รีวิวฉบับที่ 631 … สวัสดีครับวันนี้พาไปรีวิวคอนโด Parque พุทธบูชา 48 ของ Norm Marque (นอร์มมาร์ค) ที่เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น ถึงแม้ตัวโครงการจะตั้งอยู่ในทำเลย่านชานเมืองแต่ก็เป็นทำเลที่ใกล้สถานที่สำคัญๆอย่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (KMUTT) และโครงการนี้ออกแบบโดยบริษัท สถานิก ชื่อดังอย่าง A49 ด้วยนะครับ ตัวโครงการจะเป็นอย่างไรเราไปดูกันดีเลยคร๊าบบบบ ヾ(^-^)ノ~♪
Fact @ 18 July 2014
- Parque Phutthabucha 48 (ปาร์ค พุทธบูชา 48)
- บริษัท นอร์มมาร์ค จำกัด
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ทุ่งครุ
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 363 ยูนิต และร้านค้า 6 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 27 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 134 คันคิดเป็น 36.91% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 44%
- ที่ดินประมาณ 3-2-13 ไร่
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ประมาณ 10/58
- 1 Bedroom 26 – 30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาทหรือประมาณ 72,700 บาท
- 1 Bedroom 33 – 40 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.05 ล้านบาทหรือประมาณ 62,100 บาท
- 2 Bedrooms 51 – 57 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.45 ล้านบาทหรือประมาณ 67,600 บาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.50 เมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.89 ล้านบาทหรือประมาณ 72,700 บาทต่อตารางเมตร
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 74,400บาท
- EIA : ผ่านแล้ว
- www.parquecondo.com
- โทร 085-264-2222
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
NEW!! สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้ โดยกดปุ่มด้านล่างเลยครับ
พิกัด : 13.745565,100.534256
แผนที่จากทางโครงการจะแสดงให้เห็นว่าตัวโครงการสามารถเข้าได้จากหลายเส้นทางและ สถานที่สำคัญๆรอบๆมีอะไรบ้าง ถ้าลองสังเกตดูจะเห็นตำแหน่งของสถานที่ๆ เค้าแสดงลงในแผนที่นี้จะเน้นที่อยู่ในซอย หรือบริเวณใกล้เคียงกับโครงการ ไม่ได้ไปอยู่บนถนนใหญ่แต่อย่างใด ที่เค้าแสดงแบบนี้ก็เพราะพื้นที่ในย่านนี้เป็นแหล่งชุมชนเก่าแก่และมีสถานศึกษาหลายแห่งใกล้ๆ ทำให้สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการจะมีความอุดมสมบูรณ์มาก
ทำเลที่ตั้งของโครงการนี้จัดอยู่ในโซนที่เป็นย่านชุมชนและอยู่ในซอยใหญ่อย่างพุทธบูชาและประชาอุทิศ ถึงแม้ว่าตัวโครงการจะใช้ชื่อพุทธบูชามาเป็นตัวห้อยท้าย แต่ว่าการใช้เส้นทางเข้ามายังโครงการผมมองว่ามาทางประชาอุทิศจะสะดวกและมีความซับซ้อนของเส้นทางน้อยกว่าด้วย ที่ผมพูดแบบนี้เพราะอย่างนี้ครับ สมมุติว่าถ้าเรามาจากในเมืองเวลาจะข้ามมาฝั่งธนไม่ว่าจะใช้สะพานสาทร, สาพานกรุงเทพทั้งเก่าและใหม่, สะพานภูมิพล, และทางด่วนเฉลิมมหานคร เส้นทางที่สะพานเหล่านี้มาเชื่อมต่อคือถนนสุขสวัสดิ์ ทำให้การเข้าจากทางประชาอุทิศทำได้ง่ายกว่า แถมเส้นประชาอุทิศมีระยะทางแค่ 3.2 กม. ไม่เหมือนพุทธบูชาที่ต้องวิ่งเพิ่มเกือบเท่าตัวประมาณ 6.2 กม.
ตัวทำเลนั้นต้องบอกว่ามีความคึกคักที่ค่อนข้างสูงเนื่องจากเส้นทางในบริเวณนี้จะมีการเชื่อมต่อถึงกันหมด ไม่ว่าจะเป็นพุทธบูชาที่เชื่อมต่อถนนพระราม2, เส้นประชาอุทิศที่เชื่อกับถนนสุขสวัสดิ์ และถนนเลียบวงแหวนใต้ อยู่ใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนและ สะพานภูมิพลที่ไปโซนอุตสาหกรรมแถวๆ ปู่เจ้าสมิงพราย, สำโรง และเทพารักษ์ได้ ดังนั้นปริมาณรถที่มาใช้จะค่อนข้างหนาแน่นและรถติดหนักในช่วงเวลาเร่งด่วนครับ สภาพแวดล้อมบริเวณเส้นสุขสวัสดิ์จะเป็นแหล่งโรงงานและร้านค้าอาคารพาณิชย์เยอะพอสมควร แต่ถ้าลึกเข้ามาด้านในเส้นประชาอุทิศแล้วจะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยซะมากกว่า
สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการถือว่าค่อนข้างดีเพราะอยู่ใกล้กับสวนธนบุรีรมย์ และ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ สวนธนบุรีรมย์เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่สำหรับคนแถวนี้ที่เอาไว้ออกกำลังกายได้ แต่ถ้าอยากเล่นเป็นกีฬาไม่ใช่แค่วิ่งหรือเดิน ก็ไปใช้บริการศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติได้ เสียค่าสมาชิกแค่นิดหน่อยเท่านั้นเอง ภายในมีพื้นที่ให้เล่นกีฬาได้หลายอย่างเช่น สนามฟุตบอล, สนามเทนนิส, สนามบาสเก็ตบอล, สระว่ายน้ำ, ปิงปอง, แบดมินตัน, โยคะ, ตะกร้อ และ ลีลาศ รายละเอียดการใช้งานสามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่ครับ โดยส่วนตัวแล้วยังไม่เคยมาใช้บริการที่นี่เลย ถ้าเพื่อนๆคนไหนมีข้อมูลหรือคำแนะนำเพิ่มเติมก็ Comment ได้เลยนะครับ จะได้เป็นประโยชน์ให้กับผู้อ่านท่านอื่นๆด้วย
ที่นี้มาดูเรื่องอาการกินกันบ้าง เนื่องจากตัวโครงการตั้งอยู่ใกล้ๆกับสถานศึกษาสำคัญๆอย่าง ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (KMUTT) ทำให้เรื่องความอุดมสมบูรณ์มีสูงมากครับ มีร้านค้าร้านอาหารอยู่ในระยะที่พอเดินได้เพียบเลย นอกจากตัว KMUTT ที่ทำให้แถวนี้มาความคึกคักแล้ว ยังมีวัดและโรงเรียนในบริเวณนี้อีกหลายแห่งตั้งอยู่ใกล้ๆ จึงไม่แปลกที่จะมีตลาด หรือ Hypermarket มาตั้งอยู่ในซอยนี้ แหล่งเดินซื้อของใกล้สุดจะอยู่ในระยะ 1.2 กม. มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ อย่างตลาดใหม่ทุ่งครุ จะเป็นตลาดที่ใหญ่มากเพราะมีทั้ง ตลาดอาหารสด อาหารแห้ง ศูนย์ร้านอาหาร ตลาดเสื้อผ้า และยังมีตลาดนัดอีกด้วย หรือถ้าอยากเดินซื้อของตากแอร์ และหาร้านอาหารแบรนด์ชั้นนำต่างๆ ก็มาที่ Tesco Lotus ตลาด กับ MaxValu ได้ครับ นอกจากร้านอาหารตามตลาดเหล่านี้แล้ว ยังมีร้านอาหารตึกแถวตามเส้นประชาอุทิศอีกอื้อเลยครับ ซึ่งผมก็ไปชิมมาบ้างแล้วก็มีร้านที่อร่อยๆและกลางๆ ปนๆกันไป ^__^ ถ้าใครมีร้านเด็ดๆก็แนะนำได้นะครับ เผื่อมาแถวนี้อีกจะได้แวะกิน หุหุ :p
เอาหละครับ เรามาเริ่มเดินทางไปโครงการกันเลยดีกว่า เส้นทางที่ผมเลือกจะเป็นอย่างที่กล่าวไว้ตอนต้นว่าจะเลือกเส้น ประชาอุทิศ เพราะมีระยะที่สั้นกว่าและมีความซับซ้อนของเส้นทางน้อยกว่า
เริ่มต้นที่ 3 แยกประชาอุทิศ ที่ตัดกับถนนสุขสวัสดิ์ ถ้าจะเลี้ยวขวาให้อยู่ 2 เลยขวาสุดไว้นะครับ แต่ถ้าช่วงไหนรถติดมากๆจะมีคนใช้เลนที่ 3 ด้วย
เข้ามาจากปากซอยได้ไม่ไกลจะเจอแยกที่ตัดกับถนนใต้ทางด่วน ถ้าเลี้ยวซ้ายไปขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครได้ ส่วนเลี้ยวขวาวิ่งใต้ทางด่วนจะไปออกถนนพระราม 2 ครับ
วิ่งเข้ามาได้ประาณ 550 ม.จะเจอกับ วิทยาลัยพาณิชยการเชตุพน อยู่ด้านขวามือ ส่วนด้ายซ้ายมือจะเป็นที่ทำการไปรษณีย์ไทย
วิ่งตามทางเข้ามาเรื่อยๆจะเห็น ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี อยู่ด้านขวามือ ซึ่งบริเวณนี้ก็จะมีร้านค้าต่างๆที่ตอบสนองต่อการใช้งานของนักศึกษาตั้งอยู่รอบๆ
เลยจาก ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มาประมาณ 500 เมตรจะเจอ 3 แยกนาหลวง ถ้าเลี้ยวซ้ายจะเป็นการวิ่งบนเส้นประชาอุทิศต่อ แต่ถ้าเลี้ยวขวาจะเข้าสู่ถนนพุทธบูชาเพื่อไปโครงการ
เลี้ยวขวามาได้ประมาณ 70 เมตรจะเจอสำนักงานขายอยู่ด้านซ้ายมือ อยู่เยื้องๆกับโรงเรียนนาหลวง
มาดูสภาพแวดล้อมในระยะใกล้กันบ้าง ตำแหน่งทีตั้งตัวโครงการอยู่เกือบๆจะติดกับ 3 แยก ทำให้เวลาออกจากโครงการแล้วจะเลี้ยวขวาเข้าเส้นประชาอุทิศมีระยะที่กระชั้นพอสมควร ยิ่งถ้าช่วงที่รถติดก็ต้องรอสัญญาณไฟเขียวก่อนถึงจะวิ่งออกจากโครงการได้ เรื่องวิวเป็นมีเรื่องที่ไม่น่ากังวลสำหรับโครงการนี้เพราะแต่ละด้านตจะติดกับหมู่บ้านและศูนย์กีฬาซึ่งแทบไม่มีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงเลย สำหรับอาคาร A จะอยู่ติดกับศูนย์กีฬาทำให้ได้วิวสีเขียวๆบ้าง แต่จะไม่ได้วิวถึงสวนธนบุรีรมย์นะครับ เพราะมีมหาลัยเทคโนโลยีบางมดบังอยู่ อาคารจะติดกับหมู่บ้านสินทวีสวนธนที่เป็นทาวน์เฮาส์ 3 และ 2 ชั้น
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ
เดี๋ยวผมจะพาเดินไปดูพื้นที่รอบๆโครงการกันหน่อยนะครับว่ามีสภาพเป็นอย่างไรบ้าง รูปนี้เป็นฝั่งตรงข้ามทางเข้าโครงการ จะเป็นอาคารพาณิชย์และหอพักให้เช่า
หันไปทาง 3 แยกนาหลวงจะเห็น 3 แยกไฟแดงจากตรงนี้ได้เลย
ข้อดีอีกข้อของโครงการนี้คือมีทางเท้าที่กว้างและเดินสบายมากแถมมีป้ายรถเมล์อยู่ใกล้ๆด้วย รูปนี้หันไปทางศูนย์กีฬานะครับ
ซอยข้างๆโครงการนี้คือซอยพุทธบูชา 48 เป็นซอยเล็กๆที่มีคนใช้ใช้แค่เดินหรือมอเตอร์ไซด์เท่านั้น ส่วนรั้วด้านขวามือที่เห็นจะเป็นพื้นที่ของศูนย์กีฒาเฉลิมพระเกียรติครับ
เดินต่อมาประมาณ 200 เมตรก็ถึงประตูทางเข้าศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติแล้ว ตลอดทางเดินจะมีต้นไม้ที่ให้ร่มเงาเยอะพอสมควรทำให้ไม่ร้อนและเหนื่อยเท่าไหร่
เดินเข้ามาดูด้านในหน่อยว่ามีอะไรให้เล่นบ้าง ภายในมีสนามกีฬากลาแจ้งให้เล่นหลายอย่าง
สนามบอลเป็นแบบขนาดมาตรฐาน ตอนที่เข้าไปถ่ายรูปก็มีนักเรียนมาฝึกซ้อมกันอยู่พอดี
อาคารนี้เป็นกีฬาในร่มและศูนย์การเรียนรู้สำหรับครอบครัว
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- เซ็นทรัลพระราม 2 9.5 กม.
- The Mall ท่าพระ 9.5 กม.
- Tesco Lotus ตลาด, MaxValu 1.2 กม.
- ตลาดใหม่ทุ่งครุ (ประชาอุทิศ 61) 550 เมตร
- ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (KMUTT) 240 เมตร (ประตูข้าง)
- ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 200 เมตร (ประตูทางเข้าหลัก)
- สวนธนบุรีรมย์ 550 เมตร
สำนักงานขายมาแนว Modern Minimal การตกแต่งแบบนี้จะเป็นการบ่งบอกถึงลักษณะตัวตึกได้เป็นอย่างดีครับ
ถ่ายวิวด้านหน้ามาให้ดูว่าจะเห็นอะไรบ้าง รูปนี้ถ่ายจากในโครงการหันไปทางถนนหน้าโครงการ
ด้านข้างที่ติดกับหมู่บ้านสินทวี ฝั่งนี้จะเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น
ส่วนด้านหลังจะเป็นทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น สูงขึ้นมาอีกหน่อย ห้องที่ชั้น 4 ขึ้นไปถึงจะไม่มีอะไรบังนะครับ
ด้านข้างที่ติดกับศูนย์กีฬาจะได้ต้นไม้สีเขียวๆ แบบนี้ครับ
ภายในสำนักงานขายจะมีโมเดลวางโชว์อยู่
บรรยากาศภายในสำนักงานขายอีกมุม
มาดูโมเดลกันดีกว่า จุดเด่นอีกของโครงการนี้คือใช้บริษัท A 49 สำหรับงานสถาปัตย์ภายนอก ทำให้ตัวอาคารดูสวยและทันสมัยมากขึ้น ถ้าทำเสร็จแล้วอาจเป็น คอนโด Low Rise ที่สวยอันดับต้นๆในซอยนี้เลยก็ได้ เพราะส่วนใหญ่อาคารแถวนี้จะเป็นอาคารเก่าและใช้ในเชิงพาณิชย์มากกว่า ส่วนการออกแบบภายในเป็นของ n7a และ Landscape เป็นของ Landscape Tectonix
โครงการนี้จะมี 2 อาคารเป็นทรงตัว L หันเข้ากันมี Court ตรงกลางเป็นสระว่ายน้ำและสวน จำนวนยูนิต 2 ทั้งอาคารจะใกล้ๆกันคือ 181 และ 182 ยูนิต
รูปด้านของตัวอาคารทำออกมาสวยดีครับ เพราะมีการใช้วัสดุและสีที่ต่างกันทำให้ตัวอาคารดูมีมิติเชิงลึกมากขึ้น แถมภายในอาคารยังมี Pocket Garden และห้องสมุดที่แทรกอยู่ตามชั้นต่างๆด้วย อย่างอาคาร A จะมีแทรกอยู่ที่ชั้น 5 และ 7 ตรงที่เป็นกรอบไม้ยื่นออกมาจากอาคาร และอาคาร B จะแทรกอยู่ที่ชั้น 3 และ 5 ครับ
ซูมมาให้ดูใกล้ๆจะเห็นว่าตรงห้องนี้จะมีการทำกรอบยื่่นออกมาจากตัวอาคารพอสมควร สำหรับยูนิตที่ติดกับส่วนนี้ก็มีทั้งข้อดีและเสีย ข้อดีคือเดินออกจากห้องมาก็มีพื้นที่ให้นั่งเล่นนั่งทำงานได้สบายๆ เผลอๆถ้า Wi-Fi แรงพออาจมานั่งเล่นชิวๆที่สวนได้เลย แต่ถ้าเป็นห้องสมุดจะมี Free Wi-Fi จากโครงการให้ โดยตำแหน่งของสวนและห้องสมุดจะเป็นตามนี้ครับ
- ตำแหน่งสวน ชั้น 5 (ทั้งอาคาร A และ B) 3 จุด
- ตำแหน่งสวน ชั้น 7 อาคาร A (ด้านศูนย์ฝึกกีฬาฯ) 1 จุด
- ตำแหน่งห้องสมุด ชั้น 7 อาคาร A (ด้านใน Court) 1 จุด
- ตำแหน่งห้องสมุด ชั้น 3 อาคาร B
ระยะห่างระหว่างอาคาร ช่วงที่แคบที่สุดคือตรงนี้ครับ ประมาณ 7 เมตร
ด้านหลังของอาคาร B ส่วนนี้กรอบที่ยื่นออกมาจะเป็นห้องพัก ซึ่งไม่เหมือนกับด้านเมื่อกี้ของอาคาร B ที่เป็น Pocket Garden
แต่สวนจะมาอยู่ที่ด้านนี้แทน และมี 3 ส่วนด้วยกันอยู่ที่อาคาร B ชั้น 3 และชั้น 5
ห้องที่เป็นห้องสมุดคาดว่าน่าจะอยู่ชั้นนี้ เพราะในโมเดลทำเป็นกำแพงกระจก ไม่ได้เปิดโล่งเหมือนส่วนอื่นๆ
ย้อนกลับมาที่ด้านหน้าของอาคาร จะเห็นว่ามียูนิตร้านค้าอยู่ริมถนน 6 ยูนิต ร้านตรงนี้ก็จะเป็นส่วนช่วยให้ลูกบ้านสะดวกขึ้นในเรื่องอาหารการกิน โดยไม่ต้องเดินไปไหนไกลๆครับ
ซูมด้านข้างของอาคารมาให้ดูอีกที ตัวอาคารจะมีการเล่นกับกำแพงส่วนกั้นห้องค่อนข้างเยอะ อย่างระเบียงที่เห็นยาวๆก็เป็นพื้นที่ของ 2 ยูนิตและมีกำแพงกั้นแต่ใช้สีโทนเข้มเลยดูเหมือนเป็นพื้นที่เดียวกัน ส่วนกำแพงที่เป็นสีไม้ยังไม่รู้ว่าจะใช้วัสดุเป็นอะไรนะครับ คงต้องรอดูของจริงว่าจะทำออกมาได้สวยอย่างโมเดลรึปล่า
มาดูส่วนที่อยู่ Court ตรงกลางกันบ้าง ตรงนี้จะมีสระว่ายน้ำและสวนหย่อมเล่นระดับอยู่ ตัวสระว่ายน้ำมีขนาด 6 x 20 ระบบเกลือ ลึก 1.3 เมตร
ส่วนห้อง Fitness จะอยู่ที่ชัน 2 ของอาคาร B ครับ ดังนั้นคนที่อยู่อาคาร A เวลาจะใช้งานต้องเดินข้ามอาคารเอา
ซูมให้ดูสวนหย่อมกับสระว่ายน้ำที่มุมอาคารA
ความพิเศษของห้องที่ชั้น 2 คือมีบันไดให้ลงมาที่สวนโดยตรงตรงได้เลย และห้องแบบนี้จะมีประตูเพื่อความปลอดภัยเพิ่มขึ้นมาให้เป็นพิเศษ แต่…บันไดตรงนี้ทางโครงการยังไม่ยืนยันว่าจะมีมาให้รึเปล่านะครับ ถ้ามีมาให้ก็ถือว่าสะดวกดีสำหรับลูกบ้าน แต่ถ้าไม่มีมาให้ตัวห้องก็จะเหมือนกับห้องอื่นๆทั่วไปครับ
ภาพจำลองบรรยากาศสวนหย่อมภายในโครงการ จะเป็นประมาณนี้ครับ
ห้อง Fitness ที่อยู่ชั้น 2 จะได้วิวของสวนด้านล่าง
ภาพบรรยากาศจำลอง มุมสระว่ายน้ำจากศาลาข้างสระ
บริเวณสระว่ายน้ำจะใส่พื้นที่สีเขียวมาให้เยอะเหมือนกัน แต่ต้องรอดูของจริงก่อนนะครับว่าจะให้ต้นไม้ใหญ่อย่างนี้รึเปล่า หรือเป็นแค่ไม่พุ่มโล่งๆ
วิวสระกับอาคาร B
เพื่อแบ่งแยกการใช้งานของพื้นที่แต่ละส่วน และเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวของสระว่ายน้ำ เค้าเลยยกพื้นของสวนตรงกลางขึ้นจากระดับพื้นอีกประมาณ 1.2 เมตร ถ้ามีการลงต้นไม้ได้แน่นอย่างในภาพก็ถือว่าลูกบ้านจะได้ใช้ประโยชน์จากการออกแบบอย่างแท้จริงครับ
ภาพจำลองห้องสมุดของจริงถ้าให้หน้าต่างไร้กรอบแบบนี้ได้ รับรองสวยแน่ แถมมีกรอบกำแพงไม้เอาไว้บังแดดมาให้ด้วย ชักอยากเห็นของจริงเร็วๆซะแล้วว่าจะทำได้สวยอย่างภาพจำลองรึเปล่า ^_^
ด้านในจะพื้นที่บางส่วนปูหญ้าเทียมมาให้ ก็ถือว่าเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศให้ดูผ่อนคลายมากขึ้นนะครับ
มาดูผังรวมของโครงการกันก่อนเลย ตัวอาคารแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแคืออาคาร A กับ B เส้นทางเดินรถเป็นแบบ One Way เข้าทางอาคาร B ก่อนแล้วออกมาทางอาคาร A ที่จอดรถจะอยู่ที่ใต้อาคารทั้งหมด เป็นช่องจอดประมาณ 134 คัน ซึ่งเป็นตัวเลขจากการปรับผังใหม่แต่ถ้านับจากผังที่เห็นนี้จะได้ประมาณ 117 คัน ส่วนตัว Lobby เป็นแบบเปิดโล่งนะครับ ดังนั้นการสกรีนคนเข้าออกต้องรอดูหน้างานจริงว่าจะใช้ระบบไหน
ผังอาคารชั้น 2 ห้องของที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 1 ห้องนอนขนาด 26 – 38 ตร.ม. และ 2 ห้องนอนขนาด 51 – 57 จะอยู่ที่หัวมุมของอาคารเท่านั้น เรื่องทิศแดดก็ดูง่ายครับเพราะทิศของอาคารค่อนข้างตรงกับทิศแดด ห้องฝั่งนอกอาคาร B ที่ติดกับหมู่บ้านสินทวีจะได้แดดเช้า ส่วนห้องอาคาร A ริมนอกฝั่งติดกับศูนย์กีฬาจะได้แดดเย็น ส่วนห้องที่ติดถนนพุทธบูชาจะโดนแดดน้อยสุดแต่จะเป็นยูนิตที่ด้านฝั่งถนนอาจเจอฝุ่นและเสียงจากรถเยอะกว่าด้านอื่นหน่อย
ผังอาคารชั้น 3 อาคาร B จะมี Pocket Garden แทรกอยู่ทำให้จำนวนห้องพักในชั้นนี้ลดลงเหลือ 25 ยูนิต จากปรกติที่ 27 ยูนิต
ผังอาคารชั้น 4 ชั้นนี้จะเริ่มมีห้องขนาดใหญ่กว่า 30 ตร.ม.มากขึ้น(ห้องสีชมพูและสีฟ้า)
ผังอาคารชั้น 5 ชั้นนี้เป็นชั้นที่ Pecket Garden เยอะที่สุด เพราะมีที่อาคาร A 1 จุดและอาคาร B 2 จุด
ผังอาคารชั้น 6
ผังอาคารชั้น 7 จะมี Pocket Garden 2 จุดที่อาคาร A
ผังอาคารชั้น 8 ชั้นนี้ส่วนใหญ่จะเป็นขนาด 30 ตร.ม. ขึ้นไป
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 6 x 20 ม. ลึก 1.3 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องขนาดประมาณ 50 ตร.ม. ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ xx เครื่อง
- สวนหย่อมระหว่างอาคาร
- Pocket Garden สวนหย่อมตามชั้นต่างๆ ภายในอาคาร
- ห้องสมุด พร้อม Free Wi-Fi
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว/1 อาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 91 : 1
- อัตราส่วนลิฟท์อาคาร A 91:1
- อัตราส่วนลิฟท์อาคาร B 90.5:1
- Service Lift : ไม่มี
- ที่จอดรถ 134 คันคิดเป็น 36.91% รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 44%
- ระบบ Video Door Phone
สำหรับแบบห้องของที่นี่จะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆคือห้องแบบ 1 Bedroom และ 2 ฺBedroom และจะแยกแบบย่อยไปตามขนาดที่ต่างกัน อย่างห้องแบบ 26, 29 และ 30 ตร.ม. จะจัดวางเหมือนกันเกือบเป๊ะๆ ยกเว้นห้อง 33 ตร.ม.ที่ได้หน้ากว้างของห้องนั่งเล่นกับครัวเพิ่มขึ้นมา การวางผังห้องจะเป็นแนวลึก โซนงานระบบอย่างห้องน้ำและครัวอยู่ติดทางเดิน ห้องนั่งเล่นและห้องนอนติดหน้าต่างด้านนอก ถ้าใครที่อยากได้พื้นที่ห้องกินข้าวเพิ่มขึ้นมาก็เลือกห้อง 30 หรือ 33 ไปเลยจะดีกว่า เพราะจะใช้งานพื้นที่โต๊ะกินข้าวได้ดีกว่า
การขายที่นี่เ็ป็นแบบ Fully Furnished นะครับได้ของเล่นเยอะดี ทั้ง VDO Door Phone, Digital Door Lock และ ปุ่มฉุกเฉิน ที่ทำงานคล้ายกับในโรงพยาบาล เมื่อมีเหตฉุกเฉินแล้วเรากดปุ่มจะมีการแจ้งไปยังนิติบุคคลและรปภ. ตรงนี้ก็ถือเป็นลูกเล่นใหม่ที่เป็นประโยชน์กับลูกบ้านมาก ช่วยให้ผู้หญิงที่อยู่คนเดียวหรือมีผู้สูงอายุอยู่ด้วยอุ่นใจขึ้นเยอะครับ
หน้าห้องตัวอย่างจะมี VDO Door Phone ติดมาให้ดูด้วยว่าหน้าตาเป็นยังไง การใช้งานคือลูกบ้านสามารถดูหน้าตาคนที่มาหาเราได้เลย ถ้าเป็นคนที่เรามาหาก็บอกรปภ.ให้อนุญาตเข้ามาได้
กลอนประตูของโครงการนี้ให้เป็น Digital Door Lock แบบก้านโยก
เปิดเข้าห้องมาจะเจอกับส่วนครัวก่อน และถัดไปจะเป็นห้องนั่งเล่น
พื้นที่ได้จะเป็นกระเบื้องยางลายไม้ครับ
ถ่ายย้อนกลับไปให้ดูพื้นที่ส่วนครัว พื้นที่ครัวจะกว้างประมาณ 1.3 เมตร พอใช้งานจริงได้กำลังดี ส่วนจะกั้นเป็นครัวปิดก็ยังสามารถทำได้ครับ แต่จะไปกินพื้นที่ส่วนทานอาหาร อาจทำให้ห้องดูเล็กลง
พื้นที่วางโต๊ะอาหารจะเป็นแบบขนาดเล็กเหมาะกับการกิน 2 คนและเน้นอาหารจานเดียวเป็นหลัก
พื้นที่นั่งในห้องตัวอย่างดูจะแคบไปหน่อย ถ้าคิดจะนั่งแบบหันหน้าเข้าหากัน แต่…..
ที่เป็นแบบนี้เพราะเค้าดันเอาชั้นวางทีวีมาวางไว้ 2 ตัว ซึ่งของจริงก็ให้แค่ตัวเดียว -___-‘ ดังนั้นในส่วนนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องที่นั่งนะครับ แค่ขยับชั้นวางทีวีออกมาก็นั่งได้สบายๆแหละ
ตำแหน่งวาง ตู้เย็นจะต้องอยู่ฝั่งตรงข้าม Pantry ครัวนะครับ การใช้งานก็ไม่ลำบากนะครับเพราะไม่ได้มีระยะเดินไกลแค่ต้องหันไปหันมาหน่อยเท่านั้น
บริเวณหน้าห้องจะเป็นตำแหน่งติดตั้งระบบBluetooth Sound System ที่ให้ลำโพงมา 2 ตัว ในโซนห้องนั่งเล่น
ชุด Pantry ครัวได้ Top เป็นปาติเกิ้ลปะเมลานีนสำหรับงานครัว หน้าบานชุดล่างจะเป็นการปาดมุมมาให้ เปิดได้สะดวกขึ้น ชุดครัวจะไม่ได้แถมเตาไฟฟ้ามาให้ดังนั้นใช้เป็นเตาลอยจะสะดวกกว่า
การแบ่งช่องชุดบนก็ได้ประมาณนี้ครับ
หน้าบานชุดบนจะไม่ได้ปาดมุมมาให้ แต่จะเว้นช่องไว้แบบนี้แทนครับ
ผนังครัวจะได้กระจกเงาขนาดเต็มกำแพงเลย แต่ไฟซ่อนจะไม่ได้แถมมาให้นะครับ ถ้าใครอยากได้ก็หาติดตั้งเอาเองได้ครับไม่ยากเท่าไหร่
ตัวอ่างและก๊อกใช้ของ TEKA เป็นแบบหลุมเดียวไม่มีที่พักจานมาให้ แต่ขนาดของอ่างล่างจานก็ลึกพอสมควรครับ รูปนี้เลยลองเอาหม้อในห้องตัวอย่างมาวางให้ดูจะได้เทียบขนาดง่ายหน่อย
ห้องนอนจะอยู่ติดกับห้องนั่งเล่น ดังนั้นการวางเฟอร์นิเจอร์เลยสามารถจัดได้หลายแบบ เช่นถ้าอยากนอนดูทีวีไปด้วยก็ติดทีวีแบบแขวนให้ตำแหน่งตรงกับเตียง แต่ถ้าอยากได้ห้องนั่งเล่นติดหน้าต่างก็เลื่อนโซฟาไปติดมุมห้องได้เลย
ระยะห่างของการดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2 เมตรวางทีวีได้ 46″
กำแพงตรงส่วนนี้สามารถตกแต่งหรือทำ Built-in ได้เยอะดี แต่ที่เห็นนี่ไม่มีมาให้นะครับ ได้แค่กำแพงทาสีขาว
โซฟาที่ได้เป็นแบบ 2 ที่นั่งอย่างที่เห็น แนะนำให้ให้หาแบบ Daybed มาวางอีกซักตัวจะได้มีที่นั่งเล่นนอนเล่นเพิ่มขึ้น หรือจะหาโต๊ะทำงานมาใส่เพิ่มก็ได้เพราะยังมีพื้นที่เหลือ
หน้าต่างตรงมุมนี้จะได้แบบกระจกเข้ามุมด้วย และได้ขนาดเกือบเต็มพื้นที่กำแพงเลย
ชุดหน้าต่างที่ได้จะเป็นบาน Fix ตรงกลางและเป็นบานกระทุ้งด้านข้าง
ประตูระหว่างห้องนอนจะเป็นบ้านกระจกแบบเลื่อนขนาดใหญ่ 2 ตอน
มือจับของบานนี้ก็คือกรอบอลูมิเนียมนั่นเอง
รางเลื่อนจะเป็นแบบใช้รางบนอย่างเดียวทำให้ที่พื้นไม่จำเป็นต้องมีราง ช่วยให้พื้นที่ห้องบริเวณนี้ดูเรียบร้อยมากขึ้น
เวลาเลื่อนประตูไปเก็บ ตัวบานประตูจะถูกซ่อนเข้าไปอยู่หลังเคาน์เตอร์ครัวพอดี แต่ไม่สามารถดันเข้าไปจนหมดได้นะครับ จะเหลือระยะเผื่อเอาไว้ให้มือจับได้
พื้นที่ห้องนอนไม่ได้กว้างมากนักประมาณ 2.4 x 2.4 เมตร วางเตียง 5 ฟุตก็แน่นพอดี กำแพง Built-in หัวเตียงไม่ได้แถมมาให้แต่ฐานเตียงเค้าแถมมาให้นะ ส่วนโต๊ะหัวเตียงก็ได้แค่ 1 ตัวครับ
จากห้องนอนจะมีประตูที่ออกไประเบียงได้ ตัวบานประตูเป็นกระจกกรอบอลูมิเนียม ความสูงเท่าฝ้าเพดานห้อง
ตัวระเบียงกว้างประมาณ 2.4 x 0.8 ซม. พื้นที่บริเวณที่เป็นกำแพงทึบ ของจริงจะมีการทำแผงบังแอร์มาให้นะครับ
พื้นระเบียงจะลดระดับลงไปจากตัวห้องนิดเดียวประมาณ 2 ซม. ตรงนี้อาจมีปัญหาเรื่องน้ำ ถ้าฝนตกแรงๆนะครับ และรอบๆประตูก็ไม่ได้มีซีลยางหรือสักหลาดมาให้ด้วย
ภายในห้องนอนจะมีตู้ Built-in แถมมาให้ อยู่ติดกับทางเข้าห้องน้ำ
หน้าตามือจับและการแบ่งช่องภายในตู้เสื้อผ้า
ภายในห้องน้ำจะมีแบ่งโซนเปียกกับแห้งมาให้อย่างชัดเจน ตัวกระจกเงาที่ได้ก็ให้มาตามนี้เลยครับ ได้เต็มพื้นที่กำแพงเลย
ตรงพื้นได้เป็นธรณีหินแกรนิต
ส่วนเคาน์เตอร์อ่างล้งหน้าก็ได้หินแกรนิตเช่นเดียวกัน และตัวเคาน์เตอร์ก็ทำยาวเต็มระยะแนวกำแพงเลย
ชุดสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆจะใช้ของ Cotto ตำแหน่งติดตั้งที่แขวนทิชชู่อยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานสะดวกดี
ราวแขวนผ้าจะอยู่ก่อนเข้าห้องอาบน้ำ
พื้นที่ห้องอาบน้ำจะมีฉากอะคริลิค 3 ตอนมาให้ ช่วยให้การเข้าออกไม่ติดขัดอะไรนัก
ตัวฉากกั้นวางอยู่บนธรณีกระเบื้องอีกที่ ช่วยให้ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำรั้วซึมจากส่วนนี้
ภายในห้องน้ำกว้างประมาณ 1 x 1.1 ม.พอขยับแขนขาได้พอดีๆ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีชั้นวางของหรือช่องอะไรมาให้เลย
หน้าตาของฝักบัวดูดีแต่เล็กไปหน่อย
ส่วน 2 ห้องนอนขนาด 51 – 57 ตร.ม.จะได้เป็นห้องแนวกว้าง 3 ตอนที่กว้างประมาณ 10 เมตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างกว้างดีบวกกับการที่ให้กระจกแบบเต็มความสูงจากพื้นถึงฝ้า ยิ่งทำให้บรรยากาศในห้องดูโปร่งสบายมาก ห้องน้ำของแบบนี้จะแปลกหน่อยตรงที่ ห้องน้ำมีมาให้ 2 ห้องและห้องนึงจะไม่มีโซนอาบน้ำ ทำให้ห้องนอนเล็กที่อยู่อีกฝั่งเวลาจะอาบน้ำต้องเดินผ่านห้องนั่งเล่นและครัว แถมทางเข้าห้องน้ำทั้ง 2 ห้องก็สามารถเข้าได้จากพื้นที่ส่วนกลางได้ด้วย ส่วนครัวจะได้เป็นครัวเปิดและตำแหน่งไม่ค่อยเหมาะกับการกั้นห้องเพิ่มเติม เพราะจะทำให้พื้นที่ห้องนั่งเล่นดูเล็กเกินไป
ส่วนแรกของห้องจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่รวมส่วนครัว โต๊ะทานอาหารและ ห้องนั่งเล่น บรรยากาศจะมาแนวโล่งๆและโปร่งกว่า 1 ห้องนอนเยอะ โซนนี้จะได้หน้ากว้าห้องประมาณ 4.5 เมตร
ทางเข้าห้องจะอยู่ติดกับ Pantry ครัวและทางเข้าไปยังห้องนอนเล็ก ฝ้าเพดานซ่อมไฟไม่ได้ทำมาให้นะครับ
พื้นที่วางโต๊ะทานอาหารสามารถขยับขยายได้เป็น 4 ที่นั่งและยังมีพื้นที่เหลือรอบๆอยู่
ระยะทีวีจะไม่ได้ต่างกับห้อง 1 Bedroom เท่าไหร่อยู่ที่ประมาณ 2 เมตรเช่นกัน
ตรงครัวจะมีพื้นที่ข้างๆเหลือให้พอวางของอย่างพวกตะกร้าผ้าได้นิดหน่อย
หน้าต่างยังคงจัดเต็มเช่นกันได้เต็มความสูงฝ้าเพดาน
ตัวประตูไประเบียงบานซ้ายสุดจะเป็นบาน Fix และบานกลางกับขวาจะเป็นบานเลื่อน
ตัว Lock จะเป็นแบบธรรมดาๆครับ
พื้นระเบียงจะลดระดับลงมานิดเดียวเช่นกัน
มาดูฝั่งห้องนอนเล็กกันก่อนนะครับ ห้องน้ำนี้จะเป็นแบบ Powder Room คือไม่มีส่วนอาบน้ำมาให้ เนื่องจากห้องตัวอย่างไม่ได้ติดประตูมาให้เลยดูโล่งๆหน่อย
ของจริงประตูจะติดตั้งที่หน้าห้องน้ำตรงนี้ ซึ่งจะดูแปลกหน่อยๆตรงที่มีตัวอ่างยื่นเข้ามาบริเวณประตูทางเข้า
ขนาดตัวอ่างเล็กจะเท่าๆกับ 1 Bedroom แต่เป็นคนละแบบกัน
ภายในห้องนอนเล็กจะมีขนาดประมาณ 2.5 x 3 เมตร พื้นที่ปลายเตียงจะไม่พอให้วางโต๊ะได้ ถ้าจะวางทีวีต้องแบบแขวนเท่านั้น
สามารถวางเตียงขนาด 5′ ฟุตได้สบายๆมีระยะเหลือรอบๆเตียงประมาณนี้
Bulit-in ตู้เสื้อผ้าของห้องนอนเล้กจะมีขนาดจะมีขนาดใหญ่กว่า 1 Bedroom โดยกว้างกว่าประมาณ 50 ซม. ระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำจะมีประตูกั้นนะครับไม่ได้เห็นกันโล่งๆแบบนี้ ^-^’
บานหน้าต่างได้บานขนาดใหญ่มีบานกระทุ้งให้ 1 บาน
กลับมาดูห้องน้ำและห้องนอนใหญ่กันต่อนะครับ ทางเข้าห้องน้ำจะเข้าได้จากทางโถงกลางเท่านั้นไม่สามารถเข้าจากห้องนอนใหญ่ได้ ตรงจุดนี้ถือว่าเสียความเป็นส่วนตัวไปพอสมควร
ธรณียังคงเป็นหินแกรนิตเช่นเดิม
ห้องน้ำของแบบนี้จะมีขนาดใหญ่หน่อยและมีฉากกั้นมาให้เช่นเดิม
ตัวอ่างจะใหญ่กว่าห้อง Powder Room นิดหน่อย
ตัวเคาน์เตอร์ยังคงให้มาเต็มแนวกำแพง ชุดโถสุขภัณ์ยังคงเป็นชุดเดิมนะครับ แต่ตำแหน่งที่แขวนทิชชู่จะเปลี่ยนไปอยู่ใต้อ่างทำให้การใช้งานลำบากนิดหน่อย
ฝักบัวของห้องนี้จะมีมาให้มา 2 ชุด
ขนาดของฝักบัวและ Rain Shower
ที่แปลกคือห้องน้ำส่วนนี้ดันไม่มีธรณีกระเบื้องแบบห้อง 1 Bedroom มาให้ ต้องรอดูตอนสร้างจริงว่าจะทำมาให้รึเปล่า
ห้องนอนใหญ่จะมีขนาดประมาณ 2.7 x 4 ม. สามารถวางเตียง 6′ แล้วเหลือที่รอบๆสบายๆ ของที่แถมมาให้มีแค่ฐานเตียงกับโต๊ะหัวเตียง 1 ตัว ส่วนผนัง Built-in ไม่ได้ให้มาด้วยนะ
ระยะเหลือรอบๆเตียง
ผนังปลายเตียงมีระยะเหลือพอให้ทำชั้นวางของหรือตู้วางทีวีได้
ส่วน Built-in ตู้เสื้อผ้าห้องนี้จะอยู่ในผนังด้านที่ติดกับห้องน้ำ ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าห้องนอนเล็กอยู่หน่อย
ตัวหน้าต่างจะได้ชุดเดียวกันกับห้องนอนเล็กครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ขอปิดท้ายด้วย VDO Presentation ที่ทางโครงการทำไว้นะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 18 July 2014
- 1BR อาคาร A วิวสนามกีฬา ชั้น 3 ห้อง A312 เนื้อที่ 26.53 ตร.ม. ราคา 1.899 ล้านบาท หรือ 71,600 บาท/ตร.ม.
- 1BR อาคาร A วิวสระว่ายน้ำ ชั้น 6 ห้อง A606 เนื้อที่ 33.64 ตร.ม. ราคา 2.519 ล้านบาท หรือ 74,900 บาท/ตร.ม.
- 1BR อาคาร A วิวสนามกีฬา ชั้น 8 ห้อง A815 เนื้อที่ 30.18 ตร.ม. ราคา 2.411 ล้านบาท หรือ 79,900 บาท/ตร.ม.
- 1BR อาคาร B วิวเมือง ชั้น 4 ห้อง B410 เนื้อที่ 30.18 ตร.ม. ราคา 2.055 ล้านบาท หรือ 68,100 บาท/ตร.ม.
- 1BR อาคาร B วิวสระว่ายน้ำ ชั้น 7 ห้อง B701 เนื้อที่ 26.18 ตร.ม. ราคา 2.165 ล้านบาท หรือ 82,700 บาท/ตร.ม.
- 1BR อาคาร B วิวเมือง ชั้น 8 ห้อง B816 เนื้อที่ 30.18 ตร.ม. ราคา 2.094 ล้านบาท หรือ 71,600 บาท/ตร.ม.
- 2BR อาคาร A วิวมหาวิทยาลัย ชั้น 4 ห้อง A424 เนื้อที่ 51.01 ตร.ม. ราคา 3.51 ล้านบาท หรือ 69,000 บาท/ตร.ม.
- 2BR อาคาร B วิวเมือง ชั้น 8 ห้อง B808 เนื้อที่ 51.01 ตร.ม. ราคา 3.64 ล้านบาท หรือ 71,500 บาท/ตร.ม.
- Fully Furnished
- เพดานสูง 2.5 เมตร
- Kitchen & Sink
- จอง 5,000 – 10,000 บาท
- ทำสัญญา 30,000 – 50,000 บาท
- ดาวน์ประมาณ 10% ผ่อนดาวน์ 12 งวด
- ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 35 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
- ค่าธรรมเนียมในการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด ผู้จะซื้อและผู้จะขาย ชำระคนละครึ่ง
- ค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า น้ำประปา ผู้จะซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
ทำเลของโครงการ Parque พุทธบูชา เป็นทำเลที่อยู่ในถนนพุทธบูชา ห่างจากถ.สุขสวัสดิ์ประมาณ 3.2 กม. ซึ่งเป็นซอยใหญ่และมีความคึกคักสูงมาก เนื่องจากถนนเส้นนี้เชื่อมต่อกับถนนหลายสายอย่าง ถ.สุขสวัสดิ์, ซ.พุทธบูชาที่ไปออกถ.พระราม 2 ได้, ถ.บางขุนเทียน-ชายทะเล, ถ.เลียบวงแหวนใต้(ทางด่วนบางพลี – สุขสวัสดิ์) และยังมีถนนวิ่งเลียบทางด่วนมาตัดอีก ทำเลนี้จึงเป็นทำเลที่มีรถมาใช้สัญจรกันเยอะมีความพลุกพล่านสูง การเดินทางโดยใช้รถก็ขึ้นอยู่กับว่าจะเดินถือว่าทำได้สะดวก แต่ที่ปัญหาคือรถค่อนข้างติดเอาเรื่องนะ ยิ่งช่วงเวลาเร่งด่วนนี่เผื่อเวลาไว้ได้เลย ส่วนสภาพแวดล้อมในซอยส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย, วัด และสถานศึกษา เรียกว่าเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่เลยครับ
นอกจากนี้ยังมีสวนธนบุรีรมย์และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (KMUTT) ตั้งอยู่ใกล้ๆโครงการ ห่างจากประตูด้านข้างของมหาลัยประมาณ 200 เมตร ดังนั้นความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการจึงมีสูงมาก มีร้านค้า ร้านอาหาร ตั้งอยู่ตามทางเต็มไปหมด ไล่มาตั้งแต่ช่วงต้นๆถ.ประชาอุทิศจนมาถึงตัวโครงการ และถ้าเลยไปทางพุทธบูชาก็ยังมีอยู่นะครับ ส่วนแหล่งเดินเที่ยวซื้อของต่างๆ ใกล้กับโครงการจะมีตลาดใหม่ทุ่งครุ 61 ที่มีขายทั้งอาหารสด ของกิน ของใช้ และตลาดนัด เลยไปอีกนิดก็มี Tesco Lotus และ JUSCO ให้เดินตากแอร์ แต่ถ้าจะเดินห้างก็ต้องไป Major Hollywood, เซ็นทรัล พระราม 2 หรือ The Mall ท่าพระ ซึ่งอยู่ไกลหน่อย
สำหรับคนที่เดินทางโดยไม่ใช้รถก็ยังมีความสะดวกอยู่เพราะตัวโครงการติดถ.ประชาอุทิศเลย และมีป้ายรถเมล์อยู่ติดๆกับโครงการ มีรถสาธารณะให้เลือกใช้มากมายทั้ง รถเมล์, รถสองแถว และรถกระป๊อ (Subaru เล็ก) การเดินรถของรถท้องถิ่น อย่าง รถสองแถวหรือกระป๊อบางวินก็จะวิ่งไปถนนใหญ่แล้ววนกลับมาเป็นวงกลม
วัสดุของโครงการให้มาเยอะดี ส่วนคุณภาพก็มีสมราคาและไม่สมราคาบ้างปะปนกันไป พื้นห้องได้เป็นพื้นไวนิล(หรือกระเบื้องยาง) เคาน์เตอร์ครัวได้ขนาดใหญ่กำลังดีกับตัวห้องแต่ Top เป็นปาติเกิ้ลปะเมลานีน พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 60 x 60 ซม. ได้ฉากกระจกกั้นและชุดสุขภัณฑ์ใช้ของ Cotto สิ่งที่พิเศษหน่อยคือได้ประตู Digital Door Lock, VDO Door Phone, Bluetooth Sound System, และปุ่ม Emergency ที่ทำงานคล้ายกับในโรงพยาบาล พอกดแล้วมันจะแจ้งเตือนมายังนิติบุคคลและรปภ.โครงการ ระบบนี้ก็ช่วยให้ลูกบ้านอุ่นใจได้เวลามีเหตุการณ์ฉุกเฉินครับ
รูปร่างหน้าตาของโครงการนี้ออกแบบมาได้สวยดี และมีลูกเล่นกับการวางผังอาคารนิดหน่อย โดยการใส่สวนหย่อมและห้องสมุดไว้ตามส่วนต่างๆของอาคารส่งผลให้รูปด้านของอาคารดูมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น แบบห้องก็จัดมาได้ลงตัวดีได้ครบทุกฟังก์ชั่น แต่ห้อง 30 ตร.ม.จะใช้งานได้สะดวกกว่าห้อง 26 ตร.ม.เพราะสามารถใส่โต๊ะทำงานเพิ่มเข้าไปได้ หรือจะขยับขยายชุดโซฟาไปไว้ริมหน้าต่างก็ได้จะได้มีพื้นที่วางโต๊ะอาหารเพิ่ม แบบ 2 ห้องนอน จะได้เป็นห้องแนวกว้าง 3 ช่วงซึ่งได้ความยาวประมาณ 10 เมตรเลย พื้นที่เริ่มต้นตั้งแต่ 51 ตร.ม.
สาธารณูปโภคของโครงการให้มาพอสมควร ได้สวนหย่อมตรงกลางระหว่างอาคารพร้อม สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 6 x 20 เมตรลึก 1.3 เมตร, ห้อง Fitness ขนาดประมาณ 50 ตร.ม. ที่ชั้น 2 อาคาร B, ห้องสมุดพร้อม Free Wi-Fi และส่วนหย่อม (Pocket Garden) ตามอาคารทั้ง 2 อาคาร ถ้าใครชอบเล่น Fitness แนะนำให้เลือกอาคาร B เพราะจะได้ไม่ต้องเดินข้ามตึก ส่วนที่จอดรถจะมีช่องจอดประมาณ 117 หรือ 32% ถ้ารวมซ้อนคันแล้วจะได้ 40% ความหนาแน่นลิฟท์ที่ 91:1 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์กลางๆค่อนไปทางดีสำหรับราคานี้
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 74,400 บาท/ตร.ม., 18 July 2014
- ทำเล 7.0 – 8.0/10 – คะแนนทำเลขอแบ่งเป็น 2 ส่วนเพราะสำหรับคนที่ทำงานหรือเรียนแถวประชาอุทิศถือว่าสะดวกและมีความอุดมสมบูรณ์สูง แต่ถ้าใครอยากซื้ออยู่เพื่อทำงานในเมืองจะต้องเดินทางไกลหน่อย
- เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – มีเส้นทางลัดให้เลือกเยอะ แต่รถติดไปหน่อย ห่างจากถ.ใหญ่พอสมควร
- ไม่ใช้รถ 8.0/10 – มีป้ายรถเมล์ติดกับโครงการและมีรถสาธารณะวิ่งผ่านเยอะ
- วัสดุ 7.5/10 – วัสดุให้มาตามมาตรฐานราคา
- แบบ 8.0/10 – แบบอาคารภายนอกทำมาสวย และมีการจัดวาง Facility ตามอาคารมาให้แปลกดี
- สาธารณูปโภค 8.0/10 – ได้ครบตามสมัยนิยม สระว่ายน้ำ, Fitness, ห้องสมุด และ สวนหย่อมระหว่างโครงการกับตามอาคาร
- MAIN CLASS
- 7.53 – 7.88 / 10.00
BOTTOM LINE
โครงการ Parque ประชาอุทิศ เหมาะสำหรับคนที่ทำงานหรือเรียนอยู่ในย่านนี้เพราะตัวโครงการอยู่ติดถนนพุทธบูชา และมีรถสาธารณะผ่านหลายสาย ชอบหาของกินนอกบ้านเพราะของกินแถวนี้เยอะมาก มีงบประมาณประมาณ 1.89 – 3 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 13,000 – 20,000 บาท
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ
(ノ´ヮ´)ノ*:・゚✧