Origin Place Chaengwattana (ออริจิ้น เพลส แจ้งวัฒนะ) คอนโดติดถนนใหญ่ ใกล้เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ห้องฝ้าเพดานสูง 4.2 เมตร เลี้ยงสัตว์ได้ จาก Origin

Origin Place Chaengwattana (ออริจิ้น เพลส แจ้งวัฒนะ)  ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568

Highlights :

• ติดถนนใหญ่แจ้งวัฒนะ ไม่ต้องเข้าซอย เดินทางสะดวก
• ทำเลอุดมสมบูรณ์ ใกล้ห้างเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ซูเปอร์มาร์เก็ต และตลาดต่างๆ
• ใกล้ทางด่วนศรีรัช และมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูให้ใช้งานเข้าเมืองได้

พิกัด Google Maps : 13.901811179164396, 100.53490217677687
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

โครงการ Origin Place Chaengwattana (ออริจิ้น เพลส แจ้งวัฒนะ) ตั้งอยู่ติดถนนแจ้งวัฒนะ ใกล้เซ็นทรัลและทางด่วนศรีรัช อีกทั้งยังมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูเป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกการเดินทางด้วยครับ แน่นอนว่าการมาของรถไฟฟ้าก็ย่อมทำให้ทำเลถนนเส้นนี้มีความเจริญและคึกคักเพิ่มไม่มากก็น้อย แต่ที่แน่ๆคือมีคอนโดตามมาเปิดตัวใกล้รถไฟฟ้ากันเยอะพอสมควร โดยจับกลุ่มคนที่ทำงานอยู่ในย่านนี้ รวมถึงตรงเมืองทองธานี ดอนเมืองศูนย์ราชการ และโรงพยาบาลต่างๆในย่านครับ

รถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู :

โครงการแห่งนี้จะตั้งอยู่ระหว่างสถานีรถไฟฟ้า 2 แห่งแบบพอดีๆประมาณ 600 m. ซึ่งเราสามารถใช้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางเข้าเมืองเลี่ยงรถติดได้ดีมาก เพราะสามารถไป Inteerchange กับรถไฟฟ้าเส้นหลักต่างๆได้หลายสายเลย

อีกทั้งทางโครงการก็จะมี Shuttle Bus บริการรับ-ส่งไปยังสถานี แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 ให้ในอนาคตด้วยนะครับ รวมถึงการที่โครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่แบบนี้ ก็ยังทำให้สามารถเรียกรถสาธารณะด้านหน้าโครงการได้สะดวกมากๆอีกด้วย

ทางด่วนที่ใกล้ที่สุด :

แน่นอนว่าเป็นทางด่วนศรีรัชที่จะอยู่ห่างจากโครงการเพียง 1 km. ในตอนขาลงจากทางด่วนเท่านั้น ส่วนถ้าเป็นขาไปขึ้นก็จะต้องกลับรถก่อน โดยมีระยะทางประมาณ 4.8 km. ซึ่งเราสามารถเชื่อมต่อเข้าเมืองไปทางจตุจักร หรือจะออกนอกเมืองไปตามทางด่วนอุดรรัถยาก็ได้ เรียกได้ว่าทำเลนี้เดินทางด้วยรถยนต์สะดวกมากๆครับ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

บริบทโดยรอบโครงการ Origin Place Chaengwattana จะได้วิวที่เปิดโล่งแบบสุดๆเลย 2 ด้านคือ ทิศเหนือ-ใต้ เพราะจะติดกับถนนใหญ่แจ้งวัฒนะและด้านหลังก็เป็นชุมชนแนวราบครับ จึงเป็นด้านที่ค่อนข้างการันตีวิวได้ดีเลย ส่วนทิศตะวันออก-ตะวันตกจะมีอาคารสูงบังวิวอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะกระชั้นชิดมากนัก ซึ่งในส่วนของพื้นที่ว่างทางด้านขวามือในรูปจะเป็นหนึ่งในที่ของออริจิ้นเอง และคาดการณ์ว่าน่าจะขึ้นเป็นตึกสูงในอนาคตด้วยเหมือนกัน แนะนำว่าถ้าใครอยากได้วิวเปิดโล่งก็อาจเลือกเป็นประมาณชั้น 20 ขึ้นไปก็จะพ้นระยะความสูงของอาคารข้างเคียงนะครับ

• ทิศเหนือ ติดกับ ถนนใหญ่แจ้งวัฒนะ ได้วิวเปิดโล่งไปทางฝั่งอิมแพ็คเมืองทองธานี
• ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินรอการพัฒนาที่คาดว่าจะขึ้นเป็นตึกสูง ระยะไกลจะมองวิวไปทางฝั่งวิภาวดี-ดอนเมือง
• ทิศใต้ ติดกับ ติดกับชุมชนแนวราบ ได้วิวเปิดโล่งไปทางฝั่งรัตนาธิเบศร์-งามวงศ์วาน
• ทิศตะวันตก ติดกับ โกดังร้านขายเฟอร์นิเจอร์ และมีตึก CP All Academy สูง 16 ชั้นบังวิวอยู่บ้าง แต่ด้านบนๆจะมองเห็นวิวไปทางเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ-ติวานนท์

ภาพทำเลที่ตั้งของโครงการครับ ปัจจุบันมีการล้อมรั้วแล้วเรียบร้อย และทิศใต้ด้านหลังโครงการก็จะเป็นวิวเปิดโล่งของชุมชนแนวราบอย่างที่เห็นเลย

ขวามือเป็นอาคาร CP All Academy สูง 16 ชั้น ที่จะบังวิวอยู่บ้างบางส่วน แต่ก็มีระยะห่างที่ไม่ได้อยู่กระชั้นชิดจนเกินไปนัก

ส่วนทางด้านซ้ายจะเป็นที่ดินเปล่ารอการพัฒนา ซึ่งเป็นหนึ่งในที่ของออริจิ้นเองครับ ด้วยศัพยภาพของที่ดินตามกฎหมายอนาคตสามารถขึ้นเป็นตึกสูงได้นั่นเอง ดังนั้นวิวทางทิศนี้ก็จะโดนบังวิวด้วยเหมือนกันครับ

ด้านหน้าโครงการติดกับถนนแจ้งวัฒนะที่มีขนาดใหญ่หลายเลน อีกทั้งยังมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูให้ใช้งานด้วย แต่ตัวสถานีก็จะอยู่ห่างออกไปประมาณ 600 m. ซึ่งจะอยู่ไม่ไกลจากตัวเซ็นทรัลที่อยู่ด้านหน้าเรานี่เองครับ

Sale Gallery จะตั้งอยู่ด้านหน้าที่ดินโครงการเลย ภายในจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูล พร้อมทั้งมีโมเดลและห้องตัวอย่างให้ชมกันด้วย หากใครสนใจก็สามารถเข้ามาเยี่ยมชนกันได้ทุกวันเลยนะครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• Cental แจ้งวัฒนะ ~ 800 m.
• Big C Extra แจ้งวัฒนะ 2 ~ 2.2 km.
• HomePro แจ้งวัฒนะ ~ 2.2 km.
• Major Hollywood ปากเกร็ด ~ 3.6 km.
• BEEHIVE Lifestyle Mall ~ 5.9 km.
• ไทวัสดุ แจ้งวัฒนะ ~ 5.9 km.
• Makro แจ้งวัฒนะ ~ 6.8 km.
• Lotus’s แจ้งวัฒนะ ~ 6.7 km.
• IMPACT เมืองทองธานี ~ 7.6 km.
• IT Square หลักสี่ ~ 9.7 km.

โรงพยาบาล

• รพ.เวิลด์เมดิคอล ~ 1.2 km.
• รพ.วิภารามปากเกร็ด ~ 4.2 km.
• รพ.กรุงไทย ~ 4.3 km.
• รพ.มงกุฎวัฒนะ ~ 7.2 km.
• รพ.จุฬาภรณ์ ~ 10.5 km.

โรงเรียน

• สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ~ 550 m.
• รร.สาธิตสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ~ 800 m.
• ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ~ 5.3 km.
• รร.สวนกุหลาบ นนทบุรี ~ 5.9 km.
• ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ ~ 9.5 km.
• ม.ราชภัฏพระนคร ~ 11.9 km.

Highlights :

• มีชั้นที่เป็น Pet Friendly สามารถเลี้ยงสัตว์ได้
• มีการแบ่งโซนของลักษณะห้องพักแยกกันชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นห้องฝ้าเพดานสูง และยังแบ่งชั้นที่เลี้ยงสัตว์ได้แยกกับห้องปกติด้วย
• มีลิฟต์ส่วนตัวสำหรับคนที่เลี้ยงสัตว์ หรืออาศัยอยู่ในชั้นที่เลี้ยงสัตว์ได้แยกออกมาจากลิฟต์โดยสารหลัก ทำให้ใช้งานได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น ไม่ต้องรอนานเหมือนชั้นอื่น

โครงการ Origin Place Chaengwattana (ออริจิ้น เพลส แจ้งวัฒนะ) เป็นคอนโด High Rise สูง 28 ชั้น และมีเพื่อนบ้าน 700 ยูนิต สำหรับแบรนด์นี้จะเป็นคอนโดที่ทาง Origin เน้นโฟกัสไปที่กลุ่มคนวัยทำงาน มีความเป็นผู้ใหญ่หน่อย ดังนั้นโทนสีและดีไซน์การออกแบบก็จะค่อนข้างเรียบง่าย แต่ก็ดูทันสมัยไม่น้อยทีเดียว

โดยความพิเศษของโครงการนี้ก็คือ มีห้องพักแบบ Pet Friendly พร้อมฟังก์ชันส่วนกลางให้น้องๆได้ใช้งานด้วย ซึ่งนี่เป็นเพียงโครงการเดียวในย่านที่เป็นคอนโดลักษณะนี้นะครับ ดังนั้นใครที่อยากอยู่คอนโดและเลี้ยงสัตว์ได้ จะต้องมีเล็งๆโครงการนี้ไว้ด้วยอย่างแน่นอน ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไรบ้างเราตามไปเจาะลึกกันต่อเลยครับ

เรามาดูภาพรวมของอาคารแต่ละชั้นกันก่อน ซึ่งโครงการนี้จะกระจาย Facilities ออกเป็น 4 ชั้นหลักๆ อีกทั้งยังมีการแบ่งโซนห้องพักอาศัยออกเป็น 2 ช่วงใหญ่ๆ คือห้องแบบ Simplex ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ชั้นไม่สูงมาก 7 – 11 แต่ถ้าเป็นห้องฝ้าเพดานสูงหรือ High Ceiling ก็จะมีเริ่มที่ชั้น 5 – 6 และข้ามไปอีกทีคือ 12 – 28 เลยครับ

Master Plan ของโครงการจะมีที่ดินทั้งหมด 3-0-7.5 ไร่ และจัดให้มีการเดินรถแค่ทางเดียวแบบสวนทางไป-กลับได้เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานของสวนนั่นเองครับ เวลาที่เรามาเดินเล่นหรือพาเด็กๆมาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องรถเลยนั่นเอง

แต่ที่น่าสนใจจริงๆคือ ฟังก์ชันส่วนกลางที่จะมีการแบ่ง Lobby เอาไว้ 2 โซนหลักๆชัดเจนมาก ประกอบด้วย Main Lobby ที่อยู่ทางด้านหน้า สามารถใช้รับแขกหรือจะมานั่งทำงาน/ประชุมได้อีกด้วย ทำให้เราสามารถพาแขกมาใช้งานฟังก์ชันอยู่ด้านล่างได้ โดยไม่จำเป็นต้องพาขึ้นอาคารให้เสียความเป็นส่วนตัวเลยครับ

ส่วนทางด้านหลังจะมีอีก Lobby หนึ่งแยกออกมาเป็น Pet Lobby ที่ให้คนเลี้ยงสัตว์สามารถพาน้องๆลงมาใช้งาน และใช้เป็นเส้นทางสัญจรเวลาขึ้น-ลงอาคารได้ด้วย โดยจะมีการแยกลิฟต์สำหรับชั้นเลี้ยงสัตว์ไว้แยกต่างหากให้เลย ทำให้ไม่จำเป็นต้องไปใช้งานที่ลิฟต์ขนของหรือใช้งานร่วมกับลิฟต์หลักอีกแล้วนั่นเอง

จากโมเดลทางด้านหน้าเราจะเห็นเส้นทางเดินรถ ที่เราสามารถขับวนไปรับ-ส่งคนตรง Drop-Off ที่อยู่ใกล้ๆ Lobby แล้วขับวนกลับออกมาได้เลย รอบๆอาคารชั้น 1 ก็จะมีที่จอดรถของ Visitor ไว้ให้แขกได้ใช้งาน ส่วนถ้าใครเป็นลูกบ้านก็สามารถขับรถไปขึ้นที่จอดทางด้านหลังได้เลยครับ

ภาพบรรยากาศบริเวณ Drop-Off ที่สามารถลงรถแล้วเดินเข้า Lobby ต่อได้สะดวกเลย ส่วนด้านข้างจะเป็นช่องจอดรถสำหรับ EV Charger ให้บริการด้วยครับ ใครที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าก็สามารถมาใช้งานได้ที่ตรงนี้

ภาพบรรยากาศจำลองของ Semi-Outdoor Lobby จะเป็นพื้นที่นั่งเล่นในร่มก่อนที่จะเดินเข้าสู่ตัวอาคาร บรรยากาศเป็นโทนสีขาวสะอาดตา ตัดขอบด้วยกรอบสีดำ ดูหรูหราและเท่มากๆเลยครับ โดยพื้นที่ส่วนนี้ก็จะเชื่อมต่อกับสวนด้านหน้าด้วยนั่นเอง

จากโมเดลเราจะเห็นว่าด้านหน้าอาคารจะถูกจัดเป็นพื้นที่สีเขียว ซึ่งไม่ได้มีประโยชน์แค่เพิ่มบรรยากาศความสวยงามและสดชื่นเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็น Buffer คอยกันพวกฝุ่นหรือมลพิษต่างๆจากบนท้องถนนได้ด้วยครับ

ภาพบรรยากาศจำลองของพื้นที่ส่วนกลางภายนอกอาคาร โดยที่สวนด้านล่างจะเน้นเป็นพื้นที่นั่งเล่นต่างๆกระจายกันอยู่ทั่วทั้งสวน ทำให้มีมุมส่วนตัวของแต่ละคนครับ ส่วนพื้นที่ส่วนกลางบนชั้น 5 ก็จะมีทั้งสวนและสระว่ายน้ำให้ใช้งานครับ

ด้านหลังโครงการจะมีสวนเล็กๆแยกออกมาอีกจุดหนึ่ง โดยจะเป็น Courtyard ที่มีรั้วเล็กๆล้อมรอบ สามารถพาสัตว์เลี้ยงมาเปลี่ยนบรรยากาศออกมากลางแจ้งกันได้ครับ อีกทั้งยังมี Pet Wash Area ให้ใช้งานอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวกันได้อีกด้วย

ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Lobby จะมีพื้นที่นั่งพักคอยเป็นโซฟาขนาดใหญ่ หรือลูกบ้านจะมานั่งเล่นพักผ่อนในห้องแอร์เย็นๆก็ได้ ส่วนทางด้านขวาจะเป็น Reception ด้านในจะเป็น Co-Working Space และ Private Meeting Room ให้ใช้งานด้วย

ส่วนตัวเรามองว่าฟังก์ชันแบบนี้ค่อนข้างโอเคเลยครับ เพราะเวลาที่เรามีแขกหรือนัดเพื่อนๆมานั่งทำงาน ประชุมงานด้วยกัน ก็สามารถพาเดินมาจาก Lobby ด้านหน้าได้เลย โดยไม่จำเป็นห้องพาขึ้นอาคารให้เสียเวลาเลยนั่นเองครับ

ชั้น 5 จะเป็น Main Facilities ที่เน้นฟังก์ชัน Active โดยเฉพาะการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำและ Fitness ส่วนบริเวณรอบๆก็จะเป็นพื้นที่สวนให้มานั่งเล่นกันได้ครับ นอกจากนี้ยังมีโซนของห้องพักอาศัยอีกด้วยนะ

ซึ่งของจริงจะมีการกั้นประตูกระจกด้วย Access Key Card บริเวณโถงลิฟต์โดยสาร เพื่อความเป็นส่วนตัวของคนที่อยู่อาศัยในชั้นนี้ สำหรับคนที่ชอบออกกำลังกายอยู่แล้วก็จะสะดวกมากๆเลยนะ เพราะเราสามารถเดินมาใช้งานจากห้องของเราได้สะดวกแบบไม่ต้องเสียเวลาขึ้น-ลงลิฟต์

ภาพจากโมเดลเราจะเห็นบรรยากาศของส่วนกลางชั้น 2 หลักๆจะเป็นสระว่ายน้ำขนาด 5 x 30 m. สามารถว่ายออกกำลังกายได้จริงจังเลยครับ ส่วนรอบๆก็จะเป็นพื้นที่นั่งเล่นหลากหลายเลย ไม่ว่าจะเป็น Day Bed ที่อยู่ริมสระน้ำ / Sunken ที่อยู่ติดกับสระ และยังมีเคาน์เตอร์บาร์ที่อยู่ในสวนด้วย

ภาพบรรยากาศจำลองของชั้น 5 ฝั่งด้านขวาของสระเราจะเห็นว่าเป็นโซนน้ำตื้น ซึ่งจริงๆก็คือ Jacuzi ที่เรามานั่งแช่น้ำได้เป็นแนวยาวเลยครับ นอกจากนี้ยังมองเห็น Fitness ได้ด้วยว่าอุปกรณ์เครื่องเล่นจะหันออกมารับวิวสระว่ายน้ำนี้ด้วย แต่อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือ วิวส่วนกลางจากห้องพักที่อยู่ชั้นบน โดยเราแนะนำเป็นชั้นที่สูงกว่านี้ไม่เกิน 4 – 5 ชั้น เพื่อที่เราจะได้มองเห็นสระและสวนได้กำลังสวยเลยครับ

แปลนชั้น 6 ขึ้นไปจะเป็นห้องพักอาศัยแบบเต็ม Floor โดยชั้น 5 และ 6 จะเป็นห้องแบบ High Ceiling ฝ้าเพดานสูง 4.2 m. ซึ่งใครที่ชอบห้องลักษณะนี้แต่ไม่ได้เน้นที่จะชมวิวสูงๆ หรืออยากมองเห็นวิวสระว่ายน้ำบนชั้น 5 ก็สามารถเลือกห้องเหล่านี้ได้เลยครับ โดยแบบห้องจะมีตำแหน่งที่เลือกได้ง่ายชัดเจนดังนี้

• ห้องไซส์ใหญ่ (1 – 2 Bedroom Plus 34 – 63 ตร.ม.) : ส่วนมากจะเป็นห้องตามมุมอาคารต่างๆ ทำให้ได้ช่องแสง 2 ด้าน เหมาะกับการอยู่อาศัยเป็นครอบครัวหรือคนที่ชอบห้องกว้างๆครับ
• ห้องไซส์กลาง (1 Bedroom 26 ตร.ม.) : ส่วนใหญ่จะอยู่ทางทิศเหนือ-ใต้-ตะวันออก ซึ่งหลักๆจะเน้นให้มองเห็นวิวสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลางบนชั้น 5 ได้นั่นเองครับ
• ห้องไซส์เล็ก (1 Bedroom 22 ตร.ม.) : จะเป็นห้องที่อยู่ทางทิศตะวันตก ราคาจับต้องได้ค่อนข้างง่ายที่สุดในบรรดาห้องทุกแบบเลย

แปลนชั้น 7 – 11 จะเป็นห้องแบบ Simplex หรือห้องฝ้าเพดานสูงแบบปกติ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงชั้นหลักๆคือ ชั้น 7 – 9 ที่เรากำลังเห็นแปลนอยู่นี้จะเป็นห้องพักทั่วไปที่ไม่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ ซึ่งชั้นนึงจะมีทั้งหมด 30 ห้อง พร้อมลิฟต์โดยสาร 3 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ทั้งโครงการคือ 233 :  1 ถือว่าค่อนข้างหนาแน่นเลยนะครับ ทำให้เวลาใช้งานจริงโดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วนอาจมีคนใช้เยอะพิเศษ และต้องยืนรอกันสักหน่อยนะครับ

แปลนชั้น 10 – 11 จะเป็นชั้น Pet Friendly ที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ โดยความพิเศษอีกอย่างของชั้นนี้ก็คือ จะมีลิฟต์ให้ใช้งานเพิ่มอีก 1 ตัว ซึ่งสามารถพาน้องๆสัตว์เลี้ยงขึ้น-ลงอาคารได้ และจะเป็นลิฟต์ที่เปิดเฉพาะชั้นส่วนกลาง + ชั้นที่เลี้ยงสัตว์ได้เท่านั้น เลยทำให้คนที่พักอาศัยในชั้นเหล่านี้มีตัวเลือกในการใช้งานลิฟต์มากขึ้นนั่นเอง

สำหรับห้องพักที่เลี้ยงสัตว์ได้จะมีข้อกำหนดต่างๆที่พิเศษมากกว่าห้องปกติ เช่น

• ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน (จากปกติ 50 บาท/ตร.ม./เดือน)
• มีค่าลงทะเบียนครั้งแรก 5,000 บาท/ตัว (จ่ายครั้งเดียว)
• เลี้ยงสัตว์ได้ 1 ตัว/ห้อง แต่ถ้าเป็นห้องขนาดมากกว่า 34 ตร.ม. ขึ้นไป จะสามารถเลี้ยงได้ 2 ตัว/ห้อง (จำกัดน้ำหนักไม่เกิน 15 kg. และความสูงไม่เกิน 30 cm.)
• เวลาพาน้องๆออกมาเดินนอกห้องหรือขึ้น-ลงลิฟต์ จะต้องมีสายจูงหรือใส่กระเป๋าทุกครั้ง
• ผนังระหว่างห้องพักจะมีความหนามากกว่าปกติอยู่ที่ประมาณ 15 cm. จึงช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากห้องข้างๆได้
• ไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ที่มีความอันตราย

ต่อไปจะเป็นห้องแบบ High Ceiling ที่ได้ฝ้าเพดานสูง 4.2 m. โดยนี่ก็จะเป็นภาพบรรยากาศจำลองจากทางโครงการ ที่จะช่วยให้มีความโปร่งโล่งในการอยู่อาศัยมากขึ้น

แปลนชั้น 12 เป็นต้นไปจนถึงชั้น 28 จะเป็นห้อง High Ceiling ทั้งหมด โดยทิศที่ขายดีและได้รับความสนใจเป็นพิเศษก็จะเป็นทิศเหนือและทิศใต้ ที่จะได้วิวเปิดโล่งมากที่สุดครับ ส่วนห้องทางทิศตะวันออก-ตะวันตกจะมีอาคารสูงข้างเคียงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะกระชั้นชิดเกินไปนัก

แนะนำใครที่อยากได้ห้องที่พ้นระยะอาคารทั้ง 2 ด้านนี้ ก็จะเป็นประมาณชั้น 20 เป็นต้นไปก็จะได้วิวที่เปิดโล่งแล้วครับ โดยห้องแบบ High Ceiling ก็จะมีชั้นที่เป็น Pet Friendly ให้เลือกด้วยเช่นกัน ซึ่งจะอยู่ที่ชั้น 20 – 24 นั่นเองครับ ใครสนใจก็ลองเลือกชมกันได้เลยนะ

สำหรับห้องพักอาศัยในชั้นสูงๆ จะมีจำนวนเพื่อนร่วมชั้นที่ลดลงไปบ้าง ตามระยะถอยร่นของอาคารตามกฎหมาย จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แถมยังได้วิวมุมสูงไกลๆอีกด้วย แลกมากกับตอนขึ้น-ลงลิฟต์ก็อาจต้องใช้เวลารอนานสักนิดนึง เพราะกว่าลิฟต์จะขึ้นมาถึงชั้นที่เราอยู่ แต่ในขณะเดียวกันก็อาจมีข้อดีตรงที่เรามีโอกาสได้เข้าลิฟต์แน่ๆนั่นเอง เพราะคนที่อยู่ชั้นกลางๆลิฟต์มีโอกาสเปิดรับคนระหว่างทางสูง จนลิฟต์เต็มและอาจไม่ได้ขึ้นต้องรอรอบใหม่นั่นเองครับ

แปลนชั้น 28 นอกจากจะมีห้องพักอาศัยแล้ว ก็จะมีส่วนกลางอย่าง Sky Lounge และ Co-Kitchen ให้ขึ้นมาใช้งานได้ด้วย โดยเฉพาะคนที่อาจอยู่ห้องพักชั้นไม่สูงหรือวิวไม่ค่อยดี ก็สามารถขึ้นมานั่งเล่นชมวิวกันบนนี้ได้เลย

แปลนชั้นดาดฟ้า จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางให้ขึ้นมาใช้งาน หลักๆก็จะเป็นสวนและจุดนั่งเล่นต่างๆ รวมถึงยังมี Jogging Track และ View Point ต่างๆให้ขึ้นมาชมวิวกันได้ แต่สิ่งที่พิเศษของชั้นนี้อีกอย่างก็คือ เราสามารถพาน้องๆสัตว์เลี้ยงขึ้นมาได้ด้วยครับ โดยจะมี Pet Area ให้ใช้งานเป็นสัดส่วนเลย

ภาพจากโมเดลเราจะเป็นว่า พื้นที่ดาดฟ้าทั้งหมดถูกจัดเป็นสวนหรือพื้นที่สีเขียว ให้เราสามารถขึ้นมาเดินเล่นหรือนั่งชมวิวกันได้ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งอาคาร ทำให้แต่ละคนสามารถหามุมส่วนตัวกันได้ไม่รบกวนกัน หรือถ้าใครจะมาเดิน/วิ่งออกกำลังกาย ก็จะมี Jogging Track ให้ใช้งานด้วย

ส่วนอีกด้านจะเป็น Pet Area ซึ่งถูกล้อมรอบด้วยรั้ว ให้น้องๆสัตว์เลี้ยงอยู่ในพื้นที่ที่กำหนดอย่างเป็นสัดส่วน แถมยังมีอุปกรณ์เล็กๆน้อยๆให้น้องๆได้เล่นกันอีกด้วย ใครที่เลี้ยงสัตว์ก็สามารถมาน้องๆขึ้นมาใช้งานหรือเล่นกับเพื่อนๆที่บนชั้นนี้ได้นะครับ

ภาพบรรยากาศจำลองบนชั้นดาดฟ้าของอาคาร ชอบตรงที่มีการปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาและความสดชื่น แถมยังมีการทำรั้วเป็นกระจกให้ชมวิวได้ดีมากขึ้นอีกด้วย เดี๋ยวไว้รอดูของจริงตอนสร้างเสร็จอีกครั้งว่าจะเป็นอย่างไรบ้างนะครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

ชั้น G

• Semi-Outdoor Lobby
• Main Lobby
• Pet Lobby
• Co-Working Space
• Private Meeting Room
• Studio Room
• Rest Room
• Laundry
• Shop
• Grab & Go Area
• EV-Charger
• Courtyard
• Sitting Area
• Pet Courtyard
• Pet Wash Area

ชั้น 5

• Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาด 5 x 30 m.
• Jacuzzi
• Lawn
• Terrace
• Sun Bed
• GYM

ชั้น 28

• Sky Lounge
• Co-Kitchen
• Rest Room

ชั้น Rooftop

• View Sitting Area
• Pet Area
• Sitting Area
• Counter Bar
• View Point
• Jogging Track
• Walkway
• Sky Bar

• ลิฟต์โดยสาร 5 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 233 :  1 (นับเฉพาะลิฟต์โดยสารหลัก 3 ตัวที่เปิดทุกชั้น)
• ลิฟต์สำหรับสัตว์เลี้ยง 1 ตัว (เปิดเฉพาะชั้น Pet Friendly)
• Service Lift 1 ตัว
• ที่จอดรถ 252 คัน หรือคิดเป็นประมาณ 40% แบบรวมจอดซ้อนคัน
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card Acccess
• เข้า-ออกด้วยระบบ RFID โดยใช้สัญญาณ Bluetooth

Highlights :

• มีแบบห้องให้เลือกเยอะ สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งคนที่อยู่ 1 – 2 คน หรือจะอยู่เป็นครอบครัวก็ได้
• เน้นห้องฝ้าเพดานสูง High Ceiling 4.2 m. มีความสว่างโปร่งโล่ง และให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน
• ขายแบบ Fully Fitted ต้องเผื่องบในการซื้อเฟอร์นิเจอร์ด้วย เหมาะกับคนชอบแต่งห้องเอง

แบบห้องของโครงการ Origin Place Chaengwattana (ออริจิ้น เพลส แจ้งวัฒนะ) จะแบ่งออกเป็นห้อง Simplex ฝ้าเพดานสูง 2.6 m. และห้อง High Ceiling ฝ้าเพดานสูง 4.2 m. ที่จะมีความโปร่งโล่งมากขึ้น พร้อมมีพื้นที่ชั้นลอยให้เราได้ใช้สอยเพิ่มอีกด้วย โดยห้องก็จะมีขนาดตั้งแต่ 1 – 2 Bedrooms Plus สามารถเลือกให้เหมาะกับ Lifestyle การใช้ชีวิตของเราได้เลยครับ ประกอบด้วย

แบบห้อง Simplex ฝ้าเพดานสูง 2.6 m.

• 1 Bedroom ขนาด 24 ตร.ม.
• 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus ขนาด 34 ตร.ม.
• 2 Bed Plus 2 Bath ขนาด 63 ตร.ม.

แบบห้อง High Ceiling ฝ้าเพดานสูง 4.2 m.

• 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 22 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม 32 ตร.ม.
• 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 26 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม 36 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่โฉนด 34 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม 48 ตร.ม.
• 2 Bedrooms Plus ขนาดพื้นที่โฉนด 63 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม 84 ตร.ม.

สเปควัสดุภายในห้อง :

• รูปแบบการขาย : Fully Fitted (ชุดครัว/ตู้ Built-in/สุขภัณฑ์ห้องน้ำ)
• Top เคาน์เตอร์ครัว : หินสังเคราะห์
• Hob and Hood : ยี่ห้อ Hafele
• สุขภัณฑ์ : ยี่ห้อ Cotto
• พื้นห้อง : SPC ลายไม้
• พื้นครัว : กระเบื้องพอร์ซเลน
• ผนังห้อง : ก่ออิฐหนา 15 cm. มีส่วนช่วยป้องกันเสียงรบกวนได้ระดับหนึ่ง

• 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 26 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม 36 ตร.ม.

เป็นหนึ่งในห้องมาตรฐานที่มีให้เราเลือกเยอะที่สุดในโครงการเลย จุดเด่นจะอยู่ตรง Living Area ที่มีขนาดใหญ่ พร้อมฝ้าเพดานสูงโปร่งที่ทำให้รู้สึกอยู่สบายมากขึ้น ส่วนพื้นที่ตรงชั้นลอยจะแบ่งเป็น 2 ชั้นคือ บริเวณด้านล่างจะเป็นครัวปิดที่ทำอาหารได้จริงจังระดับหนึ่ง โดยจะมีประตูกระจกบานเลื่อนคอยกั้นเอาไว้เป็นสัดส่วน นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำให้ใช้งานอีกด้วย

ส่วนชั้นลอยจะเป็นพื้นที่ห้องนอน ซึ่งจะมีขนาดประมาณ 10 ตร.ม. เพียงพอที่จะทำพื้นที่แต่งตัวเพิ่มได้สบายๆ โดยชั้นลอยนี้จะมีพื้นที่เปิดโล่งเชื่อมต่อกับ Double Volume ของห้องนั่งเล่นได้ด้วยครับ จึงทำให้มีความโปร่งสบาย มองเห็นวิวจากหน้าต่างขนาดใหญ่ได้ด้วย แถมยังให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเลย หากใครสนใจก็ลองชมห้องตัวอย่างต่อไปนี้กันได้ครับ

เมื่อเข้ามาภายในห้องเราจะเจอกับพื้นที่ครัวเป็นอันดับแรก ซึ่งมีความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.1 m. คือถ้าไม่บอกว่าด้านบนเป็นชั้นลอยก็จะไม่รู้เลยนึกว่าห้องปกติครับ

นอกจากนี้ยังปูพื้นด้วยกระเบื้องพอร์ซเลน มีความสวยงามและสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย เหมาะกับฟังก์ชันครัวและพื้นที่หน้าห้องที่ต้องหมั่นทำความสะอาดบ่อยๆนั่นเอง

โดยพื้นที่ครัวจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กรอบอลูมิเนียมสีดำและเป็นกระจกใสปกติ ซึ่งช่วยป้องกันกลิ่น/ควันจากกระทำอาหาร ไม่ให้เข้าไปรบกวนพื้นที่พักผ่อนภายในห้องได้นั่นเอง รวมถึงยังมีส่วนช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก ของคนที่ผ่านไป-มาหน้าห้องได้อีกชั้นหนึ่งด้วยนะ

ซ้ายมือเราจะได้ชุดครัว Built-in มาครบแบบนี้เลยครับ ประกอบด้วย Top เคาน์เตอร์หินสังเคราะห์สีขาว ติดตั้ง Hob and Hood และเตาไฟฟ้าจาก Hafele เป็นแบบมีท่อดูดควันไปภายนอก รวมถึงยังมีช่องวางเครื่องซักผ้าพอดีๆด้วย แต่ที่อาจต้องติดตั้งเพิ่มคือ Backsplash ที่อยู่ตรงผนัง เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกและจะได้เช็ดได้ง่ายครับ

ฝั่งตรงข้ามจะเป็นที่วางตู้เย็นและยังมีพื้นที่เหลือให้ Built-in ตู้เก็บของเพิ่มได้อีกด้วยนะครับ

แต่ถ้าเป็นตู้ทางด้านขวาสุดเราจะได้ Built-in มาให้แบบนี้เป็นมาตรฐาน ประกอบด้วย ตู้เก็บรองเท้าด้านล่างประมาณ 10 คู่ / มีช่องวางของตรงกลางที่สามารถวางของที่ต้องหยิบใช้งานบ่อยๆตอนเข้า-ออกห้องได้ เช่น พวงกุญแจ / มีตู้เก็บของด้านบนสุดที่ภายในจะซ่อนตู้ไฟเอาไว้ให้เรียบร้อยเลย

ติดกันจะเป็นห้องน้ำที่ภายในเราจะได้กระจกเงาบานใหญ่เต็มผนัง และได้ชุดสุขภัณฑ์จาก Cotto มาครบเลยครับ แต่ที่น่าสนใจจริงๆก็คือ โถสุขภัณฑ์จะเป็นแบบซ่อนถังน้ำเอาไว้ในผนังด้านหลัง

ซึ่งนอกจากจะดูเรียบร้อยสวยงามแล้ว ผนังด้านหลังยังมีความหนามากขึ้น และสามารถวางสิ่งของต่างๆเพิ่มได้สบายๆเลยด้วยนะ ทั้งนี้เวลาซ่อมบำรุงก็อาจต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญเฉพาะทางอยู่เหมือนกันครับ

ส่วนพื้นที่ยืนอาบน้ำจะกว้าง 85 x 85 cm. สามารถใช้งานได้พอดีๆ ซึ่งเราอาจต้องติดฉากกั้นอาบน้ำหรือม่านพลาสติกเพิ่มเติมเองอีกทีนะครับ เวลาที่ใช้งานน้ำจะได้ไม่กระเด็นเปียกออกมาด้านนอกนะ

ส่วนด้านบนจะมี Hand Shower และเจาะช่องวางของตรงผนังมาให้แบบนี้เลย ซึ่งเราสามารถเพิ่มชั้นวางเป็นหลายๆช่องตามความต้องการได้นะครับ รวมถึงของจริงจะมี Junction สำหรับติดเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เป็นมาตรฐานด้วย

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่ Double Volume ฝ้าเพดานสูง 4.2 m. ซึ่งถือว่าเป็น Highlight หลักของห้องนี้เลยครับ เพราะทำให้มีบรรยากาศที่โปร่งโล่งมากกว่าห้องปกติ รวมถึงยังมีช่องแสงขนาดใหญ่ ที่ช่วยทำให้ห้องนี้สว่างมากขึ้นอีกด้วย

ระยะดูทีวีจะกว้าง 3.1 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้สบายๆ โดยเราจะได้ชั้นวางทีวีแบบไม่ได้มีหน้าบานตู้ปิดมาให้เป็นมาตรฐานครับ แต่ก็สามารถใช้งานเก็บของได้ตามปกติเลย ส่วนด้านหลังจะมีห้องเก็บของใต้บันไดให้ใช้งานด้วย

โซฟาเราสามารถหาซื้อมาใช้งานได้เองตามความชอบเลยครับ ซึ่งห้อง 26 ตร.ม. จะมีพื้นที่บริเวณ Living Area ใหญ่กว่าห้อง 22 ตร.ม. พอสมควร เลยทำให้มีบรรยากาศที่โปร่งโล่งกว้างขวางกว่าปกติ และเรายังสามารถใช้โซฟาขนาดใหญ่มากขึ้นได้อีกด้วย

ติดกับช่องหน้าต่างจะมีพื้นที่อเนกประสงค์เล็กๆกว้างประมาณ 2.5 x 0.7 m. ให้ใช้งานด้วยแบบนี้ ซึ่งเราสามารถทำเป็นมุมนั่งทำงานหรือโต๊ะทานอาหารไปชมวิวไปก็ได้ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งพื้นที่น่าใช้งานของห้องนี้มากๆครับ

ติดกันจะเป็นประตูที่เปิดออกไปสู่ระเบียงภายนอก มีขนาดกว้าง 1.4 x 0.6 m. สามารถออกไปใช้งานชมวิว สูดอากาศ หรือตากผ้าได้นะครับ ส่วนเครื่อง Condensing Unit ก็จะแขวนอยู่ด้านบน ซึ่งจะซ่อนอยู่หลังผนังทึบมองไม่เห็นจากภายในห้อง ทำให้ดูเรียบร้อยดีเลยทีเดียว อีกทั้งระเบียงนี้ยังมีส่วนช่วยเพิ่มช่องแสงทำให้ห้องดูสว่างโปร่งโล่งมากขึ้นด้วยครับ

บันไดทางขึ้นชั้นลอยจะเป็นโครงสร้างเหล็ก กว้างประมาณ 70 cm. สามารถเดินได้พอดีๆ มีราวกันตกกระจกนิรภัย และการเดินขึ้น-ลงก็จะให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านมากขึ้นด้วยครับ แต่ทั้งนี้ก็แนะนำให้ใช้งานกันด้วยความระมัดระวังโดยเฉพาะตอนช่วงกลางคืน

บนชั้นลอยมีขนาดพื้นที่ประมาณ 10 ตร.ม. สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ ซึ่งก็พอจะมีพื้นที่รอบๆเหลือให้ใช้งานพอดีๆ ด้านขวามือจะ Built-in ตู้เสื้อผ้าที่ไม่มีหน้าบานให้แบบนี้ ส่วนความสูงฝ้าเพดานจะอยู่ที่ 2 m. สามารถเดินได้เต็มความสูงไม่ต้องก้มหรืออึดอัดเลยครับ

อีกหนึ่ง Highlights ของห้องนี้ก็คือ มุมมองจากด้านบนที่สามารถเชื่อมต่อกับ Living Area ที่อยู่ด้านล่างได้ อีกทั้งยังสามารถมองเห็นวิวนอกหน้าต่างได้แบบเต็มๆอีกด้วยครับ

ทั้งนี้เราอาจกั้นฟังก์ชันด้วยผนังกระจก หรือจะติดม่านไว้เลื่อนปิดตอนนอนกลางคืนเพิ่มก็ได้ เพราะเวลาเปิดแอร์ก็จะได้ไม่เปลืองไฟ และแอร์จะได้ไม่ไหลลงไปที่ Living ด้านล่างครับ

• 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 22 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม 32 ตร.ม.

ลักษณะแปลนและฟังก์ชันของห้องนี้จะเหมือนกับห้อง 26 ตร.ม. ก่อนหน้านี้เลยครับ เพียงแต่ความลึกของห้องจะน้อยลงประมาณ 1 m. ทำให้พื้นที่บริเวณ Living Area จะมีขนาดเล็กลงหน่อยนึง แน่นอนว่าความกว้างขวางโปร่งโล่งจะต้องลดลงไปบ้างครับ แต่ยังคงได้ฟังก์ชันที่ใช้งานได้ครบเหมือนเดิม จึงเหมาะกับคนที่มีงบประมาณจำกัดอยู่สักหน่อย แต่ก็ชื่นชอบห้องฝ้าเพดานสูงแบบนี้ครับ

เมื่อเข้ามาในห้องเราจะเจอกับครัวก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งฟังก์ชัน/ขนาด/เฟอร์นิเจอร์/วัสดุที่ได้จะเหมือนกับของห้องตัวอย่าง 26 ตร.ม.ก่อนหน้านี้ทั้งหมด สามารถใช้งานได้สบายๆ

แน่นอนว่าภายในห้องน้ำเองก็จะเหมือนกับห้องก่อนหน้านี้ด้วย สุขภัณฑ์จาก Cotto และสามารถกั้น Shower Box เพิ่มเติมได้ด้วยตัวเองถ้าต้องการ

เข้ามาด้านในเราจะเจอกับพื้นที่ Double Volume ฝ้าเพดานสูง 4.2 m.เท่าเดิม แต่จะมีความลึกของห้องที่ลดลงนิดนึง ซึ่งส่งผลต่อขนาดโซฟาและลักษณะของบันไดที่จะกลายเป็นรูปตัว L ไม่ได้ตรงเป็นตัว I เหมือนห้องที่แล้ว รวมถึงจะไม่มีห้องเก็บของใต้บันไดด้วยครับ

อีกสิ่งหนึ่งที่มีผลมากๆก็คือ ‘ช่องแสง’ จำได้มั้ยครับว่าห้องที่แล้วจะมีช่องแสงตรงหน้าบันไดที่เป็นประตูระเบียง ซึ่งเมื่อรวมกับช่องหน้าต่างหลักตรงกลางห้อง ก็จะทำให้เรารู้สึกว่ามีช่องแสงขนาดใหญ่เชื่อมต่อกัน ห้องก็จะดูสว่างมากๆ แต่ของห้องนี้จะเป็นผนังทึบแทนครับ

ส่วนประตูระเบียงจะถูกปรับเป็นแบบบานเปิดด้านข้างแบบนี้ ซึ่งเป็นเพราะข้อจำกัดของพื้นที่ห้องที่เล็กลงนั่นเอง ทั้งนี้เรามีความคิดส่วนตัวเพิ่มว่า หากทางโครงการออกแบบให้เพิ่มช่องแสงเล็กๆตรงบันได (เหมือนเวลาที่เราเคยเห็นกันบ่อยๆตามบ้านทาวน์โฮม) ก็น่าจะช่วยเพิ่มความสว่างโปร่งโล่งให้ห้องนี้ได้เหมือนกันครับ

ระเบียงภายนอกมีขนาดกว้าง 1.4 x 0.7 m. สามารถออกไปใช้งานได้ตามปกติ พร้อมแขวน Condensing Unit ได้ด้านบน ทำให้สามารถใช้งานพื้นที่ด้านล่างได้อย่างเต็มที่

ขึ้นมาบนชั้นลอยจะมีขนาดพื้นที่ 10 ตร.ม. เท่ากับห้องตัวอย่างแรกเลย สามารถใช้งานได้สบายๆ

ปิดท้ายกันด้วยภาพมุมสูงที่มองลงไปจากด้านบนก็จะเป็นประมาณนี้ครับ

• 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่โฉนด 34 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม 48 ตร.ม.

เป็นห้องที่มี Highlight อยู่ตรงฝ้าเพดานสูง 2 ฟังก์ชันเลยคือ Living Area และห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างที่สามารถทำเป็นห้องนอนได้สบายๆ ส่วนห้องนอนที่อยู่ด้านบนจะมีขนาดพื้นที่ใหญ่มาก สามารถแบ่งโซนเตียงนอนและโซนแต่งตัวออกจากกั้นได้อย่างชัดเจน แต่ที่เราชอบอีกอย่างคือ ห้องนี้จะเป็นห้องที่อยู่ตรงมุมอาคารด้วยครับ

ดังนั้นจึงเป็นห้องที่มีช่องแสง 2 ด้าน มีความสว่างโปร่งโล่งและเปิดระบายอากาศได้ดี อย่างห้องครัวก็จะอยู่ติดกับหน้าต่างเลย สามารถเปิดระบายอากาศได้เต็มที่ ภาพรวมถึงเป็นห้องที่เหมาะกับการอยู่ 1 – 2 คน หรือจะอยู่แบบครอบครัวเล็กที่มีลูก 1 คนก็ได้

ส่วนแบบห้องอื่นๆทั้ง Simplex และฝ้าเพดานสูงที่เหลือจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมภาพใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่า

Origin Place Chaengwattana (ออริจิ้น เพลส แจ้งวัฒนะ) ราคา ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568

แบบห้อง Simplex ฝ้าเพดานสูง 2.6 m.

• 1 Bedroom ขนาด 24 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท
• 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท
• 1 Bedroom Plus ขนาด 34 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท
• 2 Bed Plus 2 Bath ขนาด 63 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.29 ล้านบาท

แบบห้อง High Ceiling ฝ้าเพดานสูง 4.2 m.

• 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 22 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม 32 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท
• 1 Bedroom ขนาดพื้นที่โฉนด 26 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม 36 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.09 ล้านบาท
• 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่โฉนด 34 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม 48 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.19 ล้านบาท
• 2 Bedrooms Plus ขนาดพื้นที่โฉนด 63 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม 84 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.29 ล้านบาท

• รูปแบบการขาย Fully Fitted
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร
• Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
• Hob & Hood / ของยี่ห้อ Hafele
• มีรถ Shuttle Bus ไป-กลับ MRT สายสีชมพู สถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28
• จอง 10,000 – 20,000 บาท
• ทำสัญญา 20,000 – 50,000 บาท
• ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน และ 55 บาท/ตร.ม./เดือน สำหรับห้อง Pet friendly
• ค่าลงทะเบียนสำหรับสัตว์เลี้ยง 5,000 บาท/ตัว (ห้องขนาดมากกว่า 34 ตร.ม. ขึ้นไปสามารถเลี้ยงได้ 2 ตัว)

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

ทำเล : ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่แจ้งวัฒนะ ใกล้เซ็นทรัล ทางด่วน และมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูให้ใช้งาน เรียกได้ว่าทำเลมีความอุดมสมบูรณ์ที่ครบครันและเดินทางได้สะดวก อีกทั้งยังมีแหล่งงานค่อนข้างเยอะเลยครับ ซึ่งอย่างที่เราบอกไปแล้วว่าการมาของรถไฟฟ้าสายสีชมพู เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ย่านนี้มีความคึกคักมากขึ้นไม่มากก็น้อย เราจึงได้เห็นคอนโดเกิดใหม่ค่อนข้างเยอะ และส่วนใหญ่ก็เริ่มสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่กันแล้ว

แต่สำหรับ Origin Place แจ้งวัฒนะ เรียกได้ว่าเป็นคอนโดน้องใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัว ดังนั้นคนที่สนใจจะต้องสามารถรอสร้างเสร็จได้อีก 2 ปีข้างหน้า แต่ถึงจะเปิดทีหลังใครๆ ออริจิ้นก็ทำการบ้านมาได้ดี ด้วยการสร้างคอนโดที่มีรูปแบบฉีกออกจากตลาดในย่านไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของห้องฝ้าเพดานสูงและเลี้ยงสัตว์ได้ ถ้าใครที่ต้องการคอนโดแบบนี้ก็จะต้องมีโครงการของออริจิ้นเป็นหนึ่งในตัวเลือกอย่างแน่นอน

การเดินทางโดยใช้รถ : ใกล้ทางด่วนศรีรัชเรียกได้ว่าค่อนข้างสะดวกเลยนะครับ โดยเราจะอยู่ห่างจากทางลงเพียง 1 km.เท่านั้น เรียกว่าลงทางด่วนปุ้ปก็คือถึงบ้านเลย แต่ถ้าเป็นตอนที่จะไปขึ้นทางด่วน จะมีระยะที่ต้องไปกลับรถมาก่อนประมาณ 2 km. ก็ค่อนข้างไกลพอสมควรเหมือนกัน ประกอบกับทำเลนี้ช่วงเวลาเร่งด่วนก็มีรถติดอยู่เหมือนกันครับ ดังนั้นก็อาจต้องเผื่อเวลาในช่วงเช้าๆกันสักนิดด้วยนะ ส่วนที่จอดรถให้มาประมาณ 40% แบบรวมจอดซ้อนคัน ถือว่าให้มากลางๆน่าจะเพียงพออยู่ เพราะทำเลนี้มีรถสาธารณะอื่นๆเป็นตัวเลือกในการเดินทางด้วยนั่นเอง

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ด้านหน้าโครงการติดถนนใหญ่และมีป้ายรถเมล์ ทำให้เรียกรถสาธารณะได้สะดวกมากครับ นอกจากนี้เรายังตั้งอยู่ระหว่างรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพูทั้ง 2 สถานีประมาณ 600 m. พอดีๆ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางเลี่ยงรถติดเพื่อเข้าเมืองได้ดีเลย โดยทางโครงการจะมี Shuttle Bus ไป-กลับ MRT สายสีชมพู สถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 ให้ด้วยนะ

วัสดุ : ขายแบบ Fully Fitted ให้เฟอร์นิเจอร์ Built-in หลักๆมาครบ แต่ก็ยังต้องเผื่องบประมาณในการซื้อของตกแต่งห้องเองเพิ่มเติมด้วยนะครับ โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหลาย เหมาะกับคนที่ชอบแต่งห้องเองอยู่แล้ว หรือถ้าใครมีแพลนว่าจะลงทุนปล่อยเช่า เราก็สามารถทำห้องให้มีความพิเศษแตกต่างกับคนอื่นๆได้ด้วยนั่นเอง

ส่วนสเปควัสดุเราว่าให้มาเหมาะสมกับการใช้งานทุกฟังก์ชันเลย ไม่ว่าจะเป็นพื้นครัวที่เป็นกระเบื้องพอร์ซเลน และ Top เคาน์เตอร์ครัวหินสังเคราะห์ที่เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนพื้นด้านในห้องจะเป็น SPC ที่สามารถทนความชื้นได้ดีกว่าไม้ลามิเนต + ผนังห้องก็มีความหนามากกว่าปกติอยู่ที่ 15 cm. ทำให้เหมาะกับการเลี้ยงสัตว์มากขึ้นด้วยครับ

การออกแบบโครงการ : สิ่งที่เราชอบมากๆของโครงการนี้คือ การแบ่งโซนการใช้งานส่วนกลางที่ทำได้ชัดเจนดีมาก ซึ่งไม่ใช่แค่ฟังก์ชันของคนเท่านั้น แต่ยังมีการแบ่งโซนของน้องๆสัตว์เลี้ยงที่ชัดเจนมากๆอีกด้วย เช่น การแยก Pet Lobby และสวนสำหรับน้องๆออกมาจากคน ทำให้ใช้งานได้ไม่รบกวนกัน ทีเด็ดสุดๆคือการมีลิฟต์โดยสารเฉพาะของชั้น Pet Friendly ซึ่งนอกจากน้องๆจะไม่ต้องไปใช้งานลิฟต์ขนของเหมือนโครงการอื่นๆ ที่เราเคยเห็นกันบ่อยๆแล้ว เจ้าของห้องเองก็ได้ประโยชน์ในการใช้งาน ที่ไม่ต้องไปแชร์กับคนส่วนใหญ่ที่โถงลิฟต์หลักด้วย เพราะโครงการนี้มีอัตราส่วนลิฟต์ถึง 233 : 1 ถือว่าหนาแน่นพอสมควรเลยครับ

การออกแบบห้องพักอาศัย : เป็นโครงการที่มีทั้งห้องแบบ Simplex ที่ได้ฝ้าเพดานสูงปกติ และมีห้องแบบ High Ceiling ฝ้าเพดานสูง 4.2 m. ให้เลือก โดยสัดส่วนจะเน้นไปทางห้องฝ้าเพดานสูงซะมากกว่าครับ ซึ่งจุดเด่นของห้องลักษณะนี้คือ บรรยากาศภายในที่โปร่งโล่ง และให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านนั่นเอง โดยจะมีให้เลือกตั้งแต่ห้องไซส์เล็ก 1 Bedroom ที่เหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คน และยังมีห้องไซส์กลาง-ไซส์ใหญ่อย่าง 1 Bedroom Plus และ 2 Bedrooms สำหรับการอยู่เป็นครอบครัวให้เลือกด้วยครับ แต่ก็จะเป็นห้องมุมที่มีจำนวนต่อชั้นไม่มากนัก ใครสนใจก็อาจต้องรีบจับจองกันสักหน่อย

สาธารณูปโภค : มีฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานครบ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นฟังก์ชันที่จำเป็นสำหรับยุคสมัยนี้ทั้งหมด โดยเฉพาะ Co-Working Space / Fitness / สระว่ายน้ำ และ Sky Lounge แถมยังมีสวนบนชั้นดาดฟ้าให้ขึ้นไปชมวิวได้ด้วยนะครับ อีกทั้งยังมีส่วนกลางสำหรับสัตว์เลี้ยงแยกออกมาให้ใช้งานด้วย โดยเราได้อธิบายจุดเด่นของการแยกโซนได้ชัดเจนไปแล้วใช่มั้ยครับ ดังนั้นจะสัมผัสได้เลยว่าโครงการนี้ค่อนข้างให้ความสำคัญ กับโซนพักอาศัยของทั้ง 2 โซนไม่น้อยหน้ากันเลยจริงๆ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 110,000 บาท/ตร.ม., 3 กุมภาพันธ์ 2568

• ทำเล 8/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้ห้างสรรพสินค้า และมีการเดินทางที่สะดวกหลากหลาย
• เดินทางด้วยรถ 8/10 – ใกล้ทางด่วนศรีรัช สามารถเข้า-ออกเมืองได้ง่าย
• ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ใกล้ MRT สายสีชมพู 600 m. และมี Shuttle Bus รับ-ส่ง ด้านหน้ามีป้ายรถเมล์เรียกรถสาธารณะได้ง่าย
• วัสดุ 7.5/10 – Fully Fitted ต้องเผื่องบตกแต่งห้องเพิ่ม สเปควัสดุเหมาะสมกับการใช้งาน
• แบบ 8.5/10 – มีห้องฝ้าเพดานสูง แบบห้องให้เลือกเยอะ เลี้ยงสัตว์ได้
• สาธารณูปโภค 8/10 – ฟังก์ชันหลักๆครบ แบ่งโซนได้ดีชัดเจน มีฟังก์ชันของ Pet Friendly โดยเฉพาะ

• MAIN CLASS
• 7.94 / 10.00

Origin Place Chaengwattana (ออริจิ้น เพลส แจ้งวัฒนะ) เหมาะกับใคร

โครงการ Origin Place แจ้งวัฒนะ เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดติดถนนใหญ่ ใกล้ห้างเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ และทางด่วนศรีรัช รวมถึงมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูให้ใช้ด้วย โดยเป็นคอนโดที่มีโซน Pet Friendly ให้เลี้ยงสัตว์ได้ พร้อมทั้งแยกโซนการใช้งานได้ชัดเจนไม่รบกวนกัน โดยเฉพาะลิฟต์และฟังก์ชันส่วนกลางอื่นๆก็จะแยกเฉพาะออกมา ส่วนห้องพักจะมีทั้งแบบ Simplex และห้อง High Ceiling ฝ้าสูง 4.2 m. ให้เลือก ขายแบบ Fully Fitted สามารถซื้อเฟอร์นิเจอร์มาตกแต่งห้องเองได้ มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 1.99 – 7.29 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 14,000 – 51,000 บาท

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่