รีวิวโครงการ

คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.150 – รีวิวคอนโด Maestro 39

9 สิงหาคม 2015

อ่านรีวิวล่าสุด

maseto 9

รีวิวฉบับที่ 387 … Maestro 39 เป็นคอนโดมิเนียม Compact Low-Rise แห่งแรกบน Brand ของ Maestro จาก Major Development ซึ่งแบรนด์ Maestro จะมีเพิ่มขึ้นอีก 2-3 โครงการในปีนี้บนทำเลต่างๆกันไป วันนี้ฝนจะเอาข้อมูลมารีวิวให้ชาว Think of Living ได้พิจารณากันเช่นเคยคะ

โครงการนี้ขนาดค่อนข้าง Compact เน้นความเป็นส่วนตัว มี Sale Office ตั้งอยู่บริเวณที่ตั้งโครงการ แต่ไม่มีห้องตัวอย่างนะคะ โครงการนี้จะเริ่มก่อสร้างปี 2557 คาดว่าจะเสร็จภายในปลายปี 2558 ค่ะ

Fact @ 15 July 2013

  • Maestro 39
  • บริษัท Major Development จำกัด (มหาชน)
  • HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร รวม 90 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 15 ยูนิต
  • จอดรถชั้น G และใต้ดิน B1, B2 ที่จอดรถ 66 คัน คิดเป็น 74% ไม่รวมซ้อนคัน
  • ที่ดินประมาณ 1-0-4ไร่
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2558
  • Studio ไม่มี
  • 1 Bedroom 30 – 36 ตารางเมตร
  • 2 Bedrooms 51 – 91.5 ตารางเมตร
  • 3 Bedrooms 81.5 – 122 ตารางเมตร
  • ราคาเริ่มต้น 3.2 ล้านบาท
  • ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 110,000 – 120,000 บาท
  • http://maestroresidences.com
  • โทร 02 – 259 – 9911

กด LIKE เพื่อให้กำลังใจทีมงานกันคะ 🙂

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด 13.73962,100.572564

Maestro 39 ชื่อโครงการแอบบอกที่ตั้งของโครงการที่ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39  ซอยนี้เข้าออกได้หลายทางจริงๆ สำหรับคนที่อาศัยการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวแล้วละก็ การเข้าถึงซอยสุขุมวิท 39 มีได้หลายเส้นทางค่ะ แต่ต้องสังเกตุเรื่องการเดินรถ เพราะจะมีทั้งเดินรถทางเดียวและสองทางคะ ถ้าเข้ามาจากทางถนนเพชรบุรี 800 เมตร ถึงโครงการ ส่วนถ้าจะออกไปใช้บริการรถไฟฟ้า ออกไปตามทางเดินรถเลย(หน้าโครงการรถเดินทางเดียว 2 เลนค่ะ) ประมาณ 1.2 กิโลเมตรถึงสถานีพร้อมพงษ์ มี Shuttle Service ให้บริการค่ะ

map3

อธิบายกันคร่าวๆก่อน เส้นทางที่ฝนใช้วันนี้ จากในรูปด้านบนคือเส้นสีแดงอ่อน ตามลูกศรค่ะ คือ เข้ามาจากทางถนนสุขุมวิทมาจากฝั่ง Emporium แล้วไปกลับรถหน้าตรงหน้าซอยสุขมวิท 31 ขับไปเข้าซอยสุขุมวิท 39 เลี้ยวซ้ายเข้าซอยพร้อมจิต ไปทะลุซอยสุขุมวิท 31 เลี้ยวขวา ไปทางซอยสวัสดี เพื่อเข้ามาซอยสุขุมวิท 39 กันอีกรอบคะ ไปกันเลย

ที่พาไปเที่ยวสุขุมวิท 31 จะได้เห็นว่ามีทางเข้าหลักได้อีกทางนะคะ ส่วนใครที่มาจากทางสุขุมวิท 39 ก็สามารถวนรอบเล็กกว่านี้ จากซอยข้างๆ 39 Boulevard ได้ค่ะ

เริ่มจาที่ บีทีเอสสถานีพร้อมพงษ์ ซ้ายมือจะเป็น Emporium

เดี๋ยวเราจะไปกลับรถตรงแถวๆ Holiday Inn ข้างหน้าที่เห็น ตรงปากซอยสุขุมวิท 31 ค่ะ

พื้นที่โล่งๆซ้ายมือที่เห็นอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 20 ต้นๆ อนาคตเป็น Emporium 3 (โปรเจค Emquartier ที่จะรวบเอา Emporium 1-2-3 ไว้ในแอเรียที่เดินถึงกันได้) ไม่นานคงได้เห็นกัน ตอนนี้น่าจะอยู่ในช่วงปรับพื้นที่สำหรับเตรียมก่อสร้างคะ

พอกลับรถมาเราจะเจอ โรงแรม S31 อยู่ข้างหน้า ปากซอยสุขุมวิท 31 เลย เข้าจากทางนี้ก็ได้นะคะ แต่ฝนไปเข้าทางสุขุมวิท 39 ค่ะ เพื่อให้เห็นสภาพซอยสุขุมวิท 39 และการเดินรถ

ฝั่งตรงนี้มี Villa Market ด้วย เลยไปหนึ่งห้องจะเจอ Subway และปากทางเข้าสุขุมวิท 33/1 เราผ่านไปกันอย่างรวดเร็ว

ฝั่งตรงข้ามเราเป็น Emporium นี่อยู่ใต้สถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์

ตรงข้ามกับ Emporium จะเป็น Emporium 2 อยู่ในช่วงงานฐานรากและงานโครงสร้าง

เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท39 ตรงหัวมุมที่เราเห็นคือร้านไทยโฮมค่ะ

สามแยกอารี หรือซอยสุขุมวิท 26 ตรงนี้อย่าจำสลับกับ “อารีย์” นะคะ นั่นมันพหลโยธินค่ะ

บริเวณปากซอยมีโครงการระดับ Ultimate Luxury ของ Major Development อย่าง MARQUE ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมากๆเช่นกัน เข้าออกได้สองทางจากในซอยและจากถนนใหญ่สุขุมวิท ไว้โครงการมีความคืบหน้าเพิ่มเติม ไว้พวกเราจะพาไปชมกันนะคะ

ซอยนี้รถเดินสองทาง แต่อย่างที่เห็นเลย มีรถจอดตรงข้างทางอยู่ด้านนึงเวลาขับเลยต้องกินเลนนิดนึง

ขับตรงเข้ามาเรื่อยๆ ประมาณ 750 เมตร จะเจอสามแยก บังคับเลี้ยวซ้ายเข้าซอยพร้อมจิตกันอย่างพร้อมเพรียง อาคารข้างหน้าตรงมุมซ้ายคืออาคาร Bio House

ถนนสองเลน รถเดินทางเดียวนะคะ มีตีเส้นขอบสองข้างเอาไว้ให้คนเดินถนนเดินไปมาได้แต่ระวังรถ ในซอยนี้มี DECOMAR , 39 Boulevard , อาคาร D.S. Tower

ซ้ายมือมีป้ายของโครงการเล็กๆอยู่ ตรงไปค่ะ

แยกตรงนี้เป็นแยกที่ซอยพร้อมจิตรตัดกับซอยสุขุมวิท 31 หรือซอยสวัสดี เราจะเลี้ยวขวา อาคารหัวมุมขวามือคือ The Euro Grande Bangkok

เข้าซอยสวัสดี ตรงเข้ามาเรื่อยๆ เป็นทางสองเลนรถสวนกันได้ มีรถจอดข้างทาง และมีฟุตบาททั้งสองข้างค่ะ

ตึกสีชมพูข้างหน้าคือ สวัสดีแมนชั่น เลี้ยวขวา ขับรถตามทางมาเรื่อยๆเลยทางมันจะบังคับ

ซอยขนาดรถสวนกันพอดีไม่มีฟุตบาท ต้องขับรถระวังคันที่สวนมาและคนเดินเท้าให้ดีค่ะ

Screen Shot 2556-07-12 at 2.14.34 PM

เลี้ยวขวาแล้วตรงไปเพื่อไปซอยสุขุมวิท 39

มีป้ายชี้บอกโครงการว่าให้ตรงไปอยู่บริเวณขวามือ

ถึงแยกแล้วเลี้ยวขวา ที่แยกนี้มีอาคาร CITI RESORT ซ้ายมือมี 7-11

ที่ CITI RESORT มี Starbucks Coffee ชั้นล่าง , SCB Bank , UFM Fuji Super ซอยบริเวณนี้ชาวญี่ปุ่นอยู่เยอะมากค่ะ เลยมีป้ายภาษาญี่ปุ่น ซุปเปอร์ สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับชาวญี่ปุ่นอยู่เพียบ อาหารการกินเช่นกัน โออิชิสุดๆ

ซ้ายมือคือ ศุภาลัยเพลส

ถนนเส้นนี้จะเป็นเส้นเดียวกับหน้าโครงการแล้ว มีฟุตบาททั้งสองข้าง รถเดินทางเดียวสองเลน ซ้ายมือคือ Regent On The Park III ถัดไปเป็น 7-11 ขวามือคือ Center Point Prompong

ตรงเข้ามาซักพัก มีบ้านพัก True ตั้งอยู่ ส่วนรั้วสีขาวๆ ตรงนั้นเป็น Gallery ค่ะ อยู่ปากซอยประชัญคดี อีกนิดเดียว ที่ตั้งโครงการอยู่ฝั่งเดียวกันค่ะ

0000

ถึงที่ตั้งโครงการแล้วค่ะ ด้านหลังโครงการที่คลุมด้วยผ้าใบก่อสร้างสีฟ้าเป็นโครงการ Siamese 39 Condominium โครงการของ Siamese asset เพื่อนบ้าน

หน้าตาของ Sale Office ขนาดกระทัดรัด

ที่จอดรถภายใน Sale Office จอดได้ประมาณ 4 คัน เลี้ยวซ้ายตรงที่มีกรวยสีส้มตั้งเลย

ที่ตั้ง Sale Office คือที่ดินโครงการเลยค่ะ ขนาดอยู่บนเนื้อที่ 1 ไร่ ฝนขอพาไปดูรอบๆโครงการกันก่อนนะคะ ว่าเพื่อนบ้านมีใครและอะไรกันบ้าง 🙂

หันหน้าออกจากโครงการ เยื้องไปด้านขวาจะเป็นร้านคาราโอเกะ

ตรงกันข้าม คือ บ้านเดี่ยวที่มีรั้วมิดชิดมาก แถมยังปลูกต้นไม้สูงท่วมรั้วอีก เน้นความเป็นส่วนตัว

ระหว่าง Maestro 39 และ Siamese asset มีบ้านเดี่ยวขั้นอยู่ อาณาเขตคือรั้วที่ทาสีขาวค่ะ

Siamese 39 Condominium  อยู่ปากซอยพร้อมพันธ์พอดี

ตามซอยเส้นสุขุมวิท 39 เส้นนี้ออกไปก็จะออกถนนสุขุมวิท

Screen Shot 2556-07-15 at 6.54.04 PM

เราจะพาไปดูทางเข้าอีกทางนะคะ สำหรับคนที่มาจากถนนสุขุมวิท ขับรถตามเส้นแดง เข้าซอยข้างๆ 39 Boulevard จะใกล้กว่าค่ะ

Screen Shot 2556-07-15 at 6.54.43 PM

จากทางเมื่อครู่ เหมือนกันเลยนะคะ ก่อนที่จะไปออกเส้นสุขุมวิท 31 เราก็จะเลี้ยวขวาตรงซอยด้านข้าง 39 Boulevard ค่ะ

Screen Shot 2556-07-15 at 6.55.03 PM

ตรงนี้เป็นซอยด้านข้างนะคะ ขับมาทางนี้จะลัดกว่าประมาณ 5 นาทีได้ และไม่ต้องไปรอรถชลอบางช่วงในซอยสุขุมวิท 31 ด้วยค่ะ

Screen Shot 2556-07-15 at 6.55.57 PM

พอวิ่งๆมากลางซอยจะเจอ D.S. Tower 2 ซึ่งเป็นจุดสังเกต ให้เราเลี้ยวอ้อมตึกไปนิดหน่อย ก็จะถึงท้ายซอยแล้วค่ะ

Screen Shot 2556-07-15 at 6.57.03 PM

แล้วเส้นทางนี้ก็จะมาออกบริเวณ 4 แยกที่ตัดกับซอยสวัสดี (สุขุมวิท 31) ออกมาแถว Citi Resort ค่ะ

Screen Shot 2556-07-15 at 7.02.12 PM

ส่วนถ้าใครมาจากทางเส้นเพชรบุรี ก็ให้เลี้ยวขวาที่แยกพร้อมพงษ์ โดยจะมีตึก italthai เป็นจุดสังเกตค่ะ ซอยนี้ฝั่งเพชรบุรีจะเรียกว่าซอยเพชรบุรี 38/1

Screen Shot 2556-07-15 at 7.02.44 PM

เลี้ยวขวาข้ามสะพานข้ามคลองแสนแสบตรงเข้าไปประมาณ​ 800 เมตรจากถนนใหญ่ก็จะถึงตัวโครงการ

Screen Shot 2556-07-15 at 7.05.32 PM

จุดสังเกตก่อนถึงตัวโครงการก็คือตึก Citi Resort ที่มี Starbucks นี้เช่นกันค่ะ

เจาะลึกตัวโครงการ

เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2556 เราได้พูดถึงโครงการนี้ไปบ้างคร่าวๆแล้ว (งานเปิดตัว Maestro 39) วันนี้มาดูกันโดยละเอียด

Maestro (มา-เอส-โตร) เป็นภาษาอิตาลี ซึ่งมีความหมายว่า Master หรือ Teacher ค่ะ ดูจากชื่อแล้วก็สามารถบอกถึงแนวความคิดโครงการได้อยู่ไหมเอ่ย แนวความคิดในการออกแบบโครงการ เน้นรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิค ผสมผสานกับความเป็นโมเดิร์น ซึ่งจะแตกต่างไปตามที่ตั้งแต่ละที่ของโครงการโดยเน้นไปยังที่ที่ตั้งอยู่กลางใจเมืองและการเดินทางสะดวกแฃะสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆครบครัน ซึ่งตรงนี้เป็นแบรนด์คอนเซปท์ของทาง Major Development ที่ตั้งขึ้นมานะคะ ของจริงจะเป็นอย่างไรก็ต้องดูไปในแต่ละโปรเจค แต่ละทำเลค่ะ

แนวความคิดในการออกแบบของแบรนด์ Maestro

  • สถาปัตยกรรมแนวคลาสสิค แฝงกลิ่นไอโมเดิร์น
  • เน้นความเป็นส่วนตัว ในทำเลใจกลางเมือง พร้อมความสะดวกสบายครบครัน
  • ความ Luxury ในราคาพอจับต้องได้

จากภาพจำลองทัศนียภาพที่เราเห็น มีการเลือกใช้องค์ประกอบที่ดูคลาสสิคเช่น คิ้ว บัว ต่างๆ เส้นสาย ลวดลาย และในส่วนชั้นล่างมีการนำวัสดุอย่าง ทองแดง มาผสมเพื่อให้เกิดความเป็นโมเดิร์นมากขึ้น โดยทางโครงการเน้นไปที่พื้นที่ใช้สอยที่ครบครัน จำนวนยูนิตห้องชุดที่ไม่มาก ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง

เกริ่นกันมาพอหอมปากหอมคอ ไปดูผังอาคารกันดีกว่าค่ะ อาคารนี้มี 8 ชั้น ไม่รวมที่จอดรถใต้ดินอีก 2 ชั้น คือ B1  และ B2

C:Documents and SettingsPunyanutDesktopLR39_2013-05-14 Model

 

ที่จอดรถใต้ดิน B2 ขึ้นไปยังชั้นด้านบนด้วยลิฟท์โดยสาร

C:Documents and SettingsPunyanutDesktopLR39_2013-05-14 Model

 

ที่จอดรถใต้ดิน B1 จุดเด่นของโครงการนี้สำหรับฝนที่เห็นชัดเลยเรื่องที่จอดรถค่ะ ทางโครงการจัดให้ถึง 74% แบบไม่รวมที่จอดรถซ้อนคัน ซึ่งคำนึงถึงสำหรับกลุ่มลูกค้าดีนะคะ เพราะว่า ส่วนมากจะมีรถส่วนตัวใช้แน่ๆ แต่ก็ยังมี Shuttle Service ให้บริการอยู่ดี

C:Documents and SettingsPunyanutDesktopLR39_2013-05-14 Model

เมื่อเลี้ยวรถเข้ามาภายในโครงการ ซ้ายมือจะมีป้อมยามและไม้กระดกกั้น ติดกันเป็นที่จอดรถ Shuttle Service ตรงไปลงไปที่จอดรถใต้ดิน ขวามือเป็น Lobby โครงการ เมื่อเข้าไปแล้วในชั้นนี้ จะเป็นชั้นที่มีส่วนกลางอยู่ค่ะ อีกชั้นคือชั้นดาดฟ้า ห้องพักในชั้นนี้มี 4 ยูนิต อยู่ด้านหลัง สระว่ายน้ำอยู่ในทิศใต้พอดี ตอนว่ายน้ำอาจจะได้น้ำอุ่นๆทั้งวัน แต่เงาของอาคารเองจะให้ร่มเงาได้ในระดับหนึ่ง

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ Maestro นี้ จัดว่าให้มาค่อนข้างเยอะนะคะ เกือบจะได้ทั้งชั้น G เมื่อเทียบกับโครงการ Low Rise โครงการอื่นแล้ว ถือว่าพร้อมกว่ามาก โดยเฉพาะสระว่ายน้ำที่ยาว 15 เมตร แยกสระเด็กต่างหาก

สิ่งอำนวยความสะดวกในชั้น G

  • Drop-off
  • Shuttle Service
  • Lobby
  • Concierge
  • กล่องรับจดหมายแบบส่วนตัว
  • Kid’s Club
  • Library
  • Multi-Purpose room
  • Fitness
  • Steam room and Sauna room
  • Swimming Pool 15×7  m.
  • Kid’s Pool
  • Laundry Room
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ชุด

สำหรับฝนคิดว่าการจัดให้พื้นที่ส่วนกลางเกาะกลุ่มอยู่ในพื้นที่เดียวกันไม่กระจัดกระจาย ง่ายต่อการจัดการดีนะคะ

Model 1

มาดูที่โมเดลของโครงการค่ะ นี่เป็นด้านหน้าซ้ายมือคือทางเข้า ทิศห้องที่หันออกมาทิศนี้คือทิศตะวันตก ตรงกลางเป็น Lobby ที่ฝ้าเพดานสูงค่ะ หน้าตา คลาสสิคไหมค่ะ

Model 2

ดูอีกมุมนึง ขนาดไม่ใหญ่เท่าไหร่ ด้านบนจัดเป็นส่วนกลางเต็มๆ

Model 3

ด้านหน้าที่เป็น Lobby มีบ่อน้ำด้วย

Model 16

สระว่ายน้ำที่อยู่ Court ตรงกลางคนที่ห้องอยู่บริเวณนี้จะได้มุมมองทิศใต้ประมาณแบบนี้ แล้วก็จะเห็น Siamese 39 ด้วย

Model 6

รูปด้านทิศเหนือ ข้างนี้ยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่าอยู่ วิวเปิดสามารถมองไปได้ไกลกว่าทิศอื่นๆ

Model 7

อาคารมี Element ที่แสดงถึงความคลาสสิคอยู่เยอะเลยทั้งบัว ทั้งคิ้ว เสา รูปแบบหน้าต่าง

Model 10

มุมมองจากด้านหลังซึ่งเป็นทิศตะวันออกค่ะ

Model 14

ส่วนดาดฟ้าที่เน้นให้ลูกบ้านใช้บริการอย่างเต็มๆ ไม่ปล่อยไว้โล่งๆ หรือทำครึ่งๆกลางๆ

 

รูปจำลองทัศนียภาพภายในโครงการ ส่วน Lobby ค่ะ ใช้ฝ้าเพดานสูง เป็นลักษณะ Double Space ตกแต่งเน้นความเรียบ เลือกใช้วัสดุอย่างกระจก หิน แต่ยังคงความเรียบหรูเอาไว้ ถือว่าดีสำหรับโครงการ Low Rise นะคะ ยกตัวอย่าง VIA 31 ของแสนสิริที่อยู่ในซอยเดียวกันขายราคาเท่าๆกัน* ก็ยังไม่ทำ Lobby เพดานสูงให้เลยค่ะ

*เทียบกับราคา VIA 31 ในช่วงเปิดตัว 2012 หากเทียบกับราคาปัจจุบันจะมีการปรับขึ้นแล้ว 10 – 15%

รูปจำลองทัศนียภาพภายในโครงการ ส่วน Library เลือกใช้ Furniture บางชิ้นที่มีกลิ่นอายความคลาสสิคอยู่

รูปจำลองทัศนียภาพภายในโครงการ ส่วน Kid’s Club

รูปจำลองทัศนียภาพภายในโครงการ ส่วนสระว่ายน้ำเป็นระบบน้ำเกลือ ด้านซ้ายชั้น G คือ Library และ Kid’s Club

C:Documents and SettingsPunyanutDesktopLR39_2013-05-14 Model

ชั้น 2-7 จะเป็นพื้นที่ของห้องพักค่ะ ลักษณะทางเดินเป็นรูปตัว U

1) ฝั่งทิศตะวันตกด้านหน้า (D3, B3, D4) จะเป็นมุมมองออกไปทางซอยหลักของซอยสุขุมวิท 39 โดยวิวตรงนี้ปัจจุบันได้เป็นวิวของพวกบ้านแนวราบ ยังเป็นวิวที่เคลียร์อยู่ แต่อาจจะร้อนกว่าทิศอื่นเขาหน่อย

2) ฝั่งทิศเหนือ (D4, F6, A2, G1) ซึ่งเราคิดว่าเป็นทิศที่ดีในปัจจุบัน เพราะยังไม่มีอาคาร 8 ชั้นมาขึ้นบังวิวใดๆ รับแดดน้อย ไม่ร้อน ส่วนใหญ่จะลงยูนิตใหญ่

3) ฝั่งทิศใต้ ยูนิต D1, B1, F4 และ F3 จะได้วิวสระว่ยน้ำ ระยะห่างระหว่างห้อง 2 Bedrooms ทั้งสองห้องที่อยู่ปลายสระนั่นเป็นระยะ 15 เมตร ไม่ใกล้กันจนเกินไป ซึ่งจริงๆแล้วทิศใต้นี้จะต้องถูกโครงการ Siamese 39 บังพอดี พอเอาสระว่ายน้ำมาวางตรงนี้ และปิดผนังฝั่งที่หันเข้าหา Siamese 39 ก็จะทำให้โครงการได้ห้อง Pool View ไปแทน

4) ฝั่งทิศตะวันออก (G1, D5, C1) คิดว่าเป็นฝั่งที่เซฟที่สุดของโครงการนี้ เนื่องจากหันหน้าเข้าหาซอยแยก ปิดโอกาสที่จะมีตึกสูงบังในระยะประชิด แต่ก็จะได้รับแดดร้อนในช่วงเช้าค่ะ

ช่องแสงธรรมชาติของโครงการนี้ก็ออกแบบมาได้ดีเช่นกัน มีช่องเปิดตรงปลายทาง Corridor ทั้งสองจุด และมีช่อง Void บริเวณข้างห้อง F4 และบันไดหนีไฟ ทำให้ทางเดินของ Maestro 39 นี้ได้รับลมและแสงธรรมชาติพอเพียง ไม่รู้สึกว่าลึกไปค่ะ

C:Documents and SettingsPunyanutDesktopLR39_2013-05-14 Model

ในส่วน Roof Top ด้านบน โครงการจัดเป็นพื้นที่ส่วนกลางเช่นกันค่ะ ชั้นบนนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่างเลย ลานซ้อมสวิงกอล์ฟ บ่อออนเซนลอยฟ้า ลานโยคะ ลานปาร์ตี้และบาร์บีคิว ศาลาพักผ่อน เป็นต้น ซึ่งสิ่งอำนวนความสะดวกเหล่านี้ ทางโครงการต้องการตอบสนองกลุ่มลูกค้าหลักที่เป็น ชาวญี่ปุ่นค่ะ เนื่องจากระแวกนี้ มีชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่ค่อนข้างหนาแน่น การมีสิ่งอำนวนยความสะดวกที่ตรงกับความต้องการกลุ่มลูกค้า ดูจะเป็นแนวทางการออกแบบและจัดผังออกมาในลักษณะนี้ค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวกในชั้น Roof Top

  • ลานหมากรุก
  • ลานโยคะลอยฟ้า
  • สนามเด็กเล่น
  • ลานซ้อมวงสวิงกอล์ฟ
  • ออนเซนลอยฟ้า
  • ดาดฟ้าอาบแดด
  • ลานอเนประสงค์
  • ลานปาร์ตี้และบาร์บีคิว
  • ศาลาพักผ่อนลอยฟ้า

ถึงบนพื้นที่ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่โครงการพยายามจัดสรร กิจกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกให้เยอะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Drop-off
  • Shuttle Service
  • Lobby
  • Concierge
  • กล่องรับจดหมายแบบส่วนตัว
  • Kid’s Club
  • Library
  • Multi-Purpose room
  • Fitness
  • Steam room and Sauna room
  • Swimming Pool 15 x 7  m.
  • Kid’s Pool
  • Laundry Room
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ชุด

  • ลานหมากรุก
  • ลานโยคะลอยฟ้า
  • สนามเด็กเล่น
  • ลานซ้อมวงสวิงกอล์ฟ
  • ออนเซนลอยฟ้า
  • ดาดฟ้าอาบแดด
  • ลานอเนประสงค์
  • ลานปาร์ตี้และบาร์บีคิว
  • ศาลาพักผ่อนลอยฟ้า

Product Walkthrough

โครงการ Maestro 39 มีจำนวนห้องพักทั้งหมด 90 ยูนิต ห้องขายแบบ Fully Fitted มีชุดครัว แอร์ ตู้รองเท้า และสุขภัณฑ์ห้องน้ำให้ค่ะ

มีประเภทห้องตามนี้ค่ะ

  • 1 ห้องนอน                                     ขนาด    30-36           ตารางเมตร      จำนวน 27  ห้อง
  • 2 ห้องนอน                                     ขนาด    51-91.5        ตารางเมตร      จำนวน 49  ห้อง
  • 3 ห้องนอน                                     ขนาด    81.5-96       ตารางเมตร      จำนวน 8    ห้อง
  • 3 ห้องนอนพร้อมห้องแม่บ้าน       ขนาด    121.5-122   ตารางเมตร      จำนวน 6    ห้อง

A2-3

ผังพื้นขนาด 30.5 ตารางเมตร  1 ห้องนอน เข้ามาเจอส่วนครัวและส่วนทานอาหารด้านซ้ายมือ ดูระยะตรงโต๊ะทานข้าวกับ Pantry แคบไปหน่อย ด้านขวาเป็นที่เก็บรองเท้าและตู้เย็น เข้าไปเจอที่นั่นพักและระเบียงด้านนอก บริเวณที่เก็บ คอมเพรสเซอร์แอร์ ห้องน้ำบริเวณส่วนอาบน้ำเข้ามุม อยู่ภายในห้องนอน ในห้องนอนสามารถวางโทรทัศน์ได้ แต่ต้องแขวนผนังค่ะ วัสดุปูพื้นห้องเป็นไม้ลามิเนต ห้องน้ำปูด้วยกระเบื้อง ส่วน Top ของครัวเป็นหินแกรนนิต

D3

มาดูห้อง 2 ห้องนอน ขนาด 64 ตารางเมตร ผังห้องนี้อยู่บริเวณมุมอาคารพอดี เมื่อเข้าห้องมาด้านซ้ายมือจะเป็นส่วนครัว ขวามือเป็นชั้นวางรองเท้า ตรงไปเป็นพื้นที่ทานอาหารและห้องรับแขก ระยะนั่งดูทีวีสามารถขยับโซฟามาชิดผนังได้ ส่วนข้างนอกเป็นระเบียงและที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ พอเดินเข้ามาที่โถง รู้สึกว่าลักษณะการแบ่งผังพื้นการใช้งานจะคล้ายๆบ้านเดี่ยวขนาดเล็กที่เดินขึ้นโถงบันไดมาแล้วเจอห้องน้ำ และห้องนอนอีกสองห้องเลย พูดถึงห้องนอนใหญ่ก่อนค่ะ มีห้องน้ำในตัวเรียบร้อย ตรงนี้บริเวณอ่างอาบน้ำ แยกส่วนออกมาจาก Shower ต้องระวังเรื่องการจัดการส่วนเปียกให้ดี มีหน้าต่างติดกับอ่างอาบน้ำ น่าจะเป็นช่องแสงธนนมดาไม่สามารถเปิดระบายอากาศได้ ในส่วนห้องนอน พืื้นที่ในการวางทีวีของห้องนี้วางบนโต๊ะทำงานเลย ต้องดูระยะความสูงดีๆนะค่ะว่าพอหรือถนัดต่อการนอนหรือนั่งดูไหม สำหรับท่านที่ตกแต่งเอง เพราะไม่มีที่แขวนทีวีในห้องนี้เนื่องจากผนังด้านนั้นเป็นหน้าต่างค่ะ ในส่วนของห้องนอนเล็กสามารถวางเตียงเดี่ยวและโต๊ะทำงานยาวเต็มผนังได้ มีช่องแสงและมีระเบียงที่เอาไว้ตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ โดยเปิด Service จากทางหน้าต่างที่ติดตั้งไว้ค่ะ

F4

มากันที่ผังห้องขนาด 69.5 ตารางเมตร 2 ห้องนอน เปิดประตูเข้าห้องเข้ามาเจอส่วนทำอาหารก่อนเลย และมีที่เก็บรองเท้าและชั้นเก็บของอีกชุดนึงเล็กๆ ถัดเข้าไปเป็นห้องน้ำ มีแยกส่วนเปียกและแห้ง พื้นที่บริเวณนี้ปูด้วยกระเบื้อง ง่ายดีต่อการทำความสะอาด มี Island เตรียมอาหาร พอตรงเข้ามาเป็นส่วนทานอาหารและพักผ่อน โดยติดกับระเบียง เปิดเห็นวิวภายนอก จากส่วนนั่งเล่น แยกออกมาทางขวาเป็นห้อง  Master bedroom มี Walk-in Closet ภายใน ส่วนห้องน้ำ มีทั้ง Shower และ Bath tub ที่เป็นอ่างสามารถมองออกไปที่ห้องนอนได้ด้วยค่ะ แอบเซ็กซี่เล็กๆ เดินมาที่ห้องนอนเล็ก มีชุดตู้เสื้อผ้าและเตียงนอน สังเกตุว่า ทั้ง 2 ห้องนอน โทรทัศน์จะแขวนผนังเพื่อประหยัดพื้นที่

G1

ห้องขนาด 96 ตารางเมตร ขนาด 3 ห้องนอน มาดูกันว่าพื้นที่ใช้สอยขนาดนี้ เค้าจัดสรรอะไรไว้บ้าง ภายในห้องเมื่อเดินเข้ามาจะเหมือนๆกันเลยคือเจอครัวค่ะ ส่วนนี้พื้นปูกระเบื้องให้ ตรงเข้ามาเจอพื้นที่ทานอาหารและส่วนรับแขกที่กว้างมาก สามารถปรับแต่งตามกิจกรรมได้เยอะ มุมมองที่มองออกไปเจอระเบียงค่ะ พอแยกจากโถงห้องรับแขก จะเจอห้องน้ำซึ่งแบ่งกันใช้ทั้งส่วนโถงตรงกลางและห้องนอนสองห้อง มีหน้าต่างเปิดออกไป Service คอมเพรสเซอร์แอร์จากในนี้ ห้องนอนเล็ก สามารถวางเตียงเดี่ยวได้ 1 ห้องและเตียงคู่แบบ Queen size ได้อีกหนึ่งห้อง โดยติดกับช่องแสงทั้งคู่ ในส่วนของห้องนอนใหญ่ ระยะวางทีวีตามที่เค้าวางไว้ให้เป็นแนวทาง รู้สึกจะไกลไปหน่อยค่ะ มีระเบียงออกไปด้านนอกได้ ที่ระเบียงมีคอมเพรสเซอร์แอร์อีกตัว ในส่วนของห้องน้ำแยกส่วนอาบน้ำและอ่างอาบน้ำไว้ด้วยกัน

G9

 

สำหรับห้องขนาดนี้ มี 3 ห้องนอน และ 1 ห้องแม่บ้าน ขนาด 122 ตรารางเมตร โดยผังห้องทั่วไปค่อนข้างจะใกล้เคียงกับห้องอื่นๆคือ เข้ามาเจอครัว พื้นที่ทานข้าว รับแขก แยกเป็นห้องน้ำ ห้องนอนเล็ก ห้องนอนใหญ่ โดยพื้นที่ของห้องนี้ กว้างค่ะ ห้อง Master Bedroom ขนาดไม่ใหญ่และไม่เล็ก มี Walk-in Closet ซึ่งหน้าตาและขนาดเกือบเหมือนห้องนอนอีกฝั่งเลย เพียงแต่ในห้องน้ำไม่มีอ่างอาบน้ำค่ะ สำหรับห้องนอนเล็กอีกห้อง วางเตียงเดี่ยวได้แล้วมีระเบียงส่วนตัวภายนอกด้วย เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีผู้อาศัยซัก สี่-ห้า คนเลยแต่ที่พิเศษไปกว่านั้นคือมีห้องแม่บ้านที่มีห้องน้ำในตัวให้ด้วย แต่ดูเหมือนที่นอนแม่บ้านนี่ต้องพอดีจริงๆ ไม่แน่ใจว่ายาวซัก 1.8 เมตรได้ไหม สะดวกตรงที่ห้องน้ำในตัวนี่แหละค่ะ แต่ในแปลนยังหาShower ไม่เจอ หรือต้องให้แม่บ้านไปอาบน้ำห้องอื่นไม่แน่ใจ

แนวทางการตกแต่งภายใน

สำหรับแนวทางการตกแต่งภายในห้องพักที่ทางโครงการได้เตรียมไว้ มีทั้งหมด 2 สไตล์ คือ Mino เป็นแบบ ญี่ปุ่น และ Milazzo เป็นแบบอิตาเลี่ยน ซึ่ง Add up  ไม่ได้รวมอยู่ในราคาห้องค่ะสามารถติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Sale Office

ห้องรับแขกนี้ใช้การตกแต่งแบบ Minno Style ค่ะ โทนสีของเฟอร์นิเจอร์ และรูปแบบ ออกแนวเรียบง่าย ใช้ไม้สีอ่อนเข้ามาเป็นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว

ในส่วนห้องนอน หน้าตาเตียงและบรรยากาศประมาณนี้ค่ะ โทรทัศน์แขวนผนัง

ห้องน้ำแยกส่วนอาบน้ำออกจากพื้นที่แห้ง มีทั้งอ่างอาบน้ำและ Shower ชาวญี่ปุ่นนิยมเก้าอี้ที่นั่งในห้องอาบน้ำ เอาไว้ขัดตัว

รูปนี้เป็นห้องที่ตกแต่งแบบ Milazzo Style ค่ะ ออกแนวโมเดิร์นและเรียบขรึม

ห้องรับแขกและพื้นที่ทานข้าว Milazzo Style

มาดูในส่วนของวัสดุที่ใช้ กันบ้างนะคะ

คู่สีที่เลือกมาส่วนใหญ่จะเป็นแนว Earth Tone เรียบๆ แต่งให้สวยได้ง่าย

พื้นห้องนั่งเล่น ห้องทานอาหาร ห้องนอน พื้นเป็นลามิเนตค่ะ สีนี้ลายนี้ค่อนข้างไปทางคลาสสิกมากกว่าโมเดิร์นนะ

วัสดุผนังห้องนอนทาสี

ผนังห้องนอนอีกสี

วัสดุตู้เสื้อผ้าในห้องนอน ใช้ลามิเนต

สำหรับผนังห้อง Master Bedroom และ ห้องแต่งตัว เป็นผนังเซรามิค

ส่วนพื้นห้อง ห้อง Master Bedroom และ ห้องแต่งตัว ก็ใช้เซรามิคเหมือนกัน

มาดูในส่วนวัสดุที่ใช้ในห้องครัวกับห้องน้ำกันบ้าง ห้องครัวและห้องน้ำทั้ง 2 ห้อง เป็นผนัง เซรามิค

Top เคาท์เตอร์ครัว ใช้หินแกรนิต

ลิ้นชักเก็บของในห้องครัวเป็นลามิเนต

ส่วนพื้นห้องน้ำของห้องนอน 1 กับ 2 ใช้พื้นเซรามิค เนื้อประมาณนี้สีโทนอ่อน

ผนังห้องน้ำตกแต่งด้วยกระจกโมเสก

สำหรับพื้น Foyer ด้านนอกใช้เป็นเซรามิกค่ะ ^^

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 15/07/2013

  • 1 Bedroom เนื้อที่ 30.50 ตารางเมตร ราคา 3,266,550 บาท หรือ 107,100 บาทต่อตารางเมตร
  • 2 Bedroom เนื้อที่ 51 ตารางเมตร ราคา 5,589,600 บาท หรือ 109,600 บาทต่อตารางเมตร
  • 3 Bedroom เนื้อที่ 81.5 ตารางเมตร ราคา 9,282,850 บาท หรือ 113,900 บาทต่อตารางเมตร
  • 3 Bedroom พร้อม ห้องแม่บ้าน เนื้อที่ 121.5 ตารางเมตร ราคา 14,264,100 บาท หรือ 117,400 บาทต่อตารางเมตร
  • Fully Fitted
  • เพดานสูง 2.5 เมตร
  • 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอน จอง 50,000 บาท
  • 3 ห้องนอน จอง 100,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน จ่ายล่วงหน้า 1 ปี

เจาะลึกรวบยอด

สำหรับโครงการ Maestro 39 เป็น โครงการอย่างที่เรียกได้ว่า Compact Low-rise จริงๆค่ะ เนื้อที่ของโครงการ 1 ไร่เกินไปนิดหน่อยเอง เน้นไปที่สถานที่ตั้งที่เข้าออกเชื่อมต่อได้หลายที่ ออกทั้งถนนเพชรบุรี หรือออกไปเส้นสุขุมวิท ถ้าสะดวกจะเดินทางโดยรถไฟฟ้าก็ควรใช้บริการ Shuttle Service

โครงการเน้นการเดินทางเข้าออกด้วยรถยนต์ เพราะมีที่จอดรถให้เยอะสำหรับขนาดโครงการขนาดนี้ การเลือกจับกลุ่มลูกค้าที่เป็นชาวญี่ปุ่น ถือว่าทำการบ้านเรื่องทำเลมาค่อนข้างดีทีเดียวละแวกนี้ ชาวญี่ปุ่นอาศัยกันมาก ใครที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นนี่จะทราบดีว่าในซอยสุขุมวิท 31 แล 39 นี่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารญี่ปุ่น และอาหารอีกหลายชาติเช่นเกาหลี อิตาเลี่ยน ส่วนราคานั้นเป็นราคาหลักร้อยขึ้นไปค่ะ (ใครมีร้านไหนแนะนำฝนบ้างเนี่ย ^ ^)

ในเรื่องการสัญจรสำหรับคนที่ไม่คุ้นซอยแถวนี้อาจจะงงอยู่บ้างเพราะเป็นซอยที่ทะลุได้หลายที่ ต้องศึกษาเส้นทางดีดี จะมีทั้งเดินรถทางเดียว ซอยแคบ ซอยกว้าง ปนๆกัน ส่วนสถานพยาบาลที่ใกล้ๆก็มีอย่างโรงพยาบาลกรุงเทพและโรงพยาบาลสมิติเวช สถาบันการศึกษาที่ใกล้โครงการมีตั้งแต่อนุบาลจนถึงอุดมศึกษาเลยทีเดียว ภายในซอยนอกจากจะเจอสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆอย่างซุปเปอร์ ร้านสะดวกซื้อ จะสังเกตุว่ามีคอนโดมิเนียมอยู่ภายในซอยจำนวนหลายโครงการเช่นกันคะ

บรรยากาศรอบๆโครงการดูไม่หนาแน่นด้วยผู้คนเท่าไหร่ จะมีรถที่ใช้เส้นซอยสุขุมวิท 39 ตลอดเรื่อยๆ อีกหน่อยโครงการ  Siamese 39 Condominium ก็จะเสร็จแล้วเป็นเพื่อนบ้านห่างไปประมาณ 1 ซอย จะมีแต่ฝั่งตรงข้าม ที่เป็นร้านคาราโอเกะ ซึ่งอาจจะมีเสียงรบกวนหรือไม่ อันนี้ฝนไม่ทราบเหมือนกันต้องนำมาพิจารณาด้วย

สำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว โครงการนี้น่าสนใจนะคะ เพราะด้วยจำนวนยูนิตแค่ 90 ยูนิต อัตราส่วนลิฟท์ที่ 1:45 อีกทั้งที่จอดรถก็มีเยอะ ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับผู้อาศัยที่เดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวและกลับมาพักผ่อนในบรรยกาศที่เป็นส่วนตัวแบบนี้ ซึ่งห้องส่วนใหญ่นั้นเป็นแบบห้อง 2 Bedrooms ไม่ใช่ 1 Bedroom เหมือนกับคอนโดทั่วๆไปนะคะ

รูปแบบอาคารและการตกแต่งภายใน ส่วนนี้แล้วแต่รสนิยมเลย ทางนี้เน้นคลาสสิคแต่แฝงโมเดิร์นซึ่งสำหรับฝน รู้สึกว่า โมเดิร์นที่ทางโครงการบอก จะอยู่ภายในอาคารและการใช้วัสดุบางประเภท

สาธารณูปโภคทำออกมาได้ดี ให้เยอะ เมื่อเทียบกับโครงการ Low Rise ด้วยกัน และไม่ได้น้อยหน้าโครงการ High Rise บางโครงการด้วยซ้ำ ทั้งในเรื่องของขนาดที่สามารถใช้ได้จริง และฟังก์ชั่นที่ครบถ้วน ยกตัวอย่างเช่น Kid’s Room ที่เราคงจะไม่ได้เห็นในโครงการขนาดเล็ก 90 ห้อง แน่ๆค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 110,000 บาทต่อตารางเมตร, 15/07/2013

  • ทำเล 7.75/10 – ซอยสุขุมวิท 39 ลึกเข้าไป 1.2 กิโล หาของกินง่าย
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – ที่จอดรถพอเพียง เข้าออกได้หลายทาง แต่เป็นซอย One Way
  • ไม่ใช้รถ 7/10 – เดินจากรถไฟฟ้าไกล แต่มี Shuttle Service ให้
  • วัสดุ 8/10 – ใช้วัสดุมาตรฐานหรือดีกว่าเล็กน้อย
  • แบบ 9/10 – เป็นส่วนตัว สงบ พื้นที่ใช้สอยกว้าง ยูนิตใหญ่
  • สาธารณูปโภค 9.25/10 – ให้เยอะกว่ามาตรฐานมาก

  • HIGH CLASS
  • 7.95 / 10.00

BOTTOM LINE

Maestro 39 เหมาะสำหรับคนที่ชอบย่านพร้อมพงษ์ ทำงานอยู่ในละแวกสุขุมวิทตอนต้น ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก มี BTS เป็นช่องทางรอง เน้นความสงบ ความเป็นส่วนตัว กับโครงการ Low Rise Condominium

ให้กำลังใจ…. คลิก Like กันค่ะ 🙂