรียบเทียบไม่ได้ ต้องลองให้คะแนนเองตามความเหมาะสมของตัวเอง ต้องบอกไว้ก่อนเดี๋ยวจะมีปัญหาเรื่องคะแนนกันอีก
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยพิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 200,000 – 250,000 บาท/ตร.ม., 11 May 2017
- ทำเล 8/10 – มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งโรงพยาบาล ห้าง ร้านอาหาร สถานบันเทิง เป็นย่านที่โรงแรมเยอะมาก
- เดินทางด้วยรถ 6.75/10 – ข้อเสียคือวันเวย์ รถติดมาก แต่ก็มีทางลัดเลาะเลี่ยงรถติดได้ต้องศึกษาหน่อย ใกล้ทางด่วนมาก และที่จอดรถเป็น Automatic ได้ที่จอด 60%
- ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ติดซอยหลักนานาเหนือ มีรถแท๊กซี่, มอเตอร์ไซค์, สามล้อผ่านทั้งวันทั้งคืน / BTS นานา 350 เมตร
- วัสดุ 6.5/10 – ให้วัสดุมาน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับราคาที่ต้องจ่ายไป
- แบบ 8/10 – แบบอาคารสวยโมเดิร์นโทนสีสว่าง ฟังก์ชั่นห้องลงตัวเป๊ะ แยกเป็นสัดส่วนทุกจุดพอดีเหมาะกับการอยู่อาศัย
- สาธารณูปโภค 8.25/10 – ข้อนี้ให้คะแนนในกรณที่ถ้าเผื่อโครงการดึงร้านค้าดีๆมาในส่วน Reatal Shop ได้ด้วยนะเห็น Minimart, Coffee Shop ฯลฯ, ส่วนลูกบ้านได้ส่วนกลางหลากหลายเยอะดีมีพื้นที่สีเขียว เลาจน์และสระว่ายน้ำจัดออกมาได้น่าใช้
- SUPER LUXURY CLASS
- 7.57 / 10.00
BOTTOM LINE
The Rich Nana เป็นโครงการในทำเลที่เฉพาะมากที่อยู่กลางดงของชาวต่างชาติกลุ่มตะวันออกกลางที่มารวมตัวบนเส้นนานาเหนือ เป็นแหล่งของโรงแรม ห้าง ร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิงที่มาเกาะกลุ่มเพื่อพวกเค้าเหล่านี้ ทำเลนี้ใช้รถยนต์เดินทางก็ได้แต่รถสาธารณะสะดวกกว่ามาก เหมาะกับคนที่ซื้อของเฉพาะเพื่อให้ถูกกลุ่ม โครงการมี Facilities หลากหลายในตัวเอง และดูดีน่าใช้ มีงบประมาณ 6.9 – 24.6 ล้านบาท