The Parkland Latphrao – Chokchai 4 คอนโด Low Rise ติดถนนลาดพร้าว – วังหิน ได้ส่วนกลางสไตล์รีสอร์ท จาก Narai Property [รีวิวฉบับที่ 2608]

The Parkland Latphrao – Chokchai 4 ( เดอะ พาร์คแลนด์ ลาดพร้าว – โชคชัย4 ) ณ วันที่ 23 สิงหาคม 2566

พิกัด Google Maps : 13.803434 , 100.591099
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากโครงการ แสดงตำแหน่งที่ตั้งของ The Parkland Latphrao – Chokchai 4 ( เดอะ พาร์คแลนด์ ลาดพร้าว – โชคชัย4 ) โดยทำเลตั้งอยู่ติดถนนลาดพร้าว – วังหิน ซึ่งเป็นย่านชุมชนที่มีคนอยู่อาศัยค่อนข้างหนาแน่น มีทั้งบ้านพักอาศัยเดิมในพื้นที่ และคอนโดแนวราบ ซึ่งส่วนใหญ่จะสร้างเสร็จนานแล้ว ปล่อยเช่าหรือขายเป็นมือสอง ราคาเริ่มต้น 2 – 3 ล้านบาท* โดยโครงการตั้งอยู่ติดถนนลาดพร้าว-วังหินช่วงต้นซอย ซึ่งมีจุดเด่นที่สามารถขับลัดเลาะไปออกถนนใหญ่ได้อีกหลายสาย อาทิ

• ถนนลาดพร้าว – 1.6 กิโลเมตร
• ถนนเลียบด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ – 3 กิโลเมตร
• ถนนรัชดาภิเษก – 3.5 กิโลเมตร
• ถนนประเสิรฐมนูญกิจ – 4.5 กิโลเมตร
• ถนนพหลโยธิน – 5.4 กิโลเมตร

นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้ทางด่วนถึง 2 สาย ทั้งทางด่วนฉลองรัช และดอนเมืองโทลเวย์ ในระยะ 3 – 6 กิโลเมตร จัดเป็นทำเลที่เหมาะกับคนที่เดินทางด้วยรถส่วนตัวทีเดียวค่ะ

ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะจากที่ตั้งของโครงการสามารถไปใช้รถไฟฟ้าได้ถึง 3 สายเลย ทั้งรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีห้าแยกลาดพร้าว รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT ลาดพร้าว และสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีภาวนา ซึ่งอยู่ห่างโครงการเพียง 1.2 กิโลเมตร โดยจากโครงการจะมี Shuttle Service รับ – ส่งที่สถานีด้วย (รายละเอียดสามารถสอบถามเพิ่มจากทางโครงการได้เลย)

ความอุดมสมบูรณ์ เป็นทำเลที่มีแหล่งอาหารการกินอยู่ใกล้ๆ มีทั้ง Hyper Market ร้านค้าและร้านอาหารอยู่เยอะพอสมควร ห่างจากโครงการ 750 เมตร มีตลาดวังหินยิ่งเจริญ เหมาะกับคนที่ชอบเดินตลาดหาของสดมาตุนไว้ทำอาหาร ขยับไปอีกจะมี The Shelter โชคชัย 4 จัดเป็น Community Mall สำหรับชาวลาดพร้าว มี The Jas วังหิน ซึ่งมีร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกอยู่เยอะเช่นกัน จัดเป็นย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง กระจายตัวอยู่ตลอด 2 ข้างถนน ทั้งลาดพร้าว – วังหิน , โชคชัย 4 และนาคนิวาส

สำหรับใครที่ชอบเดินห้าง ในทำเลโซนนี้ก็ถือว่าสะดวกเลยค่ะ เพราะใกล้ห้างใหญ่หลายแห่งในระยะ 3 – 5 กิโลเมตร อย่างบนถนนเลียบด่วน – รามอินทรา ก็จะมี Central Festival East Ville , Crystal Park และบนถนนพหลโยธินก็มีห้างใหญ่ที่เป็น Landmark อย่าง Central ลาดพร้าว , Union Mall , Major รัชโยธิน

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

The Parkland Latphrao – Chokchai 4 ด้านหน้าติดกับถนนลาดพร้าว – วังหิน ซึ่งจะอยู่ตรงโค้งพอดี คนที่มาจากฝั่งถนนลาดพร้าว สามารถเลี้ยวซ้ายเข้าได้ง่าย แต่คนที่มาจากฝั่งรัชดาอาจจะต้องใช้ความระมัดระวังนิดนึงนะคะ โดยจากถนนหลักขยับเข้ามา 150 เมตร จะถึงส่วนอาคารพักอาศัยของโครงการ สภาพแวดล้อมรอบข้าง ค่อนข้างเปิดโล่ง ยกเว้นฝั่งทิศตะวันตก จะมีอาคารเรียนสูงประมาณ 4 – 5 ชั้น แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะประชิด ส่วนตัวเรามองว่าไม่ได้ส่งผลต่อการอยู่อาศัย แต่อาจมีเรื่องเสียงบ้างนิดหน่อยค่ะ

• ทิศเหนือ ติดกับ ทางเข้าโครงการ , ถนนลาดพร้าว – วังหิน
• ทิศใต้ ติดกับ ที่ดินเปล่า , กลุ่มอาคารแนวราบ
• ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินเปล่า อาคารแนวราบ ฝั่งถนนติดอาคารสูง 3 – 5 ชั้น
• ทิศตะวันตก ติดกับ อาคารเรียนสูง 4 – 5 ชั้น

สำนักงานขาย

สำนักงานขายตั้งอยู่บริเวณที่ตั้งโครงการเลย โดยอยู่ติดถนนลาดพร้าว – วังหิน สังเกตเห็นได้ง่าย ภายในมีที่จอดรถให้บริการ พร้อมกับโมเดล และห้องตัวอย่างให้ได้ชมกันถึง 3 แบบเลยค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• ตลาดวังหินยิ่งเจริญ ~ 750 เมตร
• The Shelter โชคชัย 4 ~ 1.3 กิโลเมตร
• Plaza Lagoon ~ 1.8 กิโลเมตร
• ตลาดโชคชัย 4 ~ 2.0 กิโลเมตร
• The Jas วังหิน ~ 2.3 กิโลเมตร
• Central Festival EastVille ~ 3.0 กิโลเมตร
• ตลาดนัดเสือใหญ่อุทิศ ~ 3.1 กิโลเมตร
• Lotus’s go fresh วังหิน ~ 3.2 กิโลเมตร
• Home Pro เลียบด่วน ~ 3.6 กิโลเมตร
• Crystal Park ~ 3.7 กิโลเมตร
• Tesco Lotus เลียบด่วน ~ 4.1 กิโลเมตร
• Crystal Design Center (CDC) ~ 4.6 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลเปาโลโชคชัย 4 ~ 750 เมตร
• โรงพยาบาลเปาโลเกษตร ~ 5.5 กิโลเมตร

โรงเรียน

• มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม ~ 4.4 กิโลเมตร
• โรงเรียนสตรีวิทยา ~ 5.2 กิโลเมตร
• มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 10.2 กิโลเมตร

การเดินทาง

• MRT สถานีภาวนา (สายสีเหลือง) ~ 1.2 กิโลเมตร
• MRT สถานีลาดพร้าว (สายสีน้ำเงิน) ~ 3.1 กิโลเมตร
• BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าว ~ 8.3 กิโลเมตร

The Parkland Latphrao – Chokchai 4 ( เดอะ พาร์คแลนด์ ลาดพร้าว – โชคชัย4 ) เป็นกลุ่มคอนโด Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร ตั้งอยู่ติดถนนลาดพร้าว – วังหิน จาก Narai Property โดยมีเนื้อที่ 7 – 3 – 55 ไร่ รวมทั้งหมด 714 ยูนิต ร้านค้า 1 ยูนิต แบ่งเป็น

• อาคาร A จำนวน 183 ยูนิต 1 ร้านค้า
• อาคาร B จำนวน 177 ยูนิต
• อาคาร C จำนวน 161 ยูนิต
• อาคาร D จำนวน 193 ยูนิต

จุดเด่นของโครงการอยู่ที่การจัดวางตำแหน่งอาคาร ที่นอกจากทั้ง 4 อาคารจะได้วิวพื้นที่ส่วนกลางแล้วยังได้ความเป็นส่วนตัวสูงอีกด้วย โดยการออกแบบจะเป็นรูปทรงตัว L ทั้งหมด แต่มีการจัดวางที่แตกต่างกัน ทำให้สามารถแบ่งพื้นที่อาคารได้เป็น 2 ส่วน คือ อาคาร A และ B อยู่ด้านหน้าติดกับทางเข้า เป็นส่วนที่เข้า – ออกได้ง่าย และทำหน้าที่เป็นแนวบังสายตาให้กับพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ด้านใน ซึ่งถูกล้อมไว้ด้วยอาคาร C และ D ที่อยู่อีกฝั่ง เป็นการจัดวางที่ไม่ได้เปิดโล่งทั้งหมด ได้บรรยากาศเหมือนการจัดทางเดินในรีสอร์ท ซึ่งบรรยากาศการตกแต่งก็ร่มรื่นด้วยพื้นที่สีเขียว 1 ไร่กว่า จัดเต็มให้ตามสไตล์ The Parkland ภายในโครงการจะมีอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง ไปชมกันเลยค่ะ

จาก Masterplan โครงการเห็นถนนหลักที่อยู่ด้านหน้าคือถนนลาดพร้าว – วังหิน ก่อนจะถึงอาคารที่เป็นส่วนพักอาศัย ต้องผ่านถนนภายในโครงการเข้ามา 150 เมตร โดยซุ้มทางเข้าจะอยู่ถัดเข้ามาด้านใน ซึ่งทำให้เวลารถเลี้ยวเข้า – ออกไม่ต้องออกันด้านหน้าให้แออัด ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวให้กับโครงการได้ สำหรับ Visitor สามารถจอดรถที่ถนนด้านหน้าได้เลย ไม่ต้องเข้ามาวนหาให้เสียเวลา การเข้า – ออกโครงการใช้ระบบจดจำป้ายทะเบียน ถือว่าค่อนข้างสะดวกกับลูกบ้านทีเดียวค่ะ

ข้ามสะพานผ่านคลองเข้ามาก็จะถึงส่วนอาคารพักอาศัย ในภาพจะเห็นเส้นกรอบสีดำแสดงขอบเขตของทั้ง 4 อาคาร วางขนานในทิศเหนือ – ใต้ ซึ่ง Masterplan แสดงพื้นที่ใช้งานที่ Ground Floor จึงทำให้เห็นพื้นที่จอดรถซึ่งจะมีทั้งใต้อาคารและด้านนอกรอบๆโครงการ สำหรับอาคาร A และ B จะมีพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 1 ด้วย

ในอาคาร A จะมี Main Lobby , Fitness และห้องนิติบุคคล ส่วนอาคาร B เป็น Co – Working Space ขนาดใหญ่ เดินเชื่อมต่อใช้งานกันได้ 2 อาคาร ซึ่งสามารถมองเห็นวิวสวนและสระว่ายน้ำที่ได้หลังได้ด้วย โดยแต่ละอาคารก็จะมี Lobby แยกใช้งานเป็นสัดส่วน ได้ลิฟต์โดยสารมา 2 ตัว/อาคาร ส่วนพักอาศัยในอาคาร A – C จะเริ่มที่ชั้น 2 – 8 แต่ในอาคาร D จะเริ่มมีห้องพักอาศัยที่ชั้น 1 บางส่วน

โมเดลแสดงภาพรวมของโครงการเห็นตั้งแต่ถนนทางเข้าไปจนถึงส่วนอาคารพักอาศัย เห็นแนวต้นไม้ทั้ง 2 ข้างทางดูร่มรื่น ตัวอาคารออกแบบโดยใช้สีเทาและน้ำตาล คล้ายวัสดุธรรมชาติอย่างหินและไม้ ดูกลมกลืนเข้ากับบรรยากาศ

ซุ้มทางเข้าโครงการออกแบบเป็นหลังคาทรงสูง ดูโอ่อ่า ทางเข้า – ออกแยกเป็น 2 ฝั่งชัดเจน คั่นกลางด้วยป้อมรปภ. คอยดูแลความปลอดภัย

เมื่อผ่านสะพานข้ามคลองเข้ามาจะเจอ Drop off หน้าอาคาร A และ B โดยที่ส่วนนี้มีที่จอดรถหน้าอาคารไว้รองรับด้วย ส่วนตัวเราชอบทางเดินที่อยู่ตรงกลางระหว่างอาคาร สามารถใช้เดินทะลุไปสวนขนาดใหญ่ที่เปิดโล่งกลางโครงการได้ ถือเป็นการช่วยเปลี่ยนบรรยากาศให้ดูแกรนด์มากขึ้นนะคะ

ภาพรวมการจัดวางอาคารจากโมเดลโครงการ มองเห็นสวนสีเขียวขนาดใหญ่ได้พื้นที่มาไร่กว่าถูกล้อมไว้ด้วยอาคารทั้ง 4 ด้าน ตรงกลางเป็นสระว่ายน้ำได้ความยาวมาเทียบเท่า Half Olympic เลย

นอกจากพื้นที่จอดรถใต้อาคาร รอบๆยังมีที่จอดด้านนอกไว้รองรับ ซึ่งระหว่างอาคาร A และ D จะมีลานจอดขนาดใหญ่อยู่ติดกับพื้นที่สวนเลย โดยโครงการจัดที่จอดมาให้ 35% จัดว่าพอใช้งานได้ และมี EV Charger ไว้สำหรับลูกบ้านที่มีรถไฟฟ้า สามารถมาใช้ชาร์จจอดได้ด้วยนะ

ภาพจำลองบรรยากาศส่วน Drop off ด้านหน้า เมื่อเข้ามาจะเจอสวนขนาดเล็กตกแต่งด้วยม่านน้ำตกดูสดชื่น สบายตา มีต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ดูร่มรื่น ผ่อนคลาย

ภาพจำลองบรรยากาศโครงการจากมุมสูง เห็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ตรงกลาง มีทางเดิน Free From อยู่ด้วยรอบ นอกจากใช้เป็นทางเดินเล่นได้แล้ว ยังใช้เป็น Jogging Track ไว้ออกกำลังกายได้ด้วยนะคะ

พื้นที่ส่วนกลางภายในอาคารก็ออกแบบมาได้ดูหรูหรา น่าใช้งาน ฝ้าเพดานเป็น Double Volume ได้ความรู้สึกโปร่งโล่ง มองออกไปเห็นวิวสวนสีเขียวด้านนอก

ภาพจำลองบรรยากาศสวนภายในโครงการ ได้บรรยากาศเหมือนสวนป่า จัดเต็มด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ ไว้ให้ลูกบ้านออกมาเดินเล่นสูดอากาศสดชื่นได้ ทั้งยังมี Pavilion ใช้นั่งพักผ่อน ชมวิวสบายๆได้ด้วย

สระว่ายน้ำโครงการเป็นระบบเกลือได้มาขนาด 7 x 25 เมตร มีการแบ่งพื้นที่สระเด็ก รองรับการใช้งานของลูกบ้านที่อยู่กันเป็นครอบครัวได้ โดยตำแหน่งจะอยู่ระหว่างอาคาร A และ D ด้านข้างสระมีพื้นที่วาง Sunbed ไว้นอนเล่นสบายๆ ติดกันเป็น Fitness ที่อยู่ในอาคาร A และจาก Co – Working Space ในอาคาร B ก็สามารถเห็นได้ทั้งวิวสวนและสระว่ายน้ำเลย

แปลนชั้นพักอาศัยอาคาร A

แปลนของอาคารที่เราจะพาไปชมกันคือ อาคาร A และ D ที่จะเปิดขายให้จับจองกันก่อนเร็วๆนี้ ซึ่งทำเลของอาคารจะอยู่ล้อมพื้นที่ส่วนกลาง ได้วิวสวยๆของสวนและสระว่ายน้ำไปแบบเต็มๆเลย เริ่มที่แปลนของอาคาร A จากชั้น 1 เป็นที่จอดรถ , Main Lobby , Fittness ซึ่งสามารถเดินออกไปใช้งานสระว่ายน้ำด้านนอกได้เลย และมีร้านค้า 1 ยูนิต ส่วนชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2 – 8 โดยชั้น 2 จะมีจำนวนยูนิตสูงสุด 21 ยูนิตต่อชั้น มีทางเดินทั้งแบบ Single Corridor และ Double Corridor ซึ่งในชั้น 2 นี้จะมีรูปแบบห้องให้เลือกครบทุก Type ค่ะ

สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว ไม่อยากเปิดประตูห้องมาชนกับใคร ก็มี 1 Bedroom Type A ขนาดเริ่มต้น และ 1 Bedroom Type E ขนาดใหญ่สุดให้เลือก (กรอบสีเหลือง) ได้ทั้งความเป็นส่วนตัว วิวส่วนกลาง และยังเป็นตำแหน่งที่อยู่ใกล้กับโถงลิฟต์ ไม่ต้องเดินไกลส่วนคนที่อยากได้ห้อง 1 Bedroom Plus (กรอบสีแดง) จะมีเพียง 3 ยูนิต 2 ชั้น ฝั่งที่มองเห็นวิวส่วนกลางจะหันหน้าไปทางทิศใต้ ส่วนอีกฝั่งจะได้เป็นห้องมุม หันหน้าไปทางทิศเหนือ ซึ่งถือเป็นทิศยอดนิยมในการเลือกห้องเลยนะคะ

ขึ้นมาที่ชั้น 3 ของอาคาร A จะเป็นแปลนที่มีลักษณะเป็นแบบ Typical เหมือนกันไปจนถึงชั้น 8 โดยส่วนที่เพิ่มเข้ามาก็คือ ห้อง 1 Bedroom Plus (กรอบสีแดง) ที่หันหน้าไปทางทิศใต้ ซึ่งได้มาเป็นห้องมุมทั้ง 2 ห้องเลย และยังเป็นตำแหน่งที่ได้ทางเดินแบบ Single Corridor ส่วนห้องที่เพิ่มเข้ามาฝั่งทิศตะวันออกจะมีห้อง 1 Bedroom ให้เลือกตั้งแต่ Type A – C ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของแปลนอาคาร A เลย เหมาะกับคนที่ไม่ได้เน้นวิวส่วนกลาง อยากได้ห้องในตำแหน่งที่ไม่โดนแดด (ทิศเหนือ – ตะวันออก) และได้ราคาที่หยิบจับง่ายกว่า โดยจำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นอยู่ที่ 27 ยูนิตค่ะ

แปลนชั้นพักอาศัยอาคาร D

อาคาร D ห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 1 บางส่วน มีทั้งหมด 4 ยูนิต เป็น Type A , B , C และ E ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เดินเข้า – ออกง่าย ใกล้ที่จอดรถ ไม่ต้องยืนรอลิฟต์ ทั้งยังได้วิวส่วนกลาง แต่อาจจะพลุกพล่านสักหน่อย ขึ้นมีที่ชั้นบนจะมีการจัดตำแหน่งห้องเหมือนกันตั้งแต่ชั้น 2 – 8 ตำแหน่งลิฟต์จะอยู่ตรงกลางพอดี ทำให้ลูกบ้านที่อยู่ในอาคารทั้ง 2 ฝั่งเดินได้ในระยะที่พอๆกัน จำนวนยูนิตสูงสุดได้มา 27 ยูนิตต่อชั้น ห้อง 1 Bedroom Plus มีทั้งหมด 4 ยูนิต ซึ่งจะได้เป็นห้องมุมทั้งหมด สำหรับคนที่อยากได้วิวส่วนกลาง ก็มีให้เลือกทุก Type เลยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• Lobby และ Mailbox แยกทุกอาคาร
• Fitness (อาคาร A)
• Co – Working Space (อาคาร B)
• Meeting Room (อาคาร B)
• Game Room (อาคาร B)
• Meeting Pods (อาคาร B)
• สวนหย่อมภายในโครงการ ขนาด 1 ไร่กว่า
• สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 7 x 25 เมตร ลึก 1.20 เมตร
• มีการแบ่งสระเด็ก ลึก 0.60 เมตร ขนาดประมาณ 6.3×4.2 เมตร
• ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 89 : 1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 92 : 1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 89 : 1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก C 81 : 1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก D 97 : 1
• ที่จอดรถประมาณ 250 คันคิดเป็น 35% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
• EV Charger
• Shuttle Service รับ – ส่งสถานีรถไฟฟ้า
• การเข้า – ออกโครงการใช้ระบบจดจำป้ายทะเบียน
• ระบบรักษาความปลอดภัยในอาคาร Keycard Access / CCTV

รูปแบบห้องพักอศัยในโครงการ The Parkland Latphrao – Chokchai4 ( เดอะ พาร์คแลนด์ ลาดพร้าว – โชคชัย4 ) มีให้เลือก 5 แบบด้วยกัน ซึ่งเป็นรูปแบบห้องที่มีฟังก์ชันแตกต่างกันชัดเจน แต่ได้ครัวปิดเหมือนกันทุกยูนิต มีพื้นที่ใช้สอย 25.00 – 36.50 ตร.ม.ให้เลือก โดยขายแบบ Fully Fitted ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท* ซึ่งจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

• 1 Bedroom (Type A) พื้นที่ใช้สอยภายใน 25.00 – 27.00 ตร.ม.
• 1 Bedroom (Type B) พื้นที่ใช้สอยภายใน 30.50 – 31.00 ตร.ม.
• 1 Bedroom (Type C) พื้นที่ใช้สอยภายใน 30.00 – 31.00 ตร.ม.
• 1 Bedroom (Type E) พื้นที่ใช้สอยภายใน 34.50 – 35.50 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus (Type F) พื้นที่ใช้สอยภายใน 35.50 – 36.50 ตร.ม.

วัสดุในห้อง

• วัสดุปูพื้น SPC ความหนา 4 มิลลิเมตร
• รูปแบบการขาย Fully Fitted
• Digital Door Lock ระบบ Finger Scan / Key Card /Application / Password และ กุญแจ

ห้องครัว

• ท็อปเคาน์เตอร์หินสังเคราะห์
• หน้าบานปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้
• Hob , Hood และ Sink จาก TEKA

ห้องน้ำ

• วัสดุพื้นห้องน้ำ เซรามิก ขนาด 60×60 เซนติเมตร
• อ่างล้างมือ สุขภัณฑ์และฝักบัวจากยี่ห้อ American Standard
• ฉากกั้นอาบน้ำ กระจกเทมเปอร์
• เครื่องทำน้ำอุ่น จากยี่ห้อ Stiebel Eltron

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

1 Bedroom 25.00 – 27.00 ตร.ม. (Type A)

รูปแบบห้องแรกที่เราจะพาไปชมกันก็คือ ห้อง 1 Bedroom Type A พื้นที่ใช้สอย 25.00 – 27.00 ตร.ม. เป็นไซส์ห้องเริ่มต้นที่ได้ฟังก์ชันมาตรฐาน แบ่งกั้นเป็นสัดส่วน มีจุดเด่นอยู่ที่ห้องครัวปิด ติดกับระเบียง ซึ่งเป็นจุดเด่นของห้องพักอาศัยในโครงการนี้เลยนะคะ เหมาะกับคนชอบทำอาหารแบบจริงจัง ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นที่จะเข้าไปรบกวนในส่วนพักผ่อนเลย ทั้งยังสามารถเปิดประตูระเบียงเพื่อระบายกลิ่นหรืออากาศได้ดีด้วย ส่วนห้องนอนและห้องนั่งเล่นกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ทำให้แสงธรรมชาติด้านนอกส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องได้อย่างทั่วถึง

เมื่อเข้ามาในห้อง จะเจอส่วนนั่งเล่นอยู่ติดกับประตูทางเข้า มองไปเห็นห้องนอน ซึ่งกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอนอีกชั้น วัสดุพื้นเป็นกระเบื้องยาง SPC ลายไม้ ความหนา 4 มิลลิเมตร ซึ่งทนความชื้น รอยขีดข่วนและรับแรงกระแทกได้ดีกว่ากระเบื้องยางทั่วไป โดยความสูงจากพื้นถึงฝ้าได้มา 2.40 เมตรเป็นมาตรฐาน

ส่วนนั่งเล่นเรามองว่าได้มาค่อนข้างกว้างเลยนะ ประมาณ 2.52×3.20 เมตร ในห้องตัวอย่างจะเห็นว่าสามารถวางโซฟา 2 ที่นั่งพร้อม Daybed ได้แบบสบายๆ ด้านข้างวางโต๊ะและเก้าอี้ครบชุดจัดเป็นมุมทานอาหารหรือไว้นั่งทำงานก็สะดวก

ผนังอีกฝั่งจัดเป็นมุมวางตู้รองเท้าติดกับประตูทางเข้า และชั้นวางที่สามารถวางทีวีขนาด 40 – 44″ ได้เต็มสายตาพอดี ด้านข้างเป็นส่วนครัวที่โครงการกั้นประตูกระจกมาให้เป็นสัดส่วน

ห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอนขนาดใหญ่แยกออกจากส่วนนั่งเล่น แต่ยังช่วยให้ภายในห้องได้บรรยากาศโปร่งโล่ง

ห้องนอนได้ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้า Built – in สูงถึงฝ้าเหมือนในห้องตัวอย่างเลย

เตียงนอนวางติดตู้เสื้อผ้าได้ชิดพอดี โดยเหลือพื้นที่ปลายเตียงกว้าง 22 เซนติเมตร สำหรับคนที่ชอบดูทีวีก่อนนอน ก็สามารถติดตั้งทีวีแขวนผนังได้ เพราะโครงการเตรียมปลั๊กและงานระบบไว้ให้เรียบร้อย ด้านข้างหน้าตู้เสื้อผ้า เหลือพื้นที่กว้าง 90 เซนติเมตร ใช้ยืนแต่งตัวได้สะดวก

ตู้เสื้อผ้า Built – in ได้มาเป็นบานเลื่อนกระจกใส เปิดเลื่อนได้ทั้ง 2 ฝั่ง ด้านในได้เป็นชั้นวาง ราวแขวนผ้า และลิ้นชักติดตั้งมาให้เรียบร้อย พร้อมใช้งาน

ถัดมาเป็นห้องครัว ได้ประตูบานเลื่อนกั้นปิดแยกเป็นสัดส่วน พร้อมเคาน์เตอร์ Built – in ครบชุดเหมือนในห้องตัวอย่าง ด้านข้างติดกับระเบียง สามารถเปิดประตูเพื่อใช้ระบายกลิ่นเวลาทำอาหารได้

เคาน์เตอร์ครัวได้ท็อปเป็นหินสังเคราะห์สีขาว ดูแข็งแรง ทนทาน ติดตั้งมาพร้อมอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันจากยี่ห้อ TEKA ด้านบนเป็นตู้ที่มีบานปิดติดตั้งมาให้เรียบร้อยพร้อมชั้นวาง ได้ช่องสำหรับใส่ไมโครเวฟ เอื้อมเปิด – ปิดใช้งานได้ ด้านล่างแบ่งเป็นตู้เก็บของชิ้นใหญ่ใต้อ่างได้ มีลิ้นชัก ช่องเก็บของ และช่องใส่เครื่องซักผ้าใช้งานได้ภายในห้อง ไม่ต้องออกไปด้านนอก

ติดกับเคาน์เตอร์เหลือพื้นที่กว้าง 1.25 เมตร ใช้เป็นช่องวางตู้เย็น หรือชั้นวางเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของได้ วัสดุพื้นเป็น SPC เหมือนส่วนพักผ่อน อาจไม่ทนความร้อน หรือทำความสะอาดง่ายเหมือนกระเบื้อง แต่ก็ถือว่าพอใช้งานได้

ระเบียงด้านนอกได้มาขนาด 1.07×1.39 เมตร คอมเพรสเซอร์ยกขึ้นไปแขวนด้านบน ทำให้สามารถใช้งานพื้นที่ระเบียงได้แบบเต็มที่ โดยโครงการติดก็อกน้ำมาให้ สามารถใช้เป็นมุมซักล้างได้ด้วย

ห้องน้ำได้เป็นแบบหน้ากว้าง แยกพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งมาให้ชัดเจน ทำให้ใช้งานและทำความสะอาดได้ง่าย พื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิก พร้อมติดพัดลมระบายอากาศมาให้เรียบร้อย

อ่างล้างมือวางบนเคาน์เตอร์ได้มาขนาดค่อนข้างใหญ่ ด้านล่างมีช่องใส่อุปกรณ์ในห้องน้ำหรือของใช้ส่วนตัวได้ มีบานปิดติดตั้งมาให้เรียบร้อย โดยอุปกรณ์ต่างๆได้มาครบชุดจากยี่ห้อ American Standard บนผนังติดตั้งปลั้กพร้อมกรอบกันน้ำ ใช้เสียบไดร์เป่าผมหลังสระได้ สะดวกเลย

ฉากกั้นอาบน้ำเป็นกระจกเปลือย ติดตั้งมาให้เป็นแบบบานเปิด โดยได้แถมมาจากโครงการเลย ที่มือจับได้เป็นตัว L ใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ด้วย

ส่วนยืนอาบ มีการทำขอบขึ้นมาเล็กน้อย ช่วยกั้นพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน และป้องกันน้ำไหลออกสู่ภายนอกได้ ภายในได้มาขนาด 0.79×0.97 เมตร ฝักบัวได้เป็น Hand Shower จากยี่ห้อ American Standard นอกจากฉากกั้นยังได้เครื่องทำน้ำอุ่นยี่ห้อ Stiebel Eltron แถมมาให้ด้วย

1 Bedroom 30.00 – 31.00 ตร.ม. (Type C)

ถัดมาเป็นรูปแบบห้อง 1 Bedroom Type C ได้พื้นที่ใช้สอย 30.00 – 31.00 ตร.ม. ส่วนตัวเรามองว่า Type นี้มีฟังก์ชันหลายจุดที่น่าสนใจทีเดียว เริ่มตั้งแต่ทางเข้าที่ได้ห้องครัวขนาดใหญ่ สามารถแบ่งพื้นที่ได้เป็น 2 ฝั่งแล้วยังเหลือพื้นที่ตรงกลางไว้ใช้งานได้แบบสบายๆ ส่วนห้องน้ำอยู่ติดกับครัว เดินเชื่อมต่อใช้งานได้สะดวก ซึ่งส่วน Service นี้แยกจากพื้นที่พักผ่อนชัดเจนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน เมื่อเข้ามาในส่วนพักผ่อน บรรยากาศดูโปร่งโล่งมาก เพราะได้ช่องเปิดขนาดใหญ่ทั้งในส่วนนั่งเล่นและในห้องนอน ซึ่งเราค่อนข้างชอบพื้นที่นั่งเล่นที่อยู่ติดกับระเบียงเลยค่ะ ส่วนห้องนอนได้มาเป็นแบบหน้ากว้าง ด้านในมีห้องน้ำอยู่ติดกับส่วนแต่งตัว ได้ความรู้สึกเหมือนห้อง Master Bedroom ในบ้านค่ะ

ห้องครัวได้หน้ากว้างประมาณ 2.45 เมตร สามารถแบ่งพื้นที่ใช้งานออกเป็น 2 ฝั่ง ยืนทำครัวพร้อมกัน 2 คนได้สบายๆ โดยในห้องตัวอย่างได้ Built – in เคาน์เตอร์มาให้ฝั่งนึงเกือบเต็มผนัง ได้วัสดุและอุปกรณ์ครบชุดเหมือนในห้องที่แล้วเลย ส่วนอีกฝั่งติดกับประตูทางเข้าเป็นตู้รองเท้าที่โครงการ Built – in มาให้เป็นไอเดียแบบสูงถึงฝ้า ชั้นล่างวางรองเท้า ชั้นบนใช้เป็นตู้เก็บกระเป๋าหรือของใช้เล็กๆได้

ห้องน้ำอยู่ติดกับครัว ภายในแยกพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้ชัดเจน อุปกรณ์ต่างๆได้มาครบชุดจากยี่ห้อ American Standard ส่วนอาบน้ำได้ขนาด 0.88×1.00 เมตร ยืนอาบได้สะดวก มาพร้อมฉากกั้นกระจกจากโครงการ เครื่องทำน้ำอุ่นและพัดลมดูดอากาศติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน

ถัดเข้ามาด้านในเป็นส่วนนั่งเล่นและห้องนอนที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกใสอีกชั้น ช่วยทำให้บรรยากาศในห้องดูกว้าง และโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น ด้านข้างติดกับระเบียง สามารถเปิดประตูบานเลื่อนเพื่อระบายอากาศ หรือรับลมธรรมชาติได้ในวันที่อากาศดีๆค่ะ

ส่วนนั่งเล่น ผนังด้านนึงติดตั้งตู้หรือชั้นวางทีวีได้ สำหรับคนที่ชอบดูจอใหญ่ ก็ติดตั้งได้ตั้งแต่ 40″ ขึ้นไปนะคะ ส่วนอีกมุมจัดเป็นที่วางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง หรือ Built – in เป็นมุมเก็บของหรือโต๊ะทำงาน เชื่อมต่อกับชั้นวางทีวีเต็มผนัง ก็ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าพอสมควรเลย

ระเบียงอยู่ติดพื้นที่นั่งเล่น กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอน ส่วนตัวเรามองว่าน่าจะถูกใจสาย WFH ที่ใช้เวลาในห้องนั่งเล่นเป็นส่วนใหญ่ นั่งทำงานไปรับลม ชมวิวด้านนอกไป ก็ช่วยผ่อนคลายได้ดีนะคะ หรือจะออกมาสูดอากาศที่ระเบียง ก็ได้ขนาดมา 0.59×2.37 เมตร จัดเป็นมุมนั่งเล่นหรือวางไม้กระถางเล็กๆ ก็ทำให้ห้องดูสดชื่นขึ้นได้

ถัดมาอีกฝั่งเป็นห้องนอน กั้นแยกจากส่วนนั่งเล่นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกใส 2 ตอน ทำให้ห้องดูกว้างและโปร่งโล่ง แต่ยังทำให้ห้องเป็นสัดส่วน คนที่นอนบนเตียงสามารถมองเห็นคนที่เข้ามาในห้อง หรือนั่งดูทีวีอยู่ในส่วนนั่งเล่นได้ด้วย

เข้ามาในห้องนอน ได้พื้นที่วางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุต แล้วยังเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะเครื่องแป้งจัดเป็นมุมแต่งตัวภายในห้องได้ ด้านข้างติดกับหน้าต่าง แบ่งเป็นบาน Fix กระจก 1 จุดและบานกระทุ้ง 1 จุด ช่วยทำให้ภายในห้องนอนได้แสงจากธรรมชาติไปด้วย

ตู้เสื้อผ้าทำมาเป็นช่องขนาด 0.70×1.80 เมตร ปิดด้านหน้าด้วยประตูบานเลื่อนกระจกใส 2 ตอน ใช้เลื่อนสลับได้ ด้านในตู้โครงการ Built – in มาให้ ติดตั้งชั้นวาง ลิ้นชัก และราวแขวนผ้ามาเรียบร้อย สำหรับคนที่มีของส่วนตัวเยอะ ก็สามารถ Built – in เพิ่มเองได้ ซึ่งก็สามารถปรับเปลี่ยนดีไซน์ได้ตามชอบเลยค่ะ

ปลั๊กและสวิตช์ไฟติดตั้งมาพร้อมใช้งานจากยี่ห้อ Bticino หรือเทียบเท่า

1 Bedroom 35.50 – 36.50 ตร.ม. (Type F)

ห้องสุดท้ายที่เราเก็บภาพมาให้ชมคือ 1 Bedroom Plus Type F ซึ่งเป็นขนาดใหญ่สุดในโครงการ ได้พื้นที่ใช้สอย 35.50 – 36.50 ตร.ม. ฟังก์ชันได้เป็นส่วนครัวปิดที่ด้านหน้า กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกแบบเข้ามุม สามารถเปิดได้ทั้ง 2 ฝั่ง ดูเป็นสัดส่วน ส่วนนั่งเล่นอยู่ตรงกลางห้อง ทำหน้าที่เป็น Common Area เชื่อมต่อส่วนต่างๆ จุดเด่นของห้องนี้นอกจากได้ห้อง Plus เพิ่มเข้ามาแล้ว ยังได้ฟังก์ชันติดระเบียง เปิดเชื่อมต่อใช้งานได้

ติดกันเป็นห้องนอนที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยประตูบานทึบ มี Walk – in Closet แยกเป็นสัดส่วนในห้อง ส่วนห้องน้ำสามารถเปิดเข้าได้จากทั้ง 2 ทาง สะดวกทั้งกับเจ้าของห้อง ที่สามารถเดินใช้งานนได้ง่าย ยังสะดวกกับแขกที่มาใช้งาน ไม่ต้องผ่านพื้นที่ส่วนตัวอย่างห้องนอน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวค่ะ

The Parkland Latphrao – Chokchai 4 ราคา ณ วันที่ 23 สิงหาคม 2566

• 1 Bedroom (Type A,B,C,E) พื้นที่ใช้สอยภายใน 25.00 – 35.50 ตร.ม.
  1 Bedroom Plus (Type F) พื้นที่ใช้สอยภายใน 35.50 – 36.50 ตร.ม.
• ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท*
• รูปแบบการขาย Fully Fitted (เครื่องปรับอากาศ , อุปกรณ์ชุดครัว , อ่างล้างจาน , ก๊อกน้ำ เตาไฟฟ้า , ที่ดูดควัน , ตู้เสื้อผ้า , เครื่องทำน้ำอุ่น , ฉากกั้นอาบน้ำ , Digital Door Lock)
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร
• มีรถ Shuttle Bus รับ – ส่งสถานีรถไฟฟ้า
• จอง n/a บาท
• ทำสัญญา n/a บาท
• ค่ากองทุน 450 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล :

The Parkland Latphrao – Chokchai 4 ( เดอะ พาร์คแลนด์ ลาดพร้าว – โชคชัย4 ) อยู่ติดถนนลาดพร้าว – วังหินช่วงต้นซอย ใกล้ฝั่งถนนลาดพร้าว มีซอยที่สามารถขับลัดเลาะไปออกถนนใหญ่ได้หลายสาย เหมาะกับคนที่ทำงานในโซนรัชดา ,  พหลโยธิน , พระราม 9 หรือคนที่มองหาคอนโดในราคาหยิบจับง่าย มีรถไฟฟ้าเดินทางเชื่อมต่อใจกลางเมืองได้สะดวก ใกล้ทางด่วน 2 สาย ทั้งทางด่วนฉลองรัช และดอนเมืองโทลเวย์

จะหาของกินของใช้ก็ง่าย บนถนนลาดพร้าว – วังหินเองก็มีร้านค้า , ร้านอาหาร และตลาดขึ้นอยู่ตลอด 2 ข้างทาง ซึ่งโครงการจัดว่าอยู่ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์สูง ทั้งโซนลาดพร้าว , รัชดา , รามอินทรา มีห้างขนาดใหญ่หลายแห่ง อาทิ Central Festival East Ville , Crystal Park , CDC , Central ลาดพร้าว , Union Mall , Major รัชโยธิน ในระยะ 3 – 5 กิโลเมตรเท่านั้น

การเดินทางโดยใช้รถ :

จัดว่าสะดวกสบายสำหรับคนที่ใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก เพราะจุดเด่นของถนนลาดพร้าว – วังหิน คือมีซอยย่อยที่สามารถขับไปเชื่อมต่อกับถนนใหญ่เพื่อหลีกเลี่ยงรถติดได้หลายเส้นทาง โดยโครงการเตรียมที่จอดรถไว้ให้ 35% ถือว่าพอใช้งานได้ สำหรับทำเลที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า และยังมี EV Charger รองรับไว้ด้วยนะคะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

ที่ตั้งของโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ จึงสามารถเรียกใช้บริการรถสาธารณะได้หลากหลาย ทั้งรถแท็กซี่ รถสองแถวเล็ก และวินมอเตอร์ไซต์ที่ตั้งอยู่ติดกับโครงการเลย อีกทั้งยังเป็นทำเลที่สามารถไปใช้รถไฟฟ้าได้ถึง 3 สาย ซึ่งจากโครงการก็จะมี Shuttle Service รับ – ส่งที่สถานีด้วย ซึ่งรายละเอียดรอบและเส้นทาง สามารถสอบถามเพิ่มเติมกับโครงการได้ภายหลังค่ะ

วัสดุ :

รูปแบบการขายเป็น Fully Fitted ในราคาแพคเกจ 1.59 ล้านบาท* สำหรับห้องราคาเริ่มต้นก็ถือว่าได้มาค่อนข้างคุ้มค่า ทั้งเครื่องปรับอากาศ , ชุดครัว , อ่างล้างจาน , ก๊อกน้ำ , เตาไฟฟ้า , ที่ดูดควัน , ตู้เสื้อผ้า , เครื่องทำน้ำอุ่น , ฉากกั้นอาบน้ำ และ Digital Door Lock ซื้อเพิ่มอีกนิดหน่อย ก็เข้าอยู่ได้เลย เมื่อเทียบกับโครงการบนทำเลเดียวกันซึ่งมีราคาสูงกว่า วัสดุที่ได้ก็จัดว่าใกล้เคียง ตามมาตรฐานคอนโด Low Rise ค่ะ

การออกแบบโครงการ :

โครงการ The Parkland Latphrao – Chokchai 4 เป็นกลุ่มคอนโด Low Rise 4 อาคาร จำนวน 714 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต จุดเด่นของโครงการอยู่ที่การจัดวางตำแหน่ง ที่นอกจากทั้ง 4 อาคารจะได้วิวพื้นที่ส่วนกลางแล้วยังได้ความเป็นส่วนตัวสูง ด้วยที่ตั้งของอาคาร A และ D ที่อยู่ติดกับทางเข้า ทำหน้าที่เป็นแนวบังสายตา ก่อนจะเข้าไปเจอ Open Space ตรงกลางโครงการ ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ได้มา 1 ไร่กว่า ให้บรรยากาศร่มรื่นเหมือนอยู่ในรีสอร์ท

การออกแบบพื้นที่ใช้สอย :

มีรูปแบบห้องให้เลือกถึง 5 แบบ ได้ครัวปิดทุกยูนิต เน้นอยู่อาศัยได้ 1 – 2 คนกำลังดี มีห้อง 1 Bedroom Plus ที่ปรับเปลี่ยนการใช้งานเองได้ โดยการออกแบบฟังก์ชันเรามองว่าทำออกมาแตกต่างกันชัดเจน ในห้องขนาดเริ่มต้น ได้พื้นที่เป็นสัดส่วน มีครัวปิดอยู่ติดระเบียง ส่วนตัวเราชอบห้อง 1 Bedroom Type C ที่ได้ส่วนนั่งเล่นติดระเบียง ในห้องนอนมีช่องแสงเพิ่มมาอีกจุด ได้บรรยากาศเหมือนห้องหน้ากว้าง ดูโปร่งโล่ง ส่วนห้อง Plus จัดส่วนครัวแบบปิดไว้ที่ด้านหน้า ได้บานเลื่อนกระจกเข้ามุม ในห้องนอนได้ Walk – in Closet ห้องน้ำเปิดเข้า – ออกได้ 2 ทาง ได้ทั้งความสะดวกและเป็นส่วนตัวเลย

สาธารณูปโภค :

จัดฟังก์ชันมาให้ตามมาตรฐาน คือ Fitness , Co – Working Space , สระว่ายน้ำ และพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ โดยโครงการจะเน้นพื้นที่ส่วนกลางแบบ Outdoor ที่ได้มา 1 ไร่กว่า มีทางเดินไว้ให้ออกมายืดเส้นยืดสาย และ Pavilion ไว้ให้นั่งพักผ่อน ชมวิวได้ แต่อาจไม่เหมาะกับสาย Activity ที่อยากได้ส่วนกลางในอาคารเยอะๆ แต่แลกมาด้วยบรรยากาศที่ดูร่มรื่น และส่วนพักอาศัยที่ได้ความเป็นส่วนตัว ไม่พลุกพล่าน

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG n/a บาท/ตร.ม. , 23 สิงหาคม 2566

• ทำเล 7.75/10 – ใกล้ความอุดมสมบูรณ์ เดินออกมาหาของกินได้
• เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – ทำเลติดถนนใหญ่ ได้ที่จอด 35% พร้อม EV Charger
• ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ติดโครงการมีวินมอเตอร์ไซต์ โครงการมีรถรับ – ส่งสถานีรถไฟฟ้า
• วัสดุ 7.75/10 – ขายแบบ Fully Fitted ให้มาตามมาตรฐานราคา
• แบบ 8/10 – ออกแบบฟังก์ชันดี ห้องกว้าง เป็นสัดส่วน ได้ครัวปิดทุกยูนิต
• สาธารณูปโภค 8/10 – จัดมาให้ตามมาตรฐาน ได้พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ 1 ไร่กว่า

• MAIN CLASS
• 7.83 / 10.00

The Parkland Latphrao – Chokchai 4 เหมาะกับใคร

โครงการ The Parkland Latphrao – Chokchai 4 เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดในย่านลาดพร้าว – วังหิน – โชคชัย 4 เดินทางเชื่อมต่อเข้า – ออกเมืองง่าย มีรถไฟฟ้าเป็นตัวเลือกในการเดินทาง อยู่ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์สูง ชอบรูปแบบห้องที่มีฟังก์ชันเป็นสัดส่วน ได้ครัวปิดทุกยูนิต มีห้อง Plus ได้พื้นที่ใช้สอยเยอะ ชอบส่วนกลางที่มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ บรรยากาศร่มรื่น ราคาหยิบจับง่ายในงบประมาณ 1 – 2 ล้านบาท

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc