รีวิว PYNN Pridi 20 (พินน์ ปรีดี 20) คอนโด Low Rise 7 ชั้น ทำเลในซอยปรีดี พนมยงค์ 20 ใกล้โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูส์อินเตอร์เนชันแนล ปัจจุบันมีราคาเริ่มต้นที่ 6.39 ล้านบาท เราจึงรวบรวม Highlight ของโครงการมาไว้ดังนี้
- ห้องหน้ากว้าง มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ ในราคาคุ้มค่า : พื้นที่ใช้สอยภายในห้องเริ่มต้นมากกว่าโครงการรอบข้าง และมีราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรเข้าถึงง่ายเป็นอันดับต้นๆ
- ใกล้โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูส์อินเตอร์เนชันแนล :ในระยะเดินได้เพียง 120 ม. ผู้ปกครองสามารถเดินไปรับ-ส่งได้สะดวก
- เพื่อนบ้านน้อยเพียง 36 ยูนิต : เน้นความเป็นส่วนตัวสูง ต่อชั้นมีเพียง 6 ยูนิตเท่านั้น
- Pet Friendly : เป็นเพียงไม่กี่คอนโดในย่านที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้
- ที่จอดรถเยอะ : ได้ที่จอดรถถึง 94% ใช้งานสะดวก
ข้อมูลโครงการ
PYNN Pridi 20 (พินน์ ปรีดี 20) ณ วันที่ 26 กรกฎาคม 2567
ชื่อโครงการ | PYNN Pridi 20 (พินน์ ปรีดี 20) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ซอย ปรีดี พนมยงค์ 20 เขต พระโขนง |
ที่ดิน | ประมาณ 200 ตร.วา |
ประเภทคอนโด | Low Rise7 ชั้น |
จำนวนยูนิต | 36 ยูนิต |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 6 ยูนิต |
ที่จอดรถ | 94 % หรือ 34 คัน แบ่งเป็นที่จอดแบบ Automatic Parking 30 คัน และที่จอดแบบปกติ 4 คัน |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2566 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2567 |
ประเภทห้องพัก |
|
2.70 เมตร | |
ราคาเริ่มต้น | 6.39 – 7.79 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 90,000 – 100,000 บาท/ตร.ม. |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
Call Center | 1685 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.72343797314746, 100.5984491831405
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการ PYNN Pridi 20 (พินน์ ปรีดี 20) ค่ะ
โครงการ PYNN Pridi 20 (พินน์ ปรีดี 20) ตั้งอยู่ในซอยปรีดีพนมยงค์ 20 ลึกเข้าไปประมาณ 270 ม. จากถนนสุขุมวิท 71 ย่านพระโขนง ซึ่งเป็นกึ่งกลางระหว่างในเมืองและนอกเมือง จากถนนสุขุมวิท 71 เชื่อมต่อไปได้ทั้งถนนสุขุมวิท และถนนเพชรบุรีทำให้เดินทางเข้าเมืองได้ง่าย ไม่ว่าจะใช้รถยนต์หรือรถไฟฟ้า จากโครงการมีเส้นทางลัดเลาะไปโซนเอกมัย-ทองหล่อได้สะดวก
ชุมชนในรอบๆเป็นชุมชนเก่าแก่ ที่มีคอนโดและคอมมูนิตี้มอลล์ มาตั้งในย่านมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คนในย่านนี้ใช้ชีวิตได้สะดวกสบายมากขึ้น หาของกินของใช้ได้ง่าย หากใครมองหาห้างใหญ่ๆ ที่ใกล้ที่สุดจะเป็น ดิเอ็มโพเรียม และเอ็มควอเทียร์ สามารถไปเดินช็อปปิ้งได้สบายๆ
เส้นทางไปขึ้นทางด่วนฉลองรัช
จากโครงการสามารถเดินทางไปทางด่วนได้ 2 แห่งใหญ่ๆ คือ
- ทางด่วนฉลองรัช : ห่างจากโครงการ 1.9 กม. ปกติเเล้วถนนสุขุมวิท 71 จะเป็นเส้นที่รถค่อนข้างติด แต่เราลัดเลาะไปตามซอกซอย ทำให้ใช้เวลาไม่นานก็ถึงจุดขึ้นทางด่วนแล้วค่ะ ซึ่งทางด่วนนี้ใช้เดินทางไปยังโซนพระราม 9 , รามอินทราได้
- ทางด่วนเฉลิมมหานคร : ห่างจากโครงการประมาณ 4.7 กม. เราสามารถใช้เส้นทางนี้ไปทางฝั่งเข้าเมืองยังพระราม 3, ดาวคะนอง, พระราม 4
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
PYNN Pridi 20 (พินน์ ปรีดี 20) ตั้งในซอยปรีดี พนมยงค์ 20 ใกล้ถนนสุขุมวิท 71 โดยรวมแล้วสภาพแวดล้อมเป็นชุมชนดั้งเดิมของย่านนี้ ห้องพักของโครงการจะได้เห็นวิว 4 ทิศทาง ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัย 2-3 ชั้น และอาคารพักอาศัย 6 ชั้น รอบข้างไม่มีอาคารสูงบังวิว
ทิศเหนือ : ติดกับ บ้านพักอาศัย 2-3 ชั้น , อาคารพักอาศัย 6 ชั้น
ทิศใต้ : ติดกับ บ้านพักอาศัย 2 ชั้น
ทิศตะวันออก : ติดกับ ติดกับ บ้านพักอาศัย 2 ชั้น
ทิศตะวันตก : ติดกับ บ้านพักอาศัย 2-3 ชั้น , ตึกแถว 3 ชั้น
บรรยากาศสภาพแวดล้อมปากซอยปรีดี พนมยงค์ 20
ปากซอยโครงการเป็นตึกแถวเรียงกัน บางห้องไม่มีคนมาอยู่ บางส่วนเป็นร้านค้า อาคารพาณิชย์ บริเวณด้านหน้าตึกแถวมีป้ายรถเมล์อยู่
บรรยากาศภายในซอยปรีดี พนมยงค์ 20
สภาพแวดล้อมภายในซอยส่วนใหญ่เป็นบ้านคนในชุมชนที่เก่าแก่ ปากซอยมีอู่ซ่อมรถและวินมอเตอร์ไซค์อยู่ด้วย หากใครไม่อยากเดินเข้าไปในโครงการ สามารถเรียกวินเข้าไปได้เลย ภายในซอยมีที่พักอาศัยอยู่หลายแห่ง ทำให้มีคนเดินเข้า-ออกตลอด ซอยไม่เปลี่ยวค่ะ
บริเวณกลางซอย ห่างจากโครงการประมาณ 120 ม. เป็นประตูทางเข้าโรงเรียนเซนต์แอนดรูส์อินเตอร์เนชันแนล (ประถมศึกษา) ซึ่งประตูนี้เป็นประตูที่รถโรงเรียนใช้รับ-ส่งนักเรียน ส่วนนักเรียนคนไหนที่เดินมาโรงเรียนก็สามารถใช้บัตรนักเรียนสแกนเข้าประตูนี้ได้ค่ะ
เมื่อเข้ามาในซอยเรื่อยๆ เราจะเจอกับโครงการ PYNN Pridi 20 (พินน์ ปรีดี 20)
ตรงข้ามโครงการเป็นรั้วของบ้านพักอาศัยโดยรอบ
สภาพแวดล้อมหน้าโครงการเป็นชุมชนบ้านพักอาศัยของคนในย่าน ซึ่งมีคนสูงประมาณ 2-3 ชั้น ไม่ได้อยู่ในระยะประชิดกับโครงการจึงไม่บดบังวิว
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- ซัมเมอร์ ฮิลล์ ~1.70 กม.
- ฮาบิโตะ มอลล์ ~2.00 กม.
- เกทเวย์ เอกมัย ~2.40 กม.
- ดับเบิ้ลยู ดิสทริค ~2.40 กม.
- เซ็นจูรี เดอะมูฟวีพลาซ่า สุขุมวิท(อ่อนนุช) ~2.60 กม.
- เดอะ คอมมอนส์ ทองหล่อ ~3.30 กม.
- พีเพิล พาร์ค คอมมูนิตี้มอลล์. ~3.50 กม.
- ห้างสรรพสินค้าดิ เอ็มโพเรียม ~4.70 กม.
- ห้างสรรพสินค้าเอ็มควอเทียร์ ~4.80 กม.
- ห้างสรรพสินค้าเอ็มสเฟียร์ ~5.10 กม.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ~2.30 กม.
- โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ~3.40 กม.
- โรงพยาบาลกรุงเทพ ~4.90 กม.
โรงเรียน
- โรงเรียนเซนต์แอนดรูส์อินเตอร์เนชันแนล (ประถมศึกษา) ~120 ม.
- โรงเรียนนานาชาติเอกมัย ~1.60 กม.
- โรงเรียนนานาชาติบางกอกเพรพ ~2.00 กม.
- โรงเรียนเซนต์แอนดรูส์อินเตอร์เนชันแนล กรุงเทพ ~2.30 กม.
ตัวช่วยในการเดินทาง
- รถไฟฟ้า BTS พระโขนง ~1.70 กม.
- ทางด่วนพิเศษฉลองรัช ~1.90 กม.
- รถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช ~2.50 กม.
- แอร์พอร์ตลิงก์ รามคำแหง ~3.60 กม.
รายละเอียดโครงการ
Highlights :
- ยูนิตน้อยได้ความเป็นส่วนตัว
- คอนโดอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้
- ที่จอดรถเยอะ
PYNN Pridi 20 (พินน์ ปรีดี 20) เป็นคอนโด Low Rise 7 ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 200 ตารางวา รวม 36 ยูนิต ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อยหากเทียบกับเพื่อนบ้าน ที่เป็นคอนโด Low Rise ในราคาใกล้เคียงกัน ทำให้โครงการนี้ได้ความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัย นอกจากนี้คอนโดยังอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ด้วยนะ ตอบโจทย์คนที่ต้องการอยู่กับสัตว์เลี้ยงภายในคอนโด
จาก Master Plan ของโครงการ เราจะเห็นได้ว่ามีทางเข้าออกเพียงทางเดียว เมื่อผ่านซุ้มประตูทางเข้าไปแล้ว สามารถขับรถเข้ามาจอดภายในโครงการได้เลย โดยโครงการเตรียมที่จอดรถไว้ให้ 94 % หรือ 34 คัน แบ่งเป็นที่จอดรถแบบ Auto Parking ในร่ม 30 คัน และที่จอดรถแบบ Conventional นอกชายคา 4 คัน
โครงการจัดให้ จุดวางอาหารของเดลิเวอรี่ และห้องขยะอยู่ด้านหน้าโครงการ ทำให้คนนอกไม่จำเป็นต้องเข้ามาด้านในโครงการ
ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ
ซุ้มประตูทางเข้าของโครงการเป็นประตูรั้วอัตโนมัติ ทางเข้าออกของโครงการมีความกว้างมากพอที่จะให้รถเข้าออกสวนทางกันได้ ลูกบ้านต้องใช้ Card Bluetooth ในการผ่านเข้าไปในโครงการ แต่สำหรับผู้มาเยือนต้องแลกบัตรกับรปภ.ก่อน ถึงจะเข้าโครงการได้นะคะ นอกจากนี้โครงการยังมีระบบ CCTV และ LIV-24 ที่ช่วยเสริมความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงให้กับลูกบ้านด้วย
ด้านหน้าโครงการเป็นห้องเก็บขยะ เทศบาลสามารถมาเก็บขยะได้โดยไม่ต้องเข้าไปในโครงการเลย
ข้างๆห้องเก็บขยะเป็นที่จอดรถแบบปกติ จำนวน 2 คัน ซึ่งอยู่นอกชายคา สามารถจอดรถที่มีความสูงมากกว่าปกติ เช่น Alphard ได้
ห้อง Mailbox และ Grab and Go
ด้านหน้าโครงการอีกฝั่งหนึ่ง เป็นห้อง Mailbox และ Grab & Go เป็นพื้นที่ให้ลูกบ้านมาเอาจดหมาย พัสดุ และอาหารที่สั่งเดลิเวอรี่มาทานที่คอนโด เป็นการกั้นโซนไม่ให้คนนอกเข้าไปยังตัวอาคาร
ตรงข้ามห้อง Mailbox และ Grab & Go เป็น Guard House ซึ่งมีรปภ.คอยสอดส่องดูความปลอดภัยให้กับลูกบ้าน
บรรยากาศที่จอดรถใต้อาคาร ช่วยให้ไม่ต้องจอดรถตากแดด ตากฝน เป็นการถนอมรถยนต์ด้วยนะ
เมื่อเข้ามาด้านใน เราจะเจอที่จอดรถภายในอาคาร ซึ่งเป็นแบบ Auto Parking ทั้งลูกบ้านและแขกที่มาเยือนก็สามารถจอดบริเวณนี้ได้เหมือนกัน ส่วนด้านในสุดของอาคาร โครงการเตรียม EV Changer ไว้ให้ 1 จุด ข้อดีของที่จอดรถภายในโครงการคือ ใกล้กับโถงลิฟต์ ทำให้เดินเข้าอาคารไปได้สะดวก
ทางเข้าโถงลิฟต์ของอาคารต้องสแกนหน้าก่อนจึงเข้าไปได้ เป็นการป้องกันคนนอกที่จะเข้ามายังตัวอาคาร เสริมความปลอดภัยให้ลูกบ้าน
โถงลิฟต์ของโครงการ
บริเวณโถงลิฟต์มีขนาดไม่ใหญ่ ใช้แค่รอลิฟต์เท่านั้น บรรยากาศภายในสว่างดีค่ะ โครงการมีลิฟต์โดยสารมาให้ 1 ตัว มีอัตราส่วนลิฟต์ 1 : 36 ถือว่าไม่สูงค่ะ แต่ถ้าลิฟต์ตัวนี้เกิดเสียขึ้นมา ลูกบ้านสามารถเดินลงบันไดได้นะ ตัวลิฟต์ใช้เป็นระบบสแกนหน้าและสามารถกดไปชั้นพักอาศัยของตัวเองได้เท่านั้นค่ะ ทำให้ลูกบ้านรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น ตัวลิฟต์ออกแบบให้มีช่องกระจกเพื่อให้มองเห็นจากภายนอกได้ หากเกิดเหตุฉุกเฉินทำให้คนด้านนอกช่วยเหลือได้ทันที
ชั้น 2-7 ของอาคาร เป็นส่วนที่พักอาศัยทั้งหมด ไม่มี Facility ส่วนกลาง จึงไม่มีคนจากชั้นอื่นๆเข้ามา ทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัวด้วย จากผังอาคารจะเห็นได้ว่า ใน 1 ชั้นจะมีห้องพักอาศัยครบทุก Type เลย ซึ่งแต่ละ Type จะอยู่ในตำแหน่งเดียวกันของทุกชั้น โดยที่แต่ละห้องมีความน่าสนใจแตกต่างกัน
- ห้อง 2C , 1B ใกล้กับลิฟต์มากที่สุดใช้งานขึ้น-ลงได้สะดวก
- ห้อง 2B , 2D ,2C อยู่ฝั่งทิศตะวันออก ได้รับแสงยามเช้าเต็มที่ และร่มในช่วงบ่าย เหมาะกับคนที่ชอบใช้ชีวิตตอนเช้า
- ห้อง 2A , 1A ,2B อยู่ฝั่งทิศตะวันตก จะได้รับแสงยามบ่าย และร่มในตอนเช้า เหมาะกับคนที่ชอบตื่นสาย ไม่ให้แสงแดดรบกวนการนอน
- ห้อง 2D , 2C , 1A , 1B อยู่ห่างจากถนนหน้าโครงการที่มีรถผ่านเข้าออกตลอดเวลา จึงได้รับความเป็นส่วนตัว
- ห้อง 2B , 2A ,2C , 1B เป็นห้องหัวมุม ได้วิวและแสงธรรมชาติ 2 ฝั่ง
- ห้อง 2D ได้ห้องหน้ากว้างที่สุด ส่วนนั่งเล่นและห้องนอน 2 ห้องได้วิวเต็มที่
ในวันที่เราไปถ่ายรีวิว ภายในลิฟต์ยังตกแต่งไม่เสร็จ จึงไม่มีภาพบรรยากาศมาให้ชมกันนะคะโถงลิฟต์ชั้นพักอาศัย มีขนาดกว้างขวางและมีแสงธรรมชาติเข้าถึง ทำให้ดูสว่างดีค่ะ
บรรยากาศทางเดินภายในอาคารค่อนข้างกว้าง และดูสว่างดีค่ะ ตอนนี้ห้องริมสุดของอาคารถูกจัดเป็น Sale Gallery อยู่นะคะ
บรรยากาศภายใน Sale Gallery
ห้อง Sale Gallery อยู่ตำแหน่งเดียวกับห้อง 2 Bedroom Type 2B ทำให้เราได้สัมผัสห้องจริงของ Type นี้
สำหรับการเก็บค่าส่วนกลางของโครงการ ในวันที่ไปรีวิวทางโครงการยังไม่มีรายละเอียดมาให้ อาจต้องสอบถามโครงการอีกครั้ง แต่คาดว่าจะยังมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้แม้จะไม่ได้มีส่วนกลางอื่นๆแบบโครงการทั่วไป แต่ยังคงมีส่วนที่ต้องดูแลต่างๆในโครงการ และส่วนที่จอดรถเป็นระบบ Auto Parking
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- ลิฟต์โดยสาร 1 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 36 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 36 คันคิดเป็น 94% แบ่งเป็นที่จอดแบบ Automatic Parking 30 คัน และที่จอดแบบปกติ 4 คัน
- EV Charger 1 จุด
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Key Card / Face Scan / Liv 24
แบบห้อง
Highlights :
- ห้องพักทุกห้องเป็นห้องหน้ากว้าง ทั้งห้องนอนและห้องนั่งเล่น
- ปกติห้องจะขายแบบ Fully Fitted แต่พิเศษช่วงโปรโมชั่นให้เฟอร์นิเจอร์ของ SB Design Square By Sansiri และเครื่องใช้ไฟฟ้า ครบพร้อมอยู่
โครงการ PYNN Pridi 20 (พินน์ ปรีดี 20) มีห้องพักอาศัยให้เลือกดังนี้
- 1 Bedroom ขนาด 33.5 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus ขนาด 58.25 ตร.ม.
- 2 Bedroom (M) ขนาด 58.25 – 59 ตร.ม.
- 2 Bedroom (L) ขนาด 73.5 – 75.5 ตร.ม.
โครงการจะเน้นไปที่ห้อง Type ที่เหมาะกับการอยู่อาศัย 2-3 คน คือ 2 Bedroom ขายห้องแบบ Fully Fitted แต่ช่วงโปรโมชั่นจะได้เฟอร์นิเจอร์ครบชุดจาก SB Design Square By Sansiri และเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้ง ทีวี , ตู้เย็น , ไมโครเวฟ และเครื่องทำน้ำอุ่น แต่จะเป็นรุ่นไหนและยี่ห้ออะไรต้องสอบถามโครงการอีกทีนะคะ
หากเปรียบเทียบเรื่องราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการแล้ว โครงการนี้ถือว่ามีราคาที่น่าสนใจ เพราะอยู่ที่ประมาณ 90,000-100,000 บาท/ตร.ม. ในขณะที่โครงการส่วนใหญ่ในย่านนี้มีราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร 120,000 บาท/ตร.ม. ปัจจุบันนี้ห้องแบบ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus Sold Out ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ แต่ยังมีห้องแบบ 2 Bedroom ให้เราเลือกหลากหลายแบบเลยนะ
ห้อง 2 Bedroom Type 2A
สรุปวัสดุในห้อง
- รูปแบบการขาย Fully Fitted ช่วงโปรโมชั่นให้เฟอร์นิเจอร์หลักๆครบ : เตียง 6 ฟุต , ตู้เสื้อผ้า , ตู้เก็บรองเท้า , ชุดโต๊ะทานอาหาร ,โซฟา 2 ที่นั่ง และชั้นวางทีวี
- วัสดุพื้น ส่วนห้องนอน/นั่งเล่น : พื้น ลามิเนต 8 มม.
- วัสดุพื้น ส่วนระเบียง : กระเบื้อง ขนาด 30×30 cm. สีครีม
- ประตู HDF ปิดผิวด้วย PVC ลายไม้ พร้อมชุดอุปกรณ์ Digital Door Lock ของ Lockman
- บานเลื่อนอลูมิเนียมทำสีดำ
ห้องครัว
- วัสดุพื้นห้องครัว : กระเบื้อง ขนาด 60×30 cm. สีเทา
- ท็อปหินสังเคราะห์ พร้อม Hob & Hood ของ Teka
- หน้าบานเฟอร์นิเจอร์ เมลามีนลายไม้
ห้องน้ำ
- วัสดุพื้นห้องน้ำ : กระเบื้อง ขนาด 60×60 cm. สีเทาอ่อน
- ชุดสุขภัณฑ์ จาก American Standard และ Englefield
- ประตูห้องน้ำ ผิวเมลามีนลายไม้
ห้อง 2 Bedroom Type 2C :
ห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปดูวันนี้จะเป็น ห้อง 2 Bedroom Type 2C ขนาด 73.50 ตร.ม. ฟังก์ชันภายในห้อง มีห้องนอน 2 ห้อง , ห้องน้ำ 2 ห้อง และห้องครัวแบบปิด 1 ห้อง ซึ่งห้องแบบนี้เป็นห้องหัวมุมอาคาร อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ได้แสงแดดในช่วงเช้าเต็มๆ จึงเหมาะกับคนที่ตื่นเช้าเป็นพิเศษ
ห้องนี้เหมาะกับการอยู่ 2-3 คน ภายในห้องแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วนชัดเจน ทุกฟังก์ชันได้แสงธรรมชาติสว่างอย่างทั่วถึง ทำให้ได้บรรยากาศสว่างดูโปร่งโล่งมากขึ้น อีกส่วนหนึ่งที่เราชอบของห้องนี้คือมีส่วนที่ติดระเบียงถึง 2 ฟังก์ชัน โดยปกติที่เราเคยชมโครงการต่างๆ จะเห็นว่าส่วนที่ติดระเบียงจะมีเพียง 1 ส่วนเท่านั้น คือห้องนอน หรือ ห้องนั่งเล่น หรือ ห้องครัว แต่ห้อง Type นี้ มีทั้งครัวและห้องนั่งเล่นติดริมระเบียง ช่วยระบายอากาศได้ดีและเปิดออกไปใช้งานนั่งเล่นได้อีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังได้ครัวปิดใช้งานเป็นสัดส่วน ทำอาหารจริงจังได้ ห้องนอน 2 ห้อง สามารถเปิดใช้งานห้องน้ำจากตัวห้องได้ ใช้งานเป็นส่วนตัวมากขึ้น ภายในห้องจะเป็นยังไงบ้างไปชมกันเลยค่ะ
เริ่มต้นจากประตูทางเข้าห้องเป็นประตูบานไม้เทียม HDF พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock ของ Lockman ที่สามารถเปิดได้ 5 ระบบ คือ สแกนนิ้ว , กุญแจ , คีย์การ์ด , กดรหัส และApplication Wifi เราจึงสามารถเข้าห้องได้โดยไม่ต้องพกกุญแจติดตัวตลอดเวลา สะดวกในการใช้ชีวิตดีค่ะ
พื้นห้องมีการยกระดับจากพื้นทางเดินส่วนกลางขึ้นมาเล็กน้อย ช่วยกันฝุ่นจากด้านนอก ส่วนพื้นภายในห้องเป็น ลามิเนตหนา 8 มม. แข็งแรงมากกว่าแบบ 4 มิลลิเมตรที่เป็นมาตรฐานทั่วไป เหมาะกับการใช้งานภายในคอนโด
เมื่อเข้ามาภายในห้อง จะเจอมุมสำหรับวางตู้เก็บรองเท้าเป็นอันดับแรก ใครเป็นสายแฟชั่นมีรองเท้าเยอะ จะตกแต่งเป็นตู้สูงจนถึงฝ้าเหมือนห้องตัวอย่างก็ช่วยให้เก็บของได้เยอะขึ้น ทำให้ห้องเป็นระเบียบนะ เราสามารถถอดรองเท้าแล้วเก็บให้เรียบร้อยก่อนเดินไปยังส่วนอื่นๆของห้อง ทำให้ห้องไม่เลอะเทอะ
ห้องนั่งเล่น
ถัดมาเราจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นขนาดประมาณ 2.90 x 2.65 ม. วางโซฟา 3 ที่นั่งได้สบายๆมีระยะดูทีวีประมาณ 2.30 เมตร ขนาดทีวีที่เหมาะสมในการติดตั้งคือ 46-48 นิ้ว ภายในห้องจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานประมาณ 2.70 เมตร และได้รับแสงสว่างจากธรรมชาติผ่านประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อไปยังระเบียงห้อง ทำให้ห้องมีความโปร่งโล่ง
ประตูกระจกบานเลื่อนสลับ เชื่อมต่อไปยังระเบียง
ข้างๆโซฟาเป็น ประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนที่เปิดออกไปสู่ระเบียง ช่วยให้ห้องได้แสงธรรมชาติหรือเปิดระบายอากาศได้แบบเต็มที่
พื้นที่ระเบียง
พื้นระเบียงมีการลดระดับลงมาจากพื้นห้องเล็กน้อย เพื่อกั้นน้ำไหลย้อนและฝุ่นจากภายนอก ระเบียงมีพื้นที่กว้างประมาณ 3.15 x 1.10 ม. ซึ่งโครงการติดตั้ง Condensing Unit ของแอร์ด้านบน เราจึงสามารถใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่ เราสามารถปลูกต้นไม้เล็กๆน้อยๆไว้ให้ความสดชื่นริมระเบียงได้ หรือใครชอบกินกาแฟจะจัดเป็นมุมจิบกาแฟทานอาหารสบายๆ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศก็ได้นะ
ที่เราชอบคือโครงการจะติดตั้ง Grill ที่ Condensing Unit ของแอร์ เพื่อให้ลมร้อนพัดออกไปด้านนอก ทำให้คนที่มาใช้งานพื้นที่ระเบียงไม่รู้สึกร้อน
โต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่งพร้อมโซฟาพักผ่อน
เมื่อเดินเข้ามาด้านในห้องอีกฝั่ง เราจะเจอกับมุมรับประทานอาหาร ที่อยู่ตรงข้ามห้องครัว ทำให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น เราสามารถทำอาหารแล้วนำมาออกมาจัดที่โต๊ะอาหารได้สะดวก และง่ายต่อการเก็บจานชามหลังทานอาหารเสร็จเหมือนกัน
ห้องครัวภายในห้องพักเป็นครัวแบบปิด โดยมีประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนกันอยู่ ทำให้ห้องครัวเป็นสัดส่วนชัดเจน เราสามารถทำอาหารได้อย่างจริงจัง โดยไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นควันจากห้องครัวจะลอยไปรบกวนส่วนอื่นๆของห้องพัก
พื้นระหว่างห้องพักกับห้องครัวมีธรณีประตูกั้น ช่วยกันฝุ่น ส่วนพื้นห้องครัวเป็นกระเบื้องขนาด 60 x 60 cm. แข็งแรงคงทนต่อความชื้นและรอยขีดข่วน ทำความสะอาดง่าย
ห้องครัวแบบปิด
ห้องครัวมีลักษณะเป็นห้องแนวยาว โครงการให้ชุดครัว Built-in มาเป็นแนวยาวอย่างครบครัน รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้องครัวด้วย มีระยะยืนทำอาหารประมาณ 1.10 เมตร เวลามีคนยืนทำอาหารอยู่ อีกคนก็สามารถเดินผ่านไปได้สบายๆ
ชุดครัว Built-in ในห้องครัวพร้อมตู้เก็บของด้านล่าง
ห้องครัวให้ Built-in Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์ แข็งแรงทนความร้อน ทนต่อการขีดข่วน ทำความสะอาดง่าย ใต้เคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของ และช่องวางไมโครเวฟ ที่ตอนนี้ทางโครงการให้ไมโครเวฟมาด้วย ส่วนบานเปิดตู้เก็บของเป็นผิวเมลามีนลายไม้ ซึ่งอาจจะไม่ทนต่อความชื้นมากนัก แนะนำให้เช็ดทำความสะอาดอยู่เสมอ ข้างๆเป็นช่องใส่เครื่องซักผ้า เราสามารถซื้อเครื่องซักผ้ามาติดตั้งได้ เพื่อความสะดวกสบายค่ะ
เคาน์เตอร์ครัวมีขนาดกว้างพอสมควร เตรียมอาหารได้สะดวก
เคาน์เตอร์แบ่งเป็น 3 ส่วน คือส่วนทำอาหารที่โครงการให้เตาไฟฟ้า 4 หัวเตาพร้อมที่ดูดควันของ Teka ส่วนเตรียมอาหาร และซิงค์ล้างจาน ส่วน Backsplash ด้านหลังกรุกระเบื้องทำให้ทำความสะอาดง่าย
ซิงค์ล้างจานขนาดตามมาตรฐานโครงการ สามารถวางจานผลไม้ขนาดใหญ่ได้สบาย ๆ ตัวซิงค์มีความลึกพอที่จะไม่ให้น้ำกระเด็นออกเมื่อใช้งาน
ตู้เก็บของและชั้นวางของด้านบน
ตู้ลอยด้านบนเป็นตู้เก็บของแนวยาว เก็บของได้เยอะดีค่ะ ส่วนบานเปิดตู้เป็นแบบกดกระเด้ง ใช้งานง่ายทั้งเวลาปกติหรือตอนทำอาหารที่เปิดเครื่องดูดควันอยู่
ประตูเชื่อมต่อห้องครัวกับระเบียง
นอกจากห้องครัวจะมีหน้าต่างไว้เปิดระบายอากาศแล้ว ยังมีประตูกระจกที่เชื่อมต่อไปยังระเบียงห้องอีกด้วย หากใครมานั่งทานอาหารริมระเบียง ก็สามารถมาหยิบของกินจากห้องครัวได้สะดวก ส่วนตัวเราชอบที่ประตูเป็นกระจกฝ้ามากเลยนะ เพราะเป็นคนที่ทำอาหารแล้วครัวจะค่อนข้างรก ไม่อยากให้ใครมาเห็น กระจกฝ้าจะช่วยบังสายตาจากคนที่นั่งอยู่ระเบียง หรือห้องนั่งเล่นได้ แต่ยังได้รับแสงสว่างจากภายนอกอย่างเพียงพอ ช่วยให้ครัวไม่อับชื้นด้วยค่ะ
ถัดจากห้องครัวจะเป็นห้องนอนทั้ง 2 ห้อง พร้อมห้องน้ำ โดยห้องแรกที่เราจะเจอเป็นห้องน้ำสำหรับแขก
ห้องน้ำมีการลดระดับลงมา กันไม่ให้น้ำไหลออกภายนอก ทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาด
ห้องน้ำมีชุดสุขภัณฑ์มาให้ครบครัน
ภายในห้องน้ำมีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งที่ชัดเจน ทำให้ใช้งานได้ง่าย โครงการให้ชุดสุขภัณฑ์จาก American Standard และ Englefield มาครบครัน
ตู้เก็บของที่ติดกระจกไว้ที่บานเปิด เราสามารถส่องเช็คความเรียบร้อยและเก็บอุปกรณ์อาบน้ำได้ด้วย
ภายในห้องน้ำ โครงการให้ตู้เก็บของมาเยอะพอสมควร เราสามารถเก็บอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้งานภายในห้องน้ำเพื่อความสะดวก โครงการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้บริเวณอ่างล่างหน้า เอาใจคนชอบล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นมากๆเลย
ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเลื่อน 3 ตอนของ Shower King ทำให้เวลาเปิดใช้งานจะกว้างกว่าแบบ 2 ตอน เดินเข้า-ออกส่วนอาบน้ำได้สะดวกค่ะ
พื้นระหว่างส่วนอาบน้ำกับส่วนแห้ง จะมีรางของฉากกั้นอาบน้ำ ช่วยกันไม่ให้น้ำไหลออกสู่ภายนอก
การเปิด-ปิดของฉากกั้นอาบน้ำเป็นระบบแม่เหล็ก ทำให้การปิดแนบสนิทมากขึ้น กันน้ำไหลออกมา
พื้นที่ส่วนอาบน้ำ
พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.95 x 1.60 เมตร ถือว่าอาบน้ำได้สะดวกดีค่ะ โครงการให้ฝักบัวและ Rain Shower ซึ่งสามารถเปิดได้ทั้งน้ำเย็น น้ำอุ่นเช่นเดียวกับอ่างล้างหน้า พร้อมติดตั้งชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้ด้วย
ห้องน้ำห้องนี้สามารถเข้าถึงได้ทั้งจากโซนห้องรับแขกและห้องนอนรอง ทำให้สะดวกต่อการเข้าถึงทั้งแขกและเจ้าของห้อง
ห้องนอนรอง
ภายในห้องนอนรองมีขนาดกว้างพอจะวางเตียง 3.5 – 5 ฟุตได้เลยค่ะ แล้วยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงให้วางโต๊ะทำงานได้ด้วย ส่วนหน้าห้องน้ำสามารถวางตู้เสื้อผ้าได้ด้วย ทำให้ง่ายต่อการใช้แต่งตัวหลังจากอาบน้ำเสร็จ
ภายในห้องนอนมีหน้าต่างบานใหญ่ ช่วยให้แสงเข้าถึงห้องนอนได้ทั่วถึง และมีบานเปิดช่วยให้เปิดระบายอากาศได้ค่ะ
สำหรับ Master Bedroom แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วน Walk-in Closet และส่วนพักผ่อน
ภายใน Walk-in Closet สามารถวางตู้เสื้อผ้าเป็นแนวยาว เหมาะกับคนที่มีเสื้อผ้าเยอะๆ แล้วยังมีพื้นที่แต่งตัวประมาณ 90 cm.
Master Bathroom
Master Bathroom มีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งที่ชัดเจน โดยจัดให้อ่างล้างหน้าอยู่ตรงกลาง ส่วนพื้นที่อาบน้ำและอ่างอาบน้ำขนาดประมาณ 1.60 x 0.70 ม. อยู่ด้านข้าง 2 ฝั่ง ภายในห้องน้ำมีหน้าต่างบานใหญ่ ที่เป็นกระจกฝ้าช่วยพรางสายตาจากคนนอก แต่ห้องน้ำยังได้รับแสงธรรมชาติ ช่วยให้ห้องน้ำไม่อับชื้น แห้งง่ายด้วยค่ะ
ห้องน้ำมีการตกแต่งผนังโดยในกระเบื้อง ที่มีสีและขนาดต่างกัน ช่วยเพิ่มมิติให้กับห้องน้ำได้ดี ดูสวยงามค่ะ
Master Bedroom
ห้องนอนวางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ โดยที่เหลือพื้นที่ปลายเตียงเล็กน้อย หากใครชอบดูทีวีก่อนนอนก็ติดตั้งทีวีแบบแขวนได้นะคะ ห้อง Type นี้จะให้แอร์มา 3 ตัวนะคะ คือที่ห้องนอนทั้ง 2 ห้อง และห้องนั่งเล่น
ข้างๆเตียงนอนมีหน้าต่างบานเปิดคู่ เจ้าของห้องสามารถเปิดรับลม หรือระบายอากาศได้ด้วย ทางโครงการไม่ได้ให้ผ้าม่านมาด้วย แต่เราสามารถติดตั้งเพิ่มได้ และเนื่องจากห้องอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้มีแสงสว่างส่องเข้ามาให้ยามเช้าตรงๆ หากใครไม่ชอบนอนตื่นสายๆ แนะนำให้ติดม่านแบบ Back Out ไปเลยนะคะเพื่อป้องกันแสงรบกวน
สำหรับช่วงโปรโมชั่น โครงการให้เฟอร์นิเจอร์จาก SB Design มาด้วยนะคะ
นอกจากห้องตัวอย่าง 2 Bedroom Type 2C ที่ได้ชมกันไปแล้ว เรายังเก็บภาพบรรยากาศ ห้อง 2 Bedroom Type 2D , 2A มาด้วยนะคะ ซึ่งสองห้องนี้มีข้อแตกต่างตรงที่ โครงการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่จะให้มาในช่วงโปรโมชั่นมาตกแต่งให้เราเห็นกันจริงๆเลยค่ะ
ห้อง 2 Bedroom Type 2D :
ห้อง Type นี้จะเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดในโครงการค่ะ อยู่ตำแหน่งตรงกลางของอาคารพอดี และอยู่ทางทิศตะวันออกอีกด้วย ทำให้ได้รับแสงสว่างในยามเช้าเต็มๆเลยค่ะ ข้อดีคือห้องจะไม่ร้อนเมื่อถึงตอนบ่ายที่แดดเริ่มแรง ถือว่าเป็นการประหยัดค่าไฟไปในตัวด้วยนะ ส่วนตัวเรามองว่าผังห้องนี้มีความน่าสนใจในหลายประเด็นเลย
- ได้ห้องนั่งเล่นรวมกับส่วนทานอาหารขนาดใหญ่ ปรับการใช้งานได้ง่าย พร้อมเชื่อมต่อกับระเบียงยาว ทำให้ได้วิวมุมกว้าง และมีพื้นที่เก็บของบริเวณหน้าห้อง
- Master Bedroom ได้ Walk-in Closet ขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัว ใช้งานได้อย่างเป็นส่วนตัว
- ห้องน้ำบริเวณห้องนั่งเล่นสามารถเข้าถึงได้จากห้องนั่งเล่น และห้องนอนรอง สะดวกต่อการใช้งานทั้ง 2 บริเวณ
แต่ได้ครัวเปิด ถ้าอยากทำอาหารจริงจังแนะนำให้กั้นฉากกระจกเพิ่ม
เมื่อเข้ามาในห้อง ห้องจะมีมุมเล็ก ๆ ที่วางตู้รองเท้าได้ หรือใครอยากตกแต่งเป็นมุมเอาไว้นั่งใส่รองเท้าจริงจังๆ ก็ช่วยให้ใช้งานสะดวกมากขึ้น
ตู้เก็บรองเท้า
โครงการให้ตู้เก็บรองเท้า พร้อมตู้เก็บของด้านบนมาด้วย ใช้เก็บของได้เยอะเลย
Common Area
เมื่อเดินเข้ามาเราจะเจอ Common Area ที่เชื่อมพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหาร และโซนครัวเข้าด้วยกัน ภายในห้องค่อนข้างโปร่งโล่งเพราะมีพื้นที่กว้างใหญ่ และได้แสงธรรมชาติจากประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ แต่โซนครัวภายในห้องจะเป็นแบบเปิดนะ ทำให้อาจมีกลิ่นหรือควันลอยออกมาได้ จึงเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยทำอาหารหนักๆที่สิ่งกลิ่นมากนัก
ระเบียงเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น
มุมนี้เป็นมุมที่เราชอบมากที่สุดของห้องเลย เพราะเราสามารถเปิดประตูบานเลื่อน เพื่อเชื่อมพื้นที่นั่งเล่น กับระเบียงได้ด้วย ยิ่งทำให้ห้องดูโล่งยิ่งขึ้น ส่วนระเบียงมีขนาดประมาณ 5.25 x 1.20 ม. เราสามารถจดเป็นมุมพักผ่อนเพื่อให้เชื่อมต่อกับพื้นที่ด้านในได้ด้วยนะ
ห้องน้ำแสำหรับแขกสามารถเข้าออกจาก Common Area และห้องนอนรอง สะดวกในการใช้งานมากๆ ทางโครงการให้ชุดอุปกรณ์มาครบครันเลย
ห้องนอนรอง
ห้องนอนรองวางเตียง 5 ฟุตได้ และยังมีที่ว่างเดินได้รอบเตียง เตียงที่โครงการให้มามีช่องให้เก็บของใต้เตียงด้วยนะ เป็นการใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าสุดๆ ไปเลยค่ะ
Master Bedroom
Master Bedroom มีขนาดกว้างพอสมควรเลยค่ะ วางเตียง 6ฟุตแล้วยังเหลือพื้นที่วางโต๊ะหัวเตียงพร้อมลิ้นชักเก็บของได้ด้วย ส่วนใครอยากดูทีวีก่อนนอน เราเเนะนำให้ติดตั้งทีวีแบบแขวนไว้นะคะ
Walk-in Closet
ส่วนโซน Walk-in Closet เราสามารถวางตู้เก็บเสื้อเป็นรูปตัว L ได้เลย ตอบโจทย์คนที่มีเสื้อผ้าเยอะๆ หรือใครที่อยู่เป็นคู่สามี-ภรรยา จะแบ่งกันคนละฝั่งก็ได้นะคะ เพราะทั้ง2ตู้มีขนาดพอๆกันเลย นอกจากนี้ยังมีพื้นที่วางโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ สำหรับแต่งหน้าทำผม ก่อนออกจากห้องด้วย
Master Bathroom ให้ชุดสุขภัณฑ์มาครบพร้อมใช้งาน โครงการจัดผังให้อ่างอาบน้ำอยู่ในส่วนอาบน้ำไปเลย เป็นการแยกโซนเปียก-แห้งได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ห้อง 2 Bedroom Type 2A :
ห้อง 2 Bedroom Type 2A
ห้อง Type นี้อยู่ด้านหน้าอาคาร ทิศตะวันตกเฉียงเหนือทำให้ได้แดดช่วงบ่าย ทำให้ห้องนอนทั้ง 2 ห้องไม่โดนแดดช่วงเช้า อาจเหมาะกับคนที่ไม่ชอบตื่นเช้ามากนัก จากผังห้อง เรามองว่ามีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
- ห้องอยู่บริเวณหัวมุมอาคารทำให้ แสงธรรมชาติเข้าถึงได้ 2 ด้าน คือฝั่งห้องนอน และฝั่งห้องนั่งเล่น
- ได้พื้นที่ Common Area เป็นแนวยาว ทำให้ทุกพื้นที่เชื่อมต่อกันปรับใช้งานได้ง่าย
- ห้องน้ำอยู่ใกล้ประตูทางเข้าห้อง สะดวกในการใช้งานเวลาเพิ่งกลับเข้าห้องมา
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคา
PYNN Pridi 20 (พินน์ ปรีดี 20) ณ วันที่ 26 กรกฎาคม 2567
- 1 Bedroom 1 Bath ขนาด 33.5 ตร.ม.
1 Bedroom Plus ขนาด 58.25 ตร.ม.
2 Bedroom 2 Bath (M) ขนาด 58.25 – 59 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.39 บาท
2 Bedroom 2 Bath (L) ขนาด 73.5 – 75.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.79 บาท - รูปแบบการขาย Fully Fitted (ช่วงโปรโมชั่นให้เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า)
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.70 เมตร
- Kitchen & Sink ยี่ห้อ Teka / ท็อปหินสังเคราะห์
- Hob & Hood ยี่ห้อ Teka
- ชุดสุขภัณฑ์ของ American Standard และ Englefield
- จอง 10,000-20,000 บาท
- ทำสัญญา 20,000-30,000 บาท
- ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม.
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล : ตั้งอยู่ในซอยปรีดีพนมยงค์ 20 อยู่ลึกจากถนนสุขุมวิท 71 ประมาณ 270 ม. ย่านพระโขนงใกล้โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูส์อินเตอร์เนชันแนลเพียง 120 ม. ผู้ปกครองสามารถเดินไปรับ-ส่งลูกหลานได้สะดวกทุกวัน มีแหล่งของกินของใช้อย่าง แมคโคร ม ซัมเมอร์ ฮิลล์ , ฮาบิโตะ มอลล์ และดับเบิ้ลยู ดิสทริค ที่สามารถเดินทางไปจับจ่ายใช้สอยได้อย่างง่ายๆ
การเดินทางโดยใช้รถ : ถนนสุขุมวิท 71 สามารถเชื่อมต่อไปได้ทั้งถนนสุขุมวิท และถนนเพชรบุรี ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักที่เป็นแหล่งเศรษฐกิจทั้งคู่ เราสามารถใช้ถนนทั้ง 2 สายนี้เข้าไปยังตัวเมืองได้ นอกจากนี้ยังใกล้จุดขึ้นทางด่วนฉลองรัช ที่ใช้เดินทางไปโซนพระราม 9 รามอินทรา และจุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครที่ใช้เดินทางไปโซนพระราม 3 พระราม 4 ได้ โดยรวมนับว่าเดินทางสะดวกเลย ส่วนที่จอดรถมีประมาณ 94% หรือ 34 คัน ซึ่งมากกว่ามาตรฐานโครงการทั่วไป เหมาะกับคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางเป็นหลัก
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : โครงการห่างจากสถานี BTS พระโขนงประมาณ 1.70 กม. เราสามารถเรียกวินมอเตอร์ไซค์บริเวณปากซอยโครงการไปขึ้นรถไฟฟ้าได้ นอกจากนี้ยังมีป้ายรถเมล์อยู่ปากซอยเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางค่ะ
วัสดุ : โดยปกติโครงการขายแบบ Fully Fitted แต่ในช่วงโปรโมชั่นให้เฟอร์นิเจอร์จาก SB Design Square By Sansiri มาครบ พร้อมอยู่เลยค่ะ ประตูทางเข้าหลักของห้องให้ Digital Door Lock 5 ระบบ จาก Lockman มาให้ใช้งานได้สะดวก พื้นครัวปูกระเบื้องมาให้เหมาะกับการใช้งาน ทำความสะอาดได้ง่าย พื้นห้องเป็นพื้นไม้ลามิเนต 8 มิลลิเมตรทนต่อการใช้งาน แต่ต้องระวังความชื้น วัสดุอื่นๆให้ตามมาตรฐานราคานี้
การออกแบบโครงการ : คอนโด Low Rise 7 ชั้น ให้ความเป็นส่วนตัวสูง มีเพียง 36 ยูนิต โครงการจัดผังให้แยกระหว่างลูกบ้านกับคนนอกที่มาเซอร์วิสโครงการอย่างชัดเจน โดยจัดให้ห้องขยะ และ Grab & Go อยู่หน้าโครงการ ทำให้คนส่งอาหาร ส่งพัสดุไม่ต้องเข้ามาให้โครงการ การเข้าถึงตัวอาคารทุกจุดใช้ระบบสแกนหน้า เสริมความปลอดภัยให้ลูกบ้าน ผังอาคารจัดให้ห้องพักเห็นวิวครบ 4 ด้านรอบโครงการ ใน 1 ชั้นมีเพียง 6 ยูนิตเท่านั้นได้ความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น
การออกแบบห้อง : ได้พื้นที่ใช้สอยขนาดเริ่มต้นขนาดใหญ่ และมีราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรจับต้องได้ง่ายเป็นอันดับต้นๆของย่านนี้ ห้องพักทุกห้องได้ห้องหน้ากว้าง แสงธรรมชาติเข้าถึงทั้งโซนนั่งเล่นและห้องนอนทุกห้อง ภายในห้องจัดเป็นสัดส่วนชัดเจน Master Bedroom มี Walk-in Closet ขนาดใหญ่พร้อมห้องน้ำในตัว สะดวกต่อการใช้งาน
สาธารณูปโภค : โครงการไม่มีส่วนกลางให้ใช้งานมากนัก แต่มีที่จอดรถมาให้เยอะและส่วนใหญ่เป็น Auto Parking จึงเหมาะกับคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัว
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 90,000-100,000 บาท/ตร.ม., 26 กรกฎาคม 2567
- ทำเล 7.5/10 – ใกล้โรงเรียนนานาชาติในระยะเดินได้ ใกล้แหล่งของกินของใช้หลายแห่ง
- เดินทางด้วยรถ 8.00 /10 – จากโครงการเดินทางไปถนนสุขุมวิท และถนนเพชรบุรีได้ง่าย มีจุดขึ้นทางด่วนอยู่ใกล้ๆ
- ไม่ใช้รถ 7.5/10 – เรียกวินมอเตอร์ไซต์ไปขึ้น BTS ได้
- วัสดุ 7.5/10 – Fully Fitted ในช่วงปกติ แต่ให้เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ในช่วงโปรโมชั่น
- แบบ 8.5/10 – ห้องพักหน้ากว้าง แสงธรรมชาติเข้าถึงทุกฟังก์ชัน มี Walk-in Closet ในห้อง Master Bedroom
- สาธารณูปโภค 6.5/10 – ไม่มีส่วนกลางให้ใช้งาน แต่มีที่จอดรถ 94 %
- MAIN CLASS
- 7.58 / 10.00
PYNN Pridi 20 (พินน์ ปรีดี 20) เหมาะกับใคร
โครงการ PYNN Pridi 20 (พินน์ ปรีดี 20) เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดในย่านพระโขนง เดินทางไปเอกมัย-ทองหล่อ และเข้าไปในเมืองได้สะดวก ตอบโจทย์คนเดินทางด้วยรถส่วนตัวเป็นหลัก มีรถไฟฟ้าเป็นตัวเลือกในการเดินทางในระยะไม่ไกลมากนัก เหมาะกับคนที่เน้นอยู่อาศัย ไม่เน้นส่วนกลาง ได้ความเป็นส่วนตัวสูง โครงการเน้นห้องขนาดใหญ่ ตอนนี้มีแต่ห้อง 2 Bedroom จึงเหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิก 2-3 คน ที่สำคัญคือหากใครวางแผนจะเลี้ยงสัตว์ แนะนำให้มาดูโครงการนี้นะคะ มีงบประมาณเริ่มต้น 6.39 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 44,800 บาท/เดือน
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่