The Origin Setthabut Station (ดิ ออริจิ้น เศรษฐบุตร สเตชั่น) คอนโดติด Big C สุวินทวงศ์ เฟอร์ฯ Built-in ทั้งห้อง จาก Origin

The Origin Setthabut Station (ดิ ออริจิ้น เศรษฐบุตร สเตชั่น)  ณ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568

พิกัด Google Maps : 13.815366664231686, 100.71999922366359
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

Highlight

• ติดถนนใหญ่สุวินทวงศ์
• ติด Big C สุวินทวงศ์
• มีรถสาธารณะผ่านหน้าโครงการทั้งรถเมล์, วินมอเตอร์ไซค์และรถสองแถว
• 850 เมตรจากรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ

โครงการ The Origin Setthabut Station (ดิ ออริจิ้น เศรษฐบุตร สเตชั่น) เป็นคอนโดมิเนียมบนถนนสุวินทวงศ์ ซึ่งในโซนนี้จะไม่ได้มีคอนโดให้เลือกมากนัก ราคาเริ่มที่ประมาณ 1.39 – 3 ล้านบาท เฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 64,000 – 75,000 บาท ซึ่งโครงการ The Origin นี้ถือว่ามีราคาไม่สูงนักเฉลี่ยตารางเมตรละ 65,000 บาท มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและเฟอร์ฯ Built-in ทั้งห้อง เสียเงินแต่งห้องอีกไม่เยอะก็เข้าอยู่ได้เลย

โครงการ The Origin Setthabut Station (ดิ ออริจิ้น เศรษฐบุตร สเตชั่น) ตั้งอยู่ติดกับถนนสุวินทวงศ์ บนทำเลย่าน “มีนบุรี” ซึ่งเป็นชุมชนพักอาศัยดั้งเดิมที่มีการค้าขายริมน้ำและยังคงยึดอาชีพการค้าขายเป็นหลัก จะเห็นได้ว่าทำเลนี้มีตลาดขนาดใหญ่ที่หลายคนรู้จักอย่าง “ตลาดมีนบุรี” ที่ทำให้พื้นที่บริเวณนี้คึกคัก มีท่ารถตู้ และขนส่งมวลชนครบครัน ซึ่งปัจจุบันได้มีรถไฟฟ้าสายสีชมพูตัดผ่านเพื่อไป Interchange กับสายสีส้มที่สถานีมีนบุรีด้วยค่ะ

สำหรับใครที่มองหาแหล่งจับจ่ายใช้สอยอย่างห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ และ Hypermarket โครงการนี้ถือว่าแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Big C, Homepro และ Tesco Lotus บนถนนรามคำแหง หรือจะขยับออกมาที่ถนนรามอินทราก็มีห้างใหญ่อย่าง Fashion Island และ The Promenade อยู่ในระยะไม่ไกล สามารถนั่งรถไฟฟ้าไปได้

นอกจากแหล่งของกินของใช้แล้ว ทำเลนี้ยังตั้งอยู่ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมที่เป็นแหล่งงานขนาดใหญ่อย่างนิคมอุตสาหกรรมบางชันในระยะประมาณ 2.6 km. เท่านั้นเองค่ะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ของโซนนี้ จะสะดวกสำหรับคนที่เดินทางไปหลายเส้นทางด้วยกัน ทั้งถนนรามอินทรา, ถนนรามคำแหงและถนนร่มเกล้า สำหรับใครที่อยากเข้าเมืองก็สามารถใช้ถนนวงแหวนรอบนอกตะวันออก (ถนนกาญจนาภิเษก) เชื่อมต่อกับถนนมอเตอร์เวย์ออกสู่ถนนพระราม 9 ได้ ซึ่งก็อยู่ไม่ห่างจากโครงการมากนักประมาณ 5 km. เท่านั้นเอง

สำหรับคนที่ใช้รถสาธารณะด้านหน้าโครงการบนถนนสุวินทวงศ์ ก็มีป้ายรถเมล์และวินมอเตอร์ไซค์อยู่หน้า Big C ซึ่งติดกับโครงการเลย อีกทั้งบนถนนสุวินทวงศ์นี้ก็มีรถ 2 แถวอีกด้วย เรียกว่าเป็นทำเลที่สะดวกกับคนใช้รถสาธารณะด้วยนะ ไม่ว่าจะไปร่มเกล้า, ตลาดมีนบุรี, รามคำแหง, Fashion Island ก็มีรถสาธาณณะผ่านหน้าโครงการเลย

นอกจากนี้ก็มีรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญอยู่ใกล้ๆ ในระยะ 850 m. ซึ่งโครงการจะมี Shuttle Van คอยรับ-ส่ง จากสถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญนั่งไปเพียง 2 สถานีก็สามารถ Interchange กับสายสีส้มได้ที่สถานีมีนบุรี

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

โครงการ The Origin Setthabut Station (ดิ ออริจิ้น เศรษฐบุตร สเตชั่น) เข้าจากถนนใหญ่ประมาณ 160 m. ตั้งอยู่ในย่านชุมชนพักอาศัย เราจึงเห็นว่ารอบๆ จะมีอพาร์ทเม้นต์หลายแห่งและหมู่บ้านพักอาศัย ซึ่งเราสรุปพื้นที่รอบๆ ได้ดังนี้ค่ะ

• ทิศเหนือ ติดกับ อพาร์ทเม้นต์สูง 2-3 ชั้น
• ทิศตะวันออก ติดกับ Big C สูงประมาณตึก 3 ชั้น
• ทิศใต้ ติดกับ ที่ดินเปล่าและถนนสุวินทวงศ์
• ทิศตะวันตก ติดกับ ที่ดินเปล่าและอพาร์ทเม้นต์ 2-5 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• Big C สุวินทวงศ์ ~ 70 m.
• ตลาดปากซอยหทัยราษฎร์ ~ 800 m.
• Mingle Hill มีนบุรี ~ 900 m.
• Lotus’s มีนบุรี ~ 1.6 km.
• Mega Home มีนบุรี ~ 1.9 km.
• Amorini Mall ~ 3.7 km.
• Fashion Island ~ 5.2 km.
• Central รามอินทรา ~ 15 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลนวมินทร์ 9 ~ 2.7 km.
• โรงพยาบาลสินแพทย์ เสรีรักษ์ ~ 2.9 km.
• โรงพยาบาลนวมินทร์ ~ 3.1 km.
• โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ~ 7.5 km.
• โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา ~ 9.3 km.
• โรงพยาบาลอินทรารัตน์ ~ 10.4 km.

โรงเรียน

• โรงเรียนเอกบูรพา วิเทศศึกษา ~ 2.3 km.
• โรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ~ 900 m.
• โรงเรียนอินเตอร์คิดส์ นิมิตใหม่ ~ 3.8 km.
• มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต วิทยาเขต ร่มเกล้า ~ 5 km.
• โรงเรียนร่วมฤดี วิเทศศึกษา ~ 8.2 km.
• สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ~ 11 km.

อื่นๆ

• รถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ~ 850 m.
• นิคมอุตสาหกรรมบางชัน ~ 2.6 km.

The Origin เป็นแบรนด์คอนโดระดับ Economy ของ Origin ที่ออกแบบมาเพื่อให้มีราคาจับต้องได้ไม่ยาก ระดับ First Jobber ก็พอที่จะกู้ซื้อเองได้อยู่ค่ะ สำหรับ The Origin Setthabut Station (ดิ ออริจิ้น เศรษฐบุตร สเตชั่น) ก็เช่นกัน 1 Bedroom มีราคาเริ่ม 1.49 ล้านบาทเท่านั้น

ออกแบบเป็นคอนโดมิเนียม Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร คืออาคาร 1 และ อาคาร 2 มีจำนวนทั้งหมด 530 ยูนิต อาคาร 1 จำนวน 278 ยูนิต และ อาคาร 2 จำนวน 252 ยูนิต และมีอาคาร Clubhouse แยกจากอาคารพักอาศัย ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัวนะคะ

จากโมเดลจะเห็นว่าตัวอาคารวางตามแนวยาวของที่ดินในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ – ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ตรงกลางระหว่างอาคารเป็น Clubhouse สูง 2 ชั้น บนชั้น 1 จะมีสระว่ายน้ำ, Live Studio 2 ห้อง, Co-Working Space Free WIFI และ Fitness ส่วนชั้น 2 เป็น Green Relaxing Area ค่ะ

ในส่วนของ Masterplan ต้องรอทางโครงการเปิดเผยข้อมูลออกมาก่อนนะคะ ในรีวิวนี้เรามีเฉพาะแปลนชั้น 2 มาฝาก ซึ่งเป็น Typical Floor Plan ของอาคารแหละ ชั้นอื่นๆ ก็จัดผังแบบนี้เป็นหลัก ยกเว้นชั้น 7 ของอาคาร 2 ที่จัดเป็นห้อง Combine และมีเพียง 10 ยูนิตเท่านั้นค่ะ

ตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไปจะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด รูปแบบห้องส่วนใหญ่เป็นห้อง 1 Bedroom 24 ตร.ม. ซึ่งโครงการจัดวางไว้ในฝั่งที่หันออกด้านนอกอาคาร มีให้เลือกทั้งห้องทิศตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ ส่วนตัวเราชอบห้องในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (กรอบสีแดง) มากกว่า เพราะแดดไม่ร้อนในช่วงบ่าย และหันออกไปทาง Big C จึงไม่มีอาคารในระยะประชิด ถ้าเลือกชั้น 4 ขึ้นไปก็ได้วิวโล่งๆ แล้ว

ถ้าสนใจห้องที่ได้วิวสระและสวนส่วนกลาง จะมีห้องให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ 1 Bedroom 24, 29 ตร.ม. และ 1 Bedroom Plus 33 ตร.ม. มีให้เลือกทั้งห้องทิศตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้เช่นกัน ห้องที่หันเข้าด้านในอาคารแบบนี้จะมีอาคารฝั่งตรงข้ามบังแดดให้จึงได้ร่มเงามากกว่า ยกเว้นห้องพักชั้นบนๆ ที่ยังโดดแดดอยู่ ตำแหน่งที่เราชอบคือห้องที่ได้วิวสระและสวน (กรอบสีน้ำเงิน) บนชั้น 4-6 น่าจะกำลังดี ที่สามารถมองเห็นสระและสวนได้ชัด แต่เสียงจากการว่ายน้ำไม่ค่อยดังขึ้นมารบกวนนักค่ะ

Lobby Area ในอาคาร 1 เป็นห้องแอร์เย็นๆ ที่มีพื้นที่ให้นั่งคอย-นัดพบกันได้สบายๆ ซึ่งต้องใช้ Key Card ในการผ่านเข้า-ออกอาคาร เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้านนะคะ

ถัดเข้าไปด้านในจึงเป็นโถงทางเดินไปยัง Meeting room และโถงลิฟต์สำหรับขึ้นชั้นพักอาศัย

Meeting Room ในอาคาร 1 เป็นพื้นที่นัดประชุมหรือคุยงานที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ภายในห้องมีดูน่าใช้งานทีเดียว เพราะผนังห้องเป็นกระจกบานใหญ่ ที่เปิดให้เห็นสวนรอบอาคาร

พื้นที่สวนรอบอาคารออกแบบไว้ให้มีทั้งต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่ม ช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูร่มรื่น และจัดให้มีที่นั่งเล่นตามมุมต่างๆ ในสวน

ภายใน Clubhouse ชั้น 1 จะมีสระว่ายน้ำ เป็นสระระบบเกลือกว้าง 5.3 m. ยาว 27  m. ลึก 1.2 m. เป็นสระแบบ Outdoor จึงเหมาะจะมาใช้ออกกำลังกายในช่วงเย็น

นอกจาก Facility แบบ Outdoor แล้ว ในชั้น 1 ของ Clubhouse ก็จะมี Co-Working Space พร้อม Free WIFI ให้มาเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงานได้ด้วย บรรยากาศเหมือนอยู่คาเฟ่เลยค่ะ

สำหรับ Live Studio จะมีให้ 2 ห้องเลย เอาใจคนรุ่นใหม่ที่ชอบทำคอนเทนต์ ขายของออนไลน์ ก็สามารถมาไลฟ์ที่ห้องนี้ได้แบบจริงจัง

อีกหนึ่ง Facility บนชั้น 1 ก็คือ Fitness Club ออกแบบเป็นผนังกระจกบานใหญ่เปิดรับวิวได้แบบโล่งๆ ไม่อึดอัด ห้องนี้จึงดูน่าใช้งาน

นอกจากนี้ยังมี Green Relaxing Area บนชั้น 2 ของ Clubhouse เป็นพื้นที่พักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร 1 ชั้น 1
  – Lobby
  – Meeting Room
• Clubhouse ชั้น 1
  – สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ กว้าง 5.3 x 27 m. ลึก 1.2 m.
  – Live Studio 2 ห้อง
  – Co-Working Space Free WIFI
  – Fitness
• Clubhouse ชั้น 2
  – Green Relaxing Area
• ขนาดสวนหย่อม
• ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 132 :  1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 139 : 1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก C 126 : 1
• ที่จอดรถคิดเป็น 32% (รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 36%)
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Keycard Access
• Application ที่สามารถอัพเดทข่าวสาร ค่าน้ำ ค่าไฟ แจ้งซ่อม กับนิติบุคคลของโครงการ

Highlight

• ได้ครัวปิดทุกแบบห้อง แยกห้องนอนและห้องนั่งเล่นเป็นสัดส่วน
• เฟอร์นิเจอร์ Built-in ทั้งห้อง แถมได้ Fitting แบบ Soft Close ด้วยค่ะ
• มีห้อง Combine ไซส์ใหญ่เกือบ 49 ตร.ม.

โครงการ The Origin Setthabut Station (ดิ ออริจิ้น เศรษฐบุตร สเตชั่น) ขายในรูปแบบ Fully Fitted ได้เฟอร์ฯ Built-in ทั้งห้อง โดยโปรดักส์จะเน้นไปที่รูปแบบห้อง 1 Bedroom เป็นหลัก เหมาะสำหรับอยู่อาศัย 1-2 คน กำลังดี ตอบโจทย์วัยทำงานที่ต้องการแยกออกมาอยู่คนเดียวหรืออยู่กับคนรัก และต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเป็นทรัพย์สินของตนเอง

เราว่าห้องของที่นี่ออกแบบฟังก์ชันเป็นสัดส่วน ทุกแบบห้องได้ครัวปิดติดระเบียง จึงทำอาหารได้จริงจัง และห้องนอนมีประตูกั้นแยกออกเป็นสัดส่วน

• 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 24 ตร.ม.
• 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 29 ตร.ม.
• 1 Bedroom plus ขนาดพื้นที่ใช้สอย 33 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus (ห้อง Combine) ขนาดพื้นที่ใช้สอย 48.7 ตร.ม.

สรุปวัสดุภายในห้อง

• ผนังฉาบเรียบทาสี
• พื้นปูด้วยกระเบื้องยาง SPC
• ตู้เก็บรองเท้า
• ชั้นวางทีวี
• Built-in เหนือตู้เย็น
• เคาน์เตอร์ครัว + ตู้ลอย
• เครื่องดูดควันแบบหมุนเวียน
• เตาไฟฟ้า
• ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต
• ตู้เสื้อผ้า
• สุขภัณฑ์ใช้ยี่ห้อ Karat, Bathline, Englefield, COTTO หรือเทียบเท่า

รายการของแถม

• เครื่องดูดควันแบบหมุนเวียน ยี่ห้อ Hafele
• เตาไฟฟ้า ยี่ห้อ Hafele
• อ่างล้างจานและซิงค์ ยี่ห้อ Hafele
• แอร์ 2-3 เครื่องขึ้นอยู่กับ Type ห้อง ยี่ห้อเป็นไปตามที่ทางโครงการกำหนด
• Digital Door Lock

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

1 Bedroom ขนาด 24 ตร.ม.

ห้องแรกที่เราจะพาไปชมกันคือ 1 Bedroom 24 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องขนาดเริ่มต้น ที่มีราคา 1.49 ล้านบาท และมีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดในโครงการเลยค่ะ จุดเด่นของห้องแปลนนี้คือ “การจัดแต่ละฟังก์ชันให้เป็นสัดเป็นส่วน” น่าอยู่ดีค่ะ

• Common Area รวมพื้นที่นั่งเล่น+ทานอาหาร เหมาะกับการใช้งาน แต่จะอยู่โซนด้านในต้องอาศัยแสงธรรมชาติจากหน้าต่างห้องนอน หรือไม่ก็ต้องเปิดไฟในห้องแทนค่ะ
• ครัวแบบปิด แถมติดระเบียง สามารถทำอาหารได้โดยไม่มีกลิ่นไปรบกวนในส่วนพื้นที่พักผ่อนอื่นๆ เพราะมีประตูกั้นเป็นสัดส่วน และยังเปิดระบายกลิ่นควันทางระเบียงได้อีกด้วย
• ห้องนอนมีประตูปิดแยกจากห้องนั่งเล่น ภายในจัดวางเตียง 5 ฟุต พร้อมพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า และได้หน้าต่างบานใหญ่ สามารถมองวิวได้จากบนเตียงนอนเลย ในส่วนของประตูจะเป็นบานกระจกช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งไม่ทึบตัน แต่ถ้าอยู่กัน 2 คน แนะนำให้ติดม่านเพิ่มเพื่อความเป็นส่วนตัวในแต่ละห้องนะคะ
• ห้องน้ำเข้าได้จากห้องนั่งเล่น หากมีเพื่อนมาหาก็สามารถเข้าห้องน้ำได้โดยไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนค่ะ

ประตูทางเข้าหน้าห้องจะติดตั้ง Digital Door Lock มาให้ โซนแรกจะเป็น Common Area รวมพื้นที่นั่งเล่นและทานอาหารเข้าไว้ด้วยกัน พื้นที่เพียงพอสำหรับจัดวางเฟอร์ฯ ต่างๆ ได้ครบ พื้นปูด้วยกระเบื้องยาง SPC มีคุณสมบัติในการทนน้ำและความชื้นได้ดีกว่าไม้ลามิเนต ฝ้าเพดานของห้องสูงประมาณ 2.4 m. ตามมาตรฐานของระดับราคาค่ะ

พื้นที่ดูทีวีสามารถวางชุดโซฟาแบบ 2-3 ที่นั่งได้พอดีๆ มีระยะดูทีวีประมาณ 2.3 m. ใช้ทีวีขนาดไม่เกิน 50 นิ้ว กำลังดีค่ะ

ตู้เก็บรองเท้าที่โครงการให้มาจะอยู่ติดกับประตูห้องเลย จึงหยิบ-เก็บรองเท้าได้สะดวก ภายในตู้แบ่งเป็นชั้นย่อยๆ ถ้ารองเท้าผู้หญิงก็เก็บได้ประมาณ 10 คู่นะคะ และยังมีช่องอื่นๆ ให้เก็บของที่ต้องหยิบใช้เป็นประจำก่อนออกจากห้อง อย่างพวกกุญแจรถ, แว่นกันแดด, หมวก, ร่ม ดูแล้วน่าจะใช้งานได้สะดวกดีค่ะ

บานปิดตู้จะเป็นแบบ Soft Close คือบานตู้จะค่อยๆ ปิดช้าๆ ไม่ต้องกลัวกระแทกเลยค่ะ

มือจับตู้มีการปาดมุมด้านบนให้สอดมือเข้าไปจับได้

ชั้นวางทีวีที่โครงการติดตั้งมาให้มีหน้าบานเปิดปิด จึงดูเป็นระเบียบเรียบร้อย

ติดกับโซฟาเป็นตำแหน่งของชุดโต๊ะทานข้าว จากพื้นที่ก็พอวางโต๊ะขนาด 2 ที่นั่งได้ หรือจะจัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง, โต๊ะทำงานก็ได้หมด ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยเลยค่ะ

ขนาดโซฟาที่เหมาะกับห้องก็คือ ขนาด 2-3 ที่นั่ง แต่ทางโครงการไม่ได้แถมมาให้ เราสามารถเลือกรูปแบบที่เข้ากับไลฟ์สไตล์เราได้เลย

ระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน แยกพื้นที่ออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน แต่ถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวในห้องนอนเพิ่ม ก็แนะนำให้ติดผ้าม่านเพิ่มเติมนะคะ

ประตูบานเลื่อนนี้ออกแบบมาเป็นแบบ 3 ตอน จึงเปิดออกได้กว้างมากทีเดียว เดินผ่านเข้าออกได้สะดวก และเป็นประตูกระจกที่สูงจากพื้นเกือบจรดฝ้า ช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่ง ไม่อึดอัดด้วยค่ะ

รางประตูฝังไปกับพื้นจึงเดินผ่านเข้า-ออกได้สะดวก ไม่ต้องกลัวสะดุด

ภายในห้องนอนสามารถวางเตียง 5 ฟุตและตู้เสื้อผ้าได้ โดยจะมีหน้าต่างที่เปิดรับแสงรับลมได้ 1 จุด ซึ่งผนังฝั่งปลายเตียงสามารถติดตั้งทีวีได้ค่ะ

เตียงนอนออกแบบมาให้มีช่องเก็บของด้วยนะคะ

ข้างเตียงมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้เป็นมาตรฐาน เป็นตู้สูงถึงฝ้าจึงใช้งานได้เต็มพื้นที่ หน้าบานตู้เสื้อผ้าออกแบบมาเป็นกระจก ให้เช็คความเรียบร้อยได้สะดวก และภายในตู้แบ่งช่องไว้ให้เหมือนในห้องตัวอย่างค่ะ

มือจับตู้เป็นดีไซน์โมเดิร์นเรียบๆ ใช้งานได้สะดวก

อีกฝั่งหนึ่งของห้องจะเป็นส่วน Service ได้แก่ ห้องน้ำ, ห้องครัวและระเบียง โดยมีพื้นที่วางตู้เย็นอยู่ระหว่างห้องน้ำและห้องครัว เราว่าสะดวกดีนะ หากต้องการดื่มน้ำหยิบขนมก็เดินจากโซฟามาหยิบได้สะดวก ไม่ต้องเดินเข้าไปในห้องครัว แต่เวลาทำครัวอาจจะต้องเตรียมของจากตู้เย็นเข้าไปในครัวให้พร้อม จะได้ปิดประตูกันกลิ่นควันลอยเข้ามาในห้องได้

ด้านบนตู้เย็นจะมี ตู้เก็บของ Built-in มาให้ บานพับเป็น Soft Close อีกเช่นกัน

ถัดมาที่ห้องครัวกันบ้าง ข้อดีของครัวห้องนี้คือเป็นครัวปิด ติดระเบียง เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหาร ชอบครัวที่ระบายกลิ่นและควันได้ดี โดยประตูห้องครัวจะเป็นประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอน เปิดออกได้ประมาณ 0.8 m. กว้างพอให้เดินผ่านได้ทีละคนค่ะ

ภายในห้องครัวจะมีชุดครัว Built-in มาให้เหมือนในห้องตัวอย่าง ยกเว้นไมโครเวฟและเครื่องซักผ้า

ทางเดินภายในห้องครัวไม่กว้างมากนะคะประมาณ 0.7 m. แต่ก็พอให้ยืนทำครัวคนเดียวได้สบายๆ

เคาน์เตอร์ครัวด้านล่างจะมีตู้เก็บช้อนส้อม และตู้เก็บของต่างๆ ให้ใช้งานกันได้พอสมควร และมีช่องสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าเตรียมไว้ให้เลยค่ะ ไม่ต้องเอาเครื่องซักผ้าไปวางไว้ที่ระเบียง จึงใช้ระเบียงได้เต็มที่

ในส่วนของเคาน์เตอร์ครัวแบ่งพื้นที่ใช้งานมาได้ครบทั้งอ่างล้างจาน, เตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันจาก Hafele และมีพื้นที่รอบๆ ให้เตรียมอาหาร แต่ในส่วนของ Backsplash ที่เป็นกระจกจะไม่ได้มีมาให้นะคะ

Hob&Hood ดูดควันของ Hafele เป็นระบบหมุนเวียน จึงช่วยดูดควันได้ประมาณนึง แต่เราสามารถเปิดประตูระเบียงเพื่อช่วยระบายกลิ่นควันเพิ่มได้

สำหรับซิงค์ล้างจานจะมีขนาดมาตรฐาน

นอกจากนี้โครงการจะ Built-in ตู้ลอยมาให้ใช้เก็บของใช้ในครัว และมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟมาให้ครบเลยค่ะ

ด้านในสุดของห้องเป็นระเบียง ซึ่งประตูให้มาเป็นบานเลื่อนแบบ 3 ตอน จึงเปิดออกได้กว้างประมาณ 0.8 m. เราแนะนำให้ติดมุ้งลวดแบบจีบเพิ่มอีกหน่อย เพื่อช่วยกันยุงกันแมลง จะได้เปิดประตูระบายกลิ่นควัน และรับลม ได้สะดวกนะคะ

พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 0.9 x 1.3 m. พอให้วางราวตากผ้าได้

ในส่วนของ Condensing Unit จะแขวนไว้ด้านบนเรียบร้อย ทำให้ใช้งานพื้นที่ส่วนอื่นได้เต็มที่

มีธรณีประตูกั้นระหว่างระเบียงกับพื้นที่ภายในห้อง เพื่อกันไม่ให้น้ำฝนไหลย้อนเข้าตัวห้องค่ะ

ในส่วนของห้องน้ำแบ่งพื้นที่ภายในไว้เป็นสัดส่วน ผนังและพื้นโดยรอบปูกระเบื้องไว้ทั้งหมด จึงทำความสะอาดง่าย

อ่างล้างหน้าและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำมีขนาดมาตรฐาน ใช้ยี่ห้อ Karat, Bathline, Englefield, COTTO หรือเทียบเท่าค่ะ

พื้นที่อาบน้ำจะก่อขอบไว้สูงขึ้นช่วยแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งไว้ชัดเจน แต่หากอยากให้น้ำไม่กระเด็นออกมา แนะนำให้ติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มนะคะ

ภายในพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.8 x 1 m. พร้อมติดตั้งฝักบัวอาบน้ำ ชั้นวางของแบบฝังในผนัง และเดินระบบไฟรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย

1 Bedroom ขนาด 29 ตร.ม.

1 Bedroom อีกหนึ่งห้องจะมีขนาดใหญ่กว่าห้องแรกเล็กน้อย การจัดแปลนลงตัวเป็นสัดส่วนเหมือนกัน แต่ให้บรรยากาศที่โปร่งโล่งขึ้น ในราคาเริ่ม 1.69 ล้านบาท

เข้ามาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นและที่นั่งรับประทานอาหาร ส่วนด้านในคือห้องนอน สังเกตว่าบรรยากาศของห้องโดยรวมดูสว่างดี เพราะได้แสงธรรมชาติผ่านห้องนอนเข้ามาค่ะ

พื้นที่นั่งดูทีวีกว้างขึ้นกว่าห้องแรกโดยมีระยะดูทีวีกว้างขึ้นประมาณ 3.2 m. ใช้ทีวีใหญ่กว่า 50 นิ้วก็ได้ และมีพื้นที่ให้วางชุดโซฟาแบบ 2-3 ที่นั่งได้สบายๆ

เฟอร์ฯ โซนนี้มีให้ทั้งตู้เก็บรองเท้าและชั้นวางทีวีตามแบบในห้องตัวอย่าง

ติดกับโซฟาเป็นตำแหน่งของชุดโต๊ะทานข้าว จากพื้นที่ก็พอวางโต๊ะขนาด 2 ที่นั่งได้ เราชอบตำแหน่งของโต๊ะทานข้าวที่อยู่ติดกับโซฟานั่งเล่นนะคะ จะได้ทานข้าวไปดูทีวีไปด้วยได้

ระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนจะมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นห้องไว้เป็นสัดส่วน เป็นประตูกระจกที่สูงจากพื้นเกือบจรดฝ้า เปิดได้แบบ 3 ตอน จึงเดินเข้าออกสะดวก

ภายในห้องนอนก็กว้างขึ้นเช่นกัน สามารถวางเตียง 5 ฟุตและตู้เสื้อผ้า โดยมีหน้าต่างที่เปิดรับแสงรับลมได้อยู่ 1 จุด ซึ่งผนังฝั่งปลายเตียงสามารถติดตั้งทีวีได้ค่ะ

ข้างเตียงมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะข้างเตียงได้อีกนะคะ

ตู้เสื้อผ้าออกแบบมาให้ Built-in อยู่ในผนัง ทำให้ห้องดูกว้างขึ้น ไม่มีขอบมุมให้เกะกะ

ตู้เสื้อผ้า Built-in เป็นตู้สูงถึงฝ้า จึงใช้งานได้เต็มพื้นที่ หน้าบานตู้เสื้อผ้าก็ออกแบบมาเป็นกระจก ใช้เช็คความเรียบร้อยได้สะดวก และภายในตู้แบ่งช่องไว้ให้เหมือนในห้องตัวอย่างค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของห้องจะเป็นส่วน Service ได้แก่ ห้องน้ำ, ห้องครัวและระเบียง โดยมีพื้นที่วางตู้เย็นอยู่ระหว่างห้องน้ำและห้องครัว

ถัดมาที่ห้องครัวกันบ้าง ข้อดีของห้องครัวนี้คือเป็นครัวปิด ติดระเบียง เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหาร ชอบห้องครัวที่ระบายกลิ่นและควันได้ดี โดยประตูห้องครัวจะเป็นประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอน เปิดออกได้ประมาณ 0.8 m. พอให้เดินผ่านได้ทีละคนค่ะ

ภายในห้องครัวจะมีชุดครัว Built-in มาให้เหมือนในห้องตัวอย่าง ยกเว้นไมโครเวฟ

แต่ด้านใต้เคาน์เตอร์ครัวของห้องนี้ ไม่ได้มีช่องสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้านะคะ สำหรับห้อง Type นี้ต้องติดตั้งเครื่องซักผ้าไว้ที่ระเบียงแทนค่ะ

ภายในห้องครัวมีพื้นที่เข้ามุมขนาด 0.65 x 0.6 m. สามารถใช้วางของ-เก็บของได้

ด้านในสุดของห้องเป็นระเบียง ซึ่งประตูให้มาเป็นบานเลื่อนแบบ 3 ตอน จึงเปิดออกได้กว้างประมาณ 0.8 m. ช่วยระบายกลิ่นควันได้ดี

พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 0.9 x 1.3 m. กว้างพอสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าและราวตากผ้าได้

ในส่วนของ Condensing Unit จะแขวนไว้ด้านบนเรียบร้อย ทำให้ใช้งานพื้นที่ส่วนอื่นได้เต็มที่

ภายในห้องน้ำแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งมาให้ชัดเจน โดยการตกแต่งและชุดสุขภัณฑ์จะได้ครบครันเหมือนในห้องตัวอย่าง พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.8 x 1 m. ถ้าไม่อยากให้น้ำกระเด็น แนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มค่ะ

1 Bedroom Plus ขนาด 33 ตร.ม.

ห้องอีก Type นึงเป็นแบบ 1 Bedroom Plus ถ้าสังเกตดูแปลนจะคล้ายแบบ 1 Bedroom เลยแต่มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น ส่วนที่แตกต่างจากห้อง 1 Bedroom คือ ในห้องนอนจะมีพื้นที่ Walk-in Closet เป็นสัดส่วน และได้หน้าต่างในห้องนอนมาเพิ่มอีก 1 บาน สำหรับห้องนอนรองจะอยู่ติดกับห้องนั่งเล่น พร้อมประตูบานเลื่อนเปิดปิด ในส่วนของห้องครัวได้เป็นครัวปิด ติดระเบียงเหมือนกันค่ะ

1 Bedroom Plus (Combine) 48.7 ตร.ม.

1 Bedroom Plus อีกห้องหนึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโครงการ 48.7 ตร.ม. ซึ่งทางโครงการ Combine ห้อง 1 Bedroom 24 ตร.ม. เข้าหากัน จึงเป็นห้องที่มีถึง 2 ห้องน้ำ ในห้องนอนใหญ่จะได้ห้องน้ำในตัวด้วยค่ะ สำหรับห้องนอนรองก็มีพื้นที่เพียงพอสำหรับวางเตียงนอนและตู้เสื้อผ้าได้นะคะ

ภาพจำลองบรรยากาศภายใน 1 Bedroom Plus (Combine) 48.7 ตร.ม. ในส่วนของห้องนอนและห้องนั่งเล่น

The Origin Setthabut Station (ดิ ออริจิ้น เศรษฐบุตร สเตชั่น) ราคา ณ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568

• 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 24 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.49 ล้านบาท
• 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 29 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
• 1 Bedroom plus ขนาดพื้นที่ใช้สอย 33 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท
• 1 Bedroom Plus (ห้อง Combine) ขนาดพื้นที่ใช้สอย 48.7 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.98 ล้านบาท

• รูปแบบการขาย Fully Fitted
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.4 เมตร
• มีรถ Shuttle Bus ไปกลับ MRT สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ
• จอง 10,000 บาท
• ทำสัญญา 20,000 บาท
• ดาวน์ 13% ผ่อนดาวน์ 18 งวด
• ค่ากองทุน 650 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 49 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล : โครงการ The Origin Setthabut Station (ดิ ออริจิ้น เศรษฐบุตร สเตชั่น) ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่สุวินทวงศ์ ในย่านมีนบุรี เป็นชุมชนพักอาศัยที่มีความคึกคัก จุดเด่นของทำเลคืออยู่ติด Big C เลยค่ะ เดินไปช้อปปิ้งได้สะดวก ถ้าขยับออกจากโครงการมาอีกหน่อยก็จะมีตลาดมีนบุรีที่มีความคึกคัก ครบครัน หรือถ้าอยากไปห้างฯ ก็จะมี Fashion Island และ The Promanade ซึ่งนั่งรถไฟฟ้าไปได้ นอกจากนี้ยังใกล้แหล่งงานทั้งนิคมอุตสาหกรรมบางชันและตลาดมีนบุรีด้วยนะคะ

การเดินทางโดยใช้รถ : ถือว่าสะดวกทีเดียวค่ะ เพราะโครงการอยู่ติดถนนใหญ่สุวินทวงศ์ที่เชื่อมไปยังถนนหลักได้หลายสายไม่ว่าจะเป็นถนนรามอินทรา, ถนนรามคำแหง, ถนนร่มเกล้า หรือออกไปยังฉะเชิงเทรา, ชลบุรี นอกจากนั้นยังมีวงแหวนกาญจนาภิเษก ที่เชื่อมไปยังมอเตอร์เวย์-พระราม 9 ได้ สำหรับที่จอดรถนั้นทางโครงการให้มา 36% รวมจอดซ้อนคัน ถือว่าเป็นไปตามระดับราคาของโครงการนะคะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : น่าจะสะดวกสำหรับคนที่ใช้รถสาธารณะอีกเช่นกัน เพราะมีรถสาธารณะผ่านหน้าโครงการครบครันทั้งรถเมล์, วินมอเตอร์ไซค์ และรถสองแถว แถมป้ายรถเมล์ก็อยู่แค่หน้า Big C เองค่ะ นอกจากนี้ยังมี Shuttle Van คอยรับ-ส่งรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ หากนั่งไปเพียง 2 สถานีก็ Interchange กับสายสีส้มได้ที่สถานีมีนบุรีด้วยค่ะ

วัสดุ : โครงการขายแบบ Fully Fitted ให้เฟอร์ฯ Built-in มาครบทั้งห้อง ขาดเฉพาะเฟอร์ฯ ลอยตัวไม่กี่ชิ้น อย่างโซฟา, ฟูกที่นอน ก็เข้าอยู่ได้แล้ว แถมเฟอร์ฯ ที่ให้มาก็ทำหน้าบานแบบ Soft Close เปิดปิดได้สะดวกไม่ต้องกลัวกระแทกเลยค่ะ

การออกแบบโครงการ : แม้ว่าที่ตั้งโครงการจะติดถนนใหญ่ แต่ตัวอาคารจะขยับเข้ามาด้านในไม่ติดถนน จึงช่วยลดเสียงและฝุ่นจากถนนใหญ่ได้ โดยมีระยะจากถนนใหญ่เข้ามาประมาณ 160 m. จึงจะถึงตัวอาคารนะคะ ในส่วนของการวางอาคารจะวางขนานกันตามรูปร่างของแปลงที่ดิน และมี Clubhouse แยกออกจากอาคารพักอาศัย ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้มากขึ้น

การออกแบบห้องพัก : ถือเป็นจุดเด่นของโครงการเลยค่ะ ออกแบบให้แต่ละห้องแยกกันอย่างเป็นสัดส่วน อย่างห้องนอนและห้องนั่งเล่นจะมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้น แถมได้ครัวปิดทุกห้อง ทำอาหารได้จริงจัง ตอบโจทย์คนที่อยู่อาศัย 1-2 คนเป็นหลัก อีกทั้งยังมีห้องไซส์ใหญ่ 1 Bedroom Plus ขนาด 49 ตร.ม. อยู่อาศัยแบบครอบครัว 3 คนได้เลย ซึ่งถือเป็นของหายากในโซนนี้ด้วยนะคะ

สาธารณูปโภค : มีส่วนกลางครบครันน่าใช้งาน และมีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์วัยทำงานอย่าง Meeting Room, Live Studio, Co-Working Space นอกจากนี้ก็มีส่วนกลางสำหรับคนรักสุขภาพอย่าง Fitness และสะว่ายน้ำที่ยาวถึง 27 m. ว่ายออกกำลังได้จริงจัง แชร์กับลูกบ้าน 530 ยูนิตเท่านั้นค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVG 65,000 บาท/ตร.ม., 16 กุมภาพันธ์ 2568

• ทำเล 8/10 – ติด Big C สุวินทวงศ์ ทำเลมีความอุดมสมบูรณ์
• เดินทางด้วยรถ 8.5/10 – ติดถนนสุวินทวงศ์ เดินทางสะดวก
• ไม่ใช้รถ 8.5/10 –  ใกล้โครงการมีป้ายรถเมล์ วินมอเตอร์ไซค์ รถสองแถว เรียกได้ง่าย
• วัสดุ 8/10 – Fully Fitted ได้เฟอร์ฯ Built-in ทั้งห้อง
• แบบ 9/10 – ออกแบบเป็นส่วนตัว แบ่งห้องต่างๆ แยกกันเป็นสัดส่วน
• สาธารณูปโภค 8.5/10 – ส่วนกลางครบครันน่าใช้งาน

• ECONOMY CLASS
• 8.3 / 10.00

The Origin Setthabut Station (ดิ ออริจิ้น เศรษฐบุตร สเตชั่น) เหมาะกับใคร

The Origin Setthabut Station (ดิ ออริจิ้น เศรษฐบุตร สเตชั่น) เหมาะกับคนในพื้นที่ที่ทำงานในโซนมีนบุรี รามคำแหง บางกะปิ หรือตามแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู ที่ต้องการขยับขยายมีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง ชอบทำเลติดถนนใหญ่ ใกล้ Big C เดินทางสะดวก

มองหาห้องที่ออกแบบไว้เป็นสัดส่วน แยกห้องนอนออกจากห้องนั่งเล่น และได้ครัวปิดติดระเบียง ชอบโครงการที่มีส่วนกลางให้ใช้ครบครัน แต่มีจำนวนเพื่อนบ้านไม่เยอะนัก ซื้ออยู่อาศัย 1-3 คน ในงบประมาณ 1.4 – 2.98 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 9,800 – 20,860 บาท/เดือน

ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน 

• Atmoz Flow Minburi
• The Iconic Ram-Romklao

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่