รีวิว SOHO Bangkok Ratchada (โซโห แบงค็อก รัชดา) คอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่จาก Origin Property ในโซนห้วยขวาง ใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีห้วยขวาง 240 เมตร ในราคาเริ่มต้น 3.79 ล้านบาท โครงการมีจุดที่น่าสนใจมากมายเลยค่ะ เราสรุป Highlights มาฝากกันดังนี้
- ทำเล : โครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้าห้วยขวางราวๆ 200 เมตรนิดๆ
- ยูนิตน้อย : โครงการมีจำนวนยูนิตเพียง 341 ยูนิต ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับคอนโด High Rise ในโซนนี้
- ห้องฝ้าเพดานสูง : ห้องพักประมาณ 70% เป็นแบบ Duo Space สูง 4.2 เมตร และมีให้เลือกทั้งแบบ 1 Bedroom Plus และ 1 Bedroom ซึ่งเป็นห้องแบบครัวปิดทั้งหมด
- Sky Facility 4 ชั้น : ส่วนกลางจัดเต็มมาก มีส่วนกลางพิเศษๆ อย่างเช่น ระบบ Virtual Hospital ใช้ปรึกษาปัญหาสุขภาพกับแพทย์โรงพยาบาลสมิติเวชได้, Oxygen Lounge , Salt Therapy, Private Spa และจัดวางตำแหน่งส่วนกลางไว้ 4 ชั้นบนสุดเป็นหลัก เปิดให้ชมวิวเมืองมุมสูงอย่างเต็มที่ และ Facility บางส่วนยังเปิดให้ใช้งานได้ 24 ชั่วโมงด้วยค่ะ
- Concierge Service by Dusit Thani : เป็นบริการผู้ช่วยส่วนตัวที่ถูกฝึกฝนมาจากโรงแรมดุสิตธานี โดยจะมาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน เช่น บริการส่งจดหมายถึงหน้าห้องพัก, ติดต่อสำรองร้านอาหาร, จัดหารถเช่าและรถแท็กซี่สาธารณะ, บริการสั่งดอกไม้, จองบัตรเข้าชมสถานที่หรือการแสดงต่างๆ เป็นต้น
รายละเอียดจะเป็นอย่างไรตามไปชมกันเลย
ข้อมูลโครงการ
SOHO Bangkok Ratchada (โซโห แบงค็อก รัชดา) ณ วันที่ 29 กันยายน 2566
ชื่อโครงการ | SOHO Bangkok Ratchada (โซโห แบงค็อก รัชดา) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ เขตห้วยขวาง |
ที่ดิน | 1-2-28 ไร่ |
ประเภทคอนโด | High Rise 24 ชั้น 1 อาคาร |
จำนวนยูนิต | ห้องพักอาศัย 341 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 18 ยูนิต |
ที่จอดรถ | 170 คัน คิดเป็น 50% (รวมจอดซ้อนคัน) |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2563 |
สร้างเสร็จพร้อมอยู่ | ปี 2566 |
ประเภทห้องพัก | Simplex – 1 Bedroom ขนาด 24.64 ตร.ม. เริ่ม 3.79 ล้านบาท – 1 Bedroom Plus ขนาด 35.11 ตร.ม. เริ่ม 4.89 ล้านบาท Duo Space – 1 Bedroom ขนาด 25.22 ตร.ม. (รวมชั้นบน 36.82 ตร.ม.) เริ่ม 5.69 ล้านบาท – 1 Bedroom Plus ขนาด 35.14 ตร.ม. (รวมชั้นบน 46.9 ตร.ม.) เริ่ม 7.4 ล้านบาท |
ฝ้าเพดานสูง | แบบ Simplex สูง 2.6 m., แบบ Duo Space สูง 4.2 m. |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | 200,000 บาท/ตร.ม. |
เว็บไซต์โครงการ | https://www.origin.co.th/condominium/soho-bangkok-ratchada/ |
Call Center | 1498 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.7783714,100.5757088
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการ SOHO Bangkok Ratchada (โซโห แบงค็อก รัชดา) ค่ะ
SOHO Bangkok Ratchada (โซโห แบงค็อก รัชดา) ตั้งอยู่ใกล้กับแยกรัชดาฯ – ห้วยขวาง ประมาณ 200 เมตร สามารถเข้าไปยังพระราม 9 และอโศกได้สะดวก หรือจะออกไปยังลาดพร้าวก็ไม่ไกล นอกจากนี้ห้วยขวางก็เป็นอีกทำเลหนึ่งที่มีทางลัดเลาะค่อนข้างมากทั้ง ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ, เทียนร่วมมิตร, ประชาอุทิศ, สุทธิสารวินิจฉัยสามารถเชื่อมต่อกันได้หมด ไปทางสี่แยกเหม่งจ๋ายก็ออกไปยังถนนประดิษฐ์มนูธรรมเข้าเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ได้เลย
แต่สิ่งที่ควรคำนึงถีงเวลาเดินทางคือเรื่องการจราจรบนถนนรัชดาฯนี้เอง เพราะช่วงเข้า-เลิกงานรถเยอะถือว่าเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นถ้าจะต้องใช้รถใช้ถนนต้องเผื่อเวลากันให้ดีๆ หรือจะเลือกใช้รถไฟฟ้า MRT อาจจะสะดวกกว่านะคะ
โครงการ SOHO Bangkok Ratchada (โซโห แบงค็อก รัชดา) ถือว่าเป็นคอนโดใกล้รถไฟฟ้าในระยะที่เดินเท้าได้สบายเลย เพราะมีระยะห่างเพียงประมาณ 240 เมตร โดยรถไฟฟ้าที่ใกล้กับโครงการจะเป็น MRT สถานีห้วยขวาง สายสีน้ำเงินที่เปิดให้บริการมานานแล้ว และเป็นสายที่ได้ใช้ไปไหนมาไหนภายในเมืองได้สะดวก นอกจากนี้นั่งไป 3 สถานีก็จะเป็นสถานีเพชรบุรี ที่ไปเชื่อมต่อกับ Airport Rail Link สถานีมักกะสัน นั่งไปยังสุวรรณภูมิได้สบาย หรือจะไปลงที่สถานีสุขุมวิท เปลี่ยนไปใช้งานรถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก นั่งเข้าสยามก็ถือว่าสะดวกอีกเช่นกัน จัดเป็นหนึ่งในจุดเด่นหลักๆของโครงการนี้เลยค่ะ
SOHO Bangkok Ratchada (โซโห แบงค็อก รัชดา) ตั้งอยู่ใจกลางย่านรัชดาภิเษก ที่เป็นโซนอาคารสำนักงานแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ โดยบริเวณถนนเส้นนี้ถือว่าเป็นย่านที่มีความหลากหลายสูง ทั้งที่ทำงาน ที่อยู่อาศัยเดิม ตลาด ชุมชน สถานศึกษา จึงเป็นจุดที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงมากเช่นกัน เรียกได้ว่ามีความคึกคักตลอด 24 ชม.เลยค่ะ
ซึ่งเรื่องอาหารการกินในโซนนี้เรามองว่าเป็นจุดเด่นเลย เพราะโครงการนี้ตั้งอยู่ใกล้สี่แยกรัชดาฯ – ห้วยขวาง ทำให้เราสามารถเดินเล่นหาของกินแถวตลาดห้วยขวางตอนกลางคืนได้สบาย แต่ถ้าชอบตลาดนัดหรือห้างร้านที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย นั่งมา 1 สถานีตรงสถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ ก็จะมีทั้งตลาดรถไฟรัชดาฯ, The Street (เปิด 24 ชม.), Esplanade รัชดาฯ และ Hypermarket อย่าง Big-C รัชดาฯ อยู่ด้วยค่ะ
เส้นทางการเดินทาง
สำหรับการเดินทางไปโครงการ SOHO Bangkok Ratchada (โซโห แบงค็อก รัชดา) วันนี้จะค่อนข้างเข้าใจง่าย หลายๆท่านมองแผนที่ก็คงทราบกันอยู่แล้ว ไม่ต้องดูเส้นทางส่วนนี้ก็ได้ค่ะ โดยเราจะขึ้นจาก MRT สถานีห้วยขวาง ออกทางประตูทางออกหมายเลข 1 จากนั้นเดินเข้าถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญไปประมาณ 240 เมตร จะเจอตัวโครงการอยู่ทางฝั่งขวามือง่ายๆแค่นี้เลย ลองไปชมภาพบรรยากาศการเดินทางไปโครงการกันค่ะ
เริ่มต้นการเดินทางกันที่ MRT สถานีห้วยขวาง ให้ออกทางประตูทางออกหมายเลข 1 จากนั้นก็เดินเข้าถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญเลย
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
โครงการ SOHO Bangkok Ratchada (โซโห แบงค็อก รัชดา) อยู่ในโซนห้วยขวางที่เป็นชุมชนพักอาศัย ตำแหน่งจะอยู่ติดกับถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญเลยค่ะ ซึ่งสภาพแวดล้อมในช่วงที่ติดถนนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ 3-4 ชั้น ส่วนที่ลึกเข้าไปในซอยจะเป็นบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น และมีบางส่วนที่เป็น Apartment 8 ชั้นค่ะ นอกจากนี้ก็จะมีอาคารสูงอยู่ใกล้ๆ เป็นเรื่องปกติของทำเลใจกลางเมืองแบบนี้นะคะ ซึ่งโครงการได้ออกแบบให้ห้องพักอาศัยหันออกทางทิศเหนือ/ใต้ จึงพ้นการบล็อกวิวในระยะประชิดได้หมดค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
Shopping Center
- Huai Kwang Market ~ 800 m.
- The Street Ratchada ~ 1.5 km.
- Esplanade ~ 2.2 km.
- Central Rama9 ~ 2.9 km.
Medical Hub
- Praram9 Hospital ~ 4 km.
- Bangkok Hospital ~ 6.8 km.
Business Area
- Thailand Cultural Centre ~ 1.6 km.
- Cyber World Tower ~ 1.1 km.
- G Land Tower ~ 2.8 km.
- Fortune Town ~3.2 km.
- The Stock Exchange of Thailand Building ~ 3.5 km.
- AIA Capital Center ~ 3.7 km.
รายละเอียดโครงการ
โครงการ SOHO Bangkok Ratchada (โซโห แบงค็อก รัชดา) เป็นคอนโด High Rise สูง 24 ชั้น มีเพื่อนบ้านทั้งหมดเพียง 341 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 1 ไร่กว่าๆ จุดเด่นของที่นี่เรามองว่ามี 2 คอนเซปต์หลักที่แตกต่างจากโครงการอื่น…
คอนเซปต์แรกคือ SOHO SO HIGH LIVING เป็นการอยู่อาศัยที่สะดวกสบายเพราะมี Concierge Service by Dusit Thani คอยให้บริการ และออกแบบให้ห้องพักส่วนใหญ่เป็นห้องฝ้าเพดานสูง ได้บรรยากาศโปร่งโล่ง ห้องนอนอยู่ชั้นบน ได้อารมณ์คล้ายอยู่บ้านบนทำเลใจกลางรัชดาฯ ค่ะ
อีกคอนเซปต์หนึ่งคือ Small Office&Home โดยโครงการออกแบบ Facility บริเวณมาให้เหมาะกับการทำงาน เช่น Co-Creation Space, Private Working Room, Conference Room, Trade Room ซึ่งก็จะมีโซนที่เปิดให้นั่งทำงานกันได้ตลอด 24 ชั่วโมงด้วย นอกจาก 2 คอนเซปต์หลักก็ยังมีรายละเอียดในการออกแบบที่น่าสนใจอีกมาย ตามไปชมทีละชั้นกันเลยค่ะ
Ground Floor Plan
มาดูรายละเอียดโครงการ SOHO Bangkok Ratchada (โซโห แบงค็อก รัชดา) ทีละชั้นกันนะ เริ่มจากชั้น 1 จะมีทางเข้าออกเพียงทางเดียว รถยนต์จะผ่านเข้าออกด้วยระบบ License Plate (อ่านป้ายทะเบียน) ดังนั้นรถที่ผ่านเข้าออกได้จะเป็นรถของลูกบ้านที่ลงทะเบียนไว้ สำหรับรถของ Visitors จะต้องแลกบัตรนะคะ เมื่อเข้ามาด้านในจะเจอกับ Drop-Off เป็นจุดแรกเพื่อให้วนรับ-ส่งหน้าอาคารได้สะดวก
ส่วนกลางบนชั้น 1 ออกแบบฟังก์ชันไว้รองรับการทำงาน, การประชุม, คุยธุรกิจ โดยมีผู้ช่วยเป็น Concierge Service ที่ถูกฝึกฝนมาจากโรงแรมชื่อดังอย่าง Dusit Thani จึงสะดวกสำหรับเจ้าของบริษัทหรือผู้จัดการที่สามารถนัดดีลงานได้ที่ชั้น 1 ของคอนโดเลยค่ะ
ถัดเข้าไปด้านในจึงเป็น Lift Lobby สำหรับขึ้นไปยังชั้นพักอาศัย ซึ่งต้องใช้ Face Scan เข้าไปอีกชั้นหนึ่ง เข้ากับยุคโควิดที่เน้น No Touch นะคะ อาคารมีลิฟต์ให้ใช้ 3 ตัว เป็นแบบล็อกชั้น โดยใช้ Key Card แตะเข้าได้เฉพาะชั้น 1, 23, 24, และชั้นที่ตนเองพักอาศัยเท่านั้นค่ะ อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 113 : 1 ถือว่าไม่เยอะมาก เมื่อเทียบกับคอนโดในเมืองแบบนี้ และมี Service Lift แยกเอาไว้อีก 1 ตัวค่ะ
ด้านหน้าโครงการจะมีไม้กระดกกั้นเป็นลำดับแรก สำหรับสกรีนรถเข้าออก หากเป็นรถของลูกบ้านไม้กระดกจะเปิดให้เลยด้วยระบบอ่านป้ายทะเบียนรถ
ด้านข้างจะแยกประตูสำหรับคนเดินเข้าออก ซึ่งจะมีทางคนเดินแยกไว้เป็นสัดส่วน เป็นพื้นที่สวนด้านหน้าที่มีชื่อว่า Lunar Reflection Courtyard ใช้เปลี่ยนผ่านบรรยากาศเข้าสู่โซนพักผ่อน ให้ความรู้สึกถึงความสงบและผ่อนคลาย
Drop-Off บริเวณหน้าอาคารมีขนาดให้พอจอดรับส่งและวนรถออกไปได้ หรือถ้าจะจอดรถก็สามารถวนไปจอดรถที่ Auto Car Parking ด้านหลังได้เลย
นอกจาก Auto Car Parking ก็ยังมีที่จอดรถรอบอาคาร และมีที่จอดรถสำหรับ EV Charger ด้วยค่ะ ซึ่งกำลังติดตั้งอยู่จึงยังไม่มีภาพมาฝากกันนะคะ
ในส่วนของ Auto Car Parking มีทั้งหมด 2 ช่องจอด แค่ขับรถเข้าไปจอดแล้วสแกนบัตรก็เสร็จเรียบร้อย เวลามารับรถก็สแกนบัตรด้านในอาคารได้เลย จะมีหน้าจอบอกว่ารถมาถึงชั้น 1 แล้วก็เดินมารับรถออกไปได้เลยค่ะ ส่วนตัวเคยใช้มาทั้งแบบที่จอดรถวนจอดปกติกับ Auto Car Parking ก็คิดว่ามีข้อดีข้อเสียต่างกันคือ Auto Car Parking เหมาะกับคนไม่ชอบวนรถไปจอดเอง แต่ก็ต้องรอระบบเลื่อนรถสักหน่อย เห็นโครงการว่า 2-3 นาทีนะ ส่วนที่จอดรถปกติจะมีปัญหาเวลากลับคอนโดมาดึกๆ ต้องวนขึ้นไปชั้นสูงๆ และถ้ารถจอดเต็มไปแล้วก็วนฟรีเลย แต่ถ้าช่วงเวลาอื่นๆ วนรถเองก็คิดว่าสะดวกดี มีเวลาเก็บของลงจากรถได้สบายๆ
Mian Lobby ตกแต่งในสไตล์ร่วมสมัย มี Gimmick อย่างซุ้มทรงโค้งที่ได้แรงบันดาลใจมากจากรูปทรงของพระจันทร์ สื่อถึงความเคลื่อนไหว ไม่หยุดนิ่ง ใช้ชีวิตได้อย่างอิสระทุกเวลา
เข้ามาด้านในจะเป็น Co-Creation Space มีโต๊ะยาวและเก้าอี้ รองรับการทำงานเป็นกลุ่ม โซนนี้จะเปิดให้ใช้งานกันได้ 24 ชั่วโมงเลย
ด้านข้างจะมี Recreation Hallway จัดเป็นโซฟานั่งเล่นที่สามารถพาแขกมาพักคอยพูดคุยกันในห้องนี้ได้สบาย โทนสีของเฟอร์นิเจอร์ให้บรรยากาศที่อบอุ่น
ถัดมาจะเป็น Private Working Room ห้องทำงานแบบเดี่ยว เน้นความเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับเวลาที่ต้องการสมาธิหรือประชุม Zoom ก็สามารถลงมาใช้ห้องนี้ได้นะคะ
ถ้าต้องการประชุมกันเป็นกลุ่มก็สามารถจองล่วงหน้าได้ก็คือ Conference Room ห้องมีขนาดใหญ่รองรับประมาณ 6 คนกำลังดี ภายในห้องมีจอแบบ Touch Screen ใช้ Video Conference ได้
อีกห้องหนึ่งที่โครงการเตรียมไว้ก็คือ Trade Room ห้องนี้ตอบโจทย์การคุยงานที่ต้องการความใกล้ชิดเป็นกันเอง ขนาดของโต๊ะจะไม่ใหญ่มากรองรับ 4 คนกำลังดี ห้องนี้ต้อง Booking เช่นกันนะคะ
อีกฟังก์ชันหนึ่งที่โครงการเตรียมไว้และกำลังรอติดตั้งอยู่ก็คือห้อง Smart Life Center ซึ่งภายในจะมีระบบ Virtual Hospital ใช้ปรึกษาปัญหาสุขภาพกับแพทย์โรงพยาบาลสมิติเวชได้
ด้านในสุดของทางเดิน เป็นทางเข้า Lift Lobby เพื่อขึ้นไปยังชั้นพักอาศัยต่างๆ
ก่อนทางเข้า Lift Lobby จะมีทางเดินเชื่อมไปยังที่จอดรถ Auto Car Parking ซึ่ง 2 ข้างทางก็จะมีห้องน้ำส่วนกลาง, ห้องนิติบุคคล และ Mail Box สำหรับฝากจดหมายหรือพัสดุที่มานอกเวลาทำการ เพราะจดหมายและพัสดุส่วนใหญ่จะถูกส่งตรงให้ถึงหน้าห้องอยู่แล้วนะคะ
โถงลิฟต์ของโซนพักอาศัยมีการเลือกใช้ Finishing , การตกแต่ง และ Lighting ที่ทำให้บรรยากาศดูหรูหรา ซึ่งต้องใช้ Face Scan เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับการอยู่อาศัย
ลิฟต์จะเป็นแบบล็อคชั้นทำให้ผู้อยู่อาศัยในแต่ละชั้นได้ความเป็นส่วนตัว
ภายในมีปุ่มกด 2 ส่วนคือปุ่มกดแบบแนวตั้งตามปกติเป็นแบบ Touchless และปุ่มกดแนวนอนสำหรับเด็กหรือผู้ที่นั่งวีลแชร์ค่ะ
4th Floor Plan
ที่ชั้น 4 เป็นต้นไปจะเริ่มเป็นแปลนชั้นพักอาศัย แต่ละชั้นมีห้องพัก 17-18 ห้องเท่านั้น ชั้นนี้จะเป็นห้องแบบ Simplex ความสูงฝ้า 2.6 m. จุดเด่นของชั้นนี้คือห้องพักทิศเหนือจะได้วิวสวน ซึ่งเป็นสวนส่วนกลางของโครงการมีคนดูแลให้เสมอ ห้องโซนนี้จึงได้ Value พิเศษ ในส่วนของตำแหน่งลิฟต์จะอยู่กลางอาคารทำให้ลูกบ้านทั้งชั้นเดินมาใช้งานได้สะดวก
ห้องทิศเหนือและใต้จะมีความแตกต่างกันนิดหน่อย คือห้องทิศเหนือจะมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าเล็กน้อย เพราะห้องเป็นทรงสี่เหลี่ยมคางหมู มีพื้นที่บริเวณหน้าต่างยื่นออกมา ช่วยให้ห้องดูโปร่งยิ่งขึ้น ส่วนห้องทิศใต้จะเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าตามปกติ
วิวของห้องพักมีให้เลือกแค่เหนือใต้ ซึ่งเป็นทิศยอดนิยมทั้งคู่เลย ถ้าเลือกห้องที่หันออกมาทางทิศเหนือจะได้วิวสวนและห่างออกไปหน่อยจะเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น และถ้าใครเลือกห้องทางทิศใต้จะได้วิวเมืองมองไปยังฝั่งพระราม 9
5th-9th Floor Plan
ชั้น 5-9 จะยังคงเป็นห้องแบบ Simplex เช่นกัน แปลนและวิวคล้ายชั้น 4 เลย แตกต่างกันที่ชั้นนี้จะไม่ได้มีสวนส่วนกลางนะคะ ห้องพักทั้ง 2 ฝั่งราคาต่อตารางเมตรไม่แตกต่างกัน แต่ราคา Package ห้องทางทิศเหนือจะสูงกว่านิดหน่อยเพราะพื้นที่ใช้สอยมีขนาดใหญ่กว่าค่ะ
10th-21st Floor Plan
ตั้งแต่ชั้น 10 ขึ้นไปจะเป็นห้องแบบ Duo Space ฝ้าเพดานสูง 4.2 m. ทั้งหมด คอนโดนี้จึงมีห้องแบบฝ้าเพดานสูงถึงประมาณ 70% เลย แปลนไม่ต่างจากชั้นอื่นๆ แต่วิวจะเริ่มสูงขึ้นแล้ว ถ้าเป็นห้องทิศใต้วิวจะเคลียร์มากกว่าทิศเหนือ และได้ลมที่ดีกว่า แต่ก็ต้องยอมรับว่าแดดก็แรงกว่าเช่นกันนะคะ
23rd Floor Plan
ขึ้นมาที่ชั้น 23 จัดเป็นชั้น Facility หลักของโครงการทั้งชั้น Highlight ก็คงเป็นสระว่ายน้ำที่เค้ายกขึ้นมาไว้บนชั้นนี้ นอกจากนั้นก็ยังมีฟังก์ชันย่อยๆ อย่าง Hydro Balancing Tube, Hydro Therapy Jacuzzi และ Sky Pool Bar ให้ใช้งาน ขยับมาที่อีกฝั่งของอาคารจัดเป็น Fitness และพื้นที่สวนให้พักผ่อนค่ะ
สระว่ายน้ำแบบ Outdoor มีขนาดประมาณ 5×25 m. ลึก 1.2 m. ใช้ว่ายออกกำลังกายได้แบบจริงจังเลย
โดยตัวสระวางไว้แบบ Outdoor จึงเหมาะกับการมาใช้งานช่วงเย็นที่แดดร่มแล้ว และยังได้ชมวิวเมืองเวลาว่ายน้ำไปด้วย
นอกจากนี้ก็จะมี Hydro Balancing Tube และ Hydro Therapy Jacuzzi ให้นวดตัวผ่อนคลาย
หากใครไม่ได้ชอบออกกำลังกายหนักๆ ก็สามารถมานั่งชิลๆที่ Sky Pool Bar ชมวิวริมน้ำ แทนได้
งานตกแต่งสระว่ายน้ำยังคงใช้ Gimmick ของทรงกลม ดูเก๋และเป็นธีมเดียวกันทั้งโครงการ
ทางเดินด้านหลังสระว่ายน้ำจะเชื่อมไป Fitness ที่อยู่อีกฝั่งของอาคาร
ทางเข้า Fitness ตกแต่งด้วยซุ้มทรงกลมขนาดใหญ่ ซึ่งห้องนี้จะเปิดให้บริการกัน 24 ชั่วโมงเลยนะคะ
โซนแรกจะเป็น Mini Bar ที่มีบริการเครื่องดื่ม หากออกกำลังมาเหนื่อยๆ ก็สามารถนั่งพักที่โซนนี้ก่อนได้
ด้านใน Fitness มีจำนวนเครื่องเล่นเยอะมากเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตของโครงการ คาดว่าน่าจะแชร์กันใช้ได้สบายๆ สิ่งหนึ่งที่เราชอบคือมีผนังกั้นระหว่างเครื่องเล่นให้ด้วย ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และใช้พื้นยางช่วยรองรับแรงกระแทกได้ดีกว่าพื้นปกติ
Fitness ของที่นี่มีชื่อเรียกเก๋ๆ ว่า Sky High Fitness เพราะอยู่บนชั้นสูงและออกแบบผนังเป็นกระจกบานใหญ่ ทำให้ระหว่างออกกำลังก็สามารถชมวิวเมืองมุมสูงไปพร้อมๆ กันได้ ภายในห้องมีอุปกรณ์มาให้ครบ ตอบโจทย์ทั้ง Cardio และ Weight Training
เครื่องเล่น Highlight ของที่นี่คือเจ้า Assault Runner ลู่วิ่งที่ไม่ใช้ไฟฟ้า จึงสามารถปรับความเร็วในการวิ่งให้เหมาะสมกับเราได้สะดวก
จาก Fitness จะมีประตูเปิดเชื่อมออกไปที่สวนด้านนอก และมีบันไดที่เชื่อมขึ้นไปห้องโยคะบนชั้น 24 ด้วยค่ะ
สวนบนชั้น 23 ออกแบบให้รับวิวได้แบบโล่งๆ จึงเป็นพื้นที่ที่เหมาะกับการมานั่งรับลมชมวิว ผ่อนคลายหลังออกกำลังกาย ซึ่งโครงการก็จัดโซฟาและม้านั่งไว้รองรับ
ห้องน้ำส่วนกลางบนชั้นนี้จะมีห้องอาบน้ำเพิ่มมาด้วย ใช้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังลงสระได้สะดวกดี มาพร้อมล็อกเกอร์เก็บของ ใครขึ้นมาว่ายน้ำหรือเล่นฟิตเนสก็เอาของใช้ต่างๆ เก็บไว้ในตู้ได้
ฟังก์ชันภายในจะมีทั้งห้องอาบน้ำและห้องสุขา โดยห้องอาบน้ำจะเป็นแบบ Sexy Bath ผนังเป็นกระจกบานใหญ่สำหรับชมวิวเมือง
ถัดมาเป็น Aroma Steam ซึ่งสามารถปรับอุณหภูมิให้เป็นแบบเย็นและแบบร้อนได้ ห้องนี้ได้วิวเมืองอีกเช่นกัน
ภายในห้อง Steam รองรับการใช้งานได้ประมาณ 3 – 4 คนกำลังดีค่ะ
24th Floor Plan
ขึ้นมาที่ชั้น 24 จัดฟังก์ชันฝั่งหนึ่งไว้เป็น Sky Lounge สำหรับนั่งพักผ่อนชมวิวสบายๆ และอีกฝั่งหนึ่งเป็นโซนสำหรับดูแลสุขภาพ
เราพามาชมฝั่ง Sky Lounge กันก่อนจะเปิดให้บริการกัน 24 ชั่วโมงเช่นกัน โซนแรกเป็นโต๊ะ bar ขนาดใหญ่ ที่มาพร้อม Minibar และ Appliances ที่เตรียมไว้ให้พร้อมสำหรับการจัดปาร์ตี้
ถัดเข้ามาด้านในเป็นชุดโซฟานั่งเล่น ซึ่งโครงการก็เตรียมไว้ทั้งชุดโซฟาขนาดใหญ่ และมุมโซฟาคู่ โซฟาเดี่ยว ให้เลือกใช้งานตามความชอบเลย
โดยผนังของห้อง Sky Lounge จะเป็นผนังกระจกขนาดใหญ่แบบ Floor to Ceiling จึงรับวิวได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในช่วงเย็นก็จะมองเห็นพระอาทิตย์ตกด้วยค่ะ
อีกฝั่งหนึ่งของชั้นเป็น Facility ที่น่าจะถูกใจคนรักสุขภาพ ประกอบด้วย Multi-Purpose Studio, Soul Massage Room, Oxygen Lounge, Salt Therapy
Multi-Purpose Studio จัดพื้นที่ไว้เป็น Yoga Room ตัวห้องออกแบบให้เป็นกระจกสะท้อนรอบด้านเพื่อให้สามารถเช็คท่าทางขณะออกกำลังกายได้
Salt Room เป็นห้องบำบัดด้วยวิถีธรรมชาติ ด้วยเกลือหิมาลายันนำเข้าจากปากีสถาน แค่มานอนสูดหายใจลึกๆ ก็จะช่วยในเรื่องลดความเครียด, ภูมิแพ้, นอนไม่หลับ เป็นต้น แนะนำให้ใช้ 30 นาทีต่อวัน และ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์
โดยโครงการจะออกแบบมาให้เป็นห้องมุมที่มองเห็นวิวเมืองโดยรอบได้
ถัดมาที่ Oxygen Lounge เป็นห้องที่มีการจัดเตรียมสภาพแวดล้อมให้มีออกซิเจนสูงขึ้นกว่าปริมาณปกติ การพักผ่อนในห้องนี้จะช่วยระบบทางเดินหายใจให้ทำงานได้ดีขึ้น, ช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังออกกำลังกาย ลดอาการเหนื่อยหอบ และเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญอาหารด้วยค่ะ คนรักสุขภาพต้องไม่พลาดนะคะ
ปิดท้ายชั้นนี้ด้วย Soul Massage Room เราสามารถเรียก Therapist ส่วนตัวมาก็ได้ หรือจะให้ Concierge Service จองให้ก็ได้เช่นกัน ซึ่งในห้องก็จะมีห้องอาบน้ำเตรียมไว้ให้เรียบร้อย
Rooftop Floor Plan
ขึ้นมาที่ชั้นดาดฟ้า Rooftop ของโครงการจะเป็นพักผ่อนชมวิวทั้งหมด แบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ไว้หลายส่วน ลิฟต์ขึ้นไม่ถึงนะคะแต่มีบันไดให้ขึ้นมาได้ การที่มีพื้นที่พักผ่อนอยู่ในชั้นสูงแบบนี้จะมีข้อดีในเรื่องของการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น เพราะจะสูงพ้นจากระยะสายตาของเพื่อนบ้านโดยรอบ จึงได้วิวแบบเคลียร์ๆ เลยนะ
โซนแรกคือ Edge Of The Sky Bar อยู่ในมุมที่สามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกดินได้ และในช่วงกลางคืนทางโครงการจะเปิดไฟบริเวณบาร์ทรงกลม ให้บรรยากาศที่สวยงาม
Hideaway Outdoor Seating เป็นพื้นที่นั่งชมวิวมุมสูง เปิดให้เห็นวิวเมืองรอบอาคาร
ถัดมาที่ Sky Scape Amphitheatre เป็นทั้งพื้นที่นั่งเล่นชมวิวและเป็นบันไดเชื่อมขึ้นไปจุดชมวิวด้านบนได้
ขึ้นมาที่ชั้นบนสุด จะมี Memorable View Point เป็นจุดชมวิวที่มองเข้าเมืองไปยังโซนพระราม 9 ส่วนพื้นที่รอบๆ เป็น Sunset Observatory Bar สำหรับนั่งเล่นรับลมชมวิวได้อีกจุดหนึ่งค่ะ
หากใครชอบบรรยากาศแบบโล่งๆ ก็แนะนำมาจุดนี้เลย Sky Sphere Rooftop บริเวณนี้สามารถเห็นวิวเมืองได้ทั้ง 2 ฝั่งเลยค่ะ
Relaxing Garden เป็นพื้นที่สีเขียวให้มาพักผ่อนหย่อนใจ ตามแนวทางเดินจะมีพื้นที่ให้นั่งเล่นมองวิวเมืองมุมสูงกันแบบเพลินๆ ค่ะ
วิวรอบๆ โครงการ
ในส่วนของวิวรอบๆ โครงการ หลักๆ แล้วห้องพักจะหันทางทิศเหนือใต้ ซึ่งจะได้วิวรอบๆ ประมาณนี้นะคะ
วิวทิศเหนือ
ทิศเหนือ : หันไปทางฝั่งถนนรัชดาภิเษกและลาดพร้าว ทำให้มองเห็นอาคารสูงอยู่ไกลๆ แต่ในระยะใกล้ไม่มีอาคารสูงบล็อกวิวเลยนะคะ เพราะโดยรอบส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3-4 ชั้น
ทิศใต้
ทิศใต้ : หันไปทางฝั่งพระราม 9 และหันเข้าในซอย ทำให้ไม่มีอาคารสูงบล็อกวิวในระยะประชิด และโอกาสจะเกิดอาคารสูงขึ้นใหม่ก็ถือว่ายากค่ะ จะมองเห็นอาคารสูงอยู่ไกลๆ และฝั่งนี้ก็จะได้วิวพระอาทิตย์ตกในช่วงเย็นด้วย
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- 1st Floor
- Lobby
- Concierge Service by Dusit Thani
- Recreation Hallway
- Co-Creation Space
- Smart Life Center
- Private Working Room
- Conference Room
- Trade Room
- Hideaway Terrace
- Sky Pool ยาว 25 m. ลึก 1.2 m.
- Hydro Balancing Tube
- Hydro Therapy Jacuzzi
- Sky Pool Bar
- Aroma Steam
- Sky High Fitness
- Weight Training Area
- Landscape
- Soho Sky Lounge
- Multi-Purpose Studio
- Soul Massage Room
- Oxygen Lounge
- Salt Therapy
- Edge Of The Sky Bar
- Hideaway Outdoor Seating
- Relaxing Garden
- Sky Sphere Rooftop
- Memorable View Point
- Sunset Observatory Bar
- Sky Scape Amphitheatre
แบบห้อง
1 Bedroom 25.9 sq.m.
รูปแบบห้องพักอาศัยของโครงการ SOHO Bangkok Ratchada (โซโห แบงค็อก รัชดา) จัดรูปแบบห้องมาค่อนข้างหลากหลายทีเดียว ตอบโจทย์การอยู่อาศัยและการใช้งานในหลายประเภท ทั้งอยู่คนเดียว อยู่กันเป็นคู่ ไปจนครอบครัวขยายพ่อแม่ลูก โดยมี Type ห้องหลักๆ ให้เลือกดังนี้
Simplex (ฝ้าเพดานปกติ 2.6 m.)
- 1 Bedroom ขนาด 24.64 ตร.ม. เริ่ม 3.79 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus ขนาด 35.11 ตร.ม. เริ่ม 4.89 ล้านบาท
Duo Space (ฝ้าเพดานสูงพิเศษ 4.2 m.)
- 1 Bedroom ขนาด 25.22 ตร.ม. (รวมชั้นบนเป็น 36.82 ตร.ม.) เริ่ม 5.69 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus ขนาด 35.14 ตร.ม. (รวมชั้นบนเป็น 46.9 ตร.ม.) เริ่ม 7.4 ล้านบาท
ห้องแบบ Duo Space หรือจะเรียกว่าห้อง Loft ก็ได้ตามที่เราคุ้นเคยกัน ซึ่งที่นี่ออกแบบฝ้าเพดานสูง 4.2 m. ทำให้ฝ้าชั้นลอยสูงได้ถึง 2 m. คนตัวสูง 180+ ก็สามารถยืนได้ และห้องลักษณะนี้ก็มีให้เลือกเยอะประมาณ 70% ของห้องพักในโครงการเลยค่ะ
โครงการขายแบบ Fully Fitted พร้อมเครื่องปรับอากาศ วัสดุที่ได้มีดังนี้
- ประตูไม้สำเร็จรูป พร้อม Digital Door Lock รองรับ 5 ระบบ Keycard, Finger Scan, Password, Key, Apps
- พื้นปูด้วยแกรนิตโต้และไม้ลามิเนตหนาประมาณ 12 mm.
- ผนังฉาบเรียบทาสีขาว
- Built-in ชุดตู้เก็บของ+รองเท้า หน้าบาน High-Gloss
- Counter ครัว, Top หินสังเคราะห์ (ไม่ได้ติดตั้ง Backsplash มาให้)
- ไมโครเวฟ Teka
- Sink ล้างจาน Teka
- Hob&Hood แบบหมุนเวียน ของ Teka
- Smart Mirror
- สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำใช้ของ Kasch เป็นหลัก
- ฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย
- ชั้นวางทีวี
- Built-in ตู้เสื้อผ้า หน้าบานกระจก
- โต๊ะเครื่องแป้ง+เก้าอี้สตูล (เฉพาะห้องแบบ 1 Bedroom Simplex)
- Home Automation เช่น เปิดปิดไฟแอร์ ควบคุมผ่าน Main Monitor หรือผ่าน Apps
- เดินระบบรองรับการติดตั้งรางม่านไฟฟ้า
เฉพาะห้อง Duo Space
- บันไดโครงสร้างเหล็ก พร้อมราวจับเหล็ก และกระจกกันตก
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ห้องตัวอย่างแบบ 1 Bedroom Plus (Duo Space)
ชั้นล่าง – หลักๆ จะเป็น Common Area แบบฝ้าเพดานสูงที่รวมไว้ทั้งพื้นที่นั่งเล่น, ดูทีวี, ทานอาหาร ทำให้บรรยากาศในห้องดูโปร่งโล่งเป็นพิเศษ ห้องครัวจะให้มาเป็นครัวปิด จึงช่วยกันกลิ่นควันไม่ให้ฟุ้งเข้ามายังส่วนอื่นได้ แต่อาจไม่เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารที่มีกลิ่นควันฉุนๆ สักเท่าไหร่เพราะเครื่องดูดควันเป็นแบบหมุนเวียน สำหรับห้องนอนจะอยู่ติดระเบียงเลย จึงได้วิวและแสงธรรมชาติแบบเต็มที่ ห้องน้ำจะมีอยู่ตำแหน่งเดียวใกล้บันไดและห้องนอน เวลากลางคืนก็มาใช้งานได้สะดวก
ชั้นบน – เป็นห้องนอนขนาดใหญ่กว่าชั้นล่างเล็กน้อยพร้อม Walk-in Closet ซึ่งห้องนี้จะได้หน้าต่างบานใหญ่มองออกไปเห็นพื้นที่นั่งเล่นชั้นล่างและวิวภายนอกโครงการ
ประตูหน้าห้องเป็นไม้สำเร็จรูป มาพร้อม Digital Door Lock รองรับ 5 ระบบ Keycard, Finger Scan, Password, Key, Apps ส่วนพื้นห้องจะยกระดับขึ้นมาจากทางเดินเล็กน้อย ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้น้ำจากทางเดินส่วนกลางไหลย้อนเข้ามาในห้องได้ง่ายๆ ค่ะ
ฟังก์ชันที่ติดกับประตูหน้าห้องก็คือโซนครัว ซึ่งโครงการออกแบบไว้ให้เป็นครัวปิด ..พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ทนทานและทำความสะอาดง่าย เราจะได้ชุดครัว Built-in เหมือนในห้องตัวอย่างเลย ยกเว้นเครื่องซักผ้าและตู้เย็นนะคะ
ด้านล่างเคาน์เตอร์ครัวจะมีช่องให้วางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าได้พอดี มีตู้เก็บช้อนส้อมและตู้เก็บของต่างๆ พร้อมหน้าบานปิดไว้เรียบร้อย หน้าบานเป็น Hi-Gloss ดูเรียบหรูดีค่ะ
เคาน์เตอร์ครัวแบ่งพื้นที่ใช้งานมาได้ครบทั้งอ่างล้างจาน, เตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควัน และพื้นที่เตรียมอาหาร …Top เคาน์เตอร์จะเป็นหินสังเคราะห์ที่ทนน้ำ ทนความร้อนได้ดี แนะนำให้ติด Backsplash ที่ผนังหลังเคาน์เตอร์เพิ่มอีกสักนิด จะช่วยกันเปื้อนและทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น
ซิงค์ล้างจานของ Teka หลุมลึกทีเดียว สามารถใส่จานชามได้เยอะพอสมควร
Hob&Hood ดูดควัน ของ Teka โดยเครื่องดูดควันจะเป็นระบบหมุนเวียน อาจระบายอากาศได้ไม่ดีเท่าระบบที่ต่อท่อปล่อยควันออกไปด้านนอก ครัวลักษณะนี้จึงเหมาะกับการทำอาหารที่มีกลิ่นไม่ฉุนนักนะคะ
ตู้เก็บของจะ Built-in ตู้ลอยมาให้ด้วย และติดตั้งไมโครเวฟของ Teka มาให้เรียบร้อย
ผนังฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวจะ Built-in ตู้เก็บของมาให้ ใช้เก็บรองเท้าหรือของใช้ที่ต้องหยิบบ่อยๆ ก่อนออกจากห้องก็สะดวกดีค่ะ และเว้นพื้นที่ไว้สำหรับวางตู้เย็นขนาดประมาณ 7-8 คิวได้ค่ะ
ส่วนประตูห้องครัวเป็นแบบบานพับ 3 ตอน ทำให้เปิดได้กว้างถึง 1 m. เลย
เข้ามาในส่วนของ Common Area เป็นพื้นที่ฝ้าเพดานสูง 4.2 m. เปิดรับวิว รับแสงธรรมชาติได้ตลอดแนวกำแพง และมองเห็นพื้นที่บนชั้นลอยด้วยจึงได้อารมณ์คล้ายอยู่บ้าน 2 ชั้น พื้นที่ส่วนนี้ได้แสงสว่างจากหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้สว่างทั่วทั้งห้อง วัสดุพื้นปูด้วยไม้ลามิเนตหนาประมาณ 12 mm. ให้บรรยากาศที่อบอุ่น ดู Homey
พื้นที่นั่งเล่นมีระยะดูทีวีกว้างประมาณ 2.2 เมตร สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้ค่ะ อีกทั้งยังอยู่ติดหน้าต่างแบบนี้ ก็เลยทำให้สามารถดูทีวีไปด้วยและชมวิวภายนอกไปด้วยได้สบายๆ
สำหรับตู้วางทีวีจะมีบานปิดมาให้บางส่วน และบางส่วนเป็นตู้ช่องโล่ง ใช้เก็บของใช้กระจุกกระจิกได้
ห้องตัวอย่างจัดโต๊ะทานอาหารแบบเข้ามุม ซึ่งจริงๆแล้วพื้นที่โซนนี้จะรวม Living + Dining Area เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้เราสามารถนั่งทานอาหารและดูทีวีไปพร้อมกันได้ ถ้าอยู่กัน 2-3 คนแนะนำให้วางโต๊ะทานอาหารไว้ริมหน้าต่างเพราะมีพื้นที่วางโต๊ะที่กว้างกว่าค่ะ
ถัดเข้าไปด้านในฝั่งซ้ายจะเป็นห้องน้ำ ส่วนฝั่งขวาจะเป็นห้องอเนกประสงค์ที่ทางโครงการจัดฟังก์ชันไว้เป็นห้องนอนนะคะ
ห้องนอนชั้นล่างได้ความเป็นส่วนตัวด้วยประตูบานทึบ ภายในห้องสามารถจัดวางเฟอร์ฯ ได้ครบตั้งแต่เตียงนอน, ตู้เสื้อผ้า ซึ่งโครงการจะ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้เลย และยังเหลือพื้นที่ริมหน้าต่างให้เลือกใช้งานได้ว่าจะวางเก้าอี้สตูลริมหน้าต่างแบบในห้องตัวอย่าง หรือจะวางโต๊ะเขียนหนังสือ, โต๊ะเครื่องแป้งก็ดูเหมาะสมดีค่ะ
เราแนะนำเป็นเตียงขนาด 3 หรือ 5 ฟุตจะทำให้เหลือพื้นที่รอบเตียงให้เดินได้กว้างหน่อย
พื้นที่อเนกประสงค์ริมหน้าต่างมีขนาดประมาณ 1×0.7 m. พอจะวางโต๊ะเขียนหนังสือหรือเก้าอี้สตูลสำหรับนั่งชมวิวก็ดูน่าใช้งานดี ซึ่งได้ตำแหน่งติดกับหน้าต่างเข้ามุมแบบ Bay Window ช่วยเปิดมุมมองให้เห็นวิวกว้างขึ้น ติดกันเป็นประตูระเบียงบานเลื่อนแบบ 3 ตอนเพื่อเปิดออกไประเบียง
ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.5 x 0.6 m. ใช้วางราวตากผ้าได้เต็มพื้นที่เลย เพราะเครื่องซักผ้าเค้าติดตั้งไว้ใต้เคาน์เตอร์ครัวและแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบนเรียบร้อยค่ะ
สำหรับตู้เสื้อผ้าที่ Built-in จะได้ตามแบบในห้องตัวอย่างเลยนะคะ ได้หน้าบานกระจกดูหรูหราดี
ภายในตู้เสื้อผ้าจะแบ่งเป็นราวแขวนผ้าทั้งบนล่าง และมีลิ้นชักเก็บของแยกไว้ให้เก็บของได้เป็นสัดส่วน
เข้ามาดูห้องน้ำกันต่อ ภายในแบ่งพื้นที่ไว้อย่างเป็นสัดส่วน ผนังและพื้นโดยรอบปูกระเบื้องไว้ทั้งหมด และมี Low Wall ให้วางของใช้เพิ่มเติมได้
โถสุขภัณฑ์ของ Kasch มาพร้อมสายฉีดชำระ เป็นสุขภัณฑ์แขวนผนัง Wall Hung จึงไม่มีส่วนที่ติดพื้น ทำความสะอาดได้ง่ายกว่าสุขภัณฑ์แบบปกติ
อ่างล้างหน้าของ Kasch มีขนาดมาตรฐาน ส่วนที่เราชอบเลยคือ มีพื้นที่รอบอ่างให้วางของใช้ได้เยอะดีค่ะ
กระจกที่ติดตั้งมาให้เป็น Smart Mirror มีหน้าจอโชว์บนกระจก รองรับการ Touch Screen บนกระจกได้เลย เราสามารถเปิดดู Youtube, ฟังเพลง หรือจะเช็ค Calendar ยามเช้าก่อนออกไปทำงานก็ได้
ด้านหลังกระจกจะเป็นตู้เก็บของ ภายในแบ่งเป็นชั้นย่อยๆ ไว้ให้
Shower Box จะมีฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยมาให้เป็นแบบบานเปิดปิด พร้อมติดตั้งอุปกรณ์อาบน้ำทั้งฝักบัวและ Rain Shower และเดินระบบไฟรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย จุดที่น่าสนใจคือท่อระบายน้ำแบบ Wall Drain ที่ทำให้ดูเรียบร้อยสะอาดตามากกว่า Floor Drain ตามปกติ ซึ่งการทำความสะอาดก็คล้ายๆ กันคือสามารถเปิดช่องระบายน้ำออกมาเพื่อเคลียร์เส้นผมต่างๆ ออกได้
ในห้องน้ำจะมีการยกธรณีขึ้นช่วยกันไม่ให้น้ำจากพื้นที่ส่วนเปียกกระเด็นออกมาในพื้นที่ส่วนแห้ง จึงเป็นสัดส่วนดีทีเดียว โดยพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.9 x 1 m. ใช้งานได้สะดวกพอสมควร
ในส่วนของบันไดจะ Built-in มาให้พร้อมราวจับตามแบบในห้องตัวอย่าง โครงสร้างบันไดเป็นโครงเหล็ก พร้อมราวจับและกระจกกันตกนะคะ
โครงการพยายามออกแบบให้ตัวบันไดใช้พื้นที่น้อยที่สุด จึงไม่ได้มีชานพักบันไดนะคะ และตัวขั้นบันไดจะชันนิดนึง ใช้เดินขึ้นลงได้ปกติแต่ต้องระมัดระวังสักนิดนึงค่ะ
ขึ้นมาชั้นบนจะมีประตูกั้นห้องนอนไว้ชัดเจน จึงสามารถเปิดแอร์ในห้องได้ไม่ต้องกลัวเปลืองไฟ ฝ้าเพดานบนชั้น 2 มีความสูงประมาณ 2 m. เช่นเดียวกับบริเวณครัว
ชั้นบนจะเป็นพื้นที่ของห้องนอนหลักแบบเต็มชั้นเลย ห้องมีขนาดใหญ่และมี Walk-in Closet ในตัวด้วยค่ะ
พื้นที่พอเหมาะสำหรับวางเตียงขนาด 5 ฟุต พร้อมโต๊ะหัวเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง ตำแหน่งของเตียงนอนก็จะอยู่ตรงกับหน้าต่างพอดีนะคะ หากต้องการนอนดูทีวี ยุคนี้ก็สามารถหาซื้อขาตั้งทีวีมาใช้แทนการตั้งโต๊ะหรือติดผนังได้แล้ว
หน้าต่างในห้องนอนจะมีบานเปิดให้อากาศถ่ายเทได้
อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นตำแหน่งของ Walk-in Closet ซึ่งจะมีประตูบานเลื่อนกั้นไว้เป็นสัดเป็นส่วน
ภายใน Walk-in Closet จะ Built-in มาให้เป็นตู้ตัว L แบบนี้ พร้อมลิ้นชักใส่ของ พื้นที่ภายในมีขนาดให้ยืนแต่งตัวเลือกเสื้อผ้าได้ ขนาดประมาณ 0.94 x 0.96 m.
อีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจคือ โครงการจะติดตั้ง Home Automation มาให้ใช้ควบคุมการเปิดปิดไฟ, แอร์, ม่าน (โครงการเดินระบบรองรับการติดตั้งรางม่านไฟฟ้ามาให้) ผ่าน Main Monitor หรือผ่าน Apps ในมือถือก็ได้ค่ะ
1 Bedroom Plus (Simplex)
ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.8 ตร.ม. เป็นแบบ Simplex ชั้นเดียว เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบ 1-2 คน เมื่อเข้ามาจะเจอกับครัวที่เป็นครัวปิดมีประตูแบ่งการใช้งานเป็นสัดส่วน ถัดเข้ามาเป็น Common Area รวมพื้นที่พักผ่อนและพื้นที่รับประทานอาหารไว้ด้วยกัน ติดกันเป็นห้องอเนกประสงค์ที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ห้องนี้จะได้หน้าต่างบานใหญ่แบบเข้ามุมด้วยค่ะ
ห้องนอนจะได้พื้นขนาดใหญ่มีระเบียงในตัว ส่วนห้องน้ำจะอยู่ตรงข้ามกับห้องนอน จึงเดินมาใช้งานง่าย และเวลาที่มีเพื่อนๆ มาหาก็สามารถเดินเข้าห้องน้ำได้โดยไม่ต้องผ่านห้องนอน
เปิดเข้ามาส่วนแรกจะเป็นครัวปิดเช่นเดียวกับห้องแรก
สำหรับชุดครัวและตู้ Built-in ทางโครงการจะให้มาตามแบบในห้องตัวอย่าง ยกเว้นแค่เครื่องซักผ้าและตู้เย็นที่ไม่ได้ให้มานะคะ
ประตูเชื่อมไปห้องนั่งเล่นจะเป็นประตูกระจกสูงจากพื้นจรดฝ้าเลย ช่วยให้ห้องดูโปร่ง บานเลื่อนเป็นแบบ 3 ตอน ทำให้เปิดออกได้กว้าง
เข้ามาด้านในจะเป็น Common Area รวมพื้นที่นั่งเล่นและทานอาหารเข้าไว้ด้วยกัน พื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ได้หลากหลาย ปูพื้นด้วยไม้ลามิเนตหนา 12 mm. ภายในห้องจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.6 m.
ภายใน Common Area มีพื้นที่พอให้วางชุดโต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งได้ มีระยะให้เดินใช้งานได้พอประมาณ
พื้นที่ดูทีวีสามารถวางชุดโซฟาแบบ 2-3 ที่นั่งได้พอดีๆ มีระยะดูทีวีประมาณ 2.2 m. ใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วกำลังดี โดยโครงการจะมีชั้นวางทีวีมาให้แล้ว สำหรับโซฟาและโต๊ะกลางจะไม่ได้ให้มาด้วย เราสามารถเลือกซื้อแบบที่ถูกใจได้เลย
ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นห้องอเนกประสงค์ โดยมีประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมกระจกแบบ 3 ตอน กั้นแบ่งพื้นที่การใช้งานให้ดูเป็นสัดส่วน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวในการใช้งานมากยิ่งขึ้น ถ้าใช้เป็นห้องทำงานเวลาประชุมก็ช่วยกันเสียงรบกวนได้ดีนะคะ
ภายในห้องอเนกประสงค์มีขนาดประมาณ 1.9 x 2.4 m. สามารถจัดฟังก์ชันเป็นห้องทำงาน หรือถ้าจัดเป็นห้องนอนก็สามารถวางเตียงเดี่ยวได้
พื้นที่อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นส่วนของห้องน้ำและห้องนอน
ภายในห้องนอนกว้างพอสมควรเลยค่ะ สามารถตั้งเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุต ได้ และมีพื้นที่เหลือให้เดินขึ้นเตียงได้โดยรอบ การวางตำแหน่งห้องนอนลักษณะนี้ จะมีข้อดีตรงตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่าง ทำให้สามารถเปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดี สามารถนอนรับวิวจากเตียงนอนได้เลย
พื้นที่ระเบียง มีขนาดประมาณ 0.6 x 2.6 m. สามารถใช้วางราวตากผ้าได้ ใช้งานง่ายเพราะปูพื้นกระเบื้องให้และ Condensing Unit ก็แขวนลอยไว้ทั้งหมดแล้วค่ะ เราสามารถวางกระถางต้นไม้เพื่อเพิ่มบรรยากาศที่ร่มรื่นได้เต็มพื้นที่ เพราะเครื่องซักผ้าจะติดตั้งอยู่บริเวณครัวแล้วนะคะ
อีกฝั่งหนึ่งของเตียงนอนจะมีตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet ไว้ให้
หน้าบานตู้เป็นกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอนเปิดประตูได้กว้าง เข้าไปหยิบของได้สะดวก
ตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet เป็นอีกจุดเด่นของห้องนี้ เพราะให้มีขนาดใหญ่ ช่องเก็บของเยอะ และมีพื้นที่ให้เข้าไปยืนเลือกเสื้อผ้าได้ขนาดประมาณ 0.4 x 1.2 m.
ปิดท้ายด้วยห้องน้ำ ภายในห้องน้ำมีการแบ่งฟังก์ชันส่วนเปียก-แห้งไว้ชัดเจน มาพร้อมโถสุขภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ จาก Kasch และยังคงจุดเด่นของห้องน้ำที่นี่เลยก็คือ Smart Mirror ค่ะ
พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1×0.9 m. ใช้งานได้พอดีๆ ค่ะ
ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom (Duo Space)
1 Bedroom Duo Space
ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom (Simplex)
1 Bedroom Simplex
ราคา
SOHO Bangkok Ratchada (โซโห แบงค็อก รัชดา) ราคา ณ วันที่ 29 กันยายน 2566
- Simplex
- 1 Bedroom ขนาด 24.64 ตร.ม. เริ่ม 3.79 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus ขนาด 35.11 ตร.ม. เริ่ม 4.89 ล้านบาท
- 1 Bedroom ขนาด 25.22 ตร.ม. (รวมชั้นบนเป็น 36.82 ตร.ม.) เริ่ม 5.69 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus ขนาด 35.14 ตร.ม. (รวมชั้นบนเป็น 46.9 ตร.ม.) เริ่ม 7.4 ล้านบาท
- รูปแบบการขาย Fully Fitted
- จอง 10,000 บาท สัญญา 10,000 บาท
- ค่ากองทุน 750 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 75 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล : SOHO Bangkok Ratchada (โซโห แบงค็อก รัชดา) ตั้งอยู่บนถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญใกล้แยกห้วยขวาง ซึ่งเป็นโซนที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก ของกินหาง่ายเพราะมีตลาดและร้านอาหารที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ในขณะที่ก็ใกล้กับถนนรัชดาภิเษก เป็นย่าน CBD ใหม่ที่มีอาคารสำนักงานมาก มีห้างสรรพสินค้า โรงเรียน สถานฑูตตั้งอยู่ตลอดถนนรัชดาฯช่วงพระราม 9 ถึงลาดพร้าวนี้เอง เลยสามารถเรียกได้ว่าเป็นย่านใจกลางเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงย่านหนึ่งเลย
การเดินทางโดยใช้รถ : ทำเลนี้มีทางลัดเลาะได้เยอะ และใกล้ถนนสายสำคัญอย่างถนนรัชดาภิเษกที่เป็นถนนวงแหวนรอบในของกรุงเทพฯ ดังนั้นเราสามารถใช้ถนนเส้นนี้ขับไปรอบ ๆ ตัวเมืองชั้นในได้สบายเลย หรือในระยะที่ใกล้กว่านั้นคือเป็นถนนที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิท ถนนเพชรบุรี ถนนพระราม 9 และถนนลาดพร้าวได้ นอกจากนี้โซนห้วยขวางฝั่งที่โครงการตั้งอยู่จะมีเส้นทางลัดเลาะไปยังสี่แยกเหม่งจ๋าย ออกไปยังเส้นเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทราได้ด้วยค่ะ แต่ถึงแม้จะมีเส้นทางให้เลือกหลากหลาย แต่ว่าการจราจรของย่านนี้นับว่าติดขัดพอสมควร และจำนวนที่จอดรถที่ให้มาภายในโครงการอยู่ที่ 50% ซึ่งก็ถือว่าไม่น้อยสำหรับคอนโดใกล้รถไฟฟ้าในระยะเดิน
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ส่วนตัวเรามองว่าโครงการนี้จะเหมาะกับการใช้งานระบบขนส่งสาธารณะเป็นหลัก เพราะด้วยทำเลนี้เชื่อว่าเกินครึ่งที่สนใจคงเป็นเพราะใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สถานีห้วยขวาง ประมาณ 240 เมตร เป็นระยะที่สามารถเดินได้สบาย ๆ นอกจากนั้นแล้วหน้าปากซอยก็มีวินมอเตอร์ไซค์ เรียกรถสาธารณะได้สะดวก มี Taxi ผ่านไปมาทั้งวันทั้งคืน และตัวโครงการเองก็สังเกตได้ง่าย ไม่ซับซ้อนอะไร
วัสดุ : ตามมาตรฐานของระดับราคา ซึ่งในระดับราคานี้จะมีเทคโนโลยีที่พิเศษขึ้นมาอย่าง Home Automation เช่น เปิดปิดไฟแอร์ ควบคุมผ่าน Main Monitor หรือผ่าน Apps อีกอย่างที่น่าสนใจคือ Smart Mirror ที่มีหน้าจอโชว์บนกระจกในห้องน้ำ เราสามารถเปิดดู Youtube, ฟังเพลง หรือจะเช็ค Calendar ยามเช้าก่อนออกไปทำงานก็ได้
การออกแบบ :
โครงการ – SOHO Bangkok Ratchada (โซโห แบงค็อก รัชดา) มี 2 คอนเซปต์ที่น่าสนใจ อย่างแรกคอนเซปต์แรกคือ SOHO SO HIGH LIVING เป็นการอยู่อาศัยที่สะดวกสบายเพราะมี Concierge Service by Dusit Thani คอยให้บริการ อีกคอนเซปต์หนึ่งคือ Small Office&Home โดยโครงการออกแบบ Facility บริเวณมาให้เหมาะกับการทำงาน เช่น Co-Creation Space, Private Working Room, Conference Room, Trade Room ซึ่งก็จะมีโซนที่เปิดให้นั่งทำงานกันได้ตลอด 24 ชั่วโมงด้วย
ห้องพัก – ออกแบบให้ห้องพักส่วนใหญ่เป็นห้องฝ้าเพดานสูง 4.2 m. ได้บรรยากาศโปร่งโล่ง ห้องนอนอยู่ชั้นบน ได้อารมณ์คล้ายอยู่บ้านบนทำเลใจกลางรัชดาฯ และทุกห้องได้ครัวปิดช่วยกันกลิ่นควันเข้าไปยังส่วนอื่นๆในห้องได้ โครงการออกแบบห้องพักให้หลบอาคารสูงรอบข้างได้ดี โดยตัวห้องจะหันออกทางทิศเหนือและใต้ ซึ่งเป็นทิศยอดฮิตในการพักอาศัยอยู่แล้ว
สาธารณูปโภค : ส่วนกลางจัดเต็มมากทั้งหมด 5 ชั้น มีส่วนกลางชั้น 1 ที่รองรับการทำงาน การประชุมได้ทั้งชั้น และเป็น Sky Facility อีก 4 ชั้นบนสุดเปิดรับวิวแบบเต็มที่ และมีฟังก์ชันพิเศษๆ อย่างเช่น ระบบ Virtual Hospital ใช้ปรึกษาปัญหาสุขภาพกับแพทย์โรงพยาบาลสมิติเวชได้, Oxygen Lounge , Salt Therapy ที่ช่วยส่งเสริมให้สุขภาพดีขึ้น ซึ่ง Facility บางส่วนยังเปิดให้ใช้งานได้ 24 ชั่วโมงด้วยค่ะ แต่ก็แลกมากับค่าส่วนกลาง 75 บาท/ตร.ม. จะเห็นว่าสูงกว่าหลายๆ โครงการเลย เพราะที่นี่จำนวนยูนิตน้อย แชร์กันใช้กับลูกบ้านไม่เยอะนัก
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 200,000 บาท/ตร.ม., 29 กันยายน 2566
- ทำเล 8/10 – ใกล้รถไฟฟ้า 240 m. อยู่ใจกลางเมือง ความอุดมสมบูรณ์สูง
- เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – ใกล้ถนนใหญ่ ที่จอด 200 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน ใกล้ทางด่วน
- ไม่ใช้รถ 8/10 – ใกล้ MRT ห้วยขวาง 240 เมตร, เรียกวินมอเตอร์ไซค์และรถ Taxi ง่าย
- วัสดุ 7.5/10 – Fully Fitted พร้อม Home Automation และ Smart Mirror
- แบบ 8/10 – ดีไซน์อาคารสวย ห้องพักฝ้าเพดานสูง
- สาธารณูปโภค 9/10 – ให้ส่วนกลางมาเยอะ ทั้งในและนอกอาคาร เปิด 24 ชั่วโมง
- HIGH CLASS
- 7.95 / 10.00
SOHO Bangkok Ratchada (โซโห แบงค็อก รัชดา) เหมาะกับใคร
SOHO Bangkok Ratchada (โซโห แบงค็อก รัชดา) เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดใกล้ๆ รถไฟฟ้าห้วยขวางแบบที่เดินได้สะดวก ชอบโครงการที่มีจำนวนยูนิตน้อยๆ ได้สังคมส่วนตัวและจัดเต็ม Facility มาให้เหมาะกับคนวัยทำงานและคนรักสุขภาพ มีบริการพิเศษอย่าง Concierge Service by Dusit Thani และมีระบบ Virtual Hospital ใช้ปรึกษาปัญหาสุขภาพกับแพทย์โรงพยาบาลสมิติเวชได้
มองหาห้องพักที่อยู่อาศัยได้ 1-3 คน ถ้าเลือกห้องฝ้าเพดานสูงก็จะมีพื้นที่บนชั้นลอย ได้อารมณ์เหมือนอยู่บ้าน 2 ชั้น และชอบห้องแบบครัวปิด ในราคาเริ่มต้น 3.79-7.4 ล้านบาท หรือผ่อนประมาณ 26,530-51,800 บาท/เดือน
ส่งท้ายปีด้วยโปรโมชั่นคอนโดใกล้แนวรถไฟฟ้าและสินเชื่อพิเศษกับงาน Living Expo 2023 อย่าลังเลจนพลาดเป็นเจ้าของคอนโดราคาดีๆ
ลงทะเบียนรับฟรี หนังสือและโพย ที่จะพลิกทุกวิธีการหาบ้านเดิมๆให้ตรงใจและประหยัดเวลามากขึ้น
Living Expo 2023 วันที่ 23 – 26 พฤศจิกายน 2566 ชั้น 1 สยามพารากอน
ลงทะเบียนเลย คลิกที่นี่