รีวิวโครงการ
Noble BE19 : The Sneak EP.103
31 มีนาคม 2021
รีวิวฉบับที่ 1024 …สวัสดีค่ะ หลังจากที่เราได้พาไปดูทำเลโครงการ Noble BE 19 กันไปแล้ว คราวนี้ก็ถึงคิวของรีวิวเจาะลึกโครงการกันแล้วค่ะ Noble BE ตัวนี้จะตั้งชื่อคล้ายๆกันกับ Noble BE 33 ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว รูปแบบของตัวอาคารจะมียังมีความคล้ายคลึงกับ Noble BE ตัวแรกเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมี 2 อาคาร ส่วนผัง Typical Unit จะไปคล้ายๆกับ Noble Recole โครงการข้างเคียงที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2557 โดยรวมแล้วโครงการนี้ยังคงสะท้อน DNA ของโนเบิลทั้งความเรียบง่ายและการจัดพื้นที่ภายในห้อง ซึ่งวันที่เรามาเก็บข้อมูลนี้โครงการยังไม่เปิดตัว ข้อมูลโครงการ, สเปควัสดุและราคาจึงยังไม่ครบถ้วนนัก หากมีข้อมูลเพิ่มเติมเราจะมาอัพเดทกันเรื่อยๆ ส่วนตอนนี้เราจะพาไปเรียกน้ำย่อยกับส่วนกลางและพาไปดูหน้าตาห้องตัวอย่างกันก่อนนะคะ ^^ Update ตอนนี้ได้ราคาแล้วนะคะ เริ่มต้นที่ 6.2 ล้านบาทค่ะ
อ่านรีวิวทำเล Noble BE 19 (คลิกที่นี่)
Fact @ 19 Feb, 2016
- Noble BE19 (โนเบิล บี นายทีน)
- บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
- SUPER LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ซอยสุขุมวิท 19 และซอยสุขุมวิท 15 (ติดกับโบสถ์วัฒนา)
- คอนโด High Rise 2 อาคาร 27 ชั้น และ 48 ชั้น จำนวน 586 ยูนิต
ที่จอดรถประมาณ 67% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)ที่ชั้นใต้ดิน 6 ชั้น, ชั้น Ground และชั้น 2- ที่จอดรถประมาณ 63% และแบ่งช่องจอด EV Charger มาให้อีก 3 ช่อง (Update 20/04/21)
- ที่ดินประมาณ 3-2-95 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : ประมาณกุมภาพันธ์ 2560
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ประมาณสิงหาคม 2563
- ที่อาคาร A
- 1 Bedroom ขนาดประมาณ
33-5033-51 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท (Update 20/04/21) - 2 Bedrooms ขนาดประมาณ
60-7351-73 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 9 ล้านบาท (Update 20/04/21) - Penthouse ขนาดประมาณ
86-14686-145 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 18.1 ล้านบาท (Update 20/04/21) - ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร ยกเว้นโซนชั้นพักอาศัยชั้นบนสุดของแต่ละอาคาร สูงประมาณ 4.5 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น
6.2ล้านบาท4.9 ล้านบาท (Update 20/04/21) - ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 187,878 บาท/ตารางเมตร
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด n/a บาท/ตารางเมตร
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 02 – 251 – 9955
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.74228,100.559167
โดยทาง Think of Living เคยรีวิวทำเลของโครงการไปแล้ว สามารถอ่านได้โดย คลิกที่นี่ ค่ะ
โครงการ Noble BE 19 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 19 และ 15 โดยถ้าเข้าจากปากซอย 19 จะมีระยะเข้าไปประมาณ 500 เมตร ถ้าเข้าจากปากซอย 15 จะมีระยะเข้าไปประมาณ 410 เมตร หรือถ้าเข้ามาจากถนนอโศกมนตรี(ซอย 21 แยก 3) มาบริเวณที่ดินโครงการฝั่งซอยสุขุมวิท 19 จะมีระยะทางประมาณ 220 เมตร
เส้นทางการเดินทางมายังโครงการสามารถมาจากหลากหลายเส้นทาง และที่สำคัญยังมีซอยเส้นทางลัดที่สามารถทะลุไปออกถนนหลักที่สำคัญได้หลายทางนี่เองตั้งแต่เพชรบุรี นานา ทั้งอโศก สุขุมวิท และทองหล่อ แต่ว่าจะเป็นวันเวย์บ้าง ต้องศึกษาเส้นทางนิดหน่อยค่ะ ซึ่งในย่านสุขุมวิทตอนต้นนี้ จัดเป็นทำเลโซนใจกลางเมืองที่ดีที่หนึ่ง ที่มีทั้งชาวไทยและต่างประเทศอาศัยอยู่มาก อีกทั้งยังสะดวกในการใช้ไป-มาของทางด่วนระดับนึงด้วยนะ
หากจะพูดถึงศักยภาพของพื้นที่ในย่านนี้แล้วจะพบว่าหลังๆมานี้โครงการที่พักอาศัย ที่เกิดขึ้นมักจะเป็นโครงการคอนโดซะส่วนใหญ่ ที่เน้นการลงทุนให้คุ้มค่ากับพื้นที่ให้มากที่สุด และแปลงที่ดินเปล่าบริเวณใกล้กับถนนอโศก และ สุขุมวิท ช่วงนี้นั้นเหลือน้อยเต็มที่ ที่จะรวบรวมทำเป็นโครงการแล้ว
ด้านความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ โครงการ Noble BE 19 ถือว่าตั้งอยู่ในย่านใจกลางของย่านการค้า มีห้างสรรพสินค้าตัวท็อปใจกลางเมือง มีทั้ง Terminal 21, Robinson และ The District Em ซึ่งประกอบด้วยห้าง ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และ ดิ เอ็มสเฟียร์ ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของ 3 โครงการศูนย์การค้าระดับเวิร์ลคลาสใจกลางสุขุมวิท จากเดอะมอลล์ กรุ๊ป ส่วนพื้นที่สีเขียวในระยะใกล้ๆและสามารถออกกำลังกายเดินเล่นได้ก็ได้แก่สวนชูวิทย์, สวนเบญจสิริ และสวนเบญจกิตติ เป็นต้น
จุดสำคัญที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือตัวโครงการนั้นตั้งอยู่ใกล้สถานศึกษาที่สำคัญใกล้เคียงหลายแห่ง ซึ่งสถานศึกษาเหล่านี้อาจจะเป็นปัจจัยส่วนนึงในการเลือกที่อยู่อาศัย ให้ใกล้เคียงกับสถานศึกษาของบุตรหลาน ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ปัจจัยหลักก็ตาม ได้แก่ โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย,โรงเรียนสายน้ําผึ้ง,โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, NIST International School
ทำเล อโศก หรือ ซอยสุขุมวิท 21 ที่จัดว่าเป็นหนึ่งในย่านธุรกิจที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย บริเวณสี่แยกอโศกมนตรีที่เป็นจุดตัดของสองถนนหลัก รัชดาภิเษก (สุขุมวิท 21) และถนนสุขุมวิท รอบสี่แยกนั้นประกอบด้วยออฟฟิศจำนวนมาก โรงแรมที่มีชื่อเสียง และสถาบันการศึกษา
นอกจากเป็นสี่แยกสำคัญบนเส้นสุขุมวิทแล้วยังเป็นจุด Interchange ของรถไฟระบบราง BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท ทำให้แยกนี้ที่จากเดิมคึกคักมากด้วยจำนวนรถอยู่แล้ว เพิ่มทวีคูณผู้คนเข้ามาอีก ในช่วงเวลาทำงาน การจราจรแถวนี้เรียกว่าติดกันสุดๆจริงๆ.. เป็นเรื่องธรรมดาของเมืองใหญ่ๆ ขยับไปที่ปลายถนนอโศกมนตรีนั้น มี Airport Link สถานีมักกะสัน ที่นอกจากจะจอดตามป้ายปกติแล้วก็ยังพาเราไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิได้โดยไม่ต้องพึ่งรถยนต์ เวลาจะไปส่งใครที่สนามบินช่วงที่รถติดๆ (หรือไม่มีรถขับ) ก็ต้องบอกว่าเวิร์คใช้ได้เลย อีกเรื่องที่เห็นจะลืมพูดเสียไม่ได้ก็คือเจ้าเรือด่วนที่วิ่งคลองแสนแสบ เพราะช่วยประหยัดเวลาการเดินทางไปได้เยอะ
การเดินทางไปไหนโดยไม่ใช้รถยนต์ เรียกว่าสะดวกทีเดียว เพราะว่าถนนอโศกมนตรีเป็นแหล่งรวม Office Building อยู่แล้ว ทำให้มี Taxi ผ่านไปมามากสุดๆ เรียกง่ายตลอดเวลาแม้กระทั่งยันดึกดื่น ส่วนรถเมล์และวินมอเตอร์ไซต์นั้นก็หาง่ายมาก
ตัวถนนของซอยนี้จะพิเศษกว่าเค้าตรงที่ซอยสุขุมวิทฝั่งที่ตั้ง Noble BE 19 นั้นเป็นซอยที่สามารถทะลุไปยังซอยเลขคี่อื่นๆได้นะซิ ทำให้ประหยัดเวลาไปได้โข ตั้งแต่นานา ไปอโศก ไปจนถึง พร้อมพงษ์ ทองหล่อ ได้เลย ซึ่งถ้าเราศึกษาซอยพวกนี้เอาไว้ ก็จะทำให้เลี่ยงการจราจรบนถนนใหญ่ได้ เเต่ต้องดูให้ดี เพราะบางซอยก็จะมีเวลาอย่างชัดเจนว่าให้เลี้ยวเข้าเลี้ยวออกเฉพาะเวลาไหน บางซอยก็เป็นวันเวย์ (ลูกศรแดงในแผนที่) ซึ่งจะอยู่ในช่วงน้องๆ นักเรียกเข้าเรียนและเลิกเรียนนี่แหละค่ะ
ข้ามจากถนนอโศกมาอีกฝั่ง ก็สามารถลัดเลาะทะลุไปออกได้ตั้งแต่ อโศก ประสานมิตร สวัสดี พร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัย โดยไม่ต้องผ่านถนนใหญ่สุขุมวิท เป็นการหลีกเลี่ยงรถติดไปในตัว แต่ถ้าจะต้องออกนอกบริเวณไปย่านอื่นก็ต้องใช้ถนนใหญ่อย่างอโศกหรือเพชรบุรี ก็ต้องมีข้อให้ระวังในเรื่องของเส้นทางการเดินรถอยู่บ้าง จากภาพได้ทำลูกศรกำหนดเส้นทางการเดินรถเอาไว้ให้แล้วค่ะ
รวบรวมรายชื่อของตึกซอย 19 มาไว้ตรงนี้ จะเห็นว่าข้อแตกต่างของสองซอย จะอยู่ที่ประเภทของอาคารโดยรอบ ในซอยอโศกนั้นจะเต็มไปด้วยอาคารสำนักงานเกือบหมด ทำให้การจราจรจะหนาแน่นกว่า แต่ความอุดมสมบูรณ์ในแง่การจับจ่ายก็มากกว่าเช่นกัน ทำให้การจราจรนั้นจะติดขัดหนาแน่น มีช่วงเดียวที่ไม่ติดคือเสาร์ อาทิตย์นี่แหละ ในส่วนของซอยวัฒนานั้น ความจอแจจะลดลงจากซอยหลักอย่างอโศกเยอะ เป็น Serviced Apartment คอนโด และตึกแถวส่วนใหญ่ การเดินทางนั้นเรียกว่าเป็นถนนซอยลัดค่ะ รู้หลบเป็นหลีก ถึงระยะทางจากรถไฟฟ้าจะอยู่ลึกมาหน่อย แต่ทางเดินระหว่างทางจากซอยวัฒนาเข้ามาตัว Noble BE 19 นั้นเดินไม่ยาก ร่มรื่นกว่าอโศก แต่ข้อด้อยที่จะเห็นได้ชัดเลยคืออาคารรายล้อมของโครงการนี้ ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้จนกว่าจะเห็น Master Plan ว่ามีผลต่อวิว เปิดโล่งมากแค่ไหน เลยจิ้มอาคารที่รายล้อมรอบโครงการกันดีกว่าโดยสีแดงคืออาคาร Low Rise ส่วนสีน้ำเงินคือ High Rise ค่ะ เล็งมุมกันไปก่อนนะ
วิวจากอาคารทางทิศเหนือ จะมองเห็นโรงเรียนวัฒนาที่อยู่ติดกับโครงการ ค่อนข้างสบายตาเพราะมีพื้นที่สีเขียวค่อนข้างเยอะ มองตรงไปจะเห็นคอนโดบนถนนเพชรบุรีและแอร์พอร์ตลิงค์มักกะสัน
วิวจากอาคารทางทิศตะวันตก จะเห็นวิวเมืองฝั่งสุขุมวิทไปทางนานา เพลินจิต ชิดลม ถึงสยาม ส่วนใหญ่เป็นตึกสูงค่อนข้างหนาแน่นค่ะ
วิวจากอาคารทางทิศใต้ จะมองเห็นวิวเมืองบนสุขุมวิทช่วงอโศก เห็น terminal 21, สวนเบญจกิตติ หากอยู่ในชั้นที่สูงๆอย่างชั้น 48 นี้จะสามารถมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาและวิวเมืองทางฝั่งธนได้ค่ะ
วิวจากอาคารทางทิศตะวันออก จะมองเห็นวิวเมืองทางเส้นอโศกมนตรีไปทางพร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัย
โครงการ Noble BE 19 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 19 ซึ่งที่ตั้งโครงการนี้อยู่ติดกับ Noble Rocole ที่เปิดขายหมดไปอย่างรวดเร็วในปี 2557 จึงทำให้ Noble BE 19 นี้เป็นที่จับตามองอยู่เหมือนกันว่าจะมีผลตอบรับออกมาดีเหมือนโครงการรุ่นพี่หรือไม่
ตัวโครงการเป็นคอนโด High Rise 2 อาคาร แบ่งเป็นตึก A 27 ชั้นและตึก B 48 ชั้น ดีไซน์อาคารเรียบๆสไตล์โนเบิ้ลลล โนเบิลเรียบๆ แต่มีการเล่น Form ของคอนโดให้เป็น Stack มีการไล่ระดับอาคารทำให้ดูมีลูกเล่นมากขึ้นกว่าตัวเก่า Facilities ของตัวนี้ให้มาค่อนข้างเยอะพอสมควรแบบที่ว่าในโครงการมี 2 ตึก ก็มี Facilities ให้สองตึกเบิ้ลๆกันไปเลยแต่ที่ตึก A จะมากกว่านิดหน่อยและมีสระว่ายน้ำวิวสูงกว่า
ที่ตึก A มีห้องพักทั้งหมด 384 ยูนิต มีลิฟต์โดยสารจำนวน 3 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนลิฟต์ 128 : 1 ในขณะที่ตึก B มีห้องพักทั้งหมด 202 ยูนิต มีลิฟต์โดยสารจำนวน 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนลิฟต์ 101 : 1 โดยหากอยู่ที่ตึก B จะมีความหนาแน่นลิฟต์น้อยกว่าตึก A แต่ Facilities น้อยกว่า จึงต้องชั่งน้ำหนักดูว่าชอบแบบไหนมากกว่ากันนะคะ ที่จอดรถประมาณ 67% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ที่ชั้นใต้ดิน 6 ชั้น, ชั้น Ground และชั้น 2 ค่ะ
ภาพจำลอง Lobby ของโครงการ
ภาพจำลอง Sky Fitness ที่อยู่ในชั้น 44 ที่ตึก A ทำให้สามารถมองเห็นวิวในมุมสูงได้ดี ส่วน Fitness ที่ตึก B ก็มีเช่นกันแต่มุมมองและความสูงจะไม่เท่าของตึก A ค่ะ
ภาพจำลองสระว่ายน้ำตึก B ที่มีการจัดสวนหย่อมด้านหลัง Pool Deck ที่มี Day Bed และพื้นที่ให้ปิ้งย่างบาบีคิว สามารถจัดปาร์ตี้เล็กๆกับเพื่อนๆได้
ภาพจำลอง Sky Jacuzzi & Reclining Pool บนตึก A ที่อยู่บนตึกสูง สามารถมองวิวเมืองในมุมสูงกว่าสระว่ายน้ำตึก B สระนี้จะมี Jacuzzi และจัดสวนรอบๆ มีการปลูกไม้ยืนต้นเพื่อให้ร่มเงาแก่สระว่ายน้ำและเพิ่มความร่มรื่น
(อัพเดทวันที่ 4 March,2016 ทางโครงการเปิดตัวแล้ว เราจึงนำโมเดลมาให้ชมกันค่ะ)
โมเดลจำลองด้านหน้าอาคารทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือที่ติดกับซอยสุขุมวิท 19 ตัวอาคารมีการเล่นระดับ โดยอาคารด้านหน้าเป็นตึก B มีความสูง 27 ชั้น ส่วนอาคารทางด้านหลังเป็นตึก A มีความสูง 48 ชั้น
โมเดลจำลองอาคารทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่มีทางออกอีกทางสามารถไปทะลุซอยสุขุมวิท 15 ได้
สำนักงานขายของโครงการตั้งอยู่ใน Site ที่ตั้งโครงการเลย ตัวอาคารเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีการตกแต่ง Facade เป็นสีขาวเรียบๆ
เข้ามาด้านในจะเจอ Lobby ที่นังรับรองลูกค้า และแท่นวางโมเดลจำลองโครงการ ซึ่งในวันที่เราไปเก็บข้อมูล โครงการวางโมเดลของโครงการ Noble Recole ไว้แทน เนื่องจากโมเดลของโครงการยังไม่เรียบร้อย หากโมเดลเสร็จสมบูรณ์แล้ว ทางเราจะเก็บภาพอัพเดทมาให้ชมกันนะคะ ^^
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby /Semi Outdoor Lobby / Lobby Lounge
- สระว่ายน้ำ ที่ตึก B
- ห้องออกกำลังกาย ที่ตึก A และตึก B
- Recreation Area
- Sauna
- Steam
- Sky Game room
- Sky Jacuzzi Pool & Reclining Pool ที่ตึก A
- Laundry Room
- BBQ Area
- Playground
- Meeting Room
- สวนหย่อมตกแต่ง สไตล์ English Contemporary Garden
- ลิฟต์โดยสารที่ตึก A จำนวน 3 ตัว, Service Lift 1 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ 128 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ที่ตึก B จำนวน 2 ตัว, Service Lift 1 ตัว, Parking Lift 1 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ 101 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 67% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ที่ชั้นใต้ดิน 6 ชั้น, ชั้น Ground และชั้น 2
- ระบบ CCTV / Access Card
เรามาเริ่มกันที่ห้อง 1 Bedroom ขนาด 50.21 ตารางเมตร ห้องนี้มีขนาดค่อนข้างกว้างสำหรับห้องแบบ 1 Bedroom ทั่วไป เหมาะกับการอยู่อาศัย 1-3 คน ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร ขายแบบ Fully Fitted ให้ Built-in ชุดครัวและสุขภัณฑ์ เมื่อเข้ามาภายในห้องพักจะเจอห้องครัวเปิดที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นที่มีระเบียงค่อนข้างยาว ติดกันเป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว และมีระเบียงให้สามารถออกไปสูดอากาศได้ค่ะ
ประตูห้องนอนสูงประมาณ 2.4 เมตร หน้าบานกรุลามิเนตลายไม้ รวมทั้งวงกบก็ใช้ลายไม้เช่นกัน กลอนประตูเป็น Digital door lock เข้า-ออกโดยใช้การสแกนบัตร
พื้นห้องเป็นพื้น Laminate ยี่ห้อ Krono Flooring : สี Lancaster Oak ขนาด ยาว 2000 mm x กว้าง 192 mm (ประมาณหน้า 8”) x หนา 10 mm มีการปิดรอยต่อด้วยคิ้วลามิเนตเรียบร้อย เพิ่มเติมให้อีกหน่อยว่ายี่ห้อ Krono Flooring นี่ก่อตั้งในปี 1895 ที่ประเทศ Austria และพื้นไม้ลามิเนตที่ติดตั้งภายในโครงการฯ Made in Germany 100% นะครับ
กลอนประตู Digital Door Lock ทั้งด้านนอกและด้านใน โครงการให้ของ Hafele
เข้ามาในห้องจะเจอห้องนั่งเล่นขนาดประมาณ 4.50 x 4.40 เมตร โดยห้องนั่งเล่นนี้จะเป็นโถงที่มีพื้นที่ติดต่อกับห้องครัว ระเบียง และห้องนอน สามารถวางโซฟาขนาด 2 -3 ที่นั่งได้
มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานโครงการติดตั้งแอร์แบบ Ceiling Conceal ให้เรียบร้อย แต่การวางตำแหน่งของแอร์ห้องจริง จะวางในตำแหน่งตรงประตู ไม่เหมือนกับห้องตัวอย่างค่ะ
มองกลับที่ไปทางเข้าของโครงการจะมีการแบ่งฟังก์ชั่นออกเป็น 2 ส่วน คือพื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง และครัวเปิดที่โครงการ Built-in ตู้ครัวด้านหลังและ Island ครัวมาให้เรียบร้อย
ทางซ้ายมือเป็นโถงหน้าประตูที่สามารถจัดพื้นที่เป็นส่วนรับประทานอาหารประมาณ 4 ที่นั่ง ส่วนตรงผนังสามารถ Built-in ตู้เก็บรองเท้าแบบในห้องตัวอย่างได้
ข้างๆกันเป็นครัวเปิดที่โครงการ Built-in ชุดครัวติดผนังของ Starmark พร้อม Island มาให้แบบนี้เลยค่ะ พื้นที่ครัวโดยรวมทั้งหมดประมาณ 1.7 x 2.4 เมตร หน้าตาหน้าบานตู้จะเหมือน Noble BE33 แบบเดียวกันเลย
ที่ผนังด้านหนึ่งโครงการจะ Built-in ตู้ครัวมาให้แบบนี้เลย โดยจะเว้นช่องไว้ให้วางตู้เย็นขนาดประมาณ 1.70 x 0.70 เมตร
มือจับตู้แบบหัวกลมและบานพับประตูแบบ Soft-closed ทั้งหมดค่ะ
อีกด้านเป็นเคาท์เตอร์ครัว Built-in ที่โครงการติดตั้งไมโครเวฟ, เตาและที่ดูดควันมาให้ ส่วนที่ผนังติดกระจกมาให้ เวลาประกอบอาหารแล้วผนังเลอะก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย
Microwave Oven ที่โครงการติดตั้งให้ใช้ได้ทั้งแบบไมโครเวฟและเตาอบ ที่โครงการให้เป็นของ Smeg
เตา Induction ของ MEX และที่ดูดควันให้ของ Best
ส่วน Island ของโครงการจะยื่นออกมาจากเคาท์เตอร์ครัว มีความสูงประมาณ 80 เซนติเมตร ด้านที่ปิดตายมีการตกแต่งด้วยลูกฟักทำให้ดูคลาสสิคมากยิ่งขึ้น
ส่วนด้านที่เชื่อมต่อกับเคาท์เตอร์ครัว จะมีช่องสำหรับใส่เรื่องซักผ้าหน้ากว้างประมาณ 60 เซนติเมตร สูงประมาณ 86 เซนติเมตร ข้างๆกันเป็นตู้ด้านล่างซิงค์ที่เป็นช่องว่างให้ใส่อุปกรณ์ทำครัว ที่โครงการติดตั้งถังขยะแบบมีฝาปิดให้เรียบร้อย พื้นที่ทางเดินระหว่างเคาท์เตอร์และ Island ครัวมีความกว้างประมาณ 80 เซนติเมตร ซึ่งเป็นระยะที่พอดีๆสำหรับการขยับเคลื่อนย้ายในการทำครัว
ถังขยะที่ติดตั้งมาให้ด้านล่างซิงค์
ซิงค์ล้างจานรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสขนาดกลาง และก็อกน้ำของ MEX
ครัวนี้เป็นครัวเปิดไม่มีฉากกั้น ดังนั้นมุมมองจากห้องครัวจะเชื่อมต่อกับ Living room เป็นพื้นที่เปิดโล่ง หากเราวางฟังก์ชั่นในลักษณะนี้ ก็จะทำให้พื้นที่ทั้งสองส่วนนี้ใช้งานร่วมกันได้ เช่น คนที่ทำอาหารอยู่ก็สามารถดูทีวีและคุยกับคนที่นั่งเล่นอยู่บนโซฟาได้ ส่งผลให้คนที่อยู่อาศัยมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันค่ะ
ถัดไปเป็นพื้นที่ Living Room ขนาดประมาณ 4.40 x 4.50 เมตร สามารถแบ่งเป็นพื้นที่นั่งเล่นและนั่งทำงานได้ โดยห้องนี้จะค่อนข้างโปร่งแสงธรรมชาติเข้าดีมาก เนื่องจากช่องเปิดสูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้าเพดาน
หากใครที่ต้องการพื้นที่ทำงานหรือนั่งเขียนหนังสือ สามารถหาโต๊ะเขียนหนังสือพร้อมเก้าอี้ สร้างมุมเล็กๆเอาไว้นั่งทำงานแบบนี้ได้
ข้างๆกันเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่สามารถวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่ง และวางโต๊ะวางทีวีติดผนังได้ โดยมีระยะดูทีวีประมาณ 2.4 เมตร เหมาะกับการวางทีวี 46″ – 52″ จะเป็นขนาดที่พอดีกับสายตา
ช่องเปิดในห้องนี้ค่อนข้างกว้าง เนื่องจากประตูบานเลื่อนของโครงการสูง 3.2 เมตร เลยฝ้าเพดานขึ้นไปอีกค่ะ
มองขึ้นไปด้านบนมีการ Drop ฝ้าเพดาน 0.2 เมตร เพื่อให้ติดตั้งรางผ้าม่านเรียบร้อย
ตัวล็อคประตูหน้าตาแบบนี้ค่ะ
พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 3.2 x 0.50 เมตร เป็นระยะที่ค่อนข้างยาวและแคบ ซึ่งพื้นที่ขนาดนี้ไม่เพียงพอกับการนั่งเล่นหรือตากผ้า แต่จะเหมาะกับการออกไปยืนรับลมชิวๆมากกว่า พื้นระเบียงมีการลดระดับเล็กน้อย ไม่มีการยื่นธรณีประตูแต่จะมีรางเลื่อนประตูยื่นขึ้นมาเล็กน้อย ระหว่างรอยต่อของพื้นและรางเลื่อนมีคิ้วลามิเนตปิดให้เรียบร้อยค่ะ
ราวระเบียงเป็นราวเหล็กโปร่งทาสีดำสูงประมาณ 1.18 เมตร ระยะค่อนข้างสูงเพื่อความปลอดภัยของลูกบ้านที่อยู่ในคอนโดสูงค่ะ
ที่ผนังระเบียงด้านหนึ่งจะเป็นผนังทึบทาสีขาว ส่วนอีกด้านจะเป็นช่องใส่ Compressor แอร์แบบหันลมร้อนออกนอกอาคาร เวลาเปิดแอร์แล้วระเบียงจะไม่ร้อน การจัดพื้นที่แบบนี้เป็นสัดส่วนดี มีการกั้นส่วน Compressor แอร์ด้วยประตูเหล็กโปร่ง สามารถเปิด-ปิดเพื่อให้ช่างเข้าไปซ่อมบำรุงได้ง่าย
ถัดมาเราจะไปดู Master Bedroom กันบ้าง ประตูทางเข้าจะเป็นประตูลามิเนตลายไม้สีอ่อน
พื้นห้องนอนและ Living Room มีความสูงระดับเดียวกัน เป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร เหมือนกัน ระหว่างรอยต่อของพื้นห้องมีการปิดด้วยคิ้วไม้ลามิเนตเรียบร้อย
ห้องนอนมีขนาดประมาณ 2.65 x 2.7 เมตร สามารถวางเตียง Queen Size ขนาด 5 ฟุตได้พอดีๆ โดยห้องนอนนี้มีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ Floor to celing สูง 3 เมตร ทำให้ห้องดูโปร่งขึ้นมาก
พื้นที่ปลายเตียงมีที่ว่างประมาณ 1.4 เมตร สามารถวางโต๊ะวางทีวีได้ในขณะที่ยังมีพื้นที่ให้เดินผ่านได้อยู่
ผนังของห้องนอนจะเป็นบานกระจกเต็มบานสูงถึงฝ้าเพดาน ประตูเป็นบานเลื่อนคู่ กรอบอลูมิเนียมสีดำ
ระเบียงมีพื้นที่ประมาณ 3.2 x 0.5 เมตร พื้นระเบียงมีการลดระดับเล็กน้อย ไม่มีการยื่นธรณีประตูแต่จะมีรางเลื่อนประตูยื่นขึ้นมาเล็กน้อย กระเบื้องปูพื้นเป็นกระเบื้องโมเสกสีเทาด้าน
ระเบียงด้านหนึ่งมีช่องให้วาง Compressor แอร์ ซึ่งเป็นช่องเดียวกับที่วาง Compressor แอร์ของห้องนั่งเล่นที่มีประตูให้เปิดเข้าไปซ่อมบำรุงเช่นกัน อีกด้านเป็นผนังปูนทาสีขาวธรรมดา
ถัดไปเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำที่สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าที่ผนังหน้าห้องน้ำแบบนี้ได้
โดยสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าที่มีความลึกประมาณ 0.6 เซนติเมตรได้ ประตูห้องน้ำเป็นประตูสำเร็จรูปบุลามิเนต กว้างประมาณ 85 เซนติเมตร
พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องลายหินอ่อน มีการลดระดับลงเล็กน้อยเพื่อไม่ให้น้ำจากห้องน้ำไหลไปเปียกพื้นห้องนอนที่เป็นลามิเนต ระหว่างพื้นรอยต่อมีการปิดคิ้วด้วยคอมโพสิตมาเบิลลายหินเรียบร้อย
ห้องน้ำมีขนาดประมาณ 2.7 x 1.4 เมตร ตัวผนังห้องน้ำใช้กระเบื้องลายหินอ่อนสีเดียวกันกับกระเบื้องปูพื้น บรรยากาศโดยรวมค่อนข้างเรียบหรูและดูสะอาด มีการจัดวางพื้นที่ใช้งานเป็น 3 ส่วนคือ เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาติดผนัง, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่เปียกสำหรับอาบนำ้ที่มาพร้อมกับฉากกั้น จากพื้นที่ห้องอาบน้ำจะมีระเบียงเล็กๆให้ด้วย
ลองซูมพื้นผิวของหินท็อปเคาท์เตอร์มาให้ดูกัน ลักษณะจะเป็นผิวมันลายสีดำปนน้ำตาล ส่วนจะเป็นหินจะเป็นหินอ่อนอัดหรือเทียบเท่าค่ะ
ชุดอ่างล้างหน้าให้มาลักษณะนี้ กระจกเงาเป็นบานกระจกติดเต็มความกว้างของผนัง ท็อปเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็นหินอ่อนอัดเต็มพื้นที่ สามารถวางของหรือของใช้ในห้องน้ำได้
อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดปานกลางของ Kasch และก๊อกน้ำแสตนเลสของ Grohe
พื้นที่วางโถสุขภัณฑ์กว้างประมาณ 0.90 เมตร ติดตั้งโถสุขภัณฑ์ของ Kasch มาให้ พร้อมที่แขวนกระดาษทิชชู่และสายชำระของ Grohe ให้เรียบร้อย
หน้าตาที่ฉีดชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่ เป็นสแตนเลสของ Grohe
พื้นห้องน้ำในส่วนเปียกจะมีการลดระดับเล็กน้อย แล้วมีธรณีประตูสแตนเลสกั้นพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้ง ซึ่งความต่างของระดับค่อนข้างน้อย หากเราอาบน้ำแล้วระบายน้ำไม่ทันก็มีสิทธิ์ที่น้ำจะไหลออกมาเปียกส่วนแห้งได้เหมือนกันนะ โดยพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.15 x 0.9 เมตร ขนาดพื้นที่กว้างกำลังดีขยับตัวได้ไม่ติดอะไร
ชุดฝักบัวอาบน้ำที่โครงการติดตั้งมาให้เป็นสแตนเลสทั้งชุด แต่ไม่ได้ให้ที่วางสบู่ค่ะ
ฝักบัวขนาดใหญ่ดีนะ แต่ไม่ได้ให้ที่วางสบู่มานะคะต้องหามาติดเองค่ะ
โดยพื้นที่ยืนอาบน้ำนี้จะมีประตูกระจกสามารถออกไปยังระเบียงได้ เราสามารถหาม่านหรือมู่ลี่มาปิดเพื่อความเป็นส่วนตัวจะดีกว่าอาบแบบโล่งๆหวิวๆนะ
ระเบียงห้องนี้มีพื้นที่ประมาณ 1.5 x 0.5 เมตร ที่พื้นมีการลดระดับลงเล็กน้อยแล้วมีธรณีประตูขึ้นมาเป็นรางเลื่อน กระเบื้องปูพื้นระเบียงเป็นกระเบื้องโมเสกสีเทาด้าน
ถัดมาเป็นห้องแบบ 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 73.15 ตารางเมตร เหมาะกับการพักอาศัย 3-4 คน ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร ขายแบบ Fully Fitted ให้ Built-in ชุดครัวและสุขภัณฑ์ โครงการแบ่งห้องพักเป็น 2 โซน คือฝั่งซ้ายมือเป็น Living room ส่วนขวามือเป็นห้องนอน 2 ห้องประกอบด้วยห้องนอนเล็กที่ไม่มีห้องน้ำในตัว สามารถออกมาใช้ห้องน้ำรวมได้ ติดกันเป็น Master Bedroom ที่มีห้องน้ำในตัว จุดเด่นของ 2 Bedroom ห้องนี้คือทุกห้องจะมีระเบียงเล็กๆ หมด ทำให้สามารถออกมารับลมข้างนอกได้ในทุกส่วนของห้อง
ประตูห้องนอนสูง 2.4 เมตร หน้าบานกรุลามิเนตลายไม้ รวมทั้งวงกบก็ใช้ลายไม้เช่นกัน กลอนประตูเป็น Digital Door Lock ของ Hafele เข้า-ออกโดยใช้การสแกนบัตร
เข้ามาในห้องจะเจอกับ Corridor ทางเดินกว้างประมาณ 1 เมตร สุดทางจะเป็นทางแยกขวาจะไปยังห้องนอนทั้งสองห้อง หากแยกไปทางซ้ายจะไปยังห้องครัวและ Living Room เดี๋ยวฟเราจะพาเข้าไปดูกันค่ะ
พื้นที่โถงตรงนี้สามารถเป็นพื้นที่จัดการตัวเองให้เรียบร้อย ก่อนเข้า-ออกห้องได้เป็นอย่างดีค่ะ โดยที่ผนังทางขวามือเราสามารถ Built-in ตู้เต็มพื้นที่ผนังและทำหน้าบานตู้เป็นกระจกเพื่อส่องเช็คลุคตัวเองเวลาเข้า-ออกจากห้อง โดยเว้นช่องว่างระหว่างตู้แบบนี้ไว้นั่งเผื่อเวลาถอดหรือใส่รองเท้าจะเหมาะมากเลย ความลึกของตู้ที่สามารถทำได้คือประมาณ 30-40 เซนติเมตร เหมาะกับจะทำเป็นชั้นวางรองเท้า และชั้นเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านได้
เราเดินเข้ามาในห้องลองมองกลับไปที่ประตู จะเห็นว่าพื้นที่ Corridor ค่อนข้างยาว บนฝ้าเพดานติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ ทำให้โถงทางเดินสว่างไม่ดูมืดและอึดอัด
จาก Corridor ทางเดิน เราเลี้ยวมาทางซ้ายมือจะเจอห้องโถงใหญ่ขนาดประมาณ 7.1 x 3.9 เมตร ที่แบ่งพื้นที่เป็นครัวเปิด ส่วนรับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่น ห้องนี้มีประตูทางออกระเบียง 2 จุด ทำให้ห้องดูโปร่ง โล่ง และความสูงฝ้าเพดาน 3 เมตร ทำให้ดูโอ่โถงดี
เรามาไล่ดูกันไปเป็นจุดๆนะคะ ส่วนแรกเป็น Dining room ที่สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งได้ ข้างๆกันเป็นครัว Built-in ที่โครงการติดตั้งมาให้หน้าตาแบบนี้เลย
พื้นที่ชุดครัวมีขนาดประมาณ 2.8 x 0.6 เมตร หน้าบานเป็นสีขาวลายลูกฟักสไตล์คลาสสิค โดยครัวนี้มีลักษณะเป็น Pantry เหมาะกับการทำอาหารเบาๆ หากจะมาต้ม แกง ทอด ก็ดูจะหนักไปเพราะเป็นครัวเปิดที่อยู่ในห้องนั่งเล่น กลิ่นจะฟุ้งกระจายได้ง่าย นอกจากนี้พื้นที่ Built-in ครัวยังมีการเว้นช่องว่างให้วางตู้เย็นและเครื่องซักผ้าฝาหน้าขนาดประมาณ 7 กิโลกรัมอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นจุด one stop service ของห้องเลย
ที่พื้นห้องครัวเป็นลามิเนตข้อเสียคืออยู่ไปนานๆถ้าทำน้ำหกใส่ต้องรีบเช็ด เพราะหากน้ำซึมเช้าสู่เนื้อไม้แล้วอาจเกิดการบวมได้ ดังนั้นก็ต้องระวังในการใช้งานเป็นพิเศษโดยเฉพาะตรงส่วนล้างจาน ถ้าน้ำกระเด็นลงมาที่พื้นให้พยายามเช็ดอย่าทิ้งไว้นะคะ
ลองเปิดตู้ครัวให้ดูฟังก์ชั่นข้างใน ด้านบนจะเป็นชั้นวางของเล็กๆน้อยๆอย่างจาน ชาม แก้วต่างๆ ส่วนเคาท์เตอร์ครัวด้านล่างจะติดตั้งไมโครเวฟ มีลิ้นชักใต้ซิ้งค์ล้างจานที่ติดตั้งถังขยะให้ มีลิ้นชักใส่ช้อน ส้อม ลิ้นชักอเนกประสงค์และมีช่องว่างสำหรับใส่เครื่องซักผ้าฝาหน้าให้
Microwave Oven ที่โครงการให้เป็นของ Smeg และถังขยะใต้ซิงค์ล้างจานตามภาพเลยค่ะ
เตา Induction ของ MEX และที่ดูดควันให้ของ Best
ก็อกน้ำสแตนเลสแบบโค้งของ MEX
พื้นที่หน้าครัวสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งได้สบายๆเมื่อลองเอาเก้าอี้ออกมาวางในระยะที่คนนั่ง ก็ยังเหลือพื้นที่ข้างๆให้เดินผ่านไปมาได้ไม่อึดอัด
ผนังตรงพื้นที่รับประทานอาหารจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนคู่ความสูงถึงฝ้าเพดาน ด้วยขนาดช่องเปิดที่กว้างแสงธรรมชาติจึงเข้ามาได้เต็มที่
ตัวล็อกประตูหน้าตาแบบนี้ค่ะ
พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 2.7 x 0.50 เมตร เป็นระยะที่ค่อนข้างยาวและแคบ พื้นระเบียงมีการลดระดับเล็กน้อย ไม่มีการก่อธรณีประตูแต่จะมีรางเลื่อนประตูยื่นขึ้นมาเป็นธรณีเล็กๆ กระเบื้องปูพื้นระเบียงเป็นกระเบื้องโมเสกสีเทาด้านค่ะ
ประตูระเบียงห้องนี้เป็นประตูกระจกบานเลื่อนคู่เหมือนกับบานอื่นๆ มีการ Drop ฝ้าเพดาน เพื่อให้ติดตั้งรางผ้าม่านเรียบร้อย พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 2.7 x 0.50 เมตร เป็นระยะที่ค่อนข้างยาวและแคบ พื้นระเบียงเป็นโมเสกสีเทาด้าน มีการลดระดับเล็กน้อย ไม่มีการก่อธรณีประตูแต่จะมีรางเลื่อนประตูยื่นขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อกันน้ำไหลจากภายนอกเข้าห้องค่ะ
จากระเบียงมองกลับเข้าไปในห้องจะเห็นโถงนี้ทั้งห้อง มองตรงไปจะเป็นทางเดินไปสู่ห้องน้ำรวม และห้องนอนทั้งสองห้อง เดี๋ยวเราจะพาไปดูกันค่ะ
Corridor ทางเดินที่ตรงไปจะเป็นห้องนอนเล็ก ทางขวามือเป็นห้องน้ำ ส่วนทางซ้ายมือเป็น Master Bedroom
เรามาเริ่มกันที่ห้องน้ำรวมกันก่อนนะคะ ประตูห้องน้ำเป็นประตูสำเร็จรูปบุลามิเนต
ห้องน้ำมีขนาด 2.25 x 1.5 เมตร ตัวผนังห้องน้ำใช้กระเบื้องลายหินอ่อนสีเดียวกันกับกระเบื้องปูพื้น มีการจัดวางพื้นที่ใช้งานเป็น 3 ส่วนคือ เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาติดผนัง, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่เปียกสำหรับอาบนำ้ที่มาพร้อมกับฉากกั้น
ชุดอ่างล้างหน้าให้มาลักษณะนี้ กระจกเงาเป็นบานกระจกติดเต็มความกว้างของผนัง ท็อปเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็นหินอ่อนอัดเต็มพื้นที่ สามารถวางของใช้ในห้องน้ำได้
มีการติดตั้งชุดฝักบัวสแตนเลสมาให้เรียบร้อย ห้องนี้ก็ไม่มีที่วางสบู่ให้เช่นกันต้องไปหามาเพิ่มเองนะคะ
ฝักบัวขนาดใหญ่ดี
มาดูที่ห้องนอนเล็กกันบ้าง ห้องนี้มีขนาดประมาณ 2.50 x 2.65 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้สบายๆ มีประตูบานเลื่อนสามารถเปิดออกไประเบียงได้ด้วย
หากวางเตียงขนาด 5 ฟุต จะเหลือพื้นที่ปลายเตียงให้เดินผ่านได้สบายๆ แต่ไม่เหลือพอให้ Built-in หรือวางตู้วางทีวีเพราะจะแคบไปค่ะ หากใครอยากดูทีวีในห้องนอนแนะนำเป็นทีวีติดผนังแบบในห้องตัวอย่างจะเหมาะกว่า
ถัดไปเป็นประตูทางออกระเบียงจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนคู่ความสูงถึงฝ้าเพดาน ด้วยขนาดช่องเปิดที่กว้างแสงธรรมชาติจึงเข้ามาได้เต็มที่ โดยพื้นที่ระเบียงมีขนาประมาณ 2.1 x 0.5 เมตร ไม่ได้ยาวเต็มหน้ากว้างห้องเพราะต้องเอาพื้นที่ส่วนนึงไปใช้วางคอมเพรสเซอร์แอร์ค่ะ
ที่ผนังของระเบียงนี้จะมีช่องใส่ Compressor แอร์แบบหันลมร้อนออกนอกอาคาร เวลาเปิดแอร์แล้วระเบียงจะไม่ร้อน มีการกั้นส่วน Compressor แอร์ด้วยประตูเหล็กโปร่ง สามารถเปิด-ปิดเพื่อให้ช่างเข้าไปซ่อมบำรุงได้ง่าย โดยช่องใส่ Compressor แอร์นี้จะใช้ร่วมกับห้อง Master Bedroom ค่ะ
จากระเบียงมองกลับเข้าไปในห้องนอนจะเห็นประตูทางเข้าห้อง ซึ่งผนังข้างประตูเราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าแบบในห้องตัวอย่างได้ค่ะ
โดยหากเราใช้ตู้เสื้อผ้าที่เป็นประตูบานเปิดเวลาที่เปิดออกมาประตูตู้จะติดเตียงเล็กน้อย แนะนำให้ทำเป็นตู้เสื้อผ้าประตูบานเลื่อนจะช่วยให้มีพื้นที่ยืนแต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้าได้อีกเล็กน้อยค่ะ
ถัดไปเป็น Master Bedroom ที่เดินเข้ามาจะเจอห้องน้ำ ข้างๆกันห้องนอนที่เชื่อมต่อกับระเบียงช่องเปิดกว้าง แสงธรรมชาติเข้าดีค่อนข้างดี
มองกลับไปที่ระเบียงทางเข้าห้องจะเห็นว่าที่ผนังตรงโถงทางเข้า เราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าเต็มผนังได้ ส่วนผนังข้างๆประตูก็สามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งได้อีก ถือว่าเป็นจุดที่เหมาะมากเพราะอยู่หน้าห้องน้ำพอดี อาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งหน้า ทาครีม และแต่งตัวได้เลย
ส่วนของห้องน้ำจะใช้ประตูสำเร็จรูปบุลามิเนตลายไม้เหมือนห้องน้ำห้องอื่นๆ พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องลายหินอ่อน มีการลดระดับพื้นเล็กน้อย ระหว่างพื้นรอยต่อระหว่างพื้นห้องน้ำและห้องนอนมีการปิดคิ้วด้วยคอมโพสิตมาเบิลลายหินเรียบร้อย
ห้องน้ำมีขนาดประมาณ 2.7 x 1.4 เมตร ตัวผนังห้องน้ำใช้กระเบื้องลายหินอ่อนอัดสีเดียวกันกับกระเบื้องปูพื้น มีการจัดวางพื้นที่ใช้งานเป็น 3 ส่วนคือ เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาติดผนัง, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำที่มาพร้อมกับฉากกั้น
ที่เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้ามีกระจกเงาติดมาให้เต็มความกว้างของผนัง มีการติดตั้งอ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดปานกลางของ Kasch มาให้บนท็อปเคาท์เตอร์หินอ่อนอัดแบบลอยตัว พื้นที่ข้างๆอ่างล้างหน้าสามารถวางของใช้ในห้องน้ำได้
พื้นที่นั่งส้วมกว้างประมาณ 0.90 เมตรนั่งได้สบายๆไม่อึดอัด ติดตั้งโถสุขภัณฑ์ของ Kasch มาให้ พร้อมที่แขวนกระดาษทิชชู่และสายชำระของ Grohe เรียบร้อย
ตรงข้ามกันเป็นพื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 0.86 x 0.90 เมตร มีการกั้นพื้นที่ส่วนเปียกจากส่วนแห้งโดยใช้กระจกบานเปลือยและประตูกระจกบานเปิดเข้าด้านใน โดยพื้นห้องน้ำในส่วนเปียกจะมีการลดระดับเล็กน้อย แล้วมีธรณีประตูสแตนเลสกั้นพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งให้เหมือนกับห้องน้ำห้องอื่นๆค่ะ
ด้านในมีการติดตั้งชุดฝักบัวมาให้เรียบร้อย แต่ไม่มีที่วางสบู่ต้องหามาติดเองนะคะ
ถัดไปเป็นส่วนห้องนอนขนาดประมาณ 2.65 x 2.70 เมตร สามารถวางเตียง Queen Size ขนาด 5 ฟุตได้พอดีๆ พื้นที่นอนของห้องนี้พอๆกับขนาดห้องนอนเล็กเลยค่ะ การจัดพื้นที่จึงใส่อะไรลงไปไม่ได้มาก
โดยหากวางเตียงขนาด 5 ฟุต จะเหลือพื้นที่ปลายเตียงให้เดินผ่านได้สบายๆ แต่ไม่เหลือพอให้ Built-in หรือวางตู้วางทีวีเพราะจะแคบไป หากใครอยากดูทีวีก็แนะนำให้ใช้ทีวีติดผนังจะเหมาะกว่าเหมือนห้องนอนเล็ก
พื้นที่ข้างเตียงสำหรับเดินเข้าออกระเบียงกว้างประมาณ 50 เซนติเมตร เดินผ่านได้สบายๆ ส่วนพื้นที่ระเบียงมีขนาดเท่ากับห้องเมื่อกี้ พื้นระเบียงมีการลดระดับเล็กน้อย ไม่มีการก่อธรณีประตูแต่จะมีรางเลื่อนประตูยื่นขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อกันน้ำไหลจากภายนอกเข้าห้องค่ะ
ที่ผนังของระเบียงนี้จะมีช่องใส่ Compressor แอร์แบบหันลมร้อนออกนอกอาคาร โดยช่องใส่ Compressor แอร์นี้จะใช้ร่วมกับห้อง นอนเล็กค่ะ
เรามาดูห้อง 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 34.54 ตารางเมตรกันบ้าง ห้องนี้เป็น Typical Unit วางผังห้องเหมือนกับ Noble Recole โครงการข้างเคียง ด้วยขนาดของห้องและการวางพื้นที่เหมาะกับการพักอาศัย 1-2 คน ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร ขายแบบ Fully Fitted ให้ Built-in ชุดครัวและสุขภัณฑ์ โดยห้องนี้มีการจัดฟังก์ชั่นเหมือนกับห้อง 1 Bedroom ขนาดใหญ่ เปลี่ยนแปลงแค่ขนาดห้องและทางเข้าห้องเท่านั้น เดี๋ยวเราจะพาเข้าไปดูภาพห้องตัวอย่างกันพอเป็นน้ำจิ้ม ส่วนถ้าใครสนใจสามารถไปดูเพิ่มเติมที่สำนักงานขายได้ค่ะ
เมื่อเข้ามาจะเจอกับห้องที่มีการจัดพื้นที่เป็นห้องครัว ที่วางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นที่มีพื้นที่ติดกับระเบียงและห้องนอน
ลองมองกลับไปที่ทางเข้า จะเห็นว่าที่ผนังข้างประตูโครงการ Built-in ชุดครัวมาให้ ของ Starmark เป็น Pantry ที่เหมาะกับการทำครัวเบาๆ ข้างๆกันเป็นประตูทางเข้าห้องนอน
ห้องนอนขนาดปานกลางสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ พื้นที่ปลายเตียงเหลือไม่มาก เหมาะกับการติดตั้งทีวีแบบติดผนังมากกว่า ห้องนี้มีแสงธรรมชาติเข้าดีเนื่องจากมีผนังกระจกเต็มบานสูงถึงฝ้าเพดาน สามารถเลื่อนเปิดออกไปยังระเบียงได้
ภายในห้องนอนจะมีห้องน้ำในตัว ที่มีการแบ่งฟังก์ชั่นออกแบบ 3 ส่วน คือ อ่างล้างหน้า, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำ
สวิตซ์ไฟและเต้ารับที่ใช้ในโครงการจะให้มาหน้าตาแบบนี้เลยนะคะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @19 Feb, 2016
*****เนื่องจากโครงการยังไม่มีราคาออกมา เมื่อราคาออกมาแล้วจะมาอัพเดทให้ทราบเพิ่มเติมนะคะ
- Fully Fitted
- เพดานสูง 3 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- จอง n/a บาท
- ทำสัญญา n/aบาท
- ดาวน์ n/a ผ่อนดาวน์ n/a งวด
- ค่ากองทุน n/a บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง n/a บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
****อัพเดทข้อมูลวันที่ 1 March,2016 โครงการเปิดตัวในราคาเริ่มต้น 6.2 ล้านบาท หรือประมาณ 187,878 บาท/ตารางเมตร ซึ่งในเรื่องของคะแนนและบทวิเคราะห์จะอิงราคาต่อตารางเมตรเฉลี่ยของทั้งโครงการ หากมีข้อมูลเพิ่มเติมทางทีมงานจะมาอัพเดทให้เรื่อยๆนะคะ
(บทวิเคราะห์นี้จะอ้างอิงข้อมูลในวันที่ 19 Feb,2016 ซึ่งเป็นวันก่อนเปิดตัวโครงการ ราคาจึงยังไม่ออกมา หากได้ราคาเฉลี่ยของทั้งโครงการแล้ว ทางทีมงานจะมาอัพเดทบทวิเคราะห์ให้อีกครั้งนะคะ)
ในช่วงต้นปี 2559 ที่โครงการ Noble BE 19 เปิดตัวนี้เป็นช่วงที่คอนโด High Rise ระดับ Luxury ทำเลดีๆ เปิดตัวกันออกมาค่อนข้างเยอะ ซึ่งทำเลของโครงการ Noble BE 19 นี้ก็เป็นทำเลที่ดีทำเลหนึ่งใจกลางสุขุมวิทในช่วงอโศกที่เป็นย่าน CBD และมีความอุดมสมบูรณ์สูง ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 19 และ 15 โดยถ้าเข้าจากปากซอย 19 จะมีระยะเข้าไปประมาณ 500 เมตร ถ้าเข้าจากปากซอย 15 จะมีระยะเข้าไปประมาณ 410 เมตรหรือถ้าเข้ามาจากถนนอโศกมนตรี(ซอย 21 แยก 3) มาบริเวณที่ดินโครงการฝั่งซอยสุขุมวิท 19 จะมีระยะทางประมาณ 220 เมตร
ด้านความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ โครงการ Noble BE 19 ถือว่าตั้งอยู่ในย่านใจกลางของย่านการค้า มีห้างสรรพสินค้าตัวท็อปใจกลางเมือง มีทั้ง Terminal 21, Robinson และ The District Em ซึ่งประกอบด้วยห้าง ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และ ดิ เอ็มสเฟียร์ ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของ 3 โครงการศูนย์การค้าระดับเวิร์ลคลาสใจกลางสุขุมวิท จากเดอะมอลล์ กรุ๊ป ส่วนพื้นที่สีเขียวในระยะใกล้ๆและสามารถออกกำลังกายเดินเล่นได้ก็ได้แก่สวนชูวิทย์, สวนเบญจสิริ และสวนเบญจกิตติ เป็นต้น จุดสำคัญที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือตัวโครงการนั้นตั้งอยู่ใกล้สถานศึกษาที่สำคัญใกล้เคียงหลายแห่ง ได้แก่ โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย,โรงเรียนสายน้ําผึ้ง,โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, NIST International School
เส้นทางการเข้าถึงโครงการด้วยรถยนต์ สามารถเข้า-ออกได้หลากหลายเส้นทาง และที่สำคัญยังมีซอยเส้นทางลัดที่สามารถทะลุไปออกถนนหลักที่สำคัญได้หลายทางนี่เองตั้งแต่เพชรบุรี นานา ทั้งอโศก สุขุมวิท และทองหล่อ แต่ว่าจะเป็นวันเวย์บ้างและมีจุดกลับรถให้เลือกใช้หลายทาง จึงต้องศึกษาเส้นทางนิดหน่อยค่ะ ซึ่งในย่านสุขุมวิทตอนต้นนี้ จัดเป็นทำเลโซนใจกลางเมืองที่ดีที่หนึ่ง ที่มีทั้งชาวไทยและต่างประเทศอาศัยอยู่มาก อีกทั้งยังสะดวกในการใช้ไป-มาของทางด่วนระดับนึง และมีความขึ้นชื่อเรื่องรถติดโหดเพราะคนอยู่เยอะ รถก็เยอะไปตามๆกันค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถค่อนข้างสะดวกเช่นเดียวกัน จากโครงการหากเดินขึ้นไปทางถนนสุขุมวิท จะเจอกับแยกอโศกซึ่งเป็นสี่แยกสำคัญบนเส้นสุขุมวิทและยังเป็นจุด Interchange ของ BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท นอกจากนี้ช่วงปลายถนนอโศกมนตรีนั้น มี Airport Link สถานีมักกะสัน ที่นอกจากจะจอดตามป้ายปกติแล้วก็ยังพาเราไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิได้โดยไม่ต้องพึ่งรถยนต์ เวลาจะไปส่งใครที่สนามบินช่วงที่รถติดๆ (หรือไม่มีรถขับ) ก็ต้องบอกว่าเวิร์คใช้ได้เลย อีกเรื่องที่เห็นจะลืมพูดเสียไม่ได้ก็คือเจ้าเรือด่วนที่วิ่งคลองแสนแสบ สามารถช่วยประหยัดเวลาการเดินทางไปได้เยอะ นอกจากนี้ภายในซอยหน้าโครงการยังมีแท็กซี่และพี่วินผ่านไปผ่านมาคอยให้บริการอยู่เรื่อยๆสะดวกดีทีเดียวค่ะ
วัสดุของโครงการคงต้องรอให้โครงการอัพเดทออกมาก่อน เนื่องจากยังไม่มีสเปคที่แน่นอนค่ะ สิ่งที่สามารถคอนเฟิร์มได้ก็คือโครงการขายแบบ Fully Fitted ให้ครัว Built-in ของ Starmark, เตาของ Best และที่ดูดควันของ MEX, อ่างล้างมือของ MEX, Microwave Oven แบบ Built-in ของ Smeg ส่วนสุขภัณฑ์อย่างอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ของ Grohe และ Kasch , ติดตั้งแอร์แบบ Ceiling Conceal มาให้, พื้นห้องนอนและห้องนั่งเล่นปูด้วยพื้นลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร ส่วนประตูห้องจะเป็นประตูสำเร็จรูปกรุลามิเนต ที่ประตูหน้าห้องติดตั้ง Digital Door Lock ของ Hafele มาให้ โดยรวมแล้วสเปควัสดุไม่หวือหวา ก็ต้องมารอดูราคากันอีกทีค่ะว่าจะคุ้มค่ากับสเปคที่ได้แค่ไหน
การออกแบบอาคารตัวนี้ก็ยังคงความเป็นโนเบิลลล คือ เรียบ ไม่เยอะ ไม่หวือหวา แต่มีฟอร์มอาคารที่แปลกตาไปจากโนเบิลตัวอื่นๆอยู่บ้าง ตรงที่ตัวนี้มี 2 อาคาร แล้วใช้การเล่นระดับอาคารมาช่วยทำให้ภาพรวมดูไม่น่าเบื่อ ด้วยดีไซน์ของอาคารที่เรียบไปนิดจึงยังไม่ค่อยมีอะไรเซอร์ไพรส์เท่าใดนัก โครงการนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบคอนโดสไตล์เรียบหรู ดูแกรนด์แบบลูกเล่นไม่ต้องเยอะ
ส่วนการออกแบบฟังก์ชั่นภายใน 1 Bedroom ห้องเล็กสุดจะเหมือนกับ Noble Recole แบบเดินเข้าไปเจอห้องครัว ห้องนั่งเล่นที่มีระเบียง ติดกันเป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำให้ในตัว เป็นฟังก์ชั่นที่ผลักส่วน Service มาไว้ด้านในอาคาร ส่วนพื้นที่ภายนอกที่ติดกับ Facade อาคารให้เป็นส่วนพักผ่อนอย่างห้องนอนและห้องนั่งเล่น ที่มีหน้าต่างกว้างติดระเบียง ผู้อยู่อาศัยจึงสามารถมองวิวได้ตลอดเวลา การวางฟังก์ชั่นแบบนี้ได้ดัดแปลงออกมาเป็น 1 Bedroom แบบที่ 2 ขนาด 50.21 ตารางเมตร โดยห้องนี้ได้ห้องขนาดใหญ่กว่าขณะที่ฟังก์ชั่นการใช้งานเท่ากันกับ 1 Bedroom ห้องเล็ก ดังนั้นพื้นที่การใช้งานจึงกว้างและน่าใช้กว่ากัน แถม Built-in ครัวแบบมี Island มาให้ด้วย ดังนั้นก็ต้องอยู่ที่ผู้ใช้งานว่าต้องการห้องใหญ่หรือไม่ และมีงบประมาณในกระเป๋าเท่าไหร่มาเป็นตัวตัดสิน
ส่วนห้องพักแบบ 2 Bedroom จะมีการออกแบบที่แหวกแนวและหวือหวากว่าห้อง 1 Bedroom โดยห้องนี้แบ่งการใช้งานพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน คือส่วน Living room ที่มีครัวเปิดและส่วนรับประทานอาหารอยู่ในพื้นที่เดียวกัน อีกส่วนหนึ่งคือห้องนอนเล็กที่ใช้ห้องน้ำรวมกับ Living room และห้องน้ำใหญ่ที่มีห้องน้ำให้ในตัว เหมาะกับการอยู่อาศัย 3-4 คน ฟังก์ชั่นแต่ละจุดไม่ใหญ่มากแต่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ง่ายดี สิ่งที่ห้องทุกแบบมีเหมือนกันคือ ห้องทุกห้องอย่างห้องนั่งเล่น ห้องนอน จะมีระเบียงแคบๆยาวๆให้สามารถออกไปยืนรับลมได้ แต่ไม่พอสำหรับไปนั่งเล่นนะ โดยประตูทางออกจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนคู่ ความสูงถึงฝ้าเพดาน ช่วยให้ช่องเปิดกว้างแสงธรรมชาติเข้าดีและดูโปร่งโล่งตาม Floor to Ceiling 3 เมตร
สาธารณูปโภคของโครงการให้มาเยอะดี โดยโครงการให้ Facilities มาทั้ง 2 ตึก แล้วให้ลูกบ้านเลือกใช้งานได้ ทั้งสองตึกจะมีสิ่งที่เหมือนกันคือ Lobby, Fitness, Steam ในขณะที่ตึก A มีฟังก์ชั่นที่พิเศษกว่าคือมี Sky game room, Sky Lounge, สระว่ายน้ำวิวสูง, Recreation Area และห้อง Sauna ส่วนตึก B จะมี Semi Outdoor Lobby, Laundry room, BBQ Area, Playground, Meeting Room และสวนในชั้น 3, 19 และ 23 จะเห็นว่า Falities ของทั้งสองตึกจะมีความเหมือนและแตกต่างกันซึ่งถือเป็นข้อดีนะ เพราะจะช่วยให้ลูกบ้านมีทางเลือกและมี Facilities ที่หลากหลายมากขึ้น ที่ตึก A มีห้องพักทั้งหมด 384 ยูนิต มีลิฟต์โดยสารจำนวน 3 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนลิฟต์ 128 : 1 ในขณะที่ตึก B มีห้องพักทั้งหมด 202 ยูนิต มีลิฟต์โดยสารจำนวน 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนลิฟต์ 101 : 1 โดยหากอยู่ที่ตึก B จะมีความหนาแน่นลิฟต์น้อยกว่าตึก A แต่ Facilities น้อยกว่า จึงต้องชั่งน้ำหนักดูว่าชอบแบบไหนมากกว่ากันนะคะ ที่จอดรถประมาณ 67% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ที่ชั้นใต้ดิน 6 ชั้น, ชั้น Ground และชั้น 2 ค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา n/a บาท/ตารางเมตร., 19 Feb, 2016
- ทำเล x/10 –
- เดินทางด้วยรถ x/10 –
- ไม่ใช้รถ x/10 –
- วัสดุ x/10 –
- แบบ x/10 –
- สาธารณูปโภค x/10 –
- n/a CLASS
- n/a / 10.00
BOTTOM LINE
Noble BE 19 เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดใจกลางเมืองย่านอโศก-สุขุมวิท ใกล้แหล่งออฟฟิศที่ทำงาน หาทำเลที่มีครบทั้งแหล่ง Shopping ของกินและชองใช้ สามารถเดินทางด้วยรถยนต์สะดวก เข้า-ออกได้หลายเส้นทาง และขึ้นรถไฟฟ้าได้ง่าย ชอบ Product เรียบง่ายไม่หวือหวา มีงบประมาณระดับ n/a ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ n/a บาท/เดือน
ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )