รีวิวโครงการ
คิดเรื่องอยู่ Ep.587 : Ramada Residence by Siamese Asset
10 ตุลาคม 2021
Ramada Residence by Siamese Asset เป็นโครงการคอนโดมิเนียม Branded Residence จาก Siamese Asset ซึ่งได้เครือโรงแรม Ramada (รามาด้า) แบรนด์ภายใต้ Wyndham Hotel Group เข้ามาช่วยบริหารจัดการพร้อมบริการพิเศษต่างๆ ในราคาเริ่มต้น 4.4 ล้านบาทค่ะ
โครงการนี้มีจุดเด่นที่น่าสนใจอยู่หลายอย่างซึ่งเรารวบรวม Highlights ของโครงการมาให้ชม ดังนี้
- ทำเล : โครงการตั้งอยู่ติดกับถนนใหญ่ คือถนนสุขุมวิทช่วงซอยสุขุมวิท 87 สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสถานีอ่อนนุชหรือสถานีบางจากได้ มีรถรับ-ส่งจากโครงการให้บริการโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
- Branded Residence : ห้องพักอาศัยทุกยูนิตสามารถใช้บริการ Concierge Service และ Bellboy ช่วยขนของได้ และมีบริการพิเศษเช่น ทําความสะอาด, บริการ Room Service, บริการด้านอาหารและเครื่องดื่ม, บริการซ่อมบํารุงให้เรียกใช้บริการเพิ่มเติม
- การออกแบบ : เป็นคอนโดมิเนียมที่มีห้องพักอาศัยแบบ Double Volume ฝ้าเพดานสูง 4.60 เมตร ห้องนั่งเล่นได้ฝ้าเพดานสูง ช่องแสงขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่งภายในห้องพักอาศัยและมองเห็นวิวได้กว้าง
- Siamese Technology : ภายในห้องพักอาศัยมีการเลือกใช้กระจกเพื่อลดความร้อนเข้าสู่ตัวห้อง ประตูหน้าต่างกันเสียง และมีการเดินงานระบบไว้ภายในห้องเพื่อให้ง่ายและสะดวกในการซ่อมบำรุง
ข้อมูลโครงการ
Ramada Residence by Siamese Asset (รามาดา เรสซิเดนซ์ บาย ไซมิส แอสเสท) ณ วันที่ 28 กันยายน 2564
ชื่อโครงการ | Ramada Residence by Siamese Asset (รามาดา เรสซิเดนซ์ (สุขุมวิท 87) บาย ไซมิส แอสเสท) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนสุขุมวิท เขตพระโขนง |
ที่ดิน | 1-3-83 ไร่ |
ประเภทคอนโด | High Rise 25 ชั้น 1 อาคาร |
จำนวนยูนิต | 372 ยูนิต |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 17 ยูนิต |
ที่จอดรถ | 148 คัน คิดเป็น 40% เป็นที่จอดแบบ Automatic Parking |
เริ่มก่อสร้าง | สิงหาคม 2561 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | สร้างเสร็จพร้อมอยู่ |
ประเภทห้องพัก |
|
ฝ้าเพดานสูง | 4.60 เมตร (ห้อง Double Volume ทั้งหมด) |
ราคาเริ่มต้น | 4.4 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 130,000 บาท/ตร.ม.(พื้นที่ใช้สอย) |
ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด) | ประมาณ 119,500 – N/A บาท/ตร.ม.(พื้นที่ใช้สอย) |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | ผ่านแล้ว |
เว็บไซต์โครงการ | http://www.ramadaresidencebangkok.com |
Call Center | 1306 |
ทำเลที่ตั้ง
ทำเลโครงการ Ramada Residence by Siamese Asset ดีอย่างไร?
- ติดถนนใหญ่ : โครงการตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ช่วงถนนสุขุมวิท 87 เดินทางเข้าเมืองสะดวกใกล้กับเอกมัย-ทองหล่อ หรือไปยังบางนา – ตราดได้ง่าย
- มีตัวเลือกการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า : ที่ตั้งโครงการอยู่ระหว่างสถานีรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช และสถานีบางจาก ระยะห่างประมาณ 550 เมตร ซึ่งโครงการมีรถรับ-ส่งให้บริการค่ะ
พิกัด Google Maps : 13.701733468614972, 100.60368902835404
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ Ramada Residence by Siamese Asset มีทางเข้า-ออกติดกับถนนสุขุมวิทเลยค่ะ อยู่ใกล้กับซอยสุขุมวิท 87 ซึ่งเป็นช่วงระหว่างสถานีรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุชและสถานีบางจาก ซึ่งถือว่าเป็นทำเลที่เดินทางสะดวก ไม่ว่าจะเป็นจากถนนสุขุมวิทเองที่ใช้เดินทางไปยังบางนา-ตราด หรือเข้าเมืองไปยังเอกมัย – ทองหล่อได้ไม่ยาก หรือใครที่ต้องเดินทางด้วยทางด่วนก็สามารถขึ้น – ลงทางด่วนได้จากสุขุมวิท 50 และสุขุมวิท 62 ค่ะ
นอกจากนั้นยังมีตัวเลือกการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าทั้ง 2 สถานี ระยะห่างจากโครงการพอๆกันที่ประมาณ 550 เมตร เป็นระยะที่อาจจะเดินไกลสักหน่อย สามารถนั่งวินมอเตอร์ไซค์หรือใช้บริการรถรับ-ส่งของทางโครงการได้ แต่เราขอแนะนำให้เดินทางไปขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานีอ่อนนุชนะคะ เนื่องจากสถานีอ่อนนุชเป็นสถานีสุดท้ายของรถไฟฟ้าสายหลัก เมื่อเลยมาสถานีบางจากจะเสียค่าบริการส่วนต่อขยายเพิ่ม 15 บาทค่ะ
ทำเล “อ่อนนุช” ปัจจุบันเป็นทำเลที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นเยอะทีเดียวค่ะ เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ที่ขยายมาจากย่านทองหล่อ เอกมัย มีห้างสรรพสินค้า Hypermarket และ Community Mall หลากหลายอยู่ใกล้ๆ ไม่ว่าจะเป็น Lotus อ่อนนุช และ Century Movie Complex ที่อยู่ติด BTS อ่อนนุชเลย นอกจากนั้นยังมี Community mall ใกล้ๆคือ Phyll บริเวณหน้าปากซอยสุขุมวิท 54 วันที่อากาศดีๆสามารถเดินไปได้สบายๆค่ะ
นอกจากแหล่งจับจ่ายใช้สอยแล้วพื้นที่รอบๆยังเต็มไปด้วยสาธารณูปโภคต่างๆครบครัน ไม่ว่าจะเป็นสถานีที่ราชการ โรงพยาบาลและสถานศึกษา ที่อยู่ติดกับโครงการเลยคือโรงเรียนนานาชาติ Wells International School และไม่ไกลนักคือโรงเรียนนานาชาติ Bangkok Prep ในซอยอ่อนนุช 77 เรียกได้ว่าทำเลนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทีเดียว
ยกตัวอย่างการเดินทางคร่าวๆ เริ่มจากสถานีรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช ให้ใช้ประตูทางลงฝั่ง Century Movie Complex (ทางออก 4) นะคะ เมื่อลงมาแล้วจะมีทางเท้าให้เดินตลอดเส้นทาง ระยะทางประมาณ 550 เมตร ก็จะเจอกับโครงการ Ramada Residence by Siamese Asset ทางด้านซ้ายมือเลยค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น หรืออาคารสูงไม่เกิน 4 ชั้น ทำให้ทัศนียภาพรอบๆโครงการเป็นวิวเปิดโล่งค่ะ นอกจากนั้นภายในโครงการชั้น G และชั้น M เป็นโถงสูง Double Volume ทำให้ห้องพักอาศัยชั้นแรก เริ่มที่ชั้น 2 จะมีความสูงเท่ากับอาคารทั่วไปที่ชั้น 5 สามารถมองเห็นวิวได้แล้วค่ะ
- ทิศเหนือ ติดกับ Wells International School
- ทิศตะวันออก ติดกับ อาคารสูงประมาณ 4 ชั้น
- ทิศใต้ ติดกับ ซอยสุขุมวิท 87 ฝั่งตรงข้ามซอยเป็นอาคารสูงประมาณ 2-4 ชั้น
- ทิศตะวันตก ติดกับ ถนนสุขุมวิท และเส้นทางรถไฟฟ้า BTS
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- Phyll (คอมมูนิตี้มอลล์) 450 m.
- Tesco Lotus อ่อนนุช 550 m.
- Big C Extra 2.0 km.
- Century The Movie Plaza Sukhumvit 2.1 km.
- Summer Hill (คอมมูนิตี้มอลล์) 2.2 km.
- Habito Mall 2.4 km.
- W Market 3.0 km.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 2.8 km.
- โรงพยาบาลสุขุมวิท 3.6 km.
- โรงพยาบาล เทพธารินทร์ 3.9 km.
โรงเรียน
- Wells International School 0 m.
- Wells International School 3 km.
- Wells International School 3.5 km.
รายละเอียดโครงการ
ความน่าสนใจของโครงการ Ramada Residence by Siamese Asset
จะมีอะไรบ้าง เราไปชมกันเลยค่ะ
- Branded Residence : โครงการมีการบริการ Concierge Service และ Bellboy ช่วยเหลือพร้อมทั้งบริการพิเศษ ทําความสะอาด, บริการ Room Service, บริการด้านอาหารและเครื่องดื่ม, บริการซ่อมบํารุง
- ร้านอาหารภายในโครงการ : ภายในโครงการมีร้านอาหารอิตาเลียนที่ชั้น Rooftop ผู้อยู่อาศัยสามารถซื้อของกินได้ไม่ยาก
โครงการ Ramada Residence by Siamese Asset เป็น 1 ใน 4 โครงการที่ทางบริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) นำมาปรับเป็น Branded Residence โดยแบรนด์ Ramada (รามาด้า) เป็นแบรนด์ภายใต้ Wyndham Hotel Group เครือโรงแรมจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีมากกว่า 9,300 โรงแรมกว่า 90 ประเทศ
โดย Branded Residence เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่างผู้พัฒนาโครงการและแบรนด์โรงแรม เพื่อเพิ่มมูลค่าและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัย โดยจะมีการบริหารอาคารและทรัพย์ส่วนกลางตามมาตรฐานของแบรนด์นั้นๆ และมี Service ต่างๆให้กับผู้พักอาศัยเสมือนอยู่โรงแรม เช่น บริการทําความสะอาด, บริการ Room Service, บริการด้านอาหารและเครื่องดื่ม, บริการซ่อมบํารุง รวมไปถึงบริการพิเศษเช่น บริการสอนทำอาหารด้วย Chef , บริการนวดสปา เป็นต้น
โครงการ Ramada Residence by Siamese Asset เป็นอาคารเดี่ยวสูง 25 ชั้น บนที่ดินเกือบ 2 ไร่ แบ่งฟังก์ชันการใช้งาน ดังนี้
- ชั้น 1 : พื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวก
– สวนหย่อม
– สระว่ายน้ำและสระเด็ก
– Lobby
– ร้านอาหารและร้านกาแฟชั้น 1
– Hotel Lounge - ชั้น M : พื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวก
– Hotel Gym / Residence Gym
– Yoga Room
– Multipurpose Room
– Co-kitchen Space
– Meeting Room - ชั้น 2 – 9 : Residence
- ชั้น 10 – 14 : Branded Residence
- ชั้น 15 – 25 : Residence
- Rooftop : พื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวก
– Roof Café / Restaurant
– BBQ Sky Bar
– Rest Area
รูปแบบของห้องพักอาศัยของโครงการจะแบ่งเป็นห้องพักอาศัยชั้น 2 – 9 เป็นส่วน Low Zone และชั้น 15 – 25 เป็นส่วน High Zone ในส่วนของชั้น 10-14 เป็น Branded Residence ซึ่งมี Hotel Licence ถูกต้องตามกฎหมาย โดยจะมีบริการต่างๆจาก Ramada เหมือนกับเข้าพักในโรงแรมเลยค่ะ ส่วนห้องพักแบบปกติก็จะสามารถใช้บริการ Concierge Service และ Bellboy ช่วยยกของได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ
Ramada Residence by Siamese Asset
การออกแบบตัวอาคารของ Ramada Residence by Siamese Asset จะเน้นการใช้พื้นที่ใช้สอยภายในให้ได้มากที่สุด ห้องพักจึงไม่มีระเบียง การใช้กรอบอาคาร (Facade) ส่วนใหญ่เป็นกระจกมีการเลือกใช้สีขาวของห้อง 1 Bedroom ตัดกับสีดำที่ห้อง 2 Bedroom มุมอาคารค่ะ
ก่อนไปชมบรรยากาศภายในโครงการขอพามาดูผังกันก่อนนะคะ เนื่องจากโครงการ Ramada Residence มีที่ตั้งติดอยู่กับถนนใหญ่อย่างถนนสุขุมวิท จึงมีการออกแบบให้ตัวอาคารอยู่ค่อนไปด้านหลังของที่ดินเพื่อให้สามารถก่อสร้างอาคารที่มีความสูงได้มากขึ้น และดีไซน์พื้นที่ด้านหน้าให้เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ประกอบด้วยสวนหย่อม พื้นที่นั่งเล่น และสระว่ายน้ำ ซึ่งนอกจากจะสามารถออกมาใช้งานได้แล้ว ยังเป็นการออกแบบเพิ่มทัศนียภาพที่สวยงามให้กับด้านหน้าโครงการอีกด้วยค่ะ
ทางเข้า – ออกของโครงการตลอดทั้งแนวที่ดินไม่มีรั้วกั้นนะคะ เป็นการออกแบบสไตล์โรงแรมที่คนภายนอกสามารถเดินเข้ามารับประทานอาหารด้านในได้ มีทางเข้า-ออกของรถยนต์อยู่ด้านข้าง เป็นการเดินรถทางเดียววนรอบอาคาร สามารถ Drop off รับ-ส่งคนที่หน้า Lobby ได้เลย ส่วนใครที่จะจอดรถนอกจากที่จอดด้านหน้าแล้ว ยังมีที่จอดรถเป็นระบบ Automatic Parking ด้านหลังอาคาร มี 2 ช่องจอด สามารถจอดได้รวม 148 คัน คิดเป็น 40% และทางโครงการมีบริการรถรับ – ส่ง ในเครือโรงแรมไปยังสถานีรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุชให้เป็นตัวเลือกเพิ่มเติมค่ะ
บรรยากาศด้านหน้าโครงการเปิดโล่งซึ่งค่อนข้าง Friendly เปิดให้คนภายนอกมองเห็นได้ชัดเจนค่ะ บรรยากาศด้านหน้าโครงการจึงมีการออกแบบเป็นสวนหย่อม มีบ่อน้ำพุ ได้ยินเสียงน้ำไหลอยู่ตลอดเวลาเพิ่มความสดชื่นให้กับคนที่เดินผ่านไปผ่านมาด้วยค่ะ
บรรยากาศบริเวณสวนด้านหน้าโครงการ
เดินเข้ามาแล้วจะเจอกับสวนหย่อมมีมุมนั่งเล่น หรือนั่งรอรถ Shuttle Service ก็ได้นะคะ เหมาะกับการนั่งพักผ่อนในช่วงเวลาเย็นๆที่อากาศไม่ร้อน บริเวณนี้จะสามารถมองเห็นถนนสุขุมวิทและรถไฟฟ้า BTS ได้ชัดเจนเลย
บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำ
เข้ามาด้านในอีกหน่อยจะเจอกับสระว่ายน้ำของโครงการ มีการแบ่งสระเด็กและสระผู้ใหญ่ เป็นทั้งพื้นที่ส่วนกลางให้มาเล่นน้ำกันได้ และเป็นวิวให้กับห้องพักอาศัยด้านหน้าด้วยค่ะ
สระเด็กเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือมีขนาดประมาณ 4.50 x 5.50 เมตร ลึก 0.35 เมตร ซึ่งแยกส่วนจากสระผู้ใหญ่เพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ และเด็กๆเองก็ไม่ไปรบกวนผู้ใหญ่ค่ะ
บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำ
ส่วนสระว่ายน้ำผู้ใหญ่เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ รูปตัว L ขนาดประมาณ 11.00 x 11.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร ล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่ ไม้พุ่มบรรยากาศร่มรื่น อีกทั้งยังช่วยบังสายตาทำให้มาเล่นน้ำได้ไม่เขินมากนักค่ะ
บรรยากาศเมื่อมองจากสระว่ายน้ำมองเห็นสระเด็ก สวนด้านหน้าและเห็นเส้นรถไฟฟ้า BTS ที่ถนนสุขุมวิทได้
บรรยากาศพื้นที่นั่งเล่นด้านข้างสระว่ายน้ำ
ด้านข้างสระว่ายน้ำมีพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนมาให้ ใครที่ไม่ชอบว่ายน้ำก็สามารถมานั่งอ่านหนังสือ เปลี่ยนบรรยากาศกันได้เช่นกันค่ะ บริเวณนี้จะมีห้องน้ำแยกชาย – หญิงมาให้ 1 จุด
ถัดมาด้านข้างเป็นถนนทางเข้า-ออกโครงการซึ่งปูพื้นด้วยคอนกรีตแสตมป์ทั้งหมดดูสวยงามมีที่จอดรถด้านข้างจอดได้ประมาณ 12 คัน อำนวยความสะดวกให้แขก หรือในกรณีที่ที่จอดรถด้านในเต็มค่ะ
Automatic Parking
ด้านหลังอาคารมีช่องจอดรถ Automatic Parking มาให้ 2 ช่องจอด ซึ่งที่จอดแบบนี้มีข้อดีคือเราไม่ต้องขับขึ้นอาคารเพื่อวนหาที่จอดรถเองค่ะ แต่อาจจะใช้เวลาในการรอสักหน่อย สำหรับคนที่จะมาจอดต้องมี Key Card นะคะ ทางโครงการมีป้ายบอกวิธีจอดไว้ให้ชัดเจน เวลามารับรถจานจอดก็จะหมุนกลับรถมาให้เรียบร้อยค่ะ
แปลนภายในอาคารชั้น G ขยายมาเพื่อให้ดูกันง่ายๆนะคะ ในตัวอาคารของชั้น 1 ส่วนแรกจะเจอกับพื้นที่ Lobby ฝ้าเพดานสูง 6.40 เมตร ซึ่งได้ความโปร่ง เหมาะกับเป็นจุดแรกที่ทุกคนจะผ่านเข้า-ออกกันค่ะ ซึ่งบริเวณนี้จะมีบริการ Concierge Service คอยให้คำปรึกษาและช่วยเหลือลูกค้าด้วย ส่วนด้านในเป็นโถง Mail Box ซ่อนอยู่ในผนัง ซึ่งเดี๋ยวเราพาไปดูกันค่ะ
ถัดมาด้านข้างคือห้องอาหารสำหรับคนที่มาพักโรงแรม หรือลูกบ้านที่ต้องการรับประทานอาหารก็สามารถใช้งานได้ค่ะ ภายในมีเคาน์เตอร์เครื่องดื่มและจุดนั่งรอรับรถ จาก Automatic Parking พร้อมจอแสดงจำนวนรถด้วยค่ะ บริเวณร้านอาหารนี้มีบันไดวนขึ้นชั้นลอยเป็นส่วนของ Hotel Lobby แยกออกมาเพื่อความเป็นส่วนตัว
ลิฟต์โดยสารภายในโครงการมีทั้งหมด 3 ตัว แบ่งลิฟต์ออกเป็น Low Zone (สีส้ม) ใช้สำหรับชั้น G – 9 (ห้องพักอาศัยแบบปกติ) และลิฟต์ High Zone ใช้สำหรับชั้น G,M, และชั้น 10 – Rooftop อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 1 : 124 ถือว่าไม่น้อยนะคะ แต่ลิฟต์มีความเร็วช่วยให้ไม่ต้องรอลิฟต์นานๆค่ะ ส่วนลิฟต์ Service (สีเขียว) เป็นลิฟต์ด้านหลังไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินหรือใช้ขนของต่างๆได้ค่ะ
บรรยากาศด้านหน้าทางเข้า Lobby เป็นผนังกระจกรอบด้าน มองเห็นภายในได้ชัดเจน เวลาใครที่ต้องการรับ-ส่ง คนก็สามารถมาจอด Drop off ด้านหน้า Lobby ได้เลยค่ะ
บรรยากาศภายใน Lobby
เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับ Lobby ก่อนนะคะ ซึ่งบริเวณนี้เป็นโถงสูง Double Volume สูงถึง 6.40 เมตรเลย อีกทั้งยังมีช่องแสงสูงทำให้บรรยากาศภายในค่อนข้างโปร่งสบาย มีชุดโซฟาที่นั่งขนาดใหญ่มาให้ 4 ชุด รองรับการใช้งานของทั้งลูกบ้านและส่วนโรงแรม
ที่ Lobby จะมี Concierge service อำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านทุกคน สามารถขอความช่วยเหลือในการจองรถ จองร้านอาหาร หรือปรึกษาต่างๆได้
Mail Box
ถัดมาด้านในเป็นพื้นที่โถงทางเดินไปยังส่วน Service แต่มีการดีไซน์เป็นผนังซ่อน Mail Box เอาไว้ ทำให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม
นอกจาก Concierge service แล้วยังมีบริการ Bellboy หรือ Porter ช่วยยกสัมภาระให้บริการทั้งผู้เข้าพักโรงแรมและลูกบ้านในโครงการการค่ะ
ถัดจาก Lobby คือพื้นที่ร้านอาหารชั้น 1 ซึ่งจะเป็นห้องกระจกโถงสูง Double Volume เช่นกันค่ะ
พื้นที่บริเวณนี้ทำหน้าที่เหมือนกับส่วนร้านอาหารเช้าในโรงแรม ให้บริการกับผู้พักอาศัยในโครงการ
ภายในมีร้านกาแฟ Kafeology ร้านกาแฟของแบรนด์ Siamese Asset ซึ่งลูกบ้านภายในโครงการสามารถซื้อเครื่องดื่มได้ในราคาพิเศษด้วยค่ะ
พื้นที่นั่งพักคอย
ด้านข้างมีพื้นที่นั่งพักคอย และจอแสดงจำนวนที่จอดรถ และการเรียกรถ ทำให้สามารถนั่งรอรถได้เย็นๆสบาย เมื่อรถมาถึงคิวของเราค่อยออกไปรับได้ค่ะ
ใกล้ๆกันก็มีบันไดวนทางขึ้นไปยัง Hotel Lounge ที่ชั้นลอยค่ะ
บรรยากาศภายใน Hotel Lounge
Hotel Lounge เป็นพื้นที่นั่งพักผ่อน แบ่งโซนเฉพาะให้กับลูกค้าที่เข้าพักอาศัยในโรงแรมเท่านั้นค่ะ เพื่อความเป็นส่วนตัว มีชุดโซฟาที่นั่งสามารถทำงาน อ่านหนังสือ หรือนัดแขกมาพูดคุยธุระได้
บรรยากาศโถงลิฟต์ชั้น 1
โถงลิฟต์จะแยกส่วนกันชัดเจนใช้ Key Card ล็อกชั้นพักอาศัยและชั้นส่วนกลาง โดยลิฟต์ด้านนอก 1 ตัว เป็นลิฟต์โดยสาร Low Zone ใช้สำหรับชั้น G – 9 (ห้องพักอาศัยแบบปกติ) และด้านใน 2 ตัวเป็นลิฟต์ High Zone ใช้สำหรับชั้น G,M, และชั้น 10 – Rooftop ซึ่งลูกบ้านชั้น 2-9 เมื่อจะไปใช้งานชั้นดาดฟ้าจะต้องลงมาเปลี่ยนลิฟต์ก่อนนะคะ
ชั้น M ถือว่าเป็นชั้น Main Facility เลยก็ว่าได้ค่ะ เป็นพื้นที่ที่ลูกบ้านในส่วนของโรงแรมและพื้นที่พักอาศัยสามารถใช้ร่วมกันได้ ยกเว้นห้อง Gym ที่มีการแบ่งชัดเจนเป็น Hotel Gym สำหรับผู้มาพักโรงแรม และ Residence Gym สำหรับลูกบ้านภายในมีขนาดใหญ่ มีห้องน้ำและห้อง Steam ภายใน พร้อมกับชั้นลอยเป็นห้องโยคะ Gym ทั้ง 2 แยกด้วย Key Card เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านค่ะ
อีกฝั่งหนึ่งเป็นพื้นที่ Multipurpose Room ซึ่งเป็นพื้นที่นั่งทำงาน อ่านหนังสือ หรือนัดคุยธุระได้ ภายในจะเชื่อมต่อกับห้อง Co-Kitchen Space สำหรับจัดเลี้ยงทำอาหาร หรือ Workshop ต่างๆ และจาก Multipurpose Room จะมีบันไดทางขึ้นชั้นลอยเป็นห้อง Meeting Room ส่วนตัวค่ะ
เมื่อขึ้นมาที่ชั้น M ซึ่งเป็นชั้นที่มีฝ้าเพดานสูง Double Volume เหมือนกับชั้น G เลยค่ะ เป็นพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมด แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่ง Multipurpose Room และฝั่ง Gym
มาดูฝั่ง Gym กันก่อนนะคะ ห้อง Gym จะมีการแบ่งส่วนกันระหว่าง Hotel Gym สำหรับผู้มาพักโรงแรม (ประตูซ้ายมือ) และ Residence Gym สำหรับลูกบ้าน (ประตูตรงกลาง) ใช้ Key Card ในการเข้าใช้งาน ข้อดีของการแบ่งชัดเจนแบบนี้คือลูกบ้านไม่ต้องกังวลเรื่องการรับกวนของลูกค้าที่เข้าพักรายวัน และไม่ต้องรอคิวในการเล่นนานค่ะ
บรรยากาศภายใน Residence Gym
ภายในห้อง Residence Gym มีโถงสูง Double Volume ซึ่งจะได้ความโปร่ง โล่ง อีกทั้งยังมีช่องแสงตลอดทั้งฝั่งทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาทั่วถึง เหมาะกับการออกกำลังกายได้โดยไม่รู้สึกอึดอัดเลยค่ะ ภายในยังมีเครื่องออกกำลังกายมาให้ครบทั้ง Weight training และ Cardio training พร้อมอุปกรณ์เพิ่มเดิม เช่น นวม และกระสอบทรายแบบตั้งมาให้ด้วย
ด้านข้างเป็นพื้นที่เก็บของพวกอุปกรณ์ออกกำลังกายต่างๆ และห้องน้ำแยกฝั่งชาย - หญิงค่ะ
ห้องน้ำใน Residence Gym
ภายในห้องน้ำของ Residence Gym มี Locker เก็บของมาให้ด้วยนะคะ เมื่อออกกำลังกายเสร็จแล้วก็สามารถอาบน้ำ หรือเข้าห้อง Steam เพื่อผ่อนคลายกันได้ทั้งชายและหญิงค่ะ
บรรยากาศภายใน Yoga Room
จาก Residence Gym สามารถขึ้นมาชั้นลอยซึ่งมีพื้นที่ห้องอเนกประสงค์กว้าง เหมาะกับการจัดคลาสส่วนตัว ซ้อมเต้น โยคะ หรือกิจกรรมออกกำลังกายเป็นกลุ่มอื่นๆได้
บรรยากาศภายใน Hotel Gym
มาดู Hotel Gym กันบ้างค่ะ แม้จะแยกส่วนออกมาเป็นห้องที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนักแต่ก็มีเครื่องออกกำลังกายมาให้ครบครันไม่แพ้กันค่ะ นอกจากนั้นห้องนี้ยังสามารถมองเห็นวิวสวนและสระว่ายน้ำด้านหน้าโครงการได้อีกด้วย บรรยากาศดีน่าออกกำลังกายทีเดียว
บรรยากาศภายใน Multipurpose Room
อีกฝั่งหนึ่งเป็นห้อง Multipurpose Room ภายในเหมือนกับเป็นพื้นที่นั่งพักคอย นั่งพูดคุยธุระ สามารถทำงานเป็น Co-Working Space ได้ มีบันไดทางขึ้นชั้นลอยเป็นห้อง Meeting ส่วนตัวสำหรับนัดคุยธุระ หรือประชุมแบบจริงจังได้ค่ะ
บริเวณ Multipurpose Room มีห้องน้ำอยู่ภายในห้องเลย สามารถเข้าใช้งานได้สะดวกไม่ต้องลองไปที่ชั้น Lobby
บรรยากาศภายใน Co-Kitchen Space
ภายในห้อง Co-Kitchen Space มีขนาดใหญ่สามารถจัดกิจกรรม จัดเลี้ยงทำอาหาร หรือ Workshop ให้เชฟมาสอนทำอาหารได้ ซึ่งภายในมีอุปกรณ์ทำอาหาร เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน เตาอบ ตู้เย็นมาให้รองรับการใช้งานได้ครบเลยค่ะ
ชั้นพักอาศัยเริ่มต้นที่ชั้น 2 ค่ะ ซึ่งเป็น Floor Plan เหมือนกันตั้งแต่ชั้น 2 – 7 เนื่องจากพื้นที่บางส่วนเป็นที่จอดรถ Automatic Parking ทำให้มีจำนวนห้องเพียง 11 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้นค่ะ ซึ่งจะได้ความเป็นส่วนตัว เงียบสงบไม่หนาแน่น มีการจัดวางห้องพักอาศัยแบบ Single Corridor ล้อมรอบโถงลิฟต์และส่วน Service ตรงกลาง พร้อมช่องเปิดระบายอากาศบริเวณโถงทางเดินทำให้ ภายในมีความสว่างและอากาศถ่ายเทได้ดี
โครงการนี้จะเน้นห้องพักอาศัยส่วนใหญ่เป็นห้อง 1 Bedroom (สีน้ำตาล) มีห้อง 2 Bedroom (สีน้ำเงิน) เพียง 1 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้นค่ะ
ชั้น 8 – 25 เป็นชั้น Typical Floor Plan จัดวางห้องพักอาศัยเหมือนกันค่ะ โดยจะมีทั้งหมด 17 ยูนิตต่อชั้น เป็นโถงทางเดินแบบ Single Corridor เหมือนกับชั้น 2-7 เลยค่ะแต่จะมีห้องพักอาศัยเพิ่มขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ในเรื่องทัศนียภาพเมื่อมองจากห้องพักอาศัยถือว่าโครงการนี้ไม่มีอาคารสูงที่อยู่ในระยะประชิดเลยค่ะ ทำให้ห้องพักอาศัยได้วิวเมืองโปร่ง โล่ง มองเห็นได้เต็มที่ ห้องด้านหน้าโครงการมองเห็น BTS และถนนสุขุมวิท ส่วนด้านอื่นๆมองเห็นเป็นวิวเมืองได้กว้างเลย
ชั้น Rooftop เป็นอีกชั้น Main Facility มีความน่าสนใจอยู่ที่สามารถมองเห็นวิวได้รอบด้าน 360 องศาเลยค่ะ ด้านบนแบ่งเป็นพื้นที่ร้านอาหาร ซึ่งปัจจุบันทางโครงการแจ้งมาว่าเป็นร้านอาหารสไตล์อิตาเลียน แต่จะเป็นร้านแบรนด์ไหนต้องสอบถามกับทางโครงการอีกทีค่ะ นอกจากร้านอาหารแล้วยังมีส่วน Outdoor เป็นพื้นที่นั่งเล่นกินลมชมวิว และมี BBQ Sky Bar ให้นั่งดื่ม พักผ่อนในบรรยากาศ Rooftop ชิลๆกันได้ค่ะ
BBQ Sky Bar
เนื่องจากในวันที่เราเข้าไปเก็บภาพทางโครงการกำลังจัดพื้นที่ร้านอาหารอยู่นะคะ เราจึงมีภาพเฉพาะพื้นที่ BBQ Sky Bar มาฝากกันค่ะ ซึ่งบรรยากาศเมื่ออยู่บนชั้น Rooftop จะรู้สึกได้ถึงความโล่ง มีลมเย็นๆ มองเห็นวิวได้กว้างมากๆเลยทีเดียวค่ะ เนื่องจากไม่มีอาคารสูงๆมาบังสายตาเลย
บรรยากาศจำลองบริเวณ Rooftop เมื่อสร้างเสร็จเรียบร้อยค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ Outdoor ให้สูดอากาศธรรมชาติ แต่จะมีส่วนร้านอาหารที่เป็นพื้นที่ Indoor เปิดให้บริการทั้งลูกค้าโรงแรม และลูกค้าห้องพักอาศัยปกติค่ะ
ซึ่งโครงการนี้มีพื้นที่ส่วนกลางบางส่วนเป็นพื้นที่ร้านค้าและบริการส่วนโรงแรม ที่ทาง Siamese Asset ได้มีการเช่ากับทางนิติบุคคล เพื่อไปสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ที่ชั้น 1 เช่น ร้านกาแฟ,ร้านอาหาร, Hotel Gym ชั้น M รวมถึงร้านอาหารชั้น Rooftop โดยพื้นที่เหล่านี้ทาง Siamese Asset เป็นคนเลือกแบรนด์ร้านค้า และมีการบริหารโดยทาง Ramada ค่ะ
วิวจาก Rooftop ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- ชั้น 1
- สวนหย่อมที่ชั้น 1 และ ดาดฟ้า
- สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ขนาด 11.00 x 11.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร
- มีการแบ่งสระเด็ก ขนาดประมาณ 4.50 x 5.50 เมตร ลึก 0.35 เมตร
- Lobby
- ร้านกาแฟ ชั้น 1
- ห้องออกกำลังกาย 2 ห้อง
- Yoga Room
- Multipurpose Room
- Co-kitchen Space
- Meeting Room
- Roof Café
- BBQ Sky Bar
- Rest Area
แบบห้อง
ความน่าสนใจของห้องพักอาศัยภายในโครงการ
Ramada Residence by Siamese Asset
ห้องพักอาศัยในโครงการ Ramada Residence by Siamese Asset ออกแบบมาได้มีความน่าสนใจแตกต่างจากโครงการอื่นๆในทำเลเดียวกันทีเดียวค่ะ ซึ่งจะมี Highlight ที่น่าสนใจอย่างไรเราไปชมกันเลยค่ะ
- ห้องฝ้าเพดานสูง (Double Volume) : ห้องพักอาศัยทั้งหมดในโครงการนี้ออกแบบมาเป็นห้องฝ้าเพดานสูง 4.60 เมตร ทุกยูนิตเลยค่ะ ทำให้ภายในห้องจะมีความโปร่ง ได้ช่องแสงกว้าง และโถงห้องนั่งเล่นสูง
- Siamese Technology : ภายในห้องพักอาศัยทุกยูนิตจะได้นวัตกรรมจาก Siamese Technology ดังนี้
– Soundproof Technology
ระบบกันเสียงรบกวนจากภายนอก ประกอบไปด้วยประตูกันเสียงและผนัง ผนังที่มีคุณภาพในการดูดซับเสียงและลดเสียงรบกวนจากภายนอก
– Smell Protection Technology
ระบบท่อน้ำที่แยกท่อระบายอากาศของท่อน้ำเสียออกจากกัน เพื่อป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ย้อนกลับขึ้นมา ทำให้ห้องพักอาศัยหมดปัญหาเรื่องกลิ่น
– Easy Maintenance Technology
ระบบเดินท่อในคอนกรีตที่ง่ายต่อการซ่อมบำรุงภายในห้องพัก เพื่อให้ผู้พักอาศัยได้รับความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น
– Heat Resistant Technology
กระจกประหยัดพลังงาน ป้องกันไม่ให้รังสีความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ ภายในอาคารทำให้อากาศเย็นสบายและลดการใช้พลังงาน
ห้องมาตรฐานมีการขายแบบ Fully Fitted ภายในประกอบด้วยชุดครัว สุขภัณฑ์ Built-in ช่องเก็บของใต้บันได เครื่องปรับอากาศ และตู้เสื้อผ้า มาให้นะคะ โดยมีวัสดุชุดครัว อ่างล้างจาน และ Hob & Hood จาก Teka และ สุขภัณฑ์ จาก Lavenz, American Standard, Kohler ฉากกั้นส่วนอาบน้ำ พร้อมอ่างอาบน้ำในห้อง Type 2 Bedroom ค่ะ
ห้องตัวอย่างที่เราพามาชมวันนี้มีทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้
- ห้อง 1 Bedroom 1 A พื้นที่ใช้สอยภายใน 29.30 ตร.ม.
- ห้อง 1 Bedroom 1 C พื้นที่ใช้สอยภายใน 31.58 ตร.ม.
- ห้อง 2 Bedroom 2 A พื้นที่ใช้สอยภายใน 62.19 ตร.ม.
ทางโครงการมีห้องตัวอย่างตกแต่งให้เราดูทั้งหมด 5 ห้องด้วยกันค่ะ มี 2 ห้องเป็นห้องที่ Design by คุณโบวี่ อัฐมา ซึ่งภายในห้องบรรยากาศจะเป็นอย่างไรเราเก็บภาพมาให้ชมกันทุกห้องเลยค่ะ
ห้อง 1 Bedroom Type 1 C
มาเริ่มกันที่ห้อง 1 Bedroom กันค่ะ ห้องนี้มีพื้นที่ในโฉนดเริ่มต้น 27.95 ตารางเมตร พื้นที่ใช้สอย(รวมชั้นลอย) ทั้งหมด 41.53 ตารางเมตร เป็นห้อง 1 Bedroom ที่อยู่อาศัย 1-2 คนได้สบายๆ ภายในมีการแบ่งพื้นที่ครัวอยู่ทางด้านหน้าห้องเป็นเคาน์เตอร์ครัวเปิด สามารถกั้นปิดเป็นสัดส่วนเพิ่มเติมได้ค่ะ ส่วนภายในเป็นพื้นที่ Common Area สามารถจัดวางโต๊ะรับประทานอาหารและชุดโซฟานั่งเล่น 2-3 ที่นั่งได้ โดยจะมีทางเข้าห้องน้ำอยู่ในบริเวณนี้ด้วย พร้อมกับพื้นที่ใต้บันไดซึ่งทางโครงการ Built-in เป็นชั้นเก็บของมาให้ทำเป็น Laundry เล็กๆได้เลยค่ะ แต่แบบห้องพักอาศัยส่วนใหญ่ภายในโครงการนี้ไม่มีระเบียงนะคะ (ยกเว้นห้อง 2 Bedroom) เพราะเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในห้องให้สามารถใช้งานได้เต็มพื้นที่ ลูกบ้านที่ต้องการซัก – อบผ้าสามารถใช้บริการเพิ่มเติมจากทางโครงการได้ค่ะ
ส่วนของชั้นลอยจะเป็นพื้นที่เตียงนอน มีการกั้นฉากกั้นกระจกชั้นลอยมาให้เรียบร้อยแล้วนะคะ ช่วยให้ประหยัดค่าไฟฟ้าในการเปิดเครื่องปรับอากาศ และภายในห้องนอนมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้เรียบร้อย บรรยากาศในห้องจะเป็นอย่างไรไปชมกันค่ะ
บรรยากาศด้านหน้าทางเข้าห้องพักอาศัยมีความเรียบร้อยผนังสีขาวตัดกับประตูทางเข้าห้องที่ดีไซน์เป็นลายไม้ มีป้ายเลขที่ห้องให้เรามองเห็นได้ชัดเจน พร้อมกับมือจับ Digital Door Lock ที่ใช้ Key Card ในการเปิดค่ะ
เข้ามาภายในห้องพักอาศัยเราจะเจอกับส่วนครัวก่อน ซึ่งทางโครงการออกแบบมาให้เป็นครัวเปิด เชื่อมต่อกับพื้นที่ Common Area ด้านใน แต่ถ้าใครต้องการทำอาหารบ่อยๆ หรือชอบห้องครัวแยกเป็นสัดส่วนกันกลิ่นฟุ้งกระจายก็สามารถกั้นฉากกั้นแบ่งเป็นสัดส่วนได้ค่ะ
อุปกรณ์ที่ได้บนเคาน์เตอร์ครัว Built-in
ชุดครัวทางโครงการ Built-in มาให้เหมือนกับในห้องตัวอย่างเลยนะคะ เคาน์เตอร์ครัวเป็นวัสดุหินสังเคราะห์สีขาว พร้อมด้านหลังกรุ Backsplash กระจกทำความสะอาดได้ง่าย บริเวณเคาน์เตอร์ครัวจะมีอ่างล้างจาน เครื่องดูดควัน และเตาไฟฟ้า 2 หัว จาก Teka
ช่องเก็บของภายในครัว
ในส่วนของพื้นที่ด้านล่างเคาน์เตอร์จะมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟมาให้ พร้อมลิ้นชักเก็บช้อน ส้ม แก้ว และเครื่องครัวต่างๆ พื้นที่ใต้อ่างล้างจานจะมีถังขยะแบบเปิดอัตโนมัติเมื่อเปิดบานตู้ ส่วนตู้เก็บของด้านบนสามารถเก็บของได้เต็มพื้นที่ เป็นบาน Soft Close ทำให้ไม่กระแทกและมีเสียงเบาเวลาปิด ภายในมีชั้นวางจานมาให้ 2 ชุดค่ะ แต่บริเวณนี้เสียดายเล็กน้อยที่ไม่ได้มีตู้เก็บรองเท้ามาให้นะคะ ลูกบ้านสามารถหาชั้นวางรองเท้ามาเพิ่มเติมได้
บรรยากาศบริเวณ Common Area
เข้ามาภายในบริเวณ Common Area เป็นส่วนโถง Double Volume สูง 4.60 เมตร ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง อีกทั้งยังได้แสงธรรมชาติจากช่องแสงขนาดใหญ่ช่วยทำให้ห้องสว่างมากขึ้นค่ะ บริเวณนี้ยังมีพื้นที่กว้างสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหาร 2 – 3 ที่นั่งได้สบายๆเลยค่ะ
พื้นในส่วน Common Area ปูด้วย Synthetic floor หรือพื้นไม้สังเคราะห์ มีความทนทานสวยงาม ช่วยเพิ่มบรรยากาศอบอุ่นให้กับห้อง
บรรยากาศบริเวณห้องนั่งเล่น
ห้องพักอาศัยภายในโครงการทุกห้องจะมีการออกแบบให้ไม่มีพื้นที่ระเบียงนะคะ เพื่อให้ใช้งานภายในได้อย่างเต็มที่สามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่น วางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่ง และโต๊ะกลางขนาดใหญ่ได้สบายๆ ความกว้างของห้องสามารถวาง TV ขนาด 50 นิ้วขึ้นไปได้เลยค่ะ
นอกจากนั้นภายในห้องยังได้ช่องแสงกว้างทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้เยอะและมองเห็นวิวได้กว้างเลยทีเดียวค่ะ สำหรับใครที่ชอบเปิดรับอากาศภายนอกก็สามารถเลื่อนเปิดไปด้านข้างทั้ง 2 ฝั่งเพื่อรับลมได้นะคะ
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือทางโครงการออกแบบพื้นที่เก็บของใต้บันไดมาให้สามารถเก็บของได้เยอะขึ้น ทลายข้อจำกัดของห้องพักอาศัยในคอนโดมิเนียมที่มักจะไม่ค่อยมีที่เก็บของมากนัก และมีการวางระบบให้สามารถติดตั้งเครื่องซักผ้าเพิ่มเติม ใช้งานเชื่อมต่อกับห้องน้ำได้ ถือว่าค่อนข้างลงตัวทีเดียว
ห้องน้ำภายในโครงการนี้มีความสูงขึ้นมาจากพื้นห้องเล็กน้อยเนื่องจากมีการเดินงานระบบภายในห้องของผู้อยู่อาศัยเอง ทำให้เวลาซ่อมบำรุงสามารถทำได้ภายในห้องได้เลย ไม่รบกวนห้องข้างๆ และมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ การจัดพื้นที่ภายในแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน ได้กระจกเงาบานยาวซ่อนไฟด้านหลังทำให้ห้องน้ำสว่างและดูสวยงามมากขึ้น
บริเวณอ่างล้างมือและกระจกเงาภายในห้องน้ำ
อ่างล้างมือเป็นแบบติดตั้งพร้อมเคาน์เตอร์มีชั้นเก็บของด้านล่างเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆได้ ส่วนด้านบนเป็นอ่างรูปทรงสี่เหลี่ยมสีขาวดีไซน์สวย พร้อมกระจกเงาที่มีบานเปิดเก็บของใช้เล็กน้อยๆภายในได้
โถสุขภัณฑ์สีขาว จาก American Standard
บรรยากาศภายในห้องน้ำ
พื้นที่อาบน้ำจะมีการกั้นฉากกั้นกระจกมาให้เรียบร้อย พร้อมยกขอบสูงขึ้นเล็กน้อยทำให้เวลาอาบน้ำจะไม่มีน้ำกระเด็นออกมาด้านนอก ด้านในติดตั้งฝักบัวสายอ่อนและ Rain Shower มาให้เหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ
บรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom Type 1C
พื้นที่ชั้นลอยทางโครงการกั้นฉากกั้นกระจกมาให้แบบในห้องตัวอย่างเลยค่ะ มีข้อดีคือช่วยประหยัดค่าไฟในการเปิดเครื่องปรับอากาศตอนนอนได้เยอะทีเดียว อีกทั้งยังช่วยกั้นความเป็นส่วนตัวระหว่างห้องนอนกับพื้นที่ชั้นล่าง สามารถติดตั้งม่านเพิ่มเติมได้
พื้นที่ชั้นลอยของห้อง Type นี้มีพื้นที่ 13 – 15 ตารางเมตร สามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้พอดีๆเลยค่ะ ชั้นลอยนี้จะมีเครื่องปรับอากาศติดมาให้อีก 1 จุด (ห้อง 1 Bedroom ได้เครื่องปรับอากาศ 2 เครื่อง) พร้อม Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้เรียบร้อย
บรรยากาศภายในห้องนอน
ด้านข้างบริเวณตู้เสื้อผ้ามีพื้นที่เหลือสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานเล็กๆเพิ่มเติมได้ค่ะ
ตู้เสื้อผ้า Built-in
ภายในห้องมาตรฐานจะได้ตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้นะคะ ภายในมีไฟสว่างมองเห็นเสื้อผ้าได้ชัดเจน และมีชั้นวางของด้านข้างสำหรับวางกระเป๋า ของใช้ต่างๆเพิ่มเติมได้
ห้อง 1 Bedroom Type 1 C Design By คุณโบวี่ อัฐมา
บรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom Type 1 C Design By คุณโบวี่ อัฐมา
ห้อง 2 Bedroom Type 2 A
อีกห้องที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือห้อง 2 Bedroom พื้นที่ในโฉนดเริ่มต้น 57.17 ตารางเมตร พื้นที่ใช้สอย(รวมชั้นลอย) ทั้งหมด 72.88 ตารางเมตร เป็นห้องมีพื้นที่ Double Volume 4.60 เมตร กว้างเกือบทั้งห้อง และมีจุดที่ไม่เหมือนใครคือบันไดวนสำหรับขึ้นไปชั้นลอยค่ะ เมื่อเข้ามาภายในห้องจะเจอส่วน Common Area เป็นโถงกว้าง สามารถจัดพื้นที่โถงทางเข้า พื้นที่รับประทานอาหารประมาณ 4 ที่นั่ง และพื้นที่นั่งเล่น บรรยากาศจะมีความโปร่ง โล่งเหมือนกับอยู่บ้านเลยค่ะ ห้องนอนจะมีการแยกเป็นสัดส่วน ได้ความเป็นส่วนตัวและฝ้าเพดานสูง มีทางเข้าห้องน้ำได้สะดวก ซึ่งภายในห้องน้ำของห้อง Type นี้มีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วยค่ะ ส่วนครัวเป็นพื้นที่ครัวปิดอีกทั้งห้องนี้ยังมีระเบียงส่วนตัวเชื่อมต่อกับห้องครัว เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารจริงจัง มีกลิ่นได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะฟุ้งกระจายภายในห้องเลยค่ะ อีกทั้งยังสามารถซัก-ตากผ้าเองได้ภายในห้องด้วย
ส่วนชั้นลอยเป็นพื้นที่ห้องนอนประมาณ 15 ตารางเมตร มากกว่าพื้นที่ชั้นลอยในห้อง 1 Bedroom พร้อม Built-in ตู้เสื้อผ้า มีมุม Bay Window ให้มองเห็นวิวภายนอกได้จากชั้นลอยอีกด้วย
บรรยากาศภายในห้อง 2 Bedroom จะได้ความโปร่ง โล่งจากฝ้าเพดานสูง 4.60 เมตรตลอดทั่วทั้งพื้นที่ Common Area เลยค่ะ ภายในปูด้วย Synthetic floor หรือพื้นไม้สังเคราะห์ ซึ่งจะได้เป็นลายก้างปลา (Herringbone) แตกต่างจากห้องอื่นๆ และมีช่องแสงกว้างเกือบเต็มผนังทำให้แสงธรรมชาติเข้าถึงทั่วทั้งห้องเลยค่ะ
บรรยากาศโถงทางเข้าด้านหน้าห้อง
มองกลับมาที่ด้านหน้าห้องจะมองเห็นบันไดวนทางขึ้นชั้นลอย ซึ่งถือเป็นการออกแบบที่มีความน่าสนใจทีเดียวค่ะ ได้บรรยากาศที่ค่อนข้างแปลกใหม่แตกต่างจากคอนโดมิเนียมแบบห้องDouble Volume อื่นๆ แต่ก็อาจจะเหมาะกับคนที่ชอบสไตล์นี้โดยเฉพาะค่ะ
บริเวณโถงทางเข้ามีพื้นที่ว่างด้านข้างประตูสามารถทำชั้น Built-in ที่เก็บของ วางของใช้ที่สามารถหยิบใช้ได้บ่อยๆตอนเข้า-ออกจากห้อง หรือทำเป็นชั้นวางรองเท้าเพิ่มเติมได้นะคะ
พื้นที่รับประทานอาหาร
ขยับเข้ามาหน่อยเป็นพื้นที่ที่สามารถเดินเชื่อมต่อกับห้องครัวได้สะดวกจึงเหมาะกับการวางโต๊ะรับประทานอาหาร ซึ่งพื้นที่ค่อนข้างกว้างวางโต๊ะรับประทานอาหาร 4 ที่นั่งได้สบายๆ ถ้าใครมีแขกมาเยี่ยมบ่อยๆ จะเพิ่มโต๊ะเป็น 6 ที่นั่งก็สามารถทำได้นะคะ
ด้านในเหมาะกับการจัดวางเป็นพื้นที่นั่งเล่น เนื่องจากอยู่ใกล้กับหน้าต่าง เมื่อเรานั่งพักผ่อนก็สามารถมองออกไปเห็นวิวภายนอกได้ อีกทั้งยังมีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาภายในได้ตลอดทั้งวันอีกด้วยค่ะ บริเวณนี้จะมีเหลี่ยมมุมห้องที่เกิดจากเสาของอาคารทำให้เราสามารถ Built-in ชั้นเก็บของให้มีความเรียบร้อยเพิ่มเติมได้ค่ะ
บรรยากาศบริเวณห้องนั่งเล่น
พื้นที่นั่งเล่นมีขนาดที่ค่อนข้างกว้าง สามารถวาง Sofa Bed ขนาด 4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางขนาดใหญ่ได้โดยไม่ขวางทางเดิน และสามารถเลือกใช้ TV ขนาดใหญ่ 50-60 นิ้วได้เหมาะกับระยะดู TV ที่สบายสายตาค่ะ
ส่วนพื้นที่ห้องนอนจะมีการแยกออกมาเป็นสัดส่วน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว ห้องชั้นล่างนี้คือ Master Bedroom เป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ได้ฝ้าเพดานสูง เหมาะกับคนที่ชอบความโปร่ง โล่ง มีแสงเข้าถึงเยอะ และสามารถมองเห็นวิวได้กว้างค่ะ
บรรยากาศภายในห้อง Master Bedroom
ภายในห้องสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้พอดีๆ มีพื้นที่ด้านข้างเหลือสำหรับยืนแต่งตัว และวางโต๊ะข้างเตียงได้ หัวเตียงมีช่องวางสามารถ Built-in ชั้นเก็บของเพิ่มเต้มเหมือนในห้องตัวอย่างได้นะคะ
ส่วนพื้นที่ปลายเตียงค่อนข้างกว้างสามารถวางชั้นวาง TV ขนาดใหญ่ได้ โดยเหลือพื้นที่เดินรอบเตียงได้สบายๆค่ะ
ช่องแสงของห้อง Master Bedroom ได้กระจกเข้ามุมมีความกว้างและสูงทำให้รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้มาก เปิดระบายอากาศได้ 2 จุด และด้วยความที่เป็นคอนโดมิเนียม High Rise จึงมองเห็นวิวได้กว้าง ไม่มีอาคารสูงมาบังสายตาเลยค่ะ
พื้นที่ Walk-in Closet
ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่ Walk-in Closet เชื่อมต่อกับห้องน้ำ ใช้งานได้สะดวก อาบน้ำออกมาแล้วสามารถแต่งตัวได้เลยค่ะ โดยทางโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้เรียบร้อยเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ 2 บานเลื่อน หน้าบานกระจกช่วยให้รู้สึกว่าห้องโปร่งมากยิ่งขึ้น ภายในมีไฟส่องสว่างมาให้มีความสวยงามและมองเห็นเสื้อผ้าได้ง่ายในเวลากลางคืน
มาดูภายในห้องน้ำกันบ้างค่ะ ห้องน้ำสามารถเข้าได้ 2 ทางจากห้อง Master Bedroom และจากห้องครัว รองรับส่วน Common Area และห้องนอนบนชั้นลอย ภายในมีการตกแต่งคล้ายกับห้อง 1 Bedroom แต่จะมีการจัดพื้นที่แบ่งส่วนเปียก กับส่วนแห้งแยกฝั่งกันชัดเจนไปเลยค่ะ
ภายในห้องยังได้กระจกเงาบานยาวซ่อนไฟด้านหลังทำให้ห้องน้ำสว่างและดูสวยงามพร้อมทั้งเปิดเก็บของใช้ภายในได้ ไม่ว่าจะเป็นกระดาษชำระ แปรงสีฟัน ยาสีฟันหรือสบู่แชมพู ครีมบำรุงผิวต่างๆ สามารถเก็บได้เรียบร้อย
พื้นห้องน้ำยกระดับขึ้นมาเล็กน้อยมีการเดินงานระบบภายในห้องของผู้อยู่อาศัย ทำให้เวลาซ่อมบำรุงสามารถทำได้ภายในห้องได้เลยค่ะ อ่างล้างมือเป็นแบบติดตั้งพร้อมเคาน์เตอร์มีชั้นเก็บของด้านล่างเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆได้ และได้โถสุขภัณฑ์ จาก American Standard
บรรยากาศภายในห้องน้ำ
พื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นกระจกมาให้ แบ่งส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน ภายในยังได้อัปเกรดขั้นมาจากห้อง 1 Bedroom คือมีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วยค่ะ
อ่างอาบน้ำเป็นอ่างสำหรับแช่ตัวทรงสี่เหลี่ยมขนาดพอดีๆ สามารถแช่น้ำได้ 1 – 2 คน พร้อมฝักบัวระบบน้ำร้อน-น้ำเย็นมาให้ค่ะ
พื้นที่อาบน้ำสามารถยืนอาบได้พอดีๆ มีการยกขอบสูงขึ้นเล็กน้อยไม่ให้น้ำไหลออกมาภายนอกได้ง่าย ด้านในติดตั้งฝักบัวสายอ่อนและ Rain Shower พร้อมชั้นวางสบู่มาให้ 1 จุดค่ะ
ถัดมาเรามาดูห้องครัวที่อยู่บริเวณใต้ชั้นลอยใกล้กับบันไดกันบ้างค่ะ
บรรยากาศภายในห้องครัว
ภายในครัวมีการออกแบบให้เป็นครัวปิด ทำให้สามารถทำอาหารได้จริงจังไม่ต้องกลัวกลิ่นฟุ้งกระจาย เพราะนอกจากจะมีเครื่องดูดควันแล้วห้องครัวยังเชื่อมต่อกับระเบียงทำให้สามารถเปิดระบายอากาศได้ดีอีกด้วยค่ะ ภายในครัวของห้องมาตรฐานมีเคาน์เตอร์ Built-in มาให้เรียบร้อยหน้าตาและรูปแบบเหมือนกับในห้องตัวอย่างเลยค่ะ
อุปกรณ์ที่ได้บนเคาน์เตอร์ครัว Built-in
เคาน์เตอร์ครัวเป็นวัสดุหินสังเคราะห์สีขาว พร้อมด้านหลังกรุ Backsplash กระจกทำความสะอาดได้ง่าย บริเวณเคาน์เตอร์ครัวจะได้อ่างล้างจาน เครื่องดูดควัน และเตาไฟฟ้าอัปเกรดขึ้นมาเป็นแบบ 4 หัวเตา จาก Teka ซึ่งสามารถทำอาหารได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ช่องเก็บของภายในครัว
ตู้เก็บของภายในห้องครัว เป็นตู้บานลามิเนตลายไม้บาน Soft Close ปิดแล้วไม่มีเสียงดัง และไม่กระแทกของใช้ภายในตู้ สามารถเก็บจาน ชาม ช้อน ซ้อม รวมถึงอุปกรณ์ทำอาหารอื่นๆได้หลากหลาย ด้านล่างเคาน์เตอร์มีช่องสำหรับวางไมโครเวฟ ช่วยประหยัดพื้นที่บนเคาน์เตอร์ ซึ่งด้านล่างช่องเปิดมีการออกแบบให้มีระยะพอให้เท้าสอดเข้าไปได้ช่วยให้ยืนทำอาหาร ล้างจานได้สะดวก ไม่ไปเตะโดนเท้าจนเจ็บตัวได้ค่ะ
พื้นที่ระเบียงมีความกว้างประมาณ 90 เซนติเมตร สำหรับห้องนี้ทางโครงการเดินระบบวางเครื่องซักผ้ามาให้ที่ระเบียง เพื่อให้พื้นที่ภายในโปร่งโล่ง เนื่องจากเป็นบันไดวน ทำให้ไม่มีพื้นที่เก็บของใต้บันไดค่ะ สะดวกในการซักผ้าแล้วตากที่ระเบียงได้เลย
บันไดทางขึ้นชั้นลอยจะอยู่ทางด้านหน้าเป็นบันไดวนเหล็กสีดำ ดีไซน์มาให้เชื่อมต่อกับกรอบบานกระจกที่ชั้นบนดูแล้วเข้ากัน
บรรยากาศภายในห้องเมื่อมองจากบันไดบนชั้นลอยค่ะ
พื้นที่ชั้นลอยด้านบนจัดฟังก์ชันเป็นห้องนอนที่ 2 มีพื้นที่ประมาณ 15.71 ตารางเมตร สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้สบายๆเลยค่ะ ซึ่งเป็นข้อดีของห้อง 2 Bedroom ของโครงการนี้เลย เนื่องจากส่วนใหญ่ห้อง 2 Bedroom มักมีห้องนอนรองที่ขนาดเล็กวางได้แค่เตียง 3.5 ฟุตเท่านั้นค่ะ
นอกจากนั้นห้องนี้ยังมีการออกแบบให้มีช่องแสงมองเห็นวิวภายนอก และจัดวางโซฟานั่งอ่านหนังสือเล็กๆทำเป็น Bay Window หรือโต๊ะเครื่องแป้งสำหรับคุณผู้หญิงได้อีกด้วยค่ะ
บรรยากาศภายในห้องนอนรอง
บรรยากาศบริเวณชั้นลอยแม้ฝ้าเพดานจะไม่สูงนักแต่จะได้ความโปร่งจากผนังกระจกด้านข้างตลอดทั้งแนวมาทดแทนทำให้ไม่อึดอัดค่ะ ในห้องมาตรฐานจะมี Built-in ตู้เสื้อผ้าและเครื่องปรับอากาศที่ชั้นลอยมาให้ด้วย เป็นตู้เสื้อผ้าเหมือนกับในห้องนอนชั้นล่างเลย แต่จะมีพื้นที่เก็บของด้านข้างเพิ่มขึ้นมาเก็บของได้มากขึ้น ปลายเตียงมีพื้นที่วางชั้นวาง TV แล้วยังเหลือระยะเดินได้สบายๆ
ใครที่ไม่ต้องการห้องนอนรองก็สามารถจัดพื้นที่ชั้นลอยเป็นห้องแต่งตัว หรือพื้นที่อเนกประสงค์ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้เลยค่ะ
ห้อง 1 Bedroom Type 1 A
ห้อง 1 Bedroom ห้องนี้มีพื้นที่ในโฉนดเริ่มต้น 25.47 ตารางเมตร พื้นที่ใช้สอย(รวมชั้นลอย) ทั้งหมด 37.65 ตารางเมตร เป็นห้องที่มีขนาดกะทัดรัดมากขึ้น ภายในมีการจัดให้บันไดอยู่ทางด้านหน้าห้อง ทำให้ภายในเป็นห้องโถงกว้าง Double Volume เต็มที่ สามารถจัดพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหาร และเคาน์เตอร์ครัว ส่วนด้านหน้าห้องเมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับส่วนห้องน้ำและพื้นที่เก็บของใต้บันได เป็นเหมือนส่วน Service ที่อยู่ด้านหน้า ส่วนชั้นลอยเป็นส่วนห้องนอนมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้เรียบร้อย พร้อมฉากกั้นกระจกกั้นส่วนพื้นที่ชั้นลอยให้ค่ะ
บรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom Type 1 A
ห้อง 1 Bedroom Type 1 A Design By คุณโบวี่ อัฐมา
บรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom Type 1 A Design By คุณโบวี่ อัฐมา
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคา
Ramada Residence by Siamese Asset ราคา ณ วันที่ 28 กันยายน 2564
- ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 37 – 42 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.4 ล้านบาท
- ห้อง 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 50 – 53 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.23 ล้านบาท
- ห้อง 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 73 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 9.38 ล้านบาท
- รูปแบบการขาย Fully Fitted
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 4.60 เมตร
- Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
- Hob & Hood / ของยี่ห้อ Teka
- มีรถ Shuttle Service ไปกลับ BTS อ่อนนุช
- ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 60 บาท/ตร.ม./เดือน และกองทุนรายเดือน 5 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ความคิดเห็นจากผู้เขียน
โครงการ Ramada Residence by Siamese Asset เป็นคอนโดมิเนียม Branded Residence ในทำเลย่านอ่อนนุช – บางจาก มีการบริการ Service แบบโรงแรมโดยแบรนด์ Ramada (รามาด้า) ภายใต้เครือ Wyndham Hotel Group เหมาะกับคนที่ชอบการพักอาศัยที่มาพร้อมการบริการ และชอบพื้นที่ส่วนกลางบรรยากาศโรงแรม ซึ่งจะมีความแตกต่างกับคอนโดมิเนียมปกติตรงที่มีความคึกคักมากกว่า อีกทั้งมีร้านอาหารที่เปิดให้บริการกับคนทั่วไปด้วย ทำให้ผู้อยู่อาศัยมีความสะดวกมากขึ้น สามารถขึ้นลิฟต์ไปทานข้าวภายในโครงการของตัวเองได้ อีกทั้งถ้าต้องการบริการทำความสะอาด หรือซ่อมบำรุงต่างๆ ก็สามารถเรียกใช้บริการของทางโครงการเลย
เมื่อเทียบกับโครงการ Ramada Plaza Residence by Siamese Asset ที่อยู่ตรงสุขุมวิท 48 แล้ว จะมีความคล้ายคลึงกันค่ะ แต่จะมีข้อแตกต่างด้วยบรรยากาศด้านหน้าโครงการ และห้องพักอาศัย ในโครงการ Ramada Residence by Siamese Asset (สุขุมวิท 87) จะได้ห้องฝ้าเพดานสูงโปร่งกว่าอยู่ที่ 4.60 เมตร (ที่สุขุมวิท 43 สูง 4.40 เมตร) และเน้นห้องพักอาศัยแบบ 1 Bedroom ค่ะ อีกทั้งยังมีราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงง่ายกว่าด้วย แต่ก็ต้องแลกกับการที่ความอุดมสมบูรณ์ในระยะที่เดินไปซื้อของไกลกว่า เดินไปขึ้นรถไฟฟ้าค่อนข้างไกล ซึ่งต้องมองว่าทำเล บรรยากาศและห้องพักอาศัยแบบไหนตอบโจทย์เรามากกว่ากันค่ะ
ซึ่งผู้เขียนมองว่า Ramada Residence by Siamese Asset เป็นโครงการที่เหมาะกับคนที่ชอบห้อง Double Volume แบบฝ้าเพดานสูงโปร่งจริงๆ และยังได้วิวโล่งกว้างทุกตำแหน่ง บรรยากาศด้านหน้าโครงการโล่งมองเห็นจากถนนสุขุมวิทได้ชัดเจน สามารถกลับรถได้สะดวก แต่ไม่เน้นเดินไปขึ้นรถไฟฟ้ามากนักนะคะ
ทำเล :
ที่ตั้งโครงการ Ramada Residence by Siamese Asset อยู่ติดกับถนนสุขุมวิท บริเวณปากซอยสุขุมวิท 87 ฝั่งขาออกไปยังบางนา-ตราด ระยะห่างจากรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุชประมาณ 550 เมตร เป็นทำเลที่เดินทางสะดวก อีกทั้งสภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการไม่มีอาคารสูงอยู่ในระยะประชิดทำให้ห้องพักอาศัยได้วิวโล่ง กว้างมองเห็นได้ไกลทั้ง 360 รอบโครงการเลย
ความอุดมสมบูรณ์ในทำเลถือว่ามีอยู่เยอะทีเดียวค่ะ มีห้างสรรพสินค้า Hypermarket และ Community Mall หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Lotus อ่อนนุช, Century Movie Complex, Phyll พร้อมสาธารณูปโภคอื่นๆ อย่างอาคารสำนักงานราชการ, สถานศึกษานานาชาติ และโรงพยาบาล
การเดินทางโดยใช้รถ :
การเดินทางด้วยรถยนต์ถือว่าสะดวกทีเดียวค่ะ สามารถเดินทางเข้าเมืองไปยังเอกมัย – ทองหล่อได้ง่าย หรือจะออกไปยังบางนา – ตราดซึ่งเป็นอีกย่านของอาคารสำนักงานหลายแห่งก็สะดวก อีกทั้งยังมีทานด่วนฉลองรัชและทางด่วนเฉลิมมหานครอยู่ไม่ไกลให้เลือกใช้บริการด้วยค่ะ
ทางโครงการมีที่จอดรถมาให้อยู่ที่ 148 คัน คิดเป็น 40% เป็นที่จอดแบบ Automatic Parking มีข้อดีคือไม่ต้องวนรถขึ้นอาหารเพื่อไปหาที่จอดเอง แต่อาจจะต้องใช้เวลาในการรอคิวจอดรถ และรับรถอยู่บ้างค่ะ ส่วนจำนวนที่จอดรถนั้นถือว่าไม่มากแต่ก็ไม่น้อยเกินไป เนื่องจากมีตัวเลือกในการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าด้วย
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ถือว่ามีตัวเลือกเยอะทีเดียวค่ะเนื่องจากโครงการอยู่ติดกับถนนใหญ่ทำให้สามารถเรียกรถมอเตอร์ไซค์ Taxi หรือขึ้นรถเมล์ได้ง่าย อีกทั้งยังมีบริการรับ-ส่งลูกบ้านที่สถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุชด้วยค่ะ นั่งไปทองหล่อ-เอกมัยเพียง 2-3 สถานี หรือจะนั่งรถรับ-ส่งจากใต้สถานีอ่อนนุชเข้าไปยัง Habito Mall ในซอยอ่อนนุช 77 ได้ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
วัสดุ :
วัสดุภายในโครงการให้มาแบบ Fully Fitted ภายในประกอบด้วยชุดครัว สุขภัณฑ์ Built-in ช่องเก็บของใต้บันได เครื่องปรับอากาศ และตู้เสื้อผ้า ผู้อยู่อาศัยสามารถเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์แบบที่ชอบ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้เต็มที่ ภายในห้องมีวัสดุชุดครัว อ่างล้างจาน และ Hob & Hood จาก Teka และ สุขภัณฑ์ จาก Lavenz, American Standard, Kohler ฉากกั้นส่วนอาบน้ำ พร้อมอ่างอาบน้ำในห้อง Type 2 Bedroom
นอกจากนั้นยังมี Siamese Technology ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะในโครงการของ Siamese Asset คือ มีการเลือกใช้กระจกเพื่อลดความร้อนเข้าสู่ตัวห้อง ประตูหน้าต่างกันเสียง และมีการเดินงานระบบไว้ภายในห้องเพื่อให้ง่ายและสะดวกในการซ่อมบำรุงเพิ่มเข้ามาให้จากคอนโดมิเนียมทั่วไปค่ะ
การออกแบบ :
การออกแบบที่เป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยก็คือห้องพักอาศัยแบบ Double Volume ฝ้าเพดานสูง 4.60 เมตร ทุกยูนิต บริเวณห้องนั่งเล่นจะได้ฝ้าเพดานสูง และมีช่องแสงขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งภายในห้องพักอาศัย มีแสงธรรมชาติเข้ามาได้มากและมองเห็นวิวได้กว้างเต็มที่ค่ะ
ส่วนการออกแบบอาคารจัดวางพื้นที่ส่วนกลางอยู่ที่ชั้น G, M และชั้น Rooftop เป็นหลัก ใช้งานได้สะดวก และบนชั้นดาดฟ้าสามารถมองเห็นวิวได้รอบด้าน 360 องศา ชั้นพักอาศัยมีการจัดวางแบบ Single Corridor ล้อมรอบโถงลิฟต์และส่วน Service ตรงกลาง ได้ความเป็นส่วนตัว
สาธารณูปโภค :
สาธารณูปโภคถือว่าให้มาครบครันตามมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ สวน Lobby พื้นที่นั่งทำงานพักผ่อน ห้องออกกำลังกาย รวมไปถึง Sky Facility แต่จะมีกลิ่นอายความเป็นโรงแรมสักหน่อยนะคะ เช่นมีห้องอาคารที่ชั้น G และร้านอาหารชั้น Rooftop เหมาะกับคนที่ชอบบรรยากาศเหมือนพักในโรงแรม นอกจากนั้นยังมีบริการพิเศษของ Branded Residence เพิ่มเข้ามาด้วย เช่น ห้องพักอาศัยทุกยูนิตสามารถใช้บริการ Concierge Service และ Bellboy ช่วยขนของได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และเรียกทําความสะอาด, บริการ Room Service, บริการด้านอาหารและเครื่องดื่ม, บริการซ่อมบํารุงได้ (ห้องพักปกติเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมต่อครั้ง)
Ramada Residence by Siamese เหมาะกับใคร
โครงการ Ramada Residence by Siamese เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดมิเนียมพร้อมบริการจากโรงแรม (Branded Residence) อยู่ติดถนนใหญ่เดินทางสะดวกทั้งรถยนต์และรถสาธารณะ มี Concierge Service และ Bellboy ให้เรียกใช้บริการ พื้นที่ส่วนกลางครบ มีร้านอาหารภายในโครงการ ชอบห้องพักอาศัยแบบ Double Volume ฝ้าเพดานสูงโปร่งถึง 4.60 เมตร ชอบคอนโดมิเนียมที่มองเห็นวิวได้กว้าง ไม่มีอาคารสูงมาบังวิว มีงบประมาณระดับ 4.5 – 10 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 31,500 – 70,000 บาท/เดือน
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc