..ใครที่มีงบไม่ถึงล้าน แต่กำลังมองหาคอนโดทำเลดีๆ ที่มีเฟอร์นิเจอร์ให้ครบและพร้อมเข้าอยู่แล้ววันนี้ ต้องห้ามพลาดรีวิวนี้เลยครับ เพราะนี่คือ Mori Condominium Muang Thong Thani (โมริ คอนโดมิเนียม เมืองทองธานี) โดยเป็นคอนโดเฟสสุดท้ายใจกลางย่านเมืองทอง มีความอุดมสมบูรณ์สูง เดินทางก็สะดวก ซึ่งวันนี้โครงการยังมีห้องราคาพิเศษให้เลือก เริ่มต้น 999,000 บาท เรียกว่าจ่าย 1 ล้านยังมีทอน เอาใจคนมีงบน้อยที่ทำงานแถวนี้ และเน้นความสะดวกเป็นหลัก โดยจุดเด่นหรือ Highlights ของโครงการที่ผมอยากนำเสนอก็จะมีดังนี้

  • ทำเลใจกลางเมืองทองธานี ติดโรงเรียนเซนต์ฟรัง มีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้ตลาด ร้านค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ต่างๆ เช่น Cosmo Bazaar หรือ Tops Market ในระยะที่เดินถึงได้อีกด้วย
  • เดินทางได้สะดวก สามารถเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง และใกล้ทางด่วนอุดรรัถยาเพียง 2.2 km.
  • ราคาจับต้องได้ง่ายสุดในย่าน เริ่มไม่ถึงล้าน มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์พร้อมเข้าอยู่แล้ววันนี้
  • ผังอาคารโอบล้อมพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้ห้องด้านในได้วิวสวนและสระว่ายน้ำสวยๆ ส่วนด้านนอกก็มีวิวเปิดโล่งการันตีถึง 2 ด้านให้เลือกด้วย

ข้อมูลโครงการ

Mori Condominium Muang Thong Thani (โมริ คอนโดมิเนียม เมืองทองธานี) ณ วันที่ 7 สิงหาคม 2567

 ชื่อโครงการ    Mori Condominium Muang Thong Thani (โมริ คอนโดมิเนียม เมืองทองธานี)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS   SUPER ECONOMY CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่   ซ.หมู่บ้านเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทุบรี
 ที่ดิน   7-0-58.9 ไร่
 ประเภทคอนโด   High Rise 16 ชั้น 1 อาคาร และอาคารจอดรถสูง 5 ชั้น 1 อาคาร
 จำนวนยูนิต   1,040 ยูนิต + ร้านค้าในโครงการ 20 ยูนิต (ที่อาคารจอดรถอีก 23 ยูนิต)
 ที่จอดรถ   35% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน (รวมที่จอดรถ Visitor แล้ว)
 สถานะโครงการ   สร้างเสร็จพร้อมอยู่
 ประเภทห้องพัก
  • One Bedroom แบบ C ขนาด 31.7 – 32.19 ตร.ม.
  • One Bedroom แบบ D ขนาด 27.83 – 27.95 ตร.ม.
  • One Bedroom แบบ GB ขนาด 33.16 ตร.ม. (Sold Out)
  • One Bedroom แบบ GC ขนาด 32.95 – 33.53 ตร.ม. (Sold Out)
  • One Bedroom Family แบบ B ขนาด 37.72 – 37.86 ตร.ม. (Sold Out)
  • Two Bedroom แบบ A ขนาด 40.73 – 40.08 ตร.ม. (Sold Out)
  • Two Bedroom แบบ GA ขนาด 60.90 – 60.94 ตร.ม. (Sold Out)

 ราคาเริ่มต้น  999,000 บาท* (ราคาห้อง 1 Bedroom แบบ D)
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 41,000 บาท/ตร.ม.
 เว็บไซต์โครงการ  https://pg.thinkofliving.com/MoriCondominiumMuangThongThani
 Call Center  064-180-2244, 064-182-2245

ทำเลที่ตั้ง

Highlights :

  • ทำเลใจกลางย่านเมืองทองธานี มีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้ตลาด และห้างสรรพสินค้า ส่วนใหญ่อยู่ในระยะเดินถึงได้สบายๆ
  • เดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วน รถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายในอนาคต สนามบินดอนเมือง และเรียกรถสาธารณะหน้าโครงการได้ด้วย
  • เป็นคอนโดที่ราคาจับต้องได้ง่ายสุดในย่าน เหมาะกับคนที่มีงบจำกัด และนักลงทุนต่างๆ

พิกัด Google Maps : 13.911025, 100.554685
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

โครงการ โมริ คอนโดมิเนียม ตั้งอยู่ใจกลางเมืองทองธานี ซึ่งหลายคนก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าทำเลนี้มีความคึกคักมากขนาดไหนนะครับ โดยเฉพาะช่วงที่อิมแพ็คเค้าจัดงานต่างๆก็จะมีคนหลั่งไหลเข้ามาเยอะเป็นพิเศษ แต่ถ้าในช่วงเวลาปกติรถก็ไม่ได้ติดเยอะอะไรขนาดนั้น อีกทั้งยังมีความอุดมสมบูรณ์ที่สูงมากๆ เพราะเต็มไปด้วยร้านค้า ตลาด คอมมูนิตี้มอลล์ โรงเรียน และสนามกีฬา หรือจะเป็นทำเลข้างเคียงก็อุดมสมบูรณ์ไม่แพ้กันครับ ไม่ว่าจะเป็นแถวดอนเมือง-สรงประภา-แจ้งวัฒนะ-ติวานนท์

ในด้านการเดินทางก็นับว่าสะดวกแบบสุดๆ เพราะใกล้ทางด่วนอุดรรัถยา และดอนเมืองโทลเวย์ให้ใช้ง่าย ใครจะเดินทางด้วยสนามบินก็อยู่ใกล้กับท่าอากาศยานดอนเมือง รวมถึงมีรถไฟฟ้าสีชมพูส่วนต่อขยายในอนาคตด้วย หรือถ้าใครจะเรียกรถสาธารณะบริเวณหน้าโครงการก็เรียกได้ด้วยนะ โดยเฉพาะรถสองแถว วินมอเตอร์ไซค์ และแท็กซี่ แต่อีกหนึ่งถนนช่วยชีวิตของผมในตอนขับรถไปถ่ายรีวิวผ่านย่านนี้อีกเส้นก็คือ ‘ถนนเลียบคลองประปา’ ที่ใช้เป็นทางลัดเลี่ยงรถติดได้เป็นอย่างดี ซึ่งตัวโครงการโมริคอนโดก็ตั้งอยู่ใกล้ๆเลยครับ

แต่ทุกคนเชื่อมั้ยครับว่า ทำเลดีขนาดนี้..แต่ราคากลับจับต้องได้ง่ายไม่ถึงล้าน!! และส่วนตัวผมก็เคยเขียนบทความรวมคอนโดราคาไม่ถึงล้านในย่านต่างๆมาแล้ว กล้าพูดได้ว่า ‘โมริ’ เป็นคอนโดที่ราคาและทำเลดีสุด เมื่อเทียบกับเพื่อนที่โปรดักส์เดียวกันในทำเลเดียวกัน (ตอนที่เปิดตัวใหม่ๆ โมริเค้าจะเริ่มที่ 849,000 บาท ในขณะที่เพื่อนบ้านจะเริ่มประมาณ 900,000 บาท)

จึงไม่แปลกเลยที่คอนโดในเมืองทองธานี จะเป็นขวัญใจของคนทำงานในย่านนี้มากๆ ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าแม่ขาย ข้าราชการที่ศูนย์ราชการต่างๆ (ตรงแถวๆติวานนท์ และแจ้งวัฒนะ) รวมถึงยังมีพนักงานออฟฟิศที่ค่อนข้างมีงบประมาณจำกัด บางคนอาจหาเป็นที่อยู่ไว้พักใกล้ๆที่ทำงานโดยเฉพาะในระยะสั้น เพื่อที่จะได้เดินทางได้สะดวก หรือบางคนก็อาจมองเป็นการลงทุนในระยะยาวก็มีครับ

Image 1/14

สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกในเมืองทองธานี เรียกได้ว่าจัดเต็ม!! ไม่ว่าจะเป็น Cosmo Bazaar ที่เราสามารถเดินจากโครงการไปได้ง่ายเพียง 5 นาที ภายในมีร้านค้า ร้านอาหาร และโรงหนังพร้อมบริการ / Beehive เมืองทองธานี ที่ภายในยังมี Tops Market ให้เราช้อปปิ้งซื้อของเข้าบ้านได้อีกด้วย / Maxvalu สำหรับคนที่ชอบซื้ออาหารสำเร็จรูปต่างๆ และยังมีสนามกีฬาอย่าง IMPACT Speed Park & MTT Sport Centre อีกด้วยครับ ซึ่งทั้งหมดนี้เรียกได้ว่าอยู่รายล้อมคอนโดของเราทั้งหมดเลย ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์แบบสุดๆ

Image 1/6

หรือถ้าใครที่ชอบเดินซื้อของสดในตลาดแบบง่ายๆ ใกล้กับโครงการก็จะมี ‘ตลาดสดรวมใจ’ ที่ตอนนี้เพิ่งจะเปิดโซนของ ‘รวมใจซีฟู๊ด’ ใหม่ๆเลย โดยจะมีทั้งการขายปลีก-ขายส่งอาหารทะเล และมี Food Court ให้นั่งทานอาหารกันอีกด้วย ตรงจุดนี้ก็เดินมาจากคอนโดได้นะครับ ใกล้กว่า Cosmo Bazaar ซะอีก

ทางด่วนที่ใกล้ที่สุด :

แน่นอนว่าเป็นทางด่วนอุดรรัถยาตรงด่านเมืองทองธานี ซึ่งอยู่ใกล้กับโครงการเพียง 2.2 km. และใช้เวลา 5 – 10 นาทีก็ได้ขึ้นทางด่วนแล้วครับ ซึ่งเราสามารถเดินทางเข้าเมือง เชื่อมต่อไปยังทางด่วนศรีรัชได้ หรือจะออกไปทางรังสิตก็ได้เช่นกัน

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

บริบทโดยรอบโครงการก็อย่างที่ทุกคนรู้ครับว่า เมืองทองจะมีตึกที่หน้าตาเหมือนๆกันเรียงรายกันอยู่ แต่สำหรับ ‘โมริ คอนโด’ จะโชคดีหน่อยตรงที่ว่า เค้าเป็นตึกสุดท้ายที่จะได้วิวเปิดโล่ง 2 ด้าน โดยเฉพาะฝั่งทิศเหนือที่ติดกับโรงเรียนเซนต์ฟรัง และฝั่งทิศตะวันออกที่จะเป็นพื้นที่ว่าง

ซึ่งทั้ง 2 ด้านนี้ค่อนข้างการันตีวิวได้ในระดับหนึ่งเลยว่าจะไม่มีตึกสูงขึ้นบังวิวในอนาคต เพราะเป็นพื้นที่ของโรงเรียนชื่อดัง และที่ว่างก็มีแนวเสาไฟฟ้าแรงสูงพาดผ่าน เพราะตามกฎหมายแล้วจะเป็นพื้นที่ที่ไม่สามารถสร้างสิ่งปลูกสร้างอื่นๆได้นั่นเอง

วิวตัวอย่างจากห้องบนชั้น 10

ทิศเหนือ : ติดกับโรงเรียนเซนต์ฟรัง เป็นวิวที่ส่วนตัวผมชอบมากที่สุด และขายดีที่สุดของตึกด้วยครับ เพราะเราจะได้วิวเปิดโล่งและพื้นที่สีเขียวของโรงเรียนเซนต์ฟรัง มีทั้งสนามกีฬาและสนามบอล อาจมีเสียงน้องๆบ้างเฉพาะตอนจัดกิจกรรมหรือช่วงเทศกาลครับ

วิวตัวอย่างจากห้องบนชั้น 10

ทิศใต้ : ติดกับเพื่อนบ้านที่เป็นตึกสูง 16 ชั้นเท่ากัน ซึ่งฝั่งนี้จะไม่ค่อยวุ่นวายเท่าไหร่ครับ ถ้าเทียบกับทางด้านหน้าโครงการที่เป็นถนนอีกฝั่งหนึ่ง

วิวตัวอย่างจากห้องบนชั้น 10

ทิศตะวันออก : ติดกับ อาคารเรียนของโรงเรียนเซนต์ฟรัง ที่มีความสูงประมาณ 5 – 6 ชั้น ส่วนนี้ผมพยายามลองฟังเสียงดูแล้ว ก็ไม่ได้มีเสียงน้องๆนักเรียนรบกวนนะครับ แต่ถ้าใครอยากได้วิวที่เปิดโล่ง ก็แนะนำให้เป็นชั้นสูงสัก 7 – 8 ขึ้นมา ก็จะเป็นวิวพื้นที่ว่างสีเขียวแบบนี้ โดยที่ดินแปลงนั้นจะมีแนวเสาไฟฟ้าแรงสูงพาดผ่าน ก็เลยการันตีตามกฎหมายได้ว่าจะไม่มีสิ่งลูกสร้างขึ้นมาบังวิวในอนาคตนั่นเอง

วิวตัวอย่างจากห้องบนชั้น 10

ทิศตะวันตก : เป็นด้านหน้าโครงการ ติดกับถนนป๊อปปูล่า และฝั่งตรงข้ามก็เป็นเพื่อนบ้านสูง 16 ชั้นเท่ากัน แต่จะค่อนข้างมีระยะห่างของถนนที่มากกว่าทิศใต้ก่อนหน้านี้ รวมถึงอาจมีรถและคนผ่านไป-มาคึกคักสักหน่อยนะครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Maxvalu ~ 400 m.
  • ตลาดสดรวมใจ ~ 550 m.
  • Cosmo Bazaar ~ 700 m.
  • La Casa International ~ 1.3 km.
  • BEEHIVE Lifestyle Mall ~ 1.9 km.
  • Lotus’s แจ้งวัฒนะ ~ 2.3 km.
  • Villa Market แจ้งวัฒนะ ~ 2.4 km.
  • Lemon Farm แจ้งวัฒนะ ~ 4.3 km.
  • Big C แจ้งวัฒนะ ~ 3.0 km.
  • Makro แจ้งวัฒนะ ~ 3.2 km.
  • ไทวัสดุ แจ้งวัฒนะ ~ 3.9 km.
  • โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ศรีสมาน ~ 5.2 km.
  • Central Plaza แจ้งวัฒนะ ~ 5.3 km.
  • IT Square หลักสี่ ~ 5.4 km.
  • Big C Extra แจ้งวัฒนะ ~ 6.8 km.
  • Home Pro แจ้งวัฒนะ ~ 6.7 km.
  • Major Hollywood ปากเกร็ด ~ 8 km.
  • Lotus’s ติวานนท์ (ปากเกร็ด 2) ~ 8.2 km.

โรงพยาบาล

  • รพ.มงกุฎวัฒนะ ~ 2.9 km.
  • รพ.จุฬาภรณ์ ~ 6.3 km.
  • รพ.เวิลด์เมดิคอล ~ 5.8 km.
  • รพ.กรุงไทย ~ 9.1 km.

โรงเรียน

  • รร.เซนต์ฟรังซีสเซเวียร์ ~ 650 m.
  • รร.บางกอก เอ็นเอ เมืองทองธานี ~ 1.2 km.
  • ม.ศิลปากร เมืองทองธานี ~ 1.3 km.
  • รร.บีเอฟเอส ~ 1.3 km.
  • ม.สุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) ~ 2 km.
  • รร.หอวังนนทบุรี ~ 5.2 km.
  • ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ ~ 5.1 km.
  • สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) ~ 5.1 km.
  • รร.สาธิตสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (Satit PIM) ~ 5.4 km.
  • รร.ปากเกร็ด ~ 8.7 km.
  • รร.สวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี ~ 8.9 km.

สถานที่อื่นๆ

  • ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค ~ 1.9 km.
  • ท่าอากาศยานดอนเมือง ~ 10.5 km.

รายละเอียดโครงการ

Highlights :

  • ผังอาคารโอบล้อมพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้ห้องพักอาศัยด้านในได้วิวสวนและสระว่ายน้ำสวยๆ
  • มียูนิตร้านค้าอยู่ใต้อาคาร อนาคตถ้ามีร้านมาเปิดเต็มก็จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายได้มากขึ้น
  • เป็นคอนโดราคาไม่ถึงล้านที่ให้ส่วนกลางมาค่อนข้างดี (ถ้าเทียบกับโครงการระดับเดียวกัน ปกติคือแทบจะไม่ได้มีให้ใช้งานเลยด้วยซ้ำ)
  • มีการสอดแทรกพื้นที่สีเขียว และใช้คอนเซ็ปต์สไตล์ Minimal Japanese เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครในย่าน

..โครงการ โมริ  คอนโดมิเนียม เมืองทองธานี เป็นคอนโด High Rise สูง 16 ชั้น 1 อาคาร และมีเพื่อนบ้าน 1,040 ยูนิต ถือว่าเป็นโครงการขนาดใหญ่เลยทีเดียว โดยนี่จะเป็นคอนโดเฟสสุดท้ายในเมืองทองธานีจาก Bangkok Land ในปัจจุบันแล้วนะครับ และเชื่อว่าหลายๆคนน่าจะรู้จักโครงการนี้กันเป็นอย่างดี ในฐานะที่เป็น ‘คอนโดราคาจับต้องได้ง่าย..ไม่ถึงล้าน’

ซึ่งมีแนวคิดในการออกแบบคือ ‘Back to nature.. the simplicity of life.’ การพักผ่อนภายใต้ธรรมชาติที่ร่มรื่น และสัมผัสถึงความสุขที่เรียบง่าย + คอนเซ็ปต์ ‘Minimal Japanese Style’ จึงออกมาเป็นโครงการ ‘โมริ’ ที่มีความหมายถึง ‘ป่า’ ในภาษาญี่ปุ่นนั่นเองครับ

ดังนั้นเราจึงสามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียว ที่สอดแทรกอยู่ภายในโครงการนี้ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณสวนของพื้นที่ส่วนกลาง รวมถึงยังให้เฟอร์นิเจอร์ไม้แบบลอยตัว ซึ่งให้ความรู้สึกอบอุ่น ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ และยังสอดคล้องกับแนวคิดของโครงการด้วยนั่นเองครับ

Master Plan :

สำหรับพื้นที่ชั้น 1 จะประกอบด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นฟังก์ชันหลักตรงกลาง และโอบล้อมไปด้วยอาคารทั้ง 4 ด้าน นอกจากนี้ภายในอาคารยังประกอบด้วยยูนิตร้านค้าอีกกว่า 20 ยูนิต และยังมีห้องพักอาศัยที่เป็น Type พิเศษอยู่ติดกับสวนอีกด้วย (ทั้ง 2 อย่างนี้ Sold Out ไปแล้วนะครับ)

สิ่งที่แตกต่างจากคอนโดทั่วไปที่เราคุ้นเคยกันก็คือ ตึกนี้เค้าจะมีทางเข้าของ Lobby อยู่ทั้งหมด 4 จุด และมีโถงลิฟต์อีก 4 จุดเช่นกัน ซึ่งเป็นการช่วยกระจายความหนาแน่นในการใช้งาน และเพิ่มความสะดวกในการขึ้นอาคารในแต่ละฝั่งนั่นเองครับ

แน่นอนว่าในเรื่องความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย โครงการนี้ก็มีการแบ่งโซนกันชัดเจน โดยคนภายนอกหรือ Visitor ที่มาใช้งานร้านค้าต่างๆ จะไม่สามารถผ่านเข้ามาด้านในโครงการได้ เพราะจะต้องใช้ Key Card Access เท่านั้น ส่วนที่จอดรถรอบๆอาคารจะเป็นที่จอดของ Visitor หรือคนที่มาจอดเพื่อขนของชั่วคราวเท่านั้น เพราะโครงการนี้เค้าจะมีอาคารจอดรถ Mori Walk แยกออกไปครับ

เริ่มจากพามาดูบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการกันก่อน ซึ่งชั้น 1 จะเป็นยูนิตร้านค้าที่อยู่ติดกับถนน พร้อมกับมีที่จอดรถไว้บริการลูกค้าอยู่ด้านหน้าสะดวกแบบนี้ด้วย แต่ต้องขอบอกก่อนว่า Shop เหล่านี้ Sold Out หมดไปตั้งแต่วันแรกที่เปิดจองกันเลยทีเดียว

ซึ่งพี่เซลล์เล่าให้ฟังว่า ในวันนั้นระบบจองยังเปิดใช้งานไม่ได้ แต่ก็ยังมีคนเข้ามาลงชื่อและวางเงินสดจองกันเต็มทุกยูนิตเลย เพราะทำเลย่านนี้เรียกได้ว่าเป็น ‘ใจกลางย่านการค้า’ ที่ใต้ตึกทุกตึกจะมีการเปิดร้าน หรือทำธุรกิจต่างๆกันเต็มไปหมด จึงไม่แปลกเลยที่จะเป็นที่ต้องการของตลาดแถวนี้

โดยปัจจุบันโครงการเพิ่งสร้างเสร็จหมาดๆ ตอนนี้ก็เลยยังไม่ได้เห็นว่าจะมีร้านอะไรมาลงบ้างนะครับ ในส่วนนี้อาจต้องรอดูในอนาคตกันอีกที แต่ที่แน่ๆ การที่มีร้านค้าอยู่ใต้คอนโดแบบนี้ ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับลูกบ้านได้มากเลยทีเดียว

สำหรับทางเข้าหลักของ Main Lobby ที่จะอยู่บริเวณด้านซ้ายมือของอาคารนะครับ ซึ่งการเข้า-ออกจะต้องใช้ Key Card Access เพื่อความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย

ภายในจะมีการตกแต่งเป็นสไตล์แบบญี่ปุ่นตามคอนเซ็ปต์โครงการ และเป็นพื้นที่แบบ Indoor ที่เราสามารถมานั่งพักผ่อนตากแอร์เย็นๆกันได้ครับ ส่วนประตูด้านในสุดก็จะเชื่อมต่อกับโถง Lobby และพื้นที่ส่วนกลางนั่นเอง

โดยปัจจุบันพื้นที่ส่วนนี้ยังใช้เป็นสำนักงานขายของเซลล์ ซึ่งหากใครที่สนใจก็แนะนำให้โทรนัดหมายมาก่อนนะครับ เพราะโครงการนี้เริ่มเปิดให้ลูกบ้านเข้าอยู่ และจัดตั้งนิติบุคคลแล้วเรียบร้อย จึงต้องให้พี่เซลล์เค้าพาเข้ามาจากด้านนอกอีกทีนะ

ส่วนถ้าเป็น Lobby อื่นๆในอีก 3 มุมที่เหลือ ก็จะมีประตูกระจกที่ต้องใช้ Key Card Access เหมือนกันครับ แต่ภายในจะเป็นพื้นที่โล่งๆ และมี Mail Box ให้สามารถรับจดหมายได้แบบนี้เลย

ด้านในสุดจะเป็นโถงลิฟต์ ซึ่งจะตั้งอยู่ในพื้นที่ Semi-Outdoor เชื่อมต่อกับสวนส่วนกลางครับ (ถือเป็นการออกแบบที่ค่อนข้างแปลก โดยเราจะได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ทั้งสายลม แสงแดด และต้นไม้ต่างๆ แต่ในช่วงที่มีฝนตกแรงๆ อาจต้องระวังละออง/น้ำฝนกระเด็นด้วยนะครับ)

จากโถงลิฟต์ทั้ง 4 มุมของอาคาร จะเชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนกลางแบบนี้ ซึ่งหลักๆจะเป็นพื้นที่สวนที่ปลูกต้นไม้ล้อมรอบ บรรยากาศมีความร่มรื่นพอสมควรเลยครับ สามารถมาเดินเล่นพักผ่อนกันได้เลย อีกทั้งบริเวณตรงกลางยังมีลานขนาดใหญ่ ไว้ให้สามารถจัดกิจกรรมต่างๆในอนาคตได้อีกด้วย

ตรงกลางของสวนจะเป็นที่ตั้งของ Main Facilities ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และห้องน้ำ ที่จะอยู่แยกออกมาจากตัวอาคารพักอาศัย ทำให้ทุกคนสามารถมาใช้งานได้สะดวกพอๆกัน และยังเป็นวิวสวยๆให้กับห้องพักอาศัยด้านในอีกด้วย

โดยทางเข้าไปใช้งาน Facilities จะอยู่บริเวณด้านหลังแบบนี้ครับ ซึ่งจะเป็นบันไดที่ยก Step ขึ้นไปเล็กน้อย เพื่อให้พื้นที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น (บันไดจะมีอยู่ 2 ด้านแยกกัน)

เริ่มจากบันไดทางซ้ายมือ พอขึ้นมาเราจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นริมสระว่ายน้ำ ที่เป็นโต๊ะเก้าอี้แบบจริงจังเลย สามารถมานั่งเล่นพักผ่อนชิลๆได้สบาย

ส่วนสระว่ายน้ำหลักจะมีขนาดกว้าง 6 x 12 m. อาจไม่ได้ใหญ่มากนัก ถ้าใครต้องการว่ายออกกำลังกายก็อาจต้องวนสักหลายๆรอบหน่อย

นอกจากนี้ยังถูกโอบล้อมไปด้วยอาคารพักอาศัยทั้งหมด ข้อดีคือตัวอาคารจะช่วยบังแดดให้ร่มเงา ทำให้เราสามารถใช้งานสระได้เกือบตลอดเวลา (ยกเว้นตอนเที่ยง) และแน่นอนว่าความเป็นส่วนตัวจะลดลงเล็กน้อย เพราะเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ก็จะมองลงมาเห็นได้นะครับ

ส่วนด้านในของสระจะมีการแบ่งเป็นสระเด็กแยกเอาไว้ด้วยครับ ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองก็สามารถนั่งดูแลอยู่ที่โต๊ะเก้าอี้ได้อย่างใกล้ชิดเลย

และอีกด้านหนึ่งจะเห็นว่ามีฟังก์ชันให้เราไปใช้งานได้เหมือนกัน ซึ่งการที่จะข้ามไปใช้งานได้นั้น ก็สามารถเดินอ้อมไปขึ้นบันไดอีกฝั่งหนึ่ง หรือจะลัดผ่านห้องฟิตเนสไปเลยก็ได้

ที่นั่งทางด้านนี้จะเป็นเตียงแบบ Day Bed สำหรับคนที่มาว่ายน้ำก็สามารถมานอนพักผ่อนข้างสระได้สบายๆ

ส่วนภายในห้องฟิตเนสก็จะมีอุปกรณ์ให้ใช้งานครบเลยครับ และเครื่องออกกำลังกายก็จะหันหน้าออกไปรับวิวสระว่ายน้ำ + สวนด้านนอกได้ด้วย เรียกได้ว่าบรรยากาศโอเคเลยทีเดียว

แต่หากเทียบกับจำนวนยูนิตแล้ว ส่วนกลางทั้งหมดของโครงการนี้ยังถือว่าให้มาไม่ค่อยเยอะมากนัก เพราะอย่าลืมว่านี่เป็นโครงการระดับ 1,040 ยูนิต ซึ่งอาจส่งผลต่อความหนาแน่นในการใช้งานในอนาคตได้อยู่บ้างเหมือนกัน

อีกด้านหนึ่งจะเป็นห้องน้ำแยกชาย-หญิงให้ใช้งานครับ

ภายในมีฟังก์ชันให้ใช้งานครบเลย ทั้งโถสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำ เวลาออกกำลังกายหรือว่ายน้ำเสร็จ ก็สามารถมาอาบนำ้เปลี่ยนชุดใกล้ๆได้สะดวกเลยครับ

อีกจุดหนึ่งที่ผมอยากมาแวะมาดูก็คือ ห้องพัก Type พิเศษขนาดใหญ่ ที่เป็นห้องชั้น 1 อยู่ติดกับสวนของโครงการแบบนี้เลย แน่นอนว่า Sold Out ไปตั้งแต่วันแรกๆเหมือนกัน

โดยช่องแสงของห้องเหล่านี้จะเชื่อมต่อกับสวนของส่วนกลาง ดังนั้นจึงได้วิวพื้นที่สีเขียว และสัมผัสกับบรรยากาศร่มรื่นๆแบบนี้ได้ตรงๆเลย แต่ก็แลกกับความเป็นส่วนตัวที่อาจเสียไปบ้าง ในตอนที่มีเพื่อนบ้านคนอื่นๆเดินผ่านนะครับ

(..คงต้องพึ่งการปิดม่านช่วยเอา และต้องเป็นม่านทึบหรือม่านโปร่งที่หนาๆหน่อย เพราะเดินผ่านระยะประชิดขนาดนี้ ม่านบางๆยังไงก็มองทะลุผ่านได้ครับ)

ส่วนทางเข้าของห้อง Type พิเศษนี้ จะมีประตูที่อยู่ติดกับที่จอดรถรอบๆอาคารแบบนี้ครับ ส่วนตัวผมชอบในเรื่องความสะดวกในการเข้าห้องนะ เพราะไม่ต้องเสียเวลาไปขึ้นลิฟต์เลยนั่นเอง

ทางเข้า-ออกสำหรับรถยนต์ของโครงการ จะมีไม้กั้นกระดกที่ใช้ระบบ Key Card Access แบบระยะใกล้สำหรับลูกบ้าน พร้อมมี รปภ. คอยดูแลจุดที่เป็นทางเข้าและทางออกทั้ง 2 จุด

โดยที่จอดรถรอบๆอาคารทั้งหมดนี้ จะเป็นที่จอดรถของ Visitor คืออาจเป็นเพื่อนๆ หรือญาติที่มาหาชั่วคราว รวมถึงอาจเป็นการจอดเพื่อขนสิ่งของสำหรับลูกบ้านก็ได้ครับ

แต่ถ้าใครที่ต้องการจอดรถแบบค้างคืนจริงจัง ก็จะต้องไปจอดที่ Mori Walk ที่เป็นอาคารจอดรถอยู่แยกออกไปอีกด้านหนึ่งแทน ซึ่งก็จะอยู่เยื้องๆตรงข้ามกับโครงการ สามารถเดินไปได้สบายๆ และมีทางม้าลายให้ใช้งานได้สะดวกแบบนี้ (จะลำบากหน่อยก็คือ วันที่มีฝนตกหนักๆนะครับ ดังนั้นอย่าลืมเตรียมร่มเอาไว้ในรถให้พร้อมด้วยน้า)

Mori Walk เป็นอาคารจอดรถสูงประมาณ 6 – 7 ชั้น ซึ่งทาง Bangkok Land ได้สร้างขึ้นเพิ่มบนที่ดินอีกผืนหนึ่ง เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านที่มีรถยนต์ส่วนตัว แต่จะมีเงื่อนไขที่จะมีการเก็บค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือน โดยคิดเป็นราคาดังนี้

  • รถยนต์ 4 ล้อทั่วไป 500 บาท/เดือน
  • รถมอเตอร์ไซค์ 150 – 300 บาท/เดือน (ขึ้นอยู่กับขนาดของมอเตอร์ไซค์)

ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ต้องจ่ายเพิ่มแยกต่างหากจากค่าส่วนกลางปกติ แต่ถ้าใครที่ไม่ได้มีรถยนต์ก็จะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เพิ่มครับ นอกจากนี้ยังมีการจำกัดสิทธิ์ให้ห้องละ 1 คันเท่านั้นอีกด้วย

เบื้องต้นทางเซลล์แจ้งว่าจะเป็นการจองสิทธิ์แบบเดือนต่อเดือน คือถ้าใครที่เดือนนี้ได้สิทธิ์จอดรถอยู่แล้ว เมื่อใกล้จะถึงเดือนถัดไปก็จำเป็นต้องไปจองสิทธิ์ใหม่อีกครั้ง (ไม่ได้ต่อให้แบบอัตโนมัติ ใครมาก่อนได้ก่อน)

คือถ้าที่จอดรถเต็มแล้วเรามาไม่ทัน ก็อาจเสียสิทธิ์เดือนนั้นไปเลย ตรงนี้อาจมีความยุ่งยากหน่อย แต่ก็อาจเปลี่ยนแปลงหรือปรับเป็นรูปแบบอื่นๆได้ในอนาคต ขึ้นอยู่กับนโยบายและการบริหารจัดการของนิติบุคคลอีกทีครับ

ทางเข้าอาคารที่จอดรถจะอยู่บริเวณด้านหลัง ซึ่งจะมีป้อม รปภ. และผ่านเข้า-ออกด้วยระบบ Key Card Access เหมือนกับที่ตัวโครงการเลยครับ

ที่จอดรถทั้งหมดมีประมาณ 35% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน (แต่รวมที่จอดรถ Visitor ที่ตัวโครงการแล้ว) และบริเวณตรงกลางของอาคารจะมีลิฟต์ให้ใช้งานขึ้น-ลงได้สะดวก

พาแวะมาดูรอบๆโครงการกันสักหน่อย จะเห็นว่าที่จอดรถทำเลนี้คือ ..ไม่พอจริงๆครับ จอดกันแน่นมากๆ ดังนั้นการที่โครงการเตรียมที่จอดเอาไว้ให้แบบนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆเลยนั่นเอง ทำให้หมดปัญหาโลกแตกแบบนี้ไปได้เยอะเลย

แปลนชั้น 2 – 16 จะเป็นชั้นห้องพักอาศัยที่เหมือนกันในทุกๆชั้นเลยครับ โดยตัวอาคารจะมีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยม และโอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้เป็นรูปตัว O ทำให้ห้องพักอาศัยที่อยู่ด้านในจะสามารถมองเห็นวิวสวนและสระว่ายน้ำสวยๆได้นั่นเอง

‘..พี่เซลล์เล่าว่า คนส่วนใหญ่ค่อนข้างให้ความสนใจวิวด้านใน และขายได้ดีพอๆกับห้องที่ได้วิวด้านนอกเลยครับ (จากตอนแรกที่คาดการณ์ว่าด้านในจะขายไม่ค่อยดี ..ก็กลับดีเฉย)โดยผมก็สอบถามมาเพิ่มให้แล้วว่า ราคาของวิวด้านในกับด้านนอกไม่ต่างกันมากนัก ห่างกันประมาณ 15,000 – 20,000 บาทเท่านั้น’

สำหรับการเลือกตำแหน่งห้องพักอาศัยที่น่าสนใจ นอกจากรูปแบบของห้องแล้ว ก็จะมีวิวเนี่ยแหละที่เป็นปัจจัยหลัก ซึ่งถ้าเป็นวิวส่วนกลางด้านในจะเป็นมุมไหนก็มองเห็นได้เหมือนกัน แต่ผมแนะนำไม่เกินชั้น 5 – 6 ซึ่งกำลังมองเห็นสวนและสระว่ายน้ำได้สวยดี เพราะถ้าสูงกว่านี้ก็อาจต้องก้มดูแล้วครับ และถ้าใครอยากเห็นแบบเต็มๆ ก็พยายามเลือกห้องที่อยู่ตรงช่วงกลางๆไปเลยก็ได้

แต่ถ้าเป็นวิวภายนอก ด้านที่ผมจะแนะนำและเป็นวิวเปิดโล่งสวยๆ ก็คือห้องทางทิศเหนือและตะวันออก เพราะจะอยู่ติดกับโรงเรียนเซนต์ฟรัง และพื้นที่ว่างที่มีสายไฟฟ้าแรงสูงพาดผ่านไกลๆ ซึ่งจะการันตีวิวได้ระดับหนึ่งเลยว่าจะไม่มีตึกสูงขึ้นมาบังวิวในอนาคตนั่นเอง

นี่เป็นบรรยากาศของหน้าโถงลิฟต์ ซึ่งจะเป็นพื้นที่ Double Volume แบบ Semi-Outdoor เชื่อมต่อกับภายนอกอาคารแบบนี้เลยครับ จึงทำให้มีอากาศถ่ายเทได้ดี

นอกจากนี้ยังมีการจัดวางพวกถังขยะต่างๆ เอาไว้หน้าลิฟต์แบบนี้ในทุกๆชั้นอีกด้วย เนื่องจากผังอาคารไม่ได้ออกแบบให้มีห้องทิ้งขยะ ที่ไว้แยกเป็นสัดส่วนเหมือนโครงการทั่วไป

ข้อดีก็คือ จะทำให้เราสามารถทิ้งขยะได้สะดวก แต่ข้อเสียก็คือ อาจทำให้ทัศนียภาพไม่ค่อยสวยงามนั่นเอง (นี่ยังไม่รวมถึงเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วย แนะนำทางอาคารอาจต้องมีการจัดการที่ดีๆหน่อยนะครับ)

และนี่จะเป็นวิวที่เรามองจากระเบียงโถงลิฟต์เมื่อครู่ครับ ซึ่งเราจะสามารถมองเห็นส่วนกลางของโครงการได้แบบนี้เลย และห้องพักที่อยู่ด้านในจะมีระยะห่างพอสมควร (ประมาณ 20 – 30 m.) จึงทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดหรือเสียความเป็นส่วนตัวมากนัก

จุดที่ต้องสังเกตอีกอย่างของแปลนชั้นพักอาศัยก็คือ ‘ตำแหน่งการใช้งานลิฟต์’ โดยจะแยกกันคนละมุมระหว่าง ‘โถงลิฟต์ชั้นเลขคู่’ และ ‘โถงลิฟต์ชั้นเลขคี่’ ซึ่งเป็นการกระจายความหนาแน่นในการใช้งาน ทำให้คนไม่ไปออกันอยู่ที่จุดใดจุดหนึ่งมากเกินไป ดังนั้นคนที่อยู่อาศัยจริงก็อาจต้องจำกันให้ดีๆว่าลิฟต์ตัวไหนจะสามารถขึ้นไปชั้นของเราได้นะครับ

นอกจากนี้ในจุดที่ไม่มีโถงลิฟต์ของชั้นนั้นๆ ก็จะมีช่องแสงเชื่อมต่อกับพื้นที่ฝ้าเพดาน Double Volume ของโถงลิฟต์ชั้นก่อนหน้านี้ได้ด้วยแบบนี้ครับ ซึ่งจะช่วยเป็นช่องแสงให้กับโถงทางเดินด้านบน และทำให้อากาศถ่ายเทไม่อึดอัดอีกด้วย

ส่วนภาพสุดท้ายนี้จะเป็นบรรยากาศของโถงทางเดินหน้าห้อง ซึ่งของจริงจะมืดกว่านี้นิดหน่อย และต้องเปิดไฟส่องสว่างช่วยตลอดเวลา (พอดีว่าผมมีการปรับความสว่างของภาพ เพื่อช่วยให้มองเห็นรายละเอียดได้ชัดเจนขึ้น)

เพราะอย่างที่เราเห็นจากผังอาคารแล้วว่า โถงทางเดินจะวนกันเป็นสี่เหลี่ยม และไม่ได้มีช่องแสงที่ปลายทางเดินหรือระหว่างทางเหมือนโครงการทั่วไปเลยนั่นเอง แต่ก็พอจะใช้เดินผ่านได้ตามปกติครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • ฟิตเนส
  • สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 6 x 12 m. ลึก 1.2 m.
  • สระเด็ก
  • สวนสาธารณะ
  • ลิฟต์โดยสาร 8 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 130 :  1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 35% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน (รวมที่จอดรถ Visitor แล้ว)
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card Access / รปภ. ดูแล 24 ชม.
  • รถยนต์เข้า-ออกด้วยระบบ Key Card ระยะใกล้

 

แบบห้อง

Highlights :

  • แบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน ได้ครัวปิดทุกแบบ
  • พื้นที่ภายในห้องมีขนาดใหญ่และกว้างขวาง
  • ได้เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่ ประหยัดเวลาตกแต่งห้อง

สำหรับแบบห้องของโครงการ โมริ คอนโดมิเนียม เมืองทองธานี มีอยู่ค่อนข้างหลากหลายแบบเลยครับ แต่ปัจจุบันก็ได้ Sold Out ไปหลายแบบแล้ว ที่เหลือให้เลือกตอนนี้จะเป็นห้อง 1 Bedroom Type C และ D ซึ่งเป็นแบบที่มีจำนวนเยอะที่สุดในโครงการ อีกทั้งยังเป็นขนาดเริ่มต้นที่มีราคาจับต้องได้ง่ายสุดไม่ถึงล้านบาทด้วย เหมาะกับคนที่ต้องการอยู่อาศัย 1 – 2 คน อาจทำงานอยู่ในย่านนี้อยู่แล้ว หรือจะเป็นคนที่อยากลงทุนปล่อยเช่าก็ดีครับ โดยแบบห้องจะประกอบด้วย

  • One Bedroom แบบ C ขนาด 31.71 – 32.19 ตร.ม.
  • One Bedroom  แบบ D ขนาด 27.83 – 27.95 ตร.ม.

รูปแบบการขาย : Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่  เหมาะกับคนที่ไม่อยากเสียเวลาแต่งห้องเอง และโดยส่วนใหญ่จะเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบลอยตัว ที่ให้ความรู้สึกแบบ Minimal Japanese ตามตอนเซ็ปต์ของโครงการ

  • One Bedroom แบบ D ขนาด 27.83 – 27.95 ตร.ม.

เป็นห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการ ที่มีราคาเริ่มเพียง 999,999 บาทเท่านั้น เหมาะกับคนที่มีงบประมาณจำกัด หรือกำลังมองหาคอนโดราคาไม่ถึงล้านแบบนี้อยู่ และถึงแม้จะเป็นห้องไซส์เล็ก แต่ก็จัดแปลนออกมาได้เป็นสัดส่วนดีเลยทีเดียว

โดยห้องนอนและห้องนั่งเล่นจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ทำให้มีความกว้างขวางและโปร่งโล่ง เพราะพื้นที่จะเชื่อมต่อกันขนาดใหญ่เลย ส่วนฟังก์ชันใช้งานอย่างห้องครัวและห้องน้ำ ก็จะอยู่แยกออกไปอีกด้านหนึ่งเลย และกั้นด้วยผนังทึบที่ให้ความเป็นสัดส่วนสูง จึงทำให้เราสามารถทำอาหารได้เต็มที่ไปเลยครับ

เริ่มกันที่ประตูทางเข้าห้องจะเป็นไม้บานทึบที่มีช่องตาแมวให้ส่อง และด้านหลังก็จะติดตั้ง Stopper กันกระแทกมาให้ด้วยครับ ส่วนที่พื้นจะมีขอบกันฝุ่นจากภายนอกไม่ให้เข้ามาในห้องได้

และหากใครที่ต้องการติด Digital Door Lock ก็สามารถติดเพิ่มได้ด้วยตัวเองเลย จะได้ใช้งานได้สะดวกและมีความปลอดภัยมากขึ้น

เข้ามาภายในห้องจะเจอกับ Living Area ซึ่งจะได้แสงสว่างจากหน้าต่างที่อยู่ด้านในห้องนอนด้วย ส่วนพื้นจะปูด้วยกระเบื้องยาง SPC ลายไม้ ที่สามารถทนน้ำหรือความชื้นได้ดีกว่าไม้ลามิเนต และมีฝ้าเพดานสูง 2.4 m.

ระยะดูทีวีกว้าง 2.7 m. สามารถใช้ทีวี 40 – 50 นิ้วได้สบายๆ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบลอยตัวเหมือนห้องตัวอย่างนี้เลยครับ ประกอบด้วยโซฟาแบบ 2 ที่นั่ง โต๊ะกลมตรงกลาง และชั้นวางทีวีที่อยู่ตรงข้าม

โดยด้านซ้ายของทีวียังมีที่ว่างเหลือ เราสามารถเพิ่มตู้เก็บรองเท้า และเพิ่มชั้นวางของเหนือทีวีเพิ่มอีกก็ได้นะ จะได้ใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด และจุของได้มากขึ้นอีก

ข้างโซฟาจะเป็นโต๊ะอเนกประสงค์พร้อมเก้าอี้ไม้ 2 ที่นั่ง ซึ่งเราสามารถใช้นั่งทานอาหาร หรือนั่งทำงานอ่านหนังสือก็ได้ โดยจะเป็นการนั่งแบบหันหน้าเข้าหาผนัง ทำให้อาจไม่ได้มองเห็นทีวี ดังนั้นเราอาจลองจัดวางเฟอร์นิเจอร์ใหม่เองได้ตามเหมาะสมนะครับ

อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องอธิบายเพิ่มเติมก็คือ ฝ้าเพดานของห้องจะเป็นพื้นสำเร็จรูปของห้องที่อยู่ชั้นบน (ไม่ได้เป็นฝ้ายิปซั่มบอร์ดเหมือนโครงการปกติ) ดังนั้นเวลาจะติดตั้งไฟส่องสว่างที่เพดานเพิ่มเติม ก็จำเป็นต้องเป็นแบบเดินลอยเหมือนที่โครงการติดมาให้ครับ

ตรงกลางห้องจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน แยกฟังก์ชันห้องนอนและห้องนั่งเล่นออกจากกันเป็นสัดส่วน แต่ยังคงเปิดพื้นที่เชื่อมต่อกันได้ ทำให้มีความโปร่งโล่งกว้างขวาง และหากต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ก็สามารถติดม่านไว้เลื่อนปิดเพิ่มเติมได้นะครับ

ภายในห้องนอนมีขนาด 2.9 x 2.7 m. ซึ่งเราจะได้เป็นฐานเตียงไม้และตู้เสื้อผ้าแบบไม่มีหน้าบานแบบนี้เลยครับ โดยตำแหน่งการวางเตียงก็จะอยู่ติดกับหน้าต่างเลย ทำให้คนที่นอนอยู่ด้านในก็อาจต้องขึ้น-ลงทางปลายเตียงที่กว้าง 55 cm. ได้พอดีๆแทน

ช่องแสงหลักของห้องจะเป็นกระจกบานเลื่อนกว้างเท่าตัวห้องเลยครับ แต่ความสูงของหน้าต่างจะไม่ได้เยอะมากนัก เลยทำให้ห้องนี้มีแสงให้ใช้งานแค่พอดีๆเท่านั้น ไม่ได้ถึงขั้นสว่างโปร่งโล่งเหมือนห้องที่มีช่องแสงสูงกว่านี้

ดังนั้นผมเลยแนะนำให้ติดไฟส่องสว่างภายในห้องเพิ่มเติม เพื่อให้แสงในห้องสว่างไสวมากขึ้น และส่วนตัวผมรู้สึกว่าความสว่างที่ห้องของจริง ยังดูไม่ค่อยเพียงพอสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะตอนกลางคืนหรือตอนที่ด้านนอกมีแสงน้อย (พอดีวันที่ไปถ่ายรีวิวฝนตกพอดี ก็เลยรู้สึกขึ้นมาได้ครับ)

อีกด้านหนึ่งของห้องจะมีประตูบานทึบ ที่กั้นฟังก์ชันห้องครัวและห้องน้ำแยกออกไป จึงทำให้มีความเป็นสัดส่วนมากขึ้น และทำให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น เพราะเราไม่ต้องมองเห็นของในครัวที่อาจเก็บไม่ค่อยเรียบร้อย แต่ทั้งนี้ก็แลกมากับความสว่างโปร่งโล่งที่ลดลงไปบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่เรามักจะคุ้นเคยกับโครงการี่ใช้เป็นประตูกระจกมากกว่านั่นเองครับ

ภายในครัวจะมีการ Built-in เคาน์เตอร์มาให้พร้อมใช้งาน (ยกเว้นตู้ที่แขวนด้านบน แต่สามารถทำเองได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของให้มากขึ้นครับ)

Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นเมลามีน ซึ่งเราอาจต้องคอยเช็ดทำความสะอาดดีๆหน่อย เพราะเค้าจะไม่ค่อยถูกกับความชื้นเท่าไหร่นัก ที่ผนังติด Backsplsh เป็นกระเบื้องให้เช็ดทำความได้ง่าย และพื้นจะกว้าง 95 cm. ให้ยืนได้พอดีๆ

สำหรับใครที่ชอบทำอาหารจริงจัง ก็สามารถติดตั้งเครื่องดูดควันเพิ่มเติมเองได้ครับ (แต่ทางโครงการอาจไม่ได้มี Junction มาให้นะ) หรือง่ายๆเลยก็คือ อาจเปิดประตูระเบียงเพื่อระบายอากาศโดยตรงไปเลยก็ได้

ประตูระเบียงจะเป็นแบบบานเปิดแบบนี้ มาพร้อมกับซิลขอบยางโดยรอบ ซึ่งส่วนตัวผมค่อนข้างชอบประตูนี้นะ เพราะสามารถปิดได้แนบสนิท และช่วยป้องกันแมลง + เสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีสุดๆไปเลยล่ะ

ระเบียงภายนอกมีขนาด 1.55 x 1.15 m. พร้อมแขวน Condensing Unit เอาไว้ด้านบน ทำให้เรามีพื้นที่ด้านล่างเหลือให้สามารถวางเครื่องซักผ้าได้สบายๆ และเราสามารถใช้ระเบียงนี้ในการซัก-ตากผ้าได้ครับ

อีกด้านหนึ่งของครัวจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งมีจุดที่ต้องระวังนิดนึงก็คือ พื้นห้องน้ำจะมีการยกสูงขึ้นมาจากพื้นห้องมากกว่าปกติประมาณ 15 cm. จึงต้องเดินระวังกันสักนิดนึงนะครับ

ภายในมีการแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน และได้สุขภัณฑ์จาก Cotto เป็นมาตรฐานครบ ไม่ว่าจะเป็นอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และมีตู้ให้เก็บของได้ด้วย แต่ที่ชอบก็คือเราจะได้กระจกเงาบานใหญ่ ที่ทำให้ภายในห้องดูกว้างขวางและส่องได้เต็มตัวมากขึ้น

ด้านในสุดจะเป็นพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 80 x 90 cm. ให้ใช้งานได้พอดีๆ ซึ่งเราสามารถติดม่านหรือฉากกั้น เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำกระเด็นเปียกไปทั่วห้องได้นะครับ ส่วนที่ผนังของจริงจะเป็น Junction ให้เราติดเครื่องทำน้ำอุ่นเพิ่มเติมเองได้ถ้าต้องการ

  • One Bedroom แบบ C ขนาด 31.71 – 32.19 ตร.ม.

เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย แต่จะมีการออกแบบฟังก์ชันที่แตกต่างไปจากห้องตัวอย่างก่อนหน้านี้มากๆครับ เพราะภายในห้องจะเป็นพื้นที่โล่งกว้างขนาดใหญ่ ลักษณะคล้ายกับห้อง Studio จึงทำให้มีความกว้างขวางโปร่งโล่งมากขึ้น

ซึ่งเรายังคงได้เป็นครัวปิดที่อยู่ด้านหน้าห้องให้ใช้งาน สามารถทำอาหารได้จริงจัง โดยห้องน้ำอาจมีรูปทรงที่แปลกตาไปสักหน่อย เพราะตำแหน่งของห้องนี้มักจะอยู่ตรงมุมอาคารพอดี แต่ก็สามารถใช้งานได้ตามปกติครับ

เข้ามาภายในห้องเราจะเจอกับฟังก์ชันครัวเป็นส่วนแรก โดยจะเป็นครัวปิดที่มีประตูกระจกกั้นแยกจากภายในห้อง ทำให้ช่วยป้องกันกลิ่นและเสียงรบกวนจากนอกห้องได้ดี

สำหรับเคาน์เตอร์ครัวเราจะได้ Built-in เหมือนกับห้องตัวอย่างแรกก่อนหน้านี้เลย (ไม่มีตู้แขวนด้านบน) แต่สิ่งที่ดีขึ้นก็คือ พื้นที่ห้องจะกว้างเป็น 1.2 m. สามารถยืนทำอาหารได้สบายมากขึ้น หรือจะเดินสวนกันก็ได้ครับ

อีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็นห้องน้ำ ที่ภายในจะมีลักษณะพื้นที่เป็นสี่เหลี่ยมคางหมูที่ป้านออกไป เลยทำให้มีขนาดใหญ่มากขึ้น และใช้งานได้ตามปกติครับ

ส่วนพื้นที่ยืนอาบน้ำก็จะกว้างขึ้นเล็กน้อยเป็น 0.9 x 1 m. สามารถใช้งานได้พอดีๆ

ภายในห้องหลักจะมีขนาดใหญ่ และมีบรรยากาศที่สว่างโปร่งโล่งมากขึ้น เพราะเราจะได้แสงสว่างจากช่องแสง 2 ทางเลยนั่นเองครับ

พื้นที่ส่วนแรกจะเป็น Living Area ซึ่งมีระยะดูทีวีกว้าง 4.3 m. สามารถใช้ทีวีจอใหญ่ๆ 50 – 60 นิ้วได้สบายๆ แถมเรายังสามารถนอนดูหนังจากบนเตียงได้เลยอีกด้วย

แน่นอนว่าเราจะได้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวครบเช่นเดิม ยกเว้นตู้เก็บของที่อยู่ตรงผนังข้างโซฟา โดยทางโครงการก็ทำมาให้ดูเป็นไอเดียที่ดีเลยครับ เพราะสามารถเพิ่มขึ้นที่เก็บของได้เยอะเลยทีเดียว

สำหรับเตียงนอนก็จะได้ฐานเตียงไม้แบบ 5 ฟุต ที่สามารถวางตรงกลางห้อง และลุกขึ้น-ลงเตียงได้สะดวกทุกด้าน

อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของห้องก็คือ พื้นที่อเนกประสงค์บริเวณริมหน้าต่าง ซึ่งเราสามารถทำเป็นมุมนั่งทำงานอ่านหนังสือ หรือมุมโต๊ะทานอาหารก็ได้ โดยจะได้ทั้งแสงสว่างโปร่งโล่ง และมองเห็นวิวภายนอกไปได้ด้วยแบบนี้เลย

สุดท้ายคือพื้นที่ระเบียง ซึ่งจะมีประตูกระจกบานเปิด พร้อมพื้นที่ภายนอกให้ออกไปใช้งานได้เช่นเดิม แต่อย่างที่บอกครับว่าประโยชน์จริงๆของฟังก์ชันนี้คือ ช่วยทำให้ภายในห้องสว่างโปร่งโล่งมากขึ้นนั่นเอง

ส่วนแบบห้องอื่นๆที่ Sold Out ไปแล้ว หากใครสนใจก็สามารถคลิกดูใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Image 1/3

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะ

ราคา

Mori Condominium Muang Thong Thani ราคา ณ วันที่ 7 สิงหาคม 2567

  • One Bedroom แบบ D ขนาด 27.83 – 27.95 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 999,000 บาท*
  • One Bedroom แบบ C ขนาด 31.71 – 32.19 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1,155,400 บาท*

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.4 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท็อปไม้เมลามีน HMR (High Moisture Resistance Board)
  • จอง 10,000 บาท
  • ทำสัญญา 20,000 บาท
  • ค่ากองทุน 250 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.ม./เดือน
  • ค่าที่จอดรถ คิดแยกต่างหากสำหรับคนที่ต้องการใช้งาน (รถยนต์ 500 บาท/เดือน, มอเตอร์ไซค์ 150 – 300 บาท/เดือน) จำกัดสิทธิ์ 1 ห้อง/คัน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

บทสรุป

ทำเล : นับว่าเป็นจุดเด่นที่สุดของ ‘โมริ คอนโด’ เลยก็ว่าได้ครับ เพราะทำเลจะตั้งอยู่ใจกลางเมืองทองธานี ทำให้มีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก มีร้านค้าร้านอาหารเพียบ อีกทั้งยังมีตลาดสด / Maxvalu / Tops Market / Beehive และ Cosmo Bazaar อยู่ในระยะที่เราสามารถเดินไปได้สบายๆด้วยนะครับ นี่ยังไม่รวมว่ามีออฟฟิศและแหล่งงานต่างๆ รวมถึงศูนย์ราชการและทำเลข้างเคียงรอบๆก็อุดมสมบูรณ์ไม่แพ้กัน

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจก็คือ ‘ราคา’ หากเทียบกับเพื่อนบ้านที่เป็นคอนโดไม่ถึงล้านระดับ Economy เหมือนกัน ก็นับว่าโมริคอนโดมีราคาจับต้องได้ง่ายสุด ในทำเลที่ดีกว่าเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ด้วยนะครับ แถมตำแหน่งคอนโดยังเป็นเฟสสุดท้ายที่ได้วิวการันตีเปิดโล่ง 2 ด้านสวยๆอีกด้วย

แต่ทั้งนี้ก็ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า ย่านเมืองทองธานีเป็นทำเลชุมชนที่มีความหนาแน่นสูง รวมถึงช่วงมีการจัดงานต่างๆที่อิมแพ็ค ก็จะมีการจราจรที่หนาแน่นค่อนข้างมาก แต่ในวันปกติก็จะใช้ชีวิตได้ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งถ้าใครไม่ติดเรื่องสภาพแวดล้อม แต่เน้นความสะดวกเป็นหลัก โมริคอนโดก็เป็นหนึ่งโครงการที่น่าจะตอบโจทย์ได้ดีเลยครับ

การเดินทางโดยใช้รถ : สะดวกมากๆครับ เพราะเมืองทองธานีสามารถเข้า-ออกได้หลายทาง อีกทั้งยังใกล้ทางด่วนอุดรรัถยาเพียง 2.2 km. และมีทางลัดเลี่ยงรถติดอย่างถนนเลียบคลองประปาให้ใช้อีกด้วย ส่วนที่จอดรถโครงการมีให้ 35% แต่จะมีการแยกอาคารและเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะครับ ซึ่งหากใครไม่ได้มีรถส่วนตัวที่ต้องใช้ที่จอดอยู่แล้ว ก็ถือว่าดีเลย เพราะจะได้ไม่ต้องมีภาระค่าใช้จ่ายส่วนกลางที่ตัวเองไม่ได้ใช้งานแบบนี้เพิ่มขึ้นนั่นเอง

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ถือว่าสะดวกเลยครับ เพราะถนนป๊อปปูล่าในเมืองทองธานี จะมีรถสาธารณะวิ่งให้บริการอยู่ตลอด โดยเฉพาะรถสองแถว วินมอเตอร์ไซค์ และแท็กซี่ ซึ่งเราสามารถเรียกจากหน้าโครงการได้เลย และสามารถไปต่อรถเมล์หรือรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายในอนาคต เพื่อเข้าเมืองได้ไม่ยากอีกด้วย

การออกแบบโครงการ : เป็นโครงการขนาดใหญ่ระดับ 1,040 ยูนิต มาพร้อมกับส่วนกลางและร้านค้าที่อยู่ใต้อาคาร ทำให้มีความสะดวกและอุดมสมบูรณ์ที่ดีเลยครับ อีกทั้งยังมีคอนเซ็ปต์ในการสอดแทรกพื้นที่สีเขียว และออกแบบสไตล์ Minimal Japanese ทำให้เป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากเพื่อนบ้านในย่าน ส่วนผังอาคารจะเป็นรูปตัว O ที่โอมล้อมพื้นที่ส่วนกลางทุกด้าน ทำให้ห้องพักอาศัยด้านในจะได้วิวสวนและสระว่ายน้ำสวยๆได้นั่นเองครับ

โดยจุดที่ต่างจากโครงการทั่วไปคือ เค้าจะมีการแยกล็อบบี้และโถงลิฟต์เอาไว้ถึง 4 จุด เพื่อกระจายความหนาแน่นในการใช้งาน แต่ด้วยความที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ ก็ยังทำให้มีอัตราส่วนลิฟต์สูงถึง 130 : 1 ซึ่งก็ยังถือว่าค่อนข้างหนาแน่นอยู่พอสมควร นอกจากนี้ยังมีเรื่องตำแหน่งของถังขยะและโถงทางเดินที่ไม่ค่อยสว่างนัก ส่วนนี้พอจะเข้าใจได้ว่าเป็นเรื่องของโครงสร้างเก่าและการออกแบบ แต่ถ้าใครไม่ซีเรียสก็ถือว่าไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะ ส่วนที่จอดรถจะมีการแยกอาคารไปอีกฝั่งหนึ่งของถนน จึงทำให้การใช้งานยากกว่าโครงการทั่วไปนิดหน่อยครับ

การออกแบบห้องพักอาศัย : เน้นห้อง 1 Bedroom ที่แบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน เหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คน มาพร้อมกับห้องครัวปิดให้ใช้งานได้ทุกแบบ และมีระเบียงให้ออกไปยืนสูดอากาศ/ตากผ้าได้ จุดเด่นอีกอย่างของห้องคือ ความกว้างขวางของพื้นที่ใช้สอย ซึ่งจะมีการกั้นห้องด้วยประตูกระจกบานเลื่อน หรือเป็นลักษณะห้องแบบ Studio ก็เลยทำให้มีพื้นที่เชื่อมต่อกันขนาดใหญ่ดีเลยทีเดียว

วัสดุ : ขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์มาครบพร้อมเข้าอยู่ เหมาะกับคนที่อยากประหยัดเวลาแต่งห้องเอง โดยจะเน้นเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบลอยตัว ส่วนตัวผมก็คิดว่าดูสวยดีทีเดียว สิ่งที่ต้องพิจารณาเพิ่มก็คือ ‘ช่องแสง’ ที่ผมคิดว่ามีความสูงน้อยไปสักหน่อย ก็เลยส่งผลให้ภายในห้องมีแสงสว่างที่ไม่เยอะเท่าที่ควร ทำให้เราอาจต้องเพิ่มแสงสว่างในห้องด้วยตัวเองแทน

แต่ถ้าจะติดไฟที่เพดานเพิ่มก็จำเป็นต้องติดแบบเดินลอยนะครับ เพราะอย่างที่บอกว่าเพดานด้านบนเป็นพื้นสำเร็จรูปของห้องชั้นถัดไป วัสดุปูพื้นห้องเป็น SPC ค่อนข้างโอเค แต่ครัวยังอาจต้องรักษาความสะอาดดีๆสักนิดนึง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ไม่ได้ปูเป็นกระเบื้อง และ Top ครัวที่เป็นเมลามีนไม่ถูกกับความชื้นมากนัก เรียกได้ว่าภาพรวมเราก็ได้ทั้งวัสดุที่โอเค และวัสดุที่อาจต้องใช้งานระมัดระวังกันสักหน่อยปนๆกันไปครับ

สาธารณูปโภค : มีฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานครบทั้งล็อบบี้ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสวนสีเขียว ถึงแม้ว่าขนาดอาจไม่ได้ใหญ่มากนัก เพราะถ้าเทียบกับจำนวนยูนิตแล้วก็อาจค่อนข้างหนาแน่นอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าเทียบกับเพื่อนบ้านที่เป็นคอนโดไม่ถึงล้านเหมือนกันแล้ว ก็เรียกได้ว่าโครงการนี้ให้มาพอสมควรเลยครับ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นโครงการขนาดเล็ก และไม่ค่อยมีส่วนกลางให้ใช้งานเหมือนที่นี่นั่นเอง อีกทั้งในอนาคตก็ยังมียูนิตร้านค้า ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้อีกด้วยนะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 41,000 บาท/ตร.ม., 7 สิงหาคม 2567

  • ทำเล 8.5/10 – อุดมสมบูรณ์สูง ใกล้โรงเรียนและร้านค้า เป็นทำเลที่คึกคักและหนาแน่น
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – ใกล้ทางด่วน เข้า-ออกได้หลายทาง มีที่จอดรถ 35%
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – เรียกรถสาธารณะหน้าโครงการได้ อนาคตมีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีชมพูให้ใช้
  • วัสดุ 7.5/10 – Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวมาครบ
  • แบบ 7.5/10 – เน้นห้อง 1 Bedroom ฟังก์ชันเป็นสัดส่วน ได้ครัวปิด ยูนิตห้องเยอะ
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – มีฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานครบ และยังมีร้านค้าในอนาคตอีกด้วย

  • SUPER ECONOMY CLASS
  • 7.93 / 10.00

Mori Condominium Muang Thong Thani เหมาะกับใคร

โครงการ โมริ คอนโดมิเนียม เมืองทองธานี เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดราคาจับต้องง่ายไม่ถึงล้าน ในทำเลใจกลางเมืองทองธานีที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง ติดโรงเรียนเซนต์ฟรัง และใกล้ทางด่วน เดินทางสะดวก โดยเน้นเป็นห้อง 1 Bedroom ที่ได้ครัวปิดและเฟอร์นิเจอร์ครบ รวมถึงเป็นคอนโดไม่ถึงล้านที่มีส่วนกลางหลักๆให้ใช้งานครบอีกด้วย คนที่สนใจจะต้องมีงบประมาณเริ่มต้น 999,000 บาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 7,000 – 8,000 บาท/เดือน


Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่