รีวิวโครงการ

คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.269 – รีวิวคอนโด Rhythm สุขุมวิท 42

19 มกราคม 2017

อ่านรีวิวล่าสุด

rhythm42

รีวิวฉบับที่ 377 โครงการ The Rhythm สุขุมวิท 42 เป็นโครงการภายใต้แบรนด์ Rhythm ที่มีราคาขายที่สุดตั้งแต่ที่ AP เคยใช้แบรนด์นี้มาเลยนะครับ โดยโครงการนี้ทำเลตั้งอยู่ด้านหลัง Gateway เอกมัย บนถนนซอยสุขุมวิท 42 ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS เอกมัย กับราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรแถวๆ 170,000!

Fact @ 1 July 2013

  • Rhythm สุขุมวิท 42
  • บริษัท AP (Thailand) จำกัด (มหาชน)
  • LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • คอนโด High Rise 36 ชั้น 1 อาคาร และอาคารจอดรถ 8 ชั้น พร้อม 2 ชั้นใต้ดิน 1 อาคาร
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 13 ยูนิต รวม 407 ยูนิต
  • อาคารจอดรถ 1 ตึก 267 คันในช่องจอด รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 70%
  • ที่ดินประมาณ 3-0-62 ไร่
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2559
  • Studio ไม่มี
  • 1 Bedroom 27 – 45 ตารางเมตร
  • 2 Bedrooms 56 – 80 ตารางเมตร
  • 3 Bedrooms+ ไม่มี
  • ราคาเริ่มต้น 4.3 ล้านบาท
  • ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 170,000 บาท
  • เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS เอกมัย ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS เอกมัย
  • http://www.apthai.com
  • โทร 1623

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

The Rhythm สุขุมวิท 42 ตั้งอยุ่ในซอยสุขุมวิท 42 ด้านหลังห้างสรรพสินค้า Gateway เอกมัย แปลงที่ดินติดกันเลยครับ

ระยะทางจากสถานีรถไฟฟ้า BTS เอกมัย (ปากซอย 42) เดินเข้ามาถึงที่ดินหน้าโครงการวัดได้ระยะทาง 150 เมตร ถ้าจะรวมทางเดินจากหน้าโครงการเข้าไปถึงตัวตึก โดยรวมน่าจะอยู่ราวๆ 200 เมตรเศษๆละครับ

อยากจะบอกว่าในช่วงไม่กี่ปีมานี้ คอนโดในย่านเอกมัยผุดขึ้นมามากมายเลย โดย The Rhythm สุขุมวิท 42 จัดเป็นตึกใหม่ล่าสุด เปิดตัวในระยะเวลาใกล้เคียงกับ The Lofts ของ Raimon Land ที่คุณโอ๋เคยไปรีวิวเอาไว้แล้ว จัดว่าแพคเกจราคาต่อตารางเมตรใกล้เคียงกันมาก Rhythm แพงกว่าเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้หนีกันเท่าไรครับ

ซอยสุขุมวิท 42 เป็นซอยใหญ่ เป็นทางลัดหลักที่ใช้กันระหว่างกล้วยน้ำไทกับเอกมัย เชื่อมถนนพระราม 4 เข้าสู่ถนนสุขุมวิท แต่เป็นเส้นทาง One Way คือเดินรถทางเดียว ไม่สามารถย้อนศรกลับไปยังถนนพระราม 4 ได้ ซึ่งถ้าใครต้องการจะวิ่งกลับไปยังพระราม 4 ต้องใช้ซอยสุขุมวิท 40 แทน

การจราจรจากถนนสุขุมวิทและถนนพระราม 4 ต้องเดินทางดังภาพนะครับ ใช้ซอยสุขใจหรือซอยสมานฉันท์ (หรือแสงจันทร์) ในการทะลุไปมาระหว่างซอย 42 และซอย 40

แต่ด้วยทำเลที่ตั้งของ Rhythm ที่อยู่ต้นซอย 42 ทำให้เวลาเลี้ยวออกจากโครงการนั้นไม่สามารถทะลุซอยสุขใจไปพระราม 4 ตรงๆได้ ต้องไปอ้อมถนนสุขุมวิท และรอรถติดบริเวณแยกเอกมัย / รถที่เลี้ยวเข้าออก Gateway

ในซอย 42 เดิมทีก็ไม่ค่อยคึกคักเท่าไร แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้คอนโดผุดขึ้นมาหลายตึก ประกอบกับการที่ Gateway เปิดให้บริการ ทำให้สภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก … แปลงนี้ล้อมรั้วเสร็จสรรพ รู้สึกว่าจะโดนซื้อไปแล้ว อนาคตน่าจะเห็นอะไรต่างๆเปลี่ยนแปลงไป

จากหน้าโครงการมองย้อนไปยังถนนพระราม 4 จะเห็นว่าทางเดินฟุตบาทกว้าง เดินสบาย แต่เรื่องไฟตามทางยังไม่มากนัก ดึกๆให้ระวังตัวหน่อยนะครับ

จากหน้าโครงการ Rhythm ไปถึงหน้าปากซอยเป็นระยะทางประมาณ 150 เมตร มองเห็นสถานีรถไฟฟ้าตามภาพ

แต่การจราจรก็ค่อนข้างติดนะครับ อย่างที่เห็นในรูปกว่าจะเลี้ยวเข้าโครงการได้ก็ใช้เวลาพักนึง

Gateway เอกมัยด้านหน้าปากซอย ก็คือตึกสีเหลืองๆที่เห็นอยู่ในภาพด้านบนและภาพด้านล่าง (ด้านหน้าใช้สี Copper) เป็นห้าง Lifestyle ที่มีอาหารญี่ปุ่นอร่อยๆให้ทาน และ Supermarket ให้ฝากท้อง ส่วนร้านอื่นๆนั้นยังไม่ค่อยติดตลาดเท่าไร

เรามาดู Rhythm กันบ้าง ตำแหน่งที่ตั้งสำนักงานขายปัจจุบันเป็นแบบนี้ ตั้งอยู่ด้านหน้าสุดรับลูกค้า

ที่ดินประมาณ 3 ไร่เศษ เราจะเดินเข้าไปดูสภาพแวดล้อมก่อนเลย

จากหน้าโครงการเว้นระยะเข้ามาพอควรให้กับอาคารจอดรถ 8 ชั้น แล้วจึงจะเป็นตำแหน่งที่ตั้งของตึกพักอาศัย ซึ่งเป็นแปลงที่ดินอยู่ด้านหลัง Gateway พอดี

เนื่องจากอาคารที่พักเริ่มอยู่อาศัยตั้งแต่ชั้น 3 – 35 ดังนั้นห้องใครหันหน้าเข้าหาผนังตึกสีเหลืองนี้ก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วย เนื่องจากท่านจะได้วิวที่จอดรถไป ซึ่งหากจะให้วิวเลยตึกนี้ ต้องขึ้นไปถึงชั้น 15 เป็นอย่างน้อยนะครับ

(ตัวเลขชั้นที่เลยตึก Gateway อาจจะผิดพลาดได้เนื่องจากเป็นการสอบถามจากพนักงานขาย ซึ่งเป็นการประมาณการ ดังนั้นถ้าใครอยากเอาเซฟชัวร์ๆ ให้เลือกชั้น 20 อัพครับ)

ทิศเหนือเราติด Gateway ไปแล้ว … ทิศตะวันออกเราจะเห็นเป็นโล่งๆแบบนี้

ทิศใต้ติดที่ดินว่างๆแปลงหนึ่ง ก่อนที่จะถึง The Address สุขุมวิท 42 ของค่าย AP เหมือนกัน มองเข้าไปในซอยบาร์โบส 2

หน้าตาสำนักงานขายทำได้คลีน ขาว สวยและ Modern ดี

ด้านในเองก็เช่นกันครับ

เรามาดูวิวกันต่อ นี่เป็นภาพถ่ายจากจอ Touchscreen ของ AP นะครับ ที่ชั้น 30

วิวฝั่งทิศตะวันตก มองไปทางสุขุมวิทตอนต้น ค่อนข้างโล่งครับ เพราะตึก Rhythm นี้ ถอยร่นมาจากถนนใหญ่ประมาณ 150 เมตร ทำให้หลุดแนวตึกสูงที่ติดถนนใหญ่สุขุมวิทไป

ด้านขวาที่เห็นเป็นตึกใกล้ที่สุดก็คือ ASHTON และ MORPH 38 ครับ

มองทิศเหนือกันบ้าง เราเห็นตึก Nusasiri ที่ปากซอย โดยมี Background เป็นพวกอาคารต่างๆในเอกมัยและทองหล่อ

ขยับมาอีกหน่อยเป็นแบบนี้

ตรงนี้คือมองตามรถไฟฟ้าไปทางพระโขนง เราจะเห็นโรงพยาบาล, Life พระโขนง และที่ดินเปล่าๆสีขาวๆเตรียมขึ้นเป็น The Lofts

ฝั่งที่หันเฉียงๆไปทางทองหล่อครับ

ทิศใต้เป๊ะๆ มองไปทางพระราม 4 ก็จะเห็นพวกตึกติดถนนใหญ่พระราม 4 กัน

ไกลๆก็จะเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา อันนี้วิวทางกล้วยน้ำไท

เจาะลึกตัวโครงการ

เราถ่ายภาพ Floor Plan มา แต่ก็จะดูไม่ค่อยชัดเท่าไร ดังนั้นเรามาดูภาพใน Layout ง่ายๆกันด้นาล่างดีกว่า

 

ตึกนี้มีที่พักอาศัยอยู่บนชั้น 3 – 35 โดยชั้น 36 จัดเป็น Facility Floor ทั้งหมด

ที่เห็นนี้เป็น Floor Plan ชั้นล่างๆ ไม่เกิน 13 ห้อง A21 และ A31 จะยังไม่รวมกันเป็นห้องใหญ่ มียูนิตสูงสุดต่อชั้นอยู่ที่ 13 ห้อง จัดว่าเป็นคอนโดที่มีความหนาแน่นต่อชั้นอยู่ในเกณฑ์ดีใช้ได้ พอโครงการจัดผังแบบนี้ ทำให้มีห้องมุมถึง 7 ห้อง จากชั้นปกติที่มี 12 – 13 ห้อง จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สูงเช่นกัน

ตัวตึกจัดเป็นรูปเกือบจะตัว O โดยมีการตัดช่องแสงจากบริเวณโถงลิฟท์ และปลาย Corridor อีก 2 ด้าน รวมถึงบริเวณทิศใต้ที่หันไปทางกล้วยน้ำไท ทำให้มีแสงธรรมชาติเข้าถึงโถงทางเดินรวม 4 จุด มีช่องให้ลมพัดผ่านได้ เป็นการระบายอากาศที่ค่อนข้างดี

บริเวณหน้าห้อง A42, A51 นั้นมีช่องเปิด Void ทุก 5 ชั้น ช่วยให้ลมพัดขึ้นลง มีอากาศถ่ายเทระหว่างชั้นได้ และมีจุดที่เป็น Mini-Lobby ให้นั่งเล่นกันได้นิดหน่อย

ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว ลิฟท์ขนของ 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์เฉพาะโดยสารอยู่ที่ประมาณ 1:135 ฟังดูไม่ค่อยดีเท่าไรเมื่อเทียบกับราคา 170,000 บาทต่อตารางเมตร

ห้องขยะอยู่บริเวณหน้าห้อง A51 นะครับ

f_0

ผังโครงการเหล่านี้ ยังเป็นเอกสาร “ชั่วคราว” ที่ไม่สามารถอ้างอิงใดๆได้

เราวิเคราะห์อยู่บนพื้นฐานของเอกสารตัวนี้ ถ้าอนาคตมีการเปลี่ยนแปลง ก็จะต้องเปลี่ยนไปตามเอกสารที่ใหม่กว่า ไม่สามาระเอาไปยืนยันใดๆได้นะครับ (พอ Floor Plan จริงๆออกเผยแพร่แล้ว เราจะเอามาแทนภาพเหล่านี้อีกรอบ)

จากหน้าโครงการเข้ามาจะเจอวงเวียน แจกซ้ายเข้าอาคารจอดรถ แจกขวาเข้าอาคารพักอาศัย โดยส่วนที่เป็นสำนักงานขายปัจจุบันนี้เป็นอาคารจอดรถนะครับ อนาคตก็ต้องรื้อออกแน่นอน

อาคารจอดรถมีที่จอดชั้นใต้ดิน 2 ชั้น รวมแล้วจอดได้ 267 คันไม่รวมซ้อน หรือถ้ารวมซ้อนก็น่าจะอยู่ได้ไม่เกิน 70% จากจำนวน 407 ยูนิต

ส่วนกลางจะจัดอยู่ที่ชั้นบนสุดของทั้งอาคารจอดรถและอาคารพักอาศัยตามภาพ

Screen Shot 2556-07-01 at 11.36.17 AM ชั้นบนสุดของอาคารจอดรถ ทำเป็นสวนและพื้นที่สีเขียว ตรงนี้ดีที่มีลิฟท์จอดรถให้ 2 ตัว ช่วงเวลาเร่งด่วนก็จะได้ขึ้นลงอาคารจอดรถได้ทันท่วงที แต่อาคารจอดรถแยกก็จะมีปัญหาตอนเวลาฝนตก เวลารีบๆ หรือเวลาลืมของ ซึ่งจะสะดวกไม่เท่ากับการจอดรถอยู่ในอาคารพักอาศัยนะครับ

ส่วนกลางของอาคารพักอาศัย ได้พื้นที่เต็มชั้น ประกอบด้วย Sky Lounge, Fitness, สระว่ายน้ำ, Terrace, ห้องเอนกประสงค์

รายละเอียดภาพ Perspective ต่างๆที่จำลองความสวยงามของชั้นส่วนกลาง จะมาอัพเดททีหลังนะครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำบนชั้น 36F
  • สวนบนชั้น 8F ของอาคารจอดรถ
  • ห้องออกกำลังกายบนชั้น 36F
  • Sauna แยกชาย-หญิง
  • Sky Lounge บนชั้น 36F
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ 135:1
  • Service Lift 1 ตัว และ Lift จอดรถ 2 ตัว
  • ที่จอดรถ 267 ช่องจอด หรือถ้าซ้อนคัน คิดเป็น 70%
  • ระบบ CCTV / Access Card

Product Walkthrough

ห้องตัวอย่างที่โครงการนี้มี 2 ห้องด้วยกัน คือห้อง 1 Bedroom ขนาด 48 ตารางเมตรและห้อง 2 Bedrooms ขนาด 80 ตารางเมตร

a12

แปลนห้องตัวอย่างนี้ก็เป็นเอกสารฉบับร่างเช่นกันนะครับ จะเห็นว่าเป็น Plan ห้อง 1 Bedroom ขนาดค่อนข้างใหญ่ ที่ 48 ตารางเมตร ฟังก์ชั่นครบ จัดทุกอย่างเป็นสัดเป็นส่วน

มาลองดูประกอบกับห้องตัวอย่างจริงๆดีกว่า

เดินเข้าไปปุ๊บ เราก็จะเห็นว่าห้องนี้เป็นห้องมุมนะครับ เนื่องจากห้อง 1 Bedroom 48 ตารางเมตรอยู่ระหว่างช่องแสงทิศตะวันตกที่ตัดจากตึกช่วงโถงลิฟท์ ทำให้ได้ห้องมุมมา แต่มุมนี้จะเป็นมุมภายในตึกนะครับ ไม่ใช่มุมภายนอกที่เปิดโล่งเหมือนวิวจำลองที่เห็นในห้องตัวอย่าง ฝั่งตรงข้ามห้องเราก็จะเห็นห้อง 1 Bedroom อีกฝั่ง ที่เปิดมุมมาแนวนี้เช่นกัน

ห้องนี้ได้เพดานสูง 2.6 เมตร ซึ่งเป็นมาตรฐานของแบรนด์ The Rhythm แต่อาจจะไม่ใช่มาตรฐานของระดับราคา 160,000 บาทต่อตารางเมตร

มุมมองของห้องนี้กว้างมาก เปิดเข้ามาแล้วรู้สึกได้ถึงความโล่ง โทนสีที่ใช้เป็นโทนสีอ่อน ขาวอมเทา มีสี Turquoise แซมบ้างให้เป็นสีสันจะได้ไม่ดูจืดชืดจนเกินไป

แอร์ที่ได้เป็นแอร์แขวนผนังแบบ Wall Type เฟอร์ที่ได้เป็นแบบ Fully Furnished แต่งครบ

มุมแรกเก๋ๆที่เห็นนี้ก็คือมุมโต๊ะทานข้าว ที่เป็นห้อง 1 Bedroom แต่สามารถนั่งได้ 4 ที่นั่ง โดยจัดเป็นเก้าอี้ลอยตัว 2 และม้านั่งริมหน้าต่าง Bay Window อีก 2

ถ้าจะนั่ง 3-4 คน จริงๆ อยากให้เปลี่ยนโต๊ะทานข้าวหน่อย ตอนนี้ใช้โต๊ะเล็กมากแค่จานก็ไม่มีที่วางแล้ว บริเวณด้านข้างเหลือเยอะแยะไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะวางโต๊ะใหญ่กว่านี้ไม่พอ

ด้านหน้าห้องเป็นพื้นที่ของครัว ซึ่งจัดเป็นครัวสองด้าน มีเคาน์เตอร์ฝั่งหนึ่งและเตากับตู้เย็นอีกฝั่งหนึ่ง

ซิงก์ได้เป็นแบบฝังของ FRANKE วางอยู่ใต้หินสังเคราะห์สีขาว หัวก๊อกดูเรียบง่ายสวยงาม

ริมครัวเป็นพื้นที่ของ Yard ระเบียงด้านข้างที่เอาไว้ซักล้าง ตากผ้า พร้อมกับกริลปิดมิดชิด เพื่อความสวยงามของอาคารภายนอก

ช่องนี้เอาไว้วางเตา ซึ่งจะประกอบด้วย เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และไมโครเวฟ แบบ 3 in 1

เตาของ FRANKE แบบ  Ceramic 2 หัว

ที่ดูดควันของ FRANKE เช่นกัน

ด้านหลังติดกระจกกันคราบมันเอาไว้ให้ทำความสะอาดง่าย

ในส่วนของ Yard ทำออกมาได้โอเค แม้จะไม่กว้างมาก แต่ก็พอให้ซักล้างสิ่งต่างๆได้

มีก๊อกน้ำหัวแดงติดไว้อันนึง

ไฟด้านนอก Yard

กลับมาดูที่โต๊ะกินข้าวกันบ้าง เราจะเห็นว่าเบาะที่นั่งตรงนี้ยื่นออกไปด้านนอกห้อง

ซึ่งจริงๆแล้วก็มีส่วนของกระจกเข้ามุม ทำให้เราเห็นวิวที่มุมมองกว้างกว่าเดิม

โต๊ะกินข้าวติดกับ Pantry ครัวเมื่อครู่ การจะส่งอาหาร หยิบของก็ทำได้ง่าย

เปิดมุมแล้วมองไปเห็น Yard เมื่อครู่

กล่องม่านด้านบน จัดทำไว้แบบนี้

เราย้ายมาดูส่วนรับแขกกันบ้าง

ห้องนี้ออกแบบมากว้างขวาง ได้กระจกจากพื้นถึงฝ้าด้วย

แต่ตู้ด้านหลังโซฟาไม่มีให้นะ เป็น Decoration

ระยะดูทีวี ติดทีวีจอใหญ่ๆได้สบาย

กรอบวงกบฟิตติ้งต่างๆมีซีลกันฝุ่นกันเสียงไว้ให้แล้ว

ระเบียงได้เป็นระเบียงที่มีมุม พุ่งออกไปจากตัวห้อง มุมมองไม่ติดผนังตึก

กรอบกระจกอลูมิเนียมเนื้อดี สีพ่น

มีธรณีนิดหน่อยกันฝนสาด

ระเบียงอีกฝั่งมองเข้าไปเห็นกระจกเข้ามุมจากห้องนอน

ห้องนอนแต่งในโทนเดียวกัน

พื้นทั้งหมดไม่ว่าจะห้องนอน ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ก็เป็น Laminate สีอ่อนนะครับ

กระจกบานใหญ่พร้อมเข้ามุมที่ห้องนอน เปิดมุมมองเต็มๆ

ปลายเตียงมีชั้นวางทีวี วางได้แต่เวลาเดินอาจจะลำบากหน่อย เพราะเหลือพื้นที่เดินค่อนข้างน้อย

ในห้องตัวอย่างจัดแสงไฟได้สวยงามดีครับ

ด้านข้างเตียงวางโต๊ะทำงาน และ/หรือ โต๊ะเครื่องแป้ง ในบริเวณที่ติดกับห้องน้ำได้ด้วย

ห้องน้ำก่อธรณีเตี้ยๆท๊อปหินป้องกันน้ำรั่วซึม

ห้องน้ำที่ Rhythm 42 นี้จัดออกมาได้สวย แสงเงาที่กระเบื้องหลัง Counter ทำได้งาม

พื้นและรอยต่อระหว่างห้องน้ำกับห้องนอน

ท๊อปหินสังเคราะห์เจียขอบแบบนี้ ให้มีมิติ

ก๊อกฝังผนัง ทรงสวย

ซิงก์ฝังลงไปในหินเช่นกัน

ห้องอาบน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้งด้วยกระจก Tempered Glass

พื้นก่อธรณีอีกนิดกันน้ำล้น

ที่วางสบู่เขียนว่า For Decoration สงสัยจะไม่มีให้นะ

หัวก๊อกของ GROHE ฝังผนัง

ที่นั่งอาบน้ำ ใหญ่ กว้าง นั่งได้สบาย

ห้องอาบน้ำนี้เชื่อมกับห้องสุขาด้านนอกด้วย ซึ่งเป็น Double Access พ่วงกับห้องนั่งเล่น

เวลาเข้าจากห้องด้านนอก เราก็สามารถปิดบานกระจกฝ้า เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับห้องน้ำด้านใน

โดยซิงก์ก็จะใช้อันเล็กๆ สำหรับเพื่อนมาเข้าห้องน้ำในบ้านเรา

เปิดเข้าเปิดออกได้แบบนี้

ซิงก์เล็กๆนี้สำหรับล้างมือชั่วครั้งชั่วคราว ถ้าอยากจะใช้สบายๆไปใช้ซิงก์ใหญ่ดีกว่า

ประตูที่เชื่อมออกไปยังส่วนรับแขก

ด้านข้างเชื่อมกับด้วยบานตู้แบบนี้

ซึ่งด้านในเป็นที่วางเครื่องซักผ้า เปลี่ยนพื้นเป็นกระเบื้องด้วย

จะใช้ฝาหน้าหรือฝาบนก็ได้ตามใจชอบ ไม่ต้องไปวางอยู่ริมระเบียงหรือร่วมกับตู้ครัว วางตรงนี้เป็นสัดส่วนที่สุด

โดยรวมจัดว่าเป็นห้อง 1 Bedroom ที่มีพื้นที่กว้างขวาง จัดเป็นสัดส่วนทุกฟังก์ชั่น ใช้พื้นที่ 48 ตารางเมตรได้คุ้ม ฟังก์ชั่นที่ทำมาไม่เล็กและไม่กะทัดรัดเกินไป ถือว่าเป็นห้อง 1 Bedroom ที่ผมชอบมากอีกห้องหนึ่งเลยละครับ

ต่อมาเราเดินไปดูห้อง 2 Bedrooms กันบ้าง AP ก็ชอบทำอะไรเงาๆแบบนี้แหละ สไตล์เขา

ห้อง C32 ขนาด 80 ตารางเมตร เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดของโครงการนี้ ราคาขายประมาณ 12-13 ล้านขึ้นไป

c32

แปลนนะครับ ดูคร่าวๆแล้ว Follow ตามที่ผมบรรยายในรีวิว

ห้อง 2 Bedrooms นี้กว้างและใหญ่กว่าห้อง 1 Bedroom ที่พาไปดูเกือบเท่าตัว

พื้นที่ครัวจัดมาให้เป็นครัวเปิด เข้ามุมรูปตัว L

เอาพื้นที่โต๊ะทานข้าว ครัว และห้องนั่งเล่น เชื่อมต่อกันแบบ Open Plan ทำให้รู้สึกว่าห้องกว้างมากๆ

ระยะดูทีวี จะติดจอ 60 – 70 นิ้ว ก็ยังได้

โต๊ะทานข้าวแบบ 4 ที่นั่งสบายๆ จะต่อหัวโต๊ะ หรือขยายความกว้าง ก็ยังทำได้

แขวนทีวีที่ปลายโต๊ะทานข้าวได้ด้วย (ในห้องตัวอย่างแขวนกรอบรูป)

ครัวรูปตัว L ซึ่งเป็นครัวเปิด ได้ครัวยาว ทำอาหารสบาย เหมาะกับการอยู่อาศัยจริง

แต่ครัวเปิดก็ทำอาหารหนักมากๆไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะฟุ้งไปทั่วห้อง ตรงนี้ต้องคำนึงถึงด้วยนะครับ

เคาน์เตอร์เหมือนห้องเมื่อครู่

เก๊ะเปิดปิด

ที่วางตู้เย็น ดีตรงที่วางแบบตู้ใหญ่ได้ เปิดฝาสองข้าง

ชั้นวางเครื่องซักผ้าใหญ่กว่าเดิมด้วย

มาดูห้องนั่งเล่นอีกรอบ

โซฟาและโต๊ะกลาง แถมโต๊ะข้างอีกตัวไว้วางโคมไฟ

ระยะดูทีวีแบบจริงๆ

แอร์แขวนผนัง

ระเบียงกว้างใหญ่

ประมาณ 1.2 เมตร วางโต๊ะและเก้าอี้ได้ชุดนึงเลย

ข้างนอกมีกริลปิดคอมแอร์เรียบร้อย

แขวนกันไว้ 3 เครื่อง มิดชิด

รางม่านและกรอบกระจก

มองย้อนกลับไปที่ครัว ได้พื้นที่กว้างหน่อย

ห้องน้ำมีด้วยกันสองห้อง ห้องแรกเป็นห้อง Double Access ระหว่างห้องนอน 2 และห้องนั่งเล่น

คุณภาพใช้ตามเดิม แต่ขนาดเล็กลง

ก๊อกเหมือนเดิม ปลั๊กกันน้ำด้วย

ซูมๆ ให้เห็นลายกระเบื้อง

ห้องอาบน้ำเหมือนเดิม

อ่อ ไฟตรงนี้ติดให้ด้วยนะ ด้านบนกระจกในห้องน้ำ

ไปดูห้องนอนเล็กกันต่อ ขนาดพอได้ วางเตียง Queen Size ได้ด้วย …

ก็เข้าใจว่าวางได้ แต่เวลาใช้จริงๆ ถ้าห้องนี้เป็นห้องสำหรับลูกๆที่อายุยังไม่มาก ผมแนะนำเตียงเล็กดีกว่า เหลือพื้นที่ไปทำอย่างอื่น เช่นโต๊ะทำการบ้าน ฯลฯ

ไม่งั้นมันจะเทอะทะไปหน่อยแบบนี้

เรามาดูห้องนอนใหญ่กันบ้าง พื้นที่ปลายเตียงเหลือเพียบ

พื้นที่บริเวณหัวเตียงกว้างขวาง มี Bay Window ใหญ่ด้านข้าง

หัวเตียงใหญ่ วาง King Size 6 ฟุต

กระจกเข้ามุมด้านข้างพร้อมกับม้านั่งยาว

มองไปแอบดูห้องน้ำตัวเองได้ด้วย อิอิ

มองย้อนไป วางทีวีเครื่องใหญ่กว่านี้หน่อยจะดีมาก

นี่ครับ เครื่องเล็กไปนะ นี่ผมมานั่งปลายเตียงแล้ว … หรือไม่ก็ต้องเอาโซฟามาวางปลายเตียงเสียเลย พอง่วงก็ขยับไปนอนบนเตียง

มี Walk-in Closet ให้ก่อนเข้าไปห้องน้ำ

ห้องน้ำนะครับ จัดเป็นจุดเด่นของ 2 Bedrooms ห้องนี้ได้เลย

Counter วางของในห้องน้ำ ทำเป็น Counter ยาวแบบนี้

ห้องอาบน้ำแยกเป็นสัดส่วน

ทำแบบเข้ามุมไว้

Rain Shower

ของ GROHE

อ่างอาบน้ำเข้ามุมเหมือนกัน วางอยู่บนท๊อปหินอีกรอบ เข้ามุมเช่นกัน

ระยะขอบอ่างเดินก้าวขึ้นไม่สูงจนเกินไป ใช้ได้

ปลายอ่างนะครับ เห็นวิวด้วย

อาบน้ำบนยอดตึก ความฝันของหลายๆคน

เลือกด้านที่เราไม่เห็นเค้าและเค้าไม่เห็นเรานะครับ

จบด้วยสวิทช์ไฟมาตรฐานล่ะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 01/07/2013

  • 1 Bedroom ชั้น 8 ห้อง A21 เนื้อที่ 45 ตารางเมตร ราคา 7.21 ล้านบาท หรือ 160,353 บาทต่อตารางเมตร
  • 2 Bedrooms ชั้น 6 ห้อง C12 เนื้อที่ 78 ตารางเมตร ราคา 12.67 ล้านบาท หรือ 162,510 บาทต่อตารางเมตร
  • 2 Bedrooms ขนาด 56.5 ตารางเมตร ชั้น 34 ราคา 10.79 ล้านบาท หรือ 191,005 บาทต่อตารางเมตร

  • Fully Furnished
  • เพดานสูง 2.6 เมตร
  • จอง 50,000 – 100,000 บาท
  • ทำสัญญา 150,000 – 200,000 บาท
  • ผ่อนดาวน์ 13%
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

เจาะลึกรวบยอด

ซอยสุขุมวิท 42 ในปัจจุบันนั้นแตกต่างจากซอยสุขุมวิท 42 เมื่อ 2-3 ปีก่อนมาก จากการเปิดตัวของ Gateway  และการที่คอนโดมิเนียมหลายโครงการเริ่มสร้างเสร็จ ลูกบ้านเข้าอยู่อาศัย รวมไปถึงการเปิดตัวของคอนโดใหม่อีกหลายโปรเจคจากหลายๆผู้ประกอบการ ก็ทำให้ซอยสุขุมวิท 40 และ 42 นี้คึกคักขึ้น จนกระทั่ง AP ตัดสินใจทำตลาดโครงการ High Rise ในซอย ซึ่งเป็นสินค้าระดับราคา Luxury (เกณฑ์ปี 2013) หรือเทียบได้กับ Super Luxury ในปี 2011 – 2012 ที่ราคา 160,000 – 190,000 บาทต่อตารางเมตร จัดเป็น Bet ครั้งใหญ่ที่จะฟันธงว่า ซอยนี้จะเกิดในตลาดระดับบนได้หรือไม่?

ซอยที่กว้าง 2 ช่องการจราจรก็ดูเหมือนจะไม่เพียงพอแล้ว จากการวิ่งไปมาหลายๆครั้ง ผมก็พบว่าซอยสุขุมวิท 42 รถติดขึ้นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรอรถเลี้ยวเข้าออก Gateway เอกมัย ยามจะมากันรถบนถนนระบายรถในตึก สร้างเป็นปัญหากวนใจในช่วงเวลาที่คนเข้าออกห้างสรรพสินค้ากันมากๆ อย่างเช่นช่วงเวลาเย็นๆในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์

การเดินทางด้วยรถยนต์นั้นทำได้สะดวก หากวิ่งจากตัวตึกออกไปก็สามารถเลือกได้ว่าจะเลี้ยวซ้ายหรือขวา ซ้ายวิ่งเข้าสุขุมวิทไปทางทองหล่อ ส่วนขวาวิ่งออกพระโขนงไปขึ้นทางด่วน หรือถ้าใครอยากจะไปพระราม 4 ก็ต้องย้อนเข้าซอยสุขุมวิท 40 ตรงนี้จะอ้อมๆหน่อย แต่โดยรวมแล้วก็ยังสะดวกอยู่ ไม่ได้เป็นปัญหาหนักหนาอะไร

ที่จอดรถจัดมาให้ประมาณ 60% ในช่องจอด 70% รวมซ้อนคัน ไม่ Fix ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่ต่ำหากเทียบกับราคาขาย คอนโดมิเนียมในระดับราคานี้ส่วนใหญ่แล้วจะเปิดที่ที่จอดรถ 100% หรือมากกว่า แต่นั่นเป็นโครงการที่เปิดก่อนปี 2012 เราก็ต้องยอมรับว่าปี 2013 นี้อะไรๆแพงขึ้นผิดหูผิดตาจริงๆ การออกแบบที่จอดรถแยกเป็นอาคารจอดรถก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน ตรงที่เวลาเราจะไปไหนมาไหนจะสะดวกน้อยกว่าการที่ที่จอดรถอยู่ในตัวอาคาร ไม่ต้องขึ้นลงลิฟท์สองครั้ง แต่ Rhythm ก็ยังดีที่มีลิฟท์ของอาคารจอดรถมาให้ 2 ตัว ทำให้เราใช้ในเวลาเร่งด่วนได้โอเค

หากพูดถึงเรื่องความสะดวกในการใช้รถไฟฟ้า ก็ต้องตอบว่า Rhythm 42 ใช้งานรถไฟฟ้าได้สะดวก เดินนิดหน่อยที่ 200 เมตร (รวมระยะออกจากตึก) เป็นระยะทางที่เดินได้สบายๆ ไม่เหนื่อย และได้ออกกำลังกายไปในตัวด้วย หากกลับมามาตอนเย็นๆหรือหัวค่ำ เราก็สามารถใช้ทางเชื่อมเข้า Gateway เอกมัย เดินเลือกของ ซื้อของเข้าบ้านก่อนที่จะเดินทะลุมาออกด้านข้างแล้วเข้ามายังโครงการ ทำให้เป็นตัวเลือกในการเดินทางที่สะดวกมากตัวเลือกหนึ่ง

พูดถึงเรื่องวิวกันบ้าง ทางเราไม่แนะนำสุดๆว่าซื้อโครงการนี้ ในราคานี้ แล้วต้องไปนั่งดูผนังตึก Gateway ดังนั้นผมฟันธงเลยว่า ไม่ควรซื้อห้องทิศเหนือที่ติดกับ Gateway ไม่ว่าจะเป็นการอยู่เอง ลงทุน หรือจะทำอะไรก็ตาม เพราะถ้าเราเลือกจะจ่ายเงิน 150,000 – 160,000 บาทต่อตารางเมตรแล้ว เราเพิ่มอีกแค่ 10,000 บาทต่อตารางเมตร หรือคิดเป็นเพียง 6% เพื่อเอาห้องที่ดีๆไปเลยดีกว่า หรือไม่อย่างนั้นเราก็มีตัวเลือกโครงการอื่นให้หยิบอีกมาก ไม่จำเป็นต้องไปเอาห้องที่มีตำหนิในเรื่องทำเลที่ไม่มีทางแก้ไขได้มาครอบครอง

ส่วนวิวทิศอื่นๆก็ต้องบอกว่าแล้วแต่ชอบเลยครับ ใครชอบวิวทองหล่อ-เอกมัย (ทิศเหนือชั้น 20+) หรือ สุขุมวิทเลขคู่ (ทิศตะวันตก) หรือวิวแม่น้ำลิบๆ (ทิศใต้ชั้น 30+) หรือจะเป็นวิวพระโขนงและคลอง (ทิศตะวันออก) ก็สามารถเลือกได้ตามต้องการ เน้นอย่าให้โดนบังในระยะประชิดเป็นพอ

วัสดุอุปกรณ์จัดมาให้ในเกรดของ The Rhythm ซึ่งเทียบกับราคานี้ แม้ว่าจะเป็น Fully Furnished ที่ออกแบบมาได้ดีรวมถึงสีสันค่อนข้างสวยและลงตัวมาก แต่ก็ต้องบอกว่ายังไม่คุ้มค่าทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแอร์แบบ Wall Type, เพดานสูง 2.6 เมตร, พื้นลามิเนต แต่สิ่งที่เราชอบก็ยังเป็นเรื่องของห้องน้ำ ที่ทำออกมาได้สวยงาม

แบบห้องนี้ต้องชมเชย ผมจัดว่า The Rhythm สุขุมวิท 42 เป็นคอนโดที่ออกแบบได้ลงตัวมาก จากการพัฒนาแบบห้องของ Rhythm มาหลายรอบ ห้อง 1 Bedroom ขนาด 48 ตารางเมตร และ ห้อง 2 Bedrooms ขนาด 80 ตารางเมตร ทำออกมาได้ดีในหลายๆด้าน ยกตัวอย่างเช่น Bay Window บริเวณที่นั่งรับประทานอาหาร, ผนังกระจกเข้ามุมในเกือบทุกจุดที่สามารถทำได้, แผง Stool ยาวในห้องนอนใหญ่, สีสันห้องและเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกมาสวยแบบเรียบๆ, ระเบียงแยกสำหรับซักล้างและตากผ้า, ห้องน้ำ Double Access ที่เข้าออกได้จากห้องนอนและห้องนั่งเล่น, ระยะดูทีวีและมิติของห้องนั่งเล่นที่ทำออกมาได้กว้างกว่าปกติ ทั้งหมดนี้ยอมรับว่าทำออกมาได้ดีมาก

แบบตึกก็มีข้อดีเช่นกัน ในเรื่องช่องแสงและการเจาะ Void ในจุดต่างๆ ให้ลม แดด สามารถเข้าได้ และมีการไหลเวียนของอากาศธรรมชาติ ไม่ให้ทึบ มืดหรืออึดอัด ซึ่งเป็นข้อเสียของโครงการ The Address หลายๆที่ในอดีต แต่ Rhythm ตัวนี้ได้แก้ไขข้อเสียเหล่านั้นไป โดยการมีช่องแสงถึง 4 จุด ในขณะที่ความหนาแน่นต่อชั้นมีพอรับได้ ที่ 12 – 13 ห้องต่อชั้น ได้เป็นห้องมุม 7 ห้องต่อชั้น แต่เรื่องลิฟท์อาจจะต้องมาดูกันหน่อย เพราะอัตราส่วน 135:1 กับราคาขายเท่านี้ ไม่ค่อยเหมาะสมนะครับ

สุดท้ายคือเรื่องสาธารณูปโภค ที่ต้ังอยู่บนดาดฟ้าของชั้น 8 และชั้น 36 ของทั้งสองอาคาร จะบอกว่าสวนที่อยู่บนชั้น 8 ของอาคารจอดรถนั้นมันใช้อะไรไม่ค่อยได้ เพราะมันไม่มี Function หลักๆที่จะดึงลูกบ้านให้ไปใช้งาน ทำให้เป็นพื้นที่สีเขียว ที่มีเอาไว้ “มอง” เป็นหลัก ดังนั้นสาธารณูปโภคหลักๆจะอยู่ที่ชั้น G ซึ่งเป็น Lobby ความสูง 2 Floor และชั้น 36 ซึ่งเป็นชั้นศูนย์รวมของสาธารณูปโภคต่างๆทั้ง Floor

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 170,000 บาทต่อตารางเมตร, 01/07/2013

  • ทำเล – 7.5/10 ทำเลดีจริงครับ แต่ด้วยราคานี้เราเลือกสุขุมวิทตอนต้นหรือในทองหล่อได้อีกหลายตึกเลยนะ
  • เดินทางด้วยรถ – 7.5/10 ถนนวันเวย์ รถติดบ้าง แต่ก็ไปไหนมาไหนสะดวก
  • ไม่ใช้รถ – 8.75/10 เป็นข้อดีของโครงการนี้
  • วัสดุ – 7/10 ให้สวย ให้ครบ แต่คุณภาพในบางส่วนยังไม่เหมาะกับราคา
  • แบบ – 9/10 โดยรวมทำออกมาได้ดีมาก ติดเรื่องความหนาแน่นเล็กน้อย
  • สาธารณูปโภค – 7/10 มาตรฐานในราคาเท่านี้, อาคารจอดรถแยก

  • LUXURY CLASS
  • 7.71 / 10.00

BOTTOM LINE

The Rhythm สุขุมวิท 42 เป็นตัวเลือกของคนที่มีงบประมาณสูง อยากได้คอนโดแต่งครบใกล้รถไฟฟ้าแถวสถานี BTS เอกมัย และมี Gateway เป็นที่พึ่ง

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ

banner-thinkofliving-rhythm-skv42