สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาไปรีวิวโครงการ Ramada Plaza Residence Sukhumvit 48 คอนโดสร้างเสร็จอีกโครงการในย่านอ่อนนุชจาก Siamese Asset ที่นี่มีจุดน่าสนใจ ดังนี้
- ห้องฝ้าเพดานสูง : รูปแบบห้องที่ขายแทบทั้งหมดจะเป็นห้องฝ้าเพดานสูง 4.40 เมตร แบ่งฟังก์ชันออกได้เป็น 2 ชั้น ทำให้บรรยากาศภายในยูนิตเหมือนได้อยู่บ้าน
- คอนโดติดถนนสุขุมวิท : ทำเลอยู่ในโซนอ่อนนุชแต่อยู่ติดถนนใหญ่อย่างถนนสุขุมวิทที่เรามองว่าราคาคอนโดติดถนนเส้นนี้นั้นยิ่งอยู่ในเมือง ยิ่งมีมูลค่าสูงมาก แต่โครงการนี้ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 4.29 ล้านบาท หรือ ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.ทั้งโครงการอยู่ที่ประมาณ 13x,xxx บาท/ตร.ม. ซึ่งถือว่าจับต้องได้ง่ายนะคะ
- วิวแม่น้ำเจ้าพระยา : มี Rooftop ที่ทุกคนสามารถขึ้นไปชมวิวได้แบบ 360 องศา เห็นทั้งวิวเมืองและที่เป็น Highlight คือวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา
- Branded Residence : การบริการในแบบโรงแรมที่พ่วงมาด้วย รวมไปถึง Wyndham Membership และ Siamese Privilege ได้ส่วนลดเพิ่มเติมนอกเหนือจากการใช้งานภายในคอนโดของเรา
- ทำเลสะดวกสบาย : ที่ตั้งจะอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าอ่อนนุช (สามารถเดินไปใช้งานได้) ซึ่งเป็นสถานีที่ถือว่าอุดมสมบูรณ์มากสถานีหนึ่งก็ว่าได้ มีห้าง ร้านอาหาร ตลาด ล้อมรอบ ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกินเลยค่ะ
รายละเอียดโครงการนี้จะเป็นอย่างไร ไปอ่านรีวิวกันต่อได้เลย
ข้อมูลโครงการ
Ramada Plaza Residence Sukhumvit 48 ณ วันที่ 12 April 2022
ชื่อโครงการ | Ramada Plaza Residence Sukhumvit 48 (รามาดา พลาซ่า เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท48) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนสุขุมวิท เขตคลองเตย |
ที่ดิน | 1-3-83 ไร่ |
ประเภทคอนโด | High Rise 39 ชั้น ห้องพักอาศัย 339 ยูนิต และ โรงแรม 5 ชั้น 19 ยูนิต |
จำนวนยูนิต | 339 ยูนิต (เฉพาะส่วนคอนโด) |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 11 ยูนิต |
ที่จอดรถ | 211 คัน อาคาร A (โรงแรม) 44 คัน อาคาร B (คอนโด) 177 คัน (ระบบอัตโนมัติ) |
สร้างเสร็จ | ปี 2563 |
ประเภทห้องพัก |
|
ฝ้าเพดานสูง | 4.4 เมตร |
ราคาเริ่มต้น | 4.29 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 130,000 บาท/ตร.ม. |
เว็บไซต์โครงการ | www.siamesesukhumvit48.com |
Call Center | 1306 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.7091726,100.5902176
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
ทำเลของโครงการ Ramada Plaza Residence Sukhumvit 48 จะอยู่บนถนนสุขุมวิท ใกล้กับซอยสุขุมวิท 48 ที่ตั้งนี้เราอยากให้มองใน 2 ประเด็น คือ
– คอนโดติดถนนสุขุมวิท : ถ้าใครเคยติดตามแวดวงอสังหาฯ กันมาบ้างก็น่าจะพอรู้กันดีว่าที่ดินใจกลางเมืองติดถนนสุขุมวิท เป็นที่ดินที่มีมูลค่าสูงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเมื่อสิบกว่าปีก่อนเราอาจจะหาคอนโดติดถนนสุขุมวิทแถวทองหล่อในราคา 2 ล้านได้ แต่ว่าปัจจุบัน คอนโดติดถนนสุขุมวิทมักจะถูกออกแบบมาให้อยู่ในระดับ Super Luxury ตามศักยภาพของราคาที่ดิน ทำให้คอนโดติดถนนสุขุมวิทใจกลางเมืองราคาสูงขึ้นมากค่ะ เวลาผ่านไป ที่ดินมีน้อย ความเจริญก็เริ่มขยับขยายออกมาสู่ชานเมืองกันมากขึ้น พ่วงกับการเปิดใช้งานของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย เลยทำให้ถ้าใครอยากได้คอนโดติดถนนสุขุมวิท แต่ราคาจับต้องได้ไม่ยากก็อาจจะต้องขยับทำเลมายังฝั่งชานเมืองอีกหน่อย
สำหรับที่ตั้งของ Ramada Plaza Residence Sukhumvit 48 นั้นจะอยู่บนถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้า ใกล้กับ BTS อ่อนนุช ซึ่งในปัจจุบันถือว่าอยู่ใจกลางเมืองพอสมควรเลยค่ะ สามารถเดินทางเข้าเมืองได้ไปพระราม 4, เอกมัย, ทองหล่อ ด้วยรถส่วนตัว รถไฟฟ้า หรือรถสาธารณะอื่นๆได้ง่าย ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว โดยโครงการนี้ทำราคาออกมาถือว่าจับต้องได้ไม่ยากอีกด้วย เฉลี่ยต่อตร.ม.ทั้งโครงการอยู่ที่ 13x,xxx บาท/ตร.ม. ถือว่าถูกกว่าโครงการติดถนนสุขุมวิทที่อยู่ถัดเข้าไปในเมืองเยอะเลยค่ะ
– คอนโดในโซนอ่อนนุช : สำหรับโซนอ่อนนุชนี้ถือว่าเป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก มีคนอยู่อาศัยกันอย่างคึกคัก โดยในโซนนี้จะมีทั้ง Lotus’s อ่อนนุช, Century Movie plaza, มีตลาด, Community mall, คาเฟ่และร้านอาหารมากมาย หาของกินของใช้ในชีวิตประจำวันได้ไม่ลำบาก และมีราคาที่สามารถจับจ่ายง่ายไม่สูงเท่าโซนเอกมัย (ทั้งที่ห่างกันเพียง 2 สถานีเท่านั้น) ถือว่าเป็นมิตรต่อการใช้ชีวิตมากค่ะ
ถ้าเรามองคอนโดในโซนอ่อนนุชด้วยกันแล้ว คอนโดส่วนใหญ่ที่ยังมีขายมือ 1 อยู่มักจะเป็นคอนโด Low Rise ในซอย ทั้งฝั่งสุขุมวิท 50 เองหรือว่าฝั่งซอยอ่อนนุช ทำให้รูปแบบห้องส่วนใหญ่จะเป็นห้องฝ้าเพดานปกติ ไม่ได้วิว หรือว่าคอนโดสูงที่มีขายที่ได้วิว แต่ก็มักจะไกลจากรถไฟฟ้าเกินระยะเดินไหวค่ะ ทำให้ Ramada Plaza Residence Sukhumvit 48 นี้ถ้ามองเทียบกับคอนโดในย่านอ่อนนุขเองจะเป็นคอนโดที่ราคาไม่ได้ต่ำ แต่จะได้เป็นคอนโด High Rise ฝ้าเพดานสูง ชมวิวได้ และยังเดินไปใช้รถไฟฟ้าได้ค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
ภาพรวมรอบๆโครงการในระยะประชิดจะเป็นอาคาร Low Rise เป็นหลัก มีทั้งบ้านพักอาศัย ตึกแถวที่อยู่ติดกับถนนใหญ่ และอาคารแนวราบ โดยจะมีเพียงแค่คอนโดทางทิศใต้ที่เป็นอาคารสูง 31 ชั้นตรงนี้จะเป็นอาคารสูงที่อยู่ใกล้ที่สุดค่ะ ซึ่งจะมีระยะห่างประมาณนึงจากตัวคอนโดของเรา ทำให้ไม่ต้องกลัวเรื่อง Privacy มาก มองจากอาคารนั้นก็ไม่เห็นภายในห้องโดยตรงค่ะ
โครงการออกแบบให้ส่วนของโรงแรมอยู่ติดกับถนนใหญ่
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า อ่อนนุช ~ 300 m.
- โลตัส อ่อนนุช ~ 350 m.
- Century the Movie Plaza ~ 400 m.
- เดอะ ฟิลล์ สุขุมวิท ~ 800 m.
- Gateway เอกมัย ~ 1.6 km.
- Major cineplex สุขุมวิท ~ 2 km.
โรงพยาบาล
- รพ.กล้วยน้ำไท ~ 1.6 km.
- รพ.สุขุมวิท ~ 1.6 km.
โรงเรียน
- รร.นานาชาติบางกอก เพรพ ~ 1 km.
- Wells International School ~ 3.5 km.
- ม.กรุงเทพ ~ 3.5 km.
- รร.นานาชาติเซนต์ แอนดรูวส์ กรุงเทพฯ ~ 6.2 km.
รายละเอียดโครงการ
Ramada Plaza Residence Sukhumvit 48 เป็นคอนโดมิเนียม Branded Residence จาก Siamese Asset ที่ได้จับมือกับ Wyndham Hotel Group หนึ่งในเครือโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีมากกว่า 9,300 โรงแรม ในกว่า 90 ประเทศ โดยมีแบรนด์โรงแรมในเครือมากถึง 20 แบรนด์ ทำให้นอกจาก Product หรือว่าคอนโดมิเนียมที่เป็นอสังหาฯ ที่เราได้รับแล้ว คนที่เลือกโครงการนี้จะได้ Service จากโรงแรมระดับ 5 ดาวพ่วงเข้ามาอีกด้วยค่ะ
ในตัวโครงการ Ramada Plaza Residence Sukhumvit 48 จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน 2 อาคารคือ
- ส่วนโรงแรม อาคาร A (ติดถนนสุขุมวิท) เป็นอาคารสูง 5 ชั้น+ชั้นใต้ดิน 2 ชั้น ประกอบด้วยห้องพัก 19 ยูนิต และ ที่จอดรถ 44 คัน โดยภายในส่วนของโรงแรมก็จะมี Facility แยก เช่น สระว่ายน้ำ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร สปา เป็นต้น
- ส่วนคอนโดมิเนียม อาคาร B เป็นคอนโดมิเนียมสูง 39 ชั้น มีห้องพักอาศัย 339 ยูนิต ที่จอดรถแบบ Auto parking รวม 177 คัน และมี Facility ภายในตัวค่ะ
สำหรับเราที่เป็นนักรีวิวเองมักจะเจอกับคำถามว่าโครงการที่มีทั้งโรงแรมและคอนโดมิเนียมรวมอยู่ด้วยกันจะมีการจัดการอย่างไร? ความเป็นส่วนตัวของคนที่อยู่คอนโดจะมีหรือไม่? ซึ่งใน Ramada Plaza Residence Sukhumvit 48 ถือว่ามีการออกแบบแยกพื้นที่การใช้งานของทั้ง 2 ส่วนนี้ออกจากกันคนละอาคารเลย ทำให้เรามองว่าคนที่อยู่คอนโดมิเนียมนั้นก็จะได้ความเป็นส่วนตัวเหมือนกับอยู่คอนโดทั่วไปเลยค่ะ แต่ก็สามารถเดินไปใช้งาน Facility ในส่วนของโรงแรม เช่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ สปา หรือจะใช้บริการในส่วนของ Concierge Services ก็ง่าย แถมจะได้ส่วนลดพิเศษในการสั่งอาหาร เครื่องดื่มต่างๆ อีกด้วย
ในส่วนของการบริการที่ได้รับ เรามองว่าเป็นเรื่องความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยนะคะ หลักๆ ก็จะมี Concierge Services ที่ประจำอยู่ที่โรงแรม ตรงนี้ก็จะเหมือนเป็นผู้ช่วยส่วนตัวให้กับเรา สามารถให้ช่วยเรียกรถ จัดหาแม่บ้าน ช่างซ่อมต่างๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ว่าในการใช้งานแม่บ้านทำความสะอาดหรือบริการซักรีดก็จะมีการคิดค่าบริการเพิ่ม แต่ก็จะเป็นมาตรฐานระดับโรงแรมซึ่งเรามองว่าเราสามารถไว้วางใจและเชื่อใจในคุณภาพมากกว่าการที่เราเรียกใช้บริการแม่บ้าน ช่างซ่อมผ่านทาง Application อื่นๆ นะ นอกจากนี้เราก็สามารถสั่งอาหารเครื่องดื่มจากทางฝั่งโรงแรมให้มาส่งที่ห้องได้ (Room Services) โดยราคาที่จ่ายก็จะได้ส่วนลดพิเศษจากราคาขายของทางร้านอีก เป็นสิทธิพิเศษสำหรับผู้อยู่อาศัยภายในโครงการค่ะ
นอกเหนือจากบริการต่างๆ ที่ได้รับแล้ว ผู้อยู่อาศัยของ Ramada Plaza Residence Sukhumvit 48 จะได้สิทธิพิเศษเพิ่มเติมอีก 2 ส่วนค่ะ
- Wyndham Membership : ได้คะแนนสะสม และสิทธิพิเศษจากโรงแรมภายในเครือ Wyndham
- Siamese Privilege : ได้ส่วนลดจากร้านค้าและบริการที่อยู่ในเครือ Branded Residence ทั้งหมด 4 โครงการค่ะ
โรงแรม
ขอพามาดูส่วนของโรงแรมกันก่อนนะคะ ตรงนี้จะเรียกว่าอาคาร A เป็นอาคารสูง 5 ชั้น + ชั้นใต้ดิน 2 ชั้น (ที่จอดรถ) พื้นที่ตรงนี้จะค่อนข้าง Public ไม่มีรั้วกั้น คนนอกสามารถมาใช้งานร้านกาแฟ ร้านอาหารหรือสปาของโรงแรมได้ค่ะ ภายในโรงแรมก็จะเป็นโรงแรมขนาดเล็ก มีอยู่เพียง 19 ห้อง พร้อม Facility อย่างสระว่ายน้ำก็แยกส่วนออกมา ไม่มีการปะปนไปใช้ร่วมกับคอนโดมิเนียมซึ่งเป็นอาคารที่อยู่ทางด้านหลัง
ด้านหน้าทางฝั่งที่ติดกับถนนสุขุมวิทก็จะมีการจัด Landscape เปิดโล่ง ไม่มีรั้วกั้น ให้คนนอกเข้ามาใช้งานได้สะดวกค่ะ ส่วนใครที่ขับรถมาก็สามารถเลี้ยวรถเข้าไปจอดใต้อาคารได้เลย
ประตูทางเข้าทางส่วนโรงแรมค่ะ ดูร่มรื่นอยู่นะคะ
เมื่อเข้ามาภายในจะเจอกับ Lobby ส่วนโรงแรมค่ะ บรรยากาศจะโปร่งโล่ง
หันมาทางซ้ายมือ ตรงนี้จะเป็นร้านกาแฟที่ชื่อว่า KAFEOLOGY เป็นแบรนด์ร้านกาแฟจากไซมิส เองเลย ลูกบ้านที่มาซื้อก็จะมีส่วนลดพิเศษด้วยค่ะ ตรงนี้เรามองว่าบรรยากาศก็เหมือนกับ Co-working Space ที่เราสามารถเอางานมานั่งทำได้ หรือว่าจะนัดเพื่อนมาคุยงานก็สะดวก ไม่ต้องเดินทางไปไหนไกล มีที่จอดรถด้วยค่ะ
ข้างๆกันเราเจอกับตู้ Fresh box เหมือนมินิมาร์ท ที่ขายเครื่องดื่ม อาหารแช่แข็ง ของสด(บางประเภท) อยากกินอะไรก็ลงมาซื้อได้เลย ไม่ต้องเดินไปไกลค่ะ
มายังอีกฝั่งตรงนี้ก็จะเป็นที่นั่งโปร่ง โล่ง มาใช้งานได้
ด้านในจะเป็นร้านอาหารเวียดนามที่มีชื่อว่า “Morning Glory The Vietnamese Chef’s table” และถ้าเดินขึ้นไปชั้นสองก็จะเป็นสปาค่ะ แต่ปัจจุบันส่วนสปานี้ยังไม่เสร็จดีเลยไม่มีภาพมาฝากนะคะ
ร้านอาหารเวียดนามตกแต่งดูสบายๆ วันที่เราไปมีลูกค้านั่งกินอยู่อาหารหอมน่ากินมากเลย เราลองเข้าไปดูในเพจของทางร้าน บางช่วงมีการจัดโปรโมชันอย่าง Drink buffet, Buffet Hot Pot สไตล์เวียดนาม คิดไว้ว่าถ้ามีโอกาสจะลองไปทานดูเหมือนกันค่ะ
คอนโดมิเนียม
มาดูที่ส่วนของคอนโดกันต่อค่ะ ตำแหน่งจะอยู่ทางด้านหลังเป็นคอนโด High Rise สูง 39 ชั้นที่มีความสูงถึง 196 เมตร จุดที่น่าสนใจคือยูนิตพักอาศัยทั้งหมด (ยกเว้น Penthouse) จะออกแบบมาให้เป็นห้องฝ้าเพดานสูง 4.4 เมตร ทำให้อาคารจะดูสูงกว่าอาคารที่สูง 39 ชั้นทั่วไปอีกค่ะ
ภายในอาคาร B ที่เป็นส่วนของคอนโดมิเนียมนั้นจะแบ่งฟังก์ชันไว้ ดังนี้
- ชั้น 1 : Lobby, สระว่ายน้ำ พร้อมห้องน้ำ, waiting area (สำหรับรอรถ) และ Automatic Parking
- ชั้น 2 : Gym พร้อมห้องน้ำในโซน
- ชั้น 3 : Library, Mail box และ ห้องทำงานนิติบุคคล
- ชั้น 4-36 : ห้องพักอาศัยแบบฝ้าเพดานสูง
- ชั้น 37-39 : ห้องพักอาศัยแบบ Penthouse
- Rooftop : Gym, Rooftop Garden และ BBQ Area
ส่วนคอนโดจะใช้ทางเข้า-ออกเดียวกับส่วนของโรงแรมค่ะ แต่จะอยู่ทางด้านใน
สำหรับคนที่ขับรถมาใช้งานโรงแรมจะเลี้ยวรถไปทางซ้ายมือตรงนี้ แต่สำหรับส่วนของคอนโดจะจอดทางด้านในค่ะ จะมีไม้กั้นกระดกอยู่อีกจุด เป็นระบบรักษาความปลอดภัย และ เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับคนที่อยู่คอนโดนะคะ (ณ วันที่เราไปมีการติดตั้งที่จอดรถอัตโนมัติเพิ่มตรงป้ายสีแดง เลยมีการนำเอาไม้กั้นกระดกออกระหว่างช่วงก่อสร้างค่ะ ในรูปเราจึงไม่เห็นไม้กั้นกระดกนะ)
ซึ่งจะเป็นที่จอดรถชั้นใต้ดิน 2 ชั้น รองรับผู้มาใช้งานโรงแรมเท่านั้นค่ะ
ในส่วนที่จอดรถจะเป็นที่จอดรถระบบอัตโนมัติหน้าตาแบบนี้ค่ะ
ตรงนี้จะจอดได้เฉพาะรถเก๋ง(Sedan) ส่วนรถ SUV จะจอดได้อีกจุด(กำลังก่อสร้าง)
ชั้น 1
ฟังก์ชันชั้น 1 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางค่ะ มี Lobby และ waiting area สำหรับนั่งรอรถจากลิฟต์ขนรถอัตโนมัติ และมีสระว่ายน้ำในร่ม ยกระดับจากพื้นขึ้นมาได้ความเป็นส่วนตัวดีค่ะ
หลังจากจอดรถแล้วด้านข้างอาคารจะมีทางเข้าอยู่ค่ะ เมื่อเข้ามาจะเจอกับ Waiting area ตรงนี้เป็นพื้นที่นั่งรอรับรถ
เราเอาการ์ดมาทาบตรงแท่นทางขวามือแล้วรอดูได้เลยค่ะว่ารถเรามาหรือยัง ที่จอจะบอกคิวอยู่นะ
ตรงเข้ามาจะเป็น Lobby ส่วนคอนโดมิเนียม บรรยากาศจะดูโปร่งโล่งด้วยฝ้าเพดานสูงค่ะ
ตรงนี้จะมี Concierge อยู่ด้วยค่ะ ตรงเข้าไปประตูทางซ้ายมือจะเป็นทางไปลิฟต์โดยสาร และ สระว่ายน้ำ
ตำแหน่งของสระว่ายน้ำของที่นี่จะอยู่ที่ชั้น 1 เลยค่ะ เป็นสระในร่ม สูงจากระดับพื้นอยู่ ทางเดินขึ้นจะหน้าตาแบบนี้ ขึ้นไปจะมี Locker เก็บของอยู่ตรงกลาง ขวามือเป็นห้องน้ำ ส่วนซ้ายมือเป็นสระว่ายน้ำ
ภายในห้องน้ำจะมีส่วนอาบน้ำและห้องซาวน่าอยู่ด้วย
ตัวสระจะเป็นสระว่ายน้ำในร่มเลย ซึ่งเราไม่ค่อยจะเจอเท่าไหร่ค่ะ สระแบบนี้จะไม่ใช่สระที่เอาไว้เป็นวิวสวยงามให้กับฟังก์ชันอื่นๆ หรือเอาไว้นั่งชิลล์ชมวิวเมืองริมสระว่ายน้ำเท่าไหร่ เป็นสระว่ายน้ำที่เอาไว้ใช้งานจริง สามารถมาใช้งานได้ตลอดทั้งวัน ไม่ต้องกลัวแดดร้อน หรืออุณหภูมิน้ำจะเย็นหรือร้อนเกินไปค่ะ อีกอย่างก็คือได้ความเป็นส่วนตัวดีนะคะ
ชั้น 2
สำหรับชั้น 2 จะมีอยู่ฟังก์ชันเดียวเท่านั้น คือ Gym หรือว่าห้องออกกำลังกาย โดยจะมีพื้นที่ห้องน้ำแยกชาย-หญิงเอาไว้อาบน้ำหลังออกกำลังกายได้ค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้นสองจะมี Gym อยู่ค่ะ ที่นี่จะมีห้อง Gym อยู่ถึง 2 ชั้น คือที่ชั้น 2 และที่ชั้นดาดฟ้าเลย เลือกใช้งานได้ตามสะดวก ตรงนี้ก็จะมีเครื่องเล่นให้ใช้งานหลายชนิดอยู่ และก็มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และ Locker ให้ใช้งานด้วยค่ะ
บรรยากาศภายใน Gym ชั้น 2
ชั้น 3
ที่ชั้น 3 จะเป็นชั้นของพื้นที่ส่วนกลางเช่นกัน จะเป็นห้องทำงานของนิติบุคคล มี Mail box และ Library อยู่ค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะเป็น Library และห้องทำงานนิติบุคคล ระหว่างทางเดินก็จะมี Mailbox อยู่ด้านข้าง
ห้อง Library ออกแบบมาน่าใช้งานเลยนะคะ ซ้ายมือนอกจากจะเป็นชั้นวางของแล้วยังมีช่องเล็กๆ ให้เราไปนั่งเป็นมุมส่วนตัวได้ ส่วนบรรยากาศด้านในก็จะมีมุมนั่งทำงานอยู่ วันไหนเบื่ออยู่ในห้องก็ลงมานั่งดูซีรีส์หรือทำงานตรงนี้ได้ (อย่าลืมใส่หูฟังนะคะ จะได้ไม่รบกวนคนอื่น)
Library ที่ชั้น 3
ชั้น 40
ชั้นบนสุดเป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งชั้นค่ะ จะมี Gym ในอาคาร และ Roof garden และ BBQ area ด้านนอก
ขึ้นมาที่ชั้น 40 หรือว่าชั้นดาดฟ้าของอาคารค่ะ ออกมาจะมี Gym อยู่ห้องทางขวามือนะ
พื้นที่ Gym ของชั้นนี้เรามองว่าใหญ่กว่าชั้น 2 อยู่ค่ะ อาจจะด้วยตำแหน่งที่อยู่ชั้นบนสุดด้วย ทำให้ดูโปร่งโล่ง ขึ้นมาชมวิวได้ ส่วนเครื่องเล่นก็มีให้เลือกเยอะอยู่นะคะ
บรรยากาศของ Gym ที่ Rooftop
ภายในจะมีส่วนของห้องน้ำแยกชาย-หญิงไว้ให้ มี Locker อยู่ด้านหน้าทางเข้า ซึ่งภายในห้องน้ำก็จะมีส่วนที่เป็นสุขา และห้องอาบน้ำค่ะ
ห้องน้ำภายใน Gym ที่ Rooftop
ออกมาภายนอกอาคารกันบ้างค่ะ ตรงนี้จะเป็น Rooftop Garden ซึ่งเน้นเป็นพื้นที่โล่ง สามารถขึ้นมาชมวิวได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว
มีปลูกต้นไม้อยู่บางมุมด้วยค่ะ พร้อมที่นั่งเล่น
ตรงนี้จะเป็น BBQ Area สามารถชวนเพื่อนมาจัด Rooftop party ตรงนี้ได้นะ
วิวภายในโครงการ Ramada Plaza Residence Sukhumvit 48
จุดเด่นหนึ่งของที่นี่จะเป็นเรื่องวิวค่ะ ซึ่งโครงการนี้จะเป็นโครงการที่สูงถึง 196 เมตร สูงเป็นอันดับต้นๆของย่านนี้เลยก็ว่าได้ ทำให้สามารถได้วิวแบบ 360 องศาเลยค่ะ โดยวันที่เราไปรีวิว เราจะได้เห็นวิวจากห้องตัวอย่างที่อยู่ชั้น 32 และวิวจากชั้นดาดฟ้า ถือว่าเป็น High Zone ทั้งคู่ ซึ่งบอกได้เลยว่าวิวสวยมาก บางตำแหน่งมองไปเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยค่ะ
สำหรับใครที่ชอบเรื่องวิว โครงการนี้สร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้ว เราแนะนำให้ลองไปดูตำแหน่งห้องจริงที่เราอยากได้ ดูว่าอยู่ชั้นไหน ราคาเป็นอย่างไร วิวถูกใจเราไหม? แล้วค่อยเลือกซื้อได้ค่ะ
วิวจากชั้น 32 เห็นโค้งน้ำเจ้าพระยา
ชั้นพักอาศัย
สำหรับชั้นพักอาศัย ส่วนใหญ่ผังจะเหมือนกันไปในทุกชั้นค่ะ โดยจะมีอยู่ 11 ยูนิตต่อชั้น ถือว่าไม่หนาแน่นมาก และได้ทางเดินเดี่ยว Single corridor (ไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม) เป็นการออกแบบที่ถือว่าได้ความเป็นส่วนตัวดีค่ะ
ห้องพักอาศัยจะมีอยู่ 2 แบบหลักคือ 1 Bedroom (สีม่วงอ่อน) และ 2 Bedroom (สีม่วงเข้ม) โดยห้อง 2 Bedroom จะเป็นห้องที่อยู่มุมอาคาร ทุกยูนิตเป็นห้องฝ้าเพดานสูง 4.4 เมตร จัดพื้นที่ภายในได้เป็น 2 ชั้น บรรยากาศเหมือนอยู่บ้านค่ะ
ในส่วนของวิว อย่างที่เราบอกไปก่อนหน้าว่าเราไปดูห้องตัวอย่างทั้งสองห้อง(เส้นประสีแดง) ทั้งคู่มองย้อนไปด้านหลังยังเห็นวิวของโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ นั่นก็แปลว่าห้องทางฝั่งด้านล่างแปลนจะได้วิวทุกตำแหน่งเลยนะคะ (ทีนี้ก็อาจจะต้องไปดูว่าชั้นไหนเห็นวิวอะไรบ้างแทน)
ชั้น 4
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby
- Library
- Gym & Fitness
- Rooftop Garden & BBQ Area
- Automatic Parking 177 คัน
- ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว
- Service Lift 1 ตัว
ระบบรักษาความปลอดภัย
- Key card scan
- ลิฟต์ล็อกชั้น
- ประตู Digital Door Lock
บริการอื่นๆ
- 24 Hrs. Concierge services
- Room Service จากร้านอาหารและร้านกาแฟฝั่งโรงแรม (พร้อมส่วนลดพิเศษ)
- Room Cleaning & Laundry (คิดค่าบริการเพิ่มเติม)
- Wyndham Membership (ได้คะแนนสะสม และสิทธิพิเศษจากโรงแรมภายในเครือ Wyndham)
- Siamese Privilege (Enjoy exclusive facilities across Siamese project*)
แบบห้อง
อีกจุดเด่นของ Ramada Plaza Residence Sukhumvit 48 ก็คือเรื่องห้องพักอาศัยค่ะ ห้องแทบทั้งหมดของโครงการนี้จะออกแบบมาให้เป็นห้องที่มีฝ้าเพดานสูง 4.4 เมตร จัดออกมาเป็นห้องที่มี 2 ชั้น ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นและได้บรรยากาศที่เหมือนอยู่บ้าน จะมีเฉพาะแบบ Penthouse ที่เป็นห้องฝ้าเพดานระดับปกติ แต่ก็จะเป็นห้องขนาดใหญ่อยู่ที่ชั้นสูง (ชั้น 37-39) และเหลือขายเพียงยูนิตเดียวเท่านั้นค่ะ
แบบห้องภายในโครงการ
- ห้อง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ประมาณ 35 ตร.ม.
- ห้อง 1 Bedroom Exclusive ขนาดพื้นที่ประมาณ 43 ตร.ม.
- ห้อง 2 Bedrooms 1 Bathroom ขนาดพื้นที่ประมาณ 67 ตร.ม.
- ห้อง 2 Bedrooms 2 Bathroom ขนาดพื้นที่ประมาณ 79 ตร.ม.
- ห้อง Penthouse ขนาดพื้นที่ประมาณ 118 – 196 ตร.ม.
ภาพรวมคอนโดที่เปิดขายส่วนใหญ่โซนอ่อนนุชในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามักจะเป็นคอนโด Low Rise ที่อยู่ภายในซอย ไม่ว่าจะเป็นทางฝั่งซอยอ่อนนุช หรือฝั่งสุขุมวิท 50 ซึ่งค่าก่อสร้างของคอนโด Low Rise มักจะต่ำกว่าคอนโดสูงแบบ High Rise ทำให้ราคาเริ่มต้นหลายๆโครงการมักจะต่ำกว่า Ramada Plaza Residence Sukhumvit 48 นั่นเอง แต่ว่ารูปแบบห้องก็จะมีข้อจำกัดเช่นเรื่องความสูง Low Rise ส่วนใหญ่ มักจะออกแบบห้องความสูงระดับปกติ 2.4 – 2.5 เมตร และมักจะไม่ได้วิว นั่นก็แปลว่าโครงการ Ramada Plaza Residence Sukhumvit 48 จะมีข้อดีเรื่องรูปแบบห้องที่เป็นห้องฝ้าเพดานสูง และ เป็นคอนโด High Rise ที่ได้วิวค่ะ
ในรีวิวนี้เราจะพาไปดูห้องตัวอย่างทั้งหมด 2 แบบ เป็นห้อง 1 Bedroom ที่มีพื้นที่ใช้สอยรวมประมาณ 43 ตร.ม. และห้อง 2 Bedrooms บรรยากาศเหมือนบ้าน มีพื้นที่ใช้สอยรวมประมาณ 79 ตร.ม. ทั้งคู่จะเป็นห้องฝ้าเพดานสูงที่ได้ชั้นลอยมาภายในห้อง (ตรงนี้พื้นที่ใช้สอยตามโฉนดจะมีขนาดเล็กกว่าพื้นที่ใช้สอยจริงนะคะ) โดยรูปแบบการขายจะเป็น Fully Fitted หรือว่าห้องเปล่าค่ะ แต่ว่าปัจจุบันจะมีบางยูนิตที่ทางโครงการจัดโปรโมชัน Ready Package ขายห้องพร้อมอยู่และแถมเฟอร์นิเจอร์ให้เลย ซึ่งหน้าตาเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ก็จะเหมือนกับที่เราเห็นในห้องตัวอย่างเลยนะคะ เดี๋ยวเราไปดูกัน
รายการวัสดุในห้องพักอาศัย
- รูปแบบห้องขายแบบ Fully Fitted (ช่วงที่ไปรีวิวมีจัด Promotion Ready Package แถมเฟอร์นิเจอร์อยู่ค่ะ)
- ประตูติด Digital Door Lock
- พื้นห้อง Synthetic Floor ลายไม้
- ผนังห้องติด wallpaper
- ฝ้าเพดานฉาบเรียบ
- ดวงไฟดาวน์ไลท์
- ห้องน้ำสำเร็จรูป สุขภัณฑ์ของ American Standard อ่างอาบน้ำของ Lavenz (ระบบน้ำร้อน)
- Hob & Hood และอ่างล้างจานของ Teka
- Top เคาน์เตอร์ครัว หินอ่อน และ Backsplash กระเบื้องหินควอตซ์
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
Siamese Technology
- Soundproof Technology
ระบบกันเสียงรบกวนจากภายนอกที่ประกอบไปด้วยผนัง ประตูกันเสียงพร้อมทั้ง Door Seal และลิ้นประตูระบบอัตโนมัติ ที่สามารถลดทอนและดูดซับเสียงได้เป็นอย่างดี - Smell Protection Technology
ระบบท่อน้ำที่แยกท่อระบายอากาศของท่อน้ำทิ้ง และน้ำเสียออกจากกัน เพื่อป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ย้อนกลับขึ้นมา ทำให้ห้องพักอาศัยหมดปัญหาเรื่องกลิ่น - Heat Resistant Technology
ติดตั้งกระจกที่ช่วยสะท้อนความร้อนแบบ Low-E ป้องกันไม่ให้รังสีความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ ภายในอาคารทำให้อากาศเย็นสบายและลดการใช้พลังงาน - Easy Maintenance Technology
ระบบเดินท่อในคอนกรีตที่ง่ายต่อการซ่อมบำรุงภายในห้องพัก หมดปัญหาการรบกวนห้องชั้นล่างเพื่อให้ผู้พักอาศัยได้รับความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น
1 Bedroom
ห้องแรกที่เราจะพาไปดูเป็นห้อง 1 Bedroom Type 1F-A พื้นที่ใช้สอยตามโฉนดจะอยู่ที่ 30 ตร.ม. แต่ว่าพื้นที่ใช้สอยจริง(รวมชั้นลอย)จะอยู่ที่ประมาณ 43 ตร.ม. โดยห้องนี้ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 5.15 ล้านบาทนะ
ฟังก์ชันภายในห้องจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ชั้นล่างจะเป็น Common area เป็นโถงนั่งเล่น กินข้าว มีห้องน้ำอยู่ด้วย ส่วนชั้นบนจะเป็นโซนที่ได้ความเป็นส่วนตัว เป็นห้องนอนค่ะ ซึ่งผังแบบนี้เรามองว่าในกรณีที่มีเพื่อนมาเยี่ยมก็จะได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน ได้ความ Private สูง แขกที่มาเยือนจะไม่เห็นถึงพื้นที่ส่วนตัวเราที่อยู่ชั้นบน แต่ก็จะมีจุดที่ควรคำนึงอยู่บ้างเช่น รูปแบบห้องนี้จะมีห้องน้ำอยู่ที่ชั้นล่าง เวลาอาบน้ำแต่งตัวก็อาจจะต้องเดินขึ้น-ลงหน่อย และก็จะเป็นห้องแบบครัวเปิด ใครที่ชอบทำอาหารจริงจังแบบ ผัดกะเพราก็อาจจะต้องระวังเรื่องกลิ่น ควันที่มีโอกาสลอยคลุ้งทั่วห้องนะคะ
เริ่มกันตั้งแต่ทางเข้ากันเลยค่ะ ประตูทางเข้าห้องจะติดตั้ง Digital Door Lock ให้ บานประตูภายนอกจะเป็นสีขาว ส่วนภายในห้องจะเป็นลายไม้ดูอบอุ่นขึ้น
Foyer
เข้ามาภายในห้องจะเจอโถงทางเข้าก่อนเลย เราชอบตรงที่เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะไม่เห็นพื้นที่ภายในห้องโดยตรงค่ะ ได้ความเป็นส่วนตัวดีนะคะ
ตรงกับประตูทางเข้าจะเป็นพื้นที่ใต้บันไดพอดี ตรงนี้ทางโครงการเลยกั้นเป็นห้องเก็บของใต้บันได ซึ่งเราไม่ค่อยเจอฟังก์ชันแบบนี้ในคอนโดกันเท่าไหร่ ซึ่งเรามองว่าตรงนี้เราสามารถเก็บพวกกระเป๋าเดินทาง อุปกรณ์ทำความสะอาด หรือจะจัดเป็นที่เก็บรองเท้าก็ได้ค่ะ
หันมาทางซ้ายมือจะเป็นตำแหน่งของห้องน้ำ ตรงนี้จะมีพื้นที่บริเวณหน้าห้องน้ำอยู่ เราอาจจะวางชั้นวางของเอาไว้ หรือจะติดกระจกที่ผนังใดผนังหนึ่งแถวนี้ก็ดีค่ะ เอาไว้ส่องตรวจเช็คความเรียบร้อยของการแต่งตัว ชุด กระเป๋า รองเท้าวันนี้เข้ากันไหม ก่อนจะออกจากบ้าน
ห้องน้ำ
ห้องน้ำของโครงการนี้จะมีจุดน่าสนใจอยู่ตรงที่ห้องน้ำหลักจะออกแบบให้มีอ่างอาบน้ำภายในตัวด้วย ซึ่งฟังก์ชันนี้ชาวญี่ปุ่นจะชอบกันมาก แปลว่าห้องพักของโครงการนี้มีสิทธิ์ปล่อยเช่าให้กับ Expat ชาวญี่ปุ่นได้เช่นกันค่ะ
โดยภายในห้องน้ำก็จะแยกพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งเอาไว้ชัดเจน และงานระบบที่เตรียมไว้ให้จะเป็นระบบน้ำร้อน (ซึ่งจะแตกต่างจากระบบน้ำอุ่นอยู่นะคะ) สุขภัณฑ์ส่วนใหญ่จะเป็นของ American Standard แต่จะมีอ่างอาบน้ำที่ใช้เป็นของ Lavenz ค่ะ นอกจากนี้จะมีดีเทลสุขภัณฑ์ที่น่าสนใจเช่น พื้นที่อาบน้ำก็จะได้ฝักบัวอาบน้ำทั้งแบบ Rain shower และ Hand shower เลย ส่วนโถสุขภัณฑ์จะเลือกรุ่นแขวนกับผนัง ทำให้ลอยสูงจากพื้นอยู่ ช่วยในเรื่องทำความสะอาด ฉีดล้างพื้นได้ง่าย คราบสกปรกต่างๆไม่ติดไปตามขอบหรือซอกค่ะ
เข้ามาจะเจอกับส่วนแห้งก่อน ขวาเป็นอ่างล้างหน้า ซ้ายเป็นโถสุขภัณฑ์
Common Area
เดินเข้ามาด้านในจะเป็นส่วน Common Area เป็นพื้นที่ของฟังก์ชัน ห้องนั่งเล่น กินข้าว และครัวค่ะ
พื้นที่ตรงนี้จะมีหน้ากว้าง 4 เมตร และมีความสูงแบบ Double Volume 4.4 เมตรเลย
หันมาทางซ้ายจะเป็นมุมสำหรับวางโซฟาพักผ่อน จัดได้ 2 ที่นั่ง ในห้องที่ขายแบบ Ready package พร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ก็จะได้หน้าตาของเฟอร์นิเจอร์แบบนี้เลยค่ะ
พื้นที่ตรงนี้เองก็จะเป็นครัวค่ะ โดยครัวของที่นี่จะออกแบบมาเป็นครัวเปิด เชื่อมต่อกับพื้นที่อื่นที่อยู่รอบๆ ซึ่งในการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ห้องจริงของเรา เราก็สามารถเรียงสลับเอาโต๊ะกินข้าวมาวางโซนนี้แทนก็ได้นะคะ
ครัว
พื้นที่ตรงนี้จะยาว 2.2 เมตร โดยจะมีเคาน์เตอร์ยาว 1.5 เมตรมาให้ และมีช่องสำหรับวางตู้เย็นอยู่ด้านข้าง
ระเบียง
ตรงข้ามกันกับพื้นที่ครัวจะเป็นระเบียงค่ะ ซึ่งตัวระเบียงนี้จะไม่ได้เป็นระเบียงเปิดโล่งชมวิวนะคะ เพราะจะติดแผงกันแดดเอาไว้ แต่ว่าในส่วนการใช้งานฟังก์ชันต่างๆก็ยังสามารถใช้วางเครื่องซักผ้า ตากผ้า และเป็นพื้นที่สำหรับวาง CDU แอร์ได้อีก โดยความสูงระเบียงก็ถือว่าสูงพอๆกับในห้องเลย ทำให้เราสามารถแขวน CDU แอร์ไว้ด้านบนได้ ไม่เปลืองพื้นที่ใช้งานทางด้านล่างค่ะ
ระเบียงห้อง
สำหรับพื้นที่ข้างหน้าต่างในห้องตัวอย่างจะจัดเป็นพื้นที่กินข้าวเอาไว้ มุมนี้เรามองว่าจะปรับวางเป็นโต๊ะทำงานแทนก็ได้ค่ะ และแบ่งพื้นที่ผนังหน้าครัวเป็นมุมสำหรับกินข้าวเพิ่มได้ เนื่องจากถ้าดูในรูปเราจะเห็นว่าระยะระหว่างชั้นวางทีวีกับโซฟาจะค่อนข้างกว้าง เราอาจจะขยับเฟอร์นิเจอร์ไว้ใกล้ขึ้นได้ หรือจะเว้นไว้เป็นพื้นที่โล่งเผื่อใช้ออกกำลังกายภายในห้องก็ได้นะคะ
จุดที่น่าสนใจอีกเรื่องคือ เนื่องจากคอนโดที่นี่เป็น High Rise ที่บางมุมอาคารจะมองออกไปเป็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ว่าระเบียงมีแผงกันแดดขนาดใหญ่อยู่ ทำให้การออกแบบหน้าต่างภายในห้องนั้นถูกออกแบบให้มีขนาดใหญ่ รับแสง ชมวิวได้เต็มที่ค่ะ
ตำแหน่งของห้องตัวอย่างมองไปเยื้องๆจะเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย (ห้องนี้จะอยู่ที่ชั้น 32 ค่ะ)
ส่วนชั้นวางทีวีถ้าใน Ready package จะแถมชั้นวางหน้าตาแบบนี้ ลายไม้คุมโทนไปกับเฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง
ชั้นบน
ห้องนี้ถ้าดูพื้นที่ใช้สอยตามโฉนดจะอยู่ที่ 30 ตร.ม. แต่ว่าพื้นที่ใช้สอยจริงจะมีชั้นลอยที่สร้างเพิ่มให้มาค่ะ พื้นที่ประมาณ 13 ตร.ม. ทำให้ขนาดพื้นที่ใช้สอยภายในห้องจะอยู่ที่ประมาณ 43 ตร.ม. จุดที่ควรระวังคือ เนื่องจากพื้นที่ชั้นบนจะไม่ได้เป็นพื้นที่ที่ระบุเอาไว้ในการขออนุญาตก่อสร้าง ดังนั้นโครงสร้างจะเป็นโครงสร้างเบาที่สามารถรื้อถอนได้ ในแง่การรับน้ำหนักก็จะรับน้ำหนักพื้นฐานได้ค่ะ หลีกเลี่ยงการนำข้าวของที่น้ำหนักมากไปไว้ที่ชั้นบนจะดีกว่านะ (แต่เราเชื่อว่าโครงการก่อสร้างมาให้เป็นอย่างดีรับน้ำหนักได้ดีอยู่แล้วนะคะ แต่ก็เผื่อไว้ดีกว่าเพราะพื้นที่ตรงนี้จะไม่ได้มีข้อกม.รองรับ) ส่วนตัวบันไดระยะของขั้นบันไดตัวลูกตั้งก็อาจจะสูงกว่าทั่วไปเล็กน้อย ในช่วงแรกที่ใช้งานอาจจะต้องระมัดระวังหน่อย
ผนังที่ชั้นบนจะได้เป็นผนังกระจกเพื่อให้พื้นที่โปร่งโล่งมากขึ้น
ห้องนอน
ขึ้นมาที่ชั้นนี้จะเป็นห้องนอนค่ะ พื้นที่ตรงนี้จะมีขนาด 3×3.5 เมตร ฝ้าเพดานจะสูง 2 เมตร บรรยากาศเหมือนกับห้องใต้หลังคานะ
ด้วยความที่เป็นห้องชั้นลอยที่ไม่ได้มีพื้นที่ใหญ่มาก และฝ้าเพดานไม่สูง ทางโครงการจึงออกแบบประตูและผนังให้เป็นกระจก เพื่อให้ภายในห้องดูกว้างขึ้นค่ะ
ขนาดพื้นที่เหมาะสำหรับวางเตียงแบบ Queen size กำลังพอดี
ส่วนผนังทางด้านในจะเป็นมุมสำหรับตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ ฟังก์ชันใช้งานภายในห้องนอนถือว่าให้ครบเลยนะคะ ดูแล้วค่อนข้างส่วนตัวด้วย เหมาะสำหรับพักผ่อน
ตู้เสื้อผ้าจะได้ขนาดกว้าง 1.6 เมตร เป็นแบบบานเลื่อน ส่วนโต๊ะเครื่องแป้ง / โต๊ะทำงานกว้าง 1.00 เมตรค่ะ
มองลงไปเห็นชั้นล่างแบบนี้ค่ะ
2 Bedrooms
อีกห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปดูเป็นห้องขนาด 2 Bedrooms ที่ได้บรรยากาศเหมือนบ้านหรูๆ หลังนึงเลยค่ะ เนื่องจากได้พื้นที่ 2 ชั้น ห้องนอนใหญ่พื้นที่เยอะ จัดโซฟาพักผ่อนภายในตัวได้ ห้องฝ้าเพดานสูง มีห้องน้ำในตัวพร้อมอ่างอาบน้ำ ส่วนห้องนอนรองอยู่ชั้นบนเป็นสัดส่วน มีพื้นที่พักผ่อนและพื้นที่อเนกประสงค์ เอาไว้จัดเป็นมุมสำหรับทำงานอดิเรก เป็นพื้นที่ส่วนตัว
ในส่วนที่เป็น Common Area นั้นจะออกแบบให้เป็น Open Space เชื่อมต่อกันไปทั้งห้องนั่งเล่น ครัว และพื้นที่กินข้าว โดยบริเวณนี้จะเป็นพื้นที่ที่ได้ฝ้าเพดานสูงเช่นกันค่ะ ทำให้ดูโอ่อ่า โปร่ง สบาย บรรยากาศภายในห้องเป็นอย่างไรไปดูกันต่อเลยนะคะ
Foyer
เมื่อเข้าห้องมาจะเจอกับแนวทางเดินก่อนเป็นอันดับแรก ทางซ้ายมือจะเป็นบันไดขึ้นชั้นสอง ส่วนทางขวามือจะเป็นห้องน้ำค่ะ จุดที่น่าสนใจคือจากทางเข้าเราจะไม่ได้เห็นฟังก์ชันใช้งานภายในห้องโดยตรง ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นนะคะ
ในส่วนของวัสดุ ประตูทางเข้าก็ยังคงให้ Digital Door Lock เหมือนกันทั้งโครงการ ส่วนพื้นถ้าเราสังเกตจะเห็นว่าโทนสีจะแตกต่างจากห้อง 1 Bedroom อยู่ โดยทั้งคู่จะใช้วัสดุพื้นคือ Synthetic Floor ลายไม้เหมือนกัน แต่ลวดลายของห้อง 1 Bedroom จะเป็นโทนสีเข้ม ลายก้างปลา ส่วนห้อง 2 Bedrooms จะได้เป็นลายปกติ โทนสีอ่อนกว่า ตรงนี้เรามองว่าแล้วแต่สไตล์คนชอบนะคะ สีอ่อนก็ช่วยให้บรรยากาศภายในห้องดู cozy ขึ้น แต่ถ้าสีเข้มก็เหมาะสำหรับอยู่กัน 1-2 คน แต่งห้องแบบดิบเท่ได้ดีค่ะ
บรรยากาศทางเข้าห้อง
ห้องน้ำชั้นล่าง
ห้องน้ำนี้จะเป็นห้องที่ใช้ร่วมกันระหว่าง common area ที่ชั้นล่าง และห้องนอนรองที่ชั้นบนค่ะ ดังนั้นภายในห้องน้ำนี้ก็จะมีทั้งพื้นที่สุขาและพื้นที่อาบน้ำ แยกพื้นที่ส่วนเปียก-ส่วนแห้งภายในตัว โดยสุขภัณฑ์ต่างๆ จะได้แบบที่เห็นในรูปหมดเลย ส่วนใหญ่จะเป็นของ American Standard
ห้องน้ำจะเป็นระบบสำเร็จรูปที่สามารถซ่อมบำรุงได้ง่าย โดยงานระบบต่างๆจะซ่อนอยู่ที่ผนัง Low wall หลังสุขภัณฑ์ค่ะ
ส่วนพื้นที่ใต้บันไดจะกั้นไว้เป็นพื้นที่เก็บของค่ะ เหมาะกับการจัดเป็นที่เก็บรองเท้า อุปกรณ์ทำความสะอาด กระเป๋าเดินทางนะ
Common area
เดินเข้ามาภายในห้องเราจะเจอกับ common area ขนาดประมาณ 4.95×4.5 เมตร พื้นที่ตรงนี้จะมีความสูงแบบ Double volume 4.4 เมตรค่ะ บรรยากาศโปร่งโล่ง เหมือนอยู่ในบ้านหรือทาวน์โฮมเลย ในการตกแต่งใช้งานจริงเราอาจจะสลับฟังก์ชันได้นะคะ เช่น พื้นที่กินข้าวไปไว้หน้าครัว และเอาพื้นที่นั่งเล่นมาไว้ข้างระเบียง ส่วนมุมข้างหน้าต่างก็จัดเป็นมุมทำงานเพิ่มได้ ยิ่งสมัยนี้ที่หลายคนต้อง WFH กันเป็นปกติ
พื้นที่กินข้าว
ในห้องตัวอย่างจะจัดชุดโต๊ะกินข้าวมาไว้ข้างระเบียงค่ะ ที่เห็นจะจัดได้ 4 ที่นั่งกำลังดี แต่เราก็อาจจะหาเก้าอี้สำรองเตรียมไว้ เผื่อนัดเพื่อนมาปาร์ตี้ก็สามารถนั่งกินข้าวด้วยกัน 6 ที่นั่งสบายๆเลย
พื้นที่กินข้าว
ระเบียง
ระเบียงของห้องนี้มีขนาดประมาณ 1.1×1.65 เมตรค่ะ เป็นระเบียง service เอาไว้เป็นที่ซักล้าง ซักผ้า ตากผ้า ด้านบนก็แขวน CDU แอร์ได้ แต่จุดที่เราว่าน่ารักคือไอเดียแขวนต้นไม้กระถางเล็กที่แผงกันแดดที่เป็นเหล็กฉีก ต้นไม้เล็กๆ ก็ช่วยสร้างบรรยากาศภายในให้ดูร่มรื่นได้แล้วค่ะ
มาดูที่อีกฝั่งกันค่ะ ตรงนี้จะเป็นครัวและห้องนั่งเล่น โดยจะมีประตูเข้าห้องนอนใหญ่อยู่ทางด้านใน
ห้องนั่งเล่น
พื้นที่หน้ากว้างบริเวณนี้จะอยู่ที่ประมาณ 3 เมตรค่ะ เรามองว่าสามารถจัดชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้เลย และก็ได้บรรยากาศพักผ่อนที่ดูโปร่งสบายด้วย เพราะอยู่ติดกับหน้าต่างขนาดใหญ่ด้านข้าง
ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ ถ้าเป็นห้องที่ขายแบบ Ready package พร้อมเฟอร์นิเจอร์ ดีไซน์ของเฟอร์นิเจอร์จะได้แบบนี้เลยค่ะ
วิวภายในห้องตัวอย่าง
สำหรับห้องตัวอย่างนี้จะอยู่ในฝั่งหันไปทางด้านหน้าโครงการหรือว่าทางซอยอ่อนนุชค่ะ โดยห้องที่เราถ่ายจะอยู่ที่ชั้น 32 นะคะ วิวเปิดโล่งเลย เห็นซอยอ่อนนุชชัดเจน เห็นแนวคลองพระโขนงด้วยค่ะ
วิวภายในห้องตัวอย่าง
ครัว
สำหรับครัวภายในห้อง Type นี้ก็จะได้เป็นครัวเปิดเช่นกันค่ะ แต่โทนสีชุดครัวจะสว่างมากขึ้นนะ
เคาน์เตอร์ยาว 2.145 เมตร พอดีกับแนวผนังค่ะ
Master Bedroom
ห้องนอนใหญ่ภายในยูนิตนี้ถือว่ามีความเป็นส่วนตัวอยู่นะคะ แม้จะอยู่ชั้นเดียวกับห้องนั่งเล่นก็ตาม โดยเดินเข้ามาเราก็จะเจอกับแนวทางเดินก่อน ทำให้หัวเตียงห่างจากประตูทางเข้าอยู่พอสมควร
ส่วนตรงทางเข้าจะเป็นแนวทางเดินและตู้เสื้อผ้า ยาว 1.95 เมตร เป็นบานเลื่อน หน้าบานมีกระจกเต็มบาน ใช้ส่อง Fitting ชุดได้เลย
เข้ามายังพื้นที่ด้านใน ตรงนี้ถือว่าเป็นไฮไลท์ของ Type นี้ก็ว่าได้ค่ะ เพราะเป็นห้องนอนที่ได้ฝ้าเพดานสูง 4.4 เมตรเลย ตำแหน่งอยู่ที่มุมอาคารเลยได้กระจกบานใหญ่สองฝั่งของผนัง โปร่งโล่งสุดๆ
ส่วนพื้นที่ด้านในก็ถือว่ามีขนาดใหญ่ 3x4.5 เมตร จัดโซนพักผ่อนส่วนตัวภายในห้องได้
วิวจากห้องนอน
ตำแหน่งของห้องนอนใหญ่นี้มองเยื้องๆไปทางด้านหลังจะเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยค่ะ วิวสวยอยู่นะ
ห้องนี้ถือว่ามีพื้นที่ใหญ่ ฟังก์ชันใช้งานครบภายในตัว ได้ห้องน้ำส่วนตัวด้วยค่ะ
ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่
ห้องน้ำนี้จะมีความพิเศษตรงที่ นอกจากจะได้ความเป็นส่วนตัวแล้ว ยังจะได้อ่างอาบน้ำภายในห้องด้วยค่ะ
ออกจากห้องนอนใหญ่มาจะเจอกับ Common Area เหมือนเดิมค่ะ เดี๋ยวเราจะขึ้นไปชั้นสองดูกันนะ
ตัวบันไดจะอยู่ติดกับประตูทางเข้าเลย มีลูกตั้งลูกนอนปิดเรียบร้อยสวยงาม ความกว้างของบันไดอยู่ที่ประมาณ 76 ซม.
ห้องนอนรอง
ตัวห้องนอนรองถือว่ามีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่เลย แบ่งได้เป็น 2 ส่วนคือพื้นที่พักผ่อน และ พื้นที่อเนกประสงค์ แต่จะไม่มีห้องน้ำนะคะ เวลาใช้งานก็เดินลงไปใช้ด้านล่างอยู่ตรงกับบันไดพอดี
ขึ้นมาที่ชั้นบนจะเป็นห้องนอนค่ะ เราจะเจอกับพื้นที่ส่วนพักผ่อนที่เป็นเตียงก่อน พื้นที่เหมาะกับการวางเตียง Queen size นะ
ด้านข้างหัวเตียงจะมี Built-in ตู้เสื้อผ้ามา หน้าบานจะเป็นบานเลื่อนช่วยประหยัดพื้นที่ใช้งานค่ะ
ผนังฝั่งปลายเตียงจะออกแบบให้เป็นผนังกระจกทั้งหมด เชื่อมต่อกับ common area ที่ชั้นล่างได้
สำหรับพื้นที่อเนกประสงค์จะมีขนาดประมาณ 2×4.6 เมตร ถือว่ากว้างพอสมควรเลยค่ะ จัดเป็นมุมทำงาน มุมพักผ่อน ทำงานอดิเรกได้ เหมาะกับการทำเป็นห้องทำงานสำหรับคนที่ต้อง WFH หรือว่าจะเป็นมุมเรียนออนไลน์ อ่านหนังสือสอบสำหรับน้องๆ นักเรียน นักศึกษาก็ดีนะคะ
บรรยากาศการตกแต่งพื้นที่อเนกประสงค์ที่ชั้นบน
ผนังทางฝั่งหนึ่งจะเป็นผนังกระจก ช่วยให้พื้นที่ชั้นบนไม่อึดอัดนะ
นี่เป็นทั้งหมดของห้องตัวอย่าง 2 Bedrooms ที่เราพาไปดูค่ะ สำหรับห้องนี้เรามองว่าเหมาะกับคนที่อยากได้บ้านนะ แต่ก็ยังอยากอยู่ทำเลที่ใจกลางเมือง ซึ่งห้องนี้จะมีราคาอยู่ที่ 9.49 ล้านบาท เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก 2-4 คน เป็นห้องที่ได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน มี Facility ให้ใช้งาน อยู่ใกล้รถไฟฟ้า ความสะดวกสบาย และได้บริการเหมือนอยู่โรงแรมเนื่องจากเป็นโครงการประเภท Branded Residence ค่ะ
แบบแปลน
นอกจากห้องตัวอย่างที่เราพาไปดูทั้ง 2 แบบแล้ว ยังมีห้องแบบอื่นๆ ให้เลือกอีกเยอะเลยค่ะ เนื่องจากในแต่ละชั้นนั้นจะมีทั้งหมด 11 ยูนิตพักอาศัย โดยทั้ง 11 ยูนิตจะมี Layout ที่แทบไม่ซ้ำกันเลย เรามีตัวอย่างแปลนห้องแบบอื่นๆมาให้ดู เผื่อมี Layout ไหนที่เข้าตาผู้อ่านนะคะ
1 Bedroom Type B
ห้องนี้จะเป็น 1 Bedroom ขนาดเล็ก (เล็กกว่าห้องตัวอย่างที่พาไปดูนิดหน่อยค่ะ) จุดที่แตกต่างจะอยู่ที่ Foyer บริเวณทางเข้าห้องจะเล็กลง และพื้นที่ภายในห้องจะเล็กลง ทำให้การจัดวางเฟอร์นิเจอร์อาจจะต้องสลับเอาชุดโต๊ะกินข้าวมาวางไว้ที่หน้าระเบียงและบริเวณบันไดแทน นอกจากเรื่องขนาดแล้วเรามองว่าการใช้งานต่างๆจะคล้ายกับห้องตัวอย่างแรกที่พาไปดูนะ
2 Bedrooms Type 2B-A
สำหรับห้องนี้จะเป็นห้อง 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ทุกฟังก์ชันจะต้องลงมาใช้ห้องน้ำร่วมกันที่ชั้นล่างตรงกลางห้องค่ะ ส่วนเรื่องขนาดพื้นที่ใช้สอยอื่นๆ เรามองว่าจัดฟังก์ชันได้เป็นสัดส่วน ห้องนอนได้ความเป็นส่วนตัวเหมือนกับห้องตัวอย่างที่พาไปดูเลย อย่าง master bedroom ก็เป็นห้องปิดที่ได้ฝ้าเพดานสูง ขนาดอาจจะเล็กลงทำให้มุมสำหรับโซฟาพักผ่อนหายไป แต่ก็สามารถเข้าห้องน้ำได้จากห้องนอนโดยตรง และภายในห้องนอนก็มีขนาดกว้างอยู่สบายค่ะ
ส่วนห้องนั่งเล่นก็ได้ฝ้าเพดานสูงดูโปร่งโล่ง เชื่อมต่อกับพื้นที่ชั้นสองได้ บรรยากาศเหมือนอยู่บ้านเช่นกัน เหมาะกับครอบครัวเริ่มต้นขนาดเล็ก 2-3 คนที่มองหาบ้านใจกลางเมืองนะคะ
2 Bedroom Type 2A
สำหรับห้องนี้จะเป็นแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำที่คล้ายกับห้องตัวอย่างที่เราไปดูกันมาค่ะ แต่จะมีส่วน Common Area ที่ต่างไป โดยครัวและพื้นที่กินข้าวจะอยู่ใกล้กัน เรามองว่าห้องนี้สามารถจัดให้เป็นครัวปิดได้นะคะ โดยการต่อเติมประตูห้องครัวเพิ่มเอา เผื่อใครอยากทำอาหารที่มีกลิ่น ควันแรงๆ ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องกลิ่นจะลอยไปทั่วห้องติดโซฟา รบกวนพื้นที่ส่วนอื่นๆนะ
Penthouse
แปลนห้องสุดท้ายที่จะพาไปดูเป็น Penthouse ยูนิตสุดท้ายของโครงการนี้ค่ะ ขนาดประมาณ 177 ตร.ม. ได้ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ด้วยความเป็น Penthouse แล้ว การออกแบบฟังก์ชันต้องอยู่สบาย ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นห้องนอนใหญ่หรือว่าห้องนอนรองก็จะได้ห้องน้ำในตัว มีมุมสำหรับจัดวางโซฟาพักผ่อนภายใน มุมแต่งตัว โต๊ะเครื่องแป้งเป็นสัดส่วนภายในห้อง ส่วนพื้นที่ตรงกลางหรือว่า Common area นั้นก็จะมีห้องน้ำที่เป็น Powder room ให้ใช้งาน ส่วนครัวก็สามารถกั้นเป็นครัวปิดได้ด้วย ห้องหน้ากว้างเปิดรับวิว High Zone โดยยูนิตสุดท้ายนี้จะมีราคา 53.54 ล้านบาทค่ะ
ราคา
Ramada Plaza Residence Sukhumvit 48 ราคา ณ วันที่ 8 April 2022
- 1 Bedroom ห้อง Type 1D ราคาเริ่มต้น 4.29 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ตามโฉนดประมาณ 24.75 ตร.ม. ขนาดพื้นที่ใช้สอยจริงประมาณ 35.40 ตร.ม. ราคาเฉลี่ยประมาณ 120,xxx บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom ห้อง Type 1F-A (Type เดียวกับห้องตัวอย่าง) ราคา 5.15 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ตามโฉนดประมาณ 30 ตร.ม. ขนาดพื้นที่ใช้สอยจริงประมาณ 43 ตร.ม. ราคาเฉลี่ยประมาณ 119,xxx บาท/ตร.ม.
- 2 Bedrooms ห้อง Type 2A-C (Type เดียวกับห้องตัวอย่าง) ราคา 9.49 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ตามโฉนดประมาณ 57 ตร.ม. ขนาดพื้นที่ใช้สอยจริงประมาณ 79 ตร.ม. ราคาเฉลี่ยประมาณ 118,xxx บาท/ตร.ม.
- Penthouse ห้อง Type PH-B ราคา 53.54 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ 176.62 ตร.ม. ราคาเฉลี่ยประมาณ 303,xxx บาท/ตร.ม. (ยูนิตสุดท้าย)
- จอง 10,000 บาท
- ทำสัญญา 20,000 บาท
- ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 60 บาท/ตร.ม./เดือน (+5 บาท เป็นกองทุนรายเดือน สำรองเผื่อค่าใช้จ่ายส่วนกลางไม่เพียงพอ)
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล :
Ramada Plaza Residence Sukhumvit 48 อยู่ติดกับถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้า อย่างที่เราทราบกันว่าคอนโดบนถนนสุขุมวิทมักจะเป็นคอนโดที่มีมูลค่าสูงมากเมื่อเทียบกับคอนโดที่อยู่ในซอย โดยโครงการนี้จะอิงการใช้ชีวิตในโซนอ่อนนุชเป็นหลัก ซึ่งเป็นทำเลใกล้รถไฟฟ้าที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงมากจุดหนึ่งเลยค่ะ ที่นี่จึงเป็นคอนโดที่อยู่บนทำเลที่เดินทางสะดวก หาของกินของใช้ได้ง่าย และอยู่บนเส้นสุขุมวิทที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
การเดินทางโดยใช้รถ :
ด้วยทำเลที่อยู่ฝั่งขาเข้า จึงทำให้เดินทางไปยังเอกมัย ทองหล่อได้ง่ายผ่านสุขุมวิท หรือจะวิ่งเข้าเส้นพระราม 4 ก็ง่ายเช่นกันค่ะ จึงเหมาะกับคนที่ทำงานแถวพระราม 4 หรือใช้ชีวิตในโซนพร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัยบ่อยๆ ส่วนเรื่องทางด่วน เนื่องจากจุดขึ้นลงทางด่วนหลักที่ใกล้โครงการจะอยู่ในซอยสุขุมวิท 50 ซึ่งโครงการเราอยู่ที่บริเวณสุขุมวิท 48 ทำให้ถ้าต้องการใช้ทางด่วนก็จะต้องเผื่อเวลากลับรถวนมาอีกที
มาดูที่สัดส่วนที่จอดรถ ที่นี่จะได้เป็นระบบ Auto Parking 177 คัน หรือประมาณ 52% ถือว่าไม่มาก แต่ก็ไม่น้อยเลยสำหรับคอนโดใกล้รถไฟฟ้าแบบนี้
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
ที่นี่อยู่บนทำเลที่ถือว่าใกล้รถไฟฟ้าอ่อนนุช ประมาณ 400 เมตร สามารถเดินมาได้ ข้ามถนนนิดหน่อยตรงปากซอยสุขุมวิท 50 ใช้เวลาเดินประมาณ 5-10 นาทีค่ะ ส่วนเรื่องรถสาธารณะอื่นๆ นั้น เนื่องจากตัวโครงการจะอยู่ติดกับถนนใหญ่อย่างถนนสุขุมวิท ซึ่งเป็นเส้นที่คึกคักมากทั้งวันทั้งคืน มีทั้งรถเมล์ Taxi วินมอเตอร์ไซค์ผ่านไปมา เรียกใช้บริการได้ไม่ยาก หรือจะเรียกผ่าน Application เราก็มองว่าใช้เวลารอไม่นานค่ะ
วัสดุ :
โครงการนี้หลักๆ จะขายเป็นแบบ Fully Fitted หรือว่าเป็นห้องเปล่านะ แต่ว่าในช่วงนี้ที่จัดโปรโมชันขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ พร้อมอยู่ตรงนี้ก็ถือว่าราคาคุ้มอยู่ค่ะ ส่วนวัสดุภายในห้องเรามองว่ามีทั้งดีกว่าทั่วไปอย่างเช่น พื้น Synthetic Floor ที่ทนกว่าลามิเนต และยังเลือกลายให้ดูสวยแปลกตาดี หรืออีกชนิดที่เราว่าดีจะเป็น Top เคาน์เตอร์ครัวที่จะได้เป็นหินอ่อน ซึ่งถือว่ามีราคาสูง (แต่ก็อาจจะต้องดูแลรักษาอย่างพิถีพิถันหน่อย เพราะลายหินอ่อนอาจจะเหลืองได้ถ้าโดนสารเคมี) ส่วนวัสดุอื่นๆนอกนั้นเรามองว่าสมราคาห้องค่ะ ประตูติด Digital Door Lock ให้ ผนังติด Wallpaper ครัวได้ของ Teka ห้องน้ำสำเร็จรูปและสุขภัณฑ์ของ American Standard+อ่างอาบน้ำ Lavenz
การออกแบบ :
ตัวโครงการเป็นรูปแบบ Branded Residence ที่มีทั้งโรงแรมและคอนโดรวมอยู่ในที่เดียวกัน แต่จุดที่ดีคือทั้งสองส่วนนี้แยกอาคารออกจากกัน ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวเลยค่ะ ในส่วนของอาคารที่เป็นคอนโดนั้นจะออกแบบมาเป็นอาคารที่สูง รับวิวได้ถึง 360 องศา รวมไปถึงวิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย เรื่องวิวนี้ถือว่าน่าจะเป็นจุดขายอีกอย่างของที่นี่เช่นกันค่ะ
ส่วนตัวห้องถือว่าน่าสนใจมาก เพราะยูนิตหลักทั้งหมดในโครงการจะเป็นห้องฝ้าเพดานสูง ทำให้การจัดฟังก์ชันพื้นที่ใช้สอยภายในแต่ละยูนิตสามารถแบ่งเป็น 2 ชั้นได้ บรรยากาศจึงเหมือนกับการได้อยู่บ้าน ได้เดินขึ้นห้องนอน ลงมากินข้าว โดยจะมีห้องหลายแบบให้เลือก ตั้งแต่ 1 Bedroom สำหรับอยู่คนเดียว หรือว่าจะเป็นห้อง 2 Bedrooms สำหรับครอบครัวเริ่มต้นก็มีค่ะ
สาธารณูปโภค :
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางถือว่าให้มาตามมาตรฐานนะคะ มีสระว่ายน้ำในร่มที่น่าจะมาใช้งานได้ทั้งวัน มี Library ได้ Gym ถึง 2 ชั้น การออกแบบเรามองว่าอยู่ในระดับที่ไม่ได้สวยงามหวือหวาเท่าโครงการเปิดใหม่อื่นๆ แต่ว่าจุดที่โดดเด่นกว่าจะเป็นเรื่องการให้บริการหรือว่า Services ค่ะ โดยที่นี่จะมีรูปแบบเป็น Branded Residence ที่เน้นความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต มี Concierge ประจำโครงการ เรียก Room Service ได้ หรือจะฝากหาบริการช่างซ่อม แม่บ้านก็มีคนติดต่อให้ บริการมาตรฐานโรงแรมเลย (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) นอกจากนี้ก็จะมี Wyndham Membership สะสมแต้ม ได้ส่วนลดเวลาไปใช้โรงแรมในเครือ และได้ Siamese Privilege ส่วนลดพิเศษเมื่อใช้งานร้านอาหาร ร้านกาแฟ สปาในส่วนของโรงแรมทั้งของโครงการเองและ Branded Residence โครงการอื่นๆ ของ Siamese ด้วยค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 130,000 บาท/ตร.ม., 10 April 2022
- ทำเล 8/10 – ติดถนนสุขุมวิท โซนอ่อนนุช
- เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – ติดถนนใหญ่ เข้าพระราม 4 เอกมัยง่าย ที่จอดรถ 52%
- ไม่ใช้รถ 8/10 – ใกล้รถไฟฟ้า เรียกรถสาธารณะง่าย
- วัสดุ 7.25/10 – Fully Fitted ให้มาตามมาตรฐาน
- แบบ 7.75/10 – เน้นห้องฝ้าเพดานสูง มีแบบให้เลือกหลากหลาย
- สาธารณูปโภค 7.75/10 – ให้มาตามมาตรฐาน
- UPPER CLASS
- 7.7625 / 10.00
Ramada Plaza Residence Sukhumvit 48 เหมาะกับใคร?
Ramada Plaza Residence สุขุมวิท 48 เหมาะสำหรับคนที่มองหาที่อยู่อาศัยใจกลางเมือง บนโซนที่ใกล้รถไฟฟ้า เดินทางสะดวก หาของกินง่ายอย่างอ่อนนุช โดยมีงบ 5 ล้านสำหรับอยู่ 1-2 คน หรือว่างบ 10 ล้านสำหรับครอบครัวเริ่มต้น 3-4 คน ชอบรูปแบบห้องฝ้าเพดานสูงบรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน รักความสะดวกสบาย ชอบบริการพิเศษเหมือนอยู่โรงแรม และได้วิวสวยบนตึกสูง มีกำลังผ่อนต่อเดือน 30,000-70,000 บาท
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc