The Reserve คอนโดในซอยเกษมสันต์ 3 ตรงข้าม MBK ใกล้ BTS สนามกีฬาแห่งชาติ โดย พฤกษา [รีวิวฉบับที่ 423]

รีวิวฉบับที่ 423 … เรามาดูโครงการ The Reserve เกษมสันต์ 3 โปรเจคใหม่ล่าสุดจากค่ายพฤกษาและ Stylish Residences ที่ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS สนามกีฬาแห่งชาติ ฝั่งตรงข้ามมาบุญครอง และอยู่ในระยะเดินไปห้างชื่อดังอย่าง Siam Discovery / Center / Paragon ครับ

Fact @ 9 September 2013

• The Reserve
• บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
• LUXURY CLASS 2013 (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
• คอนโด Low Rise 7 ชั้น + 1 ชั้นใต้ดิน 2 อาคาร 273 ยูนิต
• ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 23 ยูนิต
• ที่จอดรถประมาณ 50%
• ที่ดินประมาณ 2 ไร่
• คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2558
• Studio 28 ตารางเมตร
• 1 Bedroom 38.5 – 44.5 ตารางเมตร
• 2 Bedrooms 57 – 87 ตารางเมตร
• 3 Bedrooms+ ไม่มี
• ราคาเริ่มต้น 4.5 ล้านบาท
• ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 150,000 – 172,000 บาท
• http://www.stylishresidences.com/TheReserve.html
• โทร 1739

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

โครงการ The Reserve ตั้งอยู่ในซอยเกษมสันต์ 3 ใกล้กับ BTS สนามกีฬาแห่งชาติ ตามแผนที่ที่เคยนำเสนอไปนะครับ ซึ่งวันนี้ผมจะพาเดินจากสยามไปยังตัวโครงการกันนะครับ

ผมยืนอยู่บน Skywalk ด้านบนสี่แยกที่ถนนพระรามที่ 1 ตัดกับถนนพญาไทนะครับ ซึ่งจากหน้าโครงการหากเดินไปยัง Siam Discovery ก็จะเป็นระยะทางประมาณ 600 กว่าเมตร

เส้นทางการเดินของผมวันนี้นะครับ จะพาท่านผู้อ่านเดินตามเส้นสีแดงจากแผนที่ด้านบน แต่จริงๆแล้วผมจอดรถทิ้งไว้ที่ Siam Paragon ซึ่งวัดระยะเดินไปหน้าโครงการได้ราว 1 กิโลเมตร ยังพอเดินไหวครับ

 

ห้างที่ใกล้ที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น MBK ที่มีทางเชื่อมต่อเข้าสถานี BTS สนามกีฬาแห่งชาติได้เลย

ทางเชื่อมเข้า Tokyu ครับ

ผมเดินมาลงฝั่งตรงข้ามสนามกีฬาฯ

 

ทางเดินและสภาพแวดล้อมแถวนี้ก็โอเคนะครับ รถค่อนข้างโล่ง การจราจรไม่ค่อยติด หากไม่มีงานกีฬา

เดินผ่านซอยเกษมสันต์ 1 … คอนโด The Reserve ตั้งอยู่ซอย 3 ครับ

ีนี่เป็นโรงแรมใหม่ ibis และ Mercure ที่พึ่งเปิดได้ไม่นาน

เดินมาอีกนิดนึงก็จะถึงซอยเกษมสันต์ 2 ซึ่งเป็นจุดทางขึ้นรถไฟฟ้า BTS พอดี ตรงนี้มีบันไดเลื่อนด้วย

ภายในซอย 2 มี Jim Thompson Museum และเป็นที่ตั้งของโครงการ The Seed Memories ที่เราเคยรีวิวกันไปแล้ว

ปากซอยมีอาคารสยามกลการ

ถัดมาก็เป็นโรงแรมใหม่อีกแห่ง Holiday Inn Express

ตัวตักภายนอกสวยดีครับ เด่นเป็นเอกลักษณ์สำหรับย่านนี้

เดินมาอีกนิดก็จะถึงโรงแรม Siam @ Siam ซึ่งอยู่ปากซอยเกษมสันต์ 3 เป็นซอยที่ตั้งของคอนโดมิเนียมละครับ

ภายในซอยจะดูเล็กกว่าซอยเกษมสันต์ 2 หน่อย มีรถแท๊กซี่จอดกันอยู่เรื่อยๆ

ปากซอยมีป้ายรถเมล์ การจราจรแถวนี้สบายครับ รถไม่ติด

จากหน้าปากซอยถ้าขับรถหรือเดินตรงไปอีกนิดหนึ่ง ประมาณ​ 200 กว่าเมตร ก็จะถึง Tesco Lotus ครับ เป็นสถานที่ที่เอาไว้กักตุนเสบียงได้ในราคาที่ถูกกว่าซุปเปอร์ในห้างอย่าง MBK, Siam Paragon

หน้าโรงแรม Siam @ Siam ก็ยังเป็นสภาพแวดล้อมที่ดูดีอยู่ครับ

เดินเข้ามาอีกหน่อยจะเริ่มมีรถจอดกันเลอะเทอะแล้ว ถ้าวิ่งสวนกันก็ต้องหาช่องหลบดีๆ ไม่งั้นจะวิ่งมาจ๊ะเอ๋กัน ไปไหนไม่ได้นะครับ

เลยมาอีกหน่อยเป็นบริษัท Gem Production

สภาพซอยจะดูไม่ค่อยสวยเหมือนด้านหน้าสุดละ แต่ว่าด้านในก็ยังเป็น Residential Zone อยู่นะครับ

ต่อมาอีกนิดก็จะมีพวกร้านค้า … เราเห็นประตูเล็กซึ่งเป็นทางเข้าของคอนโดแล้ว

ประตูที่มีรถมอเตอร์ไซค์จอดอยู่นี้เป็นทางเข้ารองนะครับ เอาไว้ให้เดินหรือขี่จักรยานออกมาเท่านั้น รถใหญ่เข้าไม่ได้

วัดจากตรงนี้ไปยังบันไดเลื่อนของ BTS สนามกีฬาแห่งชาติ หน้าปากซอยเกษมสันต์ 2 ได้เป็นระยะทาง 300 เมตรพอดีๆ

ข้างๆกันเป็นคอนโดอย่างปทุมวัน Oasis

นี่เป็นอีกตึกที่กำลังก่อสร้างอยู่

 

Happy Three Residence 8 ชั้นเหมือนกันครับ

ด้านในสุดที่ติดคลองแสนแสบ จะเป็น Condo One

ฝั่งตรงข้ามที่กั้นผ้าเขียวๆนี้เป็นทางเข้าหลักของ The Reserve

ฝั่งซ้ายติดกับตึกนี้ครับ ก็รับรองว่าบังวิวมิดแน่นอน

อีกฝั่งรั้วติดกับบ้านเลขที่ 2 นี่เลยครับ

มองย้อนกลับไปเห้นหน้าปากซอยลิบๆ

ถ้าเราเดินเข้าไปสุดก็จะเจอคลองแสนแสบ

ถ้าเดินข้ามไปก็จะเป็นชุมชนริมคลองครับ เด็กๆมาวิ่งเล่นกันอยู่หน้าคลองหลายคนเลย

จากการที่ไปเดินสำรวจในเวลาเย็นๆ คลองไม่ค่อยมีกลิ่นน้ำเท่าไรนะครับ ตรงนี้อาจจะเป็นเพราะผมไปผิดที่ผิดวันหรือเปล่าไม่ทราบ ก็รบกวนเพื่อนๆที่มีประสบการณ์อยู่แถวนี้ช่วยแชร์นิดนึงนะครับ

เด็กๆแกงค์นี้ละครับ ที่เล่นกันเสียงดัง

แต่ก็สู้เสียงเร่งเครื่องของเรือโดยสารไม่ได้นะครับ ซึ่งจะมาเป็นระยะๆ

หลังเรือแล่นผ่านไป น้ำในคลองก็จะกระเพื่อมเป็นระลอกๆ กระแทกฝั่งได้ยินเสียงบ้างเล็กๆน้อยๆ

ซึ่งที่ดินของโครงการ The Reserve นั้นติดคลองแสนแสบตามภาพนะครับ

เจาะลึกตัวโครงการ

ตัวโครงการมีด้วยกันทั้งหมด 2 อาคาร เป็น 2 ตึกที่หันเป็นตัว L เข้าหากัน โดยมีปากทางเข้าอยู่ติดกับซอยเกษมสันต์

ภาพด้านบนเป็นทางเข้าหลักนะครับ ซึ่งทางเข้ารองอยู่ข้างๆปทุมวัน Oasis

เข้าไปแล้วก็จะเจอ ลาน Drop Off แบบนี้ กับพื้นที่ส่วนกลางอยู่ตรงกลาง เป็น Court ด้านในระหว่าง 2 ตึก

วิวด้านในรับรองว่าสวยกว่าด้านนอกมาก เมื่อเทียบภาพด้านบนกับคลองแสนแสบหรือผนังตึก … แต่ของจริงคงต้องหารสองภาพด้านบนนิดนึงนะครับ มันเกินความจริงไปเยอะอยู่

หน้าตาของห้องรับรอง

ห้อง Tea Room

ภาพนี้ขายสระว่ายน้ำ ซึ่งหากดูจากมุมนี้จะเห็นว่าสองตึกนั้นชิดกันอยู่พอควรนะ ชั้นบนๆคงจะจ๊ะเอ๋กันแน่นอน

ให้ดูระยะห่างระหว่างตึกแบบจะๆอีกรอบครับ

 

ห้องฟิตเนส มีเครื่องเล่นประมาณเท่านี้

Feeling ของห้อง 2 Bedroom

แนวทางการตกแต่งห้องแบบ 1 Bedroom นะครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• สระว่ายน้ำ
• ห้อง Tea Room
• ห้องออกกำลังกาย
• สวนหย่อมรอบโครงการ
• ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ต่อหนึ่งอาคาร
• Service Lift ไม่มี
• ที่จอดรถ 50%
• ระบบ CCTV / Access Card

Product Walkthrough

Floor Plan ของ The Reserve เกษมสันต์ 3 นะครับ จากที่เราเห็นจะมีทางเข้าอยู่ด้วยกันทั้งหมด 2 ทาง คือ Sub Entrance ข้างๆปทุมวัน Oasis และ Entrance หลักตรงข้าม Condo One ที่ผมพาไปเยี่ยมชมทำเลกันมาแล้ว

ต่อไปจะเป็นเรื่องของการวาง Layout ตึกกันบ้าง โดยโครงการจะมีอาคาร 7 ชั้น พร้อมกับชั้นใต้ดิน 1 ชั้นอยู่ 2 อาคาร ที่จอดรถทั้งหมดโดนผลักลงใต้ดินไป คิดเป็น 50% ของจำนวนยูนิต ซึ่งจัดว่าน้อยเมื่อเทียบกับราคา 155,000 – 180,000 บาทต่อตารางเมตร

ตึก A จะอยู่ใกล้ทางเข้า Sub Entrance มากกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้า เพราะเดินใกล้กว่าตึก B มาก เข้าจาก Sub Entrance  แล้วก็ตรงเข้า Lobby / Lift ได้เลย ไม่ต้องเดินอ้อมตัด Court กลาง ผ่านสระว่ายน้ำเพื่อไปยัง Lobby ของตึก B

ข้อเสียของตึก A จะเป็นเรื่องที่โดนบังวิวแทบทุกด้าน … ฝั่งที่ติดประชิดแบบหลังอาคารปทุมวัน Oasis ทางโครงการก็เว้นช่องไว้เป็น Single Loaded Corridor ให้บางส่วน แต่โดยรวมจะเอาห้องเล็ก 28 ตารางเมตรไปไว้ในฝั่งที่โดนบังวิวเต็มๆ

ห้องที่ดูดีกว่าเพื่อนก็คือห้องที่อยู่ใน Court ด้านใน ซึ่งความกว้างของ Court ตามแนวกว้างของสระว่ายน้ำมีระยะห่างอยู่ประมาณ​ 12 – 15 เมตร ถ้าเลือกชั้นเตี้ยๆหน่อยก็จะมองเห็นสระว่ายน้ำเต็มๆได้วิวส่วนกลางไป ส่วนฝั่งที่หันตามยาวของสระว่ายน้ำนั้นไม่ต้องห่วงนะครับ ระยะห่างได้แบบสบายๆ

ตึก B จะเป็นตึกที่อยู่ติดกับคลองแสนแสบ มีฝั่งที่เป็น Single Loaded Corridor ที่เลือกจะหันหน้าเข้า Court ภายใน และฝั่งที่เป็น Double Loaded Corridor มองออกไปยังคลองแสนแสบ ซึ่งมีข้อกังวลในเรื่องของกลิ่นน้ำคลองและเสียงเรือด่วน แต่จะได้วิวที่เปิดโล่งมากกว่าครับ

สุดท้ายก็คือเรื่องของเสียงสวดมัสยิดที่รับรองว่าโดนทั้งโครงการ แต่จะมากหรือน้อย รับได้รับไม่ได้ ก็ต้องไปลองฟังกันเองนะครับ ปิดหน้าต่างเปิดแอร์ก็ช่วยได้เยอะ

อ่อ สุดท้ายของสุดท้ายอีกที คือห้องทุกห้องของโครงการนี้ทำเพดานค่อนข้างสูง อยู่ที่ 2.6 เมตร เพราะลดจำนวนชั้นลง จาก 8 ชั้น เหลือ 7 ชั้นนะครับ

เรามาดู Unit Plan กันบ้าง … แบบแรกที่เป็นห้อง Studio ขนาด 28 ตารางเมตร จัดเป็นห้องขนาดเล็กที่สุดของโครงการ มักจะอยู่ในตำแหน่งที่โดนบังวิวมิด โดยเป็นยูนิตซองลึกๆเข้าไป ไม่มีห้องนั่งเล่น เน้นแค่ห้องนอน ครัว ส่วนของ Walk-in Closet และห้องน้ำ … โซฟาไปนั่งเอาริมหน้าต่างและปลายเตียง เหมาะสำหรับอยู่คนเดียวนะครับ

ต่อมาเป็นแบบ 1 Bedroom ขนาดกลาง ที่ 39.5 – 44.5 ตารางเมตร จัดวางครัวอยู่หน้าประตู แยกเป็นสัดส่วนชัดเจนกับห้องพัก ซึ่งแบ่งเป็นห้องนั่งเล่น มุมทานข้าวและห้องนอน

สำหรับห้อง 39.5 ตารางเมตรนี้ให้พื้นที่ในห้องนอนเป็นพระเอก ใหญ่เป็นครึ่งหนึ่งของห้องทั้งหมด มีตู้เสื้อผ้ายาว เพียงพอ

ห้อง 44.5 เพิ่มฟังก์ชั่นมา 3 อย่าง ก็คือโต๊ะเครื่องแป้งในห้องนอน, อ่างอาบน้ำ และห้องรับประทานอาหาร ซึ่งสามารถใช้เป็นห้องซักรีดได้ด้วย … โดยรวมดูแล้วฟังก์ชั่นดีกว่าห้อง 39.5 ตารางเมตร เย๊อะ

ห้องขนาด 57 – 87 ตารางเมตร เป็นห้องแบบ 2 Bedrooms ที่มีขนาดต่างๆกัน โดยห้องเล็กสุดจะเป็นห้อง 2 Bedrooms 1 Bathroom ที่จะต้องแบ่งๆกันใช้ห้องน้ำ

โดยห้องขนาด 57 ตารางเมตร มีฟังก์ชั่นเด่นๆก็คือ อ่างอาบน้ำ, ตู้วางเครื่องซักผ้า, ครัวปิด, เฉลียงและที่วางรองเท้า แต่ก็จะมีข้อเสียตรงที่ห้องนอนทั้ง 2 ห้อง นั้นค่อนข้างเล็กมาก และไม่มีห้องน้ำในห้องนอนใหญ่

ห้องขนาด 71 ตารางเมตรพัฒนาขึ้นมาอีก ให้ห้องนั่งเล่นมีขนาดใหญ่ขึ้น ห้องนอน 2 เป็นสัดส่วนมากขึ้น แต่โดยรวมก็ไม่แตกต่างจาก 68 ตารางเมตรเท่าไรนัก

สุดท้ายห้อง 87 ตารางเมตร เติมฟังก์ชั่นห้องทำงานเข้ามาพร้อมกับห้องซักล้างด้านหน้า ปรับให้ฟ้องน้ำในห้องนอนใหญ่ดูอลังการมากขึ้น มีส่วนแต่งตัวอยู่ในห้องน้ำ และแยกฟังก์ชั่นเป็น His & Her ซิงก์ครับ

เนื่องจากโครงการนี้ไม่มีห้องตัวอย่าง ดังนั้นก็ต้องชม VDO ภาพจำลองแล้วก็ไปจินตนการต่อกันเองนะครับ ผมมีวีดีโอมาให้ชมด้วย เป็นของค่ายพฤกษาที่ฝากไว้ใน Youtube

https://www.youtube.com/watch?v=Xw4BXuiai28

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 24 Sep 2013

• Studio เริ่มต้น 28 ตารางเมตร ที่ 4.39 – 4.75 ล้านบาท คิดเป็น ตารางเมตรละ 155,000 – 170,000 บาท
• 1 Bedroom เริ่มต้น 38.5 – 44.6 ตารางเมตร ที่ 5.89 – 7.7 ล้านบาท คิดเป็น 152,000 – 172,000 บาท
• 2 Bedrooms เริ่มต้น 57.3 – 71.3 ตารางเมตร ที่ 9.7 – 12 ล้านบาท คิดเป็น ตารางเมตรละ 169,000 บาท
• 2 Bedrooms เริ่มต้น 87.2 ตารางเมตร ที่ 14.5 – 15 ล้านบาท คิดเป็น ตารางเมตรละ 172,000 บาท

• Fully Furnished
• เพดานสูง 2.6 เมตร
• จอง 100,000 – 200,000
• ดาวน์ประมาณ​ 10% – 12%
• ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
• ค่าส่วนกลาง 65 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน เก็บล่วงหน้า 2 ปี

เจาะลึกรวบยอด

โครงการ The Reserve มีทำเลที่จัดว่าดีมาก อยู่ใจกลางเมือง ฝั่งตรงข้าม MBK ใกล้ Siam สามารถเดินไปห้างต่างๆได้ อย่าง Paragon, Discovery, Center หรือแม้แต่ตัว Siam Square เอง จัดเป็น Prime Location ในภาพใหญ่ แต่พอมองในภาพเล็กแล้ว ก็ต้องบอกว่าโครงการ The Reserve มีข้อเสียของตัวทำเลอยู่เช่นกัน ซึ่งโครงการอยู่สุดซอยเกษมสันต์ 3 เป็นซอยเล็ก ตัวที่ดินติดกับคลองแสนแสบ ใกล้ชุมชนบ้านครัว และมีเสียงสวดของมัสยิดในบริเวณใกล้เคียง ทำให้มีทั้งข้อดีและข้อเสียในภาพใหญ่และเล็กที่ต่างๆกันไป หากจะเทียบทำเลกับโปรเจคเดิมของค่ายนี้ อย่าง The Seed Memories Siam แล้ว ก็ต้องตอบว่าทำเลสู้ของเดิมไม่ได้นะครับ The Seed Memories ดีกว่าอยู่ 2 ช่วงตัว ทั้งเรื่องเข้าซอยไม่ลึก สภาพซอยที่ดูดีกว่า ไม่ติดคลอง และเป็นซอยของนักท่องเที่ยวที่เข้ามา Jim Thompson Museum

ราคาของโครงการนี้เปิดมาสูงจากที่คาดว่าจะเปิด 4.59 ล้าน พอเปิดตัวจริงๆปรับลดลงมาต่ำเหลือเริ่มต้นที่ 4.39 ล้าน ทำให้ความคาดหวังต่างๆนั้นดีขึ้นพอควร กับราคาที่ต่ำลง แต่ถามว่าราคานี้เทียบกับพื้นที่ 28 ตารางเมตรแล้ว ถูกหรือแพง ผมก็ต้องตอบว่าไม่ถูกแน่ๆละ คอนโดตารางเมตรละ 155,000+ คงยังไม่ใช่ของถูกในปี 2013

พอไม่มีห้องตัวอย่าง เรื่องวัสดุก็ไม่สามารถให้ข้อมูลได้อย่างเต็มที่ รู้ว่าเป็น Fully Furnished แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะหรูหราระดับไหน ใช้ของเกรดดีไหม คุณภาพ Finishing เป็นอย่างไร สงสัยจะต้องรอลุ้นกันเต็มๆหลังก่อสร้างเสร็จในอีก 2 ปีข้างหน้า ตรงนี้ผมขอให้คะแนนกลางๆ เอาเป็นมาตรฐานไว้ก่อนนะครับ

ทำเลของ The Reserve ขับรถได้สะดวกอยู่นะ ใช้เส้นบรรทัดทองได้รถไม่ค่อยติด หากเทียบกับเส้นพระราม 1 และเส้นพญาไท แต่จุดสลบอาจจะเป็นเรื่องที่จอดรถที่มีให้อยู่ที่ 50% ซึ่งอาจจะไม่พอเพียงสำหรับคอนโดเกรด Luxury นี้นะครับ

การออกแบบจัดว่าโอเคนะ มุมตึกต่างๆก็คิดมาแล้วว่าจะให้ถูกบังน้อยที่สุด พยายามสร้าง Internal Space ให้มี Court สวยๆกลายเป็นมุมมองที่ดี ขึ้นมาทดแทนวิวและสภาพแวดล้อมรอบข้างที่ดูไม่ค่อยน่าพิสมัยเท่าไรนัก ตัวแบบโครงการและแบบห้องทำออกมาก็มีกลิ่นอายของความเป็น Classical European ทั้งตัวตึกและส่วนกลาง

อัตราส่วนต่างๆก็ต้องบอกว่าไม่หนาแน่น โดยการทำให้คอนโดเป็น 7 ชั้น ก็ช่วยได้มาก เปิดเพดานให้โปร่งขึ้น มีระยะเหนือฝ้ามากขึ้นทั้ง Floor to Floor และ Floor to Ceiling หากเทียบกับโครงการ 8 ชั้น ก็ต้องบอกว่าดีขึ้นละครับ เพราะคนเราอยู่ด้วย “ปริมาตร” ไม่ใช่ “พื้นที่” นะ จัดว่าดีแล้วสำหรับโครงการ Low Rise ครับ

สาธารณูปโภคดูเหมือนจะเน้นเป็นพิเศษให้มี Theme และดูสวยงาม สมกับเป็นคอนโดเกรด Luxury ซึ่งเวลาผมดูผ่าน VDO ก็พอๆจะเดาได้ว่าสวยดีอยู่ แต่สุดท้ายก็ต้องไปรอลุ้นตอนตึกสร้างเสร็จ ว่าผลงานจะออกมาเป็นอย่างไร สวยสมกับที่โฆษณาไหมนะครับ … แต่ในเรื่อง Function ต่างๆของ Facilities ผมก็ให้ผ่านครับ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 160,000 บาทต่อตารางเมตร, 23/09/2013

• ทำเล 8.5/10 – ใจกลางเมือง หายาก แต่สภาพแวดล้อมรอบข้างไม่ใคร่จะดีนัก
• เดินทางด้วยรถ 6.75/10 – ที่จอดรถน้อยไปนะ ซอยแคบ
• ไม่ใช้รถ 9.5/10 – เดินไป Siam Paragon ได้เลย
• วัสดุ 7.5/10 – Fully Furnished … รอดูของจริงตอนตึกเสร็จ ให้มาตรฐานไว้ก่อน
• แบบ 8/10 – ห้องสวย โครงการสวย มี Theme
• สาธารณูปโภค 7.75/10 – มีเยอะพอใช้ได้ แต่จะสวยเหมือนที่คุยหรือไม่ ต้องรอดู

• LUXURY CLASS
• 8.11/10.00

BOTTOM LINE

The Reserve เหมาะสำหรับคนที่ชอบอยู่ทำเลใจกลางเมืองใกล้สยามและมาบุญครอง เลือกที่จะอยู่คอนโด Low Rise ในซอยที่เดินไปไหนมาไหนสะดวก มีงบประมาณในระดับ 4 ล้านบาทขึ้นไป

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ