..ใครกำลังมองหาคอนโดในย่านบางแค วันนี้ผมมีโครงการใหม่ The Origin บางแค มาฝากครับ ซึ่งเค้าก็เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมานี้เอง โดยความน่าสนใจของโครงการนี้ก็คือ ราคาที่จับต้องได้ง่าย และยังสามารถเลี้ยงสัตว์ได้อีกด้วย สำหรับใครที่ชอบเลี้ยงน้องหมาน้องแมวด้วยอยู่แล้วก็คงจะถูกใจไม่น้อย ส่วนจุดเด่นอื่นๆผมก็สรุปมาให้ดังนี้เลยครับ

  • เป็นคอนโดเดียวของย่านในปัจจุบันที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ มาพร้อมกับส่วนกลางที่เยอะ เพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่
  • ห้องพักราคาเดียวทั้งโครงการ 1.2 ล้านบาท ทุกชั้นทุกตำแหน่ง อีกทั้งยังสามารถ Combine ห้องในตำแหน่งไหนก็ได้อีกด้วย
  • ขายเป็นห้องเปล่า Standrad Room ที่เราจะต้องเผื่อเงินไว้สำหรับตกแต่งห้องเอง แต่ก็ทำให้เราสามารถออกแบบและเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าห้องได้เองตามต้องการ
  • ทำเลสามารถเชื่อมต่อถนนหลักได้หลายเส้นทาง ปากซอยมีรถไฟฟ้า MRT บางแค เป็นตัวเลือกในการเดินทางเข้าเมืองได้ หรือจะเรียกรถสาธารณะหน้าโครงการเลยก็สะดวก

ข้อมูลโครงการ

The Origin Bangkae (ดิ ออริจิ้น บางแค) ณ วันที่ 12 เมษายน 2566

 ชื่อโครงการ  The Origin Bangkae (ดิ ออริจิ้น บางแค)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS  ECONOMY CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนน บางแค เขต บางแค
 ที่ดิน  8-3-55.50 ไร่
 ประเภทคอนโด  Low Rise 8 ชั้น 6 อาคาร
 จำนวนยูนิต  1,477 ยูนิต + 8 ร้านค้า
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด   38 ยูนิต ที่อาคาร F
 ที่จอดรถ  508 คัน คิดเป็น 35% และมอเตอร์ไซค์ 68 คัน
 เริ่มก่อสร้าง  Q1 ปี 2567
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  Q2 ปี 2568
 ประเภทห้องพัก
  • 1 Bedroom ขนาด 24 –  25 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus (Combine) ขนาด 48.4 – 49.4 ตร.ม.

 ฝ้าเพดานสูง  2.45 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  1.2 – 2.4 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 50,000 บาท/ตร.ม.
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  อยู่ระหว่างการประเมิน
 เว็บไซต์โครงการ https://www.origin.co.th/condominium/the-origin-bangkae
 Call Center 02-030-0000

ทำเลที่ตั้ง

Highlights :

  • ตั้งอยู่บริเวณกลางซอยที่สามารถเชื่อมต่อถนนหลักได้หลายเส้นทาง
  • ถนนบางแคจะมีรถสาธารณะวิ่งผ่านไป-มาคึกคัก สามารถเรียกใช้บริการหน้าโครงการได้ง่าย
  • มีรถไฟฟ้า MRT บางแค เป็นตัวเลือกในการเดินทางเข้าเมืองได้สะดวก
  • เป็นคอนโดเดียวของย่านในปัจจุบันที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้
  • ราคาจับต้องได้ง่ายกว่าคอนโดที่อยู่ปากซอย หรือคอนโดติดถนนใหญ่ ซึ่งเริ่มเพียงล้านต้นๆเท่านั้น
  • ทำเลโดยรอบอุดมสมบูรณ์ ส่วนใหญ่จะอยู่ตรงปากซอยฝั่งเพชรเกษมและท้ายซอยฝั่งกัลปพฤกษ์

พิกัด Google Maps : 13.703009, 100.421507
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

โครงการ The Origin Bangkae ตั้งอยู่ในย่านบางแค แน่นอนว่าความอุดมสมบูรณ์ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ตรงปากซอยฝั่งเพชรเกษมเป็นหลัก ซึ่งมีทั้งตลาดบางแค / The Mall บางแค / Lotus’s และ Seacon บางแค รวมถึงยังมีรถไฟฟ้า MRT ให้ใช้เดินทางเข้าเมืองได้สะดวกอีกด้วย

แต่สำหรับโครงการนี้จะขยับเข้ามาอยู่บริเวณช่วงกลางๆซอยครับ ซึ่งข้อดีอย่างหนึ่งก็คือ จะมีความเงียบสงบเป็นส่วนตัวมากกว่า แถมรถก็ไม่ติดหนักเหมือนตรงปากซอย และเรายังมีตัวเลือกในการเดินทางลัดเลาะไปออกทางอื่นได้ง่ายกว่า ไม่ว่าจะเป็นถนนกาญจนาภิเษก ถนนกัลปพฤกษ์ และถนนราชพฤกษ์ จึงเป็นทำเลที่เอื้อประโยชน์ต่อคนที่เน้นใช้ชีวิตไปยังโซนอื่นๆ นอกเหนือจากปากซอยฝั่งเพชรเกษมนั่นเองครับ

โดยหากพูดถึงราคาและลักษณะโปรดักส์ก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะถือเป็นเพียงโครงการเดียวของย่านในปัจจุบันที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ (Pet Friendly) และถ้าใครกำลังมองหาคอนโดราคาจับต้องได้ง่ายเพียงล้านต้นๆ ก็จะต้องขยับเข้ามาในซอยแบบนี้แหละครับ เพราะตรงช่วงต้นๆซอยหรือติดถนนใหญ่ ก็จะเป็นคอนโดล้านปลายๆ-สองล้านต้นๆกันหมดแล้วนั่นเอง

ทำเลกลางซอยเชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง :

ที่ตั้งของตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับแยกพัฒนาการ ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อกับถนนใหญ่อื่นๆได้หลายทาง จึงค่อนข้างเหมาะกับคนที่อาจมีรถเป็นของตัวเองอยู่เหมือนกัน ซึ่งคนแถวนี้ส่วนใหญ่ก็จะใช้เป็นมอเตอร์ไซค์เพื่อความคล่องตัว และเลี่ยงรถติดตรงปากซอยได้ดี หรือถ้าใครที่ไม่มีรถส่วนตัว ทางโครงการก็มีบริการ Shuttle Service รับ-ส่งไปยัง MRT บางแค ที่อยู่ตรงปากซอยให้ด้วยนะครับ ส่วนเส้นทางต่างๆจะประกอบด้วย

  1. สีแดง : เป็นทางหลักที่ไปออกถนนใหญ่เพชรเกษม มีระยะทาง 1 km. ซึ่งตรงปากซอยจะมีทั้งตลาด ห้างสรรพสินค้า และรถไฟฟ้า MRT ถือเป็นจุดที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุด แต่ก็มีการจราจรหนาแน่นมากที่สุดเช่นกัน โดยเฉพาะช่วงเช้า-เย็นครับ
  2. สีเขียว : เป็นทางลัดผ่านซอยบางแค 4 เพื่อไปออกถนนกาญจนาภิเษกได้ ระยะทาง 2 km. เหมาะกับคนที่เน้นใช้ชีวิตไปทางพระราม 2 หรือขับรถวน Loop ไปคอมมูนิตี้มอลล์และตลาดอินดี้ ก่อนที่จะกลับมาทางโครงการแบบสบายๆ โดยไม่ต้องเสียเวลารถติดหรือกลับรถไกลแบบฝั่งเพชรเกษมนั่นเองครับ
  3. สีม่วง : เป็นเส้นทางที่มาเชื่อมต่อถนนกัลปพฤกษ์ทางฝั่งท้ายซอย ระยะทาง 1.9 km. แต่ส่วนใหญ่มักจะได้ใช้เป็นทางขากลับบ้านจากกาญจนาภิเษกซะมากกว่า ซึ่งถนนเส้นนี้ก็จะมีตลาดและซูเปอร์มาร์เก็ตให้ใช้งานได้ครบครันเช่นกัน
  4. สีน้ำเงิน : เป็นเส้นทางคู่ขนานกับถนนเพชรเกษมผ่านถนนเทอดไท เพื่อไปออกถนนราชพฤกษ์ได้ ระยะทาง 4.6 km. เหมาะกับคนเน้นใช้ชีวิตไปทางท่าพระ-พระราม 3 หรือต้องการไปขึ้น BTS บางหว้า ซึ่งทำให้สามารถเข้าไปทำงานในเมืองได้สะดวกมากขึ้นครับ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

บริบทโดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนแนวราบที่สูง 3 – 4 ชั้น และด้วยความที่เป็นถนนเส้นหลักอยู่แล้ว จึงมีรถผ่านไป-มาหน้าโครงการคึกคักพอสมควร ยิ่งรถประจำทางก็จะมีเยอะเลยคับ ไม่ว่าจะเป็นวินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ และรถเมล์ อีกทั้งพวกอาคารพาณิชย์ที่อยู่ริมถนนก็จะมีร้านค้าร้านอาหารมาเปิดอยู่บ้างเหมือนกัน ทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้ไม่ลำบากเลย

วิวประมาณชั้นที่ 8 จากโดรนของโครงการ

  • ทิศเหนือ : ติดกับ อาคารพาณิชย์สูง 3 – 4 ชั้น หันหน้าไปทางถนนเทอดไทและถนนเพชรเกษม แต่ฝั่งตรงข้ามก็จะมีคอนโดสูง 8 ชั้นบังวิวอยู่บ้างเหมือนกัน

วิวประมาณชั้นที่ 8 จากโดรนของโครงการ

  • ทิศใต้ : ติดกับ ทาวน์โฮมสูง 2 – 3 ชั้นและที่ว่าง ซึ่งวิวระยะไกลจะมองไปทางฝั่งกัลปฤกษ์-พระราม 2

วิวประมาณชั้นที่ 8 จากโดรนของโครงการ

  • ทิศตะวันออก : ติดกับ ที่ว่าง ชุมชนแนวราบ และโรงเรียนประทุม อนุสรณ์ ส่วนใหญ่จะค่อนข้างได้เห็นวิวต้นไม้สีเขียวของบ้านเรือนต่างๆเยอะกว่าทิศอื่นพอสมควร

วิวประมาณชั้นที่ 8 จากโดรนของโครงการ

  • ทิศตะวันออก : เป็นทางเข้าหลักโครงการ ติดกับ ถนนบางแค ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น และโรงบรรจุแก๊ส

ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการ และยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานขายในปัจจุบันอีกด้วย ซึ่งตอนนี้จะเห็นว่ามีป้ายรถเมล์ตั้งอยู่ด้านหน้า แต่อนาคตก็จะมีการย้ายออกเพื่อทำเป็นทางเข้าหลักของโครงการครับ (ทางโครงการติดต่อกับทางเขตเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่รอย้ายเท่านั้น)

ดังนั้นหากใครที่ขับรถมาชมโครงการในช่วงนี้ ก็จะต้องมาใช้ทางเข้าชั่วคราวที่อยู่ทางด้านซ้ายมือของสำนักงานขายก่อนนะครับ แล้วจะสามารถขับอ้อมมาจอดรถที่ด้านหลังได้นั่นเอง

ภายในสำนักงานขายก็จะมีทั้งโมเดล และห้องตัวอย่างให้ดู 3 ห้องเลย ถ้าใครสนใจก็สามารถแวะเข้ามาสอบถามกับพนักงานขายได้นะครับ

คราวนี้เรามาเดินดูบรรยากาศรอบๆโครงการกันสักหน่อย เริ่มจากทางซ้ายมือจะเป็นทางที่มุ่งหน้าไปยังปากซอยฝั่งถนนเพชรเกษมได้ โดยโครงการจะอยู่ใกล้กับทางแยกพัฒนาการที่เป็นจุดเชื่อมต่อกับถนนเทอดไทครับ

ซึ่งบริเวณแยกพัฒนาการก็จะมีทั้งเซเว่นและ Cafe Amazon ตั้งอยู่ด้วย โดยจะเป็นในส่วนของโครงการเพื่อนบ้านอย่างทางเสนา ที่เค้าได้มาบุกเบิกทำเลนี้เอาไว้ก่อนแล้วนั่นเอง

ก็เลยทำให้โครงการใหม่ของออริจิ้นได้อานิสงส์ตรงนี้ไปด้วย แต่ในอนาคตเราก็จะมีร้านค้าของตัวเองมาเปิดในโครงการเช่นกัน ยังไงก็อดใจรอกันก่อนว่าจะเป็นร้านอะไรบ้างนะครับ

ส่วนอันนี้จะเป็นวินมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ใกล้กับโครงการ ซึ่งเราจะเดินมาใช้บริการเองหรือจะโบกเรียกที่หน้าโครงการของเราก็ได้ครับ เพราะจะมีพี่วินขับผ่านไป-มาบ่อยๆอยู่แล้ว โดยผมได้ถ่ายค่าบริการมาให้ดูกันคร่าวๆว่าจะเป็นประมาณนี้นั่นเอง

ส่วนทางด้านซ้ายของโครงการจะเป็นทางที่มุ่งหน้าไปท้ายซอยฝั่งถนนกัลปพฤกษ์ ซึ่งฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นอาคารพาณิชย์ที่มีพวกคลินิกและร้านค้านิดหน่อยนะ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • ตลาดบางแค ~ 1.4 กิโลเมตร
  • โลตัส บางแค ~ 1.6 กิโลเมตร
  • โฮมโปร กัลปพฤกษ์ ~ 2.3 กิโลเมตร
  • ซีคอน บางแค ~ 2.4 กิโลเมตร
  • เดอะมอลล์ บางแค ~ 2.4 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ~ 3.4 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลพญาไท 3 ~ 5.8 กิโลเมตร

โรงเรียน

  • โรงเรียนฐานปัญญา ~ 2.6 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

Highlights :

  • เป็นคอนโด Pet Friendly สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ มาพร้อมกับฟังก์ชันส่วนกลางให้น้องหมาน้องแมวได้ใช้งานเต็มที่
  • มีการแบ่งโซน Facilities แยกออกจากกันค่อนข้างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นโซนสัตว์เลี้ยง โซนร้านค้า และโซนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน ทำให้ไม่รบกวนกัน
  • ถือว่าเป็นโครงการที่ให้ส่วนกลางมาเยอะสุดเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน เพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มียูนิตค่อนข้างเยอะ
  • เป็นโครงการที่เราสามารถเลือก Combine ห้องในตำแหน่งไหนก็ได้ จึงมีความยืดหยุ่นสูง
  • ขายราคาเดียวทั้งโครงการเริ่ม 1.2 ล้านบาท ใครมาก่อนก็ได้ตำแหน่งดีๆไปก่อน โดยเฉพาะห้องที่ได้วิวสวนและสระว่ายน้ำจะค่อนข้างน่าสนใจมากทีเดียว

โครงการ The Origin Bangkae เรียกได้ว่าเป็นเพียงโครงการเดียวบนถนนเส้นนี้ ที่มีคอนเซ็ปต์ Pet Friendly สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ โดยลักษณะจะเป็นกลุ่มคอนโด Low Rise 6 อาคาร 1,477 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 8-3-55.50 ไร่ จึงทำให้เป็นโครงการที่มีส่วนกลางเยอะเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน แต่ก็ค่อนข้างมีจำนวนยูนิตที่มากที่สุดด้วยครับ

Master Plan :

เป็นโครงการขนาดค่อนข้างใหญ่ แบ่งอาคารพักอาศัยออกเป็น 6 ตึกด้วยกัน แต่จะมีเพียงอาคาร C และ F เท่านั้นที่จะสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ อีกทั้งยังมีฟังก์ชันส่วนกลางของน้องๆสัตว์เลี้ยง อยู่แยกออกมาจากโซนอื่นๆชัดเจนด้วยครับ จึงทำให้การใช้งานไม่รบกวนกัน โดยคนที่พักอาศัยในอาคารเหล่านี้ก็จะต้องมีการเสียค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม. (จากปกติ 40 บาท/ตร.ม.) เพื่อเป็นค่าบำรุงรักษาสถานที่ในโซนของสัตว์เลี้ยง ที่จะต้องมีการดูแลเป็นพิเศษมากกว่าโซนอื่นๆนั่นเอง

สำหรับ Facilities ส่วนใหญ่จะอยู่ที่อาคาร A และ B เป็นหลัก โดยคนที่พักอยู่ในอาคารนี้จะสามารถมาใช้งานได้สะดวกมาก รวมถึงยังได้วิวสระว่ายน้ำที่อยู่ตรงกลางอีกด้วย แต่ก็แลกกับความเป็นส่วนตัวที่ลดลงไปบ้าง เพราะจะมีคนพลุกพล่านมาใช้งานกันค่อนข้างคึกคักเลยทีเดียว แต่ถ้าเป็นอาคาร D กับ E จะค่อนข้างเงียบสงบมากกว่า หรือถ้าใครชอบวิวสีเขียวของต้นไม้ ก็อาจเลือกห้องทิศเหนือของอาคาร A กับ D ที่หันหน้าออกไปหาสวนก็ได้นะครับ

จากโมเดลด้านหน้าโครงการเราจะมองอาคารเป็นช่องสลับแบบฟันปลา เลยทำให้ดูไม่ทึบตันจนเกินไป และเมื่อผ่าน Main Gate เข้ามาก็จะเป็น Drop Off ให้เข้ามาวนรถรับ-ส่งกันได้เลย รวมถึงยังมีทางเดินแยกไปยัง Shop ร้านค้าที่อยู่ใต้ตึก A ได้อีกด้วย

ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณหน้า Shop ของตึก A จะมีการปลูกต้นไม้เพื่อความร่มรื่น พร้อมกับมีที่ให้นั่งเล่นพักผ่อนกันได้ครับ

โดยพื้นที่ส่วนนี้จะเรียกว่า Outdoor Dining ซึ่งเป็นลานอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ให้สามารถจัดกิจกรรมตามงานเทศกาลต่างๆ หรือจะนำ Food truck เข้ามาให้บริการแก่ลูกบ้านได้ในอนาคตได้นั่นเอง

ถัดเข้ามาจากโซนของ Shop ก็จะเป็นสระว่ายน้ำที่อยู่ระหว่างอาคาร A และ B โดยจากโมเดลเราจะเห็นถึงรายละเอียดของการออกแบบว่า เค้าจะมีการทำผนังทึบสูงขึ้นมาเพื่อกั้นโซนให้สระว่ายน้ำมีความเป็นส่วนตัวแยกจากโซนร้านค้านั่นเองครับ

ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณสระว่ายน้ำ ซึ่งรอบๆก็จะมีการปลูกต้นไม้เพื่อความร่มรื่น และมีที่ให้นั่งเล่นพักผ่อนกันได้อีกด้วย โดยคนที่เลือกห้องบริเวณนี้ก็จะได้มองเห็นวิวสระว่ายน้ำและสวนสวยๆแบบนี้นั่นเองคับ

ภาพบรรยากาศจำลองของสระว่ายน้ำแบบกลางแจ้ง ซึ่งจะมีขนาด 25 x 5 m. พอจะว่ายออกกำลังกายจริงจังได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียวครับ

อีกด้านหนึ่งของโมเดลจะเป็นทางทิศเหนือของอาคาร A และ D ซึ่งจะอยู่ติดกับสวนเป็นแนวยาวที่เรียกว่า Active Zone โดยหลักๆก็จะเป็น Jogging Track และ Outdoor GYM ให้มาออกกำลังกายกลางแจ้งกันได้

รวมถึงยังมีโซนที่เรียกว่า Edible Garden ซึ่งจะมีการปลูกพืชผักสวนครัวต่างๆ เพื่อให้ลูกบ้านสามารถมาเก็บผลผลิตนำไปประกอบอาหารได้นั่นเองครับ โดยข้อดีอีกอย่างของสวนเหล่านี้ก็คือ ห้องพักที่หันมาทางด้านนี้ของทั้ง 2 อาคาร จะสามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวได้ด้วยนั่นเอง

ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณสวนหน้าอาคาร A จะมีการปลูกต้นไม้โดยรอบเพื่อความร่มรื่น และมีที่นั่งเล่นพักผ่อนกันได้ รวมถึงบริเวณ Active Zone ก็จะมีอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งต่างๆให้ใช้งาน และมี Jogging Track ให้มาวิ่งออกกำลังกายกันได้อีกด้วยครับ

ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Lobby จะล้อมรอบด้วยกระจกเพื่อความสว่างโปร่งโล่ง รวมถึงจะมีโซฟาให้นั่งเล่นพักผ่อน หรือจะมานั่งคอยเพื่อนๆกันได้ด้วยครับ

ภาพบรรยากาศจำลอง Co-Working Space ของอาคาร B ภายในมีโซนฟังก์ชันให้เลือกนั่งทำงานอ่านหนังสือเยอะเลยทีเดียวครับ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะแบบเดี่ยว แบบกลุ่ม และโซฟานั่งเล่นแบบชิลๆ เพื่อตอบโจทย์การทำงาน WFH ในสมัยนี้ที่มีมากขึ้นนั่นเอง

ภาพบรรยากาศจำลองของห้อง Online Studio ที่จะมีการกั้นผนังกระจกแยกออกไปจากพื้นที่นั่งทำงานเป็นส่วนตัว สามารถมาใช้ถ่าย Live ขายของออนไลน์ต่างๆได้ครับ

ภาพบรรยากาศจำลองห้อง Fitness ซึ่งก็จะอยู่ในอาคาร B อีกเช่นกัน ภายในมีอุปกรณ์ให้ใช้งานครบ พร้อมกับผนังกระจกที่สามารถมองออกไปชมวิวสระว่ายน้ำภายนอกได้ครับ

มาดูทางฝั่งของอาคาร C และ F กันบ้าง ซึ่งจะเป็นโซนที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ครับ ดังนั้นจึงมีฟังก์ชันที่สามารถพาน้องหมาน้องแมวมาเดินเล่นกันได้ด้วย

โดยเฉพาะใต้อาคาร F จะมีทั้ง Pet Garden และ Pet Room ให้ใช้งาน ส่วนบนชั้นดาดฟ้าก็จะมีสวนที่สามารถพาสัตว์เลี้ยงขึ้นมาได้ด้วยเหมือนกัน

ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Pet Room สามารถพาน้องๆมาเจอหรือเล่นกับเพื่อนๆในห้องแอร์เย็นๆกันได้ครับ ให้อารมณ์เหมือนเป็น Cafe แมวอะไรประมาณนั้นเลย

ภาพบรรยากาศจำลองของสวนบนชั้นดาดฟ้าอาคาร C และ F ซึ่งนอกจากจะมีสนามหญ้าให้น้องๆสัตว์เลี้ยงได้วิ่งออกกำลังกายแล้ว ยังมีอุปกรณ์เครื่องเล่นต่างๆให้ใช้งานพร้อมอีกด้วย

โดยจะมีรั้วรอบขอบชิดที่ออกแบบมาให้ถี่เป็นพิเศษ รวมถึงยังจะมีการปลูกต้นไม้ที่ไม่เป็นพิษกับสัตว์ เผื่อเวลาที่น้องๆเผลอกินเข้าไปก็จะได้ไม่เป็นอันตรายครับ

ส่วนอาคารอื่นๆก็จะเป็นสวนแบบปกติ ซึ่งจะเป็นฟังก์ชันสำหรับให้คนได้ขึ้นมาใช้งาน เช่น จุดนั่งเล่นพักผ่อน และเคาน์เตอร์บาร์สำหรับนั่งดินเนอร์/จัดงานปาร์ตี้ เป็นต้น

ภาพบรรยากาศจำลองบนชั้นดาดฟ้าของแต่ละอาคาร ซึ่งโดยรอบจะไม่มีอาคารสูงอยู่เลย ดังนั้นเราจึงสามารถขึ้นมาชมวิวสวยๆได้นะครับ

สำหรับชั้นพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 – 8 ซึ่งแต่ละอาคารจะเป็นลักษณะรูปทรงตัว I แบบปกติเหมือนกันหมดเลย และจะมี 1 – 2 ชั้นที่ถูกออกแบบเป็นห้อง Combine มาให้ตั้งแต่แรก โดยแต่ละอาคารจะไม่เหมือนกันครับ ยกตัวอย่างของอาคาร A ก็จะเป็นชั้น 4 (ส่วนอาคารอื่นๆ ลองสอบถามกับทางโครงการดูอีกครั้ง)

ในเรื่องความหนาแน่นก็จะแตกต่างกันออกไป โดยอาคาร A จะมียูนิตต่อชั้นน้อยสุดคือ 33 ห้อง/ชั้น ในขณะที่อาคาร F จะมีเยอะสุดคือ 38 ห้อง/ชั้น และอาคารอื่นๆจะเท่ากันอยู่ที่ 35 ห้อง/ชั้น ซึ่งนี่เป็นการนับตาม Fact ดั้งเดิมของโครงการเท่านั้นนะครับ เพราะเค้าจะมีคอนเซ็ปต์ยืดหยุ่นที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

โดยห้องพิเศษอย่าง 1 Bedroom Plus (Combine) ทางลูกค้าสามารถ Request เพิ่มเติมได้เองว่าอยากให้รวมห้องคู่ไหนในตำแหน่งไหนของโครงการก็ได้ เพียงแต่จะมีค่ามัดจำหรือสัญญาอื่นๆเพิ่มเติม รวมถึงเราจะต้องแจ้งก่อนที่ทางโครงการจะเริ่มก่อสร้างเท่านั้น (คาดว่าจะเป็นช่วงต้นปีหน้า ลองสอบถามกับเจ้าหน้าที่ดูอีกครั้งครับ)

ส่วนภาพแปลนของอาคารอื่นๆ สามารถคลิกชมใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Image 1/7

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ชั้น 1 
    – Welcome Landscape
    – Outdoor Dining
    – Swimming Pool ขนาด 5 x 25 m.
    – Active Zone
    – Outdoor GYM
    – Edible Garden
    – EV Charger
  • อาคาร A
    – Shop 8 Unit
    – Roof Top Garden
  • อาคาร B
    – Reception Lobby
    – Living Court
    – Co-Working Space
    – Online Studio
    – Fitness
    – WC & Smart Locker
    – Roof Top Garden
  • อาคาร C
    – Roof Top Garden (Pet Allowed)
  • อาคาร D/E
    – Roof Top Garden
  • อาคาร F
    – Pet Room
    – Pet Garden
    – Roof Top Garden (Pet Allowed)
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 123 :  1
  • ที่จอดรถประมาณ 508 คัน คิดเป็น 35% และมอเตอร์ไซค์ 68 คัน
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card Access

 

แบบห้อง

Highlights :

  • มีแบบห้อง Combine ให้เลือก ซึ่งจะมีการกั้นฟังก์ชันใหม่ให้มีความเป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัวมากขึ้น
  • ขายเป็นห้องเปล่า Standard Room สามารถออกแบบพื้นที่ใช้สอย และจัดฟังก์ชันได้เองตามต้องการ
  • ได้ครัวปิดอยู่ติดระเบียงทุก Type ทำให้สามารถทำอาหารได้จริงจัง

แบบห้องของโครงการนี้จะมีทั้งหมด 2 Type ซึ่งขายแบบ Standard Room หรือห้องเปล่าที่ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ ให้มาเฉพาะสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเท่านั้น ดังนั้นเราจึงสามารถจัดฟังก์ชันและออกแบบห้องเองได้ตามต้องการ รวมถึงยังเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ในแบบที่ชอบมาใช้ได้อีกด้วย โดยแบบห้องก็จะมีดังนี้ครับ

  • 1 Bedroom ขนาด 24 – 25 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus (Combine) ขนาด 48.4 – 49.4 ตร.ม.

หรือหากใครที่ต้องการประหยัดเวลาในการตกแต่งห้อง ทางโครงการก็จะมีดีลพิเศษเป็น Furniture Parkgate ราคาเริ่มต้น 55,000 บาทให้เลือกได้ด้วยนะครับ ซึ่งจะได้เป็นพวกเฟอร์นิเจอร์ Built-in หลักๆครบ 4 ชิ้นคือ

เคาน์เตอร์ครัว ฐานเตียง ตู้เสื้อผ้า และชั้นวางทีวี เหลือแค่เพียงเครื่องใช้ไฟฟ้าและเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวบางชิ้น ที่เราสามารถหาซื้อมาใช้เองได้ตามความชอบ เช่น ฟูกที่นอน และโซฟา ที่แต่ละคนก็ชอบความนุ่มไม่เหมือนกันนั่นเองครับ

  • 1 Bedroom Plus (Combine) ขนาด 48.4 – 49.4 ตร.ม.

วันนี้เราขอพามาเริ่มจากของแปลกอย่างห้อง Combine โดยลักษณะภายในจะไม่ใช่แค่เป็นการนำห้อง 1 Bedroom มารวมกันเท่านั้น แต่ยังมีการกั้นฟังก์ชันใหม่ทั้งหมด และทำให้เกิดการใช้งานที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างมาก รวมถึงยังมีขนาดพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางอีกด้วย

จุดเด่นของห้องนี้คือ เราจะได้ห้องนอนที่กั้นด้วยผนังทึบที่มี “ความเป็นส่วนตัวสูง” อีกทั้งยังมีห้องแต่งตัวและห้องน้ำให้ใช้งานแยกเป็น 2 ห้องอีกด้วย ห้องครัวอยู่ติดระเบียงสามารถทำอาหารได้จริงจัง ส่วนห้องอเนกประสงค์ด้านหน้าเราสามารถปรับเป็นห้องอะไรก็ได้ตามต้องการ เช่น ห้องทำงาน ห้องสตูดิโอ และห้องนอนเล็ก เป็นต้น รวมถึงหากใครที่เลี้ยงน้องหมาน้องแมวอยู่แล้ว ก็อาจทำเป็นห้องส่วนตัวของน้องๆไปเลยก็ได้นะครับ

**หมายเหตุ : ห้อง 1 Bedroom สามารถ Combine ได้ทั้งโครงการตามที่ลูกค้าจะ Request เพียงแต่จะมีค่ามัดจำหรือสัญญาอื่นๆเพิ่มเติม รวมถึงเราจะต้องแจ้งก่อนที่ทางโครงการจะเริ่มก่อสร้างเท่านั้น (คาดว่าจะเป็นช่วงต้นปีหน้า ลองสอบถามกับเจ้าหน้าที่ดูอีกครั้งครับ)

เมื่อเข้ามาภายในเราจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อตั้งแต่ประตูหน้าห้องไปจนถึงหน้าต่างด้านในสุด จึงทำให้มีแสงสว่างส่องผ่านเข้ามาได้ถึงหน้าห้องแบบนี้เลย โดยความสูงฝ้าจะอยู่ที่ 2.45 m. และปูพื้นด้วยไม้ลามิเนตปกติครับ

บริเวณด้านหน้าห้องจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารได้ 4 ที่นั่ง พร้อมกับเราสามารถ Built-in ตู้เก็บรองเท้าเพิ่มเติมแบบนี้ได้ด้วยนะครับ ซึ่งจะทำให้เก็บของเข้าตู้ได้เรียบร้อยและหยิบใช้งานได้สะดวก

ด้านในจะเป็นพื้นที่ Living Area ซึ่งอยู่ติดกับหน้าต่างที่กว้างแต่จะไม่ได้สูงใหญ่มากนัก จึงได้ความเป็นส่วนตัวจากภายนอกเวลามองเข้ามาแทน แต่ก็ยังมีแสงสว่างส่องเข้ามาเพียงพอ และเปิดระบายอากาศได้อีกด้วย

ส่วนระยะดูทีวีจะกว้าง 2.5 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้พอดี โดยที่เราสามารถใช้โซฟาแบบ 3 ที่นั่งให้นอนดูสบายๆได้เลยนะ รวมถึงฝั่งทีวีก็ทำตู้และชั้นวางเพื่อเก็บของได้เต็มผนังเลยทีเดียว

ด้านซ้ายของห้องจะเป็นทางไปครัวและห้องน้ำ ซึ่งจะมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นไว้เป็นสัดส่วน และยังช่วยป้องกันกลิ่น/ควันไม่ให้เข้ามารบกวนในห้องได้อีกด้วย

โดยประตูนี้จะเป็นแบบแขวนลอยด้านบน จึงไม่มีขอบรางบนพื้นมาคอยเก็บฝุ่น หรือทำให้เราต้องเดินสะดุดบ่อยๆนั่นเอง

ภายในกว้าง 1.4 x 2.55 m. สามารถใช้สอยได้สบายๆ และเปลี่ยนวัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ จึงทำให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่ายครับ

โดยของจริงเราจะได้เป็นห้องเปล่านะครับ ซึ่งจะมีท่องานระบบและ Junction ต่างๆเตรียมไว้ให้เรามา Built-in เพิ่มเติมได้เอง

จุดเด่นของครัวห้องนี้คือ เค้าจะอยู่ติดกับระเบียงที่เราสามารถเปิดประตูเพื่อระบายอากาศได้เต็มที่ ทำให้เป็นครัวปิดที่เหมาะกับการทำอาหารได้จริงจังครับ

ส่วนระเบียงภายนอกจะมีขนาด 1.4 x 0.9 m. พอจะวางเครื่องซักผ้าและออกไปใช้งานเล็กๆน้อยๆได้พอดี

อีกด้านหนึ่งของครัวจะเป็นห้องน้ำครับ ซึ่งไว้ใช้งานสำหรับแขกและทุกคนในห้อง รวมถึงห้องอเนกประสงค์ที่อาจกลายเป็นห้องนอนเล็กด้วยครับ

ภายในห้องน้ำมีฟังก์ชันให้ใช้งานครบ ซึ่งเราจะได้สุขภัณฑ์จาก Englefield เหมือนห้องตัวอย่างนี้ทั้งหมดเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และกระจกเงา โดยพื้นที่ส่วนแห้งจะกว้าง 1.4 x 1.5 m. สามารถใช้งานได้ตามปกติ

ส่วนพื้นที่ยืนอาบน้ำจะกว้าง 90 x 75 cm. สามารถใช้งานได้แบบพอดีตัว โดยเราอาจกั้นกระจกหรือม่านพลาสติกเพิ่มเติมเองได้นะครับ เวลาอาบน้ำจะได้ไม่กระเด็นเปียกทั้งห้อง ส่วนภายในก็จะมี Hand Shower และ Junction ติดเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้พร้อมใช้งาน

อีกด้านของห้องจะเป็นห้องนอนหลักและห้องอเนกประสงค์ ที่กั้นด้วยผนังทึบมีความเป็นส่วนตัวสูง

เริ่มจากห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ด้านหน้ากันก่อน ภายในกว้าง 2.6 x 2.2 m. ซึ่งตามกฎหมายแล้วอาจยังมีขนาดพื้นที่ใหญ่ไม่เพียงพอ และไม่ได้มีช่องแสงเลย เราจึงไม่ได้เรียกว่าเป็นห้องนอนนะครับ

แต่ด้วยขนาดพื้นที่ก็สามารถทำเป็นห้องนอนเล็กได้นะ เพราะวางเตียง 3.5 ฟุตกับตู้เสื้อผ้าเล็กๆได้พอดี หรือใครจะทำเป็นห้องอื่นๆก็ได้ เช่น ห้องทำงาน ห้องดูหนังเล่นเกมส์ และห้องออกกำลังกาย รวมถึงหากใครเลี้ยงน้องหมาน้องแมว ก็สามารถทำเป็นห้องส่วนตัวของน้องๆได้อีกด้วย

ถัดมาจะเป็นห้องนอนหลักที่อยู่ติดกับช่องแสงขนาดใหญ่ ภายในกว้าง 2.6 x 3.5 m. สามารถวางเตียงนอน 5 ฟุตได้สบายๆ อีกทั้งยังติดทีวีแขวนผนังเพื่อนอนดูบนเตียงได้อีกด้วย

รอบเตียงมีพื้นที่เหลือ 30 – 40 cm. ให้ขึ้น-ลงเตียง หรือเปลี่ยนผ้าปูเตียงได้พอดีๆ

ส่วนหน้าต่างจะเป็นบานเลื่อนที่มีตัวล็อค 2 ชั้น กรอบอลูมิเนียม Powder Coad สีดำ และกระจกเขียวตัดแสง สามารถเปิดระบายอากาศได้ทั้ง 2 ด้านเลย

อีกด้านหนึ่งจะเป็นประตูที่เชื่อมต่อไปยัง Walk-in Closet โดยจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนแบบแขวนลอยเหมือนฝั่งห้องครัวก่อนหน้านี้เลยครับ

ภายในมีขนาด 1.4. x 2.55 m. ซึ่งเราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ตามต้องการ โดยฟังก์ชันนี้จะอยู่ติดกับห้องน้ำจึงทำให้ใช้งานต่อเนื่องกันได้ง่าย แถมยังได้แสงสว่างจากภายนอกทำให้เหมาะแก่การแต่งตัว/แต่งหน้ามากๆอีกด้วย

ระเบียงภายนอกมีขนาด 1.4 x 0.9 m. สามารถออกมาใช้งานได้แบบพอดีๆ โดยด้านบนอาจต้องมี Condensing Uint แขวนอยู่สัก 2 เครื่อง สำหรับของห้องนอนและห้องอเนกประสงค์ ส่วนของห้องนั่นเล่นก็จะแบ่งไปทางฝั่งครัวที่อยู่ใกล้กว่าครับ

อีกด้านหนึ่งของ Walk-in Closet จะเป็นห้องน้ำให้ใช้งานแบบส่วนตัว

ซึ่งภายในมีขนาดและฟังก์ชันที่เหมือนกับห้องน้ำทางฝั่งครัวก่อนหน้านี้ทุกอย่างเลยครับ

  • 1 Bedroom ขนาด 24 – 25 ตร.ม.

เป็นห้องมาตรฐานแบบเริ่มต้นของโครงการ อย่างที่บอกไปแล้วว่าจะได้เป็นห้องเปล่านะครับ ซึ่งเราสามารถออกแบบฟังก์ชันได้เองตามต้องการ โดยเฉพาะพื้นที่ Common Area ที่อยู่ตรงกลาง เราจะปล่อยให้เชื่อมต่อกันกลายเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ และมีความกว้างขวางโปร่งโล่งคล้ายห้อง Studio แบบเดิมก็ได้ หรือจะกั้นผนังกระจกเพื่อความเป็นสัดส่วนมากขึ้นก็ดี นอกจากนี้ยังได้ครัวปิดติดระเบียงที่เหมาะจะทำอาหารได้จริงจังอีกด้วย

เข้ามาภายในห้องตัวอย่างทางโครงการจะจัดฟังก์ชันมาให้ดูเป็นไอเดีย เพื่อที่จะได้เห็นภาพในการใช้งานจริงมากขึ้นนะครับ (ของจริงเป็นห้องเปล่าทั้งหมด)

พื้นที่ส่วนแรกจะเป็น Living Area สำหรับวางโซฟาและทีวี โดยจะมีระยะกว้าง 2.55 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้พอดี รวมถึงเรายังสามารถเพิ่มชั้นวางของและชั้นวางรองเท้าตรงประตูได้อีกด้วย

ตรงกลางห้องเราสามารถวางเป็นโต๊ะนั่งทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งได้พอดี หรือจะใช้เป็นโต๊ะอเนกประสงค์นั่งทำงานก็ได้นะครับ

แต่ถ้าใครอยากขยายโซฟาให้นอนดูหนังได้สบายๆ ก็อาจเลือกใช้โซฟาที่ด้านหนึ่งไม่มีพนักพิง เพื่อให้เพื่อนอีกคนนั่งทานข้าวบนโซฟาแทน หรือจะใช้โต๊ะกลางที่ปรับระดับความสูงให้นั่งทานตรงหน้าทีวีก็ได้เหมือนกัน

ถัดมาจะเป็นโซนของห้องนอนด้านในสุดครับ ซึ่งทางโครงการก็กั้นห้องมาให้ดูเป็นไอเดียนะ โดยการใช้เป็นประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ จึงทำให้มีความเป็นสัดส่วนมากขึ้น และจะได้ช่วยประหยัดแอร์ในตอนกลางคืนได้ด้วยนั่นเอง

ภายในเราสามารถวางเตียง 5 ฟุต กับตู้เสื้อผ้าอีก 1 ใบได้แบบพอดีๆ และมีพื้นที่รอบเตียงเหลือ 30 – 40 cm. ให้เดินผ่านได้ครับ

โดยสิ่งที่อาจต้องเพิ่มได้นอกเหนือจากในห้องตัวอย่างนี้ก็คือ “โต๊ะแต่งหน้า” ซึ่งเราอาจ Built แบบแขวนผนังเล็กๆที่ฝั่งตรงข้ามกับตู้เสื้อผ้าก็ได้นะ

อีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็นทางไปครัวและห้องน้ำ ซึ่งจะมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นไว้เป็นสัดส่วน คอยกันกลิ่นและควันไม่ให้เข้ามาภายในห้อง และทำให้เราประกอบอาหารได้เต็มที่มากขึ้น

ภายในครัวมีขนาด 1.4 x 2.55 m. แน่นอนว่าของจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆ พร้อมกับมีท่องานระบบต่างๆให้เราได้ Built ครัวเพิ่มเองนะครับ โดยจะอยู่ติดกับระเบียงภายนอกขนาด 1.4 x 0.9 m. ให้เราได้เปิดระบายอากาศและออกไปใช้งานได้ด้วยนั่นเอง

อีกหนึ่งไอเดียสำหรับคนที่ปกติไม่ค่อยทำอาหาร หรือไม่ได้ต้องการฟังก์ชันครัวอยู่แล้ว เราก็อาจปรับเป็น Walk-in Closet หรือห้องอื่นๆก็ได้ตามต้องการ โดยอาจมีเพียงไมโครเวฟไว้อุ่นอาหาร กับเพิ่มซิ้งค์ล้างจานเล็กๆตรงระเบียงด้านนอกก็ได้ ซึ่งถือเป็นข้อดีของห้องเปล่าที่มีความยืดหยุ่นสูงนั่นเอง ที่เราสามารถปรับให้เข้ากับ Lifestyle และความต้องการของเราจริงๆได้ครับ

สุดท้ายจะเป็นห้องน้ำที่มีฟังก์ชันและสุขภัณฑ์ครบ เหมือนกับห้องอื่นๆก่อนหน้านี้เลยครับ

ส่วนภาพใน Gallery ด้านล่างนี้จะเป็นห้องตัวอย่างที่จัดมาให้ดูไอเดียอีกห้องหนึ่ง สามารถเลื่อนกดดูได้เลยครับ

Image 1/5

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคา

The Origin Bangkae ราคา ณ วันที่ 12 เมษายน 2566

  • 1 Bedroom ขนาด 24 – 25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.2 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus (Combine) ขนาด 48.4 – 49.4 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.4 ล้านบาท

  • รูปแบบการขาย Standard Room (ห้องเปล่า)
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.45 เมตร
  • มีรถ Shuttle Service ไป-กลับ MRT บางแค
  • จอง 5,000 – 10,000 บาท
  • ทำสัญญา 25,000 – 50,000 บาท
  • ค่ากองทุน 450 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 40 – 45 บาท/ตร.ม./เดือน (อาคารที่เลี้ยงสัตว์ได้ 45 บาท / อาคารที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ 40 บาท)

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

บทสรุป

ทำเล : ตั้งอยู่ติดถนนบางแคช่วงกลางซอย สามารถเชื่อมต่อถนนหลักอื่นๆได้หลายทาง ความน่าสนใจคือ “ราคา” ที่จับต้องได้ง่ายกว่าคอนโดแถวปากซอยหรือติดถนนใหญ่ ที่มักจะเริ่มล้านปลายๆหรือสองล้านต้นๆไปแล้ว แต่สำหรับโครงการ The Origin Bangkae จะเริ่มเพียง 1.2 ล้านเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นโครงการเดียวของย่านในปัจจุบัน ที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ด้วย โดยความอุดมสมบูรณ์หลักๆก็จะอยู่ตรงปากซอยฝั่งเพชรเกษม มีทั้งตลาด ห้างสรรพสินค้า และยังมีรถไฟฟ้า MRT เป็นตัวเลือกในการเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกด้วยครับ

การเดินทางโดยใช้รถ : ถนนบางแคสามารถเชื่อมต่อถนนหลักใหญ่ๆได้ 4 เส้นทาง ได้แก่ ถนนเพชรเกษม ถนนกาญจนาภิเษก ถนนกัลปพฤกษ์ และถนนราชพฤกษ์ จึงมีตัวเลือกในการเดินทางและใช้ชีวิตค่อนข้างหลากหลาย ถ้าจะเดินทางไกลก็จะใช้ถนนกาญจนาภิเษกเป็นหลัก หรือไปขึ้นทางด่วนดาวคะนองตรงพระราม 2 โน่นเลย

แต่จากที่สอบถามพูดคุยหน้างานมาแล้ว คนที่ซื้อจริงส่วนใหญ่จะเป็นคนในพื้นที่หรือทำงานในย่านนี้อยู่แล้ว และมักจะใช้รถมอเตอร์ไซค์เป็นหลักเพื่อความคล่องตัว โดยจำนวนที่จอดรถของโครงการนี้ก็คือ 508 คัน คิดเป็น 35% และมอเตอร์ไซค์อีก 68 คัน คาดว่าน่าจะเพียงพอต่อการใช้งานนะครับ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ทำเลนี้มีรถไฟฟ้า MRT สถานีบางแค เป็นตัวเลือกในการเดินทางเข้าเมืองได้สะดวก โดยจะอยู่ตรงปากซอยห่างจากโครงการประมาณ 1 km. ซึ่งทางโครงการก็จะมีบริการ Shuttle Service คอยรับ-ส่งให้ด้วยในอนาคต หรือหากใครจะใช้บริการรถสาธารณะอื่นๆ เช่น วินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ และรถเมล์ บริเวณหน้าโครงการก็สามารถเรียกได้ค่อนข้างสะดวกครับ เพราะถนนบางแคเป็นถนนเส้นหลักที่มีรถผ่านไป-มาคึกคักอยู่แล้วนั่นเอง

การออกแบบโครงการ : เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีจำนวนยูนิตค่อนข้างเยอะ แต่ก็ทำให้มีพื้นที่ส่วนกลางเยอะด้วยเช่นกันครับ โดยจะเป็นคอนโด Pet Friendly ที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ แต่ก็จะมีการแบ่งโซนแยกจากพื้นที่อื่นๆอย่างเป็นสัดส่วนไม่รบกวนกัน (ที่อาคาร C และ F) ซึ่งจุดเด่นอีกอย่างของโครงการนี้ก็คือ เราสามารถเลือกที่จะ Combine ห้องตำแหน่งไหนก็ได้ตามต้องการ รวมถึงยังมีการขายแบบราคาเดียวเริ่ม 1.2 ล้านทั้งหมดอีกด้วย ใครมาก่อนก็จะได้ห้องตำแหน่งดีๆไปก่อนเลย โดยเฉพาะห้องที่ได้วิวสระว่ายน้ำและสวนจะค่อนข้างน่าสนใจมากๆครับ

การออกแบบห้องพักอาศัย : มีห้อง 2 แบบให้เลือกคือ 1 Bedroom ที่มีห้องครัวปิดติดระเบียงให้ทำอาหารได้จริงจัง เหมาะสำหรับอยู่ 1 – 2 คน และห้อง Combine ที่เป็น 1 Bedroom Plus แบบ 2 Bath ซึ่งไม่ใช่แค่การนำ 2 ห้องมารวมกันเฉยๆเท่านั้น แต่ยังมีการกั้นห้องนอนใหม่ด้วยผนังทึบ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

รวมถึงยังมีการดัดแปลงตำแหน่งครัวฝั่งของห้องนอนให้กลายเป็น Walk-in Closet และที่สำคัญคือ มีห้องอเนกประสงค์ให้ใช้งานด้วยครับ โดยเราสามารถทำเป็นห้องอะไรก็ได้ตามต้องการ เช่น ห้องทำงาน ห้องดูหนังเล่นเกมส์ หรือจะเป็นห้องนอนเล็กอีกสักห้องก็ได้ และหากใครที่เลี้ยงสัตว์อย่างน้องหมาน้องแมว ก็อาจจัดเป็นห้องส่วนตัวของน้องๆไปเลยก็ได้ครับ

วัสดุ : โครงการนี้ขายเป็นห้องเปล่า Standard Room ซึ่งเราจะได้เพียงสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเท่านั้น และเกรดวัสดุที่ได้ก็เป็นไปตามมาตรฐานระดับราคา ส่วนที่เหลือจะต้องเผื่อเงินเพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งห้องเองนะครับ (คาดการคร่าวๆประมาณ 50,000 – 100,000 บาท แล้วแต่เกรดวัสดุที่เลือกใช้)

ข้อดีคือ เราสามารถออกแบบและจัดฟังก์ชันห้องได้ตามต้องการ หรือใครที่อยากประหยัดเวลาในการ Built-in ทางโครงการก็มีตัวเลือกของ Furniture Parkgate เพิ่มเงินอีก 55,000 บาท ก็จะได้เฟอร์นิเจอร์หลักๆ 4 ชิ้นครบ โดยจะเหลือพวกเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวบางอย่าง กับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะต้องซื้อเพิ่มเองอีกนิดหน่อยครับ

สาธารณูปโภค : ถือว่าเป็นโครงการที่ให้ส่วนกลางมาให้ค่อนข้างเยอะสุดในย่าน เพราะเค้าค่อนข้างมีพื้นที่เยอะครับ ซึ่งจะมีฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานครบเลย ไม่ว่าจะเป็นสวน สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย และร้านค้าต่างๆ รวมถึงยังเน้นพื้นที่นั่งทำงานอย่าง Co-Working Space และ Online Studio ให้เหมาะกับยุคสมัย WFH แบบนี้ด้วย

แต่จุดที่แตกต่างจากเพื่อนบ้านจริงๆก็คือ มีโซนฟังก์ชันให้น้องๆสัตว์เลี้ยงสามารถใช้งานได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น Pet Room และสวนบนชั้นดาดฟ้า โดยค่าส่วนกลางของอาคารที่เลี้ยงสัตว์ได้จะสูงกว่า 5 บาท เพราะจะต้องมีการทำความสะอาดที่มากกว่านั่นเองครับ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 50,000 บาท/ตร.ม., 12 เมษายน 2566

  • ทำเล 7.75/10 – ความอุดมสมบูรณ์ส่วนใหญ่จะอยู่ตรงปากซอย แต่ก็มีราคาที่จับต้องได้ง่าย
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – สามารถเชื่อมต่อลัดเลาะได้หลายเส้นทาง ใกล้ถนนกาญจนาภิเษก ที่จอดรถเพียงพอ
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – มีบริการ Shuttle Service รับ-ส่งไปยัง MRT บางแค หน้าโครงการเรียกรถสาธารณะได้ง่าย
  • วัสดุ 7.25/10 – ขายเป็นห้องเปล่า ต้องเผื่อเงินแต่งห้องเพิ่ม และได้สเปควัสดุเป็นมาตรฐานตามระดับราคา
  • แบบ 8/10 – เป็นโครงการใหญ่ ยูนิตเยอะ เลี้ยงสัตว์ได้ และห้องสามารถ combine ตำแหน่งไหนก็ได้
  • สาธารณูปโภค 8/10 – มีพื้นที่ส่วนกลางเยอะ และมีฟังก์ชันสำหรับสัตว์เลี้ยงให้ใช้งาน โดยจะมีการแบ่งโซนแยกการใช้งานออกจากกันได้ดี ไม่รบกวนกัน

  • ECONOMY CLASS
  • 7.69 / 10.00

The Origin Bangkae เหมาะกับใคร

โครงการ The Origin บางแค เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดราคาจับต้องได้ง่าย เริ่มเพียงล้านต้นๆในย่านบางแค มีรถไฟฟ้า MRT เป็นตัวเลือกในการเดินทางเข้าเมืองสะดวก และเป็นคอนโดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ มีพื้นที่ส่วนกลางเยอะ โดยห้องพักจะเป็นห้องเปล่าที่เราจะต้องเผื่องบในการแต่งห้องเพิ่มเติมเอง รวมถึงยังมีแบบห้อง Combine ที่ได้ห้องอเนกประสงค์ และห้องน้ำ 2 ห้องให้เลือกด้วยครับ มีงบประมาณระดับ 1.2 – 2.4 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 8,000 – 16,000 บาท/เดือน


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc