…นานๆทีจะมีคอนโดใหม่มาเปิดในย่านลำลูกกานะครับ โดยโครงการที่ว่านี้ก็คือ Nue Cross Khu Khot Station ที่เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินผืนใหญ่ติดรถไฟฟ้าจากทาง Noble ซึ่งอนาคตจะมีการพัฒนาโครงการเฟสใหม่ๆ และมี Lifestyle Mall เกิดขึ้นอีกด้วย เรียกได้ว่านอกจากทำเลจะดีแล้ว ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันมากๆ ส่วนจุดเด่นหรือ Highlights อื่นๆ ผมสามารถสรุปได้ดังนี้
- ทำเล : ติดถนนใหญ่ลำลูกกา และใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีคูคต ในระยะเพียง 120 m. สามารถเดินถึงได้สบายๆและปลอดภัย
- การออกแบบโครงการ : เป็นโครงการใหญ่ที่แบ่งการพัฒนาออกเป็นหลายเฟส และมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆครบ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าและ Lifestyle Mall ซึ่งมีการแยกโซนออกจากส่วนพักอาศัยชัดเจน เพื่อความเป็นส่วนตัวและจะได้ไม่รบกวนกัน
- ห้องพักอาศัย : เน้นเป็นห้องไซส์เล็ก มีราคาจับต้องได้ง่าย เริ่มต้นเพียง 1 ล้านกว่าบาท และมีห้องให้เลือกถึง 4 แบบ ขายแบบ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่
ข้อมูลโครงการ
Nue Cross Khu Khot Station (นิว ครอส คูคต สเตชัน) ณ วันที่ 20 เมษายน 2565
ชื่อโครงการ | Nue Cross Khu Khot Station (นิว ครอส คูคต สเตชัน) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | ECONOMY CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี |
ที่ดิน | 11-1-90 ไร่ |
ประเภทคอนโด | Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร และ Low Rise 7 ชั้น 2 อาคาร |
จำนวนยูนิต | 1,202 ยูนิต (แบ่งเป็น ห้องพักอาศัย 1,178 ยูนิต และร้านค้า 24 ยูนิต) |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 29 ยูนิต ที่อาคาร C/D/E/F |
ที่จอดรถ | 249 คัน หรือคิดเป็น 21% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2565 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2566 |
ประเภทห้องพัก |
|
ฝ้าเพดานสูง | 2.5 เมตร |
ราคาเริ่มต้น | 1.XX ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 65,000 บาท/ตร.ม. |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | อยู่ระหว่างดำเนินการ |
เว็บไซต์โครงการ | https://nobleurl.com/3Ma3EDl |
Call Center | 02-251-9955 |
ทำเลที่ตั้ง
Highlights :
- ติดถนนใหญ่ลำลูกกา และใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีคูคต ในระยะเดินได้สบายๆ 120 m.
- มีความอุดมสมบูรณ์ครบ ทั้งตลาดและซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงยังจะมี Lifestyle Mall เปิดใหม่ในอนาคตอีกด้วย
- มีถนนกาญจนาภิเษกให้ใช้เข้า-ออกเมืองอยู่ไม่ไกล สามารถเชื่อมต่อทางด่วนฉลองรัชและทางด่วนศรีรัชได้ด้วย
พิกัด Google Maps : 13.932497, 100.648197
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
โครงการ Nue Cross Khu Khot Station ตั้งอยู่ติดถนนลำลูกกา ซึ่งปัจจุบันก็มีรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เป็นเส้นหลักอย่าง “สถานีคูคต” ที่สามารถนั่งรถไฟฟ้าต่อเดียวตรงเข้าเมืองได้เลย นั่นจึงทำให้การเดินทางในย่านนี้มีความสะดวกมากขึ้น และต่อจากนี้ก็อาจไม่ได้มีแค่บ้านแนวราบเท่านั้น แต่ก็จะมีที่อยู่ประเภทคอนโดมิเนียมมาเปิดในพื้นที่นี้กันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยประเดิมเจ้าแรกด้วย Noble กับที่ดินผืนใหญ่ที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าแห่งนี้กันไปเลยครับ
ปกติแล้วคอนโดมิเนียมที่มาเปิดในย่านนี้ ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ตรงแถวๆ สถานีพหลโยธิน 59 และสถานีสายหยุด ซึ่งก็จะเป็นอีกระดับราคาหนึ่งไปเลยครับ แต่หากมองขยับออกมาหน่อยอีกไม่กี่สถานี เราก็จะเจอกับโครงการของ Nue Cross Khu Khot Station ที่จับต้องได้ง่ายมากขึ้น ในราคาเริ่มต้นไม่ถึง 2 ล้านบาท
และก็ไม่ต้องห่วงเรื่องความอุดมสมบูรณ์เลยครับ เพราะด้วยความที่เป็นย่านชุมชนแนวราบที่มีหมู่บ้านเยอะอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นตลาด/ซูเปอร์มาร์เก็ตก็มีครบ อีกทั้งตัวโครงการเองก็ยังมีแผนจะที่ทำ Lifestyle Mall เป็นของตัวเองเพิ่มอีกด้วย ซึ่งจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างไว้เราไปชมกันในพาร์ทต่อไปได้เลยครับ
ตัวโครงการเรียกได้ว่าใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีคูคตมากๆ ซึ่งห่างจากสะพานทางขึ้นประมาณ 120 m. เท่านั้น และอย่างที่บอกว่าบริเวณด้านหน้าจะทำเป็น Lifestyle Mall นั่นจึงทำให้บรรยากาศการเดินกลับบ้านจะมีความคึกคักและปลอดภัยมากขึ้น แถมยังสามารถแวะซื้อของกินของใช้ก่อนเข้าบ้านได้สะดวกอีกด้วยนะ
และเราสามารถนั่งรถไฟฟ้าเข้าเมืองยาวๆได้เลย โดยไม่ต้องเสียเวลาไปเปลี่ยนสายให้ยุ่งยาก ซึ่งผมลองจับเวลาจากสยามมายังโครงการ ก็ใช้เวลาประมาณ 40 – 50 นาทีได้ครับ ส่วนบรรยากาศของการเดินทางและตัวสถานีปัจจุบันจะเป็นอย่างไร เราไปชมภาพกันใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
Remark : Lifestyle Mall ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Nue Cross Khu Khot Station โดยโนเบิล มีแผนในการแบ่งพื้นที่เพื่อหาผู้เช่ามาพัฒนาเป็นโครงการ Lifestyle Mall เท่านั้น
ภาพมุมสูงที่มองจากตัวสถานีรถไฟฟ้าไปยังโครงการ
ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ เราสามารถขับตรงไปขึ้นถนนกาญจนาภิเษกเพื่อใช้เข้า-ออกเมืองได้ โดยมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 7 km. อีกทั้งเรายังสามารถเชื่อมต่อไปยังทางด่วนฉลองรัช และทางด่วนศรีรัชได้อีกด้วยนะ
ส่วนถ้าใครที่ต้องการกลับรถไปทางพหลโยธิน-ดอนเมือง ก็จะมีระยะกลับรถสบายๆอยู่ที่ 300 m. ตามภาพครับ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
บริบทรอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นบ้านแนวราบ และด้านหน้าก็จะอยู่ติดถนนลำลูกกา ส่วนทางด้านข้างจะเป็นปั๊มน้ำมัน ปตท. ที่มีร้านค้าร้านอาหารอยู่ภายในเยอะมากๆ นอกจากนี้ก็จะมีคอนโดกับ Lifestyle Mall มาเปิดใหม่อีกด้วย โดยเมื่อทุกอย่างสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว ก็จะทำให้บริเวณนี้ก็จะมีความคึกคักมากขึ้นครับ
- ทิศเหนือ : ติดกับ ชุมชนแนวราบ
- ทิศใต้ : ติดกับ ถนนลำลูกกาและรถไฟฟ้า
- ทิศตะวันออก : ติดกับ ปั๊มน้ำมัน ปตท.
- ทิศตะวันตก : ติดกับ ที่ดินรอการพัฒนาในอนาคต เป็นคอนโดและ Lifestyle Mall
ปัจจุบันในวันที่ผมเข้ามาถ่ายรีวิว (20/04/2022) หน้างานเค้ายังไม่เรียบร้อยดีนะครับ ดังนั้นอาจไม่มีภาพสำนักงานขายหรือโมเดลให้ดูนะ แต่ผมจะพามาเดินดูทำเลรอบๆกันสักหน่อย โดยด้านหลังรั้วนี้ก็คือที่ตั้งของ Nue Cross Khu Khot Station เฟสแรกที่กำลังจะเริ่มก่อสร้างแล้ว ซึ่งก็จะอยู่ติดกับถนนลำลูกกาแบบนี้เลยครับ
และถ้าเราเดินตรงต่อมาก็จะเจอกับปั๊ม ปตท. ที่มีขนาดใหญ่ และมีร้านค้าร้านอาหารอยู่ภายในครบครัน ซึ่งนอกจากจะแวะมาเติมน้ำมันแล้ว ก็ยังสามารถมาหาอะไรทานง่ายๆที่นี่ได้อีกด้วย
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- Makro Food Service ลำลูกกา ~ 850 m.
- Lotus’s คลอง 2 ~ 3.2 km.
- Big C ลำลูกกา – คลอง 4 ~ 3.6 km.
- ตลาดเอซีสายไหม ~ 3.7 km.
- ตลาดเอซีคลอง 4 ~ 5.4 km
- ตลาดวงศกร ~ 6.1 km.
- ตลาดยิ่งเจริญ ~ 7.9 km.
โรงพยาบาล
- รพ.สินแพทย์ ลำลูกกา ~ 3.1 km.
- รพ.ภูมิพลอดุลยเดช ~ 5.3 km.
- CGH Hospital ~ 8 km.
โรงเรียน
- รร.สารสาสน์วิเทศสายไหม ~ 5 km.
- Western University ~ 7.7 km.
- มหาวิทยาลัยเกริก ~ 10.3 km.
สถานที่ราชการและอื่นๆ
- ท่าอากาศยาน ดอนเมือง ~ 11.3 km.
รายละเอียดโครงการ
Highlights :
- เป็นโครงการขนาดใหญ่ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกในตัวเองครบ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าต่างๆ และ Lifestyle Mallในอนาคต
- มีการแบ่งโซนสำหรับลูกบ้านและ Commercial ออกจากกันชัดเจน เพื่อความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยในการอยู่อาศัย
- พื้นที่ส่วนกลางค่อนข้างเยอะ เนื่องจากเป็นโครงการค่อนข้างใหญ่ และยังแบ่ง Facilities เป็น 2 โซนหลักๆคือ สระว่ายน้ำสวยๆ และสวนสีเขียวเงียบสงบ ให้เราได้เลือกวิวตามความชอบ
- มีการจัดแปลนอาคารที่ค่อนข้างแตกต่างจากโครงการอื่นๆคือ ห้อง 1 Bedroom ในชั้นล่างๆจะเป็นห้องไซส์เล็ก ราคาจับต้องได้ง่าย ส่วนห้อง 1 Bedroom ชั้น 5 – 6 ขึ้นไปจะเป็นห้องไซส์ใหญ่ทั้งหมด
Nue Cross Khu Khot Station เป็นหนึ่งในโครงการคอนโดมิเนียมบนที่ดินผืนใหญ่กว่า 50 ไร่ของทาง Noble ที่ได้มีการแบ่งพื้นที่พัฒนาออกเป็นหลายเฟส ซึ่งอนาคตก็จะมีทั้งคอนโดเฟสใหม่ๆ ร้านค้า และ Lifestyle Mall ตามมาอีกมากมายเลยครับ
โดยมีคอนเซ็ปต์โครงการเก๋ๆว่า “คูลโคตร…” ที่ไม่ใช่แค่การเล่นคำมาจากชื่อทำเลหรือสถานีคูคตเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการใช้ชีวิตที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงการเดินทางที่เข้าเมืองได้ง่าย ด้วยรถไฟฟ้าเพียงแค่ต่อเดียวนั่นเอง
Master Plan โครงการสามารถเข้า-ออกหลักๆคือ บริเวณวงเวียนด้านหน้าที่เป็นถนนภาระจำยอม ส่วนตรงถนนลำลูกกาจะเป็นทางออกอีกด้านหนึ่ง ซึ่งจะช่วยในเรื่องความสะดวกในการสัญจรภายในโครงการ โดยการวางผังภายในจะแบ่งออกเป็น 2 โซนหลักๆคือ โซนของอาคาร A และ B ที่มียูนิตร้านค้าชั้นล่างจะอยู่ทางด้านหน้าสุด ซึ่งเป็นส่วนที่ Visitor หรือบุคคลภายนอกยังสามารถเข้ามาใช้บริการได้อยู่
ส่วนอีก 4 อาคารที่เป็นยูนิตพักอาศัยทั้งหมดจะอยู่ทางด้านใน และมีไม้กั้นกระดกแยกโซนออกจากร้านค้าด้านหน้า เพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น โดยมีการวางผังอาคารให้โอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้ ทำให้ห้องที่หันเข้ามาด้านในจะได้รับวิวสวยๆได้นั่นเองครับ
อีกทั้งยังมีห้องเริ่มต้นบนชั้น 1 ให้เลือกด้วยนะ ซึ่งก็เหมาะกับคนที่ต้องการความสะดวกในการมาใช้งาน Facilities บ่อยๆ รวมถึงยังไม่ต้องเสียเวลาขึ้น-ลงลิฟต์ แถมยังได้มองเห็นวิวสวนและต้นไม้อย่างใกล้ชิดมากๆอีกด้วย แต่ทั้งนี้ก็ต้องแลกมากับความเป็นส่วนตัว ที่อาจน้อยกว่าห้องชั้นบนๆอยู่สักหน่อย และที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือ อาคาร E และ F ที่จะเป็นโถงทางเดินแบบ Single Corridor เลยทำให้มีความเป็นส่วนตัวตรงบริเวณหน้าห้องมากขึ้นนั่นเองครับ
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณด้านหน้าโครงการ จะไม่ได้มีทางเข้า-ออกติดกับถนนหลักโดยตรง แต่จะเป็นวงเวียนและถนนภาระจำยอมของโครงการ ที่ใช้งานร่วมกันในแต่ละเฟส เลยทำให้มีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยมากขึ้น
สำหรับการเข้า-ออกของลูกบ้านจะใช้ระบบ RFID ที่ไม้กั้นกระดกจะเปิดออกให้อัตโนมัติด้วยสัญญาณ Bluetooth เหมือน Easy Pass บนทางด่วน ส่วน Visitor รวมถึงคนที่อาจเข้ามาใช้บริการร้านค้าในโซนด้านหน้า ก็จะต้องทำการแลกบัตรกับพี่ยามก่อนตามปกติครับ
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณด้านหน้าอาคาร A ที่มียูนิตร้านค้าอยู่ชั้นล่างสุด และเป็นโซนที่ลูกค้ายังสามารถเข้ามาใช้บริการได้ด้วย โดยจะมีการจัดเตรียมพื้นที่จอดรถไว้ให้อยู่ทางด้านหน้า ซึ่ง Visitor จะต้อง Stamp บัตรกับร้านค้าหรือลูกบ้านทุกครั้งด้วยนะครับ
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณโถง Lobby ของอาคาร C – F จะเป็นลักษณะห้องฝ้าเพดานสูง พร้อมทั้งมีชุดโซฟาและเก้าอี้ต่างๆ ให้ลูกบ้านได้มานั่งเล่นพักผ่อนกันได้ อีกทั้งด้านในก็ยังมีการแบ่งโซนฟังก์ชันต่างๆเอาไว้อีกหลายอย่างเลย
ไม่ว่าจะเป็น Delivery Station หรือจุดรับ-ส่งอาหารผ่านทางช่องหน้าต่าง ที่เข้ากับยุคสมัย New Nomal แบบนี้สุดๆ รวมถึงยังมี Mail Box และ Laundry แยกเป็นสัดส่วนในแต่ละอาคารอีกด้วยครับ
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณสระว่ายน้ำที่อยู่ตรงกลางโครงการ มีความยาวประมาณ 55 x 7.5 m. เท่ากับขนาด Olympic Size ที่เราสามารถว่ายออกกำลังกายได้อย่างจริงจัง อีกทั้งโดยรอบยังมีการปลูกต้นไม้จัดสวนเพื่อความร่มรื่นและสวยงามด้วยครับ
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณ Amphitheatre ซึ่งจะเป็นที่ฉายหนังแบบกลางแจ้ง ให้ลูกบ้านได้มานั่งเล่น/ลอยตัวบนผิวน้ำ เพื่อรับชมหนังกันได้แบบสนุกๆ แต่จะมีการใช้งานจริงอย่างไรบ้าง อาจต้องรอดูรายละเอียดในอนาคตกันอีกครั้งนะครับ
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณภายนอกอาคาร Finess ซึ่งโดยรอบจะทำเป็นผนังกระจก เพื่อให้เราสามารถมองเห็นวิวสวนและสระว่ายน้ำ ในขณะออกกำลังกายไปด้วยได้นั่นเอง
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณภายใน Fitness ซึ่งจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ และมาพร้อมกับอุปกรณ์การออกกำลังกายที่ครบครัน
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณ Work from Garden ออกแบบให้เป็นพื้นที่นั่งทำงานแบบกลางแจ้ง ที่ได้ร่มเงาจากต้นไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลาง ซึ่งเหมาะกับช่วงนี้ที่หลายๆคนยังคง WFH กันอยู่มากๆ หรือใครจะมานั่งเล่นพักผ่อนแบบชิลๆก็ได้เหมือนกัน
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณ Co-Working Space ซึ่งภายในจะมีพื้นที่ให้เราได้นั่งทำงานกันได้หลายจุด ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะนั่งแบบจริงจัง และโซฟาสบายๆ รวมถึงยังมีฟังก์ชัน Craft Room และ Meeting Pod ให้เราได้ใช้งานแบบส่วนตัวกันได้อีกด้วย
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณ Glamping Yard เป็นพื้นที่สวนที่มาในคอนเซ็ปต์สไตล์ Camping ให้สามารถมานั่งเล่นพักผ่อน หรือถ่ายรูปชิคๆกันได้ อีกทั้งยังมีโซน BBQ Yard ที่เป็นโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ ให้เราได้มาจัดปาร์ตี้หรือทานอาหารร่วมกันกับเพื่อนๆได้ครับ
ชั้นพักอาศัยแบบเต็ม Floor ของแต่ละอาคาร จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไปครับ โดยแปลนของอาคาร A จะเหมือนกับอาคาร B ส่วนแปลนของอีก 4 อาคารที่เหลือก็จะมีลักษณะที่คล้ายกันเลยครับ แต่จะมีความน่าสนใจที่แตกต่างกันในเรื่องของ “ตำแหน่งห้อง” ที่จะได้วิวไม่เหมือนกัน ซึ่งผมสามารถแบ่งออกเป็น 3 โซนใหญ่ๆได้ดังนี้
- กรอบสีน้ำเงิน : เป็นตำแหน่งบริเวณตรงกลางโครงการ ที่จะสามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำได้ชัดเจนที่สุด ซึ่งก็จะเป็นห้องไซส์ใหญ่ของทางโครงการ อย่างห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus
- กรอบสีม่วง : เป็นตำแหน่งห้องที่สามารถมองเห็นพื้นที่ส่วนกลางได้แบบตอนลึก ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สีเขียวและสระว่ายน้ำ ซึ่งห้องที่อยู่ทางฝั่งอาคาร D และ F จะมีความน่าสนใจตรงที่ เค้าจะอยู่ใกล้กับสวนของ Work from Garden ที่มีความสวยงาม และเงียบสงบมากกว่าห้องฝั่งตรงข้ามที่ใกล้อาคารฟิตเนสอยู่นิดหน่อยครับ โดยตำแหน่งนี้จะเป็น 1 Bedroom Plus ที่เป็นห้องไซส์ใหญ่สุดของโครงการนั่นเอง
- กรอบสีแดง : เป็นห้องที่เน้นวิวพื้นที่สีเขียวที่อยู่ตรงกลางโครงการ โดยจะเป็นโซนนั่งเล่นพักผ่อนที่มีความเงียบสงบ มากกว่าแถวสระว่ายน้ำที่เป็นโซน Activity ออกกำลังกายเป็นหลัก อีกทั้งยังเป็นตำแหน่งที่มีห้องไซส์เล็กอย่าง Studio ให้เลือกด้วยนะครับ ซึ่งหากใครที่มีงบประมาณจำกัด หรืออยากได้ห้องราคาดีๆ เพื่อไว้ลงทุนในอนาคตก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ส่วนแปลนอาคารอื่นๆ สามารถดูรายละเอียดได้จาก Gallery ด้านล่างนี้เลยครับ
แปลนอาคาร A และ B “เน้นความสะดวกสบาย มีร้านค้าอยู่ใต้อาคาร”
แปลนชั้น 1 เป็นร้านค้าสำหรับขายจำนวนอาคารละ 12 ยูนิต ขนาด 50.8 - 69.55 ตร.ม. อีกทั้งในส่วนของคอนโดก็จะมี Lobby และโถงลิฟต์แยกเป็นส่วนตัวไว้เหมือนกับอาคารอื่นๆด้วยครับ
แปลนอาคาร C และ D “มีวิวส่วนกลางให้เลือก 2 ฝั่ง”
แปลนชั้น 1 ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ที่ชั้นนี้ครับ แต่ก็จะมีการกั้นโซน Lobby ออกจากโซนห้องพักอาศัยด้วยประตูที่ต้องใช้ Key Card Access เพื่อความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย ซึ่งห้องพักเหล่านี้จะได้วิวที่ใกล้ชิดกับพื้นที่ส่วนกลางมากๆ โดยห้องทางฝั่งทิศเหนือจะได้วิวสระว่ายน้ำและฟิตเนส ส่วนห้องทางทิศใต้จะเป็นวิวพื้นที่สีเขียวร่มรื่นไม่ต้องกลัวแดดร้อน อีกทั้งยังเหมาะกับคนที่ชอบมาใช้งาน Facilities บ่อยๆ แถมยังไม่ต้องเสียเวลาขึ้น-ลงลิฟต์อีกด้วย แต่ก็แลกมากับความเป็นส่วนตัวของระเบียงและหน้าต่าง ที่จะน้อยกว่าชั้นบนๆหน่อยนะครับ
แปลนอาคาร E และ F “อยู่ด้านในลึกสุด เน้นความเป็นส่วนตัว ใกล้ที่จอดรถ”
แปลนชั้น 1 ของอาคารนี้จะแตกต่างจากอาคารอื่นๆที่ผ่านมานะครับ เพราะจะมีด้านหนึ่งของอาคารเป็นพื้นที่จอดรถ จึงทำให้โถงทางเดินของห้องพักชั้นนี้กลายเป็นแบบ Single Corridor และมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นนั่นเองครับ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
COOL LOBBY ZONE
- Lobby
- Delivery Station
- Mailbox
- Laundry
COOL ACTIVE ZONE
- Jogging Track
- Play Yard
- Fitness Center
- Interactive Fitness Space
- Olympic Pool ระบบเกลือ ขนาด 55 x 7.5 m.
- Kids Pool
COOL SOCIAL ZONE
- Glamping Yard
- Amphitheatre With Floating Cinema
- WFG (Work from Garden)
- Craftroom
- Meeting Pod
- Co-Working Space
COOL RELAXING ZONE
- Cool Down Garden
- Sculpture Garden
- Palm Springs Garden
- Pool Catwalk
- Pool Terrace
- Pool Observation
- BBQ Yard
- Tree Terrace
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 100 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 85.5 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 85.5 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก C 110 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก D 110 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก E 105 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก F 105 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 249 คันคิดเป็น 21%แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Key Card ระบบ RFID
แบบห้อง
Highlights :
- มีห้องให้เลือก 4 แบบ ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นเป็นห้องไซส์เล็ก ที่มีราคาจับต้องได้ง่าย
- ห้อง Studio มีพื้นที่เชื่อมต่อกันกว้างขวางดี โดยมีจุดเด่นตรงที่ได้ครัวปิดแยกเป็นสัดส่วน สามารถทำอาหารทานเองได้สบายๆ ซึ่งต่างจากแบบห้องอื่นๆ
- ห้อง 1 Bedroom จะได้ห้องนอนที่กั้นด้วยผนังทึบ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง และเน้น Common Area ที่มีขนาดใหญ่ มีความโปร่งโล่ง แต่จะได้เป็นครัวเปิดนะครับ
- ห้อง 1 Bedroom Plus เป็นแรร์ไอเทมหรือห้องหายากของโครงการนี้ ที่มีอยู่เพียง 4% เท่านั้น และมักจะอยู่ในตำแหน่งที่ได้วิวดีๆของอาคารอีกด้วย โดยจะเป็นห้องหน้ากว้างที่มีห้องอเนกประสงค์ให้ปรับฟังก์ชันการใช้งานได้หลากหลาย
โครงการนี้ขายแบบ Fully Furnished คือให้เฟอร์นิเจอร์หลักๆมาครบ ไม่ว่าจะเป็นตู้ที่ Built-in และเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวบางชิ้น ขาดแค่เรื่องใช้ไฟฟ้าเท่านั้นก็หิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลยครับ โดยแบบห้องทั้ง 4 จะประกอบด้วย
- Studio ขนาดพื้นที่ใช้สอย 22.05 – 23.1 ตร.ม.
- 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 26.5 – 27.2 ตร.ม.
- 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 30.2 – 31.3 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.9 – 34.95 ตร.ม.
เป็นห้องที่เน้นความโปร่งโล่งและมีพื้นที่เชื่อมต่อกัน เหมาะกับการอาศัย 1 – 2 คน หรืออาจเป็นคนที่ชื่นชอบความสะดวกสบาย และเน้นใช้ชีวิตอยู่ภายในห้องขนาดใหญ่เพียงห้องเดียวไปเลย ซึ่งบริเวณด้านหน้าสุดจะเป็น Living Area เอาไว้นั่งเล่นดูทีวี และติดกันจะเป็นโต๊ะทานอาหาร ที่ใช้งานที่นั่งร่วมกับโซฟาได้ด้วย ตรงกลางห้องจะเป็นพื้นที่แต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้า ส่วนด้านในสุดคือเตียงนอนที่อยู่ติดกับช่องหน้าต่าง
จุดเด่นอีกอย่างคือ การแยกฟังก์ชันครัว ห้องน้ำ และระเบียง ออกจากพื้นที่ห้องนอนหลัก ซึ่งนอกจากจะทำให้เราได้ครัวปิดที่ทำอาหารได้จริงจังแล้ว เรายังสามารถเปิดประตูระเบียงเพื่อระบายกลิ่น/ควันจากการประกอบอาหาร รวมถึงยังระบายความชื้นจากห้องน้ำออกไปได้โดยตรงอีกด้วยครับ
เมื่อเข้ามาภายในเราจะเจอกับ Common Area ที่เชื่อมต่อพื้นที่นั่งเล่นไปจนถึงโซนเตียงนอนที่อยู่ด้านใน จึงทำให้แสงสว่างจากหน้าต่างบานใหญ่ สามารถส่องผ่านเข้ามาจนถึงบริเวณหน้าห้องนี้ได้เลย โดยฝ้าเพดานจะมีความสูง 2.5 m. และปูพื้นเป็นไม้ลามิเนตครับ
เรามาเริ่มที่ฟังก์ชันแรกคือ Living Area ซึ่งจะมีระยะดูทีวีกว้างประมาณ 1.9 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้ครับ และเราจะได้เฟอร์นิเจอร์ครบตามที่เห็นในห้องตัวอย่างนี้เลย
ทางด้านซ้ายของประตูจะเป็นตู้เก็บของ และยังมีชั้นวางรองเท้าอยู่ด้านล่าง ซึ่งทางโครงการจะ Built-in มาให้แบบนี้เลยครับ จึงทำให้สามารถเก็บของได้อย่างเรียบร้อยและเป็นสัดส่วนดีเลยทีเดียว
นอกจากนี้เรายังได้ชั้นวางทีวี โต๊ะกลางขนาดเล็ก และโซฟาขนาด 2 ที่นั่งแบบนี้ด้วยนะครับ
โดยโซฟาตัวนี้จะมีดีไซน์พนักพิงแค่ด้านเดียว เพื่อที่อีกด้านจะสามารถใช้นั่งทานอาหาร ร่วมกับโต๊ะทานข้าวที่ทางโครงการให้มาได้ และกลายเป็น 2 ที่นั่งพร้อมๆกันได้แบบนี้นั่นเองครับ
ถัดเข้ามาบริเวณกลางห้องจะเป็นพื้นที่แต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้า ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ 2 โซนคือ เตียงนอนและโซฟานั่งเล่นครับ
และตู้เสื้อผ้าทางโครงการก็จะ Built-in แถมมาให้ด้วยแบบนี้เลย โดยหน้าบานด้านหนึ่งจะเป็นกระจกเงาที่เอาไว้ส่องแต่งตัวได้ ส่วนภายในก็มีขนาดใหญ่เพียงพอ ให้เก็บเสื้อผ้าของ 1 – 2 คนได้ครับ
ส่วนเตียงนอนก็จะอยู่ติดกับหน้าต่างด้านในสุดแบบนี้เลย โดยที่ของจริงเราจะได้เฉพาะฐานเตียงขนาด 5 ฟุตเท่านั้นครับ
และขนาดพื้นที่ห้องจะสามารถวางเตียงได้พอดี ซึ่งเราต้องขึ้นเตียงจากทางด้านข้างเพียงแค่ด้านเดียวนะครับ
นอกจากนี้เรายังได้โต๊ะข้างหัวเตียงสำหรับวางโคมไฟ/ของใช้ส่วนตัวต่างๆ รวมถึงยังมีปลั๊กไฟแบบช่องเสียบสาย USB ให้ใช้งานสะดวกอีกด้วย
ส่วนช่องแสงข้างเตียงถือเป็น Highlight หลักของห้องนี้เลยก็ว่าได้ครับ ซึ่งจะมีขนาดใหญ่เกือบเต็มผนังเลยทีเดียว สามารถนอนดูวิวได้จากบนเตียงสบายๆ หรือจะเปิดเพื่อระบายอากาศก็ได้
โดยกรอบหน้าต่างจะเป็นอลูมิเนียม Powder Coat สีดำ พร้อมกระจกลามิเนตแบบใสปกติ และอย่าลืมเว้นพื้นที่ข้างหน้าต่างไว้สักหน่อย เพื่อที่จะได้เปิด-ปิดผ้าม่านได้สะดวกด้วยนะครับ ส่วนผนังปลายเตียงเราก็สามารถทำชั้นวางของ เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้มากขึ้นได้อีกนิดหน่อยด้วย
อีกด้านหนึ่งของห้องจะมีการแยกฟังก์ชันครัวและห้องน้ำออกไป โดยของจริงจะมีการติดตั้งประตูกระจกบานเลื่อนแบบเดินรางด้านบนมาให้ด้วย ซึ่งนอกจากจะได้เป็นครัวปิดที่ทำอาหารได้จริงจังแล้ว ยังทำให้สามารถทำความสะอาดพื้นได้สะดวกอีกด้วย
ซึ่งภายในก็จะกว้างประมาณ 95 cm. และจะเป็นพื้นลามิเนตที่ต่อเนื่องจากในห้องหลักแบบนี้ ดังนั้นเวลาทำครัว/ทำความสะอาด ก็อาจต้องระมัดระวังเรื่องน้ำหรือความชื้นอยู่สักหน่อยนะครับ
ภายในเราจะได้ชุดครัว Built-in เหมือนในห้องตัวอย่างเลยครับ ยกเว้นเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันจะเป็นโปรโมชันในบางช่วงเวลา ส่วน Top เคาน์เตอร์จะเป็นหินสังเคราะห์ที่ทนน้ำ/ความร้อนได้ดี
และมีช่องวางไมโครเวฟอยู่ด้านบนแบบนี้ อาจทำให้สาวๆตัวเล็กๆใช้งานยากอยู่สักหน่อย เพื่อที่ด้านล่างจะได้มีช่องให้วางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าได้พอดี ส่วนทางด้านข้างก็จะมีพื้นที่กว้าง 90 cm. และสูงไม่เกิน 1.75 m. ให้วางตู้เย็นได้แบบนี้
ติดกันเป็นระเบียงที่เราสามารถเปิดประตูเพื่อระบายกลิ่น/ควัน จากการประกอบอาหารได้สบายๆเลยครับ หรือเราอาจขนเสื้อผ้าได้ซักอยู่ออกมาตากตรงนี้ก็ได้เหมือนกัน โดยมีขนาดพื้นที่กว้าง 1.5 x 0.75 m. พร้อมระแนงช่วยพรางสายตาแบบทรงสูง และแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบนแบบนี้
อีกด้านของครัวจะเป็นห้องน้ำครับ ซึ่งหากเราปิดประตูห้องครัวเอาไว้ และเปิดประตูระเบียงค้างไว้แทน ก็จะสามารถช่วยระบายกลิ่น/ความชื้นจากห้องน้ำได้ด้วย โดยจะไม่รบกวนพื้นที่ในห้องเลยนั่นเอง
ภายในห้องน้ำมีขนาดใหญ่ และแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วนตามมาตรฐาน ซึ่งเราจะได้สุขภัณฑ์ตามห้องตัวอย่างนี้เกือบทั้งหมดเลยครับ แต่จะมีอะไรบ้างนั้นตามไปดูกัน
เริ่มกันที่พื้นที่ส่วนแห้งจะมีขนาด 1.55 x 1.4 m. สามารถใช้งานได้สบายๆ ประกอบด้วยอ่างล้างหน้าจาก Cotto ที่มาพร้อมกับการ Built ตู้ด้านล่าง และชั้นวางของด้านข้างเพื่อใช้เก็บของจำเป็นในห้องน้ำได้ ส่วนโถสุขภัณฑ์จะเป็นของ American Standard และได้กระจกเงาบานใหญ่ แต่ไฟหลืบที่เห็นจะเป็นเพียงการตกแต่งเท่านั้นนะครับ
พื้นที่อาบน้ำจะมีขนาดประมาณ 1.1 x 0.9 m. สามารถใช้งานได้แบบพอดีๆ ซึ่งของจริงเราจะไม่ได้ฉากกั้นอาบน้ำนะครับ แต่ก็สามารถไปติดตั้งเพิ่มเติมเองได้ ภายในจะมี Hand Shower ที่ปรับระดับความสูงได้ มาพร้อมกับที่วางสบู่เล็กๆตรงผนัง และของจริงก็จะมี Junction box ให้เราติดเครื่องทำน้ำอุ่นเพิ่มเติมได้ด้วย
จุดเด่นของห้องนี้คือ จะมีการกั้นห้องนอนด้วยผนังทึบ เลยทำให้มีความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยมากขึ้น อีกทั้งยังมีห้องน้ำอยู่ภายในห้องนอนด้วยแบบนี้ ก็จะทำให้มีความสะดวกในการใช้งานของเจ้าของห้องเพิ่มขึ้นเยอะเลยทีเดียวครับ อย่างเวลาที่อาบน้ำเสร็จก็สามารถเดินออกมาแต่งตัวในห้องต่อได้สบายๆ หรือจะลุกเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนก็ง่าย เพียงแต่เราอาจเสียความเป็นส่วนตัวจากแขกในบางครั้ง เพราะต้องมีการเดินผ่านเข้ามาในห้องนอนก่อนนั่นเอง
ส่วนบริเวณ Common Area ก็จะเป็นพื้นที่เปิดโล่งเชื่อมต่อกัน และแน่นอนว่าเราจะได้เป็นครัวเปิด จึงอาจไม่เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารจริงจังสักเท่าไหร่นัก ทั้งนี้ก็เพื่อให้ได้บรรยากาศห้องที่โปร่งโล่ง ซึ่งก็พอที่จะติดตั้งเครื่องดูดควัน และเปิดประตูระเบียงเพื่อช่วยระบายอากาศได้อยู่บ้างครับ เพียงแต่ต้องระวังกลิ่นอาหารที่อาจไปติดตามโซฟาได้นะ สรุปแล้วห้องนี้ก็จะเหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว แต่อาจไม่เน้นการทำอาหารเท่าไหร่นักนั่นเอง
เมื่อเข้ามาภายในห้องเราจะเจอกับ Common Area ที่เชื่อมต่อกันตั้งแต่ส่วนครัว ไปจนถึงโซฟาและระเบียงห้องแบบนี้เลยครับ จึงทำให้บรรยากาศดูโปร่งโล่งดี แถมยังมีความเป็นส่วนตัว เพราะได้ผนังทึบที่กั้นห้องนอนแยกเอาไว้อีกด้วย
ด้านหน้าห้องจะเป็นฟังก์ชันครัวเปิด อีกทั้งระยะห้องก็อาจไม่ได้เหมาะกับการกั้นผนังเพิ่มสักเท่าไหร่นัก เพราะจะติดในเรื่องระยะของโต๊ะทานอาหารด้านข้างครับ เลยทำให้ห้องนี้ไม่เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารจริงจังบ่อยๆ
แต่ก็จะมีเคาน์เตอร์ครัวให้ใช้งานกันถึง 2 ฝั่งแบบนี้เลย และพื้นที่ทำครัวกว้างประมาณ 1.25 m. สามารถยืนใช้งานพร้อมกัน 2 ฝั่งได้สบายๆ โดยที่พื้นก็จะเป็นไม้ลามิเนตเหมือนกับส่วนอื่นภายในห้องนะครับ
ชุดเคาน์เตอร์ครัวเราจะได้ตามห้องตัวอย่างครับ ซึ่งมีวัสดุก็จะเหมือนกับของห้องที่แล้วเลย หลักๆก็คือ Top เคาน์เตอร์ครัวที่เป็นหินสังเคราะห์ เพียงแต่จะมีขนาดโต๊ะที่ใหญ่มากขึ้น และด้านล่างก็จะมีชั้นวางรองเท้าเป็นฟังก์ชันที่เพิ่มเข้ามาครับ เลยทำให้สามารถจัดเก็บของได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
ส่วนเคาน์เตอร์ฝั่งตรงข้ามจะเป็นโต๊ะขนาดเล็ก และตู้ให้เก็บของเพิ่มอีกพอสมควร รวมถึงด้านข้างก็จะเป็นที่วางตู้เย็นขนาด 70 cm. และสูง 1.7 m.
ถัดเข้ามาจะเป็นโต๊ะทานอาหาร ซึ่งจะตั้งอยู่บริเวณกลางห้องแบบนี้เลยครับ ทำให้เวลาอุ่นอาหารเสร็จแล้วก็สามารถยกเสริฟได้สะดวกทีเดียว
โดยห้องนี้เราจะได้โต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งแบบนี้เลยครับ ซึ่งผมลองเสนอไอเดียว่าถ้าเราลองหันโต๊ะมาทางโซฟา ก็จะทำให้สามารถทานข้าวไปด้วย พร้อมกับดูทีวีหรือชมวิวตรงระเบียงไปด้วยได้นะครับ
ด้านในสุดจะเป็นพื้นที่วางโซฟานั่งเล่น ซึ่งจะมีระยะดูทีวีกว้างประมาณ 2 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้ อีกทั้งยังอยู่ติดกับระเบียงแบบนี้ ก็เลยทำให้สามารถดูทีวีไปด้วยและชมวิวภายนอกไปด้วยได้สบายๆ
โดยเฟอร์นิเจอร์ที่เราจะได้ประกอบด้วย โซฟาขนาด 2 ที่นั่งแบบที่มีพนักพิง 2 ด้าน รวมถึงยังได้ชั้นวางทีวีเหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเติมมาคือ โต๊ะกลางขนาดใหญ่มากขึ้น ซึ่งเราสามารถใช้เป็นโต๊ะนั่งทำงานอ่านหนังสือชิลๆ หรืออาจนั่งทานอาหารหน้าทีวีเป็นครั้งคราวก็ได้นะ
ส่วนระเบียงภายนอกจะมีขนาด 2.4 x 0.75 m. ซึ่งกว้างมากกว่าห้องที่แล้วพอสมควร ทำให้สามารถออกมาใช้งานได้ดีมากขึ้น เช่น ปลูกต้นไม้ ตากผ้าชิ้นใหญ่ๆ หรือหาโต๊ะปิกนิกมาวาง เป็นต้น
ส่วนห้องนอนจะถูกกั้นด้วยผนังทึบแยกออกไป จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และประตูของจริงที่อยู่ตรงกลางห้องก็จะเป็นไม้บานทึบครับ
ภายในมีขนาดพื้นที่กว้างขวางและสามารถใช้งานได้ดี โดยจะแบ่งเป็นโซนพื้นที่เตียงนอนและพื้นที่แต่งตัวครับ
พื้นที่รอบเตียงจะมีระยะกว้างประมาณ 40 – 50 cm. ทำให้สามารถเดินวนรอบได้แบบพอดีๆ ถ้าใครที่อยู่ด้วยกัน 2 คน เวลาขึ้น-ลงเตียงก็จะสะดวกมากขึ้น เพราะไม่ต้องรบกวนอีกฝ่ายจนเกินไป โดยด้านข้างเตียงยังคงได้ช่องแสงขนาดใหญ่เหมือนเดิม ส่วนปลายเตียงก็สามารถติดทีวีแขวนผนังเพิ่มเติมแบบนี้ได้ด้วย
ส่วนอีกด้านจะเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะแต่งหน้า ซึ่งทางโครงการจะ Built-in มาให้พร้อมใช้งานแบบนี้เลยครับ โดยจะมีขนาดที่ใหญ่มากขึ้นกว่าห้องที่แล้วนิดหน่อย (ช่องด้านขวาสุดถึงแม้จะเปิดไม่ได้ แต่ก็ใช้แขวนเสื้อด้านในได้ตามปกติ เป็นการใช้พื้นที่ให้คุ้มค่ามากขึ้น)
ภายในห้องน้ำก็จะมีขนาดใหญ่ และแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน ซึ่งสุขภัณฑ์และขนาดพื้นที่ใช้งานต่างๆ ก็จะเหมือนกับห้องก่อนหน้านี้เลยครับ
สำหรับห้องนี้จะมีฟังก์ชันที่เหมือนกับ 1 Bedroom ที่เราเพิ่งไปพาไปรีวิวกันก่อนหน้านี้เลยครับ ซึ่งจะมีการแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน และกั้นห้องนอนด้วยผนังทึบได้ความเป็นส่วนตัวมากๆ เพียงแต่ห้องนี้จะมีขนาดพื้นที่ใช้สอยที่ใหญ่มากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณ Common Area จะมีการออกแบบเผื่อระยะให้เราสามารถกั้นห้องครัวด้านหน้า เพื่อทำเป็นครัวปิดสำหรับคนที่ชอบทำอาหารจริงจังได้
รวมถึงภายในห้องนอนก็จะมีพื้นที่แต่งตัวหน้าห้องน้ำขนาดใหญ่ ที่ถ้าเราออกแบบและกั้นฟังก์ชันดีๆ ก็จะสามารถทำเป็น Walk-in Closet เล็กๆได้เลยทีเดียวนะ โดยภายในห้องตัวอย่างเค้าก็ได้มีการกั้นฟังก์ชันต่างๆ ตามที่ผมว่ามานี้ให้ดูเป็นไอเดียด้วยนะ ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้างเราไปชมกันเลยครับ
เป็นห้องไซส์ใหญ่สุดของโครงการ เหมาะกับคนที่ต้องการห้องอเนกประสงค์เพิ่มอีกสักห้อง ซึ่งอาจทำเป็นห้องทำงานสำหรับช่วง WFH แบบนี้ หรือจะทำเป็นห้องนอนเล็กสำหรับลูกน้อยในอนาคตก็ได้เหมือนกัน โดยทั้งห้องนอนและห้องอเนกประสงค์จะกั้นด้วยผนังทึบ ได้ความเป็นส่วนตัวมากๆ และห้องน้ำจะสามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง จึงทำให้มีความสะดวกในการใช้งานที่ดีเลยทีเดียวครับ รวมถึงเรายังได้ Common Area รูปตัว L ขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกันตั้งแต่พื้นที่ครัวเปิด โต๊ะทานอาหาร และโซฟาหน้าทีวี ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเลยครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคา
Nue Cross Khu Khot Station ราคา ณ วันที่ 30 เมษายน 2565
- Studio ขนาดพื้นที่ใช้สอย 22.05 – 23.1 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นประมาณ 1 ล้านบาท
- 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 26.5 – 27.2 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
- 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 30.2 – 31.3 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.04 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.9 – 34.95 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.52 ล้านบาท
- Commercial Shop ขนาดพื้นที่ใช้สอย 50.8 – 69.55 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.37 ล้านบาท
- รูปแบบการขาย Fully Furnished
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.5 เมตร
- Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
- จองห้องพักอาศัย 4,900 บาท / Commercial Shop 50,000 บาท
- ทำสัญญาห้องพักอาศัย 30,000 – 50,000 บาท / Commercial Shop 100,000 บาท
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง Residential Unit 45 บาท/ตร.ม./เดือน และ Commercial Shop 65 บาท/ตร.ม./เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 1 ปี
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
บทสรุป
ทำเล : ติดถนนลำลูกกา และใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีคูคต ซึ่งปกติแล้วเราไม่ค่อยได้เห็นคอนโดเปิดใหม่ในย่านนี้มาสักพักแล้วนะครับ เพราะส่วนใหญ่มักจะเป็นบ้านแนวราบซะมากกว่า แต่ถ้าเป็นคอนโดก็มักจะอยู่แถวๆสถานีพหลโยธิน 59 และสถานีสายหยุด ที่มีราคาเริ่มต้นประมาณ 2 ล้านกว่าบาท เลยทำให้ “ราคา” ของโครงการ Nue Cross Khu Khot Station มีความน่าสนใจมากขึ้น เพราะจับต้องได้ง่ายเริ่มต้นเพียงล้านกว่าบาทเท่านั้น
โดยบางคนก็อาจมีการเปรียบเทียบกับโครงการแนวราบของย่านนี้ ที่มีราคาใกล้เคียงกันใช่มั้ยครับ แต่สิ่งที่จะทำให้คอนโดมีความน่าสนใจมากกว่าก็คือ “ความสะดวกสบาย” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทำเลที่ติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้าในระยะเดินสบายๆ รวมถึงยังมีส่วนกลางให้ใช้งานครบครันอีกด้วย ส่วนเรื่องความอุดมสมบูรณ์ก็ไม่ต้องห่วงครับ เพราะทำเลย่านนี้มีหมู่บ้านเต็มไปหมด ดังนั้นตลาด/ซูปเปอร์มาร์เก็ตจึงมีพร้อม และนี่ยังไม่รวม Lifestyle Mall ของโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วยนะ
การเดินทางโดยใช้รถ : ที่ตั้งโครงการเป็นถนนลำลูกกาช่วงตอนต้น และอยู่ห่างจากจุดกลับรถเพียง 300 m. เท่านั้น เลยทำให้สามารถกลับรถไปใช้ถนนพหลโยธินได้ไม่ยาก รวมถึงยังอยู่ไม่ไกลจากถนนกาญจนาภิเษกประมาณ 7 km. ซึ่งใช้เข้า-ออกเมืองได้ง่าย หรือจะไปเชื่อมต่อทางด่วนฉลองรัช และทางด่วนศรีรัชก็ได้เหมือนกัน
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ถือว่าสะดวกมาก เพราะอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีคูคต เพียง 120 m. ซึ่งนอกจากจะเป็นระยะที่เดินได้สบายๆแล้ว ยังมีความปลอดภัยอีกด้วยครับ เนื่องจากจุดขึ้น-ลงบันไดจะอยู่ตรง Lifestyle Mall ในอนาคตพอดี ดังนั้นจึงจะมีความคึกคักและยังสามารถแวะซื้อของก่อนเข้าบ้านก็ได้ แถมการขึ้นรถไฟฟ้าในสถานีต้นสายแบบนี้ เราก็ยังจะได้นั่งสบายๆไม่ต้องยืนให้เมื่อย และบริเวณด้านหน้าติดถนนใหญ่ก็ยังมีป้ายรถเมล์อีกด้วย จึงทำให้เรียกรถสาธารณะได้สะดวกเลยครับ
การออกแบบโครงการ : เป็นโครงการขนาดใหญ่ ที่มีการแบ่งผืนที่ดินการพัฒนาออกเป็นหลายๆเฟส ซึ่งก็จะประกอบด้วยคอนโดมิเนียม ร้านค้า และ Lifestyle Mall จึงทำให้กลายเป็นโครงการที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่ครบครัน โดยเค้าก็พยายามแบ่งโซนของที่พักอาศัย และโซน Commercial Shop ให้แยกออกจากกันชัดเจน เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยมากขึ้น
ในส่วนที่พักอาศัยจะมีอาคารทั้ง 6 โอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ตรงกลางเอาไว้ ทำให้ห้องพักด้านในจะได้วิวที่ค่อนข้างสวยเลยทีเดียว โดยจะแบ่งออกเป็น 2 Court ใหญ่ๆคือ วิวสระว่ายน้ำ และวิวพื้นที่สีเขียวที่ดูเงียบสงบ ซึ่งห้องพักส่วนใหญ่จะเน้นเป็นห้องไซส์เล็ก โดยเฉพาะห้อง Studio และ 1 Bedroom ในชั้น 1 – 5 จึงทำให้มีราคาจับต้องได้ไม่ยากนัก อีกทั้งยังอาจเหมาะกับนักลงทุนอีกด้วย
ส่วนห้อง 1 Bedroom ตั้งแต่ชั้น 6 – 8 จะเป็นห้องไซส์ใหญ่มากขึ้น ซึ่งนอกจากจะได้วิวมุมสูงที่ดีแล้ว ยังได้ความเป็นส่วนตัวจากเพื่อนร่วมชั้นที่ลดลง เพราะจะมีพื้นที่อเนกประสงค์หรือ Pocket Garden ที่สามารถมานั่งพักผ่อนเพิ่มเข้ามา และทำให้โถงทางเดินสว่างโปร่งโล่งมากขึ้นอีกด้วย ส่วนใครต้องการห้องแรร์ไอเทมหรือห้องหายาก ก็ต้องเป็น 1 Bedroom Plus เลยครับ เพราะเค้ามักจะวางไว้ในตำแหน่งที่ได้วิวค่อนข้างดี แต่จะมีให้เลือกน้อยอีกด้วยอยู่สักหน่อย หากใครสนใจอยู่ก็ต้องรีบจับจองกันให้ไวเลยนะครับ
ปิดท้ายกันที่ในส่วนของ Commercial Shop โดยสิ่งที่ทำให้ผมคิดว่าร้านค้าเหล่านี้จะสามารถไปต่อได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะโครงการที่มีขนาดใหญ่ และที่มีเพื่อนบ้านมากถึง 1,178 ยูนิต ซึ่งยังไม่รวมโครงการเฟสใหม่ๆ ที่กำลังจะตามมาในอนาคตอีกด้วยนะครับ และด้วยเหตุนี้เองจึงช่วยลดความเสี่ยง ของการวางผัง Commercial Shop ไว้อยู่ภายในเขตรั้วของโครงการแบบนี้ ที่อาจทำให้หลายคนกังวลว่า อาจมีลูกค้าน้อยกว่าการมีหน้าร้านติดถนนใหญ่พอสมควร แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละคนอีกครั้งหนึ่งด้วยนะ
การออกแบบห้องพัก : มีห้องให้เลือก 4 Type ซึ่งเราสามารถแบ่งออกเป็น 3 แบบหลักๆคือ Studio 22.05 – 23.1 ตร.ม. จะเน้นเป็นพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ แถมยังเป็นแบบห้องเดียวที่เราจะได้ครัวปิดติดระเบียง เลยเหมาะกับคนที่อาจชอบอาหารด้วยนั่นเองครับ
ส่วนห้อง 1 Bedroom จะมีอยู่ 2 ขนาด แบ่งเป็นห้องไซส์เล็ก 26.5 – 27.2 ตร.ม. และห้องไซส์ใหญ่ 30.2 – 31.3 ตร.ม. ซึ่งจริงๆแล้วมีฟังก์ชันที่คล้ายกันเลยครับ จุดเด่นคือเราจะได้ห้องนอนที่กั้นด้วยผนังทึบ มีความเป็นส่วนตัวสูง แต่จะมีความต่างกันตรงขนาดพื้นที่ใช้สอย ที่ทำให้ห้องไซส์ใหญ่สามารถกั้นทำเป็นครัวปิด หรือจะทำเป็น Walk-in Closet เล็กๆในห้องนอนเพิ่มเติมได้ ในขณะที่ห้องไซส์เล็กไม่มีระยะพอที่จะทำได้นั่นเองครับ
สุดท้ายคือห้อง 1 Bedroom Plus จะเป็นห้องหน้ากว้างที่มีห้องอเนกประสงค์เพิ่มเข้ามา ให้เราปรับเปลี่ยนฟังก์ชันตามต้องการได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงานและห้องนอนลูกเล็กๆ รวมถึงห้องน้ำก็สามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง ทำให้มีความสะดวกในการใช้งานมากขึ้นเยอะเลยทีเดียว
วัสดุ : ขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์มาครบ ขาดแค่เครื่องใช้ไฟฟ้าบางชิ้นก็เข้าอยู่ได้เลย ซึ่งเกรดวัสดุก็ให้มาเหมาะสมกับราคาดีครับ ที่ผมชอบคือช่องหน้าต่างข้างเตียงที่มีขนาดใหญ่มาก แถมกรอบยังเป็นอลูมิเนียม Powder Coat ที่ทนทานดีอีกต่างหาก รวมถึงเรายังได้ Top เคาน์เตอร์หินสังเคราะห์ และเฟอร์นิเจอร์ Built-in ที่ผมชอบมากที่สุดคือ ตู้เก็บรองเท้าที่อยู่หน้าห้อง ซึ่งจะช่วยทำให้ห้องของเราดูสะอาด และเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้นเยอะเลยทีเดียว
สาธารณูปโภค : ให้มาค่อนข้างเยอะครับ เพราะเนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ นับรวมๆกันแล้วก็มีกว่า 24 ฟังก์ชันเลยทีเดียว ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 4 โซนตามกิจกรรมต่างๆคือ COOL LOBBY ZONE เป็นพื้นที่ส่วนต้อนรับที่มีอยู่ในทุกๆอาคาร และมีการเพิ่มฟังก์ชัน Delivery Station ให้เข้ากับยุคสมัยนี้มากขึ้น / COOL ACTIVE ZONE เน้นกิจกรรมออกกำลังกายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฟิตเนสและสระว่ายน้ำขนาด Olympic ยาว 55 m. / COOL SOCIAL ZONE เป็นพื้นที่สันทนาการและนั่งทำงานได้ โดยเฉพาะ Co-Working Spacce, Work from Garden, Glamping Yard และ Amphitheatre ให้มาทำกิจกรรมร่วมกันกับเพื่อนๆได้ / COOL RELAXING ZONE เน้นเป็นพวกสวนและพื้นที่สีเขียวต่างๆ ให้สามารถมานั่งพักผ่อนกันได้ ซึ่งจะกระจายอยู่ตามจุดต่างๆของโครงการครับ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 65,000 บาท/ตร.ม., 30 เมษายน 2565
- ทำเล 8/10 – ติดถนนใหญ่ลำลูกกา มีทั้ง Lifestyle Mall ของตัวเอง และยังมีร้านค้าในปั๊มน้ำมันที่อยู่ข้างๆด้วย ทำให้หาของกินได้ไม่ยาก
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – อยู่ในช่วงถนนลำลูกกาตอนต้น สามารถกลับรถเพื่อเข้าเมืองไปทางถนนพหลโยธินได้ไม่ยาก หรือจะตรงไปขึ้นถนนกาญจนาฯ เพื่อไปต่อทางด่วนต่างๆก็ได้
- ไม่ใช้รถ 8.5/10 – ใกล้รถไฟฟ้าสถานีคูคต 120 m. สามารถเดินได้สบายๆและปลอดภัย ถนนด้านหน้ามีป้ายรถเมล์ และเรียกรถสาธารณะได้ง่าย
- วัสดุ 7.5/10 – Fully Furnished ให้มาครบ เหมาะสมกับราคา ขาดเพียงเครื่องใช้ไฟฟ้าก็เข้าอยู่ได้เลย
- แบบ 7.75/10 – แบ่งโซนพักอาศัยและโซนร้านออกจากกันชัดเจน ห้องที่หันมาด้านในจะได้วิวส่วนกลางทั้งหมด และมีให้เลือก 4 แบบ เน้นห้องไซส์เล็กเป็นสัดส่วน เหมาะกับการอยู่ 1 – 2 คน
- สาธารณูปโภค 8/10 – เป็นโครงการขนาดใหญ่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะ โดยเฉพาะร้านค้าและฟังก์ชันอื่นๆก็ให้มาเหมาะสมกับจำนวนยูนิต
- ECONOMY CLASS
- 7.98 / 10.00
Nue Cross Khu Khot Station เหมาะกับใคร
โครงการ Nue Cross Khu Khot Station เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดติดถนนลำลูกกา และใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีคูคต เพียง 120 m. ซึ่งเป็นระยะเดินได้สบายๆและปลอดภัย โดยเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร และ Lifestyle Mall ส่วนตัวห้องจะเน้นเป็นห้องไซส์เล็ก ที่มีราคาเริ่มต้นจับต้องได้ง่าย ให้เฟอร์นิเจอร์มาครบพร้อมเข้าอยู่ โดยมีงบประมาณระดับ 1 – 2.52 ล้านขึ้นไป หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 7,000 – 18,000 บาท/เดือนขึ้นไป
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc