รีวิวฉบับที่ 1862 …  Lumpini Ville สุขุมวิท 101/1 – ปุณณวิถี คอนโด Low Rise ตัวใหม่จาก LPN ที่เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดราคาย่อมเยาในย่านนี้ ทำเลอยู่ในซอยสุขุมวิท 101/1 หรือที่เรารู้จักกันดีว่าคือ “ซอยวชิรธรรมสาธิต” ซอยที่สามารถทะลุออกได้หลายเส้นทางทั้งถนนศรีนครินทร์ ถนนอ่อนนุช ฯลฯ เดินทางต่อรถไป  BTS ปุณณวิถีและอุดมสุขได้สะดวก อีกทั้งยังเป็นซอยที่มีหาของกินได้ง่ายมากๆ โครงการนี้เปิดตัวด้วยราคาเริ่มต้น  1.49 ล้านบาท เราไปชมกันค่ะ

Fact @ 10 May 2019

  • Lumpini Ville Sukhumvit 101/1 – Punnawithi (ลุมพินี วิลล์ สุขุมวิท 101/1-ปุณณวิถี)
  • บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ : ในซอยสุขุมวิท 101/1 , เขต พระโขนง
  • ที่ดินประมาณ 3-0-20 ไร่
  • คอนโด  Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 328 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 24 ยูนิตที่อาคาร A (ชั้น 3-8) และ อาคาร B (ชั้น 3-8)
  • ที่จอดรถประมาณ 106 คัน คิดเป็นประมาณ 33% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) + ที่จอดรถจักรยานยนต์ 12 คัน
  • เริ่มก่อสร้าง : ต.ค. 62
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ส.ค. 63
  • Studio 24 – 24.50 ตร.ม.
  • 1 Bedroom 27.50 – 34 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 44 ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.49 ล้านบาท
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
  • เวปไซต์โครงการ : รอเวปไซต์จากทางโครงการ  
  • โทร  : 02-689-6888

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.686118 , 100.633704
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่ 

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

ที่ตั้งของโครงการ Lumpini Ville สุขุมวิท 101/1 – ปุณณวิถี ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 101/1 หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ ซอยวชิรธรรมสาธิต ซอยนี้จะอยู่เกือบตรงกลางระหว่างสถานีรถไฟฟ้า 2 สถานีคือ ปุณณวิถีและอุดมสุขเป็นซอยที่มีความเจริญค่อนข้างสูง เนื่องจากเดินทางสะดวก มีเส้นทางทะลุออกไปถนนหลักได้หลากหลายเส้น อาทิเช่น ถนนศรีนครินทร์, ซ.สุขุมวิท 101(ปุณณวิถี), ซ.สุขุมวิท 103(อุดมสุข), และซ.สุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) สำหรับการเดินทางขึ้น-ลงทางด่วนเฉลิมมหานครสามารถใช้ได้จากซอยสุขุมวิท 62 และบริเวณแยกบางนาค่ะ

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ในอนาคตทำเลนี้มีแผนที่จะทำรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีน้ำตาล แต่ต้องรอกันไปก่อนไม่รู้ว่าของจริงจะได้ใช้งานกันเมื่อไหร่นะคะ ซึ่งทำให้มีคนอาศัยในซอยนี้มากขึ้น ความคึกคักก็ตามมาสำหรับการจราจรบนถนนสุขุมวิทตรงนี้ รถติดไม่เท่ากับฝั่งในเมืองที่ข้ามคลองพระโขนงไปแล้ว แต่ปริมาณรถก็ยังเยอะอยู่ อย่างไรก็ดี ถ้าจะเข้าเมืองใช้รถไฟฟ้ายังสะดวกกว่ามาก มีระยะทางวัดจากตัวโครงการถึงจุดขึ้นลงรถไฟฟ้าประมาณ 3 กม. ไม่ใช่ระยะที่เดินได้สบาย แต่ก็ถือว่าไม่ได้ลำบาก เพราะสามารถต่อรถออกมาใช้รถไฟฟ้าที่บริเวณปากซอยได้ไม่ยาก โดยใช้รถสองแถว, แท็กซี่ หรือวินมอเตอร์ไซค์ก็ได้ ทำให้สะดวกทั้งเดินทางด้วยรถยนต์และรถสาธารณะ

ภายในซอยสุขุมวิท 101/1 ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบ ทั้งบ้านพักอาศัย และตึกแถวสูง 4-5 ชั้น ที่ชั้นล่างทำเป็นร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงยังมีตลาด Tesco Lotus และ 7-11 ตลอดทั้งซอย ที่สามารถซื้อของได้สะดวก ส่วนแหล่งช้อปปิ้งรอบโครงการ ถ้าเป็นห้างใหญ่ๆจะต้องไปบนเส้นบางนากับศรีนครินทร์ บนเส้นบางนาใกล้สุดจะเป็น เซ็นทรัลบางนา กับ Big C Supercenter ถัดไปอีกหน่อยก็จะมี Mega บางนา และ Tesco Lotus หรือถ้าไปบนถนนศรีนครินทร์ จะมีห้างอย่าง Secon Square, Paradise Park, ตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์ รวมไปถึงสวนหลวงร.9 ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ในย่านนี้ที่เหมาะไปเดิน-วิ่งออกกำลังกายได้ค่ะ

และนอกจากห้างบนเส้นศรีนครินทร์แล้ว ยังมีห้างและ Community Mall ในระยะใกล้ๆ อิงเส้นสุขุมวิท เช่น

  • Phyll สุขุมวิท 54 – ตั้งอยู่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 54 ข้างสำนักงานเขตพระโขนง เป็น Hybrid-Lifestyle Mall มีทั้งพื้นที่ Open-Air และ พื้นที่ภายใน รวมถึงชั้นใต้ดินด้วย มีสินค้าหลากหลายประเภท บนพื้นที่ขายขนาด 5,200 ตารางเมตร
  • Century Movie Plaza Onnut – ตั้งอยู่ข้างๆ BTS อ่อนนุช เป็นโครงการ Mixed Use คือมีทั้งส่วนของคอนโดมิเนียมและพื้นที่เชิงพาณิชย์ Shopping complex , โรงภาพยนตร์
  • Whizdom 101 – Mixed use ขนาดใหญ่มูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท ภายในประกอบไปด้วย สวนสาธารณะขนาดใหญ่ คอนโด และ Community Mall บนเนื้อที่กว่า 43 ไร่ นอกจากนั้นยังมี True Digital Park สถานที่สำหรับคนยุคดิจิทัล ได้ครบทั้งที่ทำงาน พักผ่อน เพื่อตอบโจทย์กลุ่มสตาร์ทอัพให้ครบวงจร
  • Bangkok Mall – ตั้งอยู่บริเวณถนนบางนา-ตราด ตัดกับสุขุมวิท ศูนย์การค้าและออฟฟิศบนพื้นที่ใหญ่เป็น 3 เท่าของสยามพารากอน ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ เมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์จะกลายเป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ในช่วงหลายปีมานี้ทำเลแถบสุขุมวิทตอนปลายมีคอนโดเกิดใหม่ตามรถไฟฟ้าค่อนข้างเยอะ สภาพชุมชนจังค่อยๆพัฒนา ตามจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้น เชื่อว่ามี Community Mall และ ศูนย์การค้าเหล่านี้ จะยิ่งทำให้ทำเลแถวนี้เจริญมากขึ้นไปอีกค่ะ

การเดินทางไปโครงการวันนี้เราลงทางด่วนที่ซอยสุขุมวิท62 แล้ววิ่งเข้าถนนสุขุมวิท วิ่งตรงมาเรื่อยๆผ่าน BTS ปุณณวิถี จากนั้นเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท101/1 หรือซอยวชิรธรรมสาธิต ตรงเข้ามาเรื่อยๆจนถึงที่ตั้งโครงการค่ะ 

พอลงทางด่วนที่ซอยสุขุมวิท 62 แล้ว เราเลี้ยวเข้าถนนสุขุมวิทและวิ่งตรงมาเรื่อยๆผ่าน BTS ปุณณวิถี

ตรงมาเรื่อยๆจะผ่าน Whizdom 101 โครงการ Mixed use ขนาดใหญ่เป็นอีกหนึ่งความอุดมสมบูรณ์ที่ใกล้ๆกับโครงการ

ภายใน Whizdom 101 ประกอบไปด้วย สวนสาธารณะขนาดใหญ่ คอนโด และ Community Mall บนเนื้อที่กว่า 43 ไร่  และยังมี True Digital Park ศูนย์กลางดิจิทัลที่มีทั้ง Co-Working Space ห้องประชุม สัมมนา เอาไว้รองรับกลุ่มสตาร์ทอัพแบบครบวงจร

ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันยกตัวอย่างเช่นโซนนี้คือ Hillside Town ซึ่งมีร้านอาหารชื่อดังที่วางอยู่เรียงรายไปตามทาง เช่น After You, True Coffee, Starbucks , Shakariki 432 เป็นต้นค่ะ

ชั้นล่างจะเป็นโซนของกินแทบทั้งชั้นเลย มีทั้ง Food Court ร้านอาหารแบรนด์ต่างๆมาลง มีร้านชา ditto ที่กำลังโด่งดังอยู่ตอนนี้ด้วย

กลับมาที่ถนนสุขุมวิท เราตรงต่อมาพอถึงซอยสุขุมวิท101/1 หรือที่ด้านหน้ามีซุ้มที่เขียนชื่อว่าวัดวชิรธรรมสาธิตก็ให้เลี้ยวเข้าไปเลยค่ะ

ภายในซอยวชิรธรรมสาธิต ส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยประเภทแนวราบ มีตึกสูงอยู่บางประปราย ซึ่งเห็นว่าตึกแถวชั้นล่างจะทำเป็นร้านค้าพาณิชย์ตลอดทาง รวมๆแล้วก็เป็นซอยที่คึกคักทีเดียว มีคนเดินไป-มาตลอดทั้งวัน ไม่ต้องกลัวเปลี่ยวนะคะ

ระหว่างทางลองสังเกตดูจะเห็นร้านสะดวกซื้ออยู่เป็นระยะๆ ส่วนคอนโดมิเนียมที่อยู่ในซอยมีพอสมควร เป็นแบบ Low Rise ค่ะ

ตรงตามทางมาเรื่อยๆช่วงกลางๆซอยจะเจอกับ @Park แหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหาร ที่ด้านในมี 7-11 และ Tesco Lotus ให้สามารถมาแวะซื้อของกินของใช้ที่นี่ได้

เราขับเข้าซอยมาให้สังเกตว่าโครงการจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับปั๊ม Shell ค่ะ ถ้าตรงต่อไปจะเจอกับทางแยกที่จะลัดไปออกถนนอ่อนนุชและถนนอุดมสุขค่ะ

ถึงแล้วค่ะ โครงการ Lumpini Ville สุขุมวิท 101/1 – ปุณณวิถี

ตอนนี้สำนักงานขายสร้างเสร็จแล้วนะคะ สามารถเข้าไปชมกันได้

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

ที่ตั้งของโครงการอยู่ติดถนนวชิรธรรมสาธิต ดังนั้นจึงเข้า-ออกง่ายและถนนหน้าโครงการก็มีรถผ่านอยู่ตลอดเวลา สภาพแวดล้อมโดยรอบส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ ไม่มีอาคารบดบังในระยะประชิด ถ้าห่างออกมาหน่อยจะมีคอนโด Low Rise อยู่ซึ่งไม่ได้มีผลกระทบกับวิวโครงการ ซึ่งการอยู่อาศัยแบบคอนโด Low Rise เราก็ไม่เน้นวิวมุมสูงมากนักอยู่แล้วค่ะ สรุปแล้วแต่ละฝั่งของโครงการจะติดกับ

  • ทิศเหนือ – ติดกับซอยสุขุมวิท 101/1 หรือ ซอยวชิรธรรมสาธิต ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านค้าและสถานีบริการน้ำมัน
  • ทิศตะวันออก – ติดกับบริษัท ไทยโตอาอุตสาหกรรม จำกัด
  • ทิศใต้ – ติดกับบ้านพักอาศัยแนวราบ
  • ทิศตะวันตก – ติดกับบ้านพักอาศัยแนวราบ

ทิศเหนือ ติดกับซอยสุขุมวิท 101/1 หรือ ซอยวชิรธรรมสาธิต ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านค้าและสถานีบริการน้ำมัน

ทิศตะวันออก ติดกับบริษัทไทยโตอาอุตสาหกรรม จำกัด

ทิศตะวันตก  ติดกับบ้านพักอาศัยแนวราบ ซึ่งฝั่งที่ติดถนนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ที่ด้านล่างเปิดเป็นร้านค้าค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น (ระยะทางรวมกลับรถ)

  • ปิยรมย์ เพลส ~  2.5 กม.
  • เซ็นทรัลบางนา ~ 2.9 กม.
  • Whizdom 101 ~ 3 กม.
  • บิ๊กซีบางนา ~ 3.1 กม.
  • โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ~ 3.4 กม.
  • เซ็นทรัลบางนา ~ 3.6 กม.
  • Seacon Square ~ 5.1 กม.
  • Paradise Park ~ 5.8 กม.
  • เมกะ บางนา ~ 8.5 กม.


เจาะลึกตัวโครงการ

มาดูภาพรวมโครงการกันหน่อยค่ะ Lumpini Ville สุขุมวิท 101/1 – ปุณณวิถี เป็นคอนโด Low Rise 2 อาคาร อาคาร A จะอยู่ด้านหน้าฝั่งที่ติดกับถนน ดังนั้นใครที่อยู่อาคารนี้จะใกล้กับทางเข้า-ออก กลับบ้านมาเดินไม่ไกลก็เข้าภายในอาคารได้แล้วและมีห้องอเนกประสงค์ (Co-Living Zone) ให้ใช้ ส่วนอาคาร B จะอยู่ถัดเข้ามาหน่อย จากทางเข้าต้องเดินเข้ามาพอสมควร แต่จะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าและมีพื้นที่ส่วนกลางคือฟิตเนส สระว่ายน้ำ ลาน Fit&Firm ให้ใช้ การเลือกอยู่อาคารไหนนั้นขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนค่ะ โดยชั้นล่างจะเป็นพื้นที่จอดรถและตั้งแต่ชั้น 2-8 จะเป็นห้องพักอาศัยล้วนๆเลยค่ะ

จาก Masterplan จะเห็นว่าพอเข้าโครงการมาแล้วก็จะเจอกับอาคาร A ก่อน ซึ่งบริเวณด้านหน้าของอาคารนี้จะมีพื้นที่ส่วนกลางคือ Lobby , Co-Living Zone ตั้งอยู่ สามารถใช้เป็นที่นั่งพักผ่อนหรือนัดเพื่อนๆมานั่งประชุม นั่งคุยกันได้ ถัดเข้าไปชั้นล่างจะเป็นที่จอดรถทั้งหมด พอถึงอาคาร B ก็จะมี Lobby แยกอยู่อีกจุดหนึ่ง มี สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ลาน Fit&Firm และสวนหย่อมให้ลูกบ้านใช้ร่วมกัน ข้อดีคือจะไม่ไปรบกวนความเป็นส่วนตัวของห้องพักอาศัยเลย โดยอาคาร B จะมีห้องแบบ 2 ห้องนอนด้วย (อาคาร A จะมีแต่ Studio และ 1 Bedroom)

บริเวณทางเข้า-ออกจะมีซุ้มประตูกันแดดกันฝนเวลารถวิ่งเข้ามาสแกนบัตรเพื่อผ่านรั้วกั้นไม้กระดก นอกจากนี้ยังมีพี่รปภ.ดูแลความปลอดภัยให้ 24 ชั่วโมงค่ะ และส่วนที่เห็นเป็นกระจกอยู่ด้านหน้าคือห้อง Co-Living Zone และ Lobby ซึ่งจะสามารถนั่งชมวิวบริเวณหน้าโครงการได้

ดูจากภาพจำลองบรรยากาศแล้ว โครงการตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น ทาสีโทนขาว น้ำเงิน เขียว เหมือนกันทั้ง 2 อาคาร โดยอาคารจะวางเรียบกันตามแนวยาวของที่ดินเลย

ฝั่งหน้าโครงการที่เป็นซุ้มทางเข้าของรถและส่วน Co-Living Zone ที่ผนังด้านหน้าออกแบบมาให้เป็นกระจกทั้งแผง

นอกจากนั้นยังมีการจัดสวนหย่อมด้านหน้า ซึ่งเวลาเรานั่งอยู่ในอาคารมองออกมาก็จะเห็นวิวเป็นพื้นที่สีเขียว ช่วยทำให้ทัศนียภาพหน้าโครงการดูร่มรื่นขึ้นด้วยค่ะ

สำหรับใครที่ไม่มีรถจะมีการเดินเข้าอาคารทางฝั่งที่ใกล้ๆกับห้อง Co-Living Zone ส่วนถ้าเอารถเข้ามาจะต้องสแกนบัตรก่อนนะคะ ส่วนผู้มาติดต่อต้องแลกบัตรบริเวณนี้เช่นเดียวกัน

บรรยากาศห้อง Co-Living Zone ที่อยู่หน้าโครงการค่ะ ห้องนี้สามารถใช้เป็นห้องนั่งทำงานหรือนัดเพื่อนๆมาประชุมได้เลย โดยไม่ต้องขึ้นไปใช้ห้องของเราให้เสียความเป็นส่วนตัว มีการจัดชุดที่นั่งให้มีทั้งโซฟานั่งแบบชิลล์ๆ และ โต๊ะทำงานค่ะ

แปลนของอาคาร A ชั้น 2 จะเริ่มเป็นห้องพักอาศัยแล้ว โดยจะแบ่งห้องพักออกเป็น 2 ฝั่ง คือทางทิศตะวันออกเป็นห้อง 1 ห้องนอนขนาด 28-28.50 ตร.ม ส่วนทางทิศตะวันตกซึ่งจะได้แดดในตอนบ่ายจะเป็นห้อง Studio ขนาด 24 ตร.ม. ชั้นนี้มีห้องพักทั้งหมด 20 ห้องต่อชั้น ดดยตำแหน่งของลิฟต์จะค่อนมาทางด้านหน้าโครงการ ทำให้มีบางห้องเท่านั้นที่ใกล้ลิฟต์ นอกนั้นจะเดินไกลลิฟต์ไปเรื่อยๆแลกกับความเป็นส่วนตัว ส่วนฝั่งที่ติดกับอาคาร B จะไม่ได้วางผังให้เป็นช่องเปิดของห้องไหนเลยค่ะ แต่ละห้องจะได้วิวที่เปิดโล่ง

ขึ้นมาที่ชั้น 3 การวางผังคล้ายๆกับชั้น 2 แต่ละมีจำนวนห้องพักเพิ่มขึ้นมาทางฝั่งทิศเหนือคือห้องแบบ 1 ห้องนอนขนาด 30.50-34 ตร.ม. ทิศนี้จะไม่ร้อน ตำแหน่งอยู่ด้านหน้าโครงการเลยและถือเป็นโซนที่ใกล้กับลิฟต์และได้ความเป็นส่วนตัวเพราะหลบอยู่ด้านในอีกทีหนึ่ง คือต้องเดินอ้อมมาจึงจะเจอทางเข้าห้อง ไม่หันชนกับลิฟต์จังๆ สำหรับโถงทางเดินและโถงลิฟต์ จะมีหน้าต่างเอาไว้เปิดรับแสงและระบายอากาศ ซึ่งจะทำให้โถงทางเดินไม่มืดจนเกินไป สำหรับแปลนชั้น 4-8 ก็จะวางผังคล้ายๆแบบนี้เลยค่ะ

อาคาร A และ อาคาร B วางห่างกันพอสมควร และตำแหน่งที่อาคารหันชนกันนี้ ทางโครงการไม่ได้จัดให้เป็นช่องเปิดของห้องใดเลยค่ะ

สำหรับอาคาร B จะอยู่ลึกเข้ามาด้านใน อาคารนี้เป็นรูปตัวแอลที่วางโอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางคือสระว่ายน้ำ ฟิตเนสและสวนหย่อมอยู่ เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวหรือใช้พื้นที่ส่วนกลางบ่อยค่ะ

ที่อาคาร B นอกจาก Lobby ที่แยกออกมาอีกจุดหนึ่งแล้ว จะมีพื้นที่ส่วนกลางหลักอยู่ที่ชั้นล่างอีกประกอบด้วย  สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และลานฟิตแอนด์เฟิร์ม พื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง ซึ่งสามารถเข้ามาใช้งานได้สะดวกดี ไม่รบกวนส่วนพักอาศัย และเวลาคนที่อยู่ชั้นบนๆมองลงมาจะเห็นพื้นที่ส่วนกลาง พื้นที่ส่วนนี้เมื่อสร้างเสร็จควรกั้นโซนหรือปลูกต้นไม้บดบังสายตาจะช่วยให้คนที่มาใช้งานมีความเป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้นค่ะ

สระว่ายน้ำเป็นระบเกลือ แบ่งเป็นสระผู้ใหญ่ขนาด 6 x 15 เมตร ลึก 1.20 เมตร สระเด็กขนาด 3.5 x 3 เมตร ลึก 0.60 เมตร  รอบๆสระจัดเป็นสวนดูร่มรื่นน่าใช้งาน และมีมุมนั่งพักผ่อนข้างสระมาให้ด้วย

ส่วนห้องฟิตเนส จะมีผนังดดยรอบเป็นกระจก มองออกมาเป็นวิวสระว่ายน้ำ สามารถวางเครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 9 เครื่อง

ชั้น 2 ของอาคาร B ก็จะแบ่งห้องพักอาศัย ซึ่งวางผังคล้ายๆกับอาคาร A คือจัดให้ห้องพักออกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง คือทางทิศตะวันออกเป็นห้อง 1 ห้องนอนขนาด 28-28.50 ตร.ม ส่วนทางทิศตะวันตกเป็นห้อง Studio ขนาด 24 – 24.50 ตร.ม. ตำแหน่งของลิฟต์ก็จะค่อนไปทางด้านหลังทำให้มีห้องที่ใกล้และไกลลิฟต์ ห้องที่ดูเป็นส่วนตัวคือตำแหน่ง 05 ที่ผนังไม่ติดกับใครเลยและเป็นห้องมุมซะด้วย ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวพอสมควร ส่วนห้องตำแหน่ง 08 จะค่อนข้างใกล้กับลิฟต์ เดินนิดเดียวก็ถึงแต่จะคึกคักหน่อยเพราะจะมีคนเดินผ่านค่อนข้างบ่อยค่ะ

พอขึ้นชั้น 3 ผังจะโอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางเป็นรูปตัวแอล โดยจะมีห้องพักที่เพิ่มเข้ามาคือตำแหน่ง 01 , 04 ,05 เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนขนาด 27.50 – 28.50 ตร.ม. ส่วนห้องมุมตำแหน่ง 02 , 03 เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน 44 ตร.ม. ที่อาคาร A ไม่มีค่ะ การวางผังจะคล้ายๆกันไปจนถึงชั้น 8 เลย

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • Co-Living Zone
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • ลานฟิตแอนด์เฟิร์ม
  • สระว่ายน้ำระบเกลือ แบ่งเป็นสระผู้ใหญ่ขนาด 6 x 15 เมตร ลึก 1.20 เมตร สระเด็กขนาด 3.5 x 3 เมตร ลึก 0.60 เมตร 
  • ห้องออกกำลังกาย ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 9 เครื่อง
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 82 :  1
  • Shutter bus
  • Service Lift : ไม่มี
  • ที่จอดรถประมาณ 106 คัน คิดเป็นประมาณ 33% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) + ที่จอดรถจักรยานยนต์ 12 คัน
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ


Product Walkthrough

ห้องพักของโครงการนี้ขายแบบ Fully Fitted ได้ชุดครัว สุขภัณฑ์ แอร์ โดยห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมในวันนี้คือห้องแบบ Studio 24  ตร.ม.และ 1 Bedroom 28 ตร.ม.ค่ะ

สำหรับแปลนห้อง ทางเรายังไม่ได้จากโครงการจึงดราฟเป็น Zoning มาให้ดูคร่าวๆก่อนนะคะ ถ้าได้จำนำมา Update อีกทีค่ะ ห้องตัวอย่างแรกที่เราจะพาไปชมคือ Studio 24 ตารางเมตร  เข้ามาจะเจอกับครัวก่อน ซึ่งถูกออกแบบมาให้เป็นครัวเปิด การใช้งานจะเหมาะกับการซื้ออาหารมาอุ่นทานเองที่ห้องมากกว่า อีกทั้งทางโครงการก็ไม่ได้ให้เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันมาด้วย ฝั่งตรงข้ามเป็นตู้เย็นสามารถหยิบจับใช้งานได้สะดวก ถัดมาเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร และ พื้นที่นั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับระเบียง  ห้องนี้จะได้แสงธรรมชาติทั้งจากห้องนั่งเล่นและห้องนอน จึงทำให้ภาพรวมของห้องได้บรรยากาศที่โปร่ง โล่ง ห้องนอนอยู่ด้านในสุดถูกบังด้วยผนังตอนเข้ามาในห้องแรกๆจะมองไม่เห็นเตียง จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัวพอสมควร ทางเข้าห้องน้ำอยู่ด้านข้างเตียง ภายในแยกส่วนแห้งส่วนเปียกเป็นสัดส่วนค่ะ

เริ่มจากประตูหน้าห้องได้ตามแบบนี้เลยค่ะ เป็นบาน HDF พร้อมติดตั้งลูกบิดประตูมาให้

เข้ามาในห้องจะเจอกับพื้นที่ต่อเนื่องของครัว พื้นที่ทานข้าว พื้นที่นั่งเล่นเลย ห้องนอนและห้องน้ำจะหลบมุมอยู่ด้านใน ห้องนี้จะได้ช่องแสงค่อนข้างเยอะทำให้ห้องดูโปร่ง โดยพื้นเป็นไม้ลามิเนต ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตรค่ะ

ชุดครัวโครงการให้มาแบบนี้ มีอ่างล้างจานแต่จะไม่ได้เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน ห้องนี้เหมาะกับคนที่ซื้ออาหารมาทานที่ห้องมากกว่า ถ้าจะทำอาหารเล็กๆน้อยๆแนะนำให้ซื้อไมโครเวฟหรือเตาไฟฟ้าเพิ่มค่ะ โดยวัสดุของหน้าบานเคาน์เตอร์และ Top จะเป็นลามิเนต

กระเบื้องกันเปื้อนด้านหลัง ทางโครงการติดมาให้ด้วยค่ะและติดอ้อมมาถึงด้านข้างเลย ซึ่งจะช่วยกันเปื้อนผนังด้านข้างได้ดี

อ่างล้างจานเป็นแบบหลุมเดียวเหมาะกับการใช้งานในห้อง

ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่นั่งทานข้าวและนั่งเล่นเชื่อมต่อกันเลย บริเวณนี้โปร่งดีเพราะได้แสงธรรมชาติจากช่องหน้าต่าง ระยะดูทีวีจะอยู่ที่ 2.1 เมตร ซึ่งเหมาะกับการวางทีวีขนาด 46″

เฟอร์นิเจอร์ชุดนี้ทางโครงการไม่ได้ให้นะคะ แต่เราสามารถจัดได้ตามนี้เลย สำหรับตู้เย็นถ้าใครอยากได้ตู้ใหญ่กว่านี้ก็ได้ค่ะ

พื้นที่นั่งเล่นจะอยู่ติดกับส่วนนอนพักผ่อน ซึ่งตอนนี้ที่เราเปิดประตูจะมองไม่เห็นเพราะมีผนังบังอยู่ ทำให้เป็นห้อง Studio ที่มีความเป็นส่วนตัวพอสมควร ซึ่งถ้าใครอยากกั้นห้องนอนให้เป็นสัดส่วนก็สามารถทำให้ แนะนำเป็นบานเลื่อนกระจกเพื่อให้ยังได้ความโปร่งโล่งอยู่

ด้านบนประตูทางออกไปที่ระเบียงจะเป็นตำแหน่งของแอร์ ห้องนี้ให้มา 1 ตัวค่ะ

แอร์ที่ได้เป็นของ Daikin จำนวน BTU ขึ้นอยู่กับขนาดห้องนะคะ

พื้นที่ระเบียงสามารถใช้งานได้เต็มที่ เนื่องจากมีการยก Condensing Unit ขึ้นไปไว้ด้านบน

โดยทางฝั่งซ้ายเป็นตำแหน่งของเครื่องซักผ้า ทางโครงการเดินงานระบบไว้ให้พร้อม สามารถมาใช้เป็นพื้นที่ซักล้างได้ โดยพื้นระเบียงจะปูกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม. มาให้ ระเบียงมีขนาด 0.75 x 2.10 เมตร

มุมมองจากระเบียงย้อนกลับไปที่หน้าห้อง จะเห็นว่าพื้นที่ต่างๆค่อนข้างเป็นสัดส่วน

มาถึงมุมพักผ่อนที่หลบมุมอยู่ด้านใน ทางฝั่งซ้ายจะมีช่องแสงที่สามารถเปิดระบายอากาศได้ และทางฝั่งขวาเป็นห้องน้ำซึ่งมีตู้เสื้อผ้าอยู่ด้านหน้า สามารถออกมาแต่งตัวหน้าห้องน้ำได้เป็นสัดส่วน

ทั้ง 2 ฝั่งของเตียงมีระยะเหลือนะคะ โดยฝั่งขวาเป็นตู้เสื้อผ้า ส่วนฝั่งซ้ายจะวางโต๊ะข้างเตียงได้ โดยเตียงในห้องนี้เค้าวางขนาด Queen Size ค่ะ

หน้าต่างข้างเตียง ด้านล่างจะเป็นบาน FIX ส่วนด้านบนเลื่อนเปิดระบายอากาศได้

อีกฝั่งหนึ่งเป็นทางเข้าห้องน้ำค่ะ ห้องจริงจะมีติดตั้งบานประตูให้ด้วยนะคะ

หน้าตาสวิทช์และปลั๊กที่ทางโครงการให้มาค่ะ

เข้ามาในห้องน้ำจะแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนดี พื้นผนังกรุกระเบื้องมาให้โดยรอบ แต่จะไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้นะคะ เราสามารถติดตั้งเองได้ไม่ยาก

อ่างล้างหน้าเป็นทรงสี่เหลี่ยม มีพื้นที่วางของด้านข้างของ CHARMER

โถสุขภัณฑ์เป็นของ American Standard วางอยู่เป็นสัดส่วน พร้อมติดตั้งอุปกรณ์อื่นๆมาให้ครบ

พื้นที่อาบน้ำ ถ้าอยากให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น อาบแล้วน้ำไม่กระเด็นแนะนำว่าให้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติม โดยจะเป็นม่านพลาสติกหรือฉากกั้นกระจกนิรภัยก็ได้ และทำธรณียกสูงขึ้นมาหน่อยค่ะ

พื้นที่อาบน้ำมีการลดระดับลงไปแค่เล็กน้อย แนะนำให้ติดตั้งธรณียกสูงขึ้นมาเพิ่มเติมเพื่อกันน้ำไหลไปโดนส่วนแห้งค่ะ

ต่อมาคือห้องแบบ 1 ห้องนอน 28 ตารางเมตร  ห้องนี้การวางผังจะคล้ายกับห้องแบบ Studio แต่มีขนาดห้องที่ใหญ่กว่าและมีการกั้นห้องนอนเป็นสัดส่วน โดยมีการเจาะช่องแสงเชื่อมระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอน ถึงแม้ว่าจะมีผนังกั้นแต่ก็ยังได้ความโปร่งและแสงสว่างตลอดทั้งห้อง ห้องนี้ยังคงเป็นครัวเปิดเหมาะกับการซื้ออาหารมาทานเอง ส่วนห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอน แยกส่วนแห้งส่วนเปียกเป็นสัดส่วน ดังนั้นถ้ามีเพื่อนมาแล้วอยากจะเข้าห้องน้ำ จะต้องเดินผ่านห้องนอน เพราะฉะนั้นอย่าทำห้องรกนะคะ ^^ โดยรวมแล้วถือเป็นห้องที่ค่อนข้างเป็นสัดส่วนและได้ความโปร่งจากช่องแสงพอสมควรเลย

ห้องนี้การวางผังจริงๆมีความคล้ายกับห้อง Studio แต่มีความเป็นสัดส่วนมากขึ้นเพราะมีการกั้นห้องนอนด้วยผนึงทึบแล้ว แต่ครัวยังเป็นครัวเปิดอยู่ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆให้เหมือนห้องก่อนหน้านะคะ

ครัวได้คล้ายๆกับห้อง Studio แต่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย ใช้งานได้สะดวกขึ้น ติดตั้งกระเบื้องกันเปื้อนด้านหลังมาให้เช่นเดียวกัน

และเนื่องจากห้องมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย จึงสามารถ Built-in ตู้เก็บรองเท้าและเก็บของได้ ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่ดีของการอยู่คอนโดเลยทีเดียว

ตู้เก็บรองเท้าและเก็บของทางโครงการไม่ได้ให้มานะคะ เราสามารถ Built-in เพิ่มเติมแบบนี้ได้ ซึ่งช่วยให้ห้องของเราเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น ไม่มีของวางเกะกะ ข้างๆกันก็วางตู้เย็นต่อมาเลย เพราะจะอยู่ฝั่งตรงข้ามครัวเลย ใช้งานสะดวกค่ะ

ถัดจากตู้เย็นสามารถวางโต๊ะทานข้าวหันเข้าผนังได้แบบนี้  สามารถปรับมาใช้เป็นโต๊ะทำงานได้ด้วยนะ

ห้องนั่งเล่นอยู่ข้างประตูทางออกไปที่ระเบียงที่เป็นกระจก ทำให้มีความโปร่ง โล่งเพราะได้แสงธรรมชาติเข้ามา ระยะดูทีวีจะอยู่ที่ 2เมตรพอๆกับห้องก่อนหน้า

ประตูทางออกไปที่ระเบียงเป็นบานกระจก กรอบบานอลูมิเนียมสีธรรมชาติ เราสามารถออกไปยืนสูดอากาศได้ค่ะ

ห้องนี้เราได้แอร์ 2 ตัว โดยตำแหน่งของ Condensing Unit จะอยู่ด้านบนหันออกด้านนอกอาคารเช่นเดียวกัน ซึ่งมีข้อดีคือถ้าเรานั่งอยู่ในห้องจะมองไม่เห็น CDU เลย และเวลาออกมาใช้งานที่ระเบียงจะไม่โดนลมร้อนของแอร์เป่าค่ะ ทำให้ใช้ระเบียงได้เต็มที่เลย

พื้นที่ระเบียงปูกระเบื้องเซรามิคผิวด้าน เหมาะสมกับการใช้งานมาให้ โดยมีพื้นที่ระเบียงเท่ากับ 0.75 x 2.2 เมตร

ห้องนอนกั้นผนังเป็นสัดส่วนแต่จะมีการเจาะช่องแสงซึ่งตรงนี้จะทำให้ห้องมีความโปร่งมากๆ ถ้าเราอยากได้ความเป็นส่วนตัวเช่น ตอนนอนแล้วไม่อยากให้แสงที่ห้องนั่งเล่นเข้าไปในห้องนอนก็สามารถติดตั้งม่านเพิ่มเติมได้

ห้องนอนวางเตียงได้แบบ King Size และยังมีหน้าต่างอยู่ในห้องนอนอีกจุดหนึ่ง

มุมมองปลายเตียงจะเห็นเป็นแบบนี้นะคะ มองออกไปเห็นทีวีที่ห้องนั่งเล่นได้เลย ส่วนตำแหน่งของแอร์จะอยู่ข้างหน้าต่าง เยื้องเตียงมาหน่อยซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ไอเย็นหรือฝุ่นจากแอร์โดนหน้าเราแบบจังๆได้ค่ะ

พื้นที่ข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งนี้วางโต๊ะข้างเตียงได้ เผื่อใครจะวางหนังสือเอาไว้อ่านก่อนนอนหรือชาร์จมือถือไว้ข้างเตียง

ปลายเตียงมีระยะประมาณ 45 เซนติเมตร เดินผ่านได้สบายๆ แต่จะวางตู้อะไรเพิ่มไม่ได้แล้วนะคะ

อีกฝั่งหนึ่งเป็นตู้เสื้อผ้าและทางไปห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำการตกแต่งและใช้วัสดุ สุขภัณฑ์เหมือนกับห้องก่อนหน้าเลยค่ะ ไม่ได้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เช่นเดียวกัน เราสามารถติดเพิ่มได้ไม่ยากนะคะ เดี๋ยวนี้มีมาให้เลือกหลายรูปแบบแล้ว

พื้นที่อาบน้ำของห้องนี้มีขนาด 0.80 x 1.00 เมตร มีการลดระดับไปแค่เล็กน้อย แนะนำให้ติดตั้งธรณีเพิ่มเติมเพื่อกันน้ำไหลไปโดนส่วนแห้งเช่นเดียวกับห้องก่อนหน้า

ฝักบัวที่ทางโครงการให้มาของ Hafele หรือเทียบเท่า

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 10 May 2019

  • Studio เนื้อที่ 24 ตร.ม.  ราคา 1.49 ล้านบาท หรือ 62,083 บาท/ตร.ม.
  • ราคาห้องอื่นๆ รอ Update จากทางโครงการ 

  • รูปแบบการขาย  Fully Fitted
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร
  • Kitchen & Sink 
  • มีรถ Shuttle Bus ไปกลับ BTS 
  • จอง n/a บาท
  • ทำสัญญา n/a บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ค่ากองทุน n/a บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง n/a บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล : โครงการ Lumpini Ville สุขุมวิท 101/1 – ปุณณวิถี ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 101/1 หรือ ซอยวชิรธรรมสาธิต ห่างจากหน้าปากซอยมาประมาณ 2.5 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะที่ต้องต่อรถออกไปข้างนอก ซอยนี้เป็นซอยลัด และมีของกินเยอะมากๆจึงค่อนข้างสะดวก และทำให้ภายในซอยมีคอนโด  Low Rise มาขึ้นอยู่ค่อนข้างเยอะ นอกจากนั้นยังมีตลาด Tesco Lotus และ 7-11 ตลอดทั้งซอย สามารถซื้อของได้สะดวก ส่วนแหล่งช้อปปิ้งรอบโครงการ ถ้าเป็นห้างใหญ่ๆจะต้องไปบนเส้นบางนากับศรีนครินทร์ บนเส้นบางนาใกล้สุดจะเป็น เซ็นทรัลบางนา กับ Big C Supercenter ถัดไปอีกหน่อยก็จะมี Mega บางนา และ Tesco Lotus หรือถ้าไปบนถนนศรีนครินทร์ จะมีห้างอย่าง Secon Square, Paradise Park, ตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์ รวมไปถึงสวนหลวงร.9 ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ในย่านนี้ที่เหมาะไปเดิน-วิ่งออกกำลังกายได้

การเดินทางโดยใช้รถ : ซอยนี้มีเส้นทางทะลุออกไปถนนหลักได้หลากหลายเส้น อาทิเช่น ถนนศรีนครินทร์, ซ.สุขุมวิท 101(ปุณณวิถี), ซ.สุขุมวิท 103(อุดมสุข), และซ.สุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) และไม่ไกลจากทางด่วนสามารถใช้ได้จากซอยสุขุมวิท 62 และบริเวณแยกบางนาได้ ถือว่ามีตัวเลือกเอาไว้หนีรถติดเยอะพอสมควรเลย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : โครงการอยู่ห่าง BTS ปุณณวิถีและอุดมสุข ประมาณ 3 กม. ต้องต่อรถออกมาหน้าปากซอย โดยโครงการจะมี Shutter bus วิ่งรับส่งให้นะคะ รายละเอียดต้องรอสอบถามโครงการอีกที และในอนาคตทำเลนี้มีแผนที่จะทำรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีน้ำตาลอีกด้วย สำหรับรถสาธารณะอื่นๆสามารถต่อรถออกมาใช้รถไฟฟ้าที่บริเวณปากซอยได้ไม่ยาก โดยใช้รถสองแถว, แท็กซี่ หรือวินมอเตอร์ไซค์ก็ได้ค่ะ

วัสดุ : ให้มาตามมาตรฐานโครงการ ขายแบบ Fully Fitted ให้ ชุดครัว (เคาน์เตอร์ปิดผิวด้วยลามิเนต) สุขภัณฑ์ แอร์ พื้นไม้ลามิเนต ผนังฉาบเรียบทาสี ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร ห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิค อ่างล้างหน้า CHARMER สุขภัณฑ์ American Standard ฝักบัว Hafele แต่ไม่ได้ให้ฉากกั้นอาบน้ำ เราต้องหามาติดตั้งเองค่ะ

การออกแบบ :  วางผังได้ดี ตั้งแต่ทั้งการวางผังอาคารที่เป็นสัดส่วน  อาคาร A จะเหมาะกับคนที่อยากได้ห้องที่ใกล้กับทางเข้า-ออก ส่วนอาคาร B คือเน้น Facilities และจะมีห้องแบบ 2 ห้องนอนในอาคารนี้ ห้องพักก็วางผังได้ดี ได้ช่องแสงค่อนข้างเยอะทำให้มีความโปร่ง โล่ง การใช้งานฟังก์ชั่นต่าๆเป็นสัดส่วน สามารถกั้นเพิ่มเติมได้ เน้นครัวเปิดเหมาะกับคนที่ซื้อกับข้าวมาทานเองมากกว่า

สาธารณูปโภค : ให้มาครบครันตามมาตรฐาน โดยอาคาร A จะมี Co-Living Zone เอาไว้ให้นั่งพักผ่อน ทำงานหรือนัดประชุม และ Lobby ส่วนอาคาร B จะมีพื้นที่ส่วนกลางหลักอยู่อีกจุดหนึ่งคือฟิตเนส สระว่ายน้ำระบบเกลือแยกสระเด็กสระผู้ใหญ่ ลาน Fit&Firm หรือลานออกกำลังกายกลางแจ้ง

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 70,000 – 80,000 บาท/ตร.ม., 10 May 2019

  • ทำเล 7.5/10 – เข้าซอยมาพอสมควร ติดถนนหลักสุขุมวิท 101/1 ทำให้เข้า-ออกได้ง่าย
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – มีเส้นทางให้เลือกเยอะ เข้าออกได้หลายทาง ใกล้แยกที่จะลัดไปถนนอ่อนนุชและอุดมสุข ไม่ไกลทางด่วนมาก
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – ในซอยมีทั้งสองแถว Taxi วินมอเตอร์ไซค์ รวมถึงทางโครงการมี Shutter Bus ไว้บริการด้วยค่ะ
  • วัสดุ 7.25/10 – Fully Fitted วัสดุอื่นๆเหมาะแก่การใช้งาน สมราคา
  • แบบ 7.5/10 – วางผังได้ดี ภายในห้องจัดเป็นสัดส่วน ได้ครัวเปิด
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – ให้ Facilities พื้นฐานมาครบครัน

  • MAIN CLASS
  • 7.53/ 10.00

BOTTOM LINE

Lumpini Ville สุขุมวิท 101/1 – ปุณณวิถี เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดในย่านอ่อนนุช-ปุณณวิถี ยอมอยู่ห่างจากรถไฟฟ้ามาหน่อยแลกกับราคาที่หยิบจับง่าย ชอบทำเลที่เดินทางสะดวกมีซอยลัด มีความอุดมสมบูรณ์หาของกินง่าย มีส่วนกลางให้ใช้ครบ ห้องวางผังเป็นสัดส่วน มีงบประมาณ 1.49-3 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 10,000 – 21,000 บาท/เดือน