than living cover

รีวิวฉบับที่ 810 วันนี้เราจะพาไปชมห้องตัวอย่างของคอนโด High Rise แถวศรีนครินทร์กันบ้างนะคะ กับโครงการ Than Living พระราม9 – Airport Link จาก กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ เป็นคอนโดสูง 32 ชั้น 1 อาคาร มาพร้อมกับการตกแต่งแบบ Modern Contemporary ทางเข้าโครงการอยู่บนถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้าแยกลำสาลี ตัวโครงการต้องเข้าซอยศรีนครินทร์ 14 ไปอีก 110 เมตร ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า Airport Rail Link หัวหมาก 550 เมตร 

Facts @ 2 April 2015

  • Than Living Rama 9 – Airport Link (แดน ลิฟวิ่ง พระราม9 – แอร์พอร์ต ลิ้งก์)
  • บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด
  • MAIN – UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : สวนหลวง
  • คอนโด High Rise 32 ชั้น 1 อาคาร 530 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 23 ยูนิต ที่ชั้น 9 – 20
  • พื้นที่จอดรถชั้น 1-6
  • ที่จอดรถ 48% รวมจอดซ้อนคันประมาณ 308 คันคิดเป็น 58%
  • ที่ดินประมาณ 3-0-27.4 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : สิงหาคม 2558
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : มีนาคม 2561
  • 1 Bedroom    24 – 32 ตารางเมตร ราคา 2.19 – 3.2 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 48 – 67 ตารางเมตร  ราคา 4.2 – 5.9 ล้านบาท
  • Duplex          97 ตารางเมตร          Sold Out
  • Penthouse     97 – 123 ตารางเมตร ราคา 10.1 – 13.2 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร
  • ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 132 : 1 และ Service Lift 1 ตัว
  • ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท หรือประมาณ 91,250 บาทต่อตารางเมตร
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ระหว่างการดำเนินการ
  • http://www.siralai.com/condo/than-living-rama-9
  • โทร 02-322-2488

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่าง


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.737058, 100.641136

proj map

ที่ตั้งของโครงการ Than Living พระราม9 – Airport Link ตั้งอยู่บนถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้ารามคำแหง ทางเข้าโครงการอยู่ระหว่างแยกถนนพัฒนาการ และแยกพระราม9 – ศรีนครินทร์ ทางซ้ายมือ ตัวโครงการเองนั้น ต้องเข้าซอยศรีนครินทร์ 14 ไปอีก 110 เมตร คอนโดจะอยู่ด้านหน้าเลย มีสถานีรถไฟฟ้า Airport Rail Link หัวหมาก อยู่ห่างจากโครงการ 550 เมตร ในระยะทางข้ามสะพานลอย และไม่ไกลจากสถานีรถไฟหัวหมากที่อยู่ฝั่งเดียวกันประมาณ 220 เมตร มีศูนย์การค้าทั้งเล็ก – ใหญ่ รวมไปจนถึงโรงเรียนและมหาวิทยาลัยอยู่ในรัศมีไม่เกิน 8 กิโลเมตร

1 MAP 3km

ทำเลของโครงการ Than Living พระราม9 – Airport Link เป็นจุดที่สามารถเข้าถึงได้จากหลากหลายการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นรถส่วนตัวที่สัญจรจากถนนแนวราบธรรมดา หรือจากทางยกระดับศรีรัช รวมไปจนถึงระบบขนส่งมวลชนแบบเก๋าอย่างรถไฟหรือ Airport Rail Link พญาไท – สุวรรณภูมิ

การเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวสามารถมาจากทางรามคำแหงเข้ามายังถนนศรีนครินทร์แล้วกลับรถที่แยกพัฒนาการ หรือมาจากอุดมสุข – อ่อนนุช ขับตรงขึ้นเหนือ โครงการจะอยู่ทางซ้ายมือตรงซอยศรีนครินทร์ 14 และหากมาจากอโศก – ทองหล่อ – เพชรบุรี ก็จะมารวมกันที่ถนนพัฒนาการแล้วเลี้ยวซ้ายเช่นกัน

ส่วนทางด่วน มีทางพิเศษศรีรัชวิ่งผ่าน โดยมีทางลงทางด่วนอยู่ที่ก่อนถึง The Nine บนถนนพระราม9 ตรงมาเรื่อยๆที่แยกพระราม9 – ศรีนครินทร์ แล้วขึ้นสะพานวนรถเลี้ยวซ้ายเพื่อมาลงยังถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้าอุดมสุข แล้วกลับรถที่แยกไปยังถนนพัฒนาการ ซอยศรีนครินทร์ 14 จะอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนหากจะขึ้นทางด่วนเข้าไปในเมืองก็ทำได้โดย ออกมาจากโครงการอยู่บนถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้ารามอินทรา เลี้ยวซ้ายที่แยกพระราม9 – ศรีนครินทร์ ตรงไปเรื่อยๆจะมีด่านขึ้นทางด่วน ส่วนการออกนอกเมือง สามารถขึ้นทางด่วนไปทางตะวันออกไปสนามบินสุวรรณภูมิ หรือเลยไปจนถึงชลบุรี

2 MAP mass places

สำหรับคนไม่ใช้รถ เส้นทางที่จะมาจากขนส่งมวลชน สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ Airport Rail Link สถานีหัวหมาก ที่อยู่ในระยะเดินประมาณ 550 เมตรก็ถึงตัวสถานี ที่มีพี่วินอยู่ทั้งส่วนทางลงบันได และจุดใกล้ถนนใหญ่ การขึ้นรถไฟสาย Airport Rail Link จะสะดวกหากจะไปสนามบินสุวรรณภูมิ แต่หากจะเข้าเมืองด้วยการไปลงที่สถานีพญาไท แล้วต่อ BTS หรือ MRT จะค่อนข้างอ้อมและใช้เวลานานพอสมควร ส่วนสถานีรถไฟใกล้เคียงคือสถานีหัวหมากอยู่ในระยะเดิน 220 เมตร มีพื้นที่จอดรถข้างตัวสถานี แต่ปัจจุบันคนที่ใช้รถไฟเดินทางก็หาได้ค่อนข้างยากแล้ว ส่วนการเรียกรถ Taxi หน้าคอนโดง่ายมากเพราะอยู่บนถนนใหญ่ มีอยู่เรื่อยๆ ส่วนพี่วินมีอยู่ที่หน้าโครงการเลย

บริเวณรอบๆที่ตั้งของโครงการ Than Living พระราม9 – Airport Link มีความเจริญอยู่พอประมาณ โดยเฉพาะบนถนนพัฒนาการ เพราะเป็นถนนที่ต่อจากถนนเพชรบุรี ที่สามารถไปทองหล่อ – อโศก – ดินแดง – ประตูน้ำได้ มีสถานที่ราชการ โรงพยาบาล ศูนย์การค้าอย่าง Tesco Lotus, Max Value และที่เปิดใหม่อย่าง London Street จาก MK Group รวมไปถึงม.เกษมบัณฑิต และสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น ส่วนบนถนนศรีนครินทร์จะเป็นเส้นทางหลักที่ใช้ในการเดินทางซะมากกว่า ถ้าขึ้นเหนือไปจะเริ่มเป็นรามคำแหงและราชมังคลากีฬาสถาน ถ้าลงใต้ก็จะเป็นบางนา – อ่อนนุช ที่มีศูนย์การค้าอย่างซีคอนสแควร์ และสวนหลวงร.9 มีอาคารสำนักงานสูงไม่เกิน 8 ชั้นบ้างประปราย

ซึ่งถ้าเรามองในแง่คนทำงานประจำอยู่แถบพระราม9 – ศรีนครินทร์ – พัฒนาการ จะถือว่าเป็นทำเลที่มีความสะดวก เพราะถือว่าเป็นทำเลที่เข้าถึงง่ายสำหรับย่านนี้ มีทางขึ้น-ลงทางด่วนอยู่ในระยะไม่ไกล มีทางยูเทิร์นอยู่เรื่อยๆ ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน ใช้ระบบขนส่งมวลชนบ้างนิดหน่อย เน้นที่รถยนต์ส่วนตัวหรือใช้บริการพี่วินในการเดินทางมากกว่า

3 MAP route1

เส้นทางแรกที่เราจะพาไปนั้นก็คือเส้นทางจากทางยกระดับศรีรัช มาจากอารีย์ – อนุสาวรีย์ มุ่งหน้าทางลงศรีนครินทร์ ลงมาจะเจอ The Nine พระราม9 อยู่ทางซ้ายมือ มุ่งหน้าสนามบินสุวรรณภูมิ ตรงนี้จะไม่มีสี่แยกเพื่อให้เลี้ยวขวาได้โดยตรง แต่จะต้องไปขึ้นสะพานวนรถกลับมายังถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้าบางนา แล้วไปยูเทิร์นที่แยกพัฒนาการเข้าถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้ารามคำแหง โครงการจะอยู่ไม่ไกลจากจุดกลับรถ ต้องชิดซ้าย Sales Office จะอยู่ที่ริมถนนศรีนครินทร์ข้างซ้ายศรีนครินทร์ 14

than-living-location-1 copy

เริ่มต้นการเดินทางกันที่บนทางด่วนศรีรัช มาจากอารีย์-อนุสาวรีย์ เลี้ยวซ้ายที่ผ่านด่านเก็บเงินทั้ง 50 บาท และ 25 บาท ที่ด่านพระราม9 กันมาแล้ว เรากำลังจะหาทางลงไปยังถนนพระราม9 เพื่อตัดเข้าถนนศรีนครินทร์ หรือทางออก ตอ. 2-05

than-living-location-2

เจอแล้วทางลงพระราม9 ชิดซ้ายแล้วลงค่ะ

ลงมาบนถนนพระราม9 มุ่งหน้าสนามบินสุวรรณภูมิ ทางลงจะเป็นเลนอยู่ทางซ้ายมือ จะเข้าขวายังไงระวังรถกันด้วย

than-living-location-4 copy

เลยทางลงทางด่วนมาประมาณ 200 เมตรจะเจอ The Nine พระราม9 ที่เป็น Community Mall ขนาดกลาง มีทั้งร้านอาหาร, Supermarket และร้านค้าขายของทั่วไป มีป้ายรถเมล์อยู่ด้านหน้าด้วย

than-living-location-5 copy

ขับตรงไปเรื่อยๆจะมีปั้มน้ำมัน, Tesco Lotus Express, อาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นอยู่ทั้งสองข้างทางของถนนพระราม9 กว้าง 6 เลน แบบมีเกาะกลาง เหนือเกาะกลางขึ้นไปเป็นทางยกระดับศรีรัช ซ้ายมือมีป้ายทางลัดที่สามารถออกไปยังซอยรามคำแหง 24 ที่เป็นถนนเส้นใหญ่ มี ABAC, มหาวิทยาลัยรามคำแหง รวมไปถึงราชมังคลากีฬาสถาน ทั้งหมดอยู่บนถนนเส้นเดียว

than-living-location-6

มีสะพานลอยคนข้ามถนนพระราม9 ทั้ง 6 เลน อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ระบบขนส่งอย่างรถเมล์ หรือคนที่จะข้ามมาใช้บริการศูนย์การค้าต่างๆ

xthan-living-location-7 copy

ตรงมาเรื่อยๆจะเจอป้ายบอกทางให้ตรงไปจะไปยังเส้นศรีนครินทร์ได้ โดยถ้าเบี่ยงซ้ายจะไปยังบางกะปิ หรือถ้าชิดขวาจะเป็นจุดกลับรถ

than-living-location-8 copy

เราเลยจุดกลับรถทางขวามาแล้ว แต่ข้างหน้าจะเป็นทางเบี่ยงซ้ายมุ่งหน้าบางกะปิ แต่ถ้าตรงไปจะไปโครงการ นั้นก็คือขึ้นสะพานวนรถไปยังถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้าบางนา

than-living-location-9 copy

ขึ้นสะพานเราจะรีบชิดซ้ายกันทันที เพื่อลงถนนศรีนครินทร์ หรือทางออกที่ ตอ.2-06 เพราะถ้าเลยไปจะไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ หรือเส้นวงแหวนรอบนอก หรือจะไปชลบุรีก็ยังได้

xthan-living-location-10 copy

ทางวนเพื่อไปลงบนถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้าบางนา

กลับมาแตะพื้นดินกันต่อ ตอนนี้กำลังอยู่บนถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้าบางนา จะตรงไปเรื่อยๆจนถึงแยกเข้าถนนพัฒนาการ

than-living-location-13

ซ้ายมือมีทางวนรถอีกครั้งเพื่อกลับไปยังถนนพระราม9 หรือขึ้นไปยังทางยกระดับศรีรัชมุ่งหน้าเข้าเมือง จากสภาพท้องถนนก็จะเห็นได้ว่ารถติดมากอยู่เพราะมีสี่แยกไฟแดงด้านหน้า

ทางด้านซ้ายมือจะเป็นทางเข้าของเส้นทาง Airport Rail Link สถานีหัวหมาก ที่มีพื้นที่จอดรถด้านในเยอะพอสมควร ด้านข้างเป็นเส้นทางที่คู่ขนานมาด้วยกันคือเส้นทางรถไฟ แต่สถานีรถไฟหัวหมากไม่ได้อยู่ฝั่งซ้าย แต่จะอยู่ฝั่งขวาของถนนอีกด้านหนึ่ง

มีสะพานลอยคนข้ามถนนศรีนครินทร์ 10 เลน โดยมีเกาะกลางกั้น มีป้ายบอกทางว่าถ้าตรงไปจะไปอ่อนนุช เลี้ยวซ้ายไปลาดกระบัง และเลี้ยวขวาไปคลองตัน แต่เราจะไปกลับรถกันที่ไฟแดงหน้า

xthan-living-location-18 copy

ตรงมาเรื่อยๆถนนเริ่มโล่ง เพราะปล่อยไฟแดงอยู่เรื่อยๆ แต่ทางซ้ายมือเป็นพื้นที่ของ Max Value มีร้านอาหาร ร้านให้บริการพร้อมพื้นที่จอดรถเพียบ เรียกได้ว่าฝากท้องได้สบาย

xthan-living-location-19 copy

เรามาหยุดรอไฟแดงกันที่แยกพัฒนาการ เราจะกลับรถกันที่นี้นะคะ

กลับรถมาจะเจอป้ายโครงการ Than Living พระราม9 – Airport Link อยู่ตรงหัวมุม

than-living-location-21

กลับรถมาอยู่บนถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้ารามคำแหง จากตรงนี้จะเร่ิมชิดซ้ายกันแล้วนะคะ เพราะทางเข้าโครงการอยู่ไม่ไกล อยู่ในระยะ 150 เมตรจากจุดกลับรถ

zthan-living-location-24 copy

ตรงมาเรื่อยๆจะเจอ Sales Office โครงการอยู่ทางซ้ายมือ ปากซอยศรีนครินทร์ 14 แล้วค่ะ แต่ก่อนเข้าไปชมโครงการ เราขอพาชมเส้นทางเดินเท้าจาก Airport Rail Link สถานีหัวหมากมาโครงการกันก่อน

4 MAP route 2

ส่วนเส้นทางที่สอง คือเส้นทางเดินเท้า จาก Airport Rail Link สถานีหัวหมาก เดินจากทางลงสถานี ออกมายังถนนใหญ่ศรีนครินทร์มุ่งหน้าบางนา เราจะข้ามทางรถไฟ แล้วไปขึ้นสะพานลอยคนข้ามไปยังถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้ารามคำแหง จากทางลงสะพานลอย เพียง 140 เมตรก็จะถึง Sales Office ที่อยู่ข้างปากซอยศรีนครินทร์ 14

เริ่มต้นการเดินทางเส้นที่ 2 กันเลยกับสถานี Airport Rail Link หัวหมาก

ทางออกที่เราจะลงคือทางที่อยู่ด้านข้างกับจุดจำหน่ายตั๋วทางด้านขวาข้างร้านขายกาแฟนะคะ

เดินแยกออกมาจะมีทางลงชัดๆเลยคือทางขวามือ มีแบ่งออกเป็น 3 ช่อง คือบันไดเลื่อนขึ้นอยู่ตรงกลาง ประกบด้วยบันไดเดินขึ้น-ลงธรรมดาทั้งสองด้าน ด้วยความสงสัยว่าทำไมไม่มีบันไดเลื่อนลงเหมือนปกติ เลยเร่ิมเดินไปรอบๆ

ลิฟท์โดยสารแอบอยู่หลังเสา สามารถใช้งานได้ปกติทั้งขึ้นและลง ไม่จำเป็นต้องมีการตี๊ดบัตรจากพนักงาน

แต่เราเลือกที่จะเดินลงบันไดมาเรื่อยๆ แอบชะโงกออกมาทางด้านซ้าย เป็นจุดจอดรถของมอเตอร์ไซค์ของผู้ใช้งาน Airport Rail Link บนทางเดินเท้า และเลยไปอีกคือทางเดินรถ 2 ช่องสวนกัน

ลงมาด้านล่างจากบันไดเรียบร้อย ฝั่งขวามือริมรั้วจะมีพี่วินรอให้บริการอยู่เลย

ราคาพี่วิน Airport Rail Link หัวหมาก

ซ้ายมือบนถนนเป็นจุดวงเวียนกรวยตั้งเล็กๆให้ได้กลับรถกัน มีคนมาใช้งานทั้งรอเรียกพี่วิน แท๊กซี่ รวมถึงรอคนมารับอยู่เรื่อยๆนะคะ ไม่ได้เงียบไปซะทีเดียว

มีป้ายชมรมแท๊กซี่หัวหมาก ดังนั้นแม้ว่าตัวสถานีจะลึกเข้ามาจากถนนใหญ่ศรีนครินทร์เข้ามาพอสมควร ก็จะมีพี่แท๊กซี่มาจอดรออยู่เรื่อยๆ

เดินตรงไปเรื่อยๆที่ทางออกถนนศรีนครินทร์ก็จะเห็นพื้นที่จอดรถทั้งสองฝั่งเต็ม โดยมีทั้งที่เป็นรถส่วนตัวของผู้ใช้บริการ รถรอรับ รถตู้ และรถสองแถว

รถสองแถวก็มีจุดหมายปลายทางและเส้นทางแตกต่างกันไป อย่างคันตรงหน้าคือจากสถานีรถไฟฟ้าหัวหมากไปประเวศ-ราม2 และรถตู้คันที่อยู่ข้างๆคือรถตู้รับ-ส่งจาก The Nine

ด้านหลังของพื้นที่จอดรถ มีกล้อง CCTV อยู่เป็นจุดๆหันหน้าเข้าพื้นที่จอดรถ

และด้านหลังของพื้นที่จอดรถก็เป็นเส้นทางรถไฟบนดินคู่ขนานกันไปเรื่อยๆ จุดนี้ไม่มีรั้วกั้นใดๆ

มองย้อนกลับไปยังตัวสถานี

เดินตากแดดกันออกมาเรื่อยๆบนถนนภายในของสถานี ระยะประมาณ 260 เมตร จากตัวสถานีจนถึงทางออกบนถนนศรีนครินทร์

ขวามือใกล้จะออกถนนใหญ่ มีพี่วินอยู่อีกหนึ่งจุด

ราคาพี่วินรถไฟฟ้าหัวหมาก

หันไปด้านหลังของพี่วิน จึงจะเจอทางเดินเท้าที่ตรงเข้าไปถึงตัวสถานี ไม่ต้องเดินเฉียดรถเข้า-ออกบนถนนตรงกลาง

ออกมาบนถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้าบางนา ขวามือเป็นทางลงวนรถและเส้นทางที่มากจากรามอินทรา-รามคำแหง

ฝั่งซ้ายมือเป็นเส้นทางรถไฟบนดินที่ตัดผ่านถนนศรีนครินทร์ทั้งสองฝั่ง

การเดินข้ามทางรถไฟก็ไม่มีสะพานลอยหรือทางเดินพิเศษ เราก็เดินข้ามกันไปดื้อๆ คู่กับรถยนต์ที่วิ่งอยู่บนถนนใหญ่

มองซ้ายเข้าไปในรางรถไฟ

เดินตรงมาเรื่อยๆเร่ิมมีทางเดินเท้า และถนนศรีนครินทร์ขยายออกเป็น 10 เลน ตรงหน้าคือสะพานลอยคนข้าม เราจะข้ามสะพานลอยตรงนี้ไปยังฝั่งตรงข้ามกันนะคะ

ก่อนจะขึ้นสะพานมีร้านขายเฟอร์นิเจอร์ และมีคอนโด lpn ตึกคู่ สูง 25 ชั้นตั้งอยู่ สร้างเสร็จและเปิดให้เข้าอยู่ได้ซักพักใหญ่ๆแล้วค่ะ

ขึ้นสะพานลอยมาด้านบน มองย้อนกลับไปที่เส้นทางรถไฟและ Airport Rail Link ปริมาณรถมาก แต่ก็เคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ

มองไปยังถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้าแยกพัฒนาการที่เรากลับรถกันเมื่อเส้นทางแรก มีสี่แยกไฟแดง ทำให้รถติดพอสมควร

เขยิบมาทางด้านขวา เป็นทางเดินเท้า มีป้ายรถเมล์อยู่ด้านล่าง ข้างๆเป็นร้านขายต้นไม้ และถัดไปก็เป็น Sales Office โครงการแล้วค่ะ

ลงมาอยู่บนทางเดินเท้า หันหน้าไปอีกฝั่งหนึ่งของโครงการ จะพาไปดูสถานีรถไฟหัวหมาก ด้านหน้าทางเข้าเป็นร้านขายอาหารใต้และเครื่องดื่ม

ผ่านร้านขายของเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถของพนักงานและผู้ใช้งานขนส่งรถไฟ

โดยมีทางเข้า-ออกรถอยู่ที่ริมถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้ารามคำแหง

จากถนนใหญ่จะมีป้ายบอกทางเรียบร้อยว่าเข้าสถานีรถไฟหัวหมาก

เรากลับตัวมาที่สะพานลอยกันอีกครั้ง มุ่งหน้าไปยังโครงการ

ใต้สะพานลอยมีพื้นที่สำหรับจอดรถ ไม่ว่าจะเป็นรถสองแถว จอดรถทานข้าว จอดรถโทรศัพท์ จอดรถเพราะรถเสีย จากที่เดินผ่านก็เห็นจอดกันอยู่เยอะพอสมควรเลย

ตรงมาเรื่อยๆก็เป็นป้ายรถเมล์อันเดียวกับที่เรามองเห็นจากสะพานลอย

มีทางเข้าพื้นที่ร้านขายต้นไม้อยู่ด้านหน้า

ป้ายร้านขายต้นไม้ ภายในไม่มีสิ่งปลูกสร้าง มีแค่อาคารพักอาศัย 2 ชั้นเล็กๆด้านใน

เดินไปเจอ Sales Office โครงการอยู่ด้านหน้า มีพี่วินอยู่ข้างๆแปลงพื้นที่เลย

ราคาพี่วิน ศรีนครินทร์ 14

zthan-living-1 copy

ถึงแล้ว Sales Office โครงการ มีป้ายโครงการและ Landscape จัดเรียบร้อยอยู่หน้าซอยศรีนครินทร์ 14

5 MAP boundary re

มาดูรอบๆโครงการกันหน่อยนะคะ ด้วยความที่ที่ตั้งอยู่ชานเมือง ทำให้สิ่งปลูกสร้างใหญ่ๆมีไม่มากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นที่พักอาศัยทั้งแบบส่วนตัวและแบบจัดสรร รวมถึงอาคารสำนักงานขนาดเล็ก แต่จะมีเส้นทางรถไฟบนดิน และเส้นทางรถไฟฟ้า Airport Rail Link ที่ลอยฟ้าอยู่ โดยทิศตะวันออกเฉียงใต้ของโครงการ Than Living พระราม9 – Airport Link คือซอยศรีนครินทร์ 14 ที่เป็นทางเข้า และพื้นที่ว่างเปล่าของกีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ ที่ปัจจุบันเป็น Sales Office ของโครงการ ส่วนในอนาคตจะพัฒนาเป็นสิ่งปลูกสร้างรูปแบบไหนยังไม่แน่นอน และเลยไปเป็นถนนใหญ่ศรีนครินทร์กว้าง 10 เลน มีเกาะกลางกั้น และด้วยความที่เป็นถนนหลัก หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีมลภาวะจากรถติดแถมมาด้วย ฝั่งตรงข้ามของถนนคือพื้นที่ของ Max Value และคอนโด lpn สูง 25 ชั้น ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือคือพื้นที่เรียบๆขายต้นไม้ ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง เลยไปเป็นสถานีรถไฟหัวหมาก รวมถึงพื้นที่จอดรถของการรถไฟ เหนือขึ้นไปเป็นเส้นทางเดินรถของ Airport Rail Link ที่แน่นอนว่าจะมีเสียงรบกวนเช่นกันค่ะ ส่วนทิศตะวันตกเฉียงเหนือคือบ้านพักอาศัยและที่ว่างเปล่าง สุดท้ายกับทิศตะวันตกเฉียงใต้ สิ่งปลูกสร้างคืออาคารสำนักงานสูง 5 ชั้นและ 8 ชั้นตามลำดับ โดยด้านหลังมีเสาสัญญาณ สูงเทียบเท่าอาคารสูงประมาณ 20 ชั้นตั้งอยู่ และเลยไปเป็นอาคารสำนักงานสูงไม่เกิน 8 ชั้นทั่วไปและชุมชนบ้านพักอาศัย

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • สถานีรถไฟหัวหมาก 220 เมตร
  • Max Value พัฒนาการ 230 เมตร (ระยะเดินข้ามสะพานลอย)
  • สถานีรถไฟฟ้า Airport Rail Link หัวหมาก 550 เมตร (ระยะเดินข้ามสะพานลอย)
  • Tesco Lotus พัฒนาการ 700 เมตร
  • London Street จาก Mk Group 850 เมตร
  • โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ 1.6 กิโลเมตร
  • สวนปิยะภิรมย์ 1.7 กิโลเมตร
  • โรงแรม The Grand Four Wings 2 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลวิภาราม 2.8 กิโลเมตร
  • โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ 3.2 กิโลเมตร
  • สำนักงานเขตสวนหลวง 3.3 กิโลเมตร
  • สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น 3.4 กิโลเมตร
  • Stamford International University 3.5 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต 3.7 กิโลเมตร
  • ABAC 3.8 กิโลเมตร
  • ราชมังคลากีฬาสถาน 4.1 กิโลเมตร
  • The Nine พระราม9 5.1 กิโลเมตร (รวมระยะทางกลับรถ)
  • ซีคอนสแควร์ 6.5 กิโลเมตร
  • สวนหลวงร.9 7.2 กิโลเมตร

 


เจาะลึกตัวโครงการ

ภาพจำลองภายนอกของโครงการ Than Living พระราม9 – Airport Link คอนโด High Rise สูง 32 ชั้น 530 ยูนิต ตัวอาคารเป็นรูปตัว L หันหน้าโครงการออกถนนศรีนครินทร์ ตัวอาคารใช้โทนสีอ่อนตกแต่ง ทำให้ตัวคอนโดดูสว่างและทันสมัยตาม Concept Modern Contemporary Style ชั้น 1-6 เป็นชั้นจอดรถ เร่ิมมีส่วนของห้องพักที่ชั้น 7 ที่มี Kids’ pool และสวนหย่อมรอบข้างขนาดพอพักผ่อนหย่อนใจได้และห้องสมุด ตั้งแต่ชั้น 8 ไปจนถึงชั้น 29 จะเป็นห้องพักล้วน และชั้น 30-31 เป็นชั้นที่มีห้องขนาดใหญ่ขึ้นคือ Penthouse และ Duplex ด้วย ส่วนชั้น 30 จะมีสวนเล็กๆ และดาดฟ้าชั้น 32 เป็นชั้น Facilities ส่วนกลางทั้งหมด อาทิ Infinite Edge Pool กลางแจ้ง ล้อมรอบด้วย Sky Garden ส่วนในอาคารจะเป็นห้องออกกำลังกาย และ Sky Lounge แบบ Double Ceiling Height ที่เดินบันไดวนขึ้นไปจะเจอ Yoga Room อยู่อีกห้องหนึ่ง รอบๆตัวอาคารเป็นที่จอดรถกลางแจ้ง ส่วน Landscape หน้าโครงการและต้นไม้ใหญ่รอบพื้นที่โครงการ

Model คอนโดและพื้นที่โดยรอบแบบใกล้ๆ บ่งบอกถึงสเกลของตัวตึกและขนาดพื้นที่สีเขียวต่อพื้นที่พักอาศัย โดยตั้งแต่ทางเข้าซอยศรีนครินทร์ 14 จะมีต้นไม้ปลูกอยู่ทั้งสองด้าน นำเข้ามาภายในโครงการที่มีป้อมพี่ยามอยู่ด้านหน้า พื้นที่ชั้น 1 จะมีที่จอดรถกลางแจ้ง และชั้นจอดรถ 1-6 ส่วน Facade มีฉากบังสายตา ชั้น Facilities มีด้วยกัน 3 จุดคือบนชั้น 7, สวนชั้น 30 และดาดฟ้าชั้น 32 เป็นแบบเปิดโล่งในส่วนของสระว่ายน้ำและสวนรอบสระที่ยกเอาต้นไม้ใหญ่ขึ้นไปไว้ข้างบนด้วย ถือว่าได้ทั้งการใช้งานส่วนกลาง และวิวโดยรอบจากตึกที่สูงที่สุดในแถบนี้

ทางเข้าโครงการอยู่บนถนนใหญ่ศรีนครินทร์ เข้าซอยศรีนครินทร์ 14 มา 110 เมตร จะถึงส่วนหน้าโครงการ พื้นที่ว่างด้านหน้าติดถนนใหญ่ปัจจุบันเป็น Sales Office ที่อยู่บนพื้นที่ของกีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ เช่นกัน ส่วนในอนาคตจะพัฒนาเป็นสิ่งปลูกสร้างรูปแบบไหนยังไม่แน่นอน

จากทางเข้าของโครงการที่ฝั่งขวาเป็นป้อมพี่ยาม ฝั่งซ้ายเป็นป้ายโครงการและ Landscape เข้ามาเป็นส่วน Lobby และทางขึ้นที่จอดรถ รอบเขตของโครงการเป็นต้นไม้ใหญ่และ Garden Pixel

ท้ายโครงการเป็นส่วนที่จอดรถ ด้านหลังเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่จัด Landscape เป็นทั้งซุ้มที่นั่งหลายจุดทั้งใหญ่-เล็กและพื้นที่สีเขียว เหมาะสำหรับการ Jogging เช้าๆหรือจะเป็นช่วงหลังเลิกงาน ทดแทน Facilities บางส่วนที่เปิด-ปิดเป็นเวลา

Facade ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ เป็นส่วนที่มองเห็นได้จากทางเข้าโครงการ เป็นพื้นที่มุมรูปตัว L มี Kids’ pool และห้องสมุดชั้น 7 รวมถึง Pocket Garden ชั้น 30 และ Facilities ชั้น 32 หันหน้ามาทางฝั่งนี้กันหมด

ส่วนท้ายโครงการเป็นสวนและพื้นที่นั่งเล่น ตัวตึกฝั่งนี้จะมีบันไดหนีไฟอยู่ตรงกลางของทิศตะวันตกเฉียงใต้ด้านนี้ ตัวบันไดชั้น 1 จะเป็นส่วนจอดรถในร่มใต้อาคาร

ส่วนตะวันออกเฉียงเหนือเป็นพื้นที่ข้างของโครงการ การจัดวางผังโครงการจะไม่ค่อยเปิดมาทางนี้เท่าไร น่าจะเป็นเพราะกลัวจะเป็นการรับเอาเสียงจากเส้นทางรถไฟและเส้นทาง Airport Rail Link ที่อยู่ฝั่งนี้เต็มๆ

ทิศตะวันออกเฉียงใต้ส่วนหน้าโครงการเป็นส่วน Drop-off ที่ชั้น 1 และที่ชั้นบนสุดเป็นชั้น 32 ดาดฟ้าที่มี Facilities ในร่มคือ Sky Lounge และฟิตเนส ทั้งยังมีบันไดวันขึ้นไปยังชั้น 32-M ที่เป็นห้องโยคะโดดขึ้นมาอีกด้วย

z FloorPlan_web_F01_720x320

เร่ิมกันที่ผังชั้น 1 กันค่ะ โครงการ Than Living พระราม9 – Airport Link เข้าได้จากถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้ารามคำแหง เข้าซอยศรีนครินทร์ 14 ทางซ้ายมือมา 110 เมตร พื้นที่เป็นรูปตัวสี่เหลื่อมผืนผ้า รูปทรงอาคารสร้างอยู่ตรงกลางแปลงที่ดินเป็นรูปตัว L ตัวคอนโดสูง 32 ชั้น เข้ามาจะเจอ Drop-off หน้า Lobby ที่จอดรถส่วนใหญ่อยู่ภายในอาคาร ตั้งแต่ชั้น 1-6 และบางส่วนอยู่กลางแจ้งรอบๆโครงการ ตรงกลางชั้น Ground แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนคือ Lobby นิติบุคคล และโถงลิฟท์โดยสาร 4 ตัว ลิฟท์ Service 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 132 : 1 และบันไดหนีไฟ 2 จุด คือภายในพื้นที่ Lobby 1 จุด และที่จอดรถกลางแจ้งอีก 1 จุด และอีกส่วนหนึ่งคือส่วนระบบที่อยู่ส่วนด้านหลังของโครงการ สภาพรอบตัวตึกทำเป็นพื้นที่สีเขียวอยู่เป็นหย่อมๆ

z FloorPlan_web_F02_720x320

ชั้น 2-6 เป็นพื้นที่จอดรถที่อยู่ภายในอาคาร และบางส่วนอยู่กลางแจ้งรอบๆโครงการ ที่จอดรถ 48% รวมจอดซ้อนคันประมาณ 308 คันคิดเป็น 58% โดยทิศทางการเดินรถจะวนเป็นสี่เหลี่ยมไปเรื่อยๆ โดยจะมีซองที่จอดรถแยกซ้าย-ขวาไปเรื่อยๆ โดย Core ลิฟท์จะอยู่ส่วนตะวันออกเฉียงเหนือ

z FloorPlan_web_F07_720x320

ที่ชั้น 7 เริ่มเป็นชั้นส่วนของห้องพัก มี Kids’ pool ระบบเกลือ ขนาด 9.5 x 3.6 เมตร ลึก 0.6 เมตร สวนรอบๆและห้องน้ำส่วนกลาง รวมถึงห้องสมุดที่เข้าได้จาก Deck เปิดโล่งตรงข้ามโถงลิฟท์โดยสาร บนชั้นนี้มีห้องพักทั้งหมด 19 ห้อง การจัดเรียงห้องพักเป็นแบบ Double Corridor ตามแนวตึกรูปตัว L ห้องพักมี 2 แบบ คือแบบ 1 ห้องนอนที่เป็นห้องพักส่วนใหญ่จำนวน 14 ห้อง อยู่ทั้งฝั่งเหนือและฝั่งใต้ และ 2 ห้องนอน จำนวน 5 ห้อง เป็นห้องริมฝั่งตะวันออกสองห้อง, ห้องริมทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ฝั่งใกล้สวน และอีกห้องหนึ่งที่มุมรูปตัว L ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

จากโมเดลใหญ่จะเห็นว่าชั้น 1-6 มีที่กั้นในส่วนของ Facade ที่ใช้ทั้งการบังสายตาและการทำให้อากาศถ่ายเทในชั้นจอดรถ  ส่วนบนชั้น 7 จะมีส่วน Facilities ส่วนหนึ่ง

มาดูที่ Facilities ของชั้น 7 แบบชัดๆกันที่อีกโมเดลหนึ่งนะคะ จะเห็นว่าจาก Deck โล่งๆจะมีทางเข้าห้องสมุดภายในอาคารและห้องน้ำส่วนกลาง เดินออกมาที่ส่วนกลางแจ้งจะเป็น Kids’pool ระบบเกลือ ขนาด 9.5 x 3.6 เมตร ลึก 0.6 เมตร ด้านข้างมีเก้าอี้ข้างสระตัวยาวสำหรับพ่อแม่มารอลูกๆเล่นน้ำ รวมถึงพื้นที่สีเขียวด้านข้าง ไว้ในเด็กๆได้วิ่งเล่น

มองเข้าไปส่วน Deck ที่เป็นทางเข้าส่วนกลางกันใกล้ๆ ส่วน Deck นี้จะอยู่ตรงข้ามกับโถงลิฟท์โดยสาร โดยมีเพียงประตูแบบผลัก-ดึงกั้นเท่านั้น

z FloorPlan_web_F08_720x320

ห้องพักชั้น 8 คล้ายกันกับชั้น 7 จำนวนยูนิตเพิ่มห้องแบบ 1 ห้องนอนมาหนึ่งห้องเหนือห้องน้ำส่วนกลาง รวมยูนิตอยู่ที่ 20 ห้องเป็นห้องพักล้วนๆ ตั้งแต่ชั้นนี้ขึ้นไปไม่มี Facilities ส่วนกลาง

z FloorPlan_web_F20_720x320

ห้องพักในชั้น 9–20 เป็นห้องที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุดคือ 23 ยูนิต มีห้องพัก 2 แบบเหมือนเดิมคือ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน เพิ่มแบบ 1 ห้องนอน 32 ตารางเมตร มาจำนวน 3 ห้อง อยู่ทางห้องฝั่งทิศใต้ โดยจะเป็นมุมที่ได้วิวอาคารสำนักงานสูง 5 ชั้น และ 8 ชั้น รวมถึงแยกพัฒนาการ มีลิฟท์โดยสารอยู่ที่ด้านยาวของตัว L ฝั่งตะวันออก ดังนั้นห้องที่อยู่ใกล้โถงลิฟท์จะได้รับความสะดวกในเรื่องการขึ้น-ลง แต่ในทางกลับกัน ความเป็นส่วนตัวที่ได้จะน้อยกว่าห้องทางอีกฝั่งของตัว L ทางตะวันตกที่เป็นทางตัน ไม่มีการเดินไปเดินมาของเพื่อนร่วมชั้นมากนัก แต่จะอยู่ไกลจากลิฟท์ไปหน่อย

z FloorPlan_web_F21_720x320

ห้องพักชั้น 21-29 เป็นห้องที่มีจำนวนยูนิต 22 ห้อง ห้องมุมที่ทิศจะวันตกเฉียงใต้แบบ 2 ห้องนอนเกิดจากการรวมกันของห้อง 1 ห้องนอน สองห้องเข้าด้วยกัน

ส่วนการจัดวางรูปทรงอาคารแบบตามตะวันคือส่วนที่กว้างกว่าอยู่ทางทิศเหนือ-ใต้ ทำให้ห้องทางทิศเหนือได้รับแสงธรรมชาติที่ไม่แรงเหมาะกับการอยู่อาศัยตลอดวัน ส่วนห้องทางทิศใต้จะได้รับแสงแดดที่แรงกว่า อุณหภูมิสูงจะเก็บอยู่ในห้องตลอดช่วงบ่าย แต่ทิศทางลมที่ดีกว่า

z FloorPlan_web_F30_720x320

ชั้น 30 เปลี่ยนแบบห้องเป็นขนาดที่ใหญ่ขึ้น จำนวนยูนิตต่อชั้นน้อยลง แบ่งออกเป็นห้อง 2 ห้องนอน 4 ห้อง ที่ห้องฝั่งทิศใต้, ห้อง Duplex หนึ่งเดียวในโครงการใกล้ Pocket Garden ที่มุมตึกทิศตะวันตกเฉียงใต้ และห้อง Penthouse 4 ห้อง โดยเหมือนห้องที่อยู่บนชั้นนี้จะได้พื้นที่สีเขียวส่วนตัวเพิ่มขึ้นมา เนื่องจาก Pocket Garden ขนาดไม่ใหญ่มาก คงไม่ค่อยมีลูกบ้านชั้นอื่นขึ้นมาใช้งานเท่าไรนัก

จากโมเดลสเกลใหญ่จะเห็นว่ามีส่วน Facilities อยู่ด้านบนทั้งส่วนชั้น 30 และ 32

เข้ามาดู Pocket Garden บนชั้น 30 กันใกล้ๆ ชั้น 30-31 จะเริ่มเป็นห้องขนาดใหญ่ขึ้น จำนวนยูนิตน้อยลง ที่นอกจากห้อง 2 ห้องนอนปกติแล้วยังมีห้อง Penthouse และห้องแบบ Duplex เข้ามาด้วย ทำให้สวนนี้กลายเป็นส่วนที่ค่อนข้างส่วนตัวของลูกบ้านชั้นนี้

z FloorPlan_web_F31_720x320

ชั้น 31 แบ่งห้องเหมือนกับชั้น 30 ทุกประการ มี 9 ยูนิต โดยห้อง Duplex จะเป็นห้องชั้น 2 แต่ก็ยังจะมีประตูที่สามารถออกไปยังโถงทางเดินชั้น 31 ได้ตามกฏหมาย

z FloorPlan_web_F32_720x320

ชั้นดาดฟ้า 32 ชั้นบนสุดเป็นพื้นที่ของ Facilities ตั้งแต่ Infinity Edged Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาด 23.5 x 5.5 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร ได้วิวแยกพัฒนาการ รอบสระเป็น Sky Garden พื้นที่สีเขียวและต้นไม้ใหญ่ ในอาคารเป็นพื้นที่ของ Fitness และ Sky Lounge ที่เป็นแบบ Double Ceiling Height ได้วิวถนนศรีนครินทร์และสถานี Airport Rail Link หัวหมาก

พามาดูในโมเดลกันบ้างค่ะ ทางเข้าส่วนกลางจะเข้าได้จากประตูฝั่งตรงข้ามโถงลิฟท์โดยสาร เดินออกมาจากประตูจะเจอพื้นที่โล่งๆ ที่มีต้นไม้ปลูกเป็นจุดๆ สามารถเลี้ยวขวาไปทางสระว่ายน้ำและ Sky Garden หรือจะเลี้ยวซ้ายเข้าไปในส่วนของ Sky Lounge และฟิตเนสที่อยู่ภายในอาคาร

สระว่ายน้ำผู้ใหญ่กลางแจ้ง Infinite Edge Pool ระบบเกลือ ขนาด 23.5 x 5.5 เมตร ลึก 1.2 เมตร มีกระจกแบบหันหน้าออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ได้วิวแยกพัฒนาการไป มีเก้าอี้ยาวข้างสระทั้งส่วนที่อยู่กลางแจ้งและในร่ม

จะเห็นว่าพื้นที่สีเขียวจะออกแบบมาหลายแบบ ทั้งที่เป็นส่วนของต้นไม้ใหญ่ แบบที่สามารถอาศัยร่มนั่งเล่นได้ และส่วนที่เป็นที่โล่งแบบ Garden Pixel ทางด้านขวาจะเป็นสระว่ายน้ำ และที่นั่งข้างสระ

z FloorPlan_web_F32m_720x320

ชั้น 32-M คือชั้นที่ขึ้นมาได้จากบันไดวนในอาคารระหว่างห้องฟิตเนสและ Sky Lounge ด้านบนจะเป็นห้องโยคะที่ขนาดเท่าห้องฟิตเนส และส่วนงานระบบอย่างห้องลิฟท์, ส่วนระบบ AC และบันไดหนีไฟ

ส่วนกลางภายในอาคาร จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือส่วน Sky Lounge ที่เป็นแบบ Double Ceiling Height และส่วนที่เป็นห้องฟิสเนต ตรงกลางจะมีบันไดวนที่สามารถขึ้นไปใช้บริการที่ห้องโยคะที่อยู่บนห้องฟิตเนสได้

6 MAP view

 

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

ผังวิวแบ่งพื้นที่ใหญ่ๆออกเป็น 4 วิว คือ

  • ทิศตะวันออกเฉียงใต้ : วิวถนนใหญ่ศรีนครินทร์กว้าง 10 เลน มีเกาะกลางกั้น และด้วยความที่เป็นถนนหลัก หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีมลภาวะจากรถติดแถมมาด้วย ฝั่งตรงข้ามของถนนคือ Max Value และคอนโด lpn สูง 25 ชั้น วิวระยะใกล้คือซอยศรีนครินทร์ 14 ที่เป็นทางเข้า และพื้นที่ว่างเปล่าของกีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ ที่ปัจจุบันเป็น Sales Office ของโครงการ ส่วนในอนาคตจะพัฒนาเป็นสิ่งปลูกสร้างรูปแบบไหนยังไม่แน่นอน
  • ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ :  พื้นที่ขายต้นไม้ ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง วิวชั้นกลางๆเป็นต้นไปคือเส้นทางรถไฟรวมถึงตัวสถานีรถไฟหัวหมาก และพื้นที่จอดรถของการรถไฟ เหนือขึ้นไปเป็นเส้นทางเดินรถของ Airport Rail Link ที่แน่นอนว่าจะมีเสียงรบกวนเช่นกัน
  • ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ : บ้านพักอาศัยขนาดใหญ่-เล็ก, พื้นที่ชุมชน และที่ว่างเปล่า
  • ทิศตะวันตกเฉียงใต้ : สิ่งปลูกสร้างคืออาคารสำนักงานสูง 5 ชั้นและ 8 ชั้นตามลำดับ โดยด้านหลังมีเสาสัญญาณ สูงเทียบเท่าอาคารสูงประมาณ 20 ชั้นตั้งอยู่ และเลยไปเป็นอาคารสำนักงานสูงไม่เกิน 8 ชั้นทั่วไปและชุมชนบ้านพักอาศัย

รวมๆแล้วคือวิวระยะใกล้ไม่มีตึกสูงในระยะประชิด ยกเว้นแต่เสาสัญญาณที่ตั้งอยู่โดดๆรั้วติดกับแปลงที่ดินโครงการทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ สูงเทียบเท่าหรือมากกว่า 20 ชั้น ก็บังวิวทั้งมุมใกล้และมุมกว้างกันไปพอสมควร ฝั่งตรงข้ามถนนศรีนครินทร์มีคอนโด lpn สูง 25 ชั้น ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ในระยะ 160 เมตร รวมระยะเดินเข้าซอยศรีนครินทร์ 14 แต่ถือว่าไม่บังเป็นวิวระยะใกล้เท่าไร ส่วนต่อมาเป็นเส้นทางรถไฟทั้งบนดินและลอยฟ้าในระยะ 140 เมตร ที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มาพร้อมกับมลภาวะทางเสียง

 

ส่วน Lobby ที่อยู่บนชั้น 1 จัดชุดเก้าอี้ไว้หลายชุดสำหรับการใช้งานของลูกบ้านแต่ละกลุ่ม โดยแบ่งออกจากกันด้วยเสาตึกที่ตกแต่งด้วยกระจกสะท้อน

Kids’pool กลางแจ้งบนชั้น 7 มีเก้าอี้ไว้รับลมหรือพักผ่อนนอนเล่นได้ข้างสระ อีกด้านเป็นไม้พุ่มที่กั้นวิวฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ ที่แปลงข้างๆเป็นอาคารสำนักงานสูง 5 และ 8 ชั้นตามลำดับ

ห้องสมุดมีชั้นหนังสือกั้นชุดเก้าอี้ โซฟาตัวยาว และเคาท์เตอร์ทำงาน แบ่งการใช้งานได้เป็นหลายๆมุมย่อยๆเพื่อความเป็นส่วนตัว ด้วยการตกแต่งภาพทำให้รู้สึกสว่าง แสงธรรมชาติน่าจะเข้าถึงภายในห้องได้อย่างดี

Facilities บนดาดฟ้า มีสระว่ายน้ำกลางแจ้งยาว 23.5 เมตร ความยาวพอจะใช้ออกกำลังกายจริงๆจังๆรอบด้วยพื้นที่สีเขียว เป็นสระที่สามารถว่ายน้ำชมวิวได้ เพราะเป็น Sky Infinity Edged Swimming Pool มีเก้าอี้ยาวอยู่ข้างสระ

Sky Lounge ได้วิวถนนศรีนครินทร์ยาวไปจนถึงสถานีรถไฟฟ้า Airport Rail Link หัวหมาก ตกแต่งแบบโปร่งโล่งเพดานสูง ด้านนอกหลังกระจกใสจะเห็นบันไดวนที่สามารถขึ้นไปใช้งานห้องโยคะ

ห้องฟิตเนส ก็รับวิวด้านบนเช่นกัน จากรูปก็วางเครื่องออกกำลังกายได้เยอะพอสมควร

เราจะพาเข้าไปดู Sales Office ของโครงการกันบ้างค่ะ อาคารเป็นแบบ 2 ชั้น หลังคาเรียบหน้าปากซ้ายศรีนครินทร์ 14 ด้านหน้าจัด Landscape และป้ายโครงการ

ทางเข้าของรถยนต์อยู่ด้านซ้ายของตึก Sales Office

มีที่จอดรถสำหรับผู้สนใจเข้ามาชมโครงการด้านใน ด้านหลังของพุ่มไม้ทางด้านซ้ายจะเป็นส่วนที่เป็นพื้นที่แปลงโครงการจริงๆนะคะ

บินขึ้นมาถ่ายให้ดูพื้นที่แปลงของโครงการจริงๆเป็นอย่างไร ปัจจุบันยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่า ยังไม่ได้มีการเริ่มการก่อสร้างเพราะว่าการยื่น EIA ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ แต่คาดว่าจะเร่ิมก่อสร้างกันภายในกลางปีนี้ จะเห็นได้ว่าทางซ้ายมือมีอาคารสำนักงานสูง 5 และ 8 เมตรตามลำดับ ตามด้วยเสาสัญญาณสูงมากอยู่ทางด้านหลัง

ถ่ายรูปเสาสัญญาณกันให้ดูเต็มๆ น่าจะสูงมากกว่าตึก 20 ชั้นนะคะ

กลับมาที่ส่วน Sales Office เราจะเข้าไปดูภายในกัน

เปิดประตูเข้ามาภายในเป็นเคาท์เตอร์ของพนักงาน ตรงกลางมีโซฟาตัวใหญ่และโต๊ะกลมเล็กๆรับรองเป็นจุดๆ ลึกเข้าไปด้านในเป็นบันไดขึ้นไปยังชั้น 2

ลึกเข้าไปชั้น 1 เป็นโมเดลโครงการ และชุดโซฟาแยกอีก 1 ชุด ด้านในเป็นห้องตัวอย่างแบบ 2 ห้องนอน และห้องน้ำ ถ้าขึ้นไปบนชั้น 2 จะเป็นห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน 2 แบบ

โมเดลของโครงการ มีทั้งแบบที่เป็นตึกเต็มๆ และแบบที่เน้นเฉพาะส่วน Facilities แยกชั้น

ด้านในเป็นห้องตัวอย่างแบบ 2 ห้องนอน Type E4 ขนาด 55 ตารางเมตร

ทางซ้ายมือคือห้องน้ำให้บริการ

เราขึ้นมาบนชั้น 2 ทางขวามือมีโต๊ะ – เก้าอี้รับรองอีก 1 ชุด

มองตรงเข้าไปจะเป็นห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอน Type A1 ขนาด 26 ตารางเมตร และ Type B1-M พื้นที่ห้องขนาด 32 ตารางเมตร

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby มี Internet Wi-fi
  • ชั้น 7 Kids’ pool ระบบเกลือ ขนาด 9.5 x 3.6 เมตร ลึก 0.6 เมตร
  • ชั้น 7 Library
  • ชั้น 30 Pocket Garden
  • ชั้น 32 สระว่ายน้ำผู้ใหญ่กลางแจ้ง Infinite Edge Pool ระบบเกลือ ขนาด 23.5 x 5.5 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • ชั้น 32 ห้องออกกำลังกาย
  • ชั้น 32 Sky Garden กลางแจ้ง
  • ชั้น 32 Sky Lounge แบบ Double Ceiling Height
  • ชั้น 32-M Yoga Room ขึ้นจากบันไดวนข้างห้องฟิตเนส
  • สวนหย่อมรอบโครงการ และท้ายโครงการ
  • ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 132 : 1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถ 48% รวมจอดซ้อนคันประมาณ 308 คันคิดเป็น 58%
  • ระบบ CCTV / Access Card

 


Product Walkthrough

เริ่มจากห้องตัวอย่างของโครงการห้องแรกกัน คือแบบ 1 ห้องนอน ความจริงแล้วแบบ 1 ห้องนอนแบ่งออกเป็นแบบย่อยลงไปอีกรวม 11 แบบ เป็นห้องที่มีจำนวนมากที่สุดในอาคาร แตกต่างกันตามตำแหน่งและขนาดของห้อง จะมีรีวิวแบบห้องอีกที่ท้ายรีวิวที่ยกเอาแบบห้องที่ค่อนข้างมีความแตกต่างกันมาเปรียบเทียบนะคะ

ส่วนแบบห้องตัวอย่างห้องนี้เป็น Type B1-M พื้นที่ห้องขนาด 32 ตารางเมตร รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบ แบ่งพื้นที่ใช้สอยออกเป็น 4 ส่วนคือ ห้องนั่งเล่น, ห้องน้ำ, ห้องนอน และห้องครัวที่ออกไปยังระเบียง เมื่อเข้าสู่ตัวห้องจะเจอห้องนั่งเล่นอยู่ทางซ้ายมือ มีชุดโซฟาและโต๊ะกลางอยู่ทางซ้ายมือ ด้านหลังประตูเป็นชั้นวางทีวี และประตูทางเข้าห้องน้ำที่สามารถเข้าได้จากทางห้องนั่งเล่น ส่วนครัวจะอยู่ลึกเข้าไปทางด้านซ้ายมือ มีประตูบานเลื่อนสูง 2.7 เมตรกั้น ด้านในมีเคาท์เตอร์ครัวอยู่ฝั่งซ้ายและโต๊ะทานเข้าแบบ 2 ที่นั่งอยู่ฝั่งขวา ลึกเข้าไปอีกคือประตูบานเลื่อนเปิดออกไปสู่ระเบียงด้านนอก ประตูทางเข้าห้องนอนอยู่ตรงกับประตูทางเข้าห้องชุด เข้าไปจะมีเตียงนอนและตู้เสื้อผ้า ไม่มีระเบียง การจัดผังห้องให้ห้องน้ำอยู่ส่วนด้านในของอาคาร คือไม่มีช่องระบายอากาศ ทำให้ต้องพึ่งพาระบบของอาคารล้วนๆ แต่มีการกั้นห้องครัวอยู่ใกล้ระเบียงทำให้ระบายอากาศและกลิ่นไปได้ระดับหนึ่ง

เริ่มจากทางเข้าห้องนะคะ ประตูเป็นบานเปิดพร้อมวงกบ ขนาด 0.9 x 2.4 เมตร ประตูมือจับแบบก้านโยกพร้อม Digital Doorlock

พื้นห้องคือไม้สำเร็จรูปผิวลามิเนต หนา 8 มิลลิเมตร

จากประตูห้องชุดมองเข้าไปจะเห็นส่วนห้องนั่งเล่นขนาด 2.65 x 3.25 เมตร ส่วนที่ใกล้ที่สุดทางซ้ายมือ คือชุดโซฟาและโต๊ะสี่เหลี่ยมตรงกลางตั้งอยู่กลางห้อง ฝั่งตรงข้ามคือชั้นวางทีวี ลึกเข้าไปด้านในคือบานประตูเลื่อนสูงจากพื้นที่ถึงเพดานคือ 2.7 เมตร เป็นที่กั้นก่อนเข้าไปถึงห้องครัว ด้านในคือเคาท์เตอร์ครัวอยู่ด้านซ้าย และโต๊ะทานอาหารพร้อมเก้าอี้ 2 ตัวอยู่ทางด้านซ้าย ด้านในห้องครัวอีกทีจึงจะมีบานประตูเลื่อนออกไปยังส่วนระเบียง

ส่วนทางขวามือนอกจากชั้นวางทีวีที่อยู่หลังประตูแล้ว ยังมีประตูห้องน้ำอยู่ทางด้านขวา และประตูห้องนอนอยู่ด้านหน้า ตรงกับประตูทางเข้าห้องชุด ด้านในมีเตียง, ชั้นวางทีวี, โต๊ะข้างเตียง และตู้เสื้อผ้า ไม่มีระเบียงในตัว แต่มีช่องแสงที่เป็นแบบบานกระทุ้งและแบบบาน Fix อยู่ข้างเตียง

ส่วนนั่งเล่นประกอบไปด้วยโซฟา, โต๊ะกลาง และชั้นวางทีวี ส่วนเงื่อนไขการขายของโครงการนี้เป็นแบบ Fully Furnished จะได้เฟอร์นิเจอร์ใช้งานส่วนใหญ่ มีบางชิ้นเท่านั้นที่ไม่ได้ จะเจาะเป็นชิ้นๆไป แต่ให้แอร์ในทุกๆห้อง อย่าง 1 ห้องนอนห้องนี้ ได้แอร์ทั้ง 2 ตัว คือห้องนั่งเล่นและห้องนอน แต่ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างอื่น เช่น ทีวีที่อยู่ด้านหน้านี้ ระยะดูทีวีอยู่ที่ 2.7 เมตร

เริ่มเจาะรายละเอียดกันตั้งแต่พื้นที่ Living ด้านหน้านะคะ ชุดโซฟาตัวยาวขนาด 2 คนนั่ง กว้าง 1.10 เมตร และโต๊ะกลางด้านหน้า ส่วนโต๊ะที่อยู่ข้างๆโซฟาอันนี้ไม่ได้ ผนังทั้งห้องให้มาแบบฉาบปูนเรียบทาสีขาว ดังนั้นที่เห็นว่าเป็นกระจกสะท้อนหรือลาย Wallpaper ต่างๆเป็นการตกแต่งเพิ่มเติมเท่านั้น

ฝั่งตรงข้ามคือชั้นวางทีวี และด้านบนเป็นตำแหน่งแอร์

ด้านในเป็นประตูบานเลื่อนแบบ 2 ตอน บานกระจกกรอบอลูมิเนียม ความสูงจากพื้นขึ้นไปถึงฝ้า 2.7 เมตร ถือว่าเป็นจุดดีในการให้บานเลื่อนใหญ่เต็มบาน ประกอบกับการตกแต่งผนังห้องด้วยกระจกสะท้อน ทำให้ห้องดูกว้างและโล่งขึ้น แต่จะดีกว่าถ้าเป็นประตูเลื่อนแบบ 3 ตอน เพราะจะทำให้เวลาเปิดไม่เกะกะทางเดินมากนัก

ตัวกรอบอลูมเนียมของบานเลื่อนไม่ได้ฝังลงไปในพื้น ทำให้จะมีพื้นผิวที่ขรุขระบ้างเวลาเดินผ่าน พื้นห้องครัวด้านในเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้แบบเงาสีเทากลางขนาด 60 x 60 เซนติเมตร

ส่วนประตูบานเลื่อนมีล็อกจากด้านในห้องครัว

พื้นที่ด้านในห้องครัวขนาด 1.90 x 2.75 เมตร ด้านในจัดวางเคาท์เตอร์ครัวและชั้นเก็บของด้านบนแบบชิดผนังรูปตัว I มีช่องวางตู้เย็นให้ในฝั่งเดียวกัน ด้านขวาเป็นโต๊ะทานข้าว พร้อมเก้าอี้นั่ง 2 ตัว

โต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้นั่ง 2 ตัว วางชิดผนังตรงกลางห้อง มีพื้นที่ด้านหลังพอให้เลื่อนเก้าอี้เข้า-ออกได้ แต่ตัวโต๊ะจริงๆขนาดจะค่อนข้างเล็ก ใช้ได้แค่การทานอาหาร ประมาณ 4 จานจบหนึ่งมื้อ ไม่สามารถขยับขยายได้

ส่วนทางซ้ายมือเป็นเคาท์เตอร์ครัวที่ Build-in มาให้เลย มีเคาท์เตอร์และตู้เก็บของด้านล่าง รวมถึงด้านบนพร้อมช่องวางไมโครเวฟ แต่ความสูงของชั้นวางไม่ได้ทำให้สูงจนสุดฝ้า แต่จะปล่อยพื้นที่ด้านบนเว้นว่างไว้ ทำให้การทำความสะอาดค่อนข้างยาก ต้องต่อเก้าอี้เอื้อมขึ้นไปเช็ดถูกันนิดนึง บานตู้ส่วนใหญ่เป็นแบบช่องเปิด ขนาดบานใหญ่พอสมควร ไม่ใช่แบบเลื่อน

ความลึกของเคาท์เตอร์ครัวอยู่ที่ 60 เซนติเมตร อ่างล้างจานเป็นแบบฝัง และมี Hob and Hood 2 หัว อยู่ทางซ้ายมือ มีพื้นที่เตรียมอาหารตรงกลางค่อนข้างแคบทีเดียว ผนังส่วนครัวทาเป็นสีเคลือบแบบทำความสะอาดง่ายมาให้ในจุดนี้

พื้นที่วางตู้เย็นอยู่ทางขวามือ กว้าง 70 เซนติเมตร

อีกด้านหนึ่งของห้องครัวเป็นบานประตูเลื่อนแบบ 2 ตอน บานกระจกกรอบอลูมิเนียม สูง 2 เมตร เป็นทางออกไปยังระเบียงด้านนอก

กรอบบานเลื่อนวางอยู่บนปูนก่อ ความสูงรวมกรอบอลูมิเนียมแล้วอยู่ที่ 13 เซนติเมตร พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวหยาบขนาด 30 x 30 เซนติเมตร

มีตัวล็อกจากด้านในห้องครัวเช่นกัน

พื้นที่ระเบียงขนาด 1.1 x 1.9 เมตร ด้านซ้ายจัดไว้เป็นพื้นที่วางเครื่องซักผ้า ส่วนด้านขวาที่เหลือขนาดไม่เกิน 1 ตารางเมตรเป็นที่ยืนและตากผ้า มากกว่าจะเป็นพื้นที่สำหรับการชมวิว

พื้นที่วางเครื่องซักผ้าอยู่ริมหนึ่ง ส่วนริมทางราวกันตกเป็นส่วนก๊อกน้ำและท่อระบายน้ำ

ราวกันตกสูง 1.1 เมตร มีการกั้นส่วนด้านซ้ายไว้บังสายตา เพราะเหนือเครื่องซักผ้าขึ้นไปจะเป็นตำแหน่งของ Compressor แอร์ 2 ตัว

พื้นที่เหนือเครื่องซักผ้าคือที่วาง Compressor แอร์ ที่ตอนนี้ยังไม่มีมาวางไว้ให้ดู สำหรับ 1 ห้องนอน จะได้เป็น Grill ปรับทิศทางลมร้อนให้เฉียงออกนอกอาคารธรรมดา ด้านล่างมีปลั๊กสามตาพร้อมฝาครอบกันน้ำ

ไฟนอกระเบียงเป็นแบบทรงกระบอกออกมาจากฝ้า ด้านในเป็นหลอดตะเกียบธรรมดา

มาต่อกันที่ห้องน้ำที่เข้าได้จากห้องนั่งเล่น ประตูทางเข้าสูง 2 เมตร อยู่ข้างกับชั้นวางทีวี

พื้นห้องน้ำเป็นแบบลดระดับเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่เกิน 3 เซนติเมตร พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้แบบด้านสีอ่อน ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร

ด้านในจัดวางพื้นที่ใช้งานเป็น 3 ส่วนคือ อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกบานไม่ใหญ่มาก, โถสุขภัณฑ์อยู่ตรงกลาง และพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำ มาพร้อมกับฉากกั้นสูง 2 เมตร ผนังกรุด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้แบบด้านสีอ่อน ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร เช่นเดียวกับพื้น

ส่วนอ่างล้างหน้าแบบสี่เหลื่ยม จาก Sierra ไม่มีการก่อปูนออกมาด้านข้างเพื่อนเป็นพื้นที่วางข้าวของเครื่องใช้ในห้องน้ำ ทำให้ต้องวางริมอ่างเหมือนในรูป กระจกความกว้างเท่าอ่างล้างหน้าเป็นแบบปกติ ไม่ได้เป็นแบบเปิดที่มีชั้นวางของเล็กๆอยู่ด้านใน ตู้เก็บของด้านล่างเป็นแบบความลึกครึ่งเดียว ไม่มีบานปิด

ถัดมาทางด้านขวาเป็นโถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระ ที่วางทิชชู และท่อน้ำทิ้ง สังเกตว่าตำแหน่งท่อน้ำทิ้งไม่ได้อยู่ที่มุมห้องเหมือนอย่างปกติ การลาดพื้นให้เกิดองศาเอียงอาจจะทำได้ยากขึ้นถ้าตำแหน่งท่อน้ำทิ้งอยู่ตรงกลางห้อง ระวังเรื่องการระบายน้ำกันด้วยนะคะ

ด้านในคือฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจก Tempered สูง 2 เมตร ประตูเป็นแบบบานเปิดผลักออก

พื้นที่เปียกอาบน้ำขนาด 0.9 x 1.4 เมตร มีปูนก่อสูง 5 เซนติเมตรกั้น ที่มุมมีท่อน้ำทิ้ง

ฝักบัว จาก Sierra พร้อมที่วางสบู่ได้ก้อนเดียวขาดตัว

รูปร่างหัวฝักบัว

ออกจากห้องน้ำมาต่อกันที่ห้องนอนที่อยู่ทางซ้าย ประตูภายในสูง 2 เมตรเท่ากันหมด

พื้นเรียบไปกับส่วน Living คือพื้นไม้สำเร็จรูปผิวลามิเนต หนา 8 มิลลิเมตร

ภายในห้องนอนขนาด 2.75 x 2.85 เมตร ด้านในจัดวางเตียงขนาด King Size ไว้ชิดผนังทางด้านขวา มีตู้เสื้อผ้าอยู่ด้านข้าง ส่วนฝั่งตรงข้ามเตียงเป็นชั้นวางของ และทีวีติดผนัง ด้านในมีช่องแสงแบบบานใหญ่ แต่มีหน้าต่างบานกระทุ้งอยู่หนึ่งบาน ขนาดประมาณ 1/6 ของช่องแสงทั้งหมด

อีกครั้งเงื่อนไขการขายของ 1 ห้องนอน เป็นแบบ Fully Furnished แต่ในห้องนอนจะไม่ได้เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นที่เห็น ที่ได้มาด้วยจะมีเพียงแค่ 2 ชิ้นนั้นก็คือฐานเตียง แบบไม่มีฟูก และตู้เสื้อผ้าแบบ Build-in หน้าบานครึ่งหนึ่งเป็นบานปิดลายไม้ปกติ อีกครึ่งหนึ่งเป็นบานกระจกเต็มตัว

เข้ามาด้านในพื้นที่ด้านข้างเตียงทางฝั่งขวาจะเหลือค่อนข้างเยอะ คือประมาณ 1.2 เมตร มีตู้เสื้อผ้าวางอยู่ข้างหัวเตียง

ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานดึงออกเปิด-ปิด แบ่งช่องการใช้งานคร่าวๆออกเป็น 2 ช่องคือแขวนผ้าและช่องเก็บของด้านล่าง ส่วนช่องด้านบนแบบไม่มีบานปิดจะไว้ใส่พวกเครื่องนอนที่นานๆหยิบที หน้าบานเปิดมีทั้งแบบบานลายไม้ปกติ และแบบที่ตกแต่งด้วยกระจก

การเปิด-ปิดบานตู้เสื้อผ้าเป็นแบบลิ้นที่จับอยู่ทางบานฝั่งซ้ายข้างเดียว คือต้องเปิดฝั่งซ้ายก่อนจะแงะเปิดฝั่งขวาได้ทุกครั้ง

ปลายเตียงเป็นที่วางของชั้นวางของและทีวีติดผนังที่ลูกบ้านจะไม่ได้ในส่วนนี้ พื้นที่ปลายเตียงรวมความลึกตู้เก็บของแล้วอยู่ที่ 80 เซนติเมตร แต่ถ้าไม่รวมอยู่ที่ 40 เซนติเมตร ก็อยู่ในความกว้างที่พอเดินได้ ดังนั้นก็อย่าหาตู้ที่มีความลึกมากๆมาวางขวางทางเดินนะคะ

ส่วนข้างเตียงทางด้านซ้ายกว้าง 60 เซนติเมตร มีโต๊ะข้างเตียงวางอยู่ แต่ไม่ได้มาด้วย พื้นที่พอที่จะขึ้น-ลงเตียง ฝั่งซ้ายมือเป็นช่องแสงบานใหญ่

ช่องแสงห้องนอนเป็นแบบบานใหญ่กรอบอลูมิเนียมเข้ามุม มีบานกระทุ้งหนึ่งบาน สำหรับการระบายอากาศภายในห้องนอน นอกนั้นจะเป็นบาน Fix ทั้งหมด สามารถติดราวผ้าม่านไว้ที่สุดความสูงฝ้าได้เลย

หน้าต่างบานกระทุ้งภายในห้องนอน

มองจากในสุดของห้องนอนออกมาหันหน้าออกไปยังประตูทางเข้า ที่จะเห็นว่าขาดๆไปคือโต๊ะเครื่องแป้ง เราสามารถเพิ่มเข้าไปได้ที่ผนังส่วนทางเข้า การวัดขนาดให้เปิดวงสวิงของบานตู้เสื้อผ้าออกมาก่อน แล้ววัดระยะที่เหลือถึงกรอบบานประตู ขนาดจะได้พอดีนะคะ ตำแหน่งแอร์อยู่ที่ฝั่งตรงข้ามกับตู้เสื้อผ้า ถือว่าเป็นตำแหน่งที่โอเค ไม่ได้เข้าตัวเวลานอนโดยตรง

ห้องตัวอย่างห้องที่สองเป็นแบบ 2 ห้องนอน เช่นกันกับห้อง 1 ห้องนอน ที่แบบ 2 ห้องนอนต่างกันถึง 10 แบบ แตกต่างกันตามตำแหน่ง การจัดพื้นที่ใช้สอยและขนาดของห้อง

ห้องตัวอย่างห้องนี้คือห้อง Type E4 พื้นที่ห้องขนาด 55 ตารางเมตร รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้ากว้าง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ โดยเดินเข้ามาในห้องชุดขวามือจะเจอกับห้องครัวที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนเป็นสัดส่วน ลึกเข้าไปเป็นส่วน Living ที่แบ่งพื้นที่ข้างส่วนครัวเป็นพื้นที่ทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง ลึกเข้าไปเป็นชุดโซฟา โต๊ะกลาง และชั้นวางทีวี ในสุดเป็นประตูบานเลื่อนออกไปสู่ระเบียงที่เรียกว่า Semi-Outdoor ที่มีหน้าต่างบานเลื่อนปิดอยู่อีกชั้นหนึ่ง ระหว่างส่วนทานอาหารและชุดโซฟาเป็นประตูเข้าไปสู่ห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัว และมีระเบียงในตัวด้วย กลับมาที่ทางขวามือของทางเข้าห้องชุดเป็นประตูห้องน้ำและด้านในเป็นประตูเข้าห้องนอนเล็ก

เริ่มจากทางเข้าห้องนะคะ ประตูเป็นบานเปิดพร้อมวงกบ ขนาด 0.9 x 2.4 เมตร ประตูมือจับแบบก้านโยกพร้อม Digital Doorlock

เข้ามาด้านในห้องชุด ทางซ้ายมือคือห้องครัว ที่กั้นฝั่งหนึ่งเป็นบานประตูเลื่อนแบบ 3 ตอน อีกด้านหนึ่งเป็นแบบบาน Fix มีเคาท์เตอร์ครัวรูปตัว L อยู่ด้านใน ถัดออกไปเป็นโต๊ะทำงานข้าวแบบ 4 ที่นั่ง และชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกลาง มีชั้นวางทีวีอยู่ฝั่งตรงข้าม ลึกเข้าไปเป็นประตูบานเลื่อนออกไปยังระเบียง และที่ระเบียงมีหน้าต่างบานเลื่อนอีกทีหนึ่ง ระหว่างโต๊ะทานข้าวและโซฟา มีประตูทางเข้าห้องนอนใหญ่

ส่วนฝั่งซ้ายมืองของทางเข้า คือห้องน้ำที่เข้าจากห้องนั่งเล่น และทางเข้าห้องนอนเล็ก ผู้อยู่อาศัยของห้องนอนเล็กก็ต้องออกมาใช้ห้องน้ำห้องนี้

เร่ิมรายละเอียดกันที่ห้องตรัว อย่างที่กล่าวไปว่าห้องครัวกั้นด้านหนึ่งด้วยประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอนทำให้ไม่ขวางทางเดินเข้า-ออก และอีกด้านหนึ่งกั้นด้วนกระจกแบบ Fix ที่ติดกับโต๊ะทานข้าว ภายในห้องครัวมีเคาท์เตอร์รูปตัว L รวมถึงตู้เก็บอาหารแห้งด้านบน ขนาดของห้องครัวที่กั้นขึ้นมาอยู่ที่ 1.60 x 2.15 เมตร

บานประตูอลูมิเนียมทาสีขาวแบบ 3 ตอน ทำให้เวลาเลื่อนเปิดทั้งหมด ความกว้างจะอยู่ใกล้เคียงกับความลึกของเคาท์เตอร์ครัวพอดี ไม่เกะกะขวางทาง ดีกว่าห้องแบบ 1 ห้องนอนที่มีบานประตูเป็นแบบ 2 ตอน

ตัวกรอบอลูมเนียมของบานเลื่อนไม่ได้ฝังลงไปในพื้น ทำให้จะมีพื้นผิวที่ขรุขระบ้างเวลาเดินผ่าน พื้นห้องครัวด้านในเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้แบบเงาสีเทากลางขนาด 60 x 60 เซนติเมตร

ทางซ้ายมือเป็นเคาท์เตอร์ครัวที่ Build-in รูปตัว L เข้ามุมมาให้เลย มีเคาท์เตอร์และตู้เก็บของด้านล่าง รวมถึงด้านบนพร้อมช่องวางไมโครเวฟ แต่ความสูงของชั้นวางไม่ได้ทำให้สูงจนสุดฝ้า แต่จะปล่อยพื้นที่ด้านบนเว้นว่างไว้ ทำให้การทำความสะอาดค่อนข้างยาก บานตู้ส่วนใหญ่เป็นแบบช่องเปิด ขนาดบานใหญ่พอสมควร

ความลึกของเคาท์เตอร์ครัวอยู่ที่ 60 เซนติเมตร อ่างล้างจานเป็นแบบฝัง และมี Hob and Hood 4 หัว อยู่ทางซ้ายมือ มีพื้นที่เตรียมอาหารตรงกลางค่อนข้างแคบ แต่ริมทั้งสองฝั่งจะกว้างขึ้นมาหน่อย ผนังส่วนครัวทาเป็นสีเคลือบแบบทำความสะอาดง่าย

อีกด้านหนึ่งของเคาท์เตอร์ครัวรูปตัว L เป็นช่องเล็กๆข้างพื้นที่วางตู้เย็นทางขวามือ กว้าง 70 เซนติเมตร ด้านบนเป็นชั้นเก็บของและส่วนของเบรกเกอร์ที่อยู่ในตู้บานปิดเช่นกัน

ส่วนที่เป็นกระจกบาน Fix แบบ Tempered ติดกับโต๊ะทานข้าวแบบ 4 ที่นั่งที่อยู่ด้านนอก ความจริงแล้วถ้าทำเป็นช่องที่เปิดได้ สำหรับการทำกับข้าวเสร็จแล้ววางบนโต๊ะทานข้าวได้เลย ไม่ต้องอ้อมไปเปิดประตู ก้าวเท้าออกไปด้านนอก แต่ยังคงความเป็นห้องปิดไม่กระจายกลิ่นออกไปได้จะมีความสะดวกมากกว่า

ออกมาดูจากด้านนอกกันบ้าง โต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้นั่ง 4 ตัว วางชิดผนังตรงกลาง มีพื้นที่ด้านหลังพอให้เลื่อนเก้าอี้เข้า-ออกได้ สามารถขยับขยายไปด้านข้างได้อีก แต่จะขวางประตูทางเข้าห้องนอนใหญ่นิดหน่อย ด้านบนเป็นตำแหน่งแอร์ติดผนังสำหรับห้องนั่งเล่น อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ทำไมกระจกด้านนี้ไม่ทำความสูงเท่าฝ้าเหมือนแบบ 1 ห้องนอน

ตรงข้ามกับโต๊ะทานข้าว คือส่วนนั่งเล่นประกอบไปด้วยโซฟา, โต๊ะกลาง และชั้นวางทีวี ส่วนเงื่อนไขการขายของโครงการนี้เป็นแบบ Fully Furnished จะได้เฟอร์นิเจอร์ใช้งานส่วนใหญ่ และให้แอร์ในทุกๆห้อง อย่าง 2 ห้องนอนห้องนี้ ได้แอร์ทั้ง 3 ตัว คือห้องนั่งเล่นและห้องนอนสองห้อง ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ อย่างทีวี เป็นต้น ระยะดูทีวีอยู่ที่ 2.3 เมตร

ชุดโซฟาตัวยาวขนาด 2 คนนั่ง และโต๊ะกลางด้านหน้า

ฝั่งตรงข้ามคือชั้นวางทีวี ผนังทั้งห้องให้มาแบบฉาบปูนเรียบทาสีขาว ดังนั้นที่เห็นว่าเป็นกระจกสะท้อนหรือลาย Wallpaper ต่างๆเป็นการตกแต่งเพิ่มเติม

ด้านในของส่วน Living มีประตูแบบเลื่อนข้าง กรอบอลูมิเนียมทาสี ความสูงถึงฝ้า 2.7 เมตร เพื่อออกไปยังระเบียงห้องรับแขก

ประตูเลื่อนมีล็อกจากด้านใน

กรอบบานเลื่อนวางอยู่บนปูนก่อ ความสูงรวมกรอบอลูมิเนียมแล้วอยู่ที่ 5 เซนติเมตร

ระเบียงขนาด 1.0 x 2.7 เมตร ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวหยาบขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ด้านนอกเป็นพื้นที่ว่างโล่งๆให้ ไม่มีจุดวางเครื่องซักผ้า เพราะได้ย้ายมาอยู่ด้านในระหว่างห้องนอนเล็กและห้องน้ำแล้ว ดังนั้นพื้นที่ระเบียงตรงนี้จึงใช้ประโยชน์ในการนั่งเล่นชมวิวได้เต็มที่

ฝั่งขวาของระเบียงเป็นพื้นที่โล่งๆ เก้าอี้เอนหลังตัวนี้ไม่ได้อยู่ในรายการการขาย

พื้นที่ด้านซ้ายก็โล่งเช่นกัน

จากรูปจะสังเกตเห็นว่าระเบียงนี้มีความพิเศษต่างจากระเบียงอื่นๆ คือมีกรอบอลูมิเนียม ลูกฟักเป็นกระจกตัดแสงกั้นอยู่อีกชั้นหนึ่ง คือนอกจากจะมีราวกันตกสูง 1.1 เมตรแล้ว ยังมีช่องแสงด้านล่างประกบอยู่ด้านนอกอีกชั้นหนึ่ง ส่วนด้านบนเป็นบานหน้าต่างแบบเลื่อนเปิดสองด้าน เรียกระเบียงแบบนี้ว่า Semi-outdoor บางคนชอบเพราะว่าจะได้มีพื้นที่การใช้งานเพิ่มขึ้น และมีความเป็นส่วนตัว แต่บางส่วนก็ไม่ชอบเพราะว่าวิวที่ได้จากห้องนั่งเล่นดูแล้วไม่ค่อยสบายเพราะว่ามีกรอบหน้าต่างกั้นอยู่เรื่อยๆ

หันมองจากส่วนระเบียงเข้ามายังห้องชุดด้านใน เราจะไปต่อกันที่ด้านซ้ายมือค่ะ

ด้านซ้ายมือระหว่างประตูทางเข้าห้องนอนและทางเข้าห้องน้ำ จะมีบานประตูเปิดที่ตกแต่งด้วยกระจกอยู่ สูงขึ้นไปเท่าฝ้า

ด้านในจะเป็นส่วนซักล้าง ที่ต่อท่อสำหรับเครื่องซักผ้าไว้ให้เรียบร้อย แต่ชั้นที่เห็นและบานประตูปิดที่แต่งตัวกระจกเงาทั้งหมด ไม่ได้ให้มาด้วย แต่จัดมาให้ดูเป็นไอเดียว่าสามารถทำให้ห้องดูเรียบร้อยขึ้นได้ด้วยการแอบเครื่องซักผ้าไว้หลังบานปิด แต่ที่แปลกคือส่วนพื้น ไม่ได้ทำเป็นกระเบื้องที่ง่ายต่อการทำความสะอาดมาให้อย่างกระเบื้องชนิดต่างๆ แต่เป็นพื้นลามิเนตที่ต่อเนื่องเข้ามาจากส่วนทางเข้า ทำให้เวลามีน้ำหก อาจจะทำให้อายุการใช้งานของพื้นไม่อยู่นานเท่าที่ควร

มาต่อกันที่ห้องน้ำทางขวาที่เข้าได้จากห้องนั่งเล่น ประตูทางเข้าสูง 2 เมตร

ห้องน้ำขนาด 1.40 x 2.65 เมตร พื้นเป็นแบบลดระดับจากห้องนั่งเล่นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่เกิน 3 เซนติเมตร พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้แบบด้านสีอ่อน ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร

ด้านในจัดวางพื้นที่ใช้งานเป็น 3 ส่วน ตรงกลางคืออ่างล้างหน้าพร้อมกระจกบานไม่ใหญ่มาก ด้านขวาคือโถสุขภัณฑ์ และซ้ายมือพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำ มาพร้อมกับฉากกั้นสูง 2 เมตร ผนังกรุด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้แบบด้านสีอ่อน ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร เช่นเดียวกับพื้น

ทางด้านขวาเป็นโถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระ ที่วางทิชชู ราวตากผ้า และท่อน้ำทิ้ง

อ่างล้างหน้าแบบสี่เหลื่ยม จาก Sierra ไม่มีการก่อปูนออกมาด้านข้างเพื่อนเป็นพื้นที่วางข้าวของเครื่องใช้ในห้องน้ำ ทำให้ต้องวางริมอ่างเหมือนในรูป กระจกความกว้างเท่าอ่างล้างหน้าเป็นแบบปกติ ตู้เก็บของด้านล่างเป็นแบบความลึกครึ่งเดียว ไม่มีบานปิด

ฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจก Tempered สูง 2 เมตร ประตูเป็นแบบบานเปิดผลักออก

พื้นที่เปียกอาบน้ำขนาด 0.9 x 1.4 เมตร มีปูนก่อสูง 5 เซนติเมตรกั้น ที่มุมมีท่อน้ำทิ้ง

ฝักบัว จาก Sierra พร้อมที่วางสบู่ได้ก้อนเดียวขาดตัว

ทางเข้าห้องนอนที่อยู่ข้างส่วนซักล้าง ประตูสูง 2 เมตร พื้นเรียบไปกับส่วน Living คือพื้นไม้สำเร็จรูปผิวลามิเนต หนา 8 มิลลิเมตร

ภายในห้องนอนขนาด 2.1 x 2.5 เมตร ด้านในจัดวางเตียงไว้ชิดผนังทางด้านขวา มีตู้เสื้อผ้าอยู่ด้านข้างทางเข้าทั้งสองฝั่ง สองตู้ ส่วนฝั่งตรงข้ามเตียงไม่มีอะไรติดอยู่ ด้านในมีช่องแสงแบบบานใหญ่ แต่มีหน้าต่างบานกระทุ้งอยู่หนึ่งบาน

เนื่องจากข้างเตียงด้านขวาเอาตู้เสื้อผ้ามาวางไว้ 2 ตู้ ทำให้ตั้งแต่ทางเข้าห้องดูอึดอัดไป น่าจะปล่อยพื้นที่ให้ว่างและปรับเอาตู้เสื้อผ้าหนึ่งออก เปลี่ยนเป็นชั้นวางของหรือแขวนกระเป๋า ที่ไม่ได้เป็นบานทึบแบบนี้

ตู้เสื้อผ้าที่จัดมาในห้องตัวอย่างมีด้วยกัน 2 ตู้ซ้ายขวา แต่ตู้ที่ให้จริงคือตู้ขวา จะต่างกันตรงที่ตัวบานปิดด้านหนึ่งจะเป็นกระจก อีกด้านเป็นบานลายไม้ธรรมดา ด้านบนมีช่องเก็บเครื่องนอน

ส่วนบานซ้ายที่บานปิดเป็นลายไม้ทั้งสองฝั่งตู้นี้ไม่ได้ให้มาด้วย

ด้านในระหว่างตู้เสื้อผ้าและหัวเตียงวางโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆพร้อมเก้าอี้แบบมีพนัก ไม่ได้ให้มาด้วยเช่นกัน อย่างที่บอกไปว่างในห้องนอนจะได้เฟอร์นิเจอร์แค่ 2 ชิ้นคือตู้เสื้อผ้าและฐานเตียงเท่านั้น

ด้านในเป็นตียงนอนที่มีความยาวเกือบจะพอดีกับความกว้างของห้องที่อยู่ที่ 2.5 เมตร

อาจจะเป็นเพราะความกว้างของหัวเตียงหนามาก ประมาณ 30 เซนติเมตร ทำให้ปลายเตียงดูแน่นไป

ปลายเตียงจริงๆแล้วเหลือพื้นที่ประมาณ 15 เซนติเมตร ถ้าเอาหัวเตียงหนาๆออกก็จะอยู่ราวๆ 45 เซนติเมตร น่าจะทำให้เดินง่ายกว่านี้เยอะ

ข้างเตียงด้านซ้ายเหลือพื้นที่ 30 เซนติเมตร ถือว่าน้อยเช่นกัน

ช่องแสงห้องนอนเป็นแบบบานใหญ่กรอบอลูมิเนียม มีบานกระทุ้งหนึ่งบาน สำหรับการระบายอากาศภายในห้องนอน นอกนั้นจะเป็นบาน Fix ทั้งหมด สามารถติดราวผ้าม่านไว้ที่สุดความสูงฝ้าได้เลย

มองจากในสุดของห้องนอนออกมาหันหน้าออกไปยังประตูทางเข้า ตำแหน่งแอร์อยู่เหนือประตูทางเข้าห้องนอน

ออกมาจากห้องนอนเล็ก หันไปด้านขวามือ จะเจอประตูทางเข้าห้องนอนใหญ่สูง 2 เมตร

พื้นห้องนอนใหญ่เรียบไปกับส่วน Living คือพื้นไม้สำเร็จรูปผิวลามิเนต หนา 8 มิลลิเมตร

ด้านในห้องนอนใหญ่ ตรงหน้าจะเป็นโต๊ะข้างเตียงตัวยาวพร้อมลิ้นชัก มีช่องแสงแบบบานกระทุ้งอยู่ด้านหลัง ขวามือจะมีเตียงขนาด King Size วางอยู่ ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางฃทีวีชิดผนังอยู่ และลึกเข้าไปด้านซ้ายคือบานประตูออกไปยังระเบียงด้านนอก ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเป็นส่วนของตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำในตัว

ทางเข้าด้านหน้า ถือว่าเป็นพื้นที่ข้างเตียงด้านขวามือ มีพืนที่ประมาณ 1.2 เมตรเหลือๆ ตรงมู่ลี่ด้านหลังคือช่องแสงแบบบานใหญ่พอสมควร

เปิดมู่ลี่ออกมาจะเป็นสองช่อง ช่องบนคือบานกระทุ้งกรอบอลูมิเนียม และบานล่างคือแบบ Fix บานกระทุ้งตรงนี้สามารถรับลมเข้ามาในส่วนของทั้งห้องนอนใหญ่ และพื้นที่รับแขกได้ ถ้าเปิดประตูห้องนอนใหญ่ไว้ เพราะว่าตรงกันพอดี ให้มีอากาศได้หมุนเวียนภายในห้องชุดมากขึ้น

ปลายเตียงเหลือพื้นที่ 70 เซนติเมตร ไม่นับความลึกของชั้นวางทีวีแบบลอยเพราะไม่ได้ให้มาด้วย แต่ถ้านับชั้นวางทีวีด้วยจะเหลือ 40 เซนติเมตร

พื้นที่ด้านขวาของเตียงเหลือ 50 เซนติเมตร ขึ้น-ลงเตียงได้

ด้านในห้องนอนใหญ่เป็นบานประตูเลื่อนแบบ 2 ตอน บานกระจกกรอบอลูมิเนียม สูง 2 เมตร เป็นทางออกไปยังระเบียงด้านนอก

กรอบบานเลื่อนวางอยู่บนปูนก่อ ความสูงรวมกรอบอลูมิเนียมแล้วอยู่ที่ 13 เซนติเมตร พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวหยาบขนาด 30 x 30 เซนติเมตร

ระเบียงรูปตัว L ขนาด 1.1 x 1.8 เมตร พื้นที่ด้านซ้ายคือพื้นที่ใช้งานวางเก้าอี้รับลม ความสูงของราวกันตกอยู่ที่ 1.1 เมตร มีท่อระบายน้ำอยู่ด้านใน

ส่วนฝั่งขวามือเป็นที่กั้นวาง Compressor แอร์ทั้ง 3 ตัวของห้องชุด พื้นเป็นคอนกรีตเรียบธรรมดา แต่ทิศทางของลมร้อนที่เป่าออกมา เข้ากับเก้าอี้ที่ตั้งอยู่พอดีเป๊ะ

มองจากระเบียงเข้ามายังห้องนอนใหญ่ ลึกเข้าไปจะเป็นตู้เสื้อผ้า 2 ตู้เช่นกัน เหมือนเดิมคือตู้ที่ Build มาให้คือตู้ทางซ้าย ที่มีบานเป็นลายไม้และกระจก ส่วนตู้ทางขวาคือตู้ตกแต่งให้เป็นไอเดีย จะทำตามหรือจะวางโต๊ะเครื่องแป้งเข้ามาแทนก็ได้ ตรงกลางเหนือทางเข้าห้องน้ำในตัวของห้องนอนใหญ่คือ ตำแหน่งแอร์ที่เป่าเข้าข้างตัว

ห้องน้ำขนาด 1.50 x 2.65 เมตร พื้นเป็นแบบลดระดับจากห้องนอนใหญ่เล็กน้อย ทุกอย่างคล้ายกับห้องน้ำด้านนอกที่เข้าได้จากห้องนั่งเล่นคือ พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้แบบด้านสีอ่อน ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ด้านในจัดวางพื้นที่ใช้งานเป็น 3 ส่วน ตรงกลางคืออ่างล้างหน้าพร้อมกระจกบานไม่ใหญ่มาก ด้านซ้ายคือโถสุขภัณฑ์ และขวามือพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำ มาพร้อมกับฉากกั้นสูง 2 เมตร ผนังกรุด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้แบบด้านสีอ่อน ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร เช่นเดียวกับพื้น

ผนังข้างส่วนอาบน้ำแบบยืนมีบานกระทุ้งเล็กๆอยู่ด้านบนเพื่อระบายอากาศ

มาชมแบบห้องแบบอื่นๆกันบ้างนะคะ เร่ิมเลยจากห้อง 1 ห้องนอน Type A1 พื้นที่ห้องขนาด 26 ตารางเมตร รูปร่างใกล้เคียงสี่เหลี่ยมจตุรัส เมื่อเข้าสู่ตัวห้องจะเจอส่วน Living มีชุดโซฟาและโต๊ะกลางอยู่ทางขวามือ ด้านหลังประตูเป็นชั้นวางทีวี ด้านในเป็นประตูบานเลื่อนแบบ 2 ตอนเข้าห้องนอน ก่อนหน้าจะเป็นห้องนอน ฝั่งซ้ายมือเป็นประตูบานเลื่อนเข้าไปยังห้องนอน ที่มีเคาท์เตอร์ครัวและโต๊ะทานข้าว 2 ที่นั่ง หันไปทางซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ และหันไปทางขวาจะเป็นระเบียง

ส่วนใหญ่จุดประสงค์ของระเบียงที่จัดให้อยู่ใกล้ห้องครัวคือเพื่อประโยชน์ในการใช้สอย ไม่ว่าจะเป็นการวางเครื่องซักผ้า การตากผ้า การวาง Compressor แอร์ มากกว่าที่จะเป็นการนั่งเล่นชมวิว

ห้องถัดไปเป็น 1 ห้องนอน Type A2 พื้นที่ห้องขนาด 24 ตารางเมตร เป็นห้องแบบหน้าแคบ จัดรวมเอาห้องครัวและห้องนั่งเล่นเข้าด้วยกันกลายเป็นส่วน Living เมื่อเดินเข้าไปในส่วนแรก ขวามือคือห้องน้ำ ด้านในเป็นประตูบานเลื่อนเข้าห้องนอน และตรงเข้าไปอีกเป็นประตูบานเลื่อนออกไปยังระเบียงที่เป็นพื้นที่วางเครื่องซักผ้าและ Compressor แอร์

ถือว่าเป็นห้องขนาดเล็ก หน้าแคบ ได้วิวน้อย และพื้นที่ระเบียงใช้ในส่วนประโยชน์ใช้สอย เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยได้ใช้เวลาในห้องมากเท่าไรนัก

ต่อมาขยับขยายมากันที่แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ Type D1 ขนาด 52 ตารางเมตร แบบหน้ากว้าง จากทางเข้า ขวามือจะเป็นทางเข้าห้องน้ำ และทางซ้ายมือจะเจอโต๊ะทานข้าวแบบ 4 ที่นั่งอยู่ทางซ้ายมือ ข้างส่วนครัวที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อน ลึกเข้ามาเป็นชุดโซฟาตัวยาวรูปตัว L พร้อมโต๊ะกลาง ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวีปกติ แต่ที่เพิ่มขึ้นมาคือโต๊ะทำงาน ไม่มีระเบียงในส่วน Living ต่อกันที่ฝั่งขวามือคือห้องนอนเล็ก มาพร้อมกับระเบียงส่วนตัว ส่วนประตูห้องนอนทางซ้ายใกล้กับส่วนครัวเป็นห้องนอนใหญ่ ที่มีห้องน้ำและระเบียงในตัว พร้อมพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าแบบยาวหน่อย

ถือว่าห้อง Type นี้ค่อนข้างให้ความสำคัญกับห้องนอน เพราะไม่ว่าจะเป็นห้องนอนเล็กหรือใหญ่ก็มีระเบียงเป็นของตัวเอง แต่ห้องนอนเล็กจะไม่มีห้องน้ำในตัว และพื้นที่ส่วน Living ค่อยข้างกว้าง สามารถใส่โซฟาตัวยาวรูปตัว L ได้

ห้องต่อมาที่ตรงข้ามกับห้องแบบ D1 คือแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ Type F1 ขนาด 67 ตารางเมตร คือส่วนห้องนอนและห้องน้ำค่อนข้างเหมือนกัน แต่ขนาดใหญ่ขึ้น แต่ส่วนที่ไม่เหมือนกันคือส่วน Living ที่เพิ่มส่วนทำงานหลังชุดโซฟาเพิ่มเข้ามาในขนาดที่กว้างขวางขึ้น และมีระเบียงที่ส่วนห้องนั่งเล่น 2 ส่วนคือจากส่วนใกล้ชุดโซฟาและข้างโต๊ะทำงาน แต่ไม่มีระเบียงที่ส่วนห้องนอนทั้งสองห้อง

ห้องสุดท้ายคือห้อง Type Penthouse 1 เป็นห้องแบบ Penthouse 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ระเบียง เป็นแบบที่จำนวนยูนิตเยอะที่สุดในบรรดาห้อง Penthouse คือ 4 ยูนิต ความจริงแล้วมี 3 แบบ นอกนั้นมีอย่างละ 2 ยูนิต อยู่บนชั้น 30-31

เข้ามาในห้องชุดทางขวามือเป็นส่วนโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 6 ที่นั่ง ด้านหลังเป็นห้องน้ำ ส่วนทางขวามือจากทางเข้าคือห้องครัวที่กั้นด้วยบานประตูเปิด-ปิด ลึกเข้าไปด้านในเป็นส่วนนั่งเล่น ที่มีชุดโซฟา เก้าอี้เดี่ยว โต๊ะกลางและฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวี ไม่มีระเบียง ด้านหลังโซฟาเป็นห้องที่กั้นไว้ มีเก้าอี้เดี่ยววางอยู่ 2 ชุด เดินเข้าไปทางซ้ายมือลึกเข้าไปอีกเป็นห้องทำงาน ที่ด้านในมีโซฟาตัวใหญ่ โต๊ะทำงานและชั้นวางหนังสือ

ห้องนอนมีด้วยกัน 2 ห้อง ขนาดใกล้เคียงกัน คือแยกซ้ายและแยกขวา เร่ิมจากห้องทางฝั่งซ้ายก่อนนะคะ เข้าไปเป็นเตียงนอน ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงาน มีห้องน้ำและระเบียงในตัว ส่วนห้องนอนทางแยกขวามีเตียงนอน โต๊ะทำงาน ระเบียงและห้องน้ำในตัว แต่ห้องน้ำนี้มีอ่างน้ำด้วย โดยห้องแบบ Penthouse จะมีห้องน้ำห้องหนึ่งที่เป็นแบบมีอ่างน้ำ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 2 April 2015

  • 1 Bedroom    26 – 32 ตารางเมตร ราคา 2.19 – 3.2 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 48 – 67 ตารางเมตร  ราคา 4.2 – 5.9 ล้านบาท
  • Duplex          97 ตารางเมตร          Sold Out
  • Penthouse     97 – 123 ตารางเมตร ราคา 10.1 – 13.2 ล้านบาท

  • Fully Furnished สำหรับห้อง 1-2 ห้องนอน
  • Fully Fitted สำหรับห้อง Duplex และ Penthouse
  • เพดานสูง 2.7 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • ราคาจอง 1 ห้องนอน 10,000 บาท ทำสัญญาภายใน 10 วันหลังจากวันจอง 50,000 บาท
  • ราคาจอง 2 ห้องนอน 20,000 บาท ทำสัญญาภายใน 10 วันหลังจากวันจอง 60,000 บาท
  • ราคาจอง Penthouse 100,000 บาท ทำสัญญาภายใน 10 วันหลังจากวันจอง 150,000 บาท
  • Duplex – Sold out
  • ดาวน์ 15% ผ่อนดาวน์ประมาณ 35 งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

Than Living พระราม9 – Airport Link เป็นโครงการที่ทางเข้าอยู่บนถนนใหญ่ศรีนครินทร์ ตัวโครงการต้องเข้ามาในซอยศรีนครินทร์ 14 อีก 110 เมตร พื้นที่ด้านหน้าติดถนนใหญ่ที่เป็น Sales Office ปัจจุบันคือพื้นที่ของ  กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ ที่ยังไม่ได้รับการคอนเฟิร์มว่าจะพัฒนาเป็นสิ่งปลูกสร้างประเภทไหนในอนาคต มีร้านอาหารอยู่ 1 ร้านที่อยู่ในระยะ 200 เมตร แต่ถ้าข้ามสะพานลอยที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ จะเจอ Max Value ที่มีทั้งร้านอาหารและ Supermarket และในพื้นที่รอบๆไม่เกิน 5 กิโลเมตรก็มีศูนย์การค้าให้ได้เลือกสรรมากมาย แต่อยู่ในระยะขับรถซะมากกว่า พื้นที่รอบด้านเป็นพื้นที่ที่ยังไม่ค่อยได้รับการพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบ มีอาคารสำนักงานสูงไม่เกิน 8 ชั้นก็แค่ริมถนนใหญ่ หรือไม่ก็เป็นบ้านพักอาศัย และพื้นที่โล่งขายต้นไม้และขายหินแกรนิต มีเสาสัญญาณสูงมากกว่าตึก 20 ชั้นอยู่ที่ทิศตะวันตกเฉียงใต้บังวิวกันไป และจะมีโดดๆที่อยู่ใกล้ๆก็คือคอนโด lpn ตึกคู่สูง 25 ชั้นอยู่ฝั่งตรงข้าม การพัฒนาภายในพื้นที่ที่เด่นที่สุดเห็นจะเป็นสถานีรถไฟฟ้า Airport Rail Link หัวหมาก ที่อยู่ในระยะเดิน 550 เมตร แต่ก็ยังไม่ค่อยได้รับความนิยมในการใช้งานอยู่ดี

การเดินทางโดยใช้รถเป็นจุดแข็งที่สุดของโครงการนี้ คือตัวโครงการอยู่บนถนน 10 เลนศรีนครินทร์มุ่งหน้ารามคำแหง ระหว่างแยกพัฒนาการและแยกพระราม9-ศรีนครินทร์ สามารถลัดเลาะเข้าเมืองได้โดยใช้เส้นพัฒนาการเข้าเพชรบุรี หรือจะลงล่างไปอ่อนนุช หรือขึ้นเหนือไปรามคำแหง-รามอินทรา หรือจะขึ้น-ลงทางด่วนที่แถวๆ The Nine พระราม9 มุ่งหน้าเข้าเมืองที่พระราม4 – พระราม6 – อนุสาวรีย์ หรือจะเลยออกนอกเมืองต่อไปยังสนามบินสุวรรณภูมิและชลบุรี ซอยศรีนครินทร์ 14 จากระยะกลับรถค่อนข้างกระชั้น ประกอบกับปริมาณรถที่ติดตลอดวัน สี่แยกไฟแดงปล่อยเรื่อยๆ ท้ายแถวยาว แม้ตัวอาคารจะเข้าซอยไป 110 เมตร แต่ก็จะมีมลภาวะของกลิ่นควันรถด้วยจางๆ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 550 เมตร ข้ามสะพานลอยถึงตัวสถานีรถไฟฟ้า Airport Rail Link หัวหมาก หรือจะนั่งพี่วินที่หน้าปากซอยโครงการก็ได้ แต่ระยะวนรถจะไกลกว่าระยะเดิน การเข้าโครงการจากสถานีก็มีพี่วินอยู่ที่ทางลงสถานีและตรงปากทางออก ต้นสายของ Airport Rail Link อยู่ที่พญาไท-สุวรรณภูมิ ถ้าจะเข้าเมืองทำให้ต้องอ้อมไปต่อ BTS ที่สยาม หรือ MRT ที่อโศกหรือสวนจตุจักร ซึ่งด้วยขบวนรถของ Airport Rail Link ก็ช้ามาอยู่แล้วที่ 15-20 นาทีต่อขบวนหนึ่ง ทำให้การต่อขนส่งมวลชนกินเวลาร่วมๆชั่วโมง แต่ถ้าอาศัยพี่วิน แท๊กซี่ หรือรถส่วนตัว จะสามารถเข้าเส้นสุขุมวิท-เพชรบุรี-ทองหล่อ-อโศก ได้ตรงและเร็วกว่า ส่วนขนส่งมวลชนอย่างรถเมล์ก็มีป้ายอยู่ในระยะ 200 เมตรจากโครงการ มีสะพานลอยสำหรับข้ามไปขึ้นที่ป้ายอีกฝั่งหนึ่ง

วัสดุของโครงการตามราคาและรายการโปรโมชั่นวันที่เข้าไปรีวิว ถือว่าพอใช้เมื่อเทียบกับในระดับราคาเดียวกัน ห้อง 1-2 ห้องนอนแต่งแบบ Fully Furnished คือมีเฟอร์นิเจอร์ให้บางส่วนพร้อมแอร์ ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ในขณะที่พื้นที่เดียวกันราคาต่อตารางเมตรต่ำกว่าถึง 20,000 บาท พื้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็นพื้นลามิเนตลายไม้หนา 8 มิลลิเมตร พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้อง 60 x 60 เซนติเมตร ฝ้าสูง 2.7 เมตร ผนังเป็นฉาบปูนเรียบทาสีขาว ไม่มี Wallpaper ห้องครัวเคาท์เตอร์และตู้เก็บของบน-ล่างให้มาค่อนข้างครบ อุปกรณ์สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจาก Sierra  ฉากกั้นอาบน้ำสูง 2 เมตร กระจก Tempered ตู้เสื้อผ้าสั่งทำจากโรงงาน แต่ขนาดไม่ได้ใหญ่มาก หน้าบานปิดทึบเป็นแบบดึงออก และกระจกเต็มตัว

การออกแบบคือแปลงพื้นที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า อาคารสร้างเป็นรูปตัว L อยู่ตรงกลางแปล จัดห้องพักเป็นแบบ Double Corridor มีห้องทางทิศเหนือและทิศใต้ เลือกได้ตามความชอบว่าชอบแสงธรรมชาติแต่ได้ลมน้อยกว่าทางทิศเหนือ หรือชอบแสงแดดแรงๆเข้าห้องตลอดวัน แต่ได้ลมระบายอากาศที่ดีกว่าทางทิศใต้ มี Facilities หลักๆอยู่บนชั้นดาดฟ้า และยิบย่อยที่ชั้น 1, 7 และชั้น 30 แปลนห้องมีให้เลือกเยอะ หลากหลายมาก เลือกได้ตามความเหมาะสมและการใช้งานของผู้อยู่อาศัย แต่จำนวนห้องส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ทำให้จำนวนยูนิตรวมค่อนข้างเยอะ แบ่งพื้นที่ห้องนอนค่อนข้างเล็ก โดยเฉพาะแบบ 2 ห้องนอน ห้องนอนเล็กแทบจะเดินไม่ได้ แต่การแบ่งพื้นที่ของส่วน Living ถือว่าลงตัว ด้วยการจัดแปลนของห้องตัวอย่างและระยะต่างๆ ส่วนระเบียงแบ่งการใช้งานออกตามขนาดห้อง คือแบบ 1 ห้องนอน ระเบียงจะถูกใช้งานเป็นพวกการระบายอากาศ พื้นที่ซักล้างมีเครื่องซักผ้า และ Compressor แอร์ แต่ระเบียงของห้องแบบ 2 ห้องนอนจะยกระดับคือเป็นการใช้พื้นที่ดูวิวและเป็นส่วนพื้นที่นั่งเล่นไปด้วยในตัว เพราะมีการกั้นหน้าต่างบานเลื่อนที่ราวกันตกอีกชั้นหนึ่ง คือ Semi-outdoor และย้ายเครื่องซักผ้าเข้ามาไว้ภายในห้อง แบบห้องที่ใหญ่ขึ้นมาที่ชั้น 30-31 คือแบบ Penthouse ที่มีด้วยกัน 3 แบบทั้งแบบ 2 ห้องนอนและ 3 ห้องนอน ส่วนห้อง Duplex คือมีห้องเดียวทั้งโครงการ

สาธารณูปโภคส่วนกลางถือว่าให้มาเยอะสำหรับคอนโดภายในพื้นที่เดียวกัน แต่ค่อนข้างทั่วไปสำหรับระดับราคา คือ Lobby ชั้น 1 พื้นที่สีเขียวรอบโครงการและท้ายโครงการที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย มี Landscape หน้าโครงการส่วน Drop-off ส่วนชั้นจอดรถคือชั้น 1-6 มีจอดกลางแจ้งรอบโครงการที่ชั้น 1 บ้าง จอดได้ทั้งหมด 48% รวมจอดซ้อนคันประมาณ 308 คันคิดเป็น 58% ด้วยทำเลที่สะดวกในการใช้งานรถส่วนตัวมากกว่าระบบขนส่งสาธารณะถือว่าน้อยไป เพราะเปอร์เซนต์คนใช้  Airport Rail Link คงไม่มากขนาดนั้น ใช้บ้างเป็นครั้งคราวมากกว่า แต่มองในแง่ความเป็นจริงที่เกือบทุกยูนิตก็แทบจะมีรถเป็นของตัวเองกันหมด ทำให้อาจจะมีปัญหาได้ในภายหลัง ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 132 : 1 และ Service Lift อีก 1 ตัว ส่วนกลางมี Kids’pool และสวนหย่อมกลางแจ้งและห้องสมุดในอาคารที่ชั้น 7, Pocket Garden ที่ชั้น 30 และ Facilities ส่วนใหญ่อยู่ที่ชั้นดาดฟ้า คือ Infinity Edged Pool ขนาด  23.5 x 5.5 เมตร ระบบเกลือ พอจะใช้ออกกำลังกายได้ Sky Garden รอบสระว่ายน้ำ และ Fitness, Yoga Room และ Sky Lounge ภายในอาคาร

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 91,250 บาทต่อตารางเมตร, 2 April 2015

  • ทำเล 7.5/10 – 110 เมตรถึงถนนศรีนครินทร์ ติดเสาสัญญาณสูง มีเสียงรถไฟและ Airport Rail Link ใกล้ห้างใกล้ของกิน
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – ใกล้ใกล้ทางขึ้น-ลงทางด่วนมอเตอร์เวย์ ถนนศรีนครินทร์รถติดพอสมควร ที่จอดรถน้อยไปหน่อย
  • ไม่ใช้รถ 7.25/10 – 550 เมตรจาก Airport Rail Link สถานีหัวหมาก ใกล้แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยม
  • วัสดุ 7.5/10 – Fully Furnished สำหรับ 1-2 ห้องนอน ได้ฐานเตียง ผนังเรียบทาสี ตู้เสื้อผ้า ครัว ห้องน้ำ
  • แบบ 7.5/10 – ภายนอกตึกดูดี มีห้องหลายแบบให้เลือก แต่เล็กที่สุดคือ 1 ห้องนอน 24 ตารางเมตร
  • สาธารณูปโภค 8.25/10 – รอบพื้นที่ชั้น 1 , บางส่วนชั้น 7, Pocket Garden ชั้น 30 และ Facilities เต็มชั้น 32

  • MAIN – UPPER CLASS
  • 7.61 / 10.00

BOTTOM LINE

โครงการ Than Living พระราม9 – Airport Link เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยในทำเลย่านศรีนครินทร์-พัฒนาการ หรือทำงานในโซนตะวันออกของกรุงเทพมหานคร เน้นการเดินทางสะดวก โดยใช้ Airport Link บ้าง ชอบโครงการตึกสูงที่มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้ได้จริง ในราคาประมาณ 2.19 – 13.2 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 12,000 – 70,000 บาทต่อเดือน

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิก www.thinkofliving.com พร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม คลิกที่นี่ https://thinkofliving.com/register/