MODIZ สุขุมวิท 50 คอนโด High Rise ในซอยสุขุมวิท 50 ห่างจาก BTS อ่อนนุช 1.40 กิโลเมตร จาก AssetWise [รีวิวฉบับที่ 2360]

Modiz Sukhumvit 50 ณ วันที่ 15 มีนาคม 2564

พิกัด Google Maps : 13.702187097250174, 100.58915655971055
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

โครงการ MODIZ สุขุมวิท 50 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 50 ห่าง BTS อ่อนนุชประมาณ 1.3 กม. เดินทางสะดวกเชื่อมต่อได้ทั้งสุขุมวิท , พระราม 4 , ทางรถไฟสายเก่าปากน้ำ ใกล้ทางด่วนฉลองรัช และ ทางด่วนเฉลิมมหานคร มี Shuttle Bus รับ-ส่ง BTS อ่อนนุช และ ใกล้แหล่ง Shopping อย่าง Lotus อ่อนนุช , Century Movie Plaza อ่อนนุช , Beacon สุขุมวิท 50 , ตลาดอ่อนนุช เรียกได้ว่าสิ่งอำนวยความสะดวกครบเลย

ทำเลที่ตั้งโครงการตั้งอยู่ในย่านอ่อนนุช ซึ่งบริเวณนี้ เป็นโซนที่พักอาศัยขนาดใหญ่พอสมควรเลยค่ะ มีทั้งที่พักอาศัยแนวราบและคอนโดอยู่สลับกันเต็มไปหมด ในช่วง 5 – 10 ปีมานี้ก็จะคึกคักไปด้วยคอนโดเนื่องจากความเจริญเริ่มกระจายตัวออกมาเรื่อยๆ จากโซนเอกมัย – ทองหล่อค่ะ ส่วนสภาพแวดล้อมโดยรวมอย่างที่ทราบกันดีว่าย่านอ่อนนุชนี้มีความอุดมสมบูรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน ราคาถูกลงมาหน่อย น่าคบหาเมื่อเทียบกับแถบถนนสุขุมวิทชั้นในอย่าง ย่านอโศก, ทองหล่อ, เอกมัย

ที่ตั้งโครงการ MODIZ สุขุมวิท 50 จะอยู่บริเวณท้ายซอยสุขุมวิท 50 เลยทางลงทางด่วนเฉลิมมหานครไป ก็จะอยู่ซ้ายมือค่ะ ที่ตั้งโครงการจะตั้งอยู่ตรงหัวมุมระหว่างถนนสุขุมวิท 50 และถนนทางรถไฟสายเก่าปากน้ำ เรามาดูเส้นทางต่างๆกันดีกว่าค่ะ ว่าถนนอะไรจะพาเราไปยังที่ไหนกันได้บ้าง

• ถนนสุขุมวิท 50 ก็จะพาเราไปออกยังถนนสุขุมวิทซึ่งเป็นเส้นทางของรถไฟฟ้า และพาไปยังถนนทางรถไฟสายเก่าปากน้ำได้
• ถนนสุขุมวิท เป็นเส้นทางเดียวกันกับทางเดินรถไฟฟ้า จากถนนเส้นนี้สามารถพาเราเข้าเมืองไปยังสยามได้ หรือพาเราออกนอกเมืองไปยังบางนาได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีทางเเยกไปยังถนนต่างๆอีกหลายเส้นเช่นที่ใกล้ๆโครงการเราก็จะมีถนนอ่อนนุช ถนนสุขุมวิท 71 หรือพระโขนงที่จะพาเราไปยังรามคำแหง หรือถนนเอกมัย ที่จะพาไปยังเอกมัย-รามอินทราได้
• ถนนทางรถไฟสายเก่าปากน้ำ ถนนเส้นนี้จะมีรถบรรทุกวิ่งผ่านเยอะหน่อย เพราะเป็นถนนที่ใกล้กับท่าเรือ สามารถใช้เดินทางไปยังโซนพระราม 4 หรือจะไปยังปากน้ำ สำโรง ปู่เจ้าได้ค่ะ

สำหรับการเดินทางแบบพึ่งพารถสาธารณะภายในซอยสุขุมวิท 50 ที่เป็นซอยหลักด้านหน้านั้น ก็มีหลากหลายให้เลือกทั้ง รถสองแถว วินมอเตอร์ไซต์ รวมไปถึงตัวโครงการมี Shuttle Van รับ – ส่งสถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช ตรงโลตัสให้ด้วยค่ะ แต่เงื่อนไขการให้บริการจะเป็นอย่างไรต้องรอทางนิติบุคคลแจ้งอีกทีนะคะ

ข้อได้เปรียบของซอยสุขุมวิท 50 นี้ นอกจากเข้าถึงรถไฟฟ้าสาธารณะแล้ว การใช้รถยนต์ส่วนตัวนั้นถือว่าสะดวกระดับนึงเลยค่ะ เนื่องจากซอยโครงการ (สุขุมวิท 50) นี้ มีทางขึ้น – ลงทางด่วนทั้ง 2 ทางด้วยกัน คือ ทางด่วนเฉลิมมหานคร และทางด่วนฉลองรัช ทั้งคู่สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องไปผ่านถนนหลักที่รถติดอย่างสุขุมวิทเลย เราสามารถใช้ทางด่วนฉลองรัชเพื่อเดินทางไปยังโซนลาดพร้าว-รามอินทราได้ หรือจะได้ทางด่วนเฉลิมมหานคร เดินทางไปโซนพระราม 3 ได้ค่ะ

การที่ตั้งของโครงการติดกับถนนทางรถไฟสายเก่าปากน้ำที่ทะลุไปยังแถบปู่เจ้าสมิงพรายและแถบท่าเรือคลองเตยได้ แต่ก็จะมีเงื่อนไขการใช้ถนนอยู่ เช่นช่วง 6-9 โมงเช้า จะเป็นการเดินรถทางเดียวขาออกนะคะ ต้องคำนวณการเดินทางและเลือกการใช้เส้นทางดีๆ ส่วนถนนสุขุมวิท 50 เนื่องจากความสะดวกของซอยนี้ที่ทะลุไปได้เยอะนั้น ก็ทำให้มีปริมาณรถที่ใช้ซอยเล็กๆ นี้เข้า – ออกเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน ดังนั้นบนถนนนี้ก็จะมีรถติดบ้างเป็นช่วงเวลาค่ะ

สภาพแวดล้อมและชุมชนแถวอ่อนนุชเป็นทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เนื่องจากย่านนี้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่มีคอนโดอยู่เยอะมาก ทำให้มีพวก Hypermarket และ Community Mall ทยอยมาเปิดกันหลายเจ้าเลยค่ะ มีทั้ง Lotus’s ที่อยู่ติด BTS อ่อนนุช, Big C Extra ในซอยอ่อนนุชรวมถึง ตลาดสดที่อยู่ตรงข้ามด้วย ส่วน Community mall จะมี 2 จุดที่ใกล้ๆคือ Phyll และ Century Movie Plaza เป็นแหล่งกินข้าวดูหนังที่ใกล้โครงการที่สุด แบบที่ไม่ต้องนั่งรถไฟฟ้าไปต่อที่ไหนเลย

แต่ถ้านับจากที่ตั้งโครงการเราเอง การจับจ่ายซื้อของหลักๆ ก็คงจะหนีไม่พ้น Lotus’s ที่ตั้งอยู่หน้าปากซอยโครงการ ซึ่งเป็นห้างค่อนข้างใหญ่ หากใครที่ชื่นชอบการทำอาหารเองก็จะมีตลาดสดอย่างตลาดอ่อนนุช และตลาดพระโขนงให้เลือกใช้บริการในระยะทางไม่ไกลมากนัก ประมาณ 2.5 – 3 กม. แต่ถ้าอยากได้สิ่งอำนวยความสะดวกในระยะเดินถึง ถ้าเราข้ามถนนทางรถไฟสายเก่าปากน้ำไปก็จะมีร้านอาหารและ 7-eleven อยู่ในซอยฝั่งตรงข้าม ถือว่าสะดวกทีเดียวค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมภายในซอยสุขุมวิท 50 จะค่อนข้างคึกคัก เนื่องจากเป็นซอยที่เชื่อมต่อระหว่างทางรถไฟสายเก่า เข้ากับถนนสุขุมวิท และทางด่วนฉลองรัชเข้าด้วยกัน ทำให้มีรถผ่านไป-มาอยู่ตลอดทั้งวัน บวกกับที่ภายในซอยเป็นชุมชนพักอาศัย มีคอนโดมิเนียมหลายอาคารทำให้รถค่อนข้างเยอะเลยค่ะ ส่วนบนถนนทางรถไฟสายเก่าเองก็เป็นถนนที่เชื่อมกับท่าเรือ ทำให้มีรถใหญ่ รถบรรทุก รถพ่วงสัญจรไป-มาค่อนข้างเยอะเลย

ส่วนอาคารที่อยู่รอบๆ ทางฝั่งถนนสุขุมวิทจะเป็นอาคารพักอาศัยทั้งแนวราบ แนวสูงนะคะ ส่วนฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จะเป็นที่ตั้งของบริษัทต่างๆ ท่าเรือขนส่งทางแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งในอนาคตตามคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่อาจมีการรื้อถอนไซโลออก จะทำให้ทัศนียภาพดีมากขึ้นค่ะ

• ทิศเหนือ ติดกับ ซอยสุขุมวิท 50 ฝั่งตรงข้ามยังเป็นที่ดินเปล่า และมีบ้านพักอาศัย 2 ชั้นอยู่ใกล้ๆกับทางด่วน
• ทิศใต้ ติดกับ ที่ดินเปล่า ถัดออกไปจะเป็นพวกโกดัง โรงปูน ของบริษัทต่างๆ
• ทิศตะวันออก ติดกับ ทางด่วนเฉลิมมหานคร โดยทางด่วนจะสูงในระดับประมาณอาคาร 2 ชั้นพอดี ดังนั้นใต้ทางด่วนจะไม่มีสิ่งก่อสร้าง บ้านพักอาศัยอยู่ แต่จะล้อมรั้วไว้ค่ะ
• ทิศตะวันตก ติดกับถนนรางรถไฟสายเก่าปากน้ำ ฝั่งตรงข้ามนั้นจะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ส่วนมากจะเป็นสำนักงาน ดังนั้นตรงนี้ก็จะมีร้านสะดวกซื้อแบบ 7-eleven ตั้งอยู่ตรงข้ามกับโครงการเลย ในซอยฝั่งตรงข้ามก็จะมีร้านอาหารตามสั่งด้วยค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• Tesco Lotus อ่อนนุช ~ 1.2 km.
• Century The Movie Plaza Sukhumvit ~ 1.7 km.
• Phyll (คอมมูนิตี้มอลล์) ~ 2 km.
• ตลาดสดอ่อนนุช ~ 2.3 km.
• Summer Hill (คอมมูนิตี้มอลล์) ~ 2.5 km.
• Big C Extra ~ 2.5 km.
• W Market ~ 2.8 km.
• Habito Mall ~ 2.9 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาล เทพธารินทร์ ~ 2.3 km.
• โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ~ 2 km.
• โรงพยาบาลสุขุมวิท ~ 4.4 km.

โรงเรียน

• มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ~ 1.6 km.
• Wells International School ~ 2 km.

สถานที่อื่นๆ

• สถานี BTS อ่อนนุช ~ 1.3 km.
• สำนักงานเขตพระโขนง ~ 2 km.
• Naiipa Art Complex ~ 2.4 km.
• ท่าเรือคลองเตย ~ 2.8 km.

โครงการ Modiz สุขุมวิท 50 เป็นคอนโด High Rise จำนวน 3 อาคารแบ่งเป็น

• อาคาร A สูง 25 ชั้น จำนวน 207 ยูนิต
• อาคาร B สูง 25 ชั้น จำนวน 220 ยูนิต
• อาคาร C สูง 33 ชั้น จำนวน 155 ยูนิต

รวมห้องพักอาศัยทั้งหมด 582 ยูนิต และอีก 1 อาคารจอดรถอัตโนมัติ รวมมีที่จอดรถทั้งสิ้น ประมาณ 51% ค่ะ ซึ่งเป็นการจอดรถแบบอัตโนมัติทั้งหมด โดยมีการแยกฟังก์ชัน ดังนี้

• ชั้น 1
  – ทุกอาคาร Lobby Lounge, Drop off
• ชั้น 2 – 5
  – อาคาร A ห้องพักอาศัยมาตรฐาน
  – อาคาร B ห้องพักอาศัยมาตรฐาน
  – อาคาร C ที่จอดรถ Auto Parking
• ชั้น 6 – 7
  – ทุกอาคาร ห้องพักอาศัยมาตรฐาน
• ชั้น 8
  – อาคาร A ห้องพักอาศัยมาตรฐาน
  – อาคาร B พื้นที่ส่วนกลางประกอบไปด้วย Co-Working & Co-Living Lounge / Co-Dining & Sky Bar / Playroom / Theater / Kid’s Room
  – อาคาร C ห้องพักอาศัยมาตรฐาน
• ชั้น 9 – 19
  – ทุกอาคาร ห้องพักอาศัยมาตรฐาน
• ชั้น 20 – 23
  – ทุกอาคาร ห้องพักอาศัย Vertical ฝ้าเพดานสูง 2 ชั้น (Loft)
• ชั้น 24
  – อาคาร A ห้องพักอาศัย Vertical
  – อาคาร B ห้องพักอาศัย Vertical
  – อาคาร C พื้นที่ส่วนกลางประกอบไปด้วย Private Onsen & Steam & Suana / Boxing Area & Living Area
• ชั้น 25
  – อาคาร A สระว่ายน้ำ Lap Pool Sky View ระบบเกลือ ขนาดประมาณ 25.30 x 4.70 ม.
  – อาคาร B สระว่ายน้ำสำหรับแช่ Sky View ระบบเกลือ ขนาดประมาณ 20.30 x 4.00 ม.
  – อาคาร C Panoramic Fitness / Yoga Area
• ชั้น 26 – 33 
  – อาคาร C ห้องพักอาศัย Vertical

โครงการนี้ออกแบบมาใน Concept “Living In The Cloud” โดยจะได้ห้องพักที่หน้าต่างบานใหญ่ วิวเปิดโล่ง และพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ชั้นบนเห็นวิวแบบ Panoramic มองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา และโค้งน้ำบริเวณบางกระเจ้าได้ โดยพื้นที่ส่วนกลางจะสามารถใช้ร่วมกันได้หมด คือทุกห้องภายในโครงการสามารถเข้าใช้ส่วนกลางของอาคารอื่นๆได้ด้วย แต่จะมีการแบ่งพื้นที่ส่วนกลางและห้องพักอาศัยชัดเจน รวมถึงแต่ละอาคารยังมียูนิตต่อชั้นสูงสุดเพียง 6 – 10 ยูนิตเท่านั้น ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูงค่ะ

โครงการสามารถเข้า-ออก ได้ 2 ทาง จากถนนสุขุมวิท 50 และจะมีทางเข้ารองอยู่ที่ถนนทางรถไฟสายเก่าปากน้ำ ภายในโครงการแต่ละอาคารจะตั้งแยกออกจากกันโดยมีถนน 2 เลนล้อมรอบอาคารทั้งหมด รถสามารถวิ่งวนสวนกันได้ ด้านหน้าโครงการมีพื้นที่สีเขียวขนาดกว่า 1 ไร่ บรรยากาศดีทีเดียวค่ะ เป็นสวนเล่นระดับ มีมุมนั่งเล่นพักผ่อน และเป็นทัศนียภาพที่สวยงามให้กับห้องพักอาศัยชั้นล่างๆ ด้วยค่ะ

เมื่อเข้ามาจากทางเข้าหลักที่ถนนสุขุมวิท 50 เราจะเจอกับอาคาร C ก่อนทางซ้ายมือค่ะ ส่วนอาคาร A และ อาคาร B จะอยู่ลึกเข้ามาใกล้กับทิศใต้ของโครงการมากขึ้น โดยทั้ง 3 อาคารจะตั้งรับลมทิศเหนือ-ใต้ และวางเยื้องๆ กัน ทำให้มุมมองต่างๆของห้องพักอาศัยจะไม่บังกันเอง ตัวอาคารที่จอดรถจะอยู่ด้านในสุดติดกับทางด่วน ทำให้ช่วยเรื่องกันเสียงรถบนทางด่วนที่จะดังมายังห้องพักอาศัยได้อีกด้วย

เนื่องจากโครงการนี้ตัวตึกจะแยกออกจากกันทำให้ในแต่ละตึกจะมี Drop off , Lobby และ Mail Room แยกออกจากกัน ผู้อยู่อาศัยก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ในแต่ละอาคารจะมีลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัว เป็นลิฟต์ล็อคชั้น เข้าได้ชั้นห้องพักและชั้นที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางเท่านั้น

ทางเข้าหลักจะอยู่ที่ถนนสุขุมวิท 50 ซึ่งเข้ามาแล้วจะเจอกับป้อมเจ้าหน้าที่ รปภ.อยู่ทางด้านขวามือ คอยดูแลอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนทางเข้า – ออกจะเป็นระบบ Key Card Access ผ่านไม่กั้นกระดกอัตโนมัติค่ะ

เข้ามาแล้วจะสามารถเลือกได้ว่าอยากจอดรถในอาคารไหม ซึ่งจะเป็น Auto Parking ทั้งหมด (วันที่เราไปเก็บภาพยังไม่เสร็จเรียบร้อยดีนะคะ แต่นำมาให้ดูพื้นที่ว่าช่องจอดกว้าง มีจานหมุนรถหันออกให้อัตโนมัติ) ข้อดีของ Auto Parking ก็คือได้จอดรถในร่ม และสะดวกสบาย เข้าช่องจอดแล้วออกมาแตะบัตรด้านนอกก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ แต่อาจจะต้องรอรถสักหน่อยในเวลาเร่งด่วน หรือจะจอดรถรอบอาคารด้านนอก ซึ่งจะมีที่จอดไม่เยอะนัก และโดนแดดในเวลากลางวันค่ะ

เข้ามาแล้วทุกคนก็จะเห็นสวนขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าโครงการเลยค่ะ โดยภายในสวนก็จะมีการเล่นระดับ ปลูกต้นไม้มาให้ดูร่มรื่นทีเดียว ด้านในมี Repost Deck ให้นั่งพักผ่อนช่วงเย็นกันได้

แต่ละอาคารก็จะมี Lobby Lounge แยกกันนะคะ มีโซฟานั่งพักคอย เชื่อมต่อกับ Mail Room และโถงลิฟต์ด้านใน

เข้ามาด้านในโถงลิฟต์จะมีห้อง Mail Room แยกกันแต่ละอาคาร ทำให้ไม่หนาแน่นมาก ลูกบ้านสามารถมาหยิบจดหมายของตัวเองก่อนขึ้นห้องได้สะดวกค่ะ

โถงลิฟต์ขั้น 1 จะมีการตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนและแถบสีทองดูสวยงาม มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/ อาคาร อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 97 : 1 แบ่งแต่ละอาคารได้ ดังนี้

• อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 104 : 1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 110 : 1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก C 78 : 1

ถือว่าไม่หนาแน่นมากนักสำหรับอาคารสูงนะคะ แต่ว่าโครงการนี้จะไม่มีลิฟต์ Service แยกต่างหาก จะเป็นลิฟต์โดยสารทั้ง 2 อันโดยอันหนึ่งเป็นลิฟต์ที่รองรับเป็น Service ได้ในตัวค่ะ

ชั้น 2 – 7 

ห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2 เลยนะคะ โดยจะเป็นห้องพักอาศัยแบบมาตรฐานความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.60 เมตร ประกอบด้วยห้องพักอาศัยแบบ 1 Bedroom , 1 Bedroom exclusive และ 1 Bedroom plus ห้องแบบ 1 Bedroom จะเป็นห้องที่อยู่ตรงการ  มีห้องใหญ่ 1 Bedroom Exclusive และ 1 Bedroom Plus อยู่ตรงมุมอาคาร จำนวนยูนิตต่อชั้นอาคาร A,B 10 ยูนิต และอาคาร C เพียง 6 ยูนิต ถือว่าไม่เยอะเลยค่ะ ได้ความเป็นส่วนตัวสูงเลย

ตัวอาคารเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม แบ่งห้องพักออกเป็น 2 ฝั่ง ทางทิศเหนือ-ใต้ รับลมได้ดี โถงทางเดินเป็นแบบ Double Corridor ปลายสุดของทางเดินทั้งสองฝั่งจะเป็นหน้าต่าง ทำให้บริเวณทางเดินมีแสงสว่างจากธรรมชาติเข้ามา และยังช่วยระบายอากาศ ไม่ให้มีกลิ่นอับชื้น ค่ะ

บรรยากาศโถงลิฟต์ชั้นพักอาศัยจะเรียบๆ ไม่ได้ตกแต่งอะไรมากนักค่ะ แต่ได้แสงสว่างและมองเห็นวิวด้านข้างได้

โถงลิฟต์จะมีประตูกั้นกับโถงทางเดินหน้าห้องพักอาศัยนะคะ ช่วยลดเสียงรบกวนบริเวณลิฟต์ได้ดีเลย

ชั้น 8

ชั้น 8 จะเป็นชั้นที่มีทางเชื่อมระหว่างอาคาร A-B-C ค่ะ เพราะจะมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ที่อาคาร B ตรงกลาง ให้ผู้ที่พักอาศัยชั้น 8 ของอาคาร A,B สามารถเดินเข้ามาใช้งานได้เลย ส่วนชั้นอื่นๆ จะต้องเดินเชื่อมที่ชั้น 25 หรือที่ชั้น 1 นะคะ คนที่ชอบใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง อยากเดินมาใช้งานได้สะดวก แนะนำให้เลือกห้องพักอาศัยที่อาคาร B หรืออยู่ชั้น 8 ค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางประกอบไปด้วย Co-Working & Co-Living Lounge / Co-Dining & Sky Bar / Playroom / Theater และ Kid’s Room ค่ะ ถือว่าให้มาหลากหลายพอสมควร บรรยากาศส่วนกลางจะเป็นอย่างไรเราไปดูกันเลย

ทางเชื่อมระหว่างอาคาร A ไปพื้นที่ส่วนกลางที่อาคาร B จะกั้นด้วยประตูต้องแตะ Key Card ช่วยให้ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของลูกบ้านชั้นนี้ค่ะ

เดินออกมาแล้วจะมีที่นั่งเป็นโซน Semi-Outdoor กินลมชมวิวธรรมชาติๆ กันได้เลย

เดินเข้ามาในอาคาร B ก็จะเจอกับห้องต่างๆ ให้เลือกใช้งานค่ะ

ห้องแรกเรามาดูกันที่ Co-Working & Co-Living Lounge กันค่ะ ส่วนแรกจะเป็นห้องประชุมที่มีโต๊ะขนาดใหญ่ พร้อม TV ให้สามารถนั่งทำงาน และจัด Meeting ได้ รองรับการทำงานในยุคนี้ที่คนทำงานที่บ้านกันเยอะขึ้น

โซนถัดมาห้องติดกันเลยก็จะเจอกับพื้นที่นั่งทำงาน มีโต๊ะแยกให้เป็นสัดส่วน หรือจะมานั่งเล่นอ่านหนังสือตากแอร์เย็นๆ ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ก็ดีเหมือนกันค่ะ

ถักมาฝั่งตรงข้ามเป็นห้อง Co-Dining & Sky Bar เป็นห้องจัดเลี้ยงที่ต้องจองเข้ามาใช้งานนะคะ พาเพื่อนๆ มาปาร์ตี้วันเกิด หรือนัดสังสรรค์กันได้เลย เพราะทางโครงการมีชุดครัวรองรับไว้ให้ใช้งานเรียบร้อย มีเตาอยู่ตรงโต๊ะรับประทานอาหารเลยค่ะ

ด้านในเป็นเคาน์เตอร์ครัว ให้หยิบจาน ชาม แก้วน้ำต่างๆ พร้อมอ่างล้างจาน ล้างมือใช้งานได้สะดวก ด้านหลังเป็นเคาน์เตอร์ Sky Bar แม้จะอยู่ชั้น 8 แต่ก็สามารถเห็นวิวเมืองโล่งๆ ทางสุขุมวิทตอนปลายได้เลยค่ะ

ติดกันเลยก็จะมีห้องน้ำส่วนกลางรองรับไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ

ถัดมาเป็นห้อง Play Room หรือห้องสันทนาการ ที่ทางโครงการมีโต๊ะพูลมาให้เล่นกับเพื่อนๆ หรือมาเล่นกันเป็นครอบครัวได้ ด้านข้างมีพื้นที่นั่งเล่นพร้อมหมากรุกสวยๆ นั่งเล่นฆ่าเวลาได้ค่ะ

มาถึงอีกห้องที่ต้องจองเมื่อมาใช้งานเพื่อความเป็นส่วนตัวนะคะ คือห้อง Theater นั่นเอง ลูกบ้านสามารถจองมาดูหนัง ดูซีรีส์ หรือร้องคาราโอเกะ กันแบบฟินๆ เพราะทางโครงการมีโปรแกรม พร้อมไมค์คู่ มาให้เรียบร้อย

ห้องสุดท้ายคือ Kid’s Room คุณพ่อ คุณแม่สามารถพาน้องๆ หนูๆ มาวิ่งเล่น พร้อมเล่นของเล่นกันได้ที่นี่เลยค่ะ เผื่อว่าคุณผู้ใหญ่นัดคุยธุระกันในห้อง Co-Working ลูกๆ ก็มาเล่นรอในห้องนี้ได้

บรรยากาศบริเวณทางเชื่อมชั้น 8 อาคาร B กับอาคาร C

ชั้น 9 – 19

เป็นชั้นพักอาศัยแบบ Typical Floor Plan แต่ละอาคารเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม แบ่งห้องพักอาศัยออกเป็น 2 ฝั่ง ทางทิศเหนือ-ใต้ เหมือนกับชั้น 2 – 7 เลยค่ะ มีโถงทางเดินเป็นแบบ Double Corridor ปลายสุดของทางเดินทั้งสองฝั่งจะเป็นหน้าต่าง ทำให้บริเวณทางเดินมีแสงสว่างจากธรรมชาติและระบายอากาศได้ดี

ห้องพักอาศัยจะเป็นห้องแบบมาตรฐานความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.60 เมตร ประกอบด้วยห้องพักอาศัยแบบ 1 Bedroom , 1 Bedroom exclusive และ 1 Bedroom plus แต่ว่าห้องแบบ 1 Bedroom Exclusive ก็จะถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบคือห้องหน้ากว้าง กับห้องแนวลึก โดยตำแหน่งของ 1 Bedroom Exclusive แนวลึกจะอยู่ตรงกลางเป็นส่วนใหญ่ ส่วน 1 Bedroom Exclusive หน้ากว้างและ 1 Bedroom Plus จะถูกวางไว้บริเวณหัวมุมอาคารค่ะ

ชั้น 20 – 24

พอถึงช่วงชั้นสูงๆ ที่ชั้น 20 – 24 ห้องพักอาศัยจะถูกเปลี่ยนเป็นแบบ Vertical ฝ้าเพดานสูง หรือที่เรียกกันคุ้นหูว่าห้อง Loft ทั้งหมดค่ะ โดยจะมีจำนวนยูนิตต่อชั้นที่อาคาร A,B 10 ยูนิต และอาคาร C 6 ยูนิตต่อชั้นเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือฝ้าเพดานสูง 4.40 เมตร และมีห้อง 1 Bedroom Exclusive Vertical จะอยู่ตรงกลาง ส่วน 1 Bedroom Plus Vertical และ 2 Bedroom Vertical จะอยู่ตำแหน่งมุมอาคาร

ชั้น 25 

ชั้น Sky Facility ของอาคาร A,B จะอยู่ที่ชั้น 25 นะคะ ส่วนอาคาร C จะเริ่มที่ชั้น 24 -25 เลย โดยทั้ง 2 อาคารจะสามารถเดินเชื่อมถึงกันได้ บรรยากาศจะเย็นสบายเพราะมีลมแรงทีเดียวค่ะ ทัศนียภาพรอบด้านค่อนข้างกว้างเลย เพราะไม่มีอาคารสูงมาบังวิวในระยะใกล้ๆ สามารถมองเห็นวิวบางกระเจ้า อาคารสูงย่านเอกมัย – ทองหล่อได้

โดยจะมีพื้นที่ส่วนกลาง ดังนี้

– อาคาร A พื้นที่ส่วนกลางประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำ Lap Pool Sky View ระบบเกลือ ขนาดประมาณ 25.30 x 4.70 ม.
– อาคาร B พื้นที่ส่วนกลางประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำสำหรับแช่ Sky View ระบบเกลือ ขนาดประมาณ 20.30 x 4.00 ม.
– อาคาร C พื้นที่ส่วนกลางประกอบไปด้วย Private Onsen & Steam & Suana / Boxing Area & Living Area

มาดูที่อาคาร C กันก่อนนะคะ ชั้น 24 จะมีห้องซ้อมมวย เป็นห้องออกกำลังกายที่แยกออกมาจากห้อง Fitness เพื่อความเป็นส่วนตัว ซ้อมมวยกันเสียงดังได้ โดยจะมีอุปกรณ์มาให้ครบครันเลย

ด้านข้างจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน ฝ้าเพดานสูง พร้อมช่องแสงขนาดใหญ่ที่มองเห็นวิวเมืองฝั่งสุขุมวิทตอนต้นได้ ใครเบื่อๆ มานั่งอ่านหนังสือเปลี่ยนบรรยากาศชมวิวมุมสูงกันในห้องนี้ก็ได้ค่ะ Living Area จะมีชั้นลอยด้วยนะคะ ด้านบนเป็นพื้นที่นั่งเล่นและมีเตียงนอน สำหรับรองรับใครป่วย ต่อยมวยอยู่แล้วหน้ามืดก็มาพักที่นี่ก่อนได้

ถัดมาเป็นห้อง Highlight ของโครงการนี้เลยค่ะ คือ Private Onsen ให้ลูกบ้านจองเข้ามาใช้งานได้แบบเป็นส่วนตัว โดยภายในห้องจะมีอะไรบ้างเราไปชมกันเลยค่ะ

ในห้อง Private Onsen นั้นจะมีฟังก์ชันมาให้ครบเลยนะคะ เหมือนเรามาสปาแบบเต็มแพ็กเกจ เลย ไม่ว่าจะเป็นห้องอาบน้ำ ห้องน้ำส่วนตัว ห้อง Steam แยกกับห้อง Sauna ให้ใช้งานแบบจัดเต็มคนเดียวเลย

จุดเด่นของห้อง Private Onsen อยู่ที่ Panorama View เมืองฝั่งสุขุมวิท ให้ลูกบ้านมาแช่น้ำ นวดสปา ในห้องนี้พร้อมเห็นวิวเมือง และโค้งน้ำเจ้าพระยาได้กว้าง แบบไม่มีอาคารสูงมาบัง

สระว่ายน้ำที่อาคาร B เป็นสระสำหรับแช่น้ำ มีที่นั่งกลางสระมาให้ 3 จุด นั่งชมวิวได้สบายๆ ส่วนด้านข้างก็มีพื้นที่โซฟาเบดให้มานั่งอ่างหนังสือ กินลมชมวิว สบายๆ ได้เลยค่ะ

สระว่ายน้ำอาคาร B เป็นสระระบบเกลือ ขนาดประมาณ 20.30 x 4.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร ซึ่งค่อนข้างกว้างเลยค่ะ ใช้งานได้พร้อมกันหลายคน มีที่นั่งแยกเป็นส่วนตัว

ด้านข้างมีสระสำหรับเด็ก พร้อมที่นั่งด้านข้างให้ผู้ปกครองดูแลด้วยค่ะ

จากอาคาร B สามารถเชื่อมไปยังอาคาร A ได้เลย มีทางเชื่อมพร้อมชุดโซฟา ที่นั่งให้พักผ่อนบรรยากาศดีทีเดียวค่ะ เพราะชั้น 25 ในพื้นที่โล่งๆ มีลมแรงไม่ร้อนเลย

ฝั่งอาคาร A ก็มีสระว่ายน้ำแยกมาอีกสระหนึ่งเลยค่ะ ด้านข้างมีพื้นที่นั่งเล่นชมวิวแยกเป็นโซนๆ มาให้เช่นกันค่ะ

สระว่ายน้ำอาคาร A เป็นสระรูปตัว L แบบะ Lap Pool ระบบเกลือ ขนาดประมาณ 25.30 x 4.70 เมตร สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้จริงๆ อีกทั้งยังเห็นวิวกว้างแบบ Panorama เห็นพระอาทิตย์ตกฝั่งโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา และบางกระเจ้าได้เลย

ตรงมุมอาคารนี่ก็เป็นอีกหนึ่ง Highlight เลยค่ะ เพราะมีที่นั่งแบบ Sunken Deck มองเห็นวิวล้อมรอบ 270 องศา เห็นแม่น้ำเจ้าพระยา และดูพระอาทิตย์ตกดินได้

ชั้น Rooftop อาคาร A,B

อาคาร A, B บริเวณสระว่ายน้ำสามารถเดินขึ้นมาชั้น Rooftop ได้ค่ะ ด้านบนจะเป็นพื้นที่ชมวิว และเดินเล่น ส่วนอาคาร C นั้นจะมีห้อง Fitness แต่จะไม่สามารถเดินเชื่อมมาได้นะคะ ต้องขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 25 ของอาคาร C ก่อนค่ะ

ภายในห้อง Fitness ออกแบบมาค่อนข้างใหญ่เลยค่ะ มีผนังกระจก Full Height รอบด้าน ดูโปร่งสบาย พร้อมเครื่องออกกำลังกายแบบ Cardio Training และ Weight Training จำนวนกว่า 18 เครื่อง ออกกำลังกายไปด้วยมองออกมาเห็นวิวเมืองกว้างๆ และแม่น้ำเจ้าพระยาได้อีกด้วยค่ะ

ด้านในของ Fitness จะมีห้อง Yoga Area แยกเป็นส่วนตัว เผื่อใครต้องการจ้างเทรนเนอร์มาเทรนให้ส่วนตัว หรือจัดคลาสโยคะก็สามารถใช้ห้องนี้ได้ โดยไม่รบกวนกันค่ะ

บรรยากาศจากห้อง Fitness เมื่อมองไปยังอาคาร A และ B

ส่วนดาดฟ้าอาคาร A และ B จะเป็นพื้นที่เดินเล่น ออกกำลังกายและชมวิวได้รอบด้าน

บริเวณมุมอาคารฝั่งตะวันตกจะเป็นจุด Panoramic Observation Deck ไว้สำหรับชมวิว สามารถมองเห็นโค้งน้ำบางกระเจ้าได้ค่ะ

วิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาและบางกระเจ้า ฝั่งทิศตะวันตก

ชั้น 26 – 33 อาคาร C

อาคาร C เป็นอาคารที่มีความสูงกว่าเพื่อนๆ อยู่ที่ 33 ชั้นนะคะ โดยชั้น 26 – 33 ก็จะเป็นห้องพักอาศัยแบบ Vertical เหมือนกับชั้น 20 – 23 เลยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• ส่วนกลางชั้น 8 อาคาร B
  Co-Dining and Sky Bar
  Co-Working Space and Co-Living Lounge
  Playroom
  Theatre Room
  Kida Room
• ส่วนกลางชั้น 25 อาคาร A และ อาคาร B
  Swimming Pool ระบบเกลือ ลึก 1.20 ม.
  – อาคาร A มีขนาดประมาณ 25.30 x 4.70 ม.
  – อาคาร B จะมีขนาดประมาณ 20.30 x 4.00 ม.
• ส่วนกลางชั้น 24 อาคาร C
  Private Onsen and Spa Room
• ส่วนกลางชั้น 25 อาคาร C
  Panoramic Fitness จำนวน 18 เครื่อง
• ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 97 :  1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 104 : 1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 110 : 1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก C 78 : 1
• Service Lift – ตัว
• ที่จอดรถประมาณ n/a คันคิดเป็น 51 % (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card

โครงการ Modiz สุขุมวิท 50 มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 6 แบบ แบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือห้องมาตรฐานความสูงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร และห้อง Vertical ฝ้าเพดานสูง 4.40 เมตร หรือที่เรียกกันว่าห้องแบบ “LOFT” 2 ชั้นนั่นเองค่ะ

• ห้องมาตรฐาน ฝ้าเพดานสูง 2.60 เมตร

• 1 Bedroom ขนาด 23 – 24 sq.m.
• 1 Bedroom Exclusive ขนาด 26 – 35 sq.m.
• 1 Bedroom Plus ขนาด 35 – 38 sq.m.

• 1 Bedroom Exclusive Vertical Suite ขนาด 27 – 29 sq.m.
• 1 Bedroom Plus Vertical Suite ขนาด 30 – 31 sq.m.
• 2 Bedrooms Vertical Suite ขนาด 35 – 38 sq.m.

โครงการนี้ส่วนจะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom นะคะ เหมาะกับคนที่อยู่คนเดียวหรืออยู่ด้วยกัน 2 คนเป็นหลัก ต้องการคอนโดฯ ใกล้รถไฟฟ้าเพื่อเดินทางไปทำงานในเมืองเส้นสุขุมวิท หรือย่านอุตสาหกรรมช่วงสุขุมวิทตอนปลายได้สะดวก แต่ก็มีห้องใหญ่อย่าง 2 Bedroom Vertical รองรับครอบครัวเริ่มต้นประมาณ 3  – 4 คนให้เลือกด้วยค่ะ

ภายในห้องพักอาศัยมีรูปแบบการขายแบบ Fully Furnished มีชุดครัว Built-in อ่างล้างจาน, เตาไฟฟ้า 2 หัว, เครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนอากาศ จาก MEX และสุขภัณฑ์ จาก Kohler, COTTO และ American Standard พร้อมเฟอร์นิเจอร์ ดังนี้

• ตู้เก็บของด้านหน้าห้อง (เก็บรองเท้าได้)
• ชั้นวาง TV
• โซฟา 2 ที่นั่ง
• โต๊ะรับประทานอาหาร
• เก้าอี้รับประทานอาหาร 2 ตัว
• ฐานเตียง ขนาด 5 ฟุต
• ตู้เสื้อผ้า
• เครื่องปรับอากาศ

ห้องตัวอย่างแต่งครบวันนี้เราเก็บภาพมาฝากกันทั้ง 3 แบบ และห้อง Vertical เปล่าให้ชมกันอีก 2 แบบค่ะ ส่วนรีวิวเจาะลึกจะพาไปชมห้องที่มีจำนวนมากที่สุดในโครงการ นั่นก็คือ 1 Bedroom Exclusive ขนาด 26 – 35 sq.m. ฟังก์ชันลงตัวและห้องใหญ่ตำแหน่งมุมกับ 2 Bedrooms Vertical Suite ขนาด 35 – 38 sq.m. กันค่ะ

1 Bedroom Exclusive ขนาด 26 – 35 sq.m. ราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท

เริ่มกันที่ห้อง 1 Bedroom Exclusive นะคะ ห้องนี้มีจำนวนมากที่สุดในโครงการ มีจุดเด่นเลยคือฟังก์ชันที่ออกแบบได้ลงตัว เหมาะกับคนที่อยู่ 1 – 2 คน ชอบห้องครัวและห้องน้ำที่แยกเป็นสัดส่วน

• Common Area โปร่งโล่ง เชื่อมต่อพื้นที่กับห้องนอนด้วยบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่
• มีพื้นที่นั่งรับประทานอาหาร แยกเป็นสัดส่วน สามารถวางโต๊ะทานข้าว 2 ที่นั่งได้สบายๆ
• ภายในห้องมีพื้นที่ครัวปิด สามารถทำอาหารได้โดยกลิ่นไม่ฟุ้งกระจาย
• ห้องนอนกั้นเป็นสัดส่วน แต่ดูโปร่ง ไม่อึดอัด มีช่องแสงขนาดใหญ่มองเห็นวิวด้านนอกได้กว้าง
• ห้องน้ำสามารถเข้าได้จากส่วนครัว เวลามีเพื่อนมาหาสามารถเข้าห้องน้ำได้โดยไม่ต้องผ่านห้องนอนให้เสียความเป็นส่วนตัว

ประตูห้องพักอาศัยเป็นประตูลายไม้โทนสีอ่อน มีป้ายเลขที่มองเห็นได้ชัดเจน (ป้ายทางซ้ายมือ) พื้นห้องจะมีขอบยกระดับขึ้นจากโถงทางเดินเล็กน้อยไม่ให้ฝุ่นละอองเข้าไปในห้องได้ พร้อม Digital Door Lock ระบบ Key Card และรหัสมาให้ค่ะ

เข้ามาภายในห้องแล้วจะเจอกับพื้นที่ Common Area ก่อนค่ะ ห้องพักอาศัยมาตรฐานจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.60 เมตร ถือว่าไม่มากไม่น้อยจนเกินไป พื้นปูด้วยแผ่น Smart Vinyl ให้ความรู้สึกอบอุ่น สบายเท้า* เชื่อมต่อกันไปจนถึงห้องนอน และส่วนครัว ภายในห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อไปยังห้องนอนด้วยประตูบานเลื่อน Full Height 3 ตอน ทำให้ภายในห้องดูโปร่งเชื่อมต่อกัน และได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาทั่วถึงบริเวณห้องนั่งเล่นได้ค่ะ

*อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ >> เปรียบเทียบ 7 วัสดุพื้นลายไม้ภายในบ้าน

ด้านหน้าห้องเป็นพื้นที่โซนนั่งเล่น มีขนาดประมาณ 2.50 – 3.50 เมตร สามารถวางโซฟา 2 – 3 ที่นั่ง และ Built-in ชั้นวาง TV ได้สบายๆ มีพื้นที่เดินไปมาสะดวก ซึ่งเมื่อวางเฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการให้มาแล้วก็จะดูพอดีๆ ใครที่ชอบโต๊ะกลาง ไว้วางขนม วางรีโมต แนะนำให้วางโต๊ะเล็กๆ ด้านข้างแทนค่ะ

ด้านหน้าห้องทางโครงการมีตู้เก็บของมาให้ สามารถวางรองเท้า และเก็บของที่หยิบใช้งานบ่อยๆ ก่อนออกจากห้องได้ ซึ่งถือว่าดีเลยค่ะ เพราะคอนโดห้องที่มีพื้นที่ไม่เยอะมากนักมักจะมีปัญหาในการหาที่เก็บรองเท้า ซึ่งที่นี่เขาก็ทำไว้ให้เรียบร้อยเลย

ห้องนี้มีระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 2.20 เมตร สำหรับใครที่เป็นคอซีรีส์ ชอบดูหนังฟังเพลงที่อยู่ห้อง ก็สามารถเลือก TV ขนาดใหญ่ 46 นิ้วขึ้นไปได้เลยค่ะ

เฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการให้มานะคะ จะมีโซฟาเบด 2 ที่นั่ง สามารถทำเป็นเตียงนอนรับแขกได้ (คนละแบบกับในห้องตัวอย่างนะ) มีชั้นวาง TV พร้อมช่องเก็บของและลิ้นชัก หน้าตาแบบเดียวกับในห้องตัวอย่างเลยค่ะ

นอกจากนั้นยังมีระบบ Bluetooth Sound System เป็นระบบเสียงลำโพงติดตั้งมาให้ภายในห้องพักอาศัยเป็นเอกลักษณ์ของ Asset Wise เขาเลยค่ะ ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถเปิดเพลงเชื่อมต่อกับโทรศัพท์เพื่อฟังชิลๆ ภายในห้องได้ทุกยูนิต

นอกจากนั้นยังมีระบบ Thermostat สามารถตั้งค่าอุณหภูมิภายในห้อง เชื่อมต่อกับพัดลมดูดอากาศภายในห้องน้ำได้ เช่น ถ้าเราตั้งที่ 35 องศาเซลเซียส ถ้าอุณหภูมิภายในห้องถึง 35 พัดลมดูดอากาศจะทำงานอัตโนมัติ ช่วยให้เวลาที่เราไม่อยู่ในห้องก็ยังระบายอากาศให้ห้องไม่ร้อนจนเกินไปได้ค่ะ

ส่วนห้องครัวนั้นจะได้เป็นประตูบานเลื่อนกระจกปิดแยกเป็นสัดส่วนได้ค่ะ เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารจริงจัง ไม่ชอบให้กลิ่นอาหารฟุ้งกระจายภายในห้อง แต่ก็ยังดูโปร่งสบาย มองเห็นกันได้อยู่ค่ะ

ส่วนครัวทางโครงการ Built-in เคาน์เตอร์มาให้เรียบร้อยแบบเดียวกับในห้องตัวอย่างเลยค่ะ ด้านข้างเป็นพื้นที่วางตู้เย็นเหมาะกับตู้เย็นบานเปิดเดี่ยว เหลือที่ด้านข้างนิดหน่อย มีพื้นที่ยืนทำอาหารกว้างประมาณ 0.90 เมตร สามารถใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้สบายๆ

เคาน์เตอร์มีพื้นที่เตรียมอาหารพอสมควรเลยค่ะ ด้านหลังติดตั้ง Backsplash กระจกมาให้ด้วย ทำให้เช็ดทำความสะอาดคราบมันต่างๆ ได้ง่าย

บริเวณเคาน์เตอร์ติดตั้งอ่างล้างจาน สเตนเลสทรงสี่เหลี่ยม, เตาไฟฟ้า 2 หัว และเครื่องดูดควันชนิดหมุนเวียนอากาศ จากแบรนด์ MEX มาให้ เป็นแบรนด์เครื่องครัวมาตรฐานที่เห็นได้ตามคอนโดมิเนียมหลายแห่งค่ะ

ตู้เก็บของภายในครัวให้มาค่อนข้างเยอะ ยาวตลอดแนวเลยค่ะ ด้านบนเป็นตู้บานเปิดขนาดใหญ่ เก็บอุปกรณ์ทำครัวต่างๆ เก็บจานชามได้มิดชิด ไม่ต้องกลัวมีแมลงเข้าไปค่ะ

ส่วนด้านล่างออกแบบให้มีช่องสำหรับวางเตาไมโครเวฟช่วยประหยัดพื้นที่เตรียมอาหารด้านบนเคาน์เตอร์ ด้านขวามีช่องเก็บของไว้เก็บอุปกรณ์ครัว ส่วนช่องใหญ่ใต้อ่างล้างจานสามารถเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดห้อง หรือวางถังขยะเพิ่มเติมได้ค่ะ

ส่วนครัวยังเชื่อมต่อกับระเบียงทำให้เราสามารถเปิดระบายกลิ่น ระบายอากาศได้เต็มที่เลย นอกจากนั้นบริเวณระเบียงเขายังมีงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องซักผ้ามาให้ด้วยนะคะ ส่วนด้านบนจะมี Condensing Units แขวนอยู่ ถ้าออกมาใช้งานบ่อยๆ แนะนำให้ติดแผงเปลี่ยนทิศทางลมเพิ่มเติม บริเวณระเบียงจะได้ไม่ร้อนค่ะ

มาดูภายในห้องน้ำกันค่ะ ห้องน้ำจะตกแต่งด้วยโทนสีครีม ดูเนียนสะอาดตา แบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน พื้นห้องน้ำจะลดระดับจากพื้นห้องเล็กน้อยทำให้เวลาล้างห้องน้ำไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะไหลออกมาเปียกด้านนอก มีฉากกั้นอาบน้ำ และพัดลมดูดอากาศมาให้เรียบร้อยเลยค่ะ

ภายในห้องน้ำจะได้กระจกเงาบานใหญ่ ช่วยพรางตาให้ห้องน้ำดูกว้างมากขึ้น พร้อมติดตั้งอ่างล้างหน้าแบบมีช่องเก็บของด้านล่างมาให้ เก็บสบู่ แชมพูสำรอง หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ ได้ จาก Cotto พร้อมโถสุขภัณฑ์ จาก Kohler หรือเทียบเท่า

พื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นกระจกบานเลื่อน 3 ตอนมาให้ ช่วยให้น้ำไม่กระเด็นออกมาเปียกส่วนแห้งเวลาอาบน้ำ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเองได้หลักพันบาทเลยค่ะ ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.90 x 1.30 เมตร ยืนอาบหมุนตัวได้สบายๆ ค่ะ ได้ฝักบัวสายอ่อน จาก Englefield หรือเทียบเท่า พร้อมชั้นวางของด้านข้าง และเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ

ประตูห้องนอนเป็นประตูบานเลื่อนกระจก Full Height สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 3 ตอนกรอบบาน Powder Coating สีดำ ทำให้ห้องดูโปร่งกว้าง ซึ่งห้องแบบนี้จะเหมาะกับคนที่ชอบบรรยากาศภายในดูโปร่งเชื่อมต่อถึงกัน รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะ แต่อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ชอบห้องนอนผนังทึบนะคะ ถ้าใครต้องการความเป็นส่วนตัวแนะนำให้ติดผ้าม่านเพิ่มค่ะ

ภายในห้องนอนมีพื้นที่ประมาณ 2.50 x 3.45 เมตร เหมาะกับเตียง 5 ฟุต พอดีๆ ซึ่งทางโครงการก็มีฐานเตียงมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ ส่วนปลายเตียงจะเหลือพื้นที่เดินได้สบายๆ แต่ถ้าใครจะติดตั้ง TV ก็แนะนำให้ติดตั้งแบบแขวนผนังนะคะ ภายในห้องนอนจะอยู่ติดกับหน้าต่างช่องแสงขนาดใหญ่ให้สามารถนอนดูวิวได้สบายๆ พร้อมกับช่องเปิดระบายอากาศได้ 1 จุดค่ะ

ส่วนอีกฝั่งหนึ่งของเตียงจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ค่ะ มีพื้นที่ยืนแต่งตัวได้สบายๆ

ส่วนตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเปิด 2 บาน หน้าบานลายไม้ทึบ ภายในตู้เสื้อผ้าจะมีช่องเก็บของ และลิ้นชักมาให้ 2 ช่อง ไว้เก็บถุงเท้า ผ้าขนหนู และด้านข้างสามารถวางกระเป๋าเดินทางได้ ส่วนด้านบนจะมีช่องมาให้เก็บหมอน ผ้านวมต่างๆ ได้ค่ะ

1 Bedroom ขนาด 23.08 – 23.34 sq.m. ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท

ห้อง 1 Bedroom เป็นห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการเลยค่ะ ราคาเข้าถึงง่าย พื้นที่ภายในกะทัดรัด ถ้าใครที่ต้องการอยู่คนเดียวอยู่แล้ว ไม่ต้องการพื้นที่ใช้สอยมากนัก ห้องนี้ก็เหมาะนะคะ มีจุดเด่น ดังนี้

• การวางผังคล้ายกับโรงแรม เข้าห้องมาแล้วเจอกับส่วนครัวอยู่ด้านหน้าห้อง เป็นครัวเปิดพื้นที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น อาจไม่เหมาะกับการทำอาหารจริงจังมากนัก
• เน้นความโปร่งสบาย ภายในห้องกั้นพื้นที่ห้องนอนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ทำให้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างเข้ามาได้ทั่วถึงทั้งห้อง
• ห้องนอนกั้นเป็นสัดส่วน มีระเบียงส่วนตัวภายใน สามารถตากผ้า หรือเปิดระบายอากาศภายในห้องได้ดี
• ห้องน้ำสามารถเข้าได้จากส่วนหน้าห้อง เวลามีเพื่อนมาหาสามารถเข้าห้องน้ำได้โดยไม่ต้องผ่านห้องนอนให้เสียความเป็นส่วนตัว

2 Bedrooms Vertical Suite ขนาด 35.35 – 36.30 sq.m. ราคาเริ่มต้น 6.89 ล้านบาท 

ห้องถัดมาเป็นห้องขนาดใหญ่ที่สุดในโครงการ คือ 2 Bedrooms Vertical Suite เป็นห้องฝ้าเพดานสูง 2 ชั้น จะอยู่ตำแหน่งมุมอาคารทางทิศตะวันตก มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา และโค้งน้ำบางกระเจ้าได้ค่ะ โดยฟังก์ชันภายในมีจุดเด่น ดังนี้

• Common Area โปร่งกว้าง ด้วยความสูงฝ้าเพดาน 4.40 เมตร ทำให้บรรยากาศภายในห้องโปร่งสบายเชื่อมต่อพื้นที่รับประทานอาหารกับห้องนั่งเล่น วางโต๊ะทานข้าวได้ถึง 4 ที่นั่งเลย
• กระจกเข้ามุม บริเวณห้องนั่งเล่น เป็นกระจกบานสูงเกือบเต็มผนัง ทำให้มองเห็นวิวกว้างเชื่อมต่อกันได้ 2 ฝั่ง และมีแสงธรรมชาติเข้ามาทั่วถึงทั้งห้อง
• ครัวปิดแยกเป็นสัดส่วน ห้องครัวขนาดไม่ใหญ่มากแต่ฟังก์ชันครบ สามารถทำอาหารเบาๆ หรืออุ่นอาหารรับประทานได้สบายๆ
• ห้องน้ำเข้าได้ 2 ทาง สามารถเข้าได้จากห้องนอนชั้นล่าง และจากห้องครัวได้ ถือว่าใช้งานได้สะดวก
• ห้องนอนชั้นล่างติดระเบียง มีระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ มองเห็นวิว และเอาเก้าอี้ออกไปนั่งเล่นได้กรุบกริบ
• ห้องนอนชั้นลอยขนาดใหญ่ พื้นที่ชั้นลอยสามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุต พร้อมโต๊ะข้างเตียงและโต๊ะเครื่องแป้งได้สบายๆ มีมุม Walk-in Closet ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ให้คนชอบแต่งตัวเก็บเสื้อผ้าได้จุใจค่ะ

เข้ามาภายในห้องแล้วจะเป็นพื้นที่ Common Area ก่อนค่ะ บรรยากาศภายในจะมีความโปร่งกว้าง ด้วยความสูงฝ้าเพดาน 4.40 เมตร และมีช่องแสงขนาดใหญ่เข้ามุมที่ผนังห้องนั่งเล่น ทำให้ภายในห้องสว่างทั่วถึงกัน มีพื้นที่รับประทานอาหารเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น และมองขึ้นไปที่ชั้นลอยได้

Highlight ของห้องนี้คือห้องนั่งเล่นจะมองเห็นวิวได้กว้าง โปร่ง สบายเลยค่ะ เนื่องจากเป็นห้องที่อยู่ตำแหน่งมุมอาคาร และได้กระจกเข้ามุมบานใหญ่แบบ Full Height ด้วย ทำให้นั่งดู TV ไปด้วย เห็นวิวพระอาทิตย์ตกที่แม่น้ำเจ้าพระยาไปด้วยค่ะ

ห้องนั่งเล่น มีพื้นที่ประมาณ 2.50 – 2.60 เมตร สามารถวางโซฟา 2 – 3 ที่นั่งและชั้นวาง TV ได้สบาย มีพื้นที่วางโต๊ะกลางได้นิดหน่อยนะคะ แต่ถ้าอยากให้ห้องดูกว้างก็จะแนะนำให้วางเป็นโต๊ะเล็กๆ ด้านข้างแทนค่ะ ห้องนี้มีระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 2.20 เมตร สำหรับใครที่เป็นคอซีรีส์ เหมาะกับวาง TV ขนาดใหญ่ 46 นิ้วขึ้นไปได้เลยค่ะ

ต่อมาเราไปดูห้องด้านใต้ชั้นลอยกันบ้างนะคะ ภายในมีทั้งหมด 3 ฟังก์ชัน คือ ห้องนอน ห้องน้ำ และห้องครัว โดยจะแบ่งทางเข้าเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งซ้ายคือห้องนอน และฝั่งขวาเป็นห้องครัวกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกเหมือนกันเลยค่ะ ทำให้ภายในห้องเชื่อมต่อถึงกัน และดูกว้างมากขึ้น

มาดูห้องครัวกันก่อนนะคะ ฝั่งซ้ายมือจะเป็นพื้นที่วางตู้เย็นกว้างประมาณ 1.20 เมตร มีช่องเก็บของด้านบน ใครที่วางตู้เย็นประตูเดี่ยวก็สามารถทำชั้นวางของเล็กๆ หรือวางกระถางต้นไม้ตกแต่งเพิ่มเติมได้

ฝั่งขวามือเป็นพื้นที่เคาน์เตอร์ครัวขนาดกะทัดรัด แต่ใช้ประโยชน์ได้เต็มที่นะคะ เพราะเขาทำช่องสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้ามาให้ด้วย ไม่ต้องออกไปซักผ้าที่ระเบียงให้ยุงกัดค่ะ บริเวณเคาน์เตอร์ครัวด้านหลังติดตั้ง Backsplash กระจกมาให้ด้วย ทำให้เช็ดทำความสะอาดง่าย พร้อมเตาไฟฟ้า 2 หัว และเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียนอากาศมาให้ อาจจะระบายอากาศได้ไม่มากนัก แต่สามารถใช้พัดลมดูดอากาศในห้องน้ำช่วยได้อีกแรงค่ะ

ตู้เก็บของห้องนี้ด้านบนเป็นตู้บานเปิด เก็บอุปกรณ์ทำครัวต่างๆ ได้มิดชิดไม่ต้องกลัวมีแมลงเข้าไปค่ะ ส่วนด้านล่างจะเป็นลิ้นชักทั้งหมดเลย เสียดายนิดนึงที่ไม่ได้มีพื้นที่วางไมโครเวฟมาให้นะคะ

ใต้บันไดอีกส่วนหนึ่งจะเป็นอ่างล้างจานสเตนเลสทรงสี่เหลี่ยม มีช่องเก็บของด้านล่างพอให้ใช้งานได้ แต่อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารทานเอง แบบจริงจังมากนัก

มาดูห้องนอนกันค่ะ ห้องนอนชั้นล่างเป็นห้องที่ได้ความเป็นส่วนตัวนะคะ เพราะกั้นด้วยประตูกระจกเรียบร้อย ภายในมีความสว่างและโปร่งจากประตูบานเลื่อนกระจกเต็มบานบริเวณระเบียง

ห้องนี้มีพื้นที่ประมาณ 2.00 x 2.80 เมตร วางเตียงขนาด 5 ฟุตได้พอดีๆ แต่ถ้าใครที่ไม่ได้ต้องการห้องนอนที่ 2 ก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน ห้องออกกำลังกาย หรือห้องอเนกประสงค์ได้ตามความชอบเลยค่ะ

ประตูระเบียงจะเป็นบานเลื่อนกระจก 3 ตอน แสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะ สามารถนอนชมวิวภายนอกได้เลยค่ะ

ระเบียงห้องนี้จะได้ค่อนข้างยาวเลยค่ะ มีพื้นที่ประมาณ 0.70 x 2.80 เมตร มีท่องานระบบให้ติดตั้งเครื่องซักผ้าเพิ่มเติมได้ พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิก ทำความสะอาดง่าย ส่วน Condensing Units จะถูกแขวนอยู่ด้านบนทำให้ใช้งานระเบียงได้เต็มที่เลย

ห้องน้ำจะตกแต่งด้วยโทนสีครีม แบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจนเช่นกันค่ะ พื้นห้องน้ำจะลดระดับจากพื้นห้องเล็กน้อยทำให้เวลาล้างห้องน้ำไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะไหลออกมาเปียกด้านนอก มีฉากกั้นอาบน้ำ และพัดลมดูดอากาศมาให้เรียบร้อยแล้ว

ห้องน้ำสามารถเข้าได้ 2 ทาง จากห้องนอนชั้นล่างและจากห้องครัว ใช้งานได้สะดวก

ภายในห้องน้ำจะได้กระจกเงาบานสูง พร้อมอ่างล้างหน้าแบบมีช่องเก็บของด้านล่างมาให้ เก็บสบู่ แชมพูสำรอง หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ ได้ จาก Cotto

ได้โถสุขภัณฑ์สีขาวพร้อมสายชำระ และที่แขวนกระดาษชำระ จาก Kohler หรือเทียบเท่า

พื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นกระจกบานเลื่อน 3 ตอนมาให้ มีพื้นที่ยืนอาบน้ำประมาณ 0.90 x 1.30 เมตร ยืนอาบหมุนตัวได้สบายๆ ค่ะ ได้ฝักบัวสายอ่อน จาก Englefield หรือเทียบเท่า พร้อมชั้นวางของด้านข้าง และเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยเช่นกันค่ะ

ดูชั้นล่างกันไปแล้วออกมาดูชั้นลอยกันบ้างค่ะ บันไดทางขึ้นชั้น 2 จะอยู่ทางด้านหน้าห้อง มีขนาดกะทัดรัดหน่อยนะคะ เหมาะกับคนตัวเล็กๆ

ขึ้นมาชั้นลอยมีพื้นที่ประมาณ 16 ตารางเมตรเลยค่ะ ซึ่งถือว่าค่อนข้างกว้างสามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุตได้สบายๆ

1 Bedroom Exclusive Vertical Suite ขนาด 27.63 – 28.13 sq.m. ราคาเริ่มต้น 4.59 ล้านบาท

ห้อง 1 Bedroom Exclusive Vertical Suite เป็นห้องไซส์เริ่มต้นของ Vertical ฝ้าเพดานสูงค่ะ ภายในจะเน้นความโปร่งสบาย เหมาะกับอยู่ 1 – 2 คน ที่ชอบบรรยากาศห้องแบบ Loft ห้องนี้มีจุดเด่น ดังนี้

•  Common Area โปร่งกว้าง ด้วยความสูงฝ้าเพดาน 4.40 เมตร ทำให้บรรยากาศภายในห้องโปร่งสบายเชื่อมต่อพื้นที่รับประทานอาหารกับห้องนั่งเล่น วางโต๊ะทานข้าวได้ถึง 2 – 4 ที่นั่งเลย
• ห้องนั่งเล่น ติดหน้าต่างเป็นกระจกบานสูงเกือบเต็มผนัง ทำให้มองเห็นวิวกว้าง มีแสงธรรมชาติเข้ามาทั่วถึงทั้งห้อง และออกไปยังระเบียงได้
• เข้ามาแล้วเจอกับห้องครัวปิด ห้องครัวขนาดไม่ใหญ่มากแต่ฟังก์ชันครบ สามารถทำอาหารเบาๆ หรืออุ่นอาหารรับประทานได้ กลิ่นไม่ฟุ้งกระจาย
• ห้องน้ำสามารถเข้าได้จากส่วนกลาง เวลามีเพื่อนมาหาสามารถเข้าห้องน้ำได้โดยไม่ต้องผ่านห้องนอนให้เสียความเป็นส่วนตัว แต่อาจจะไกลจากห้องนอนไปสักนิดนะคะ
• ห้องนอนชั้นลอย แยกเป็นสัดส่วนจากชั้นล่าง พื้นที่ชั้นลอยสามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุต พร้อมโต๊ะข้างเตียงได้สบายๆ

1 Bedroom Plus Vertical Suite ขนาด 29.89 – 30.82 sq.m. ราคาเริ่มต้น 5.89 ล้านบาท

ห้อง 1 Bedroom Plus Vertical Suite เป็นห้องที่มีฟังก์ชันครบเลยนะคะ สามารถอยู่ 2 คนไปจนถึงครอบครัวเริ่มต้นที่มีลูกเล็กได้เลย ภายในห้องจะได้พื้นที่ใช้สอยแยกเป็นสัดส่วน มีจุดเด่น ดังนี้

• ห้องครัวปิดขนาดใหญ่ อยู่ด้านหน้าห้อง สามารถวางโต๊ะทานข้าว 4 ที่นั่งภายในครัวได้เลย เหมาะกับคนที่ชอบพื้นที่แยกเป็นสัดส่วนกันชัดเจน
• ห้องน้ำสามารถเข้าได้จากส่วนครัว เวลามีเพื่อนมาหาสามารถเข้าห้องน้ำได้โดยไม่ต้องผ่านห้องนอนให้เสียความเป็นส่วนตัว แต่อาจจะไกลจากห้องนอนไปสักนิดเนื่องจากเป็นห้อง Loft 2 ชั้น
• ห้องนั่งเล่น ติดหน้าต่างเป็นกระจกบานสูงเกือบเต็มผนัง บรรยากาศโปร่งโล่ง ทำให้มองเห็นวิวกว้าง มีแสงธรรมชาติเข้ามาทั่วถึงทั้งห้อง
• ห้องอเนกประสงค์อยู่ชั้นล่าง สามารถปรับเป็นห้องนอน ห้องทำงาน ห้องออกกำลังกาย ยืดหยุ่นตามความชอบของเจ้าของห้อง ห้องนี้ยังได้ระเบียงส่วนตัวออกไปชมวิวได้
• พื้นที่ชั้นลอยขนาดใหญ่ สามารถแบ่งเป็นพื้นที่ห้องนอน และพื้นที่ Walk-in Closet พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง และโต๊ะทำงานส่วนตัวออกจากกันได้ เหมาะกับคนที่ชอบห้องนอนเป็นสัดส่วน ไม่เปลืองแอร์ เพราะกั้นห้องนอนปิดได้เลยค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

Modiz Sukhumvit 50 ราคา ณ วันที่ 25 มีนาคม 2564

• 1 Bedroom ขนาด 23 – 24 sq.m.
  – ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท
  
• 1 Bedroom Exclusive ขนาด 26 – 35 sq.m.
  – ราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท
  
• 1 Bedroom Plus ขนาด 35 – 38 sq.m.
  – ราคาเริ่มต้น 3.89 ล้านบาท 
• 1 Bedroom Exclusive Vertical Suite ขนาด 27 – 29 sq.m.
  – ราคาเริ่มต้น 4.59 ล้านบาท
  
• 1 Bedroom Plus Vertical Suite ขนาด 30 – 31 sq.m.
  – ราคาเริ่มต้น 5.89 ล้านบาท
  
• 2 Bedrooms Vertical Suite ขนาด 35 – 38 sq.m.
  – ราคาเริ่มต้น 6.89 ล้านบาท 
• รูปแบบการขาย Fully Furnished
•  2.60 เมตร ในแบบห้องปกติ และ 4.40 เมตร ในแบบห้อง Vertical
• Kitchen & Sink / ท็อป –
• Hob & Hood / ของยี่ห้อ MEX
• มีรถ Shuttle Van ไปกลับ BTS อ่อนนุช
• เงินจอง 5,000 บาท ฟรี ทำสัญญา
• ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
• ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 80  บาท/ตร.ม./เดือน สำหรับห้องปกติและ ห้อง Vertical

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล :

โครงการ MODIZ สุขุมวิท 50 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 50 บริเวณท้ายซอย มี 2 ทางเข้า – ออกเชื่อมต่อกับถนนทางรถไฟสายเก่าปากน้ำ ห่างจาก BTS อ่อนนุชประมาณ 1.4 กม. เดินทางสะดวกเชื่อมต่อได้ทั้งสุขุมวิท , พระราม 4 , ทางรถไฟสายเก่าปากน้ำ ใกล้ทางด่วน 2 เส้น ใกล้แหล่ง Shopping อย่าง Lotus อ่อนนุช , Century Movie Plaza อ่อนนุช , Beacon สุขุมวิท 50 , ตลาดอ่อนนุช พร้อมทั้งโรงพยาบาล และสถานศึกษา มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

บรรยากาศรอบๆโครงการจะเป็นพื้นที่โล่ง และพื้นที่โรงงานบริเวณท่าเรือ มีรถใหญ่วิ่งผ่านถนนเส้นทางรถไฟสายเก่าปากน้ำค่อนข้างเยอะ แต่ในระยะใกล้ๆ ก็มีร้านค้า ร้านสะดวกซื้อที่สามารถเดินได้สบายๆค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ :

การเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัว ถือว่าสะดวกเลยทีเดียวค่ะ เพราะโครงการอยู่ติดกับซอยสุขุมวิท 50 เมื่อขับออกมาก็จะเชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิท เดินทางเข้าเมืองได้สะดวกส่วนถนนทางรถไฟสายเก่าปากน้ำก็จะพาเราไปยังโซนพระราม 4 ได้ง่าย อีกทั้งยังใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนทั้ง 2 ทางด่วนคือ ทางด่วนฉลองรัช และทางด่วนเฉลิมมหานคร ถือว่าเป็นทำเลที่มีทางเลือกในการเดินทางเยอะพอสมควร แต่ก็มีข้อควรระวังเล็กน้อยเนื่องจากเป็นซอยที่ลัดขึ้นทางด่วน ออกถนนรถไฟสายเก่าปากน้ำและไปสุขุมวิทได้จึงทำให้ในซอยนี้ติดเกือบตลอดทั้งวัน ซึ่งก็ควรจะเผื่อเวลาในการเดินทางกันหน่อยค่ะ โดยโครงการจะจัดที่จอดรถมาให้ประมาณ 51% เป็น Automatic Parking ทั้งหมด ซึ่งก็ถือว่าให้มาพอสมควรเลย เพราะยังมีตัวเลือกการเดินทางสาธารณะอีกค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

โครงการมีรถ Shuttle Van รับ-ส่ง ที่ BTS อ่อนนุชค่ะ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลือกการเดินทางด้วยรถสาธารณะได้ดีเลย เหมาะกับคนที่ทำงานอิงเส้นทางรถไฟฟ้า เช่น อโศก พร้อมพงษ์ สยาม เป็นต้น แต่ถ้าไม่อยากรอรถของทางโครงการ ด้านหน้าฝั่งตรงข้ามก็มีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการอยู่ด้วยค่ะ

วัสดุ :

โครงการมีรูปแบบการขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ Built-In และลอยตัว พร้อมเข้าอยู่ได้เลย เพียงแค่ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มอีกนิด ติดผ้าม่านอีกหน่อยก็อยู่ได้แล้วค่ะ สำหรับเฟอร์ Built-In ที่ให้มาขนาดเหมาะสมลงตัว ส่วนวัสดุทั่วไปอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตามราคา ได้พื้น Smart Vinyl ในห้องนอน กระเบื้องแกรนิตโต้ที่ห้องน้ำ ชุดครัวพร้อม Hob & Hood จาก MEX ส่วนผนังและฝ้าเพดานได้ฉาบเรียบทาสี ไฟได้ดาวน์ไลท์ มีลำโพงและ Bluetooth system และ Temperature control ให้ตามสไตล์ของ AssetWise

การออกแบบ :

การออกแบบโครงการถือว่าทำได้ดีนะคะ แบ่งอาคารออกเป็น 3 ตึก ทำให้แต่ละตึกนั้นมีความหนาแน่นไม่มากนัก มีจำนวนยูนิตต่อชั้นไม่เกิน 10 ยูนิต ได้ความเป็นส่วนตัวสูง ออกแบบให้พื้นที่ส่วนกลางกระจายอยู่ทั้งชั้นล่างๆ (ชั้น 8) และชั้น Sky Facility ชั้น 25 สามารถเดินเชื่อมกันได้ บรรยากาศจริงในพื้นที่ส่วนกลางน่าใช้งาน วางผังห้องพักอาศัยขนาดใหญ่อยู่ตรงมุมอาคารมองเห็นวิวได้ 2 ฝั่ง และชั้นสูงๆ เป็นห้องแบบ Loft ได้ความโปร่งสบาย และเห็นวิวกว้าง

ส่วนการออกแบบห้องพักอาศัยมีให้เลือกหลายแบบทีเดียวค่ะ มีทั้งห้องมาตรฐานความสูงปกติ 3 แบบ และห้องแบบ Loft ฝ้าเพดานสูง 4.40 เมตร อีก 3 แบบ ฟังก์ชันค่อนข้างลงตัว มีให้เลือกทั้งแบบครัวปิด หรือเชื่อมต่อกับ Common Area กั้นห้องต่างๆ ด้วยประตูบานเลื่อนกระจก Full Height ทำให้ดูโปร่งสบาย

สาธารณูปโภค :  

พื้นที่ส่วนกลางถือว่าให้มาค่อนข้างเยอะเลยค่ะ เพียงพอต่อจำนวนยูนิต มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ด้านหน้าโครงการ พื้นที่นั่งเล่น นั่งทำงานที่ชั้น 8 และมีจุดเด่นเลยคือ Sky Facility วิวเมือง วิวแม่น้ำเจ้าพระยา และบางกระเจ้า ได้สระว่ายน้ำ 2 สระ ความยาว 20 , 27 เมตร ว่ายออกกำลังกายได้ฟินๆ มีห้อง Private Onsen ฟังก์ชันครบ, ฟิตเนสแบบ Panoramic View ถือว่าน่าใช้งานทีเดียวค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 100,000 – 130,000 บาท/ตร.ม., วันที่ 15 มีนาคม 2564

• ทำเล 7.75/10 – อยู่ในซอยสุขุมวิท 50 ปากซอยมีความอุดมสมบูรณ์สูง เดินทางสะดวก
• เดินทางด้วยรถ 8/10 – ใกล้ทางด่วน 2 เส้น มีทางออกเชื่อมกับถนนหลายสาย
• ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ห่างจาก BTS อ่อนนุชประมาณ 1.4 กม. มีรถรับ-ส่ง มีวินฯ
• วัสดุ 7.5/10 – ให้มามาตรฐานตามราคา ได้แบบ Fully Furnished พร้อมอยู่ และระบบ Bluetooth Sound System, Thermostat
• แบบ 8.25/10 – ออกแบบโครงการมีความเป็นส่วนตัว ห้องพักอาศัยหลากหลาย ฟังก์ชันลงตัว
• สาธารณูปโภค 8.5/10 – มีพื้นที่ส่วนกลางหลายฟังก์ชัน สระว่ายน้ำ 2 สระ วิวแม่น้ำเจ้าพระยา

• UPPER CLASS
• 7.88 / 10.00

Modiz Sukhumvit 50 เหมาะกับใคร

โครงการ Modiz สุขุมวิท 50 เหมาะกับคนที่มองหาที่อยู่ใกล้ที่ทำงานในเมือง หรือย่านสุขุมวิท ต้องการซื้ออยู่เองเป็นหลัก การเดินทางใช้ทั้งทางด่วน และรถไฟฟ้าได้สะดวก (มีรถรับ – ส่ง BTS อ่อนนุช) ชอบใช้งาน Facility หลากหลาย ชอบวิวโปร่ง มองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาได้ มีห้อง LOFT ฝ้าเพดานสูง ให้เลือก ได้เฟอร์ครบพร้อมอยู่ ในราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท มีงบประมาณระดับ 2.5 – 7.5 ล้านหรือมีกำลังผ่อนประมาณ 17,500 – 52,500 บาท/เดือน

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc