รีวิวโครงการ
พาชมตึกเสร็จ Q ชิดลม-เพชรบุรี คอนโดแนว Futuristic ออกแบบโดย Atom Design(A49) จาก Ananda Development [รีวิวฉบับที่ 1610]
21 มิถุนายน 2018
รีวิวฉบับที่ 913 วันนี้เราจะพาไปโครงการในย่านชิดลม-เพชรบุรี อีกโครงการนึงค่ะ Q Chidlom-Phetchaburi จากอนันดา เป็นคอนโด High Rise สูง 42 ชั้น 1 อาคาร โดยพื้นที่โครงการตั้งอยู่ติดกับถนนเพชรบุรี และใกล้กับซอยชิดลม เป็นโครงการตระกูล Q ซึ่งเป็นคอนโด Luxury Class ตัวล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวของอนันดาค่ะ
Fact @ 3 September 2015
- Q Chidlom-Phetchaburi (คิว ชิดลม-เพชรบุรี)
- บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย ชิดลม จำกัด (บริษัทในเครือ อนันดา)
- LUXURY (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ : ถนนเพชรบุรี ใกล้ BTS สถานีชิดลม 800 เมตร
- คอนโด High Rise 42 ชั้น 1 อาคาร 352 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต
- อาคารจอดรถ 8 ชั้น 1 อาคาร
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 14 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 224 คันคิดเป็น 63.64% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- ที่ดินประมาณ 1-2-80.9 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : ต.ค. 2558
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : มี.ค. 2561
- 1 Bedroom 35 – 47 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 5.5 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 63 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 10.6 ล้านบาท
- Duplex 62 – 109.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 11.6 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 5.5 ล้านบาท หรือประมาณ 157,142 บาทต่อตารางเมตรของห้องเริ่มต้น
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 170,000 บาทต่อตารางเมตร
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด 157,000 – 183,000 บาทต่อตารางเมตร
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างยื่นขออนุญาต
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS ชิดลม-เพชรบุรี ได้ที่: พาชมทำเลชิดลม
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 02 316 2222
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.749189, 100.543806
Q Chidlom-Phetchaburi ตั้งอยู่ติดกับถนนเพชรบุรี ซึ่งอยู่ระหว่างซอยชิดลมกับถ.ราชดำริ โครงการนี้ไม่ใช่โครงการที่ติดรถไฟฟ้าตามที่อนันดามักจะชอบทำ ตัวโครงการมีระยะห่างประมาณ 800 ม. จาก BTS ชิดลม โดยมาเลี้ยวเข้าซอยชิดลมหรือหากเลือกเดินทางด้วยเส้นทางรถยนต์สามารถไปเชื่อมต่อกับถนนหลายสายเพื่อเดินทางไปที่ต่างๆ ซึ่งหากมองเรื่องศักยภาพในอนาคตของพื้นที่แล้ว ย่านเพชรบุรี-ชิดลม ก็ยังเป็นที่ต้องการในเชิงที่อยู่อาศัยอยู่อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มเกิดขึ้น ก็จะทำให้การคมนาคมในย่านนี้สะดวกและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
ที่ตั้งของโครงการจัดว่าอยู่ในย่านชุมชนใจกลางเมือง มีเส้นทางการจราจรเข้าถึงได้จากหลากหลายเส้นทาง หรือจะไปยังที่ต่างๆได้หลากหลายเช่นกัน เริ่มจากถ้าเลี้ยวซ้ายออกจากโครงการจะผ่านแยกประตูน้ำ ซึ่งไปได้ทั้งราชเทวี อุรุพงษ์ พญาไท อนุสาวรีย์ชัย์ฯ ดินแดงทะลุออกวิภาวดีรังสิต หรือจะมาฝั่งสยาม ราชดำริ สีลม สามย่าน จากโครงการสามารถใช้เส้นทางลัดจาก ซ.เพชรบุรี 32 มาเข้าถนนชิดลมแล้วตรงมาหลังสวน ทะลุออกสวนลุมได้ หรือจะไปเพลินจิต อโศก หรือจะไปบางนาก็ใช้ได้ทั้งเส้นสุขุมวิทและเพชรบุรี มีทางด่วนให้ขึ้นใกล้ๆกับแยกวิทยุ-เพชรบุรี อีกทั้งมีท่าเรือชิดลม และท่าเรือประตูน้ำ ให้เลือกใช้หากไม่ต้องการใช้รถค่ะ
ทำเลในย่านนี้เป็นย่านพาณิชยกรรมที่สำคัญ มีความอุดมสมบูรณ์เพียบพร้อม เห็นได้จากบริเวณใกล้เคียงโครงการส่วนใหญ่จะรายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าสำคัญๆ ตามแนวถนนราชดำริ ถนนพระราม 1 ถนนเพลินจิต และถนนชิดลม เช่น เซ็นทรัลเวิลด์ แพลตตินั่ม ประตูน้ำ สยาม พารากอน มาบุญคลอง เกษร พลาซ่า เซ็นทรัลชิดลม เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ ซึ่งแต่ละที่ที่กล่าวถึงมีผู้มาใช้บริการในแต่ละวันค่อนข้างสูงทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เรียกว่ามีให้เลือกมากมายตามความต้องการ อีกทั้งในอนาคตใกล้กับแยกประตูน้ำ ติดถนนราชดำริก็จะมีสวนสาธารณะแห่งใหม่ บนที่ดินสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัติรย์ ที่จะเป็นปอดแห่งใหม่ของย่านนี้
ในเชิงศักยภาพในด้านการคมนาคมขนส่งในย่านนี้ จะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มตัดผ่าน ซึ่งเป้าหมายของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน – มีนบุรี จะเป็นระบบขนส่งมวลชนสายหลักที่เชื่อมโยงฝั่งตะวันออกและตะวันตกของกรุงเทพมหานครในอนาคต สถานีเริ่มต้นที่ ตลิ่งชัน แล้วไปสิ้นสุดที่ มีนบุรี-สุวินทวงศ์ โดยสถานีใกล้เคียงกับโครงการที่สามารถไปใช้งานได้คือ สถานีประตูน้ำ ซึ่งจะห่างจากโครงการประมาณ 500 m. หากแล้วเสร็จคาดว่าจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางได้เป็นอย่างมากค่ะ แต่ต้องรอนานหน่อยนะคะ
สำหรับการเดินทางแบบไม่ใช้รถยนต์สามารถเดินจากโครงการมายัง BTS ชิดลม ระยะทางประมาณ 800 m. หรือจะเลือกใช้เส้นทางเรือ ขึ้นที่ท่าเรือชิดลม ซึ่งห่างจากโครงการ ประมาณ 200 ม. ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเดินทางได้นะค่ะ สะดวกและไม่ต้องเจอกับรถติดซึ่งจะมีผู้โดยสารใช้บริการมากในชั่วโมงเร่งด่วน การเดินทางสามารถเดินหรือใช้รถยนต์วิ่งตามเส้นทางลัดซึ่งสามารถไปทะลุออก ซ.ชิดลม และ ถ.ราชดำริ ได้เพื่อลดระยะทางการเดินทาง โดยใช้ ซ.เพชรบุรี 32 ส่วน ซ.เพชรบุรี 30 จะเป็นทาง One way มาจากราชดำริเพื่อมาเข้าสู่ ถ.เพชรบุรี
กรณีใช้การเดินทางด้วยรถยนต์จากหน้าโครงการ ถ.เพชรบุรี จะเป็นถนน 6 ช่องทางการจราจร แต่แบ่งการใช้งานเป็น มุ่งหน้าไปแยกประตูน้ำ 2 เลน และ มุ่งหน้าไปแยกวิทยุ 4 เลน ซึ่งการแบ่งช่องจราจรก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรในแต่ละวันค่ะ ก็ต้องคอยสังเกตกันให้ดีนะค่ะ เมื่อออกจากหน้าโครงการจะสามารถเลี้ยวซ้ายได้เท่านั้น ห้ามเลี้ยวขวา ถ้าต้องการมุ่งหน้าไปทางสี่แยกวิทยุจะต้องไปกลับรถที่ใต้สะพานข้ามแยกประตูน้ำ
ถ้าต้องการไป ถ.สุขุมวิท เลี้ยวซ้ายออกจากโครงการ เข้าสู่ ถ.เพชรบุรี แล้วมาเลี้ยวซ้ายอีกครั้งเพื่อเข้าสู่ ถ.ราชประสงค์ ที่แยกประตูน้ำ แล้วตรงมาเข้า ถ.สุขุมวิท หรือ สามารถใช้เส้นทางลัดจาก ซ.เพชรบุรี 32 ไปทะลุออก ถ.ราชดำริ เพื่อหลีกเลี่ยงรถติดตรงสี่แยกประตูน้ำได้ค่ะ กรณีขับมาจาก ถ.สุขุมวิทแล้วจะมาโครงการ จะไม่สามารถเลี้ยวเข้า ซ.ชิดลม ได้เนื่องจาก ซ.ชิดลม เป็นถนน One way วิ่งตรงมาจากทาง ถ.เพชรบุรีเท่านั้น จะต้องไปวิ่งผ่าน ถ.วิทยุ แล้วเลี้ยวเข้า ถ.เพชรบุรีแทนค่ะ
เส้นทางรถยนต์เริ่มจากสี่แยกราชเทวี ถ.พญาไท ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Sale Office ไปยังโครงการ ระยะทางประมาณ 1.2 km. ค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ โดยเริ่มจากสี่แยกราชเทวี วิ่งตรงเข้าสู่ ถนนเพชรบุรี มุ่งหน้าสี่แยกประตูน้ำ ระยะทางจากสี่แยกราชเทวีไปจนถึงโครงการ คิว ชิดลม-เพชรบุรี จะอยู่ที่ประมาณ 1.3 กม.
เส้นทางจราจร ในช่วงเวลากลางวันของถนนเพชรบุรีที่มุ่งหน้าประตูน้ำ จะถูกแบ่งเป็น 5 ช่องทาง ส่วนทางสวนกลับไปทางราชเทวีนั้น จะเหลือ 1 ช่องทางค่ะ ซึ่งบางวันก็อาจจะเป็น 4 ช่องทางไป กลับ 2 ช่องทาง ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรในแต่ละวันด้วยค่ะ
วิ่งตรงมาเรื่อยๆจะมาเจอกับห้างกรุงทองพลาซ่า และพันธุ์พลาซ่า ซึ่งกำลังปิดปรับปรุง
ใกล้จะถึงสี่แยกประตูน้ำแล้วค่ะ ทางขวามือจะผ่าน Grand Diamond Plaza
ขึ้นสะพานข้ามสี่แยกประตูน้ำ ผ่านห้างประตูน้ำ เซ็นเตอร์ จะมองเห็นตึก Manhattan ทางขวามือ
ลงจากสะพานวิ่งตรงมาอีกประมาณ 200 เมตร ก็จะเจอกับพื้นที่ของโครงการ คิว ชิดลม-เพชรบุรี ที่อยู่ติดกับโครงการคือ ตึก KPI Tower
การเดินทางโดยไม่ใช่รถเริ่มจาก BTS ชิดลม ซึ่งระยะห่างจากสถานีไปถึงโครงการห่างประมาณ 800 m. ค่ะ
ใช้รถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีชิดลม เลือกมาเดินลง ตรงทางออกหมายเลข 5 จะเป็นการเดินผ่านห้าง เซ็นทรัลชิดลม เพื่อลงไปซอยชิดลม
จากทางออกหมายเลข 5 เลี้ยวซ้ายจะไปทางเซ็นทรัทชิดลม แต่ถ้าเลือกทางออกหมายเลข 4 เลี้ยวขวาก็จะข้ามฝั่งไปยัง Mercury Ville ได้ค่ะ
ดูภาพมุมสูง บรรยากาศซอยชิดลมกันค่ะ ปริมาณรถหนาแน่นมาก มองไปยังถนนชิดลม ซ้ายมือเป็น สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง ขวามือเป็นเซ็นทรัลชิดลม เส้นทางเดินรถในซอยชิดลมจะเป็นทาง one way โดยวิ่งตรงมาจาก ถ.เพชรบุรี ค่ะ
กลับลงเดินมุ่งหน้าเลี้ยวซ้าย เข้าซอยชิดลมกันต่อเลยค่ะ เดินเข้ามาจะเจอกับทางเข้า-ออก ด้านข้างของห้างเซ็นทรัลชิดลม ถัดไปทางขวามือจะเป็นอาคารสำนักงาน Alma Link ชั้นล่างจะเป็นร้านค้าต่างๆ เช่น ร้านอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ร้านขายเครื่องประดับ ซึ่งระยะทางจากเซ็นทรัลชิดลมถึงโครงการประมาณ 650 ม. ได้ค่ะ
เดินผ่านเซ็นทรัลชิดลมมาจะเจอ อาคารวานนิสสาขวามือมี Maxvalu อยู่ชั้นล่างสุดของอาคาร ถัดมาเป็น Starbucks ซึ่งระยะทางจากบริเวณร้านทั้ง 2 ถึงโครงการประมาณ 600 ม. ได้ค่ะ
เส้นทางเดินเท้า หากเดินเข้ามาจากปากซอยชิดลมประมาณ 200 เมตร จะเจอกับพื้นที่ปรับปรุงเพื่อเดินท่อประปาอยู่ ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินกันหน่อยค่ะ
เส้นทางเดินเท้าในซอยชิดลม ช่วงกลางๆซอยถือว่าเดินสะดวกทางเดินกว้างเป็นระยะ จะมีร้านค้าบางส่วนมาเปิดแผงขายของบ้างซึ่งจะเหลือทางเดินไว้ไม่มาก แทบจะเดินสวนกันไม่ได้ค่ะ
เดินมาอีกหน่อยก็จะเจอร้าน Mcdonalds และมีแบบ Drive Thru เปิดตลอด 24 ชั่วโมง และสถานพยาบาลเจตนิน(เป็นสถานพยาบาลเกี่ยวกับสูตินารี) ห่างจากโครงการประมาณ 400 ม.
กลับข้ามฝั่งมาจะเจอกับ 7-11 ซึ่งจะอยู่ตรงข้าม Mcdonalds ค่ะ
คอนโดมิเนียมในซอยชิดลม โครงการ The Park Chidlom เป็นคอนโดแบบ High Rise สูง 28 ชั้น ซึ่งเลยจากโครงการนี้ไปหน่อยจะมีซอยติดกับโครงการ คือ ซอยสมคิด โดยซอยนี้จะสามารถเข้าจาก ถ.สุขุมวิท แล้ววิ่งเข้ามาทะลุ ซ.ชิดลม ได้ค่ะ
เส้นทางเดินเท้าช่วงก่อนข้ามคลองจะแคบหน่อยค่ะ ความกว้างแค่ประมาณ 1 เมตร เวลาเดินสวนกันต้องระมัดระวังมากๆค่ะ เดินต่อมาจะเจอสะพานชิดลมข้ามคลองแสนแสบ
ยืนบนสะพานหันไปทางซ้ายมือ ริมคลองเป็นบ้านพักอาศัย ขวามือหลังคาสีน้ำเงินคือท่าเรื่อชิดลม ตึกแรกสีครีมคืออาคารกิจศิริ ติดกันที่ผนังเป็นกระจกคือตึก KPI ส่วนตรงที่มีต้นไม้เขียวรกๆนั่นคือพื้นที่โครงการถัดไปสีส้มๆคือแมนฮัตตัน ชิดลม
เดินลงสะพานแล้วเดินวกกลับไปทางใต้สะพานกันค่ะ จะเป็นช่องทางเดินมุ่งหน้าไปท่าเรือชิดลม
ท่าเรือชิดลม ห่างจากโครงการประมาณ 200 ม. เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเดินทางได้นะค่ะ สะดวกและไม่ต้องเจอกับรถติดซึ่งจะมีผู้โดยสารใช้บริการมากในชั่วโมงเร่งด่วนค่ะ
เดินออกมาจากท่าเรือ ตรงมาจะต้องเดินผ่านที่จอดรถของอาคารกิจศิริ เพื่อมาเข้าสู่ ถ.เพชรบุรี อาคารกิจศิริตึกนี้มีทั้งสำนักงานเล็กๆและโรงแรมอยู่ค่ะ
ติดกับอาคารกิจศิริ คือ ตึก KPI สูง 24 ชั้น เป็นอาคารสำนักงานใหญ่บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย ซึ่งอาคารนี้จะอยู่ติดกับโครงการ คิว ชิดลม-เพชรบุรี เลยค่ะ
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นตลาด Sirida Night บริการตั้งแต่ 4 โมงเย็นถึงตี 2 ของที่ขายเน้นไปทางเสื้อผ้าแฟชั่น
กลับมาเดินมุ่งหน้าไปโครงการกันต่อค่ะ ด้านหน้าก่อนถึงโครงการจะมีสะพานลอย
ลองขึ้นมาบนสะพานลอย มองตรงไปทางประตูน้ำ โครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ ถัดไปเป็นตึก Manhattan ทางขวามืออาคารสีขาวจะเป็น ห้างประตูน้ำเซนเตอร์ และสะพานข้ามแยกประตูน้ำ
มุมมองจากบนสะพานลอยหน้าโครงการ จะเห็นว่าโครงการ คิว ชิดลม-เพชรบุรี ได้ทำการรื้ออาคารพาณิชย์เดิมออกและปรับพื้นที่โครงการเรียบร้อยแล้วค่ะ
ยืนมองตรงทางเข้าพื้นที่ โครงการคิว ชิดลม-เพชรบุรี ด้านซ้ายติดกับตึก KPI สูง 24 ชั้น และด้านขวาติดกับตึก Manhattan สูง 34 ชั้น ส่วนด้านหลังของโครงการจะติดกับคลองแสนแสบ จะเห็นว่าโครงการจะโดนอาคารสูง 2 อาคารขนาบข้างไว้ จึงจะเหลือแต่วิวทางฝั่งถนนเพชรบุรี และวิวทางฝั่งคลองแสนแสบที่เป็นวิวเปิดโล่งไปทางฝั่งที่ยังจะได้วิวสวยๆโล่งๆอยู่ค่ะ
ตึก Manhattan สูง 34 ชั้น
ฝั่งตรงข้ามกับโครงการ จะเป็นอาคารตึกแถว 3-4 ชั้น ส่วนมากจะเป็นร้านค้าต่างๆ
ตำแหน่งด้านหน้าโครงการจะมีจุดตั้งวินมาเตอร์ไซด์รับจ้าง
เราจะเดินไปถึงแยกประตูน้ำกันค่ะ จะได้ดูว่าในระยะ 500 ม. จากโครงการไปถึง Central World ตามเส้นทางจะมีอะไรมั่ง แต่ถ้าใครพอเดินไหวอยากจะเดินไปถึงสยามพารากอน จะมีระยะทางประมาณ 1.5 ม.
ลองเดินเลยจากโครงการผ่านตึกแมนฮัตตัน มุ่งหน้าไปทางแยกประตูน้ำ
มองข้ามไปอีกฝั่งถนนจะเป็น ห้างประตูน้ำเซนเตอร์
ซอยเพชรบุรี 32 จะเป็นเส้นทางลัดไปออก ถนนราชดำริ ใกล้บิ๊กซีราชดำริได้ค่ะ ใช้หลีกเลี่ยงช่วงรถติดจากบริวณสี่แยกประตูน้ำ
เดินมาเรื่อยพอเริ่มจะใกล้ถึงสี่แยกประตูน้ำ สังเกตว่าร้านค้าในช่วงนี้จะมีมากมายเลยค่ะ ทั้ง ร้านขายของชำ ร้านขายยา ร้านขายวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ในบ้าน
ร้าน 7-11 และธนาคารกรุงไทย ซึ่งระยะทางจะห่างจากโครงการประมาณ 120 ม.
มาถึงร้านข้าวมันไก่ประตูน้ำ เสื้อชมพู เป็นร้านดังของย่านนี้ แวะพักทานข้าวกันหน่อยค่ะ
ติดกับร้านข้าวมันไก่เป็นซอยเพชรบุรี 30 ซอยนี้เป็น One Way มาจากราชดำริซอย 1
มาถึงสี่แยกประตูน้ำ ถ้าเลี่ยวซ้ายจะเข้าสู่ ถ.ราชดำริ ที่จะมุ่งหน้าไปแยกราชประสงค์ค่ะ จะมีสะพานข้ามคลองแสนแสบจุดนี้จะมีท่าเรือประตูน้ำ ซ้ายมือมีบันไดลงไปท่าเรือ
บริเวณท่าเรือประตูน้ำค่ะ จากตำแหน่งนี้จะห่างจากโครงการประมาณ 350 เมตร
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้าง Isetan และพื้นที่ที่จะถูกปรับปรุงให้เป็นสวนสาธารณะแห่งใหม่ซึ่งเป็นที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งระยะห่างจากตรงนี้ถึงโครงการประมาณ 450 เมตร เมื่อสวนแล้วเสร็จเปิดให้ใช้งาน ตอนเย็นหรือวันหยุดเราสามารถเดินมาใช้สวนแห่งนี้พักผ่อนได้ ซึ่งไม่ไกลมากถ้าเดินมจากโครงการ
บริเวณโดยรอบโครงการ Q ชิดลม-เพชรบุรี ด้านหน้าทางทิศเหนือติดกับถนนเพชรบุรี ทางตะวันออกติดกับอาคาร KPI เป็นอาคารสำนักงานสูง 24 ชั้น ทิศใต้ติดกับคลองแสนแสบ ทิศตะวันตกติดกับ อาคาร Manhattan เป็นคอนโดมิเนียม High Rise สูง 34 ชั้น โครงการนี้จึงตั้งอยู่ในพื้นที่ ที่อาคารสูงขนาบทั้งสองข้าง ซึ่งถ้าต้องการรับวิวเปิดโล่งจะต้องเลือกห้องที่สูงกว่าชั้น 24 ในทิศตะวันออก และสูงกว่า 34 ขึ้นไป ในทิศตะวันตก ส่วนทิศใต้ติดคลองแสนแสบนั้นจะไม่มีอะไรบดบัง ทัศนียภาพเพราะจะได้วิวเปิดโล่งของฝั่งชิดลม
จากภาพแสดงตำแหน่งของอาคารข้างเคียงที่ติดกับโครงการ ตามทิศได้ดังนี้
- ทิศเหนือ ด้านหน้าติดกับถนนเพชรบุรี
- ทิศตะวันออก ติดกับอาคาร KPI สูง 24 ชั้น
- ทิศใต้ ติดกับคลองแสนแสบ ถัดไปจะเป็นฝั่งชิดลมซึ่งเป็นพื้นที่ว่างเปล่า เปิดโล่ง
- ทิศตะวันตก ติดกับ คอนโดมิเนียม Manhattan สูง 34 ชั้น
มีภาพมุมมอง 360 องศาจากโครงการให้ดูด้วยนะคะ ความสูงชั้นที่ 15 จากมุมมองนี้จะเห็นว่ามี 2 ทิศที่โดนบังวิวเต็มๆ ทางทิศตะวันตกจะมีอาคาร Manhattan ที่สูง 34 ชั้น บังอยู่ หากจำเป็นต้องเลือกห้องด้านนี้เลือกตั้งแต่ชั้น 35 เป็นต้นไปจะได้พ้นตัวตึกไปแล้ว ทางทิศตะวันออกจะมีอาคาร KPI ที่สูง 24 ชั้น บังอยู่ ถ้าอยากได้วิวโล่งๆก็เลือกตั้งแต่ชั้น 25 เป็นต้นไป ให้ส่วนของวิวในทิศทางอื่นๆจะไม่มีอาคารสูงมาบดบังวิว ทิศเหนือมองเห็นวิวเปิดกว้างทางฝั่งเพชรบุรี และทิศใต้มองเห็นวิวเปิดกว้างทางชิดลม
ความสูงชั้นที่ 28 จากชั้นนี้จะเห็นว่า ทางทิศตะวันตกเริ่มจะมองเห็นวิวมุมกว้าง แต่ยัคงเห็นหลังคาของอาคาร KPI อยู่บางส่วน ทิศตะวันออกได้ส่วนที่เป็นหลังคาแล้ว
ความสูงชั้นที่ 33 จากชั้นนี้ จะมุมมองเปิดกว้างในทิศเหนือ ทิศตะวันออก และทิศใต้ ส่วนทิศตะวันตก ยังคงโดนอาคาร Manhattan ที่สูง 34 ชั้น บังวิวอยู่
ภาพมุมมอง 360 องศา จากโครงการที่ ความสูงชั้นที่ 42 จากชั้นนี้ จะมุมมองเปิดกว้างทุกทิศทางไม่มีอาคารหมดบังชั้นที่เป็นห้องพักอาศัยจะมีถึงชั้น 39 เท่านั้น ส่วนชั้นตั้งแต่ 40 ขึ้นไปจะเป็น Facility ส่วนกลางของโครงการทั้งหมด
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ
- ห้างประตูน้ำ เซ็นเตอร์ 200 เมตร
- ห้างแพลตตินั่ม ประตูน้ํา 400 เมตร
- เซ็นทรัลเวิลด์ 500 เมตร
- บิ๊กซี ราชดำริ 500 เมตร
- เซ็นทรัล ชิดลม 700 เมตร
- เกษรพลาซ่า 700 เมตร
- โรงพยาบาลตำรวจ 800 เมตร
- โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ 800 เมตร
- เซ็นทรัลแอมบาสซี่ 900 เมตร
- สนามม้าราชกรีฑาสโมสร 1.1 กิโลเมตร
- สยามพารากอน 1.5 กิโลเมตร
- โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 1.8 เมตร
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2 เมตร
โครงการ Q ชิดลม-เพชรบุรี คอนโด High Rise สูง 42 ชั้น 354 ห้อง เป็นอาคารสูง มีลูกเล่นในส่วนบนของอาคารลักษณะเป็นมุมตัดด้านบน หันหน้าโครงการออกถนนเพชรบุรี ตัวอาคารใช้โทนสีเข้มและอ่อนไล่โทนสีรอบตัวตึก ชั้น 2-9 เป็นชั้นจอดรถ เริ่มมีส่วนของห้องพักที่ชั้น 10 ไปจนถึงชั้น 39 จะเป็นห้องพัก และตั้งแต่ชั้น 40 ขึ้นไป จนถึงชั้น 42 จะเป็น Facilities ของโครงการทั้งหมด
ในส่วนห้องพักอาศัยจะมีการแบ่งสัดส่วนของห้องพักให้ทุกชั้นมีทั้งห้อง 1 Bed และ 2 Bed ส่วนห้องแบบ Duplex จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 34 ในส่วนของพื้นที่ Facility ตั้งแต่ชั้น 40 – 42 จะประกอบ Swimming Pool, Turkish hot tub ,Fitness , Sauna , Steam , Co-working space , Social Club และ Library ส่วน Landscape จะมีอยู่บริเวณรอบพื้นที่ส่วนกลาง ,ระหว่างชั้นต่างๆ ,ด้านหน้าโครงการและโดยรอบ โดยจะปลูกต้นไม้ให้ความร่มรื่นตลอดแนวทางเข้าและพื้นที่รอบๆโครงการ
ภาพแสดงทางเข้าโครงการ ตัวอาคารภายนอกยังคงมาในแนว Futuristic มีเส้นสายที่ดูล้ำๆตามสไตล์อนันดา ซึ่งความสวยงามขอข้ามไปนะคะเพราะความชอบแต่ละคนไม่เหมือนกัน
บริเวณทางเข้าด้านหน้าโครงการมีสวนหย่อมมาให้นิดหน่อย โดยจะปลูกต้นไม้ให้ความร่มรื่นตลอดแนวทางเข้าและพื้นที่รอบๆ แต่เท่าที่ดูจากในภาพจำลองตัวสวนจะมีการเล่นระดับยกสูงจากพื้นมาพอสมควร เหมือนเป็นเนินเล็กๆตรงนี้ช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ในโครงการได้เหมือนกันนะคะ
บริเวณส่วนโถงต้อนรับ ชั้น 1 จะเน้นโทนสีแบบโมโนโทนคือใช้สีแค่ไม่กี่สีและโทนสีไม่แตกต่างกันมากนัก เท่าที่ดูจะเน้นไปทางสีขาวดำ ส่วนวัสดุนี่ต้องรอดูของจริงว่าจะให้มาสวยเหมือนในภาพรึเปล่า
ภาพมุมมองภายนอกบริเวณยอดตึกแสดงส่วนที่เป็น Facility ส่วนกลางของโครงการทั้งหมด ยอดตึกตรงนี้ของจริงน่าจะสวยอยู่นะคะเพราะมีการเล่นระดับและมีสวนอยู่ด้วย
พื้นที่ในส่วน Social Club ในชั้น 40 เป็นแบบ Double Space
พื้นที่ในส่วน Co-working space และ Library ในชั้น 40
พื้นที่ในส่วน Turkish hot tub จะเป็นบ่อน้ำร้อนแช่ตัวสไตล์ตุรกี ในชั้น 41 ถือว่าเป็นฟังก์ชันที่แปลกไปอีกแบบไม่รู้ว่าสไตล์ตุรกีนี่จะเป็นยังไงนะ ถ้าเพื่อนๆคนไหนพอทราบก็บอกกันได้นะคะ
พื้นที่เชื่อมต่อจากส่วน Turkish hot tub จะมี Rain Shower ด้านบน
สระว่ายน้ำแบบ Sky Pool ที่กินพื้นที่ทั้งชั้น โซนนี้ถือว่าเป็น High-light ของที่นี่เลยเพราะมีสระว่ายน้ำที่วนเป็นวงกลมรอบอาคารและสามารถมองเห็นวิวแบบ 360 องศาโดยรอบ ในชั้น 42 โดยจะมีชั้น Mezzanine เป็น Fitness ด้านบน
พื้นที่ส่วน Shallow Pool และ Jacuzzi จะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำหลัก ในชั้น 42
Sale Office ของโครงการ Q ชิดลม-เพชรบุรี จะไม่ได้อยู่ที่ตรงสถานที่ตั้งโครงการ แต่จะมาตั้งอยู่ตรงสี่แยกราชเทวีค่ะ
บรรยกาศภายใน Sale Office จะมีโมเดลของโครงการตั้งให้ดู มีการจัดที่นั้งสำหรับลูกค้าและผู้มาเยี่ยมชมโครงการค่ะ
ถ้าใครยังนึกภาพตัวอาคารไม่ออกเรามาดูโมเดลจำลองกันต่อดีกว่า ด้านล่างตั้งแต่ชั้น 2- 9 ทั้งหมด 8 ชั้นจัดเป็นพื้นที่จอดรถ ถัดไปตั้งแต่ชั้นที่ 10 – 39 จัดเป็นพื้นที่ห้องพักอาศัย ส่วนพื้นที่ Facility จะอยู่ชั้นบน ตั้งแต่ชั้น 40-42 บริเวณที่เฉียงๆบนยอดอาคารนั่นแหละค่ะ
ทางเข้าด้านหน้าเชื่อมต่อกับถนนเพชรบุรี มีการจัดพื้นที่สวนไว้ด้านหน้าเพื่อความร่มรื่นของโครงการ
เส้นทางเดินรถภายในโครงการจะเป็นการเดินรถทางเดียว ขับวนตามเข็มนาฬิการอบโครงการ
พื้นที่ด้านหลังโครงการจะติดกับคลองแสนแสบ โดยทางโครงการได้จัดพื้นที่สวนไว้ด้านหลังเพื่อบังสายตาจากคลอง
เส้นทางเดินรถภายในโครงการจะเป็นการเดินรถทางเดียว ขับวนตามเข็มนาฬิการอบโครงการ
พื้นที่ Facility ตั้งแต่ชั้น 40 – 42 จะประกอบ Swimming Pool, Turkish hot tub ,Fitness , Sauna , Steam , Co-working space , Social Club และ Library
เริ่มกันที่ผังชั้น 1 จะเห็นว่าตำแหน่งอาคารมีระยะร่นเข้าไปอยู่ด้านในของที่ดิน รูปทรงอาคารสร้างตามรูปร่างที่ดินเป็นสี่เหลี่ยม ส่วนฐานด้านล่างในชั้น 2-9 เป็นพื้นที่จอดรถจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมตามรูปร่างอาคาร การจัดเส้นทางเดินรถเป็นไปตามการวนเข็มนาฬิกา ถ้าต้องการขึ้นไปยังชั้นจอดรถ จะมีช่อง Slope ทางลาดชันขึ้น เข้าจากด้านข้างอาคาร หรือสามารถจอดรถไว้ด้านหลัง ประมาณ 7-8 คัน สำหรับจอดรถ visitor ตั้งแต่ชั้น 2-9 ของโครงการ สามารถจอดรถทั้งหมด 224 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 63% พื้นที่บริเวณชั้น Ground จะมี Lobby , Mail box และนิติบุคคล มีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว ลิฟท์ Service 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 118 : 1 ความหนาแน่นเกินมาตรฐานไปนิดหน่อย และบันไดหนีไฟ 3 จุด คือภายในพื้นที่อาคาร 1 จุด และเชื่อมต่อไปยังชั้นที่จอดรถอีก 2 จุด รอบๆตัวตึกจัดเป็นพื้นที่สีเขียวมาให้บ้างนิดหน่อยตาที่ดินที่เหลือ แต่ไม่เป็นไรคะส่วนกลางที่นี่เค้าเน้นไปอยู่ที่ชั้นบนสุด
ชั้น 10-31 เป็นชั้นที่มีส่วนของห้องพัก มีห้องพักทั้งหมด 14 ห้อง 2 แบบ คือ 1 Bed จำนวน 10 ห้อง และ 2 Bed จำนวน 4 ห้อง การจัดเรียงห้องพักเป็นแบบ Single Corridor ตามแนวตึกรูปตัวทรงสี่เหลี่ยม โดยทางเดินจะวางขนานกัน ห้อง 2 Bed จะเป็นห้องมุมของตัวตึกจึงได้วิวสองด้าน คือ ด้านที่ไม่มีอาคารบังวิว กับด้านวิวเปิดโล่งทางทิศเหนือ และใต้โดยมีส่วนโถงลิฟท์และบันไดหนีไฟอยู่ตรงกลาง การวางตำแหน่งลิฟท์ไว้ตรงกลางช่วยให้แต่ละเดินมาใช้งานได้ไม่ไกล บริเวณโถงลิฟท์จะทีแนวทางเดินแยกส่วนจากที่พักอาศัยทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
วิวของห้องแบบ 1 Bed ในชั้นนี้จะมี 4 ด้านคือ
- ทางด้านทิศเหนือ จะเป็นวิวเปิดโล่งทางฝั่งถนนเพชรบุรี ซึ่งห้องที่หันทางทิศเหนือเป็นทิศที่มีแสงสว่างตามธรรมชาติโดยไม่มีแสงแดดเข้ามาตลอดทั้งวัน
- ทางด้านทิศตะวันออก จะติดกับอาคาร KPI สูง 24 ชั้น ซึ่งถ้ายังเลือกห้องที่มีความสูงในระดับเดียวกัน ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงวิวที่เป็นอาคารข้างๆได้
- ทางด้านทิศใต้ จะเป็นวิวคลองแสนแสบและพื้นที่ว่างจากฝั่งชิดลม ห้องที่หันทางทิศใต้จะโดนแดดเยอะเหมือนกันเพราะบ้านเราพระอาทิตย์อ้อมใต้แต่มีข้อดีคือได้ลมเยอะช่วยให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
- ทางด้านทิศตะวันตก จะติดกับอาคาร Manhattan สูง 34 ชั้น จะเป็นเหมือนทิศตะวันตก คือโดนบังวิวจากตึกข้างเคียงเช่นกัน
ชั้น 32 เริ่มเป็นชั้นตัวอาคารถูกร่นระยะแล้วทำให้จำนวนห้องพักลดลงและพื้นที่ด้านหน้ากลายเป็นสวนไป ชั้นนี้มีห้องพักทั้งหมด 10 ห้อง 1 Bed จำนวน 7 ห้อง และ 2 Bed จำนวน 3 ห้องในชั้นนี้จะมีการจัดพื้นที่สีเขียว โดยจัดเป็นพื้นที่สวน ขนาดใหญ่กินพื้นทีประมาณ 1 ใน 3 ของทั้งชั้น ถ้าต้องการใช้งานก็ต้องเดินออกที่โถงลิฟท์และทางเดินโดยจะมีประตูกั้นการใช้งานไว้เป็นสัดส่วน แต่มีข้อเสียหน่อยตรงที่ไม่มีประตูกั้นส่วนพักอาศัยทำให้สุญเสียความเป็นส่วนตัวไป
ชั้น 33 เป็นชั้นห้องพักและพื้นที่สวน ชั้นนี้มีห้องพักทั้งหมด 9 ห้อง 1 Bed จำนวน 7 ห้อง และ 2 Bed จำนวน 2 ห้อง ชั้นมียังสวนมาให้แต่ขนาดเล็กลงไปเยอะตามระยะร่นของอาคารแต่ดีที่เค้าทำเป็นพื้นที่สวนแบบเล่นระดับเลยดูเก๋ๆไปอีกแบบ
ชั้น 34 และ 36 เป็นชั้นห้องพักทั้งหมดไม่มีสวนหย่อม ส่วนแบบห้องจะเป็นแบบ Duplex ทั้งหมด 9 ยูนิต แบบที่แสดงอยู่นี้เป็นผังชั้นล่างของยูนิตนะส่วนชั้นบนจะอยู่ที่ชั้น 35 และ 37 ค่ะ
ชั้น 35 และ 37 เป็นชั้นห้องพักทั้งหมด ทั้ง 2 ชั้นนี้เป็นห้อง ชั้นบนของห้องแบบ Duplex
ชั้น 38 เป็นชั้นห้องพักและพื้นที่สวน ตัวอาคารมีระยะร่นเข้ามาอีก เลยเหลือห้องพักแค่ 7 ห้อง ซึ่งเป็นห้องแบบ Duplex ทั้งหมด ในชั้นนี้จะมีการจัดพื้นที่สีเขียว ขนาดเล็กไว้ทางด้านหน้า ทั้ง 2 ข้าง ของอาคารถ้าต้องการใช้งานก็ต้องเดินออกผ่านโถงลิฟท์และทางเดินเพื่อไปใช้งาน
ชั้น 39 เป็นห้องชั้นบนของ Duplex จากชั้น 38 ต่างกันแค่ไม่มีสวนแล้ว
ตั้งแต่ชั้น 40 เป็นต้นไปจะเป็น Facility ล้วนๆไม่มีห้องพักเลยได้แก่ Co-working space , Social Club และ Library โดยจะมีโถงกลาง (Hall) เชื่อมต่อไปยังส่วนต่างๆ
ชั้น 41 จัดเป็น Facility ส่วนการของโครงการไว้ทั้งหมด ได้แก่ Turkish hot tub pool , Sauna – Steam , Social Club และห้องสำหรับอาบน้ำแยกชาย-หญิง
ชั้น 42 ตัวอาคารเหมือนมีผนังสองชั้นเพราะมีขอบของตัวสระแล้วมีผนังรอบๆอาคารอีกชุด ในชั้นนี้จะมี Sky Pool เป็นสระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 165 x 28 เมตร ลึก 1.2 เมตร , Shallow Pool และ Jacuzzi รวมทั้งพื้นที่นั้งพักผ่อนริมสระ Pool Deck เห็นแบบนี้แล้วอยากใช้งานตอนสร้างเสร็จจริงๆเลยค่ะ วิวคงดีน่าดู
ชั้น 42m เป็นชั้น Mezzanine จัดพื้นที่เป็น Fitness และพื้นที่สวน ชั้นนี้ได้วิวทั้งด้านในอาคารที่เห็นสระว่ายน้ำและนอกอาคารด้วย
ชั้นหลังคาดาดฟ้า จัดเป็นพื้นที่สวน
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby
- สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 165 x 28 เมตร ลึก 1.2 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย
- Turkish hot tub
- Sauna – Steam
- Co-working space
- Social Club
- Library
- สวนหย่อมรอบโครงการ
- ลิฟท์โดยสาร 3 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 118 : 1
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถ 224 คันคิดเป็น 63% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- ระบบ CCTV / Access Card
- Shuttle Service
โครงการ Q ชิดลม-เพชรบุรี จะมีแบบห้องให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ซึ่งโครงการนี้เน้นการทำห้องที่มีขนาดใหญ่ไม่ต่ำกว่า 35 ตารางเมตรค่ะ
- Type B1 – 1 Bedroom 35 ตารางเมตร
- Type C1 – 1 Bedroom 45 ตารางเมตร
- Type C2 – 1 Bedroom 47 ตารางเมตร
- Type D1 – 2 Bedroom 63 ตารางเมตร
- Type F3 – Duplex 78 ตารางเมตร
ในส่วนของห้องตัวอย่างจะมีให้ดูได้ 1 ห้อง เป็นแบบ 1 Bed เราลองไปดูห้องและรายละเอียดต่างๆของห้องกันค่ะ
เริ่มจากห้องตัวอย่างแบบ 1 Bed ขนาด 45 ตารางเมตร มีจำนวนทั้งหมด 92 ยูนิต ความจริงแล้วแบบ 1 ห้องนอนแบ่งออกเป็นแบบย่อยลงไปอีกรวม 3 แบบ แตกต่างกันตามตำแหน่งและขนาดของห้อง การขายเป็นแบบ Fully Fitted ตัวห้องเป็นแบบหน้าแคบช่องแสงจะได้น้อย แบ่งโซนพื้นที่เป็น 5 โซน คือ ห้องน้ำ ครัว ห้องนอน ห้องนั่งเล่น และระเบียง เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วนครัวเป็นครัวแบบเปิด จัดแบ่งพื้นที่ให้มี Pantry แบบ Built-in ขนาดพื้นที่ครัวค่อนข้างกว้างยังพอสามารถจัดแบ่งพื้นที่กั้นเป็นครัวปิดได้ในภายหลัง พื้นที่ส่วนครัวจะเชื่อมต่อกับส่วนห้องนั้งเล่นที่จะมีชั้นวางของและวาง TV แบบ Built-In ในส่วนห้องนอน สามารถตั้งเตียงนอนขนาด 5 ฟุต หรือ Queen Size มีตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งแบบ Built-in ถัดไปจะเป็นห้องน้ำซึ่งสามารถเข้าได้จากทางห้องนอนและส่วนครัว ห้องน้ำแยกโซนเปียกโซนแห้งชัดเจน ในโซนอาบน้ำมีฝักบัว และอ่างอาบน้ำมาให้ด้วย โดยจะมีประตูบานกระจกใสกั้นไว้ และมีพื้นที่ระเบียงสำหรับซักล้าง
ประตูทางเข้าเป็น ประตูโครง Solid กรุลามิเนต ลายไม้ 2 ด้าน มีตาแมว มือจับประตูแบบก้านโยก และ Digital door lock ประตูหน้าของ Yale
พื้นทางเข้าสู่ห้องไม่มีธรณีประตูกั้น ส่วนพื้นห้องในส่วนนี้เป็นพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 30 xุ 60 cm.
เมื่อเปิดประตุมาจะเป็นพื้นที่ครัว ซึ่งพื้นที่ช่วงหน้าห้องจะแน่นๆหน่อยเพราะเป็นพื้นที่ตู้วางรองเท้าและตู็เก็บของต่อเนื่องกับส่วนครัวใช้วัสดุพื้นเป็นพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 30 xุ 60 cm. ในส่วนของผนัง จะเป็นผนังฉาบปูนเรียบติด wallpaper ส่วนฝ้าถ้าเป็นห้องจริงจะเป็นยิปซัมบอร์ดฉาบสีเรียบ ระยะความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.6 ม.ดวงไฟเป็นแบบดาว์นไลท์ เข้ามาทางซ้ายมือจะเป็นส่วนของพื้นที่ครัว จะมี door stopper ติดอยู่ที่พื้นหลังประตู เพื่อป้องกันบานประตูเปิดมากระทบกำแพง
ครัวเป็นเปิดไม่มีส่วนกั้นแบ่งระหว่างห้องครัวกับส่วนนั้งเล่น ครัวแบบนี้จะต้องระมัดระวังในเรื่องของการประกอบอาหารไม่เหมาะกับการทำอาหารที่มีควันหรือกลิ่นค่ะ แต่เราก็สามารถกั้นเป็นครัวปิดได้ เช่น การทำฉากกั้นขึ้นมา 1 บานก็ได้ครัวปิดแล้ว
พื้นที่ในส่วนครัวจากฝั่งห้องน้ำทางขวาถึงชุดครัวกว้างประมาณ 1.1 ม. ทำให้มีระยะทำครัวได้พอสมควร แต่ไม่สามารถใส่ตู้อะไรเพิ่มเติมได้แล้วนะคะเพราะจะไปขวางทางเดิน
ตู้อยู่ริมสุดของชุดครัว ขนาดประมาณ 80 x 60 cm ภายในแบ่งเป็นชั้นวางของมีประตูปิดตู้ให้เรียบร้อย สามารถใช้เป็นที่เก็บอุปกรณ์และรองเท้าก่อนเข้าสู่ห้องได้ ตู้ชุดนี้ทางโครงการมีให้นะค่ะ
โครงการจะมีชุดครัวแบบ Build-in ที่เห็นจะเป็นสีตามนี้เลยค่ะ ชิ้นบนจะเป็นสีลายไม้และชิ้นล่างเป็นสีน้ำตาลเข้ม มีปลั๊กไฟ 1 จุดชุดเตาไฟฟ้าและที่ดูดควัน เป็นของ MEX โดยผนังครัวจะกรุกระเบื้องไว้ให้แล้วค่ะ เพื่อง่ายต่อการทำความสะอาดเวลาประกอบอาหาร ชั้นล่างแบ่งพื้นที่เป็นตู้เก็บของ และพื้นที่สำหรับให้วางเครื่องซักผ้า ซึ่งขนาดเครื่องซักผ้าในห้องตัวอย่างวางไว้ เป็นขนาด 7 kg. ก็เต็มพื้นที่แล้วค่ะ
ลองเปิดชุดครัว ชั้นบนจัดแบ่งพื้นที่ไว้สำหรับวางของได้ 3 ช่องมีประตูปิด และมีช่องพื้นที่สำหรับวางไมโคเวฟ และอุปกรณ์ต่างๆส่วนด้านล่างจะเป็นบานเปิดแบ่งช่องใช้งาน 2 ช่อง พร้อมที่ทิ้งขยะ และพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า การวางเครื่องซักผ้าแบบนี้มีข้อดีคือดูเรียบร้อยและตัวเครื่องไม่ต้องไปตากแดดตากฝนที่ระเบียงแต่ถ้าจะเปลี่ยนขนาดเครื่องซักผ้าก็ต้องดูให้พอดีๆช่องที่เค้าเตรียมไว้ให้ และเวลาใช้งานไปนานๆถ้าเครื่องสั่นแรงจะมีเสียงกระแทกกับผนังด้านข้างเพิ่มมาค่ะ
Top ครัวเป็นหินสังเคราะห์ ที่เหมาะสำหรับประกอบอาหาร สามารถเช็ดและทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนลิ้นชักบนเมื่อดึงออกมาจะเป็นลิ้นชักด้านในโล่งๆไม่มีแบ่งช่องใช้งานให้ค่ะ
อ่างล้างจานทรงสี่เหลี่ยมขนาดกลางไม่ใหญ่มาก อุปกรณ์ก๊อกน้ำของ Mex ซึ่งจะมีฝาปิดเปิดอ่างล้างจานมาให้ ซึ่งจะช่วยให้เพิ่มพื้นที่ในการเตรียมอาหาร
ชุดเตาไฟฟ้า , Hood ของ MEX
ถัดจากชุดครัวจะมีพื้นที่ ประมาณ 0.70 x 1.3 m. สามารถวางตู้เย็นขนาดกลาง-ใหญ่ได้ หรือถ้าเลือกตู้เย็นที่ขนาดไม่ใหญ่มากนัก ก็จะมีพื้นที่เหลือเพิ่มไว้วางตู้หรือชั้นวางของได้เช่นกัน
พื้นที่สำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหาร สามารถวางโต๊ะพร้อมเก้าอี้ชุดเล็กๆ สำหรับทาน 2 คนได้ แต่การจัดโต๊ะรับประทานอาหารแบบนี้เหมาะกับการใช้งานแบบวางอาหารจานเดียวมากกว่า และนั่งหันหน้าชนกันไม่ได้ด้วย
พื้นที่ส่วนนั้งเล่นอยู่ชิดริมฝั่งระเบียงสามารถรับแสงธรรมชาติได้ดี วัสดุปูพื้นเป็นพื้นไม้ Engineer ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีกว่า ลามิเนต วัสดุมีความแข็งแรงมากขึ้นและมีความเหมือนไม้จริง ระดับฝ้าที่สูง 2.6 m. จึงทำให้ห้องดูไม่อึดอัดเท่าไหร่ค่ะ พื้นที่ในส่วนห้องนั้งเล่นสามารถวางโซฟาแบบ 2 ที่นั่งได้ แต่ชุดโซฟาโครงการไม่มีให้นะค่ะ ผนังกรุผิวกระจกและซ่อนไฟด้านหลังเพื่อความสวยงาม และทำให้พื้นที่ดูกว้างขึ้น อันนี้เราดูไว้เป็นไอเดียในการตกแต่งห้องได้ค่ะ เพราะห้องจริงจะเป็นผนังฉาบปูนเรียบทาสี
การจัดแบ่งพื้นที่ระหว่างห้องนั้งเล่นกับห้องนอน ใช้วิธีการติดบานเลื่อนเพื่อแบ่งพื้นที่การใช้งาน พอปิดบานเลื่อนห้องนั้งเล่นเลยดูเล็กลงไปเลยค่ะ
ส่วนระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี อยู่ที่ประมาณ 1.5 m. ในระยะประมาณนี้สามารถเลือกทีวีขนาดประมาณ 40″ ได้ค่ะ แต่ถ้ากรณีที่จะนอนดูจากเตียงนอน อาจจะต้องเพิ่มขนาดทีวีอีกค่ะ เพราะจะมีระยะห่างมากกว่า 4 เมตรค่ะ
สำหรับเครื่องปรับอากาศ โครงการจะมีให้ 2 ตำแหน่งคือ ในส่วนห้องนั้งเล่น และห้องนอน เป็นแบบ Split type ของ Daikin
ประตูออกไปสู่ระเบียง เป็นบานกระจกกรอบอลูมิเนียมสีดำ ลักษณะการเลื่อนเป็นแบบ 3 บาน โดยเลื่อนไปชิดรวมกันทางขวามือ ซึ่งเมื่อลองเลื่อนเปิดก็ไม่มีปัญหาในการใช้งาน ดูแช็งแรงดีค่ะ และจะมีประตูอีกชุดกั้นไว้ระหว่างระเบียงกับพื้นที่ภายนอกอาคาร ทำให้สามารถปรับการใช้งานของพื้นที่ระเบียงเป็นพื้นที่ภายในได้ค่ะ
มีรางอลูมิเนียมและตัวล็อคประตูบานเลื่อน ระหว่างพื้นห้องกับรางอลูมิเนียมมีตัวจบ เก็บงานเรียบร้อยดีค่ะ
พื้นที่ส่วนระเบียงปูพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 30 x 60 cm. ผนังฉาบปูนเรียบทาสี พื้นที่ประมาณ 1.1 x 2.5 m. ราวกันตกระเบียงเป็นเหล็กทำสีดำ พื้นที่ระเบียง มีพื้นที่กว้างเพียงพอให้วางที่ตากผ้าและเครื่องซักผ้าได้
สำหรับพื้นที่วาง Compressor ได้ออกแบบพื้นที่เป็นช่องไว้ข้างพื้นที่ระเบียงมีประตูปิด ทำให้ไม่ต้องเอามาแขวนไว้ด้านข้างระเบียง ดูแล้วเรียบร้อยดีค่ะ อีกทั้งจะได้ไม่ต้องเสียพื้นที่ส่วนระเบียงและต้องรับลมร้อนจาก Compressor ด้วยค่ะ
มาถึงส่วนห้องนอน จัดพื้นที่ไว้กว้างพอสมควรค่ะ สามารถวางเตียง ขนาด 5 ฟุต หรือ Queen Size ได้สบายๆ เมื่อวางโต๊ะเครื่องแป้งและยังมีพื้นที่เหลือให้วางตู้หรือชั้นวางของได้เพิ่มค่ะบริเวณผนังติดกระจกและวัสดุตกแต่งไว้ซึ่งห้องจริงจะไม่มีให้นะค่ะ
ลองมองห้องนอนจากทั้งสองด้านดูค่ะ ห้องนอนจะมีหน้าต่างมาให้ 1 บาน ไม่ใหญ่มากนะค่ะ ใช้เพื่อเปิดระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติ ได้บางส่วนค่ะ ตำแหน่งทีวีที่ติดมาให้ด้านข้างผนังในห้องนอน ซึ่งการติดไว้แบบนี้ทำให้ใช้งาน ทีวีได้ไม่มีประสิทธิภาพเท่าไร
ประตูบานเลื่อนที่ให้มาเป็นบานเลื่อน HDF แบบ 4 ตอน โครง Hollow Core ความหนาของประตูบานเลื่อนเมื่อเลื่อนมารวมกันด้านขวามืออยู่ที่ประมาณ 15 cm. รางเลื่อนจะติดไว้ด้านบน เมื่อเก็บบานเลื่อนจะไม่มีรางให้เดินสะดุดที่พื้นค่ะ
ลองเลื่อนฉากกั้นปิดให้ดูว่าบรรยากาศจะเป็นยังไงเมื่อปิดแล้ว ห้องดูแคบลงไปเยอะเลยค่ะ
ส่วนระยะระหว่างปลายเตียงถึงตำแหน่งวางโซฟา กว้างประมาณ 50 cm. เมื่อเลื่อนบานเลื่อนปิดยิ่งทำให้ไม่มีพื้นที่ปลายเตียง เหลือพื้นที่ให้เดิน ไม่ถึง 20 cm. ถ้าคนที่นอนฝั่งหน้าต่างจะไปเข้าห้องน้ำคงต้องปีนข้ามคนที่นอนข้างๆไปนะ
ส่วนพื้นที่ด้านข้างเตียง ฝั่งติดกับกระจก จะเหลือพื้นที่ประมาณ 70 cm. กว้างและเดินได้สะดวกค่ะ
หน้าต่างในห้องนอน ที่มีมาให้มีแค่ 1 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยไป ทำให้รับแสงธรรมชาติได้น้อยและไม่ได้ช่วยเรื่องการระบายอากาศภายในห้องซักเท่าไหร่ ติดกับหน้าต่างในห้องนอนจะมีช่องว่างอยุ่ประมาณ 90 x 110 cm. สามารถวางโซฟาเล็กๆ แบบ 1 ที่นั้ง หรือจะวางชั้นวางของหรือตู็เก็บของได้ค่ะ โซฟาในรูปทางโครงการไม่มีให้นะค่ะ
ในห้องนอนจะติดเครื่องปรับอากาศให้ 1 ตำแหน่งค่ะ เป็นแบบ Split type ของ Daikin ส่วนหลังที่วีจะมีตำแหน่งปลั๊กไฟ 2 จุด และช่องเสียบสายโทรศัพท์ ในส่วนของปลั๊กไฟและสวิทช์ไฟใช้ของ Schneider
หน้าต่างแบบบานกระทุ้ง ตัวบานกว้าง 90 cm. ซึ่งมีขนาดเล็กไปหน่อย ถ้าไม่เปิดแอร์เปิดแต่หน้าต่างตรงจุดนี้คงไม่ค่อยได้รับลมเท่าไหร่ค่ะ
กลับมาดูอีกด้านของห้องนอนกันค่ะ จะมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้ง และยังมีที่เหลือให้วางตู้หรือชั้นวางของเพิ่มด้านข้างได้ ส่วนของ Walk-in closet และกระจกจะอยู่ด้านในสุดของห้อง ตู้เสื้อผ้า Built in ทางโครงการจะมีให้ค่ะ ทางซ้ายมือที่เห็นเป็นกระจกจะเป็นห้องน้ำแบบ Sexy Bath
ชุดโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมกระจก ทางโครงการไม่ได้ให้มานะค่ะ กรณีห้องจริงเราจะไม่ติดเป็นโต๊ะแบบนี้ก็ได้ค่ะ ด้านข้างจะมีปลั๊กไฟให้ 1 ตำแหน่ง สำหรับเสียบเครื่องไดท์ผมหรืออุปกรณ์ชาร์ตไฟต่างๆ
ส่วน Walk in closet อยู่ติดกับทางเข้าห้องน้ำ ความกว้างประมาณ 90 cm. การจัดพื้นที่ Walk in closet ไว้แบบนี้นอกจากจะไม่ต้องเสียพื้นที่ในส่วนห้องนอนแลัว ยังจะเพิ่มความสะดวกเมื่ออาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาเลือกเสื้อผ้าและแต่งตัวได้เลย ซึ่งพื้นที่ ที่ให้มาก็ไม่เล็กจนเกินไปค่ะ
ตู้เสื้อผ้า แบบ Built in ประตูเป็นบานเปิด ตัวตู้จะสูง 2.6 m. ตั้งแต่พื้นถึงฝ้าค่ะ ออกแบบให้ใช้งานเต็มพื้นที่ ชั้นบนสุดของตู้ก็ใช้เก็บของต่างๆได้ ติดกระจกมาให้ที่ปลายสุดทางเดิน ข้อดีคือเราสามารถยืนแต่งตัวและเช็คความเรียบร้อยได้ที่หน้าตู้ได้เลย อีกทั้งกระจกยังสามารถหลอกสายตาทำให้ห้องดูกว้างขึ้นได้ค่ะ ซึ่งทางโครงการไม่ได้ให้นะค่ะ เราสามารถดูเป็น idea แล้วติดเพิ่มได้
ลองเปิดตู้ทั้งสองอันดูค่ะ จะมีการแบ่งพื้นที่เก็บของแตกต่างกัน มีทั้งแบบเน้นการแขวนเสื้อผ้า และแบบลิ้นชักเพื่อเก็บเสื้อผ้าที่ต้องการพับแยกไว้ให้ค่ะ
ห้องน้ำที่โครงการให้มาเป็นแบบ Sexy Bath บางคนอาจจะรู้สึกเขินหน่อยเวลาอาบน้ำ ก็จะมีมู่ลี่ดึงลงมาปิดได้นะค่ะ ห้องน้ำออกแบบให้สามารถเข้าได้ 2 ทางทั้งจากทางห้องนอนและห้องครัว ข้อดีคือกรณีมีแขกมาห้อง สามารถให้เข้าห้องน้ำจากทางห้องครัวได้เลย จะได้ไม่ต้องมาเดินผ่านห้องนอนซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเราค่ะ
ตำแหน่งของประตูเข้าห้องน้ำจากทางห้องนอนและส่วนครัว จะอยู่ตรงกันพอดีทำให้เกิดเป็นทางเดินตรงกลาง และเป็นการแบ่งโซนเปียกกับแห้งไปในตัวด้วย พื้นห้องน้ำลดระดับ 4 cm. ส่วนพื้นที่อาบน้ำจะยกธรณีสูงจากระดับ 5.5 cm. กั้นไว้เพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ พื้นห้องน้ำและธรณีกั้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ลายหินอ่อน ขนาด 30 x 90 cm. รอยต่อระหว่างพื้นห้องอื่นๆกับพื้นห้องน้ำจะมีต้วจบสแตนเลสเพื่อเก็บรอยต่อของพื้นทั้งสองให้สวยงามเรียบร้อยค่ะ
ส่วนห้องน้ำ วัสดุปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ลายหินอ่อน ขนาด 30 x 90 cm. ผนังกรุกระเบื้องแกรนิตโต้ สีเทา ขนาด 30 x 90 cm. เช่นกัน ส่วนฝ้าเพดานเป็นยิปซั่มบอร์ดกันชื้นฉาบเรียบทาสี ความสูงจากพื้นถึงฝ้าในห้องน้ำสูง 2.4 m. ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาของ Kohler
ชุดอ่างล่างหน้าเป็นขนาดกลาง จาก Kohler ขนาดประมาณ 78 x 60 cm. อ่างมีพื้นที่รอบๆสำหรับวางของได้ค่ะ
ชุดโถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ได้แก่ สายชำระ และที่ใส่กระดาษทิชชู เป็นของ Kohler
ส่วนอาบน้ำมีบานประตูกระจกมาให้ ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเปลือยกระจกนิรภัยใสพร้อมอุปกรณ์สแตนเลส พื้นที่อาบน้ำขนาด 0.9 x 1.6 m.
อุปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบ Rain Shower Ceiling Hang พร้อมที่วางสบู่ ของ Grohe ในส่วนของก๊อกน้ำจะมีให้ 2 ตำแหน่งแยกการใช้งานกรณียืนอาบน้ำและอาบในอ่างอาบน้ำค่ะ
ชุดอ่างอาบน้ำทรงสี่เหลี่ยม ขนาด 45 x 109.5 cm. สำหรับใช้คนเดียว
ชุดอุปกรณ์ก๊อกน้ำแบบ ก๊อกผสมอ่างอาบน้ำพร้อมฝักบัว ของ Grohe
อุปกรณ์อื่นในห้องน้ำที่มีให้ เช่น ราวแขวนผ้าเช็ดตัว , พัดลมระบายอากาศ , ตำแหน่งระบายน้ำและให้ไฟแบบ Downlight
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 3 September 2015
- 1 Bed ชั้น 10 แบบ B1 ห้อง 10-06 เนื้อที่ 35 ตร.ม. ราคา 5.9 ล้านบาท หรือ 168,571 บาท/ตร.ม. (ส่วนลด 200,000 บาท เหลือ 5.7 ล้านบาท)
- 1 Bed ชั้น 10 แบบ C1 ห้อง 10-09 เนื้อที่ 45 ตร.ม. ราคา 7.5 ล้านบาท หรือ 166,ุ666 บาท/ตร.ม. (ส่วนลด 300,000 บาท เหลือ 7.2 ล้านบาท)
- 1 Bed ชั้น 11 แบบ C2 ห้อง 11-03 เนื้อที่ 47 ตร.ม. ราคา 7.9 ล้านบาท หรือ 168,082 บาท/ตร.ม. (ส่วนลด 300,000 บาท เหลือ 7.6 ล้านบาท)
- 2 Bed ชั้น 11 แบบ D1 ห้อง 11-01 เนื้อที่ 63 ตร.ม. ราคา 10.7 ล้านบาท หรือ 169,841บาท/ตร.ม. (ส่วนลด 400,000 บาท เหลือ 10.3 ล้านบาท)
- Duplex ชั้น 34 แบบ F1 ห้อง 34-14 เนื้อที่ 62 ตร.ม. ราคา 11.7 ล้านบาท หรือ 188,709 บาท/ตร.ม. (ส่วนลด 400,000 บาท เหลือ 11.3 ล้านบาท)
- Fully Fitted
- เพดานสูง 2.6 เมตร
- Kitchen & Sink , ตู้เก็บของแบบ Built-in
- Hob & Hood
- ตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in
- Shuttle Bus
- จอง 50,000 – 200,000 บาท
- ทำสัญญา 5 %
- ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 26 งวด
- ค่ากองทุน 750 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 70 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเลของ Q ชิดลม-เพชรบุรี อยู่ติดถนนใหญ่เพชรบุรี ใกล้ซอยชิดลมเพียง 150 เมตร เป็นโครงการที่อยู่ในย่านชุมชนใจกลางเมือง ใกล้ อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้าและสามารถเดินทางเข้าสู่ย่านใจกลางเมืองโซนอื่นๆได้ง่าย ที่ตั้งของโครงการเป็นย่านพาณิชยกรรมหลักและมีชุมชนเดิมค่อนข้างหนาแน่น อาคารโดยรอบเป็นอาคารแบบ Low Rise และอาคารพักอาศัย High Rise บางส่วน ตัวอาคารตั้งอยู่ในพื้นที่ ที่มีอาคารสูงขนาบทั้งสองข้าง จึงมีวิวเปิดโล่งเพียง 2 ทิศทาง คือทางทิศเหนือและใต้ ที่จะไม่โดนอาคารสูงบดบังทัศนียภาพ ในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ถือว่าตั้งอยู่ในย่านที่เพรียบพร้อม ของกินของใช้มีอยู่รอบๆโครงการ ทั้งร้านค้า ห้างสรรพสินค้าหลากหลายแห่ง ตัวโครงการอยู่ติดริมถนนและสามารถเดินทางด้วยรถยนต์สะดวก แต่เป็นทำเลที่ไม่ได้ใกล้รถไฟฟ้าต่างจากทำเล IDEO Q รุ่นพี่ที่เน้นใกล้แบบเดินได้ ในอนคตการคมนาคมก็จะสะดวกมากขึ้นจากรถไฟฟ้าสายสีส้มซึ่งต้องรอนานหน่อยนะคะ โดยรวมแล้วอาจไม่ได้เป็นทำเลที่โดดเด่นในเรื่องนรถไฟฟ้าแต่ก็ถือว่าเข้าใจกลางเมืองได้ไม่ยากค่ะ
การเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัว สามารถเลือกเส้นทางที่จะมาโครงการได้หลายเส้นทาง ได้แก่ ถ.สุขุมวิท ถ.พญาไท ถ.ราชปรารภ หรือมาจากทางราชดำริ หลังสวน แต่จะต้องระมันระวังเรื่องการใช้ซอยชิดลม เนื่องจากเป็นซอย One Way ที่วิ่งตรงมาจากทาง ถ.เพชรบุรีเท่านั้น หากมาจาก ถ.สุขุมวิท จะต้องมาเลี้ยวผ่าน ถ.วิทยุ แล้วเลี้ยวเข้า ถ.เพชรบุรีแทน ลักษณะเป็นการขับรถวนเป็นวงกลม จึงจะต้องวางแผนการเดินทางให้ดี เพราะถนนสายหลักเหล่านี้ก็มีการจราจรที่หนาแน่นมาก แต่ถ้าวิ่งมาจากประตูน้ำหรือจากแยกอโศกมนตรีก็สามารถเลี้ยวเข้าโครงการได้เลย ส่วนใครจะไปอโศกจากหน้าโครงการเลี้ยวขวาไม่ได้นะคะต้องเลี้ยวซ้ายไปกลับรถใต้สะพานข้ามแยกประตูน้ำซึ่งมีระยะใกล้ๆแต่ตอนรถติดนี่ก็เอาเรื่องอยู่นะ เรื่องที่จอดรถได้มา 63% ไม่รวมซ้อนคันถ้าจัดการดีๆน่าจะเพียงพอต่อการใช้งานนะคะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ เนื่องจากเป็นโครงการที่ไม่เน้นรถไฟฟ้าแต่ถ้าอยากจะใช้จริงๆก็สามารถเดินจาก BTS ชิดลม มายังโครงการ ระยะทางประมาณ 800 ม. ซึ่งถ้าเดินเรื่อยๆอากาศไม่ร้อนมากก็พอเดินไหว บรรยกาศในซอยชิดลมก็มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ให้แวะตลอดทาง หรือจะเลือกใช้เส้นทางเรือ ขึ้นที่ท่าเรือชิดลม ซึ่งห่างจากโครงการ ประมาณ 200 ม. ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเดินทางได้ ทั้งสะดวกและไม่ต้องเจอกับรถติดซึ่งก็จะมีผู้มาใช้บริการกันมากในชั่วโมงเร่งด่วน แต่ถ้าใครขยันเดินสามารถเดินไปเที่ยวสยามได้เลยนะระยะทางประมาณ 1.5 กม. ไม่ต้องเสียเวลารถติดให้วุ่นวาย
การออกแบบของโครงการจากที่ดินประมาณ 1-2-80.9ไร่ จัดวางผังอาคารไว้เต็มพื้นที่ของที่ดิน จัดห้องได้ 354 ยูนิต ซึ่งเทียบดูในแต่ละชั้น จะมีจำนวนห้องอยู่ที่ 7 – 14 ห้องต่อชั้น ซึ่งก็ดูไม่หนาแน่นเท่าไหร่ มีการแบ่งพื้นที่ชั้นล่าง 8 ชั้นทำเป็นส่วนจอดรถ วางผังโครงการให้พื้นที่ส่วนกลางใช้ร่วมกันบนชั้นสูงสุดของพื้นที่โครงการถือเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยก็ว่าได้ เพราะได้สระว่ายน้ำขนาดใหญ่แบบวงกลมรอบอาคาร และ Fitness มองเห็นวิวเมืองแบบ 360 องศา มีการจัดแบ่งพื้นที่พักผ่อนรอบๆสระ โดยเน้นจัดพื้นที่สีเขียวไว้ตามส่วนต่างๆ โดยแบ่งกระจายไว้ตามชั้นต่างๆของส่วนพักอาศัยและโดยรอบ ทำให้โครงการดูร่มรื่นและผู้อยู่อาศัยสามารถเข้าในงานได้ง่ายขึ้น พื้นที่ส่วนกลางอื่นๆ ก็มีความหลากหลาย เช่น Sauna – Steam , Social Club , Turkish hot tub pool ที่เป็นสระน้ำร้อนสำหรับแช่ตัว ให้ผู้อยู่อาศัยเลือกใช้ตามความชอบ ในส่วนของรูปร่างอาคารที่เป็นตึกสูงถึง 42 ชั้น มีลูกเล่นในการออกแบบ เป็นมุมตัดดูทันสมัย
ในส่วนของการออกแบบและจัดพื้นที่ห้องพักอาศัย โครงการจะเน้นไปที่ห้องที่มีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 35 ตร.ม.ขึ้นไป จึงทำให้สามารถจัดพื้นที่ใช้งานภายในห้องได้ดีขึ้นไม่เน้นซอยห้องเล็กๆประเภทยี่สิบกว่าตารางเมตร ในส่วนของห้องตัวอย่างขนาด 45 ตร.ม. จัดพื้นที่ในส่วนต่างๆไว้กำลังดี เช่น ห้องนอนที่มีพื้นที่ไม่แออัด สามารถวางตู้หรือชั้นวางของเพิ่มได้ พื้นที่บริเวณครัวมีการแบ่งพื้นที่โดยปูกระเบื้องให้ซึ่งเหมาะสมกับการใช้งาน การออกแบบห้องน้ำให้สามารถเข้าได้ 2 ทาง ทั้งจากห้องครัวและห้องนอน ช่วยให้สามารถจำกัดเส้นทางเข้าห้องน้ำไม่ให้แขกหรือบุคคลอื่นต้องเดินผ่านห้องนอนซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัว ภายในห้องน้ำจัดพื้นที่แยกส่วนเปียกแห้ง
พื้นที่ระเบียงยังคงไอเดียที่มีหน้าต่างให้อีกชุดเพื่อใช้งานระเบียงได้หลากหลายมากขึ้นและจัดพื้นที่ต่างหากสำหรับคอมเพรสเซอร์แอร์ มีประตูปิดมิดชิดเพื่อป้องกันความร้อนเข้ามาในพื้นที่ระเบียง แต่การจัดพื้นที่ในห้องนอนเมื่อดึกบานเลื่อนปิดเพื่อแบ่งพื้นที่การใช้งาน ระยะตรงปลายเตียงค่อนข้างแคบทำให้เดินอ้อมเตียงลำบาก ถ้าใครจะนอนบนเตียงดูทีวีก็อย่าเลือกโซฟาที่มีพนักพิงสูงมากเพราะจะบังทีวี ส่วนพื้นที่ครัวเป็นครัวเปิดเหมาะกับการทำอาหารเบาๆมากกว่าไม่เหมาะกับการทำอาหารที่มีกลิ่นและควันเยอะๆ พื้นที่ในส่วนรับประทานอาหารก็ไม่สามารถวางโต๊ะนั่งหันหน้าชนกันได้
วัสดุอุปกรณ์ของที่ให้มา ถือว่าอยู่ในระดับตามมาตรฐาน ทางโครงการเลือกปูพื้นด้วย Engineer ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดี วัสดุมีความแข็งแรงและมีความเหมือนไม้จริง แต่โครงการขายห้องแบบ Fully Fitted ถือว่าให้น้อยไปหน่อย แต่ข้อดีคือ เหมาะกับลูกค้าที่ชอบแต่งห้องเอง ที่โครงการมีให้คือชุดครัวและชุดอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำ และตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in ซึ่งถ้าเทียบกับโครงการใกล้เคียงถือว่ายังเป็นรองกับโครงการที่ให้เฟอร์นิเจอร์ครบชุด ในส่วนของชุดอุปกรณ์ต่างๆที่ได้ Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์ ผนังติดกระเบื้อง เหมาะกับการประกอบอาหาร สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ส่วน Hob กับ Hood ของ MEX พื้นห้องเป็นพื้น Engineer ลายไม้ทั้งห้อง ชุดสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Kohler พร้อมอุปกรณ์ชุดอาบน้ำของ Grohe ในส่วนของควรเรียบร้อยอื่นๆภายในห้องถือว่าเก็บงานได้เรียบร้อยดี
สาธารณูปโภคของโครงการนี้จัดว่าเป็นจุดเด่นเพราะยกเอาไว้ชั้นบนสุดได้แบบยกชั้นและวิว 360 องศาเรียกว่าเพิ่ม Value ให้กับโครงการได้พอสมควร สระว่ายน้ำกับFitness ออกแบบให้มีลัษณะที่โดดเด่นสร้างความดึดดูดให้น่าใช้งานมากขึ้น สระเป็นระบบเกลือ ขนาด 165 x 28 เมตร ลึก 1.2 เมตร , Shallow Pool และ Jacuzzi รวมทั้งพื้นที่นั้งพักผ่อนริมสระ Pool Deck จุดเด่นอีกจุดคือการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางแบบเล่นระดับให้สัมพันธ์กับรูปลักษณ์ภายนอกของอาคาร นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันแปลกที่โครงการเรียกว่า Turkish hot tub pool ซึ่งอยากเห็นของจริงเหมือนกันว่าทำออกมาแล้วมันเป็นยังไง ที่เหลือก็เป็นห้อง Suana-Steam แยกห้องอาบน้ำไว้ให้ ลิฟท์โดยสาร 3 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 118 : 1 ถือว่าค่อนข้างหนาแน่นไปนิดเมื่อเทียบกับระดับราคา
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบราคา 170,000 บาทต่อตารางเมตร., 3 September 2015
- ทำเล 8.0/10 – ทำเลใจกลางเมือง เดินทางสะดวกเชื่อมต่อกับถนนสำคัญหลายสาย แม้ไม่ได้อยู่ติดรถไฟฟ้า แต่เดินมาห้างสำคัญๆได้
- เดินทางด้วยรถ 8.0/10 -เดินทางสะดวก มีทางเลี่ยงทางลัด แต่เลี้ยวขวาไม่ได้
- ไม่ใช้รถ 7.5/10 – ติดถนนใหญ่ ไกลรถไฟฟ้าแต่เดินไป CTW ได้ด้วยระยะ 500 กม.
- วัสดุ 7.5/10 – วัสดุมีมาตราฐานในเกณฑ์ดี
- แบบ 8.0/10 – โครงการออกแบบทันสมัย แต่การจัดพื้นที่ห้องพักยังมีจุดที่ต้องปรับปรุงบ้าง
- สาธารณูปโภค 8.5/10 – ให้มาที่ชั้นบนสุดและมีความหลากหลายและน่าใช้งาน
- LUXURY CLASS
- 7.9/ 10.00
BOTTOM LINE
Q ชิดลม-เพชรบุรี เป็นโครงการหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดใกล้แหล่งธุรกิจที่ทำงานและใกล้สยาม แต่ไม่ซีเรียสเรื่องรถไฟฟ้าเวลาจะไปชอปปิ้งถ้าเป็นคนขยันเดินจะช่วยลดเวลาในการเดินทางได้พอสมควรเพราะอยู่ห่างพารากอนประมาณ 1.5 กม. เน้นการใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก จุดเด่นของโครงการคือพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ชั้นบนสุดมีวิวแบบเปิดกว้าง 360 องศารอบตึกและมี Facility ที่หลากหลาย ระดับราคาถือว่าสูงสำหรับในย่านนี้ ใครที่สนใจคงต้อง มีงบประมาณ 5.5 – 11.6 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 39,000-80,000 บาท ลองพิจารณากันดูนะค่ะ
ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป
สมัครสมาชิก www.thinkofliving.com พร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม คลิกที่นี่ https://thinkofliving.com/