รีวิวโครงการ
ลุมพินี เพลส แจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด สเตชั่น | ขึ้นบ้านใหม่ [EP.8]
1 กรกฎาคม 2024
รีวิวฉบับที่ 2713 … ต้นปีที่แล้วเราเคยพาทุกคนไปชมสำนักงานขายและห้องตัวอย่างของ Lumpini Place Chaengwatthana – Pakkret Station (ลุมพินี เพลส แจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด สเตชั่น) จาก L.P.N. กันมาแล้ว ปัจจุบันนี้โครงการสร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อย เราเลยอาสาพาชมบรรยากาศตึกเสร็จของโครงการอีกครั้ง
ในช่วง2-3ปีที่ผ่านมา มีคอนโดมิเนียมขึ้นใหม่แถวแจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ดอยู่ไม่น้อย หนึ่งในนั้นคือ ลุมพินี เพลส คอนโด High Rise 26 ชั้น ทำเลดีอยู่ฝั่งตรงข้ามเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 ในระยะเดินถึง แต่ราคายังไม่เคาะออกมาให้แน่ชัด ถ้าดูจากโครงการข้างเคียงแล้ว ที่นี่น่าจะเริ่มต้นประมาณ 2 ล้านต้นๆ เบื้องต้นเราได้รวบรวมประเด็นน่าสนใจของโครงการมาให้ดังนี้
- ทำเลเดินไปเซ็นทรัลได้ : เทียบกับคอนโดมือหนึ่งบนเส้นแจ้งวัฒนะ ที่นี่ถือว่าใกล้เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะที่สุด ในระยะเดินถึงเลยทีเดียว เรียกได้ว่าแวะเที่ยวได้ทุกวัน
- ใกล้รถไฟฟ้า : ประมาณ 450 เมตร จากสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูปากเกร็ด – แจ้งวัฒนะ 28 ถือว่าอยู่ในระยะเดินไหวเช่นกัน
- ส่วนกลางอยู่ชั้นบนสุด : มี Sky Lounge และ Fitness บนชั้นสูงสุดของอาคาร ซึ่งอยู่ในระดับความสูงที่มากกว่าอาคารรอบข้าง ทำให้สามารถชมวิวได้ 360 องศาแบบไม่มีอะไรบังวิว และ ไม่ใช่ทุกโครงการในโซนนี้ที่จะออกแบบ Facilities ไว้ชั้นบนสุดแบบนี้
- ห้องพักออกแบบได้ความเป็นส่วนตัว : ห้องพักส่วนใหญ่ในโครงการ มีการกั้นห้องโดยใช้ผนังทึบไม่ใช่ผนังกระจก ทำให้คนที่ใช้พื้นที่บริเวณห้องนอนและห้องนั่งเล่นไม่รบกวนกัน จึงได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าคอนโดทั่วไป
ข้อมูลโครงการ
Lumpini Place Chaengwatthana – Pakkret Station (ลุมพินี เพลส แจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด สเตชั่น) ณ วันที่ 01 มิถุนายน 2567
ชื่อโครงการ | Lumpini Place Chaengwatthana – Pakkret Station (ลุมพินี เพลส แจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด สเตชั่น) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แอล. พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ซอย แจ้งวัฒนะ 17 ถนน แจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี |
ที่ดิน | ประมาณ 3 ไร่ 1 งาน 2.40 ตร.วา |
ประเภทคอนโด | High Rise 26 ชั้น 1 อาคาร |
จำนวนยูนิต | 536 ยูนิต |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 27 ยูนิต |
ที่จอดรถ | 198 คันคิดเป็น 37 % (ถ้ารวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 41%) |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2565 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | Q2 ปี 2567 |
ประเภทห้องพัก |
|
ฝ้าเพดานสูง | 2.60 เมตร |
ราคาเริ่มต้น | เริ่ม สองล้านต้นๆ (ผ่อนเริ่มต้น ล้านละ 2,500 บาท/เดือน* ) |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 86,000 บาท/ตร.ม. |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
Call Center | 02-689-6888 |
ทำเลที่ตั้ง
Highlights :
- อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้างเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ซึ่งฝั่งนี้เดินทางเข้าเมืองได้สะดวก
- ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูสถานี แจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด 28 ประมาณ 450 เมตร
- ใกล้แหล่งของกิน แหล่งงานของโซนแจ้งวัฒนะ
พิกัด Google Maps : 13.90596460234012, 100.52671344025498
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการ Lumpini Place Chaengwatthana – Pakkret Station (ลุมพินี เพลส แจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด สเตชั่น)
โครงการ Lumpini Place Chaengwatthana – Pakkret Station (ลุมพินี เพลส แจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด สเตชั่น) ตั้งอยู่ใกล้ถนนแจ้งวัฒนะฝั่งขาเข้าเมือง ซึ่งเป็นฝั่งตรงกันข้ามกับห้างใหญ่อย่างเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ รวมถึงใกล้แหล่งของกินอีกหลายแห่ง เช่น ตลาด 19 สเตชั่น พลาซ่า , เทสโก้ โลตัส แจ้งวัฒนะ , ชาน แอท ดิ อเวนิว แจ้งวัฒนะ และบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า แจ้งวัฒนะ ทำให้ลูกบ้านของโครงการช็อปปิ้งซื้อของ หาของกินได้สะดวกก่อนเข้าบ้าน นอกจากนี้ยังมีอาคารออฟฟิศหลายแห่ง เช่น Jusmine Tower / Software Park ใครที่ทำงานแถวนี้ใช้เวลาเดินทางไม่นานก็ถึงแล้ว ประหยัดเวลาในการไปทำงานมากเลยนะ
ส่วนเรื่องของการเดินทางก็สะดวกเช่นกันค่ะ เพราะใกล้ ๆ โครงการในระยะ 450 เมตร มีสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 เหมาะกับคนที่ใช้รถไฟฟ้าเป็นประจำ สำหรับใครที่ใช้รถยนต์ก็มีตัวช่วยในการเดินทางทั้ง ทางพิเศษศรีรัช ทางพิเศษอุดรรัถยา อยู่ไม่ไกลนัก
เส้นทางการเดินทาง
เดินทางด้วยรถไฟฟ้า :
เส้นทางของรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี
รถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย – มีนบุรี) มีต้นสายอยู่ที่หน้าศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรีไปสิ้นสุดที่ทางแยกร่มเกล้าบริเวณซอยรามคำแหง 192 และสามารถเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสีอื่นๆได้ เช่น สายสีม่วง สายสีแดง สายสีเขียว และสายสีส้ม ส่วนสถานีที่ใกล้โครงการ Lumpini Place Chaengwatthana – Pakkret Station (ลุมพินี เพลส แจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด สเตชั่น) มากที่สุดคือสถานี แจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด 28 ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 450 เมตร ใครที่ทำงานตามแนวรถไฟฟ้าที่กล่าวมา สามารถเดินทางได้สะดวกเลย
ทางเดินจากสถานีรถไฟฟ้า ไปโครงการ
ส่วนทางเดินระหว่างโครงการไปสถานีรถไฟฟ้า แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 เป็นฟุตบาทที่ยกระดับขึ้นมาจากถนน ซึ่งกว้างดีทีเดียว ที่ต้องระวังคือแผ่นปูพื้นของทางกรุงเทพฯที่อาจจะมีน้ำขังอยู่บ้างค่ะ
เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว :
จุดกลับรถเพื่อเข้าโครงการ อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1 กิโลเมตร
ทางด่วนที่ใกล้โครงการมากที่สุดคือ ทางพิเศษศรีรัช ห่างออกไปประมาณ 2.5 กิโลเมตร สามารถใช้เดินทางเข้าไปยังเมืองโซน สีลม พญาไท จัตุจักรได้เลย หรือใครต้องการเดินทางออกนอกเมืองไปยังโซนรังสิต ปทุมธานี สามารถใช้ ทางพิเศษอุดรรัถยา ได้เช่นกัน
ส่วนจุดกลับรถที่ใกล้โครงการ จะห่างออกไปประมาณ 1-3 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะที่ไม่ไกลมากนัก แต่ในช่วงเวลาเร่งด่วนควรเผื่อเวลาสักหน่อย เพราะถนนเส้นนี้รถติดพอสมควรค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
ภาพรวมบรรยากาศโดยรวมโครงการ
โครงการ Lumpini Place Chaengwatthana – Pakkret Station (ลุมพินี เพลส แจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด สเตชั่น) ตั้งอยู่ในซอยแจ้งวัฒนะ 17 ซึ่งลึกเข้าไปประมาณ 50 เมตร เท่านั้น ในปัจจุบันรอบข้างโครงการมีตึกสูงเพียง 1 ตึก คือลุมพินี วิลล์ แจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด สเตชั่น สูง 21 ชั้น แต่อยู่ห่างกันพอสมควรจึงไม่ได้บังวิวในระยะประชิด ส่วนบริเวณอื่นๆ ยังเป็นชุมชนแนวราบและที่ว่างที่ต้องรอดูกันต่อไป ว่าจะมีการพัฒนาที่ดินอย่างไร
ทิศเหนือ : ติดกับ ชุมชนแนวราบและที่ว่าง
ทิศตะวันออก : ติดกับ ที่ว่างรอการพัฒนาในระยะไกลเห็นเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ และตึกออฟฟิศ Software Park
ทิศใต้ : ติดกับ ที่ว่างรอการพัฒนา และถนนแจ้งวัฒนะ มองไกลๆเห็นเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ
ทิศตะวันตก : ติดกับ ถนนซอยแจ้งวัฒนะ 17 และชุมชนแนวราบ เยื้องไปทางขวาจะเป็นลุมพินี วิลล์ แจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด สเตชั่น สูง 21 ชั้น
จากหน้าปากซอยโครงการจะมองเห็นสถานีรถไฟฟ้า กับเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะอยู่ไม่ไกล
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- เซ็นทรัลพลาซ่า แจ้งวัฒนะ ~ 2.4 กม.
- ศูนย์การค้า บีไฮฟ ~ 2.7 กม.
- ชาน แอท ดิ อเวนิว แจ้งวัฒนะ ~ 3.6 กม.
- เทสโก้ โลตัส แจ้งวัฒนะ ~ 3.8 กม.
- บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า แจ้งวัฒนะ ~ 3.9 กม.
- แม็คโคร แจ้งวัฒนะ ~ 3.9 กม.
- อิมแพ็ค เมืองทองธานี ~ 4.7 กม.
- เมเจอร์ ฮอลลีวู้ด ปากเกร็ด ~ 5.2 กม.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล ~ 2.9 กม.
- โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ~ 4.4 กม.
- โรงพยาบาลวิภารามปากเกร็ด ~ 5.8 กม.
- โรงพยาบาลกรุงไทย ~ 5.9 กม.
- โรงพยาบาลปากเกร็ด 1 ~ 6.3 กม.
โรงเรียน
- สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (พีไอเอ็ม) ~ 2.2 กม.
- โรงเรียนสาธิตสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ~ 2.4 กม.
- มหาวิทยาลัย สุโขทัยธรรมาธิราช ~ 2.4 กม.
- โรงเรียนเซนต์ฟรังซิสเซเวียร์ ~ 5.5 กม.
- โรงเรียนชลประทานวิทยา ~ 6.0 กม.
- โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี ~ 7.6 กม.
สถานที่ราชการ
- ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ~ 5.5 กม.
สถานที่สำคัญอื่น ๆ
- ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ~ 12.0 กม.
ตัวช่วยในการเดินทาง
- รถไฟฟ้า สถานี แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 ~ 450 ม.
- ทางพิเศษศรีรัช ด่านแจ้งวัฒนะ ~ 2.4 กม.
- ทางขึ้น ทางพิเศษอุดรรัถยา ~ 2.6 กม.
รายละเอียดโครงการ
Highlights :
- อาคารรูปทรงตัว L ล้อมส่วนกลาง รอบอาคารไม่มีสิ่งก่อสร้างบดบังวิว
- มี Sky Lounge และ Fitness บนชั้นสูงสุดชมวิวได้ 360 องศา
Lumpini Place Chaengwatthana – Pakkret Station (ลุมพินี เพลส แจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด สเตชั่น) เป็นคอนโดมิเนียม High Rise 26 ชั้น บนเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ 1 งาน 2.40 ตร.วา และด้วยไลฟ์สไตล์ของคนที่เปลี่ยนไป การออกแบบ Facilities ส่วนกลางจึงปรับให้เข้ากับวิถีชีวิตคนมากขึ้น เช่น Co-living zone พร้อม Meeting room รองรับคนที่ Work from home , ประชุมแบบส่วนตัว หรือ ห้องโยคะ ที่ตอบโจทย์คนวัยทำงานที่รักสุขภาพมากขึ้น
การจัดพื้นที่ในโครงการ วางให้พื้นที่จอดรถอยู่ตั้งแต่ชั้น 1-4 ส่วนชั้นที่พักอาศัยอยู่ชั้น 5-25 และ Facilities หลักจะกระจายอยู่ตามชั้น 1,5,19และ 26 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของโครงการทำให้เห็นวิวเมืองนนทบุรี 360 องศา กลายเป็นเหมือน Hightlight ของส่วนกลาง
บริเวณชั้น 1 มีการแบ่งสัดส่วนที่ชัดเจนระหว่างผู้มารับ-ส่ง กับสมาชิกภายในโครงการ และตำแหน่งของสวนไม่ทับซ้อนกับทางเดินรถ ทำให้เดินมาใช้สวนได้อย่างปลอดภัย
ตรงเข้ามาในโครงการ จะเห็นต้นไม้ใหญ่ ซึ่งเป็นจุด Drop-Off
ส่วน Drop-Off จะอยู่หน้าโครงการเลย บุคคลภายนอกสามารถวนรถมาส่งผู้โดยสารได้สะดวก แต่หากเป็นลูกบ้านหรือแขกที่ต้องการจอดรถจะต้องผ่านป้อมยามไปเสียก่อน
ซุ้มประตูโครงการ
สำหรับคนที่ต้องการนำรถมาจอดภายในอาคาร ต้องผ่านประตูไม้กระดกไปก่อน ซึ่งโครงการใช้ระบบ Key card access ส่วนแขกที่มาเยี่ยมลูกบ้านจะต้องแลกบัตรก่อนนะ โครงการแยกทางเข้าออกอย่างชัดเจนแต่ ไม่ได้แยกช่องระหว่างลูกบ้านกับผู้มาติดต่อ จึงทำให้ต้องรอสักหน่อย หากรถคันหน้าเรามีการแลกบัตร
บรรยากาศทางเดินรถภายในโครงการ ถนนกว้างพอให้รถสวนกัน ข้างทางมีการปลูกไม้พุ่มเพื่อความสวยงาม มองดูแล้วรู้สึกสดชื่นดี
เมื่อผ่านที่กั้นไม้กระดกมาแล้ว ขับมาตามทางเราจะเจอกับทางเข้าที่จอดรถของโครงการ แต่มีการจำกัดความสูงรถไม่เกิน 2.1 เมตรนะคะ หากใครขับรถที่มีความสูงเป็นพิเศษ ก็สามารถจอดรถรอบอาคารได้เลย
สำหรับคนที่ใช้รถไฟฟ้า ทางโครงการเตรียม EV changer ไว้ให้ 2 เครื่องที่บริเวณชั้น 1 นะ แต่ในวันที่เราเข้าไปถ่ายรีวิวยังไม่ได้ทำการติดตั้งค่ะ
ทางขึ้นไปที่จอดรถชั้น 2 ต้องระวังรถที่สวนมาด้วยนะ
เมื่อตรงเข้ามาจะเจอทางขึ้นไปที่จอดรถชั้น 2 ที่มีความกว้างพอให้รถสวนกันได้ ส่วนบรรยากาศที่จอดรถชั้น 2 มีความกว้างและโล่งมาก แถมยังมีแสงธรรมชาติส่องเข้ามารอบด้านอีก ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดเมื่อเข้ามาจอดเลย
สำหรับคนที่จอดรถชั้น 2-4 จะต้องลงไปเปลี่ยนลิฟต์ที่ชั้น 1 เพราะลิฟต์ของที่จอดรถไม่สามารถขึ้นไปยังห้องพักได้โดยตรง
พื้นที่แรกที่เราจะเจอบริเวณชั้น 1 คือ Co-living zone ของโครงการ ที่มีขนาดใหญ่พอสมควรเลยค่ะ
Co-living zone และพื้นที่พักคอยบริเวณชั้น 1 เป็นพื้นที่ให้คนมาพักผ่อน
ภายใน Co-living zone เป็นห้องแอร์ให้มานั่งเล่นได้สบาย ผนังเป็นกระจกแนวยาว ทำให้แสงธรรมชาติเข้ามามากและเราสามารถเห็นสวนบริเวณชั้น 1 ด้วย นอกจากนี้ยังมีห้อง Meeting room ย่อยๆอีก 3 ห้อง ให้มานั่งประชุมแบบส่วนตัวได้ น่าเสียดายที่ทางโครงการยังตกแต่งไม่เรียบร้อย จึงอดนำรูปมาฝากเพื่อนๆกันเลย
ถัดมาเราจะเจอกับห้องนิติบุคคลของโครงการเป็นทางผ่านก่อนไป Lift Lobby จึงสะดวกในการมาติดต่อมากเลย
ข้างๆห้องนิติบุคคลจะมีห้องปฐมพยาบาลขนาดเล็กพร้อมอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น เผื่อทำแผลเล็กน้อยจากการเกิดอุบัติเหตุของลูกบ้าน หรือใช้เป็นที่นั่งรอรถพยาบาลมารับ ก็เป็นสัดส่วนดี
ฝั่งตรงข้าม Co-living zone มีตู้เครื่องดื่มอัตโนมัติให้บริการ มีครบทั้งกาแฟ,โอวัลติน,น้ำแข็งเปล่าก็มีค่ะ
ห้องน้ำส่วนกลาง
ถัดมาจะเป็นห้องน้ำส่วนกลางของโครงการที่แยกชาย,หญิงและผู้สูงอายุไว้เรียบร้อย
ก่อนเข้าถึง Lobby ชั้น 1 จะเจอกับพื้นที่บริการเครื่องซักผ้า ที่ใช้ระบบจ่ายเงินแบบแตะบัตร ไม่จำเป็นต้องพกเหรียญ หรือเงินสดให้วุ่นวาย โดยที่เครื่องซักผ้านี้มีขนาดใหญ่พอที่จะซักผ้านวมได้เลย ลูกบ้านไม่ต้องส่งไปซักรีดด้านนอก สะดวกมากๆ ส่วนด้านข้างเป็นตู้กดน้ำเปล่า อำนวยความสะดวกให้ลูกบ้าน จะได้ไม่ต้องหิ้วน้ำเป็นแพ็คๆจากซุปเปอร์มาร์เก็ต
ตำแหน่ง Lobby จะอยู่ใกล้ทั้งลิฟต์ที่เชื่อมต่อกับที่จอดรถบนชั้น 2-4 และที่จอดรถสำหรับแขกบนชั้น 1 ซึ่งแขกสามารถเข้าไปนั่งรอใน Lobby โซนแรกได้ เพราะโซนนี้ไม่ต้องใช้ Keycard ค่ะ
ภายใน Lobby มีพื้นที่นั่งรอเล็กๆ แต่หากใครมากันหลายคนแนะนำให้ไปใช้ Co-living zone จะสะดวกกว่านะคะ ส่วนด้านหลัง เป็นห้อง Mail box ของลูกบ้าน
ห้อง Mail box มีช่องรับจดหมายเล็กๆ ที่ไม่มีฝาปิดหรือกุญแจล็อค จึงอาจสูญเสียความเป็นส่วนตัวไปนิดนึง ส่วนใครที่มีพัสดุมาส่งต้องติดต่อขอรับที่นิติอีกทีนะ
เมื่อจะผ่านไปยังโถงลิฟต์จะต้องใช้ Key card ในการเข้าไป ตรงนี้จึงเป็นจุดคัดกรองแบ่งแยกลูกบ้านและบุคคลภายนอก เพื่อความปลอดภัยในการอยู่อาศัย
เข้ามาในโถงลิฟต์ของอาคารจะมีลิฟต์ 3 ตัว แบ่งเป็นลิฟต์โดยสารปกติ 2 ตัว และลิฟต์อีกตัวหนึ่งจะเป็นลิฟต์สำหรับผู้สูงอายุ ออกแบบให้มีช่องกระจกเพื่อให้มองเห็นจากภายนอกได้ และเป็น Service Lift ด้วย ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับนิติบุคคลว่าจะกำหนดการใช้งานของลิฟต์ตัวนี้อย่างไร ถ้านับสัดส่วนเฉพาะลิฟต์โดยสาร โครงการนี้มีอัตราส่วนลิฟต์ 1 : 268 ซึ่งค่อนข้างสูง ในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าเย็น อาจจะต้องเผื่อเวลารอลิฟต์กันสักหน่อยค่ะ
ภายในลิฟต์ดูสว่างดี มีการเสริมความปลอดภัยด้วยการติดตั้งกล้อง CCTV ไว้ให้ และต้องใช้ Key card จึงมีแค่ลูกบ้านเท่านั้นที่จะใช้ได้
ชั้น 5 เป็นชั้นที่มี Facilities หลักของโครงการคือสระว่ายน้ำและสวน นอกจากนี้ยังมีห้องพักอาศัยของลูกบ้านด้วย ชั้นนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบว่ายน้ำบ่อย ๆ แต่จะเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้าง จากการมาใช้งาน Facilities ของลูกบ้านชั้นอื่นๆ น่าจะติดประตูกั้นโซนห้องพักอาศัยเพิ่มให้อีกนิด >.<
บรรยากาศโถงลิฟต์ชั้น 5 มีช่องเปิดอยู่ข้างๆทำให้เเสงสว่างส่องเข้ามาถึง ทำให้โถงลิฟต์ไม่มืด ดูโล่งสบายตาดีค่ะ
สระว่ายน้ำส่วนกลางแบบ Outdoor
ที่ชั้น 5 จะมีสระว่ายน้ำ Outdoor ขนาด 6 x 19 เมตร ลึก 1.20 เมตร พร้อม Jacuzzi สามารถใช้ออกกำลังกายแบบจริงจังได้เลย มีโซนสระว่ายน้ำสำหรับเด็กขนาดประมาณ 4 x 3 เมตร นับว่าเป็นขนาดที่ใช้งานได้โดยไม่อึดอัดเมื่อต้องแชร์กับลูกบ้าน 536 ยูนิต
ข้างๆสระว่ายน้ำมีพื้นที่อาบน้ำด้านนอกมาให้ 2 จุด
ทางเดินรอบสวนส่วนกลางของโครงการ
ด้านข้างสระว่ายน้ำเป็นสวนส่วนกลางที่มีการเล่นระดับ ช่วยเปิดมุมมองให้เห็นวิวได้กว้างมากขึ้น ลูกบ้านสามารถมาเดินเล่น หรือนั่งพักผ่อนหย่อนใจ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศได้
ก่อนเดินกลับเข้าอาคาร มีทางแยกสำหรับเดินไปเข้าห้องน้ำส่วนกลาง
ห้องน้ำมีการแยกห้องชายหญิงเรียบร้อยนะคะ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีห้องอาบน้ำมาให้ ลูกบ้านที่มาว่ายน้ำจึงต้องขึ้นไปอาบน้ำบนห้องพักตนเอง
บรรยากาศทางเดินในอาคาร ชั้น 5 ได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้ทางเดินดูสว่างดี
ชั้นสูงสุดของอาคาร คือชั้น 26 มี Sky lounge และFitness ให้ใช้งาน ซึ่งเป็นมุมที่เราชอบมากๆ ภายในห้องมีผนังกระจกที่สูงตั้งแต่พื้น-ฝ้าล้อมรอบ ทำให้ห้องสว่างละเห็นวิวเมืองอย่างชัดเจน ใครที่อยากมาพบปะกับเพื่อนบ้านก็นัดกันที่บริเวณนี้ได้
Sky lounge มีขนาดกว้างขวาง เหมาะกับการมาพบปะผู้คน
Sky lounge เป็นห้องแอร์สำหรับนั่งพักผ่อนชั้นดาดฟ้าของโครงการ ไม่ว่าลูกบ้านจะมีห้องพักอยู่ชั้นไหน ก็สามารถขึ้นมาชมวิวเมืองมุมสูงบนชั้นนี้ได้
ห้องฟิตเนสมีขนาดใหญ่วางเครื่องออกกำลังไว้ 10 เครื่อง รองรับการออกกำลังกายทั้งแบบ Cardio หรือ Weight training ใครที่ชอบออกกำลังกายคงถูกใจมุมนี้เป็นพิเศษ
ภายในห้องฟิตเนส มีห้องโยคะด้วยนะ กั้นเป็นห้องปิดอย่างเป็นสัดส่วน ใครที่มีเพื่อนๆชอบเล่นโยคะเหมือนกัน จะจัดคลาสเล่นโยคะ สามารถจองห้องนี้ได้เลย
ชั้นนี้มีห้องน้ำสำหรับลูกบ้านเช่นกัน โดยแยกเป็นชาย-หญิงอย่างละ 2 ห้อง
นอกจากนี้ชั้นดาดฟ้ายังมีสวนหย่อมให้คนมาชมบรรยากาศภายนอกอาคารได้ด้วยนะ เห็นวิวแบบ 360 องศา จะมาดูพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก ก็เป็นมุมที่สวยงามเช่นกัน
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สวนหย่อมที่ชั้น 1, 5 , 19 และ 26
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 6 x 19 เมตร ลึก 1.20 เมตร พร้อม Jacuzzi
- มีการแบ่งสระเด็ก ขนาดประมาณ 4 x 3 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย
- Co-Living Zone
- Sky Lounge
- EV Charger 2 เครื่อง
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว
- Service lift 1 ตัว
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 268 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 198 คันคิดเป็น 37 % (ถ้ารวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 41%)
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV และ Key Card Access
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
แบบห้อง
Highlights :
- ห้องพักทุกแบบ ได้วิวทั้งห้องนั่งเล่น และห้องนอน
- ภายในห้องกั้นห้องนอนด้วยผนังทึบ ได้ความเป็นส่วนตัว
- ปกติห้องจะขายแบบ Fully Fitted แต่พิเศษช่วงโปรโมชั่น ขายห้องแบบ Fully Furnished ตกแต่งด้วย IDEA LIVING หรือ SB DESIGN SQUARE ได้ครบทุกอย่าง
โครงการนี้เน้นห้องขนาดเล็ก เหมาะกับคนที่อยู่อาศัย 1-2 คน มีแบบห้องให้เลือก 3 แบบ คือ
- Studio ขนาด 23.5 – 24 ตารางเมตร
- 1 Bedroom ขนาด 28 – 28.5 ตารางเมตร
- 1 Bedroom ขนาด 34 – 35 ตารางเมตร
ห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปดูวันนี้จะเป็น Type 1 Bedroom ขนาด 28 ตารางเมตร ซึ่งจะเป็น Type ที่มีมากที่สุดในโครงการ ฟังก์ชันภายในห้อง มีห้องนอน 1 ห้อง , ห้องน้ำ 1 ห้อง และห้องครัวแบบปิด 1 ห้อง
ปกติแล้วโครงการจะขายแบบ Fully Fitted จะได้เฟอร์นิเจอร์เฉพาะชุดครัวและวัสดุสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ แต่ช่วงโปรโมชั่น จะขายแบบ Fully Furnished ลูกบ้านสามารถเลือกได้ว่าจะเอาห้องที่ตกแต่งด้วย IDEA LIVING หรือ SB DESIGN SQUARE แต่ละห้องจะเป็นยังไงบ้าง ไปชมกันเลยค่ะ
ห้องพักส่วนในโครงการจะเป็นห้อง 1 Bedroom 28 ตารางเมตร ซึ่งออกแบบให้ห้องนั่งเล่น และห้องนอนติดกับช่องเปิด ทำให้แสงสว่างส่องเข้ามาในห้องพักได้มาก ห้องจึงดูสว่าง โล่ง ไม่มืด โดยทั่วไปโครงการส่วนใหญ่มักกั้นห้องนอนกับห้องนั่งเล่นด้วยบานกระจก แต่โครงการนี้กั้นด้วยผนังทึบทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แต่เสียดายที่ห้องน้ำเข้าออกได้ทางเดียวคือภายในห้องนอน จึงเหมาะกับคนที่ไม่ได้มีแขกมาหาบ่อยๆ เพราะอาจเสียความเป็นส่วนตัวได้ง่าย
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 28 เมตรที่ตกแต่งโดย SB DESIGN SQUARE :
เริ่มต้นจากประตูทางเข้าห้องเป็นประตูบานไม้เทียม HDF พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock ของ Hafele ลูกบ้านสามารถเข้าห้องได้โดยไม่ต้องพกกุญแจห้อง หากใครที่ลืมกุญแจบ้านบ่อย ๆ คงชอบอุปกรณ์ชุดนี้ไม่น้อย
ระหว่างพื้นภายนอก และพื้นห้องมีธรณีประตูกั้นอยู่ ช่วยกันฝุ่นจากด้านนอก ส่วนพื้นภายในห้องเป็น SPC ทนต่อความชื้นและรอยขีดข่วนพอสมควร เหมาะกับการใช้งานภายในคอนโด
ห้องครัวอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้อง
เมื่อเข้ามาภายในห้องเราจะเจอกับห้องครัวที่กั้นสัดส่วน แยกกับห้องนั่งเล่นอย่างชัดเจน ทำให้ทำอาหารกลิ่นฉุนๆได้ ไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นจะลอยไปห้องนั่งเล่นเลย โครงการให้ชุด Built-in Pantry มาให้ค่อนข้างครบ แต่ไม่มีเตาไฟฟ้าและที่ดูดควัน หากใครชอบประกอบอาหารแนะนำให้ติดตั้งเพิ่มนะคะ
Pantry ในครัว พร้อมตู้เก็บของด้านล่าง
Top เคาน์เตอร์เป็นเมลามีน อาจไม่ทนต่อความชื้นมากนักจึงต้องคอยเช็ดทำความสะอาดอยู่เสมอ ด้านล่างมีตู้บานเปิด-ปิด และชั้นวางของมาให้ ใครที่ไม่อยากส่งผ้าไปซัก หรือเดินลงไปซักด้านล่าง สามารถติดตั้งเครื่องซักผ้า แทนที่ชั้นวางของได้ โครงการออกแบบช่องมาให้พอดีกับเครื่องซักผ้าประมาณ 9 kg. เราไม่จำเป็นต้องนำเครื่องซักผ้าไปไว้ริมระเบียง ให้ตากแดดตากลม ถือเป็นการถนอมเครื่องซักผ้าด้วย
เคาน์เตอร์ถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนคือส่วนที่เป็น ซิงค์ล้างจานและส่วนที่ใช้เตรียมอาหาร หากต้องการติดตั้งเตาไฟฟ้าและที่ดูดควัน แนะนำให้ติดบริเวณนี้ เพื่อการใช้งานที่สะดวก แต่ Backsplash ด้านหลังเป็นผนังปกติ อาจจะต้องระมัดระวังในการทำอาหารไม่ให้เลอะ เพราะจะทำความสะอาดยาก
ซิงค์ล้างจานขนาดตามมาตรฐานโครงการ เมื่อลองหยิบจานใบใหญ่ลงไปวางก็วางได้สบาย ๆ ตัวซิงค์มีความลึกพอที่จะไม่ให้น้ำกระเด็นออกเมื่อใช้งาน
ตู้เก็บของและชั้นวางของด้านบน
ตู้ลอยด้านบนเป็นตู้เก็บของและชั้นวางของ ที่วางไมโครเวฟได้พอดี ส่วนด้านบนตู้เป็นแผงควบคุมไฟ
อีกฝั่งของห้องครัวเป็นพื้นที่โล่ง
อีกฝั่งของห้องครัวเป็นพื้นที่โล่งขนาดประมาณ 0.80 x 1.50 ตารางเมตร ใครอยากตุนของกินก็ซื้อตู้เย็นมาวางบริเวณนี้ได้ ส่วนพื้นที่ข้างๆตู้เย็น ทำเป็นตู้เก็บรองเท้าและตู้เก็บของด้านบนได้ ช่วยให้มีพื้นที่เก็บของมากขึ้น
แม้ว่าโครงการจะไม่มีที่ดูดควันมาให้ แต่มีพัดลมระบายอากาศแบบฝังฝ้า ของ Panasonic มาให้ เพื่อช่วยดูดกลิ่นและควันออกจากห้องได้ไวขึ้น
ระหว่างห้องครัวไปห้องนั่งเล่นจะถูกกั้นห้องด้วยประตูบานเลื่อนอะลูมิเนียมแบบ 2 ตอนกั้นอยู่ สามารถเปิดได้กว้างกว่าแบบ 3 ตอน เราจึงขนของชิ้นใหญ่ๆ ผ่านประตูบานนี้ได้สบายๆ
ที่พื้นมีรางประตูอะลูมิเนียมฝังอยู่ เวลาเดินต้องระวังสะดุดนิดนึงนะคะ
ห้องนั่งเล่นติดหน้าต่าง ได้รับแสงสว่างจากภายนอก
ถัดมาเป็นห้องนั่งเล่นที่มีช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้ห้องดูสว่างมากขึ้น มีระยะดูทีวีประมาณ 2.2 เมตร ขนาดทีวีที่เหมาะสมในการติดตั้งคือ 42-48 นิ้ว หากซื้อในช่วงโปรโมชั่นจะได้เฟอร์ครบเซตตามแบบที่เห็นเลย ยกเว้นพร็อพที่ตกแต่ง
บริเวณข้างๆ หน้าต่างมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะกับเก้าอี้ทำงาน เหมาะกับการ Work form home สุดๆ เมื่อนั่งทำงานเมื่อยๆ ก็หันมาพักสายตากับบรรยากาศด้านนอกได้ ยิ่งใครอยู่ห้องฝั่งใกล้ส่วนกลาง ยิ่งได้เห็นพื้นที่สีเขียวสวยๆ คงรู้สึกสดชื่นน่าดู ส่วนข้างโซฟามีโต๊ะขนาดเล็กเอาไว้วางของ คนที่กำลังดูทีวีก็สามารถนำของกินมาทานแล้ววางบนโต๊ะนี้ได้
หน้าต่างบานเลื่อน 2 ตอน
หน้าต่างแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือช่วงล่างเป็นกระจกบาน Fix ส่วนช่วงบนเป็นหน้าต่างบานเลื่อนอะลูมิเนียม 2 ตอน สามารถเปิดรับลมได้เต็มที่ เพราะไม่มีอาคารรอบข้างมาบดบัง
ข้างๆโซฟาเป็นประตูบานทึบเปิดเข้าไปยังห้องนอน ส่วนผนังที่กั้นห้องก็เป็นผนังทึบ เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้คนที่ใช้งานห้องนอน และห้องนั่งเล่น
ภายในห้องนอน มีแอร์มาให้ 1 ตัว
ห้องนอนมีขนาดค่อนข้างกว้าง สามารถวางเตียง 5 ฟุตแล้วยังเหลือพื้นที่ปลายเท้าพอให้คนเดินผ่านได้ หากใครอยากติดตั้งทีวีแนะนำให้เลือกแบบติดผนังเพื่อประหยัดพื้นที่นะ
ประตูกระจกบานเลื่อน
ประตูข้างๆเตียงนอน เป็นประตูกระจกอะลูมิเนียมบานเลื่อน 2 ตอน สำหรับเปิดออกไประเบียง
พื้นที่ระเบียง
ระเบียงมีความกว้างประมาณ 0.65 x 2.5 เมตร สามารถเดินออกมารับลม สูดอากาศเพื่อความสดชื่นได้ ความสูงของเพดานระเบียงเท่ากับตัวห้อง คือ 2.6 เมตร จึงสามารถแขวน Condensing Unit 2 ตัว ไว้ด้านบน ทำให้เราใช้งานระเบียงได้เต็มพื้นที่
อีกฝั่งของห้องนอนเป็นตู้เสื้อผ้า ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่ติดกับห้องน้ำเลย จึงใช้งานเชื่อมต่อกันได้สะดวก
หากใครซื้อในช่วงโปรโมชั่น Fully furnished ก็จะมีตู้เสื้อผ้ามาให้เหมือนในห้องตัวอย่างเลยนะคะ มีช่องเก็บของด้านบน และภายในตู้มีลิ้นชัก 2 ตัว พร้อมช่องวางของให้ เพื่อใช้ให้การเก็บข้าวของ หน้าบานของบานตู้เป็นกระจกครึ่งหนึ่ง เจ้าของห้องใช้ส่องเช็คความเรียบร้อยของตัวเองก่อนออกจากห้องได้สะดวก
ห้องน้ำภายในห้องนอน
ภายในห้องน้ำให้ชุดสุขภัณฑ์ของ American Standard , Charmer , Hafele และอื่นๆ ที่เทียบเท่ามาครบครัน มีกระจกเงาบานใหญ่ที่ฝังไฟด้านใต้มาให้ ทำให้ห้องน้ำดูหรูหราและสว่างขึ้นมา ที่เรารู้สึกว่าโครงการออกแบบได้ดีคือการซ่อนสายชำระ และที่วางกระดาษทิชชูไว้ใต้อ้างล้างหน้า เป็นการประหยัดพื้นที่ได้ดีเลยค่ะ
โดยทั่วไปโครงการส่วนใหญ่มักให้ Hand Shower เพียงอย่างเดียว แต่โครงการนี้ให้ Rain Shower มาด้วย ทำให้สะดวกในการอาบน้ำสระผมมากขึ้น
โครงการให้ฉากกั้นอาบน้ำที่ทำจาก Tempered Glass มาให้ พร้อมมือจับประตู ที่ใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ สะดวกในการใช้งานเมื่ออาบน้ำเสร็จ
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.85 x 1.5 เมตร ใช้งานได้สะดวก
แม้ว่าพื้นที่อาบน้ำจะไม่มีการลดระดับลง แต่มีการเพิ่มธรณีประตูเป็นเส้นอะลูมิเนียมโค้งกั้นไม่ให้น้ำไหลออกสู่พื้นแห้งได้บ้าง
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 28 เมตรที่ตกแต่งโดย IDEA LIVING :
เข้ามาเป็นห้องครัว และถัดไปเป็นห้องนั่งเล่น
ห้องที่ตกแต่งโดย IDEA LIVING เน้นตกแต่งให้มีสีสันมากขึ้น ส่วนเฟอร์นิเจอร์ให้มาแบบสไตล์มินิมอลเหมือนห้องตัวอย่างเลย เเต่ไม่ได้ให้พร็อพของตกแต่งไปด้วย ใครที่ชอบความเรียบง่ายคงชอบห้องแบบนี้นะ
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตารางเมตร :
ห้องแบบ 34 ตารางเมตรเป็นห้องมุม จึงได้หน้าต่างเยอะกว่าห้อง Type อื่นๆ มีการจัดผังห้องคล้ายห้องแบบ 28 ตารางเมตร มีข้อแตกต่างแค่เพียงบางประเด็น ดังนี้
- แต่ละสัดส่วนมีพื้นที่ใช้สอยใหญ่ขึ้น
- ห้องนั่งเล่นมีระเบียง ส่วนห้องนอนจะไม่มีระเบียง
- มีพื้นที่ว่างหน้าห้องน้ำเยอะกว่า สามารถกั้นเป็น Walk-in closet ได้
- ภายในห้องน้ำมีหน้าต่างระบายอากาศ
เมื่อเข้ามาภายในห้องจะเจอกับห้องครัวที่กั้นเป็นสัดส่วน
นอกจากนี้โครงการยังมีห้อง Studio ด้วยนะ แต่ไม่มากนัก จึงไม่มีห้องตัวอย่างให้ดูค่ะ
ห้อง Studio ขนาด 23.5 ตารางเมตร :
ห้อง Studio มีเพียงชั้นละ 3 ยูนิตเท่านั้น แต่ทุกห้องจะได้วิวส่วนกลางหมดเลย ผังห้องจัดแบบ Open plan ห้องแบบนี้จะไม่มีการกั้นห้องส่วนใดเลยยกเว้นห้องน้ำ ทำให้ห้องดูกว้างขวาง ซึ่งมุมที่เราคิดว่าน่าสนใจคือริมหน้าต่าง ที่ออกแบบเป็น Window seat ให้เจ้าของห้องชื่นชมบรรยากาศภายนอก พร้อมกับทำกิจกรรมพักผ่อนในห้องได้ เช่น อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง ห้อง Type นี้เหมาะกับการอยู่ 1-2 คนเลย
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคา
Lumpini Place Chaengwatthana – Pakkret Station (ลุมพินี เพลส แจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด สเตชั่น) ราคา ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2567
- จากการสำรวจโครงการรอบข้าง คาดว่าราคาน่าจะเริ่มประมาณ 2 ล้านต้นๆค่ะ
- รูปแบบการขาย Fully Fitted และ Fully Furnished (ช่วงโปรโมชั่น)
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร
- Kitchen & Sink / ท็อปเมลามีน
- วัสดุปูพื้น / SPC
- สุขภัณฑ์ / American Standard , Cotto , Hafele
- หน้าต่าง-ประตู บานเลื่อนกระจก โครงอะลูมิเนียม
- จอง 10,000-15,000 บาท
- ทำสัญญา 0 บาท
- ดาวน์ 0 บาท
- ค่ากองทุน 225 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล : จุดเด่นของ Lumpini Place Chaengwatthana – Pakkret Station (ลุมพินี เพลส แจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด สเตชั่น) คืออยู่ใกล้ทั้งเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ และสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 ประมาณ 450 เมตร สะดวกในการหาของกิน หรือแวะซื้อของกินก่อนกลับคอนโด นอกจากนี้ยังใกล้แหล่งงานอย่าง Jusmine Tower / Software Park / ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ คนที่ทำงานโซนนี้เดินทางไปทำงานได้สะดวก ประหยัดเวลาในการเดินทางได้มาก
ปัจจุบันนี้รอบข้างอาคารยังไม่มีตึกสูงขึ้นในระยะประชิด ทำให้ลูกบ้านได้วิวบรรยากาศเมืองแบบ 360 องศาไม่ว่าห้องจะอยู่ตำแหน่งไหนของอาคารก็ได้วิวเมืองหมด
การเดินทางโดยใช้รถ : โครงการตั้งอยู่ใกล้ถนนฝั่งขาเข้าเมือง ห่างจากโครงการไป 2-3 กิโลเมตร มีทางพิเศษศรีรัชที่ใช้เดินทางเข้าโซน สาทร สีลม พญาไท จัตุจักรได้ หรือทางพิเศษอุดรรัถยาที่ใช้เดินทางไปโซนรังสิต ปทุมธานี และจุดกลับรถเข้าโครงการก็ห่างเพียง 1 กิโลเมตร โดยรวมนับว่าเดินทางสะดวกเลย ส่วนที่จอดรถมีประมาณ 37% หรือ 198 คัน ตามระดับมาตรฐานโครงการ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : โครงการใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 ในระยะเดินได้ เหมาะกับคนที่ใช้รถไฟฟ้าเป็นประจำ หรือทางใครนั่งรถประจำทางก็เดินไปป้ายรถเมล์ได้ 230 เมตร
วัสดุ : ปกติโครงการขายแบบ Fully Fitted วัสดุต่างๆได้ตามมาตรฐานราคาแต่ในช่วงโปรโมชั่นจะขาย Fully Furnished ที่เราสามารถเลือกได้ว่าจะตกแต่งด้วย IDEA LIVING หรือ SB DESIGN SQUARE ให้เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมอยู่ได้เลย ซึ่งถือว่าช่วงโปรโมชั่นนี้คุ้มค่าทีเดียว
การออกแบบโครงการ : โครงการออกแบบอาคารเป็นตัว L ล้อมส่วนกลางไว้ ทำให้ตัวอาคารไม่บังวิวกันเอง และการนำ Facilities ไปไว้ชั้นบนสุดทำให้เห็นเมืองนนทบุรีอย่างชัดเจนและรอบด้าน ซึ่งไม่ใช่ทุกโครงการที่จะทำแบบนี้นะคะ แต่น่าเสียดายที่บางชั้นมีทั้ง Facilities และห้องพักอาศัยอยู่ด้วยกัน โดยไม่มีการแบ่งแยกเป็นสัดส่วนจริงจัง ทำให้คนที่พักชั้นนี้สูญเสียความเป็นส่วนตัวไปหน่อย
การออกแบบห้อง : ภายในห้องมีการกั้นสัดส่วนอย่างชัดเจน ทั้งครัวแบบปิดหรือการแยกห้องนอนกับห้องนั่งเล่นออกจากกันโดยใช้ผนังทึบ ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เวลาคนดูทีวีในห้องนั่งเล่นก็ไม่รบกวนคนที่นอนอยู่ในห้องนอน ทั้งห้องนอนและห้องนั่งเล่นมีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติทั้งคู่ ห้องจึงดูสว่าง แต่ห้องน้ำอยู่ภายในห้องนอน เวลาเเขกมาเข้าห้องน้ำต้องผ่านห้องนอนทุกครั้ง ทำให้เสียความเป็นส่วนตัว
สาธารณูปโภค : Facilities และฟังก์ชันหลักๆมีให้ครบ การกระจาย Facilities ไปอยู่ตามชั้นต่างๆ ทั้ง 1,5,19 และ 26 ช่วยลดความหนาแน่นในการใช้งานของลูกบ้าน แต่ส่วนตัวคิดว่ามีจำนวนลิฟต์น้อยไปสักหน่อย คงต้องเผื่อเวลารอลิฟต์ในช่วงเร่งด่วนเช้า-เย็นค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 86,000 บาท/ตร.ม., 1 มิถุนายน 2567
- ทำเล 7.5/10 – ใกล้เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะและสถานีรถไฟฟ้าแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – อยู่ฝั่งขาเข้าเมือง ใกล้ทางพิเศษศรีรัชและอุดรรัถยา
- ไม่ใช้รถ 7.5/10 – ใกล้สถานีรถไฟฟ้า และป้ายรถเมล์
- วัสดุ 7/10 – Fully Fitted ในช่วงปกติ แต่ Fully Furnished ในช่วงโปรโมชั่น
- แบบ 8/10 – อาคารทรงตัว L เห็นวิวรอบด้าน ห้องพักอาศัยกั้นสัดส่วนชัดเจน ได้ความเป็นส่วนตัว
- สาธารณูปโภค 7.5/10 – ให้มาครบครัน และกระจาย Facility ไว้ถึง 4 ชั้น แต่แอบเสียดายเรื่องสัดส่วนของลิฟต์ที่ต้องเผื่อเวลากันดีๆค่ะ
- MAIN CLASS
- 7.55 / 10.00
Lumpini Place Chaengwatthana – Pakkret Station (ลุมพินี เพลส แจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด สเตชั่น) เหมาะกับใคร
Lumpini Place Chaengwatthana – Pakkret Station (ลุมพินี เพลส แจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด สเตชั่น) เหมาะกับคนชอบความสะดวกสบายใกล้เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ และรถไฟฟ้าสายสีชมพู ตอบโจทย์คนที่ทำงานในแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู หรือคนที่ทำงานในโซนแจ้งวัฒนะ-เมืองทองอยู่แล้ว เอาใจคนชอบคอนโดที่มี Facilities บนชั้นสูงให้ชมวิวเมืองได้ โครงการออกแบบห้องขนาดไม่ใหญ่มาก รองรับสมาชิก 1-2 คนกำลังดี มองหาห้อง Studio หรือ 1 Bedroom มีงบ 2 ล้านบาทขึ้นไป หรือมีกำลังผ่อนขั้นต่ำ 14,000 บาท/เดือน
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่