รีวิวฉบับที่ 717 … Mr.Oe ขอพามาดูโครงการที่มีความแปลกและน่าศึกษานะครับ โครงการ The Hudson Sathorn 7 ของ BP Property เป็นโครงการคอนโด 12 ชั้น บนพื้นที่ 1 ไร่กว่า ที่ทำออกมาแค่ 49 ห้อง และเป็นการทำโครงการให้เสร็จเรียบร้อยแล้วถึงจะเปิดขาย ตัวโครงการค่อนข้างเน้น Privacy และมีห้องขนาดใหญ่เป็นหลัก รูปแบบออกจะสวนกระแสกับ Trend โครงการยุคนี้ที่เน้น Unit เยอะและห้องเล็กลงเป็นอย่างมาก… เดี๋ยวผมจะพาไปดูของจริง แล้วค่อยๆเรียนรู้ไปด้วยกันครับ 🙂
Fact @ November 10, 2014
- The Hudson Sathorn 7 (เดอะ ฮัดสัน)
- Developer : B.P. Property
- HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : สาทร
- คอนโด MID Rise 12 ชั้น 1 อาคาร 49 ยูนิต
- ที่จอดรถในช่องจอด (ไม่รวมที่จอด fixed) 74 คันคิดเป็น 150% จอดแบบซ้อนคัน 95 คัน หรือ 194%
- ที่ดินประมาณ 1-1-24 ไร่ (524 ตารางวา)
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : โครงการสร้างเสร็จก่อนขาย และพร้อมโอนแล้ว
- 1 Bedroom 55 – 62 ตารางเมตร
- 2 Bedrooms 75 – 148 ตารางเมตร
- 3 Bedrooms 142 – 197 ตารางเมตร
- Penthouse 200 – 318 ตารางเมตร
- ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
- ราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร (แบบ fully Fitted) ประมาณ 130,000 บาท
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : โครงการสร้างเสร็จแล้ว
- www.thehudsonsathorn.com
- Contact : 092-275-5509
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : 13.721326,100.533622
แผนที่จากทางโครงการครับ ไม่มีอะไรมาก โครงการอยู่ในซอยสาทร 7 ปากซอยมีจุดสังเกตคือ เป็นที่ตั้งของสถานทูตสิคโปร์นะครับ สาทรซอย7 จะอยู่ก่อนถึงแยกสาทรตัดนราธิวาสราชนครินทร์นิดเดียว โดยตัวตึกจะอยู่ด้านหลัง The Met นะครับ … ทำเลนี้เรียกว่าอยู่ใจกลางเมืองย่านสาทรที่เต็มไปด้วย office building และพอจะเดินไปรถไฟฟ้าได้โดยระยะทางเดินไปถึงตัวสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรีคือ 650 เมตร ไกลเกินระยะเดินสะดวก แต่พอเดินได้สำหรับคนไทย และเดินสบายๆสำหรับคนต่างชาติครับ
ตำแหน่งที่ตั้งของโครงการ เมื่อดูจากแผนที่ Google นะครับ การเดินทางค่อนข้างสะดวก เพราะมีทางให้เลือกเยอะอยู่ และยังเป็นสาทรต้นๆ ที่แม้รถติด ก็มีระยะติดไม่มาก มีจุดยูเทิร์นเยอะ เลี่ยงออกนราธิวาสก็ได้ และอยู่ไม่ไกลจากทางด่วนนัก… โครงการนี้แม้จะเหมาะมากกับคนใช้รถ เพราะเมื่อรวมที่จอดทั้งหมด ทั้งแบบ fixed และซ้อนคัน จะได้ที่จอดราว 200% พอดี ก็ยังพอที่จะใช้รถไฟฟ้าได้ เพราะระยะเดินไปรถไฟฟ้าพอเดินไหวที่ 650 เมตรแบบถึงตัวสถานีครับ
ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยสาทร 7 ซึ่งเวลาเราขับรถมา ให้สังเกต The Met และสถานทูตสิงคโปร์ซึ่งอยู่ปากซอยพอดี ระยะทางจากปากซอยเข้ามาถึงตัวโครงการคือ 220 เมตรนะครับ ซอยนี้เป็นซอยตัน จึงไม่มีความพลุกพล่าน คนเข้าออกดูแลง่ายมาก มีบ้านด้านในไม่กี่หลัง รปภ จำรถได้หมดแหละ .. ซอยลักษณะนี้ จะค่อนข้าง Private มาก
ตัวโครงการยังอยู่ในระยะใช้รถไฟฟ้าได้นะครับ ผมลากเส้นวัดระยะให้ดูแบบไปถึงจุดที่เรียกว่าตัวสถานีจริงๆคือระยะ 650 เมตร เดินง่ายและปลอดภัย แต่มันก็ไกลเกินระยะเดินสบาย (4-500 เมตร) แต่สำหรับคนต่างชาติหรือคนขยันเดิน ระยะทางแค่นี้ถือว่าไม่ลำบากครับ
ความอุดมสมบูรณ์รายรอบโครงการ ถือว่าเยอะ เพราะแทบทุกตึกที่อยู่แถวนี้ เป็น Commercial Building ที่มีร้านค้าและศูนย์อาหารในตึกทั้งนั้น แถมในตอนกลางวัน ก็จะมีพ่อค้าแม่ค้าตั้งแผงขายอาหารแถวในซอย และบริเวณอาคารสำนักงานอีกเยอะแยะ … ส่วนถ้าขับรถไปได้ ในระยะใกล้ๆ ก็ไปชิดลม ราชประสงค์ ซึ่งเป็นย่าน Shopping ที่เป็น Center ของเมืองกรุงได้สบาย
สภาพแวดล้อมรายรอบตึก ค่อนข้างจะสงบๆนะครับ ในซอยนี้มีแต่บ้านหลังใหญ่ๆ แต่จะมีทิศตะวันตกเฉียงเหนือซึ่งเป็นทางด้านใกล้ถนนสาทร จะเต็มไปด้วยตึกสูงอยู่แล้ว อย่าง The Hudson นี่เจอตึก The Met ไปเต็มๆทำให้ตัวโครงการในด้านตะวันตกเฉียงเหนือนี้ โดน Block วิวไปโดยปริยาย แต่ด้านอื่นๆ ก็โล่งๆเลยครับ… แต่ผมเชื่อว่าคนที่ซื้อโครงการลักษณะนี้ จะไม่ได้สนใจวิวสักเท่าไร เดี๋ยวค่อยๆอ่านไปจะเข้าใจเอง
เดี๋ยวผมจะพาไปดูการเดินทางและทำเลของจริงนะครับ โดยเดินทางมาตามเส้นทางสีแดงที่ลากให้ดู คือเริ่มจากทางลงทางด่วนตรงพระราม4 เลี้ยวเข้าถนนพระราม4 มุ่งหน้าสะพานไทยเบลเยี่ยม ก่อนจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาทร วิ่งตรงไปจนถึงสาทรซอย 7 แล้วเลี้ยวเข้าซอยไปจนสุดซอยเลี้ยวซ้ายอีกทีก็ถึงแล้วครับ … ระยะทางรวมนับจากลงทางด่วนถึงโครงการคือ 2.5 กิโลเมตร
บนทางด่วนนะครับ ผมมาจากดินแดง มุ่งหน้าพระราม4 ครับ
ตรงทางออกพระราม4 ให้ชิดขวา เพราะเราจะเลี้ยวขวาน่ะสินะ จะไปชิดซ้ายมันจะอินดี้ไปหน่อย
เลี้ยวขวาตามๆเค้าไปครับ แยกนี้พอไฟเขียวเลี้ยวขวา ก็อย่าเพิ่งออกตัวแรงนะครับ เพราะบางทีวิ่งไปไม่กี่เมตร ก็หยุดแล้ว เวลามีรถติดสะสมพระราม4 โดยเฉพาะตอนเช้า
บนถนนพระราม4 มุ่งหน้าสาทร เราวิ่งตรงไปครับ
ก่อนถึงสะพานข้ามแยก (สะพานไทยเบลเยี่ยม) ให้ชิดซ้ายนะครับ เพราะเราจะเลี้ยวซ้ายเข้าสาทร
เลี้ยวซ้ายตรงนี้ ก็เข้าสาทรแล้วครับ จากจุดนี้ วิ่งตรงไป 1.3 กิโลเมตร จะถึงปากซอย สาทร 7 … มัวรออะไรอยู่ เลื่อนดูรูปถัดไปซีฮะ แหม่
บนถนนสาทรตอนบ่ายวันจันทร์ที่ 10 ถนนโล่งงงง เพราะธรรมชาติของสาทรคือเป็นถนนที่เต็มไปด้วยอาคารสำนักงาน ถนนสาทรจะมีจราจรคั่บคั่งตอนเช้าก่อนเข้างาน และเย็นหลังเลิกงาน ในวันธรรมดา … ส่วนวันเสาร์อาทิตย์โล่งครับ
ขับตรงไปเรื่อยๆ มุ่งหน้าแยกนราธิวาสครับ
พอเจอสถานทูตสิงคโปร์แปลว่าใกล้ถึงปากซอยล่า… ชะลอรถชิดซ้ายเตรียมดริฟเข้าซอยได้เลยครับ
ปากซอย สาทร 7 ครับ
พอเลี้ยวเข้ามา จะวิ่งเลียบแนวกำแพงสถานทูตสิงคโปร์ที่เห็นทางซ้ายมือนี่ ถนนไม่กว้าง แต่รถสวนกันสบาย เพราะไม่มีใครมาจอดรถเกะกะริมถนนนี้ได้แน่นอน
นั่น… พูดไม่ทันขาดคำ ขับเลยกำแพงสถานทูตมาสิบเมตร ก็มีรถจอดแระ… จะมีแบบนี้ประปรายนะครับ เพราะขวามือคืออาคารสำนักงาน และถ้ามีรถจอดแบบนี้ รถจะสวนกันลำบากหน่อย ต้องเอื้อเฟื้อกันดีๆ
เราขับตรงมาจนสุดซอย จะเป็นสามแยกครับ ให้เราเลี้ยวซ้าย
เลี้ยวซ้ายแล้วก็ตรงไปครับ อีกไม่กี่เมตรก็ถึงแล้ว
ในซอยแยกนี้ จะมีแต่บ้านพักอาศัยครับ เป็นบ้านหลังใหญ่บ้าง อาคารเตี้ยๆบาง ซึ่งเป็น residence ทั้งนั้น ซอยนี้ตันและค่อนข้างสงบๆครับ
ถึงแล้วครับ หน้าโครงการ เราเลี้ยวซ้ายเข้าไปกันเลยครับ
เจาะลึกตัวโครงการ
ก่อนจะเข้าไปพูดถึงรายละเอียดอื่นๆ ขอพูดคุยเรื่องแปลกหน่อยนะครับ อันเนื่องมาจากว่าตัวโครงการสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วถึงเอามาเปิดขาย ถือว่าแปลกมากสำหรับมาตรฐานการขายคอนโดในปัจจุบันที่เน้นเปิดขายก่อนแล้วค่อยสร้าง…การสร้างเสร็จก่อนแล้วถึงจะขาย ไม่ใช่ไม่ดีนะครับ อันนี้ดี ดีมากๆ เพราะผู้บริโภคได้เปรียบเป็นอย่างยิ่ง ได้ดูได้สัมผัสของจริง ได้เห็นห้องจริงทำเลจริง และดูเนื้องานได้ด้วยว่าเนี้ยบไหม วัสดุโอเคไหม ซึ่งเรื่องแบบนี้มันเสี่ยงสำหรับคนทำโครงการที่ต้องออกตังค์สร้างทุกอย่างให้เสร็จก่อน หากคุมงานเบามือเกินไปแล้วงานออกมาห่วยไม่เนี้ยบคนเขาเห็นงานไม่ดีก็จบกัน… Developer สมัยนี้ ถ้าเลือกได้เขาเลยขอเปิดขายก่อนกันทั้งนั้นแหละครับ
การที่โครงการนี้ สร้างเสร็จก่อนขายนั้น เหตุผลหนึ่งซึ่งหลายคนที่คุ้นเคยทำเลนี้ก็คงพอทราบกันอยู่แล้วครับ นั่นคือโครงการไม่ได้เริ่มสร้างตึกจาก ศูนย์ หากแต่เป็นการใช้โครงสร้างของอาคารเดิม (ไม่ใช่อาคารร้างนะครับ อาคารดีๆนี่แหละ พี่แกรื้อเหลือแต่โครงสร้าง ปรับแก้ และพัฒนาเป็นคอนโด) นี่เป็นสาเหตุที่ตึกมีความสูง 12 ชั้นก้ำกึ่งระหว่าง Low Rise – High Rise เพราะเป็นความสูงดั้งเดิมของตึกนี้ครับ…ส่วนในแง่โครงสร้างไม่ต้องไปห่วงเขาครับ มาตรฐานการตรวจสอบอาคารในเขตเมืองแบบนี้คุมกันหลายชั้น ในแง่การออกแบบทั้งห้องและพื้นที่ทั้งอาคารถูกรื้อทำใหม่ทั้งหมดไม่เหลือเค้าโครงและวัสดุเดิมเลย
เดี๋ยวเราดู Floor Plan กันให้เข้าใจ แล้วผมจะพาไปดูของจริงครับ
ชั้น G ไม่มีอะไรมากครับ เป็นชั้นจอดรถ มีสวนเล็กๆด้านหน้านิดหน่อย พื้นที่ส่วนใหญ่คือที่จอดรถ โดยมีจุดวนขึ้นลงชั้นใต้ดินด้านใน และมีลิฟท์ 2 ตัวที่ขึ้นด้านบนจากชั้นจอดรถได้เลย
ชั้นใต้ดิน เป็นที่จอดรถล้วนๆนะครับ จะไม่มีลิฟท์ ถ้าจะขึ้นข้างบน ต้องเดินขึ้นทางบันไดครับ
ชั้น 2 ประกอบด้วย Lobby ขนาดใหญ่ ห้องอ่านหนังสือ ห้องประชุม Counter รับแขก และสำนักงานนิติบุคคล ทางด้านขวาจะเห็นว่ามีห้อง Locker+Sauna แยกชายหญิง นั่นจะมีทางขึ้นลงแยกต่างหากซึ่งขึ้นลงจากส่วน Facility ชั้น 3 เท่านั้น … ชั้นนี้มีห้องพักอาศัย 1 ห้องครับ เป็นห้องใหญ่ขนาด 200 ตารางเมตร
ชั้น 3 จะมี Facility พวก สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 7×10 เมตรโดยประมาณ เป็นสระระบบเกลือ มีโซนสระเด็ก และ Deck สำหรับนั่งๆนอนๆเล่นริมสระ พร้อมพื้นที่นั่งเล่นอีกนิดหน่อย, Fitness จะเป็นห้องติดแอร์สีเทาๆมุมขวาล่างของภาพ และมีห้องเกมส์ติดกับห้อง fitness ซึ่งเขาเอาโต๊ะพูลมาวางไว้ให้ 1 ตัว
ชั้นนี้จะมีห้องพักอาศัย 5 ห้อง เป็นห้องใหญ่ๆทั้งนั้น มี 1 Bedroom 55.58 ตารางเมตรโผล่มาห้องเดียว ห้องชั้นนี้จะได้ใช้ facility แบบสะดวกกว่าใครเขา เพราะเปิดประตูมาก็โดดลงสระหรือเดินเข้า fitness ง่ายๆไม่ต้องขึ้นลงลิฟท์ ซึ่งโครงการลักษณะนี้ รับรองได้เลยว่าไม่ค่อยมีใครใช้หรอกสระกะฟิตเนสน่ะ เพื่อนบ้านมีแค่ 49 ห้องอยู่จริงไม่ถึงอยู่แล้ว
ชั้น 4 จะเป็นชั้นพักอาศัยเพียวๆละ ชั้น 4 ถือว่า unit ต่อชั้นเยอะสุด ยังเพิ่งจะมีแค่ 8 ห้อง การจัดห้อง จะมีพื้นที่เปิด เป็น Single Corridor ตรงกลาง (Single Corridor ไม่ได้แปลว่าทางเดินคนโสดนะ … แต่เป็นทางเดินหน้าห้องที่มีห้องอยู่ด้านเดียว เปิดประตูมาไม่เจอห้องตรงข้าม มันจะโล่งดีกว่า) ห้องทางฝั่งด้านบนคือ 403-407 จะโดน Block วิวโดย The Met ห้องทางฝั่งด้านล่าง คือ 401-402-408 จะได้วิวที่เปิดโล่งกว่า
ชั้น 5 ก็คล้ายชั้น 4 นะครับ เพียงแต่ยุบห้อง ที่ตำแหน่ง 401-402 รวมเป็นห้อง 501 ห้องใหญ่ห้องเดียว ทำให้ทั้งชั้น เหลือห้องแค่ 7 ห้องครับ
ชั้น 6-7-8 จะเหมือนกันนะครับ ห้องลดลงมาเหลือแค่ 6 ห้องต่อชั้น และมีห้อง 3 Bedroom 171 ตารางเมตร (606) โผล่ขึ้นมา ห้องนี้ เป็นห้องที่ได้วิวทั้งสองฝั่งของอาคารนะครับ
ชั้น 9 เหลือห้องแค่ 4 ห้อง และกลายเป็น single corridor ทั้งหมด ค่อนข้างจะเป็นห้องใหญ่ทั้งสิ้น (ห้องที่เล็กที่สุดของชั้นนี้คือ 88 ตารางเมตร 🙂
ชั้น 10 หดเหลือ 3 ห้องครับ และชั้นนี้จะมีห้อง Penthouse 225 ตารางเมตร เป็นห้อง Penthouse ที่เล็กที่สุดของโครงการ (แต่ก็ถือว่าใหญ่นะสำหรับโครงการทั่วไป)
ชั้น 11 ห้องหดเหลือแค่ 2 ห้อง โดยมีห้อง Penthouse ขนาดใหญ่สุด 317 ตารางเมตร
ชั้น 12 เป็นชั้นบนสุดที่เหลือห้องแค่ ห้องเดียวนะ เป็นห้อง Penthouse ขนาด 280 ตารางเมตร exclusive มาก เพราะทั้งชั้นมีแค่ห้องเดียวนี่แหละ
เดี๋ยวผมพาทัวร์ดูของจริงกันครับ 🙂
ทางเข้าโครงการ
แนวรั้วโครงการจะเป็นรั้วโปร่งครับ และมีปลูกต้นไม้บังตาตลอดแนวรั้ว
ป้อม รปภ ด้านหน้าโครงการ มีรปภดูแล 24 ชม.
จุดรถผ่านเข้าออก จะมีรั้วกั้นไม้กระดก CCTV และที่แปะบัตรนะครับ
ที่จอดรถชั้น G จะมี Lift 2 ตัวที่พาขึ้นอาคารได้
ทางขึ้นลงจอดรถชั้นใต้ดิน จะวนแยกกัน
ที่จอดรถชั้น B ค่อนข้างสว่าง เพราะยังมีช่องแสงธรรมชาติด้านนึงครับ
ทางเดินขึ้นชั้น 2 ซึ่งเป็นส่วน Lobby และ Reception
ทางเดินขึ้น จะ decorate ด้วยกระถางต้นไม้ และหลังคาด้านบนเป็นหลังคาโปร่งครับ
ปฏิมากรรมก่อนเข้า Lobby
โถงด้านหน้า ก่อนถึงประตูเข้า Lobby
ภายในส่วน Lobby
ส่วน Reception ที่ปัจจุบันใช้เป็นสำนักงานขายของโครงการครับ
แนวการตกแต่งภายในของ Lobby
ชุดวัสดุตกแต่ง จะเน้นความเข้มข้นหนักแน่นนะครับ เวลานั่งข้างในเห็นแบบนี้ แต่คนข้างนอกจะมองเข้ามาไม่เห็นเลย
พื้นที่นั่งใน Lobby จะทำกระจายๆ มีจุดให้นั่งหลายจุด เป็น Lobby เพดานสูง ขนาดใหญ่กว่าคอนโดขนาดเล็กทั่วไป
พื้นที่ส่วน Library
ชั้น 2 นี้มีห้องพักอาศัยอยู่ 1 ห้อง ซึ่งจะมีประตูกั้นอีกชั้นนะครับ
ชุดประตูกั้นจะต้องแตะ Key Card ตรงนี้เพื่อผ่านประตู
โถงลิฟท์
ชั้น 3 จะเป็นชั้นที่มี Facility ของลูกบ้านพวก สระ ฟิตเนส ห้องพูล และ ซาวน์น่าครับ
เดินออกมาจากโถงลิฟท์ชั้น 3 ก้จะเป็นพื้นที่เปิดโล่งแบบนี้
ชั้น 3 มีห้องพักอาศัยด้วยนะครับ เป็นกลุ่มห้องที่เปิดประตูมาก็เดินลงสระได้เลย
สระว่ายน้ำ จะมีพื้นที่นั่งเล่นนอนเล่นอยู่ริมสระด้วย
สระว่ายน้ำ เป็นสระระบบเกลือขนาด ราว 7×10 เมตรครับ
ทางเดินลงสระ
วัสดุที่ใช้ พื้นฐานก็กระเบื้องกันลื่นนะครับ ส่วนตัวสระปูโมเสค และพื้น deck เป็นไม้เทียมพวกเทอร์โมพลาสติก ที่ทนทานใช้งานง่ายหน่อย
มีพื้นที่กั้นเป็นส่วนตื้นสำหรับเด็กครับ … การกั้นแบบนี้ ผู้ปกครองต้องดูแลให้ดีนะครับ เพราะถ้าเด็กซนๆแอบข้ามขอบสระเด็กมา จะกลายเป็นพื้นที่น้ำลึกของสระผู้ใหญ่ … ซึ่งการออกแบบสระเด็กสระผู้ใหญ่ ควรจะต้องคิดทำให้รอบคอบปลอดภัยกว่านี้ครับ
พื้นที่นั่งเล่นอีกจุด
พื้นที่นั่งเล่นตรงนี้ จริงๆอยู่ในร่มนะครับ จะเจอแดดสาดเข้ามาเฉพาะช่วงบ่ายแก่ๆเท่านั้น องศาของดวงอาทิตย์มันพอดี
ประตูสองบานนั้นคือทางเข้าห้อง Fitness และ Game room (โต๊ะพูล)
ห้อง Fitness ติดแอร์ขนาดใหญ่ใช้ได้ครับ
Game Room ที่วางโต๊ะพูลไว้ให้ 1 ตัว
ทางเดินลงไปชั้นล่างซึ่งเป็นส่วน Locker room, ห้องน้ำ และห้องซาวน่าแยกชายหญิง
ห้องจะแยกกันนะครับ ชายหญิง
ภายในห้องน้ำชาย ซึ่งนี่คือส่วน Locker
ห้องซาวน่ามาตรฐาน
ซาวน่าค่อนข้างใหญ่นะครับ เมื่อเทียบกับขนาดโครงการ นี่นั่งได้ 10 คนสบาย
ชั้น 8 นี่มีของแปลกให้ดูที่ โถง Corridor ครับ
เขาทำเป็นระเบียงยาวไว้นั่งเล่น ขนานไปกับส่วนของ Corridor หน้าห้องแบบนี้ครับ
พื้นที่ระเบียงนั่งเล่น
วิวชั้น 8 จากระเบียงนั่งเล่น
อีกมุม
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby
- Library
- Reception
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 7 x 10 เมตรลึก 1.5 เมตร แบ่งสระเด็ก
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
- สวนหย่อม
- Sauna
- ระเบียงนั่งเล่น ชั้น 8
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 25 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 74 คันคิดเป็น 150% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 200%
- ระบบ CCTV / Access Card
ห้องตัวอย่างที่นี่ไม่มีนะครับ 🙂 มีแต่ห้องจริงของจริง ซึ่งเขาจัดมาให้ดู 2 รูปแบบ คือห้องมาตรฐานที่ขายแบบ Fully Fitted กับห้องที่ตกแต่งครบซึ่งจะขายรวมเฟอร์และอุปกรณ์ตกแต่งทั้งหมดเลย … ห้องของที่นี่จึงเป็นแบบ เห็นอะไร ได้อย่างนั้นครับ … ผมจะพาไปดูห้องแบบที่เขาขายแบบตกแต่งครบ 2 ห้องนะครับ
ผังห้อง 2 Bedroom ขนาด 88.34 ตารางเมตร ห้องนี้มี 2 นอน 2 น้ำ ให้น้ำหนัก Master Bedroom ค่อนข้างมาก ห้องนี้ได้ครัวเปิดและส่วน Living ที่เชื่อมกับห้องนอนเล็กด้วยประตูเลื่อน ดังนั้นหากอยู่กับแฟนแค่สองคน สามารถจัดห้องนอนเล็กเป็นห้องทำงานได้ครับ ส่วนตัวระเบียงจะมีคอมแอร์แยกสองฝั่งโดยมีประตูระแนงกั้นเรียบร้อย โปรดสังเกตหน้าต่างห้องนอนนะครับ ทำมาเป็นสองบานเล็ก ไม่ทำเป็นช่องรับวิวขนาดใหญ่ เพราะเขาเน้น Privacy มากกว่าเปิดโล่งรับวิวครับ
ห้องมาตรฐานจะได้พื้นไม้ engineering wood 14 มม.และ Digital Door Lock แอร์มีทั้งแบบฝังฝ้าและแขวนผนัง wall paper .. ระยะพื้นถึงฝ้า 2.5 เมตร… แต่ห้องนี้เป็นห้องจัดหนัก ได้ทุกอย่างที่เห็นในห้องรวมไปถึงรูปภาพและอุปกรณ์ตกแต่งทั้งหมด
โถงประตูหน้าห้องซึ่งเว้าเข้าไปในห้อง จะช่วยเพิ่ม Privacy ให้อีก เวลาไขประตูจะไม่มีคนเห็นเรา
ประตู ได้ Digital Door Lock
เปิดประตูเข้ามาเป็นพื้น Engineering wood ตัวจบตรงธรณีประตูธรรมดาไปนิ้ดนะฮะ
เปิดประตูเข้ามาจะเป็นส่วน Living Area
แอร์ส่วน Living นี้จะเป็นแบบแขวนเหนือฝ้าของ Daikin ครับ
ครัวเป็นครัวเปิด พื้นที่ประมาณนี้
Counter Top เป็นหินควอทช์
อ่างล้างจานเป็นของ Franke ผนังหลังครัวกรุกระจกให้เรียบร้อยกันเลอะเทอะ
ได้ชุดเตาและเครื่องดูดควันของ Electrolux
พื้นที่วางโต๊ะทานข้าว 4 ที่นั่ง พอดีเป๊ะ
พื้นที่นั่งเล่นดูทีวี ได้ระยะดูทีวีราวเกือบ 3 เมตร จัดทีวี 50 นิ้ว พอได้
หลังโซฟา คือห้องนอนเล็ก ที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนนะครับ ห้องนี้ยืดหยุ่น จะจัดเป้นห้องทำงานก็ได้ หรือจะกั้นผนังใหม่ให้ห้องนอนมันมิดชิดเป็นสัดส่วนไปเลยก็ได้
พื้นที่วางทีวีเหลือเฟือ เขาวาง Side Board มาให้หน้าตาแบบนี้ ถ้าจะ Built in เป็นตู้เต็มผนังก็ได้
ระเบียง วางติดส่วนนั่งเล่นแบบนี้
ตัวประตูกั้นระเบียงเป็นชุดกระจกบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมวางบนขอบ Curb ที่ด้านในไม่ได้สูงมาก เพราะด้านนอกระเบียงพื้นเขาลดระดับให้แล้วครับ
ด้านนอก พื้นระเบียงจะต่ำกว่าพื้นด้านในเล็กน้อย และปรับความลาดเอียงเรียบร้อย
พื้นที่ระเบียงด้านนอก
พื้นที่วางคอมแอร์ มีประตูระแนงปิดแบบนี้ แต่ลมร้อนมันก็พัดออกมาระเบียงอยู่ดีนะ
วิวจากชั้น 8 ฝั่งถนนสาทร มองไม่พ้นโซนสระว่ายน้ำของ The Met เลย
ห้องนอนเล็ก
พื้นที่ห้องนอนเล็ก
มีช่องหน้าต่างที่เขาจัดโต๊ะทำงานวางไว้ให้แบบนี้ครับ
ของทั้งหมดที่เห็นนี่ เขาแถมหมดนะ
ตู้เสื้อผ้า ขนาดใหญ่ใช้ได้
ส่วนโถงที่นำไปห้อง Master Bed และห้องน้ำครับ
ห้องน้ำ ที่ใช้สำหรับห้องนอนเล็กและส่วน Living
ได้ชุดสุขภัณฑ์ของ Kohler นะครับ ส่วนกระเบื้องจะเป็นแบบโฮโมจีเนียสทั้งหมด(กระเบื้องโฮโมจีเนียส = กระเบื้องที่หากกระเทาะแล้ว เนื้อในยังเป็นสีเดียวกันกับผิวด้านนอก เวลาบิ่นหรือกระเทาะนิดๆหน่อยๆ จึงยังดูดีอยู่)
ตำแหน่งวางโถสุขภัณฑ์เบียดไปนิด ทำให้ตำแหน่งแขวนทิชชู่ต้องไปอยู่ตรงนั้น เวลาเอียวตัวไปหยิบระวังจะปวดกล้ามเนื้อสีข้าง… อ่อ Counter อ่างล้างหน้าเป็นหินควอทช์นะครับ
กระจกได้บานใหญ่ ติดไฟส่องด้านข้างให้เรียบร้อย เห็นหน้าตัวเองชัดๆก็ไม่ต้องตื่นเต้นตกใจนะ
Shower Box กั้นด้วย Curb ก่อแบบนี้ และติดฉากกั้นกระจกนิรภัยมาให้เรียบร้อย
ชุด Rain Shower ได้ของ Kohler ครับ ช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำสวย แต่เล็กไปนิ้ดดด
Master Bedroom
Built walk in closet มาให้แบบนี้
พื้นที่ Master Bedroom ค่อนข้างเยอะ จัดห้องง่ายดี หน้าต่างแยกเป็นสองช่องแบบนี้ ไม่ได้ใส่ผนังกระจกรับวิว เพราะเขาเน้น Privacy มากกว่าเปิดโล่งรับวิวครับ
ช่องแสง เขาทำมาแบบนี้
ห้องนี้ได้แอร์แขวนเหนือฝ้านะครับ
ห้องน้ำ มีธรณีก่อไม่สูงมาก
พื้นที่ภายในห้องน้ำ ซึ่งค่อนข้างใหญ่ครับ
Spec สุขภัณฑ์จะเป็น Kohler ทั้งหมด
อ่างอาบน้ำ
ชุดก็อกผสมน้ำร้อนเย็น
ชุดควบคุม jet เล็กๆ ในอ่างอาบน้ำ
รูพ่นน้ำ เวลาแช่น้ำเปิดให้มีแรงดันเล็กนอนแช่ผ่อนคลายได้
Shower Box กั้นกระจกนิรภัยเรียบร้อย
ชุด Rain Shower ของ Kohler
ผังห้อง 2 Bedroom 128 ตารางเมตรห้องนี้ถือว่า แปลกนะครับ คือจัดมาแบบไม่กลัวเปลืองพื้นที่ ได้ห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัว 2 ห้องเลย พื้นที่ห้องนอนเยอะจนจัวางโซฟาหรือ day bed ได้ ส่วน Living Area ใหญ่ ได้ครัวเปิดพื้นที่เยอะซึ่งจะกั้นเป็นครัวปิดก็เอื้อให้ทำได้ ได้ระเบียงยาวแยกคอมแอร์ซ้ายขวาเหมือนเดิม ห้องนอนทั้งคู่ ได้ช่องแสงเป็นหน้าต่างบานคู่เหมือนห้องแรก
ห้องมาตรฐานจะได้พื้นไม้ engineering wood 14 มม.และ Digital Door Lock แอร์มีทั้งแบบฝังฝ้าและแขวนผนัง wall paper .. ระยะพื้นถึงฝ้า 2.5 เมตร… ห้องนี้จะเหมือนห้องที่แล้ว คือได้ทุกอย่างที่เห็นในห้องรวมไปถึงรูปภาพและอุปกรณ์ตกแต่งทั้งหมด
พื้น Engineering wood สีเดียวกันกับห้องแรก
เปิดประตูเข้ามาจะเจอส่วน Living Area และครัวครับ ฝ้าเพดานได้แบบที่เห็นเลยนะ โคมไฟก็แถม
แอร์แบบแขวนเหนือฝ้าของ Daikin
ครัวใหญ่ทีเดียว พื้นที่เก็บของเยอะ ได้พื้นเป็นกระเบื้องนะครับ
เครื่องซักผ้าวางในครัว อ่างล้างจานแบบคู่ของ Franke ตำแหน่งการวางใกล้ตู้เย็นซึ่งเหมาะสมดีแล้ว
ตำแหน่งวางเตาและเครื่องดูดควันจะเอื้อต่อการวางของ วัตถุดิบและอุปกรณ์ต่างๆ เพราะมีพื้นที่ซ้ายขวาสบายๆ
พื้นที่ด้านนี้ จัดเป็นส่วนเตรียมอาหาร หรือบาร์เล็กๆสำหรับทำเครื่องดื่ม หรืออาหารง่ายๆ เช่นอาหารเช้า
โต๊ะรับประทานอาหาร วางแบบ 4 ที่นั่งมา ซึ่งจะขยายขนาดก็ยังมีพื้นที่เหลือ
ชุดโซฟาดูทีวี พื้นที่และระยะยืดหยุ่น ขยับได้ ระยะดูทีวีราว 3 เมตร วางทีวี 50 นิ้วพอดี
ระเบียง
พื้นที่ระเบียง ได้ยาวตลอดแนว Living
ห้องนอน 2 จะเห็นว่ามีทางเข้าห้องน้ำด้านซ้ายมือด้วย… ห้องน้ำนี้เข้าได้ 2 ทางทั้งจาก Living Area และ ห้องนอน 2
ห้องนอน 2
พื้นที่เยอะจนวางโซฟาก็ยังได้เลย
เตียง 5 ฟุต วางแล้วเหลือพื้นที่ประมาณนี้
ห้องนี้ได้แอร์แขวนเหนือฝ้า ตู้เสื้อผ้าเต็มผนัง
ห้องน้ำ
ประตูห้องน้ำเปิดได้สองทาง
ห้องน้ำค่อนข้างใหญ่ น่าเสียดายที่จัดวางอ่างอาบน้ำให้ลงตัวไม่ได้ เพราะติดประตู 2 ทางนี่แหละ … ถ้าจะใส่อ่างอาบน้ำ ต้องยอมสละประตู 1 ชุด ให้เหลือทางเข้าออกแค่ทางเดียว
Shower Box
ห้องนอน Master จะอยู่ฝั่งตรงข้าม
ห้องนอน Master
พื้นที่เยอะ วางโซฟาให้เช่นกัน
หัวเตียงมีซ่อนไฟด้วย
Drop ฝ้า ซ่อนไฟเพดานให้เรียบร้อย กลางคืนได้แสงสวยดี
พื้นที่ปลายเตียงเหลือเฟือ
แอร์และตู้เสื้อผ้าเหมือนห้องนอน 2
ห้องน้ำใน Master Bedroom ขนาดมันพอๆกะห้องนอน 2 นะ แต่โทนสีสว่างและมีประตูเข้าออกแค่ทางเดียว เลยจัดมาได้ครบเครื่องแบบนี้ ได้ทั้งอ่างล้างหน้าคู่ His&Her + Shower Box + อ่างอาบน้ำ
Shower Box
อ่างล้างหน้า His&Her
อางอาบน้ำ
ห้องน้ำเป็นระบบน้ำร้อนเย็นนะครับไม่ใช่น้ำอุ่น ได้เครื่องทำน้ำร้อน Stiebel มาด้วยเรียบร้อย
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ November 10, 2014
โครงการนี้ ห้องมาตรฐานจะขายแบบ Fully Fitted แต่มีบางห้องขายแบบห้องตกแต่งครบนะครับ ราคาต้องถามดูให้ดีด้วยว่าเป็นแบบไหน
- 1 Bedroom 55.58 ตารางเมตร ชั้น 3 ห้อง 302 ราคา 5.99 ล้านบาท หรือ 107,772 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom 82.18 ตารางเมตร ชั้น 3 ห้อง 303 ราคา 10.03 ล้านบาท หรือ 122,000 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom 88.39 ตารางเมตร ชั้น 9 ห้อง 902 ราคา 11.56 ล้านบาท หรือ 130,795 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom 128.58 ตารางเมตร ชั้น 7 ห้อง 705 ราคา 15.99 ล้านบาท หรือ 124,390 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom 128.20 ตารางเมตร ชั้น 8 ห้อง 805 Full Fur ราคา 18.25 ล้านบาท หรือ 142,348 บาท/ตร.ม.
- 3 Bedroom 171.70 ตารางเมตร ชั้น 8 ห้อง 806 Full Fur ราคา 25.61 ล้านบาท หรือ 149,178 บาท/ตร.ม.
- Fully Fitted
- ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- จอง 50,000 – 70,000 – 100,000 บาท สำหรับห้อง 1-2-3 Bedroom
- ทำสัญญา 100,000 – 200,000 – 300,000 บาท สำหรับห้อง 1-2-3 Bedroom
- ห้องพร้อมโอน
- ค่ากองทุน 550 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 90 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว เมื่อ 10/11/14 ซึ่งเป็นช่วง VIP Promotion ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้นะครับ
The Hudson สาทร7 เป็นโครงการสร้างเสร็จก่อนขายนะครับ ผู้ซื้อสามารถเลือกห้องของจริง ทำเลห้องจริง วิวจริงได้จากโครงการเลย ซึ่งถือว่าดีต่อผู้ซื้อมาก อยากให้ทุกโครงการสร้างเสร็จก่อนขายจริงๆ 🙂 แต่การที่สร้างเสร็จก่อนขายราคามันก็จะเป็นราคา ณ.วันนี้ และต้องพร้อมโอนทันทีเช่นกัน จะไม่เหมาะกับคนไม่มีเงินก้อนเย็นๆนะครับ จึงไม่น่าแปลกที่โครงการนี้ จับลูกค้าระดับบนเลย ด้วยการทำห้องใหญ่ Unit น้อย exclusive แค่ 49 Units ซึ่งแต่ละห้องใหญ่ๆทั้งนั้น ราคาห้องโดยเฉลี่ยก็ต้องมี สิบล้านต่อห้องขึ้นไปครับ
โครงการลักษณะนี้ จะแตกต่างจากโครงการทั่วไปที่เราคุ้นเคยกันนะครับ ลูกค้าเฉพาะกลุ่มมากไม่ได้ออกแบบมาเพื่อมหาชน เพราะราคาห้องของเค้า คนที่ซื้อได้ส่วนใหญ่ มีศักยภาพซื้อคอนโดได้ทุกโครงการบนถนนสาทรครับ … แล้วทำไมต้องมาซื้อโครงการเล็กๆในซอยตันนี้ด้วย 🙂 เหตุผลคือเรื่อง “Privacy” ครับ ตัวโครงการอยู่ในซอยปิด ที่พอเข้ามาถึงหน้าโครงการนี่รู้เลยว่าใครเป็นใคร เพราะซอยมันตันและตื้น ไม่มีความพลุกพล่าน ดูแล “อารักขา” ง่าย เข้ามาแล้วแทบไม่เจอใคร เพราะขึ้นลิฟท์จากที่จอดรถ แถม เพื่อนบ้านน้อยม้ากกกก รูปแบบโครงการแบบนี้ มีตัวเลือกไม่เยอะในปัจจุบัน นานๆจะมีมาให้ดูสักที
ทำเลโครงการในซอยสาทร 7 ถือว่าเป็นย่านใจกลางเมือง ที่เดินทางสะดวก และหากทำงานอยู่ในตึกแถวนี้ สามารถเดินไปทำงานได้ไม่ยาก ความอุดมสมบูรณ์มรมากทั้งแบบเดินสะดวกและแบบนั่งรถไปใกล้ๆ เพราะจากสาทรนี่ไปชิดลมหรือราชประสงค์อันเป็นย่าน Real CBD ก็ขับรถไปไม่กี่นาที จะข้ามไปสีลมตอนดึกๆนี่ยิ่งง่ายเพราะใกล้นิดเดียวเป็นถนนคู่ขนานกันอยู่แล้ว
การเดินทางโดยใช้รถสะดวกมาก ทางเลือกในการเดินทางเยอะ สาทรมีจังหวะรถติดแค่เช้ากับเย็น ซึ่งเผลอๆ คนที่อยู่ในโครงการนี้จะไม่ได้ทำงานตามเวลาของคนทำงานออฟฟิศปกติทั่วไป เพราะเชื่อว่าจะเป็นเจ้าของกิจการซะเป็นส่วนใหญ่ จึงเลือกออกจากบ้านได้คนละเวลากับหนุ่มสาวออฟฟิศแถวนี้นะครับ ส่วนเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดนี่โล่งๆสบายๆเลย ที่จอดรถเหลือเฟือ นับรวมทุกช่องจอดและซ้อนคันแล้วได้ 200% จอดกันห้องละ 2 คัน ก็ยังพอ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ นอกจากใช้บริการเรียกรถ Taxi แล้ว การเดินไปที่ปากซอยสาทร 7 มีระยะทางราว 220 เมตร เดินไป BTS ช่องนนทรี 650 เมตร พอเดินได้นะครับแต่ก็ไม่ใช่ระยะคนไทยเดินสบายนัก
วัสดุอุปกรณ์ของที่ให้มา ต้องขอบอกอีกครั้งว่า โครงการนี้ ไม่ได้สร้างตึกจากศูนย์ หากแต่เป็นการรื้อตึกเดิม เหลือแต่โครงสร้าง แล้วทำการสร้างใหม่ปรับใหม่เป็นคอนโดมิเนียมครับ ซึ่งในเรื่องของโครงสร้างนั้น คงไม่ต้องไปกังวลเพราะมีมาตรฐานงานควบคุมอาคารบังคับอยู่ ส่วนผนังฝ้าพื้นและวัสดุอื่นๆที่เราสัมผัสได้ เป็นการทำขึ้นใหม่ทั้งหมดครับ ตัววัสดุส่วนกลางถือว่าทำมาใช้ได้ตามมาตรฐาน ส่วนวัสดุในห้องมาตรฐานแบบ Fully Fitted ก็จัดมาสมราคา 110,000 – 130,000 บาทต่อตารางเมตร ส่วนห้องที่ตกแต่งครบรวม Prop นั่นราคาไป 140,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งหากชอบแนวที่เขาตกแต่งก็ถือว่าคุ้ม เพราะถ้าแต่งเอง Built เองทั้งหมด ก็ราคาใกล้เคียงกันครับ
การออกแบบ จัดมาแบบกล้าทำ Unit น้อย ห้องใหญ่ ออกแบบมาเพื่อลูกค้าเฉพาะกลุ่มตั้งแต่ต้น ซึ่งถ้าคนที่ไม่ใช่หรือไม่เข้าใจ จะไม่ชอบเลยนะครับ แถมจะงงด้วยว่า มันจะขายได้รึ 🙂 การออกแบบตัวห้องมันจะไม่จบสำเร็จรูปเสียทีเดียว ห้องมีเนื้อที่เวิ่นเว้อมากกกกหลายจุดเลย เขาตั้งใจออกแบบไม่รีดเอาพื้นที่ใช้งานให้คุ้มทุกเม็ด แต่จะปล่อยพื้นที่โล่งมาเยอะพอสมควร … การตกแต่งห้องพวกนี้ ควรให้มัณฑนากรเขาได้เข้ามาช่วยนะครับจะสมบูรณ์แบบกว่ามาก
สาธารณูปโภคสำหรับห้อง 49 Units มีครบ และรู้ว่าอะไรควรใหญ่ อะไรควรเล็ก อะไรควรมาก อะไรควรน้อยนะครับ … ตัวโครงการจัดพื้นที่ส่วนกลางโดยให้น้ำหนักไปที่ส่วน Lobby อย่างมาก มีความ Private และ Reception Area ที่ดี เพราะเวลาลูกบ้านรับแขกมันควรจะไม่ใช่ Lobby กากๆ หรือเล็กๆครับ เค้ามีส่วนพื้นที่นั่งคุยเป็นโต๊ะแยกอีกหลายจุด หรือจะไปใช้ตรง Library ก็ได้ มีพื้นที่นั่งคุยกันหลายจุดดี … แต่สระว่ายน้ำทำมาเล็กนะครับ ไม่ได้อลังการด้วย เพราะคงคิดว่าไม่ค่อยจะมีคนใช้แน่ๆ ไปใหญ่อีกทีก็ Fitness กับซาวน่าครับ เรียกว่า เข้าไปประชุมคุยงานกันในซาวน่ายังได้เลย… ที่จอดรถให้มาเยอะดีมาก อันเนื่องมาจากห้องมันน้อยด้วยครับ พอดูสัดส่วนแล้วเลยได้ไปถึง 200% กันเลยทีเดียว
ผมขอทิ้งท้ายว่าโครงการนี้ เป็นโครงการที่เหมาะกับคนเฉพาะกลุ่มนะครับ และรูปแบบการทำโครงการ รวมถึงการออกแบบ น่าศึกษาเรียนรู้มาก โครงการนี้เปิด option ให้สำหรับตึกในเมืองอีกหลายตึก ที่สามารถนำมาพัฒนาได้ในแนวทางเดียวกันครับ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 130,000 บาทต่อตารางเมตร, November 10, 2014
- ทำเล 8.0/10 – ทำเลใช้ได้เมื่อเทียบกับราคา และเหมาะกับคนเฉพาะกลุ่มที่ชอบทำเลในเมืองแต่ Privacy สูง
- เดินทางด้วยรถ 8.5/10 – เดินทางสะดวกสำหรับคนเมือง ที่จอดรถเหลือเฟือ
- ไม่ใช้รถ 7.0/10 – แม้จะพอเดินไปรถไฟฟ้าได้ แต่หากต้องเดินออกมาจากซอยในวันฝนตกก็ไม่สนุกเท่าไร
- วัสดุ 7.0/10 – วัสดุได้ของดีนะครับ แต่ผมลดคะแนนลงเพราะไม่ใช่ตึกใหม่เอี่ยม 100% ครับ
- แบบ 8.0/10 – ออกแบบมาได้ค่อนข้างกล้าดีครับ แต่เหมาะกับคนเฉพาะกลุ่ม ไม่ใช่คนทั่วไปที่ต้องการความคุ้มค่าในพื้นที่ใช้สอย
- สาธารณูปโภค 8.0/10 – ได้ครบ และเชื่อว่าน้ำหนักของ Facility แต่ละตัว เหมาะกับรูปแบบและลูกบ้านแล้ว
- HIGH CLASS
- 7.77 / 10.00
BOTTOM LINE
The Hudson Sathorn 7 เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดพร้อมเข้าอยู่ในเมืองย่านสาทร ที่มีความ Private สูง เพื่อนบ้านน้อยๆ ใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก เป็นคนรู้จักตัวเอง ซื้อของตามความต้องการไม่ใช่ตามตลาดที่เขานิยม สนใจเนื้อ Product มากกว่าชื่อยี่ห้อ มีงบประมาณระดับ 6-35 ล้าน มีเงินเย็นและพร้อมโอนได้ทันที
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ