รีวิวฉบับที่ 85 … SARI by Sansiri เป็นโปรเจคที่ทีมงานเราเข้าไปลุยมาตั้งแต่โครงการยังไม่เปิด จนปัจจุบันสำนักงานขายเปิดเรียบร้อยและกำลังจะเปิด Pre-sales ในวันที่ 28 – 29 มกราคม 2555 ซึ่งทาง Think of Living ก็คงจะไม่พลาดที่จะแวะเข้าไปนะครับ
Fact @ 22 January 2012
- SARI by Sansiri
- Sansiri, Plc.
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด 8 ชั้น Low Rise 2 ตึก 192 ยูนิต
- ที่ดินประมาณ 2-0-30 ไร่
- Studio, 1 Bedroom – 2 Bedrooms
- พื้นที่ใช้สอย 33.5 – 77 ตารางเมตร
- ราคาเริ่มต้น 2.5 ล้านบาท (ต้นปี 2012)
- ราคาต่อตารางเมตรเฉลี่ย 80,000 บาท
- www.sansiri.com
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS ปุณณวิถีได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS ปุณณวิถี (E11)
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
ปุณณวิถีเป็นสถานีรถไฟฟ้าถัดจากอ่อนนุชไป 2 สถานี ซึ่งเป็นสถานีส่วนต่อขยายถนนสุขุมวิทที่เปิดให้บริการในปลายปี 2554 … ซอยสุขุมวิท 64 เป็นซอยที่มีทางลัดไปยังสุขุมวิท 62 สามารถขึ้นลงทางด่วนได้ แต่เป็นซอยแคบๆบางจังหวะรถผ่านได้ทางเดียว
SARI by Sansiri ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 64 ระยะทางห่างจากสถานีรถไฟฟ้าประมาณ 200 เมตร แปลงสีแดงๆก็คือทำเลคอนโดมิเนียม
นี่เป็นภาพที่ผมขับรถมาจากอ่อนนุช วิ่งตรงมายังสถานีปุณณวิถี เหมือนว่าจะใกล้แต่ก็ไม่ใกล้เท่าไร (ประมาณ 2 กิโลเมตร) แต่รถไม่ติดก็ใช้ได้
ขับไปด้านหน้าจะเห็นตึก 400-500 ยูนิตเป็น High Rise ของ Land & Houses ที่ชื่อว่า The Room สุขุมวิท 62 … ตึกนี้เราทำรีวิวกันไปแล้ว
ตรงสถานีพอดี ผมก็เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 64 เข้ามา สภาพซอยดูค่อนข้างโอเคคือสะอาดและกว้างพอที่จะขับรถวิ่งสวนกันสบายๆ
เข้ามาลึกประมาณ 100 เมตร
เข้ามา 200 เมตรก็จะเห็นตึกสำนักงานขายของ SARI … ถ้าผู้หญิงกลับบ้านดึกๆผมไม่แนะนำให้เดินนะครับ ซอยนี้เปลี่ยวเอาเรื่อง เพราะไม่มีร้านรวงที่เป็นร้านค้าเป็นสองข้างทางเลย เหมือนจะเป็น Residential Zone ล้วนๆที่เหมาะกับการใช้รถมากกว่า
สำนักงานขายหน้าตาเป็นแบบนี้
ขอบเขตของที่ดิน ทางขวาก็คือโซนก่อสร้าง
ด้านหน้าปากซอยตรงข้ามที่น่าจะเป็นสำนักงานของ Hafele
พอเดินเข้ามาในที่ดินก็ไม่พบสิ่งใดๆที่จะบังวิวเราได้ ตึกไกลๆทางด้านขวาคือ The Room สุขุมวิท 62
ถ่ายวิวให้ดูอีกภาพจะพบว่าวิวเปิด ตึกแถวสูงที่สุดก็คือ 4 ชั้น รวมต่อเติมบนดาดฟ้าอีกหน่อยนึง
มองไปอีกด้าน
สภาพซอยเวลามองกลับไปด้านหน้าปากซอย ยังดีที่เห็นถนนอยู่ลิบๆ หน้าปากซอยมีการล้อมรั้วสร้างโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์อยู่ … ดังนั้น! ตรงนี้จะมี Demand การพักอาศัยของ International Family นะครับ 😀 … รอโรงเรียนเสร็จไปก่อนนะ
ลึกเข้าไปในซอยอีกนิดเป็นโครงการ The Link ของ Tararom Estate
อย่างที่บอกถ้าจะวิ่งไปทะลุซอย 62 จะต้องผ่านซอยแคบๆที่มีคนเอารถมาจอดกันเยอะแยะ วิ่งได้ช่องเดียวแถมยังมีรถก่อสร้างอีก … ไม่ไหว วิ่งถนนใหญ่เหอะครับ
เห็นไหมครับรถจอดกันกระจายมากๆ
เจาะลึกตัวสินค้า
ข้อมูลเบื้องต้นของ SARI ก็มีดังภาพด้านบน เป็นโครงการเล็กๆอยู่ในที่สงบส่วนตัว ไม่ถึง 200 ยูนิต ตึก Low Rise ที่อยู่กันสบายๆกับคอนเซปท์ Sunny โดยที่มี สระว่ายน้ำ, Fitness และสวนสาธารณะ โดยชั้นบนสุดที่เป็น Facilities ก็มี Wifi ให้ใช้ฟรี
เราเดินเข้าสำนักงานขายกันแล้ว
โครงการแบ่งเป็นสองตึกคือ Tower A และ Tower B ซึ่งตึก A เป็นรูปทรง สี่เหลี่ยมสวย มีสระว่ายน้ำบนดาดฟ้า ตึก B เป็นทรงรูปตัว I
ทิศทั้งสองตึกหันเฉียงๆ อยู่ตรงกลางระหว่างตะวันออกเฉียงใต้และตะวันตกเฉียงเหนือ ดังนั้นแดดจะเข้าทุกด้าน แต่ไม่มาก … เฉลี่ยๆกันไปทุกด้านนะครับ ส่วนทิศตะวันตกเฉียงเเหนือจะหนักหน่อยในช่วงบางเดือนของปี
ชั้นบนสุดของตึก A มีสระว่ายน้ำวางเต็มกรอบอาคาร ข้างสระมี Pool Deck
ตึก B ไม่มีสระมีแต่สวน
เมื่อวางตึกอย่างนี้ก็จะพบว่ามีส่วนหนึ่งบังแดด (และวิว) ซึ่งกันและกันในทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ตึก A จะมีห้องพักตั้งแต่ชั้น 2 เป็นต้นไปโดยชั้น 2 จะมีแค่ส่วนที่ถูกตึก B บัง
การออกแบบตึก A เป็นสี่เหลี่ยมเจาะรูตรงกลาง ซึ่งบริเวณพื้นใกล้ๆลิฟท์มีการทำช่องเปิดจากชั้นบนเจาะทะลุลงไปถึงชั้น 2 ให้เป็นช่อง “แสงแดด” ที่ส่องลงไปในตัวอาคาร ตรงกับ Concept ของ Sunny ที่หยิบยกมาพูดในเรื่องการตลาด
ชั้นนี้มี Fitness ด้วย ดังนั้นเมื่อ Facility ทุกอย่างมารวมๆกันอยู่ที่ตึก A … ก็เลือกตึกนี้แหละครับ แล้วค่อยไปเอาตึก B
ซึ่งแน่นอนว่าตึก B (ภาพข้างบน) ต้องซอยห้องเล็กกว่าและตั้งราคาต่อตารางเมตรต่ำกว่าตึก A เรียกว่าคุ้มงั้นเถอะ … สำหรับคนที่อยากได้ห้องแต่ไม่สนใจ Facility มาก
หลังคาของ อาคาร A มีครบเครื่อง ส่วนอาคาร B มีแต่สวน … ข้อดีก็คือสวนใหญ่นะ
Deck ออกแบบได้สวยมาก Sansiri เจ้าแม่การทำดีไซน์อยู่แล้ว
สระน้ำล้นทำแล้วดูออกมาหรูหรา มีการปลูกต้นไม้รอบๆด้วย … คาดว่าไม่ใช่ต้นกกนะ (ฮา)
นี่เป็นชั้น Ground … มี Lobby ที่ขนาดใหญ่ต่างกัน 3 เท่า ทำไมตึก B มันเป็นลูกเมียน้อยหรืออย่างไร
สิ่งอำนวยความสะดวก
- ห้องออกกำลังกาย
- สระว่ายน้ำ
- ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว, 2 ตัวต่อ 1 ตึก
- สวนชั้นล่างและบนสุด
- Lobby ใหญ่ 1 เล็ก 1
- ที่จอดรถ 70%
- ระบบ CCTV / Access Card
Product Walkthrough
ห้องตัวอย่างแต่ได้หรูหราตามเคย เป็นห้องขนาด 35 ตารางเมตร
ผนังมี Wall Paper เลือกลายได้หรูกว่าราคา (2.5 ล้าน) มาก
โซฟาและห้องรับแขกกว้างพอที่จะวางโต๊ะสองตัว โซฟานั่งกว้างๆสบายๆ แถมยังวางเก้าอี้ฝั่งโน้นได้อีกตัว
ห้องนอนใช้บานสไลด์กั้น เปิดปิดเพิ่มพื้นที่ได้ตามต้องการ
ปิดแล้วจะออกมาเป็นแบบนี้
มองกลับไป ห้องตัวอย่างเค้าแต่ผนังด้วยลายไม้แฮะ
ห้องนอนทำออกมาได้โอเคนะครับ
หน้าต่างบานใหญ่พร้อมรับแสง
มีการทำโต๊ะหนังสือด้วย
เดินผ่านช่องนี้เข้าไปก็จะเป็นครัว ใครอยากทำครัวปิดก็ทำได้
ท๊อปเป็นหินสังเคราะห์ ซิงก์ทำได้ดี เตาใช้แบบฝัง สวยงามๆ
เครื่องดูดควัน Hafele
เตาก็ Hafele … แน่ละสิ เมื่อกี้เห็นป้ายแว๊บๆข้างๆแปลงที่ดินนะ
ก๊อกสวย ชอบๆ มีดีไซน์
ระเบียงมีการเล่นขอบนิดหน่อย แต่ปูกระเบื้องแผ่นเล็กไป
กรอบวงกบอลูมิเนียมอบขาว
พื้นเป็น Laminate และแกรนิตโต้ 60×60
มองผ่านห้องครัวที่ใช้พื้นแกรนิตโต้ไปยังห้องนั่งเล่น ถ้าจะปิดบานเลื่อนเวลาผัดโน่นนี่ ก็ปิดได้
เข้ามาดูห้องน้ำกันบ้าง กระเบื้องผนังทำโอเค ซิงก์ก็สวย โดยเฉพาะหัวก๊อก
สุขภัณฑ์ของ KOHLER
หัวก๊อก VRH รุ่นนี้เท่มาก
มีการจัดไฟไว้ในกระจกให้ด้วย
Rain Shower อันใหญ่
ฝักบัวสวย แต่ nozzle จะหลุดไปอันนึงนะ
หัวก๊อกก็ทำดี การตกแต่งห้องน้ำต้องยอมรับว่าที่นี่ทำดีมาก
Floor Drain!
ปลั๊กมีบานกันน้ำให้ด้วย เยี่ยมๆ ในราคา 80,000 บาทต่อตารางเมตรได้ห้องน้ำแบบนี้ถือว่าโอเคมากๆ
Price vs Performance
ที่นี่ให้ของมา “ดู” เพียบ แต่ไม่รู้ว่า “ได้” อะไรบ้าง … นี่ครับคือ List ของที่ได้
Semi Furnished ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ Built-in (ตามแบบโครงการ) ไม่รวมเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว
Decoration
- พื้นห้องรับแขก / ห้องนอน – ลามิเนต
- พื้นห้องครัว – ไม้ลามิเนต หรือกระเบื้องเซรามิค (ตามแบบห้อง)
- พื้นห้องน้ำ – กระเบื้องเซรามิค
- ความสูงเพดาน – 2.4 เมตร (ห้องรับแขก/ห้องนอน/ครัว) และ 2.3 เมตร (ห้องน้ำ)
Kitchen
- – เคาน์เตอร์ท็อปอะคริลิค LG
- – ตู้เก็บของบน/ล่าง หน้าบานลามิเนต
- – เตาไฟฟ้า
- – ซิ้งค์และก๊อกน้ำ HAFALE
Restroom
- – เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า VRH
- – ตู้เก็บของใต้อ่าง หน้าบานลามิเนต
- – สุขภัณฑ์ Kohler
- – ฝักบัวแบบ Rain Shower
- – ฉากกั้นอาบน้ำ (Shower Screen)
Others
- ประตูบานสไลด์บริเวณครัว (ตามแบบห้อง) กระจกแบบ Temper Glass กันกระแทกสูงจากพื้นถึงเพดาน
- เครื่องปรับอากาศแบบแขวนผนัง Daikins
- พื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า และพื้นที่แขวนคอมเพรสเซอร์แอร์
- จัดเตรียมระบบติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนไว้ให้
- กระจกหน้าต่าง – สีเขียวตัดแสง
- ไฟ – Downlight สี่เหลี่ยม
- ประตูทางเข้าห้อง – ไม้ลามิเนต สูง 2 เมตร
- ไม่มีตู้เสื้อผ้า Built-in
Pricing
- 1 Bedroom ขนาด 33.5 – 37 ตารางเมตร เริ่ม 2.5 ล้านบาท
- 1 Bedroom ขนาด 40.5 – 48 ตารางเมตร เริ่ม 3.1 ล้านบาท
- 2 Bedrooms ขนาด 57.5 – 77 ตารางเมตร เริ่ม 5.7 ล้านบาท
- ราคาต่อตารางเมตร 75,000 – 87,000 บาทต่อตารางเมตร
เจาะลึกรวบยอด
SARI by Sansiri เป็นคอนโดมิเนียมโครงการแรกของแสนสิริที่เปิดในปี 2555 ด้วยทำเลกลางๆราคากลางๆ Low Rise ในซอย 200 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้าปุณณวิถี ซึ่งเป็นทำเลที่ค่อนข้างสงบเงียบ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความเป็นส่วนตัวไม่วุ่นวาย แต่ถ้าถามว่าเป็นทำเล Prime ระดับสุด Hot ไหม? ก็คงไม่ใช่นะครับ … ซาริวางตำแหน่งทางการตลาดเป็นลูกค้าประเภทอยู่เองเสียมากกว่า ทำเลนี้ไม่ใช่ทำเลที่นักเก็งกำไรจะมาจิ้มห้องเพื่อหวังปล่อยต่อในเวลา 1 ปีของการก่อสร้างตึก Low Rise
คุณภาพวัสดุของ SARI ก็ให้ระดับกลางๆ ถามว่าโอเคไหมสำหรับราคา 80,000 บาทต่อตารางเมตร? ก็จัดว่าโอเคนะครับ โดยเฉพาะห้องน้ำที่จัดเต็มมาแต่ไกล เสียที่โครงการนี้ไม่ยอม Built ตู้เสื้อผ้าให้เหมือนกับแสนสิริโครงการอื่น แต่ก็ยังดีที่ให้บานเลื่อน กระจก Tempered
แบบของโครงการซาริดูแล้วก็ใช้ได้ มี Gimmick ตรงเว้นช่องให้แสงส่องจากดาดฟ้าลงไปได้ถึงชั้น 2 ในอาคาร A และมีสระว่ายน้ำที่ดูดี แต่ข้อเสียก็คือมีความแตกต่างของ Facility ในแต่ละอาคารเยอะไป โดยที่อาคาร A ได้เยอะมีทั้งสระ Lobby ขนาดใหญ่และฟิตเนส แถมวาง Layout ห้องดีกว่า ส่วนอาคาร B แทบไม่มีอะไรเลย ซึ่งแน่นอนก็ต้องชดเชยด้วยราคาที่ต่ำกว่า อาคาร A … เหมาะสำหรับคนที่ซื้อไว้อยู่แต่ไม่ได้แคร์อะไรมากมายกับ Facility เพราะเวลาคนที่อาคาร B จะไปใช้ Facility ครั้งหนึ่งจะต้องลงลิฟท์ไปชั้นล่างสุด แล้วก็เดินไปอาคาร A จากนั้นกดลิฟท์ไปชั้นบนสุดอีกรอบ
ชื่อเสียงการทำคอนโดมิเนียมของแสนสิริก็ไว้ใจได้ ล่าสุดโครงการ Blocs 77 ที่ทำเสร็จไปในเกรดคอนโดมิเนียมเดียวกันกับ SARI by Sansiri ก็ทำได้ค่อนข้างโอเค ลองอ่านดูในรีวิวก็จะเห็นว่าดูใช้ได้นะครับ
ความคุ้มราคาของซาริ by Sansiri อาจจะเทียบกับ The Link ของธารารมณ์ Estate ที่อยู่ในซอยสุขุมวิท 64 แปลงถัดไปเล็กน้อยไม่ได้ เพราะต้องยอมรับว่าซาริขายแพงกว่า ประมาณ 5,000 – 10,000 บาทต่อตารางเมตร แต่ด้วยทำเลที่ใกล้รถไฟฟ้ามากกว่าเล็กน้อย และดีไซน์ พร้อมชื่อเสียงของแสนสิริก็พอการันตีได้ในระดับหนึ่ง
ถ้าหากเทียบความคุ้มกับ The Room สุขุมวิท 62 ที่อยู่ติดถนนใหญ่ ตีนทางขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าปุณณวิถี ที่มี Facility ครบ แบบ Resort Condominium ก็คงจะสูสีด้วย Trade Off … เพราะ SARI ขายถูกกว่าอยู่พอสมควร แลกกับระยะทาง 200 เมตรและ Facility ที่สมบูรณ์กว่าของ Land & Houses
Judgement
- ทำเล 8.75/10 – ใกล้สถานีรถไฟฟ้าปุณณวิถี 200 เมตร ใกล้ทางด่วนสุขุมวิท 62 แต่ซอยเงียบเกินไป
- คุณภาพวัสดุ 8/10 – คุณภาพวัสดุใช้ของที่เหมาะสมสำหรับ Segment ระดับ UPPER CLASS
- แบบ 9/10 – แบบตึก A ทำออกมาดี แต่ตึก B ยังไม่ค่อยโดน ส่วนแบบห้องน้ำและวัสดุทำออกมาได้ดีมาก
- สาธารณูปโภค 7.5/10 – มีครบ แต่สระว่ายน้ำและฟิตเนส มากองอยู่ที่ตึก A ทำให้ตึก B ใช้ได้ลำบาก ส่วนตึก B ก็มีสวนใหญ่ที่ชาวตึก A ก็ใช้งานได้ลำบากเหมือนกัน
- ชื่อเสียง 8.5/10, แสนสิริ
- ความคุ้มราคา 7.5/10 – โอเคสำหรับซื้ออยู่เองและเป็นคนที่คุ้นในทำเลสุขุมวิทตอนปลาย แต่ถ้าเทียบกับคู่แข่งรอบข้างก็ต้องยอมรับว่าแพงกว่านิดหน่อย
- UPPER CLASS
- Final Score 8.35/10
- Grade B+
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ
