รีวิวฉบับที่ 187 … เรากลับมาดู The Address Asoke กันบ้างหลังจากที่ตึกสร้างเสร็จสมบูรณ์ไปแล้ว คอนโดมิเนียมระดับ High Class จากค่าย AP นี้มีจุดเด่นคือใกล้ทั้ง Airport Link และ MRT ตัวหน้าตึกติดถนนใหญ่เพชรบุรีตัดใหม่ช่วงใกล้ๆคอสะพานข้ามแยกอโศก ทางที่จะเลี้ยวซ้ายไปขึ้นทางด่วนได้หรือตรงไปเข้ารัชดาก็ได้ครับ
Fact @ 10 June 2012
- The Address อโศก
- Asian Property, Plc.
- HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด 44 ชั้น 1 ตึก High Rise 574 กว่ายูนิต
- ที่ดินประมาณ 3-3-77 ไร่
- Studio, 1 Bedroom – 2 Bedrooms
- พื้นที่ใช้สอย 35.9 – 85 ตารางเมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 4 ล้านบาท (Resale 2012)
- ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 100,000 – 125,000 บาท (Resale 2012)
- www.ap-thai.com
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
โครงการ The Address อโศก ตั้งอยู่บริเวณถนนเพชรบุรีตัดใหม่และถนนกำแพงเพชร 7 ใกล้สถานี MRT เพชรบุรี และ Airport Link มักกะสัน
จากเพชรบุรีตัดใหม่วิ่งไปเรื่อยๆตรงไปทางแยกอโศกนะครับ เลยทางด่วนเพชรบุรีมาแล้ว
ด้านขวาเราจะเห็นแยกไปนานา พร้อมกับคอนโดมิเนียม The Circle 2 ตึก และฝั่งตรงข้ามของสองตึกนี้จะสร้างเป็น The Circle II
วิ่งไปอีกหน่อยจะเห็นตึกสองตึกสร้างอยู่ตรงข้ามกัน ฝั่งซ้ายคือ The Address Asoke ฝั่งขวาคือ Villa Asoke
ตรงไปที่แยกอโศกผ่านโครงการไปก่อน ตรงนี้มีจุดกลับรถอยู่ ออกจากโครงการแล้วกลับรถได้พอดี ฝั่งตรงข้ามจุดกลับรถเป็นคอนโดมิเนียมของค่าย Q.House
หากมองย้อนกลับไปทางนานาจะเป็นแบบนี้ ออกจากโครงการแล้วขึ้นสะพานไม่ทันแน่นอน
ทางที่ตรงไปยังแยกอโศก
แปลงที่ติดกันเป็นศาสนจักรของพระเยซูคริสต์
ที่แยกอโศกถ้าจะไป MRT ก็ให้เลี้ยวซ้ายไปทางแยกอโศก-ดินแดง ตรงนี้จะมีจุดขึ้นลงทางด่วนอโศก-ดินแดง
หากเลี้ยวขวาจะเข้าอโศก ที่เห็นต้นไม้ใหญ่ๆนั่นก็คือ มศว.
โผล่ MRT ออกมาตรงนี้
ดูแผนที่คร่าวๆนะครับ กับคอนโดมิเนียมในละแวกเดียวกัน 5 ตึก
- The Address
- Villa
- Supalai
- Parkland
- Q House
การเดินทางของ The Address จะสะดวกใน “ขาออก” จากโครงการ เนื่องจากสามารถออกได้ทุกทิศทาง เพชรบุรีตัดใหม่ไปพร้อมพงษ์, ไปนานา, ไปอโศก, ไปกำแพงเพชร 7, ไปพระราม 9 หรือขึ้นทางด่วนอโศก-ดินแดง ทำให้การเดินทางออกจากคอนโดที่นี่ทำได้สะดวกมาก
การเดินทาง “เข้า” โครงการจากฝั่งนานาไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไร แต่ถ้าจะมาจากฝั่ง อโศก พร้อมพงษ์ หรือพระราม 9 จะต้องอ้อมหรือกลับรถ ซึ่งเป็นจุดที่มีปัญหารถติดอยู่แล้ว และยิ่งไม่สามารถข้ามสะพานข้ามแยกอโศกได้ ต้องต่อคิวไฟแดงไปเรื่อยๆปล่อยให้รถเลื่อนไปจนถึงหน้าคอนโดมิเนียม ทำให้การเดินทาง “ขาเข้า” ทำได้ลำบากกว่าขาออกครับ
สุดท้ายระยะทางจากคอนโดถึง MRT อยู่ราวๆ 150 เมตร (ไม่ต้องข้ามถนน) ถึง Airport Link แถวๆ 500 – 600 เมตร (จากประตูหน้า) ทำให้เป็นคอนโดที่สะดวกในเรื่องการคมนาคมโดยไม่ใช้รถยนต์
แต่ว่า The Address อโศกมีประตูหลังอยู่ด้วย สามารถเข้าออกได้จากถนนกำแพงเพชร 7 ได้ ช่วยร่นระยะทางโน่นนี่นั่นไปเยอะแยะมากมาย รวมถึงระยะทางการเดินไปสถานี Airport Link ที่อยู่ตรงข้ามกับประตูหลังเลย
อย่าเข้าใจผิดนะครับว่าถาวร เพราะทาง The Address ทำสัญญาขอเชื่อมทางกับการรถไฟเอาไว้ชั่วคราว ประมาณ 20 กว่าปี พอหมดสัญญาก็ต้องมาว่ากันอีกทีว่าจะเชื่อมทางกับถนนกำแพงเพชร 7 ต่อได้ไหม
เจาะลึกตัวสินค้า
คอนโดมิเนียมที่นี่เป็น High Rise สูง 44 ชั้น ซึ่งจะค่อนข้างแออัดหน่อย อยู่ 574 ยูนิต ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคันแล้วมีประมาณ 72% หากคิดเป็นคอนโดมิเนียมที่ใกล้ MRT / Airport Link ก็ต้องบอกว่ามีที่จอดรถเพียงพอ เพราะคนส่วนหนึ่งจะเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนทั้งสองแห่ง แต่ถ้านับเป็น Luxury Class ก็ถือว่าได้แค่เกณฑ์ขั้นต่ำของโครงการระดับนี้
ผังชั้น G ของตึกนี้เป็นการวนรถรอบตึก มีส่วนที่เป็นสระน้ำตก หินเทียม ต้นไม้ใหญ่ล้อมรอบส่วนที่เป็น Lobby ทำให้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
ชั้น 2-7 เป็นชั้นที่จอดรถโดยชั้น 5-8 จะมีส่วนของห้องพักอาศัยรวมอยู่ด้วยในฝั่งหน้าตึก
ชั้น 9 เป็นชั้นของส่วนกลาง มีสระว่ายน้ำกว้างประมาณ 25 เมตร (ลองเดินๆวัดคร่าวๆดู อาจผิดพลาดเรื่องความแม่นยำเล็กน้อย) มีส่วนที่เป็นศาลาริมน้ำ ห้อง Mini Theatre ห้อง Lobby/Library ห้องฟิตเนส ห้องสตีม ซาวน่า รวมอยู่ที่ชั้นนี้ทั้งหมด ซึ่งมีห้องพักอาศัยอยู่ด้วย
ชั้นอื่นๆทั่วไปจะมีห้องพักทั้งหมด 16 ห้องต่อชั้น ซึ่งจัดว่าหนาแน่นมากสำหรับโครงการระดับ The Address ในขณะที่มีลิฟท์ทั้งหมด 5 + 1 ตัว หารออกมาได้สัดส่วนลิฟท์โดยสาร 100 ห้องเศษๆต่อลิฟท์ 1 ตัว แออัดพอสมควร (ไม่นับลิฟท์บริการนะครับ)
ชั้น 44 เป็นสวน ฟิตเนสและสระว่ายน้ำ แบบ Roof Top ได้บรรยากาศอีกแบบหนึ่ง ต่างจากชั้น 9 พอสมควรเลย
นี่เป็นสระว่ายน้ำชั้น 9 นะครับ
มีส่วนของ Daybed ไว้นั่งๆนอนๆริมสระว่ายน้ำ
ส่วนของหินทางเดินไปยังศาลาริมน้ำ
ศาลาริมน้ำมี Daybed อยู่ 2 ชุด
มองลงไปที่ Jacuzzi
ห้องซาวน่า
ห้องสตีม
ล็อคเกอร์
ซิงก์ส่วนกลาง
ฟิตเนสชั้น 9
ห้องก็ใหญ่ดี มีเครื่องเล่นเยอะพอควร แต่เอาจริงๆแล้วเล่นแสงไฟเยอะไปหน่อย ดูแล้วลายตา
ห้อง Lobby / นั่งพักผ่อนที่ชั้น 9
บริเวณมุมอ่านหนังสือ ยังไม่มีหนังสือมาลงให้ลูกบ้านเลย
ห้อง Mini Theatre ใช้งานได้แล้ว เวลาลูกบ้านจะเอาแผ่นมาดูเองก็ต้องแจ้งนิติไว้ เพื่อจองคิว
เก้าอี้ Lazy Boy 12 ตัว
เวลานั่งก็พอใช้ได้ครับ แต่เอาจริงๆที่นั่งจะติดกันไปนิดนึง
บริเวณชั้นนี้บรรยากาศค่อนข้างดี
โถงลิฟท์
โถงทางเดินระหว่างห้อง กว้าง 1.5 เมตร แสงไฟสะท้อนวูบวาบเยอะไปหน่อย
สระว่ายน้ำชั้น 44 พอดีไปตอนที่เค้ากำลังทำความสะอาดกันอยู่
เป็นแบบนี้ ขนาดอาจจะเล็กกว่าชั้น 9 ประมาณ 2 เท่า แต่ก็ถือว่าสามารถมาว่ายเปลี่ยนบรรยากาศได้ก็พอโอเค
Update: วันที่ 24 กรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมา ทาง Think of Living ได้เข้าไปเก็บข้อมูลเพิ่มเติมในส่วน Facility ชั้น 44 ที่สร้างเสร็จแล้วครับ
ชั้น 44 จะเป็นสระ Onsen คู่กับสระว่ายน้ำ สระเล็กๆบริเวณนั้นเป็นจุดที่ทำออนเซ็น
ส่วนตรงกลางจากภาพข้างบนที่คนงานนั่งอยู่ พอเสร็จแล้วมันก็เป็นแบบนี้
สระ Onsen แบบควบคุมอุณหภูมิจะแยกชายหญิง แบ่งสองทางเข้าไม่เกี่ยวกัน แต่สามารถมองเห็นกันจากคนละฝั่งของสระว่ายน้ำได้
พื้นและที่นั่งพักก็ทำเสร็จเรียบร้อย
ทางเข้าห้องน้ำชายเพื่อไปยังสระออนเซ็น
เดินเข้าแล้วอาบน้ำชำระร่างกายก่อนที่จะทะลุไปออนเซ็นด้านหลังห้องน้ำ
ตรงนี้จะมีที่นอนเป็น Daybed คู่ให้ด้วย มองออกไปได้บรรยากาศแบบนี้
เวลาแช่น้ำได้แบบนี้
มองวิวบนฟ้า ตึกข้างๆก็คือ Villa ใกล้เสร็จแล้ว
มองวิวลงไปเห็นเขียวๆ บริเวณที่ดินของการรถไฟ ตำนานมักกะสันคอมเพลกซ์ยังล่องลอยออกมาให้ได้ยินอยู่ ตั้งแต่ตึกยังไม่สร้างจนสร้างเสร็จ แต่ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวของเมกะโปรเจคนี้
ชั้น 44 มีสวนค่อนข้างดี
ชั้น 45 (ชั้นลอยของชั้น 44) เดินขึ้นไปเป็นฟิตเนสลอยฟ้า
วิ่งๆแล้วมองลงมาได้แบบนี้
อุปกรณ์น้อยกว่าชั้น 9
ชั้น 44 ก็มีมุมคล้ายๆชั้น 9 แต่ไม่ค่อยน่านั่งเท่าไร
มุมนี้เป็นมุมดีมาก นั่งชิลบนยอดตึก Terrace ไม้จริง แต่หินเก๊ข้างๆต้องปรับปรุง
ให้ดูวิวกันอีกที กับวิวทิศเหนือฝั่งอโศก-ดินแดง
ดูการจราจรข้างล่างแล้วหนาว …
ทางเข้าออกใช้ไม้กระดกธรรมดา
น้ำตกกับหินเทียมข้างๆ Lobby
ให้ดู Landscape โดยรอบๆก็สวยดีอยู่ครับ แต่หินมันดูลวงๆไงไม่รู้
เพื่อนบ้านกับ Villa ต้องยอมรับว่าฝั่งนั้นลงต้นไม้ใหญ่ได้ครึ้มดีจริงๆ หรือช่วงนี้ฝนตกกระจาย ต้นไม้เลยเขียวปี๋เลย
ล็อบบี้ของที่นี่
เพดาน Lobby สูง ให้ความรู้สึกโปร่งเทียบโรงแรม 4 ดาว แต่ความกว้างของเนื้อ Lobby ไม่มาก เลยไม่แกรนด์เท่าที่คิดไว้
โถงลิฟท์ชั้น G มาสไตล์สะท้อนแสงวูบวาบเหมือนเดิม
ที่นั่ง Lobby ทำได้ดีมาก นั่งแล้วรู้สึกสบาย ทั้งจากน้ำตกและต้นไม้ กระจกบานใหญ่ที่ไม่บังวิว แต่การดูแลพรมจะต้องทำเยอะๆหน่อย ไม่อย่างนั้นถ้าพรมสกปรกแล้วจะไม่อยากนั่ง
นั่งแล้วสบายนะครับ วิวดีมาก เหมือนอยู่รีสอร์ท
ทางเลี้ยวเข้าออกตึกและจุด Drop Off
จุด Drop Off
ทางเดินไปดูสวนน้ำตก
สวยดีครับ มองแล้วสบายตา
หน้าป้อมรปภ.
มัวไปนิด กับที่จอดรถ
เวลาเดินออกจาก Lobby ไปมองน้ำตก
มีโต๊ะเก้าอี้หวายไว้ให้ ผมว่าน่าจะใช้ของดีกว่านี้หน่อยนะ Outdoor เฟอร์ชุดนี้ดูไม่สมฐานะไปนิด พวกเก้าอี้ไม้สักชิ้นเล็กๆกับสแตนเลสน่าจะมีให้เห็น
สิ่งอำนวยความสะดวก
- ห้องออกกำลังกายชั้น 9, 44
- สระว่ายน้ำชั้น 9, 44
- สวนน้ำตกชั้น G
- สวนชั้น 9, 44
- ศาลาริมน้ำชั้น 9
- Mini Theatre
- ห้องสตีม
- ห้องซาวน่า
- ห้องนั่งเล่น / Library ชั้น 9
- ลิฟท์โดยสาร 5 ตัว, Service Lift 1 ตัว
- สวนตามชั้นที่หารด้วย 5 ลงตัว
- Lobby
- ที่จอดรถ 72%
- ระบบ CCTV / Access Card
Product Walkthrough
ประตูห้องนะครับ เป็นมือจับธรรมดา ไม่ใช่ Digital Doorlock
หน้าบานเป็น Laminate
ห้องของ The Address Asoke เป็นห้องแบบ Fully Furnished
พื้นที่นี่ใช้ Engineering Wood หน้าไม้โอ๊ค กับกระเบื้องเซรามิคขนาด 60 x 60
ฝ้าเพดานของ The Address อโศกสูง 2.6 เมตร จัดว่าต่ำมาก ยิ่งเป็นจุดใต้ Air แล้วอาจจะเหลือแค่ 2.4 – 2.5 เมตร สำหรับคอนโดเกรดนี้ควรจะสูง 2.8 เมตร เทียบเท่ากับที่ชิดลมหรือที่สุขุมวิทครับ
โซฟาของที่นี่ห่อเอาไว้เรียบร้อย มีโต๊ะกลางให้ด้วย
บริเวณจุดชั้นวางทีวี กระจกทำออกมาโอเค แต่สำหรับชั้นวางทีวีดูแล้วราคาถูกไปนิดนึง
ลองซูมกันเข้าไปจะเห็นว่าตู้นี้ไม่ได้เป็นวัสดุคุณภาพดีเท่าที่ควร
ฝ้ามีการเว้นช่องซ่อนรางม่านไว้เรียบร้อย อันนี้ทำได้ดี
บานกระจกที่ระเบียง
มือจับและอลูมิเนียมสีธรรมชาติ
กระเบื้องนอกระเบียงใช้ขนาด 30 x 60 ซม. ราวกันตกเป็นเหล็กซี่ๆ
หากเลือกวิวไม่ค่อยดีอาจจะได้แบบนี้ เห็นแต่หลังคากับแท่ง Airport Link แต่ถ้าแย่กว่านี้อาจจะไม่พ้นหลังคา
ห้องนอน เตียงนอนและฟูก
ชั้นวางทีวีใช้แบบเดียวกัน
โคมดาวน์ไลท์ใช้แบบสี่เหลี่ยม
ห้องน้ำที่นี่ใช้กระจกเข้ามุม เป็นแบบเปลือยทั้งบาน ซึ่งสุดท้ายก็ต้องหาฟิล์มฝ้าหรือผ้าม่านม้วนมาติดอยู่ดี สวย เหมาะกับการใช้ในโรงแรม ที่พักตากอากาศ แต่ไม่เหมาะกับการอยู่อาศัยระยะยาว
อุปกรณ์ในห้องน้ำ มีแผงโมเสกติดไว้ ต่อก๊อกยื่นออกมาจากกำแพง
มีอ่างอาบน้ำระบบ Jacuzzi
อ่างล้างมือเป็นของ Kasch ก๊อกเป็นของ Kohler ที่ดีคือมีที่แขวนผ้าขนหนูริมขอบซิงก์
หน้าตาก๊อก
ระบบ Jacuzzi แบบที่เป็น Hand Shower ได้ด้วย มีที่รองศีรษะด้วย
มีจุดที่สามารถยืนอาบได้ด้วย เป็นกระจก Tempered Glass
ให้สองระบบเช่นกัน Rain Shower และ Hand Shower ตัวฝักบัวทำออกมาดูดีทั้งสองชิ้น ซึ่ง Rain Shower เป็นแบบยื่นออกมาจากผนัง
หัวก๊อกเปิดปิดและที่วางสบู่แชมพู
ที่นั่งอาบน้ำ และการตกแต่งลายพื้นห้องน้ำ
มองจากห้องน้ำออกไปห้องนอน
ที่นี่มีจุดที่ทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งไว้เรียบร้อยแล้ว แต่เก้าอี้ไม่ค่อยถูกใจเท่าไร เตี้ย ไม่มีพนักพิง ใช้จริงคงต้องเปลี่ยน เอาตัวนี้ทำเป็นสตูลวางเท้าแทน
โต๊ะกลาง
ห้องนอนมีบานเลื่อนเป็นกระจกฝ้ากั้น
ชั้นวางรองเท้าและเครื่องซักผ้า
ครัวของที่นี่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ครบ ท๊อปทำด้วยหินสังเคราะห์สีขาว มีถังขยะซ่อนไว้ในบานตู้ Hood เป็นของ Siemens เตาไฟฟ้าเป็นแบบ Hot Plate ส่วนเตาไมโครเวฟเป็นของ Electrolux
Price vs Performance
- ปัจจุบัน Sold Out ขายหมดไปแล้ว เหลือแต่ห้อง Resale (ซื้อต่อมือ 2)
- 1 Bedroom ราคา Resale ประมาณตารางเมตรละ 100,000 – 120,000 บาท ขึ้นกับตำแหน่ง ทิศทาง ความสูงและส่วนต่างของกำไร
- 2 Bedrooms ราคา Resale ประมาณตารางเมตรละ 110,000 – 120,000 บาท ขึ้นกับตำแหน่ง ทิศทาง ความสูงและส่วนต่างของกำไร
- Fully Furnished
- สร้างเสร็จพร้อมโอน
- ค่ากองทุน 550 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 45 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
เจาะลึกรวบยอด
เรามาดูกันที่ทำเลก่อน โครงการ The Address Asoke อยู่ในทำเลที่ค่อนข้างดีแต่ไม่ถึงกับดีมากคือแยกอโศก-เพชรบุรี หากเอาไปเปรียบเทียบกับแหล่ง Prime Zone ของกรุงเทพอย่าง ทองหล่อ, ชิดลม, พร้อมพงษ์, ปทุมวัน, ราชเทวีหรือสาทร ก็ต้องบอกว่าทำเลอโศก-เพชรบุรียังเทียบกับทำเลข้างต้นไม่ได้ การขยายตัวของเมืองยังกระจุกอยู่ในบางโซน แต่ถ้าเปลี่ยนคำถาม อยากจะมองว่าทำเลนี้มีศักยภาพในการพัฒนาไหม ก็ต้องตอบว่ามี เพราะในโซนข้างเคียงก็มีโปรเจคเปิดมาด้วยกัน 5 โครงการเป็นอย่างน้อย The Address, Villa, Supalai, Parkland และ QHouse ไม่นับรวม Supalai ตัวเก่า, My Resort, The Circle 3 ตึก คอนโดมิเนียมเหล่านี้มีศักยภาพที่จะช่วยเพิ่มปริมาณรถติด เอ๊ยไม่ใช่ ความเจริญให้กับทำเลนี้อยู่สูง
การเดินทางของ The Address Asoke ที่ขายแพงสุดในบรรดาเพื่อนบ้าน (ไม่นับ The Circle II) ก็ต้องบอกว่าเดินทางด้วยรถยนต์ได้สะดวกที่สุดเช่นกัน สามารถออกได้ทุกทิศทางโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ขาออก” จากโครงการ ไปพร้อมพงษ์, นานา, อโศก, กำแพงเพชร 7, พระราม 9 หรือขึ้นทางด่วนอโศก-ดินแดง ทำได้ง่ายมาก หากเทียบกับโครงการเพื่อนบ้านอย่าง Villa หรือ Q House ที่จะดูเข้าออกยากกว่า ส่วนที่จอดรถของโครงการนี้มีอยู่ 72% จัดว่าเพียงพอสำหรับคอนโดที่มีรถไฟฟ้าอยู่ในระยะใกล้
การเดินทางโดยที่ไม่ใช่รถทำได้ด้วย MRT และ Airport Link คอนโด The Address Asoke จะได้เปรียบทำเลอื่นก็ตรงนี้ เพราะมีบริการขนส่งมวลชนหลัก 2 เส้นในระยะใกล้ เดินไป MRT ได้ในระยะ 150 เมตร จะไป Airport Link ก็ต้องไกลนิดนึง แต่ว่า The Address อโศกมีประตูหลังอยู่ด้วย สามารถเข้าออกได้จากถนนกำแพงเพชร 7 ได้ ช่วยร่นระยะทางโน่นนี่นั่นไปเยอะแยะมากมาย รวมถึงระยะทางการเดินไปสถานี Airport Link ที่อยู่ตรงข้ามกับประตูหลังเลย
ก่อนที่จะเข้าเรื่องวัสดุต้องย้อนกลับไปดูตัวสินค้ากันนิดหน่อย … โดยปกติแล้ว The Address ของ AP จะทำคอนโดมิเนียมในระดับ Luxury ที่มีราคาต่อตารางเมตรเฉลี่ยอยู่ 130,000+ แต่สำหรับ The Address Asoke ที่เปิดตัวด้วยราคา 90,000 บาทต่อตารางเมตร และอัพกันขึ้นมาแถวๆ 100,000 – 120,000 บาทต่อตารางเมตร ยังจัดว่าอยู่ในระดับ HIGH CLASS เทียบเท่ากับ The Rhythm เท่านั้น ทำให้เราจะต้องใช้มาตรฐานของคอนโดระดับ 100,000 – 130,000 บาทต่อตารางเมตรมาวัด The Address Asoke นะครับ จะเอาความรู้สึกว่าจะต้องเทียบเท่า The Address Chidlom หรือ Sukhumvit 28 ที่ขายแพงกว่ากันเยอะมาวัดไม่ได้
วัสดุพื้น Engineering Wood หน้าไม้โอ๊ค, ครัวท๊อปหิน Composite สีขาว, เครื่องใช้ไฟฟ้าครบของ Siemens / Electrolux, ห้องน้ำตกแต่งได้หรู มี Jacuzzi, ซิงก์และก๊อกใช้ของ Kasch และ Kohler โดยรวมดูแล้วจัดว่าดีมากสำหรับวัสดุพื้นฐาน แต่สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่เอามาใส่ห้องนั้น ต้องบอกว่าตกมาตรฐานไปมาก ตั้งแต่โซฟา โต๊ะกลาง เตียง ชั้นวางทีวีทั้งห้องรับแขกและห้องนอน
การออกแบบโครงการทำออกมาได้ใหญ่อลังการ โดยเฉพาะสวนน้ำตกในชั้น G ที่เรียกว่าเป็นจุดดึงดูดสายตาของผู้คนที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการ แขกเจ้าของบ้าน หรือแม้แต่ตัวเจ้าของบ้านเอง ถ้าสามารถรักษาสภาพให้สวยงามอยู่อย่างนี้ ต่อไปจะกลายเป็นจุดที่ดี เอาไว้ผ่อนคลายอารมณ์รอบๆ Lobby ได้ ต่างจากคอนโดมิเนียมอื่นๆที่ไม่มีทางมีส่วนกลางใหญ่ขนาดนี้
สวนน้ำตก ฟิตเนส 2 ห้อง สระว่ายน้ำ 2 สระ ห้องอ่านหนังสือ ห้อง Mini Theatre ศาลาริมน้ำ สตีม ซาวน่า จากุสซี่ สวนลอยฟ้า ทั้งหมดที่พูดมาทำให้ The Address Asoke เป็นโครงการที่มี Facility เพียบพร้อมมากๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมาดูเรื่อง Maintenance Cost ด้วยว่าค่าส่วนกลาง 45 บาทต่อตารางเมตรนั้น พอหรือไม่ คอนโดมิเนียมบางแห่งมีส่วนกลางน้อยกว่านี้ครึ่งหนึ่ง เก็บค่าบริการ 50 บาทต่อตารางเมตรยังเอาไม่อยู่ ดังนั้นต้องฝากลูกบ้านหรือผู้ที่จะตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมแห่งนี้ทุกท่านไปช่วยกันคิดหาวิธีดูแลและประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนกลางนะครับ ถ้าเปิดน้ำตกตลอดเวลา แถมด้วยค่าบริการดูแลสระน้ำทั้งชั้น G, 9, 44 รวมกันอีก 3 สระ ผมว่านิติบุคคลอาจหมดตัวได้อย่างรวดเร็ว
ทิ้งไว้ว่าทำเลของ อโศก-เพชรบุรี แม้ว่าภายนอกจะค่อนข้างแห้งแล้ง หาของกินยาก ไม่มีชีวิตชีวาเมื่อเทียบกับแยกรัชดา-พระราม 9 หรืออโศก-สุขุมวิท แต่ทำเลนี้ยังไม่จบเท่านี้ เมื่อมีหลายโปรเจคมาขึ้น เปิดแล้วขายหมดปิดโครงการไปได้ ลูกบ้านเข้ามาพักอาศัย ก็จะมีตลาดรองรับ อนาคตร้านค้าก็ต้องมีการพัฒนาต่อเนื่อง เช่น 7-11 ที่กำลังจะเปิดในบริเวณใกล้เคียง และเราก็ต้องลุ้นกันต่อไปว่าเมื่อไรจะมี Super Market หรือ Community Mall ดังๆมาช่วยเติมเต็มทำเลอโศก-เพชรบุรีให้คึกคักมากขึ้น อย่างเช่น Terminal 21 หรือ Central พระราม 9 ที่ออกตัวกันไปในทำเลใกล้เคียงครับ
Judgement
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 115,000 บาทต่อตารางเมตร, Q2/2012 Resale Price
- ทำเล 8/10 – ย่านอโศก-เพชรบุรี มีศักยภาพในอนาคตสูง
- เดินทางด้วยรถ 8.75/10 – The Address Asoke เข้าออกได้สะดวกจากหลายๆเส้นทาง ใกล้ทางด่วน แต่รถติดช่วงคอสะพานก่อนเข้าโครงการ
- ไม่ใช้รถ 9/10 – ใกล้ MRT, มี Airport Link ในรัศมีเดินได้
- วัสดุ 8/10 – ใช้วัสดุพื้นฐานดีโดยเฉพาะในห้องน้ำทั้งหมด ให้แอร์ฝังฝ้า ให้พื้นไม้จริง แต่พวกหน้าบานตู้และเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวต้องปรับปรุง
- แบบ 7.5/10 – โดยรวม OK แต่เพดานเตี้ยไปหน่อย จำนวนห้องต่อชั้นเยอะไป จำนวนลิฟท์ต่อยูนิตน้อยไป
- สาธารณูปโภค 10/10 – มีเยอะมาก แต่ดูแลให้ไหวด้วยนะครับ
- HIGH CLASS
- 8.41 / 10.00
BOTTOM LINE
The Address อโศกเป็นโปรเจคที่เดินทางสะดวกในหลายๆด้าน ทั้งรถยนต์, MRT และ Airport Link อีกทั้งมีส่วนกลางที่ใหญ่และเยอะกว่าโปรเจคอื่นมาก แต่ทำเลย่านอโศก-เพชรบุรียังขาดชีวิตชีวา ยังต้องรอให้พัฒนากลายเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่แท้จริงในอนาคต กับราคา 100,000 – 125,000 บาทต่อตารางเมตร จัดว่าแพงเมื่อเทียบกับโปรเจคเพื่อนบ้านในย่านเดียวกันครับ
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ