รีวิวฉบับที่ 466 … สวัสดีครับวันนี้ผมจะพาไปชมโครงการ THE NEST PLOENCHIT (เดอะ เนสท์ เพลินจิต) โครงการคอนโด Low-Rise จาก The Nest Property โครงการขนาดไม่ใหญ่ เพราะมี 64 ห้องเท่านั้น แต่มีจุดเด่นหลักอยู่ที่ทำเลที่เป็น CBD และห่างจาก BTS เพลินจิต ประมาณ 450 เมตร มีบริการรถรับ-ส่ง ซึ่งคอนโดลักษณะนี้ จะเป็นทางเลือก สำหรับคนมองหาคอนโดในเมือง ในราคาที่พอจะหยิบจับง่ายกว่าโครงกรใหญ่ๆ ในทำเลใกล้กันครับ โครงการจะเป็นอย่างไรเราไปดูกันเลยครับ ヾ(^-^)ノ~♪
Fact @ 15 October 2013
- THE NEST PLOENCHIT (เดอะ เนสท์ เพลินจิต)
- บริษัท เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
- HIGH CLASS 2013 (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 64 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 10 ยูนิต
- ที่จอดรถในช่องจอดประมาณ 31 คัน ถ้ารวมจอดซ้อนคันจอดได้ประมาณ 39 คันคิดเป็น 60%
- ที่ดินประมาณ 0-2-35 ไร่ (234 ตารางวา)
- โครงการพร้อมอยู่
- Studio 27.5 ตารางเมตร (Sold Out)
- 1 Bedroom 36.60 – 46.62 ตารางเมตร
- 2 Bedrooms 66.70 ตารางเมตร
- Loft 65.10- 89.80 ตารางเมตร (Sold Out)
- ราคาปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 4.9 ล้านบาท (พร้อมเฟอร์นิเจอร์)
- ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 120,000 – 140,000 บาท
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS เพลินจิต ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS เพลินจิต
- www.thenestcondo.com
- โทร : 089-999-5181
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
พิกัด : 13.746271,100.549423
แผนที่จากโครงการครับ
THE NEST PLOENCHIT (เดอะ เนสท์ เพลินจิต) โครงการนี้ตั้งอยู่ใน ซอยนายเลิศ ถนนเพลินจิต ซึ่งเป็นทำเลใจกลางย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพและมีราคาที่ดินสูงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ บริเวณนี้เป็นเพื่นที่สำคัญทางเศรษฐกิจเพราะมีอาคารสำนักงานขนาดใหญ่หลายแห่ง, แหล่งรวมโรงแรมระดับ 5 ดาวขึ้นไป, และในอนาคตจะมีการเปิดห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่าง Central Embassy ด้วยแล้วยิ่งทำให้ที่ดินบริเวณนี้มีราคาสูงขึ้นไปอีก แต่มีจุดด้อยตรงเรื่องการจราจรที่ติดขัดเป็นปัญหาที่ต้องเจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ถ้าคุณจำเป็นต้องใช้รถในช่วงเวลาเร่งด่วน แถมยังมีวันเวย์ด้วย
เส้นทางการจราจรบริเวณนี้มีความซับซ้อนอยู่พอสมควรถ้าใครไม่คุ้นเคยแล้วหละก็อาจต้องอ้อมกันไกลเลยครับ ที่บอกว่าซับซ้อนก็เพราะว่ามีถนนที่เป็น One Way อยู่หลายเส้นทางรอบๆโครงการ อย่างเช่นถ้าเราจะไป Terminal 21 เวลาออกจากโครงการ(ซอยนายเลิศ)เราไม่สามารถเลี้ยวซ้ายไปถนนสุขุมวิทแล้วตรงไปได้เลย เพราะถ้าเลี้ยวซ้ายรถทุกคันจะถูกบังคับขึ้นทางด่วน ต้องเลี้ยวขวาเข้าถนนเพลินจิต > เลี้ยวขวาเข้าถนนวิทยุ > เลี้ยวขวาเข้าถนนเพชรบุรี > เลี้ยวขวาเขาซอย นานา > เแล้วค่อยเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิท เป็นยังไงครับอ้อมไปไกลเลย แต่ถ้าจะไปสยามหละก็ง่ายเลยครับ ออกจากโครงการเลี้ยวขวาเข้าถนนเพลินจิตตรงไปเรื่อยๆไม่ไกลก็ถึงเลย ถ้าใครงงสามารถดูรายละเอียดเส้นทางและสถานที่สำคัญรอบๆได้ที่ มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS เพลินจิต ครับ จากแผนที่จะแสดงเส้นทางและสถานที่สำคัญๆเพียงบางจุดเท่านั้นนะครับ เพราะถ้าจะให้แสดงหมดทุกอาคารแผนที่สัดส่วนนี้คงแสดงไม่พอครับ
คราวนี้มาดูมาดูการเส้นทางการเดินรถและสถานที่รอบๆโครงการว่าเป็นอย่างไร ตัวโครงการนั่นตั้งอยู่ในซอยนายเลิศซึ่งเป็นถนน One Way มีสถานีรถไฟฟ้า BTS เพลินจิต อยู่ที่ปากทางออกซอยนายเลิศ สภาพแวดล้อมภายในซอยส่วนใหญ่จะเป็นอาคารเพื่ออยู่อาศัยสูงประมาณ 8 – 12 ชั้นยกเว้นโครงการ Noble Ploenchit ที่อยู่ติดกับรถไฟฟ้าและมีอาคาร B สูง 51ชั้นมาบังวิวด้าน BTS(จะมีอธิบายเพิ่มเติมในส่วนของโครงการครับ) ด้านถนนวิทยุจะมีอาคาร Wave Place ที่มี Home Pro Plus อยู่ด้ายในถัดมาคือโรงแรม ศิวาเทล และ สถานฑูตสวิสเซอร์แลนด์ ฝั่งตรงข้ามคือสถานฑูตอังกฤษ และ Swissotel เส้นทางที่ผมจะพาไปคือเส้นทางจาก BTS เพลินจิตนะครับเพราะเป็นจุดขายของโครงการครับ
มาเริ่มต้นกันที่ทางลงรถไฟฟ้าเลยครับใช้ทางออก 3 ครับ แต่ก่อนเข้าไปใน ซอยนายเลิศ มาดูอาคารบริเวณนี้กันสักหน่อยครับ
ฝั่งตรงข้ามปากซอยคืออาคาร มหาทุน พลาซ่า และ Park Venture ครับ
อาคารที่อยู่อีกด้านของมหาทุน พลาซ่าคือโรงแรม Novotel
การจราจรขาเข้าช่วยบ่ายยังหนาแน่นอยู่ครับ
ถ้ามองจาก BTS เพลินจิต จะเห็นอาคาร Wave Place และ โรงแรม Sivatel
ที่ดินที่ติดกับทางลงสถานี BTS เพลินจิตและกำลังก่อสร้างอยู่คือ โครงการ Noble Ploenchit ครับ
ที่ดินที่ติดกับของ Noble ที่เมื่อก่อนเป็นปั๊ม ก็ปรับสภาพพื้นที่แล้ว
ตัวโครงการก็สามารถมองเห็นได้จากสถานีรถไฟฟ้านะครับ แต่ถ้า Noble Ploenchit สร้างเสร็จก็ไม่เห็นแล้วครับ
บริเวณปากซอยนายเลิศจะมีพี่วินคอยให้บริการอยู่ และตรงนี้จะเป็นป้ายรถเมล์
ถ้าออกจากซอยแล้วเลี้ยวขวาจะไปถนนวิทยุและสยาม
แต่ถ้าเลี้ยวซ้ายจะต้องขึ้นทางด่วนเท่านั้นตรงจุดนี้แหละครับที่จะพลาดกันบ่อยเพราะเข้าใจผิดว่าตรงไปเข้าเส้นสุขุมวิทได้
สภาพถนนภายในซอยนายเลิศเป็นถนน 2 เลนแต่เป็น One Way ไม่ได้วิ่งสวนกัน มีทางเท้าให้เดินได้ไม่ลำบากนัก
ระหว่างทางมีอพาร์ทเม้นท์อยู่หลายอาคาร
เดินมาถึงทางโค้งแรกให้เลี้ยวซ้าย ตรงไปเป็นทางตันครับ
นอกจากอพาร์ตเม้นท์แล้วในซอยยังมีทาวน์เฮาส์สูง 3 ชั้นอยู่ช่องปลายซอยที่ติดกับ BTS
โครงการ Noble Ploenchit จะมีที่ดินบางส่วนที่ติดอยู่ในซอยนี้ด้วย
เส้นทางการเดินค่อนนข้างร่มรื่นเพราะมีต้นไม้ให้ร่มเงาเกือบตลอดทาง
ก่อนถึงโครงการ เราจะเจอโครงการ O2 ก่อน ซึ่งเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น เช่นเดียวกัน
Renova Residence นี่จะเป็นคอนโด Mid Rise สูงประมาณ 13 ชั้น
Karolyn Court คือตึกที่อยู่ทางทิศใต้ของโครงการ เป็นตึกสูง 12 ชั้น ซึ่งจะบังวิวห้องในแนวทิศใต้ทั้งหมด
แล้วก็มาถึงตัวโครงการครับ ทิศเหนือจะติกับโรงแรม Arcadia ส่วนทิศใต้เป็นที่ดินเปล่า
จุดด้อยข้อนึงสำหรับทำเลนี้คือติดกับทางด่วน ซึ่งคงเลี่ยงปัญหาเรื่องเสียงและฝุ่นการจราจรลำบาก
คราวนี้ลองเดินจากถนนวิทยุเข้ามาบ้างนะครับ
ตรงหัวมุมอาคาร Wave Place มีสถานีจักรยานให้เช่าอยู่ ใช้เดินทางใกล้ๆได้นะครับ
เอาแผนที่สถานีมาฝากครับ อัตราค่าบริการเช่าจักรยาน 15 นาทีแรกฟรี ชม.แรก 10 บาท ถ้าจะช้งานต้องสมัครสมาชิกเพื่อรับบัตรสมาร์ทการ์ดก่อนนะครับ
สภาพทางเดินบริเวณด้านข้างอาคาร Wave Place ครับมีพี่วินให้บริการอยู่ตรงนี้ด้วย
ที่อยู่ติดกันเลยคือโรงแรม ศิวาเทล
ฝั่งตรงข้ามเป็นสถานฑูตอังกฤษ
เดินต่อมาจะเจอสถานฑูตสวิสเซอร์แลนด์
ทางเดินบริเวณนี้ค่อนข้างกว้างและมีร่มเงาจากต้นไม้เกือบตลอดทาง
ถัดมาจะเป็น The Pent Exclusive Club
ก่อนถึงปากซอยจะเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น
ฝั่งตรงข้ามเป็นโรงแรม Swissotel
ปากซอยอีกด้านจะเป็นอาคาร B.L.H. Building และมีพี่วินให้บริการอีกจุด
ภายในซอยมีทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น
และมีอาคารพักอาศัยอยู่หลายอาคารสูงประมาณ 8 – 12 ชั้น
เข้าซอยมาแค่นิดเดียวก็เลี้ยวขวาจะเจอกับโรงแรม Arcadia อยู่ติดกับโครงการเลยครับ
เจาะลึกตัวโครงการ
โครงการนี้มีทั้งหมด 8 ชั้น 64 ยูนิตเป็นคอนโดขนาดเล็ก มี Facility หลักๆมาให้ครบแต่ขนาดค่อนข้างเล็กไปหน่อยด้วยข้อจำกัดเรื่องพื้นที่นะครับ
พื้นที่ๆติดกับโครงการรอบด้านประกอบด้วย
- ด้านหน้า(ทิศตะวันตก) : ซอยนายเลิศ เป็นถนน 2 เลนกว้างประมาณ 6 เมตร
- ด้านหลัง(ทิศตะวันออก) : ทางด่วน
- ด้านบน(ทิศเหนือ) : ติดกับ Arcadia Suites Bangkok service Apartment
- ด้านล่าง(ทิศใต้) : ที่พักอาศัยบ้านเดียว
หากดูในแผนที่จริงจะเห็นว่าพื้นที่รอบๆถูกบังวิวทุกด้านเลยยกเว้นด้านหน้าที่ติดกับซอยนายเลิศ ที่จะได้เห็นพื้นที่สีเขียวของฝั่งตรงข้ามแต่ก็ต้องรับแดดตอนเย็นไปเต็มๆ ส่วนทิศเหนือและตะวันออกจะโดนบังวิวแบบระยะใกล้เลยคืออาคารอยู่อาศัย และ ทางด่วน แต่ก็ไม่มีห้องไหนที่หันไปเห็นวิวทางด่วนเลยเพราะผังห้องถูกออกแบบให้เห็นวิวแค่ 3 ด้าน ด้านทิศใต้เป็นด้านที่ดูเหมือนจะดีกว่า 2 ด้านที่มีปัญหาแต่ก็ไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่เพราะถัดจากบ้านพักอาศัยก็เป็น Service Apartment สูง 12 ชั้นเหมือนกัน
ทำเลแบบนี้จึงเหมาะกับคนที่ไม่เน้นเรื่องวิวเลย เน้นความสะดวกสบายในการเดินทางและมีความสงบเป็นส่วนตัว ใช้ชีวิตในใจกลางเมืองเป็นหลักเพราะอยู่ที่นี่จะไปห้างไหนก็ค่อนข้างสะดวก
เริ่มจากผังชั้น 1 ก่อนนะครับ ชั้นนี้จะเป็นที่จอดรถทั้งงหมดจอดได้ 15 คัน(ไม่รวมซ้อนคัน) และมีลิฟท์สำหรับลงไปจอดชั้น B
ชั้นใต้ดิน (B) สามารถจอดรถได้ 16 คัน(ไม่รวมซ้อนคัน) ใน Plan จะเห็นช่องลิฟท์แต่ไม่มีทางเข้านะครับต้องเดินขึ้นบันไดอย่างเดียว
Plan ชั้น 2 พื้นที่ด้านหน้าส่วนนึงถูกปรับให้เป็นห้องสมุดและเป็นโถง Lobby ห้องพักที่อยู่ติดกับห้องสมุดอาจไม่ค่อยส่วนตัวเท่าไหร่ถ้าลูกบ้านมาใช้งานกันเยอะ ส่วนด้านหลังพื้นที่บางส่วนถูกใช้เป็นห้องเครื่องลิฟท์สำหรับรถยนต์ทำให้พื้นที่ห้องในตำแหน่งนี้เหลือเพียงไม่มาก ทางโครงการเลยทำห้องที่อยู่ตำแหน่งนี้เป็นแบบ Loft (หรือDulpex)นั่นเอง
Plan ชั้น 3 ตั้งแต่ชั้นนี้ขึ้นไปจะเป็นห้องพักทั้งหมดยกเว้นชั้น 8 ที่เป็นสระว่ายน้ำ ห้องที่เป็นแบบ Loft จะไม่มีทางออกที่ชั้นนี้ใช้ทางเข้าออกที่ชั้น 2 เท่านั้น ห้องแบบ Loft จะมีแค่ 2 ห้องเท่านั้นและขายหมดไปแล้ว
Plan ชั้น 4-7 จะเหมือนกันคือเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนเกือบทั้งหมดและมี 2 ห้องนอนแค่ 1 ห้องต่อชั้น
Plan ชั้น 8 มีลักษณเหมือนกับชั้นอื่นๆแต่มี่แตกต่างคือมีส่วนของ Facility อยู่ด้านหน้าของอาคาร ทำให้ห้องบริเวณด้านหน้าอาจไม่ค่อยสงบเท่าไหร่ถ้าเทียบกับชั้นที่ไม่มี Facility
มาเริ่มที่ทางเข้าโครงการกันดีกว่าครับ ทางเข้าโครงการจะแบ่งเป็น 2 ส่วนๆแรกคือทางเข้า Lobby และส่วนที่2 คือทางเข้ารถยนต์ ตำแหน่งห้องที่อยู่ด้านหน้าโครงการทั้งหมดจะมีระเบียงที่เฉียงไปกับเขตที่ดินของโครงการ
ถ้ามองจากอีกด้าน(ต้นซอยนายเลิศ) จะเห็นรั้วของโครงการที่เป็นเหล็กทำสีดำตัดเหลืองซึ่งเป็นสีหลักที่จะใช้ในโครงการ ตัวรั้วมีการออกแบบให้มีลักษณะเส้นสายเหมือนรังนก ตาม Concept ของโครงการและมีการปลูกไม้เลื้อยตามแนวรั้งเพิ่มความสบายตาและลดความแข็งของกระด้างของพื้นที่
ด้านหลังโครงการ ตัวอาคารอยู่ใกล้ทางด่วนพอสมควร
ทางเข้า Lobby ที่นี่เป็นแบบเปิดซึ่งค่อนข้างร้อนมาก ลองสังเกตแนวแสงแดดที่ส่องมายังพื้นที่นั่งรอใน Lobby จะเห็นว่าเข้าไปลึกมาก การออกแบบภายใน Lobby ถือว่าทำสวยงามดีมีการใช้ Double Space เชื่อมกับพื้นที่ชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องสมุด ถ้ามีการติดผนังกระจกและเพิ่มแอร์ให้กับพื้นที่ส่วนนี้การใช้งานคงสะดวกขึ้นสำหรับลูกบ้าน
ภายใน Lobby จะมีเก้าอี้โซฟาให้นั่ง 3 ตัว
ทางเข้าลานจอดรถมีความกว้างกำลังดีครับ ใช้งานจริงรถเข้าออกสวนกันได้ไม่แคบเกินไป
ที่จอดรถโครงการนี้มี 2 ชั้นคือชั้น 1 และชั้น Basement (หรือชั้นใต้ดิน) ที่ชั้น 1 จะมีห้อง CCTV และมีรถคอยบริการรับส่งไป BTS ด้วยรถ tuk tuk นะครับ
ทางเข้าห้องพักจะอยู่ช่วงกลางๆของอาคาร เข้า-ออกด้วยระบบ Key card
รอบๆโครงการมีการปลูกต้นไม้ไว้เป็นระยะ เป็นต้นปีบที่ให้ดอกสีขาวและมีกลิ่นหอม
มุมมองหันออกไปด้านนอกอาคารจากที่จอดรถ ด้านซ้ายคือ Lobby ซึ่งไม่มีอะไรกันระหว่างโซฟากับที่จอดรถเลย
ที่จอดรถของที่นี่มีความพิเศษกว่าคอนโดที่เป็น Low Rise ทั่วไปคือ มีที่กลับรถแบบอัตโนมัติ และมีลิฟท์สำหรับรถไว้ลงไปจอดที่ชั้นล่าง ไปดูกันดีกว่าครับว่ามันทำงานอย่างไร
รถที่นำมาสาธิตให้ดูกันก็คือรถ 3 ล้อที่เอาไว้รับส่งลูกบ้านจากสถานี BTS ครับ วิธีการใช้งานคือนำรถของท่านขึ้นมาบนแผ่นเหล็กวงกลมที่พื้นแล้วรปภ.จะกดปุ่มให้รถหมุนกลับด้าน180องศา ที่กลับรถจะมีมาให้ทั้งชั้น G และชั้น B เพราะการใช้งานลิฟท์นั้นลูกบ้านต้องเอาหน้ารถเข้าไปในลิฟท์ไม่ต้้องกลับรถเพื่อเอาท้ายเข้า เมื่อลงไปชั้นล่างแล้วค่อยกลับรถ ของจริงเป็นอย่างไรไปดูกันต่อครับ
เมื่อนำรถมาจอดด้านหน้าประตูลิฟท์ ประตูจะเปิดอัตโนมัติให้นำรถเข้าไปจอดด้านใน บริเวณประตูลิฟท์จะมีเซนเซอร์อยู่ถ้ารถของท่านยังไม่อยู่ในระยะที่ถูกต้องลิฟท์จะไม่ทำงาน
เมื่อนำรถเข้าไปจอดในตำแหน่งที่ถูกต้องแล้วให้กดปุ่มเลือกชั้น B ประตูจะค่อยๆปิดและลงไปชั้นล่าง
ป้ายบอกขนาดรถยนต์ที่ใช้งานได้
แผงสวิทช์สำหรับเลือกชั้นภายในลิฟท์อยู่ในตำแหน่งหน้าต่างของรถยนต์พอดีครับ
ภายในลิฟท์จะมีกล้องวงจรปิด และพัดลมดูดอากาศ
เมื่อลงมาถึงชั้นล่างแล้วให้ถอยรถมายังที่กลับอัตโนมัติแล้วรปภ.จะกดปุ่มกลับรถให้เพื่อขับเข้าที่จอดรถต่อไป (หรือถ้าใครจะไม่ใช้ก็ได้ครับสามารถอยเข้าที่จอดรถได้เลย)
พื้นที่ชั้นล่างสามารถจอดรถได้ 16 คัน(ไม่นับซ้อนคัน)
ทางเข้าไปยังห้องพักอาศัยต้องเดินขึ้นบันไดอย่างเดียวเพราะไม่มีลิฟท์ลงมาที่ชั้น B เรื่องนี้ถือว่าลำบากพอสมควรสำหรับลูกบ้าน
เมื่อขึ้นมาจะเจอกับตู้จดหมายในโถงลิฟท์พอดี
โถงลิฟท์จะตกแต่งพื้นที่ด้วยเก้าอี้และโต๊ะ
ลิฟท์ใช้ของ Schindler เป็นระบบสัมผัสดูหรูหราทีเดียว
โถงลิฟท์ชั้น 2-8 จะไม่มีการตกแต่งด้วยเก้าอี้และโต๊ะแบบชั้น 1 มาให้มีแต่รูปติดผนัง
สุดทางของโถงลิฟท์จะมีหน้าต่างไว้ให้อากาศถ่ายเทภายในอาคารและมีห้องสำหรับทิ้งขยะ
โถงทางเดินชั้น 2 ด้านหน้าโครงการจะมีส่วนที่เป็นห้องสมุดและห้องควบคุมอยู่ด้านซ้ายมือ(หันหน้าออกจากโครงการ) ด้านขวามือจะเป็นห้องพักครับ
ห้องแรกจะเป็นห้องควบคุมงานระบบต่างๆภายในอาคาร
ห้องสมุดที่อยู่ติดกันตอนนี้ยังใช้เป็นสำนักงานขายอยู่
โถงทางเดินระหว่างห้องพักมีความกว้าง 1.5 เมตรซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปรกติ
มาดู Facilityของที่นี่บ้างโครงการนี้จะมี Fitness และ สระว่ายน้ำขนาด 15 x 3.2 ม.ลึก 1.5 เป็นระบบเกลือ ทางเข้าจะเล็กหน่อยตามขนาดของโครงการ
ห้องน้ำจะอยู่ก่อนถึงห้อง Fitness มีขนาดเล็กไปหน่อยครับ
ห้องแรกที่เจอคือห้อง Fitness หันไปทางทิศเหนือซึ่งจะมีโรงแรม Arcadia บังวิวแบบเต็มๆ
เครื่องเล่นมีมาให้ไม่เยอะเนื่องจากพื้นที่ค่อนข้างจำกัด
จากห้อง Fitness มีทางออกไปสวนหย่อมที่อยู่ติดกันสามารถมานั่งพักผ่อนได้
ทางไปสระว่ายน้ำจะต้องเดินขึ้นบันไดเพราะงานระบบของสระว่ายน้ำทำให้ระดับของพื้นถูกยกสูงขึ้นประมาณ 2 เมตร
ขนาดของสระว่ายน้ำที่นี่เน้นการใช้งานด้านพักผ่อนมากกว่าการว่ายออกกำลังกายเพราะมีขนาดไม่ใหญ่ บริเวณรอบๆสระจะเป็นหญ้าเทียม และมีเก้าไว้นั่งพักผ่อน ตัวหลังคามี Design ที่เชื่อมโยงกับส่วนอื่นๆของโครงการ
มีที่ล้างตัวอยู่อีกด้านของสระว่ายน้ำ
เรื่องวิวของที่นี่ในบางห้องบางทำเลถือว่ายังสวยอยู่ถึงแม้จะเทียบไม่ได้กับวิวของโครงการ High Riseแต่ถือว่าโอเคสำหรับโครงการแนว Low Rise เพราะด้านที่เห็นรถไฟฟ้าจะเป็น City View (จะสวยขึ้นในเวลากลางคืน)
ส่วนด้านหน้าของสระว่ายน้ำจะมีพื้นที่สีเขียวมากกว่า
วันไหนฟ้าเปิดจะได้วิวช่วงพระอาทิตย์ตกพอดีครับ แต่วันที่ไปถ่ายรูปมาฟ้าปิดครับเลยไม่ค่อยสวยเท่าไหร่
ภายในสระว่ายน้ำจะมีจากุชชี่ให้อยู่ด้านทิศเหนือ
เพื่อความปลอดภัยทางที่ขอบสระว่ายน้ำจะมีระเบีบงกันตกอยู่อีกชั้นนึง
รูปนี้เป็นอาคารที่บังวิวด้านเหนือแบบเต็มๆ ถ่ายจากสระว่ายน้ำ
มุมมองจากสระว่ายไปยังสวนหย่อม
ห้อง Fitness จะมีบานกระจกไว้รับแสงรอบๆห้องด้วย
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระขนาด 15 x 3.2 ม.ลึก 1.5 เป็นระบบเกลือ
- Fitness
- ห้องสมุด
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ 32:1
- ที่จอดรถในช่องจอด 31 คัน ถ้ารวมซ้อนคันจอดได้ประมาณ 39 คัน คิดเป็น 60%
- ระบบ CCTV / Access Card
- Shuttle Service 24 ชม.
Product Walkthrough
แบบห้องทั้งหมดมี 9 แบบแบ่งเป็น
- Studio : 1 แบบ (Sold Out)
- 1 ห้องนอน : 5 แบบ
- 2 ห้องนอน : 1 แบบ
- Loft : 2 แบบ (Sold Out)
แต่ห้องตัวอย่างมีให้ดู 2 แบบคือ 1 ห้องนอน แบบ C และ 2 ห้องนอน ตอนนี้จำนวนห้องที่พร้อมขายเหลือแค่ 15 ห้องเท่านั้นครับ
แบบ Studio
1 ห้องนอน แบบ A
1 ห้องนอน แบบ B
1 ห้องนอน แบบ C
1 ห้องนอน แบบ D
1 ห้องนอน แบบ E
2 ห้องนอน
Loft แบบ A
Loft แบบ B
มาดูห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน แบบ C ก่อนนะครับ ประตูทางเข้าหลักเป็นประตู Solid Core กรุลามิเนตลายไม้( white oak ) มีตาแมวมาให้และกลอนประตูเป็นมือจับแบบก้านโยก ซึ่งราคานี้น่าจะได้ Digital Door Lock มาด้วย
ทางเข้าห้องมาจะเจอกับโซนครัวและโต๊ะทานอาหารก่อนเลยครับ โต๊ะกินข้าวที่แถมให้ไม่ใช่แบบนี้นะครับ รายละเอียด furniture แปลนดูด้านที่ส่วนสุดท้ายของการอธิบายห้องแบบนี้ครับ
Built-in ที่แถมมาให้จะเป็นไม้โทนสีอ่อน ไม่มีช่องใส่เครื่องซักผ้านะครับ
ลิ้นชักบนจะมีช่องแบ่งใส่ช้อน-ส้อมมาให้ บานประตูตู้ทุกบานจะติดตั้ง Soft Close มาให้
ลิ้นชักอื่นๆจะมีแบ่งช่องให้ตามมาตราฐาน ตู้เมนไฟในห้องจะอยู่เหนือช่องใส่ตู้เย็น ชุดอ่างล้างจานใช้ของ Teka
Built-in ครัวของโครงการนี้ให้ที่เก็บของมาเยอะดีครับ
เตาไฟฟ้าเซรามิคแบบ 2 หัวเตาใช้ของ Teka
ห้องนั่งเล่นมีระยะดูทีวีเหลือกำลังดีครับ วัสดุพื้นเป็นพื้นกระเบื้อง Glazed porcelain 30×60 ซม.
ชั้นวางทีวีของจริงจะมีขนาดเล็กและสีเข้มกว่านี้นะครับ รูปแบบการใช้งานจะต่างกันนิดหน่อย
โซฟาที่ให้มาจะเป็น 2 ที่นั่งส่วนที่เห็นอยู่ในห้องตัวอย่างนี้เป็นแบบ 3 ที่นั่งครับ โต๊ะกลางก็เป็นอีกแบบครับเป็นทรงกลมเหมือนกันแต่มีรายละเอียดต่างกัน
ระบบแอร์จะเป็นแบบ Conceal อยู่ในฝ้าเลย การใช้แอร์แบบนี้จะทำให้รูปแบบของห้องดูเรียบร้อยและดูหรูหราขึ้น
ไฟส่องสว่างภายในห้องจะใช้แบบ Recessed Downlight with Compact Fluorecent and Halogen และมีการออกแบบให้ตัวโคมฝังในฝ้าแบบเดียวกับที่ใช้ภายในโครงการ ซึ่งดูสวยดีแต่การใช้งานในพื้นที่จริงบางจุดอาจมืดไปหน่อย
ด้านหน้าของห้องจะมีทางเข้าไปในห้องน้ำซึ่งมีการแบ่งโซน อาบน้ำกับโถสุขภัณฑ์ออกจากกัน ส่วนที่เข้าได้โดยตรงจากห้องนั่งเล่นคือส่วนที่เป็นโถสุขภัณฑ์และมีอ่างล้างหน้ามาให้แบบเข้ามุมกำแพงพอดี
พื้นที่การใช้งานอ่างล้างหน้าค่อนข้างเล็กถ้าไม่สะดวกสามารถไปใช้งานอ่างในห้องอาบน้ำได้ครับ เพราะมีอ่างล้างหน้าอยู่ในส่วนของห้องอาบน้ำมาให้อีกชุด การกั้นพื้นที่ห้องน้ำทั้ง 2 ส่วนออกจากกันทำได้โดยใช้ประตูบานเฟี้ยมไม้ช่วยให้พื้นที่ดูไม่อึดอัดและดูเก๋ขึ้นด้วย
การใช้งานบานเฟี้ยมจะมีที่จับตรงกลางให้ดึงเพื่อเปิดบานประตู
ภายในห้องนอนจะมี Sexy bathroom ในตัวเลย วัสดุพื้นห้องนอนเป็นพื้นไม้ Engineering wood สี White Oak
มุมมองจากภายในห้องน้ำครับ ถ้าจะใช้งาน Sexy แล้วหละก็อย่าลืมปิดม่านของห้องนอนก่อนนะครับไม่งั้นจะ Sexy เกินไป >//<
ผนังส่วนที่ติดอุปกรณ์ Shower จะเป็นกระเบื้อง Ceramic Mosaic 1″x1″ ส่วนโซนแห้งจะเป็นผนังฉาบปูนธรรมดา
ชุดอ่างล้างหน้าอีกชุดที่มีมาให้พร้อมตู้กระจกเงา ตัวอ่างก็ยังเล็กอยู่นะครับ
ชุดอ่างล้างหน้าจะมีตู้กระจกมาให้สามารถเก็บของได้เยอะพอควรเลย สุขภัณฑ์ใของ American Standard
นอกจากมีอ่างอาบน้ำให้แล้วยังมี โซน Shower แยกให้อีกชุดโดยมีฝักบัวมาให้ 2 แบบคือแบบธรรมดาและ Rain Shower
พื้นโซนอาบน้ำจะลดระดับจากห้องน้ำลงมาประมาณ 2 ซม. วัสดุพื้นเป็นกระเบื้อง Glazed Porcelain 30×60 ซม.เช่นกันครับ มีบานกระจกกั้นให้บางส่วน
รอยต่อของพื้นห้องนอนกับห้องน้ำจะมีธรณีหินกั้นให้ครับ
บริเวณทางเข้าห้องน้ำจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ขนาดไม่ใหญ่มากครับ
Furniture Plan ของ SB ที่โครงการจัดมาให้ครับ
มาต่อกับที่แบบ 2 ห้องนอนครับ เมื่อเปิดประตูมาจะเจอโถงทางเข้าและตู้เก็บรองเท้าซึ่งทางโครงการก็แถมมาให้ด้วย พื้นที่บริเวณนี้มีความกว้างพอสมควรลูกบ้านสามารถทำ Built-in เป็นชั้นวางของต่อเติมได้อีกเยอะเลยครับ
ตู้เก็บรองเท้าหน้าตาแบบนี้เลยครับ
หน้าตา Door Stop ที่ประตูทางเข้า
เมื่อเดินเข้าห้องมาพื้นที่ส่วนแรกที่เจอจะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งซ้ายจะเป็นโซน Pantry ครัวและฝั่งขวาเป็นโต๊ะทานอาหารและ ห้องนั่งเล่น
โซน Pantry ครัวเป็นแบบที่มี Island มาให้
การแบ่งช่องตู้ชั้นบน
Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินเทียม
เตาไฟฟ้าเซรามิค 2 หัวและเครื่องดูดควันเป็ฯของ Teka
ตู้ล่างเป็นลิ้นชัก 3 ช่อง บานเปิด 2 ช่อง
มือจับบานเปิดของตู้ไม่ได้ลบมุมมาให้อาจจะจับไม่ถนัดมือเท่าไหร่แต่ก้มีโปรไฟล์อลูมิเนียมมาช่วยให้เปิดง่ายขึ้น
ชุดอ่างล้างจานใช้ของ Teka เช่นกัน
รอยต่อระหว่างพื้นห้องนั่งเล่นกับห้องนอนและห้องน้ำ วัสดุพื้นและผนังใช้เหมือนกับแบบ 1 ห้องนอนเลย
กลอนประตูก็เป็นแบบเดียวกันหมดคือแบบมือจับก้านโยก
มาดุห้องนอนเล็กกันก่อนนะครับ ถ้าใส่เตียง 6 ฟุตพื้นที่รอบเตียงจะมีเหลือไม่มาก ฝ้าเพดานมีการเพิ่มแนวซ่อนรางม่านให้เรียบร้อย
ห้องตัวอย่างอยู่ติดกับทางด่วนพอดีเห็นเป็นแนวกำแพงกั้นของทางด่วน
ด้านข้างเตียงจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in เข้าช่องแบบพอดีๆมาให้เลย
แอร์ก็ซ่อนอยู่ในฝ้าเรียบร้อยดูหรูหราเหมือนอยู่โรงแรมเลย
แต่ปัญหาของห้องนี้คือเมื่อเปิดประตูตู้เสื้อผ้าแล้วไม่สามารถเดินออกมาได้เลยต้องปิดประตูตู้ก่อนจะลำบากในการใช้งานอยู่พอสมควร มือจับของตู้จะเป็นราวจับตามคความสูงของตู้เลยดูเรียบร้อยดี
การแบ่งช่องภายในตู้เสื้อผ้าครับ
โต๊ะหัวเตียงก็มีมาให้ด้วยครับตามแบบนี้เลยครับ
มุมมองจากหน้าต่างไปยังทางเข้าห้อง ที่ปลายเตียงมีเตรียมปลั๊กไฟและโทรทัศน์มาให้แต่ถ้าจะติดทีวีต้องติดผนังเท่านั้นไม่สามารถวางโต๊ะวางทีวีได้ เพราะไม่เหลือพื้นที่ให้วางแล้วครับ ประตูห้องที่มีมือจับแบบธรรมดาไม่ใช่ก้านโยกเป็นประตูไปห้องน้ำส่วนกลางครับ
ประตูเป็นแบบบานเลื่อน
รอยต่อระหว่างห้องนอนเล็กกับห้องน้ำมีธรณีหินกั้นอยู่ครับ
ภายในห้องน้ำจะมีโซน Shower อาบน้ำให้ด้วย
ชุดสุขภัณฑ์เป็นแบบเดียวกับ 1 ห้องนอนครับ
ชุดฝักบัวอาบน้ำก็เป็นแบบเดียวกันครับ ภายในบริเวณอาบน้ำจะเป็นกระเบื้อง Ceramic Mosaic
มาดูห้องนอนใหญ่กันบ้าง ฐานเตียงที่ไม่ได้เป็นแบบนี้นะครับแต่แบบที่ให้มาถือว่าสวยทีเดียวเลยครับ ช่องแอร์จะอยู่บริเวณหัวเตียงพอดีเลย
หน้าต่างห้องนี้ถูกแบ่งเป็นบานกระจก Fix ขนาดใหญ่ 2 ช่อง วิวที่เห็นก็ตามรูปเลยครับ เป็นอพาร์ทเม้นท์ข้างๆและกำแพงทางด่วน
มีตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in มาให้ก่อนเข้าห้องน้ำ ขนาดปรกติครับแต่ไม่มีที่ให้วางโต๊ะเครื่องแป้งอาจต้องหามุมวางเอง หรือถ้าอยากได้กระจกเงาบานใหญ่แบบเห็นเต็มๆตัว แล้วหละก็แนะนำให้ติดกับกำแพงด้านในสุดเลยครับเอาไว้เลือกเสื้อผ้ามาลองแล้วหันมาส่องดูได้ทันที น่าจะสะดวกขึ้นเยอะสำหรับคุณผู้หญิงครับ ด้านบนของทางเข้าห้องน้ำเป็นช่อง Return ของแอร์ครับ
ภายในตู้เสื้อผ้ามีลิ้นชักมาให้แต่ขนาดไม่ใหญ่
ห้องน้ำในแบบนี้จะไม่เป็นแบบ Sexy Bathroom นะครับแต่ยังคงมีอ่างอาบน้ำมาให้
ถึงแม้จะไม่เป็น Sexy Bathroom แบบเต็มตัวแต่ก็ยังแอบมีช่องเปิดมาให้เป็นบานหน้าต่างกระทุ้งขนาดใหญ่บริเวณเหนืออ่างอาบน้ำให้
ชุดสุขภัณฑ์ใช้แบบเดียวกันหมดเลยครับ
จากมุมทางเข้าห้องน้ำไปยังหน้าห้องจะเห็นว่าพื้นที่ปลายเตียงก็ไม่ใหญ่ไปกว่าห้องนอนเล็กเท่าไหร่ครับ ทีวียังคงต้องติดผนังเหมือนเดิม แต่พื้นที่ด้านข้างเตียงนั้นเหลืออยู่พอสมควรครับ
ห้องนั่งเล่นมีพื้นที่ระหว่างทีวีกับโซฟาพอๆกันกับแบบ 1 ห้องนอนครับ แต่เฟอร์นิเจอร์จะตรงตามของจริงหมดครับซึ่งถือว่าแบบOKครับ โซฟาให้มาใหญ่ดี
โต๊ะวางทีวีก็เน้นเรียบๆตามแนว Modern Style จะเห็นว่าการใช้สีภายในนั้นยังคุมให้อยู่ในโทนเดียวกันหมดกับภายนอกโครงการเลยครับ คือเน้นสีของเนื้อไม้เป็นพื้นซึ่งออกโทนน้ำตาลอ่อนและตัดด้วยสีดำ ต้องขอชมว่าใส่ใจในรายละเอียดตรงจุดนี้ดีครับ
ระเบียงด้านนอกใช้เป็นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ และเครื่องซักผ้าครับ มีตะแกรงปิดมาให้เรียบร้อยดีแต่ควรใช้เป็นเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้านะครับ ถ้าใช้แบบฝาบนใส่เสื้อผ้าลงไปไม่ได้นะครับ
มุมมองจากหน้าต่างไปยังภายในห้องครับ สำหรับ 2 ห้องนอนนั้นตัวเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาถือว่าค่อนข้างดีดูโดยรวมแล้วเข้ากันได้หมดทุกชิ้น
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 15/10/2013
- 1 Bedroom C ชั้น 5 ห้อง 504 เนื้อที่ 43.30 ตารางเมตร ราคา 5.76 ล้านบาท หรือ 133,000 บาทต่อตารางเมตร
- 1 Bedroom C ชั้น 7 ห้อง 704 เนื้อที่ 43.30 ตารางเมตร ราคา 5.95 ล้านบาท หรือ 137,000 บาทต่อตารางเมตร
- 1 Bedroom C ชั้น 8 ห้อง 807 เนื้อที่ 43.30 ตารางเมตร ราคา 6.08 ล้านบาท หรือ 140,000 บาทต่อตารางเมตร
- 2 Bedroom ชั้น 6 ห้อง 607 เนื้อที่ 66.70 ตารางเมตร ราคา 8.44 ล้านบาท หรือ 127,000 บาทต่อตารางเมตร
- Fully Furnished (SB Furniture) พร้อมแอร์ ผ้าม่าน เครื่องใช้ฟ้า 5 รายการ
- ห้องพร้อมโอน
- เพดานสูง 2.5 เมตร
- ค่ากองทุน 750 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 55 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
**จองในวันงาน มหกรรมบ้านและคอนโด(Zone C2 No.C169-170) รับ Iphone 5S พร้อมที่พัก 3 วัน 2 คืนที่ Mountain Creek Golf resort and Residences
เจาะลึกรวบยอด
THE NEST PLOENCHIT อยู่ในทำเลที่เรียกได้ว่าเป็นย่านใจกลางธุรกิจ สภาพแวดล้อมส่วนใหญ่จะเป็นอาคารสำนักงานและที่พักอาศัยหลายๆประเภทคละๆกันมีทั้ง คอนโด Low Rise, อพาร์ทเมนต์, ทาวน์เฮาส์, บ้านเดี่ยว ความอุดมสมบูรณ์ของที่นี่ค่อนข้างดี มีร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อมากมาย แต่จะอยู่ตามอาคารสำนักงานต่างๆโดยรอบ (จะไม่ใช่ร้านอาหารประเภทริมทางหรือตึกแถว ต้องยอมรับเรื่องค่าครองชีพแถวนี้นิดนึงนะครับ) แต่ต้องขยันเดินหาของกินหน่อย หากจะไปหาเอาแถวสยามเลยก็ทำได้ เพราะห่างกันแค่ BTS 2 สถานี … เรื่องของวิวจากห้องพักเป็นเรื่องที่ต้องทำใจเพราะอยู่ในใจกลางพื้นที่สำคัญจึงไม่สามารถเห็นวิวได้ไกลนักสำหรับโครงการแนว Low Rise และจะโดนอาคารพักอาศัยบังไว้ทั้ง 2 ด้าน ด้านหลังก็จะเห็นเป็นแนวกำแพงทางด่วน ด้านหน้าก็จะดีขึ้นมาหน่อยเพราะจะได้วิวฝั่งตรงข้ามที่เป็นบ้านพักอาศัยและมีต้นไม้ค่อนข้างเยอะ
ส่วนการใช้รถก็สะดวกเช่นกันถ้าหากมีความชำนาญในเส้นทาง แต่ถ้าไม่คุ้นเคยต้องระมัดระวังในเรื่องทิศทางการเดินรถ เพราะมีถนน One-way หลายเส้นทาง รวมถึงช่วงเวลาที่กำหนดด้วยอย่างเช่น ช่วงเวลา 17:00 ถึง 20:00 รถที่จะขึ้นทางด่วนบนเส้นเพลินจิตจะถูกบังคับให้วิ่งเข้าซอยนายเลิศทำให้รถมาติดในซอยเพิ่มขึ้น ยิ่งช่วงเวลาเร่งด่วนในวันธรรมดารถจะติดมาก ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ก็จะติดช่วงเวลาสายๆมากกว่า ก่อนออกเดินทางต้องตรวจสอบเส้นทางให้ดีก่อนว่าจะไปทางไหนจะได้ไม่ต้องเสียเวลาอ้อมไปมา
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ถือว่าสะดวกทีเดียว ด้วยระยะห่าง 450ม. จาก BTS เพลินจิต มีรถรับส่งตลอด 24 ชม.โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ถือเป็นข้อดีของโครงการที่มีจำนวนยูนิตไม่เยอะทำให้สามารถบริการลูกบ้านได้อย่างเต็มที่ หรือถ้าจะไปสถานที่ใกล้เคียงที่ไม่อยู่แนวรถไฟฟ้าก็ใช้บริการพี่วินปากซอยก็ได้ จะติดก็ตรงที่ถ้าไม่นั่ง Shuttle Service ของโครงการ แต่ใช้วิธีเดินเข้าซอยเอา เวลากลางคืนดึกๆซอยจะดูเปลี่ยวพอสมควร, ตัวซอยเป็นซอยแคบที่ไม่มีทางเท้า ทำให้เวลารถติดๆในซอยก็จะเดินลำบากอยู่บ้าง แต่เวลารถโล่งๆไม่เป็นไร
วัสดุ อยู่ในระดับกลางค่อนไปทางดี เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นเป็นของ SB Furniture ถ้าซื้อตอนที่มี promotion เรียกได้ว่าค่อนข้างคุ้มเพราะนอกจากแถมเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวทุกชิ้นตามในรูปห้องตัวอย่างแล้ว (ยกเว้นพวกของตกแต่งนะครับ เช่น แจกัน,จานชาม,ฯลฯ) ยังได้แอร์ทุกห้องนอน, ผ้าม่าน, เครื่องใช้ไฟฟ้าอีก 5 รายการ เรียกว่า Spec ไม่ได้เด่นมาก แต่จัดมาเต็มเหมือนกัน แต่เรื่อง promotion ก็ต้องบอกว่าไม่แน่ไม่นอน โครงการอาจจะเปลี่ยนเมื่อไหร่ก็ได้ ต้องเช็คดีๆ
การออกแบบโครงการ รูปแบบตึกมีการ Apply Concept “Nest” (รังนก) ให้เข้ากับหลายๆส่วนของอาคาร ทั้งด้านหน้าและบริเวณ Facility ต่างๆ การใช้สีโทนน้ำตาลอ่อนและสีดำก็ถูกนำมาใช้ทั้งภายในและนอกโครงการ สระว่ายน้ำที่ถูกออกแบบให้อยู่ชั้นบนสุดถือได้ว่าเป็น Highlight เรื่องวิวก็ได้ เพราะได้วิวมุมกว้างถึงแม้จะมีอาคารมาบังวิวบ้างก็ตาม (แต่ถ้าในอนาคตมีอาคารสูงมาขึ้นด้านหน้า ข้อดีตรงนี้ก็จะหมดไป) ตัวห้องจะมีห้องที่พื้นที่แปลก เช่นผนังแนวเอียง หรือพื้นที่แปลกๆบ้างนะครับ ต้องเลือกดูเป็นห้องๆไป
Facility มีให้มาครบทั้งสระว่ายน้ำและฟิตเนส แต่ว่าพื้นที่สระว่ายน้ำอาจเล็กไปหน่อยสำหรับการออกกำลังกาย จะเน้นการใช้งานแบบพักผ่อนหย่อนใจมากกว่า และการจอดรถของโครงการมีลูกเล่นมาให้นิดหน่อย คือมีที่กลับรถอัตโนมัติสำหรับลงไปจอดชั้นล่างแต่จะเสียเวลาประมาณ 1 – 2 นาทีสำหรับการใช้งานที่กลับรถ และมี Carpark Lift อีก 2 ตัวถึงแม้ที่จอดรถชั้น B จะมีที่จอดรถเพียงแค่ 16 คัน แต่ข้อเสียสำหรับการลงไปจอดชั้น B คือไม่มีลิฟท์โดยสารให้ต้องใช้วิธีเดินขึ้น-ลงบันไดอย่างเดียว
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 135,000 บาทต่อตารางเมตร, 15/10/2013
- ทำเล 8.0/10 – ทำเลดีย่านเพลินจิต อยู่ใจกลางย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพ แต่อยู่ในซอย ติดทางด่วน และวิวยังไม่ค่อยโล่ง
- เดินทางด้วยรถ 7.0/10 – มีเส้นทางให้เลือกหลายเส้นทาง แต่ซอยเล็กมี One Way เยอะและรถค่อนข้างติดมากในช่วงเวลาเร่งด่วน
- ไม่ใช้รถ 8.0/10 – แม้จะเดินไป BTS ได้ และมี Shuttle Bus รับส่งตลอด24ชม. แต่ความที่อยู่ในซอยค่อนข้างลึกเหมือนกัน การเรียกรถ หรือไปไหนต่อไหนตอนดึกหรือฝนตกด้วยตัวเอง ก็ลำบากอยู่
- วัสดุ 7.0/10 – Spec อยู่ในระดับตามมาตรฐาน ไม่เด่นเมื่อเทียบกับราคาระดับ 130,000-140,000 บาท/ตร.ม. แต่ให้เฟอร์นิเจอร์มาเยอะครบดี (ถ้าซื้อแบบมี Promotion)
- แบบ 7.5/10 – การออกแบบอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่มีห้องแปลกๆปนอยู่พอสมควร
- สาธารณูปโภค 7.0/10 – แม้จะจัด Facility มาครบ แต่ก็เล็กตามพื้นที่ และเมื่อเทียบกับราคาแล้ว ยังถือว่าด้อยไปด้วยซ้ำ
- HIGH CLASS
- 7.25 / 10.00
BOTTOM LINE
The Nest เพลินจิต เป็นโครงการที่เหมาะกับคนมองหาบ้านย่านใจกลางเมืองจริงๆ และอิงรถไฟฟ้า หรืออาจจะทำงานอยู่ในย่านนั้น ชอบโครงการเล็กๆ แบบ Low Rise ที่สงบไม่ยุ่งกับใคร ไม่เน้นวิวและ Facility เน้นห้องที่แต่งมาครบ และพร้อมเข้าอยู่ได้เลย มีงบประมาณระดับ 5.8 – 8.5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือน 40,000 – 60,000 บาท
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ
(ノ´ヮ´)ノ*:・゚✧