รีวิวฉบับที่ 245 เป็นโครงการ The Mark รัชดา – แอร์พอร์ทลิงก์ ที่อยู่ติดถนนใหญ่จตุรทิศก่อนที่จะเลี้ยวไปทางแยกรัชดา-พระราม 9 ของบริษัท Win Pro Engineer ที่เติบโตมาจากเกาะภูเก็ต กับแบรนด์เจ้าฟ้าการ์เด้นโฮมและคอนโดมิเนียมภูมันตรา ซึ่งโครงการ The Mark รัชดา จัดเป็นโครงการคอนโดมิเนียมแห่งแรกของ Win Pro ที่พัฒนาที่กรุงเทพมหานครครับ
Fact @ 15 Oct 2012
- The Mark รัชดา
- Win Pro Engineer Co., Ltd.
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด High Rise 25 ชั้น 1 อาคาร 423 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณเกือบ 70% รวมซ้อนคัน
- ที่ดินประมาณ 2-2-19.8 ไร่
- 1-2 Bedrooms
- พื้นที่ใช้สอย 31.75 – 59.75 ตร.ม.
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.6 ล้านบาท
- ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 65,000 – 80,000 บาท
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
ทำเลของโครงการ The Mark คอนโด รัชดา-แอร์พอร์ทลิงก์ อยู่ติดถนนใหญ่จตุรทิศ ที่เป็นถนนรองเชื่อมจากถนนพญาไทไปยังถนนอโศก-ดินแดง ใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT พระราม 9 และสถานี Airport Link มักกะสัน
จากตำแหน่งที่ดินโครงการ หากจะวัดระยะทางในการเดินไปถึง MRT พระราม 9 และ Airport Link มักกะสัน ก็เรียกว่าอยู่ในช่วงพอเดินได้ทั้งคู่ คือราวๆ 600 เมตร
ถ้าเดินไปทาง MRT พระราม 9 ก็จะผ่านสี่แยก รัชดา-พระราม 9 ไปทางเซ็นทรัล และถ้าเดินย้อนศรกลับมาทาง เพชรบุรีก็จะถึง Airport Link ที่ถนนกำแพงเพชร 7
วันนี้ผมเดินทางมาจากถนนวิภาวดีรังสิต วิ่งตรงลง Tollway ไปทางดินแดง
พอใกล้ๆทางขึ้นทางด่วนก็ให้ชิดซ้ายไว้
ไปทางดินแดงนะครับ
ทางขวาไปอนุสาวรีย์ รถติดหน่อย
เลี้ยวซ้ายตรงนี้เข้าถนนดินแดง ผมมาทางปกตินะครับ ไม่ใช้ทางลัดเลี้ยวเข้าประชาสงเคราะห์ ถ้ามาทางลัดจะเร็วกว่าเพราะไม่ต้องกลับรถ แต่วันนี้อยากพามาทางถนนสายหลักๆครับ
ภาพมัวนิดนึง ถ่ายย้อนแสง ขออภัยๆ
เราสามารถขึ้นสะพานข้ามไปพระราม 9 ได้นะครับ แล้วค่อยไปกลับรถ
เพราะว่าที่แยกนี้เลี้ยวขวาไม่ได้
ถ้ามาจากทางประชาสงเคราะห์จะสามารถตรงเข้าถนน จุตรทิศ-ดินแดงได้เลย ซึ่งจะสะดวกกว่าไม่ต้องกลับรถไกล
ไม่เป็นไร เราวิ่งตรงไปเพื่อกลับรถ ทางซ้ายจะผ่าน a Space i/d ของอารียา
จุดกลับรถอยู่ตรงนี้
วิ่งย้อนกลับไปทางเดิม
ทางซ้ายจะเห็นตึกของ Supalai Park
เลยวัดพระแม่ฟาติมา
จากนั้นค่อยกลับมาเลี้ยวซ้ายที่แยกประชาสงเคราะห์เมื่อครู่
เข้ามาถนน จตุรทิศ-ดินแดง
ถนนกว้างดูดี ไม่มีรถ
เลี้ยวซ้ายเข้าจตุรทิศเพื่อจะไปยังโครงการ เข้าถนนรัชดาออกพระราม 9 ถ้าเลี้ยวขวาก็จะไปราชปรารภและ Airport Link ครับ
เลี้ยวซ้ายมาตามระเบียบ
ถนนจตุรทิศจะค่อนข้างแห้งแล้ง ไม่มีร้านค้าสองฟากเลย คล้ายๆกับวิ่งอยู่บนสะพานหรือทางด่วน
พอเห็นป้ายนี้ก็ให้ชลอนะครับ ใกล้แล้ว
โครงการอยู่ก่อนที่จะเลี้ยวซ้ายไป
ตรงนี้เป็นที่ดินที่พัฒนาโครงการ The Mark รัชดา
หน้าตาสภาพไซต์งาน รอบข้างไม่ค่อยมีชุมชน
ด้านนอกก็เป็นถนนใหญ่พาดไปพาดมา
ไม่มีฟุตบาท
ถ้าจะเดินไป MRT / Airport Link ก็ต้องไปทางนี้ ออกถนนอโศกดินแดง
เพื่อนบ้าน ศุภาลัย Park อยู่ด้านหลัง
ตัวตึกสร้างร่นมาจากถนนใหญ่ประมาณ 70 เมตร
ความคืบหน้าการก่อสร้างปัจจุบัน (ตุลาคม 2555)
พอเดินออกมาจากถนนจตุรทิศได้เท่านั้นแหละ บรรยากาศความเป็นชุมชนเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว
เจาะลึกตัวโครงการ
ภาพนี้มองจากตึกออกไปยังถนนจตุรทิศ ข้ามไปทางกำแพงเพชร 7 ถ้าวัดระยะตรงๆจากตึกแล้วก็คงจะไม่ไกลจาก Airport Link เท่าไรนัก แต่ข้อเสียคือ AL ปัจจุบันใช้ยาก เดินเข้าลำบาก และมีคลองกั้นระหว่างโครงการกับ AL ทำให้ต้องเดินอ้อมถนนใหญ่ ในระยะประมาณ 600 เมตร
โครงการเป็นตึกสูง 30 ชั้น มีพื้นที่ดินประมาณ 2 ไร่ ห้องทั้งหมดหันไปทางทิศตะวันตกและตะวันออก มียกเว้นเพียงห้องด้านหน้าและด้านหลังที่เป็นมุมตึก จะหันไปทางทิศเหนือและทิศใต้ ซึ่งวิวทางทิศใต้หรือตะวันตกเฉียงใต้จะมองไปเห็นพื้นที่สีเขียวของการรถไฟแถวมักกะสัน
วิวทิศเหนือหรือตะวันออกเฉียงเหนือจะเป็นวิวเมือง หันหน้าไปทางรัชดา/พระราม 9 ที่ต่อไปจะมีตึกสูงขึ้นอีกหลายตึก โครงการคอนโดมิเนียมอีกหลายโครงการ
ส่วนถ้ามองไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือก็จะจ๊ะเอ๋กับเพื่อนบ้าน Supalai Park ตามรูปด้านบนในหัวข้อทำเลเลยนะครับ
บริเวณ Lobby และทางเข้าตึก
บริเวณทางเชื่อมจากตัวตึกออกไปยังพื้นที่นอกโครงการ
สวนบริเวณชั้น Podium
สระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้นสูงด้านหน้าตึก
ดาดฟ้าเป็นสวนสาธารณะและพื้นที่สีเขียว
เจ้าของคือบริษัท Win Pro Property บินตรงมาจากภูเก็ต เปิดตึกแรก ใน กทม.
หน้าตา Lobby นะครับ ดูแล้วอารมณ์รีสอร์ทดี
สวนชมวิวบนชั้น Podium (7)
Lobby โปร่งๆ คล้ายกับโรงแรมต่างจังหวัด
ห้องฟิตเนส สังเกตว่าผังไม้ซี่ๆเป็นดีไซน์ของโครงการนี้เลย ใช้ทุกจุด
ตรงนี้เป็นห้องสมุดเอนกประสงค์ที่ชั้น 7 อยู่ติดกับ สวนนั่งเล่น
สระว่ายน้ำชั้น 24 เกือบจะดาดฟ้า ตั้งอยู่ตอนหน้าของอาคาร มองไปทางทิศใต้ สยาม, CTW, ราชปรารภ
แบบของสระว่ายน้ำ มีอ่างจากุซซี่ที่ชั้น 24
หน้าตาของอาคาร ภาพจำลอง
บริเวณประตูทางเข้าออกอาคาร ดูแล้วคล้ายๆรีสอร์ท
ใช้ความโค้งประสานกับเส้นตรงแบบ Modern
แต่พอดูภาพรวมของตึกจะเห็นว่ามัน กว้างๆ ตันๆ ไปนิดนะครับ
โครงการเก่าๆของ Win Pro ต้องเอามาแปะไว้ข้างฝา เพราะลูกค้าที่ กทม. จะไม่ค่อยเข้าใจ ซึ่ง The Mark มีกำหนดสร้างเสร็จปลายปี 2556 ครับ
ชั้น 7 , ห้องสมุดและห้องพักผ่อน
ห้องส่วนใหญ่โดนแดดเต็มๆ ตะวันตก-ตะวันออก จะมียูนิตเหนือใต้อยู่ท้ายและหน้าโครงการ เป็นแบบ 2 Bedrooms เสียเป็นส่วนใหญ่
ที่ชั้น 24 มีแบ่งส่วนหน้าโครงการมาทำสวนและสระว่ายน้ำ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ ชั้น 24 พร้อม Jacuzzi
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
- สวนหย่อมรอบโครงการ
- สวนพักผ่อนชั้น 7
- ห้องสมุดชั้น 7
- ที่จอดรถ 70% ชั้น 2-6 รวมจอดซ้อนคัน
- ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว ลิฟท์บริการ 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ 1:130
- Shuttle Bus 1 คัน ส่ง MRT พระราม 9 และ Airport Link มักกะสัน
- ระบบ CCTV / Access Card
Product Walkthrough
เรามาดูห้อง A2 ขนาด 1 Bedroom กันก่อน ตรงนี้ตัวหนังสือหลุดแล้ว รบกวนฝ่ายการตลาดมาซ่อมด้วย
ห้อง A2 มีมากที่สุดในโครงการ หันไปทางตะวันออกทั้งแผง แบบนี้เลย ประตูเข้าออกห้องน้ำสองจุด จากห้องนอนและห้องรับแขก เป็นครัวเปิด
หน้าตาของคอนโดมิเนียม 1 Bedroom ของที่นี่ โทนการแต่งดูอบอุ่นและเป็นกันเอง
ลักษณะการขายคือจะให้ห้องแบบ Fully Furnished (ในวันที่ไปทำรีวิว) โดยจะมีให้ดังนี้
- โต๊ะทานอาหาร
- เก้าอี้ทานอาหาร 2 ตัว
- โต๊ะข้างโซฟา
- โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง
- ตู้วางทีวี
- ตู้ข้างเตียง
- เตียง 5 ฟุต
- โต๊ะเครื่องแป้ง
- ตู้เสื้อผ้า
- เก้าอี้สตูลเหลี่ยม
นอกจากนี้จะเป็นรายการเครื่องใช้ไฟฟ้า SAMSUNG
- TV LCD 32 นิ้ว
- เครื่องเล่น DVD
- ตู้เย็น 6.7 คิว
- เครื่องไมโครเวฟ 20 ลิตร
- เครื่องซักผ้าฝากหน้า 7 กก.
แถมด้วยรถยนต์อีก 1 คัน ราคา 450,000 บาท ถ้าไม่เอาจัดเป็นส่วนลดได้
ชุดครัวเข้ามุมรูปตัว L มีตู้บนตู้ล่างให้ ตู้บนแขวนเอา ไม่ได้สูงถึงเพดาน
ระยะฝ้าเพดาน 2.6 เมตร ระยะพื้นถึงพื้นชั้นบน 3.0 เมตร
ซิงก์หลุมสแตนเลส มีที่พักจานเล็กๆให้ด้านข้าง น่าจะทำให้สุดไปที่เสาเลยเนอะ
ผนังด้านหลังปูกระเบื้องโมเสก มีตัวจบกั้นขอบเรียบร้อย
เตา ไฟฟ้าสองหัวของ Teka แบบ Hot Plate ท๊อปเป็น High Pressure Laminate
ครัวเข้ามุมแต่ติดเสา ประโยชน์ใช้งานช่วงมุมเลยหายไป แต่ก็ยังดีที่เป็นมุมทำให้ล้างจานโน่นนี่ได้ง่ายขึ้น
โต๊ะทานข้าวและเก้าอี้ ขนาดกำลังดี ชิดผนังข้างหนึ่ง
โซฟาและระยะนั่ง ใช้ได้ ไม่อึดอัด เหมาะสมกับทีวี 32″ แต่ถ้าอยากจะใช้พวก 50″ ต้องไกลกว่านี้
โต๊ะข้างที่แถมมากับโซฟา ด้านหลังโซฟาเจาะเป็นช้ัน ช่องเก็บของ อันนี้ดีมาก
ให้ดูพื้นที่ของโต๊ะทานข้าว ถ้ากินอยู่ก็จะขวางทางเข้าห้องนอนเล็กน้อย
เดินออกไปที่ระเบียง มีที่วางคอมเพรสเซอร์แบบซ้อนกัน และกริลบังสายตาจากด้านนอกให้
ระเบียงกว้างแถวๆ 70 ซม. ดูด้วยสายตา
วงกบกระจกเป็นอลูมิเนียมสีขาว กระจกเขียวตัดแสง
ยี่ห้อ SECOM
ดรอปปลายฝ้า ซ่อนรางม่าน
แอร์แขวนผนัง ไฟดาวน์ไลท์
ห้องนอนใหญ่ มีโต๊ะเครื่องแป้งแยกอิสระ ไม่ต้องไปเบียดๆกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่น
เตียง 5 ฟุตและโต๊ะข้างเตียง
มีช่องเป็นมุมแต่งตัวเล็กๆ และห้องน้ำในห้องนอนใหญ่
มุมไฟอ่านหนังสือข้างเตียง
กรอบกระจกใช้เป็นบานใหญ่ แต่ซอยเยอะนิดนึง
พื้นลามิเนตในห้องนอน มีตัวจบก่อนถึงห้องนั่งเล่น ที่เป็นกระเบื้อง 60 x 60
ห้องน้ำเป็นกระเบื้องกันลื่น 12″ x 12″ มีธรณีเล็กน้อยเป็นกระเบื้อง
อ่างล้างมือ กระจกแต่งตัว โถสุขภัณฑ์
การดรอปพื้นห้องน้ำจากห้องรับแขก เป็น Double Access
อ่างล้างมือพลาสติก วางอยู่บนท๊อปหิน
โถของ American Standard
เลือกลายกระเบื้องสีครีมและสีขาว มีฉากกั้นอาบน้ำ Tempered Glass บานเปลือย
หัวฝักบัวอาจจะต้องปรับปรุงนิดหน่อย ดูเพลนไป
ชุดฝักบัว ที่วางสบู่เล็กไปนิดนึง
แยกโซนเปียกโซนแห้ง
สวิทช์หน้าตามาตรฐานธรรมดา
B1 ห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 56.9 ตารางเมตร
ห้องนี้เป็นแบบ 2 Beds 1 Bath มีห้องน้ำ 1 ห้อง ใช้แชร์กันสองห้องนอน
ห้องนี้มีโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 4 คน แต่สำหรับห้อง 2 Bedrooms นั้น ทางเจ้าหน้าที่ขายแจ้งว่าไม่มี Fully Furnished ให้
อุปกรณ์มาตรฐานจึงเป็นแค่ครัวกับแอร์
ครัวชุดเดิม
ส่วนทานข้าวนั่งได้สี่คน
เก้าอี้โซฟาและโต๊ะกลางมีแนวเป็นของตัวเอง ออก Modern Resort ไม่แถมให้นะครับ
ระยะดูทีวีโอเคเลย กว้างกว่าห้องที่แล้วมาก
ระเบียงอยู่ข้างโซฟา
น่าจะแถวๆ 1 เมตรได้ กว้างขึ้นมาอีก แบบนี้วางเก้าอี้ หรือตากผ้าราวใหญ่ๆได้
คอมสามตัว ซ่อนมิดชิด เป่าออกนอก ไม่ต้องห่วงเรื่องความร้อน
ห้องน้ำแบบ Double Access
อุปกรณ์ในห้องน้ำเหมือนเดิม
ห้องนอนใหญ่จัดแล้วดูสงบดี
แต่งโทนไม้ หวานๆ
หัวนอน
มุมทีวี แชร์กับโต๊ะเครื่องแป้ง
พื้นเป็นลามิเนตและแกรนิตโต้เหมือนเดิม
ห้องนอนเล็ก ก็วางเตียง 5 ฟุตได้ แต่จะติดเสาตรงนั้นหน่อย
ทำให้เตียงกับทีวีไม่ตรงกัน
ระยะนอนก็โอเค วางตู้ข้างเตียงได้ทั้งสองฟาก
ตู้เก็บเสื้อผ้าวางเต็มผนัง
ให้ดูระยะทีวีของห้องรับแขกอีกรอบ ไกลดี
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 15/10/2012
- 1 Bedroom ชั้น 12 ห้อง 1214 ขนาด 38.5 ตารางเมตร ราคา 2.544 ล้านบาท (ไม่เอารถ) หรือ 66,000 บาทต่อตารางเมตร
- 2 Bedrooms ชั้น 12 ห้อง 1207 ขนาด 56.5 ตารางเมตร ราคา 3.9 ล้านบาท (ไม่เอารถ) หรือ 69,000 บาทต่อตารางเมตร
- 1 Bedroom ชั้น 19 ห้องขนาด 33 ตารางเมตร ราคา 2.75 ล้านบาท (ไม่เอารถ) หรือ 83,000 บาทต่อตารางเมตร
- Fully Furnished เฉพาะ 1 Bedroom พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า
- จอง 5,000 – 10,000 บาท
- ทำสัญญา 55,000 – 90,000 บาท
- ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 40 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
เจาะลึกรวบยอด
ถนนจตุรทิศเป็นถนนใหญ่ใจกลางเมืองแต่เข้าออกยากและแบ่งเป็นสองฟากเดินรถทางเดียว ไม่มีแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัยในบริเวณโดยรอบ แต่ตำแหน่งของโครงการ The Mark รัชดา Airport Link นั้นก็อยู่ใกล้กับถนนรัชดา (อโศก-ดินแดง) มากแล้ว สามารถเลี้ยวซ้ายหรือขวาเพื่อไปออกพระราม 9 หรือราชปรารภได้ ดังนั้นตึกนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบความสงบ ไม่มีคนหรือชุมชนรอบๆอาคาร แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความลำบากเล็กน้อย เนื่องจากเวลาจะหาของกินทีก็ต้องออกไปไกลหน่อย
ทำเลของตึกนี้เหมาะสำหรับคนใช้รถใช้ถนน มีที่จอดรถให้เกือบๆ 70% แต่ไม่ค่อยเหมาะกับคนที่ใช้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า Airport Link หรือ MRT เป็นหลักเท่าไร เรื่องระยะทางการเดินอาจจะไม่ค่อยมีปัญหา เพราะเดินอยู่ที่ 500 – 600 เมตร เท่านั้นสำหรับทั้งสองสถานี แต่จะเป็นเรื่องความเปลี่ยวจากการที่ไม่มีชุมชนข้างเคียง ทำให้ไม่เหมาะสมกับการเดินเท้าในเวลาค่ำมืด ทางเราจึงมองว่าตึกนี้เหมาะสำหรับคนที่ใช้รถเป็นหลัก ใช้การขนส่งมวลชนเป็นรอง
วัสดุอุปกรณ์สำหรับโครงการนี้ดูเหมือนจะเอนเอียงไปทางห้อง 1 Bedroom เสียเยอะ เพราะว่าจัดเต็มให้แทบทุกอย่าง Fully Furnished พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า 5 รายการ และรถยนต์อีกหนึ่งคัน ซึ่งในที่นี้เรารีวิวบ้านจะไม่เอารถยนต์มานับนะครับ ตัดเป็นส่วนลดไป 450,000 บาทในทุกกรณี แต่สำหรับห้อง 2 Bedrooms นั้นเรียกได้ว่าแทบไม่มีของแถม ความคุ้มจึงไปตกอยู่กับห้อง 1 Bedroom เสียมากกว่า
การออกแบบของตึกนี้จัดว่าทำได้ดี มีความสงบและร่มรื่นตามแบบฉบับของ Resort Condominium แต่ด้วยจำนวนยูนิตที่แออัดพอสมควร 400 กว่าห้อง และลักษณะตึกที่กว้างใหญ่ต่อกันเป็นผืนยาว ทำให้ความสวยงามลดลงไป ในขณะที่การออกแบบห้องแต่ละยูนิตนั้นทำได้โอเค จัดวางเป็นสัดส่วน เพดานสูง 2.6 เมตร แต่ไม่มีครัวปิด ไม่เหมาะกับการทำอาหารหนักๆ
สาธารณูปโภคจัดมาให้โอเค ดูแล้วครบถ้วน ห้องสมุดและสวนลอยที่ชั้น 7, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำที่ชั้น 24, สวนดาดฟ้าบนสุด และพื้นที่สีเขียวรอบโครงการ บรรยากาศใน Lobby ดูแล้วใช้ได้ ทำเพดานสูงสองชั้น โปร่ง คล้ายๆอารมณ์รีสอร์ท
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 70,000 บาทต่อตารางเมตร, 06/07/2012
- ทำเล 8/10 – อยู่ในเมือง ใกล้แยกรัชดา-พระราม 9 และราชปรารภ
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – เข้าออกด้วยรถพอใช้ได้ ถนนวันเวย์
- ไม่ใช้รถ 7/10 – อยู่ในระยะเดินของรถไฟ้าสองสาย MRT และ Airport Link แต่ไกลและเปลี่ยว ยังดีที่โครงการมี Shuttle Bus ให้ 1 คัน รอบข้างโครงการหาของกินยากหน่อย
- วัสดุ 8.5/10 – (สำหรับ 1 ห้องนอน) พร้อมเฟอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า
- วัสดุ 7/10 – (สำหรับ 2 ห้องนอน) ไม่มีเฟอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า
- แบบ 7.5/10 – คอนโดอารมณ์รีสอร์ท แต่แออัดไปหน่อย และโดนแดดตะวันตก-ตะวันออก
- สาธารณูปโภค 8/10 – มีให้ครบ
- MAIN CLASS
- 7.88 / 10.00 สำหรับ 1 Bedroom (Fully Furnished และเครื่องใช้ไฟฟ้า)
- 7.65 / 10.00 สำหรับ 2 Bedrooms (No Furniture)
BOTTOM LINE
The Mark รัชดา เป็นตัวเลือกในราคาประหยัด สำหรับคนที่ดูคอนโดแถวรัชดา-พระราม 9 และใช้รถยนต์ในการเดินทางเป็นหลัก ชอบความสงบ ไม่พลุกพล่านของชุมชนรอบอาคาร
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ