รีวิวโครงการ
คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.520 – รีวิวคอนโด Supalai Premier สี่พระยา – สามย่าน
10 กันยายน 2020
รีวิวฉบับที่ 1094 สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาไปดูโครงการเปิดใหม่ของศุภาลัย ภายใต้แบรนด์ Elite กับโครงการ Supalai Elite สี่พระยา คอนโด High Rise 36 ชั้น พร้อมอาคารจอดรถและ Facilities ชั้นดาดฟ้าสูง 8 ชั้น ที่ตั้งโครงการอยู่บนถนนสี่พระยา ช่วงที่เลยแยกนเรศมาหน่อย โดยมีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 41.5 – 139 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 4.1 ล้านบาทหรือประมาณ 98,800 บาท/ตร.ม. และตัวโครงการจะเปิด Pre-Sale ในวันที่ 8-12 มิ.ย.59 ที่จะถึงนี้ ณ ชั้น 1 Central World ค่ะ และตอนนี้ทางโครงการพร้อมเปิดห้องตัวอย่างให้ดูแล้วค่ะ เดี๋ยวเราไปดูกัน
Fact @ 02 June 2016
Supalai Elite Si-Phraya (ศุภาลัย เอลีท สี่พระยา )มีการ ReBrand เป็น Supalai Premier สี่พระยา-สามย่าน- บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : บนถนนนเรศ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร
- คอนโด High Rise 36 ชั้น 1 อาคาร 384 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 12 ชั้น
- ที่จอดรถประมาณ 295 คันคิดเป็น 77% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- ที่ดินประมาณ 2-2-97 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : 2560
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : 2563
- 1 Bedroom 41.5 – 55 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.1 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 73 – 85 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.9 ล้านบาท
- 3 Bedrooms 129 – 139 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 15.7 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.85 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 4.1 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 110,000 บาท/ตร.ม.
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด n/a บาท/ตร.ม.
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 1720
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
ทางทีมงานได้ไปสำรวจทำเลและพาเดินชมบรรยากาศรอบๆ โครงการมาแล้วเมื่อเดือนที่แล้ว (พ.ค. 59) ก่อน Sale Office และห้องตัวอย่างสร้างเสร็จค่ะ
สามารถคลิกเข้าไปอ่านได้โดย (คลิกที่นี่)
พิกัดโครงการ : 13.731314, 100.522446
เนื่องจากทางทีมงานได้พาไปดูทำเลโครงการมาเรียบร้อยแล้วนะคะ ดังนั้นเราจะไม่ยืดเยื้อให้เสียเวลากัน โดยจะขอสรุปทำเลโครงการสั้นๆ ก่อนไปดูภายในโครงการกันค่ะ ที่ตั้งโครงการ Supalai Elite สี่พระยานี้ตั้งอยู่บนถนนสี่พระยาฝั่งซ้ายมือเมื่อเข้าทางถนนพระราม 4 ค่ะ เลยจากแยกนเรศไปประมาณ 60 ม. ลักษณะของถนนสี่พระยานี้จะเป็นถนน two way ตั้งแต่จุดตัดกับถนนพระราม 4 ไปจนถึงแยกนเรศ หรือจุดตัดกับถนนนเรศ และจากนั้นจะเป็นถนน one way ตั้งแต่แยกนเรศไปจนถึงถนนเจริญกรุง โดยอนุญาตให้รถจากถนนเจริญกรุงวิ่งไปยังถนนพระราม 4 เท่านั้น ซึ่งตำแหน่งของโครงการจะอยู่บนถนนสี่พระยาที่เป็นช่วง one way พอดีดังนั้นหากวิ่งเข้ามาจากถนนพระราม 4 จะถูกบังคับเลี้ยวเข้าถนนนเรศไปออกถนนสุรวงศ์และเลี้ยวเข้าถนนมหาเศรษฐ์ก่อนที่จะเลี้ยวเข้ามาที่ถนนสี่พระยาอีกทีค่ะ (สี่พระยา-นเรศ-สุรวงศ์-มหาเศรษฐ์-สี่พระยา)
ส่วนการเดินทางโดยพึ่งพาระบบรางนั้นจะมีสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ MRT สามย่านอยู่ในระยะห่างจากโครงการประมาณ 800 ม. จากทางออกที่ 1 บริเวณหน้าวัดหัวลำโพง ซึ่งจริงๆแล้วถือว่าเลยระยะเดินไปหน่อยนะคะ แต่ก็ทดแทนความเมื่อยล้าได้จากการที่มีพี่วินอยู่บริเวณหน้าปากซอยติดกับมูลนิธิร่วมกตัญญู หรือจะเป็นพี่แท็กซี่ ตุ๊กตุ๊ก และรถตู้ก็มีนะ สามารถเรียกใช้บริการได้สบายมาก หรือใครที่ฟิตปั๋งอยู่แล้วในระยะเดิน 800 ม.นี้ก็สามารถเดินได้นะคะ ซึ่งจากสถานีไปถึงโครงการนี้มีฟุตบาทไปตลอดแนวเดินได้ง่ายค่ะ
สำหรับความอุดมสมบูรณ์ย่านนี้ถือว่ามีความหลากหลายสูงมาก อย่างที่ทราบกันว่าแถบนี้มีทั้งสถาบันการศึกษาชื่อดังอย่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถิ่นอาคารสำนักงานเล็ก-ใหญ่ที่อยู่บนถนนสุรวงศ์-สีลม-สาทร โรงแรมติดริมแม่น้ำบนถนนเจริญกรุงและย่านชุมชนเก่า ซึ่งเรียกได้ว่าบรรยากาศบนถนนข้างเคียงสี่พระยาค่อนข้างคึกคักและมีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก ส่วนบรรยากาศของสี่พระยาจะแตกต่างออกไปหน่อยตรงที่เป็นย่านชุมชนเก่า ยังเห็นอาคารตึกแถวเก่าๆตามริมถนน มีร้านค้าเปิดใต้ตึกแถวบ้าง ซึ่งเรียกได้ว่าเงียบสงบกว่าถนนรอบข้างนะคะ หากใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวและบรรยากาศที่มีความสงบหน่อยน่าจะชื่นชอบค่ะ อีกทั้งยังไม่ยากที่จะไปเที่ยวหรือออกไปหาของกินอร่อยๆ บนถนนรอบข้างได้ด้วย
สภาพแวดล้อมโดยรอบบริเวณที่ติดถนนใหญ่จะเป็นตึกแถวและอาคารพาณิชย์ ส่วนถัดเข้ามาในซอยจะเป็นบ้านพักอาศัย มีที่ดินเปล่าที่ล้อมรั้วรอยู่ ไม่มีตึกสูงบดบังวิวในระยะประชิด สถานที่สำคัญบริเวณใกล้เคียงก็มีสำนักงานเขตบางรัก และ อาคาร Amigo Tower โดยแต่ละด้านของแปลงที่ดินติดกับ
- ทิศเหนือ – ติดกับถนนสี่พระยา ฝั่งตรงข้ามมี7-11 อยู่ด้านล่างอาคารพาณิชย์ และ มีซอยสองพระเป็นซอยลัดไปออกถนนพระราม 4 ได้
- ทิศตะวันออก – ติดกับปั๊มน้ำมัน Caltex ถัดจากปั๊มน้ำมันไปเป็นที่ดินล้อมรั้วสังกะสีอยู่
- ทิศใต้ – ติดกับบ้านพักอาศัย 2-3 ชั้น
- ทิศตะวันตก – ติดกับแนวตึกแถว 2-3 ชั้น ถัดไปเป็นลานจอดรถให้เช่า
ตามไปดูภายในโครงการกันต่อเลยค่ะ จากหน้าโครงการจะมีทางม้าลายให้เรียบร้อย ซึ่งดีนะคะสำหรับคนที่เดินมาจาก MRT สามย่านเพราะเมื่อเดินไปเรื่อยๆ จะต้องข้ามมาอีกฝั่งเนื่องจากบริเวณแยกนเรศเค้าจะกั้นทางเอาไว้ไม่ให้ข้ามถนนตรงแยกนเรศและบังคับให้ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามโครงการก่อนค่ะ ซึ่งเมื่อเราเดินมาถึงโครงการก็ต้องข้ามเข้าโครงการกันอีกที แต่ยังไงก็สะดวกกว่าการข้ามตรงจุดตัดถนนพระราม 4 กับถนนสี่พระยานะคะ เพื่อไปขึ้น MRT นะคะ ตรงนั้นข้ามยากกว่าเยอะเลย
เข้ามาจะเป็นส่วน Sale Office ที่จัดมาชั่วคราวนะคะ พอสร้างจริงจะเป็นส่วนอาคารจอดรถสูง 8 ชั้นที่มี Facilities อยู่บนดาดฟ้าค่ะ
บรรยากาศภายใน Sale Office ตกแต่งเรียบง่าย โปร่งโล่งด้วยการใช้กระจกสูง การออกแบบมาในสไตล์นี้ดูออกเลยว่าเป็นสไตล์ของศุภาลัย ^^
หันกลับมาอีกด้านนึงค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- คริสตจักรสามย่าน ประมาณ 600 ม.
- วัดหัวลำโพง ประมาณ 750 ม.
- จามจุรี สแควร์ ประมาณ 900 ม.
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประมาณ 900 ม.
- โรงเรียนอัสสัมชัน ประมาณ 1.3 กม.
- โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน ประมาณ 1.5 กม.
- สาทร สแควร์ ประมาณ 1.7 กม.
- โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ประมาณ 2 กม.
- สภากาชาดไทย ประมาณ 2 กม.
- โรงเรียนเซนต์โยเซฟ คอนแวนต์ ประมาณ 2 กม.
- โรงพยาบาลบีเอ็นเอช ประมาณ 2 กม.
- โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ประมาณ 2 กม.
โครงการ Supalai Elite สี่พระยา เป็นคอนโด High Rise สูง 36 ชั้น ด้านหน้าอาคารเป็นอาคารจอดรถสูง 8 ชั้น ซึ่งในชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถทำเป็นส่วน Facilities หลักของโครงการ และในส่วนลักษณะการออกแบบโครงการภายใต้แบรนด์ Elite ของศุภาลัยนี้นี้จะออกมาในสไตล์เรียบหรู ใช้โทนสีขาว-เทาเป็นหลัก เป็นแบรนด์ที่เห็นถึงรูปโฉมใหม่ของศุภาลัยที่มีความหวือหวามากขึ้นอยู่นะคะ
ภาพบรรยากาศโครงการจากหน้าทางเข้าโครงการจะเห็นอาคารจอดรถอยู่ด้านหน้าถูกตกแต่งหน้าตาอาคารภายนอกด้วยการใช้สวนแบบ Vertical Garden มาเล่นลวดลาย และในส่วนของทางเข้าอาคารนี้จะอยู่ด้านข้างโครงการฝั่งขวา เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ไม่ห่างจากแยกนเรศมากนัก (ประมาณ 60 ม.) และแยกนเรศนี้จะอยู่ในฝั่งซ้ายมือของโครงการ ดังนั้นการทำทางเข้าโครงการอยู่ในฝั่งขวาจะทำให้มีระยะในการเลี้ยวเข้าถนนนเรศไปออกถนนสุรวงศ์ได้สะดวกมากขึ้น
เข้ามาดูภายในโครงการกันต่อนะคะ อย่างที่กล่าวไปข้างต้นบ้างแล้วว่าในชั้นดาดฟ้า (Roof Top) ของอาคารจอดรถจะเป็นส่วน Facilities หลักของโครงการ โดยประกอบด้วยสระว่ายน้ำแบ่งเป็นสระเด็กและสระผู้ใหญ่ ขนาด 6.90 x 25.50 ม. , Jacuzzi, Fitness และสนามเด็กเล่นค่ะ
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางในอาคารพักอาศัยนี้จะอยู่บนชั้นดาดฟ้าชั้นที่ 36 ของอาคาร โดยทำเป็น Sky Lounge ชมวิวเมืองและมีพื้นที่สวนล้อมรอบค่ะ
มาดูกันต่อที่ Model อาคารค่ะ สำหรับที่ตั้งโครงการจะถูกขนาบข้างด้วยปั๊มน้ำมัน บ้านพักอาศัยและตึกแถวสูง 3 ชั้น รวมทั้งในฝั่งตรงข้ามของอาคารก็เป็นตึกแถวด้านล่างทำเป็นร้านค้า เข้ามาที่ภายในอาคารตำแหน่งของอาคารพักอาศัยจะถูกร่นเข้าไปด้านหลังซึ่งเป็นไปตามกฎหมายระยะร่นแล้วก็ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับอาคารมากขึ้นเมื่อมีอาคารจอดรถมาบังหน้าให้ด้วย อีกทั้งยังสามารถลดเสียงจากท้องถนนได้อีกด้วยค่ะ สำหรับด้านหน้าโครงการนี้หันหน้าไปทางทิศเหนือซึ่งวิวที่จะได้จะเป็นวิวฝั่งหัวลำโพงและถนนพระราม 4 ค่ะ โดยห้องอยู่ในฝั่งทิศเหนือนี้มีอยู่ 3 Type ตั้งแต่ชั้น 3 – 33 คือห้อง 2 Bedroom ขนาด 80 ตร.ม. และ 1 Bedroom ขนาด 55 ตร.ม. ส่วนใน 2 ชั้นบนสุดอย่างชั้นที่ 34 – 35 นั้นเป็นห้องขนาดใหญ่สุดของโครงการคือ 3 Bedroom ขนาด 139 ตร.ม. ค่ะ
ในด้านทิศตะวันตกนี้เป็นด้านที่ได้วิวอาคารสูงฝั่งถนนเจริญกรุงที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ สำหรับห้องพักในทิศนี้ตั้งแต่ชั้น 3 – 33 มีทั้งหมด 3 Type คือห้องขนาดเล็กสุดอย่าง 1 Bedroom 41.5 ตร.ม. จะอยู่ตรงกลางติดกับ 2 ห้อง และขนาบข้างด้วยห้องมุมขนาด 2 Bedroom ซึ่งมี 2 ขนาดคือ 80 ตร.ม.และขนาดเล็กลงมาหน่อย 73 ตร.ม. ค่ะ ส่วนในชั้น 34 – 35 จะเป็นห้องขนาดใหญ่ขึ้นมาโดยมีห้องขนาด 2 Bedroom 85 ตร.ม. 2 ห้องและ 3 Bedroom 129.5 และ 139 ตร.ม.อยู่เป็นห้องมุมค่ะ
ในส่วนของทิศใต้จะได้วิวเป็น City View เห็นอาคารสูงแถบสุรวงศ์ สีลมและสาทรค่ะ โดยชั้น 3 – 33 ตรงกลาง 2 ห้องเป็นห้อง 1 Bedroom ตร.ม. และขนาบข้างด้วยห้องมุม 2 Bedroom ขนาด 73 ตร.ม. ด้านบนชั้น 34 – 35 ในทิศนี้เป็นห้อง 3 Bedroom ขนาด 129.5 ตร.ม. และเป็นห้องมุมทั้ง 2 ห้องค่ะ
และทิศสุดท้ายคือทิศตะวันออกค่ะ สำหรับวิวในทิศนี้ที่จะได้คือวิวสวนลุมพินีและฝั่งมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ห้องในชั้น 3 – 33 ตรงกลางเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 52 ตร.ม.ประกบคู่กัน 2 ห้องและห้องมุมทั้ง 2 ฝั่งเป็นห้อง 2 Bedroom ขนาด 73 ตร.ม.ค่ะ ส่วนชั้น 34 – 35 เป็นห้องขนาดใหญ่มีทั้งหมด 3 Type โดยตรงกลาง 2 ห้องคือห้อง 2 Bedroom ขนาด 85 ตร.ม. และห้องมุมคือห้อง 3 Bedroom ขนาด 129.5 ตร.ม.และ 139 ตร.ม. ค่ะ ใครที่อยู่ทางทิศนี้จะได้เปรียบตรงที่ฝั่งทิศตะวันออกจะไม่ร้อนในตอนบ่าย
จากทางเข้าโครงการตรงเข้ามาก่อนจะเจอจุดเข้า-ออกโครงการ กั้นด้วยไม้กระดก จากนั้นจะเจอกับส่วน Drop Off ก่อนที่จะเลี้ยวเข้าไปจอดรถในอาคารจอดรถค่ะ ส่วนในชั้นล่างใต้ตึกของอาคารพักอาศัยก็มีที่จอดรถให้เล็กน้อยโดยจะอยู่ด้านข้างใกล้กับจุด Drop Off เพียงฝั่งเดียว เหมาะกับเป็นที่จอดรถสำหรับผู้เข้ามาติดต่อภายในอาคารมากกว่าค่ะ และถนนภายในโครงการนี้จะเป็นถนน one way นะคะ ลูกบ้านเวลาขับออกจากอาคารจอดรถแล้วก็ต้องมาวนรอบอาคารพักอาศัยก่อนผ่านจุดเข้า-ออกของโครงการ การที่มีอาคารจอดรถกแยกอาจจะมีปัญหานิดหน่อยตอนฝนตกเพราะต้องเดินจากที่จอดรถเพื่อไปเข้าตึกแต่ยังดีที่มีระยะห่างกันไม่มากอาจจะเปียกนิดหน่อย
มาดูต่อที่พื้นที่ส่วนกลางของโครงการนะคะ เริ่มที่พื้นที่จอดรถของโครงการที่ได้ มีจำนวนช่องจอดทั้งหมด 295 คัน หรือคิดเป็น 77% ของทั้งโครงการ ถือว่าให้มาค่อนข้างเพียงพอนะคะ ต่อกันที่ชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถที่เป็นส่วน Facilities หลักของโครงการ ซึ่งถือว่าให้มาครบครันและเมื่อเทียบจำนวนยูนิต 384 ยูนิตกับขนาดของ Facilities และเรื่องของราคาเมื่อเทียบกับโครงการใกล้เคียงก็ถือว่าให้มาพอประมาณค่ะ
และอีกพื้นที่ส่วนกลางคือ Sky Loungeและสวนบนชั้นดาดฟ้าหรือชั้นที่ 36 ค่ะ
บรรยากาศภายในส่วน Lobby โครงการ เน้นการตกแต่งในสไตล์เรียบหรู โทนสีเทา-น้ำตาล มีบรรยากาศที่โอ่โถงดีค่ะมีชุดโซฟาไว้รับรองแขกหรือผู้มาติดต่อ ด้านบนตกแต่งโคมไฟเป็นรูปทรงวงกลม และระแนงด้านข้างที่มีลวดลายของเส้นสายที่ดูพริ้วไหวทำให้บรรยากาศภายในดูมีความเคลื่อนไหวและมีสีสันมากขึ้น ตามรูปแบบแนวความคิดในการออกแบบอาคารคือ “Infinite Extension การเชื่อมต่อของเส้นสายที่บ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวแบบอิสระไม่มีที่สิ้นสุด”
ภาพบรรยากาศภายในของ Sky Lounge ตกแต่งเน้นความหรูหราด้วยการใช้กระเบื้องผนังลายหินอ่อน ตกแต่งระแนงและโคมไฟเป็นสีทอง บรรยากาศโปร่งโล่ง โอ่โถงเพราะฝ้าเพดานที่ยกสูง ภายในจัดวางเฟอร์นิเจอร์เป็นชุดโซฟา และชุดเก้าอี้โซฟาไว้ตามมุมต่างๆ สำหรับลูกบ้านขึ้นมานั่งเล่น นั่งพักผ่อนชมวิวเพลินๆ ได้
Video Presentation ของโครงการ Supalai Elite สี่พระยา สามารถกดคลิกที่ Video เพื่อรับชมได้เลยค่ะ 🙂
มาดูที่ผังโครงการกันต่อนะคะ ลักษณะของผังอาคารจะเป็นแบบหน้าแคบลึก มีเนื้อที่ดินทั้งหมดประมาณ 2 ไร่กว่า การจัดวางตำแหน่งอาคารภายในที่ดินโครงการคือแยกอาคารเป็น 2 อาคาร โดยวางอาคารจอดรถอยู่ด้านหน้าและอาคารพักอาศัยอยู่ด้านหลัง ซึ่งนอกจากจะเป็นไปตามกฎหมายระยะร่นอาคารแล้วการวางตำแหน่งอาคารสูงอยู่ด้านหลังก็ช่วยในเรื่องของความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้นและลดเสียงรบกวนบนท้องถนนได้บ้างค่ะ สำหรับเรื่องการสัญจรภายในโครงการนี้ถือว่าจัดระบบการสัญจรได้เป็นระบบดีนะคะ เริ่มจากทางเข้าโครงการเมื่อผ่านจุดเข้า-ออกโครงการแล้วก็จะเป็นจุด Drop Off (รับ-ส่งผู้โดยสาร) จากนั้นใครจะจอดรถก็เลี้ยวเข้าอาคารจอดรถได้เลย ส่วนรถที่มาเพียงรับ-ส่งผู้โดยสารเท่านั้นก็ต้องวนรถออกอ้อมอาคาร เช่นเดียวกันกับรถที่ออกมาจากอาคารจอดรถก็ต้องวนรถอ้อมอาคารก่อนที่จะออกนอกโครงการค่ะ ด้วยลักษณะของถนนแบบ one way นั้นสามารถช่วยลดการติดขัดและการเกิดอุบัติเหตุจากการสวนรถได้ดีกว่าแบบ two way นะคะ และสำหรับจำนวนช่องจอดรถทั้งหมดของโครงการอยู่ที่ 295 คัน หรือ 77% ค่ะ ถือว่าให้พอสมควรค่ะ
เข้ามาภายในอาคาร สำหรับชั้นล่างนี้แบ่งเป็น 2 โซนหลักๆ คือส่วน Lobby และ ส่วน Back of house ด้านหลังโครงการค่ะ เริ่มกันที่ส่วน Lobby กันก่อนนะคะ จาก Lobby เข้ามาจะต้องแสกนบัตรเข้าสู่โถงลิฟต์โดยสารเพื่อขึ้นไปยังชั้นพักอาศัย ส่วนด้านข้าง Lobby มีห้องน้ำไว้บริการเรียบร้อย สำหรับส่วน Service นี้จะอยู่ในส่วนด้านหลังโครงการ มีจุด Loading ของเรียบร้อยสามารถนำของขึ้นลิฟต์ Service ด้านหลังได้ค่ะ แต่ต้องแสกนบัตรเข้าโถงลิฟต์ Service เช่นเดียวกัน
ส่วนชั้น 2 นี้เป็นพื้นที่ส่วนกลางประกอบไปด้วยห้องสนุกเกอร์, ห้องประชุม, ห้อง Multi-Purpose, ห้องสมุด และสำนักงานค่ะ
ต่อมาที่ชั้น 3 – 33 ซึ่งเป็น Typical Floor plan ลักษณะการจัดวางแปลนรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสคือ วางโถงลิฟต์และบันไดหนีไฟอยู่ตรงกลาง มีทางเดินล้อมเป็นรูปตัว H และห้องพักทุกห้องหันออกภายนอกทั้งหมดค่ะ ข้อดีของการจัดวางผังแบบนี้คือเรื่องความสะดวกในการเดินจากห้องไปยังลิฟต์ในระยะที่ไม่ไกลมาก และเสมือนกับได้ทางเดินแบบ Single Corridor แต่ข้อเสียก็คือเรื่องแสงธรรมชาติที่ไม่ได้เข้าถึงโถงทางเดินเลย จำเป็นต้องใช้แสงสว่างจากดวงโคมในช่วงกลางวันด้วย สำหรับเรื่องลิฟต์โดยสารนี้มีทั้งหมด 3 ตัว ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 128:1 ถือว่าอยู่ในระดับที่เกินความหนาแน่นปกติมาหน่อยนะคะ ส่วนจำนวนห้องต่อชั้นสูงสุดอยู่ที่ 13 ยูนิตก็ถือว่ามีความหนาแน่นต่อชั้นไม่สูงค่ะ
ชั้น 34 – 35 เป็นชั้น Presidental Floor Plan โดยในชั้นนี้จะเป็นห้องขนาดใหญ่ตั้งแต่ 2 Bedroom – 3 Bedroom ด้วยขนาดพื้นที่ใช้สอย 85 – 139 ตร.ม. และมีจำนวนยูนิตต่อชั้นลดลงมาที่ 6 ห้องต่อชั้นค่ะ
ในชั้นดาดฟ้าของอาคารพักอาศัย มีส่วน Sky Lounge อยู่ตรงกลาง คือขึ้นลิฟต์มาก็จะเจอกับพื้นที่ Sky Lounge เลย ส่วนด้านหน้า Sky Lounge เป็นพื้นที่นั่งเล่นชมวิวแบบ Outdoor และในส่วนของด้านข้างและด้านหลังอาคารทำเป็นสวนบนชั้นดาดฟ้าไว้สำหรับเดินเล่นชิลๆ หรือในช่วงวันหยุดเย็นๆ จะมาปูเสื่อปิกนิกเปลี่ยนบรรยากาศบนชั้นดาดฟ้าก็เป็นไอเดียที่ดีเหมือนกันนะคะ 🙂
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- ชั้นดาดฟ้าอาคารจอดรถ
- สระว่ายน้ำ 2 สระ ระบบเกลือ ขนาด 6.90 x 25.50 ม. ลึก 1.10 ม.
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
- สนามเด็กเล่น
- Jacuzzi
- ห้องสมุด
- ห้อง Multi-Purpose
- ห้องสนุกเกอร์
- ห้องประชุม
- สวน
- Sky Lounge
สำหรับห้องตัวอย่างจะมีให้ดูทั้งหมด 2 ห้องด้วยกันคือห้อง 1 Bedroom ขนาด 52 ตร.ม. และห้อง 2 Bedroom ขนาด 80 ตร.ม. ค่ะ โดยรูปแบบการตกแต่งของโครงการจะเป็นแบบ Fully Fitted นะคะ โดยสิ่งที่ได้คือ
- ชุดครัว Built – in จาก Modernform Top หินสังเคราะห์
- Wallpaper
- เครื่องปรับอากาศ
- เครื่องทำน้ำร้อน
- ฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัย
ห้องแรกที่จะพาไปดูคือ ห้อง 1 Bedroom ขนาด 52 ตร.ม. Type Deluxe Suite เป็นห้องแบบหน้าแคบลึก ตำแหน่งของห้องนี้จะอยู่ทางทิศใต้ ได้วิวในโซนสีลม สาทร ที่มีตึกสูงและสำนักงานใหญ่มากมาย ซึ่งก็จะได้บรรยากาศวิวเป็นแบบ City View ค่ะ ลักษณะการจัดแปลนของห้องนี้คือทางเข้าจะหลบเข้าไปด้านใน ซึ่งข้อดีก็คือมีบริเวณส่วนหน้าห้องหลบเข้ามาหน่อยจาก Corridor เพิ่มความเป็นส่วนตัวได้มากขึ้น เข้ามาในห้องด้านข้างได้ครัวปิดขนาดใหญ่พอสมควร สามารถทำอาหารหนักๆ ได้ และพื้นที่ส่วนรับประทานอาหารและส่วนนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกัน มีระเบียงอยู่ด้านนอกสุด เป็นระเบียงซักล้างที่มีขนาดพอสมควรสามารถใช้งานได้จริง เข้ามาในส่วนของห้องนอน สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบาย มีพื้นที่ด้านข้างเหลือจะทำเป็นพื้นที่ทำงานเล็กๆ และ Walk in Closet ได้ค่ะ ติดกับห้องนอนเป็นพื้นที่ระเบียงขนาดเล็กลงมาหน่อยจากระเบียงที่ติดกับพื้นที่นั่งเล่น ซึ่งสามารถนั่งเล่นชิล ๆ ดูวิวเพลินๆได้ค่ะ สำหรับห้องน้ำในแปลนนี้มีห้องน้ำห้องเดียว โดยจะอยู่ในส่วนของห้องนอนค่ะ
เริ่มต้นจากทางเข้าห้องกันเลยนะคะ สำหรับส่วนทางเข้าห้องจะหลบเข้ามาประมาณ 1.2 ม. จาก corridor และตำแหน่งประตูจะอยู่ตรงกลางประมาณนี้ ทำให้ภายในห้องด้านซ้ายนั้นเหลือที่อยู่หน่อยสำหรับวางชั้นวางรองเท้าได้
ส่วนฝั่งขวามือเป็นทางเข้าไปยังห้องครัวค่ะ โดยใช้ประตูบานเลื่อนกระจกกั้นไว้ให้เรียบร้อยเป็นครัวปิด ซึ่งเหมาะกับการทำอาหารหนักได้ดี
ลักษณะของรางเลื่อนประตู จะเป็นประตูแบบซ่อนรางเลื่อนไว้ด้านบนและไม่มีรางด้านล่าง ซึ่งข้อดีคือเดินได้ง่ายเพราะพื้นเสมอกัน
เข้ามาภายในห้องครัว ในส่วน Pantry ครัวที่ได้จะได้ Top pantry เป็นหินสังเคราะห์ พร้อมตู้ลอยทั้งชุด โดยทั้งหมดจาก Modernform ค่ะ แต่ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง Hob & Hood และ Microwave นะคะที่ไม่ได้ให้มาด้วย ส่วนผนังด้านหลัง Pantry นั้นเป็นผนังฉาบเรียบปกติ ซึ่งแนะนำให้ติดตั้งกระจกหรือกรุกระเบื้องไว้ด้านหลัง Pantry นะคะ เนื่องจากง่ายต่อการทำความสะอาดมากกว่า และผนังไม่เป็นคราบน้ำมันสกปรกจากการทำกับข้าวอีกด้วยค่ะ
บานเปิดใช้เป็น Soft Closed ทั้งหมด ส่วนหน้าบานของตู้จะได้เป็นสีทูโทนแบบนี้เลย ซึ่งถ้าใครชอบแบบสีเดียวกันอาจจะไม่ค่อยชินเท่าไหร่นะคะ
บริเวณมือจับเป็นแผ่นอลูมิเนียมยื่นออกมาเพื่อใช้ให้เปิด-ปิดได้สะดวกค่ะ
อ่างล่างจานหลุมเดี่ยวขนาดกระทัดรัด ด้านข้างมีที่พักจานเล็กน้อย
ถัดมาด้านข้าง Pantry ครัว มีพื้นที่ขนาด 1.75 x 0.8 ม. ไว้สำหรับวางตู้เย็นและเครื่องซักผ้าได้
รูปแบบสวิชต์ไฟจะมีหน้าตาแบบนี้ค่ะ
จากห้องครัวออกมาในส่วนของพื้นที่รับประทานอาหารที่เชื่อมกับพื้นที่นั่งเล่นกันต่อค่ะ สำหรับส่วนนี้พื้นปูด้วยกระเบื้องกระเบื้องเคลือบ porcelain ลายหินอ่อน ขนาด 1.2 x 0.6 ม. เช่นเดียวกับพื้นห้องครัวพอกระเบื้องแผ่นใหญ่ขึ้นคนที่ชอบรอยต่อน้อยๆน่าจะถูกใจนะคะ แถมกระเบื้องชนิดนี้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ชนิดหนึ่งที่มีการเคลือบผิวหน้าทำให้มีคุณสมบัติดูดซับน้ำต่ำกว่าแกรนิตโต้เล็กน้อยเวลาพื้นเปียกน้ำจะแห้งได้เร็วกว่าแกรนิตโต้ สามารถดูแลรักษาง่าย ส่วนความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.85 ม. ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้นดีค่ะ และสำหรับฝ้าเพดานบริเวณพื้นที่นั่งเล่นก็มีการทำฝ้าหลุมให้สวยงามค่ะ
หันกลับมาในส่วนพื้นที่รับประทานอาหารกันบ้างจะเห็นว่าด้านบนเป็นแอร์แบบฝังฝ้า (concealed) ซึ่งจะเป็นแบบนี้ในทุกห้อง รวมทั้งห้องนอนด้วย
ในส่วนพื้นที่รับประทานอาหาร สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 2-4 ท่านได้ ด้านข้างติดกับโซฟามีพื้นที่เหลือไว้สำหรับขยับเก้าอี้เข้า-ออก ประมาณ 1.2 ม.
ส่วนพื้นที่ตรงข้ามโต๊ะรับประทานอาหารที่ติดกับส่วนครัวมีพื้นที่ขนาดประมาณ 1.5 x 0.8 ม. สามารถจัดเป็นส่วนตู้ Built-in เก็บของโชว์หรือจัดเป็นพื้นที่ส่วนทำงานเล็กๆ ในมุมนี้ได้ค่ะ
ในส่วนพื้นที่นั่งเล่นนี้มีระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีประมาณ 2.5 ม. เหมาะกับการวางขนาดทีวีขนาด 42″-50″ จะเป็นขนาดที่พอดีกับระยะห่างของสายตาค่ะ
ด้วยขนาดความกว้างของห้องที่ยังพอมีพื้นที่เหลือด้านข้างบ้าง สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่แบบ 3 ที่นั่งได้สำหรับคนที่ชอบนอนดูทีวี แต่ก็จะเสียพื้นที่ในการขยับเก้าอี้เข้า-ออกบริเวณพื้นที่กินข้าวไปบ้าง หรือเสียพื้นที่ที่ใช้วางโคมไฟด้านข้างไปค่ะ
ถัดจากส่วนพื้นที่นั่งเล่นจะเป็นส่วนระเบียงซักล้างค่ะ โดยกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกสีเขียวตัดแสง 2 บาน ใช้กรอบบานอลูมิเนียมสีขาว
มีมือจับ จับได้ถนัดมือ ด้านข้างได้ผ้าสักหลาดกันฝุ่นได้และทำให้บานประตูแนบสนิทได้ดีค่ะ
ก่อนจะออกไปยังระเบียงนั้นมีธรณียกสูงขึ้นมานิดหน่อย ในส่วนพื้นที่ระเบียงนั้นมีขนาด 3.2 x 1.3 ม. ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิกสีน้ำตาลอ่อนขนาด 40 x 40 ซม. ด้วยขนาดเท่านี้ถือว่าเป็นระเบียงที่สามารถใช้งานได้จริง อย่างการซักล้าง หรือตากผ้าได้เพียงพอ หรือใครจะเอาเก้าอี้และโต๊ะเล็กมานั่งชมวิวเพลินๆ ตรงนี้ก็ได้เช่นกันค่ะ
ด้านข้างเป็นที่แขวน compressor แอร์อยู่ด้านบนหันข้างเข้าระเบียง ซึ่งหากใครที่จะใช้พื้นที่ระเบียงนี้เป็นระเบียงนั่งเล่นก็น่าจะเพิ่มกริลที่เบี่ยงลมร้อนจากแอร์หน่อยนะคะ อย่างน้อยก็ไม่ต้องรับลมร้อนเต็มๆ ส่วนด้านข้างมีระแนงอลูมิเนียมบังสายตาในส่วน compressor แอร์ให้เรียบร้อย ส่วนดวงโคมที่ระเบียงนั้นจะเป็นดวงโคมติดผนังอยู่ด้านบนประตูบานเลื่อนค่ะ เห็นดวงโคมเล็กๆ แบบนี้แต่พอเปิดไฟแล้วก็ทำให้ระเบียงสว่างทีเดียวค่ะ
จากนั้นเราเข้าไปดูห้องนอนกันต่อนะคะ
สำหรับพื้นในห้องนอนเป็นพื้นเอ็นจิเนียริ่ง จบขอบด้วยไม้สำเร็จรูป
เข้ามาภายในห้องนอนที่มีแปลนเป็นแนวยาวทำให้พื้นที่ภายในห้องนอนจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง คือส่วนพื้นที่เตียงนอน และส่วนพื้นที่ Walk in Closet ที่อยู่ติดกับห้องนอนภายในห้องนอนค่ะ
ในส่วนเตียงนอนนี้ สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบายๆ ค่ะ ในส่วนบริเวณปลายเตียงนั้นมีพื้นที่เหลือพอสมควรสามารถ Built – in ชั้นวางทีวีได้โดยที่ยังเหลือพื้นที่ให้เดินได้ค่ะ
สำหรับด้านข้างเตียงนั้นมีความยาวประมาณ 1.4 ม. สามารถทำเป็นมุมวางโต๊ะเครื่องสำอางค์ของสาวๆ หรือจะขยายพื้นที่ของตู้เสื้อผ้ามาแทนที่ก็ได้ค่ะ
ส่วนพื้นที่ทางเดินปลายเตียงและข้างเตียงกว้างประมาณ 80 ซ.ม. เดินได้สบาย
ถัดมาในส่วนระเบียงด้านข้างเตียงนอนมีขนาดประมาณ 2.4 x 0.8 ม. เป็นขนาดระเบียงที่เล็กกว่าระเบียงด้านนอกที่ติดกับพื้นที่นั่งเล่น แต่เหมาะกับการยืนชมวิวชิลๆ ได้มากกว่าเพราะเป็นระเบียงที่ไม่ได้แขวน Compressor แอร์ไว้ค่ะ
หันกลับเข้ามาในห้องนอนกันต่อ ถัดจากส่วนโต๊ะเครื่องสำอางค์แล้วก็จะเป็นพื้นที่ Walk in Closet ที่สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งหากใครอยู่ด้วยกันสองคนก็สามารถแบ่งฝั่งตู้กันใช้ได้เลย
เข้ามาในส่วนห้องน้ำมีการยกธรณีขึ้นสูงมาหน่อยกันน้ำไหลย้อยออก ส่วนของธรณีปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ พื้นภายในปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 0.3 x 0.6 ม.
ห้องน้ำจะได้ตามห้องตัวอย่างทั้งหมดนะคะ ยกเว้นของตกแต่ง ซึ่งภายในห้องน้ำนี้จะแบ่งเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจนเป็นสัดส่วนค่ะ สำหรับส่วนแห้งนี้ด้านหลังจะติดกระจกเงาขนาดใหญ่ให้และมี Low Wall กรุด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีดำ สามารถใช้วางข้าวของเล็กๆ น้อยๆ หนังสือต่างๆ ได้ ตัวผนังห้องน้ำใช้กระเบื้องเคลือบ porcelain ลายหินอ่อน ส่วนกระเบื้องเป็นกระเบื้องเซรามิคสีน้ำตาลอ่อนดูสวยงามดีค่ะ
เริ่มจากสุขภัณฑ์ชิ้นแรกคือ อ่างล้างมือได้มาเป็นแบบฝังในเคาน์เตอร์จาก Cotto ด้านข้างมีที่วางของเล็กๆน้อยไว้พอสมควร ส่วนด้านล่าง Built-in เป็นตู้เล็กๆ สำหรับเก็บอุปกรณ์ภายในห้องน้ำ เช่น อุปกรณ์ล้างห้องน้ำค่ะ มีมือจับอลูมิเนียมจับได้ถนัดมือดี
ก็อกน้ำแบบสแตนเลสแบบก้านโยกและอ่างล้างมือทรงสี่เหลี่ยมขนาดกระทัดรัดจาก Cotto
มาต่อที่โถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องน้ำจาก Cotto บริเวณความกว้างของพื้นที่ส่วนโถสุขภัณฑ์ประมาณ 90 ซม. ซึ่งเป็นระยะที่มีความกว้างกำลังพอดี
ส่วนของพื้นที่อาบน้ำได้ฉากกั้นกระจกนิรภัยบานสวิงพร้อมราวจับสแตนเลสให้เรียบร้อย
ก่อนเข้าส่วนพื้นที่อาบน้ำมีการยกธรณีขึ้นมาเล็กน้อยกันน้ำไหลย้อนซึ่งกรุด้วยกระเบื้องสเป็คเดียวกับ Low Wall ดูเป็นเนื้อเดียวกัน ทำให้ดูเรียบร้อยสวยงามดีค่ะ ในส่วนพื้นที่อาบน้ำนั้นมีขนาดพื้นที่ประมาณ 0.9 x 1.2 ม.
ด้านข้างที่ติดกับฝั่งฝักบัวนั้นก่อเป็นที่นั่งขึ้นมาสำหรับใช้นั่งอาบน้ำได้ และก็อาจจะใช้เป็นที่วางครีมต่างๆไปด้วย ^^
ชุดฝักบัวอาบน้ำของ Cotto มี Rain shower ให้ด้วย โครงการติดตั้งระบบน้ำร้อนน้ำเย็นมาให้เหมือนระบบในโรงแรม สามารถปรับอุณหภูมิน้ำได้ตามใจชอบ
ขนาดฝักบัวใหญ่พอสมควร และขนาดมือจับนั้นจับได้ถนัดมือดีค่ะ
ต่อกันที่ห้อง Type Elite Suite ซึ่งเป็นห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 80 ตร.ม. ตำแหน่งของห้องนี้นั้นจะอยู่เป็นห้องมุมในฝั่งทิศเหนือ ขนาบห้องขนาด 55 ตร.ม. ซึ่งห้องนี้สามารถมองวิวได้ทั้ง 2 วิวค่ะเนื่องจากเป็นห้องมุม โดยจะได้วิว 2 แบบคือ วิวหัวลำโพง-ถนนเจริญกรุง,แม่น้ำเจ้าพระยา กับวิวหัวลำโพง-สวนลุมพินี,จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำหรับลักษณะแปลนเป็นแบบที่ได้วิวหน้ากว้างนะคะ เริ่มจากทางเข้าห้องจะเป็นโถงเล็กๆ ยื่นออกมาหน่อย จากนั้นจะเจอกับห้องน้ำก่อนและห้องครัวที่ได้เป็นแบบครัวปิดเช่นเดียวกับห้องแรก ถัดจากครัวนั้นเป็นระเบียงซักล้างขนาดเล็กๆ ค่ะ
ถัดมาที่พื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่นนั้นจะเป็นพื้นที่ที่เชื่อมกันอยู่และส่วนของพื้นที่นั่งเล่นก็จะติดกับระเบียงอีกระเบียงนึงที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย สามารถใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นชมวิวได้ดีค่ะ จากนั้นก่อนที่จะเข้ามาให้ส่วนของห้องนอนทั้ง 2 ห้องนอนนั้นจะมีโถงเล็กๆ แจกไปยังทั้ง 2 ห้อง โดยห้องนอนเล็กนั้นสามารถวางเตียงแบบ 3.5-5 ฟุตได้ มาที่ห้องนอนใหญ่นั้นจะได้เป็นห้องมุม มองวิวได้ 2 ทิศทาง ขนาดเตียงที่วางได้ลงตัวคือขนาด 5 ฟุต และมีพื้นที่ด้านข้างเตียงกว้างพอสำหรับจัดเป็นพื้นที่ทำงานเล็กๆ ได้ สำหรับห้องนอนนี้จะมีห้องน้ำในตัวด้วยค่ะ
ทางเข้าห้องจะเป็นโถงทางเดินก่อนเข้าไปภายในห้อง ซึ่งแบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือด้านซ้ายเป็นพื้นที่รับประทานอาหารที่เชื่อมกับพื้นที่นั่งเล่น ส่วนด้านขวาแบ่งเป็น 2 ห้องคือห้องน้ำและห้องครัวค่ะ
ในส่วนของห้องน้ำใช้สุขภัณฑ์และการออกแบบเหมือนกันกับห้องน้ำห้องแรกค่ะ คือได้กระจกบานใหญ่ติดผนัง ด้านหลังสุขภัณฑ์ก่อ Low Wall ไว้สำหรับวางของได้อ่างฝังเคาน์เตอร์ โถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ห้องน้ำจาก Cotto ค่ะ
บริเวณพื้นที่อาบน้ำก็เหมือนห้องน้ำห้องแรกเช่นเดียวกันคือได้ฉากกระจกนิรภัยบานสวิง ด้านในก่อที่นั่งอาบน้ำให้เรียบร้อย และฝักบัวได้ 2 แบบคือ Rain Shower และฝักบัวสายอ่อนจาก Cotto พร้อมติดตั้งระบบน้ำร้อนน้ำเย็นมาให้เรียบร้อย
ในส่วนของห้องครัวได้กระจกบานเลื่อนที่เดินรางอยู่ด้านบนเช่นเดียวกับห้องแรก
ชุดครัวจาก Modernform สเป็คเดียวกับห้องแรกและไม่ได้ Hob & Hood กับ Microwave เช่นเดียวกันค่ะ แต่ที่แตกต่างกันและเป็นข้อดีสำหรับคนที่ชอบทำกับข้าวของแปลน type นี้คือห้องครัวอยู่ติดกับภายนอกอาคาร ซึ่งหมายความว่าสะดวกในการติดตั้ง Hood แบบเดินท่อออกไปด้านนอก (Exhausted) ได้ค่ะ
ลักษณะของห้องครัวจะเป็นแนวยาว มีความกว้างของทางเดินประมาณ 1.10 ม. ซึ่งกว้างพอสำหรับการทำกับข้าวหรือเดินได้สะดวกค่ะ
ถัดจากชุดครัวจะเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นและเครื่องซักผ้า ซึ่งมีความยาวประมาณ 1.7 ม. ค่ะสามารถวางตู้เย็นเครื่องใหญ่ได้กับเครื่องซักผ้าขนาดประมาณ 7-7.5 กิโลได้
สำหรับระเบียงที่ติดกับห้องครัวนี้เป็นระเบียงซักล้างขนาดเล็กประมาณ 1.6 x 1.6 ม. สามารถใช้ซักล้างและตากผ้าเล็กๆน้อยๆ ได้ค่ะ
ด้านบนแขวน compressor แอร์เป่าลมร้อนออกไปภายนอก
ออกมาจากส่วนห้องครัวจะมีพื้นที่ด้านข้างผนังเล็กน้อย ซึ่งมีความลึกประมาณ 50 ซม. สามารถใช้มุมนี้เป็นพื้นที่วางโต๊ะทำงานเล็กๆได้ หรือจะ Built – in ตู้โชว์ก็ได้เช่นกันค่ะ
ในส่วนของพื้นที่รับประทานอาหารที่เชื่อมกับพื้นที่นั่งเล่นนี้มีความสูงฝ้า 2.85 ม. บริเวณส่วนพื้นที่นั่งเล่นตกแต่งเป็นฝ้าหลุมให้เช่นเดียวกับห้องแรกค่ะ
ในส่วนพื้นที่รับประทานอาหารนี้สามารถวางชุดโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งได้ หรือใครที่อยากได้โต๊ะขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยประมาณ 6 ที่นั่งก็สามารถวางได้นะคะ แต่ต้องหมุนทิศโต๊ะเป็นวางขนานกับผนังแทนค่ะ ซึ่งก็จะเสียพื้นที่ทางเดินไปหน่อย และพื้นที่ระหว่างโซฟาและโต๊ะรับประทานอาหารไปเช่นเดียวกันนะคะ
ในส่วนของพื้นที่นั่งเล่นนี้ค่อนข้างกว้างพอสมควร มีระยะห่างจากโซฟาถึงทีวีประมาณ 2.8 ม. ซึ่งขนาดทีวีที่เหมาะสมกับระยะสายตาจะอยู่ที่ 50″ นิ้วค่ะ
สำหรับพื้นที่วางโซฟาจะเห็นว่าเหลือที่ว่างด้านข้างค่อนข้างมาก หากใครที่ชอบนอนดูทีวีก็สามารถเลือกชุดโซฟาขนาดใหญ่แบบ 4-6 ที่นั่งได้สบายๆค่ะ
ฝั่งตรงข้ามโซฟานั้นเป็นผนังยาวประมาณ 3.8 ม. ซึ่งค่อนข้างยาวพอสมควรนะคะ หากใคร Built – in ชั้นวางของหรือตู้เก็บของในส่วนนี้ก็น่าจะมีพื้นที่เก็บของได้พอสมควรเลยค่ะ
ถัดจากพื้นที่นั่งเล่นเป็นส่วนระเบียงภายนอกค่ะ ถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนสเป็คเดียวกับห้องแรกเช่นกัน
ขนาดระเบียงอยู่ที่ 1.3 x 3.5 ม. ถือว่ามีพื้นที่พอสมควรค่ะ สามารถวางชุดโต๊ะเก้าอี้ขนาดเล็กๆ มานั่งเล่นชมวิวชิลๆ ได้ค่ะ
ด้านบนแขวน Compressor 2 ตัว ใครกลัวลมร้อนเวลานั่งเล่นที่ระเบียงก็ติดกริลเบี่ยงทิศทางลมร้อนได้ค่ะ
ด้านข้างผนังที่เป็นที่วางทีวี จะมีโถงเล็กๆ แจกไปยังห้องนอนทั้ง 2 ห้องค่ะ
เดี๋ยวเราไปดูห้องนอนเล็กกันก่อนนะคะ สำหรับห้องนอนนั้นพื้นจะเป็นพื้นเอ็นจิเนียริ่งวู้ดเช่นเดียวกับห้องแรกค่ะ
เข้ามาจะเจอส่วนที่วางตู้เสื้อผ้าก่อน
ด้านในเป็นพื้นที่วางเตียงนอนสามารถวางเตียงขนาด 3.5 – 5 ฟุตได้ค่ะ ซึ่งหากใครชอบที่นอนใหญ่หน่อยก็สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้นะคะ แต่จะเสียพื้นที่ว่างด้านข้างเตียงที่สามารถทำเป็นโต๊ะทำงานได้เช่นกันค่ะ
หันกลับมาในส่วนตู้เสื้อผ้าที่จะวางได้หรือ Built-in ได้นั้นจะต้องเป็นตู้ขนาดเล็กหน่อยแบบ 2 บานประตู
ฝั่งปลายเตียงมีพื้นที่ลึกเข้าไปประมาณ 60 ซม. เนื่องจากด้านข้างซ้ายนั้นเป็นมีส่วนยื่นของช่องชาร์ป (ช่องท่อ) ในส่วนห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ สำหรับพื้นที่นี้มีขนาดประมาณ 1.7 x 0.6 ม. สามารถ Built-in ชั้นวางทีวี หรือจะทำเป็นชั้นวางหนังสือและตั้งกรอบรูปโชว์ก็ได้นะคะ
พื้นที่ทางเดินรอบเตียงมีความกว้างที่สามารถเดินได้พอสมควร โดยปลายเตียงจะกว้างประมาณ 40 ซม. ไม่รวมกับส่วนลึกของพื้นที่สำหรับวางชั้นวางทีวีหรือชั้นวางของ ส่วนด้านข้างเตียงนั้นกว้างประมาณ 65 ซม. ค่ะ
บานกระจกที่ได้ ได้เป็นบานใหญ่สูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้าเพดาน ด้านข้างมีบานกระทุ้งให้ 2 บาน
เข้ามาที่ห้องนอนใหญ่กันต่อค่ะ จากหน้าห้องนอนใหญ่นี้ด้านขวาจะเป็นส่วนห้องน้ำภายในห้องนอน
ภายในห้องน้ำในห้องนอนนี้ก็ใช้สุขภัณฑ์ การออกแบบ และวัสดุเช่นเดียวกับห้องน้ำด้านนอกค่ะ
ห้องนอนใหญ่นี้จะอยู่ในส่วนของมุมอาคาร ซึ่งจะได้หน้าต่าง 2 ทางค่ะ ลักษณะของหน้าต่างส่วนข้างเตียงได้เป็นกระจกบานใหญ่สูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้าเพดานเช่นเดียวกับห้องนอนเล็กแต่จะได้บานกระทุ้ง 2 ข้างขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย ส่วนหน้าต่างบริเวณหัวเตียงมีขนาดกระจกเล็กลงมาหน่อยคือตั้งแต่ครึ่งผนังไปถึงฝ้าเพดาน และด้านข้างหัวเตียงมีบานกระทุ้ง 2 ข้างค่ะ ส่วนขนาดเตียงที่เหมาะกับขนาดห้องจะเป็นไซส์ 5 ฟุตค่ะ
อีกด้านข้างของเตียงเป็นพื้นที่วางตู้เสื้อผ้า ซึ่งจะได้ขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อยจากห้องนอนเล็ก ด้านบนฝ้าเพดานบริเวณทางเข้าได้แอร์แบบฝังฝ้าเรียบร้อย ตำแหน่งแอร์จะเป่าด้านข้างบริเวณปลายเตียง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมนะคะ เพราะลมแอร์ไม่ได้เป่าโดนตัวจังๆ
พื้นที่ปลายเตียงหักลบขนาดความกว้างของชั้นวางทีวีแล้วจะกว้างประมาณ 1.2 ม. ถือเป็นขนาดที่กว้างพอสมควรเดินได้สบาย ส่วนมุมปลายเตียงมีขนาดพื้นที่กว้างประมาณ 1 ม. สามารถวางโต๊ะทำงานขนาดเล็กได้ หรือจะวางเป็นโต๊ะเครื่องสำอางค์สำหรับคุณผู้หญิงก็ได้ค่ะ
พื้นที่ข้างเตียงด้านซ้ายกว้างประมาณ 65 ซม. ส่วนพื้นที่ข้างเตียงด้านขวาจะแคบลงมาหน่อยอยู่ที่ 55 ซม. ซึ่งเป็นความกว้างที่สามารถเดินได้พอดีค่ะ แต่แนะนำว่าต้องเลือกตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเลื่อนนะคะ เพราะถ้าใช้เป็นตู้เสื้อผ้าแบบบานเปิดนั้นจะไปขวางพื้นที่ทางเดินทำให้ใช้งานได้ไม่สะดวกค่ะ
สำหรับห้องอื่นๆ นอกเหนือจากห้องตัวอย่างก็ยังมีให้เลือกอีกหลาย type ด้วยกันนะคะ สำหรับห้องขนาดเล็กสุดของโครงการจะอยู่ที่ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 41.5 ตร.ม. Type Executive Suite ลักษณะของแปลนเป็นแบบหน้าแคบลึก ภายในแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วนชัดเจน เข้ามาภายในห้องจะเป็นส่วนพื้นที่นั่งเล่นที่เชื่อมกับพื้นที่รับประทานอาหารที่อยู่บริเวณมุมห้องติดกับห้องครัว ขนาดโต๊ะรับประทานอาหารจะเป็นโต๊ะขนาดเล็ก 2 ที่นั่ง ติดกับส่วนรับประทานอาหารเป็นส่วนครัวปิด เหมาะกับการทำอาหารหนักได้รวมทั้งอยู่ติดกับระเบียงภายนอกห้อง ซึ่งง่ายต่อการติดตั้ง Hood แบบ Exhausted หรือแบบต่อท่ออกไปด้านนอกได้ สำหรับแปลน type นี้ค่อนข้างให้ความสำคัญกับห้องนอนพอสมควรจะเห็นว่าพื้นที่ห้องนอนนี้จะได้ขนาดใหญ่ สามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้ มีพื้นที่ด้านข้างทำเป็นส่วน Walk in Closet และโต๊ะเครื่องสำอางค์เล็กๆ ได้ และตำแหน่งห้องน้ำนี้จะอยู่ภายในห้องนอนค่ะ
ถัดมาเป็นห้อง Type Deluxe Suite(s) เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 55 ตร.ม. ผังแปลนนี้จะเหมือนกับห้องตัวอย่าง 1 Bedroom ขนาด 52 ตร.ม. แต่จะมีความยาวและความกว้างของห้องส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนที่มากกว่าค่ะ ทำให้ตัวห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้นและมีพื้นที่ว่างมากขึ้นสามารถขยับขยายขนาดเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ได้มากขึ้น เช่นขนาด โซฟา และขนาดเตียงนอนค่ะ
ห้อง 2 Bedroom ขนาด 73 ตร.ม. Type Family Suite ลักษณะแปลนห้องจะเป็นห้องแบบหน้ากว้างนะคะ และเป็นห้องมุมที่ได้วิวทั้ง 2 ทาง ลักษณะการวางผังคือแบ่งเป็น 4 โซนหลักๆ โดยวางพื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่นอยู่ฝั่งด้านในติดกับ Corridor ส่วนห้องครัวและห้องนอนอีก 2 ห้องนอนนี้จะอยู่ติดกับภายนอกได้ช่องแสง สำหรับห้องนี้รูปแบบการวางแปลนจะมีความคล้ายคลึงกับห้อง 2 Bedroom ขนาด 80 ตร.ม. ที่จัดเป็นห้องตัวอย่าง แต่มีความแตกต่างกันที่นอกเหนือจากขนาดพื้นที่ใช้สอยรวมแล้วคือ การจัดวางห้องน้ำอยู่ตรงกลางเข้าจากทางโถงเล็กๆ ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งที่สะดวกในการใช้งานทั้งจากห้องนั่งเล่นและจากห้องนอนเล็กค่ะ
ห้อง 2 Bedroom Type Presidental Suite 03 ขนาดพื้นที่ใช้สอย 85 ตร.ม. ซึ่งเป็นขนาดที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยจากห้อง 2 Bedroom ขนาด 80 ตร.ม. สำหรับห้องนี้จะอยู่ในชั้น 33 – 34 และไม่ได้เป็นห้องมุมซึ่งแตกต่างจากห้องขนาด 80 ตร.ม.ที่อยู่ในชั้น 3 – 33 และได้เป็นห้องมุมค่ะ ลักษณะของผังเป็นแบบหน้ากว้างเพื่อให้ห้องทุกห้องอย่างห้องนอนทั้ง 2 ห้องและพื้นที่ส่วนรวมบริเวณพื้นที่นั่งเล่นได้รับวิวและแสงธรรมชาติเข้ามาภายใน เข้ามาเป็นพื้นที่รับประทานอาหารที่เชื่อมกับพื้นที่นั่งเล่น บริเวณระเบียงใกล้พื้นที่นั่งเล่นนี้ได้ขนาดเล็ก สำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์มากกว่าออกไปชมวิวได้แต่จะได้พื้นที่ภายในห้องมามากขึ้นคือด้านข้างระเบียงสามารถทำเป็นมุมพื้นที่ทำงานเล็กๆ ได้ ส่วนห้องครัวได้เป็นครัวปิด ถัดมาจะมีโถงเล็กๆ สำหรับแยกไปยังห้องน้ำรวมและห้องนอนเล็ก ขนาดของห้องนอนเล็กสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นห้องนอนใหญ่พร้อมห้องน้ำในตัว มีพื้นที่ Walk in Closet เป็นสัดส่วนที่ใหญ่ดี ส่วนระเบียงภายในห้องนอนได้ขนาดใหญ่มากกว่าระเบียงตรงพื้นที่นั่งเล่น สามารถมายืนชมวิวหรือวางชุดโต๊ะเก้าอี้สนามเล็กๆ มานอนชมวิวชิลๆ ก็ยังได้ค่ะ
ห้อง 3 Bedroom Type Presidental Suite ขนาดพื้นที่ใช้สอย 129.5 ตร.ม. โดยห้อง type นี้จะอยู่ในชั้น 34 – 35 ซึ่งเป็น 2 ชั้นบนสุดของอาคารก่อนจะเป็นชั้นดาดฟ้าสำหรับขนาดพื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชันของแปลนนี้เหมาะกับครอบครัวขยายมีสมาชิก 3-4 คนหรือคู่รักที่เตรียมพร้อมสำหรับการเป็นครอบครัวขยายในอนาคต ลักษณะของแปลนห้องนี้เป็นห้องมุมได้วิว 2 ทิศ การจัดฟังก์ชัน แบ่งเป็น 3 โซนหลักๆ คือพื้นที่ส่วนกลางที่ประกอบไปด้วยห้องครัว, พื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหาร ที่อยู่ตำแหน่งกลางห้องและมีประตูไปยัง 2 โซน ซ้ายและขวาที่เป็นห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัว และอีกฝั่งที่เป็นห้องนอนกลางและห้องนอนเล็กค่ะ จากการจัดแบ่งโซนนี้จะเห็นว่าแปลน Type นี้ให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนรวมเป็นหลักค่ะ ด้วยขนาดที่ค่อนข้างใหญ่จึงสามารถปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มเติมฟังก์ชันในพื้นที่ส่วนนี้ได้เยอะ
มาดูรายละเอียดภายในห้องกันต่อค่ะ เมื่อเข้ามาภายในห้องจะเป็นพื้นที่เล็กๆ ที่ถูกเสากลางห้องกั้นไว้ให้เป็นเสมือนกับพื้นที่โถงทางเข้า ด้านข้างวางชั้นวางรองเท้าได้ ติดกับพื้นที่โถงทางเข้าเล็กๆ นี้ คือพื้นที่รับประทานอาคาร สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาดจำนวนที่นั่ง 4 ที่นั่ง ถัดจากนั้นคือพื้นที่นั่งเล่นที่ได้ขนาดค่อนข้างใหญ่ด้วยความกว้างถึง 5.65 ม. ทำให้สามารถแบ่งพื้นที่นั่งเล่นเป็นพื้นที่ทำงานเพิ่มได้อีก 1 ฟังก์ชัน ถัดมาเป็นระเบียงขนาดยาวตามความกว้างของพื้นที่นั่งเล่นคือ ยาวประมาณ 5.65 ม. เสียดายที่ติดเสาขนาดใหญ่ไม่งั้นจะเป็นระเบียงชมวิวที่ยาวและได้วิวมุมกว้างมาก กลับเข้ามาในส่วนด้านข้างใกล้กับพื้นที่รับประทานอาหารเป็นห้องครัวแบบปิดเช่นเดิม ส่วนขนาดครัวนั้นก็ได้ขนาดพอๆ กับห้องขนาด 80 ตร.ม.ค่ะ ในฝั่งเดียวกันเขยิบขึ้นมาจะมีโถงเล็กๆ แจกไปยังห้องนอนกลาง ห้องนอนเล็กและห้องน้ำส่วนกลางที่ใช้ร่วมกับห้องนอนเล็กค่ะ ส่วนห้องนอนกลางนี้จะได้ห้องน้ำในตัวเลยแต่พื้นที่ใช้สอยในห้องนอนเล็กและห้องนอนกลางมีขนาดไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ค่ะ ส่วนอีกฝั่งเป็นห้องนอนใหญ่ มีพื้นที่ Walk-in Closet พร้อมห้องน้ำภายในห้อง
และห้องสุดท้ายคือห้องขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ คือห้อง 3 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 139 ตร.ม. เป็นห้อง Type ที่อยู่ชั้นที่ 34-35 เช่นเดียวกับห้องขนาด 129.5 ตร.ม. ลักษณะการจัดวางแปลนโดยรวมมีความคล้ายคลึงกับห้องขนาด 129.5 ตร.ม. แต่จะแตกต่างตรงส่วนตำแหน่งของห้องน้ำรวมนั้นเปลี่ยนไปใกล้กับทางเข้าห้องและห้องครัว โดยการจะใช้ห้องน้ำรวมนี้ต้องเข้าจากทางห้องครัวค่ะ ซึ่งหากมองในแง่ของการใช้งานแล้วนั้นถือว่ามีความสะดวกน้อยกว่าตำแหน่งห้องน้ำสามารถเข้าจากพื้นที่ส่วนรวมได้เลย และสิ่งที่แตกต่างออกไปจากห้องขนาด 129.5 ตร.ม.อีกคือ พื้นที่ภายในห้องนอนกลางจะได้ขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยและตำแหน่งของห้องน้ำถูกเปลี่ยนไปติดกับห้องนอนเล็กแทนค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 2 June 2016
- 1 Bedroom ขนาด 41.5 ตร.ม. ราคา 4.35 – 5.41 ล้านบาทหรือประมาณ 104,820 – 130,360 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom ขนาด 52-55 ตร.ม. ราคา 5.37 – 7.07 ล้านบาทหรือประมาณ 103,270 – 128,545 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom ขนาด 73 ตร.ม. ราคา 7.40 – 9.26 ล้านบาทหรือประมาณ 101,370 – 126,850 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom ขนาด 80 ตร.ม. ราคา 7.94 – 10.34 ล้านบาทหรือประมาณ 99,250 – 129,250 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom ขนาด 85 ตร.ม. ราคา 10.83 – 11.15 ล้านบาทหรือประมาณ 127,411 – 131,175 บาท/ตร.ม.
- 3 Bedroom ขนาด 129.5 – 139 ตร.ม. ราคา 16.44 – 18.12 ล้านบาทหรือประมาณ 126,950 – 130,360 บาท/ตร.ม.
- Fully Fitted
- เพดานสูง 2.85 เมตร
- Kitchen & Sink
- จอง
- 1 Bedroom – 2 Bedroom 50,000 บาท
- 3 Bedroom 100,000 บาท
- 1 Bedroom 129,000-190,000 บาท
- 2 Bedroom 290,000 บาท
- 3 Bedroom 590,000 บาท
- 1 Bedroom (41.5 ตร.ม.) 12,900 บาท
- 1 Bedroom (52-55 ตร.ม.) 19,000 บาท
- 2 Bedroom (73-85 ตร.ม.) 29,000 บาท
- 3 Bedroom (129.5-139 ตร.ม. 59,000 บาท
- 1 Bedroom 300,000 บาท
- 2 Bedroom 500,000 บาท
- 3 Bedroom 700,000 บาท
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเลโครงการ Supalai Elite สี่พระยา ตั้งอยู่บนถนนสี่พระยาช่วงที่เลยแยกนเรศไปประมาณ 60 ม. บนถนนเส้นนี้มีสภาพแวดล้อมเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยเก่าแก่ดั้งเดิมจะเห็นได้จากอาคารบ้านเรือนเป็นตึกแถวและอาคารพาณิชย์ที่อยู่อาศัยกันมานานแล้ว มีร้านค้าทั้งขายอาหาร ร้านตัดเสื้อผ้า และร้านค้าต่างๆ ในชั้นล่างของตึกแถว ซึ่งบรรยากาศบนถนนนี้จะค่อนข้างเงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากกว่าถนนข้างเคียงอย่างถนนสุรวงศ์ ถนนสีลม และถนนสาทร ที่เป็นย่านธุรกิจที่มีอาคารสำนักงานตึกสูง โรงแรมและร้านอาหารมากมาย ที่ค่อนข้างคึกคักพอสมควร รวมทั้งถนนพระราม 4 ที่ใกล้กับมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ส่วนเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของอาหารการกินบนถนนนี้จะเป็นอาหารข้างทางและอาหารใต้ตึกแถวเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งถ้าจะไป Hangout กับเพื่อนหรือนั่งร้านอาหารบรรยากาศดีขึ้นมาหน่อยส่วนใหญ่ก็จะอยู่บนถนนสุรวงศ์ ซึ่งสามารถเดินไปตามถนนนเรศทะลุออกถนนสุรวงศ์ได้ไม่ยากค่ะ
การเดินทางโดยใช้รถถือว่ามีความสะดวกน้อยกว่าโครงการข้างเคียงอยู่หน่อย เนื่องจากทำเลที่ตั้งโครงการตั้งอยู่บนถนนสี่พระยาในช่วงที่เป็นถนน one way ที่วิ่งมาจากถนนเจริญกรุงไปสิ้นสุดถนน one way ตรงแยกนเรศพอดี ดังนั้นใครที่เดินทางมาจากถนนพระราม 4 นั้นจะต้องไปอ้อมกลับรถเข้าถนนสุรวงศ์ไปทะลุออกถนนมหาเศรษฐ์เพื่อกลับเข้ามาที่ถนนสี่พระยาอีกที ซึ่งใครที่เดินทางโดยใช้รถก็จะเสียเวลาเดินทางเพิ่มนิดหน่อย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรด้วยนะคะ ส่วนถนนสี่พระยาเองนั้นเป็นถนนที่เชื่อมเข้าถนนสายหลักๆ อยู่หลายสายอย่างถนนพระราม 4 ถนนเจริญกรุง และถนนสุรวงศ์ นอกจากนี้ยังมีซอยเล็กซอยน้อยที่ไปทะลุออกได้ ซึ่งพอจะมีทางเลือกในการหลบหลีกรถติดได้ ส่วนจุดขึ้นทางด่วนใกล้ๆ กับโครงการจะมีจุดขึ้นทางด่วนบนถนนสุรวงศ์ ซึ่งจากโครงการจะต้องวนรถมาขึ้นทางด่วนเอา และจุดลงทางด่วนที่จะอยู่บนถนนสีลมค่ะ
สำหรับการเดินทางโดยพึ่งพิงระบบสาธารณะนั้น จะมี MRT สามย่านที่อยู่ใกล้โครงการมาที่สุดโดยห่างจากโครงการไปประมาณ 800 ม.จากทางออก 1 หน้าวัดหัวลำโพง ถือเป็นระยะที่ไกลไปหน่อยสำหรับระยะเดิน นอกจากใครที่เดินระยะนี้จนชินแล้วก็จะพอเดินได้แต่ถ้าเดินเที่ยงๆนี่มีเหงื่อตกนะคะ ฟุตบาทให้เดินได้ตลอดทางอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกเข้าถึงโครงการอื่นๆ อีกเช่น พี่วินมอเตอร์ไซต์ที่คอยให้บริการอยู่หน้ามูลนิธิร่วมกตัญญูตรงปากทางเข้าถนนสี่พระยา พี่ตุ๊กตุ๊กและรถตู้ โดยรวมถือว่าสะดวกในระดับนึงนะคะสำหรับการเดินทางโดยพึ่งพิงระบบสาธารณะ
การออกแบบโครงการนั้นเน้นไปที่เรื่องของพื้นที่ใช้สอยภายในห้องที่ได้ค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับราคาและโครงการเพื่อนบ้านในราคาที่เท่ากัน รวมทั้งมีราคาขายที่เฉลี่ยตกอยู่ที่ 110,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งถือว่าถูกกว่าหลายๆ โครงการบนทำเลนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งจุดนี้ถือเป็นจุดขายของโครงการเพื่อมาทดแทนกับทำเลที่เดินทางด้วยรถยนต์ลำบากกว่าโครงการเพื่อนบ้าน ในส่วนของความหนาแน่นโครงการดูจากอัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 128:1 ถือว่ามีความหนาแน่นเกินไปเล็กน้อย ส่วนจำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดจะอยู่ที่ 12 ยูนิต ถือว่าความหนาแน่นต่อชั้นไม่สูงค่ะ
วัสดุที่ได้ถือว่าให้มาในระดับมาตรฐานกับราคาที่จ่าย โดยรูปแบบการตกแต่งห้องเป็นแบบ Fully Fitted มีความสูงจากฝ้าถึงเพดานที่ 2.85 ม. และฝ้าเพดานบริเวณพื้นที่นั่งเล่นก็ตกแต่งเป็นฝ้าหลุมให้ พื้นห้องเป็นพื้นกระเบื้องพอซเลนขนาด 120 x 60 ซม. พื้นห้องนอนเป็นพื้นเอ็นจิเนียริ่งวู้ด พื้นห้องน้ำเป็นพื้นกระเบื้องพอซเลนขนาด 30 x 60 ซม. ได้ชุดครัวจาก Modernform Top เป็นหินสังเคราะห์ ชุดสุขภัณฑ์ทั้งหมดจาก Cotto ส่วนฝักบัวได้ Rain Shower เพิ่มมาด้วยค่ะ นอกจากนี้จะได้ Wallpaper ลายมาตรฐาน, เครื่องทำน้ำอุ่น และเครื่องปรับอากาศค่ะ
สาธารณูปโภคถือว่าให้มาครบครันค่ะ โดย Facility ทั้งหมดจะแบ่งเป็น 3 โซน คือชั้นดาดฟ้าอาคารจอดรถที่ถือเป็นโซน Facility หลักๆ จะมีสระว่ายน้ำขนาด 6.9 x 25.5 ม. ระบบเกลือแบ่งเป็นสระเด็กและสระผู้ใหญ่, Jacuzzi, สนามเด็กเล่น และ Fitness และโซนที่ 2 คือชั้น 2 ของอาคารพักอาศัย ซึ่งจะประกอบไปด้วยห้องสนุกเกอร์, ห้องสมุด, ห้อง Multi-Purpose, ห้องประชุม และโซนสุดท้ายคือชั้นดาดฟ้าที่ได้ Sky Lounge พื้นที่ Outdoor ชมวิวเมืองและสวนอยู่บนชั้นดาดฟ้าค่ะ รวมไปถึงช่องจอดรถที่ยังไม่รวมจอดซ้อนคิดเป็น 77% ถือว่าให้มาเยอะพอสมควรเลยค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 110,000 บาท/ตร.ม., 02 June 2016
- ทำเล 7.25/10 – มีร้านอาหารริมทางและร้านสะดวกซื้อระยะใกล้ แต่สาธารณูปโภคส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณรอบๆ ที่ต้องเดินทางไปหน่อยอย่างสีลม สาทร สามย่าน
- เดินทางด้วยรถ 7.25/10 – ติดถนนสี่พระยาช่วง one way เดินทางเข้าเมืองและย่าน CBD สะดวก ไม่ไกลจากทางด่วน
- ไม่ใช้รถ 7.0/10 – ห่างจาก MRT สามย่าน 800 ม. เกินระยะเดินแต่มีพี่วิน ตุ๊กตุ๊กคอยให้บริการอยู่ตลอด
- วัสดุ 8.0/10 – ให้มาเหมาะสมสำหรับราคานี้ มีการตกแต่งเพิ่มเติมให้อย่างวอลเปเปอร์ มีการ Drop ฝ้าเพดาน
- แบบ 7.5/10 – ได้ห้องขนาดใหญ่ และราคาถูกกว่าโครงการเพื่อนบ้าน
- สาธารณูปโภค 7.75/10 – ได้สาธารณูปโภคครบครัน ที่จอดรถ 77% ไม่รวมซ้อนคัน
- UPPER CLASS
- 7.4 / 10.00
BOTTOM LINE
Supalai Elite สี่พระยา เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดในย่านสี่พระยา สุรวงศ์ สามย่าน หรือคนที่ทำงานในย่าน CBD อย่างสีลม-สาทร แล้วอยากได้ที่พักอาศัยในย่านใกล้เคียง ชอบบรรยากาศที่เงียบสงบหน่อย ไม่พลุ่กพล่าน ต้องการได้ห้องพักขนาดใหญ่ ในราคาที่ถูกกว่าโครงการเพื่อนบ้าน แลกกับการเดินทางที่ไกลขึ้นมาอีกหน่อย มีงบในมือสำหรับตกแต่งห้องเพิ่มเติม และมีงบประมาณ 4.35 – 18.12 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 30,000-145,000 บาท
ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )