รีวิว Niche Mono Bangpo (นิช โมโน บางโพ) คอนโดวิวแม่น้ำเปิดใหม่ในย่านบางโพ ใกล้รถไฟฟ้าในระยะเพียง 60 m. จาก SENA Hankyu Hanshin ในราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท เบื้องต้นเรารวมประเด็นที่น่าสนใจมาให้ ดังนี้

  • ไม่กี่ก้าวถึงรถไฟฟ้า เพียง 60 m. ถึง MRT บางโพ และนั่งไป 1 สถานีก็ Interchange กับสายสีม่วงที่สถานีเตาปูน
  • ได้วิวโค้งแม่น้ำสวยๆ มองเห็นอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ที่สวยงาม
  • Sky Facilities 3 ชั้นบนสุด โครงการจัดส่วนกลางหลักๆ ทั้งสระว่ายน้ำ, Fitness, Sky Lounge, สวนและจุดชมวิวไว้บนชั้น 36 ขึ้นไป จึงสูงกว่าอาคารส่วนใหญ่ในโซนนี้
  • ออกแบบห้องพักให้เป็นครัวปิดทุกยูนิต ทำอาหารได้จริงจัง
  • เฟอร์นิเจอร์แบบ geo fit+ ออกแบบให้คนตัวเล็กสูง 150 cm. กว่าๆ ใช้งานง่าย
  • เป็นคอนโด Low Carbon นอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้โลกเราร้อนน้อยลงแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าไฟให้กับพื้นที่ส่วนกลางด้วยค่ะ

ข้อมูลโครงการ

Niche Mono Bangpo (นิช โมโน บางโพ) ณ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2566

 ชื่อโครงการ Niche Mono Bangpo (นิช โมโน บางโพ)
 ชื่อผู้ประกอบการ SENA Hankyu Hanshin Properties Corp.
 SEGMENT CLASS  UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่ ถนนประชาราษฎร์ สาย 1 เขตบางซื่อ
 ที่ดิน  2-0-89.20 ไร่
 ประเภทคอนโด  High Rise 37 ชั้น + ดาดฟ้า และอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น
 จำนวนยูนิต 450 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด  17 ยูนิต
 ที่จอดรถ  ประมาณ 44% (ไม่รวมซ้อนคัน)
 เริ่มก่อสร้าง  ไตรมาส 4 ปี 2566
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  ไตรมาส 2 ปี 2569
 ประเภทห้องพัก
  • Type A ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 27-31 ตร.ม.
  • Type B ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 28.5-37 ตร.ม.
  • Type C ห้อง 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 31.5-33 ตร.ม.
  • Type D ห้อง 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 53.5-62.5 ตร.ม.

 ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
 ราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท*
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ 125,000 บาท/ตร.ม.
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด) 125,000 – 150,000 บาท
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) ผ่านแล้ว
 เว็บไซต์โครงการ https://www.sena.co.th/project/niche-mono-bangpo
 Call Center  1775 กด 26
 Line  @nichemonobangpo

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.713492, 100.600415
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ Niche Mono Bangpo (นิช โมโน บางโพ) อยู่บนถนนประชาราษฎร์สาย 1 ใกล้แยกบางโพ ฝั่งมุ่งหน้าไปอาคารรัฐสภา (เกียกกาย)

ทำเลย่านบางโพในสมัยก่อนจะเป็นแหล่งชุมชนชาวจีนที่นิยมค้าไม้ต่างๆ ทั้งไม้แปรรูป และเฟอร์นิเจอร์ไม้ ปัจจุบันยังคงมีร้านค้าและโรงงานไม้ให้เห็นอยู่ในพื้นที่บ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นตึกแถวเรียงกัน แต่พอมีการสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย บริเวณถนนประชาราษฎร์สาย 2 ย่านนี้ก็เลยกลายเป็นทำเลเนื้อหอม มีบริษัทอสังหาฯ เข้ามากว้านซื้อที่ดินเพื่อเตรียมสร้างคอนโดกันอย่างคึกคัก ทั้งบนถนนประชาราษฎร์สาย 2 บริเวณใกล้สถานีเตาปูน และเริ่มกระจายออกมาที่ถนนประชาราษรฎร์สาย 1 เนื่องจากได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาชัดเจนกว่าค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้เรียกว่าไม่ต้องห่วงเลยทีเดียว เพราะในโซนประชาราษฎร์สาย 2 นี้มีคอนโดจำนวนมาก ทำให้อาหารการกินในละแวกนี้หาได้ไม่ยากด้วยเช่นกัน อย่างตลาดที่คนแถวนี้รู้จักกันดี คือ ตลาดบางโพที่มักจะคึกคักในช่วงเช้า หรือถัดไปหน่อยแถวแยกเตาปูน ก็จะมีตลาดเตาปูน, Tesco Lotus ประชาชื่น และห้างที่ใกล้โครงการมากที่สุดเลยก็คือ Gateway บางซื่อที่มีทั้งร้านอาหาร, Big C, Homepro, โรงหนัง ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 300 เมตรเท่านั้น เดินไปได้สบายๆ ส่วนโซนสามเสนจะมีสถานที่ราชการเยอะทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม,  กองพันทหารปืนใหญ่, กรมสรรพวุธ, โรงเรียนเตรียมทหารต่างๆ รวมถึงรัฐสภาแห่งใหม่ค่ะ

การเดินทางของโครงการนี้นับได้ว่าเป็นจุดเด่นเลย สะดวกทั้งทางรถยนต์, รถไฟและเรือ ดังนี้

สำหรับคนที่ไม่ได้ขับรถยนต์ส่วนตัวจะมีตัวเลือกหลากหลายทีเดียว ใกล้สุดคือรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินมีระยะประมาณ 60 m. เท่านั้นก็ถึงบันไดทางขึ้นสถานี MRT บางโพ และนั่งเพียง 1 สถานีก็จะถึงสถานีเตาปูนที่ไป Interchange กับสายสีม่วงไปโซนนนทบุรีได้ และนั่งอีก 1 สถานีก็ถึงสถานีบางซื่อที่ไปเชื่อมต่อกับ “สถานีกลางบางซื่อ” Hub ใหม่ในการเดินทางของกรุงเเทพฯและใกล้แหล่งงานสำคัญอย่างปูนซิเมนต์ไทยด้วยค่ะ หรือหากทำงานที่โซนรัชดาฯ, อโศกมนตรี ก็นั่งสายสีน้ำเงินยาวๆ ไปได้เลย

ขยับออกมาหน่อยในระยะ 160 m. จะมีป้ายรถประจำทางที่มีรถวิ่งผ่านหลายสายมากๆ เช่น 66, 505, 32, 117 เป็นต้น หรืออีกวิธีหนึ่งคือการเดินทางโดยเรือ ใกล้ที่สุดจะเป็นท่าเรือบางโพในระยะประมาณ 400 m. จะมีเรือด่วนพิเศษธงส้ม, เขียว, เหลือง และเรือโดยสารประจำทางให้นั่งไปโซนสาทร, เอเชียทีคได้เลย

ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวถือว่าสะดวกทีเดียว เนื่องจากโครงการติดถนนประชาราษฏร์สาย 1 ที่ไปได้หลากหลายเส้นทาง เช่น

  • เข้าเมืองใกล้ๆ ก็จะเป็นแถวจตุจักร, พระราม 6 (ย่านอารีย์)
  • ขับขึ้นตอนบนก็สามารถไปงามวงศ์วาน, ติวานนท์, แจ้งวัฒนะ
  • หรือถ้าขับข้ามสะพานพระราม 7 ก็ไปยังแถวจรัญสนิทวงศ์, ปิ่นเกล้าได้ง่าย รวมถึงปัจจุบันมีทางด่วนทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ซึ่งตรงนี้จะเสียค่าผ่านทาง 50 บาท โดยทางด่วนนี้จะวิ่งออกเมืองไปสุดที่ถนนกาญจนาภิเษกตะวันตก หรือถ้าจะวิ่งเข้าเมืองก็จะเชื่อมต่อกับทางด่วนศรีรัชบริเวณจตุจักรได้เลย แต่จะเสียเงิน 2 ต่อ รวมแล้ว 100 บาทค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

โครงการ Niche Mono บางโพ ติดถนนประชาราษฎร์ สาย 1 อยู่ใกล้แยกบางโพ พื้นที่รอบๆจะเป็นชุมชนเดิมซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ในปัจจุบันมีคอนโดสูง, อพาร์ทเม้นต์และห้างสรรพสินค้า เกิดขึ้นใหม่มากมายบนทำเลนี้ สรุปพื้นที่โดยรอบแต่ละทิศ ดังนี้

  • ทิศเหนือ (River + City view) – ติดกับอพาร์ทเม้นต์สูง 8 ชั้น และคอนโด 24 ชั้น แต่บนชั้นสูงๆ ประมาณ 25 ขึ้นไปวิวก็เริ่มโล่งแล้ว มองเห็นแม่น้ำผ่านช่องว่างระหว่างตึกได้
  • ทิศตะวันออก (City view) – ติดกับชุมชนพักอาศัยเป็นบ้าน 1-2 ชั้น และอพาร์ทเม้นต์ 4-5 ชั้นปนๆ กัน ถัดออกไปเป็นห้างฯ Gateway สูง 8 ชั้น และขยับออกไปอีกจะมีคอนโด 39-40 ชั้นที่บล็อกวิวในระยะไกล
  • ทิศใต้ (River + City view) – ติดกับอพาร์ทเม้นต์ 8 ชั้นและอาคาร 4 ชั้น ทิศนี้ยังไม่มีตึกสูงบังวิว ทำให้เราเห็นวิวแม่น้ำแบบเต็มๆเลย
  • ทิศตะวันตก (River view)  – ติดกับถนนประชาราษฎร์สาย 1 ฝั่งตรงข้ามเป็นคอนโดสูง 26 ชั้น แต่คอนโดเราสูงกว่านั้นจึงมีชั้นที่สามารถรับวิวแม่น้ำได้เต็มที่

มาดูบรรยากาศรอบๆ โครงการกันค่ะ

จาก MRT บางโพเราจะสามารถมองเห็นที่ตั้งโครงการได้เลย อยู่ติดถนนประชาราษฎร์สาย 1 ฝั่งมุ่งหน้าไปทางรัฐสภา

Image 1/3
ตำแหน่งโครงการอยู่ระหว่างอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น และอพาร์ทเม้นต์ 8 ชั้น มองทะลุเข้าไปด้านในจะเห็นห้างฯ Gateway เลยค่ะ  

ตำแหน่งโครงการอยู่ระหว่างอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น และอพาร์ทเม้นต์ 8 ชั้น มองทะลุเข้าไปด้านในจะเห็นห้างฯ Gateway เลยค่ะ  

จากโครงการมองออกไปจะเห็นสถานีรถไฟฟ้าอยู่บนสี่แยกบางโพชัดเจน

ทางเดินจากรถไฟฟ้ามาโครงการจะมีฟุตบาทให้เดินได้สะดวก และมีกันสาดจากร้านค้าข้างๆ ช่วยให้ร่มเงา ร้านค้าใกล้ๆ โครงการจะเป็นร้านขายฟูกที่นอน, เฟอร์ฯ, เสริมสวย, สอนขับรถและอะไหล่รถยนต์ ซึ่งในโครงการจะมีอาคารพาณิชย์อยู่ 1 ยูนิตหากเป็นร้านสะดวกซื้อก็น่าจะเป็นที่พึ่งพิงให้ลูกบ้านได้ดี

ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นคอนโดสูง 26 ชั้น และอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น

บนที่ดินโครงการในตอนนี้ยังเป็นที่ตั้งของ Sales Gallery ใครที่สนใจโครงการสามารถเข้าไปเยี่ยมชมห้องตัวอย่างได้ที่นี่เลยค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ตัวช่วยในการเดินทาง

  • MRT บางโพ (สายสีน้ำเงิน) ~ 60 m.
  • ป้ายรถเมล์ ~ 160 m.
  • ท่าเรือบางโพ ~ 400 m.
  • MRT เตาปูน (สายสีม่วง) ~ 1 km.
  • MRT สถานีกลางบางซื่อ (สายสีแดง) ~ 3 km.

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Gateway บางซื่อ ~ 300 m.
  • ตลาดสดศรีเขมา ~ 1 km.
  • ตลาดสดเตาปูน ~ 1 km.
  • Lotus’s ประชาชื่น ~ 1.7 km.
  • Supreme Complex สามเสน ~ 2 km.
  • Makro สามเสน ~ 2.3 km.
  • ตลาดนัดยันฮี ~ 3.1 km.

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลบางโพ ~ 290 m.
  • โรงพยาบาลยันฮี ~ 3.2 km.
  • โรงพยาบาลวชิระ ~ 3.2 km.
  • โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ~ 3.8 km.
  • โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น ~ 4.2 km.

โรงเรียน

  • โรงเรียนโยธินบูรณะ ~ 850 m.
  • โรงเรียนราชินีบน ~ 2.1 km.
  • มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พระนครเหนือ ~ 2.2 km.
  • โรงเรียนเซนต์ฟรังซิสซาเวียร์คอนแวนต์ ~ 3.9 km.
  • โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ~ 3.9 km.
  • โรงเรียนราชวินิต ~ 4.4 km.

แหล่งงาน

  • รัฐสภา เกียกกาย ~ 1 km.
  • บริษัท บุญรอด บริเวอรี่ จำกัด ~ 1.9 km.
  • บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด ~ 2 km.

รายละเอียดโครงการ

โครงการ Niche Mono Bangpo (นิช โมโน บางโพ) เป็นคอนโดวิวแม่น้ำเปิดใหม่ สูง 37 ชั้นและมี Rooftop ให้ใช้งานได้อีก 1 ชั้น มีเพื่อนบ้านทั้งหมดเพียง 450 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 2 ไร่กว่าๆ ดีไซน์ Facade ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแม่น้ำจึงออกมาเป็นทรงคลื่น และจากทำเลที่ตั้งอยู่บนชุมชนค้าไม้ดั้งเดิม ทางโครงการจึงเลือกใช้สีน้ำตาลจากไม้มาใช้ในการตกแต่ง จุดเด่นของที่นี่เรามองว่ามี 4 ประเด็นหลักที่แตกต่างจากโครงการอื่น….

อย่างแรกเป็นเรื่องของการออกแบบผนังห้องพักอาศัยบางส่วนให้ยื่นออกจากตัวอาคาร ทำให้สามารถรับวิวแม่น้ำจากในห้องได้ชัดขึ้น เพิ่มเติมมาจากการมายืนชมวิวแม่น้ำที่ระเบียง

ประเด็นที่ 2 คือเรื่องของการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องพักอาศัยให้เป็น geo fit+ คนตัวเล็กสูง 150 cm. กว่าๆ ก็ใช้งานได้สะดวก

ประเด็นที่ 3 คือเรื่องของ Sky Facilities 3 ชั้นบนสุด ซึ่งวางไว้ตั้งแต่ชั้น 36 ขึ้นไป สูงกว่าคอนโดใกล้ๆ ที่อยู่ติดกัน จึงสามารรถมองเห็นวิวแม่น้ำได้แบบไม่มีอาคารสูงบังในระยะประชิดค่ะ แต่ในระยะไกลออกไปหน่อยแน่นอนว่าจะเห็นยอดอาคารสูงอยู่บ้าง เพราะโซนนี้เป็นทำเลฮิตของคอนโดใกล้แม่น้ำเลยนะคะ

สุดท้ายคือเรื่องของการเป็นคอนโดที่เป็น Condo Low Carbon ซึ่งนอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้โลกเราร้อนน้อยลงแล้วยังช่วยประหยัดค่าไฟให้กับพื้นที่ส่วนกลางด้วย เช่น

  • เน้นใช้พรรณไม้ที่ดูดซับ CO2 ในสวนของโครงการ ช่วยให้อากาศในโครงการบริสุทธิ์
  • รองรับ EV Charger ในโครงการ
  • Solar Rooftop ภายในโครงการ ช่วยลดค่าไฟฟ้าส่วนกลาง
  • Digital Parking ช่วยให้ลูกบ้านหาช่องจอดรถได้เร็วขึ้น ช่วยประหยัดพลังงาน
  • มีบริการรถรับส่งลูกบ้านโดย V MOVE เป็นต้น

Niche Mono Bangpo (นิช โมโน บางโพ) เป็นคอนโด High Rise 1 อาคาร กับอาคารพาณิชย์ 2 ชั้นบริเวณด้านหน้าโครงการ โดยชั้นพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 8 เป็นต้นไปจนถึงชั้น 37 สำหรับส่วนกลางหลักๆ จะอยู่ที่ชั้น 36, 37 และ Rooftop จึงได้ Sky Facilities 3 ชั้นเปิดรับวิวแม่น้ำมุมสูงค่ะ

1st Floor Plan

มาดูรายละเอียดโครงการ Niche Mono บางโพ ทีละชั้นกันนะคะ เริ่มจากชั้น 1 จะมีทางเข้าออกเพียงทางเดียว รถยนต์จะผ่านเข้าออกด้วย Keycard ดังนั้นรถที่ผ่านเข้าออกได้แบบอัตโนมัติจะเป็นรถของลูกบ้าน สำหรับรถของ Visitors จะต้องแลกบัตรค่ะ

เมื่อเข้ามาด้านในจะเจอกับ Drop-Off เป็นจุดแรกเพื่อให้วนรับ-ส่งหน้าอาคารได้สะดวก ที่จอดรถจะมีทั้งรอบอาคารและบนอาคาร ซึ่งในแต่ละชั้นจะติดตั้ง Service Parking เพื่อบอกว่าชั้นนั้นๆ มีช่องว่างหรือไม่และมี EV Charger ให้ 3 ช่องจอด

ส่วนกลางบนชั้น 1 ออกแบบฟังก์ชันไว้รองรับการนัดพบ, พักคอย, นั่งเล่นเป็นหลัก แต่ก็จะมี Meeting Room ไว้รองรับการคุยงานด้วยเช่นกัน ถัดเข้าไปด้านในจึงเป็น Lift Lobby สำหรับขึ้นไปยังชั้นพักอาศัย มีลิฟต์ให้ใช้ 3 ตัว เป็นแบบล็อกชั้น โดยใช้ Key Card แตะเข้าได้เฉพาะชั้น 1, 8, 36, 37, Rooftop และชั้นที่ตนเองพักอาศัยเท่านั้นค่ะ อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 150 :  1 ถือว่าเยอะพอสมควร แต่ก็เป็นเรื่องปกติเมื่อเทียบกับคอนโดในเมืองแบบนี้ และมี Service Lift แยกเอาไว้อีก 1 ตัวค่ะ

ภายในอาคารจะมี Lobby เป็นพื้นที่รับรองแขกขนาดใหญ่ มีโซฟาหลายชุดไว้รองรับการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีจุดรับส่งอาหารแยกไว้เป็นสัดส่วน

ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Mailbox ใน Lobby ออกแบบให้ดูสวยงามเหมือนเป็นงานตกแต่งผนัง

ใกล้กับ Main Lobby จะมี Private Pavilion แยกตัวออกมาให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ออกแบบเป็นผนังกระจกเพื่อเปิดรับวิวสวนรอบๆ

8th Floor Plan

ที่ชั้น 8 เป็นต้นไปจะเริ่มเป็นชั้นพักอาศัยมีจำนวน 16 ยูนิต จุดเด่นของชั้นนี้คือห้องพักทิศเหนือและตะวันตกจะเป็นห้องที่มี Access เข้าสวนได้ (เส้นประสีฟ้า) ซึ่งเป็นสวนส่วนกลางของโครงการจึงมีคนดูแลให้เสมอ ห้องโซนนี้จึงได้ Value พิเศษ ในส่วนของตำแหน่งลิฟต์จะอยู่บริเวณกลางอาคารทำให้ลูกบ้านเดินมาใช้งานได้สะดวก

ห้องทิศใต้จะเปิดมุมมองไปทางแม่น้ำได้ชัดที่สุดในโครงการ จึงเป็นห้องที่ออกแบบพิเศษให้มีผนังยื่นออกจากตัวอาคารเพื่อรับวิวได้ (เส้นประสีแดง) ส่วนห้องทางทิศตะวันออกจะได้ City View หันเข้าตัวเมือง เน้นเป็นห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการเพื่อให้มีราคาหยิบจับง่าย

พูดถึงเรื่องวิวบนชั้น 8 อาจจะยังไม่เคลียร์นัก เพราะอาคารรอบๆ ก็มีที่สูง 8 ชั้นล้อมอยู่หลายฝั่งเช่นกัน ห้องที่แนะนำบนชั้นนี้จึงเป็นห้อง Access เข้าสวน ซึ่งมีเฉพาะชั้นนี้นะคะ

ภาพจำลองบรรยากาศภายในสวนบนชั้น 8 ซึ่งจริงๆ จะไม่ได้มองเห็นวิวแม่น้ำชัดขนาดนี้เพราะมีคอนโดริมน้ำตั้งอยู่ด้วย แต่สำหรับใครที่ชอบวิวสวนและไม่ได้ซีเรียสเรื่องวิวแม่น้ำมากนักก็ตอบโจทย์ค่ะ นอกจากห้องชั้น 8 แล้ว ห้องชั้น 9-10 ก็จะได้เห็นยอดไม้เขียวๆ น่าสนใจอยู่เหมือนกันค่ะ

ขยับมาที่ชั้น 10-16 มีจำนวน 17 ยูนิต …ห้องทางทิศเหนือใต้ (เส้นประสีแดง) จะเป็นตำแหน่งห้องที่รับวิวแม่น้ำทางโครงการจึงออกแบบให้มีผนังยื่นออกจากตัวอาคารเพื่อรับวิวได้ ส่วนห้องโซนฝั่งสีเขียวจะเป็นห้องรูปแบบปกติ เพราะได้วิวเมืองนะคะ

รูปแบบห้องพักส่วนใหญ่จะเน้นไปที่แบบ 1 Bedroom มีให้เลือกหลากหลายขนาด แต่ถ้าเป็นตำแหน่งที่เห็นแม่น้ำชัดๆ มักจะเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เช่น ห้อง Type C, D

ขึ้นมาที่ชั้น 17-24 มีจำนวน 17 ยูนิตเท่าเดิม การวางผังจะคล้ายๆ ชั้น 10-16 เลยค่ะ แต่ห้องทางทิศตะวันออกจะมีขนาดใหญ่ขึ้น

ชั้น 25-34 ยังคงเป็นห้องพักอาศัยแบบเต็มชั้น มีจำนวนเพื่อนบ้านลดลงเหลือชั้นละ 15 ยูนิต เพราะปรับห้องพักอาศัยให้มีขนาดใหญ่มากขึ้น วิวโดยรอบจะเคลียร์เกือบทุกทิศแล้ว มีเพียงทิศตะวันตกที่ยังมีคอนโดสูง 26 ชั้นอยู่ที่ฝั่งตรงข้าม แต่ก็ยังมีช่องระหว่างตึกให้มองเห็นแม่น้ำได้อยู่นะคะ

ตั้งแต่ชั้น 35 ขึ้นไปจะเป็นชั้นที่มีความเป็นส่วนตัวสูงมาก มีเพื่อนบ้านเพียง 4 ยูนิตเท่านั้น แม้จะมีอาคารสูงที่มองเห็นในระยะไกล แต่ก็ไม่มีอาคารบังวิวในระยะประชิด และห้องทิศตะวันตกก็มองเห็นแม่น้ำได้ชัดเจน

ชั้น 36 จะเป็นโซนพักอาศัยรวมอยู่กับ Facilities หลักของโครงการ ซึ่งมีห้องพักอาศัยเพียง 4 ห้อง เช่นเดียวกับชั้น 35 นะคะ หากใครชอบใช้ Facilities ส่วนกลางก็เหมาะเลยค่ะ เดินมาใช้งานได้สะดวก แต่ก็อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้างเพราะลูกบ้านคงมาใช้ส่วนกลางบนชั้นนี้เยอะ เบื้องต้นโครงการจะมีประตูแยกโซนพักอาศัยไว้จึงเข้าถึงห้องพักได้เฉพาะลูกบ้านที่พักบนชั้นนี้นะคะ

สำหรับ Facilities บนชั้นนี้จะประกอบด้วยสระว่ายน้ำวิวแม่น้ำ หรือที่โครงการมีชื่อเรียกเก๋ๆ ว่า Riverine Pool เป็นสระระบบเกลือขนาด 25.3 x 9.4 m. ลึก 1.2 m. แยกพื้นที่สระเด็กเป็นสัดส่วน ลึก 0.6 m. ติดกันเป็น  Sky Fitness และ Sky Garden ที่เปิดรับวิวได้แบบ Panoramic ค่ะ

ภาพจำลอง Facilities หลักของโครงการตั้งแต่ชั้น 36 จนถึง Rooftop จะเปิดรับวิวโค้งแม่น้ำ

ตำแหน่งของสระว่ายน้ำจะอยู่ทางทิศใต้ ซึ่งเป็นทิศที่เรามองว่าได้วิวแม่น้ำสวยที่สุดของโครงการ

Sky Fitness อยู่ทางฝั่งทิศใต้เช่นเดียวกัน ภายในจัดวางเครื่องออกกำลังกายให้รับวิวแม่น้ำได้

ชั้น 37 มีจำนวนห้องพักอาศัย 4 ยูนิตเช่นเดียวกับชั้น 36 มีการแยกโซนห้องพักออกจาก Facilities ส่วนกลางด้วยประตูกั้นอีกชั้นหนึ่ง สำหรับส่วนกลางบนชั้นนี้จะมี Sky Lounge และ Mini Bar เราสามารถจองใช้ห้องเพื่อจัด Private Party ได้

ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Riverine Sky Lounge เป็นห้องกระจกเปิดรับวิวได้เต็มที่

ขึ้นมาที่ Rooftop ของโครงการจะเป็นพักผ่อนชมวิวทั้งหมด แบ่งออกเป็นพื้นที่สวนและ Panoramic Observation Deck การที่มีพื้นที่พักผ่อนอยู่ในชั้นสูงแบบนี้จะมีข้อดีในเรื่องของการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น เพราะจะสูงพ้นจากระยะสายตาของเพื่อนบ้านโดยรอบ จึงได้วิวแบบเคลียร์ๆ ค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Panoramic Observation Deck

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

ในส่วนของวิวรอบๆ โครงการความสูงประมาณชั้น 27 จะได้วิวประมาณนี้นะคะ

Image 1/4
ทิศใต้ เป็นทิศที่เรามองว่าได้วิวสวยที่สุดในโครงการ มองเห็นโค้งน้ำและรัฐสภาที่สวยงาม

ทิศใต้ เป็นทิศที่เรามองว่าได้วิวสวยที่สุดในโครงการ มองเห็นโค้งน้ำและรัฐสภาที่สวยงาม

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ชั้น 1
    – Restful Lobby
    – Private Pavilion
    – Meeting Room
    – Delivery Area
    – First Aid
    – Garden
    – Visitor Parking
    – 3 Slots EV Charger
    – Service Parking
  • ชั้น 8
    – Sky Garden
  • ชั้น 36
    – Panoramic Riverine Garden
    – Riverine Pool ระบบเกลือขนาด 25.3 x 9.4 m. ลึก 1.2 m. แยกพื้นที่สระเด็กเป็นสัดส่วน ลึก 0.6 m.
    – Sky Fitness
  • ชั้น 37
    – Riverine Sky Lounge
    – Mini Bar
  • Rooftop
    – Garden
    – Panoramic Observation Deck
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 150 :  1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 44% (ไม่รวมซ้อนคัน)
  • ระบบควบคุมรถเข้า-ออก โดยใช้ Keycard
  • ลูกบ้านเข้าออกอาคารด้วย Keycard
  • รปภ. 24 ชั่วโมง
  • CCTV บริเวณทางเข้า-ออกและภายในโครงการ
  • บริการรถรับ-ส่งลูกบ้านโดย V Move

แบบห้อง

สำหรับห้องพักอาศัยของโครงการนั้นจะมีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ 1 Bedroom 27 ตร.ม. ไปจนถึง 2 Bedroom 62.5 ตร.ม. โดยส่วนใหญ่แล้วจะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom เป็นหลัก ดังนี้

  • Type A :  1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 27-31 ตร.ม.
  • Type B :  1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 28.5-37 ตร.ม.
  • Type C : 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 31.5-33 ตร.ม.
  • Type D : 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 53.5-62.5 ตร.ม.

รายการวัสดุและเฟอร์นิเจอร์

  • ผนังฉาบเรียบทาสี
  • พื้นห้อง ปูด้วย SPC หนา 4 mm.
  • พื้นครัว ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้
  • ห้องน้ำ ปูด้วยกระเบื้องเซรามิก
  • หน้าต่างกระจกใส
  • Digital Door Lock
  • เคาน์เตอร์ครัว Top หินสังเคราะห์
  • Hob&hood ระบบหมุนเวียน ยี่ห้อ Teka
  • Sink ล้างจาน ยี่ห้อ Hafele
  • ที่เก็บจานแนวคิด geo fit+
  • สุขภัณฑ์ต่างๆ ในห้องน้ำยี่ห้อ COTTO เป็นหลัก
  • เฟอร์นิเจอร์ Built-in ได้แก่ ชั้นวางรองเท้า, ตู้เสื้อผ้า, ตู้เก็บของ, ชุดครัว

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ


ห้องตัวอย่าง Type A ขนาด 27 ตร.ม.

ห้อง Type นี้เหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คนกำลังดี เมื่อเข้ามาจะเจอกับ Common Area เป็นลำดับแรก ซึ่งรวมไว้ทั้งพื้นที่นั่งเล่น, ดูทีวีและทานอาหาร มีพื้นที่มากว้างพอสมควรให้ใช้งานได้สบาย ถัดเข้าไปด้านในจะมีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า อยู่บริเวณหน้าห้องน้ำเลยจึงใช้งานเชื่อมต่อกันได้สะดวก ในส่วนของห้องน้ำก็แบ่งพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้เรียบร้อย

ห้องนอนจะอยู่ด้านในสุด รับวิวและแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ พื้นที่ภายในห้องนอนค่อนข้างกว้างสามารถวางตู้เสื้อผ้าได้ ส่วนที่เราชอบที่สุดคือห้องครัว จัดพื้นที่เป็นครัวปิดเหมาะกับการประกอบอาหารแบบจริงจัง ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นควัน และครัวยังติดกับระเบียงจึงเปิดระบายอากาศได้ดี

เข้ามาภายในห้องจะเจอกับ Common Area ที่รวมเอาพื้นที่นั่งเล่นกับทานอาหารเข้าไว้ด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่พักผ่อนหลักในวันหยุดก็ได้ ถัดเข้าไปด้านในเป็นห้องนอนที่มีประตูกระจกกั้นไว้เป็นสัดส่วน

ฝ้าเพดานห้องนี้สูง 2.6 m. ซึ่งเป็นระดับที่ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่งพอสมควร พื้นห้องปูด้วย SPC หนา 4 mm. จึงมีคุณสมบัติในการทนน้ำได้ดีกว่าพื้นไม้ลามิเนตอย่างที่โครงการเดิมๆ เลือกใช้กัน ส่วนผนังฉาบเรียบทาสีมาให้เป็นมาตรฐานค่ะ

ประตูห้องจะมี Digital Door Lock ติตดั้งมาให้ และบริเวณหน้าประตูห้องจะมีตู้เก็บของ Built-in มาให้ ใช้เก็บรองเท้าหรือของใช้ที่ต้องหยิบบ่อยๆ ก่อนออกจากห้อง

ภายในตู้แบ่งเป็นฟังก์ชันต่างๆ เช่น ลิ้นชักเก็บของ, ตู้ช่องโล่ง, ช่องวางรองเท้า และมีช่องให้ใส่รองเท้า Slipper ที่ชั้นล่างสุด

พื้นที่นั่งเล่นมีระยะดูทีวีกว้างประมาณ 2.4 เมตร ติดตั้งทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วกำลังดี สำหรับชุดโซฟาและชั้นวางทีวีทางโครงการไม่ได้ให้มา เราสามารถเลือกใช้แบบที่เราชอบเองได้

ห้องนั่งเล่นจะไม่ได้วิวภายนอกและต้องอาศัยแสงธรรมชาติที่ลอดผ่านจากประตูกระจกเข้ามาแทนนะคะ

พื้นที่ระหว่างทีวีกับโซฟาจะมีพื้นที่เหลือพอให้สามารถวางโต๊ะกลางได้ แต่เหมาะกับโต๊ะขนาดกะทัดรัดหน่อย เพื่อให้เดินผ่านได้สะดวก

โต๊ะทานข้าวจะเลือกวางแบบเข้ามุมตามห้องตัวอย่างก็ได้ หรือจะขยับมาอยู่ข้างโซฟาเพื่อให้สามารถทานข้าวไปดูทีวีไปก็ได้เหมือนกัน

เราลองขยับเก้าอี้ออกมาให้ดูว่าระยะกว้างพอให้ใช้งานได้สะดวก

เข้ามาด้านในตัวห้องจะมีมุมซักผ้าอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ ใช้งานสะดวกดีเพราะเมื่ออาบน้ำเสร็จก็สามารถวางเสื้อผ้าที่ใช้แล้วไว้ใกล้เครื่องซักผ้าได้เลย

มุมซักผ้านี้มีขนาดประมาณ 0.7×1 m. สามารถวางเครื่องซักผ้าขนาด 9 kg. ตามแบบในห้องตัวอย่างได้

ด้านบนเครื่องซักผ้าจะมีตู้เก็บของ Built-in พร้อมราวแขวนผ้ามาให้เรียบร้อย

มาดูห้องน้ำกันต่อค่ะ ภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานโซนเปียกและแห้งเป็นสัดส่วน พื้นที่จัดมาให้สามารถใช้งานได้สะดวก วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องเซรามิก โครงการให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ และให้สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องน้ำครบครัน

ชุดอ่างล้างหน้าและอุปกรณ์ก๊อกของ COTTO …ขอบอ่างจะมีพื้นที่สำหรับวางของใช้ต่างๆได้ และใต้อ่างล้างหน้าจะมีพื้นที่ให้วางของใช้ต่างๆ ได้อีกเล็กน้อย

ชุดโถสุขภัณฑ์ของ COTTO ตามแบบห้องตัวอย่าง มาพร้อมที่ใส่ทิชชู่และสายฉีดชำระ

Shower Box จะมีฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยมาให้เป็นแบบบานเปิดปิด พร้อมติดตั้งฝักบัวและเดินระบบไฟรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย

ในห้องน้ำจะมีการยกธรณีขึ้นช่วยกันไม่ให้น้ำจากพื้นที่ส่วนเปียกกระเด็นออกมา โดยพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.7 x 0.9 m. ใช้งานได้สะดวกพอสมควร

ภายใน Shower Box จะมีช่องวางของ Built-in มาให้ด้วย จึงไม่ต้องติดชั้นวางของเพิ่มให้เกะกะเลยนะคะ

เนื่องจากห้องน้ำอยู่ในตำแหน่งที่ไม่มีหน้าต่าง โครงการจึงติดตั้งเครื่องดูดอากาศมาให้เพื่อช่วยลดความชื้น

ฝั่งตรงข้ามห้องน้ำจะมีประตูทางเข้าห้องครัวแบบบานเลื่อน 3 ตอน จึงเลื่อนเปิดได้กว้าง ประมาณ 80 cm. พอให้เข้าออกทีละคนได้สะดวก พื้นครัวจะปูด้วยกระเบื้องเพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาดคราบน้ำมัน และซอสต่างๆ

เคาน์เตอร์ครัวมีขนาดไม่ใหญ่นักแต่ก็สามารถใช้งานได้ครบ และเตรียมพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นไว้ให้ด้านข้างเคาน์เตอร์

เคาน์เตอร์ครัวด้านล่างจะเป็นที่วางไมโครเวฟ, ลิ้นชักเก็บจานชามช้อนส้อม และมีตู้เก็บของใต้ซิงค์ล้างจานไว้ใช้เก็บของเล็กๆ น้อยๆ ได้

ข้างตู้จะติดชั้นวางของมาให้ เพื่อให้ใช้งานได้เต็มพื้นที่

ตู้ช่องโล่งสำหรับวางไมโครเวฟ อยู่ในตำแหน่งที่คนตัวเล็กสามารถใช้งานได้สะดวก

มาดูส่วนบนของเคาน์เตอร์ครัวกันบ้าง ฝั่งหนึ่งเป็นซิงค์ล้างจาน อีกฝั่งเป็นเตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควัน และมีพื้นที่ตรงกลางนิดหน่อยสำหรับเตรียมอาหาร …Top เคาน์เตอร์วัสดุเป็น หินสังเคราะห์ ทนต่อความชื้นได้ดีและทำความสะอาดง่าย มาพร้อม Backsplash ด้านหลังตามแบบห้องตัวอย่างเลยนะคะ เวลาปรุงอาหารแล้วกระเด็นก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

ซิงค์ล้างจานของ Hafele เราลองใส่หม้อขนาดเล็กลงไปก็วางได้พอดีๆ

เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวของ Teka จะใช้อุ่นอาหารเล็กๆ น้อยๆ หรือ ทำอาหารทานกันในห้องก็ได้ มาพร้อมเครื่องดูดควันแบบต่อท่อออกไปข้างนอก ซึ่งใช้งานได้ดีกว่าระบบหมุนเวียน

ตู้ลอยสำหรับเก็บของด้านบนจะมีหน้าบานปิดเรียบร้อย

ภายในตู้ติดตั้งที่เก็บจานแบบที่สามารถดึงลงมาใช้งานได้ เป็นลักษณะของเฟอร์นิเจอร์แบบ geo fit+ ทำให้คนตัวเล็กสามารถใช้งานได้สะดวก

ด้านในสุดเป็นประตูระเบียงแบบบานเลื่อน 3 ตอนจึงเปิดออกได้กว้าง ช่วยระบายกลิ่นควันในครัวได้ดี

พื้นที่ระเบียงมีขนาด 1.1×1.4 m. พอให้วางราวตากผ้าไซส์เล็กได้ ข้อดีของระเบียงนี้คือ โครงการติดตั้ง Condensing Unit ของแอร์ทั้ง 2 ตัวไว้ด้านบน ทำให้เราสามารถใช้งานระเบียงได้เต็มที่

สำหรับกรอบประตูจะอยู่บนขอบธรณีที่ยกสูงขึ้นอีกทีนึง ซึ่งขอบธรณีนี้จะช่วยกันน้ำจากภายนอกไม่ให้ไหลเข้าสู่ภายในตัวห้องค่ะ

ปิดท้ายกันที่ห้องนอนจะมีประตูบานเลื่อนกั้นห้องไว้เป็นสัดส่วน แต่หากต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นก็แนะนำให้ติดม่านเพิ่มเติม เวลาที่สมาชิกทำกิจกรรมต่างกัน เช่น คนนึงยังนอนหลับแต่อีกคนตื่นก่อน ก็สามารถออกมานั่งดูทีวีได้ไม่รบกวนกัน

ภายในห้องนอนกว้างพอสมควรสามารถตั้งเตียงนอนขนาด 5 ฟุต ได้ วางเตียงชิดหน้าต่างไว้ฝั่งหนึ่งก็จะเหลือพื้นที่ข้างเตียงให้วางตู้เสื้อผ้าได้ ซึ่งโครงการจะติดตั้งตู้เสื้อผ้ามาให้ตามแบบในห้องตัวอย่าง

การวางตำแหน่งห้องนอนลักษณะนี้มีข้อดีตรงที่ตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่าง ทำให้สามารถเปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดี สามารถรับวิวจากเตียงนอนได้เลย และหากใครต้องการติดทีวีปลายเตียงก็สามารถติดตั้งแบบแขวนผนังได้

ตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าจะอยู่บริเวณหน้าห้องนอน มีพื้นที่ให้ยืนเลือกเสื้อผ้าได้แบบกว้างๆ ประมาณ 1.1×1.4 m. เลยนะคะ

ภายในตู้ออกแบบมาให้มีช่องเก็บของต่างๆ เยอะมาก เช่น ราวแขวนกางเกง, ลิ้นชักใส่ของ, ตู้ช่องโล่งขนาดเล็ก-ใหญ่ ให้แยกประเภทของได้เป็นสัดส่วน

บานตู้เสื้อผ้าจะติดตั้งกระจกและราวแขวนมาให้ เรียกว่าอัดฟังก์ชันมาให้แน่นๆ คุ้มค่าพื้นที่ใช้สอยเลยค่ะ


ห้องตัวอย่าง Type C ขนาด 32.5 ตร.ม.

ใครชอบห้องนอนใหญ่ที่เปิดประตูกระจกเชื่อมต่อกับ Common Area ได้แบบกว้างๆ เราว่าน่าจะถูกใจห้อง Type นี้นะคะ เพราะประตูที่กั้นตรงกลางระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่นสามารถเปิดเชื่อมกันได้ ให้บรรยากาศโปร่งโล่ง และทั้ง 2 ฟังก์ชันยังได้พื้นที่ติดริมหน้าต่าง มีช่องแสงบานใหญ่รับวิวและแสงธรรมชาติได้เต็มที่

ขนาดพื้นที่รองรับการอยู่อาศัย 1-2 คนกำลังดี แต่ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอนจึงเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยที่ไม่ได้มีแขกมาหาบ่อยๆ เพราะต้องเดินผ่านห้องนอนเพื่อเข้าห้องน้ำทุกครั้ง ก็อาจเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้าง

ในส่วนของห้องครัวจะอยู่ด้านในติดกับทางเดิน ต้องพึ่งพาระบบระบายอากาศเป็นหลัก แต่ก็เป็นห้องครัวปิด มีประตูกั้นเป็นสัดส่วน

Gimmick อย่างนึงของห้อง Type นี้คือ ผนังห้องส่วนหนึ่งจะถูกออกแบบให้ยื่นออกไปจากตัวห้อง เป็นทรงสามเหลี่ยม เพื่อเปิดมุมมองให้เห็นวิวแม่น้ำได้ชัดขึ้น

เปิดเข้ามาส่วนแรกจะเป็นห้องครัวและดันพื้นที่นั่งเล่นเข้าไปไว้ด้านในติดหน้าต่าง

สำหรับชุดครัวและตู้ Built-in ทางโครงการจะให้มาตามแบบในห้องตัวอย่าง ยกเว้นแค่ไมโครเวฟ, ตู้เย็น และเครื่องซักผ้าที่ไม่ได้ให้มานะคะ

ชุดครัวยังคงคอนเซปต์ของ geo fit+ มีชั้นเก็บจานที่ดึงลงมาได้ ทำให้ใช้งานได้สะดวก

อีกฝั่งหนึ่งของห้องครัวเป็นตำแหน่งวางเครื่องซักผ้าและตู้เย็น ซึ่งโครงการจะ Built-in ตู้เก็บของและราวแขวนเสื้อผ้ามาให้เช่นเดียวกับห้องแรก

ประตูกั้นห้องครัวกับห้องนั่งเล่นจะเป็นประตูกระจกสูงจากพื้นเกือบจรดฝ้าเลย ช่วยให้ห้องดูโปร่ง และประตูนี้จะช่วยกันกลิ่นควันจากห้องครัวไม่ให้ไปรบกวนพื้นที่ส่วนอื่น

เข้ามาด้านในจะเป็น Common Area รวมพื้นที่นั่งเล่นและทานอาหารเข้าไว้ด้วยกัน พื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ได้ครบ

สำหรับห้อง Type นี้จะมีตู้เก็บรองเท้า Built-in ไว้ให้เช่นกัน แต่จะขยับเข้ามาอยู่ใน Common Area นะคะ

หากวางโต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งตามแบบในห้องตัวอย่าง จะมีระยะให้ใช้งานได้สบายๆ

พื้นที่ดูทีวีสามารถวางชุดโซฟาแบบ 2-3 ที่นั่ง มีระยะดูทีวีประมาณ 2.4 m. ใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วกำลังดี สำหรับเฟอร์นิเจอร์ในโซนนี้จะไม่ได้ให้มาด้วย เราสามารถเลือกซื้อแบบที่ถูกใจได้เลย

พื้นที่นั่งเล่นจะอยู่ติดกับระเบียงเลย หากอยากเปลี่ยนบรรยากาศก็สามารถเดินมารับลมชมวิวที่ระเบียงได้สะดวก

พื้นที่ระเบียงมีความกว้างพอสมควร ประมาณ 2.5 x 1.1 เมตร พอให้วางราวตากผ้าและต้นไม้กระถางเพื่อสร้างบรรยากาศร่มรื่นได้

ข้อดีของระเบียงนี้คือ โครงการติดตั้ง Condensing Unit ของแอร์ทั้ง 2 ตัวไว้เป็นแบบแขวน ทำให้เราสามารถใช้งานพื้นระเบียงได้เต็มที่

จากห้องนั่งเล่นเราสามารถเปิดประตูกว้างๆ เชื่อมเข้าสู่ห้องนอนได้ เพราะเป็นประตูแบบ 3 ตอน

บรรยากาศในห้องเมื่อเปิดประตูเชื่อมกันจึงดูกว้าง ไม่อึดอัด

ภายในห้องนอนได้พื้นที่กว้างจริงๆ จะวางเตียง 5 หรือ 6 ฟุตก็ได้ และยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งด้วยค่ะ

อย่างที่เกริ่นไปว่างห้อง Type นี้จะมีผนังห้องส่วนหนึ่งจะถูกออกแบบให้ยื่นออกไปจากตัวห้องเพื่อเปิดมุมมองให้เห็นวิวแม่น้ำได้ชัดขึ้น ก็คือพื้นที่ข้างเตียงตรงนี้ที่สามารถวางชุดโซฟาสำหรับนั่งชมวิวได้เลย หรือจะ Built-in เป็นม้านั่งยาว ก็น่าจะเป็นมุมนั่งอ่านหนังสือสุดโปรดกันเลยทีเดียว

อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นโซนแต่งตัวละห้องน้ำ

โครงการจะ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่มาให้เป็นตู้บานเปิด 3 บาน

ภายในออกแบบมาให้มีช่องเก็บของต่างๆ เยอะมากเพื่อให้แยกประเภทของได้เป็นสัดส่วน

ในส่วนของห้องน้ำจะเป็นห้องน้ำจะแบ่งพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งไว้เรียบร้อย ด้านในติดตั้งวัสดุอุปกรณ์ให้ครบถ้วนเหมือนกับห้องน้ำในห้องแบบแรกเลยนะคะ

ขนาดพื้นที่ใช้สอยจะใหญ่กว่าแบบแรก มีพื้นที่รอบๆ สุขภัณฑ์ให้ใช้งานได้ไม่อึดอัด

Shower Box มีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ขนาดประมาณ 1×0.8 m. ค่ะ


ห้องตัวอย่าง Type D 55.5 ตร.ม.

Type 2 Bedroom 2 Bathroom รองรับการอยู่อาศัยแบบครอบครัว 3-4 คนได้เลย ออกแบบมาเป็นห้องหน้ากว้างได้ช่องแสงเยอะ ระเบียงกว้างออกแบบให้ยื่นออกจากตัวอาคารเพื่อเปิดมุมรับวิวแม่น้ำได้ชัดยิ่งขึ้น

ห้องนอนทั้ง 2 ห้องมีขนาดให้ใช้งานได้จริง วางเตียง 5-6 ฟุตได้ ห้องนอนใหญ่มี Gimmick พิเศษ เป็นกระจกแบบ Bay Window เข้ามุมเพื่อเปิดรับวิวได้กว้าง ส่วนครัวเป็นแบบครัวปิด ทำอาหารได้จริงจัง

Image 1/15
ห้องตัวอย่าง Type D (2 Bedroom 2 Bathroom 55.5 ตร.ม.)

ห้องตัวอย่าง Type D (2 Bedroom 2 Bathroom 55.5 ตร.ม.)

ราคา

Niche Mono Bangpo (นิช โมโน บางโพ) ราคา ณ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2566

  • Type A ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 27 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท หรือ 125,555 บาท/ตร.ม.
  • Type C ห้อง 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 32.5 ตร.ม ราคาเริ่มต้น 4 ล้านบาท หรือ 123,076 บาท/ตร.ม.
  • Type D ห้อง 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 54.5 ตร.ม ราคาเริ่มต้น 7 ล้านบาท หรือ 128,440 บาท/ตร.ม.

  • รูปแบบการขาย Fully Fitted
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 48 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล : ที่ตั้งโครงการ Niche Mono บางโพ ตั้งอยู่บนถนนประชาราษฎร์สาย 1 ที่ห่างจาก MRT บางโพ เพียง 60 m. แม้จะไม่ได้อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ก็ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาเช่นกัน สำหรับย่านบางโพนั้น เป็นชุมชนเก่าจึงมีตลาดและร้านอาหารขึ้นชื่ออยู่ค่อนข้างมาก ทั้งตลาดบางโพ, ตลาดเตาปูน และยังมีห้างฯ Gateway บางซื่อ ที่มีทั้งร้านอาหาร, Big C, Homepro, โรงหนัง ห่างจากโครงการเพียง 300 เมตร เป็นระยะที่เดินชิลๆ เลย

การเดินทางโดยใช้รถ : ถือว่าเดินทางสะดวก โครงการติดถนนประชาราษฎร์ สาย 1 สามารถไปเชื่อมต่อถนนสายหลักอื่นๆได้หลายเส้น รวมถึงเดินทางไปขึ้นทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกก็สะดวก ซึ่งเป็นเส้นที่วิ่งไปบรรจบกับทางด่วนศรีรัชในเมืองได้ ซึ่งในช่วงเวลาเร่งด่วน ก็เป็นอีกตัวเลือกที่สามารถประหยัดเวลาได้ดีทีเดียว ส่วนที่จอดรถที่ให้มาทั้งหมด 44% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ถือว่าให้มาไม่มากเท่าไหร่สำหรับคอนโดระดับนี้

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ครบทั้งรถไฟ, รถเมล์, แท็กซี่และเรือ โดยโครงการห่าง MRT บางโพเพียง 60 เมตร ใกล้มากๆ ซึ่งรถไฟฟ้าสายนี้เป็นสายสีน้ำเงินที่วิ่งเข้าเมืองไปยังบางซื่อ, จตุจักร, รัชดา, อโศก, สีลม, สามย่านได้สะดวกแบบที่ไม่ต้องเปลี่ยนขบวนเลย และนั่งเพียง 1 สถานีก็ไป Interchange เปลี่ยนสายสีม่วงได้ที่สถานีเตาปูน ใช้เดินทางไปยังโซนนนทบุรีได้อีกด้วย ในส่วนของป้ายรถเมล์ใกล้สุดประมาณ 160 m. หากต้องการเรียกแท็กซึ่ก็มารอเรียกที่หน้าโครงการได้เลยเพราะตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ อีกตัวช่วยหนึ่งก็คือเรือ ที่สามารถนั่งไปสาทร, เอเชียทีคได้ โดยท่าเรือจะห่างจากโครงการ 400 m. เรียกพี่วินมอเตอร์ไซค์ไปต่อเรือก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งค่ะ

การออกแบบอาคาร : ต้องเกริ่นก่อนว่าการออกแบบคอนโดวิวแม่น้ำบนทำเลบางโพนั้นไม่ง่ายเลย เพราะมีอาคารสูงรายล้อมกันมากมาย ซึ่งโครงการพยายามหลบหลีกช่องเปิดที่จะเจอกับการบล็อกวิวในระยะประชิดได้ดีทีเดียว การวางตำแหน่งห้องก็ทำให้มีห้องที่ได้วิวแม่น้ำให้เลือกได้หลากหลายขนาดตั้งแต่ 1 Bedroom ไปจนถึง 2 Bedroom และสำหรับห้องที่ไม่ได้วิวแม่น้ำก็ยังมี Facilities 3 ชั้นบนสุดให้ขึ้นไปชมวิวได้ ซึ่งวางส่วนกลางไว้ตั้งแต่ชั้น 36 ขึ้นไป สูงกว่าคอนโดใกล้ๆ ที่อยู่ติดกันทำให้ชั้น Facilities จะสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำได้ไม่มีอาคารสูงบังในระยะประชิดค่ะ

อีกประเด็นคือการออกแบบให้เป็น Condo Low Carbon ซึ่งนอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้โลกเราร้อนน้อยลงแล้วยังช่วยประหยัดค่าไฟให้กับพื้นที่ส่วนกลางด้วย

การออกแบบห้อง : การออกห้องเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งที่โครงการตั้งใจให้รับวิวแม่น้ำได้แบบชัดขึ้น โดยออกแบบให้ผนังห้องพักอาศัยบางส่วนยื่นออกจากตัวอาคาร แล้วติดตั้งหน้าต่างให้เฉียงเข้าหาแม่น้ำ ทำให้สามารถรับวิวแม่น้ำจากในห้องได้ชัดขึ้น นอกเหนือจากการมายืนชมวิวแม่น้ำที่ระเบียง อีกประเด็นหนึ่งคือห้องทุกแบบจะได้เป็นครัวปิด ใช้งานได้จริงจังไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นควันมากนัก

วัสดุ : โครงการ Niche Mono บางโพ จะขายแบบ Fully Fitted ต่างจากหลายโครงการที่ขายเป็น Fully Furnished ซึ่งเฟอร์ฯ ที่โครงการ Built-in มาให้แล้วนั้นออกแบบมาด้วยแนวคิด geo fit+ เอาใจคนตัวเล็กที่สูง 150 cm. กว่าๆ ก็ใช้งานได้สะดวก จึงมีดีเทลเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่นที่เก็บจานบนตู้ลอยที่สามารถดึงลงมาใช้งานได้, ตู้เก็บรองเท้าที่แบ่งเป็นช่องย่อยๆ ให้ใช้งานได้หลากหลาย, ตู้เสื้อผ้าที่มีช่องเก็บของจำนวนมาก เรียกว่าออกแบบมาช่วยประหยัดพื้นที่ได้ดีเลย

สาธารณูปโภค : เป็นจุดชูโรงของโครงการเลย โดยยก Facilities หลักไปไว้ด้านบน เริ่มที่ชั้น 36, 37 และ Roof Top ข้อดีคือแม้เราจะไม่ได้อยู่ห้องชั้นบนๆ แต่เราก็ยังสามารถเห็นวิวมุมสูงของโครงการได้ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้จะได้วิวแบบ Panoramic (360อาศา) เลยนะคะ เริ่มจากชั้น 36 จะมีสระว่ายน้ำที่มีความยาวเท่า Half Olympic + Sky Fitness ที่วิ่งไปดูวิวแม่น้ำไปได้ ถัดมาที่ชั้น 37 เป็น Sky Lounge รับวิวแม่น้ำ และบนสุดคือ Rooftop จะเป็นพื้นที่ชมวิวทั้งหมด เรียกได้ว่าจัดเต็มไม่แพ้โครงการระดับเดียวกันเลยค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 125,000 บาท/ตร.ม., 17 พฤศจิกายน 2566

  • ทำเล 8/10 – ติดถนนใหญ่ประชาราษฎร์สาย 1 เดินไปตลาดบางโพ และ Gateway บางซื่อได้
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – เชื่อมเข้าเมือง-ออกเมืองได้หลายเส้นทาง มีทางด่วนในระยะ 1.6 km.
  • ไม่ใช้รถ 8.25/10 – ใกล้จาก MRTบางโพ 60 เมตร บริการสาธารณะครบทั้งรถ, เรือ, รถไฟฟ้า
  • วัสดุ 7/10 – Fully Fitted, ออกแบบเฟอร์ฯ ให้คนตัวเล็กใช้งานง่าย
  • แบบ 8/10 – ผนังห้องยื่นรับวิวแม่น้ำ, ครัวปิดทุกแบบใช้งานได้จริงจัง
  • สาธารณูปโภค 8/10 – ส่วนกลางจัดเต็มที่ชั้นบน ให้มาเยอะทีเดียวเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิต

  • UPPER CLASS
  • 7.81 / 10.00

Niche Mono Bangpo (นิช โมโน บางโพ) เหมาะกับใคร

Niche Mono Bangpo (นิช โมโน บางโพ) เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดวิวแม่น้ำย่านบางโพ ติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้าในแบบที่เดินสบาย ชอบโครงการที่มีจำนวนยูนิตไม่เยอะมาก มองหาคอนโดที่มี Sky Facilities ได้วิวแม่น้ำ ต้องการห้องพักที่ออกแบบเป็นครัวปิด ทำอาหารได้จริงจัง ชอบเฟอร์นิเจอร์ของโครงการที่ตอบโจทย์คนตัวเล็กสูง 150 cm. กว่าๆ ก็ใช้งานได้สะดวก และชอบการออกแบบให้เป็นคอนโด Low Carbon โดยมีแบบห้องให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ 1 bedroom – 2 Bedroom ใบงบประมาณเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท หรือผ่อนเริ่มต้น 23,730 บาท/เดือน


ส่งท้ายปีด้วยโปรโมชั่นคอนโดใกล้แนวรถไฟฟ้าและสินเชื่อพิเศษกับงาน Living Expo 2023 อย่าลังเลจนพลาดเป็นเจ้าของคอนโดราคาดีๆ

ลงทะเบียนรับฟรี หนังสือและโพย ที่จะพลิกทุกวิธีการหาบ้านเดิมๆให้ตรงใจและประหยัดเวลามากขึ้น

Living Expo 2023 วันที่ 23 – 26 พฤศจิกายน 2566 ชั้น 1 สยามพารากอน
ลงทะเบียนเลย คลิกที่นี่