รีวิวฉบับที่ 1670 …  ถ้านึกถึงย่านสุขสวัสดิ์-พระประแดง คนส่วนใหญ่มักหา “ที่อยู่อาศัย” เป็นลักษณะแนวราบกันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในส่วนของตลาดคอนโดโซนนี้เรียกว่ายังไม่มีใครมาทำสักเท่าไร Polis Condo สุขสวัสดิ์ 64 เป็นโปรดักส์ที่คั่นผู้ที่มีกำลังซื้อน้อยกว่าทาวน์โฮมหน่อย มารองรับคนหาบ้านในราคาประหยัดในราคาล้านต้นๆ แต่ว่าตัวโครงการนั้นจัดเต็มกับ Facilities ให้ใช้ครบครัน อีกทั้งยังให้เฟอร์ในห้องค่อนข้างเกือบครบ

Fact @ 30 August 2018

  • Polis Condo Suksawat 64 (โพลิส คอนโด สุขสวัสดิ์ 64)
  • บริษัท ดับบลิวแอนด์ดับบลิว พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
  • SUPER ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ทุ่งครุ
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร รวมจำนวน 459 ยูนิต 
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด n/a ยูนิตที่อาคาร n/a
  • ที่จอดรถประมาณ 161 คันคิดเป็น 35% (ถ้ารวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 41%)
  • ที่ดินประมาณ 5-0-80 ไร่
  • โครงการเปิดขาย : 22 กันยายน 2561
  • เริ่มก่อสร้าง : พ.ย. 61
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ปลายปี 2562
  • ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม.
  • ห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.5 ตร.ม.
  • ห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 45 ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.19 ล้านบาท / Fully Fitted (พร้อมเฟอร์บิวท์อิน) ราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท ( Update ราคา ณ วันที่ 28 ต.ค. 62)
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ AVG 42,500  บาท/ตร.ม. 51,000 ต่อตารางเมตร ( Update ราคา ณ วันที่ 28 ต.ค. 62)
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • โทร  : 064-990-8800
  • line ID : wandwproperty

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

  • พิกัด ที่ดินโครงการ : 13.64947, 100.51383
  • พิกัด Sale Gallery : 13.64902, 100.52258

แผนที่จากทางโครงการครับ Polis Condo สุขสวัสดิ์ 64 ตั้งอยู่ติดถนนซอยสุขสวัสดิ์ 64 และซอยประชาอุทิศ ห่างจากถนนสุขสวัสดิ์เส้นหลักประมาณ 850-920 เมตร ซึ่งซอยภายในดังกล่าว ถือเป็นทางลัดที่เชื่อมต่อถนนสุขสวัสดิ์เส้นหลักและถนนประชาอุทิศได้หลายเส้นทาง ด้านหน้าถนนหลักจะมีห้างบิ๊กซีพระประแดงอยู่ และอนาคตที่ถนนหลักนี้จะมีส่วนระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าสายสีม่วง(ใต้) ในอนาคตอยู่ในแผน

โครงการนี้แม้จะไม่ได้ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่แต่ก็มีระยะห่างจากถนน สุขสวัสดิ์ แค่ 900 เมตร ถ้าขับรถก็แค่ประมาณ 2 นาทีก็ออกถนนหลักอย่างสุขสวัสดิ์ได้ และในซอยด้านในนี้ถือเป็นทางที่ลัดเชื่อมต่อไปยังถนนประชาอุทิศ มีลักษณะการเชื่อมต่อเป็นใยแมงงมุมได้แก่ซอยประชาอุทิศ 27, 33, 59, 61, 69 และซ.สุขสวัสดิ์ 64, 66, 70 ซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับคนใช้รถส่วนตัว เพราะมีทางเลือกให้ใช้หลากหลาย

สำหรับการเดินทางโดยใช้รถขยับออกมาด้านนอกหน่อย โดยรวมแล้วถือว่าทำได้สะดวกเพราะอยู่ใกล้กับทางเชื่อมสำคัญๆหลายจุด จุดแรกคือใกล้สะพานภูมิพลที่สามารถวิ่งไปลงพระราม 3 และโซนสำโรงได้เร็วมากแถมไม่ต้องเสียค่าทางด่วนอะไรด้วย จุดที่สองคือทางด่วนเฉลิมมหานคร จากโครงการไปด่านสุขสวัสดิ์ถือว่าไม่ไกลมากและไม่ต้องรถติดเหมือนคนที่อยู่เส้นพระราม 2 ด้วย จุดที่สามคือทางด่วนกาญจนาภิเษกถ้าใครที่ทำการค้าขายที่ต้องเดินทางไปสำโรง บางนา บางพลี เทพารักษ์ ก็เดินทางได้สะดวกเลย

สำหรับความอุดมสมบูรณ์รอบๆ โครงการถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์ดีในระยะที่ขับรถ ใกล้สุดจะเป็น Big C พระประแดงที่ติดถนนใหญ่อย่างสุขสวัสดิ์ ห้างนี้ถือเป็นห้างหลักของคนย่านนี้เลยหล่ะ(แถมมีโรงหนังในตัวด้วย) ถ้าจะหาของกินแบบร้านอาหารทั่วๆไป ก็วิ่งเข้าประชาอุทิศได้เลย มีมากมายหลายร้านยิ่งไปแถวๆ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี นี่ยิ่งเยอะใหญ่เลย และมีตัวเลือกอย่าง Lotus Market กับ MaValu อยู่เส้นนี้ด้วยครับ สำหรับการไปห้างใหญ่ๆ จะมีอยู่ 3 ตัวเลือกที่มีระยะเดินทางเท่าๆ กันคือ เซ็นทรัลพระราม 3 เซ็นทรัลพระราม 2 และ The Mall ท่าพระ

สำหรับคนที่รักพื้นที่สีเขียวนะครับ โครงการนี้ถือว่ามีตัวเลือกอยู่ 2 จุดก็คือ จุดแรกเป็นสวนสุขภาพลัดโพธิ์ที่ตรงถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ขับรถไปราวๆ 5.4 กิโลเมตร หรือ 10-15 นาทีประมาณนี้ครับ / จุดเด่นอีกอย่างนึงของโครงการนี้คือการได้อยู่ใกล้กับพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯอย่าง บางกระเจ้า ระยะทางประมาณ 10 กิโล ซึ่งด้านในจะมีตลาดบางน้ำผึ้ง หรือเราสามารถไปขี่จักรยานออกกำลังกายได้สูดอากาศบริสุทธิ์ใจกลางพื้นที่ปอดสีเขียวขนาดใหญ่ครับ

สำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้รถนั้น ถนนสุขสวัสดิ์เป็นเส้นที่มีการวางแผนว่าจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ เตาปูนราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ซึ่งพึ่งได้รับการอนุมัติจาก ครม. และมีแผนจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณปี 2566 – 2567 ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 6 ปี โดยสถานีที่ใกล้โครงการมากที่สุดคือ สถานีพระประแดง(คาดว่าน่าจะอยู่บริเวณหน้าบิ๊กซี) และก็มีสถานีครุใน(ซึ่งตั้งอยู่ประมาณปากซอยสุขสวัสดิ์ 70 ครับ) ซึ่งระยะห่างจากโครงการยังไม่แน่ชัดคาดว่าประมาณ 1.5 – 2 กิโลเมตร

สำหรับการเดินทางในวันนี้ ผมมาจากทางด่วนเฉลิมมหานคร โดยมาลงที่ป้ายสุขสวัสดิ์ แล้ววิ่งมาทางบิ๊กซีพระประแดงครับ หลังจากเลยบิ๊กซีมาได้ประมาณ 540 เมตร ก็จะมีจุดกลับรถ ซึ่งถ้าเรากลับรถมาแล้วจะเจอกับ Sale Office Gallery เลยอยู่ทางซ้ายมือติดถนนใหญ่สุขสวัสดิ์ / ส่วนตัวที่ตั้งโครงการให้เลยไปนิดนึง ปากซอย 64 จะมี 7-Eleven อยู่ทางซ้ายมือครับ เราเลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย ประมาณ 920 เมตรก็ถึงที่ตั้งโครงการแล้วครับ (ซึ่งจะเห็นว่าโครงการติดถนน 2 ฝั่ง) แต่ฝั่งที่ติดซ.สุขสวัสดิ์ 64 จะเป็นส่วนของประตูทางเดินเข้าออกเท่านั้นครับ

ตัว Sale Office Gallery จะตั้งอยู่ริมถนนหลักสุขสวัสดิ์ หลังจากกลับรถมาแล้วทางซ้ายมือ จะเห็นเด่นชัดพอสมควร มีที่จอดรถรองรับ เดี๋ยวค่อยกลับมาดูด้านในกันอีกทีในพาร์ทรายละเอียดโครงการนะครับ เราไปดูตำแหน่งไซท์ที่ดินโครงการกันก่อน

หลังจากเลยสำนักงานขายมาได้นิดเดียวให้อยู่ชิดซ้ายไว้นี่แหละ ประมาณ 80 เมตร เราก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขสวัสดิ์ 64 ตรงนี้ (มองไปไกลๆเห็นบิ๊กซีที่ผมผ่านมมาอยู่เยื้องฝั่งตรงข้าม)

สภาพแวดล้อมในซอยสุขสวัสดิ์ 64 โดยหลักๆจะเป็นชุมชนพักอาศัยทั่วไป เราจะเห็นทั้งตึกแถวที่อยู่ริมถนน มีมินิมาร์ท หมู่บ้าน โรงเรียน โกดัง ฯลฯ ลักษณะชุมชนทั่วไปที่มีความหนาแน่นปานกลาง แต่ก็ยังพอมีที่ดินเปล่าเหลือให้พัฒนาอยู่ได้อีกบ้างครับ

โดยหลังจากที่เราตรงมาจากปากซอยประมาณ 750 เมตร ก็จะเจอสามแยกครับ โดยถ้าเราตรงต่อไปจะเป็นซ.สุขสวัสดิ์ 64 เหมือนเดิมไปเชื่อมกับซอยสุขสวัสดิ์ 69 สามารถไปโผล่ถนนประชาอุทิศได้ แต่ตรงนี้ให้เราเลี้ยวขวาครับ

พอเลี้ยวขวามาจะเปลี่ยนเป็นซอยประชาอุทิศ ซึ่งลักษณะพื้นที่ก็จะไม่ต่างกับต้นซอยที่ผ่านมาเท่าไร ยังเป็นชุมชนอยู่และตัวถนนก็ยังลาดยางอยู่ด้วย

หลักจากตรงมาได้ 200 เมตร เราก็จะเห็นพื้นที่ขอบเขตที่ดินทางเข้าออกอยู่ทางซ้ายมือแล้วครับ

ซึ่งฝั่งตรงข้ามกับที่ดินและทางเข้าออกโครงการ Polis Condo นี้จะเป็นส่วนของแนวอาคารพาณิชย์ประมาณ 30 กว่าห้อง ซึ่งการมีตึกเหล่านี้ที่เป็นลักษณะร้านค้า ออฟฟิศ ร้านอาหาร ซักรีด มาเปิด ช่วยให้พื้นที่ทางเข้าโครงการด้านหน้ามีความไม่เปลี่ยว และบางร้านเรายังสามารถเดินออกมาใช้งานได้ด้วย

พื้นที่ดินติดกันถัดไปหน่อยจะเป็นส่วนของพวก พวกพักอาศัยกับบ้านชั้นเดียว และถัดไปเยื้องไปฝั่งตรงข้ามก็เป็นหมู่บ้านสุขนิเวศน์ 6 ที่มีคนอยู่อาศัยไม่น้อย เรียกว่ามีเพื่อนบ้านอยู่ระดับนึง ไม่ได้รู้สึกเปลี่ยวอะไร

ผมลองทดสอบยืนอยู่ที่ริมถนนบริเวณนี้ประมาณ 15 นาที เราจะเห็นรถสาธารณะส่วนต่างๆที่วิ่งผ่าน ซึ่งมีทั้ง Taxi (ราวๆ 2-3 นาทีผ่านมาคันนึง) และรถกระป๊อเขียวกับแดง ที่รูทการวิ่งจะเหมือนกัน คือ เริ่มมาจาก บิ๊กซี -> เข้าซ.สุขสวัสดิ์ 64 -> ผ่านหน้าโครงการ -> ไปสุดที่ตลาดทุ่งครุ(หรือปากซอยประชาอุทิศ 61) และถือว่าผ่านมาบ่อยเหมือนกันนะครับ พึ่งพาได้มากกว่า Taxi และราคาประหยัดกว่า

ซึ่งตัวเลือกอีกอย่างนึงก็คือ ถ้าเราเดินเลยหมู่บ้านสุขนิเวศน์ 6 มาจากทางโครงการประมาณ 120 เมตร ก็จะเจอซุ้มพี่วินมอเตอร์ไซค์ที่สามแยกตรงนี้ด้วยครับ

ที่นี้จากในแผนที่ตอนแรกที่ผมแปะไว้ตอนแรก จะเห็นว่าส่วนของที่ดินโครงการ นอกจากทางเข้าออกตรงซอยประชาอุทิศที่ผมพาไปดูเมื่อสักครู่แล้ว ยังมีส่วนที่ติดกับซอยสุขสวัสดิ์ 64 อยู่ด้วย ซึ่งทางโครงการจะเปิดทางเข้าออกตรงนี้เฉพาะทางเดินเท้าเท่านั้น ซึ่งฝั่งนี้ก็มีรถกระป๊อวิ่งผ่านเช่นเดียวกัน แต่รอบการรอของการวิ่งผ่านจะรอนานกว่าฝั่งทางรถ(ซอยประชาอุทิศหน่อย) และก็รูทในการวิ่งต่างกัน จะเป็นดังนี้  เริ่มมาจาก บิ๊กซี -> เข้าซ.สุขสวัสดิ์ 64 -> ผ่านหน้าโครงการ(ฝั่งนี้) -> ไปสุดที่คู่สร้าง / (โดยพวกรถกระป๊อทั้งหมดในซอยเหล่านี้จะวิ่งถึงประมาณ 4 ทุ่ม ครับ)

**ในซอยสุขสวัสดิ์ 64 นี้เตรียมจะมีแผนเวนคือที่ดินในซอยบางส่วนเพื่อจะขยายทางเดินรถด้วยนะครับ (ดูรูปถัดไป)

นี่เป็นข้อมูลของแนวพื้นที่ขยายเขตทางสาธารณะของซอยสุขสวัสดิ์ 64 ไปเชื่อมกับซอยประชาอุทิศ 69 โดยแผนประกาศจะขยายเปลี่ยนเป็น ขนาดเขตทาง 12 เมตร ซึ่งถ้าเริ่มทำเมื่อไร ตัวถนนก็จะสามารถเปลี่ยนเป็น 4 เลนครับ แต่ตอนนี้ถามมายังเวนคืนได้ไม่ครบนะครับ

ส่วนของที่ดินภายในโครงการ ปัจจุบันก็มีการถมที่ปรับหน้าดินอะไรเรียบร้อยแล้ว อยู่ในระหว่างการดำเนินการของ EIA อยู่ครับผม

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ อย่างที่กล่าวตอนต้น ส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนลักษณะอยู่อาศัย ซึ่งมีทั้งอาคารพาณิชย์ บ้านเดี่ยว ร้านค้า หมู่บ้านแนวราบ โกดัง ถือเป็นชุมชนอยู่อาศัยที่มีความหนาแน่นปานกลาง ไม่เปลี่ยวจนเดินไป แต่ที่ดินรอบๆโครงการฝั่งด้านใน ยังเป็นที่ดินเปล่าขนาดใหญ่ที่ยังไม่ได้พัฒนาอยู่ครับ ทำคนเลือกฝั่งอาคาร A ด้านใน จะเห็นพื้นที่โล่งๆหน่อย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • รถไฟฟ้าสายสีม่วง(ใต้)สถานีพระประแดง, ครุใน 1.5 – 2 กม.
  • Big C สุขสวัสดิ์ 1.5 กม.
  • Max Valu ประชาอุทิศ 2.6 กม.
  • Tesco Lotus ประชาอุทิศ 2.6 กม.
  • ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 3.7 กม.
  • โรงเรียนวิสุทธิกษัตรี 3.8 กม.
  • ทางด่วนเฉลิมมหานคร 4.5 กม.
  • วงแหวนอุตสาหกรรม/สะพานภูมิพล 4.8 กม.
  • สวนสุขภาพลัดโพธิ์ 4.8 กม.
  • โรงเรียนเซนต์ แมรี่ 6.6 กม.
  • โรงเรียนรุ่งอรุณ 7.6 กม.
  • โรงเรียนสารสาสน์วิเทศศึกษา 7.6 กม.
  • Tesco Lotus บางประกอก 7.3 กม.
  • เซ็นทรัล พระราม 3 8.9 กม.
  • โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี 9.6 กม.
  • เซ็นทรัล พระราม 2 13.8 กม.


เจาะลึกตัวโครงการ

มาดูในส่วนโครงการกัน ขอย้ายกลับมาที่ Sale Office Gallery ที่เราผ่านมาตอนแรก ด้านในจัดเป็นพื้นที่รับรองดูสูงโปร่งโล่งสบายตา มีโมเดลโครงการ และห้องตัวอย่างอยู่ 2 ห้อง 2 แบบ

Polis สุขสวัสดิ์ 64 เป็นโครงการคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวนยูนิตพักอาศัย 459 ยูนิต + ยูนิตร้านค้า 2 ยูนิต บนที่พื้นที่ประมาณ 5 ไร่กว่า

การออกแบบตัว Facade ของโครงการได้รับแรงบรรดาลใจจากรวงผึ้ง ซึ่งเวลามองมาจะดูไปเรียบแบน แต่ว่าเห็นเป็นกล่องๆยื่นออกมานิดนึง และยังดีไซน์ให้ดูโมเดิร์นอยู่ โดยสีที่ทาตัวอาคารก็มีส่วนช่วย เพราะเป็นลักษณะของทูโทน ครีมและเทาอ่อนครับ

ที่อาคาร A ด้านหน้าโครงการจะมียูนิตร้านค้า 2 ยูนิต(ยังไม่ได้คอนเฟิร์มร้านโดยด้านข้างจะเป็นส่วนของประตูทางเข้าหลักเป็นรปภรั้วไม้กั้นกระดกระบบ Key Card Access ระยะใกล้  จากมุมนี้จะเห็นด้วยว่า ตำแหน่งที่วางอาคารของทั้งคู่จะไม่ได้ทับซ้อนและบังวิวกันเองด้วยนะครับ และยังมีช่องพื้นที่ตรงกลางให้ลมสามารถวิ่งผ่านได้

อ้อมมาที่มุมฝั่งด้านหลังให้ดูกันซึ่งสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการฝั่งทิศตะวันตก(ด้านหลังนี้) ส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินเปล่ายังไม่ได้พัฒนาเป็นโครงการอะไร ทำให้ได้พื้นที่เปิดโล่งสงบไม่วุ่นวาย ตัวอาคารจะแบ่งออกเป็น 2 อาคารคือ อาคาร A ตั้งอยู่ทางฝั่งทิศเหนือ รูปทรง L – Shape / อาคาร B จะอยู่ฝั่งทิศใต้ รูปทรงอาคาร I – Shape

ซึ่งการเดินรถที่นี่ตรงถนนเส้นตรงกลางจะเป็นแบบทูเวย์นะครับ(ซึ่งเส้นนี้จะกว้างขนาดรองรับรถดับเพลิงเข้ามาด้านในโครงการได้ด้วยแต่การใช้ไปที่ทางอาคารใดอาคารหนึ่งจะกลายเป็นวัยเวย์ลอดใต้อาคารเอา ที่นี่ชั้น ทั้งหมดจะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งใต้อาคารและกลางแจ้ง

อาคาร Clubhouse มีรูปทรงและ Facade ที่ดูโดดเด่นและแปลกตานะครับ โดยเริ่มจากด้านในจะประกอบไปด้วย Grand Lobby, ห้อง Co-Sharing Space ที่สามารถมานั่งทำงาน ประชุมคุยงานได้ ใกล้ๆสระเป็น Pool Deck Zone มานอนเล่นเวลากลางวันได้ ไม่โดนแดดตรงๆ

ที่ชั้น 2 เป็นส่วนของพื้นที่ออกกำลังกายทั้งหมด โดยจะแยกเป็น 2 โซนคือโซนคาร์ดิโอ เวทเทรนนิ่ง และอีกโซนคือ เป็นห้อง Studio ที่สามารถเล่นโยคะ หรือต่อยม่วยได้

ส่วนของสระว่ายน้ำที่เป็นโซน Outdoor จะแยกการใช้งานออกเป็น 3 ส่วนทั้งหมด ได้แก่ สระว่ายน้ำ, แยกสระเด็ก และมุม Jacuzzi ขนาดรวมทั้งหมดโดยประมาณ ขนาด 4 x 25 เมตร

ทางเดินรถไปยังพื้นที่อาคาร B ก็ต้องเป็นวัยเวย์ลอดใต้อาคารเช่นเดียวกันนะ แต่ว่าเส้นเมนตรงกลางเป็นแบบทูเวย์ที่เดินรถมาจอดยังพื้นที่จอดกลางแจ้งได้ จะเห็นว่ามีพื้นที่เปิดโล่งค่อนข้างเยอะ และเน้นลงต้นไม้ไว้ขนานกับแนวรั้วกำแพงเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว

ที่ด้านข้างของอาคาร B จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางแบบ Outdoor กลางแจ้งทั้งหมด โดยจะประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำรูปทรง Free Form ข้างสระมี Pool Deck และจุดล้างตัวมาให้ ส่วนพื้นที่สวนข้างๆจะทำสนามเด็กเล่นมาให้

ในส่วนของพื้นที่ห้องพักอาศัยชั้น 1 ในอาคาร B จะมีห้องตำแหน่งพิเศษที่เรียกว่าเป็น Room Pool Access อยู่ด้วยแบบนี้ครับ สามารถออกมาจากระเบียงและใช้งานสระได้เลย โดยรูปแบบของสระจะเป็นรูปทรง Freeform แบบอิสระ ที่จะเห็นว่ามีการแบ่งระดับพื้นให้เป็นชั้น Layer สระนี้จะเหมาะกับมาแช่น้ำผ่อนคลายมากกว่านะครับ โดยขนาดรวมๆทั้งหมดจะประมาณ กว้าง 3.2 ถึง 5.5 เมตร และมีความยาว 34 เมตร

ที่ด้านข้างสระอาคาร B นั้นก็จะมี Jogging Track ขนานอยู่ติดกับกำแพงรั้วโครงการอยู่ด้วยนะ ตั้งแต่ทางเข้าส่วนกลางไปจนถึง Pocket Garden ด้านหลัง ซึ่งในโซนของ Pocket Garden มาให้ดู ตรงนี้จะจัดเป็นพื้นหินกรวด เวลาเดินจะได้เหมือนนวดเท้าไปในตัว และก็มีการเลือกต้นไม้ในบริเวณนี้เป็นพันธุ์ไม้หอมครับ

ภาพจำลองบรรยากาศ Perspective บริเวณภายนอกโครงการ แสดงให้เห็นถึงรูปด้านหน้าอาคารภาพรวมท ดีไซน์ Facade และ Mood & Tone

ภาพจำลองบรรยากาศ Perspective บริเวณภายในโครงการ พื้นที่อาคาร Clubhouse ที่มีการออกแบบที่ดูโดดเด้น เน้นสีขาว มีการใช้ Facade เจาะเหมือนรวงผึ้งมาปิดที่ผิวอาคารให้เข้ากับคอนเซปท์

ภาพจำลองบรรยากาศ Perspective บริเวณภายในโครงการ พื้นที่อาคาร Clubhouse  ที่ประกอบไปด้วย Grand Lobby, ห้อง Co-Sharing Space ที่สามารถมานั่งทำงาน ประชุมคุยงานได้ ที่ชั้น 2 เป็นส่วนของพื้นที่ออกกำลังกายทั้งหมด โดยจะแยกเป็น 2 โซนคือโซนคาร์ดิโอ เวทเทรนนิ่ง และอีกโซนคือ เป็นห้อง Studio ที่สามารถเล่นโยคะ หรือต่อยม่วยได้

ภาพจำลองบรรยากาศ Perspective บริเวณภายในโครงการ พื้นที่ส่วนกลางด้านข้างอาคาร B อย่าง สระว่ายน้ำรูปทรง Free Form ข้างสระมี Pool Deck และจุดล้างตัวมาให้ ส่วนพื้นที่สวนข้างๆจะทำสนามเด็กเล่น และพื้นที่วิ่งออกกำลังกาย Jogging Track

Master Plan โครงการ จะเห็นว่าที่ดินโครงการจะติดถนนซอย 2 ฝั่ง คือฝั่งซอยประชาอุทิศ(ฝั่งรถวิ่งเข้าออก) และซอยสุขสวัสดิ์ 64(ฝั่งเฉพาะทางเดินเท้า) และฝั่งนี้มีการถอยร่นของถนนเพื่อทั้งระยะเวนคือขยายทางในอนาคตหรือเวลารถมาเซอร์วิสต่างๆ

ที่อาคาร A ด้านหน้าโครงการจะมียูนิตร้านค้า 2 ยูนิต(ยังไม่ได้คอนเฟิร์มร้าน) โดยด้านข้างจะเป็นส่วนของประตูทางเข้าหลักเป็นรปภ. รั้วไม้กั้นกระดกระบบ Key Card Access ระยะใกล้ ตัวอาคารจะแบ่งออกเป็น 2 อาคารคือ อาคาร A ตั้งอยู่ทางฝั่งทิศเหนือ รูปทรง L – Shape / อาคาร B จะอยู่ฝั่งทิศใต้ รูปทรงอาคาร I – Shape

ซึ่งการเดินรถที่นี่ตรงถนนเส้นตรงกลางจะเป็นแบบทูเวย์นะครับ(ซึ่งเส้นนี้จะกว้างขนาดรองรับรถดับเพลิงเข้ามาด้านในโครงการได้ด้วย) แต่การใช้ไปที่ทางอาคารใดอาคารหนึ่งจะกลายเป็นวัยเวย์ลอดใต้อาคารเอา ที่นี่ชั้น 1 ทั้งหมดจะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งใต้อาคารและกลางแจ้ง

และพื้นที่เปิดโล่งด้านนอกนี่ยังมีส่วนของ Facilities อีกทั้งสองส่วนได้แต่โซนแรกคือ พื้นที่อาคาร Clubhose และอีกโซนทางอาคาร B จะมีส่วนของสระแช่น้ำขนาดใหญ่ทรง Freeform สวนเด็กเล่น ทางวิ่งออกกำลังกาย

ในส่วนของผังชั้นภายในอาคาร เริ่มจากชั้น 1 กันก่อน ที่นี่มีการแยกล็อบบี้ทั้งสองอาคารเลยนะครับ ซึ่งส่วนของล็อบบี้นี้ จะไม่ได้ต้องใช้คีย์การ์ดในการเข้าออก เผื่อว่าเพื่อน ญาติครอบครัวของลูกบ้านมาหาจะได้มีพื้นที่รองรับเลยไม่ต้องยืน แต่ว่าข้างๆล็อบบี้จะมีพื้นที่โถงลิฟต์อยู่ซึ่งส่วนนี้ก็จะต้องใช้คีย์การ์ด เป็น Access เพื่อความปลอดภัยนั่นเอง ที่ชั้น 1 อาคาร A จะยังไม่มีห้องพักอาศัยนะ แต่ว่าอาคาร B จะมีห้องพักครับ ซึ่งห้องพักเหล่านี้เป็นตำแหน่งพิเศษที่สามารถ Access ทางออกไปยังสระว่ายน้ำ หรือสวนหย่อมด้านนอกได้เลย

ที่ชั้น 2-8 เป็น Typical Floor Plan หรือว่าส่วนพักอาศัยเต็มจำนวนทั้งหมด โดยเราจะเห็นได้ชัดเลยว่าโครงการเน้นน้ำหนักไปทางห้อง 1 bed 28 ตร..(สีเขียว) เป็นส่วนใหญ่ และรองมาคือ 1 Bed Plus 34.50 ตร..(สีฟ้า) และ 2 Bed 45 ตร..(สีเหลือง)จะเป็นส่วนน้อยมากที่อยู่ตามมุมอาคารเท่านั้น

การจัดตำแหน่งของลิฟต์ที่อาคาร A ไว้อยู่ที่มุม Shape ตัว L ทำให้ต้องมีห้องพักที่อยู่ปีกอาคารอีกฝั่งต้องเดินไกลอยู่บ้าง แต่ว่าส่วนอาคาร B วาง Core Lift ไว้ตรงกึ่งกลางเลย ก็จะโอเคหน่อยครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby แยกแต่ละอาคาร
  • ห้องสมุด /Social & Sharing Space with Private Conference
  • สระว่ายน้ำระบบเกลือ 2 สระ Panoramic Swimming Pool และ Active and Healthy Swimming Pool
  • ห้องออกกำลังกาย (พร้อมห้องชกมวยและโยคะ) (Full Body Fitness/Boxing Zone/Yoga Square)
  • สวนหย่อมรอบโครงการ (พร้อมลาน Jogging , สนามเด็กเล่น , มุมพักผ่อน) 
  • Healthy & Relax Garden
  • Grand Lobby and Theatre Bay (Club House)
  • Jogging Track
  • Youth Fun and Healthy Playground
  • Private Mail Box
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 114 :  1
  • Service Lift : ไม่มี
  • ที่จอดรถประมาณ 161 คันคิดเป็น 35% (ถ้ารวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 41%)
  • ระบบ CCTV / Access Card

 


Product Walkthrough

ห้องในโครงการนี้จะเป็นแบบขนาดไซส์กลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่ โดยเป็นแบบ 1-2 ห้องนอน เหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คนครับ เหมาะสำหรับคนพึ่งเริ่มต้นกับการหาที่อยู่อาศัยที่แรก ในราคาหยิบจับต้องง่าย ช่วงราคาเริ่มต้นประมาณ 1.19 ลบ. โดยมีแบบดังนี้

  • ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม.
  • ห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.5 ตร.ม.
  • ห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 45 ตร.ม.

โดยรูปแบบการขายโครงการนี้ คือ Fully Fitted (ที่จะได้ชุดเฟอร์บิวท์อินแบบในห้องตัวอย่าง) มีเตียงให้ด้วย และแอร์ 1 ตัวครับ เราไปดูกัน

ห้องตัวอย่างแรก คือ 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. เป็นห้องทรงจตุรัส ที่ฟังก์ชั่นภายในเข้ามาเป็นส่วน Common Area หรือโถงที่จับรวมพื้นที่นั่งเล่น กับรับประทานอาหาร(หรือทำงานอยู่ได้ร่วมกัน) ถึงพื้นที่นั่งเล่นนี้อยู่ชิดด้านในแต่ได้ประตูบานกระจกจากห้องนอนทำให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาได้ ส่วนของห้องนอนเอาเตียงไปชิดผนังหน้าต่างทำให้ได้ระยะทางเดินที่ดีในฝั่งที่เหลือ มีตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งที่ปลายเตียง

ส่วนฝั่งทางขวามือจะเป็นพื้นที่ห้องน้ำ(แยกโซนแห้งและเปียกมาให้) และได้พื้นที่ครัวปิดทำอาหารหนักได้เต็มที่คอมโบกับส่วนระเบียงติดกันด้านนอก ที่จะช่วยระบายกลิ่นเวลาทำอาหารได้ แต่ระเบียงก็จะเล็กๆหน่อยเพราะต้องวางเครื่องซักผ้าที่ด้านนอกนี้ครับ

เข้ามาเป็นส่วน Common Area หรือโถงที่จับรวมพื้นที่นั่งเล่น กับรับประทานอาหาร(หรือเป็นโต๊ะทำงานอยู่เป็น 2in1) ถึงพื้นที่นั่งเล่นนี้อยู่ชิดด้านในแต่ได้ประตูบานกระจกจากห้องนอนทำให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาได้ ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานคือ 2.40 เมตร

ตัวพื้นภายในห้องทั้งส่วนนั่งเล่นและห้องนอน โครงการให้เป็น SPC หรือชื่อเต็มว่า Stone Plastic Composite (เป็นพวกกลุ่มของไวนิลซึ่งมีคุณสมบัติสามารถกันน้ำได้ มีพื้นผิวสัมผัส (Texture) ที่เหมือนพื้นไม้จริงไม่ลื่น และไม่เป็นที่ลุกลามของไฟ ทำมาจากวัสดุที่แข็งแรงเป็นพิเศษ ทั้งยังมีวิธีการติดตั้งที่ง่ายและสะดวก เนื่องจากเป็นแบบคลิ๊กล็อค ไม่จำเป็นต้องติดตั้งในพื้นที่ที่เรียบมาก

หันไปมองทางขวาจะเป็นส่วนของพื้นที่ตู้เก็บรองเท้าและชั้นลอยแขวนผนัง เป็นชุดตู้เก็บของหรือวางทีวีก็ได้ครับ โดยอย่างที่บอกโครงการนี้จะขายแบบ Fully Fitted ถ้าเราเห็นจุดไหนเป็นบิวท์อินนับว่าได้หมดครับ

ลองเปิดชุดตู้เก็บรองเท้าให้ดูครับ เป็นตำแหน่งในการใช้งานที่ดี เพราะอยู่ติดกับประตูทางเข้า กลับเข้ามาในบ้านหรือออกจากบ้านก็ไช้ง่าย และก็มีการแบ่งชั้นค่อนข้างเยอะสูงไปจนถึงเพดานเลย

ตัวชั้นแขวนติดผนัง นี่สามารถเก็บของในช่อง หรือถ้าอยากได้พื้นที่วางของเพิ่ม แนะนำก็เอาทีวีแขวนผนังนะครับ เราจะได้พื้นที่เพิ่มครับ

ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่ของส่วนของโซฟานั่งเล่น พวกชุดเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวพวกนี้ ไม่ได้นะครับ แต่ว่าโครงการแต่งมาให้ดู เผื่อใครสนใจจะเป็นไอเดียได้ ตำแหน่งโต๊ะข้างๆโซฟา สามารถวางโต๊ะจตุรัสได้ 1 ตัว ซึ่งถ้าเรานั่งก็คงได้คนเดียวเท่านั้น หรืออีกชอยส์ถ้าอยากนั่งกินข้าวพร้อมกันสองคนก็คงต้องมาทานตรงโต๊ะกลางนี่แหละ

ถึงพื้นที่นั่งเล่นนี้อยู่ชิดด้านในแต่ได้การได้ประตูบานกระจกบานเลื่อนที่กั้นจากห้องนอนทำให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาได้

วัสดุกรอบบานประตูบานเลื่อน จะเป็นอลูมิเนียมทำสีเทาแบบด้าน และก็มีซีลขอบยางเอาไว้เก็บเสียงเก็บฝุ่น

ตัวพื้นในห้องนอนยังเป็น SPC เหมือนเดิมกับห้องนั่งเล่นนะ แต่จะมีส่วนของรางเลื่อนประตูที่พื้นมาคั่น ตัวประตูจะเป็นแบบบานเลื่อน 2 ตอนซึ่งก็มีพื้นที่ความกว้างเพียงพอในการเข้าออกเดินสะดวก

ในส่วนของห้องนอน โครงการจะมีตัวฐานเตียงมาให้เลย เป็นไซส์แบบ Queen Size โดยตำแหน่งของเตียงจะถูกเอาไปชิดไว้หน้าต่างช่องแสง ซึ่งจะทำให้เหลือพื้นที่ทางเดินปลายเตียง กับด้านข้างเตียงฝั่งซ้าย เดินไปมาได้สะดวก

ให้ดูพื้นที่ทางเดินข้างเตียงฝั่งซ้ายครับ โดยจะเหลือความกว้างประมาณ 60 ซม. และก็มีโต๊ะข้างหัวเตียงอยู่ด้วย

หันมาดูที่ฝั่งปลายเตียง จะเป็นส่วนของชุดเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินที่โครงการเตรียมมาให้ เข้าพื้นที่กับผนังอย่าง ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเครื่องแป้ง (ชั้นลอยแขวนผนังเหนือโต๊ะเครื่องแป้งไม่ได้นะ)

ให้ดูฟังก์ชัน ขนาดและระยะต่างๆของเฟอร์นิเจอร์ครับ ดูเข้ามุมดี และก็โครงการจะให้แอร์มาตัวเดียวเท่านั้น ซึ่งจะติดตั้งไว้ในส่วนของห้องนอน ตำแหน่งก็ตรงนี้เลยครับ

ในส่วนของช่องแสงธรรมชาติ จะได้เป็นหน้าต่าง(ด้านล่าง)เป็นแบบฟิค และ(ด้านบน)เป็นแบบบานเลื่อน 2 ตอน สามารถเลื่อนซ้ายขวาได้อิสระ โดยตัวกระจกจะเป็นสีเขียวตัดแสง ได้ขนาดถือว่าค่อนข้างใหญ่ เพื่อทำหน้าที่ให้แสงส่องผ่านไปยังพื้นที่นั่งเล่นได้ด้วย

กลับออกมาที่ห้องโถงด้านในอีกครั้ง ด้านข้างชั้นวางทีวีจะเป็นส่วนทางเข้าไปยังโซนครัวและห้องน้ำครับ โดยตัวงานของพื้นจะเปลี่ยนกลายเป็นกระบื้องไซส์ 30 ซม.แทน เพราะพื้นที่โซนนี้จะไม่ต้องกังวลเรื่องเปียก และสามารถทำความสะอาดได้ง่ายกว่า

ชุดครัว Built-Inก็เป็นสิ่งที่โครงการเตรียมมาให้เช่นเดียวกันแบบนี้เลย เพียงแต่ไม่ได้ติดตั้งชุดเตาไฟฟ้าและที่ดูควันมาให้ เราก็เลือกว่าจะติดแบบนั้น หรือเป็นเตาไฟฟ้าแบบลอยตัวก็ได้ครับ

ชุดครัวด้านบนต่างๆ แบ่งพื้นที่การใช้งานได้ดี เต็มไปจนถึงฝ้าเพดานเลยและมีทั้งแบบเปิดหน้าบานกับปิดหน้าบาน ส่วนท๊อปครัวเป็นเมลามีนลายไม้ สามารถกันน้ำได้ แต่ว่าที่ผนังด้านข้างไม่ได้ติดชุดกระเบื้องกันเปื้อนไว้ให้ ใครกะว่าทำอาหารจริงจังบ่อยๆก็ติดเพิ่มเอาเลย พวกหน้าบานต่างๆในชุดครัวจะเป็นแบบ Fitting Soft Closed หรือกันกระแทกมาให้ด้วย

ในส่วนครัวจะได้ช่องแสงจากบานประตูนี้ที่ถัดไปด้านนอกเป็นระเบียง ซึ่งเราสามารถเปิดช่วยระบายอากาศในเวลาประกอบอาหารได้ด้วย

ตัวพื้นจะกั้นด้วยธรณียกสูงพอสมควรเลย(12 ซม.) เพื่อป้องกันในส่วนงานซักล้างหรือฝนสาดเข้าครับ ในห้องตัวอย่างไม่ได้ติดตำแหน่งคอมแอร์ฯมาให้ดู แต่ถ้าจะวางเครื่องซักผ้าก็ต้องวางฝั่งขวาที่มีปลั๊กแหละครับ แถมได้ส่วนกันตกเป็นกระจกด้วยแหะ ในราคาล้านต้นๆปกติแทบจะไม่ค่อยเห็นเท่าไร

มองย้อนกลับมาผ่านครัวนะครับ ส่วนสุดท้ายจะเห็นพื้นที่ฟังก์ชันห้องน้ำนั่นเอง

ในส่วนของห้องน้ำก็ทำเป็นธรณีก่อ ยกระดับสูงขึ้นมาเพื่อแยกส่วนแห้งและส่วนเปียก เพื่อง่ายต่อการทำความสะอาดครับ ตัวพื้นยังปูด้วยกระเบื้องแบบเดียวกับส่วนครัวต่อเนื่องไป

ในห้องน้ำวางการใช้งานแบบเรียงตัวต่อเนื่องกันไปอ่างล้างมือ สุขภัณฑ์ และด้านในสุดเป็นส่วนของพื้นที่อาบน้ำแต่ว่าไม่ได้ติดตั้งฉากกั้นมาให้ ก็ไปเลือกติดเอาเองระหว่างจะใช้ฉากกั้นพลาสติกหรือมีงบหน่อยก็เลือกกระจกให้ดูสวยๆ ที่ผนังด้านข้างมีการทำเป็น Low Wall เพื่อใช้ในการวางของใช้ได้ ส่วนของวัสดุจะได้เป็นของ Hafele ด้วย

พื้นที่อาบน้ำค่อนข้างกว้างโอเคเลย(0.80 x 1.25 เมตร) โดยชุดฝักบัวจะได้เป็นของ Hafele เช่นเดียวกัน และผนังด้านข้างจะกรุเป็นกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาวดูสวยดี

ห้องตัวอย่างอีกห้องหนึ่งเป็นแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.50 ตร.ม. คือเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และ 1 ห้องเอนกประสงค์ มีขนาดพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นมาจากห้องแรก รูปทรงห้องจะเปลี่ยนเป็นทรงผืนผ้านะครับ ห้องนี้จะไม่ได้ครัวปิดเหมือนแบบที่แล้ว แต่ถ้าใครจะให้นำ้หนักกับการทำอาหารกินเองบ่อยๆก็สามารถกั้นพื้นที่เป็นครัวปิดได้ง่ายๆเลย ส่วนของห้องอเนกประสงค์เพิ่มมาอีก 1 ห้อง ซึ่งสามารถที่จะจัดเป็นห้องนอนเล็ก, ห้องทำงานหรือห้องแต่งตัว ก็แล้วแต่ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยและก็ดีตรงที่มีระเบียงในตัวด้วย แต่ส่วนของห้องนอนใหญ่เวลาจะเดินมาเข้าห้องน้ำก็เดินไกลหน่อยนะครับ

ในห้องส่วนแรกจะเป็น Living Area ควบพื้นที่กับโต๊ะรับทานอาหารเช่นเดียวกัน แบบห้องแรกนะครับ

ทางขวามือตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์เหมือนกับห้องแรกคือชุดตู้เก็บรองเท้าและชั้นวางลอยทีวีแบบ Built-In

ทางซ้ายมือเป็นพื้นที่วางโซฟาแบบ 2 ที่นั่ง จะเห็นว่าสิ่งที่เปลี่ยนไปคือ เรื่องของระยะความกว้างบริเวณโต๊ะรับประทานอาหารที่ห้องก่อนหน้าสามารถนั่งได้แบบคนเดียว แต่ห้องนี้นั่งทางจริงจัง 2 คนได้แล้ว

ตรงส่วนมุมนี้เราจะมองเห็นทางเข้าทั้งห้องนอน(ซ้ายมือ) และห้องอเนกประสงค์(ขวามือ) ซึ่งทั้งคู่ใช้ประตูกระจกบานเลื่อน ทำให้แสงธรรมชาติส่องผ่านมายังพื้นที่ด้านในอย่างห้องนั่งเล่นและห้องครัวได้

ในส่วนของห้องนอน มีการเปลี่ยนตำแหน่งของตู้เสื้อผ้ามาไว้ด้านข้างของหัวเตียงทางซ้ายมือแทน ทำให้ระยะทางเดินตรงฝั่งซ้ายค่อนข้างกว้างเป็นพิเศษ

เอ้อ ห้องเมื่อกี้ลืมเปิดให้ดูนะครับ เจ้าฐานเตียงที่โครงการให้มามาตรฐานนั้นมีลูกเล่นในการเก็บของใต้เตียงได้ด้วย

พื้นที่ด้านข้างเตียงฝั่งซ้ายยังเหลือพอให้วางโต๊ะข้างหัวเตียงขนาดเล็กได้ เอาไว้วางหนังสือ มือถือ ก่อนนอนพวกนี้ และปลายเตียงเหลือประมาณ 30 ซม. ให้เดินพอไปเปิดปิดผ้าม่าน

ส่วนของหน้าต่างช่องแสงยังเป็นรูปแบบเดิมเหมือนกับห้องนอนแรกก่อนหน้านะครับ และก็ตำแหน่งของแอร์จะแขวนไว้อยู่ที่ด้านบนผนังปลายเตียงแบบนี้

กลับออกมาที่ด้านนอกส่วนนั่งเล่น จะเห็นส่วนทางเดินไปยังพื้นที่ครัว

ซึ่งพื้นก็จะเปลี่ยนไปเป็นกระเบื้องให้เหมาะกับโซนการใช้งาน ตรงนี้อย่างที่บอกใครจะทำอาหารกินเองบ่อยๆ ก็กั้นเป็นครัวปิดเองได้ไม่ยาก

พื้นที่ครัว โครงการจัดชุด Pantry เข้าไปกับพื้นที่ส่วนเว้าตรงนี้ให้เต็มกับพื้นที่ครับ โดยชุดครัวก็จะคล้ายๆกับห้องแรก แต่ด้านบนชุดตู้จะเป็นแบบปิดหน้าบานทั้งหมด ทุกจุดยังได้ Soft Closed ในการกันกระแทกเปิดปิด

ไปทางขวามือจะเป็นส่วนของห้องน้ำนะครับ โดยก็ยังแบ่งแยกโซนพื้นที่ส่วนแห้ง(ทางขวา) และโซนปียก(ทางซ้าย) ซึ่งวัสดุอุปกรณ์ต่างๆจะได้แบบเดียวกันไม่อธิบายซ้ำละกันนะครับ

มีการยกธรณรีก่อกั้นโซนแห้งและเปียก

ตัวกระจกเงาแผ่นใหญ่แบบ Over Size และด้านข้างที่ผนังก็ให้พวกที่แขวนผ้าขนหนู กระดาษชำระ พวกนี้มาเบ็ดเสร็จ

พื้นที่ส่วนเปียกแยกโซน โดยพื้นที่อาบน้ำห้องนี้จะลดขนาดลงเล็กน้อยเท่านั้น (0.80 x 1.10 เมตร) แต่ว่าก็ยังถือว่ากว้างในการยืนอาบคนเดียวอยู่ดีนะ

ออกจากห้องน้ำมองออกไปที่ด้านนอก เราจะเห็นส่วนของห้องสุดท้ายอย่าง ห้องอเนกประสงค์

ห้องอเนกประสงค์ หรือห้อง Plus นี้ จะเป็นห้องเดียวที่โครงการไม่ได้ให้ชุดเฟอร์นิเจอร์ใดๆมานะฮะ เพราะว่าความต้องการในการใช้งานของห้องนี้แต่ละคนมีไม่เหมือนกัน เราสามารถจัดได้ทั้งเป็นห้องนอนเล็ก, ห้องทำงาน, ห้องออกกำลังกายส่วนตัว ฯลฯ โดยระยะของห้องนี้ก็ถือว่ากว้างใช้ได้ แม้ว่าจะไม่ได้เท่าห้องนอนหลัก แต่สิ่งที่ทดแทนมาคือมีระเบียงในตัวนั่นเอง

พื้นที่ระเบียงของห้องนี้ถือว่ากว้างพิเศษกว่าห้องแรกอย่างเห็นได้ชัดเลย โดยสามารถตากผ้า วางสวนกระถาง และยังได้ตัวกันตกเป็นกระจกเช่นเดียวกัน


ให้ดูส่วนของพื้นที่ระเบียงด้านนอกอีกทีครับ กว้างประมาณ 1 เมตร และยาวประมาณ 2.40 เมตร

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ห้องสุดท้ายที่โครงการมี แต่ไม่เยอะนัก จะอยู่ตามมุมอาคารต่างๆก็คือแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 45 ตร.ม. ซึ่งฟังก์ชั่นดูเข้าใจง่ายแบ่งสัดส่วนชัดเจน ได้พื้นที่ครัวปิด ในห้องนอนค่อนข้างกว้างทั้งคู่ครับ แต่ระเบียงจะมีเฉพาะส่วนของ Living Area ด้านนอก เรียกว่าแปลนนี้ค่อนข้างจัดลงตัวในการอยู่อาศัย 2 คน ติดนิดเดียวคือคนที่อยู่ห้องนอนใหญ่เวลาจะใช้ห้องน้ำต้องเดินไกลสักนิดครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 30 August 2018

  • ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม.
  • ห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.5 ตร.ม.
  • ห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 45 ตร.ม.
  • ช่วงราคาห้องภายในโครงการที่ประมาณ 1.19 – 1.9 ล้านบาท  ราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท ( Update ราคา ณ วันที่ 28 ต.ค. 62)
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ AVG 42,500  บาท/ตร.ม. 51,000 ต่อตารางเมตร ( Update ราคา ณ วันที่ 28 ต.ค. 62)

  • Fully Fitted (พร้อมเฟอร์บิวท์อิน), ฐานเตียง, แอร์ 1-2 ตัว(12,000 BTU)
  • ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • จอง n/a บาท
  • ทำสัญญา n/a บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล สำหรับความอุดมสมบูรณ์รอบๆ โครงการถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์ดีในระยะที่ขับรถ ใกล้สุดจะเป็น Big C พระประแดงที่ติดถนนใหญ่อย่างสุขสวัสดิ์ ห้างนี้ถือเป็นห้างหลักของคนย่านนี้เลยหล่ะ(แถมมีโรงหนังในตัวด้วย) ถ้าจะหาของกินแบบร้านอาหารทั่วๆไป ก็วิ่งเข้าประชาอุทิศได้เลย มีมากมายหลายร้านยิ่งไปแถวๆ .เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี นี่ยิ่งเยอะใหญ่เลย และมีตัวเลือกอย่าง Lotus Market กับ MaValu อยู่เส้นนี้ด้วยครับ สำหรับการไปห้างใหญ่ๆ จะมีอยู่ 3 ตัวเลือกที่มีระยะเดินทางเท่าๆ กันคือ เซ็นทรัลพระรามเซ็นทรัลพระราม 2 และ The Mall ท่าพระ

สำหรับคนที่รักพื้นที่สีเขียวนะครับ โครงการนี้ถือว่ามีตัวเลือกอยู่ 2 จุดก็คือ จุดแรกเป็นสวนสุขภาพลัดโพธิ์ที่ตรงถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ขับรถไปราวๆ 5.4 กิโลเมตร หรือ 10-15 นาทีประมาณนี้ครับจุดเด่นอีกอย่างนึงของโครงการนี้คือการได้อยู่ใกล้กับพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯอย่าง บางกระเจ้า ระยะทางประมาณ 10 กิโล ซึ่งด้านในจะมีตลาดบางน้ำผึ้ง หรือเราสามารถไปขี่จักรยานออกกำลังกายได้สูดอากาศบริสุทธิ์ใจกลางพื้นที่ปอดสีเขียวขนาดใหญ่ครับ

การเดินทางโดยใช้รถ โครงการนี้แม้จะไม่ได้ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่แต่ก็มีระยะห่างจากถนน สุขสวัสดิ์ แค่ 900 เมตร ถ้าขับรถก็แค่ประมาณ 2 นาทีก็ออกถนนหลักอย่างสุขสวัสดิ์ได้ และในซอยด้านในนี้ถือเป็นทางที่ลัดเชื่อมต่อไปยังถนนประชาอุทิศ มีลักษณะการเชื่อมต่อเป็นใยแมงงมุมได้แก่ซอยประชาอุทิศ 27, 33, 59, 61, 69 และซ.สุขสวัสดิ์ 64, 66, 70 ซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับคนใช้รถส่วนตัว เพราะมีทางเลือกให้ใช้หลากหลาย

โดยถ้าขยับออกมาด้านนอกหน่อย โดยรวมแล้วถือว่าทำได้สะดวกเพราะอยู่ใกล้กับทางเชื่อมสำคัญๆหลายจุด จุดแรกคือใกล้สะพานภูมิพลที่สามารถวิ่งไปลงพระราม 3 และโซนสำโรงได้เร็วมากแถมไม่ต้องเสียค่าทางด่วนอะไรด้วย จุดที่สองคือทางด่วนเฉลิมมหานคร จากโครงการไปด่านสุขสวัสดิ์ถือว่าไม่ไกลมากและไม่ต้องรถติดเหมือนคนที่อยู่เส้นพระราม 2 ด้วย จุดที่สามคือทางด่วนกาญจนาภิเษกถ้าใครที่ทำการค้าขายที่ต้องเดินทางไปสำโรง บางนา บางพลี เทพารักษ์ ก็เดินทางได้สะดวกเลย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ที่ถนนด้านหน้าโครงการสามารถเรียก Taxi ได้ไม่ยากนักเพราะเป็นซอยที่มีชุมชนและคนนิยมลัดเลาะกัน, เดินไปหน่อย 120 เมตรก็มีซุ้มพี่วินฯอยู่ด้วย, อีกทั้งการมีรถกระป๊อผ่านหน้าแถมผ่านบ่อยด้วยช่วยได้เยอะมาก โดยเส้นทางหลักๆก็จะเป็นมาจากบิ๊กซีผ่านโครงการไปคู่สร้าง ไปครุใน ประชาอุทิศครับ, และสุดท้ายถนนสุขสวัสดิ์เป็นเส้นที่มีการวางแผนว่าจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ เตาปูนราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ซึ่งพึ่งได้รับการอนุมัติจาก ครม. และมีแผนจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณปี 2566 – 2567 ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 6 ปี โดยสถานีที่ใกล้โครงการมากที่สุดคือ สถานีพระประแดง(คาดว่าน่าจะอยู่บริเวณหน้าบิ๊กซี) และก็มีสถานีครุใน(ซึ่งตั้งอยู่ประมาณปากซอยสุขสวัสดิ์ 70 ครับ) ซึ่งระยะห่างจากโครงการยังไม่แน่ชัดคาดว่าประมาณ 1.5 – 2 กิโลเมตร

วัสดุ โครงการนี้ขายแบบ Fully Fitted แต่ว่าให้ชุดเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นพวก Built-In ทั้งหมด รวมถึงฐานเตียงและแอร์, พื้นก็ได้ของค่อนข้างดีอย่าง SPC, ในห้องน้ำเป็นของ Hafele ทั้งหมด สิ่งที่ไม่ได้ก็จะเป็น Hob&Hood และฉากกั้นอาบน้ำครับ เอ้อ ได้กระจกกันตกที่ระเบียงด้วยนะ เรียกว่ากับราคา 1.2 ล้านบาทหรือ 42,xxx บาท/ตร.. วัสดุที่นี่เรียกว่าจัดเต็มไปแล้ว

การออกแบบ ในส่วนของห้นาตาดีไซน์อาคาร ก็จะเป็นแบบ Modern Contemporary ทั่วไป รวมไปถึงการจัดวางผังชั้น ก็เป็นแบบปกติมาตรฐานนะครับ ที่ดูจะเด่นจริงๆคงเป็น Landscape พื้นที่ส่วนกลางด้านนอกอาคารทั้ง 2 ส่วนของแต่ละอาคารดูสวยงามและน่าใช้ทั้งคู่, ส่วนของ Layout ห้องค่อนข้างจัดได้ลงตัวดีทุกแบบเลย ยิ่งมีชุดเฟอร์บิวท์อินมาให้ทำให้การจัดวางฟังก์ชันง่ายแล้ว

สาธารณูปโภค จากที่ผมดูมาคอนโดระดับ 1.1 – 1.9 ล้าน แต่ว่าให้พื้นที่ส่วนกลางอย่างอาคาร Clubhouse ที่ด้านในมีทั้งล็อบบี้ ห้องดูหนัง ห้องออกกำลังกายสองส่วน สระว่ายน้ำ 2 สระ, สนามเด็กเล่น พื้นที่พักผ่อนและที่วิ่งออกกำลังกายกลางแจ้ง เรียกว่าจัดเต็มสำหรับราคาระดับนี้

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคา AVG 42,500 บาท/ตร.ม., 30 August 2018

  • ทำเล 7/10 – ภายในซอยเป็นชุมชนที่ไม่เปลี่ยว ออกถนนใหญ่ไม่ไกลมีตลาด ห้าง มินิมาร์ท โรงพยาบาลให้เลือกใช้ง่าย ในละแวกนี้เป็นแหล่งงานหลายจุด
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – อยู่ในซอยไม่ไกลถนนใหญ่ และมีลักษณะเป็นใยแมงมุมลัดเลาะออกได้หลากหลาย จุดเด่นคือไม่ไกลทางด่วนทั้งสองสาย
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – เรียก Taxi, พี่วิน, รถกระป๊อ ได้ง่ายและแถวหน้าโครงการเลย, อนาคตมีรถไฟฟ้าสายม่วงใต้มาเสริม 1.5-2 ก.ม.
  • วัสดุ 8.25/10 – ได้เฟอร์บิวท์อิน และของจุดต่างๆดูดี เรียกว่าจัดเต็มสำหรับราคาต่อตร.ม.แบบนี้ครับ
  • แบบ 8/10 – Layout ห้องค่อนข้างลงตัวเพราะไปคอมโบกับชุดเฟอร์ฯ โดดเด่นในเรื่องของ Landscape ในพื้นที่ส่วนกลางด้วย
  • สาธารณูปโภค 9/10 – เทียบกับจำนวนยูนิตและราคา ส่วนกลางที่นี่ถือเป็นสิ่งที่จัดเต็มและโดดเด่นเลยล่ะ

  • SUPER ECONOMY CLASS
  • 7.71 / 10.00

BOTTOM LINE

Polis Condo สุขสวัสดิ์ 64 เป็นโปรดักส์ที่คั่นผู้ที่มีกำลังซื้อน้อยกว่าทาวน์โฮมในพื้นที่ย่านนี้ และอยากได้ที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในราคาประหยัด ล้านต้นๆ แต่ว่าตัวโครงการนั้นจัดเต็มกับ Facilities ให้ใช้ครบครัน อีกทั้งยังให้เฟอร์ในห้องค่อนข้างเกือบครบ เป็นแบบอยู่ได้ 1-2 คน มีงบประมาณ 1.19 -1.9 ล้านบาท หรือกำลังผ่อนชำระ 8,000 – 13,000 บาท/เดือน