รีวิวโครงการ
UPDATE ห้องตัวอย่าง THE MUVE ประดิพัทธ์ คอนโดเริ่ม 2 ล้านกลางๆ เฟอร์นิเจอร์แต่งครบ ใกล้ BTS สะพานควาย จาก แสนสิริ
22 พฤศจิกายน 2021
รีวิว THE MUVE ประดิพัทธ์ คอนโดเปิดใหม่บนถนนประดิพัทธ์ ย่านสะพานควาย ที่ออกแบบมาเอาใจกลุ่มคนเริ่มต้นทำงาน มองหาคอนโดราคาหยิบจับง่าย เริ่มต้น 2.59 ล้านบาท เราสรุปความน่าสนใจของโครงการออกมาได้ 3 ประเด็น ดังนี้
- ทำเล : อยู่ในแหล่งความอุดมสมบูรณ์สูง และใกล้ย่านออฟฟิศที่สำคัญแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ โดยเข้าซอยจากถนนประดิพัทธ์เพียง 120 m. มีระยะจากโครงการถึงสถานี BTS สะพานควายประมาณ 600 m. หรือเรียกพี่วินไปไม่ถึง 5 นาทีก็ได้ขึ้นรถไฟฟ้าค่ะ
- วัสดุ : ขายแบบ Fully Furnished Package พร้อมยกกระเป๋าเข้าอยู่
- การออกแบบ : เอาใจวัยรุ่นเน้นห้อง 1 Bedroom 22-24 ตร.ม. เหมาะอยู่อาศัย 1-2 คน และ Facility ก็เน้นหนักไปที่มุมนั่งทำงานต่างๆ ทั้ง Indoor/Outdoor , Public/Private , แบบกลุ่ม/แบบเดี่ยว เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของวัยสร้างตัวได้เต็มที่
สำหรับใครที่สนใจชมห้องตัวอย่างของโครงการ ทาง Think of Living ก็มี Update ห้องตัวอย่าง มาให้แล้วนะคะ สามารถอ่านได้ที่ คลิก : UPDATE ห้องตัวอย่าง THE MUVE ประดิพัทธ์
ข้อมูลโครงการ
THE MUVE Pradipat (เดอะมูฟ ประดิพัทธ์) ณ วันที่ 24 ตุลาคม 2564
ชื่อโครงการ | THE MUVE Pradipat (เดอะ มูฟ ประดิพัทธ์) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แสนสิริ โฮลดิ้ง ซิกซ์ จำกัด |
SEGMENT CLASS | MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ซอยประดิพัทธ์ 23 เขตพญาไท |
ที่ดิน | ประมาณ 1 ไร่ |
ประเภทคอนโด | Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร |
จำนวนยูนิต | 219 ยูนิต |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 32 ยูนิต |
ที่จอดรถ | 68 คัน ประมาณ 31% ไม่รวมจอดซ้อนคัน (Automate Parking 24 คัน / ที่จอดรถปกติ 44 คัน) |
เริ่มก่อสร้าง | เดือนมิถุนายน ปี 2565 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2567 |
ประเภทห้องพัก |
|
ฝ้าเพดานสูง | 2.55 เมตร |
ราคาเริ่มต้น | 2.59 ล้านบาท (ผ่อนเริ่ม 3,999 บาท/เดือน) |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 110,000 บาท/ตร.ม. |
ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด) | 96,800 – 134,000 บาท |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | อยู่ระหว่างการยื่นขออนุญาต EIA |
เว็บไซต์โครงการ | http://siri.ly/tLoVurA |
Call Center | 1685 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.791406, 100.547162
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
ชมห้องตัวอย่างได้ที่ Sales Center พระราม 4 : คลิกที่นี่
ครั้งนี้คอนโดแบรนด์ THE MUVE ได้ทำเลน่าสนใจบนถนนประดิพัทธ์ ซึ่งต้องยอมรับว่าตำแหน่งที่ตั้งเป็น Highlight หนึ่งของคอนโดนี้เลยค่ะ เพราะเป็นคอนโดเริ่ม 2 ล้านต้นๆ ที่อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสะพานควายประมาณ 600 m. ตั้งอยู่ในซอยประดิพัทธ์ 23 ซึ่งเข้าจากถนนประดิพัทธ์ประมาณ 120 เมตรเท่านั้น
คอนโดย่านสะพานควายมีศักยภาพอย่างไร?
เดิมทีย่านสะพานควาย-อารีย์ จัดเป็นย่านธุรกิจเก่าแก่มาตั้งแต่ยุค 80-90 ซึ่งปัจจุบันย่านนี้เป็นทั้งแหล่งงานและแหล่ง Hang-Out ที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ …ที่อยู่อาศัยในย่านนี้จึงเป็นที่นิยมกันมาช้านาน ซึ่งโซนนี้มีความน่าสนใจ ได้แก่
1. สะดวกในเรื่องการเดินทาง
ตัวโครงการ THE MUVE ประดิพัทธ์ ตั้งอยู่ในซอยประดิพัทธ์ 23 เข้าไปประมาณ 120 เมตร ใกล้แยกสะพานควาย เชื่อมต่อกับถนนใหญ่ได้หลายเส้นทางไม่ว่าจะเป็นถนนพหลโยธิน ถนนสุทธิสารและถนนพระราม 6 จึงมีทางเลือกในการเดินทางได้หลายเส้นทาง และมีตัวช่วยในการเดินทางอย่างทางพิเศษศรีรัชบนเส้นพระราม 6 ในระยะประมาณ 2-3 km. เท่านั้น
การเดินทางไปรถไฟฟ้ามีระยะประมาณ 600 m. ถึงสถานีสะพานควาย เป็นระยะที่ไม่ได้ใกล้มาก แต่ด้วยบรรยากาศริมถนน 2 ข้างทางที่เป็น Street Food ช่วยดึงดูดให้เดินเพลินๆ ช้อปปิ้งไปได้เรื่อยๆตามทาง หรือหากใครไม่อยากเดินไกลก็นั่งพี่วินมอเตอร์ไซต์จากหน้าปากซอยไปรถไฟฟ้าได้ โดยจุดขึ้นรถวินมอเตอร์ไซค์ก็อยู่หน้าปากซอยติดถนนประดิพัทธ์ ห่างจากโครงการประมาณ 120 m. ไม่เกิน 5 นาทีก็ขึ้นรถไฟฟ้าได้แล้ว หรือจะเรียกแท็กซี่ก็โบกเรียกจากจุดนี้ได้ค่ะ
2. การเป็นย่านแหล่งงาน และแหล่ง Hang-Out
ทำเลโครงการ THE MUVE ประดิพัทธ์ อยู่ในโซนที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง อย่างในซอยประดิพัทธ์ก็ดูคึกคักมากทีเดียว ได้บรรยากาศแบบชุมชนชาวจีนดั้งเดิมที่มีร้านค้าร้านอาหารตามตึกแถว โรงแรมดั้งเดิมในพื้นที่ โดยมีให้เลือกทั้งราคาย่อมเยาไปจนถึงร้านหรูแบบภัตตาคาร และมีออฟฟิศเก๋ๆ อย่าง 33 SPACE บนถนนเส้นนี้ด้วย และพอเขยิบออกมาที่ถนนพหลโยธินตามแนวรถไฟฟ้า ก็จะเห็นกลุ่มอาคารสำนักงาน, โรงเรียน, โรงพยาบาล ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังมากมายเรียงรายบนถนนเส้นนี้ นั่นทำให้ค่าเช่าในย่านนี้สูงพอสมควร
หลายคนจึงมีคำถามว่า “เช่าคอนโด” หรือ “ซื้อคอนโด” ดีกว่ากัน? ซึ่งเรทเช่าคอนโดบนถนนประดิพัทธ์ก็จะอยู่ประมาณ 10,000 บาท/เดือนขึ้นไป ขึ้นอยู่กับความใกล้ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า ถ้าเอาแบบอยู่ติดถนนพหลโยธิน ในระยะ 200-300 m. ถึงรถไฟฟ้าก็มีค่าเช่าประมาณ 14,000-20,000 บาท/เดือน แต่หากใครเสียดายค่าเช่า หรือยังมีแพลนจะอยู่อาศัยในย่านสะพานควายอีกนาน ราคาผ่อนธนาคารของคอนโด 2 ล้านกว่าๆ ก็ไม่ได้หนีจากราคาค่าเช่าสักเท่าไหร่นะคะ
คอนโด THE MUVE ประดิพัทธ์ เรียกได้ว่าอยู่ใกล้แหล่งออฟฟิศอย่างย่านอารีย์และสะพานควาย ซึ่งอาคารสำนักงานส่วนใหญ่จะเกาะตัวตามแนวถนนหลักอย่างพหลโยธินและบริเวณที่รายล้อมรถไฟฟ้ารวมกว่า 10 แห่ง ซึ่งเรายังไม่ได้นับรวมถึงสถานที่ทำงานที่ไม่ใช่อาคารสูงอื่นๆในยังย่านนี้อีกนะคะ ก็จะเป็นสำนักงานราชการและรัฐวิสาหกิจ อาทิเช่น กรมสรรพากร, กรมควบคุมมลพิษ, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กรมทรัพยากรน้ำ, กรมประชาสัมพันธ์, กรมธนารักษ์ และกระทรวงการคลัง เป็นต้น
จากอาคารออฟฟิศจำนวนมากคงเห็นได้ชัดเลยนะคะว่าย่านเป็น “ย่านมนุษย์เงินเดือน” อย่างแท้จริง จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมย่านอารีย์-สะพานควาย จึงมีความเจริญและความอุดมสมบูรณ์ที่ค่อนข้างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกินที่หลากหลายประเภท คาเฟ่เก๋ๆ ชิคๆ มากมาย ตลอดจนร้านนั่งชิลยามค่ำคืน ที่มาเพื่อตอบสนองกลุ่มคนเหล่านี้ ซึ่งทำเลของโครงการก็ค่อนข้างสะดวกสำหรับการเข้าออกที่ทำงานและ Hang-Out ในย่านนี้ โดยเฉพาะเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งบนถนนประดิพัทธ์ก็คือ บรรยากาศแบบชุมชนเดิม มี Street Food ให้เดินช้อปปิ้งกันได้ ไม่ใช่แค่ต้องเข้าร้านอาหารกันอย่างเดียวค่ะ
การเดินทางไปโครงการ
การเดินทางไปโครงการ THE MUVE ประดิพัทธ์ ในวันนี้เริ่มจากสถานีอารีย์ ก็วิ่งตามถนนพหลโยธินไปทางสะพานควายได้เลย พอถึงแยกสะพานควายก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนประดิพัทธ์ แล้วชิดขวาเพื่อเลี้ยวเข้าซอยประดิพัทธ์ 23 เข้าไปประมาณ 200 m. ก็ถึงที่ตั้งโครงการแล้วค่ะ
เส้นทางการเดินทาง
เริ่มต้นบนถนนพหลโยธินบริเวณสถานี BTS อารีย์ เป็นแหล่งงาน แหล่ง Hang-Out ที่สำคัญมากในย่านนี้ ซึ่งติดกันที่สถานีถัดไปก็เป็นสถานีสะพานควายแล้วค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
โครงการ THE MUVE ประดิพัทธ์ คอนโด Low Rise ภายในซอยประดิพัทธ์ 23 ซึ่งบรรยากาศเป็นซอยที่พักอาศัย ทั้งบ้านพักอาศัยแนวราบและ Apartment หอพักในรูปแบบอาคารสูง ซึ่งเราสรุปได้ดังนี้
ทิศเหนือ : ติดกับ Apartment 8 ชั้น
ทิศตะวันออก : ติดกับซอยประดิพัทธ์ 23 และฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้นและ หอพักสูง 7-8 ชั้น
ทิศใต้ : ติดกับบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น
ทิศตะวันตก : ติดกับหอพักสูง 5-6 ชั้น และอาคารพาณิชย์สูง 5-7 ชั้น
บรรยากาศของที่ตั้งโครงการในตอนนี้ยังไม่ได้มีการล้อมรั้วชัดเจนนักว่าขอบเขตเป็นอย่างไร ทราบคร่าวๆ ว่าคือแปลงนี้ค่ะ
ซอยประดิพัทธ์ 23 นี้ด้านในสุดเป็นซอยตันทะลุออกได้แค่มอเตอร์ไซค์ ทำให้รถเข้าออกไม่ได้พลุกพล่านมากนัก ฝั่งตรงข้ามโครงการมีร้านขายอาหารใต้ Apartment ให้พึ่งพิงได้
เข้ามาในแปลงที่ดินของโครงการแล้วจะเห็นบริบทรอบๆ ได้ชัดขึ้น ฝั่งนี้คือทางทิศตะวันตก ซึ่งจะโดนล้อมด้วยกลุ่มหอพัก และอาคารพาณิชย์ สูง 5-7 ชั้น
ทิศเหนือจะติดกับ Apartment 8 ชั้น
อาคารทางทิศตะวันออกจะอยู่ติดถนนซอยจึงเป็น Buffer กั้นไม่ให้ติดกับอาคารข้างเคียงมากนัก ซึ่งฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น และหอพัก 7-8 ชั้นค่ะ
ปิดท้ายด้วยทิศใต้ซึ่งจะติดกับบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น ค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- Big C Supercenter สะพานควาย ~ 500 m.
- 33 Space ~ 700 m.
- La Villa Ari ~ 1.4 km.
- สวนจตุจักร ~ 2.4 km.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลวิมุต ~ 400 m.
- โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล ~ 600 m.
โรงเรียน
- โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ~ 3.5 km.
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ~ 7.2 km.
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 7.8 km.
อื่นๆ
- BTS สถานีสะพานควาย ~ 600 m.
- BTS สถานีอารีย์ ~ 1.3 km.
- BTS สถานีหมอชิต ~ 1.7 km.
- MRT สถานีสวนจตุจักร ~ 1.7 km.
รายละเอียดโครงการ
THE MUVE ประดิพัทธ์ คอนโดเปิดใหม่ย่านประดิพัทธ์-สะพานควาย สูง 8 ชั้น จำนวน 219 ยูนิต ดูๆ จากภาพรวมของโครงการแล้วบอกได้ว่า ที่นี่ทำออกมาเอาใจกลุ่มวัยรุ่นกำลังสร้างตัวโดยแท้จริงเลยค่ะ เพราะเห็นได้จากรูปแบบห้องเกือบทั้งหมดเป็น Type 1 Bedroom ขนาดกระทัดรัดหน่อย ซึ่งเป็นแบบห้องยอดนิยมของกลุ่มวัยเริ่มต้นทำงาน นั่นทำให้ราคาหยิบจับง่ายเริ่มต้นที่ 2 ล้านนิดๆ เท่านั้น
ในส่วนของ Facility ก็เน้นหนักไปทางมุมนั่งทำงานที่หลากหลาย ทั้ง Indoor/Outdoor , Public/Private , แบบกลุ่ม/แบบเดี่ยว มีมุมทำงานในสวน ที่หากเหนื่อยๆก็สลับมาตีปิงปองกับเพื่อนๆ ได้ ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงานให้ไม่ซ้ำซากจำเจ รวมถึงสไตล์การออกแบบก็จะมีความสดใส หวือหวา กว่าคอนโดอื่นๆในย่านที่จะออกแบบมาดูเรียบหรูกันเป็นส่วนใหญ่
Master Plan ของโครงการ มีทางเข้า-ออกหลักทางเดียวจากซอยประดิพัทธ์ 23 โดยชั้นล่างเป็นพื้นที่จอดรถทั้งแบบ Automate Parking 24 คัน และ ที่จอดรถปกติ 44 คัน Facility นอกอาคารจะมีสวนส่วนกลางที่วางตำแหน่งอยู่ทางด้านหลัง มีชื่อเรียกเก๋ๆ ว่า Work&Play Garden ซึ่งตรงนี้จะเชื่อมต่อกับสวนส่วนกลางบนชั้น 2 ของอาคารด้วยนะคะ
สำหรับตำแหน่งของ Lobby จะอยู่ใกล้กับทางเข้าโครงการเลย เป็นจุดที่ให้มานั่งรอ พักคอยได้ ส่วนลิฟต์โดยสารมีทั้งหมด 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 110 : 1 จัดว่าแบ่งกันใช้กับเจ้าของร่วมที่เยอะพอสมควร ต้องเผื่อเวลาในช่วงเร่งด่วนหน่อยค่ะ
ภาพจำลองบริเวณส่วน Lobby เป็นพื้นที่ต้อนรับแขกในบรรยากาศสบายๆ เฟอร์นิเจอร์และวัสดุเลือกเป็นสีไม้ธรรมชาติ ซึ่งที่นี่จะจัดให้มี Vending Machine แบบยอดเหรียญมาให้บริการทั้งขนมและกาแฟ หรือจะมานั่งคุยงาน ทำงานในคอมฯ ก็มี Free WiFi พร้อมให้ใช้งาน
ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Work&Play Garden ซึ่งความเก๋อยู่ตรงเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถพับเก็บ / ปรับเปลี่ยน เป็นโต๊ะปิงปองได้
ขึ้นมาที่ชั้น 2 เป็นชั้นแรกที่มีห้องพักอาศัย โดยห้องเกือบทั้งหมดเป็นแบบ 1 Bedroom ขนาด 22 -31.75 ตร.ม. และคอนโดนี้เป็นที่แรกของแบรนด์ THE MUVE ที่มีห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 41.25 ตร.ม. (ในวงสีแดง) ให้เลือกกันด้วย โดยจะมีชั้นละ 1 ห้องเท่านั้น แต่หากอยากได้ห้องใหญ่กว่านั้นก็สามารถเลือก Combine แบบ 1 Bedroom เชื่อมเข้าหากันได้ค่ะ
สำหรับชั้นนี้จะมี Facility ส่วนกลางอย่าง Co-working Garden ให้มานั่งทำงานในสวนได้ ซึ่งความพิเศษของสวนนี้คือเค้าเชื่อมต่อเข้ากับสวนชั้นล่าง จึงได้บรรยากาศพื้นที่สีเขียวกว้างๆ เราว่าโครงการวางตำแหน่งสวนมาได้ดีเลย เพราะประตูเข้าออกสวนอยู่ติดกับลิฟต์ จึงยังรักษาความเป็นส่วนตัวในโซนห้องพักอาศัยไว้ได้ แต่ตำแหน่งลิฟต์จะวางอยู่ริมอาคารสักหน่อย ทำให้ห้องอีกฝั่งจะอยู่ไกลลิฟต์นิดนึงค่ะ
ส่วนเรื่องวิวของคอนโด Low Rise บนทำเลในเมืองแบบนี้ คงไม่ได้เป็นที่คาดหวังสักเท่าไหร่อยู่แล้ว อย่างคอนโดนี้ก็ถูกรายล้อมด้วย Apartment และหอพัก 5-8 ชั้นเกือบทุกด้าน ทำให้ห้องที่ได้วิวสวนในโครงการมี Value เพิ่มขึ้น (ในวงสีเขียว) การันตีวิวสวนสวยงามแต่ด้วยความที่มีระยะห่างกันไม่มาก อาจจะไม่ได้ความเป็นส่วนตัวมากนัก ซึ่งห้องวิวสวนก็มีให้เลือกทั้งห้องทิศเหนือ/ใต้/ตะวันตกเลยค่ะ
บรรยากาศบริเวณ Co-working Garedn ที่เชื่อมต่อกับ Work&Play Garden เป็นพื้นที่นั่งทำงาน นั่งเล่นกลางแจ้งเอาไว้เปลี่ยนบรรยากาศจากห้องแอร์ มานั่งรับลมชิวๆ รับกลิ่นของต้นไม้ ดอกไม้นานาชนิด
ชั้น 3 – 7 แปลนจะเหมือนกันทั้งหมด ภาพรวมคล้ายชั้น 2 แต่จะไม่มี Facility ส่วนกลาง จึงเป็นชั้นพักอาศัยแบบเต็มชั้น โดยห้องพักอาศัยในแต่ละชั้นมีจำนวน 32 ยูนิต เป็นแบบ 1 Bedroom 22 -31.75 ตร.ม. เกือบทั้งหมด และจะมีห้องพิเศษที่ใหญ่ขึ้นคือแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 35.75 ตร.ม. และแบบ 2 Bedroom ขนาด 41.25 ตร.ม. ที่มีชั้นละ 1 ห้องเท่านั้นค่ะ
ส่วนเรื่องวิวจะคล้ายที่ชั้น 2 เลย เราแนะนำเป็นห้องวิวสวนส่วนกลางจะดีกว่าหันออกด้านนอกเพราะถูกล้อมด้วยหอพัก Apartment รอบด้าน แต่สำหรับชั้น 3 ขึ้นไปก็จะมีห้องทิศใต้หันออกนอกโครงการที่น่าสนใจอีกฝั่งหนึ่ง (ในวงสีเขียว) เพราะที่ดินติดกันเป็นบ้านพัก 1-2 ชั้น แต่ในอนาคตคงต้องมาลุ้นกันว่าจะถูกพัฒนาไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นหรือไม่นะคะ
ขึ้นมาที่ชั้น 8 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของโครงการ บนชั้นนี้จะมีทั้งห้องพักและ Facility ส่วนกลางอีกจุดหนึ่ง โดยห้องพักบนชั้นนี้จะมีทั้งหมด 28 ยูนิต กั้นโซนแยกออกจากพื้นที่ส่วนกลางอย่างชัดเจน จึงไม่รบกวนความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย
สำหรับ Facility ส่วนกลางหลักๆ บนชั้นนี้ก็ยังเน้นฟังก์ชันของการเป็นห้องทำงานทั้งแบบที่ทำงานเป็นกลุ่ม และแบบที่เป็นห้องส่วนตัว พร้อมชมวิวเมืองมุมสูงได้ในบรรยากาศที่เปิดโล่ง และมี Fitness ให้ใช้งานบนชั้นนี้ด้วยค่ะ
ตำแหน่งของ Facility บนชั้น 8 จะอยู่ตรงมุมอาคาร ออกแบบเป็นผนังกระจกเพื่อเปิดให้เห็นวิวเมืองมุมสูงค่ะ
ลักษณะพิเศษของ Co-Designing Space ที่ออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน เช่น โต๊ะมีช่องใส่กระเป๋าแบบและสามารถแยกเป็นโต๊ะเล็กให้เหมาะกับการจัดกลุ่มทำ Workshop ต่างๆ ได้ , มี Cutting Mat, โคมไฟเลื่อนปรับระดับได้, ผนังกระจกสามารถขีดเขียนได้แทนกระดานได้ เป็นต้น เอาใจกลุ่มทำงานดีไซน์ สถาปนิก อินทีเรียมากๆ เลย
ถัดมาที่ Co-Exploring Space จัดเป็นโต๊ะยาวที่ใช้งานพร้อมกันได้หลายคน มีปลั๊กไฟและ WiFi รองรับการทำงาน และมี Coffee Counter ไว้ชงกาแฟเวลาง่วงๆ ได้ด้วยนะคะ นอกจากนี้ยังมี Private Exploring Space ที่สามารถนั่งทำงานแบบเป็นส่วนตัวแยกไว้ต่างหาก เพื่อความสงบมากขึ้นค่ะ
ปิดท้ายด้วยห้องฟิตเนส ซึ่งมีทั้งเครื่อง Cardio และ Weight Training ให้เล่น ดูแล้วได้อุปกรณ์หลากหลายดี ภายในตกแต่งด้วยไม้สีธรรมชาติให้ความรู้สึกอบอุ่น พร้อมหน้าต่างบานใหญ่ Take View เมืองมุมสูงค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- ชั้นที่ 1
– พื้นที่โถงต้อนรับ
– Mailroom
– Laundry Room
– Work&Play Garden - ชั้นที่ 2
– Co-Working Garden - ชั้นที่ 8
– Co-Exploring Space
– Co-Designing Space
– Private Exploring Space
– Pocket Garden
– Fitness - ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 110 : 1
- ที่จอดรถ 68 คัน ประมาณ 31% ไม่รวมจอดซ้อนคัน (Automate Parking 24 คัน / ที่จอดรถปกติ 44 คัน)
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Key Card Access
แบบห้อง
สำหรับใครที่สนใจชมห้องตัวอย่างของโครงการ ทาง Think of Living ก็มี Update ห้องตัวอย่าง มาให้แล้วนะคะ สามารถอ่านได้ที่ คลิก : UPDATE ห้องตัวอย่าง THE MUVE ประดิพัทธ์
ห้องพักอาศัยของโครงการ THE MUVE ประดิพัทธ์ จะเน้นห้อง 1 Bedroom เป็นหลักโดยจะมีขนาดและการจัดพื้นที่ใช้สอยภายในที่แตกต่างกันออกไป เริ่มตั้งแต่ไซส์เล็กสุดขนาด 22 ตารางเมตร ไปจนถึงห้อง Combine ขนาดใหญ่สุดที่เกือบ 50 ตารางเมตร สำหรับห้องหายากในแต่ละชั้นคือห้องแบบ 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom ที่มีเพียงชั้นละ 1 ยูนิตเท่านั้น โดยมีแบบหลักๆ ให้เลือกทั้งหมด ดังนี้
- Type A : 1 Bedroom ขนาด 22-22.25 ตร.ม.
- Type B : 1 Bedroom ขนาด 24.25-25.25 ตร.ม.
- Type C : 1 Bedroom ขนาด 27.25 ตร.ม.
- Type D : 1 Bedroom ขนาด 31.75 ตร.ม.
- Type E : 1 Bedroom Plus ขนาด 35.75 ตร.ม.
- Type 2A : 2 Bedroom ขนาด 41.25 ตร.ม.
- Combine Unit : 1 + 1 Bedroom = 1 Bedroom Plus ขนาด 48.5-49.75 ตร.ม.
โครงการนี้ขายในรูปแบบ Fully Furnished พร้อมอยู่ มีเฟอร์นิเจอร์หลักๆที่ต้องใช้งานมาให้ครบ เหลือแค่ซื้อฟูก หมอน เครื่องใช้ไฟฟ้าบางชิ้น ก็เข้าอยู่ได้เลย ส่วนเฟอร์นิเจอร์ออกแบบมาให้แบบ Functionable ที่ใช้งานได้เต็มที่มากที่สุด วัสดุภายในห้องนอนปูด้วยพื้นไม้ลามิเนต ส่วนครัว, ห้องน้ำ และระเบียงปูกระเบื้อง ภายในพื้นถึงฝ้าเพดานสูง 2.55 m. ค่ะ
Type A : 1 Bedroom
แปลนแบบ 1 Bedroom ขนาดประมาณ 22 ตร.ม. ซึ่งออกแบบให้เหมาะอยู่อาศัย 1-2 คนกำลังดี โดยเปิดประตูมาเป็นพื้นที่ครัวปิดกั้นเป็นสัดส่วน ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นฟุ้งกระจาย แถมมีตู้เก็บรองเท้าอยู่หน้าห้องมาให้ด้วย ซึ่งค่อนข้างสำคัญสำหรับคอนอยู่คอนโดเลยนะคะ
ผ่านโซนครัวเข้ามาเป็น Living + Bedroom รวมอยู่ในห้องเดียวกัน จัดระยะการใช้งานมาได้ดี วางโซฟาแบบ Love Seat นั่ง 1-2 คน พร้อมพื้นที่เหลือวางโต๊ะกลางได้ ริมอาคารมีหน้าต่างรับแสงได้เต็มที่ ส่วนห้องน้ำเดินใช้งานจากภายในห้องแบ่งโซนเปียกแห้งไว้เป็นสัดส่วน และด้านหน้าห้องน้ำก็มีตู้เสื้อผ้าให้หยิบใช้งานสะดวก
ถัดมาจะเป็นส่วนระเบียงที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกได้วิวและรับแสงธรรมชาติเต็มที่ พื้นที่ระเบียงมีขนาดกระทัดรัด ใช้สำหรับตากผ้า แขวน Condensing Unit ของเครื่องปรับอากาศค่ะ
สำหรับห้อง 1 Bedroom ขนาด 22-22.25 ตร.ม. ทางโครงการจะมีชุดเฟอร์นิเจอร์มาให้ทั้งหมด 7 ชิ้น นอกเหนือจากเคาน์เตอร์ครัวและวัสดุอุปกรณ์ภายในห้องน้ำ ได้แก่
1. ตู้เก็บรองเท้าตรงข้ามชุดครัว
2. โซฟาแบบ Love Seat ขนาด 2 ที่นั่ง
3. โต๊ะ Coffee Table ให้ใช้งานบริเวณพื้นที่นั่งเล่น
4. ตู้เสื้อผ้าออกแบบให้มีลิ้นชัก+ราวเสื้อผ้า
5. โต๊ะเคาน์เตอร์ติดผนัง ใช้เป็นมุมสำหรับนั่งทำงาน
6. ฐานเตียงที่ออกแบบมาให้มีพื้นที่เก็บของที่ปลายเตียงและลิ้นชักใต้เตียง
7. โต๊ะและเก้าอี้สำหรับนั่งทำงาน
ชุดครัว – ทางโครงการจะติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานเป็นชุดครัวแบบ Built-in ออกแบบมาให้พอดีกับขนาดของส่วนครัว โดยแบ่งการใช้งานตัวตู้ด้านบนแบ่งเป็นช่องเก็บของ 2 ระดับ และมีช่องที่มีหน้าบานตู้ปิดให้เรียบร้อย หน้าบานตู้เป็นเมลามีนลายไม้ ส่วนเคาน์เตอร์ด้านล่างจะมีตู้บานปิดไว้ให้เก็บของ และมีช่องโล่งเตรียมไว้สำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้า การออกแบบลักษณะนี้ช่วยประหยัดพื้นที่ระเบียง ไม่ต้องตั้งเครื่องซักผ้าที่ระเบียงช่วยยืดอายุการใช้งาน และได้ใช้พื้นที่ระเบียงมากขึ้นด้วย
วัสดุอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว – โดยโครงการจะติดตั้งเตาไฟฟ้า + เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจาน 1 อ่าง ของ Teka ให้ ส่วนครัวจะได้ Top ครัวเป็น หินสังเคราะห์ ที่เหมาะกับการประกอบอาหาร มีคุณสมบัติ ไม่มีรูพรุนจึงไม่ซึมน้ำ จึงไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ทำความสะอาดได้ง่าย และ มีความแข็งแรงทนทาน
สำหรับวัสดุอุปกรณ์ในห้องน้ำใช้ของยี่ห้อ Bathline และ Novabath เป็นมาตรฐานค่ะ
ภาพจำลองบรรยากาศห้องพักอาศัยเป็นพื้นที่กว้างๆ เชื่อมโซนนั่งเล่น+เตียงนอนเข้าไว้ด้วยกัน ช่วยให้บรรยากาศดูโปร่งโล่งได้รับแสงธรรมชาติเต็มที่ ซึ่งปัจจุบันห้องตัวอย่างอยู่ในระหว่างตกแต่ง โดยเร็วๆนี้เราจะไปเก็บภาพบรรยากาศมาฝากกันค่ะ
Type 2A : 2 Bedroom
มาถึงห้อง Rare Item ของโครงการ คือแบบ 2 Bedroom ที่มีเพียงชั้นละ 1 ยูนิต โดยลักษณะครัวเป็นครัวเปิดจึงต้องระวังเรื่องกลิ่นควันเข้าสู่ตัวห้อง ซึ่งจากตำแหน่งครัวในแปลนนี้เรามองว่าก็สามารถกั้นประตูบานเลื่อนเพื่อทำเป็นครัวปิดเพิ่มได้นะคะ เผื่อต้องการให้ใช้งานครัวได้จริงจังขึ้น
ในส่วนของห้องน้ำจะอยู่ติดกับครัวเลย ไม่ได้อยู่ในห้องนอน เวลาแขกไปใครมาขอเข้าห้องน้ำจะได้ไม่เสียความเป็นส่วนตัว แต่เวลาจะเข้าห้องน้ำยามดึกก็ต้องเดินออกจากห้องนอนมาหน่อยค่ะ
เข้ามาด้านในเป็น Common Area กว้างๆ ที่รวม Living+ Dining เข้าไว้ด้วยกัน โดยที่เรามาสามารถวางโซฟาติดหน้าต่างได้เลย ทำให้นั่งชมวิวไปดูทีวีไปได้ ส่วนห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ภายในมีพื้นที่พอให้วางเตียง 5 ฟุต+ตู้เสื้อผ้า+ติดทีวีได้ทั้งคู่ และมีหน้าต่างให้เปิดระบายอากาศภายในห้องได้
เฟอร์นิเจอร์ที่ได้ทั้งหมด 11 ชิ้น ได้แก่
1. ตู้เก็บรองเท้าตรงข้ามชุดครัว
2. โต๊ะทานอาหาร
3. เก้าอี้ทานอาหาร 4 ตัว
4. ชั้นวางทีวี
5. โซฟาแบบ L-Shape ขนาด 3 ที่นั่ง
6. โต๊ะ Coffee Table ให้ใช้งานบริเวณพื้นที่นั่งเล่น
7. ฐานเตียงที่ออกแบบมาให้มีพื้นที่เก็บของที่ปลายเตียงและลิ้นชักใต้เตียงในห้องนอน 1
8. โต๊ะแต่งหน้าในห้องนอน 1
9. ตู้เสื้อผ้าออกแบบให้มีชั้นเก็บของ+ราวแขวนเสื้อผ้า
10. ฐานเตียงที่ออกแบบมาให้มีพื้นที่เก็บของที่ปลายเตียงและลิ้นชักใต้เตียง
11. ตู้เสื้อผ้าออกแบบให้มีชั้นเก็บของ+ราวแขวนเสื้อผ้า
นอกจากนี้ยังมีเคาน์เตอร์ครัวและวัสดุอุปกรณ์ภายในห้องน้ำ ซึ่งจะได้สเปคเดียวกับแบบ 1 Bedroom ที่ได้อธิบายไปแล้วนะคะ
Type B : 1 Bedroom
แบบ 1 Bedroom Type B ขนาดประมาณ 24 ตร.ม. จะวาง Layout เหมือนกับ Type A แต่สิ่งที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือพื้นที่ใช้งานขนาดใหญ่มากขึ้น และการวางตู้เสื้อผ้าเป็นรูปตัว L ที่ช่วยบังพื้นที่ห้องน้ำ เวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าจะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น นอกจากนี้โต๊ะทำงานก็ยาวมากขึ้นด้วย ใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้สบายๆ
เฟอร์นิเจอร์มาให้ทั้งหมด 7 ชิ้นเหมือนกับแบบ Type A สิ่งที่แตกต่างคือตู้เสื้อผ้าที่เปลี่ยนเป็นรูปตัว L ทำให้เก็บเสื้อผ้าได้มากขึ้น เหมาะกับสาวๆสายช้อปปิ้งที่มีเสื้อผ้าเยอะนะคะ
Type C : 1 Bedroom
ขยับไซส์ใหญ่ขึ้นอีกหน่อยมาดูแบบ 1 Bedroom Type C ขนาดประมาณ 27 ตร.ม. จะวาง Layout คล้ายกับ Type A และ B แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้นทำให้แต่ละฟังก์ชันจัดวางได้เป็นสัดส่วนมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่แต่งตัวที่มิดชิดขึ้น สามารถวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งบริเวณหน้าห้องน้ำได้ นอกจากนี้โต๊ะทำงานก็ยาวมากขึ้น ทำงาน 2 คนได้โดยไม่ต้องนั่งทำหน้าทีวีแล้วค่ะ
เฟอร์นิเจอร์มาให้ทั้งหมด 8 ชิ้น โดยเฟอร์ฯ ที่เพิ่มเติมมากจากแบบ Type A, B ก็คือโต๊ะเครื่องแป้ง และโต๊ะทำงานที่ยาวขึ้น จึงสามารถวางของได้เยอะและใช้งานได้สะดวกขึ้นนั่นเอง
Type D : 1 Bedroom
ขยับไซส์ใหญ่ขึ้นมาเรื่อยๆ ที่แบบ 1 Bedroom Type D ขนาดประมาณ 31 ตร.ม. แม้ว่าดูเผินๆจะคล้าย Type A,B,C ก่อนหน้านี้ แต่กลับเป็นแบบที่เราชอบมากที่สุด เพราะเป็น 1 Bedroom ที่ได้ห้องนอนเป็นสัดส่วนจริงจัง แยกออกจากพื้นที่นั่งเล่นไปเลย ทำให้เวลาอยู่อาศัยกัน 2 คนก็อยู่ได้แบบไม่รบกวนกัน เช่น หากถึงเวลานอนแต่อีกคนนึงยังอยากนั่งดูทีวี ก็สามารถแยกห้องกันได้ เสียงทีวีไม่รบกวนกัน และเป็นขนาดเริ่มต้นที่สามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่แบบหันหน้าเข้าหากัน และดูทีวีไปพร้อมๆกับทานอาหารได้ค่ะ
เฟอร์นิเจอร์มาให้ทั้งหมด 10 ชิ้น โดยเฟอร์ฯ ที่เพิ่มเติมขึ้นมามากกว่าแบบ Type C ก็คือโต๊ะทานอาหารพร้อมเก้าอี้ที่เพิ่มเข้ามาในห้องนั่งเล่น และมีชั้นวางทีวีเพิ่มเข้ามาให้ทดแทนกับโต๊ะเครื่องแป้งที่ไม่ได้มีให้ในห้อง Type นี้นะคะ
Type E : 1 Bedroom Plus
หากใครคิดว่าแบบ 1 Bedroom ใหญ่ไม่พอ ก็จะมีแบบ 1 Bedroom Plus ด้วยนะคะ ซึ่งมีเพียงชั้นละ 1 ยูนิตเท่านั้น โดยลักษณะครัวเปิดที่อาจจะมีกลิ่นกระจายเข้าตัวห้องได้ ติดๆกันมีทางเข้าห้องน้ำที่แยกโซนเปียกแห้งไว้ชัดเจน
เดินเข้ามาด้านในเป็นพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับระเบียง ที่เดินออกไปสูดอากาศได้ง่าย ส่วนห้องนอนหลักจะมี 1 ห้อง วางเตียง 5 ฟุตได้ และห้องอเนกประสงค์ที่เพิ่มขึ้นมาใช้วางเตียง 3.5 ฟุตได้ค่ะ ซึ่งทั้ง 2 ห้องก็จะมีหน้าต่างในตัวเปิดระบายอากาศได้สะดวก หรือถ้าใครไม่อยากได้ห้องนอนเพิ่ม ก็สามารถเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน หรือเป็นพื้นที่ Walk-in Closet ตอบโจทย์สาวๆ สายช้อปปิ้ง ที่มีเสื้อผ้า+ของใช้เยอะๆ ได้ดีนะคะ
เฟอร์นิเจอร์ที่ได้บริเวณห้องนั่งเล่นทั้งหมด 11 ชิ้น คล้ายกับแบบ 2 Bedroom แต่ต่างกันตรงขนาดที่เตียงที่ได้จะเป็นเตียง 5 ฟุต กับ 3.5 ฟุตแทนค่ะ
Combine Unit : 1 Bedroom Plus
ถึงแม้ว่าห้องพิเศษอย่าง 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom จะมีจำนวนยูนิตไม่เยอะนัก แต่หากใครต้องการห้องขนาดใหญ่อีกล่ะก็สามารถ Combine ห้อง 1 Bedroom เข้าด้วยกัน ปรับเป็น 1 Bedroom Plus 2 Bathroom ได้ด้วยนะคะ โดยรายละเอียดการ Combine สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้จากทางโครงการค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคา
THE MUVE ประดิพัทธ์ ราคา ณ วันที่ 24 ตุลาคม 2564
- 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 22 – 22.25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.59-2.74 บาท
- 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 24.25 – 31.75 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.45-3.45 บาท
- 1 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องน้ำ ขนาด 35.75 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.09-4.79 บาท
- 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 41.257 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.1-5.23 บาท
- รูปแบบการขาย Fully Furnished
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.55 เมตร
- จอง 20,000 – 30,000 บาท
- ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 49 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล : THE MUVE ประดิพัทธ์ เป็นอีกหนึ่งคอนโด Low Rise เปิดใหม่ในย่านสะพานควาย-อารีย์ ตั้งอยู่ในซอยประดิพัทธ์ 23 เข้าไปประมาณ 120 เมตร ซึ่งย่านนี้เป็นแหล่งอาคารสำนักงานทั้งเอกชนและรัฐบาล รวมถึงเป็นแหล่ง Hang-Out ที่สำคัญย่านหนึ่งในกรุงเทพฯ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในย่านมนุษย์เงินเดือนอย่างแท้จริง ทำให้ราคาค่าเช่าคอนโดในย่านนี้ค่อนข้างสูง ถ้าลองเทียบ “ค่าเช่า” กับ “ค่าผ่อน” ดูแล้วล่ะก็…การผ่อนคอนโด 2 ล้านกว่าๆ ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในทำเลนี้ และเสน่ห์อีกอย่างของคอนโดบนถนนประดิพัทธ์ก็คือ บรรยากาศแบบชุมชนเดิม มี Street Food ให้เดินช้อปปิ้งกันได้ ไม่ใช่แค่ต้องเข้าร้านอาหารกันอย่างเดียวค่ะ
การเดินทางโดยใช้รถ : การเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวจะต้องอิงกับถนนประดิพัทธ์เป็นหลัก ซึ่งรถค่อนข้างจะเยอะนิดนึง แต่ด้วยตำแหน่งของซอยที่อยู่ใกล้แยกสะพานควายก็จะไม่ต้องเสียเวลารถติดนานนักก็สามารถออกถนนพหลโยธินหรือข้ามไปถนนสุทธิสารได้ และมีตัวช่วยในการเดินทางอย่างทางพิเศษศรีรัชบนเส้นพระราม 6 ในระยะประมาณ 2-3 กิโลเมตรเท่านั้น แต่เนื่องจากเป็นโครงการที่ไม่ไกลรถไฟฟ้ามากนักทำให้สัดส่วนที่จอดรถให้มาเพียง 31% ไม่รวมจอดซ้อนคันค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : สำหรับเราแล้วความน่าสนใจของทำเลนี้คือตำแหน่งโครงการในซอยประดิพัทธ์ 23 ซึ่งเป็นซอยที่อยู่ใกล้แยกสะพานควาย จึงเดินจากสถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานควายประมาณ 600 เมตร เป็นระยะที่ไม่ได้ใกล้มาก แต่ด้วยบรรยากาศริมถนน 2 ข้างทางที่เป็น Street Food ช่วยดึงดูดให้เดินเพลินๆ ช้อปปิ้งตามทางได้ หรือหากนั่งพี่วินมอเตอร์ไซค์ก็ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีเท่านั้น ซึ่งจุดขึ้นพี่วินมอนเตอร์ไซค์จะอยู่ที่หน้าปากซอย ห่างจากโครงการเพียง 120 เมตร
วัสดุ : โครงการนี้ขายแบบ Fully Furnished ตกแต่งพร้อมอยู่ โดยเฟอร์นิเจอร์แบบ Functionable ที่สามารถใช้งานได้เต็มที่ เช่น มีช่องเก็บของซ่อนอยู่ใต้เตียง มีลิ้นชักต่างๆ มาให้เก็บของได้ไม่รกสายตา ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่จำเป็นสำหรับการอยู่คอนโดเลยนะคะ โดยห้องแต่ละแบบจะให้เฟอร์ฯมาครบถ้วน รวมถึงอุปกรณ์ครัวต่างๆ ส่วนที่ต้องซื้อเพิ่มก็เป็นพวกฟูกที่นอน และเครื่องใช้ไฟฟ้าเท่านั้นค่ะ
การออกแบบ : เป็นโครงการที่มีแนวความคิดในการออกแบบชัดเจนดี ตอบโจทย์กลุ่ม First Jobber ที่ต้องการประหยัดค่าเดินทาง เอาเงินมาผ่อนคอนโดแทน หรืออีกกลุ่มคือนักลงทุน ที่เล็งเห็นถึงศักยภาพของทำเลสะพานควาย ซึ่งเป็นย่านที่มีคนเช่าหอพัก/คอนโด เป็นจำนวนมาก การออกแบบจึงเอาใจวัยรุ่นสร้างตัว มีความสดใสด้วยสีสันของอาคาร ดูหวือหวาไม่จำเจ และห้องพักส่วนใหญ่ก็เป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดกระทัดรัด เน้นจับกลุ่มผู้อยู่อาศัย 1-2 คน
สาธารณูปโภค : จัดพื้นที่ส่วนกลางของโครงการไว้ที่ชั้น 1 , 2 และ 8 โดย Facility ส่วนใหญ่จะทำออกมาเพื่อรองรับการทำงาน โดยมีมุมนั่งทำงานต่างๆ เยอะมาก ทั้ง Indoor/Outdoor , Public/Private , แบบกลุ่ม/แบบเดี่ยว เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของวัยสร้างตัวได้เต็มที่ ส่วนที่เก๋สุดเรายกให้ที่นั่งทำงานในสวน ซึ่งเค้าเชื่อมพื้นที่สวนชั้น 1 และชั้น 2 ต่อเนื่องกัน ให้บรรยากาศดูร่มรื่นมากขึ้น นอกจากนี้ก็มี Fitness และมุมทำงานที่ชั้นบนสุดของอาคาร เพื่อเปิดให้รับวิวเมืองมุมสูงด้วย แต่ที่นี่จะตัดสระว่ายน้ำทิ้งไปเพื่อรักษาระดับราคา 2 ล้านกว่าๆ ไว้นะคะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 110,000 บาท/ตร.ม., 24 ตุลาคม 2564
- ทำเล 7.5/10 – ทำเลในซอยประดิพัทธ์ 23 เข้าซอยไม่ลึก
- เดินทางด้วยรถ 7.25/10 – ค่อนข้างสะดวก เชื่อมต่อถนนใหญ่หลายเส้นทาง แต่ที่จอดรถไม่เยอะนัก
- ไม่ใช้รถ 7.5/10 – ห่างรถไฟฟ้า 600 เมตร แต่มีพี่วินมอเตอร์ไซค์และแท็กซี่ให้เรียกได้ในระยะ 120 เมตร
- วัสดุ 8/10 – Fully Furnished แต่งครบพร้อมอยู่ ให้เฟอร์นิเจอร์เยอะ
- แบบ 7.75/10 – มีห้องให้เลือกหลายแบบ จัดวางฟังก์ชันดี ผังอาคารเน้นความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัย แต่เสียดายนิดนึงที่ตำแหน่งลิฟต์ไม่อยู่กลางอาคาร
- สาธารณูปโภค 7.25/10 – จับกลุ่ม First Jobber มีมุมนั่งทำงานเยอะมาก มีฟิตเนสแต่ไม่มีสระว่ายน้ำ
- MAIN CLASS
- 7.54 / 10.00
THE MUVE ประดิพัทธ์ เหมาะกับใคร
โครงการ THE MUVE ประดิพัทธ์ เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดราคา 2-3 ล้านบาทในย่านสะพานควาย-อารีย์หรือทำงานอยู่ในโซนนี้ หวังพึ่งพารถไฟฟ้าอยู่บ้างในระยะที่นั่งพี่วินมอเตอร์ไซค์ไปถึงได้ใน 5 นาที หรือคนที่คิดว่าระยะ 600 เมตรก็ยังเดินไหว ชอบส่วนกลางของคอนโดที่มีพื้นที่นั่งทำงานหลายมุมให้เปลี่ยนบรรยากาศได้ ต้องการคอนโดที่ให้เฟอร์นิเจอร์ครบ ไม่ต้องเสียเงินแต่งเพิ่ม
หรืออีกมุมนึงก็เหมาะกับนักลงทุนไปเลย เพราะห้องมีราคาเริ่มต้นที่ไม่สูงมากนักสำหรับโครงการย่านสะพานควายในยุคนี้ มีงบประมาณระดับ 2.59 – 5 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 37,000 – 50,000 บาท/เดือน
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc