Niche Mono แจ้งวัฒนะ เป็นโครงการคอนโด High Rise บนถนนแจ้งวัฒนะ จาก Sena x Hankyu ใกล้รถไฟฟ้าสีชมพู สถานีศรีรัช ในระยะเดินสบายๆจากหน้าโครงการ 120 m.  รูปแบบห้องมีหลายหลาย 1 Bedroom – 2 Bedroom เฟอร์นิเจอร์ออกแบบเน้นรายละเอียดในการใช้งาน พร้อมส่วนกลางและพื้นที่สีเขียว ราคาปัจจุบันเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจทีเดียว จะเป็นอย่างไรไป Walk-in Review กันเลยค่ะ

โครงการ Niche Mono แจ้งวัฒนะ ตั้งอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ ทำเลในภาพรวมของแจ้งวัฒนะในปัจจุบันถือว่าเป็นย่านสำคัญย่านหนึ่งของนนทุบรีที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งจำนวนผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ แหล่งงานทั้งราชการและเอกชน อาคารสำนักงาน ห้างและร้านค้าต่างๆ เรียกได้ว่ามีครบหมด อีกทั้งถนนแจ้งวัฒนะเองถือเป็นถนนสำคัญในการเดินทางเพราะเป็นถนนที่ใช้เชื่อมกรุงเทพฯไปยังจังหวัดนนทบุรีและยังตัดกับถนนสายสำคัญอีกหลายสาย เช่น ถนนพหลโยธิน ถนนวิภาวดี-รังสิต ถนนเลียบคลองประปา และถนนติวานนท์ เป็นต้น

อีกทั้งเป็นทำเลที่มีทางด่วนศรีรัชผ่านให้เลือกใช้งาน จึงทำให้ถนนแจ้งวัฒนะมีผู้คนใช้งานแทบทั้งวันโดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน การเข้าถึงโครงการหลักๆเข้าได้โดยตรงจากถนนแจ้งวัฒนะ การเดินทางส่วนใหญ่ในตอนนี้จึงยังคงเน้นใช้รถยนต์กันไปก่อน

ส่วนสถานที่สำคัญบนถนนแจ้งวัฒนะ ที่เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตของคนย่านนี้หลักๆเลยก็จะมีศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ , เมืองทองธานี ศูนย์แสดงสินค้าและสถานที่จัดคอนเสิร์ต และเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ นอกจากนั้นยังมี Big C , Lotus , The Avenue , แม็คโคร และ IT Square ให้คนย่านนี้ได้ช้อปปิ้ง กิน เที่ยวกัน นอกนั้นยังมีสถานที่ราชการอีกหลายแหล่ง เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ , กรมการกงสุล และ ศาลปกครอง ความอุดมสมบูรณ์สามารถหาของกินของใช้ได้ง่าย มีตั้งแต่ร้านอาหารแบบรถเข็น ร้านใต้ตึกแถว เต็นท์ขายอาหาร  ร้านอาหารต่างๆ และยังมี Hypermarket ให้ได้จับจ่ายใช้สอยกัน

พิกัด Google Maps : 13.899190, 100.546320
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า

ส่วนการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าอีกไม่นานก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูผ่าน ซึ่งจะช่วยให้การเดินทางของคนจากทางฝั่งแจ้งวัฒนะเข้า-ออกเมืองและเดินทางไปยังที่ต่างๆได้สะดวกมากขึ้น  อีกทั้งการมาของรถไฟฟ้าจะทำให้เกิดความเจริญโดยรอบโครงการ เกิดการลงทุนสร้างสาธารณูปโภคต่างๆเพื่อมารองรับการใช้งานในพื้นที่ตามมาด้วย โดยกำหนดการของรถไฟฟ้าสายสีชมพูคาดการณ์ว่าจะสร้างเสร็จประมาณปี 2564 ส่วนโครงการ Niche Mono แจ้งวัฒนะ จะสร้างเสร็จพร้อมอยู่ประมาณปี 2565 เรียกว่าโอนห้องย้ายเข้ามาอยู่ก็ได้ใช้รถไฟฟ้ากันแล้ว สถานีที่ใกล้โครงการมากที่คือ สถานีศรีรัช ในระยะเดินจากหน้าโครงการ 120 m.

การเดินทางด้วยรถยนต์ไปใช้ทางด่วน

สำหรับจุดทางขึ้นทางด่วนศรีรัชอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2 km. (รวมระยะกลับรถ) ถือว่าเป็นระยะที่ไม่ไกลมากขับรถซักพักก็ถึงแล้ว ติดตรงที่สภาพการจราจรบนถนนแจ้งวัฒนะที่ค่อนข้างติดขัดโดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าและเย็น ส่วนใหญ่จะติดเป็นพิเศษช่วงบริเวณหน้าศูนย์ราชการ เมืองทองธานี และสะพานพระราม 4 เพื่อข้ามไปทางชัยพฤกษ์

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ

ส่วนคนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวก็ไม่เป็นไรเพราะสามารถเรียก รถโดยสารประจำทาง รถแท็กซี่ รถมอเตอร์ไซค์ และรถตู้ ได้ เนื่องจากโครงการอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่เดินออกมาจากด้านในโครงการประมาณ 100 เมตร ก็ถึงถนนแจ้งวัฒนะทางด้านหน้าแล้ว

Image 1/5
ด้านหน้าโครงการทาฝั่งทิศใต้จะอยู่ติดกับถนนแจ้งวัฒนะ ในอนาคตจะมีเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพู

ด้านหน้าโครงการทาฝั่งทิศใต้จะอยู่ติดกับถนนแจ้งวัฒนะ ในอนาคตจะมีเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพู

เมื่อลองเดินขึ้นไปบนสะพานลอยที่อยู่ทางด้านหน้าโครงการ มองย้อนกลับเข้าไปบริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการ จะเห็นว่าโดยรอบจะยังคงเป็นพื้นที่โล่ง ไม่มีอาคารสูงอยู่ในระยะประชิดที่จะบังวิว และเนื่องจากการวางผังอาคารให้มีห้องอยู่ทั้ง 4 ด้าน จึงสามารถเลือกวิวได้ค่อนข้างหลากหลาย จะมีเฉพาะทางฝั่งทิศตะวันตกของโครงการ จะมองเห็นคอนโด​ The Seed แจ้งวัฒนะ สูง 8 ชั้น ซึ่งก็ไม่ได้อยู่ในระยะประชิดกับโครงการ และชั้นพักอาศัยของโครงการ Niche Mono แจ้งวัฒนะ จะเริ่มต้นที่ชั้น 7 ถ้าเราเลือกชั้นพักอาศัยตั้งแต่ประมาณชั้น 9 ขึ้นไปก็จะได้วิวเปิดโล่งแล้ว 

โครงการ Niche Mono แจ้งวัฒนะ เป็นโครงการที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง Sena x Hankyu โดยใช้แนวคิด Recharge Your Digital Life เน้นความละเอียดแบบผู้หญิง “Made from Her” ผ่าน “ขบวนการ Geo Fit+” ที่รวบรวมความคิดเห็นของผู้อยู่อาศัยมาใช้ออกแบบโครงการเพื่อสร้างความสะดวกและปลอดภัยในการอยู่อาศัย

รูปแบบโครงการเป็นโครงการคอนโด High Rise 35 ชั้น มียูนิตพักอาศัยทั้งหมด 921 ยูนิต บนเนื้อที่ประมาณ 3-3-03 ไร่ สร้างเสร็จประมาณปี 2565  ถือเป็นโครงขนาดใหญ่ในทำเลย่านแจ้งวัฒนะ มีจุดเด่นที่ เดินทางสะดวกเพราะอยู่ใกล้กับเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพู เดินมาที่สถานีเพียง 120 m. จากด้านหน้าโครงการ ตัวโครงการเน้นการออกแบบเพื่อการอยู่อาศัยที่สะดวกและปลอดภัย โดยจะเห็นได้จากการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่หลากหลายทั้งแบบ Indoor และ Outdoor กระจายไว้บนอาคาร ชั้นดาดฟ้าและชั้นล่าง มีที่จอดรถประมาณ 438 คันคิดเป็น 45% รวมจอดซ้อนคัน เป็นที่จอดบนอาคารไม่ต้องจอดตากแดดตากฝน เดินขึ้นส่วนพักอาศัยได้สะดวกวางตำแหน่งห้องพักอาศัย สามารถเลือกวิวเปิดโล่งได้ทั้ง 4 ทิศ โดยรอบ ส่วนตัวห้องพักก็ออกแบบให้แยกจากส่วนกลางด้วยระบบลิฟต์ล็อคชั้น มีประตูแบ่งโซนไว้ให้เรียบร้อย

ชมรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่ คลิกที่นี่

Image 1/9
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Main Entrance + Retail Shop

ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Main Entrance + Retail Shop

ชั้นที่ 1 ประกอบด้วย พื้นที่สวนหย่อม ( Garden) / EV Charger / Lobby / Mailbox / Smart Locker / Digital Theatre / Co-working Space / First Aid Room / Playground / Kid Zone / Mini Bar

ชั้นที่ 7 ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ ความยาว 30 เมตร  / Kid’s Pool / Fitness พื้นที่ใช้งาน 200 ตร.ม. / Chilling Area

ชั้น Rooftop ประกอบด้วย Sky Jogging Track / Sky Yoga Room / Star Terrace/ BBQ Zone/ Seating Area / Co-Party/ Stretching Area / Sunset Terrace/ Solar Roof

เริ่มจากห้องขนาดเล็กสุดเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 28 ตารางเมตร ลักษณะห้องจะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทุกฟังก์ชันในห้องมีการแบ่งโซนการใช้งานมาไว้ให้เรียบร้อย ที่เด่นเลยคือห้องนี้ได้ครัวปิดที่เชื่อมต่อกับส่วนระเบียง ทำอาหารได้แบบเต็มที่เปิดระบายกลิ่นและควันต่างๆได้สะดวก จากขนาดพื้นที่ห้องจึงเหมาะกับอยู่อาศัย 1-2  คน กำลังดี ส่วนห้องนั่งเล่นกับส่วนทานอาหารจะใช้งานในพื้นที่เชื่อมต่อกัน แต่ก็มีมุมให้ใช้งานได้ ห้องนอนใช้บานเลื่อนกระจกช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้น ห้องนั่งเล่นยังได้แสงธรรมชาติอยู่ ส่วนห้องน้ำอยู่ด้านฝั่งด้านในอาคารใช้ระบบพัดลมระบายอากาศ จะต้องระวังเรื่องความชื้นจากการใช้งานหน่อย

Image 1/13
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 28 ตารางเมตร

ห้อง 1 Bedroom ขนาด 28 ตารางเมตร

ถัดมาเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 31 ตารางเมตร ด้วยพื้นที่เพิ่มขึ้นมาอีก 3 ตารางเมตร ทำให้พื้นที่ใช้งานดูกว้างขึ้น จัดโซนการใช้งานต่างๆได้ลงตัวและเป็นสัดส่วนมากขึ้น ที่เด่นๆของห้องนี้อย่างแรกคือ ส่วนครัวปิด ทำอาหารจริงจังได้ มีเครื่องดูดควันเดินท่อระบายกลิ่นควันเตรียมไว้ให้ ถัดมาคือ ส่วนห้องนอนและห้องนั่งเล่น ที่ได้วิวและแสงธรรมชาติเต็มที่ ถ้าเปิดประตูบานเลื่อนตรงกลาง ก็จะช่วยทำให้ดูกว้างโปร่งโล่งมากขึ้น ที่น่าสนใจและคงเป็นที่ชื่นชอบสำหรับสาวๆ คือมีส่วน walk in closet มาให้เป็นสัดส่วนเก็บเสื้อผ้าของใช้ได้เยอะขึ้น ส่วนห้องนอนก็สามารตั้งเตียงใหญ่ได้ มีพื้นที่เหลือข้างๆริมหน้าต่างทำเป็นมุมทำงานเล็กๆได้อีก

Image 1/9
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 31 ตารางเมตร

ห้อง 1 Bedroom ขนาด 31 ตารางเมตร

มาที่ห้องขนาดใหญ่ที่สุด เป็นห้อง 2 Bedroom ขนาด 53 ตารางเมตร จัดพื้นที่มาให้ค่อนข้างใหญ่ใช้งานสะดวกเหมาะกับอยู่อาศัย 2-3 คน ได้สบายๆ จุดเด่นของห้องนี้คือวางผังห้องเป็นห้องหน้ากว้าง ทำให้ห้องนอนทุกห้องและห้องนั่งเล่นได้วิวและแสงธรรมชาติเต็มที่ ได้ครัวปิดใช้งานสะดวกทำครัวจริงจังได้ ห้องนอนทุกห้องแม้จะเป็นห้องนอนรองก็วางเตียง 5 ฟุต ได้ด้วย และมีส่วน walk in closet มาให้ทุกห้อง ขนาดพื้นที่ใช้งานได้จริง มีพื้นที่เก็บของได้เยอะ สุดท้ายคือ คือห้อง 2 Bedroom ของโครงการนี้ตำแหน่งห้องจะอยู่ปลายสุดของแต่ละฝั่งของตัวอาคารแต่ละชั้น ทำให้ตำแหน่งห้องน้ำในห้องนอนใหญ่อยู่ริมอาคารด้านนอก จึงทำช่องเปิดได้ ทำเป็นหน้าต่างเปิดระบายอากาศและความชื้นได้ดี กว่าห้องน้ำที่มีเฉพาะพัดลมดูดอากาศมาให้

Image 1/13
ห้อง 2 Bedroom ขนาด 53 ตารางเมตร

ห้อง 2 Bedroom ขนาด 53 ตารางเมตร

วัสดุและของที่ได้ภายในห้อง

โครงการนี้มีให้ผู้ซื้อเลือกได้ 2 แบบ ทั้งแบบ Fully Fitted และ Fully Furnish  สำหรับคนที่เลือก Fully Fitted ก็จะได้ราคาที่ลดลงมาประมาณ 60,000 – 100,000 บาท เหมาะกับคนที่ชอบแต่งห้องเอง หรือมีเฟอร์นิเจอร์เดิมอยู่แล้ว ที่ได้มากับห้องหลักๆจะเป็นชุดครัว ห้องน้ำ วัสดุหลักที่ได้จะเป็นพื้นไม้ลามิเนต พื้นในครัวปูกระเบื้องแกรนิตโต้ ไฟแบบดาวน์ไลท์ ส่วนครัว Top เคาน์เตอร์หินสังเคราะห์ อ่างล้างจานแบบฝังพร้อมก๊อก และเตาไฟฟ้า ที่ดูดควันแบบดูดออกนอกตัวห้อง ของ FRANKE ห้องน้ำปูกระเบื้อง ได้กระจกเงาบานใหญ่ ส่วนสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างได้ของ Kohler พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ และมีเครื่องปรับอากาศให้ 2 เครื่อง ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยที่ตัวห้องมี Digital Door Lock ใช้ได้ 3 ระบบ คือ Password, Key Card , กุญแจ ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าต้องซื้อเพิ่มเอง

Image 1/11
ตู้เก็บรองเท้าภายในห้องที่มีชั้นวางของรวมอยู่ด้วยสูงตั้งแต่พื้นถึงเพดาน มีกระจกติดด้านหน้า เราสามารถเช็คความเรียบร้อยก่อนออกจากห้องได้

ตู้เก็บรองเท้าภายในห้องที่มีชั้นวางของรวมอยู่ด้วยสูงตั้งแต่พื้นถึงเพดาน มีกระจกติดด้านหน้า เราสามารถเช็คความเรียบร้อยก่อนออกจากห้องได้

สำหรับห้องแบบ Fully Furnish มีข้อดีตรงที่เราไม่ต้องมาเลือกเฟอร์นิเจอร์เอง มีให้ครบพร้อมอยู่ และได้ขนาดของเฟอร์นิเจอร์ ที่ Fit พอดีกับพื้นที่การใช้งานต่างๆภายในห้อง ที่เด่นๆของห้องแบบ Fully Furnish ของโครงการนี้คือ การออกแบบในรายละเอียดของเฟอร์นิเจอร์ในแต่ละตำแหน่งใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ มีพื้นที่เก็บของซ่อนไว้ในเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้น เช่น โซฟาที่เปิดที่วางแขนด้านข้างเป็นพื้นที่เก็บของ , ตู้เก็บรองเท้าภายในห้องที่มีชั้นวางของรวมอยู่ด้วยสูงตั้งแต่พื้นถึงเพดาน มีกระจกติดด้านหน้า เราสามารถเช็คความเรียบร้อยก่อนออกจากห้องได้ , ชุดครัวที่ออกแบบให้มีชั้นวางของต่างระดับที่สามารถดึงออกมาใช้งานได้ ผู้หญิงตัวเล็กๆก็สามารถเอื่อมถึงหยิบของใช้ต่างๆได้สะดวก , ส่วน walk in closet ที่ออกแบบชั้นวางของและลิ้นชัก ที่ภายในแบ่งช่องเก็บของได้หลากหลาย มีกระจกหน้าตู้ยืนแต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้าได้เลย คงจะเป็นที่ถูกใจแน่ๆสำหรับสาวๆที่มีเสื้อผ้าเยอะๆ เป็นต้น

ราคา ณ วันที่ 26 June 2020

  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 28 ตร.ม.

  • เริ่ม 1.79 ล้านบาท (Fully Fitted)
  • เริ่ม 1.85 ล้านบาท (Fully Furnish)

  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 31 ตร.ม.
    • เริ่ม 1.99 ล้านบาท (Fully Fitted)
    • เริ่ม 2.10 ล้านบาท (Fully Furnish)

  • 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 53 ตร.ม.
    • เริ่ม 3.8 ล้านบาท (Fully Fitted)
    • เริ่ม 3.9 ล้านบาท (Fully Furnish)

  • 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. จอง 10,000 บาท ทำสัญญา 30,000 บาท
  • 1 Bedroom ขนาด 31 ตร.ม. จอง 10,000 บาท ทำสัญญา 40,000 บาท
  • 2 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. จอง 20,000 บาท ทำสัญญา 80,000 บาท
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.5 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
  • Hob & Hood / ของยี่ห้อ FRANKE
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน
    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
  • ความคิดเห็นของผู้เขียน

    คราวนี้เราลองมาเปรียบเทียบเฉพาะโครงการคอนโดในทำเลย่านแจ้งวัฒนะ ที่ปัจจุบันทางโครงการยังเปิดขายอยู่ ซึ่งจะรวมถึงโครงการที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง และโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ ก็จะมีทั้งโครงการที่เพิ่งสร้างเสร็จไปไม่นาน 1-2 ปี และโครงการสร้างเสร็จมาสักพักใหญ่แล้วแต่ยังมีห้องเหลือขายอยู่เช่นกัน โดยจะตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงกับโครงการ Niche Mono แจ้งวัฒนะ

    ทำเลเดินทางสะดวกและติดรถไฟฟ้า

    อย่างแรกเลยคือเรื่องของทำเล สำหรับโครงการ Niche Mono แจ้งวัฒนะ เป็นโครงการที่อยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ ไม่ต้องเข้าซอยย่อย และอยู่ในระยะที่เดินไปใช้รถไฟฟ้าสายสีชมพู ห่างจากสถานีจากด้านหน้าโครงการเพียง 120 m. อยู่ทางฝั่งเข้าเมืองพอดี ถ้าทำงานที่ศูนย์ราชการก็ออกจากโครงการวิ่งตรงไปได้เลย หรือจะไปทางฝั่งวิภาวดี รามอินทรา ได้สะดวก แต่ในขณะเดียวกันก็จะมีโครงการที่อยู่บนถนนแจ้งวัฒนะให้เลือกเช่นกันคือ โครงการ Supalai Loft แจ้งวัฒนะ และ Supalai City Resort แจ้งวัฒนะ อยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าเช่นกัน และไปใช้ทางด่วนง่ายไม่ต้องกลับรถ

    รูปแบบโครงการ

    ถ้าลองพิจารณาโครงการที่ยังเปิดขายอยู่ จะมีทั้งโครงการ High Rise และ Low Rise ให้เลือก แตกต่างกันที่ทำเลที่ตั้ง โครงการ High Rise ทั้งหมดจะตั้งอยู่ริมถนนแจ้งวัฒนะ ส่วนโครงการ Low Rise จะต้องเข้าซอยหรือถนนย่อย ซึ่งถ้าใครให้ความสำคัญในเรื่องความสะดวกและวิวมุมสูงโครงการ High Rise ก็น่าจะตอบโจทย์ เพราะส่วนใหญ่ที่ขายอยู่ส่วนมากก็จะได้วิวเปิดโล่งกันเกือบทั้งหมด โครงการ Niche Mono แจ้งวัฒนะ จะได้วิวเปิดโล่งทั้ง 4 ทิศ และมีห้องให้เลือกทั้ง 4 ทิศเลย ส่วนโครงการของ Supalai ห้องส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ทิศเหนือ-ใต้ ส่วนถ้าเป็นโครงการ Low Rise จะไม่ค่อยเน้นวิวมุมสูงเท่าไหร่ แต่จะได้วิวส่วนกลางมาแทน ส่วนเรื่องตำแหน่งห้อง โครงการที่สร้างเสร็จไปสักพักแล้วอาจจะมีข้อจำกัดเรื่องของตำแหน่งห้องที่มีให้เลือกน้อยแล้ว แต่โครงการ Niche Mono แจ้งวัฒนะ ซึ่งเพิ่งเปิดขายมาไม่นาน ก็จะได้เปรียบมีตัวเลือกห้องเยอะกว่าเพราะเปิดขายทีหลัง แต่ก็ต้องรอสร้างอีก 2 ปีถึงจะอยู่ได้นะ

    วัสดุของที่ได้

    โครงการ Niche Mono แจ้งวัฒนะ สามารถเลือกได้ทั้งแบบ Fully Fitted และ Fully Furnish สำหรับคนที่เลือก Fully Fitted ก็จะได้ราคาที่ลดลงมาประมาณ 60,000 – 100,000 บาท ซึ่งในโครงการอื่นๆส่วนมากก็ให้ Fully Furnish มาเลยหรือไม่ก็ Fully Fitted ไม่ได้มีตัวเลือกแบบนี้ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ เฟอร์นิเจอร์ที่ Niche Mono แจ้งวัฒนะ ให้จะเป็นแบบที่มีดีไซน์เฉพาะตัว เพื่อให้ใช้งานได้เต็มที่ ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของ ใช้งานได้ง่ายและสะดวกสบายขึ้น ถ้าเทียบกับโครงการโดยรอบถือเป็นจุดเด่นในเรื่องของรายละเอียดของเฟอร์นิเจอร์ที่แตกต่าง

    ราคา

    สำหรับราคาของโครงการที่เลือกมาจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มราคา คือ โครงการใหม่ที่อยู่ในระหว่างก่อสร้าง กับกลุ่มโครงการที่สร้างพร้อมอยู่และขายมาสักพักแล้ว

    เริ่มจากถ้าเป็นโครงการใหม่ก็จะมีแค่ Niche Mono แจ้งวัฒนะ เพียงตัวเลือกเดียว เพราะโครงการบางโครงการในทำเลนี้ก็ Sold out ไปบ้างแล้ว ถ้าดูที่ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ 70,000 บาท/ตร.ม. โครงการนี้ถือว่าสูงที่สุดในตอนนี้ ส่วนโครงการที่เพิ่งสร้างเสร็จมาไม่นานในช่วงปี 2020 ก็จะเป็นโครงการ Atmoz แจ้งวัฒนะ แต่ก็จะเป็นโครงการ Low Rise อยู่ถนนรองถัดเข้ามาจากถนนหลักอีกที ระยะห่างจากรถไฟฟ้าก็เยอะตามไปด้วย แต่ราคาก็จะลดลงมาอยู่ที่เฉลี่ยทั้งโครงการ 69,000 บาท/ตร.ม. และถ้าใครมองหาห้องใหญ่แบบ 2 Bedroom ก็จะมีเฉพาะ Niche Mono แจ้งวัฒนะ ที่เป็นโครงใหม่โครงการเดียวที่มีให้เลือก

    ในทางกลับกันในทำเลนี้ก็จะมีกลุ่มของโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ที่สร้างเสร็จในช่วงปี 2017-2018 เป็นอีกตัวเลือก สำหรับคนที่ไม่ต้องการรอสร้าง ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการจะอยู่ที่ประมาณ 50,000-55,000 บาท/ตร.ม. ได้ห้องใหญ่พื้นที่ใช้สอยเยอะก็จริง แต่ก็จะมีตัวเลือกห้องตำแหน่งสวยๆน้อยกว่าโครงการใหม่ๆแน่นอน บางโครงการเหลือแค่ 5 ยูนิตให้เลือกเท่านั้น


    สำหรับรายละเอียดโครงการ Niche Mono แจ้งวัฒนะ ถ้าทีมงาน Thinkofliving ได้มีข้อมูลเพิ่มเติมมากกว่านี้ หรือได้เข้าไปทำรีวิวฉบับเต็ม ทางเราจะรีบมาอัพเดทให้ รอติดตามอ่านกันนะคะ 😀

    ติดตามพวกเราได้ที่
    Website : www.thinkofliving.com
    Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
    YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
    Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
    Facebook : ThinkofLiving