ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (3)

รีวิวฉบับที่ 114 นี้ค่อนข้างพิเศษหน่อยครับ เพราะเป็นภาคต่อเนื่องของ Quattro by Sansiri ที่ทางเวปไซต์เคยรีวิวไปแล้วหนหนึ่ง วันดีคืนดีทางแสนสิริได้ติดต่อผมมาว่าห้อง Master Piece ทั้ง 9 ห้องของ Quattro ที่เคยแต่งออกมาช่วงปลายปี 2554 นั้นได้ขายไปเกือบหมดแล้วเหลือขายอยู่แค่ห้องเดียว ทางแสนสิริจึงให้บริษัทออกแบบชื่อดังอย่าง dwp, นักออกแบบเสื้อผ้าอย่างคุณหมู ASAVA และแรงบัลดาลใจจาก Frank Sinatra มาแต่งห้องอื่นๆเพิ่มเติม เป็นห้อง Master Piece ชุดใหม่อีก 3 แบบ แล้วชวนให้ทางทีมงาน Think of Living เข้าไปดูผลงาน … แล้วอย่างนี้ใครจะปฏิเสธได้ ?

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (6)

ใครยังไม่ได้อ่านรีวิว Quattro by Sansiri ภาคแรกก็สามารถ คลิ๊กอ่านได้ที่นี่ นะครับเพราะเราจะไม่เขียนถึงเรื่องเก่าๆที่เล่าไปแล้ว เอาหนังเดิมมาขายซ้ำมันไม่ดีครับ

รอบนี้ห้องที่ทาง Think of Living พาไปดูทั้งสามห้องนั้น ตั้งอยู่ที่ตึก A ห้องหนึ่ง อยู่ที่ตึก B สองห้อง แต่ละห้องราคาประมาณตารางเมตรละ 190,000 ขึ้นไป ราคาขายตั้งแต่ 17 ล้านบาทขึ้นไปครับ

เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS ทองหล่อได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS ทองหล่อ (E6)

ถ้าอ่านแล้วชอบ ก็ช่วยกด Like กันหน่อยนะครับ

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (57)

ห้องแรกเป็นห้อง 3 ห้องนอนที่ตั้งอยู่บนชั้น 18 ของตึก A ครับ ทางแสนสิริตั้งชื่อว่า dwp เพราะ dwp | architecture + interior design เป็นผู้ออกแบบ หนึ่งในงานที่บริษัทนี้ออกแบบและรู้จักกันดีก็คือ Sirocco ห้องอาหารสุดหรูบนยอดตึก State Tower ที่ชั้น 63 ครับ

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (83)

นักออกแบบของ dwp ได้เล่าว่า ได้แรงบันดาลใจมาตกแต่งห้องมาจาก Alexander McQueen ซึ่งเป็น fashion designer ที่มีชื่อเสียงและมีแนวทางในการออกแบบเป็นของตัวเอง โดยกลุ่มลูกค้าที่จะชอบห้องนี้นั้นทางนักออกแบบคิดว่าน่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ทันสมัยและหลงใหลในเรื่องของ fashion และ design

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (82)

เริ่มจากมุมรับประทานอาหาร โต๊ะท๊อปหินอ่อน

 

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (81)

โคมไฟข้างบนโต๊ะอาหารน่าจะสั่งทำพิเศษ ผมยังไม่เคยเห็นมาก่อน

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (80)

มุมนั่งเล่น ด้านหลังเป็นกระจกสองชั้นแทรกสกรีนไว้ข้างใน

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (79)

ห้องครัวที่ไม่ได้ตกแต่งเพิ่มเติมอะไรมาก ห้อง 3 Bedrooms ทั่วไปก็เป็นแบบนี้

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (78)

สีของผ้าม่านที่ดีไซน์เนอร์เลือก

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (77)

พรมยาว 6 เมตร ผืนนี้เป็นพรม “ทอมือ” ที่มีผืนเดียวในโลก Designer ของ dwp เป็นคนออกแบบลวดลายให้เข้ากับกระจกข้างหลังโซฟา ขนาดว่าสีบนพรมก็ยังใช้ย้อมมือเอา

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (76)

ฝั่งตรงข้ามของโซฟาคือมุมทีวี ไม่ได้มีอะไรมาก เจาะรูผนังเข้าไปติดตั้งเป็น TV เฉยๆ ไม่ใส่ Sideboard วางทีวีด้วย ใช้แค่แผ่นไม้แผ่นเดียว

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (75)

ให้ดู พรม+กระจก ชัดๆว่าจงใจทำมาคู่กัน สีของโซฟาก็จงใจเลือกให้ตัดฉับๆกับพรมและกระจก

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (74)

ตลอดจนสีของหินอ่อนบนโต๊ะอาหารก็ยังเป็นโทนเดียวกันกับลายพรม … เรื่อยไปจนถึงสีของเก้าอี้ ยังเป็นสีเดียวกับดอกไม้บางดอกบนลายพรม

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (73)

ปลายโต๊ะทานอาหารติดกระจกบานใหญ่เต็มผนัง ช่วยสะท้อนให้ห้องดูมีมิติและ “กว้างขึ้น” แต่ในขณะเดียวกันก็เสียประโยชน์ใช้สอยที่จะวางตู้ติดผนังไป

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (72)

ห้องน้ำเหมือนเดิมไม่ได้แต่ง

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (71)

ห้องนี้เป็นห้อง 3 Bedrooms โดยห้องนอนเล็ก ทาง dwp ได้แต่งให้เป็นมุมพักผ่อนอีกมุมหนึ่ง สงสัยกลัวแย่งดูทีวีกันมั้ง

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (70)

มี Sofa กึ่งๆ Bed ไม่ยาวไม่สั้นตัวหนึ่งวางไว้ จะนั่งก็ได้นอนก็ได้ ข้างๆมี Side Table สีตัดกัน

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (69)

มองจากมุมสูง ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่ารูปภาพข้างหลังเบาะนั่งก็เป็นสีโทนเดียวกับพรมข้างนอก

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (68)

ให้ดูมิติทั้งห้องครับ จะประมาณนี้ ฝั่งปลายสุดของโซฟามีโคมไฟตั้งพื้นอยู่ 1 ชิ้น แขนโคมไฟสามารถยื่นและจัดปรับมุมได้ตามต้องการ เวลาอ่านหนังสือบนโซฟา

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (67)

ห้องนี้เป็นห้องนอนใหญ่ เป็นห้องที่วางอยู่ระหว่างกระจก Corner ทำให้เห็นวิวกว้างเป็นพิเศษ การตกแต่งยังคุมโทนสีใช้สีเดิมเป็นหลัก

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (66)

จุดเด่นก็คือโคมไฟทั้งสามดวงที่ยึดกับเพดานไว้ให้ห้อยลงมา แทนที่จะใช้โคมไฟตั้งบนโต๊ะข้างเตียงทั่วๆไป

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (65)

ห้องนี้มีโต๊ะทำงาน สังเกตดีๆจะเห็นโคมไฟบนโต๊ะทำงาน เหมือนย่อส่วนมาจากโคมไฟของโซฟาห้องพักผ่อนข้างๆเด๊ะๆ ส่วนลวดลายของภาพที่แปะไว้ข้างฝาก็เป็นแนวเดียวกันกับห้องข้างๆเช่นกัน

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (64)

ปลายเตียงห้องนี้ใช้ Sideboard วางทีวี ถ้าให้เดาก็เพราะว่าไม่สามารถทำแผ่นไม้ยื่นออกมาได้เหมือนห้องอื่นๆ เพราะติดกระจก

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (63)

มุมห้องนี้เป็นทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ฝั่งนี้คือทิศตะวันออก วิวดีแต่ว่าติดตึก B ข้างๆ

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (62)

ฝั่งนี้คือทิศเหนือที่หันไปทาง Eight ทองหล่อ แต่ต่อไปก็จะมีตึก HQ มาบังเพิ่มอีกตึก

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (61)

ห้องนี้เป็นห้องนอน 2 ที่อยู่อีกฟากของห้องรับแขก วิวโดนตึก B บังเต็มๆ

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (60)

ห้องนี้ให้บรรยากาศอบอุ่นกว่าห้องแรก อาจเป็นเพราะโทนสีที่นุ่มนวลขึ้น ผนังหลังหัวเตียงมีที่ใส่หนังสือได้ด้วย dwp ออกแบบให้มีฟังก์ชั่นเพิ่มเติมลงบนผนัง

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (59)

สุดท้ายก็คือมุมทำงานของห้องที่สองครับ

Summary: โดยรวมของห้องนี้เป็นการออกแบบโดยใช้แนว Minimalism (แนวคิดที่ยึดว่า Less is More) มาผสมกับวัสดุ Handmade คุณภาพสูง พยายามตัดส่วนเกินของห้องออกไป เพื่อให้ห้องดูโล่งและกว้างที่สุด ดูเรียบง่าย แต่ก็ยังคงคุมโทนสีต่างๆให้เข้ากันทั้งห้อง … ซึ่งเป็นผลงานดีที่น่าจะคาดหวังได้จากดีไซน์เนอร์แสนแพงจากบริษัท dwp

If I were to live in this room: ถ้าถามว่าใช้งานจริงๆได้ไหม? … ก็คงได้อยู่แล้ว แต่ผมคงกลัวพรมแพงสุดๆผืนนั้นเลอะ เพราะวางพาดยาวตั้งแต่โต๊ะกินข้าวไปจนโซฟาห้องรับแขก ผมเป็นคนซุ่มซ่ามคงจะทำอะไรหกภายในสองสัปดาห์แน่ๆ ส่วนห้องนอนใหญ่กลัวว่าตอนนอนจะหลับหูหลับตาเอามือไปปัดป่ายโคมไฟหัวเตียงให้ร่วงลงมาละครับ การที่ออกแบบให้เป็น Minimalism มากๆนั้น ผู้อยู่อาศัยก็ต้องคิดเรื่องที่เก็บของหน่อยนะครับ เพราะการที่จะตัดโน่นนี่ออกให้เหลือพื้นที่กว้างๆในห้อง โปร่งๆ จะนำมาซึ่งปัญหาที่เก็บของเสมอ เช่นชั้นวางของรอบๆทีวีที่หายไปเพื่อแลกกับความโปร่งโล่งของพื้นที่ห้องรับแขกครับ

ห้องที่ 2 นี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 12 ของตึก B เป็นห้องแบบ 2 Bedrooms ซึ่งผู้แต่งห้องเป็นดีไซน์เนอร์ คุณหมูจากแบรนด์ ASAVA ครับ

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (56)

โทนสีของห้องนี้เป็นสีน้ำเงิน ขนาดประตูภายในยังทาสีใหม่ Wall Paper และผนังทั้งหมดใช้สีน้ำเงินเป็นหลัก สไตล์การตกแต่งเป็นแบบ Classic + Antique เอาของคลาสสิกมาผสมของโบราณ

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (55)

มุมแรกที่บริเวณประตูเป็นโต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่ง เก้าอี้ Armchair ลายคลาสสิก … แต่เนื่องจากห้องนี้เป็นห้องแบบ 2 Bedrooms การตั้งโต๊ะแบบนี้แสดงว่ามีผู้อยู่อาศัยเพียง 2 คน ห้องนอนที่ 2 จึงถูกนำไปทำห้องทำงานแทน กลายเป็นว่าพื้นที่ 80 ตารางเมตร ถูกออกแบบมาเพื่อคนสองคนเท่านั้นครับ

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (53)

เราให้ดู Armchair ตัวนี้อีกรอบ รายละเอียดเยอะดีจริงๆ

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (52)

ผนังด้านข้างโต๊ะรับประทานอาหารทำเป็นชั้นวางของสะสม เจาะช่องเข้าไปฝังไฟ ข้างในใส่กระจกเงา สะท้อนห้องให้ดูมีมิติมากขึ้น

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (54)

มุมรับแขกเป็นแบบนี้ โซฟาทขนาด 2 ที่นั่งต่อ Stool เพื่อวางพาดขาหรือนอนยาวได้ Stool สามารถแยกชิ้นออกมาได้ ไม่จำเป็นต้องนั่งติดกันตลอดครับ

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (51)

ผมไปลองนั่งดูแล้ว นั่งสบายครับ แต่ชีวิตจริงคงจะไม่ได้ใช้หมอนเยอะขนาดนี้ ต้องเอาออกไปหน่อยมันเกะกะพอสมควร

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (50)

ชั้นวางทีวีใช้ตู้ไม้ลวดลาย Antique ชิ้นนี้โดดเด่นกว่าใครเพื่อน เรียกว่าเด้งออกมาเลยเวลากวาดสายตาผ่านไป ด้านข้างมีรูปปั้นตัวเล็กๆเป็น Prop ที่ดูโบราณเหมือนกัน โดยเฉพาะการที่เอาชั้นวางของสีดำสองชิ้นนี้มาแทน Low Table ยิ่งทำให้ดูโบราณเข้าไปอีก

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (49)

ผมเดินออกมาถ่ายภาพมุมกว้างให้ดู ก็พบว่าจุดเด่นคือภาพเขียนที่วางอยู่หลังโซฟา ช่วยสร้างบรรยากาศให้ห้องนี้เยอะมาก

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (48)

ครัวที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร นอกจากที่ใส่ขวดไวน์ที่เอาออกมาตั้งโชว์ไว้บน Counter

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (47)

ตามทางเดินจากโถงไปห้องทำงานและห้องนอนก็ประดับด้วยภาพวาดเช่นกัน

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (46)

นี่เป็นภาพ First Impression ของห้องทำงานที่คุณหมู ASAVA เลือกเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นมาเอง ที่เด่นที่สุดดูเหมือนจะเป็นศีรษะรูปปั้นและโต๊ะทำงานตัวนี้ครับ

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (45)

พื้นของโต๊ะทำงานเป็นไม้จริงต่อๆกันหลายๆแผ่นในแนวนอน ขอบโต๊ะเป็นโลหะหน้าตาแบบนี้เลย ดูเก่าๆสุดๆ

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (44)

เก้าอี้สองตัวนี้ก็เหมือนของเก่า ทำจากไม้ล้วนๆ

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (43)

ชั้นวางภาพเขียน

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (42)

สมบัติต่างๆ รวมไปถึงจักรเย็บผ้าที่มีผ้าสีน้ำเงินเป็น Prop อยู่ด้วย

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (41)

ผนังด้านข้างห้องทำงานยังติดรูปภาพอีก 4 รูป ด้านหลังห้องทำงานใช้กระจก มุกเดิมอีกแล้วสะท้อนให้มีมิติมากขึ้น

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (40)

และนี่คือหีบสมบัติที่อยู่ใต้โต๊ะทำงานครับ

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (39)

เรามาดูห้องนอนกันบ้าง สิ่งที่เตะตาที่สุดคงจะเป็นภาพวาดใหญ่ๆหลังหัวเตียงภาพนั้น สรุปว่าทุกห้องจะใช้ Painting และ Art Objects เป็นจุดดึงดูดสายตาเกือบทั้งหมด

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (38)

หีบใส่ของ

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (37)

โคมไฟสีน้ำเงินฉูดฉาดบนโต๊ะข้างเตียงทั้งสองตัว ผ้าห่มบนที่นอนยังใช้สีน้ำเงิน

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (36)

ทีวีใช้แบบแขวน สายแหลมๆออกมาสงสัยยังเก็บรายละเอียดไม่เสร็จ

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (35)

โคมเทียนนี้คงไม่ได้ใช้จริงนะ หรือเตรียมไว้เพื่อไฟดับ? 😛

Summary: ห้องของคุณหมู ASAVA นี้ค่อนข้างจะ Artist มากๆ โทนสีห้องก็ใช้โทนขรึมเฉดน้ำเงิน การตกแต่งทุกอย่างดูเหมือนจะจัดมาเพื่อคนๆเดียว ประเภทเดียว นั่นก็คือเจ้าของห้องนี้ นั่นก็คือถ้าไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน จะอย่างไรก็คงไม่สน แต่ถ้าเป็นคนประเภทคล้ายๆกัน เห็นปุ๊บคงจะชอบปั๊บ ส่วนที่เด่นที่สุดของห้องนี้คงจะหนี Paintings ไปไม่ได้ รอบๆห้องมีแรงบันดาลใจหลายๆอย่างจาก Art Object หลายๆชิ้น เหมาะสำหรับคนที่ทำงานประเภทศิลปะ ออกแบบ ใช้ความคิด อารมณ์สุนทรี และต้องชอบอาร์ทแนวเดียวกับเจ้าของห้องด้วยครับ

If I were to live in this room: สำหรับผมคงต้องบอกว่ายังไม่โดนเท่าไร เพราะว่าการแต่งห้องนั้นเอื้อคนแต่งมากเกินไปนิดนึง เป็น Indiviual Inspiration มากเกินไป ไม่ใช่ General Use ที่จะเหมาะกับคนทุกประเภท การเอาห้อง 2 Bedrooms มาแต่งให้เหลือ 1 Bedroom สำหรับการอยู่อาศัย 2 คนก็เป็นการลด Function การใช้งานลงพอควร แต่ถ้าถามเรื่องเซนส์การเลือก Art Object แต่ละชิ้น โทนสีของห้อง ภาพวาดที่เลือกมา ก็ต้องบอกว่าเลือกมาได้อย่างมีรสนิยมครับ

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (34)

ห้องที่ 3 ซึ่งเป็นห้องสุดท้ายตั้งอยู่ที่ชั้น 27 ของตึก B เป็นห้องที่แต่งออกมาด้วยแรงบันดาลใจของ “Frank Sinatra” ซึ่งจัดว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดของศิลปินแนวเพลง Standard Jazz & Swing

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (33)

ห้องนี้เป็นห้องหัวมุมเหมือนกัน โดยมีห้องนั่งเล่นอยู่บริเวณหัวมุมครับ การตกแต่งเป็นแนวย้อนยุคนิดๆ เรียกว่าคลาสสิกแบบร่วมสมัย ประมาณว่าแนวยุคที่เพลง Frank Sinatra กำลังดังติดตลาด ซึ่งจริงๆแล้วมี Period นานมาก ตั้งแต่ยุค 1940 – 1990 ครอบคลุมเกือบ 50 ปี และผลงานอมตะอย่าง “My Way” ด้วยความที่ผมเป็นคนชอบเพลง Jazz & Swing ดังนั้นจะอินเป็นพิเศษ เรียกว่าได้จิตพิสัยไป +10

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (32)

ผนังห้องระหว่างทางเดินประดับด้วยแผ่นเสียงและรูป Cover Album ของ Frank … ทำได้ดีครับ

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (31)

โต๊ะไม้รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าลบมุมตัวนี้ให้ความรู้สึกย้อนยุค แต่เงาที่ผิวโต๊ะและที่ขอบโต๊ะโดยรอบช่วยปรับให้มีภาพลักษณ์ที่ Modern มากขึ้น

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (29)

โดยเก้าอี้นั่งรับประทานอาหารทุกตัวเป็น Armchair เบาะผ้าตัวเล็กๆ เหมือนสมัยก่อนครับ

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (30)

ห้องนี้จะมีงานไม้มากเป็นพิเศษ ตู้ใส่ของที่วางอยู่ข้างประตูก็เช่นกันทำจากงานไม้

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (28)

ชุดโซฟารับแขกสีครีมเรียบๆ เน้นความเป็น Earth Tone ให้เข้ากับวัสดุประเภทไม้ อย่าง Low Table และชุดโต๊ะอาหารเมื่อครู่ แต่ Armchair ตัวไกลๆทางซ้ายบุด้วยหนังสีเข้ม เพิ่มความเคร่งครึมและเพิ่มอายุให้กับเซ็ตรับแขกโดยรวม

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (27)

มองอีกมุมในแนวตั้งจะเห็นโคมไฟ Chandelier หลุยส์มาแต่ไกล

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (26)

ชั้นวางทีวีใช้วัสดุประเภทเดียวกับท๊อปโต๊ะอาหาร งานไม้เงาๆที่สะท้อนแสงช่อไฟได้ด้วย ด้านหลังของ Built-in เซ็ตนี้ก็ซ่อนหลอดไฟไว้ เวลาเปิดจะส่องออกมาจากใต้ชั้นวางของ ดูแล้วมีมิติและให้แสงสว่างให้หยิบของหาของได้ง่าย สองเด้งเลย … แต่ชั้นบนสุดไม่มีไฟนะ

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (25)

ซูมไปที่ Armchair ชัดๆอีกครั้ง สีออกแดงเลยทีเดียว

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (24)

สงสัยจงใจเลือกให้มาตัดกับสีโซฟาชุดนี้ที่ค่อนข้างจะ “กลืน” มากไปหน่อย

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (23)

ลืมบอกไปว่าม่านบานเกล็ดของห้อง Frank Sinatra เป็นชนิดที่ติดตั้งแยกหน้าต่างเป็นบานๆไป สามารถเลือกที่จะปิดเปิดหรือปรับมุมในแต่ละบานให้ไม่เท่ากันได้อย่างเช่นภาพข้างบน และตัววัสดุทำมาจากไม้แท้ทุกแผ่นครับ

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (22)

ครัวในมุมมองจากโต๊ะอาหาร ครัวไม่ได้แต่งครับ เหมือนเดิมเด๊ะ เหมือนจะหลุด Theme ออกไปบ้างเหมือนกัน

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (21)

ห้องนอนเล็กของที่นี่ใช้วัสดุประเภทไม้อีกแล้ว หัวนอนบุด้วยผ้า เตียงกรอบไม้ โต๊ะข้างเตียงก็ใช้ดีไซน์ที่ล้อกันไปทั้งห้อง

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (20)

โซฟาหรือที่นั่งปลายเตียงเป็นสีแดงล้อมาจาก Armchair ตัวข้างนอก ชั้นวางทีวีใช้วัสดุเดียวกันกับชั้นที่ห้องรับแขก

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (19)

ให้ดูที่นั่งปลายเตียงอีกมุม ด้วยขนาดและความกว้างที่เหลือเป็นช่องทางเดินระหว่าง Bench กับทีวีแล้วคงจะไม่ได้นั่ง น่าจะเอาไว้วางของเสียมากกว่า

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (18)

ห้องนอนใหญ่ยังคงล้อตาม Theme เดิม โต๊ะข้างเตียงใช้ผิวไม้เงาๆ

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (17)

ผนังเป็น Wall Paper สีเข้ม โต๊ะไม้ในห้องและชั้นวางของก็ยังใช้ไม้ประเภทเดิม ส่วน Prop ก็เป็นแผ่นเสียงและโคมไฟที่ดูแล้ว Classic หน่อย

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (16)

ชั้นวางทีวีไม้ตัวนี้เป็นแบบผิวด้าน ถ้าใช้ผิวมันอาจจะเลี่ยนมากเกินไป มีเบรคบ้างเป็นการตัดสินใจที่ดี

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (15)

ที่แขวนเสื้อข้างทีวี

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (14)

ขาโคมไฟยังเป็นลายเสาโรมันเลย

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (13)

มุมจากเตียงมองไปยังทางเข้า

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (12)

เก้าอี้ตัวนี้สีไม่แดงเหมือนสองห้องที่แล้ว แต่ยังคงแบบ Classic อยู่

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (9)

ผนังห้องนอนใหญ่ประดับด้วยภาพรถยนต์โบราณ เซียนรถเก่าอาจจะตอบได้ว่ามันเจ๋งอย่างไร แต่ถ้าถามผมก็คงใบ้รับประทาน

ถ้าได้เกิน 10% ของเงินต้น ปล่อยเช่าไปเรื่อยๆครับ (8)

เดินเข้าเดินออกมองแต่ชุดแผ่นเสียง ซึ่งแน่นอน ห้องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก Frank Sinatra นี่ครับ

Summary: ห้อง “Frank Sinatra” ดูแล้วเป็น Theme ล้อกันไปหมด ทั้งเรื่องวัสดุประเภทไม้และการแต่งห้องแบบ Modern Classic ที่ย้อนยุคแต่ก็ยังคุมไม่ให้ดู “แก่” มากเกินไป โดยเอาคอนเซปท์ของ Frank Sinatra ที่เป็นดนตรี Jazz & Swing สมัยเก่า คนร้องเสียชีวิตไปตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังเป็นตำนานเป็นต้นแบบให้คนรุ่นหลังชอบจนถึงทุกวันนี้

If I were to live in this room: ห้องนี้แต่งออกมาใช้อยู่จริงได้พอสมควร ด้วยความที่เป็น Furniture ไม้เสียเยอะ จะทำให้ห้องดูอบอุ่น ดูแล้วเป็นบ้านมากกว่าเป็นที่พักอาศัยชั่วคราว การใช้โทนสี Earth Tone โดยมีแซมสีแดงมาบ้างก็นุ่มนวลดีเหมาะกับการออกแบบกลางๆเพื่อลูกค้าส่วนใหญ่ เก้าอี้บางตัวเช่น Bench ปลายเตียงในห้องนอนเล็กอาจจะใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่และทำให้ห้องดูแคบลง ก็แนะนำว่าให้ย้ายไปไว้ในจุดที่มันควรจะอยู่ เช่นหาผนังชิดเข้าไปจะดีกว่า โดยรวมจัดว่าดีแต่ก็ยังติดตรงที่ Storage ของห้องนี้ยังน้อยไปนิดครับ

ถ้าอ่านแล้วชอบ ก็ช่วยกด Like กันหน่อยนะครับ