รีวิวฉบับที่ 837 สวัสดีค่า วันนี้เราจะพาไปรีวิวคอนโดแถบชานเมืองกันซักนิดกับโครงการ The Connexion 2 รัตนาธิเบศร์ โครงการที่ 2 จาก Connexion Development คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร อยู่ในซอยรัตนาธิเบศร์ 7 ใกล้รถไฟฟ้า 2 สถานี ทั้งสถานีศูนย์ราชการ ที่เป็นสถานี Interchange 3 สาย ลงทางออกก็จะถึงหน้าปากซอย และเดินลึกเข้าไป 150 เมตรจะถึงพื้นที่โครงการ และสถานีศรีพรสวรรค์ ศูนย์การค้าเล็กใหญ่และ Community Mall เรียงเป็นแถบอีกทั้งยังใกล้กับอุทยานมกุฎรมย์สราญด้วยค่ะ
Facts @ 12 May 2015
- The Connexion 2 รัตนาธิเบศร์ (เดอะ คอนเน็กชั่น 2 รัตนาธิเบศร์)
- บริษัท Connexion Development จำกัด
- SUPER ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ : อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 117 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 17 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 27 คันคิดเป็น 23% รวมจอดซ้อนคัน 33 คัน คิดเป็น 29%
- ที่ดินประมาณ 246 ตารางวา
- กำหนดเริ่มสร้าง : กลางปี 2558
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : กลางปี 2559
- 1 Bedroom 28 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.35 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
- ราคาเริ่มต้น 1.35 ล้านบาทหรือประมาณ 48,200 บาทต่อตารางเมตร
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง ตอนที่1 และ ตอนที่2
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร 080-806-8006
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.858682, 100.511128
ที่ตั้งของโครงการ The Connexion 2 รัตนาธิเบศร์ ตั้งอยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์มุ่งหน้าสะพานพระนั่งเกล้า ระหว่างสี่แยกแคราย และเส้นออกเลี่ยงเมืองนนทบุรี โครงการอยู่ในซอยรัตนาธิเบศร์ 7 ทางซ้ายมือ ปากซอยจะเป็นทางลง MRT สถานีศูนย์ราชการ เข้าซอยไปประมาณ 150 เมตร โครงการจะอยู่ด้านหน้าเลยค่ะ
ทำเลของโครงการ The Connexion 2 รัตนาธิเบศร์ เป็นจุดที่สามารถเข้าถึงได้จากหลากหลายการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นรถส่วนตัวที่สัญจรจากถนนแนวราบธรรมดา หรือจากทางยกระดับศรีรัช รวมไปจนถึงระบบขนส่งมวลชนที่กำลังจะเปิดทดลองให้ใช้บริการปลายปีนี้อย่างรถไฟสายสีม่วง บางซื่อ – บางใหญ่
การเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวสามารถมาจากทางถนนงามวงศ์วานเข้ามายังถนนรัตนาธิเบศร์ หรือจะมาจากสะพานพระนั่งเกล้าเข้าถนนรัตนาธิเบศร์ก็ได้ แล้วกลับรถใต้สะพานที่สะพานข้ามแยกแคราย อีกเส้นทางหนึ่งคือถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี หรือถนนเส้นติวานนท์-ปทุมธานี แล้วเลือกเลี้ยวเข้าถนนรัตนาธิเบศร์หรือถนนเรวดี โดยเข้าที่ต้นซอยเรวดี ตรงไปเรื่อยๆ เข้าซอยเรวดี 17 ที่อยู่ทางขวามือ ตรงเข้าไปประมาณ 430 เมตร แล้วเลี้ยวขวาที่ซอยที่เชื่อมไปยังซอยรัตนาธิเบศร์ 7 โครงการจะอยู่ทางขวามือ
ซึ่งถ้าเรามองในแง่คนทำงานประจำอยู่แถบถนนรัตนาธิเบศร์-ติวานนท์-แจ้งวัฒนะในปัจจุบันที่รถไฟฟ้าสายสีม่วงยังไม่เปิดใช้ แทบจะทุกคนจะมีรถยนต์ส่วนตัว และจะอาศัยถนนหลักในการเดินรถ แต่การที่ใช้แค่ถนนใหญ่อย่างเดียวจะทำให้หลีกเลี่ยงรถติดได้ยาก โดยเฉพาะศูนย์ราชการที่มีเจ้าหน้าที่เยอะมาก รวมถึงคนที่มีที่พักอาศัยอยู่บนถนนแถบนี้ ดังนั้นช่วงเช้า-เย็นจะทำให้ปริมาณรถบนถนนหนาแน่นมาก เพราะต่างจะมุ่งหน้ากลับบ้านกัน โดยเฉพาะทุกแยกไฟเขียวไฟแดง แต่แยกแครายและแยกนนทบุรี1 สามารถแยกไปบนถนนหลักๆได้อีก เช่น ถนนพระราม5 สนามบินน้ำ และถนนราชพฤกษ์ที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปฝั่งธนบุรี
ถึงแม้ว่าโครงการจะตั้งอยู่ในแถบชานเมือง แต่ในบริเวณรอบๆที่ตั้งของโครงการ The Connexion 2 รัตนาธิเบศร์ มีความเจริญสูงมาก โดยเฉพาะบนถนนรัตนาธิเบศร์ตลอดจนถึงเส้นงามวงศ์วานความยาวประมาณ 7 กิโลเมตร มีศูนย์การค้าเล็กใหญ่อย่าง BigC, Tecso Lotus, Central, Esplande และ The Mall ส่วนโรงพยาบาลก็มีทั้งโรงพยาบาลนนทเวช, โรงพยาบาลทรวงอก และโรงพยาบาลศรีธัญญา ตลอดเส้นทาง ลึกเข้าไปจากถนนใหญ่จะเป็นพื้นที่โครงการบ้านจัดสรรแนวราบมากกว่า 10 โครงการ และที่กำลังเพิ่มขึ้นจำนวนมาก คือโครงการคอนโดที่เกาะสายรถไฟฟ้าสีม่วง ทำให้ตัวทำเลมีจุดเด่นเรื่องการใช้ระบบขนส่งมวลชนเพิ่มขึ้นมา
ส่วนทางด่วน มีทางพิเศษศรีรัชวิ่งผ่าน โดยมีทางขึ้น – ลงทางด่วนอยู่ที่รอยต่อของถนนรัตนาธิเบศร์และถนนงามวงศ์วาน ทั้งมุ่งหน้าไปทางสามเสน และปทุมธานี สุดถนนงามวงศ์วานก็จะเป็นถนนกำแพงเพชร 6 หรืออีกชื่อคือ Local Road โดยเป็นถนนที่ขนานกับถนนประชาชื่น โดยต่อไปจะมีรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้มสร้างอยู่เหนือถนน Local Road การเข้าถึงโครงการเราสามารถใช้ทางลงทางด่วนซึ่งจะวนมาลงที่ถนนงามวงศ์วานมุ่งหน้าถนนรัตนาธิเบศร์ได้พอดี
สำหรับคนไม่ใช้รถ เส้นทางที่จะมาจากขนส่งมวลชน สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานี MRT ศูนย์ราชการ ที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าสายสีม่วงจากบางซ่อน, สีชมพูจากหลักสี่ และสีน้ำตาลจากม.เกษตร ซึ่งตามข่าวที่ออกมาเร็วๆนี้ ช่วงปลายปี 2558 รถไฟฟ้าสายสีม่วงจะเปิดทดลองให้ใช้บริการกันอย่างเต็มรูปแบบ อาจจะทำให้ปริมาณการใช้รถน้อยลง ตัวโครงการเองก็อยู่ในซอยรัตนาธิเบศร์ 7 ที่มีทางขึ้น-ลงสถานีรถไฟฟ้าศูนย์ราชการอยู่หน้าปากซอยทางขวามือ ทำให้การเดินเท้าจากโครงการถึงระบบขนส่งใหม่อยู่ในระยะเพียง 150 เมตร
เส้นทางแรกที่เราจะเดินทางกันวันนี้คือจากถนนงามวงศ์วานมุ่งหน้าถนนรัตนาธิเบศร์ โดยผ่านแยกแครายที่แสนจะรถติดด้วยการขึ้นสะพานข้ามแยกไปลงตรงหน้าไทยคมที่อยู่ทางซ้ายมือ แล้วชิดซ้ายตรงไปเรื่อยๆ เลี้ยวซ้ายเข้าที่ซอยรัตนาธิเบศร์ 7 ที่มีทางขึ้น-ลงสถานีศูนย์ราชการอยู่ด้านหน้า ตรงเข้าไปในซอยประมาณ 150 เมตร โครงการจะอยู่ด้านหน้า แล้วเราจะพาไปออกกันอีกเส้นทางหนึ่งคือที่ซอยเรวดี 17 แล้วเลี้ยวซ้ายออกถนนเรวดี ย้อนขึ้นมาต้นถนนที่ออกถนนติวานนท์ได้
เริ่มการเดินทางกันที่ถนนงามวงศ์วาน ใกล้สี่แยกแคราย มุ่งหน้าสะพานพระนั่งเกล้า
ขึ้นสะพานข้ามแยกแคราย
ลงสะพานข้ามสี่แยกแครายจะอยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์แล้ว ถนนใหญ่มากประมาณ 5 เลน ทางขวามือคือ เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ งามวงศ์วาน-แคราย, เทสโก้โลตัส รัตนาธิเบศร์ และโรงเรียน SBAC
เลยมาอีกนิดนึงด้านซ้ายจะเป็นบริษัทไทยคม ด้านขวาคืออุทยานมกุฏสราญรมย์ ทางเข้าศูนย์ราชการ และศาลหลักเมืองนนทบุรี ด้านหนัาคือสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีศูนย์ราชการ อยู่หน้าสถานีตำรวจอำเภอเมืองนนทบุรีด้านขวา และซอยศูนย์ราชการด้านซ้าย จากตรงนี้การจราจรจะเร่ิมแบ่ง โดยมีเกาะกลางเล็กๆกั้น สำหรับทางตรง และทางชิดซ้ายเพื่อเลี้ยว หรือแยกเข้าซอย
บนถนนทางตรงตั้งแต่งามวงศ์วานมาจนถึงถนนรัตนาธิเบศร์จะมีรถขนส่งให้บริการหลากหลายประเภท อาทิ ป้ายรถเมล์ที่มีทั้งสองฝั่ง และสะพายลอยข้ามไปมาได้ แล้วก็ยังมีวินรถตู้แถว The Mall งามวงศ์วานวิ่งไปยังเส้นทางต่างๆ หรือจะตรงมาถนนรัตนาธิเบศร์ รวมถึงรถสองแถวที่วิ่งวนไปรอบๆในระยะใกล้หน่อย
ตรงมาเรื่อยๆสภาพด้านข้างโดยรวมก็ยังคึกคักดี มีร้าน 7-11 ที่ไหนก็ทายได้เลยว่าแถวนี้จะต้องเป็นจุดที่คนสัญจรไปมาเยอะ
ตรงมาเรื่อยๆก็จะมีทางแบ่ง เป็นทางเบี่ยงซ้ายที่จะเลี้ยวเข้าซอย ตรงกลางเป็นทางขึ้นสะพานกลับรถไปลงตรงหน้าศูนย์ราชการฝั่งตรงข้ามพอดี ส่วนทางขวาสุดคือสำหรับรถทางตรงยาวใช้ความเร็วได้ ถ่ายภาพมาก็แอบจับพี่วินขับรถย้อนศรได้นิดหน่อย ดังนั้นเวลาจะขับแถวนี้ก็ระมัดระวังกันด้วยนะคะ
ตรงมาอีกนิดเดียวที่หน้าปากซอยเป็นเจียงลูกชิ้นปลา ข้างๆก็จะมีป้ายโครงการอยู่หน้าซอยรัตนาธิเบศร์ 7 เลย มีทางลงสถานี MRT ศูนย์ราชการด้านหน้าเป๊ะๆ
ถนนภายในซอยก็เรียบดี ไม่ได้มีการแบ่งช่องทางเดินรถชัดเจน แต่ก็เดินรถสวนกันสองคันสบายๆ มีรถจอดหน้าบ้านบ้าง ส่วนใหญ่สิ่งปลูกสร้างจะเป็นพวกบ้านพักอาศัย และพื้นที่ว่างเปล่า ยังไม่ค่อยมีคอนโดหรืออพาร์ตเมนท์ขึ้นเท่าไหร่
บรรยากาศในซอยรัตนาธิเบศร์สองข้างทางก็สงบดี บ้านก็เป็นบ้านที่มีบริเวณหน่อย สลับไปกับพื้นที่ว่าง ดึกจะเดินเข้าซอยก็จะมีไฟตามจุดเสาไฟฟ้า แต่ก็ไม่ได้ถี่มากนัก
ตรงเข้ามาในซอยเรื่อยๆประมาณ 150 เมตร ก็จะเห็นแปลงที่ดินโครงการอยู่ด้านหน้าเลย
ฝั่งซ้ายของทางเข้าจะเป็นประตูบ้านของแปลงฝั่งซ้ายมือเป็นพื้นที่ตัน
ส่วนทางขวาจะเป็นทางที่เชื่อมกับซอยรัตนาธิเบศร์ 9 และซอยเรวดี 17 ซึ่งเดี๋ยวเราจะพาไปดูกันหลังจากนี้
ภายในแปลงก็จะมีข้าวของวางอยู่ แต่ก็เห็นรูปแบบแปลงที่ดินได้ดี คือเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบหน่อย มีรั้วเก่ากั้นพื้นที่ชัดเจน
ตัวแปลงที่ดินขนาดประมาณ 246 ตารางวา มีกำหนดจะเริ่มสร้างกลางปีนี้ EIA ผ่านแล้ว แล้วกำหนดจะสร้างเสร็จประมาณกลางปีหน้า
เรามาต่อกันที่ทางเชื่อมทางขวามือของถนนหน้าแปลงที่ไปได้ทั้งซอยรัตนาธิเบศร์ 9 และซอยเรวดี 17
ตรงมาไปประมาณ 60 เมตรก็จะเจอทางแยกซ้าย-ขวา เลี้ยวขวาออกซอยรัตนาธิเบศร์ แล้วออกถนนรัตนาธิเบศร์ ส่วนถ้าตรงไปจะเป็นทางเขาบ้านพัก ถ้าเลี้ยวซ้ายออกไปยังซอยเรวดี 17 เพื่อออกถนนเรวดีที่ขนานกับถนนรัตนาธิเบศร์ เด่วเราจะพาไปออกต้นถนนเรวดีกันดีกว่าค่ะ
มองทางขวานิดนึง ในระยะ 150 เมตรจะเห็นต้นซอยรัตนาธิเบศร์ 9 มีร้านอาหารอยู่ที่หัวมุมก่อนเลี้ยว จากการมายืนมองแถวๆนี้ซอยนี้จะได้รับความนิยมจากพี่วินในการทะลุเข้า-ออกเยอะ ทำให้คึกคักมากกว่า
ทางซ้ายเป็นทางออกไปยังซอยเรวดี 17 สองข้างทางก็จะเป็นบ้านพักอาศัย พี้นที่ว่างเปล่า และร้านอาหารแบบชุมชนๆ สลับๆกันไป
ซ้ายมือเป็นสิ่งปลูกสร้างๆคล้ายๆแฟลตปลูกยาวๆประมาณเกิน 100 เมตร ทางขวาเป็นพื้นที่ว่างเปล่า ถนนก็เรียบดีปกติ รถสวนกันได้สองคันสบายๆ
ตรงมาก็จะมีร้านอาหารเล็กๆที่เปิดระหว่างซอย ท่ามกลางบ้านพักอาศัย บรรยากาศค่อนข้างสงบดี
ตรงมาได้ประมาณ 430 เมตรก็จะถึงต้นซอยเรวดี 17 ถ้าเลี้ยวขวาก็จะออกท้ายซอยเรวดี ไปออกยังถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี และทางซ้ายออกต้นซอยเรวดี ไปออกยังถนนติวานนท์ เราจะพาไปทางซ้ายที่ค่อนข้างคึกคักกว่าละกันนะคะ
ภายในถนนเรวดีกว้างขนาดรถสองคันสวนกันสบายกว่าในซอยหน่อย แต่ก็จะมีบ้างที่รถหยุดรับ-ส่ง หรือจอดริมๆทางลงไปซื้อของ ถนนเรวดีก็หาแท๊กซี่ง่ายนะคะ ผ่านไปมาอยู่เรื่อยๆเลย
สิ่งปลูกสร้างสองข้างทางก็จะเป็นบ้านพักอาศัยทั้งแบบบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม หรือตึกแถว 3-4 ชั้น ที่ด้านล่างเปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร และให้บริการอย่างพวกร้านซ่อมรถ ร้านทอง คลินิกต่างๆ
ยิ่งขับมาช่วงต้นซอยหน่อยก็จะคึกคักมากขึ้น มีตึกแถวมากขึ้น มีห้างทาง มีพี่วิน มีรถสองแถววิ่งผ่าน มีร้านอาหาร ร้านถ่ายรูป ร้านขายยา ร้านขายข้าวแกงเต็มไปหมด บรรยากาศก็คล้ายๆตลาดดีๆ
แล้วก็มาถึงต้นถนนเรวดีที่ออกไปยังถนนติวานนท์ได้ ด้วยทางก็จะบังคับเลี้ยวซ้ายเพื่อตรงไปยังถนนรัตนาธิเบศร์ด้านหน้า ถ้าไปกลับรถเลี้ยวขวาก็จะเป็นทางไปบางซื่อ ตามแนวรถไฟฟ้าสีม่วง
เส้นทางที่สอง คือเส้นทางจากแปลงที่ดินโครงการ The Connexion 2 รัตนาธิเบศร์ ในซอย 7 เราจะพาไปยังสำนักงานขายของโครงการ ที่อยู่ในซอยรัตนาธิเบศร์ 10 โดยเราจะเร่ิมต้นที่หน้าซอยรัตนาธิเบศร์ 7 ตรงไปเรื่อยๆผ่านแยกถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี ไปกลับรถที่หน้า Central แล้วตรงไปเรื่อยๆจนเกือบถึงศูนย์ราชการนนทบุรีใหม่ เลี้ยวซ้ายเข้าที่ซอย 10 ตรงไปประมาณ 100 เมตร จะเจอ Sales Office อยู่ทางซ้ายมือ และเจอคอนโด The Connexion ตึกแรกที่สร้างเสร็จแล้วอยู่ทางขวามือ
เริ่มต้นการเดินทางอีกครั้งที่หน้าซอยรัตนาธิเบศร์ 7 ที่เดิมเพื่อให้ทุกคนจำได้นะคะ เราจะตรงไปเรื่อยๆยาวๆเลยทีนี้ เพราะว่าการขึ้นสะพานกลับรถตรงนี้หน้าซอย ไม่สามารถเข้าซอยรัตนาธิเบศร์ 10 ได้ทัน แต่จะไปเข้าศูนย์ราชการซึ่งไม่มีประตูข้างออกทะลุไปยังซอยต่างๆเลย
ตรงนี้ค่อนข้างจะเป็นจุดอับนิดนึง เนื่องจากเป็นทางกลับรถของถนนรัตนาธิเบศร์ทั้งสองฝั่ง โดยมีสะพานลอยคนเดินขั้นกลาง ด้านซ้ายเป็นคอนโด Supalai Park และอาคารพาณิชย์ พื้นที่สองฝั่งบริเวณนี้กระชั้นเกินไปในการเดินรถเข้า-ออก ทำให้ศูนย์การค้าไม่เลือกที่จะเปิดในพื้นที่ตรงนี้ แต่เขยิบออกไปรัศมีประมาณ 500 เมตร เป็นอย่างต่ำ
ตรงมาเรื่อยก็จะเจอสถานี MRT ศรีพรสวรรค์ สายสีม่วง ด้านซ้ายจะเป็นเต้นท์รถ ถัดไปเป็นอพาตเมนต์ และ BigC รัตนาธิเบศร์
BigC รัตนาธิเบศร์ทางซ้ายมือ และเลยไปเรื่อยๆก็จะมีร้านอาหารอยู่มากมาย
จากนั้นจะเจอ MRT สถานีแยกนนทบุรี1 อยู่ก่อนสี่แยกนนทบุรี1 นิดหน่อย แยกซ้ายจะไปเข้าถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี และเลี้ยวซ้ายอีกทีจะเข้าซอยเรวดี ถ้าตรงไปจะไปพระราม5 หรือพิบูลสงครามได้
เราจะมาขึ้นสะพานกลับรถไปสี่แยกแคราย ถ้าตรงไปจะไปบางบัวทอง และถนนกาญจนาภิเษก ซึ่งจะมีป้ายบอกชัดเจน
ลงสะพานกลับรถ ด้านซ้ายจะเป็น Grand Homemart รัตนาธิเบศร์ และเลยไปจะเป็นสถานี MRT แยกนนทบุรี1
ผ่านแยกนนทบุรี1 มาจะเจอศูนย์การค้า Central และ Robinson รัตนาธิเบศร์ อยู่ทางซ้ายมือตามลำดับ ก่อนที่จะมีสถานี MRT ที่สามารถใช้เป็นสะพานลอยข้ามถนนใหญ่ได้ ตามระยะต่างๆก็ยังมีสะพานลอยเดิมข้ามอยู่
เจอป้ายใหญ่บอกทางตรงไปเรื่อยๆจะไปถึงศูนย์ราชการนนทบุรีที่ซอยรัตนาธิเบศร์ 10 จะถึงก่อนนิดหน่อย
เลยมาจะเจอสถานี MRT ศรีพรสวรรค์ ซ้ายมือเป็นโรงแรมริชมอนต์ จากตรงนี้ ถ้าชิดขวาจะเป็นเลนขึ้นทางกลับรถที่จะเลยซอยรัตนาธิเบศร์ 7 ไป
ตรงมาถึงสถานี MRT ศูนย์ราชการ เราจะชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าซอยรัตนาธิเบศร์ 10 ที่เป็นส่วนของ Sales Office โครงการ
ภายในซอยก็จะดูดีกว่าซอยรัตนาธิเบศร์ 7 หน่อยนึงแม้จะเป็นซอยตัน มีรถจอดสองข้างทางมากกว่า ด้านในมีคอนโด Low Rise เยอะกว่า มีการจับจองพื้นที่กันเรียบร้อย
ตรงเข้ามาประมาณ 80 เมตรก็จะเห็นป้ายโครงการอยู่ด้านซ้ายมือบนตู้คอนเทนเนอร์
ทางฝั่งตรงข้ามขวามือจะเป็นโครงการคอนโด Low Rise ตึกแรกของแบรนด์ The Connexion ที่แบบจะคล้ายมากกับโครงการ The Connexion 2 ที่เราจะพาไปชมห้องตัวอย่าง
ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นสำนักงานขายของ The Connexion 2 มีพื้นที่จอดรถ และมีพื้นที่สำนักงานด้านในพร้อมห้องตัวอย่าง
ส่วนด้านหนัาของสำนักงานขาย
มาดูรอบๆโครงการกันหน่อยนะคะ ด้วยความที่ที่ตั้งอยู่ชานเมือง ทำให้สิ่งปลูกสร้างใหญ่ๆมีไม่มากนัก นอกจากศูนย์การค้า และสถานที่ราชการ ส่วนใหญ่จะเป็นที่พักอาศัยทั้งแบบส่วนตัวและแบบจัดสรร รวมถึงอาคารสำนักงานขนาดเล็ก ทิศเหนือของโครงการเป็นซอยรัตนาธิเบศร์ 7 รถวิ่งสวนกันได้ 2 เลนแบบเบียดนิดหน่อย และมีทางที่เชื่อมออกไปยังซอยเรวดี 17 ที่เราสามารถเข้าออกได้ด้วย ทิศตะวันออกเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ที่มีทางเข้าอยู่ฝั่งซ้ายตอนเข้าโครงการ ตัวบ้านจะอยู่ค่อนมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนทิศใต้เป็นคลองที่พาดยาว หลังคลองเป็นพื้นที่ว่างเปล่าเช่นเดียวกับฝั่งตะวันตกของแปลงที่ดิน วิวระยะประชิดยังไม่มีอะไรบังเต็มๆ แต่ในอนาคตก็ยังไม่แน่นอน เพราะพื้นที่นี้อยู่ในระยะเดินสบายๆไปยังสถานีรถไฟฟ้า MRT
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- ศูนย์ราชการนนทบุรี ประมาณ 480 เมตร (ระยะเดิน)
- อุทยานมกุฏสราญรมย์ ประมาณ 650 เมตร (ระยะเดิน)
- Big C รัตนาธิเบศร์ ประมาณ 950 เมตร (ระยะเดิน)
- Central รัตนาธิเบศร์ ประมาณ 3.3 กิโลเมตร
- โรงแรมริชมอนต์ ประมาณ 4.6 กิโลเมตร
- Esplanade งามวงศ์วาน-แคราย และ Tesco Lotus รัตนาธิเบศร์ ประมาณ 6.3 กิโลเมตร
- โรงเรียน SBAC ประมาณ 6.5 กิโลเมตร
- จุดขึ้น-ลง ทางด่วนศรีรัช ประมาณ 7.3 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลศรีธัญญา ประมาณ 7.8 กิโลเมตร
- กระทรวงสาธารณสุขนนทบุรี ประมาณ 8.3 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลนนทเวช ประมาณ 8.6 กิโลเมตร
- The Mall งามวงศ์วาน ประมาณ 8.8 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประมาณ 12 กิโลเมตร
ภาพจำลองภายนอกของโครงการ The Connexion 2 รัตนาธิเบศร์ คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ทั้งหมด 117 ยูนิต ตัวอาคารเป็นรูปตัว I ธรรมดา หันหน้าโครงการออกซอยรัตนาธิเบศร์ 7 ตัวอาคารใช้โทนสีขาว-น้ำตาลตกแต่ง มีการเล่นตรงตามแนวตึกบ้าง ชั้น 1 เป็นชั้นจอดรถ เร่ิมมีส่วนของห้องพักที่ชั้น 2 ที่มีห้องฟิตเนสและห้องสมุดอยู่อย่างละห้องเล็กๆ ตั้งแต่ชั้น 3 ไปจนถึงชั้น 8 จะเป็นห้องพักล้วน รอบๆตัวอาคารเหลือพื้นที่ไม่มากนัก ตามปกติของคอนโด Low Rise ทำให้ส่วน Landscape หน้าโครงการพื้นที่รอบๆเหลือพื้นที่สีเขียวไม่มาก
เร่ิมกันที่ผังชั้น 1 จากทางเข้าโครงการ The Connexion 2 รัตนาธิเบศร์ เข้าได้จากถนนรัตนาธิเบศร์ เข้าซอย 7 หรือจะจากถนนเรวดี เข้าซอย 17 แต่ทั้งสองทางก็จะต้องมาเชื่อมที่ท้ายซอยรัตนาธิเบศร์ 7 อยู่ดีซึ่งจะเป็นทางตรงเข้ามาถึงที่จอดรถพอดี ตัวแปลที่ดินเป็นรูปตัวสี่เหลื่อมผืนผ้า รูปทรงอาคารสร้างอยู่ตรงกลางแปลงที่ดินเป็นรูปตัว I ธรรมดา เข้ามาจะเจอพื้นที่จอดรถในซองอยู่สองฝั่งซ้าย-ขวา โดยมีที่จอดรถประมาณ 27 คันคิดเป็น 23% รวมจอดซ้อนคัน 33 คัน คิดเป็น 29% มีโถงทางเข้าซึ่งต่อไปยังโถงลิฟท์อยู่ทางซ้ายมือ ข้างๆมีห้องนิติบุคคล, ห้องไฟฟ้า และห้องปั้มน้ำ โดนมีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ทำให้อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการอยู่ที่ 58 : 1 และบันไดหนีไฟ 2 จุด คือภายในพื้นที่ข้างลิฟท์ 1 จุด และที่จอดรถระหว่างซองจอดรถอีก 1 จุด
ตั้งแต่ชั้น 3-8 เป็นห้องพักล้วนๆ มีห้องพักทั้งหมด 17 ห้อง เป็นจำนวนที่มากที่สุดในโครงการ แต่ละห้องจะเป็นห้องแบบเดียวกัน ต่างกันที่แบบ Mirror ให้ห้องน้ำอยู่ข้างๆกัน ง่ายต่อการก่อสร้างและซ่อมแซมระบบน้ำ ตัวลิฟท์จะอยู่ค่อนไปทางหน้าโครงการ ทำให้คนที่อยู่ฝั่งหน้าโครงการเข้าถึงได้มากกว่า แต่ห้องที่อยู่หลังโครงการก็จะเดินไม่ไกลกว่ากันมาก แต่ทางเดินตรงกลางจะค่อนข้างมืดหน่อย เพราะว่ามีบันไดหนีไฟอยู่ที่สุดทางเดิน ทำให้ไม่มีช่องแสง
ส่วนหน้าตึกของคอนโด The Connexion 2 ที่หันหน้าหาซอยรัตนาธิเบศร์ 7 จะมีทางเข้า-ออกที่จอดรถตรงกับซอยพอดีเป๊ะ โดยจะมีป้ายชื่อโครงการอยู่ฝั่งขวามือพร้อมการจัด Landscape เล็กๆ บนชั้น 2 ส่วนหน้าโครงการฝั่งตะวันตกก็เป็นที่ตั้งของ Facilities ส่วนกลางอย่างห้องฟิตเนสและถัดเข้าไปเป็นห้องสมุด
ภาพบรรยากาศภายในโครงการเป็นภาพถ่ายจากคอนโด The Connexion ตึกแรกที่สร้างเสร็จแล้ว แบบคล้ายกันจึงนำภาพจริงมาให้ชมกันนะคะ โถงทางเข้าลิฟท์ต่อจากพื้นที่จอดรถเป็นจุดแปะบอร์ดประชาสัมพันธ์และเคาท์เตอร์ต้อนรับ ถ้าจะมีการวางชุดโซฟาให้นั่งพักสักหน่อยก็น่าจะดีนะคะ
รอบตึกโครงการชั้น 1 จะมีพื้นที่เหลือเล็กน้อย จัดเป็น Landscape และพื้นที่นั่งกลางแจ้ง พื้นบางส่วนก็ปูเพื่อรองรับน้ำฝน
ตู้จดหมายอยู่ภายในโถงทางเข้า เรียงกันไปเป็นแถบและสลับสีให้เห็นชัดเจน รวมถึงตัวเลขใหญ่บิ๊กดี
ห้องฟิตเนสอยู่ภายในพื้นที่ขนาด 28 ตารางเมตร บนชั้น 2 อยู่ส่วนหน้าของอาคาร ภายในมีเครื่องออกกำลังกายประมาณ 6 เครื่อง แต่ภายในห้องจริงจะไม่ใช่วิวนี้ แต่เป็นส่วนหน้าของโครงการ
ห้องสมุดคือห้องที่อยู่ข้างกันกับห้องฟิตเนส บนชั้น 2 ระหว่างโถงลิฟท์ ภายในมีชั้นวางหนังสือบนผนังยาวๆ และโต๊ะกลางใหญ่พร้อมเก้าอี้รอบๆ
วิวจากทิศตะวันตกของคอนโด มองไปยังถนนรัตนาธิเบศร์ที่มีสถานีรถไฟฟ้า MRT ศูนย์ราชการอยู่หน้าซอย พื้นที่รอบด้านส่วนใหญ่เป็นพื้นที่พักอาศัยสูง 1-2 ชั้นและพื้นที่ว่างเปล่า
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- โถงลิฟท์
- ห้องออกกำลังกาย ขนาด 28 ตารางเมตร บนชั้น 2 ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 5 เครื่อง
- ห้องอ่านหนังสือ ขนาด 28 ตารางเมตร บนชั้น 2
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ 58 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 27 คันคิดเป็น 23% รวมจอดซ้อนคัน 33 คัน คิดเป็น 29%
- ระบบ CCTV / Access Card เข้าตัวตึก
ห้องตัวอย่างโครงการนี้มีแบบเดียวนะคะ คือพื้นที่ห้องขนาด 28 ตารางเมตร รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบ แบ่งพื้นที่ใช้สอยออกเป็น 4 ส่วนคือ ห้องนั่งเล่น, ห้องน้ำ, ห้องนอน และห้องครัวที่ออกไปยังระเบียง เมื่อเข้าสู่ตัวห้องจะเจอห้องนั่งเล่นอยู่ทางขวามือ มีชุดโซฟาและโต๊ะกลางและชั้นวางทีวีอยู่ชิดฝั่งทางเข้า และประตูทางเข้าห้องน้ำที่สามารถเข้าได้จากทางห้องนั่งเล่น ส่วนครัวจะอยู่ลึกเข้าไปทางด้านซ้ายมือต่อเนื่องไปกับส่วนนั่งเล่น ไม่มีประตูบานเลื่อนกั้น ด้านในมีเคาท์เตอร์ครัวอยู่ฝั่งซ้ายและเว้นที่สำหรับตู้เย็นอยู่ริมประตูบานเลื่อนออกไปยังระเบียงด้านนอก ประตูทางเข้าห้องนอนที่เป็นบานเลื่อนอยู่ตรงกับประตูทางเข้าห้องชุด เข้าไปจะมีเตียงนอนและตู้เสื้อผ้า ไม่มีระเบียง การจัดผังห้องให้ห้องน้ำอยู่ส่วนด้านในของอาคาร คือไม่มีช่องระบายอากาศ ทำให้ต้องพึ่งพาระบบของอาคารล้วนๆ แต่มีการวางห้องครัวอยู่ใกล้ระเบียงทำให้ระบายอากาศและกลิ่นไปได้ระดับหนึ่ง
เริ่มจากทางเข้าห้องนะคะ ประตูเป็นบานเปิดพร้อมวงกบ ขนาด 0.8 x 2.1 เมตร ประตูมือจับแบบก้านโยก แต่นี่เป็นห้องตัวอย่าง เลยไม่ได้ติดตัวบานมาให้ดู
จากประตูห้องชุดมองเข้าไปจะเห็นส่วนห้องนั่งเล่นขนาด 2.6 x 3.6 เมตร ส่วนที่ใกล้ที่สุดทางขวามือ คือชุดโซฟาและโต๊ะสี่เหลี่ยมตรงกลางตั้งอยู่กลางห้อง ฝั่งตรงข้ามคือชั้นวางทีวี ทางซ้ายจากห้องนั่งเล่นจะมีประตูห้องน้ำ ลึกเข้าไปหน่อยทางซ้ายจะเป็นส่วนต่อไปยังห้องครัว และประตูเลื่อนออกไปยังพื้นที่ระเบียงด้านนอก บานประตูเลื่อน 2 ตอนสูงจากพื้นถึงเพดานคือ 2.4 เมตร เป็นที่กั้นก่อนเข้าไปถึงห้องนอนด้านใน พื้นห้องคือไม้สำเร็จรูปผิวลามิเนต หนา 8 มิลลิเมตร
การจัดวางเฟอร์นิเจอร์สามารถชุดโซฟาที่ยาวกว่านี้ได้หน่อย ในรูปคือโซฟาขนาดพื้นที่นั่งประมาณ 1.3 เมตร นั่งได้ประมาณ 2 คน และมีโต๊ะกลางวางอยู่ด้านหน้า แต่เงื่อนไขการขายของโครงการนี้เป็นแบบ Fully Fitted คือให้ในส่วนของห้องน้ำและห้องครัวตามห้องตัวอย่าง แต่เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งส่วนอื่นๆผู้ซื้อจะต้องหามาจัดวางเองนะคะ ดังนั้นตัวโซฟานี้สามารถยื่นออกมาได้หน่อยพอให้ไม่บังการเข้าออกห้องนอน แต่ก็ควรจะยาวพอที่จะนอนเล่นตรงพื้นที่นั่งเล่นได้สบายๆ
ระยะดูทีวีของห้องนั่งเล่นอยู่ที่ประมาณ 3 เมตร ก็อยู่ในระยะไกลพอตัว แต่ภายในห้องจะไม่มีการจัดวางโต๊ะทานข้าวและเก้าอี้ให้ดูเหมือนโครงการอื่นๆ เราสามารถย่นระยะการดูทีวีให้น้อยลง เพื่อที่จะวางโต๊ะ-เก้าอี้ทานข้าวหลังชุดโซฟาได้ หรือบางครอบครัวชอบทานข้าวบนโซฟาแล้วดูทีวีไปด้วยกันนี้ก็ไม่ว่ากันค่ะ
ผนังทางเข้าจะเป็นส่วนทีวีติดผนัง ด้านล่างเป็นลิ้นชักแบบลอย และด้านบนก็เป็นแบบตู้เก็บของติดผนังแบบที่มีทั้งบานปิดและไม่มี ข้างประตูทางเข้าห้องชุดทางขวามือ สามารถจัดตู้เก็บรองเท้าได้ตู้เล็กๆตู้หนึ่ง ผนังของห้องจริงก็จะเป็นผนังฉาบเรียบทาสีทั่วไป ไม่มี Wallpaper ลายต่างๆและกระจกตกแต่งเหมือนในห้องตัวอย่างนี้
มองจากมุมทีวีเข้ามาภายในห้องชุดกันบ้าง ทางซ้ายมือจะเป็นบานประตูห้องน้ำที่สามารถเข้าได้จากส่วนห้องนั่งเล่น บางท่านชอบแบบนี้เพราะเวลาแขกไปใครมาจะได้ไม่ต้องผ่านห้องนอน รบกวนความเป็นส่วนตัว แต่สำหรับบางคนก็จะบอกว่าไม่ค่อยสะดวกเท่าไรเพราะไม่สามารถเข้าได้จากห้องนอนโดยตรง ตรงกลางเป็นทางเชื่อมไปยังห้องครัวที่จะมีโต๊ะทำงานอยู่ก่อน แล้วส่วนพื้นที่เป็นกระเบื้องถึงจะเป็นส่วนครัว ประตูทางขวาที่ตรงกับห้องชุดก็คือประตูบานเลื่อนเข้าไปยังห้องนอน
มาต่อกันที่ห้องน้ำที่เข้าได้จากห้องนั่งเล่น ประตูทางเข้าสูง 2.1 เมตร มีธรณีปูเป็นกระเบื้องสีอ่อนขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ลายเดียวกับภายในห้องน้ำกั้นขึ้นมาสูงประมาณ 6 เซนติเมตรเลย ไร้ข้อกังขา
ห้องน้ำขนาด 1.4 x 2.1 เมตร ด้านในจัดวางพื้นที่ใช้งานเป็น 3 ส่วนคือ อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกบานกว้าง, โถสุขภัณฑ์อยู่ตรงกลาง และพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำ มาพร้อมกับฉากกั้นสูง 2 เมตรที่ได้มาพร้อมกับห้องน้ำด้วยเลย ผนังกรุด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้แบบด้านสีอ่อน ขนาด 30 x 30 เซนติเมตร เช่นเดียวกับพื้น
ส่วนอ่างล้างหน้าแบบสี่เหลื่ยม จาก HA FELE มีการก่อปูนออกมาด้านข้างเพื่อนเป็นพื้นที่วางข้าวของเครื่องใช้ในห้องน้ำนิดหน่อย แต่ไม่มีการก่อปูนเป็นตู้เก็บของภายในห้องน้ำให้ที่ด้านล่าง
ถัดมาทางด้านซ้ายเป็นโถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระจาก HA FELE เช่นกัน
ด้านในคือฉากกั้นอาบน้ำที่กั้นพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำ ประตูเป็นบานเลื่อน 3 ตอน ทำให้เปิดได้กว้างกว่า
พื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำขนาด 0.8 x 1.2 เมตร ที่กั้นมีการก่อปูนยกขึ้นมาเลย รวมความสูงตัวกรอบบานเลื่อนด้วยจะอยู่ที่ 13 เซนติเมตร
ได้ฝักบัวเดี่ยวๆ ไม่มีที่วางสบู่หรือชั้นวางของมาให้ ตัวผนังที่ดูเป็นลายไม้ๆ คือจะเป็นกระเบื้องลายไม้ค่อนข้างแปลก ของจริงสีค่อนข้างเข้มที่เดียว และให้ความรู้สึกว่าจะบวมไหมนะ แต่ถ้าของจริงเป็นกระเบื้อง ก็รอดไปค่ะ
รูปร่างหัวฝักบัว
มองจากพื้นที่เปียกที่อยู่ส่วนในของห้องน้ำออกไปยังภายนอก ในพื้นที่กั้นก็ยังหมุนตัวได้นิดหน่อย แต่ก็ไม่ถึงกับกว้างขวาง
ออกมาที่ส่วนห้องนั่งเล่นกันต่อ เรามองไปยังส่วนก่อนจะถึงส่วนครัว คือจะมีพื้นที่ที่ปูพื้นลามิเนตเผื่อไว้เป็นส่วนทำงาน คือโต๊ะแนวชิดผนังเป็นเคาท์เตอร์ และเก้าอี้มีพนัก ส่วนด้านบนก็จะเป็นชั้นเก็บของและกระจกติดผนัง ส่วนนี้จะไม่ได้มาด้วยกับตัวห้อง แต่จะเว้นพื้นที่ไว้ให้ ใครที่ต้องการพื้นที่ทำงานก็สามารถใช้โมเดลการจัดวางแบบนี้ได้ หรือจะปรับเปลี่ยนเป็นใส่โต๊ะทานข้าวใกล้ครัวก็ได้เช่นเดียวกัน
พื้นที่ส่วนทำงานก็จะกว้างประมาณ 1.2 เมตร ถ้าจะให้ความลึกของโต๊ะเท่าๆกับเคาท์เตอร์ครัวเพื่อความสวยงามก็จะต้องหาโต๊ะที่ลึกราวๆ 60 เซนติเมตร จะทำได้ฟิตเข้าพื้นที่ได้พอดี
ด้านบนนอกจากจะเป็นช่องเก็บของแล้วก็ยังเป็นตำแหน่งแอร์ของพื้นที่ห้องนั่งเล่น รวมถึงพื้นที่ส่วนครัวเลยด้วย ก็ถือว่าทำงานหนักใช้ได้
ต่อมาเป็นพื้นที่ครัวขนาด 1.40 x 1.85 เมตร ที่ต่อออกจากส่วนโต๊ะทำงานไปเลย ไม่มีการกั้นเป็นครัวปิดโดยใช้ประตูบานเลื่อน ทำให้อาจจะทำอาหารได้นิดหน่อย มีจัดเต็มบ้างเป็นครั้งคราว เพราะน่าจะมีปัญหาเรื่องกลิ่นติดค้างอยู่บ้าง แต่อยู่ข้างระเบียงก็ทำให้สามารถเปิดออกระบายอากาศได้พอสมควร ทำให้ชุดครัวที่ได้ในเงื่อนไขการขายก็จะได้ตามที่เห็นนี้เลย
พื้นส่วนครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีอ่อนขนาด 60 x 60 เซนติเมตร พอเปิดประตูเคาท์เตอร์ด้านล่างแล้วจะเหลือพื้นที่ไม่มากนัก
เคาท์เตอร์ล่างลึก 60 เซนติเมตร มาพร้อมพื้นที่ประกอบอาหารทางซ้ายและอ่างล้างจาน 1 หลุมทางขวา ด้านล่างมีลิ้นชักและตู้
ส่วนด้านบนก็จะเป็นพื้นที่เก็บอาหารแห้งแบบไม่มีบานปิด ไมโครเวฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่รวมอยู่ในรายการของโครงการนะคะ
ทางขวาเป็นพื้นที่ว่างให้วางตู้เย็นได้พอดี ขนาด 60 x 70 เซนติเมตร
ทางขวามือของที่วางตู้เย็นก็เป็นตำแหน่งบานประตูเลื่อนแบบ 2 ตอน บานกระจกกรอบอลูมิเนียม สูง 2 เมตร เป็นทางออกไปยังระเบียงด้านนอก
กรอบประตูเป็นสีเงินธรรมดา ไม่ได้ทาทับ มีตัวล็อกจากด้านในห้องครัว
กรอบบานเลื่อนวางอยู่บนปูนก่อ ความสูงรวมกรอบอลูมิเนียมแล้วอยู่ที่ 13 เซนติเมตร ระเบียงด้านนอกขนาด 1.1 x 1.4 เมตร พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้แบบด้านสีอ่อนขนาด 30 x 30 เซนติเมตร
ราวระเบียงเป็นแบบซี่โปร่งๆสูงประมาณ 1 เมตร
ด้านซ้ายจัดไว้เป็นพื้นที่วางเครื่องซักผ้าพร้อมปลั๊กแบบมีกล่องกันน้ำ และมีก๊อกน้ำอยูฝั่งริมระเบียงส่วนด้านขวาที่เหลือขนาดไม่เกิน 1 ตารางเมตรเป็นที่ยืนและตากผ้า มากกว่าจะเป็นพื้นที่สำหรับการชมวิว
พื้นที่เหนือเครื่องซักผ้าคือที่วาง Compressor แอร์ ที่มี Grill ปรับทิศทางลมร้อนให้เฉียงออกนอกอาคารธรรมดา
เงยหน้าขึ้นไปดูด้านบนของระเบียงก็จะเจอกับไฟสนามที่ใช้เป็นแบบหลอดตะเกียบแบบมีฝาครอบ และส่วนผนังเหนือกรอบประตูเลื่อนก็มีการติดส่วนระบายอากาศไว้ เพื่อช่วยในเรื่องการถ่ายเทอากาศโดยเฉพาะเวลาทำครัว
มองจากส่วนระเบียงด้านนอกเข้าไปยังพื้นที่ครัวด้านใน
ต่อกันที่ห้องสุดท้ายคือห้องนอน เป็นประตูบานเลื่อนแบบ 2 ตอน สูง 2 เมตร บานกระจกกรอบอลูมิเนียม แต่จะดีกว่าถ้าเป็นประตูเลื่อนแบบ 3 ตอน เพราะจะทำให้เวลาเปิดไม่เกะกะทางเดินมากนัก
กรอบประตูเลื่อนก็จะเหมือนจุดอื่นๆคือสีเงินธรรมดา ตัวกรอบฝั่งลงไปในพื้น แต่เวลาเดินก็จะรู้สึกได้ถึงความขรุขระเล็กๆ พื้นด้านในก็ใช้แบบเดียวกับส่วนนั่งเล่นคือลามิเนต
ภายในห้องนอนขนาด 2.7 x 3.0 เมตร ด้านในจัดวางเตียงขนาด 5 ฟุต ไว้ชิดผนังทางด้านขวา มีตู้เสื้อผ้าอยู่ด้านข้าง ด้านในมีช่องแสงแบบบานใหญ่ แต่มีการวางหน้าต่างบานกระทุ้งอยู่หนึ่งบานตรงกลาง ทำให้ช่องเปิดดูอึดอัด เนื่องจากปกติจะเป็นช่องเปิดบานกระทุ้งอยู่สองฝั่งข้างๆ ตรงกลางเป็นบาน Fix ขนาดใหญ่หน่อย ทำให้ห้องดูสบายตากว่า
การวางเตียง 5 ฟุตภายในห้องนอน ทำให้เหลือพื้นที่ทางฝั่งขวาที่ 70 เซนติเมตรในส่วนข้างตู้เสื่อผ้า และ 1.35 เมตรในส่วนทางเข้า
ตู้เสื่อผ้าเป็นแบบบานเลื่อนเปิดได้ 2 ด้าน หน้าบานเป็นกระจก ด้านในแบ่งช่องออกมาทั้งในส่วนการแขวนเสื้อ แขวนกางเกง และเป็นพวกลิ้นชักวางพับธรรมดา ข้างๆก็จะเป็นโต๊ะข้างเตียงขนาดพอดีๆ วางของได้นิดหน่อย
ปลายเตียงเหลือความกว้าง 60 เซนติเมตร ถ้าจะติดทีวีที่ส่วนผนังระยะดูทีวีก็จะอยู่ที่ประมาณ 2.4 เมตร
เตียงเองก็วางเกือบจะชิดริมส่วนหน้าต่าง เหลือพื้นที่ประมาณ 10 เซนติเมตร พอจะให้ม่านได้เปิด-ปิดนิดหน่อย
หัวเตียงก็มีการตกแต่งทั่วไป แต่จะเห็นว่าผนังไม่เท่ากัน ดังนั้นอาจจะต้องหาวัสดุมาปิดทำเป็นหัวเตียงดังรูป ไม่งั้นก็จะเป็นช่องแคบๆที่ทำความสะอาดได้ยาก
ช่องแสงห้องนอนเป็นแบบบานขนาดไม่ใหญ่มาก ต่อกันด้วยกรอบอลูมิเนียมเข้ามุม มีบานกระทุ้งหนึ่งบานตรงกลาง สำหรับการระบายอากาศภายในห้องนอน นอกนั้นจะเป็นบาน Fix ทั้งหมด สามารถติดราวผ้าม่านไว้ที่สุดความสูงฝ้าได้เลย
หน้าต่างบานกระทุ้งภายในห้องนอน
ตำแหน่งแอร์อยู่ที่ปลายเตียงหันเข้าเตียงเต็มๆ จุดนี้คงเปลี่ยนไม่ได้ แต่ก็จะดีกว่าถ้าไว้ข้างเตียงส่วนเหนือประตูบานเลื่อนทางเข้า เพื่อจะได้พัดเข้าด้านข้างเวลานอน
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 12 May 2015
- 1 ห้องนอน ชั้น 2 พื้นที่ 28 ตร.ม. ราคา 1.35 ล้านบาท หรือ 48,200 บาท/ตร.ม.
- 1 ห้องนอน ชั้น 2 ห้องมุม พื้นที่ 28 ตร.ม. ราคา 1.37 ล้านบาท หรือ 48,900 บาท/ตร.ม.
- 1 ห้องนอน ชั้น 4 พื้นที่ 28 ตร.ม. ราคา 1.50 ล้านบาท หรือ 53,500 บาท/ตร.ม.
- 1 ห้องนอน ชั้น 6 พื้นที่ 28 ตร.ม. ราคา 1.56 ล้านบาท หรือ 55,700 บาท/ตร.ม.
- 1 ห้องนอน ชั้น 8 ห้องมุม พื้นที่ 28 ตร.ม. ราคา 1.66 ล้านบาท หรือ 59,200 บาท/ตร.ม.
- โปรโมชั่น ลงทะเบียนในเวปไซต์ รับส่วนลด 10,000 บาท
- Fully Fitted
- เพดานสูง 2.4 เมตร
- Kitchen & Sink
- จอง 10,000 บาท
- ทำสัญญาภายใน 15 วันหลังจากวันจอง พร้อมชำระรวบเงินดาวน์ 3 งวด รวมเป็นเงิน 22,500 บาท เพราะเร่ิมผ่อนดาวน์ตั้งแต่เดือนมีนาคม
- ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 15 งวด ตั้งแต่เดือนมีนาคม
- ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร ผู้ซื้อชำระครั้งเดียวในวันโอนกรรมสิทธิ์
- ค่าส่วนกลาง 45 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน ผู้ซื้อชำระล่วงหน้า 1 ปีในวันโอนกรรมสิทธิ์
- ค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์และอากร ผู้ซื้อและผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่งหนึ่ง (2% ของราคาประเมิน)
- ค่าธรรมเนียมการขอใช้ไฟฟ้า ผู้ซื้อชำระในวันโอนกรรมสิทธิ์ ประมาณ 2,020 บาท
- ค่าไฟฟ้ารายเดือน ตามอัตราการไฟฟ้าเรียกเก็บ
- ค่าประปารายเดือน หน่วยละ 20 บาท และมีค่าบำรุงรักษาน้ำประปา 30 บาทต่อเดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
The Connexion 2 รัตนาธิเบศร์ เป็นโครงการที่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า Interchange สายสีม่วง-ชมพู-น้ำตาล สถานีศูนย์ราชการ เป็นการเชื่อม 2 ศูนย์ราชการ นนทบุรีและแจ้งวัฒนะ ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินเท้าจะมีที่ 7-11, เจียงลูกชิ้นปลา และ BigC ตรงถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ ที่คึกคักหน่อยจะเป็นช่วงซอยเลขคี่ต้นๆ เพราะตั้งแต่ในซอยเข้าไปไม่มีร้านอาหารหรือร้านสะดวกซื้อ แต่ในอนาคตน่าจะมีมาเปิดใกล้ๆบ้างเพราะใกล้กับทางขึ้น-ลงสถานี มีสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านเดี่ยวพักอาศัยเกือบทั้งหมด มีบ้างที่เป็นร้านอาหารเล็กๆ พื้นที่ว่างเปล่า ส่วนห้างสรรพสินค้าในระยะ 3 กิโลเมตร ก็มีทั้ง Big C, Central, Esplanade, Tesco Lotus แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ถนนรัตนธิเบศร์ฝั่งซอยเลขคู่มุ่งหน้างามวงศ์วาน ในอนาคตน่าจะมีเพิ่มอีกหลายแห่งเมื่อมีการเปิดใช้งานของรถไฟฟ้า ที่จะมีการเปิดทดลองใช้สายสีม่วงในปลายปีนี้ ทำให้มีความคึกคักและปริมาณรถขึ้นไปอีก นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับสวนสาธารณขนาดใหญ่ะระยะประมาณ 2 กิโลเมตร
การเดินทางโดยใช้รถ โครงการตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเข้า-ออกได้ทั้งจากถนนรัตนาธิเบศร์ และถนนเรวดีที่เข้าจากถนนหลักติวานนท์ได้ ถือว่าดี เพราะไม่ทุกซอยของซอยรัตนาธิเบศร์ฝั่งเลขคี่จะต่อกับถนนเรวดี ถือว่าเข้าได้สองทาง มีทางลัด ลดเวลาเดินทาง ถ้าเข้าจากถนนรัตนาธิเบศร์ก็เลี้ยวซ้ายเข้าที่ซอยรัตนาธิเบศร์ 7 ตรงไปอีก 150 เมตร แปลงที่ดินจะอยู่ด้านหน้า หรือเข้าจากถนนเรวดีจะเข้ามาลึกหน่อยที่ซอย 17 จากต้นถนนจะเลี้ยวซ้ายเข้าไป 430 เมตร และเลี้ยวขวาอีก 60 เมตร การเดินทางสามารถวนได้เป็นวงกลม โดยเฉพาะความสามารถในส่วนการเลี้ยวไปแยกแครายหรืองามวงศ์วาน เพราะซอยรัตนาธิเบศร์อยู่ก่อนทางขึ้นสะพานกลับรถอันแรกพอดี ทำให้ไม่ต้องเลยไปกลับที่หน้า Central ส่วนจุดขึ้นทางด่วนศรีรัชจะห่างจากโครงการประมาณ 7 กิโลเมตร หรือจะวิ่งตรงไปใช้เส้นวิภาวดีก็ได้เส้นนั้นก็มีทางด่วนอีก ส่วนถ้าออกนอกเมืองไปอีกก็ขึ้นเหนือไปปทุมธานีโดยใช้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนติวานนท์ ส่วนถ้าจะไปบางใหญ่ บางบัวทองก็ใช้เส้นรัตนาธิเบศร์ได้เลย ถึงจะไปได้หลายเส้นทางแต่ก็มีปัญหาคือการจราจรหนาแน่นมากยิ่งในช่วงเวลาเร่งด่วน โดยเฉพาะแยกแคราย
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ จากโครงการถึงทางขึ้น-ลงสถานีศูนย์ราชการหน้าปากซอยอยู่ในระยะเดินได้ 150 เมตรถือว่าเป็นจุดแข็งหนึ่งของโครงการ แต่ในซอยไม่มีทางเท้า ทำให้ไม่ค่อยปลอดภัย ยังดีที่ในซอยไม่ได้มีปริมาณรถเข้า-ออกมากนัก แต่ก็จะมีพี่วินวิ่งอยู่เรื่อยๆที่หน้าปากซอย ส่วนป้ายรถเมล์จะอยู่หน้าสถานีตำรวจ และหน้า BigC อีกเช่นกัน ถ้าจะขึ้นรถเมล์ไปงามวงศ์วานก็ขึ้นสะพานลอย หรือไม่ก็ขึ้นทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าไปลงอีกด้านหนึ่ง ตรงนั้นจะมีแท๊กซี่, รถเมล์และรถตู้วิ่งผ่านหลายสายทั้งไปบางใหญ่ บางบัวทอง ปากเกร็ด แจ้งวัฒนะ เมืองทอง ท่าน้ำนนท์ งามวงศ์วาน ม.เกษตร
วัสดุของโครงการตามราคาและรายการโปรโมชั่นวันที่เข้าไปรีวิวเป็นแบบ Fully Fitted คือให้มาส่วนครัวและในห้องน้ำทั้งหมด พื้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็นลามิเนตลายไม้สีน้ำตาล พื้นส่วนครัวเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร พื้นห้องน้ำและส่วนระเบียงด้านนอกเป็นกระเบื้องขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ฝ้าสูง 2.4 เมตร ผนังเป็นฉาบปูนเรียบ ทาสีควันบุหรี ไม่มี Wallpaper เคาท์เตอร์ครัวไม่ใหญ่มาก มีพื้นที่เตรียมอาหารและอ่างล้างจานหลุมเดียว อุปกรณ์สุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ HA FELE ในขณะที่โครงการอื่นใกล้เคียงก็มีจัดโปรโมชั่นให้แบบ Fully Furnished พร้อมเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในราคาต่ำกว่า
การออกแบบตัวอาคารรูปตัว I เป็นไปตามรูปร่างพื้นที่แปลง สร้างอาคารเต็มพื้นที่ หน้าตาอาคารเป็นแบบปกติ ไม่หวือหวา ใช้โทนสีขาว-น้ำตาลตกแต่งอาคารภายนอก แปลนห้องขนาด 28 ตารางเมตร 1 ห้องนอน มีแบบเดียวทั้งอาคาร แต่จากห้องตัวอย่างถือว่ากั้นพื้นที่เป็นสัดส่วน และออกแบบมาให้มีพื้นที่พอกับการอยู่อาศัยจริง แต่ก็ไม่ได้มีบานเลื่อนกั้นห้องครัวแยกจากห้องอื่นๆ ยากต่อการทำอาหาร และไม่ได้จัดพื้นที่ทานข้าวให้ดูในห้องตัวอย่าง อาจจะต้องเปลี่ยนเอาโต๊ะทำงานออกและแทนด้วยชุดโต๊ะ-เก้าอี้ทานเข้าว และในส่วนที่เป็นบานเปิดห้องนอนก็วางบานกระทุ้งไว้ตรงกลาง ประกบด้วยบาน Fix สองด้านทำให้ดูอึดอีด จะดีกว่าถ้าเขยิบบานกระทุ้งไว้ด้านข้าง ให้ตรงกลางเว้นเป็นกระจกบานใหญ่ จะดูสบายตากว่า
สาธารณูปโภคถือว่าน้อยถ้าเทียบกับมาตรฐานของคอนโด Low Rise เข้ามาจะเจอพื้นที่จอดรถ ประมาณ 27 คันคิดเป็น 23% รวมจอดซ้อนคัน 33 คัน คิดเป็น 29% แต่ถือว่าโครงการอยู่ในระยะเดินใกล้รถไฟฟ้า ชั้น 1 มีโถงทางเข้าไปยังลิฟท์โดยสาร 2 ตัวปกติ สร้างอาคารเต็มพื้นที่ทำให้เหลือพื้นที่รอบอาคารเป็นพื้นที่สีเขียวน้อย ไม่ค่อยมีต้นไม้ใหญ่ ส่วนกลางหลักๆจะอยู่ที่ชั้น 2 แบ่งห้องพักออก 2 ห้องขนาดห้องละ 28 ตารางเมตรเป็นห้องฟิตเนตและห้องสมุดยังดีที่อยู่ส่วนหน้าของอาคาร ไม่มีสระว่ายน้ำ ไม่มีสวนหย่อมจะอยู่บนดาดฟ้า ในค่าส่วนกลาง 45 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือนถือว่าสูงมาก เพราะเก็บในระดับที่ต้องมีสระว่ายน้ำและส่วนหย่อมหรือพื้นที่สีเขียวที่เยอะกว่านี้
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 48,200 บาทต่อตารางเมตร, 12 May 2015
- ทำเล 8.75/10 – เปรียบเทียบกับราคาของโครงการในละแวกเดียวกัน ถือว่าใกล้สถานีรถไฟฟ้าและถนนใหญ่มากกว่า ทะลุออกซอยเรวดี 17 ได้
- เดินทางด้วยรถ 8.50/10 – สะดวก ใกล้ถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ใกล้สี่แยกแคราย แต่รถติดและที่จอดรถน้อยเกินไป
- ไม่ใช้รถ 9.00/10 – ใกล้ทางขึ้น-ลงสถานีศูนย์ราชการที่อนาคตจะเป็นสถานี interchange 3สาย ในระยะเดินออกจากซอย 150 เมตรถึงทางขึ้นสถานี และไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าศรีพรสวรรค์
- วัสดุ 7.00/10 – Fully Fitted ได้แค่ชุดครัวและห้องน้ำ
- แบบ 7.50/10 – มีแบบห้องแบบเดียวคือ 1 ห้องนอน ขนาดเดียว 28 ตารางเมตร แต่จัดพื้นที่ได้ดี
- สาธารณูปโภค 7.00/10 – มีฟิตเนสและห้องสมุด ไม่มีสระว่ายน้ำ
- SUPER ECONOMY CLASS
- 8.10 / 10.00
BOTTOM LINE
The Connexion 2 รัตนาธิเบศร์ เป็นโครงการที่เหมาะกับคนที่ทำงานแถบรัตนาธิเบศร์-ติวานนท์-แจ้งวัฒนะ มีใช้รถส่วนตัวบ้าง เน้นไปทางระบบสาธารณะมากกว่า อยากได้คอนโดอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าแบบเดินได้ไม่ลำบาก ยอมอยู่สถานีที่ไกลจากตัวเมืองแต่ได้ราคาที่หยิบจับง่ายกว่า มีงบประมาณประมาณ 1,3500,000 – 1,700,000 บาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 10,000 – 14,000 บาท
ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป
สมัครสมาชิก www.thinkofliving.com พร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม คลิกที่นี่ https://thinkofliving.com/