สวัสดีครับ รีวิวฉบับที่ 341 … The Knight I by Knightsbridge คอนโด Low Rise 8 ชั้น ในซอยแบริ่ง 1 จาก Origin Property ครับ… โครงการนี้เป็นเสมือนโครงการลูกพี่ลูกน้องของ Knightsbridge ซึ่งเป็นตึกสูง 25 ชั้นในทำเลใกล้ๆกัน จาก Developer เจ้าเดียวกัน เพราะหน้าตาตึกคล้ายกันมาก เหมือนย่อส่วนกันมา แถมยังวาง Layout ของห้องออกมาเหมือนกันเด๊ะๆด้วย (สำนักงานขายยังอยู่ที่เดียวกันเลยนะเออ) ส่วนสาเหตุที่เรียกว่า The Knight I ก็เป็นเพราะทาง Origin มีแผนที่จะเปิดโครงการ The Knight II ที่อยู่ติดกันด้วย แต่รายละเอียดของโครงการ The Knight II ยังไม่เป็นที่แน่นอนครับ คราวนี้ผมเลยขอนำข้อมูลเฉพาะโครงการ The Knight I มานำเสนอก่อนนะครับ 🙂
Fact @ 22 April 2013
- The Knight I by Knightsbridge
- Origin Property
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 70 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 30% รวมจอดซ้อนคัน
- ที่ดินประมาณ 0-1-60 ไร่
- 1 Bedroom
- พื้นที่ใช้สอย 24-39 ตร.ม.
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.62 ล้านบาท
- ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 63,000 บาท
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
ที่ตั้งโครงการ The Knight อยู่ใน ซอยแบริ่ง 1 ซึ่งเป็นซอยย่อยใน ซอยสุขุมวิท 107 หรือ ซอยแบริ่ง ที่เรารู้จักกันดีนั่นเองครับ ทางด้านการเดินทางด้วยรถยนต์นั้น ก็ต้องขอบอกว่าซอยแบริ่งเป็นซอยใหญ่ ที่เชื่อมถนนสุขุมวิท กับ ถนนศรีนครินทร์เข้าด้วยกัน และนอกจากนี้โครงการก็ตั้งอยู่ใกล้ถนนบางนา-ตราด ด้วย ทำให้ทำเลตรงนี้เดินทางด้วยรถยนต์ค่อนข้างสะดวก ในโซนสุขุมวิท-ศรีนครินทร์-บางนา รวมไปถึงลงใต้ไปทางสมุทรปราการ หรือจะวิ่งมอเตอร์เวย์ไปชลบุรีก็ไม่ต้องผ่านตัวเมืองด้วยครับ
ถ้าออกมาดูบนภาพใหญ่ก็จะเห็นว่า ทำเลของ The Knight มีทางด่วนให้ใช้ได้ค่อนข้างสะดวก เส้นแรกคือ ทางด่วนบางนา ทั้งขาเข้าเมือง และขาออกไปชลบุรี เส้นนี้ถึงจะเรียกว่าทางด่วน แต่ขาเข้ามีคนใช้เยอะมาก ปริมาณรถสะสมค่อนข้างเร็วทีเดียว และค้างอยู่นาน ทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่าย แต่ก็ดีกว่าไม่มีทางด่วนแหละนะ
และเส้นที่สอง คือ วงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งเส้นนี้ถ้าจะไปทางพระราม 2 ก็วิ่งไปใช้ทางขึ้นบนถนนสุขุมวิท เลยไปทางสำโรง แต่ถ้าจะใช้ขึ้นเหนือไปรามคำแหง หรือ รามอินทรา ก็ไปใช้ทางขึ้นบนถนนบางนา-ตราด จะสะดวกกว่าครับ
มาดูการเดินทางแบบคนไม่ใช้รถกันบ้าง โครงการ The Knight ตั้งอยู่ห่างจาก สถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง ประมาณ 850 เมตร ซึ่งก็ถือว่าเป็นระยะที่คนส่วนใหญ่เดินไม่ค่อยไหวแล้ว มักจะอาศัยมอเตอร์ไซค์รับจ้างกันเสียมากกว่านะครับ ยังดีที่โครงการมี Shuttle Service คอยรับส่งลูกบ้านให้ ซึ่งก็น่าจะช่วยได้เยอะ จากหน้าโครงการเดินออกมาเรียกรถในซอยใหญ่ ระยะทางประมาณ 100 เมตร มีแท็กซี่และมอเตอร์ไซค์รับจ้างวิ่งผ่านตลอด ไม่น่าจะมีปัญหา เผลอๆจะมีฟลุคๆวิ่งผ่านมาในซอยด้วย เพราะซอยแบริ่ง 1 เป็นซอยที่ทะลุไปออกซอยลาซาล (สุขุมวิท 105) ได้ จึงเป็นซอยที่มีคนผ่านบ่อยๆ
ส่วนสิ่งแวดล้อมบริเวณนี้ ในเวลากลางวัน ค่อนข้างปลอดภัยและคึกคักพอสมควร มีคนเดินผ่านไปผ่านมามากมาย แต่ในเวลาเย็นๆถึงกลางคืน พอร้านค้าแผงลอยเก็บร้านหมดแล้ว ก็จะดูเปลี่ยวขึ้นพอสมควร แต่ยังไงก็ยังเป็นถนนเส้นที่มีรถยนต์วิ่งผ่านไปผ่านมาตลอดเวลา เนื่องจากเป็นซอยลัดสุขุมวิท-ศรีนครินทร์ มีไฟส่องถนนตลอดทาง (แต่ในซอยไม่ค่อยมี) สำหรับใครที่ต้องการจะซื้อ ขอให้ไปลองเดินดูให้มั่นใจนะครับ (แต่ก็ระวังความปลอดภัยของตัวเองในขณะที่ไปสำรวจด้วยนะ)
เริ่มการสำรวจทำเลที่สถานีรถไฟฟ้า BTS แบริ่งครับ
เดินลงบันไดฝั่งที่ใกล้ซอยแบริ่งที่สุด
ลงมาปุ๊บ บริเวณตึกแถว แถวๆนี้ จะมีร้านค้ามาเปิดอยู่บ้าง
แถวๆนี้อู่ซ่อมรถ ร้านประดับยนต์ ค่อนข้างเยอะ
ของกินแถวนี้หาไม่ยาก ไม่อดตายแน่นอน
ตามป้ายเลยครับ แปลว่าอีกหน่อยถนนแถวๆนี้จะกว้างขึ้น น่าจะเสร็จก่อนคอนโดอยู่แล้วหละ เย่!
จากรถไฟฟ้าไปถึงปากซอยแบริ่ง ระยะทางประมาณเกือบๆ 200 เมตร
ซอยแบริ่งนี้เข้าเขตเทศบาลตำบลสำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการพอดีเลยนะครับ
มาถึงซอยสุขุมวิท 107 เข้าซอยไปเลย
ปากซอยแบริ่ง
รถที่ออกจากซอย สามารถเลี้ยวซ้ายหรือขวาก็ได้นะครับ ถนนใหญ่ตรงนี้ไม่มีเกาะกลาง แถมมีไฟแดงกำกับอยู่แล้ว
เข้าซอยไปเลย
ตอนกลางวันมีคนตั้งแผงขายของมากมาย เช้าๆก็จะเป็นตลาดด้วย
ตึกแถวตรงนี้ก็เป็นร้านค้าซะส่วนใหญ่
โรงเรียนนานาชาติ เซนต์ แอนดรูว์ส อยู่ใกล้ๆปากซอยเลย
เข้าซอยต่อไปเรื่อยๆ
ทางขวามือจะผ่านสำนักงานขายของ The Gallery คอนโดที่เรารีวิวกันไปแล้ว นะครับ เห็นไอ้หมียักษ์นั่นมั้ย? มันคือหมี “Bear-ing” ไงครับ 555
เยื้องๆมาเราก็จะเจอสำนักงานขายของคอนโด The Knight แล้วครับ อยู่ที่เดียวกับ Knightsbridge ของ Origin เค้าแหละครับ สำนักงานขายนี่เดินจากปากซอยเข้ามาประมาณ 400 เมตร ก็ถึงแล้วครับ
The Knight by Knightsbridge นะจ๊ะ พี่น้องฝาแฝดกันเลยสองโครงการนี้
เราจะพาไปดูตำแหน่งแปลงที่ตั้งของโครงการกันก่อน เดินเข้าซอยต่อไปเลย
ทางขวาจะผ่านซอยแบริ่ง 8
ใกล้กับซอยแบริ่ง 8 จะมีโครงการบ้านเดี่ยวอยู่ ซื่อ Fantasia Villa 2
ด้านหน้าโครงการ Fantasia Villa 2 ตรงนี้ก็จะมีร้านสปามาเปิดอยู่ข้างหน้า หน้าตาประมาณนี้เป็นจุดสังเกต
ข้างๆมีตึกแถวหน้าตายุโรปๆอยู่ข้างๆกัน
ตรงข้ามมาก็จะมีเซเว่นอีเลฟเว่น
เซเว่นนี้สาขาใหญ่มาก มีที่จอดรถประมาณ 10-15 คัน
เซเว่นอยู่ปากซอยแบริ่ง 1 เลย ถ้าเจอเซเว่นก็เตรียมเลี้ยวซ้ายได้เลย
เข้าซอยแบริ่ง 1
ซอยแบริ่ง 1 ก็จะเป็นถนน 2 เลนแบบนี้ มีขอบทางนิดหน่อย ถ้ามีรถจอดชิดขอบทาง ก็ยังไม่อึดอัดมากนัก ซอยนี้ทะลุไปซอยลาซาลได้ด้วย
คอนโดตึกคู่ที่เห็นอยู่ข้างหน้านั่นคือโครงการ แคสเซีย ครับ
ทางขวามือจะเจอ ซอยแบริ่ง 1 แยก 2 เราเลี้ยวขวาเข้าซอยนี้ไปเลยครับ
แล้วก็จะเจอแปลงที่ดินของ The Knight อยู่ตรงนี้ครับ ขนาดประมาณ 3 งานกว่าๆ ตรงที่ล้อมแสลนต์เขียวๆไว้นั่นแหละ
ฝั่งตรงข้ามคอนโดก็เป็นแปลงว่างๆอยู่ ไม่รู้จะขึ้นคอนโดป่าว
ถัดไปอีกหน่อย เป็นโรงเรียนกวดวิชาสอนภาษาอังกฤษ (ที่น่าจะเป็นบ้านคนด้วยนะครับ)
ท้ายซอยเป็นซอยตัน มีบ้านคน ไม่มีอะไรมาก
เจาะลึกตัวโครงการ
โครงการ The Knight I เป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 1 อาคาร 70 ยูนิตครับ ขนาดแปลงที่ดินอยู่ที่ 160 ตารางวา ซึ่งก็ถือว่าเล็กนะครับ มีข้อดีคือได้ความเป็นส่วนตัว แต่ข้อเสียก็คือที่ดินขนาดนี้ถ้าจะยัดให้ได้ฟังก์ชั่นหลายๆอย่างเหมือนคอนโดที่ดินแปลงใหญ่ๆ อะไรๆก็จะดูย่อส่วนไปหมดครับ ซึ่งอาจจะไม่เหมาะในการใช้งานจริงสักเท่าไหร่
มาดู Floor Plan กันบ้าง โครงการนี้จัดสาธารณูปโภค และ Facilities ทุกอย่างไว้ที่ชั้น G โดยพื้นที่ประมาณ 60% ของชั้นนี้ถูกทำเป็นที่จอดรถ ซึ่งจอดได้ประมาณ 30% รวมจอดซ้อนคัน แปลว่าจอดรถได้ประมาณ 20 คัน (โดนรถ Shuttle Service ของโครงการจองไปแล้ว 1 คัน) โดยถ้าเทียบกับราคาระดับ 60,000-70,000 บาทต่อตารางเมตรแล้ว ถือว่าน้อยไปครับ และด้วยทำเลของโครงการที่อยู่ห่างจาก BTS แบริ่งถึง 850 เมตร ก็น่าจะทำให้มีคนใช้รถส่วนตัวอยู่พอสมควร ที่จอดรถเท่านี้อาจจะไม่พอได้นะครับ
Facilities อื่นๆได้แก่ Lobby ชั้นล่างที่อยู่ติดกับลิฟท์, สำนักงานนิติบุคคล, ห้องช่าง และ ห้องฟิตเนสครับ ซึ่งห้องฟิตเนสขนาดเล็กมาก วางเครื่องเล่นได้ 2-3 ชิ้นเต็มที่ ถัดจากฟิตเนสเป็นห้องล็อคเกอร์ ก่อนที่จะถึงสระว่ายน้ำที่เป็นระบบเกลือ สระว่ายน้ำที่นี่อาจจะต้องเรียกว่าสระแช่น้ำเสียมากกว่า เพราะมีขนาดเล็กและถูกจำกัดด้วยขนาดที่ดิน แต่ด้วยความที่โครงการอยากให้ใช้ออกกำลังกายได้ด้วย เขาจึงติดระบบ Swim Jet เข้าไปด้วย ซึ่งเป็นระบบสร้างกระแสน้ำ ทำให้เราสามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้ โดยอาศัยการว่ายทวนน้ำครับ ซึ่งใช้ออกกำลังกายได้จริง แม้ว่าสระจะเล็ก (ใครนึกภาพไม่ออก ลองหาดูใน YouTube ได้ครับ) ซึ่งระบบ Swim Jet นี้ก็จะใช้ประโยชน์เหมือน Jacuzzi ได้ด้วย
สุดท้ายคือเรื่องลิฟท์ ซึ่งที่นี่มีลิฟท์อยู่ 1 ตัวครับ อัตราส่วนลิฟท์ 70:1 ก็ถือว่าทำได้ดี แต่จะมีประเด็นเวลาที่ถ้าเกิดการซ่อมบำรุงลิฟท์ หรือ ลิฟท์เสีย หรือใช้ขนของขึ้นมา การที่มีลิฟท์ตัวเดียวก็อาจจะมีปัญหาได้นะครับ แต่ก็ไม่ใช่อะไรที่จะเกิดขึ้นทุกวันหรอก
จบเรื่อง Facilites ไปแล้ว ขึ้นมาดูการออกแบบส่วนพักอาศัยกันบ้าง ตึกนี้เป็นยูนิตพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 2-8 นะครับ มียูนิตทั้งหมด 70 ยูนิต ความหนาแน่นต่อชั้นอยู่ที่ประมาณ 10 ยูนิตต่อชั้น โถงทางเดินออกแบบมาเป็นแนวยาวตลอดตัวตึก มีหน้าต่างช่องแสงอยู่ปลายด้านทิศตะวันออก และบันไดขึ้นลงทั้งสองด้านของ Corridor
แต่ละชั้นจะมีห้องติดลิฟท์อยู่ 2 ห้องนะครับ คือ x08 และ x09 ซึ่งห้อง x09 ก็โดนยัดลิฟท์เข้าไปทั้งอันเลย ห้องขยะไม่แน่ใจว่าอยู่ตรงไหน แต่ดูจาก Floor Plan ห้องขยะน่าจะถูกวางไว้ในโถงบันไดฝั่งใดฝั่งหนึ่งนะครับ
ขึ้้นมาชั้น 7 ห้องทิศเหนือจะได้เป็นระเบียงยาวครับ แต่พื้นที่ห้องก็จะลดลงไปหน่อย สำหรับคนชอบระเบียงกว้างๆ
สุดท้ายชั้น 8 ก็จะย่นระยะระเบียงเข้ามาอีกเป็นเหมือน Step ขึ้นมาจากชั้น 7 ครับ ตรงนี้ก็จะมีห้อง x10 กับ x09 ที่ถูก combined รวมเป็นห้องเดียวกันไปด้วยพื้นที่ที่ร่นลงมา
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ พร้อมระบบ Swim Jet
- ห้องออกกำลังกาย
- ลิฟท์โดยสาร 1 ตัว อัตราส่วน 70:1
- ที่จอดรถ 30% รวมจอดซ้อนคัน
- Shuttle Service
- ระบบ CCTV / Access Card
Product Walkthrough
***สำหรับห้องของ The Knight นั้น ใช้ห้องตัวอย่างเดียวกันกับโครงการ Knightsbridge ครับ ดังนั้น ทางทีมงานขออนุญาตนำบทวิเคราะห์ของ Mr.Oe ที่เคยวิเคราะห์เอาไว้ตอนไปรีวิวโครงการ Knightsbridge มาให้อ่านกันตรงนี้นะครับ***
ห้องตัวอย่างที่มีให้ดูเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม. จัดเฟอร์ออกมาลงตัวใช้ได้ครับ บอกก่อนว่าห้องนี้ขายแบบ Fully-Fitted ให้เฟอร์ Built-in ทั้งหมดที่เห็นไม่รวมเฟอร์ลอยตัว ส่วนวัสดุอุปกรณ์ก็จะให้คล้ายๆกับโครงการรุ่นพี่อย่าง Knightsbridge ครับ แต่ทางที่ดีก็อย่าลืมเช็คกับทางโครงการให้ดีก่อนซื้อนะครับ
ห้อง Living Room มีครัวแยกไปเลย ไม่ต้องกลัวกลิ่นและแมลง ระยะโซฟากับทีวีพอจะจัดทีวี 40 นิ้วได้ โต๊ะทำงานวางหน้าห้องน้ำตรงนั้น จะปรับมาวางอีกแนวก็ได้ หรือจะ Built เป็นตู้เก็บของก็ได้ สำหรับคนที่ไม่อยากนั่งทำงานหน้าห้องน้ำ ห้องครัวอยู่ติดระเบียงดีแล้ว ระบายอากาศดี ระยะยืนทำครัวเมื่อวาง Pantryแล้ว เหลือ 80 ซม. ไปยืนเบียดกันสองคนขณะทำอาหารจะอึดอัดหน่อยนะครับ ปล่อยให้แฟนเป็นคนลวกมาม่าอ่ะดีแล้ว
เริ่มจากพื้นห้อง ยกระดับจากโถงทางเดินเล็กน้อย ที่พิเศษหน่อยโปรดสังเกตธรณีประตูที่เป็นตัวจบลามิเนตของพื้นห้องไปในตัว เป็นอลูมิเนียมลบมุมนะครับจะได้ไม่สะดุด
งานวงกบประตู ทำให้แบบนี้ครับ
เปิดประตูมาเจอห้องนั่งเล่นหน้าตาแบบนี้ ห้องนี้หน้ากว้างประมาณ 4.3 เมตร เวลาเปิดประตูห้องนอนแล้วจะมีแสงเข้ามาถึงตัวห้องนั่งเล่นอยู่พอประมาณ
พื้นลามิเนตหนา 8 มม.
ใครชอบนอนดูทีวีที่โซฟา จะใส่โซฟาตัว L ก็ได้ พอวางได้อยู่ แต่ต้องเลือกขนาดโซฟาดีๆ ดูระยะทางเดินด้วยนะครับ
ให้ไฟเป็นดาวน์ไลท์แบบนี้ครับ
ตู้วางของและทีวี Built-in มาให้แบบนี้เลย
เปิดให้ดูสาวๆกรี๊ด แต่คุณผู้ชายเฉยๆ เพราะที่ใส่รองเท้าเยอะดี แต่แค่นี้ก็ไม่พอหรอกนะ
โซฟาและโต๊ะกลาง ชุดนี้ไม่แถม
ชุดโต๊ะทานข้าว เป็นโลหะนะครับ ไม่ใช่พลาสติก อันนี้ก็ไม่แถมเหมือนกัน
ห้องครัวมีประตูกั้นเป็นสัดส่วน ถัดจากห้องครัวเป็นระเบียงเล็ก
ภายในห้องครัว วางตู้เย็นกับ Pantry และตู้แขวน มี เตา ที่ดูดควันครบ
หน้าตา Pantry ชัดๆ
ชั้นวางของด้านบน
เตาสองหัวของ HAFELE
ที่ดูดควันของ HAFELE เช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้ดูดออกไปนอกอาคารนะครับ แต่ยังดีที่ครัวอยู่ติดกับระเบียงระบายอากาศได้ง่าย
อ่างล้างจานของ HAFELE ขนาดไม่ใหญ่เท่าไหร่ พอใช้งานเล็กๆน้อยๆ
หัวก็อกอ่างล้างจาน
ไมโครเวฟ วางต่ำ ผมชอบมากกว่าวางสูง แต่ดีที่สุดคือวางระดับโต๊ะจะหยิบง่ายกว่า
ดึงถาดวางของออกมาจาก Pantry ได้
ระเบียง มีธรณีกั้นสูงเชียว จะเห็นว่าพอวางเครื่องซักผ้าที่พื้นแล้ว เหลือพื้นที่พอตากผ้านิดเดียว ติดราวแขวนพับเก็บได้ดีที่สุด
คอมแอร์แขวนด้านขวา เปิดโล่งๆเลย ไม่มีกริลบัง
ถัดมาหน้าห้องน้ำ ตรงนี้ Built โต๊ะทำงานเล็กๆ ที่แอบมาวางแทรกอยู่ตรงพื้นที่ระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำ ส่วนเก้าอี้ไม่แน่ใจว่าแถมหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นตัวนี้มันจะไม่มีพนักพิง นั่งทำงานนานๆไม่ได้หรอกครับ
ให้ดูอีกมุมนึงบ้าง ตรงนี้จะเห็นห้องนอน
พื้นที่ขนาดนี้ทำงานจริงจังคงจะลำบาก เต็มที่อาจจะวางคอมโน้ตบุคสักเครื่อง หรือจะใช้เป็นโต๊ะอเนกประสงค์ ที่นั่งแต่งตัวก็ได้ หากระจกมาติดหน่อย
เข้าไปดูห้องน้ำกันต่อ
ทางเข้าห้องน้ำไม่มีธรณีก่อ เป็นพื้นลดระดับ ธรณีหินสังเคราะห์
อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ของ Cotto มีก่อ Counter วางของเล็กๆแต่ยาวตลอดแนวส่วนแห้ง Counter Top เป็นแกรนิตดำ
หน้าตาก็อกดูธรรมดาไปนิดนะ ของ Cotto เหมือนกัน
ด้านล่างเป็นช่องเก็บ supply ในห้องน้ำ
ติดกระจกเงามาให้บานเล็กๆ
พื้นกระเบื้อง 60×60 ผนังกระเบื้อง 30×60
โถสุขภัณฑ์ของ Cotto สังเกตลายกระเบื้องด้านหลังด้วย ที่จะเป็นตารางๆ
สายฉีดชำระ
ฉากกั้นอาบน้ำติดกระจก Tempered Glass มาให้ ซึ่งเราสามารถขอให้ทางโครงการติดเป็นแบบเต็มบาน มีบานปิดให้ก็ทำได้ ซึ่งก็แนะนำให้ทำนะครับ จะได้แยกส่วนเปียกส่วนแห้งกันไปชัดเจน
พื้นส่วนอาบน้ำไม่ได้ลดระดับ และไม่ได้ก่อธรณีปูน แต่กั้นด้วยหินสังเคราะห์ ซึ่งตรงนี้ต้องระวังสะดุดด้วย
หัวก็อกฝักบัว
ฝักบัวอาบน้ำแบบ Hand Shower
ราวแขวนผ้าเช็ดตัว
สุดท้าย ห้องนอน
วางเตียง 5 ฟุตเอาไว้ พื้นที่ค่อนข้างแน่นละ
ฝั่งขวาของเตียง มีพื้นที่ยาวแคบ หาโต๊ะยาวๆมาวางได้ แต่ต้องระวังไม่ให้เกะกะประตู หรือจะ built ตู้เลยก็ยังได้
ฝั่งซ้ายก็วางโต๊ะเล็กๆได้
ปลายเตียงโล่งๆ ยังไม่เอาทีวีมาแขวนให้ดู แต่แบบนี้แขวนทีวีก็จะไม่ได้เซ็นเตอร์นะครับ ต้องดูเอียงๆ
หน้าต่าง มีบานกระทุ้งเปิดออกได้สองด้าน
ผนังอีกด้าน วางตู้เสื้อผ้าขนาดประมาณ 120 cm ที่ built มาให้
มือจับบานเปิดตู้เสื้อผ้า
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 24/04/2013
- Fully Fitted: ครัว/แอร์ 2 ตัว/ตู้วางทีวี/ตู้เสื้อผ้า/ฉากกั้นอาบน้ำ/เตา/ที่ดูดควัน/โต๊ะทำงาน
- จอง 10,000 บาท
- ทำสัญญา 50,000 บาท
- ค่ากองทุน 380 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 38 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
เจาะลึกรวบยอด
ทำเลของ The Knight อยู่ในจุดที่เหมาะสมในการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว เดินทางสะดวกในโซนสุขุมวิท-ศรีนครินทร์-บางนา-สมุทรปราการ นอกจากนี้ยังมีทางด่วนบางนาให้ใช้วิ่งเข้าเมืองได้ หรือจะวิ่งขาออกไปมอเตอร์เวย์ก็ได้ รวมไปถึงถนนวงแหวนรอบนอก ที่มีทางขึ้นอยู่ไม่ไกลมากจากโครงการ แต่ว่าที่จอดรถของโครงการนี้มีเพียง 30% เท่านั้น ด้วยทำเล และระดับราคานี้ ถือว่าน้อยไป และอาจจะมีปัญหาเนื่องจากที่จอดรถไม่พอได้
ทั้งนี้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้านั้นก็ทำได้เช่นกัน แต่แน่นอนว่าคงไม่ได้สะดวกเท่ากับโครงการที่อยู่ติดรถไฟฟ้า เนื่องจากระยะห่างจากสถานี BTS แบริ่งอยู่ที่ประมาณ 850 เมตร เลยระยะที่คนทั่วไปจะเดินเท้ากันแล้ว แต่โครงการก็มี Shuttle Service คอยให้บริการรับส่งลูกบ้านด้วย ซึ่งก็จะช่วยได้เยอะ ถ้าใครที่จะเดินแนะนำให้ลองไปสำรวจพื้นที่ด้วยตัวเองทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อให้แน่ใจว่าเดินไหวนะครับ
สภาพแวดล้อมและความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ ความคึกคักของชุมชนไม่น่าเป็นห่วง มีเซเว่นอยู่ปากซอยห่างจากโครงการแค่ 100 เมตร คงจะช่วยได้เยอะพอสมควร อีกทั้งซอยแบริ่งเป็นซอยที่มีรถยนต์สัญจรไปมาตลอดเวลาอยู่แล้ว เพราะเป็นซอยใหญ่ที่เชื่อมสุขุมวิทกับศรีนครินทร์เข้าด้วยกัน ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
การออกแบบโครงการ มีความหนาแน่นของห้องอยู่ที่ 10 ยูนิตต่อชั้น ซึ่งก็ไม่มากเกินไป แต่ก็มีจุดที่น่าเป็นห่วงอยู่บ้าง เช่น ลิฟท์ที่มีตัวเดียว อัตราส่วนลิฟท์อยู่ที่ 70:1 ซึ่งก็ถือว่าดี แต่มีข้อควรระวังตรงที่ถ้าเกิดลิฟท์ตัวนี้เสียขึ้นมาหรือเกิดมีการขนของ ยกของ ซ่อมบำรุงลิฟท์ ซึ่งไม่ใช่เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นบ่อย คงต้องเห็นลูกบ้านออกกำลังกายเดินขึ้นลงบันไดกันทั้งโครงการ เป็นอีกจุดหนึ่งที่อาจจะมีปัญหาได้
การออกแบบห้อง ด้วยขนาดที่ดิน 160 ตารางวา นำมาสร้างอาคาร 8 ชั้น ทำให้การจัดวาง Floor Plan ได้ห้องส่วนใหญ่เป็นห้องขนาดเล็ก หน้าแคบ และในแต่ละชั้นก็จะมีห้องที่มี Layout แปลกๆมาให้เห็นด้วย เช่นห้องติดลิฟท์ ห้องติดโถงบันได ทำให้การจัดวางเฟอร์ในห้องพวกนี้อาจจะไม่ลงตัว เท่ากับห้องที่ออกแบบมาเหมือนห้องตัวอย่าง ก็แนะนำให้ไปเลือกห้องที่ออกแบบได้มาตรฐานก่อน เพราะห้องพวกนี้จัดออกมาได้ค่อนข้างลงตัว ได้ฟังก์ชั่นค่อนข้างครบ มีครัวแยกส่วน มีระเบียงที่ใช้งานได้
วัสดุอุปกรณ์ที่จัดให้ในห้อง ให้แบบ Fully Fitted คือมี ครัว, แอร์ 2 ตัว, ตู้วางทีวี, ตู้เสื้อผ้า, ฉากกั้นอาบน้ำ, เตา, ที่ดูดควัน,โต๊ะทำงาน ห้องน้ำใช้ของ Cotto, พื้นเป็นลามิเนต, ครัว Hafele ให้เหมือน Knightsbridge แบบก๊อบปี้กันมาเลย ก็นับว่าให้มาได้สมราคา ไม่แพ้รุ่นพี่อย่าง Knightsbridge หรือ คอนโดในระดับราคาเดียวกัน
ทางด้านสิ่งอำนวยความสะดวก ถูกย่อส่วนตามขนาดที่ดิน หลายๆจุดเลยจะดูเล็กไปหน่อย เช่น ห้องฟิตเนส, ห้องล็อคเกอร์ หรือ ล็อบบี้ ส่วนสระว่ายน้ำก็เล็ก แต่ยังดีที่มีระบบ Swim Jet มาให้ ทำให้ใช้ออกกำลังกายพอได้ (ด้วยการว่ายทวนน้ำ) แต่ก็คงจะไม่ได้ความรู้สึกเหมือนสระว่ายน้ำใหญ่ๆแน่นอน
โครงการ The Knight เป็นโครงการที่พยายามจะเจริญรอยตามโครงการรุ่นพี่ที่เป็นตึกสูงอย่าง Knightsbridge ครับ แต่ก็ต้องบอกตรงๆว่าเป็นไปไม่ได้ ด้วยทั้งขนาดที่ดินและสภาพทางกายภาพที่ไม่เอื้ออำนวย ยกเว้นแต่พื้นที่และวัสดุภายในห้องพักที่ทำออกมาได้ใกล้เคียง เนื้อโครงการเองมีหลายๆจุดที่ยังทำได้ไม่ดีเท่ามาตรฐานที่ Knightsbridge เคยวางเอาไว้ อย่างไรก็ดี The Knight ก็ถือเป็นอีกโครงการที่น่านำมาพิจารณาสำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโด Low Rise ที่เน้นความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ในราคาล้านกลางถึงสองล้าน บนทำเลสุขุมวิท-แบริ่ง ครับ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 70,000 บาทต่อตารางเมตร, 24/04/2013
- ทำเล 8/10 – แบริ่ง อยู่ในเส้นรถไฟฟ้า
- เดินทางด้วยรถ 7/10 – เดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วน ออกบางนา-ตราดง่าย แต่ที่จอดรถมีน้อยไปหน่อย
- ไม่ใช้รถ 8/10 – เดิน 850 เมตรจากรถไฟฟ้า และมี Shuttle Bus ให้
- วัสดุ 8.5/10 – ทำได้ดีเทียบกับราคา
- แบบ 7/10 – ห้องส่วนใหญ่ทำได้มาตรฐาน ห้องแปลกๆต้องคิดนานหน่อย
- สาธารณูปโภค 6/10 – ลิฟท์ตัวเดียว สระว่ายน้ำ ฟิตเนส มีให้ครบแต่ขนาดเล็ก
- MAIN CLASS
- 7.63 / 10.00
BOTTOM LINE
The Knight I เหมาะสำหรับคนที่ทำงานในโซนสุขุมวิท-แบริ่ง-สมุทรปราการ หรือคนพื้นที่ในย่านนี้ ที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่ใช้รถยนต์สะดวก และใช้รถไฟฟ้าได้บ้าง ในงบประมาณล้านปลายๆ ถึงสองล้านต้นๆ
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ