รีวิวโครงการ
คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.133 – รีวิวคอนโด M จตุจักร
10 พฤษภาคม 2015
M จตุจักร … หลังจากที่เราได้ทำ PREVIEW ของ M Jatujak (เอ็ม จตุจักร) ไปแล้ว วันนี้เราก็ได้โอกาสมาเก็บรีวิวฉบับย่อ ก็คือการเปิดห้องตัวอย่างขนาด 32 ตารางเมตรของ M จตุจักรเป็นครั้งแรก ในงานที่เซ็นทรัลลาดพร้าวนะครับ … โครงการจะเป็นอย่างไร พวกเราไปดูกันเลยกับรีวิวฉบับที่ 632
UPDATE 29/1/2015 : ปัจจุบัน Sales Gallery ของ M Jatujak พร้อมแล้ว ผมและทีมงานได้ไปเก็บข้อมูลเพิ่มเติมและจัดทำเป็นรีวิวฉบับเต็มแล้วครับ ท่านใดที่เคยอ่านรีวิวฉบับย่อแล้วอยากไปดูส่วนเพิ่มเติมฉบับห้องตัวอย่างจริงก็เลื่อนลงไปได้เลย 🙂
Fact @ 30 January 2015
- เอ็ม จตุจักร (M Jatujak)
- Major Development., Plc.
- HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขตจตุจักร แขวงจอมพล กรุงเทพมหานคร
- คอนโด High Rise 32, 34 ชั้น 2 อาคาร 864 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด – ยูนิต
- ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 50%
- ที่ดินประมาณ 4 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง: รอขออนุญาตสิ่งแวดล้อม คาดว่า เมษายน 2558
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : สิงหาคม 2561
- 1 Bedroom ขนาด 28 – 35.5 ตร.ม.
- 1 Bedroom Duplex ขนาด 46 – 56.5 ตร.ม.
- 2 Bedroom ขนาด 48 – 64.5 ตร.ม.
- 2 Bedrooms Duplex ขนด 79.5 – 81.5 ตร.ม.
- 3 Bedrooms ขนาด 118 ตร.ม.
- ฝ้าเพดานสูง 2.8 เมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 3.8 ล้านบาท (Fully Furnished + Electrical Appliances)
- ราคาเฉลี่ยประมาณ 140,000 บาทต่อตารางเมตร
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center : 02-272-4747
Update Fact @ 15 September 2017
- Major Development PCL.
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Nov 2560
- 1 ห้องนอน สวีท 28 – 29.5 ตร.ม
- 1 ห้องนอน 28.5 – 35.5 ตร.ม.
- 1 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ 46 – 56.5 ตร.ม.
- 2 ห้องนอน 48 – 64.5 ตร.ม.
- 2 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ 79.5 – 80.5 ตร.ม.
- 3 ห้องนอน 118 ตร.ม.
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 3.99 ล้านบาท (Fully Furnished + Electric Appliances)
- ราคาเฉลี่ยประมาณ 142,500 บาท/ตร.ม.
- Call Center 02 116 1111
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
ทำเล
ขอบเขตของที่ดินคร่าวๆอย่างไม่เป็นทางการของ M จตุจักรนะครับ โครงการอยู่ติดถนนใหญ่พหลโยธินปากซอยพหลโยธิน 18
ซอยพหลโยธิน 18 นี้เป็นซอยทางลัดหลักที่สำคัญสำหรับการจราจรแถวนี้ เป็นทางเชื่อมต่อระหว่างถนนใหญ่ 3 สายทั้งสุทธิสารและวิภาวดีรังสิต
ถ้าเข้าซอยไปก็สามารถทะลุไปออกซอยอินทามระ 15 ที่ถนนสุทธิสาร และซอยวิภาวดี 3 ที่ถนนใหญ่วิภาวดีรังสิตได้
แต่ถ้าเลี้ยวออกจากซอยก็จะถูกบังคับเลี้ยวซ้ายอย่างเดียวไปทางสะพานควายตามภาพ
ช่วงเร่งด่วนซอยนี้อย่างที่ว่าก็จะพลุกพล่านไปด้วยรถยนต์นานาชนิด … แต่ก็โชคดีที่เราไม่จำเป็นต้องเดินเข้าออกจากซอยตามฟุตบาท ทางโครงการจะเตรียมทางเดินพร้อมหลังคากันฝนไว้ให้จนถึงถนนใหญ่เลย
ตัวซอยกว้างประมาณ 2 เลน ไหล่ทางแคบ ถ้ามีใครมาจอดรถข้างทางก็จะทำให้การจราจรมีปัญหาขึ้นมาทันที โดยเฉพาะรถใหญ่
พอซอยพหลโยธิน 18 นี้แคบ จึงเป็นซอยที่ไม่สามารถสร้างตึกสูงได้ โครงการจำเป็นต้องซื้อที่ดินบริเวณปากซอยเพิ่มเพื่อให้ตัวโครงการติดกับถนนใหญ่พหลโยธิน จากบริเวณนี้เข้าไปเป็นทางเข้าที่มีความกว้างขั้นต่ำ 10 เมตร
มองจาก Model จะเห็นว่ามีติ่งที่เดินเป็นขนาดสามเหลี่ยมเล็กๆเชื่อมกับถนนใหญ่พหลโยธิน
โดยตัวโครงการจริงๆแล้วก็จะสร้างบนแปลงที่ดินใหญ่ของวิทยาลัยเทคโนโลยีช่างฝีมือปัญจวิทยา โดยจะมีขนาดประมาณ 4 ไร่ ลึกเข้าไปถึงคลองบางซื่อด้านหลังโรงเรียน
เนื่องจากเส้นทางที่เปิดบริเวณด้านหน้านั้นกระชั้นเกินไป รถยนต์ไม่สามารถเลี้ยวได้สะดวก จึงมาเปิดทางเข้าหลักอยู่ด้านข้างแทน
ภายในซอยจึงมีเฉพาะตึก 7-8 ชั้น อย่างเช่น เกียวทอง Apartment ที่อยู่ใกล้กับโครงการ
ถัดมาก็จะเป็นคอนโด Life @ พหลโยธิน 18 ครับ
ที่ดินที่เดินทะลุออกไปถนนใหญ่ได้จะอยู่ด้านหลัง Sport Arena ซึ่งเป็นสาธารณูปโภคสำคัญของโครงการ
โดยที่นี่จะเน้นสาธารณูปโภคเยอะๆ เพื่อชดเชยกับทำเลที่ไม่ได้ติดรถไฟฟ้า … จุดเด่นที่สุดคงจะหนีไม่พ้น สนามแบตมินตัน ละครับ
Facility Tower A
Facility Tower B
อีกจุดหนึ่งที่น่าพูดถึงก็คือการที่มีสระว่ายน้ำและฟิตเนสทั้งสองอาคาร ไม่ต้องแย่งกันใช้ … และที่อาคาร B ลูกบ้านสามารถขึ้นมาว่ายน้ำชมวิวสวนจตุจักรได้ทุกคน
นี่ละครับ ภาพส่วนกลางจากมุมมองด้านบน
สิ่งอำนวยความสะดวก
ชั้น Ground
- สนามกีฬาในร่มขนาดใหญ่ (สปอร์ต อารีน่า) ประกอบด้วย สนามแบตมินตัน, สนามสตรีทบาสเกตบอล และสนามฟุตซอล
- สนามเด็กเล่นเสริมทักษะ
- ทางเดินในร่ม (ประตูใหญ่)
- ทางเดินในร่ม (ด้านข้างโครงการ)
- ป้อมพนักงานรักษาความปลอดภัย
- จุดวนรถ
- ลานวิ่งรอบโครงการ
- พื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง
- สวนหินนวดเท้า
- ชิงช้าในสวน
- ลานสัตว์เลี้ยง
- ลานนั่งสมาธิ
- ลานจัดปาร์ตี้บาร์บีคิว
- ลานจอดรถจักรยาน
- ห้องสำหรับพนักงานขับรถ
- ลานล้างรถ
อาคาร A : ชั้น Ground
- บ้านต้นไม้
- ห้องซักผ้า
- ห้องจดหมาย
- ล็อบบี้เปิดเห็นวิวสวน
- พนักงานเฝ้าประตู
- โถงลิฟท์
อาคาร A : ชั้น 32
- สกายพูลเล้าจน์
- โต๊ะพูล
- สกายโยคะ
- ห้องอ่านหนังสือ
- ห้องสตรีม
- ห้องซาวน่า
- ห้องฟิตเนสอุปกรณ์ครบครัน
- สระเด็กพร้อมระบบ Bubble
- สระว่ายน้ำขนาดใหญ่
- สระว่ายน้ำระบบนวด
- ลานพัทกอล์ฟ
- ลานสปากลางแจ้ง
อาคาร A : ชั้น Roof Top
- ลานอ่านหนังสือกลางแจ้ง
- ลานปาร์ตี้กลางแจ้ง
อาคาร B : ชั้น Ground
- ล็อบบี้เปิดเห็นวิวสวน
- สวนน้ำพร้อมที่นั่ง
- พนักงานเฝ้าประตู
- ห้องซักผ้า
- โถงลิฟท์
- ห้องจดหมาย
อาคาร B : ชั้น 8
- สกายเล้าจน์
- ห้องฟิตเนสอุปกรณ์ครบครัน
- สระว่ายน้ำพร้อมจากุซซี่
- ลานอาบแดดรอบสระว่ายน้ำ
- ห้องสตรีม
- ห้องซาวน่า
- ห้องอ่านหนังสือ
- โยคะ ฟลาย (โยคะแบบลอยตัว โดยใช้ผ้าเป็นอุปกรณ์เสริม)
- โพลแดนซ์ (การออกกำลังกายชนิดหนึ่ง โดยใช้เสาแนวตั้ง)
อาคาร B : ชั้น Roof Top
- ลานปาร์ตี้กลางแจ้ง
- ลานปาร์ตี้ต่างระดับ
- พื้นที่นั่งชมวิวและจัดปาร์ตี้
- ลานนั่งสมาธิกลางแจ้ง
อื่นๆ
- บริการรถรับส่ง
- WI-FI พื้นที่ส่วนกลางตลอด 24 ชม.
- ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
- ระบบลิฟท์ความเร็วสูง
- ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาดอาคารและพื้นที่ส่วนกลาง
- ระบบการระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติ
- ระบบบำบัดน้ำเสีย
เริ่มก่อสร้าง: เมษายน 2558
คาดว่าจะแล้วเสร็จ: สิงหาคม 2561
ค่าส่วนกลาง: 50 บาท/ตร.ม./เดือน
ค่ากองทุนส่วนกลาง: 500 บาท/ตร.ม.
บริเวณใกล้เคียง
มหาวิทยาลัย/โรงเรียน : โรงเรียนหอวัง, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น
โรงพยาบาล: เปาโล เมโมเรียล, พญาไท 2, วิชัยยุทธ
อาคารสำนักงาน: ปตท สำนักงานใหญ่, การบินไทย สำนักงานใหญ่, บางกอกแอร์เวย์ สำนักงานใหญ่, ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่, ธนาคารทหารไทย สำนักงานใหญ่, บริษัท ปูนซิเมนต์ สำนักงานใหญ่, อาคารซันทาวเวอร์
แหล่งชอปปิ้งและพักผ่อน : ตลาดนัดจตุจักร, ตลาด อตก , เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว, เมเจอร์ ซีเนเพล็กซ์ รัชโยธิน, ยูเนี่ยนมอลล์, วิลล่า อารีย์, บิ๊กซี, ตลาดนัดหลังการบินไทย
สวนสาธารณะ : สวนจตุจักร, สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ), สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ
เกริ่นมาสักพักแล้ว … เราเข้ามาดูห้องตัวอย่างกันเลยดีกว่า
ห้องตัวอย่างเป็นขนาด 32 ตารางเมตร แบบ AA2-5 … เป็นห้องตัวอย่างชั่วคราวที่สร้างขึ้นมาที่ Central ลาดพร้าว โดยใช้เวลาทั้งหมด 8 ชั่วโมง ทำให้งานต่างๆไม่ได้เรียบร้อยมากนัก
Room Layout 32 ตารางเมตร
สีเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกมานี้เป็นชุดสีอ่อน ซึ่งลูกบ้านจะได้เป็นแบบ Fully Furnished นะครับ
เฟอร์นิเจอร์ชุดแรกที่เห็นว่าลูกบ้านจะได้ก็คือแผงใหญ่ๆทั้งหมดนี้ รวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย ทำเป็น Built-in ตั้งแต่ฝ้าสูง 2.8 เมตร จนถึงพื้น จัดว่าเป็นชุดที่คุ้มกว่า Fully Furnish โดยทั่วไปมาก เราจะเอาไปเทียบกับพวกคอนโดที่จัดแต่เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวให้เฉยๆไม่ได้นะครับ
ในขณะเดียวกันถ้าเรามาดูฝั่งตรงข้าม ก็จะได้ตู้รองเท้ากับตู้เก็บเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ไปอีกสองบาน
เปิดให้ดูจะพบว่าตู้นั้นใหญ่จริงนะครับ วางของได้สารพัด รวมถึงเครื่องซักผ้าเครื่องนี้ที่แถมรวมเป็นส่วนหนึ่งของห้อง
พื้นที่ทานข้าวนั้นจำกัดหน่อย แต่ก็ยังดีได้เป็นโต๊ะลอยแยกออกมา ถ้าจะให้นั่งสะดวกก็ต้องดึงโต๊ะเก้าอี้ออกมาตั้งตรงกลางห้อง
โดยพื้นในส่วนของครัวจะได้เป็นพื้นกระเบื้อง และห้องนั่งเล่นเป็นลามิเนต 12 มม. … อ่อ โต๊ะนี้เป็นโต๊ะที่สามารถพับเก็บชิดผนังได้นะครับ พอทานเสร็จแล้วก็พับติดผนังไป เอาเก้าอี้ไปนั่งเล่นได้
มาให้ดูเฟอร์ชุดครัวที่จะได้กันบ้าง ก็จะเห็นว่าได้ค่อนข้างเยอะเหมือนกันนะครับ เครื่องใช้ไฟฟ้า 4 ชิ้น (ไม่รวมเครื่องซักผ้าที่แถมไปแล้ว)
- ตู้เย็น
- ไมโครเวฟ
- เตาไฟฟ้า
- เครื่องดูดควัน
- เครื่องทำน้ำร้อน
ท๊อปครัวเป็นหินสังเคราะห์สีขาว
เตาไฟฟ้าแบบมีคอนโทรลเป็นที่หมุน … ผมเริ่มรู้สึกว่าแบบนี้ดีกว่าพวกที่เป็น Touchscreen แล้ว เพราะว่ามันควบคุมง่ายกว่า
ให้ดูลายหิน ซิงก์ กับหัวก๊อก สวยดีครับ
ช่องว่างสำหรับใส่เตา Electrolux เป็น Microwave ที่ทำเป็นเตาอบได้
เราขยับมาที่ห้องนั่งเล่นกันบ้าง … ที่เห็นนี้คือระยะดูทีวีนะครับ หากเปรียบเทียบกับช่องบริเวณตู้ด้านบนและด้านล่างแล้ว เราก็สามารถขยายขนาดทีวีได้จนเต็มเลย อย่างต่ำๆต้องมี 46 นิ้วล่ะ (ทีวีไม่ได้แถมนะ ต้องซื้อเอง)
ตู้เปิดได้เยอะอีกตามเคย ห้อง 32 ตารางเมตรแบบนี้ต้องเน้น เก็บของๆๆ จะได้ดูไม่รก … ส่วนช่องว่างบริเวณด้านขวานั้นเว้นเอาไว้สำหรับเก็บม่าน ซึ่งไม่ได้ติดตั้งมาในห้องตัวอย่างนะครับ
แหม่ มุมนี้ดูแล้ว Cozy สีเฟอร์ขาว-ครีม กับไฟเหลือง ทำให้ห้องดูอบอุ่นขึ้นมาเป็นกอง
ห้องนอนกับห้องนั่งเล่นนั้นสามารถเชื่อมกันได้ด้วยบานจูง 3 ตอน … ทำให้ห้อง 32 ตารางเมตรนั้นดูโปร่งขึ้น มี Open Space มากขึ้น
พื้นที่โดยรอบโซฟาจริงๆแล้วสามารถใส่เก้าอี้ Armchair ไปได้อีกตัว หรือปรับให้โซฟาใหญ่กว่านี้ก็ได้ เพราะยังมีพื้นที่เหลือบริเวณที่ตั้งโคมไฟ ซึ่งเราสามารถประยุกต์เป็นโคมไฟกิ่งติดผนัง ก็จะเซฟพื้นที่ได้อีกครับ
บานจูงด้านหลังโซฟาเวลาปิดมาแล้วก็จะหน้าตาแบบนี้ ได้เป็นกระจกสามตอนเพิ่มมิติให้กับห้อง … ถ้าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็สามารถติดสติกเกอร์ฝ้าเข้าที่กระจก กั้นห้องนอนกับห้องนั่งเล่นได้โดยให้แสงส่องผ่านระหว่างกันและกันน้อยลง
ข้อเสียสำหรับห้องที่ติดทีวีเล็กก็จะทำให้คนนอนอยู่บนเตียงดูไม่ค่อยถนัด เพราะมันไกลอยู่นา … ผมว่าต้องจัดใหญ่ๆนิดนึงถ้าจะเผื่อแผ่คนในห้องละครับ
ห้องนอน … แต่งได้เรียบง่ายแต่ดูสวยดีนะครับ โทนสีอ่อน ขาว-กาแฟ-เทา-ไม้
มุมด้านข้างมองออกไปทางหน้าต่างห้องนอน ด้านใต้เตียงมีลิ้นชัก 2 อันสำหรับเก็บของด้วย
มุมนี้เป็นมุมพิเศษของห้องนอน โดยจะมีการจัด Built-in Sofa หรือใครจะมองว่าเป็นตั่ง เป็น Daybed ก็ได้ ชิดริมขอบหน้าต่าง
ส่วนความสามารถพิเศษของโซฟาตัวนี้จะยกเบาะขึ้นเพื่อเก็บของไว้ใต้เบาะได้ ก็จะช่วยให้เราเก็บของได้มากขึ้นครับ
พื้นที่ใช้สอยโอเคเลย กึ่งนั่งกึ่งนอน กลิ้งเกลือกเล่น iPad ได้ก่อนนอน … และบางห้องของ M จตุจักรจะได้พื้นที่บริเวณนี้เป็น Bay Windor คือมีกระจกสามด้าน น่านอนมากกว่านี้อีกนะ
ฝั่งตรงข้ามหน้าต่างเป็นที่ของตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำ
โดยตู้เสื้อผ้าจัดเต็มใช้พื้นที่ได้คุ้มค่ามาก ทำตู้แทบทุกตารางนิ้ว
ช่องที่เว้นเอาไว้ก็คงจะหนีไม่พ้นประตูห้องน้ำ … ซึ่งเราจะเห็นว่าขอบตู้แทบจะชนขอบวงกบ ใช้พื้นที่ทั้งหมดของผนังได้เป็นประโยชน์จริงๆ
ด้านในห้องน้ำมี 3 ฟังก์ชั่นหลักๆ ก็คือห้องอาบน้ำ, โถสุขภัณฑ์ และอ่างล้างหน้า
อ่างล้างหน้าทำออกมาดู Modern มาก … พร้อมเป็ดน้อยสองตัว อิอิ
ด้านล่างในตู้จะมีเครื่องทำน้ำร้อน เอาไว้ให้ด้วยครับ
เดรนน้ำด้วยพื้นเอียงแบบนี้สวยงามดี แต่ผมว่าซิงก์ตื้นไปหน่อย น้ำอาจจะกระเด็นเอาเวลาเปิดแรงๆ
ด้านบนเป็นตู้พร้อมบานกระจก เก็บของได้เท่านี้
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard พร้อมสายฉีดชำระ
บริเวณห้องอาบน้ำนั้นกันแยกส่วนเปียกส่วนแห้งด้วย Curb เล็กๆ กับกระจก Tempered Glass แบบนี้เดินแล้วสะกิดเท้านิดหน่อยแต่ไม่สะดุดนะครับ
ชุดอาบน้ำเป็นแบบฝักบัวก๊อกผสม
ขนาดกำลังเหมาะมือ แต่จะไม่มี Rain Shower มาให้นะครับ
สุดท้ายแล้วเราไปดูที่ตัวระเบียงกัน โดยกรอบวงกบใช้เป็นสีน้ำตาลเข้ม
มือจับที่นี่ใหญ่ดี เปิดสะดวก ตัววงกบก็ซีลดี … แต่ในห้างมันมืดไปหน่อยผมเลยถ่ายได้แค่นี้แหละ
รางเค้าก็แข็งแรง ไม่ยกสูงขึ้นมาเกะกะเวลาจะเดินออกไปที่ระเบียง
ด้านนอกระเบียงมีของเล่นด้วย
เป็นราวตากผ้าสำเร็จรูป ที่ทำติดผนังไว้ให้แล้ว จะได้ตากผ้าแบบมีระเบียบเรียบร้อย … ถ้าใครอยู่ชั้นสูงๆลมแรงก็ควรใช้ไม้หนีบผ้าด้วย ไม่อย่างนั้นเสื้อของคุณอาจจะปลิวไปตกหน้าปากซอยก็ได้นะครับ
อีกด้านหนึ่งเป็นกริลปิดเพื่อวางคอมเพรสเซอร์แอร์ จัดการได้ดี
ขนาดพื้นที่ระเบียงประมาณนี้ กว้างราว 1 เมตรเศษ ยาวพอจะใช้งานได้จริง
ราวกันตกเป็นกระจกนะ 🙂
จบการรีวิวห้องตัวอย่างและพาชมโครงการ M จตุจักร อย่างย่อๆเท่านี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเวลากระชั้นเราก็อยากให้สมาชิกเวปไซต์เราได้ชมกันเร็วๆ … ส่วนบทวิเคราะห์ฉบับเต็มนั้น อาจจะต้องรอห้องตัวอย่างเปิดใหม่ที่ไซต์ และเราจะได้เข้าไป Study พื้นที่จริงกันได้โดยละเอียดกว่าปัจจุบันครับ
Update 29/1/2015 : บทวิเคราะห์ฉบับเต็มและห้องตัวอย่างจริงๆ ณ สำนักงานขาย
ปัจจุบันสำนักงานขายสร้างเสร็จแล้ว และมีห้องตัวอย่างให้ชมกันอีก 2 แบบ คือ 1 Bedroom ขนาด 28 ตารางเมตรและ 2 Bedrooms ขนาด 55 ตารางเมตร
หน้าตาของ Sales Office ก็ออกแบบล้อไปกับสถาปัตยกรรมของตึกจริง ซึ่งจะมีกลิ่นไออยู่บ้างและย่อส่วนมาให้ชมกัน
ภายใน Lobby ของ Sales Office ก็ดูสวยงาม จุดเด่นคงจะหนีไม่พ้นเพดานรังผึ้งที่เห็นในภาพ
เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ห้องแรกที่จะให้ชมก็คือห้อง AA3-1 ขนาด 28 ตารางเมตร ที่มี Layout แบบตรงไปตรงมา โดยจะเป็นห้องในแนวลึก แบ่งเป็น 2 ตอน ด้านในเป็นห้องนอนติดกับระเบียง ด้านนอกเป็นห้องนั่งเล่นพร้อมกับครัวและห้องน้ำครับ
ประตูที่นี่ให้เป็น Digital Doorlock ของ Yale รุ่นที่เห็นดังภาพ
เนื่องจาก Layout ของห้อง 28 ตารางเมตรนี้เป็นห้องแนวลึก การจัดวางสัดส่วนของห้องก็จะเป็นแนวลึกเช่นกัน โดยจะมีครัวอยู่หน้าสุด
ส่วนของครัวได้เป็นเฟอร์นิเจอร์ Fully Furnished อย่างที่เห็นในภาพ คือมีตู้ติดผนังแบบนี้
ไล่ไปเรื่อยๆจนถึงชั้นวางทีวีที่ส่วนของห้องนั่งเล่น และโต๊ะรับประทานอาหารฉบับจิ๋ว
หันกลับไปมองอีกด้านของชุดครัวนะครับ ทางซ้ายจะมีตู้เก็บอุปกรณ์อเนกประสงค์หรือจะใช้วางรองเท้าก็ได้อยู่คู่กับทางเข้าห้องน้ำ
ด้านในตู้แบ่งเป็นช่องๆเอาไว้ตามที่เห็นในภาพครับ
ด้านบนของครัวให้ชุดตู้สูงจรดฝ้าเลย โดยจะเปิดได้ 3 ตู้ เก็บของได้ตามนี้ … อ่อ ทางซ้ายสุดเหนือตู้เย็นคงจะต้องติดตั้งชุด Breaker ไฟ ด้วยนะครับ
ตู้ด้านล่างติดตั้งตามที่เห็น มีถังขยะติดมาให้แล้วในตู้บานซ้ายสุดใต้ซิงก์ ส่วนไมโครเวฟนั้นก็วางไว้ด้านลาง ใต้ชุดเตาครับ
มองจากด้านข้างเราก็จะเห็นว่าชุดครัวมีพื้นที่ประมาณไหน … เท่านี้ผมเรียกว่ากำลังดีสำหรับ 1 คน และหยวนๆพอใช้ได้สำหรับ 2 คน
โต๊ะทานอาหารผมคิดว่านั่ง 1 คนกำลังดี ถ้านั่งสองคนจะชิดไปหน่อย กินข้าวแบบมีกับข้าวไม่ได้ เพราะจะวางจานได้แค่คนละใบเท่านั้น ต้องลามไปวางจานกับข้าวที่แจกันดอกไม้หรือชั้นวางทีวีแทนนะครับ
ตู้ใต้ทีวีสามารถเปิดออกมาได้ตามนี้ ชั้นวางทีวีจะวางทีวีใหญ่กว่านี้ก็ได้ ไม่มีปัญหาใดๆนะครับ
พื้นส่วนของครัวเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. สีออกเทาๆ และพื้นของส่วนห้องนั่งเล่นเป็นต้นไปจะเป็นลามิเนตลายเหมือนอย่างที่เห็นในห้องตัวอย่างนะครับ
ระยะห่างของทีวีกับโซฟาก็ค่อนข้างเยอะอยู่ ประมาณ 3 เมตรกว่า
โดยโซฟาที่มาพร้อมกับห้องนั้นมีขนาดเท่านี้ นั่งได้ 2 คนพอดีๆ และเว้นที่ด้านขวาเอาไว้วางโคมไฟ เผื่อใครจะอ่านหนังสือ หรือจะทำเป็นชั้นวางหนังสือยาวขึ้นไปก็ได้ครับ
ตำแหน่งโซฟาวางชิดไปทางห้องนอน ปล่อยพื้นที่ทางขวาไว้
โต๊ะกลางตัวจิ๋ว วางของได้นิดหน่อย แก้วน้ำ ไอแพด ฯลฯ
แอร์ติดตั้งอยู่เหนือโซฟา คงจะไม่มีปัญหาเรื่องแอร์เป่าแล้วหนาว แต่ถ้าไม่เย็นก็ต้องปรับให้แอร์เป่าแบบสวิง ลมเย็นจะได้ลงมาถึงตัวบ้าง
ก่อนที่จะไปดูห้องนอน เราย้อนกลับมาดูห้องน้ำกันอีกนิดหนึ่ง
พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงไปแบบนี้ และชนิดของกระเบื้องก็จะเปลี่ยนเป็นพื้นผิวแบบกันลื่น ป้องกันการหกล้มในห้องน้ำ
ห้องน้ำขนาดค่อนข้างเล็ก แต่มี 3 ฟังก์ชั่นครับถ้วน คือโถสุขภัณฑ์ตรงกลาง อ่างล้างหน้าทางด้านขวาและห้องอาบน้ำทางซ้าย
อ่างล้างหน้าติดตั้งมาพอดีช่อง ขนาดพอดีๆ ข้อดีอยู่ทางขวามือที่มีพื้นที่ว่างเว้นเป็น Counter เอาไว้ให้วางอุปกรณ์ ตรงนี้ทำออกมาได้ดีกว่าหลายๆที่ที่จะเอาอ่างล้างหน้าวางไว้ตรงกลางแล้วไม่เหลือพื้นที่ให้วางของใหญ่ๆได้เลย
เนื่องจากพื้นที่วางของมีไม่มาก ทางโครงการจึงได้จัดเต็มตู้มาให้ทั้งด้านบนและด้านล่าง โดยฝาตู้ด้านบนเป็นบานกระจกนะครับ
ที่นั่งตรงโถสุขภัณฑ์นี้ถ้าเป็นคุณผู้หญิงขนาดมาตรฐานหญิงไทยคงจะนั่งสบายไม่มีปัญหา แต่ถ้าเป็นผู้ชายตัวใหญ่ๆแบบผมคงจะลำบากนิดนึงนะ
ดังนั้นถ้าใครนั่งแล้วอึดอัดก็ต้องหาตัวช่วย โดยการเปิดประตูห้องอาบน้ำออกไปอย่างนี้ ให้มีพื้นที่มากขึ้น กางเข่าได้สบายขึ้นครับ
ห้องอาบน้ำกั้นด้วยกระจก Tempered Glass ที่เป็นกระจกนิรภัย ดูสวยงามและแข็งแรง
ด้านในมีพื้นที่พอใช้ได้ ติดตั้งก๊อกน้ำผสม เป็นรุ่นของฝักบัวอย่างที่เห็น
ดึงออกมาได้ประมาณนี้ พอดีมือ และมีที่วางสบู่ แชมพู ฯลฯ อยู่ทางซ้ายครับ
ส่วนของห้องนอนนั้นอยู่ลึกเข้าไปจากห้องนั่งเล่นอีกหน่อยนึง โดยจะมีบานเลื่อน 3 ตอน กั้นขวางไว้
เวลาปิดก็จะดึงมาชิดกันแบบนี้ ช่วยเวลาที่อยู่ 2 คน คนหนึ่งจะนอน อีกคนจะทำอย่างอื่นก็จะได้แยกกันอยู่คนละห้อง ถ้าใครรำคาญไฟจากด้านนอกก็ต้องหาม่านหรือบานเกล็ดมาปิดอีกชั้นหนึ่ง
ข้อดีของบานเลื่อนแบบ 3 ตอนคือเมื่อเวลาเลื่อนมาซ้อนกันแล้ว กระจกทั้งสามบานจะมาซ้อนกันอยู่ด้านในสุดแบบนี้ ทำให้ห้องมีพื้นที่โล่งมากขึ้น ไม่อึดอัดเหมือนบานเลื่อนแบบ 2 ตอน
เดินเข้ามาถึงห้องนอนกันแล้ว ที่นี่สามารถวางเตียงได้เป็นขนาด 5 ฟุต และมีโต๊ะข้างเตียงมาให้ 1 ฝั่ง
แม้ว่า Furniture มาตรฐานจะให้มาแบบนี้ แต่ถ้าใครอยู่คนเดียวผมขอแนะนำให้เปลี่ยนเป็นเตียงแบบ 3.5 ฟุต เพื่อที่จะได้มีพื้นที่นั่งทำงานด้านขวาของเตียง ทำเป็นโต๊ะคอมพิวเตอร์หรือตู้เสื้อผ้าเพิ่มได้อีก 1 ใบ นะครับ
อีกฝั่งของเตียงวางชนิดผนังฝั่งระเบียง ติดกับแนวผ้าม่านเลย
โคมไฟข้างเตียงก็จะมีประโยชน์สำหรับคนที่ชอบนอนอ่านหนังสือ ถ้าเราไม่ใช่คนประเภทนั้นก็เอาออกไปก็ได้นะครับ จะช่วยให้มีพื้นที่ขึ้นอีกพอสมควร ส่วนเรื่องความสว่างผมว่าติดตั้งเป็นโคมไฟกิ่งที่ยื่นออกมาจากผนังหัวเตียงจะทำให้ประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า
ฝั่งปลายเตียงเป็นพื้นที่วางโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าประจำห้อง
โต๊ะเครื่องแป้งทีนี่ค่อนข้างแนว ทำออกมาให้มีประโยชน์ 2 อย่าง คือเวลาปิดก็จะเป็นโต๊ะเขียนหนังสือได้ เวลาเปิดก็จะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ แต่โต๊ะตัวนี้มันค่อนข้างเล็กไปนิดหนึ่งที่จะเอามาวางคอมพิวเตอร์ตัวใหญ่ๆ และจะยากเวลายกขึ้นลงเพื่อเปิดกระจก ดังนั้นถ้าใครจะใช้โต๊ะตัวนี้ทำเป็นโต๊ะคอม ก็ขอให้ใช้เฉพาะ Notebook Computer นะครับ จะสะดวกกว่ามาก
ด้านข้างกันเป็นตู้เสื้อผ้า ตรงนี้ก็ต้องประเมินเอาเองแล้วล่ะว่าพอหรือไม่ ส่วนใหญ่คุณผู้ชายจะบอกว่าพอ แต่คุณผู้หญิงคงจะบอกว่าไม่ …
ปลายสุดของห้องนอนอยู่ติดกับระเบียงห้อง โดยมีผ้าม่านปิดอยู่แบบนี้
กระจกบริเวณระเบียงเป็นแบบที่เลื่อนได้ 2 ฝั่ง เปิดปิดค่อนข้างสะดวกครับ
พื้นที่ระเบียงมีความลึกราว 80 ซม. กว้างราว 2.5 เมตร
มีราวตากผ้า เพียงพอให้ใช้งานได้สำหรับผ้า 2-3 วัน แต่ถ้าใครซักอาทิตย์ละหนก็ต้องหาราวตากผ้ามาเพิ่มอีกนะครับ
ฝั่งตรงข้ามของราวตากผ้าเป็นช่องวาง Air Compressor และที่วางเครื่องซักผ้า
เปิดเข้าไปได้แบบนี้ เครื่องต้องเป็นแบบฝาหน้า เพราะด้านบนจะมีแอร์คอมพ์วางอยู่อีก 2 ตัว … จบกับห้อง 28 ตารางเมตรเท่านี้ ไปต่อกันที่ห้องแบบ 55 ตารางเมตรเลย
ห้องแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่ขนาด 55 ตารางเมตรนี้ จัดว่าเป็นห้องที่ค่อนข้างกะทัดรัดทีเดียว เพราะโดยปกติแล้วห้องแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ควรจะมีขนาดราวๆ 65-70 ตารางเมตร ด้วยพื้นที่ที่เล็กลงก็จะทำให้ราคาขายต่ำลง แต่ก็จะทำให้ความอยู่สบายลดลงไปบ้าง ยกเว้นว่าจะมีการออกแบบห้องมาดีจริงๆครับ
ภาพแรกจากที่เห็นตาม Layout ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็จะพบส่วนของครัวอยู่ทางซ้าย ส่วนนั่งเล่นอยู่ทางขวา ส่วนเรื่องของประตูและกลอนประตูนั้นใช้เหมือนกันทั้งโครงการนะครับ ผมคงจะไม่ได้ลงรายละเอียดซ้ำซ้อน
ครัวของ 2 Bedrooms นี้เป็นแบบเข้ามุมรูปตัว L ทำให้พื้นที่ผิวในการใช้งานมากขึ้น มากกว่าแบบ 1 Bedroom แต่ด้วยการจัดวางแบบนี้ ทำให้ไม่สะดวกเท่าไรที่จะทำครัวพร้อมๆกันสองคนครับ
แม้ว่าพื้นที่ผิวจะมากขึ้น แต่พื้นที่เก็บของกลับไม่ได้มากตามไปด้วย เนื่องจากจุดที่เป็นตัว L ทำให้เสียพื้นที่เก็บของช่วงมุมไปส่วนหนึ่ง และชั้นที่สูงที่สุดของตู้นี้สูงถึง 2.8 เมตร เราก็ควรจะมีบันไดลอยสักขั้นสองขั้นเอาไว้ใช้งานด้วยครับ
พื้นที่ผิวที่มากขึ้นจะทำให้เตรียมอาหารง่ายขึ้น วางของ มีที่วางจานมากขึ้น
ผนังด้านหลังของครัวใช้เป็นวัสดุประเภทกระจก Glasskote ทำให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ไฟด้านหลังเป็น LED ส่องลงมาให้ความสว่างที่พื้นผิวครัวพร้อม
อีกฝั่งหนึ่งของตัว L เป็นที่วางเตา พร้อมกับเครื่องดูดควันแบบนี้
ฝั่งตรงข้ามของครัวเป็นที่เก็บของยาวจรดเพดาน 2.8 เมตร มาพร้อมกับตู้เย็น 1 เครื่อง
ห้องนี้มีเครื่องซักผ้าอยู่ในนี้ได้เลย ไม่ต้องระหกระเหินออกไปใช้ที่ระเบียงเหมือนห้อง 1 Bedroom 28 ตารางเมตร
ต่อมาเป็นห้องนั่งเล่น … ทางโครงการทำตู้ติดผนังยาวตั้งแต่ปลายห้องไปจรดผนัง … จัดว่าดีมากครับ ช่วยเพิ่มที่เก็บของได้เยอะมากๆ
เยอะขนาดไหนก็ดูกันเองเลยดีกว่า ตรงนี้เป็นจุดเด่นเลยละ เพราะแม้ว่าพื้นที่ห้องจะลดลงเหลือ 55 ตารางเมตร แต่ผมว่าที่เก็บของขนาดนี้ก็ไม่แพ้ใครเหมือนกันนะ
ตำแหน่งแขวนทีวีทำเผื่อไว้ใช้ให้วางได้ถึงขนาดราวๆ 60 นิ้ว
แต่ถ้าวางทีวี 60 นิ้ว ผมว่าขนาดก็จะใหญ่ไปนิดหนึ่ง เพราะระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีมีไม่มาก ถ้าราวๆ 50 นิ้ว คงจะกำลังดีครับ
นี่คือระยะดูทีวีนะ … และตู้ด้านล่างก็เก็บของได้อีก
สำหรับโต๊ะทานข้าว ได้มาเป็นขนาด 4 ที่นั่งแบบพับได้ … ดีตรงที่ไม่เกะกะเวลานั่งทำอย่างอื่นที่ไม่ได้กินข้าว
โซฟาแบบ 2 ที่นั่งพร้อมกับเก้าอี้อีก 1 ตัว นั่งได้ 3 ชีวิต ซึ่งผมก็แนะนำว่าห้องขนาด 55 ตารางเมตรนี้ ถ้าจะให้อยู่สบายจริงๆควรจะอยู่ 3 คนนะครับ หรือถ้ามีสมาชิกที่เป็นเด็กจะอยู่ 4 คนก็ได้อยู่ครับ
ตำแหน่งติดแอร์วางอยู่บริเวณริมห้องเหนือโซฟา มีผ้าม่าน 2 ชั้นเป็นม่านทึบและม่านโปร่งพร้อมกรอบม่านด้านบนไว้ให้แล้ว
ระเบียงเดินออกไปได้จากห้องนั่งเล่น ตรงนี้จะมีความกว้างเกือบๆ 3 เมตร และมีความลึก 80 ซม.
มีราวตากผ้าไว้ให้เล็กน้อย ซึ่งควรจะซื้ออันใหญ่เอามาเพิ่มถ้าจะตากผ้าสำหรับสมาชิก 3-4 คนครับ
อีกฝั่งหนึ่งเป็นช่องวางคอมพ์แอร์ แต่ไม่ต้องวางเครื่องซักผ้าแล้ว เพราะมีคอมพ์แอร์ 3 ตัว วางซ้อนๆกันได้ก็เต็มห้องพอดี
ถัดไปเป็นโซนของห้องนอนแล้วละครับ เดินตรงไปในสุดคือห้องนอนใหญ่ ทางขวาคือห้องนอนเล็ก และทางซ้ายเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอนเล็กและห้องนั่งเล่น
ห้องนอนเล็กก็จัดมาขนาดพอดิบพอดี วางเตียง 5 ฟุตได้และต้องแขวนทีวีที่ปลายเตียง อื่นๆกองไว้ที่พื้นเนื่องจากพื้นที่จำกัด
นี่เป็นสาเหตุที่ผมแนะนำว่าห้องนี้ควรจะอยู่แค่ 3 คนเท่านั้น เพราะจะได้เปลี่ยนเตียงนี้เป็นเตียง 3.5 ฟุต ห้องนอนเล็กจะได้มีพื้นที่วางโต๊ะทำการบ้าน ฯลฯ มากกว่านี้
ไม่อย่างนั้นข้างเตียงจะเหลือพื้นที่แค่นี้ เอาไว้วางโต๊ะข้างเตียงได้ตัวเดียวครับ
ทีวีแขวนปลายเตียง แอร์ติดตั้งเป็นเครื่องเล็กแขวนอยู่ด้านบนผนังข้างๆเตียง
นอกจากเตียงก็มีแค่ตู้เสื้อผ้าแล้วล่ะ
ยังดีที่มีตู้เสื้อผ้าค่อนข้างใหญ่ จะเห็นว่าโครงการ M Jatujak เน้นเรื่องพื้นที่เก็บของค่อนข้างมาก ซึ่งผมว่าเป็นสิ่งที่ดีเลยครับ
บริเวณปลายห้องนอนเล็ก ส่วนที่ติดกับหน้าต่าง มีการทำชั้นเล็กๆคล้ายๆโซฟาเอาไว้ให้นั่งได้
แต่พอติดตั้งอยู่ในซอกแบบนี้ ผมว่าประโยชน์ใช้สอยมันจะน้อยไปหน่อยนะ … ในมุมกลับกันถ้าใช้เตียงเล็กแล้วทำเป็นโต๊ะทำการบ้านตรงช่องนี้ คงจะดีไม่น้อย
ต่อมาเป็นห้องน้ำด้านนอกครับ ที่อยู่ด้านข้างครัวและตรงข้ามกับห้องนอนเล็ก
ห้องน้ำมีการดรอปพื้นลงไปเช่นเดิม และใช้พื้นกระเบื้องกันลื่นเป็นหลัก
ห้องน้ำนี้มีขนาดพอประมาณ 3 ฟังก์ชั่นเหมือนเดิม คืออ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำ
รายละเอียดของอุปกรณ์ในห้องน้ำต่างๆจะเหมือนกับที่ 1 Bedroom โดยจะใช้ของ American Standard
โถนี้ก็เช่นกัน
ฉากกั้นอาบน้ำสูง 2.4 เมตร
พื้นที่อาบน้ำมีเยอะกว่าห้อง 1 Bedroom อาบน้ำได้สบายกว่าครับ
มีการติดตั้งพัดลมดูดอากาศมาให้เรียบร้อย แต่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้นะ
ถัดมาเราจะไปดูห้องนอนใหญ่ ซึ่งเป็นห้องสุดท้ายกันนะครับ … เดินเข้ามาก็งงๆหน่อยว่าเราเจอฟังก์ชั่นอะไรเนี่ย … อ่อ มันคือ Dressing Area เป็นพื้นที่แต่งตัวนั่นเอง
ตู้ต่างๆของห้องแต่งตัวจะทำหน้าที่คล้ายๆกับผนังห้องกั้นระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำไว้
โดยพื้นที่เก็บของก็มีประมาณนี้
นี่ด้วย … แต่หน้าบานรูปตัว L เวลาเปิดบานมันจะชนกัน ดังนั้นต้องเลือกเปิดเป็นบานๆไปนะครับ
จุดที่ติดกันกับพื้นที่แต่งตัวก็คือห้องน้ำ Master Bathroom
ห้องน้ำนี้มีพื้นที่พอควร วางฟังก์ชั่นเหมือนกันกับห้องข้างนอกเลย
อ่างล้างหน้าพร้อมตู้เหมือนกันเด๊ะๆ
จุดที่แตกต่างคงจะหนีไม่พ้นเรื่องของ “แสง” ธรรมชาติ เพราะเป็นห้องน้ำที่มีหน้าต่างครับ
ซึ่งหน้าต่างก็จะอยู่ในส่วนของตู้อาบน้ำ … ถ้าใครอยากจะอาบไปมองวิวด้านนอกไปก็เชิญได้ที่ห้องน้ำห้องนี้
เดินออกจากห้องน้ำ ผ่านมุมแต่งตัว ก็จะไปที่ส่วนที่เป็นห้องนอนแล้วละ
ห้องนอนใหญ่จัดให้หน้าต่างบานใหญ่วางอยู่ข้างเตียงรับวิวทิวทัศน์ได้เต็มที่
บริเวณเตียงมีพื้นที่รอบด้านครบครัน เหมาะสมสำหรับการอยู่ 2 คน ไม่เหมือนกับห้องนอนเล็ก
โต๊ะเครื่องแป้งตัวเดิม ยกมาวางไว้ตรงนี้
ทีวีแขวนปลายเตียงเช่นกัน
จัดเป็นห้องนอนใหญ่ที่ใช้งานได้ตามมาตรฐานครับ … อ่อ ที่มุมทางซ้ายนั่นเป็นกระจกหน้าต่างเข้ามุมด้วยนะ ถ้าใครมองจากภาพไม่ชัดก็ให้ดูในแบบห้อง Layout Plan นะครับ
Pricing @ 29 Jan 2015
- จอง 50,000 – 100,000 บาท
- ทำสัญญา 5% ของราคาขาย
- ดาวน์ 20% ของราคาห้อง
- โอนกรรมสิทธิ์ 75% ค่าธรรมเนียมคนละครึ่ง
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตารางเมตร/เดือน
เจาะลึกรวบยอด
ทำเลของ M จตุจักร มีที่ดินบางส่วนติดถนนใหญ่พหลโยธินแต่ทางเข้าหลักนั้นอยู่ในซอยพหลโยธิน 18 ซึ่งเป็นซอยทางลัดหลักที่ใช้กันระหว่างถนนใหญ่ทั้ง 3 เส้น คือพหลโยธิน, สุทธิสาร และ วิภาวดีรังสิต โดยจะออกไปที่ซอยอินทามระ 15 หรือวิภาวดีรังสิต 3, 5 หรือจะวนกลับไปที่หน้า BTS หมอชิต บริเวณซอยพหลโยธิน 18/1 ก็ยังได้ แต่ในขณะเดียวกัน ก็จะห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิตราวๆ 500 เมตร และ MRT กำแพงเพชรราว 300 เมตร ซึ่งทั้งสองที่นั้นอยู่ในรัศมีการเดินเท้าทั้งสิ้น แต่ถึงแม้ว่า BTS หมอชิตจะไกลกว่า แต่ผมว่าเดินค่อนข้างง่ายกว่าเยอะนะครับ … อ่อ ใครไม่อยากเดิน ขาไปทางโครงการมี Shuttle Service บริการไปส่งได้นะครับ แต่ขากลับอาจจะต้องเดินกลับมาหน่อย ถือว่าช่วยเผาผลาญ Calories ละกัน
ทำเลนี้หากินง่ายนะครับ ไม่ต้องห่วงเรื่องของกินของใช้ เดินข้ามถนนไปตลาดนัดจตุจักรในระยะไม่ไกลก็สามารถหาทุกอย่างได้ตามต้องการแล้ว หรือถ้าเป็นตามถนนในซอยพหลโยธิน 18 ก็ยังหาได้อยู่ ยกเว้นว่าเป็นคนที่ชอบไปห้างสรรพสินค้า อันนี้ก็จะอยู่นอกรัศมีเดินเท้า ต้องนั่งรถไป ไม่ว่าจะเป็น Taxi, BTS หรือจะขับรถยนต์ส่วนตัวก็ตามแต่
ด้วยทำเลของ M จตุจักรจริงๆแล้วก็คงจะไม่สามารถแข่งขันกับคอนโดติดรถไฟฟ้าแถวสะพานควายหรืออารีย์ได้ แต่ด้วยราคาที่เปิดตัวมาราวๆ 135,000 บาทต่อตารางเมตร ในปี 2014 เมื่อเทียบกับราคาของคอนโดติด BTS สะพานควายที่เปิดตัวในเวลาไล่เลี่ยกันก็จะพบว่า M จตุจักรถูกกว่าอยู่ราวๆ 10-20% ตรงนี้เป็นส่วนต่างที่ทำให้หลายๆคนที่ขับรถยนต์เป็นหลัก ไม่ได้ใช้ BTS เยอะขนาดนั้น อาจจะสนใจในพื้นที่ที่ใหญ่กว่า แต่อยู่ในทำเลที่ขับรถสะดวกไม่แพ้กัน
พูดถึงเรื่องการขับรถสะดวกนอกจากจะมีซอยทางลัดให้ใช้แล้ว (ซอยทางลัดถ้าเป็นชั่วโมงเร่งด่วนก็รถติดเหมือนกันนะ) ก็ยังมีทางด่วนให้ใช้ในระยะไม่ไกลเท่าไร นั่นก็คือด่านกำแพงเพชรที่อยู่บนถนนกำแพงเพชรเลย MRT ไป ระยะทางจริงๆวัดได้ 1 กิโลเมตรเศษ แต่พอขับรถก็ต้องวิ่งไปกลับรถแถวสะพานควาย อ้อมนิดหน่อยคิดเป็นระยะทางราวๆ 3 กิโลเมตรนะครับ … จุดที่ผู้ใช้รถยนต์ต้องดูอีกจุดหนึ่งก็คือเรื่องของที่จอดรถที่มีมาให้ 50% รวมจอดซ้อนคัน ตรงนี้ก็ต้องพิจารณากันหน่อยว่าพอหรือไม่
วัสดุกับแบบห้องของที่นี่ผมจัดว่าค่อนข้างโอเคนะครับ แม้ว่าจะไม่ได้ใช้วัสดุแพงที่ดูหรูหราไฮโซ แต่ผมชอบตรงที่มีการคิดออกแบบที่เก็บของ (Storage) เป็นอย่างดี การที่คอนโดแบรนด์ M ลดพื้นที่ห้องลงเหลือ 28 และ 55 ตารางเมตรสำหรับ 1 Bedroom และ 2 Bedrooms ตามลำดับนั้น ก็ได้มีการคิดเผื่อด้วยการใช้ประโยชน์จาก Furniture ชิ้นต่างๆ ให้มีการใช้พื้นที่ห้องได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของตู้ Built-in ยาว โต๊ะกินข้าวที่พับเก็บได้ ตู้ใต้เตียง ตู้เก็บของเอนกประสงค์ และราวตากผ้าติดผนังด้านนอกระเบียง ทั้งหมดนี้ทำให้ใช้พื้นที่เล็กๆได้ดีขึ้น และยังคงความโปร่งเอาไว้กับฝ้าเพดานสูง 2.8 เมตรครับ
ส่วนตัวตึกนั้นจุดเด่นคงจะหนีไม่พ้นในเรื่องของ Facilities ที่จัดให้มี Sport Arena ภายในมีสนามแบตมินตัน คอร์ทสตรีทบาสเก็ตบอล สนามฟุตซอล และสาธารณูปโภคต่างๆ (ทางโครงการเคลมว่ามีมากกว่า 60 รายการ) แต่จริงๆก็ Group รวมกันได้หลายอย่าง เด่นๆที่สมควรพูดถึงก็คือ สระว่ายน้ำพร้อมสระเด็ก, ฟิตเนสสองที่, ที่จอดรถจักรยาน, ที่ล้างรถ, ห้องซักผ้า, ห้อง Steam, ห้อง Sauna, Sky Lounge, โต๊ะ Pool, 24/7 Wifi ในพื้นที่ส่วนกลาง ฯลฯ อีกมากมาย ซึ่งทั้งหมดนี้ผมก็คิดว่าเกินพอแล้วละครับ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 135,000 บาทต่อตารางเมตร, January 29, 2015
- ทำเล 8/10 – ติดถนนใหญ่พหลโยธิน ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า MRT และ BTS ในระยะ 300 และ 500 เมตร
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – เดินทางค่อนข้างสะดวกมากมีทางเลี่ยงทางลัดเยอะน่าจะทำให้มีคนอยากใช้รถซึ่งที่จอดรถอาจจะน้อยไปนิด
- ไม่ใช้รถ 7.75/10 – สะดวกใช้ได้ มี Shuttle Service ไปรถไฟฟ้าเสริม
- วัสดุ 8.0/10 – จัดมาค่อนข้างครบ Fully Furnished + เครื่องใช้ไฟฟ้า
- แบบ 8.0/10 – แบบตึกค่อนข้างแน่น แบบห้องค่อนข้างเล็ก แต่มีการออกแบบเผื่อในเรื่องของเฟอร์นิเจอร์ค่อนข้างมาก พื้นที่เก็บของเยอะ
- สาธารณูปโภค 9.0/10 – สาธารณูปโภคเยอะ ขาดอย่างเดียวคือที่จอดรถน่าจะมีเยอะกว่า 60%
- HIGH CLASS
- 8.06 / 10.00
BOTTOM LINE
M Jatujak (M จตุจักร) เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของคนที่ต้องการคอนโดมิเนียมในย่านหมอชิต-สะพานควาย-จตุจักร มีงบประมาณ 4 ล้านขึ้นไป ต้องการคอนโดใกล้รถไฟฟ้าแต่ไม่จำเป็นต้องติดรถไฟฟ้าขนาดนั้น สามารถเดินได้ในระยะ 300-500 เมตร อยากได้ห้องที่แต่งเกือบครบแล้วไม่ต้องคิดอะไรมาก และชอบตึกที่มีสาธารณูปโภคเยอะๆ
วันนี้ลาไปก่อน สวัสดีครับ … ถ้าใครชอบบทความก็รบกวน Like & Share ด้วยนะครับ ^_^