PARK 168 NOPPARAT RAMINDRA (พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา) กลุ่มคอนโด High Rise บนทำเลติดถนนรามอินทรา ใกล้ MRT นพรัตน์ 550 ม. เป็นห้องสำหรับ 1-2 คน อยู่กันสบายๆ พร้อมส่วนกลางขนาดใหญ่รวมกันกว่า 5 ไร่ ถือว่าให้มาเยอะกว่าโครงการรอบข้างเลย ในราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท*

  • ส่วนกลางขนาดใหญ่ : รวมกันประมาณ 9,000 ตร.ม. หรือกว่า 5 ไร่ เน้นเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน ถือว่าให้มาเยอะกว่าโครงการรอบข้างเลยค่ะ
  • ทำเล : ติดถนนใหญ่อย่างถนนรามอินทรา ใกล้ร MRT นพรัตน์ 550 ม. ซึ่งถือเป็นระยะที่ยังเดินได้ อีกทั้งเป็นทำเลที่หาของกินได้ง่าย ใกล้ Amorini mall แบบเดินได้สบาย หรือขยับไปอีก 1 สถานีก็เป็น Fashion Island และ Promenade แล้วค่ะ
  • ใกล้ศูนย์การแพทย์หลายแห่ง : เดินไปรพ.นพรัตน์ ได้สบายๆ หรือขยับไป ตามแนวรถไฟฟ้า 2-3 สถานี ก็มี รพ.สินแพทย์ รพ.นวมินทร์ 9 เป็นต้น
  • แบบห้อง : ทุกแบบได้ครัวอยู่ติดระเบียง ระบายอากาศได้ดี ในตำแหน่งที่กั้นปิดได้ง่าย ภายในมีห้องนอนที่กั้นแยกชัดเจน ขนาด 25-34 ตร.ม. เน้นสำหรับ 1-2 คน หรืออยู่กันเป็นคู่รัก อีกทั้งห้องตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไป ก็ได้วิวโล่งแล้วค่ะ

ข้อมูลโครงการ

PARK 168 NOPPARAT RAMINDRA (พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา) ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2566

 ชื่อโครงการ  PARK 168 NOPPARAT RAMINDRA (พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา)
 ชื่อผู้ประกอบการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS  MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนนรามอินทรา เขตคันนายาว
 ที่ดิน  10-2-40 ไร่
 ประเภทคอนโด  High Rise 25 ชั้น 3 อาคาร
อาคาร A – 408 ยูนิต / อาคาร B – 408 ยูนิต / อาคาร C – 408 ยูนิต
 จำนวนยูนิต  1,224 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด  17 ยูนิต
 ที่จอดรถ  523 คัน (ไม่รวมซ้อนคัน) และคิดเป็น 42.7%
 เริ่มก่อสร้าง  ประมาณ กุมภาพันธ์ 2567
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  ประมาณ สิงหาคม 2568
 ประเภทห้องพัก
  • Studio Plus  ขนาด 25  ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม.

 ฝ้าเพดานสูง  2.6 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  1.69 ล้านบาท (Promotion)
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ 77,000 บาท/ตร.ม.
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด) N/A
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) อยู่ระหว่างการประเมิน
 เว็บไซต์โครงการ  คลิกที่นี่
 Call Center 02-689-6888

 

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.814193, 100.689948
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

PARK 168 NOPPARAT RAMINDRA (พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา) ตั้งอยู่ติดถนนรามอินทรา ใกล้ MRT นพรัตน์ 550 ม. เป็นแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงตอนปลาย ซึ่งปัจจุบันก็ใกล้จะเปิดให้ใช้งานกันเร็วๆ นี้แล้ว ทำให้มีคอนโดทยอยเกิดขึ้นในโซนนี้เยอะทีเดียว โดยคอนโดมือหนึ่งตามแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงตอนปลายในปัจจุบัน มีโปรดักส์ให้เลือกหลากหลายเลย ทั้งคอนโด High Rise และ Low Rise ทั้งแบบห้องปกติ และห้องเพดานสูงเลย ราคาเฉลี่ยอยู่ในช่วง 62,000-90,000 บาท/ตร.ม. โดยห้องเพดานสูงราคาเริ่มต้น 3.49-3.59 ล้านบาท ส่วนห้องแบบปกติราคาเริ่มต้นในช่วง 1.65-2.39 ล้านบาท

ในขณะที่ PARK 168 NOPPARAT RAMINDRA มีราคาเฉลี่ยประมาณ 77,000 บาท/ตร.ม. ถือว่าเป็นราคาที่อยู่ในช่วงกลางๆ ของคอนโดในโซนนี้ แต่ปัจจุบันเปิดตัวมาในราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท* ซึ่งเมื่อเทียบกับโครงการรอบข้างแล้ว ถือว่าจับต้องได้ไม่ยากค่ะ นอกจากนั้นจุดเด่นที่เรามองว่าแตกต่างจากโครงการรอบข้างพอสมควรเลยคือ ส่วนกลางที่ให้มาใหญ่ทีเดียว รวมกันประมาณ 9,000 ตร.ม. หรือกว่า 5 ไร่ เน้นเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน แต่ก็แลกมากกับการที่มียูนิตค่อนข้างเยอะ บรรยากาศคึกคักหน่อยค่ะ

PARK 168 NOPPARAT RAMINDRA ตั้งอยู่ติดถนนรามอินทรา ฝั่งขาออกเมือง ใกล้กับโรงพยาบาลนพรัตน์ และ Amorini mall เลยค่ะ อยู่ในโซนรามอินทราตอนปลาย การเดินทางถือว่าสะดวกเลย เนื่องจากติดถนนใหญ่ และ อยู่ใกล้ U-turn ทำให้กลับรถเข้าเมืองก็ไม่ยากค่ะ

การเดินทางเข้าเมือง จากหน้าโครงการกลับรถไปฝั่งขาเข้าเมืองแล้ว เลี้ยวซ้ายใช้เส้นรัชดา-รามอินทรา ไปออกเส้นเกษตร-นวมินทร์ วิ่งตรงต่อไปแล้วเลี้ยวเข้าเส้นเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา ใช้วิ่งตรงไปลาดพร้าว,พระราม 9, เอกมัย ได้ไม่ยากเลยค่ะ หรือจะขึ้นทางด่วนฉลองรัชจากจุดนี้ก็ได้เช่นกัน ซึ่งจุดขึ้นลงห่างจากโครงการประมาณ 8.6 กม. นอกจากนั้นยังมีทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งมีจุดขึ้นอยู่บริเวณแถวๆหน้า Fashion Island โดยเรากลับรถ แล้วตรงไปเรื่อยๆ เลี้ยวซ้ายขึ้น ทางด่วนได้เลย โดยมีระยะประมาณ 3.5 กม. ใช้เชื่อมต่อไปลำลูกกา, บางปะอิน หรือไปฝั่งบางนาก็สะดวกค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ก็ถือว่าสะดวกเลย เนื่องจากโครงการติดถนนรามอินทราที่มีรถเมล์ รถสองแถว วิ่งผ่านตลอด อีกทั้งที่ตั้งโครงการยังใกล้กับสะพานลอยข้ามไปขึ้นรถเมล์ฝั่งขาเข้าเมืองได้สะดวกเลยค่ะ นอกจากนั้นในอนาคตอันใกล้ยังมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูให้ใช้งาน โดยสถานีที่ใกล้สุดคือ MRT นพรัตน์ ในระยะ 550 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นระยะที่ยังเดินไปได้นะคะ โดยรถไฟฟ้าสายสีชมพูนี้ ปัจจุบันก็เห็นว่าเริ่มวิ่งทดสอบระบบกันแล้วด้วย คาดว่าจะเปิดให้ใช้งานภายในปี 2566 นี้แล้วค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์ ถือว่าครบครันเลย ใกล้ศูนย์การค้า Amorini mall เพียง 450 เมตร เดินได้สบายๆ ซึ่งภายในห้างมีทั้งร้านอาหารชั้นนำมากมาย รวมถึงมี Tops ให้เราได้ซื้อของใช้ ของกินต่างๆ กลับไปตุนที่บ้านกันได้ใกล้ๆเลย หรือขยับออกมาอีกหน่อยก็จะมี Makro รามอินทรา ให้ได้ตุนของสดกันอย่างจุใจไปเลยค่ะ

Image 1/4
ภาพบรรยากาศ Amorini mall ที่ภายในมีร้านอาหารชั้นนำมากมาย ทั้ง McDonald's, MK , The Pizza, Domino's Pizza หรือสายบุฟเฟ่ต์ก็มี KINGKONG BUFFET ด้วยค่ะ

ภาพบรรยากาศ Amorini mall ที่ภายในมีร้านอาหารชั้นนำมากมาย ทั้ง McDonald's, MK , The Pizza, Domino's Pizza หรือสายบุฟเฟ่ต์ก็มี KINGKONG BUFFET ด้วยค่ะ

นอกจากนั้นยังใกล้ห้าง Fashion Island และ Promenade ห้างใหญ่ของคนในย่านนี้ที่มีครบทั้ง Shopping Center, Lifestyle Mall และ ร้านอาหารชื่อดังต่างๆ เรียกได้ว่าไป 2 ห้างนี้ก็มีทุกอย่างครบเลย อีกทั้งในอนาคตหากรถไฟฟ้าเปิดให้ใช้แล้วก็ไม่จำเป็นต้องขับรถไปอย่างเดียว สามารถนั่งรถไฟฟ้าได้เลยเพียง 1 สถานีเท่านั้นค่ะ

อีกทั้งยังเป็นทำเลที่ใกล้ศูนย์การแพทย์ใหญ่หลายแห่ง ที่ใกล้โครงการเลยก็จะมีโรงพยาบาลนพรัตน์ ที่เดินไปได้เพียง 450 เมตร หรือขยับออกมาอีกหน่อยก็จะมี โรงพยาบาลสินแพทย์ โรงพยาบาลนวมินทร์ 9 ที่อยู่ในแนวรถไฟฟ้าขยับออกไป 2-3 สถานีเท่านั้น

โดยรวมแล้วสำหรับทำเลนี้ เหมาะกับคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในย่านนี้ ทำงานใกล้โซนโรงพยาบาล โซนห้าง หรือเดิมทีอยู่โซนมีนบุรี แต่ต้องการ ขยับขยายออกมาอยู่คอนโด ใกล้รถไฟฟ้า หน่อยเผื่อเดินทางไปโซนอื่นๆ ได้สะดวกในราคาที่จับต้องได้ไม่ยากค่ะ

เส้นทางการเดินทาง

การเดินทางวันนี้เราจะพาเดินไป 2 เส้นทาง คือจากโครงการไปยังสถานีรถไฟฟ้า (สีฟ้า) และอีกเส้นทางคือเดินไปยังสะพานลอยข้ามไปฝั่งขาเข้าเมือง (สีเหลือง) เพื่อต่อรถสาธารณะต่างๆ เข้าเมือง เพื่อให้เห็นภาพรวม และบรรยากาศในการใช้ชีวิตกันค่ะ

Image 1/10
จากด้านหน้าโครงการ เดินเลี้ยวขวาไปเรื่อยๆ มีทางเท้ายาวตลอดแนว ปลอดภัยดีทีเดียวค่ะ

จากด้านหน้าโครงการ เดินเลี้ยวขวาไปเรื่อยๆ มีทางเท้ายาวตลอดแนว ปลอดภัยดีทีเดียวค่ะ

  • เส้นสีฟ้า จากที่ตั้งโครงการ ไปยัง MRT นพรัตน์ ทางออก 2 ซึ่งเป็นสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุด ซึ่งเป็นระยะประมาณ 550 ม. ค่ะ

จากด้านหน้าโครงการเลี้ยวขวา เดินตรงไปตามทางเท้าได้เลยค่ะ

Image 1/3
จากหน้าโครงการ เราเดินเลี้ยวซ้ายตามทางเท้าไปเรื่อยๆ เลยค่ะ

จากหน้าโครงการ เราเดินเลี้ยวซ้ายตามทางเท้าไปเรื่อยๆ เลยค่ะ

  • เส้นสีเหลือง จากที่ตั้งโครงการเดินไปยังสะพานลอยสำหรับข้ามไปฝั่งขาเข้าเมือง เพื่อต่อรถเมล์ หรือรถสาธารณะต่างๆ เพื่อเข้าเมืองได้ เป็นระยะประมาณ 150 กม.

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

สภาพแวดล้อมโดยรอบถือว่าโล่งทีเดียวค่ะ ที่ดินโครงการด้านหน้าติดถนนรามอินทรา เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าตอนลึก การออกแบบผังอาคารเน้นเทควิว ทางด้านทิศตะวันตก และทิศตะวันออก ที่ตั้งแต่ชั้น 3 เป็นต้นไปก็ถือว่าโล่งแล้วค่ะ จะมีทิศตะวันตกซึ่งติดกับอาคารสูง 2 ชั้น ตลอดแนว ถัดมาเป็นที่ดินเปล่าขนาดใหญ่ ทำให้ในอนาคตฝั่งนี้จึงมีโอกาสที่จะเกิดอาคารสูงขึ้นได้ค่ะ ส่วนด้านหลังโครงการติดกับอาคารจอดรถของโรงพยาบาลนพรัตน์สูง 8 ชั้น แต่ก็ค่อนข้างห่างจากตัวอาคารพักอาศัย พอสมควรเลยค่ะ

  • ทิศเหนือ ติดกับอาคารจอดรถโรงพยาบาลนพรัตน์สูงแปดชั้น
  • ทิศตะวันออก ติดกับชุมชนบ้านพักอาศัยแนวราบสูงหนึ่งถึงสองฉัน
  • ทิศใต้ ติดกับถนนรามอินทราและแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู
  • ทิศตะวันตก ติดกับบริษัท Sinclair Paint สูง 2 ชั้น และที่ดินเปล่ารอการพัฒนา

มุมมองจากถนนรามอินทรามองเข้าไป ภายใน Site ที่ดินโครงการ ปัจจุบันมีรั้วล้อมโดยรอบเรียบร้อยเลยค่ะ

สำนักงานขาย

Image 1/5
บรรยากาศภายนอก สำนักงานขาย

บรรยากาศภายนอก สำนักงานขาย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Chic Republic รามอินทรา ~ 350 เมตร
  • Amorini Mall ~ 450 เมตร
  • Makro รามอินทรา ~ 800 เมตร
  • The Promenade ~ 2.3 กิโลเมตร
  • Fashion Island ~ 2.3 กิโลเมตร
  • Max Valu นวมินทร์ ~ 4.3 กิโลเมตร
  • ตลาดมีนบุรี ~ 4.5 กิโลเมตร
  • Big C สุขาภิบาล 3 ~ 6.4 กิโลเมตร
  • Market Place นวมินทร์ ~ 6.7 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

  • รพ.นพรัตน์ราชธานี  ~ 450 เมตร
  • รพ.เสรีรักษ์ ~ 2.9 กิโลเมตร
  • รพ.สินแพทย์ เสรีรักษ์ ~ 3.2 กิโลเมตร
  • รพ.นวมินทร์ 9 ~ 3.7 กิโลเมตร
  • รพ.สินแพทย์ รามอินทรา ~ 4.0 กิโลเมตร
  • รพ.เกษมราษฎร์ รามคำแหง ~ 6.3 กิโลเมตร

โรงเรียน

  • โรงเรียนบางชันปลื้มวิทยานุสรณ์ ~ 1.5 กิโลเมตร
  • โรงเรียนพณิชยการ มีนบุรี ~ 3.7 กิโลเมตร
  • โรงเรียนสุดใจวิทยา ~ 5 กิโลเมตร
  • โรงเรียนสตรีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ~ 5.5 กิโลเมตร
  • โรงเรียนเอกบูรพา วิเทศศึกษา ~ 5.7 กิโลเมตร
  • ม.เกษมบัณฑิต ~ 7.2 กิโลเมตร

สถานที่อื่นๆ

  • สวนสยาม ~ 2 กิโลเมตร
  • ปัญญาอินทรากอล์ฟคลับ ~ 5.5 กิโลเมตร
  • ซาฟารีเวิล์ด ~ 8 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

PARK 168 NOPPARAT RAMINDRA (พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา) เป็นคอนโดมิเนียม ภายใต้แบรนด์ Park 168 จาก LPN ที่เคยเปิดตัวคอนโดในแบรนด์นี้ให้ได้รู้จักมาก่อนอย่าง PARK 168 อ่อนนุช 19 ซึ่งเป็นกลุ่มคอนโดบนทำเลติดถนนใหญ่เช่นเดียวกัน โดยครั้งนี้ PARK 168 NOPPARAT RAMINDRA มาในรูปแบบกลุ่มคอนโด High Rise เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดย่านรามอินทรา ติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า แบบเดินไปได้ไม่ยาก ในราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท* หรือประมาณ 77,000 บาท/ตารางเมตร

*ภาพจำลองใช้เพื่องานโฆษณาเท่านั้น โครงการที่ส่งมอบอาจมีรายละเอียดบางประการที่เปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม

การออกแบบโครงการภายใต้แนวคิด ‘Nodic Well-being Philosoph’ ได้แรงบันดาลใจมาจากสภาพแวดล้อมที่มีสุขภาวะที่ดีทั้งร่างกาย และจิตใจ จากกลุ่มประเทศ Nordic ที่ถูกจัดอันดับให้ประชากรมีความสุขอันดับต้นๆ ของโลก โดยทางโครงการยอมลดพื้นที่ขายบางส่วน เพื่อให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวมากขึ้น มีสวนขนาดใหญ่หลายจุดพร้อมส่วนกลางหลากหลาย รวมกันทั้งหมด 9000 ตร.ม. หรือกว่า 5 ไร่ ซึ่งถือว่าใหญ่กว่าโครงการรอบข้างเลยค่ะ

Image 1/2
Master Plan : PARK 168 NOPPARAT RAMINDRAPARK 168 NOPPARAT RAMINDRA

Master Plan : PARK 168 NOPPARAT RAMINDRAPARK 168 NOPPARAT RAMINDRA

PARK 168 NOPPARAT RAMINDRA เป็นกลุ่มคอนโด High Rise 25 ชั้น 3 อาคาร ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 10 ไร่ครึ่ง จำนวนห้องพักอาศัยรวม 1,224 ยูนิต ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่ทีเดียว มีทางเข้า-ออก อยู่ติดถนนรามอินทรา เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับส่วน Shop 4 ร้าน ซึ่งสำหรับคนนอกก็สามารถเข้ามาที่ส่วนนี้ได้ด้วย ถัดเข้าไปโซนด้านใน จึงเป็นพื้นที่ของลูกบ้าน ซึ่งเป็นอาคารพักอาศัย A B C เรียงกันตามแนวยาวที่ดินโดยแต่ละอาคาร มีจำนวนยูนิตเท่ากัน 408 ยูนิตต่ออาคาร ส่วนการวางผังก็คล้ายกันมากทีเดียว ต่างกันที่รายละเอียดของแปลนบางส่วนเท่านั้น

ส่วน Facilities ส่วนใหญ่อยู่ชั้น 1 ของแต่ละอาคาร และบนชั้น 8 อาคารจอดรถ นอกจากนั้นแต่ละอาคารมี Lobby, Mailbox และ Drop off Delivery แยกเป็นของแต่ละอาคารเลย สะดวกต่อการใช้งานดีเลยนะ

มาดูโมเดลจำลองบรรยากาศในโครงการกันบ้าง ด้านหน้าสุดเป็นร้านค้า รูปแบบอาคารพาณิชย์ เป็นพื้นที่เช่าของ LPN คาดว่าในอนาคตจะมีร้านสะดวกซื้อ ร้านค้า และบริการต่างๆ อำนวยความสะดวกให้แก่ลูกบ้าน ส่วนจะเป็นเจ้าไหนนั้นต้องรอข้อมูลจากโครงการกันอีกหน่อยค่ะ

ถัดเข้ามาเป็นอาคาร A ซึ่งอาคารนี้ก็จะเหมาะกับคนที่ต้องการห้องเข้าถึงง่าย อยู่ใกล้ทางเข้า-ออก ถัดเข้ามาเป็นอาคาร B อาคารจอดรถ และอาคาร Cโดย 3 อาคารนี้จะเชื่อมต่อกันที่ชั้น 8 ซึ่งตรงกับชั้นส่วนกลางที่อาคารจอดรถพอดี ทำให้อาคาร B และ C จะเหมาะสำหรับคนที่อยากได้ความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น เข้าถึงใช้พื้นที่ส่วนกลางได้ง่าย อาจจะไม่ต้องการเดินเข้า-ออกบ่อยๆ ใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก สำหรับที่จอดรถเป็นแบบปกติทั้งหมด 523 คัน (ไม่รวมซ้อนคัน) หรือคิดเป็น 42.7% ซึ่งถือว่าไม่เยอะมาก แต่ก็โอเคสำหรับโครงการที่เดินไปรถไฟฟ้าได้ไม่ยาก ติดถนนใหญ่เรียกใช้รถสาธารณะได้ง่าย

แยกทางเดินรถ และทางคนเดินออกจากกันชัดเจน การวางผังทางเดินรถจะเห็นได้ว่า เมื่อผ่านโซนร้านค้าไปแล้ว จะแยกส่วนทางเดินคน และทางเดินรถออกจากกันชัดเจนเลย ได้ความปลอดภัยดี นอกจากนั้นคนที่ต้องเดินเข้า-ออกเป็นประจำก็จะได้ผ่านสวนทุกครั้ง สร้างบรรยากาศที่ดีต่อผู้อยู่อาศัย จะมีทาง Cross กันเล็กน้อยตรงโซนร้านค้าก่อนเข้ามายังโซนพักอาศัยเท่านั้นค่ะ

มาดูรายละเอียดของผังโครงการโซนด้านหน้ากันค่ะ ทางเดินรถภายในโครงการเป็นแบบสวนกัน เมื่อเข้ามาโซนแรกเป็นส่วนของร้านค้า ซึ่งคนนอกก็จะเข้าใช้ยังส่วนนี้ได้ด้วยเช่นกัน ถัดเข้ามาด้านในจึงเป็นโซนเฉพาะของลูกบ้าน ซึ่งจะต้องใช้ระบบ Keycard access ในการเข้าออก เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับอาคาร A ซึ่งชั้น 1 มีส่วนกลางที่เน้นเป็นพื้นที่นั่งเล่นนั่งพักผ่อน Outdoor Living และ Living Lounge ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่จอดรถในที่ร่ม ซึ่งชั้นหลังคาของพื้นที่จอดรถนี้ออกแบบไว้เป็นพื้นที่สีเขียวเต็มพื้นที่เลยค่ะ

หากเดินเข้ามาจากทางด้านหน้าโครงการสวนส่วนแรกเราจะเจอกับ Urban Forest Living Yard เป็นทางเดิน แทรกกับสนามหญ้า พร้อมกับมี พื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน อยู่กลางบ่อน้ำ นั่งเล่นพักผ่อนหลังจากกลับมาจากทำงานกันได้เลย จากนั้นจะเดินผ่าน Cabin Playground สนามเด็กเล่นที่อยู่ติดกับสวน Urban Roof Forest Park เป็นพื้นที่สีเขียวบนหลังคาที่ออกแบบเป็นทางเดินสโลป ให้เดินขึ้นไปกันได้ง่าย ดูเป็นเนินหญ้าสวยๆ กลางโครงการ ดูร่มรื่นดีเลยค่ะ

Urban Roof Forest Park สวนบนหลังคาขนาดใหญ่ ภายในออกแบบเป็นทางเดิน และมี Pavilion ให้นั่งเล่นได้เป็นส่วนตัวอยู่หลายจุด โดยสามารถใช้งานเชื่อมต่อกับสวนส่วนอื่นๆได้จากทางเดินสโลป ทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องกันดี หากมองมาจากทางส่วนก็ดูเป็นเนินหญ้า ที่มีต้นไม้ และศาลาพักผ่อน ดูบรรยากาศดีเลยค่ะ

*ภาพจำลองใช้เพื่องานโฆษณาเท่านั้น โครงการที่ส่งมอบอาจมีรายละเอียดบางประการที่เปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม

ภาพจำลองบรรยากาศ Urban Roof Forest Park ที่ภายในมีการออกแบบ Pavilion โดนใช้รูปทรงหลังคา Nordic cabin ได้บรรยากาศ Camping ดูผ่อนคลายดีเลยค่ะ

*ภาพจำลองใช้เพื่องานโฆษณาเท่านั้น โครงการที่ส่งมอบอาจมีรายละเอียดบางประการที่เปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม

ภายในสวนมีการลงไม้ยืนต้น และไม้พุ่มเอาไว้ตลอดแนว ดูร่มรื่น น่ามานั่งเล่นพักผ่อนดีเลยค่ะ

ถัดเข้ามาโซนด้านใน สวนโซนนี้มีพื้นที่นั่งเล่นอยู่อีกหลายจุด เพราะมีสนามหญ้าและทางเดิน ที่สามารถวิ่งจ๊อกกิ้งออกกำลังกายหรือเดินเล่นกันได้ นอกจากนั้น ที่น่าสนใจคือมี Skate park สำหรับใครที่ชอบกีฬา Outdoor ที่นี่ก็มีลาน Skate รองรับอยู่ด้วย และพื้นที่สวน Passive zone สำหรับพักผ่อน มีต้นไม้ใหญ่และทางเดินอยู่โดยรอบเลยค่ะ

อาคาร B ส่วนกลางที่ชั้น 1 มีพื้นที่นั่งเล่น Outdoor Living และ Living Lounge ด้วยเช่นกัน แต่ที่พิเศษเพิ่มมาคือ Massage Lounge ห้องนวด ที่เราสามารถจ้างผู้ให้บริการนวดต่างๆจากข้างนอกมาให้บริการที่นี่กันได้ (โปรดสอบถามข้อมูลจากโครงการอีกครั้ง*)

อาคารจอดรถ 8 ชั้น ตั้งอยู่ระหว่าง 2 อาคาร โดยชั้น1-7 เป็นชั้นจอดรถแบบปกติทั้งหมด ส่วนชั้น 8 เป็นชั้นส่วนกลาง พร้อมทางเดินเชื่อมไปยังอาคาร B และ C ฉะนั้นลูกบ้านที่พักสองอาคารนี้ จอดรถที่อาคารตรงนี้ก็จะสะดวกสุด สามารถเดินเชื่อมไปยังห้องพักของตัวเองได้ง่าย นอกจากนั้นส่วนนิติบุคคลก็อยู่ที่ ชั้นล่างของอาคารจอดรถนี้ด้วยเช่นกัน หากมีธุระมาติดต่อก็สะดวกดีเลยค่ะ

อาคาร C ส่วนกลางที่ชั้น 1 จะมีพื้นที่รองรับการทำงาน อย่าง Co Working และมุมอ่านหนังสือ Book Corner ใครทำงานอยู่ห้องแล้วอยากเปลี่ยนบรรยากาศก็มาใช้บริการกันได้ นอกจากนั้นยังมี Semi-Outdoor Yoga พื้นที่ที่เรามาเล่นโยคะ พร้อมเทควิวสวนขนาดใหญ่กันได้ด้วยค่ะ

มาดูสวนด้านในกันบ้าง ออกแบบเป็น  Passive Zone เน้นเป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ มี Circular Forest Terrace และ Gathering Leisure Lounge ที่ออกแบบไว้เป็นพื้นที่นั่งเล่น Sunken seat กลางสวน สำหรับกลุ่มเล็กกลุ่มใหญ่เอาไว้หลายจุดเลย นอกจากนั้นด้านในสุดมี The Serene Forest เป็นสวนขนาดใหญ่ ลงไม้ยืนต้นเอาไว้เยอะ พร้อมทางเดินแนวโค้ง และ The Spiral Treetop Walkway ทางเดินโค้งเกลียว รอบต้นไม้ให้เราได้เดินเล่นพักผ่อนกันได้

*ภาพจำลองใช้เพื่องานโฆษณาเท่านั้น โครงการที่ส่งมอบอาจมีรายละเอียดบางประการที่เปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม

The Spiral Treetop Walkway ที่ออกแบบเป็นทางเดินโค้งเกลียว ล้อมรอบต้นไม้เอาไว้ สามารถมาเดินเล่นพักผ่อนกันได้ ดูสวยงามสร้างบรรยากาศที่แปลกตาให้กับสวนดีเลยนะ

 

อาคารจอดรถ ชั้น 8

มาดูผังชั้น 8 ของอาคารจอดรถกันบ้างค่ะ โดยอาคารนี้ชั้นหนึ่งถึงเจ็ดจะเป็นที่จอดรถทั้งหมด ส่วนชั้นแปดเป็นพื้นที่ส่วนกลางประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำ และฟิตเนสขนาดใหญ่พร้อมทั้งมีสวนหย่อม และพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนอยู่อีกหลายจุด นอกจากนั้นที่ชั้นนี้ยังมีห้องน้ำแยกชายหญิงที่ภายในมีห้องอาบน้ำมาให้ด้วย พร้อมทั้งมีห้องน้ำสำหรับผู้พิการมาให้ครบเลย โดยอาคารจอดรถจะมีลิฟต์รองรับอยู่ 2 ตัว ลูกบ้านกฎขึ้นมายังชั้น 8 ได้สะดวกเลยค่ะ

โมเดลจำลองอาคารจอดรถ 8 ชั้น ซึ่งชั้นดาดฟ้าของอาคารนี้เป็นพื้นที่ส่วนกลาง อย่าง สระว่ายน้ำ และ Fitness ซึ่งหันเทควิวทางด้านทิศตะวันออกซึ่งได้วิวโล่งกว้าง อีกครั้งที่ชั้นนี้ยังมีทางเดินเชื่อมไปยังอาคาร B และ C ได้ด้วย ฉะนั้นใครที่ชอบออกกำลังกาย อยากได้ห้องพักใกล้ส่วนกลาง ห้องชั้น 8 ของทั้งสองอาคารนี้ตอบโจทย์เลยค่ะ

*ภาพจำลองใช้เพื่องานโฆษณาเท่านั้น โครงการที่ส่งมอบอาจมีรายละเอียดบางประการที่เปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม

ภาพจำลองบรรยากาศ บริเวณสระว่ายน้ำ บนชั้นดาดฟ้าอาคารจอดรถ ซึ่งมีขนาดเท่า Half Olympic ยาว 30 เมตร ทำให้สามารถใช้ว่ายออกกำลังกายได้จริงจังเลยค่ะ พร้อมด้านข้างมีการออกแบบเป็นสวนและพื้นที่พักผ่อนโดยรอบ ดูบรรยากาศดีทีเดียว


ชั้นพักอาศัย

 

ชั้นพักอาศัยของทุกอาคารเริ่มต้นแต่ชั้น 2 – 25 โดยการวางผังห้องพักอาศัยของแต่ละอาคารมีความใกล้เคียงมากทีเดียว อาคาร A และ B เหมือนกันเลย ส่วนอาคาร C จะ Flip ซ้าย-ขวา โดยปัจจุบันเปิดขายเฉพาะอาคาร  B และ C ตั้งแต่ชั้นล่างๆ ไปจนถึงชั้นสูงๆ เลยค่ะ

 

Image 1/3
Typical Floor Plan ผังชั้นพักอาศัย อาคาร A

Typical Floor Plan ผังชั้นพักอาศัย อาคาร A

Typical Floor Plan ของทั้ง 3 อาคาร ออกแบบให้ห้องพักเน้นเทควิวทางด้านทิศตะวันออก และตะวันตก ซึ่งได้วิวค่อนข้างดี ตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไปก็วิวเมืองโล่งทั้งหมดทั้งหมดแล้วค่ะ ผังอาคารเป็นแบบ Double corridor มีห้องพักสองฝั่ง  ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 17 ยูนิตไม่เยอะมาก ส่วนลิฟต์มีอาคารละ 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 204: 1 ถือว่าค่อนข้างสูงทีเดียว ในช่วงเวลาเร่งด่วนอาจต้องเผื่อเวลาในการรอลิฟต์สักหน่อยค่ะ

ส่วนการวางผังของห้องก็มีหลายประเด็นที่น่าสนใจ ขอสรุปดังนี้

  • Studio Plus ขนาด 25 ตร.ม. (สีน้ำตาล) เทควิวทิศตะวันตกทั้งหมด เป็นทิศที่ช่วงเช้าจะไม่ได้แดด จึงไม่รบกวนการนอนในช่วงเช้า เหมาะกับผู้อยู่อาศัยที่ชอบตื่นสาย แต่จะได้รับแสงแดดช่วงบ่ายซึ่งค่อนข้างแรง แต่ก็จะได้ลมค่อนข้างดีด้วยส่วนตำแหน่งที่น่าสนใจคือ ห้องในเส้นประสีแดง เป็นห้องที่ติดเพื่อนบ้านฝั่งเดียว และไม่ติดโถงลิฟต์ ได้ความเป็นส่วนตัวค่อนข้างดีเลย
  • 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม. (สีเทา) เป็นห้องที่ส่วนใหญ่เทควิวทิศตะวันออก ซึ่งเป็นทิศที่ในตอนเช้าจะได้รับแสงแดดอ่อนๆ ทำให้ตื่นง่าย เหมาะกับผู้อยู่อาศัยที่ชอบตื่นเช้า แต่ช่วงเวลาใกล้เที่ยงก็จะร้อนพอสมควร ส่วนช่วงเวลาบ่ายก็จะร่มตลอดเลยค่ะ เหมาะสำหรับใครอยู่บ้านเป็นประจำ ห้องฝั่งนี้ก็จะค่อนข้างอยู่สบายค่ะส่วนตำแหน่งที่น่าสนใจคือ ห้องในเส้นประสีเขียว เป็นห้องที่ติดเพื่อนบ้านฝั่งเดียว และไม่ติดโถงลิฟต์ ได้ความเป็นส่วนตัวค่อนข้างดี ส่วนห้องในเส้นประสีน้ำเงิน คือห้องที่ไม่ติดโถง และไม่ติดลิฟต์เพื่อนบ้านเลยด้วย ได้ความเป็นส่วนตัวดีค่ะ

 

อาคาร A

Image 1/2
ผังชั้นพักอาศัย ชั้น 2-4 อาคาร A

ผังชั้นพักอาศัย ชั้น 2-4 อาคาร A

อาคาร B

Image 1/3
ผังชั้นพักอาศัย ชั้น 2-4 อาคาร B

ผังชั้นพักอาศัย ชั้น 2-4 อาคาร B

อาคาร C

Image 1/3
ผังชั้นพักอาศัย ชั้น 2-4 อาคาร C

ผังชั้นพักอาศัย ชั้น 2-4 อาคาร C

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

อาคาร A  ชั้น 1

  • Outdoor Living
  • Living Lounge

อาคาร B ชั้น 1

  • Outdoor Living
  • Living Lounge
  • Massage Lounge
  • ทางเดินเชื่อมไปยังส่วนกลางชั้น 8 อาคารจอดรถ

อาคาร C ชั้น 1

  • Book Corner
  • Co Working
  • Semi-Outdoor Yoga
  • ทางเดินเชื่อมไปยังส่วนกลางชั้น 8 อาคารจอดรถ

อาคารจอดรถ ชั้น 8

  • Fitness
  • สระว่ายน้ำ (เป็นระบบน้ำเกลือ / ยาว 30 ม. Half Olympic)

สวนหย่อม รวมกันประมาณ 9,000 ตร.ม. หรือกว่า 5 ไร่

  • Urban Forest Living Yard
  • Cabin Playground
  • Nordic Wellness Hub
  • Skate Park
  • Circular Forest Terrace
  • Gathering Leisure Lounge
  • The Serene Forest
  • The Spiral Treetop Walkway
  • Drop off Delivery
  • Vending Machine
  • Semi-Outdoor Yoga
  • Lobby (แยกกันเป็นของแต่ละอาคาร)
  • Mailbox (แยกกันเป็นของแต่ละอาคาร)
  • Drop off Delivery (แยกกันเป็นของแต่ละอาคาร)
  • Vending Machine (แยกกันเป็นของแต่ละอาคาร)
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 204: 1
  • Service Lift 1 ตัว/อาคาร
  • ที่จอดรถ 523 คัน (ไม่รวมซ้อนคัน) และคิดเป็น 42.7%
  • ประตูทางเข้า-ออกโครงการ ระบบ Keycard Access ไม้กระดก 2 จุด มีที่ซุ้มทางเข้าด้านหน้า และ อีกจุดตรงบริเวณทางเข้าใกล้ตัวอาคาร
  • ระบบในการเข้า-ออก (เดินเข้าออก ขึ้นลงอาคาร) Keycard Access
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV

 

แบบห้อง

PARK 168 NOPPARAT RAMINDRA (พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา) มีโปรดักส์ให้เลือก 2 แบบ เน้นเป็นห้องสำหรับอยู่กัน 1-2 คน หรืออยู่กันเป็นคู่รักได้สบายๆ จุดเด่นคือ ทุกแบบได้ครัวอยู่ติดระเบียง ระบายอากาศได้ดี อีกทั้งอยู่ในตำแหน่งที่กั้นปิดเพิ่มเติมได้ง่าย ภายในมีห้องนอนที่กั้นแยกจากส่วนนั่งเล่นชัดเจน ด้วยประตูกระจกบานเลื่อน เป็นสัดส่วน ขนาดตั้งแต่ 25-34 ตร.ม. ดังนี้

  • Studio Plus ขนาด 25 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม.

วัสดุภายในห้อง

  • พื้นห้อง SPC ลายไม้
  • พื้นครัว และระเบียง ปูกระเบื้องเซรามิก 30×30 ซม.
  • พื้น และผนัง ห้องน้ำ ปูกระเบื้องแกรนิตโต 60×60 ซม.
  • ผนังก่ออิฐมวลเบา ฉาบปูนเรียบทาสีขาว
  • ชุดครัว ท็อปลามิเนต, เตาไฟฟ้า 2 หัว, ที่ดูดควัน ระบบหมุนเวียน, ชุดอ่างล้างจานสี่เหลี่ยม 1 ช่อง จาก Teka
  • โถสุขภัณฑ์, ที่อาบน้ำ Rain shower และ Hand shower จาก Hafele/ อ่างล้างหน้า จาก Cotto / ฉากกั้นอาบน้ำกระจก Temper จาก Charmer
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานสูง 2.6 ม. ฝ้าฉาบเรียบทาสีขาว
  • ปลั๊กและสวิตช์ ยี่ห้อ Haco

รูปแบบการขาย Fully Fitted ได้เฟอร์นิเจอร์บางส่วน และเครื่องใช้ไฟฟ้า

  • ตู้เสื้อผ้า Built-in
  • ฐานเตียง 5 ฟุต
  • แอร์ Wall Type 2 ตัว ขนาด 9,200 BTU และ 13,000 BTU จาก Daikin หรือเทียบเท่า
  • เครื่องทำน้ำอุ่น ยี่ห้อ STIEBEL ELTRON หรือเทียบเท่า
  • Digital door lock ยี่ห้อ N/A
  • IOTเป็น Application ควบคุมการทำงานเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในห้อง
  • Internet ฟรี 1 ปี
  • เตาแม่เหล็กไฟฟ้า พร้อมเครื่องดูดควันแบบหมุนเวียน ระบบฟิลเตอร์

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ


Studio Plus ขนาด 25 ตร.ม.

Studio Plus ขนาด 25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท* เป็นห้องขนาดเริ่มเต้น เหมาะสำหรับอยู่อาศัย 1-2 คน ซึ่งมีการจัดฟังก์ชันที่น่าสนใจหลายจุด สรุปได้ดังนี้

  • ห้องนอนกั้นแยกเป็นสัดส่วน ถึงจะเรียกว่าห้องสตูดิโอ แต่ภายในมีห้องนอนกั้นแยกชัดเจน ด้วยประตูกระจกบานเลื่อน คล้ายห้อง 1 Bedroom เลย เพียงแต่ห้องนอนจะมีขนาดที่กะทัดรัดหน่อย 2.25×2.75 ซึ่งไม่ถึง 9 ตร.ม. ทำให้ ตามกฎหมายแล้วไม่สามารถเรียกว่าห้องนอนได้นั่นเอง  แต่ในแง่ของการใช้งาน ห้องนอนที่กั้นแยกแบบนี้ ก็ดูเป็นสัดส่วนดี หากอยู่กันสองคนก็สามารถใช้งานห้องนอน ห้องนั่งเล่น พร้อมกันทั้งสองฟังก์ชันได้ อีกทั้งช่วยให้ประหยัดแอร์ด้วยค่ะ
  • ครัวติดระเบียง กั้นปิดได้ง่าย ตำแหน่งครัวอยู่ติดระเบียงทำให้สามารถเปิดระบายอากาศได้ง่าย หรือสำหรับใครที่ทำอาหารจริงจังห้องนี้ก็สามารถกั้นปิดด้วยประตูเพิ่มเติมได้ง่ายค่ะ
  • Living area จัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น+ทานอาหาร ได้พอดีๆ อีกทั้งได้แสงธรรมชาติผ่านจากห้องนอน และห้องครัว ดูโปร่งดีเลยค่ะ
  • ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ Built in เต็มผนัง ดูเรียบร้อย กว้าง 1.8 เมตร อยู่ระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำใช้งานได้สะดวกต่อเนื่องกันดี

Image 1/2
Living area ภายในห้อง Studio Plus ขนาด 25 ตร.ม.

Living area ภายในห้อง Studio Plus ขนาด 25 ตร.ม.

เมื่อเข้ามาแล้วส่วนแรกเป็น Living area เชื่อมต่อกับห้องครัว และห้องนอนทำให้ได้ แสงธรรมชาติค่อนข้างดี  โดยระยะตรงนี้กว้างประมาณ 2.2 เมตร วางโซฟาฝั่งหนึ่ง และคอนโซลวางทีวีฝั่งหนึ่งแล้วจะเหลือพื้นที่เดินผ่านได้พอดีๆ

สำหรับวัสดุภายในห้องนี้พื้นเป็น SPC ลายไม้ ซึ่งมีความทนทานต่อความชื้น น้ำ และทนไฟได้ รับแรงกระแทกได้ดี ไม่ลื่น ไม่ยืดหดตามสภาพแวดล้อมมากเท่าไวนิล ส่วนผนังฉาบเรียบทาสีขาว ระยะฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร ดูโปร่งดีเลย ส่วนประตูทางเข้าห้องขนาด 90×200 ซม. ตามมาตรฐาน พร้อมติดตั้ง Digital door lock มาให้ทุกห้องเลยค่ะ

เมื่อเข้าห้องมาสวิตช์ไฟจะอยู่ข้างประตูพอดี ใช้งานได้สะดวก โดยปลั๊กและสวิตช์ภายในห้องใช้ของ Haco หน้าตาแบบนี้เลยค่ะ

พื้นที่นั่งเล่นตรงนี้วางเป็นโซฟาสตูล 2-3 ที่นั่งแล้วจะมีระยะพอดีกับประตูเลย ซึ่งหากวางโต๊ะกลางแล้วอาจจะเกะกะเวลาเดินผ่านไปมาได้ แนะนำเป็นโต๊ะน้ำชา c-shape เล็กๆวางควบคู่กันได้ หรือจะวางเป็นโต๊ะด้านข้าง แบบในห้องตัวอย่างนี้ได้ ส่วนระยะดูทีวีตรงนี้จะติดตั้งขนาด 46 นิ้วได้ค่ะ

ภายในห้องตัวอย่างจัดวางเป็นโซฟาสตูล 2 ที่นั่ง ใช้งานร่วมกันกับ dining table ด้านข้าง หากอยู่กัน 2 คน คนหนึ่งก็นั่งเก้าอี้ อีกคนหนนึ่งก็นั่งโซฟา ทานข้าวร่วมกันได้ หรือจะหาเก้าอี้อีกสักตัวนั่งหันหน้าเข้ากำแพง กรณีมีแขกมาก็ยังได้ ใช้เป็นไอเดียในการตกแต่งเพิ่มเติมได้ค่ะ

Image 1/2
Living area ภายในห้อง Studio Plus ขนาด 25 ตร.ม.

Living area ภายในห้อง Studio Plus ขนาด 25 ตร.ม.

ด้านหลังของส่วนนั่งเล่นเป็นห้องน้ำ ซึ่งประตูทางเข้า จะอยู่บริเวณกลางห้อง เข้าถึงได้สะดวกจากทุกส่วนในห้องเลย

Image 1/2
ห้องน้ำภายในห้อง Studio Plus ขนาด 25 ตร.ม.

ห้องน้ำภายในห้อง Studio Plus ขนาด 25 ตร.ม.

ห้องน้ำ แยกโซนเปียกโซนแห้งชัดเจน จัดฟังก์ชันเรียงลำดับตามการใช้งาน พร้อมทั้งติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกมาให้เรียบร้อย ใช้งานได้สะดวกดีเลยค่ะ

Image 1/2
สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ

สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ

อ่างล้างมือเป็นแบบสี่เหลี่ยม จาก Cotto ด้านหลังมีผนัง Low wall วางของได้ตลอดแนว พร้อมกระจกเงาขนาดใหญ่ ส่วนโถสุขภัณฑ์เป็นของ Hafele ค่ะ

Image 1/3
พื้นที่อาบน้ำ

พื้นที่อาบน้ำ

ที่อาบน้ำมีขนาด 0.90×1.1 เมตร ยืนอาบน้ำได้สบาย พร้อมติดตั้ง ฉากกั้นอาบน้ำกระจก Tampered จาก Charmer ภายในได้ที่อาบน้ำทั้ง Rain shower และ Hand shower แบบมีที่วางสบู่เล็กๆตรงกลาง จาก Hafele พร้อมติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ครบ ยี่ห้อ STIEBEL ELTRON หรือเทียบเท่า

มาต่อกันที่โซนด้านไหนกันบ้างช่องประตูซ้ายมือเชื่อมต่อกับห้องครัวส่วนประตูทางด้านขวามือ เป็นประตูกระจกบานเลื่อนสลับไปยังห้องนอนค่ะ ซึ่งตรงนี้จะเห็นได้ว่า ทางโครงการจะไม่ได้ติดตั้งประตูมาให้ แต่ใครที่ทำอาหารเป็นประจำ อยากกันแยกพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนขึ้น ก็ติดตั้งประตูเพิ่มเติมได้ง่ายเลยค่ะ ทางโครงการทำเป็นช่องประตูเอาไว้ให้เรียบร้อยเลย

มาดูโซนห้องครัวกันก่อนค่ะ  เป็นห้องครัวที่อยู่ติดระเบียง สามารถเปิดระบายอากาศได้ง่าย ภายในห้องครัวจะได้เคาน์เตอร์ครัวขนาดใหญ่ ยาวเต็มพื้นที่เลย ทำให้ต้องวางตู้เย็นด้านหน้าทางเข้า ซึ่งก็มีข้อดีคือ เข้าถึงได้ง่ายทั้งจากห้องครัวและห้องนั่งเล่นเวลานั่งดูทีวีอยู่ จะเดินมาหยิบน้ำหยิบขนมในตู้เย็นก็ได้ใกล้ๆเลย

โดยห้องครัวมีขนาด 1.70×1.50 เมตร ส่วนระยะหน้าเคาน์เตอร์ครัวจะเหลือประมาณ 90 ซม. เดินผ่านไปมาได้สบาย

ชุดครัวกว้าง 1.6 เมตร ได้ทั้งเคาน์เตอร์ครัวด้านล่าง และตู้เก็บของด้านบน แบบมีหน้าบานปิดมาแบบนี้เลย เก็บของได้ดูเรียบร้อยเป็นระเบียบดี ส่วนพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิกทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ

Image 1/2
เคาน์เตอร์ครัวภายในห้อง Studio Plus ขนาด 25 ตร.ม.

เคาน์เตอร์ครัวภายในห้อง Studio Plus ขนาด 25 ตร.ม.

พื้นที่บนเคาน์เตอร์กว้าง 1.2 เมตร  มีพื้นที่สำหรับล้างจานทำอาหารเตรียมอาหารได้พอดีๆ สำหรับท็อปครัว และ Backsplash เป็นลามิเนต ซึ่งอายุการใช้งานจะสั้นกว่าหินจริง หรือหินสังเคราะห์ จึงไม่ควรสับหรือทำอาหารบนพื้นผิวลามิเนตโดยตรง พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ครัวจาก TEKA มีเตาไฟฟ้า 2 หัว, ชุดอ่างล้างจานสี่เหลี่ยม 1 ช่อง และที่ดูดควันเป็นแบบหมุนเวียน หากทำอาหารกลิ่นแรงๆ ก็อาจต้องเปิดประตูระเบียงช่วยหน่อยค่ะ

Image 1/2
เคาน์เตอร์ครัวภายในห้อง Studio Plus ขนาด 25 ตร.ม.

เคาน์เตอร์ครัวภายในห้อง Studio Plus ขนาด 25 ตร.ม.

เคาน์เตอร์ครัวด้านล่าง มีบอร์ดรองหั่น ท็อปเป็นไม้ ใช้เป็นเขียงได้ เป็นการเพิ่มพื้นที่ทำอาหารได้มากยิ่งขึ้น พร้อมมีลิ้นชักเก็บช้อนส้อม และพื้นที่ใต้อ่างล้างจาน เป็นช่องขนาดใหญ่เหมาะกับการเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด และถังขยะสำหรับทิ้งเศษอาหารค่ะ

Image 1/2
ชั้นเก็บของภายในห้องครัว

ชั้นเก็บของภายในห้องครัว

ส่วนชั้นเก็บของด้านบน จะมีช่องวางไมโครเวฟมาให้ด้วย ช่วยประหยัดพื้นที่บนเคาน์เตอร์ครัวไปได้เยอะเลยค่ะ

ด้านข้างมีชั้นเก็บของมาให้อีกชุดหนึ่ง ด้านบนเป็นชั้นกว้างๆ วางหม้อ กระทะต่างๆ ได้สะดวก ด้านล่างเป็นชั้นวางขวดซอส เครื่องปรุงต่างๆ ได้เยอะเป็นสัดส่วนดีค่ะ

ระเบียงขนาด 1.4×0.90 เมตร พร้อมวางระบบรองรับการติดตั้งเครื่องซักผ้า และมีปลั๊กไฟพร้อมหน้ากากกันน้ำมาให้ครบ แนะนำให้ใช้ราวตากผ้าแบบยึดผนัง จะช่วยประหยัดพื้นที่ได้มากขึ้น สำหรับวัสดุพื้นระเบียงจะใช้เป็นกระเบื้องเซรามิก ทำความสะอาดได้ง่าย และมีไฟที่ผนังมาให้ 1 จุด ส่วนด้านบนแขวน Condensing units และติดตั้ง Grill เปลี่ยนทิศทางลมร้อน ให้พ่นออกนอกอาคาร

กลับมาดูส่วน ห้องนอนกันบ้างพื้นที่ดันหน้าห้อง เราจะได้ตู้เสื้อผ้า Built in เต็มผนังมาให้แบบนี้ ดูเรียบร้อยดี อีกทั้งยังอยู่ หน้าห้องน้ำใช้งานได้ต่อเนื่องกันดีค่ะ

ตู้เสื้อผ้ามีขนาดกว้าง 1.8 เมตร ภายในมี ที่แขวนเสื้อผ้า ช่องเก็บกระเป๋า และลิ้นชักเก็บถุงเท้าชุดชั้นในได้เป็นสัดส่วนดีเลยค่ะ

Image 1/3
ห้องนอนภายในห้อง Studio Plus ขนาด 25 ตร.ม.

ห้องนอนภายในห้อง Studio Plus ขนาด 25 ตร.ม.

ห้องนอนมีขนาดกะทัดรัดหน่อย หน้ากว้าง 2.25 เมตร ลึก 2.75 เมตร ภายในห้องจะได้ฐานเตียงมาด้วย Built in เต็มผนังด้านหนึ่งแบบนี้เลย โดยมีระยะเหลือหน้าเตียงกว้างประมาณ 1 เมตร สามารถวางโต๊ะหัวเตียงเพิ่มเติมได้ค่ะ ซึ่งการดีไซน์พื้นที่ห้องนอนแบบนี้ อาจจะเปลี่ยนผ้าปูยากสักหน่อย แต่ก็แลกมา กับพื้นที่ใช้สอย ในส่วนอื่นๆที่กว้างขึ้นค่ะ

ภายในห้องนี้เราจะได้ฐานเตียง Built in เต็มผนังมาด้วย แต่จะไม่ได้ส่วนโต๊ะหัวเตียง และไฟซ่อนนะคะ ได้ในเฉพาะเส้นประที่เราทำเอาไว้ให้ค่ะ


 

1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม.

1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม. เป็นห้องไซส์ใหญ่ ที่ห้องส่วนใหญ่เทควิวทางด้านทิศเหนือซึ่งร่มเกือบทั้งวัน เหมาะต่อการอยู่อาศัย เป็นห้องที่อยู่ 2 คน หรืออยู่กันเป็นคู่รักได้สบายๆ ส่วนการจัดฟังก์ชันที่น่าสนใจ มีดังนี้

  • ครัวติดระเบียง กั้นปิดได้ง่าย ตำแหน่งครัวอยู่ติดระเบียงทำให้สามารถเปิดระบายอากาศได้สะดวก สำหรับ ใครที่ทำอาหารจริงจังห้องนี้ก็สามารถกั้นปิดด้วยประตูเพิ่มเติมได้ง่ายค่ะ
  • Living area จัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น + ทานอาหาร อยู่ได้ในพื้นที่เดียว อีกทั้งได้แสงธรรมชาติผ่านจากห้องนอน และห้องครัว ดูโปร่งดีเลยค่ะ
  • มีพื้นที่อเนกประสงค์ ระหว่างห้องน้ำและห้องนอน สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งทำงานได้จริงจังเลยค่ะ
  • ห้องนอนแยกเป็นสัดส่วน แยกกับห้องนั่งเล่น สามารถใช้พื้นที่พร้อมกันได้ 2 ฟังก์ชันโดยไม่รบกวนกันได้ นอกจากนั้นยังมีข้อดีตรงที่ไม่เปลืองแอร์ด้วยนะ
  • ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ Built in เต็มผนัง ดูเรียบร้อย กว้าง 2.25 เมตร ภายในมีช่องเก็บของได้เยอะ เป็นสัดส่วนดีเลยค่ะ

Image 1/2
Living area ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม.

Living area ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม.

ห้องนี้เมื่อเข้ามาแล้วเจอกับส่วน Living area ก่อนเลยเช่นกัน โดยพื้นที่ตรงนี้จากกว้างประมาณ 2.8 เมตร สามารถวางโซฟาฝั่งหนึ่งชั้นวางทีวีฝั่งหนึ่งพร้อมโต๊ะกลางแล้วยังเหลือพื้นที่สำหรับเดินผ่านไปมาได้สะดวกเลย

Image 1/2
Living area ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม.

Living area ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม.

โดยระยะหน้ากว้าง 2.8 เมตร ตรงนี้จะติดตั้งทีวีขนาด 52 – 55 นิ้ว ได้เลยค่ะ

Image 1/2
Living area ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม.

Living area ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม.

Living area มีขนาด 3.4×2.8 เมตร ภายในห้องตัวอย่างวางเป็นชุดโซฟาขนาดใหญ่เอาไว้ตรงนี้เราจะเปลี่ยนเป็นโซฟาเดี่ยว 2-3 ที่นั่ง วางชิดผนังด้านหนึ่ง พร้อมจัดเป็นโต๊ะทานอาหารด้านข้างก็ยังได้ค่ะ

ถัดเข้ามาโซนด้านในกันบ้าง ห้องแรกทางขวามือเป็นห้องครัว ส่วนห้องทางซ้ายเป็นห้องนอนค่ะ สำหรับครัวในห้องType นี้ เป็นแบบเปิด แต่ก็อยู่ในตำแหน่งที่กันปิดได้ง่ายด้วยเช่นกันค่ะ

Image 1/2
ครัว ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม.

ครัว ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม.

สำหรับห้องครัว อยู่ในตำแหน่งติดระเบียงสามารถเปิดระบายอากาศได้ง่าย ใครที่ชอบทำอาหารจริงจังแนะนำให้ติดตั้งประตูเพิ่มเติม แนะนำเป็นประตูบานสวิงแบบกระจก เพื่อให้ห้องนั่งเล่นยังคงได้แสงธรรมชาติค่ะ ภายในห้อง ได้ชุดครัวเต็มผนังด้านหนึ่งพร้อมช่องวางตู้เย็นมาให้เรียบร้อยเลย โดยระยะหน้าเคาน์เตอร์จะเหลือประมาณ 93 ซม. เดินผ่านไปมาได้สบาย พื้นเป็นกระเบื้องเซรามิกทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ

Image 1/3
ครัว ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม.

ครัว ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม.

พื้นที่ทำครัวบนเคาน์เตอร์กว้าง 1.45 เมตร กว้างกว่าห้องก่อนหน้านิดหน่อย พร้อมมีช่องเก็บซอสเพิ่มมาตรงกลาง ส่วนวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ เหมือนกับห้องก่อนหน้าเลยค่ะ

Image 1/2
ครัว ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม.

ครัว ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม.

ชั้นเก็บของด้านบนจะได้ช่องเก็บของเล็กๆ เพิ่มมาอีกช่อง พร้อมมีที่วางไมโครเวฟมาให้เรียบร้อยเช่นกันค่ะ

ด้านข้างเป็นช่องสำหรับวางตู้เย็นกว้าง 70 ซม. วางตู้เย็นไซส์มาตรฐานได้สบาย พร้อมช่องเก็บของด้านบนที่มีบานปิดมาให้เรียบร้อยเลย

Image 1/2
ระเบียงภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม.

ระเบียงภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม.

ระเบียงห้องนี้ขนาด 0.80×2.2 เมตร วางราวตากผ้าได้เยอะ พร้อมมีการติดตั้งงานระบบและปลั๊กไฟรองรับเครื่องซักผ้าไว้ให้เรียบร้อย โดยพื้นระเบียง เป็นกระเบื้องเซรามิก และมีไฟที่ผนังมาให้ 1 จุด ส่วนด้านบนแขวน Condensing units หันออกนอกอาคาร ช่วยประหยัดพื้นที่ระเบียงไปได้เยอะค่ะ

กลับมาดูโซนด้านในกันต่อค่ะ โดยซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ ตรงกลางเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ขวามือเป็นห้องนอน โดยพื้นที่อเนกประสงค์ตรงนี้จากกว้างประมาณ 1.5 เมตร สามารถวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งพร้อม Armchair สวยๆ ได้เลย ใครที่ทำงานอยู่บ้านก็สามารถจัดเป็นมุมทำงานได้จริงจังเลยค่ะ

Image 1/3
ห้องน้ำ ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม.

ห้องน้ำ ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม.

ห้องน้ำมีขนาดค่อนข้างใหญ่ แบ่งเป็นส่วนแห้งที่มีอ่างล้างหน้าทางซ้ายมือ และโถสุขภัณฑ์ทางขวามือ ด้านในเป็นห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ พร้อมฉากกั้นกระจกมาให้เรียบร้อยเลย สำหรับวัสดุและสุขภัณฑ์ต่างๆ เหมือนกันกับห้องก่อนหน้าเลยค่ะ

Image 1/2
ห้องน้ำ ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม.

ห้องน้ำ ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม.

พื้นที่อาบน้ำขนาด 0.90×1.8 เมตร ถือว่ากว้างทีเดียว ด้านซ้ายเป็นที่อาบน้ำแบบ rain shower และ hand shower พร้อมติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาเหมือนกันกับห้องก่อนหน้าเลย เพียงแต่ห้องนี้จะได้ชั้นวางของที่ผนังมาให้ด้วยครบเลยค่ะ ส่วนด้านขวามือเหลือพื้นที่ค่อนข้างกว้างวางเป็น เก้าอี้ สำหรับนั่งอาบน้ำขัดตัวเพิ่มเติมได้สะดวกค่ะ

ห้องนอนกั้นแยกจากส่วนอื่นๆด้วยประตูกระจกบานเลื่อนสลับ เปิดได้กว้างเลย อีกทั้งยังดูโปร่ง เพราะทำให้แสงธรรมชาติรอดผ่านมายังส่วนอื่นๆได้เยอะ

Image 1/4
ห้องนอน ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม.

ห้องนอน ภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม.

ภายในห้องนี้เราจะได้ฐานเตียงมาให้ด้วย แต่จะไม่ได้ส่วนตกแต่งหัวเตียงมานะคะ โดยห้องนอนมีขนาด 3.2×2.7 เมตร สามารถวางเตียง 5 ฟุต แบบมีทางเดินโดยรอบได้สบายสามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้งสองฝั่งเลย

ภายในห้องนอนที่ผนังปลายเตียง เราจะได้ตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้เต็มผนัง ดูเรียบร้อยดีเลยค่ะ

ตู้เสื้อผ้าที่ได้กว้างประมาณ 2.25 เมตรค่อนข้างกว้างทีเดียว หน้าบานเป็นแบบทึบและกระจกยาวมาให้ฝั่งหนึ่ง ใช้ แต่งตัวได้สะดวกเลย ด้านล่างมีลิ้นชักมาให้เยอะ เก็บถุงเท้า เสื้อชั้นในได้สะดวก

โดยตัวหน้าบาน ด้านล่างปาดเฉียง เป็นร่องสำหรับเปิดตู้ได้สะดวก ดูเรียบๆ โมเดิร์นดีค่ะ

แบบแปลน

Image 1/4
แปลนห้อง Studio Plus

แปลนห้อง Studio Plus

ราคา

PARK 168 NOPPARAT RAMINDRA ราคา ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2566

  • Studio Plus ขนาด 25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท*
  • 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท*
  • รูปแบบการขาย Fully Fitted
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท็อปลามิเนต
  • Hob & Hood / ของยี่ห้อ Teka
  • จอง Studio Plus 4,000 บาท 1 Bedroom 6,000 บาท
  • ทำสัญญา n/a บาท
  • ดาวน์ 10% ผ่อนจอง 6 งวด ผ่อนดาวน์ 20 งวด
  • ค่ากองทุน 200 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว)
  • ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.ม./เดือน
  • ค่าชดเชยพื้นที่ส่วนกลางในการจอดรถยนต์ 300 บาท/เดือน หรือรถจักรยานยนต์ 100 บาท/เดือน (จำกัดสิทธิ 1 คัน/ห้องชุด เลือกใช้ยานพาหนะอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น)

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :

PARK 168 NOPPARAT RAMINDRA (พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา) ตั้งอยู่ติดถนนรามอินทรา ซึ่งเป็นแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงตอนปลาย โดยสถานีที่ใกล้สุดคือ MRT นพรัตน์ 550 ม. ส่วน ความอุดมสมบูรณ์รอบข้างก็ใกล้โรงพยาบาลนพรัตน์ และ Amorini mall ที่ภายในมีร้านค้า ร้านอาหารและ Hyper market ครบครัน เพียง 450 เมตร เดินได้สบาย หรือขยับออกมาอีกหน่อยก็จะมี Makro รามอินทรา อยู่ไม่ไกล
หรือจะขยับมาอีก 1 สถานีก็มีห้างใหญ่ Fashion Island และ Promenade

นอกจากนั้นยังใกล้ศูนย์การแพทย์ใหญ่หลายแห่งที่ใกล้ๆก็จะมีโรงพยาบาลนพรัตน์ ที่เดินไปได้เพียง 450 เมตร หรือขยับออกมาอีกหน่อยก็จะมี โรงพยาบาลสินแพทย์ โรงพยาบาลนวมินทร์ 9 ที่อยู่ในแนวรถไฟฟ้าขยับออกไป 2-3 สถานีเท่านั้นค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ :

ตั้งอยู่บนถนนรามอินทราฝั่งขาออกเมือง แต่ก็อยู่ใกล้ U-turn ทำให้กลับรถได้ไม่ยาก โดยโครงการ อยู่ใกล้ทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษก ประมาณ 3.5 กม. ใช้เชื่อมต่อไปลำลูกกา, บางปะอิน หรือไปฝั่งบางนาก็สะดวกค่ะ ส่วนการเดินทางเข้าเมืองก็ไม่ยาก ใช้เส้นรัชดา-รามอินทรา ไปออกเส้นเกษตร-นวมินทร์ แล้วเลี้ยวเข้า เลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา ใช้วิ่งตรงไปลาดพร้าว,พระราม 9, เอกมัย ได้สะดวก หรือจะใช้ทางด่วนฉลองรัชก็อยู่บนเส้นเลียบด่วนนี้แหละ จุดขึ้น-ลงทางด่วน ห่างจากโครงการประมาณ 8.6 กม.

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

ถือว่าค่อนข้างสะดวก ในอนาคตอันใกล้มีรถไฟฟ้าสายสีชมพูให้ใช้งาน โดยสถานีที่ใกล้สุดคือ MRT นพรัตน์ ในระยะ 550 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นระยะที่ยังเดินไปได้ ส่วนการเดินทางรูปแบบอื่นๆ ก็สะดวกเพราะโครงการติดถนนรามอินทราที่มีรถเมล์ รถสองแถว วิ่งผ่านตลอด อีกทั้งที่ยังใกล้กับสะพานลอยข้ามไปขึ้นรถเมล์ฝั่งขาเข้าเมืองได้สะดวกเลยค่ะ

วัสดุ :

รูปแบบการขาย Fully Fitted ได้ ฐานเตียง 5 ฟุต และตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ และเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง แอร์ Wall Type 2 ตัว เครื่องทำน้ำอุ่น และ Internet ฟรี 1 ปี ส่วนวัสดุอื่นๆ ก็ให้มาเหมาะสมต่อการใช้งานเลย พื้น SPC ลายไม้ ทนต่อความชื้น น้ำ รับแรงกระแทกได้ดี ไม่ลื่น ไม่ยืดหดตามสภาพแวดล้อมมากเท่าไวนิล, พื้นครัว และระเบียง กระเบื้องเซรามิก, พื้น และผนัง ห้องน้ำ กระเบื้องแกรนิตโต, ชุดครัว ท็อป และ Backsplash ลามิเนต
ซึ่งอายุการใช้งานจะสั้นกว่าหินจริง หรือหินสังเคราะห์ จึงไม่ควรสับหรือทำอาหารบนพื้นผิวลามิเนตโดยตรง พร้อมอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า และที่ดูดควัน ระบบหมุนเวียน, สุขภัณฑ์จาก Hafele และ Cotto พร้อม ฉากกั้นอาบน้ำกระจกครบ, มี IOT เป็น Application ควบคุมการทำงานเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในห้องและมี Digital door lock มาให้เป็นมาตรฐานทุกห้องค่ะ

การออกแบบ :

เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีจำนวนยูนิตค่อนข้างเยอะทีเดียว แต่ทางโครงการ ได้มีการแยกเป็น 3 อาคาร โดยมี Lobby Mailbox และ Drop off Delivery แยกเป็นของแต่ละอาคาร เพื่อให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น นอกจากนั้นอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือ ผังโครงการที่แยกทางเดินรถ และทางคนเดินออกจากกัน ได้ความปลอดภัยดี นอกจากนั้นคนที่ต้องเดินเข้า-ออกเป็นประจำก็จะได้ผ่านสวนทุกครั้ง สร้างบรรยากาศที่ดีต่อผู้อยู่อาศัย

ส่วนการออกแบบห้อง เน้นเป็นห้องสำหรับอยู่กัน 1-2 คน หรืออยู่กันเป็นคู่รักได้สบายๆ จุดเด่นคือ ทุกแบบได้ครัวอยู่ติดระเบียง ระบายอากาศได้ดี อีกทั้งอยู่ในตำแหน่งที่กั้นปิดเพิ่มเติมได้ง่าย ภายในมีห้องนอนที่กั้นแยกจากส่วนนั่งเล่นชัดเจน ด้วยประตูกระจกบานเลื่อน เป็นสัดส่วน ขนาดตั้งแต่ 25-34 ตร.ม.

สาธารณูปโภค :

มีส่วนกลางขนาดใหญ่รวมกัน 9,000 ตร.ม. หรือ กว่า 5 ไร่ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ โครงการนี้เลยค่ะ โดยเน้นเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ที่ภายในมีฟังก์ชันหลากหลาย พร้อมทั้งมี สระว่ายน้ำกับฟิตเนสขนาดใหญ่ที่ชั้น 8 ของอาคารจอดรถ เทควิวได้กว้าง โดยรวมถือว่าให้มาเยอะทีเดียวเมื่อเทียบกับโครงการรอบข้าง แต่ก็แลกมากับการเป็นโครงการขนาดใหญ่ มีจำนวนยูนิตค่อนข้างเยอะ


 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 77,000 บาท/ตร.ม., 26 มิถุนายน 2566

  • ทำเล 8.25/10 – ติดถนนรามอินทรา ใกล้ Fashion Island
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้จุดกลับรถ ที่จอด 42.7% รวมซ้อนคัน
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – ใกล้ MRT นพรัตน์ 550 ม. เป็นระยะที่ยังพอเดินไหว
  • วัสดุ 7.5/10 – Fully Fitted และเฟอร์นิเจอร์บางส่วน วัสดุอื่นๆ ตามมาตรฐาน
  • แบบ 8/10 – ห้องนอนกั้นแยก ครัวติดระเบียงกั้นปิดได้ง่าย
  • สาธารณูปโภค 8.75/10 – ครบครัน เน้นพื้นที่สีเขียว รวมกันกว่า 5 ไร่ ใหญ่กว่าโครงการโดยรอบ

  • MAIN CLASS
  • 7.9375 / 10.00

PARK 168 NOPPARAT RAMINDRA เหมาะกับใคร

โครงการ PARK 168 NOPPARAT RAMINDRA เหมาะกับคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในย่านนี้ ทำงานใกล้โซนโรงพยาบาล โซนห้าง หรือเดิมทีอยู่โซนมีนบุรี แต่ต้องการ ขยับขยายออกมาอยู่คอนโด ใกล้รถไฟฟ้า หน่อยเผื่อเดินทางไปโซนอื่นๆ ได้สะดวก อยู่อาศัย 1-2 คน หรืออยู่กันเป็นคู่รัก อยากได้คอนโดวิวโล่งมุมสูง ชอบบรรยากาศภายในโครงการที่ร่มรื่น มีส่วนกลางให้ใช้งานครบ มีงบประมาณตั้งแต่ 1.69-2.39 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 11,900 – 16,700 บาท/เดือนขึ้นไป ซึ่งราคานี้ต้องเผื่องบประมาณสำหรับการตกแต่งภายในด้วยค่ะ


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc