ThePaint-C02

รีวิวฉบับที่ 393  The Paint Palette งามวงศ์วาน 18 เป็นคอนโดตึกที่ 2 ของแบรนด์ The Paint ซึ่งตึกแรกอยู่ในซอยงามวงศ์วาน 22 และตึกที่ 2 ตั้งอยู่ในซอยงามวงศ์วาน 18 ซึ่งเป็นซอยทางเข้า The Mall งามวงศ์วาน และสามารถลัดไปขึ้นทางด่วนงามวงศ์วานได้ ซึ่งโครงการนี้กำลังจะเปิด Pre-sale ในวันที่  24 ก.ค. – 7 ส.ค. 2556 นี้ ที่สำนักงานขาย ซอยงามวงศ์วาน 18

Fact @  19 July 2013

  • The Paint Palette Condominium (เดอะ เพ้นท์ พาเลท คอนโดมิเนียม)
  • บริษัท สินทรัพย์ ดิงโก้ จำกัด
  • ECONOMY (2013) (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร  196 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด  28 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ  59 คันรวมซ้อนคัน คิดเป็น  30 % 
  • ที่ดินประมาณ 1-1-66.6ไร่
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จปี  2557
  • Studio ไม่มี
  • 1 Bedroom 29-38 ตารางเมตร
  • 2 Bedrooms 44 ตารางเมตร
  • 3 Bedrooms  ไม่มี
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ  1.39 ล้านบาท
  • ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 50,000 – 55,000 บาท
  • โทร 086 825 2888, 02 580 0288
  • http://www.thepaintcondo.com

เจาะลึกทำเลที่ตั้ง

(พิกัด Google Map 13.855586,100.538458)

Map 1

The Paint Palette Condominium ตั้งอยู่ในซอยงามวงศ์วาน 18 หรือซอยจุฬาเกษม ซึ่งปากซอยห่างจากแยกพงษ์เพชรประมาณ ุ650 เมตร ห่างจาก The Mall งามวงศ์วานประมาณ 300 เมตร ถ้านับถึงตัวโครงการ จะอยู่ห่างจาก The Mall ประมาณ 500 เมตร แต่สามารถเดินลัดเข้าทางด้านหลัง The Mall ได้ ซึ่งจะช่วยย่นระยะเดินเหลือประมาณ 300 เมตร … นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้ห้างสรรสินค้าอื่นๆ อีก อาทิ Lotus Home-Pro พันทิพย์2 ใกล้โรงพยาบาลนนทเวชซึ่งติดกับ The Mall สามารถเดินทางโดยใช้ทางลัดไปทางด่วน ได้ ซึ่งจะช่วยได้มากหาก เป็นช่วงที่ถนนงามวงศ์วานรถติด

Map 2

ตัวโครงการอยู่ในซอยจุฬาเกษม 3 ซึ่งเป็นซอยย่อยจากซอยงามวงศ์วาน 18 ไปอีก ด้านข้างโครงการติดกับอพาร์ทเมนท์ส่วนด้านหน้าและด้านข้างฝั่งทิศตะวันออก เป็นบ้านเดี่ยวและตึกแถวประมาณ 4 ชั้น แต่ โดยรวมแล้วทำเลของโครงการจะเป็นอพาร์ทเมนต์ให้เช่าเป็นส่วนใหญ่

เส้นทางลัดไป The Mall ไปทางซอยจุฬาเกษม 1/1 ที่เลยจากปากซอยโครงการไปประมาณ100 เมตร นอกจากนี้ซอยจุฬาเกษมยังใช้เป็นทางลัดไปทางด่วนดินแดง-แจ้งวัฒนะ ได้อีกด้วย

หน้าห้องพักส่วนใหญ่หันไปทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออก โดยฝั่งทิศตะวันออกจะเป็นฝั่งบ้านเดี่ยวและตึกแถว ที่ชั้นสูงๆจะพอหาความโปร่งไม่โดนบังในระยะประชิดได้ ส่วนฝั่งทิศตะวันตกนั้นติด Apartment เกือบทั้งแนว ทำให้ค่อนข้างอึดอัดกว่าฝั่งทิศตะวันออกนะคะ

สภาพการจราจรบริเวณหน้า The Mall งามวงศ์วาน เวลาประมาณบ่ายโมงค่อนข้างหน้าแน่นทีเดียวนะคะ สะพานลอยที่เราเห็นในภาพเชื่อมต่อเข้าห้างได้เลยค่ะ

The Mall งามวงศ์วาน รถเข้าออกตลอดเวลา ทำให้การจราจรแถวนี้จอแจพอสมควรเลย

เดินมาจะเจอซอยแรกค่ะ งามวงศ์วาน 22 ซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการแรกของ The Paint ค่ะ ป้ายทางขวามือข้างหน้าสีเขียวๆ บนถนนใหญ่ เป็นป้ายบอกทางลัดเข้า The Mall ซึ่งต้องเข้าซอยงามวงศ์วาน 18 ที่อยู่ซอยถัดไป เป็นที่ตั้งของ The Paint Palette Condominium ที่ทีมงานจะพาไปดูกันในวันนี้นะคะ

เดินตามถนนงามวงศ์วานมาเรื่อยๆ จะเจอร้านทั่วไปขายเสื้อผ้าริมทางอยู่นะคะ

แล้วก็พวกร้านขายของชำตึกแถว

แต่ที่สังเกตได้ชัดคือ ร้านเสริมสวยแถวนี้เยอะมากๆเลย

คอนโดตั้งอยู่ในซอยงามวงศ์วาน 18 ตรงข้ามธนาคารทหารไทย ปากซอยอยู่ห่างจาก The Mall งามวงศ์วานประมาณ 300 เมตร ต้องบอกก่อนเลยว่า ซอยนี้รถเข้าออกเยอะมาก เพราะว่าเป็นทางลัดไป The Mall งามวงศ์วาน ก็ได้ หรือว่าจะไปขึ้นทางด่วนก็ได้

ซอยเป็นถนน 2 เลน รถวิ่งสวนกันได้ 2 คัน ค่ะ

แต่ปากซอยแคบมาก การจะเลี้ยวเข้าเลี้ยวออกต้องระวังให้ดี ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

ปากซอยมี 7-Eleven เป็นจุดสังเกต

จากปากซอยจะเห็นป้าย  Sale Office  ที่อยู่ทางด้านขวามือ ถัดจากตึกแถวสีครีม ที่มีป้ายลูกศรสีแดงชี้เข้าไปค่ะ

จะว่าไป ซอยนี้ก็เป็นซอยกว้าง 6 เมตร ถนนคอนกรีต เหมือนซอยทั่วๆไป แต่ก็มีรถจอดสองข้างทาง  แถมมีรถเยอะเพราะเป็นทางลัดไป The Mall ทำให้ขับรถลำบากอยู่เหมือนกันค่ะ พอเจอรถใหญ่ๆทีก็ไม่รู้จะหลบอย่างไร

The Paint Palette 4

แบบเหตุการณ์นี้ … ก็ต้องจอด ปล่อยให้รถใหญ่วิ่งไปก่อนสถานเดียวค่ะ

ส่วนสองข้างทางเป็นพวกร้านค้าตึกแถวนะคะ มีโรงเรียนกวดวิชา คุณครูสมศรีด้วย

ร้านต่างๆ ใต้ตึกแถวค่ะ ซอยจุฬาเกษมจัดเป็นซอยชุมชนอีกซอยหนึ่ง ซึ่งมีร้านรวงขายของเยอะแยะมากมาย

อีกฝั่งหนึ่งเป็นร้านเสริมสวย ร้านตัดผม อีกแล้วค่ะ ละแวกนี้เยอะจริงๆ เลย

เข้าจากปากซอยไปประมาณ 50 เมตร จะเจอที่ตั้งของ Sale Office อยู่ด้านขวามือค่ะ ส่วนตัวโครงการจริงอยู่เข้าซอยไปอีกหน่อย ค่ะ เดี๋ยวเดินไปดูกันเลยนะคะ

สภาพซอยเข้าไปอีกก็ยังคงเป็นตึกแถวร้านค้าเหมือนเดิมค่ะ

ก็พอมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านอาหารตามสั้งอยู่บ้างนะคะ ไม่เยอะเท่าไร แต่ก็พออยู่ได้นะ

เดินมาเรื่อยๆจะเจอซอยแรกทางขวามือ เป็นซอยตันค่ะ ข้างในมีทาวเฮาส์ไม่กี่หลัง (ซอยจุฬาเกษม 1)

ด้านหน้าขวามือตรงป้ายที่มีคนเดินอยู่เป็นซอยจุฬาเกษม 3 ค่ะ โครงการอยู่ในซอยนี้แหละ อ่อ…ส่วนรั้วสีฟ้าที่เราเห็นนี่รั้วบ้านเจ้าของโครงการเลยค่ะ

บ้านเจ้าของโครงการ ในซอยจุฬาเกษม 3 ค่ะ ถือเป็น Landmark พอจะได้มั้ยคะ 🙂 ใหญ่สุดในซอยเลย ติดกับแปลงที่ดินโครงการค่ะ

สภาพซอยเป็นถนนคอนกรีตกว้าง 6 เมตร มีตึกแถว และอพาร์ทเมนท์ให้เช่าเยอะมาก

แปลงที่ดินล้อมรั้วสีเขียวอยู่ค่ะ ถัดจากร้าวบ้านเจ้าของโครงการโดยมีถนนซอยจุฬาเกษม 3/1 กั้น ด้านหลังถัดๆ ไปเป็นอพาร์ทเมนท์ วิวด้านนี้จะถูก Block  ส่วนบริเวณติดถนนที่อยู่ติดกับแปลงที่ดินฝั่งโน้นที่เห็นหลังคานั่นเป็นบ้านคนชั้นเดียว หน้าที่ดินกว้างประมาณ 35 เมตรค่ะ

จากปากซอยเข้า ด้านข้างของแปลงที่ดินลึกถึงบ้านไม้ที่เห็นในภาพ ยาวประมาณ 75 เมตร ซึ่งตรงนี้จะเป็นด้านหน้าโครงการนะคะ วิวที่หันมาฝั่งนี้ยังไม่มีอพาร์ทเมนท์มา Block วิวค่ะ ส่วนด้านหลังแปลงที่ดินก็ยังไม่มีสิ่งปลูกสร้างแบบอพาร์ทเมนท์ 8 ชั้นมาBlock วิว ส่วนมากเป็นอาคารตึกแถวประมาณ 3-4 ชั้น และบ้านเดี่ยว

ส่วนนี่เป็นซอยตรงข้ามแปลงที่ดินนะคะ (ซอยจุฬาเกษม 3/2)

อพาร์เมนท์ 5 ชั้นนี้อยู่ตรงปากซอยจุฬาเกษม 3/2 ฝั่งตรงข้ามด้านหน้าโครงการ

 ด้านล่างอพาร์เมนท์มี มินิมาร์ท ด้วยนะ

ออกมาจากซอยตรงข้ามจะเป็นพวกร้านอาหาร ร้านมีร้านเสริมสวยอีกแล้วค่ะ

ขวามือบนซอยงามวงศ์วาน 18 เลยจากปากซอยโครงการมาหน่อยจะเจออาคาร 12 ชั้น เก่าแก่ของย่านนี้เลย ชื่อว่า วิวทาวเวอร์ (View Tower)

จากปากซอยโครงการมาประมาณ 100 เมตร ถึงตรงนี้ก็เจอแล้วค่ะ ทางลัดซ้ายมือไป The Mall ทางขวามือนี่ลัดไปขึ้นทางด่วน 7-Eleven 2 สาขาอยู่ตรงข้ามกันเลยค่ะ ^^

เจาะลึกตัวโครงการ

The Paint Palette Condominium เป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวนทั้งสิ้น 196 ยูนิต ชั้นล่างสุดเป็นที่จอดรถจำนวนรวม 59 คัน หรือคิดเป็น 30% ส่วนบริเวณด้านหน้าตรงกลางอาคารที่มี triple volume เป็นส่วนของห้องสมุดส่วนกลาง

ห้องสมุดส่วนกลาง ด้านหน้าโครงการ เป็นจุดเด่นที่สุดของโครงการนี้

ภายในห้องสมุดส่วนกลาง 2 ชั้น triple volume ให้ความโปร่งโล่งทางแนวดิ่ง แต่ทางแนวกว้างอาจจะไม่ได้กว้างมากนะคะ

Lobby ไม่ใหญ่ มีพื้นที่พอรับแขกได้นิดหน่อย ความโอ่อ่าน้อยกว่าห้องสมุดเมื่อครู่เยอะค่ะ

สระว่ายน้ำระบบเกลือชั้น 2 ขนาดก็ไม่กว้างเท่าไรนะคะ คงจะพอแช่น้ำได้แต่ว่าออกกำลังกายจริงๆจังๆอาจจะไม่สะดวกค่ะ

เข้ามาในซอยจุฬาเกษม 3/10 จะเจอตัวโครงการ ซึ่งเมื่อเข้าโครงการจะเจอส่วนของที่จอดรถบริเวณชั้น 1 มีประมาณ 30% หรือ 59 คัน รวมซ้อนคัน จัดว่าน้อยนะคะไม่ว่าสำหรับคอนโดมิเนียมเกรดใดราคาใด แต่ด้วยความที่ The Paint Palette มีออพชั่นการเดินทางให้เลือก ด้วยทั้งรถตู้ พี่วินมอเตอร์ไซค์ รถเมล์​หรือแม้แต่ The Mall ในระยะเดิน เช่นเดียวกับ Apartment ต่างๆในซอยนี้ ก็พอจะเป็นทางเลือกให้กับคนไม่มีรถได้บ้าง

ชั้น G จะเห็นว่ามีพื้นที่สวนหย่อมโครงการด้านล่างเพิ่มพื้นที่สีเขียวโดยรอบโครงการด้วย ขวามือของทางเข้าเป็นส่วนของ Lobby ตรงเข้าไปจะเป็นส่วนของสำนักงานนิติบุคคล ห้อง Fitness และห้องน้ำส่วนกลางอีก 4 ห้อง

บริเวณ Lobby เป็นส่วนที่สามารถเข้าไปสู่โถงลิฟท์ได้ แต่ว่าต้องใช้ Key Card นะคะ โครงการนี้มีเฉพาะลิฟท์โดยสารให้ 2 ตัวค่ะ อัตราส่วนลิฟท์ 98:1

ชั้น 2 เป็นส่วนห้องพักอาศัย ซึ่งทุกชั้นจะมีทั้งหมด 28 ห้อง บริเวณชั้น 2 จะมีส่วนของสระว่ายน้ำอยู่ทางด้านหลังฝั่งขวามือของโครงการด้วย ส่วนทางด้านหน้าโครงการที่ยื่นออกมา ซึ่งอยู่ฝั่งซ้ายมือเมื่อออกจากลิฟท์จะเป็นส่วนของห้องสมุด 2 ชั้น แบบ triple volume นะคะ

ตรงนี้อาจจะต้องคอมเม้นท์เรื่องสระว่ายน้ำหน่อยค่ะ คือสระว่ายน้ำวางอยู่ติดกับห้องพักเลย ทำให้ขาดความเป็นส่วนตัว ของทั้งคนว่ายและห้องพัก และการที่ไม่ได้เอาพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆอย่างเช่น Fitness หรือห้องสมุดเข้ามาเชื่อมไว้เป็นพื้นที่เดียวกัน ก็จะให้ความรู้สึกว่าพื้นที่ส่วนกลางดูเล็กกว่าที่ควรจะเป็น

ข้อดีก็คือ ชั้น 2-3 ก็สามารถเข้าไปใช้ห้องสมุดได้เหมือนกันค่ะ

 

ห้องสมุดสูงมาถึงชั้น 4 นะคะ แต่ชั้นนี้เข้าไม่ได้นะคะ เพราะว่าเป็นส่วนความสูงของห้องสมุดที่เป็นแบบ triple volume

ชั้น 5 มีสวนส่วนกลางเล็กๆ อยู่ด้านหน้า ทางซ้ายมือเมื่อออกจากลิฟท์บริเวณเดียวกันกับห้องสมุดชั้นที่แล้ว ตรงนี้ก็เป็นดาดฟ้าห้องสมุดที่เอามาทำเป็นพื้นที่สีเขียวค่ะ

 ส่วนชั้น 6-8 ตัว Floor Plan เหมือนกันค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • สระว่ายน้ำระบบเกลือที่ชั้น 2
  • ห้องออกกำลังกาย
  • สวนชั้น 5
  • ห้องสมุด
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว  อัตราส่วนลิฟท์  98:1
  • ที่จอดรถ 59 คัน รวมซ้อนคัน คิดเป็น 30%
  • ระบบ CCTV / Access Card / Digital Door Lock

 

Product Walkthrough

ห้องตัวอย่างที่ทางโครงการจัดให้เราดูวันนี้เป็นห้อง Type A1 แบบ 1 Bedroom ขนาด 29.30 ตารางเมตร เป็นห้องแนวแคบลึก แยกโซนส่วนห้องน้ำ ห้องครัวและระเบียงไว้ด้านเดียวกัน ถ้าทำประตูบานเลื่อนปิดส่วนครัวก้สามารถทำได้ ตำแหน่งวางโต๊ะทานข้าวแปลกหน่อยแต่ดีตรงที่บางห้องจะมีช่องหน้าต่างกระจกตรงนี้ด้วย ห้องนี้ มีส่วนระเบียง 2 แห่งคือที่ห้องนอน และที่ครัว ซึ่งเน้นวางคอมแอร์และเครื่องซักผ้าซะมากกว่า ตัวห้องนอน ปลายเตียง สามารถ Built ชั้นวางทีวีและเก็บของได้เต็มผนัง… ห้องขายแบบ Fully Furnished ค่ะ

ประตูติด Digital Door Lock  นะคะ เป็นรุ่นที่ประหยัดหน่อย ไม่ใช่ตัวใหญ่ท๊อปเกรด แต่ก็ใช้งานได้เหมือนกัน ไม่มีปัญหาค่ะ

ภายในห้องเมื่อเปิดประตูเข้าไป เจอห้องรับแขกอยู่ส่วนแรก ติดๆ กับประตูด้านขวาหน้าสุดเป็นโต๊ะทานข้าว

ด้านในสุดเป็นห้องนอนทำเป็นกระจกใสบานเลื่อนให้

ทางขวาก่อนถึงห้องนอนที่เป็นทางเข้าเข้าไปเป็นส่วนของห้องครัวและห้องน้ำค่ะ

พื้นจะเป็นพื้นกระเบื้องไวนิลทั้งในส่วนของห้องรับแขก ห้องนอน และห้องครัวนะคะ ซึ่งจะดีกว่าพื้นลามิเนตตรงที่มีความยืดหยุ่นสูง ทนน้ำได้ ไม่เป็นเชื้อราค่ะ

บริเวณโต๊ะทานข้าว สองตัว ด้านหลังกระจกช่องรับแสงธรรมชาติด้วย

ระยะดูทีวีประมาณ 2 เมตรนิดๆ ถ้าเอาทีวีไปแขวนผนัง ก็จะสามารถใส่ทีวีเครื่องใหญ่หน่อยได้ ขนาดที่เหมาะสม ประมาณ 40 นิ้วค่ะ

โครงการให้โซฟาตัวนี้มาด้วยนะคะ  นั่งสองคนออกจะเบียดหน่อย

ชั้นวางทีวี ที่ให้มา แต่แอร์ตัวนี้ไม่ได้ให้นะคะ ให้เฉพาะในห้องนอนค่ะ น่าเสียดายพื้นที่ส่วนนี้ เพราะสามารถจัดวางตู้หรือชั้นวางของได้เต็มผนังเลย

ถัดจากส่วนรับแขก เราจะไปดูในส่วนของห้องครัวกันบ้างนะคะ

Pantry ครัว และชั้นวางทั้งหมด ทำชั้นวาง Microwave ด้านล่างให้ด้วย ต้องก้มนิดหน่อย แต่ก็จะดีกว่าวางสูงๆ ซึ่งจะอันตรายในการหยิบมากกว่า

มีเฉพาะ Sink ให้ พอมีพื้นที่เหลือให้วางอุปกรณ์ต่างๆ ได้ ส่วนบริเวณหลัง Sink ไม่ได้ติดกระเบื้องให้ ต้องหามาติดนะคะ ไม่อย่างนั้นเวลาล้างอะไรแล้วจะกระเด็นเลอะผนัง ทำความสะอาดยากนะคะ

บริเวณพื้นที่วางตู้เย็น พอมีพื้นที่ว่างข้างๆ ระบายความร้อน แต่หากจะหา Size ใหญ่กว่านี้ต้องดูดีๆ เหลือพื้นที่ด้านข้างให้ตู้เย็นระบายความร้อนด้วยนะคะ

ขวามือ ของคร้วเป็นส่วนของห้องน้ำค่ะ พื้นทำให้ลดระดับลงไป

พื้นที่ห้องน้ำ มีธรณีก่อกั้นส่วนเปียกส่วนแห้ง แต่ไม่ได้ติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้

บริเวณอ่างล้างหน้า สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำใช้ของ American Standard ค่ะ แต่ไม่ได้มีตู้ใต้ซิงก์มาให้ด้วย พื้นที่วางของเลยเป็นอย่างที่เห็น

โถสุขภัณฑ์ นี่ก็ American Standard

ส่วนอาบน้ำ ฝักบัว แยกส่วนเปียกส่วนแห้ง แต่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำ

พัดลมระบายอากาศในห้องน้ำของ Mitsubishi

เดี๋ยวเราไปดูในส่วนของระเบียงที่ติดกับส่วนครัวกันบ้างนะคะ จากห้องน้ำ ด้านหน้าเป็นประตูระเบียงค่ะ

พื้นกระเบื้องระเบียง ลดระดับลงมา

พื้นที่ระเบียงตากผ้า วางเครื่องซักผ้า กับคอมแอร์ไป เลยเหลือพื้นที่ตากผ้าไว้นิดหน่อยค่ะ น่าเสียดายที่ไม่ยกคอมแอร์แขวนด้่านบนให้หมด ซึ่งจะทำให้เหลือพื้นที่ บนพื้นมากกว่านี้

ถัดมาไปดูในส่วนของห้องนอนนะคะ กั้นสัดส่วนด้วยประตูบานเลื่อน จะเห็นว่าด้านซ้ายเป็นส่วนผนังทึบ มีส่วนที่เป็นประตูกระจกบานเลื่อนเท่านั้นที่โปร่ง ทำให้ห้องนั่งเล่นมันจะดูอึดอัดหน่อย

ส่วนห้องนอน

พื้นที่ระเบียงในห้องนอน อาจจะแคบไปนิดนึงนะ แต่ก็ชดเชยได้ด้วยลานซักล้างด้านหลังแล้ว ตัวประตูกั้นเป็นบานเลื่อน 3 ชิ้น

พื้นที่วางทีวี….พื้นที่ปลายเตียงไว้วางทีวีติดผนังได้ค่ะ ในส่วนของแอร์ โครงการให้มาตัวนึงติดให้ตรงนี้นะคะ

บริเวณหัวเตียงเป็นตู้เสื้อผ้า มีช่องแสง สามารถเปิดระบายอากาศได้ด้วย การเปิดพร้อมกันทั้งหน้าต่าง และประตูระเบียงห้องนอนจะช่วยให้ลม Flow เข้ามาในห้องนอนได้

นอกจาก Type นี้แล้วโครงการยังมีอีก 6 Type ให้เลือกนะคะ มีแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedrooms ค่ะ 🙂

A

Type A แบบ 1 Bedroom ขนาด 29.30 ตารางเมตร ซึ่งเป็นห้องหลัก จะไม่มีช่องแสง บานหน้าต่างเล็กที่ส่วนห้องนอนและห้องนั่งเล่นเหมือนห้องตัวอย่างค่ะ 🙂

Type B แบบ 1 Bedroom ขนาด 29.80 ตารางเมตร

Type C แบบ 1 Bedroom ขนาด 31.50 ตารางเมตร

Type D แบบ 1 Bedroom ขนาด 38.70 ตารางเมตร

 

Type E แบบ 2 Bedrooms ขนาด 44.50 ตารางเมตร

F

Type E แบบ 2 Bedrooms ขนาด 44.80 ตารางเมตร

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 19/07/2013

  • 1 Bedroom Type A, A1 เนื้อที่ 29.30 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1,392,260 ล้านบาท หรือ 47,518  บาทต่อตารางเมตร
  • 1 Bedroom Type B เนื้อที่ 29.80 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1,466,160 ล้านบาท หรือ  49,200 บาทต่อตารางเมตร
  • 1 Bedroom Type C เนื้อที่ 31.50 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1,597,050 ล้านบาท หรือ  50,700 บาทต่อตารางเมตร
  • 1 Bedroom Type D เนื้อที่ 38.70 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2,000,790 ล้านบาท หรือ  51,700 บาทต่อตารางเมตร
  • 2 Bedroom Type E เนื้อที่ 44.50 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2,256,150 ล้านบาท หรือ  50,700 บาทต่อตารางเมตร
  • 2 Bedroom Type F เนื้อที่ 44.80 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2,226,560 ล้านบาท หรือ  49,700 บาทต่อตารางเมตร

  • Fully Furnished แต่ต้องดูรายละเอียดของที่ให้ ในใบประกอบสัญญาอีกทีนะคะว่าได้อะไรบ้าง
  • เพดานสูง 2.4 เมตร
  • จอง 5,000 บาท สำหรับ Type A,A1,B,C และ 10,000 บาท สำหรับ Type D,E,F
  • ทำสัญญา 25,000 บาท สำหรับ Type A,A1,B,C และ 40,000 บาท สำหรับ Type D,E,F
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 40 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

เจาะลึกรวบยอด

The Paint Palette เป็นโครงการที่อยู่ในทำเลซอยนะคะ ไม่ได้ติดถนนใหญ่ แต่ก็เป็นต้นซอยที่ไม่เปลี่ยว ซอยงามวงศ์วาน 18 เป็นที่รู้กันว่า เป็นซอยเชื่อมกับด้านหลัง The Mall งามวงศ์วาน และเป็นซอยที่เป็นทางลัดเลาะขึ้นลงทางด่วน หรือวิ่งไปออกกระทรวงสาธารณสุขได้ ซึ่งในกระทรวง มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ใช้ออกกำลังกายได้ด้วย …. ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการในระยะเดินเท้าสะดวก จัดอยู่ในระดับสมบูรณ์สุดๆ เพราะมีทางเลือกเยอะ ทั้งร้านอาหาร ร้านค้าละแวกในซอย ปากซอย และริมถนนงามวงศ์วาน แถมยังเดินมา The Mall ที่มีของให้ซื้อเยอะแยะ ตั้งแต่อาหารยันของใช้ รวมถึงโรงหนัง ด้วย แม้จะไม่หรูหราไฮโซ เพราะเป็นห้างเกรดย่านชานเมือง แต่พึ่งพาได้แน่นอนค่ะ

ฝั่งตรงข้าม The Mall เป็นแหล่ง โรงเรียนกวดวิชา ที่สำคัญของย่านนี้ และห้างพันธ์ทิพย์ 2 ด้วย แต่เวลาจะไป มา ต้องเดินไกลหน่อย เพราะต้องอาศัย สะพานลอยตรงหน้า The Mall

การเดินทางโดยใช้รถ จริงๆแล้วสะดวกมากถ้าไม่ติดเรื่องที่จอดรถ 30% เพราะซอยนี้เป็นทางลัดสามารถใช้หลบหนีรถติดบนถนนงามวงศ์วาน ไปขึ้น และ ลง ทางด่วนได้  แต่เป็นเรื่องที่จอดรถที่มีให้เพียง 59 คันรวมซ้อนคัน หรือ 30% จาก 196 ห้อง ซึ่งจะต้องระวัง ปัญหาเรื่องที่จอดรถไม่เพียงพอในอนาคต

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ มีทางเลือกมากพอสมควร ทั้งรถเมล์ Taxi รถตู้ และพี่วิน เสียแต่ว่า โครงการต้องเข้าจากปากซอยไป  200 เมตรโดยประมาณ ช่วงกลางวันไม่มีปัญหาค่ะคนค่อนข้างพลุกพล่าน แต่กลางค่ำกลางคืน ดึกดื่น หรือ ในวันฝนตกหนักๆ จะต้องเดิน 200 เมตร ออกมาถนนใหญ่เพื่อหารถนะคะ

ห้างใกล้ๆ The Paint Palette ก็คือ The Mall ที่พอจะเดินไปได้แบบสบายหน่อย ส่วน Lotus และ Home Pro บริเวณแยกพงษ์เพชร ดูเหมือนไกล แต่เราสามารถเดินทะลุผ่าน The Mall มาได้นะคะ ระยะทางประมาณ 650  เมตร ดูไกลก็จริง แต่เป็นการเดินผ่านห้าง The Mall ซะ 200 เมตรค่ะ

โครงการเป็น Low Rise 8 ชั้น 196 ยูนิต มียูนิตสูงสุดต่อชั้นที่ 27 ห้อง อัตราส่วนลิฟท์ 1:98 ตัวเลขนี้รับได้สำหรับโครงการ Low Rise ห้องส่วนใหญ่เป็นแบบ 1 Bedroom มีห้อง 2 Bedrooms อยู่บ้างตามมุมตึก แต่มีน้อยและไม่ใช่ห้องที่สำคัญ

โดยแบบห้องมาตรฐาน ส่วนห้องมีลานซักล้างแยกในส่วนซักผ้าตากผ้า และระเบียงในห้องนอนแยกอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งจะทำให้พื้นที่ในส่วนห้องนอนสามารถรับวิวได้จริง ในส่วนของชั้น 4-8 ฝั่งตะวันออกนะคะ เพราะถ้าเป็นฝั่งตะวันตก มองออกไปก็จะติด Apartment ตึกข้างๆอยู่ดี

สำหรับครัวเป็นครัวเล็กๆ ไม่ได้มีเตากับเครื่องดูดควันให้ ดีตรงที่มีจุดระบายกลิ่นออกทางระเบียงได้ หรือถ้าจะกั้นส่วนนี้ให้เป็นครัวปิดเลยก็ได้นะคะ กลิ่นต่างๆจะได้ไม่เข้ามาในส่วนห้องรับแขก หรือห้องนอน

วัสดุอุปกรณ์ทั้งหลายให้มาเป็นแบบ Fullly Furnished ของแถมที่ให้เด่นๆก็คือ Digital Door Lock, พื้นใช้พื้นไวนิล ซึ่งมีความยืดหยุ่นสูง ทนน้ำ ไม่เป็นเชื้อรา,  แอร์ห้องนอน 1 ตัว และสุขภัณฑ์ American Standard

สิ่งอำนวยความสะดวก มีส่วนของห้องสมุด Triple Volume ที่จะถือว่าเป็น Highlight ของโครงการเลยก็ว่าได้ มีห้อง Fitness, Lobby, สระว่ายน้ำชั้น 2, สวนส่วนกลางชั้น 1 และสวนเล็กๆ บริเวณชั้น 5 แต่พื้นที่ส่วนกลางทั้งหลายอยู่แยก กระจัดกระจาย ไม่ได้รวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทำให้เสียโอกาสที่จะรวมพื้นที่ส่วนกลางให้ใหญ่โตโอ่อ่าดูน่าใช้ค่ะ

ส่วนในเรื่องของความปลอดภัย ทางโครงการใช้ระบบ Access Card ในการเข้าออกโถงลิฟท์ ระบบ Digital Door Lock ให้มาติดกับประตูห้องทุกห้อง จัดว่าดีสำหรับโครงการที่ขายในระดับราคา 50,000 – 55,000 บาทต่อตารางเมตร

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 50,000 – 55,000 บาทต่อตารางเมตร, 19/07/2013

  • ทำเล 7.75/10 – ทำเลในซอยไม่ติดถนนใหญ่ แต่ใกล้ The Mall และมีทางลัดขึ้นลงทางด่วนได้ ความอุดมสมบูรณ์สูง
  • เดินทางด้วยรถ 7.0/10 – มีทางลัดขั้นทางด่วน และลัดไปห้างได้ แต่ว่ารถติดเส้นงามวงศ์วานบางเวลา ที่จอดรถ 30%
  • ไม่ใช้รถ 8.25/10 – เดินทางสะดวก มีทั้งรถตู้ พี่วินและรถเมล์ แต่ต้องเดินออกมาถนนใหญ่
  • วัสดุ 8/10 – ประตู Digital Door Lock, พื้นไวนิล ให้เฟอร์หลายชิ้น
  • การออกแบบ 7.5/10 – มีแบบห้องทั้งดีและด้อยปนกัน ส่วนใหญ่เป็นแบบห้องมาตรฐานซึ่งจัดว่าโอเค
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – Facility มีครบ แต่ขนาดเล็กและกระจัดกระจายกันอยู่

  • ECONOMY CLASS
  • 7.70 / 10.00

BOTTOM LINE

The Paint Palette งามวงศ์วาน 18 เหมาะกับคนที่ทำงานหรือคุ้นชินกับทำเลย่านงามวงศ์วาน มองหาโครงการที่ใกล้ The Mall และมีความอุดมสมบูรณ์ เป็นคนไม่ใช้รถ มีงบประมาณ 1.4 ล้านบาท หรือกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 9,000 บาท ขึ้นไป แต่ก็ต้องแลกกับการเข้ามาอยู่ในซอยหน่อยนึงนะคะ