รูปเปิดเว็ป

รีวิวฉบับที่ 1088 … สวัสดีครับวันนี้พาไปชมรีวิวคอนโด Silk Place พหลโยธิน-หลักสี่ จาก KASC เป็นคอนโด High Rise สูง 15 ชั้น บนถนนพหลโยธินใกล้แยกรามอินทรา ซึ่งเป็นโครงการใกล้รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสีเขียวทางเหนือ(หมอชิต-คูคต) ใกล้กับสถานีอนุสาวรีย์หลักสี่ครับ ตัวห้องมีแบบ 1-2 Bedroom ขนาด 33 – 51 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 2.16 ล้านบาท ไปชมกันเลยครับ

Fact @ 12 May 2016

  • Silk Place Phaholyithin Laksi (ซิลค์ เพลส พหลโยธิน หลักสี่)
  • บริษัท เคเอเอสซี ดีเวลอปเมนท์ จำกัด
  • ECONOMY-MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : เขตบางเขน แขวงอนุสาวรีย์
  • คอนโด High Rise 15 ชั้น 1 อาคาร 274 ยูนิต และร้านค้า 3 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 23 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 133 คันคิดเป็น 48% รวมจอดซ้อนคัน 166 คิดเป็น 60%
  • ที่ดินประมาณ 2-2-07.9ไร่
  • ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ
  • 1 Bedroom 33 – 44.5 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 50 – 51 ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.42 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 2.168 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 70,350 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด 65,700 – 72,653 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 02-955-7071-2

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.878740, 100.597975

แผนที่โครงการ

แผนที่จากทางโครงการครับ ตั้งอยู่ติดกับถนนพหลโยธินมุ่งหน้าขาออกเมือง ตรงข้ามกับ Tesco Lotus ใกล้กับวงเวียนบางเขน (แยกรามอินทรา) นั่นเอง

แผนที่อุดมสมบูรณ์

โครงการ Silk Place พหลโยธิน-หลักสี่ ตั้งอยู่ริมถนนใหญ่พหลโยธินขาเข้า ก่อนถึงซอยพหลโยธิน 57 โดยถนนพหลโยธินนั้นยาวมาตั้งแต่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขึ้นเหนือไปเรื่อยผ่านปทุมธานี ทำให้การเข้าถึงโครงการสามารถเข้าได้จากถนนหลายสายทั้งที่ตัดผ่านและบรรจบ ตั้งแต่ถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้าและขาออก มีสะพาน U-turn ให้เลือกกลับรถเยอะ หรือจะเป็นถนนแจ้งวัฒนะที่มาจากทางนนทบุรีที่เป็นพื้นที่รองรับการขยายเมืองอย่างศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และห้างสรรพสินค้าต่างๆสองข้างริมถนนใหญ่ รวมถึงอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญที่เป็นวงเวียนและสะพานข้ามแยกของถนนพหลโยธิน, ถนนแจ้งวัฒนะและถนนรามอินทรามุ่งหน้ามีนบุรี ส่วนทางเหนือเป็นถนนสายไหม ลำลูกกา ที่มีบ้านจัดสรรแนวราบเปิดอยู่หลายโครงการ ภายในบริเวณไม่เกิน 10 กิโลเมตรก็จะมีมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่หลายแห่ง, โรงเรียน,วัด, เขตทหาร รวมไปถึงสนามบินดอนเมือง

ซึ่งถ้าเรามองในแง่คนที่อาศัยอยู่ภายในพื้นที่อยู่แล้วหรือทำงานประจำอยู่แถบวิภาวดี-นนทบุรี-มีนบุรี จะถือว่าอยู่ในตำแหน่งที่ความสะดวก แต่ปริมาณรถในช่วงเช้า-เย็น ช่วงเข้างานและหลังเลิกงานก็จะมีปริมาณมาก เนื่องจากถนนพหลโยธินนั้นผ่านตั้งแต่พื้นที่ในเมือง ลาดพร้าว และขึ้นไปยังพื้นที่ที่อยู่อาศัย รวมถึงขนานกับเส้นวิภาวดีรังสิตที่เป็นถนนเส้นหลัก รวมถึงมีศูนย์ราชการ และสถานที่ราชการอยู่ไม่ไกล ทำให้การเดินทางในบางช่วงเวลาอาจใช้เวลานานกว่าที่คิด แต่ล่าสุดจะถนนตัดใหม่ เส้นพหลโยธิน-รัตนโกสินทร์สมโภชได้สร้างเสร็จ และเปิดให้ใช้เรียบร้อยแล้ว เป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถนนพหลโยธินไปทางตะวันออกถึงแยกวัชรพล-สุขาภิบาล 5 ที่ใกล้กับทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์

พื้นที่ชานเมืองตอนเหนือของกรุงเทพ ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบทั้งที่จัดสรรและไม่จัดสรร ปะปนกับสิ่งปลูกสร้างที่เกื้อกูลในการใช้ชีวิตประจำวัน อย่างใกล้ๆโครงการบนถนนพหลโยธินขาออกมีตลาดยิ่งเจริญที่เป็นตลาดสดขนาดใหญ่ เปิดขายตั้งแต่เช้าถึงเย็น รวมไปถึง Tesco Lotus และ BigC Supercenter ที่อยู่ไม่ไกลนัก และมีโรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัลอยู่ใกล้ๆกัน บนสองฝั่งของถนนส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์สูง 4-5 ชั้น โดยชั้นล่างสุดเปิดเป็นร้านอาหาร และร้านค้าต่างๆที่ง่ายต่อการซื้อ-ขาย ในซอยก็จะมีทั้งซอยตันและซอยที่ตัดผ่านเข้าไปด้านในเป็นชุมชนบ้านเดี่ยวมีเปิดเป็นบริษัทเล็กๆบ้างนิดหน่อย รวมถึงหอพัก และอพาร์ตเมนท์หลังไม่ใหญ่ โดยรวมย่านนี้เป็นย่านค้าขายที่ค่อนข้างคึกคักเป็นที่รู้กันของคนแถวนี้ครับ

แผนที่การใช้ทางด่วน

การเดินทางโดยใช้รถ อย่างที่บอกไปตอนต้นถือว่าสะดวก เพราะอยู่ใกล้กับถนนหลักทั้งสี่สาย ส่วนทางด่วนที่ใกล้ที่สุดคือ ทางยกระดับอุตรภิมุข(ดอนเมืองโทลล์เวย์) ที่ถ้าเข้าเมืองแค่เลี้ยวเข้าถนนวิภาวดีรังสิตก็เจอเลย ส่วนถ้าออกเมืองให้ไปกลับรถแถวหน้าทีโอทีก่อนถึงศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ แล้วกลับเข้ามาวิภาวดีรังสิตอีกครั้งก็เจอทางขึ้นฝั่งออกเมืองเลย

แผนที่รถไฟฟ้า

ส่วนในเรื่องของระบบขนส่งสาธารณะในอนาคตก็จะมีสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อขยายช่วงห้าแยกลาดพร้าว หมอชิต-คูคต โดยมีสถานีวัดพระศรีมหาธาตุและสถานีวงเวียนหลักสี่เป็นสถานี Interchange ที่เดินเชื่อมต่อกันได้ แต่ไม่ได้ใช้ตัวสถานีเดียวกัน สถานีที่ใกล้โครงการมากที่สุดคือสถานีอนุสาวรีย์หลักสี่ ที่เป็นสถานีต่อจากสถานี Interchange ภายในอีก 5 ปีข้างหน้า เราคงจะเร่ิมเห็นการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ไปในทางที่ดีขึ้น และเข้าถึงง่ายมาขึ้น

ตัดกลับมาสถานการณ์ปัจจุบันที่ยังไม่มีสถานีรถไฟฟ้าใดๆในระยะ 5 กิโลเมตร เราก็ยังคงจะต้องพึ่งพารถตู้บนถนนวิภาวดีรังสิต ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนพหลโยธิน รวมถึงรถเมล์ แท๊กซี่ และพี่วินที่สามารถเรียกได้ตามถนนใหญ่หน้าโครงการ และมีสะพานลอยอยู่บนถนนพหลโยธินไม่เกิน 200 เมตร (บริเวณหน้า Tesco Lotus)

รถไฟฟ้า

โดยที่ดูจาก VDO จากทาง Office Website ของ mrta-greenlinenorth “คลิกที่นี่” จะเห็นว่าที่ตั้งของสถานีอนุสาวรีย์หลักสี่จะอยู่เลย Tesco Lotus ไปทางเหนืออยู่หน่อย ซึ่งระยะทางที่แน่ชัดเป๊ะก็ยังไม่สามารถบอกได้นะครับ คาดว่าประมาณ 250 เมตร จากการวัดคร่าวๆจาก google maps ครับ

Green-line_Mochit_Kukot-stations

โดยสถานีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว หมอชิต-คูคต ตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ณ ปัจจุบัน ก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 7% โดยสามารถดูความก้าวหน้าของงานก่อสร้าง “ได้ที่นี่”

เดินทางวันนี้1

การเดินทางในวันนี้ ผมจะใช้ถนนวิภาวดีรังสิตมุ่งหน้าขาออก วิ่งตรงยาวๆ ผ่านแยกงามวงศ์วาน แยกหลักสี่(แจ้งวัฒนะ) และให้ออกเลนขนานเพื่อเตรียมขึ้นสะพานกลับรถเกือกม้า หลังจากนั้นให้วิ่งเลนขนานเอาไว้ และเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนแจ้งวัฒนะ วิ่งตรงไปถึงวงเวียน(แยกรามอินทรา) ให้เลี้ยวชิดเลนซ้าย 90 องศาเอาไว้ หลังจากนั้นเข้าสู่ถนนพหลโยธินขาออกเมือง ห่างจากวงเวียนประมาณ 200 เมตร เท่านั้นทางซ้ายมือก็ถึงที่ตั้งโครงการแล้วครับ

ผมเริ่มจากถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณห้าแยกลาดพร้าว มุ่งหน้าออกเมืองไปทางดอนเมืองนะครับ

เราจะวิ่งเลนใต้ทางด่วนหรือเลนขนานก็ได้ ตอนนี้ให้เน้นตามป้ายดอนเมืองเอาไว้ก่อน

ผ่านจุดตัดแยกถนนงามวงศ์วาน

ที่เห็นทางซ้ายมือที่รถติดๆนั้นเป็นสะพานกลับรถเกือกม้าไปม.เกษตรศาสตร์ครับ ติดแบบนี้เป็นประจำ

หลักจากนั้นจะผ่านจุดตัดแยกถนนแจ้งวัฒนะ ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปทางศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะครับ

เลยมาหน่อยก็จะเจอสะพานกลับรถแล้ว

บนถนนวิภาวดีขาเข้าทางค่อนข้างจะคดเคี้ยวและความกว้างไม่เท่ากันตลอดเส้น บางทีจะแคบลงเนื่องจากมีสถานีระบายน้ำสำหรับคลองที่อยู่ข้างๆทางซ้ายมือ บางทีก็จะกว้างเป็นถนน 4 เลน

กลับมาถึงจุดตัดข้ามแยกถนนแจ้งวัฒนะ-วิภาฯ ให้เราชิดซ้ายเอาไว้ตามป้ายรามอินทรานะครับ

พอเลี้ยวซ้ายมาแล้วจะเป็นถนนแจ้งวัฒนะ ให้ระวังรถทางขวามือที่กลับรถมาด้วยนะ

ถนนแจ้งวัฒนะช่วงนี้เป็นถนน 4 เลนจราจร ที่มีรถหนาแน่นช่วงเข้า-เลิกงาน เพราะมีสถานที่ออฟฟิศ ราชการ รัฐวิสาหกิจ และสถานศึกษาหลายแห่ง มีสถานที่อำนวยความสะดวกให้เห็นตามข้างทางตลอดเช่น มินิมาร์ท ธนาคาร ร้านค้าทั่วไป เป็นต้น

ขับมาหน่อยซ้ายมือจะเป็นโรงเรียนเจริญผลวิทยา ถัดไปเป็นโชว์รูม Toyota และ ธนาคารกรุงเทพ

เลยข้ามสะพานคลองบางบัวมาจะเจอกับ Cockpit ทางซ้ายมือ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ Max Valu

Max Valu หลักสี่ เป็นจุดช้อปซูเปอร์มาร์เกตหาของกินเข้าบ้านที่ใกล้โครงการในระดับนึง

สาขานี้ขนาดค่อนข้างใหญ่และมีที่จอดรถเยอะครับ

ภายในก็มีพวกคาร์แคร์ และด้านหลังเป็นแนวอาคารพาณิชย์ร้านค้า ร้านอาหาร ตามสั่งให้เลือก

มี McDonald’s เปิดให้บริการ 24 ชม.เช่นเดียวกัน

ออกจาก Max Valu ขับตรงมานิดหน่อย จะเห็นป้ายรถเมล์ที่มีนักศึกษายืนรออยู่หลายคน เพราะข้ามสะพานลอยฝั่งตรงข้ามไปจะเป็นม.ราชภัฏพระนคร

ทีนี้ให้เราชิดซ้ายเลน 2 ช่องนี้เอาไว้นะครับ เพราะถ้าอยู่สองเลนขวาจะจะพาเราขึ้นสะพานข้ามแยกวงเวียนหลักสี่ไปลงถนนรามอินทราโน้น จุดสังเกตุคือร้าน ป.กุ้งเผา

ป้ายบอกทางให้เลือกเส้นทางในการใช้วงเวียนอนุสาวรีย์ คือถ้าเลี้ยวซ้าย จะมุ่งหน้าสะพานใหม่ หรือจะวนแล้วตรงไปยังรามอินทรา-มีนบุรี หรือจะวนไปทางขวายาวแล้วเลยไปยังเส้นรัชโยธิน-ลาดพร้าว

เราจะเร่ิมเข้าวงเวียนอนุสาวรีย์กันแล้วนะครับเป็นทางวนซ้ายทั้งหมด ก่อนจะถึงวงเวียนก็จะมีสัญญาณไฟ รวมถึงป้ายบอกทางต่างๆ

เราวนมาทางซ้าย 90 องศา แล้วตรงไปยังเส้นพหลโยธินขาออก

ถนนพหลโยธินเป็นถนนที่ยาวตั้งแต่ในเมืองไปยังนอกเมืองแถบปทุมธานี ขนานกับเส้นวิภาวดีรังสิต ทำให้มีรถเมล์ รถตู้ให้บริการจอดรับ-ส่งเยอะมากๆ รวมถึงมีจุดกลับรถและสะพานลอยอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งปัจจุบันบนถนนพหลโยธินมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ทำให้ช่องทางการจราจรน้อยลงจากที่เคยกว้าง 3 เลนเหลือ 2 เลน พอเลยจากวงเวียนมานิดเดียวทางซ้ายมือก็คือที่ตั้งโครงการแล้ว ติดถนนเลย ส่วนทางขวาฝั่งตรงกันข้ามก็จะเป็นห้างอย่าง Tesco Lotus

ถึงที่ตั้งโครงการแล้วครับ ถ้าเดินไปอีกประมาณ 150 เมตรจะเป็นสะพานลอยข้ามไป Tesco Lotus ได้

แผนที่ระยะประชิด

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

มาดูพื้นที่รอบๆโครงการกันบ้าง ในระยะใกล้เคียงนั้นไม่มีอาคารสูงที่เกิน 8 ชั้นเลยนะครับ เริ่มจากทางทิศเหนือที่ติดกับโครงการตอนนี้เป็นที่ดินเปล่า มองไกลออกไปนิดนึงจะมีอาคารจอดรถและคอนโด Lowrise 8 ชั้นสลับกับบ้านพักอาศัย ส่วนทิศตะวันออกด้านหน้าติดกับถนนพหลโยธิน ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ตั้งของกรมทหารขนส่งรักษาพระองค์และร.ร.ไทยนิยมสงเคราะห์ ฝั่งทิศใต้ส่วนด้านหน้าติดกันเป็นที่ดินเปล่า และด้านหลังเป็นบ้านพักอาศัยทั่วไป มองตรงไปไกลๆเป็นวิวแยกรามอินทราและเห็นหลังาของพุทธวิชชาลัย สุดท้ายฝั่งตะวันตกพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ดินเปล่าบุคคลอื่นที่ยังไม่ได้พัฒนาใดๆ

ส่วนโครงการa1

วิวทางฝั่งทิศเหนือที่ติดกับโครงการตอนนี้เป็นที่ดินเปล่า มองไกลออกไปนิดนึงจะมีอาคารจอดรถและคอนโด Lowrise 8 ชั้นสลับกับบ้านพักอาศัย

ส่วนโครงการa2

วิวฝั่งทิศใต้ส่วนด้านหน้าติดกันเป็นที่ดินเปล่า และด้านหลังเป็นบ้านพักอาศัยทั่วไป มองตรงไปไกลๆเป็นวิวแยกรามอินทราและเห็นหลังาของพุทธวิชชาลัย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น (ระยะของการขับรถ)

  • วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร 800 เมตร
  • Tesco Lotus 950 เมตร
  • Max Valu 1.3 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลเซ็นทรัล เยนเนอรัล 1.5 กิโลเมตร
  • สำนักงานเขตบางเขน 1.8 กิโลเมตร
  • กรมทหารราบที่ 11 2.1 กิโลเมตร
  • Central รามอินทรา 2.2 กิโลเมตร
  • ตลาดยิ่งเจริญ 2.4 กิโลเมตร
  • BigC Supermarket 2.5 กิโลเมตร
  • ม.ศรีปทุม 3.7 กิโลเมตร
  • โรงเรียนสารวิทยา 4.1 กิโลเมตร
  • ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ 4.5 กิโลเมตร
  • สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ 4.8 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน 5.5 กิโลเมตร
  • สนามกอล์ฟราชพฤกษ์ 6.3 กิโลเมตร
  • Major รัชโยธิน 6.6 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลวิภาวดี 6.8 กิโลเมตร
  • Central ลาดพร้าว 8 กิโลเมตร
  • สนามบินดอนเมือง 8.1 กิโลเมตร

 


เจาะลึกตัวโครงการ

000

Silk Place พหลโยธิน-หลักสี่ ในย่านรอบๆโครงการนี้มีจุดเด่นคือมีสถานที่ราชการและรัฐวิสาหกิจ สถานศึกษาทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัยอยู่หลายแห่ง โครงการเป็นคอนโด High Rise สูง 15 ชั้น จำนวน 274 ยูนิต และร้านค้า 3 ยูนิต ตัวอาคารเป็นรูปตัว S หันตัวอาคารรับวิวสองฝั่งคือฝั่งทิศเหนือรับวิวไปทางสายหยุด-สะพานใหม่ และ ฝั่งทิศใต้รับวิวแยกรามอินทรา ตัวอาคารใช้โทนสีขาว-เทาเข้ม ตัดแนวเส้นสีเหลืองตกแต่ง วนรถทางเดียวรอบๆอาคาร ชั้น 1-3 เป็นชั้นจอดรถล้วนๆ เร่ิมมีส่วนของห้องพักที่ชั้น 4 โดยชั้น 4 จะมีห้องพักอยู่ 21 ยูนิต นอกนั้นเป็นพื้นที่ส่วนกลางได้แก่ สระว่ายน้ำ, Fitness, Play House เป็นต้น ตั้งแต่ชั้น 5 ขึ้นไปจนถึงชั้น 15 จะเป็นชั้นที่มีแต่ห้องพักล้วน เป็น Typical Floor มีจำนวนหนาแน่นอยู่ที่ 23 ยูนิต

มาดู Master Plan กันก่อนครับ โครงการเข้าได้จากถนนพหลโยธินเท่านั้น ถ้าวิ่งขาออกเมืองเลยวงเวียน(แยกรามอินทรา) มาประมาณ 200 เมตร จะอยู่ซ้ายมือ(อยู่ก่อนถึงซอยพหลโยธิน 57)  ตัวอาคารเป็น รูปตัว S ตัวคอนโดสูง 15 ชั้น เข้ามาจะเจอจุด Drop Off และเจอกับร้านค้า 3 ยูนิต หลังจากนั้นเจอ Lobby ที่เชื่อมต่อกับห้อง Mail Box, Laundry Room, ห้องนิติบุคคล และประตูทางเข้าโถงลิฟท์ แบบต้องใช้คีย์การ์ดลูกบ้านแตะเพื่อเข้าออก ที่จอดรถส่วนใหญ่อยู่ภายในอาคาร ตั้งแต่ชั้น 1-3 และส่วนน้อยอยู่กลางแจ้งรอบๆโครงการ โดยที่จอดรถมีช่องจอดประมาณ 133 คันคิดเป็น 48% รวมจอดซ้อนคัน 166 คิดเป็น 60%  ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว จะอยู่ใจกลางของอาคาร ส่วนลิฟท์ Service 1 ตัว จะอยู่ด้านหลัง ทั้งอาคารจะมีบันไดหนีไฟทั้งหมด 2 จุด อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 138 : 1 ซึ่งถือว่าเยอะอยู่แต่ก็ยังพอรับได้ อาจจะต้องรอลิฟท์นานบ้างในช่วงเวลาเร่งด่วนที่คนใช้พร้อมกันเยอะๆครับ

ที่ชั้น 4 เป็นพื้นที่ของ Facilities ได้แก่ Swimming Pool ระบบคลอลีน ขนาด 8 x 18 เมตร ลึกประมาณ 1.2 เมตร แยกสระเด็กขนาด 4.5 x 5.7 ลึก 90 ซม. และมีพื้นที่นั่งรอบสระว่ายน้ำ และมีห้อง Fitness ขนาดปานกลางวางเครื่องออกกำลังกายเอาไว้ 8 เครื่อง(รวมบาร์ดรัมเบล) และห้อง Play Room ที่เป็นห้องเด็กเล่นครับ นอกเหนือนั้นชั้นนี้เป็นพื้นที่ห้องพักอาศัยทั้งหมด โดยมีความแน่นอยู่ที่ 21 ยูนิต/ชั้น

ตั้งแต่ชั้น 5 ขึ้นไปจนถึงชั้น 15 จะเป็นชั้นที่มีแต่ห้องพักล้วน เป็น Typical Floor มีจำนวนหนาแน่นอยู่ที่ 23 ยูนิต/ชั้น

เริ่มกันที่ทางเข้าโครงการ ตัวที่ดินโครงการจะยกสูงกว่าระดับถนนพหลโยธินขึ้นมาหน่อยนึง ทางเข้า-ออกจะเป็นระบบ Key Card แตะเพื่อเปิดปิดรั้วไม้กั้นกระดก โดยมีป้อมรปภ.อยู่ทางซ้ายมือ

ส่วนของทางออกเวลาออกค่อยๆระวังรถที่วิ่งตรงบนถนนพหลโยธินหน่อยนะครับ เพราะเราต้องออกลักษณะยูเทิร์น

หน้าตาของป้อมรปภ.ที่อยู่ทางซ้ายมือ ซึ่งส่วนของผู้มาติดต่อจะต้องแลกบัตรที่จุดนี้ครับ

พอผ่านรั้วไม้กั้นกระดกมา ทางเราแค่มาส่งเพื่อนหรือจะแวะรับคน ก็เลี้ยวขวาเข้ามาเพื่อเข้าสู่บริเวณ Drop Off ของโครงการ ซึ่งจุดนี้สามารถกันแดดและฝนได้ในตัว

กลับหลังหันมา จะเดินรถทางเดียวรอบๆอาคารนะครับ

ด้านหน้าขวามือปลูกต้นไม้เอาไว้ส่วนนึง เพื่อให้มีสีเขียวตัดกับสีเทาของอาคารบ้างจะได้ไม่ดูทึบจนเกินไป

วิ่งวนต่อมาเลี้ยวขวา จะเจอกับทางเข้าภายในอาคารส่วนของที่จอดรถ

ส่วนของที่จอดรถภายในอาคารจะเป็นลักษณะวิ่งสวนทางกันได้สองเลนแบบนี้ ค่อนข้างกว้างนะครับ มีไฟส่องสว่างบริเวณเพดานมาให้หลายจุด

พอขึ้นมาส่วนพื้นที่จอดรถแล้ว พื้นจะเป็นคอนกรีตขัดมัน มีลูกศรบอกทางเดินรถเอาไว้เห็นเด่นชัด

ช่องจอดทาสีเส้นแบ่งเอาไว้ และผนังด้านหลังเป็นช่องแสงและลมแบบนี้

ภายในส่วนที่จอดรถก็จะมีทางเชื่อมกับบันไดหนีไฟภายในอาคาร และก็บันไดทางขึ้นลงที่จะเชื่อมเข้าไปโถงลิฟท์เพื่อเข้าสู่ภายในอาคารได้

ทางเข้าโถงลิฟท์เพื่อเข้าสู่ภายในอาคารต้องใช้คีย์การ์ดของลูกบ้านแตะเพื่อเปิดเข้า-ออกนะครับ

ภายในโถงลิฟท์โดยสาร มีหน้าต่างช่องแสงขนาดใหญ่ และมีกล้อง CCTV ติดตั้งเอาไว้

กลับออกมาที่ทางเดินรถด้านนอกอาคารอีกครั้งนึ้ง โดยจุดนี้ทางจะลงระดับลงเป็นทางสโลป จะเห็นว่าผนังกำแพงรอบๆอาคารเป็นคอนกรีตทึบสูงประมาณ 2.5 เมตร แต่มีการปลูกแนวพุ่มไม้เอาไว้เพื่อให้ดูไม่อึดอัดจนเกินไป และมีไฟทางส่องสว่างเวลากลางคืน

ด้านท้ายโครงการทางซ้ายมีมีจุดที่เป็นสวนหย่อมเล็กอีกจุดนึง และเป็นที่ตั้งของศาลพระภูมิภายในโครงการ

วนต่อมาจะเจอกับทางเข้าที่จอดรถใต้อาคารชั้น 1 ซึ่งก็เป็นช่องจอดแบบปกติเหมือนกับชั้นบน แต่ทางขวามือจะเป็นส่วนของทางเข้า Service Lift

ทางเข้า Service Lift ต้องใช้คีย์การ์ดเหมือนกัน เข้ามาให้ดูด้านใน เอาไว้สำหรับขนของเฟอร์นิเจอร์เข้าไปในอาคาร จะได้ไม่ไปวุ่นวายกับลิฟท์โดยสารเลยแยกออกมาอยู่ด้านหลังแบบนี้

ที่ชั้นล่างนี้มีส่วนของที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ด้วย

วิ่งวนต่อมาตามทาง ก็สามารถจอดรถรอบอาคารและด้านใต้อาคารแบบนี้ได้ ทางขวามือที่เป็นห้องกระจกคือส่วนของ Lobby มองเงยหน้าไปที่ชั้น 2-3 ส่วนของที่จอดรถ มีการตกแต่ง Facade บริเวณที่จอดรถให้เป็นลวดลายผนังสีเทาแบบนี้ แต่แสงยังสามารถส่องเข้าไปในตัวอาคารได้เหมือนกัน

กลับมาถึงจุดที่เป็น Drop Off ที่วนมาให้ดูตอนแรกแล้วครับทางขวามือ ถ้าตรงไปก็จะถึงจุดทางออกแล้ว

ทีนี้เราเข้ามาที่ภายในตัวอาคารจากจุด Drop Off กันบ้าง โดยทางเดินนั้นมีบันไดทางเดินลงได้ปกติ หรือถ้าใครใช้รถเข็นมาก็มีทางลาดให้ใช้ได้ด้วยเช่นกัน ทางขวามือมีการปลูกต้นไม้บังสายตาเอาไว้จากที่จอดรถ

พอลงบันได้มาแล้วจะเจอกับยูนิตร้านค้า 3 ยูนิตที่ตอนนี้ทางโครงการยังไม่คอนเฟิร์มว่าเป็นร้านค้าอะไรนะ

เดินต่อเข้ามาจะเป็นส่วนของ Lobby ซึ่งมีขนาดกว้างเลยทีเดียว ภายในเป็นโทนสีสว่าง มีชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งเล่นเอาไว้สำหรับให้แขกนั่งรอได้หลายชุด

หน้าตาชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งเล่นจะเป็นแบบนี้ มีวางไว้ให้ประมาณ 4 จุดครับ

มองไปด้านข้าวงจะเห็นประตูอยู่ 3 บาน เราเริ่มจากทางซ้ายก่อน

  • บานซ้าย : เป็นส่วนทางเข้าไปยังห้อง Mail Box, Laundry Room, Toilet และประตูทางเข้าออกยังที่จอดรถใต้อาคารชั้นล่าง
  • บานกลาง : ห้องนิติบุคคล
  • บานขวา : ทางเข้าโถงลิฟท์โดยสาร

ห้อง Mail Box หน้าตาเรียบๆ แต่มีไฟส่องสว่างให้โอเค

Laundry Room ที่อยู่เยื้องกัน ทางโครงการวางเครื่องซักผ้าและตู้กดน้ำแบบหยอดเหรียญเอาไว้ให้

มีทางเข้าออกเชื่อมไปยังส่วนที่จอดรถใต้อาคาร โดยต้องใช้คีย์การ์ดนะครับ ทางซ้ายมือที่เห็นจะมีห้องน้ำให้ใช้แยกชายหญิง

ภายในห้องน้ำมาตรฐานมีให้ใช้อย่างละ 2 ชุด ครับ

กลับที่ประตูทางเข้าส่วนของโถงลิฟท์โดยสาร ต้องใช้ครีย์การ์ดเปิดปิดเช่นเดียวกัน

เข้ามาแล้วโถงทางเดินหน้าลิฟท์ค่อนข้างกว้างนะครับ อย่างที่บอกไว้ โครงการมีลิฟท์โดยสารให้ 2 ตัว ซึ่งอัตราส่วนการใช้งานคือ 138 : 1 ซึ่งถือว่าเยอะอยู่แต่ก็ยังพอรับได้ อาจจะต้องรอลิฟท์นานบ้างในช่วงเวลาเร่งด่วนที่คนใช้พร้อมกันเยอะๆครับ

ลิฟท์เป็นของ OTIS รับผู้โดยสารได้ประมาณ 13 คน หรือน้ำหนัก 1,000  กิโล

มาดูที่ชั้น 4 ซึ่งเป็นชั้น Facilities หลักกันบ้าง

ชั้นนี้มีห้องพักอาศัยปกตินะครับ มีจำนวนห้องพักอาศัยอยู่ที่ 21 ยูนิต แต่มีประตูทางออกไปภายนอกที่ใช้งานพื้นที่ส่วนกลางโดยต้องแตะคีย์การ์ดออกไป

พอออกมาแล้วทางซ้ายมือจะเจอกับห้อง Fitness ซึ่งมีเจาะหน้าต่างช่องแสงเอาไว้รอบด้าน โดยวางเครื่องออกกำลังกายเอาไว้แบบนี้เพื่อรับวิวสระได้

ส่วนด้านหลังผนังจะติดกระจกเงาเอาไว้ทำให้ห้องดูกว้าง และจะมีเครื่องเล่นอีก 2 ชิ้น รวมทั้งหมดแล้วจะมีเครื่องเล่นทั้งหมด 8 เครื่อง(รวมบาร์ดรัมเบล) ด้านบนจะเห็นว่าแอร์เป็นแบบฝังฝ้า

ออกมาด้านอก Outdoor จะเจอกับส่วนของสระว่ายน้ำ โดยพื้นที่ทางเดินรอบๆสระเป็นทรายล้างทำลวดลายเอาไว้

สระว่าายน้ำแยกสระเด็กขนาด 4.5 x 5.7 ลึก 90 ซม. เอาไว้

ส่วนของสระผู้ใหญ่ที่อยู่ติดกัน เป็นระบบคลอลีน ขนาด 8 x 18 เมตร ลึกประมาณ 1.2 เมตร รอบๆขอบสระติดตั้งกระจกนิรภัยเอาไว้อีกขั้น

ด้านข้างๆสระมีวางชุดโต๊ะเก้าอี้เอาไว้ให้ประมาณ 4-5 ชุด

ตรงส่วนนี้เป็นระเบียงของห้องพักอาศัย ซึ่งโครงการเค้ากั้นส่วนบังสายตาเอาไว้ด้วยไม้ระแนงแลัปลูกต้นไม้อีกชั้น เพื่อความเป็นส่วนตัวไม่ให้มองเข้าไปข้างในได้

ห้อง Play Room ที่อยู่ด้านข้าง ภายในตกแต่งเป็นห้องเด็กเล่น ที่มีอุปกรณ์เอาไว้ให้นิดหน่อย

ด้านข้างติดกันเป็นส่วนของห้องอาบน้ำแต่งตัวมีแยกชายหญิงครับ

ทีนี้ลองขึ้นมาดูที่ชั้น 14 บ้าง อย่างที่บอกไปว่าตัวอาคารนั้นเป็นรูปตัว S จะมีทางเดินบางส่วนที่มีช่องแสงเป็น Single Corridor แบบนี้ ทำให้แสงส่องเข้ามาที่ทางเดินได้มาก ตรงจุดนี้กลางวันไม่ต้องเปิดไฟเลย

แต่ส่วนแกนทางเดินที่เป็นห้องพักทั้งสองฝั่งจะค่อนข้างยาวหน่อย และช่องแสงจะอยู่สุดปลายทางเดินพอดี คิดว่าอาจจะต้องเปิดไฟช่วยเป็นเวลา

อันนี้เป็นทางเข้าส่วนของ Service ลิฟท์ระหว่างชั้น ซึ่งก็อยู่ปลายอาคารฝั่งทิศใต้ ด้านหน้าทางเข้ามีหน้าต่างช่องแสงอยู่ติดกัน

หน้าตาของประตูห้องเป็นบาน MDF สีขาว บานประตูมีลวดลายเส้นตกแต่ง มือจับเป็นแบบก้านโยกมีตัวล็อกด้านล่าง ติดตั้งตาแมวมาให้ และป้ายเลขที่บ้านด้านข้างแบบนี้มาตรฐาน

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบคลอลีน ขนาด 8 x 18 เมตร ลึกประมาณ 1.2 เมตร แบ่งสระเด็ก 4.5 x 5.7 เมตร ลึก 90 ซม.
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องขนาดปานกลาง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 8 เครื่อง(รวมบาร์ดรัมเบล)
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • Laundry Room / Mail Box / Lobby / Play Room
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว / Service Lift 1 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 138 :  1
  • ที่จอดรถประมาณ 133 คันคิดเป็น 48% รวมจอดซ้อนคัน 166 คิดเป็น 60%
  • ระบบ CCTV / Access Card

 


Product Walkthrough

plan-1B-J

ห้องตัวอย่างของโครงการนี้มีให้ดูได้แค่แบบเดียวนะครับ คือแบบที่มีเยอะสุด แบบ 1B-J เป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 35.50 ตารางเมตร  รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.42 เมตร โดยเข้ามาในห้องจะเจอกับ Dinning & Kitchen อยู่ที่ส่วนหน้า และเชื่อมต่อกันเป็น Living Area ที่วางชุดโซฟาและชั้นวางทีวี และสามารถออกไปยังระเบียงได้ โดยมีการวางคอมแอร์แขวนเอาไว้ด้านบน ด้านข้างส่วนที่ติดกับครัวมีห้องน้ำที่แยกฟังก์ชั่นส่วนแห้งและส่วนเปียกเอาไว้ การจัดผังห้องให้ห้องน้ำอยู่ส่วนด้านในของอาคาร คือไม่มีช่องระบายอากาศ ทำให้ต้องพึ่งพาระบบของอาคารล้วนๆ และมีห้องนอนอยู่ติดกันไม่มีระเบียงในตัวนะครับ

โครงการขายแบบ Fully Fitted โดยสิ่งที่ได้จะมี Pantry ครัว, Hob&Hood, แอร์ 1 ตัวในห้องนอน และ เครื่องทำน้ำอุ่นของ Mex

เข้ามาในห้องจะเจอกับ Dinning Area อยู่ที่ส่วนหน้า มองต่อไปจะเชื่อมต่อกับโซน Living ซึ่งห้องปูพื้นด้วยกระเบื้องเคลือบไซส์ 40 cm. ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.42 เมตร โคมไฟได้แบบดาวน์ไลท์

ลองเทียบกับห้องมาตรฐานให้ดูครับ แต่มุมนี้ผมจะถอยออกมาไกลกว่ารูปในห้องตัวอย่าง เลยดูเล็กๆกว่าหน่อย ทางขวาจะเห็นประตูห้องน้ำและติดกันเป็นห้องนอน

มองย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้า ช่องผนังทางขวาของจริงจะเป็นผนังทึบนะครับ (อันนี้ถ่ายจากห้องตัวอย่างที่สำนักงานขาย) ให้ดูไอเดียในการตกแต่งฟังก์ชั่นภายในห้องครับ

ประตูนอกจากตัวล็อกมาตรฐานแล้วยังมีตัวคล้องโซ่กันมาให้อีกชิ้นนึงครับ

พื้นที่ด้านข้างโต๊ะรับประทานอาหารทางซ้ายมือของจริงจะโล่งนะครับ คิดว่าเราควรจะ Built-In เป็นชั้นเก็บรองเท้าหรือเก็บของใช้อเนกประสงค์เอาไว้ที่จุดนี้แหละ

โต๊ะทานอาหาร วางแบบ 2 ที่นั่งเอาวไ้ มีระยะพื้นที่ดึงออกมาใช้งานได้ไม่ติดกับโซฟา

โซนถัดไปที่ติดกันเป็น Living Area ซึ่งมีระยะดูทีวีประมาณ 1.5 เมตร ซึ่งระยะขนาดนี้ไม่ต้องหาทีวีใหญ่มากก็ได้ ไม่งั้นมันจะพ้นขอบเขตของสายตาเรา ระยะขนาดนี้เลือกทีวีไซส์ประมาณ 40 นิ้วก็พอแล้วครับกำลังดี

พื้นที่วางโซฟา สามารถวางแบบ 2 ที่นั่งได้ แต่จะไม่สามารถวางโต๊ะข้างได้นะครับ

ลองนั่งให้ดูจะเห็นว่าเวลาดูทีวีจะประมาณนี้ พื้นที่ชั้นวางทีวีสามารถ Built-In หรือเลือกชั้นวางแบบลอยตัวได้ตามใจชอบเลย

ด้านบนมีพื้นที่เหลือ สามารถเป็นตำแหน่งติดตั้งแอร์ได้ และชั้นวางนี่เราจะเลือกติดเองเป็นแบบเปิดโล่งหรือมีหน้าบานก็แล้วแต่ชอบเลยครับ มีพื้นที่ให้ใช้สอยติดตั้งเองตามใจ

ช่องแสงที่ติดกับเป็นประตูทางออกไปยังระเบียง ความสูงประมาณ 2 เมตร ซึ่งวงกบเป็นอลูมิเนียมอบขาว และกระจกใสธรรมดา

ตัวมือจับและล็อกเป็นแบบเซาะร่องแบบนี้ครับ มีการซีลสักหลาดเก็บเสียงเอาไว้ให้

โดยพื้นที่ระเบียงจะลดระดับพื้นลงไปประมาณ 5 ซม.

อันนี้เป็นพื้นที่ระเบียงจากห้องตัวอย่างนะครับ กว้างประมาณ 1.4 เมตร เดี๋ยวไปดูของจริงรูปถัดไปดีกว่า

อันนี้เป็นพื้นที่ระเบียงจากห้องของจริงมาตรฐานครับ พื้นปูด้วยกระเบื้องสลับกับทรายล้าง

พื้นที่ตรงนี้สามารถวางเครื่องซักผ้าได้ โดยโครงการวางท่อน้ำดีและติดตั้งก๊อกน้ำเอาไว้ให้แล้ว ราวเหล็กกันตกเป็นโครงเหล็กพ่นสีดำธรรมดาความสูงอยู่ที่ประมาณ 1.1 เมตร

ด้านบนมีการติดตั้งคอมแอร์แขวนเอาไว้ แนะนำให้ไปหาซื้อกริลล์หันลมร้อนบังคับทิศออกไปด้านนอกอาคารเองเลยครับ ส่วนระเบียงจะได้เป็นโคมไฟซาลาเปานะครับ

มองย้อนกลับไปในห้องจากมุมมองระเบียง เดี๋ยวไปดูโซนครัวกันต่อ

มาถึงโซนครัวกันบ้างชุด Pantry ครัวนี่เราได้ตามนี้เลยครับ ซึ่งด้านข้างทางขวาจะเหลือพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น

หน้าตาชุดครัวจากห้องมาตรฐานครับ

ด้านบนมีชุดตู้และชั้นวางแบบเปิดโล่งมาให้ 2 ตอน

ครัวนี่เราได้ Hob&Hood ของ Mex มาด้วยนะครับ โดยท็อปครัวจะเคลือบเมลามีน แต่ผนังไม่ได้ติดกระเบื้องเอาไว้ให้ แนะนำให้ไปหาติดเพิ่มเองเลยครับ จะเป็นกระเบื้องโมเสคหรือกระจกก้ได้ เพิ่มความสวยงามและก็ทำความสะอาดง่ายด้วย

อ่างล้างจานทั่วไป ขนาดไม่ใหญ่มาก

ด้านล่างมีช่องวางไมโครเวฟอยู่ตรงกลาง และด้านข้างทั้งสองฝั่งสามารถเก็บของใช้สำหรับงานครัวได้

ติดกันกับครัวจะเป็นทางเข้าห้องน้ำ ซึ่งบานประตูของจริงจะเป็นพลาสติกนะครับ

เข้ามาในห้องน้ำแล้วจะเจอกับส่วนของอ่างล้างมือ และก็โถสุขภัณฑ์ก่อน ผนังของห้องน้ำกรุกระเบื้องเอาไว้รอบๆ พื้นของห้องน้ำลดระดับพื้นลงมาจากห้องโถงประมาณ 3 ซม.

ผนังติดกระจกเงาและชั้นวางของหน้าตาเช่นนี้เอาไว้ให้

อ่างล้างมือและสุขภัณฑ์จะได้ของ American Standard โดยไม่มีเคาน์เตอร์รอบๆและชุดตู้ใต้อ่าง

ระยะห่างของสุขภัณฑ์กับผนังด้านของเวลาหยิบใช้งานมาตรฐาน

ด้านข้างส่วนของพื้นที่อาบน้ำ แยกเป็นส่วนเปียกเอาไว้ กั้นฉากก่อผนังและกระจกเอาไว้ให้ครึ่งเดียว โดยเวลาเดินเข้าออกจะมีส่วนของ ธรณีก่อขึ้นมาประมาณ 10 ซม.

พื้นที่อาบน้ำระยะประมาณ 0.8 x 1.2 เมตร

ชุดฝักบัวของ AME เช่นเดียวกัน มีติดที่วางสบู่ก่อนมาให้อย่างเดียว

หน้าตาของฝักบัวค่อนข้างดูดี สามารถปรับรูปแบบน้ำได้ และเราได้เครื่องทำน้ำอุ่นของ MEX ด้วย

ในห้องน้ำมีโคมไฟดาวน์ไลท์สองจุด และก็พัดลมดูดอากาศระบายความชื้นออกไปนอกระเบียง

มาดูต่อในส่วนของห้องนอนที่อยู่ติดกับห้องน้ำบ้าง ห้องตัวอย่างวางเตียงขนาดควีนไซส์เอาไว้ ซึ่งระยะทางเดินปลายเตียงจะเหลือประมาณ 60 ซม. คงไม่สามารถวางชั้นวางอะไรได้ แต่ถ้าชอบนอนดูทีวีก็สามารถเอาทีวีแขวนผนังได้นะครับ

พื้นที่ด้านข้างเตียงฝั่งซ้ายที่ติดกับช่องแสง สามารถทำเป็นโต๊ะทำงานอ่านหนังสือแบบนี้ได้ มีความกว้างเหลือประมาณ 1.2 เมตร

ถ้าเราเลือกหัวเตียงแบบที่มีชั้นวางแบบนี้ก็สามารถเป็นชั้นวางของใช้ไปในตัวได้ครับ โดยถ้าใครอยากใช้พื้นที่ใช้สอยแบบคุ้มๆ ก็ติดตั้งชั้นวางเพิ่มที่ผนังหัวเตียงได้

พื้นที่ด้านข้างเตียงฝั่งขวา เหลือแค่พอทางเดินและแค่เปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบใช้ได้ปกติ

ถ้า Built ตู้เสื้อผ้าก็ทำได้แบบ 3 ตอนประมาณนี้ครับ

หน้าต่างช่องแสงส่วนของห้องนอนจะเป็นแบบ 3 ตอน ซึ่งบานกลางจะฟิคเปิดไม่ได้นะครับ

ลองเปิดออกให้ดูบานซ้ายและขวา เป็นแบบกระทุ้งออก หันฉากตั้งตรงได้ 90 องศาแบบนี้

หน้าตาสวิทช์และปลั๊กไฟในห้องเป็นแบบนี้ของ Bticino

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 12 May 2016

  • 1 Bed Type 1B-H ชั้น 10 ห้อง 1023 เนื้อที่ 44.50 ตร.ม. ราคา 3.055 ล้านบาท หรือ 68,652 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bed Type 1B-D ชั้น 13 ห้อง 1302 เนื้อที่ 33.38 ตร.ม. ราคา 2.35 ล้านบาท หรือ 70,404 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bed Type 1B-H ชั้น 14 ห้อง 1423 เนื้อที่ 44.50 ตร.ม. ราคา 3.233 ล้านบาท หรือ 72,652 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bed Type 1B-E ชั้น 15 ห้อง 1501 เนื้อที่ 35.96 ตร.ม. ราคา 2.611 ล้านบาท หรือ 72,619 บาท/ตร.ม.

  • Fully Fitted (แอร์ 1 ตัวที่ห้องนอน)
  • ฝ้าเพดานสูง 2.42 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 10,000 บาท พร้อมโอนกรรมสิทธิ์
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.ม./เดือน ชำระล่วงหน้า 12 เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

โครงการ Silk Place พหลโยธิน-หลักสี่ ตั้งอยู่ริมถนนใหญ่พหลโยธินขาเข้า ก่อนถึงซอยพหลโยธิน 57 โดยถนนพหลโยธินนั้นยาวมาตั้งแต่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขึ้นเหนือไปเรื่อยผ่านปทุมธานี ทำให้การเข้าถึงโครงการสามารถเข้าได้จากถนนหลายสายทั้งที่ตัดผ่านและบรรจบ ตั้งแต่ถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้าและขาออก มีสะพาน U-turn ให้เลือกกลับรถเยอะ หรือจะเป็นถนนแจ้งวัฒนะที่มาจากทางนนทบุรีที่เป็นพื้นที่รองรับการขยายเมืองอย่างศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และห้างสรรพสินค้าต่างๆสองข้างริมถนนใหญ่ รวมถึงอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญที่เป็นวงเวียนและสะพานข้ามแยกของถนนพหลโยธิน, ถนนแจ้งวัฒนะและถนนรามอินทรามุ่งหน้ามีนบุรี ส่วนทางเหนือเป็นถนนสายไหม ลำลูกกา ที่มีบ้านจัดสรรแนวราบเปิดอยู่หลายโครงการ ภายในบริเวณไม่เกิน 10 กิโลเมตรก็จะมีมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่หลายแห่ง, โรงเรียน,วัด, เขตทหาร รวมไปถึงสนามบินดอนเมือง

ซึ่งถ้าเรามองในแง่คนที่อาศัยอยู่ภายในพื้นที่อยู่แล้วหรือทำงานประจำอยู่แถบวิภาวดี-นนทบุรี-มีนบุรี จะถือว่าอยู่ในตำแหน่งที่ความสะดวก แต่ปริมาณรถในช่วงเช้า-เย็น ช่วงเข้างานและหลังเลิกงานก็จะมีปริมาณมาก เนื่องจากถนนพหลโยธินนั้นผ่านตั้งแต่พื้นที่ในเมือง ลาดพร้าว และขึ้นไปยังพื้นที่ที่อยู่อาศัย รวมถึงขนานกับเส้นวิภาวดีรังสิตที่เป็นถนนเส้นหลัก รวมถึงมีศูนย์ราชการ และสถานที่ราชการอยู่ไม่ไกล ทำให้การเดินทางในบางช่วงเวลาอาจใช้เวลานานกว่าที่คิด แต่ล่าสุดจะถนนตัดใหม่ เส้นพหลโยธิน-รัตนโกสินทร์สมโภชได้สร้างเสร็จ และเปิดให้ใช้เรียบร้อยแล้ว เป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถนนพหลโยธินไปทางตะวันออกถึงแยกวัชรพล-สุขาภิบาล 5 ที่ใกล้กับทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์

พื้นที่ชานเมืองตอนเหนือของกรุงเทพ ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบทั้งที่จัดสรรและไม่จัดสรร ปะปนกับสิ่งปลูกสร้างที่เกื้อกูลในการใช้ชีวิตประจำวัน อย่างใกล้ๆโครงการบนถนนพหลโยธินขาออกมีตลาดยิ่งเจริญที่เป็นตลาดสดขนาดใหญ่ เปิดขายตั้งแต่เช้าถึงเย็น รวมไปถึง Tesco Lotus และ BigC Supercenter ที่อยู่ไม่ไกลนัก และมีโรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัลอยู่ใกล้ๆกัน บนสองฝั่งของถนนส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์สูง 4-5 ชั้น โดยชั้นล่างสุดเปิดเป็นร้านอาหาร และร้านค้าต่างๆที่ง่ายต่อการซื้อ-ขาย ในซอยก็จะมีทั้งซอยตันและซอยที่ตัดผ่านเข้าไปด้านในเป็นชุมชนบ้านเดี่ยวมีเปิดเป็นบริษัทเล็กๆบ้างนิดหน่อย รวมถึงหอพัก และอพาร์ตเมนท์หลังไม่ใหญ่ โดยรวมย่านนี้เป็นย่านค้าขายที่ค่อนข้างคึกคักเป็นที่รู้กันของคนแถวนี้ครับ

การเดินทางโดยใช้รถ อย่างที่บอกไปตอนต้นถือว่าสะดวก เพราะอยู่ใกล้กับถนนหลักทั้งสี่สาย ส่วนทางด่วนที่ใกล้ที่สุดคือ ทางยกระดับอุตรภิมุข(ดอนเมืองโทลล์เวย์) ที่ถ้าเข้าเมืองแค่เลี้ยวเข้าถนนวิภาวดีรังสิตก็เจอเลย ส่วนถ้าออกเมืองให้ไปกลับรถแถวหน้าทีโอทีก่อนถึงศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ แล้วกลับเข้ามาวิภาวดีรังสิตอีกครั้งก็เจอทางขึ้นฝั่งออกเมืองเลย

ส่วนในเรื่องของระบบขนส่งสาธารณะในอนาคตก็จะมีสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อขยายช่วงห้าแยกลาดพร้าว หมอชิต-คูคต โดยมีสถานีวัดพระศรีมหาธาตุและสถานีวงเวียนหลักสี่เป็นสถานี Interchange ที่เดินเชื่อมต่อกันได้ แต่ไม่ได้ใช้ตัวสถานีเดียวกัน สถานีที่ใกล้โครงการมากที่สุดคือสถานีอนุสาวรีย์หลักสี่ ที่เป็นสถานีต่อจากสถานี Interchange ภายในอีก 5 ปีข้างหน้า เราคงจะเร่ิมเห็นการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ไปในทางที่ดีขึ้น และเข้าถึงง่ายมาขึ้น แต่สถานการณ์ปัจจุบันที่ยังไม่มีสถานีรถไฟฟ้าใดๆในระยะ 5 กิโลเมตร เราก็ยังคงจะต้องพึ่งพารถตู้บนถนนวิภาวดีรังสิต ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนพหลโยธิน รวมถึงรถเมล์ แท๊กซี่ และพี่วินที่สามารถเรียกได้ตามถนนใหญ่หน้าโครงการ และมีสะพานลอยอยู่บนถนนพหลโยธินไม่เกิน 200 เมตร (บริเวณหน้า Tesco Lotus)

วัสดุอุปกรณ์ของที่ให้มา ถือว่าได้ของดีเกินราคาสำหรับลูกบ้านที่ซื้อตั้งแต่ตอนเปิดตัวนะครับ แต่สำหรับใครที่ซื้อในราคาปัจจุบัน ก็ถือว่าได้ของตามมาตรฐานราคานี้ ยิ่งถ้าเทียบโครงการที่เปิดใหม่ในช่วงนี้แล้วถือว่า ได้ของคุ้มค่าแล้วครับ

วัสดุภายในห้องได้มาตามราคานะครับ ด้วยราคาต่อตร.ม. ที่เริ่มต้น 66,700 บาท  โครงการขายแบบ Fully Fitted พื้นห้องได้เป็นกระเบื้องเคลือบไซส์ 40 cm. ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.42 เมตร โคมไฟดาวน์ไลท์ ได้ Pantry ครัว และ Hob&Hood ของ Mex  โดยที่ห้องน้ำอุปกรณ์ในห้องน้ำทั้งหมดเป็นของ American Standard แยกส่วนเปียกกั้นฉากเอาไว้ให้ครึ่งนึง แอร์ได้ 1 ตัวในห้องนอนครับ โดยรวมถือว่าให้มาเยอะระดับนึง แต่สเป็คบางอย่างก็ยังดูด้อยไปนิดอย่างพื้นและก็วงกบหน้าต่างเป็นต้น

ออกแบบตัวอาคารเป็นรูปตัว S หันอาคารขวางกับถนนพหลโยธิน ทำให้ได้รับวิวเป็นฝั่งทิศเหนือรับวิวไปทางสายหยุด-สะพานใหม่ และ ฝั่งทิศใต้รับวิวแยกรามอินทรา ตัวอาคารใช้โทนสีขาว-เทาเข้ม ตัดแนวเส้นสีเหลืองตกแต่ง วนรถทางเดียวรอบๆอาคาร ชั้น 1-3 เป็นชั้นจอดรถล้วนๆ เร่ิมมีส่วนของห้องพักที่ชั้น 4 โดยชั้น 4 จะมีห้องพักอยู่ 21 ยูนิต นอกนั้นเป็นพื้นที่ส่วนกลางได้แก่ สระว่ายน้ำ, Fitness, Play House เป็นต้น ตั้งแต่ชั้น 5 ขึ้นไปจนถึงชั้น 15 จะเป็นชั้นที่มีแต่ห้องพักล้วน เป็น Typical Floor มีจำนวนหนาแน่นอยู่ที่ 23 ยูนิต  การออกแบบห้องทำออกมาค่อนข้างมาตรฐาน เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในห้องเป็นหลัก

สาธารณูปโภคส่วนกลาง มีมาให้ที่ชั้น 1 และ ชั้น 4 โดยที่ชั้น 1 จะมีร้านค้า 3 ยูนิต หลังจากนั้นเจอ Lobby ที่เชื่อมต่อกับห้อง Mail Box, Laundry Room, ห้องนิติบุคคล  และที่ชั้น 4 เป็นพื้นที่ของ Facilities หลักได้แก่ Swimming Pool ระบบคลอลีน ขนาด 8 x 18 เมตร ลึกประมาณ 1.2 เมตร แยกสระเด็กขนาด 4.5 x 5.7 ลึก 90 ซม. และมีพื้นที่นั่งรอบสระว่ายน้ำ และมีห้อง Fitness ขนาดปานกลางวางเครื่องออกกำลังกายเอาไว้ 8 เครื่อง(รวมบาร์ดรัมเบล) และห้อง Play Room ที่จัดเป็นห้องเด็กเล่นครับ โดยที่จอดรถมีช่องจอดประมาณ 133 คันคิดเป็น 48% รวมจอดซ้อนคัน 166 คิดเป็น 60%  ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว จะอยู่ใจกลางของอาคาร ส่วนลิฟท์ Service 1 ตัว จะอยู่ด้านหลัง ทั้งอาคารจะมีบันไดหนีไฟทั้งหมด 2 จุด อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 138 : 1 ซึ่งถือว่าเยอะอยู่แต่ก็ยังพอรับได้ อาจจะต้องรอลิฟท์นานบ้างในช่วงเวลาเร่งด่วนที่คนใช้พร้อมกันเยอะๆครับ

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา(ราคาเฉลี่ยโครงการ) 70,000 บาท/ตร.ม., 12 May 2016

  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – มีมาให้ใช้มาตรฐาน สวนหย่อมนิดหน่อย Laundry, Play Room, Fitness และสระว่ายน้ำแยกสระเด็ก อัตราส่วนลิฟท์ 138:1
  • แบบ 7.5/10 – ลักษณะที่ดินบังคับให้ออกแบบตึกเป็นแนวยาว ทำให้จำนวนห้องต่อชั้นหนาแน่นนิดนึง แต่ห้องออกแบบมาให้ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่า
  • วัสดุ 7.75/10 – Fully Fitted ได้ชุดครัว Hob&Hood, แอร์ที่ห้องนอน, เครื่องทำน้ำอุ่น แต่วัสดุในห้องบางอย่างธรรมดามีดีสลับปะปนกัน
  • ไม่ใช้รถ เมื่อรถไฟฟ้าเปิดให้บริการ 8.25/10 – ใกล้รถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย สถานีอนุสาวรีย์หลักสี่
  • ไม่ใช้รถ ณ ปัจจุบันที่ยังไม่มีรถไฟฟ้า 7.75/10 – ติดถนนใหญ่ในจุดที่เรียกรถง่ายมาก ปลอดภัยและไม่เปลี่ยว
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – ติดถนนพหลโยธิน ยูเทิร์นไม่ไกล เดินทางสะดวกมากยกเว้นช่วงเวลารถติด ได้ที่จอดรถโอเคหน่อย 60% รวมซ้อนคัน
  • ทำเล 7.75/10 – ทำเลติดถนนใหญ่ ใกล้ห้างต่างๆ มีเดินทั้งเดินไปและขับรถไปได้ อนาคตใกล้สถานีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย

  • ECONOMY-MAIN CLASS
  • 7.70 / 10.00 คะแนน ณ ปัจจุบันที่ยังไม่มีรถไฟฟ้า
  • 7.77 / 10.00 คะแนน เมื่อรถไฟฟ้าเปิดให้บริการ

 

BOTTOM LINE

Silk Place พหลโยธิน-หลักสี่ เหมาะกับคนวัยทำงานที่อยู่อาศัยในย่านนี้ ที่มีสถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ และสถานศึกษาอยู่หลายแห่ง ด้วยตัวราคาสามารถหยิบจับต้องได้ง่าย และคาดหวังจะใช้รถไฟฟ้าเป็นหลักในอนาคต มีงบประมาณระดับ 2.1 – 3.5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 14,700 – 24,500 บาท/เดือน