สวัสดีครับ รีวิวฉบับนี้ Mr.Oe ยังอยู่ที่ พหลโยธิน 11 ครับ จะพาไปดู Le Monaco Residences โครงการคอนโดมิเนียมที่เน้นเรื่อง วัสดุ สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยเป็นแกนหลักในการพัฒนาโครงการ เพราะโครงการนี้ คือ “บ้าน” ของเจ้าของโครงการ และยังเป็นที่พักของเพื่อนฝูง และคนที่เค้ารู้จักคุ้นเคยครับ ดังนั้นโครงการเลยอาจจะแปลกกว่าโครงการอื่นๆ เพราะเน้นเรื่องการสร้างโครงการ ให้เป็น บ้านที่มีคุณภาพ มาตรฐานสูง สำหรับการอยู่อาศัย และใช้วัสดุ ระบบ ที่ดีมีความคงทนถาวร กว่ามาตรฐานทั่วไป ซึ่งผมจะพาไปดูว่ามีอะไรดีๆบ้างนะครับ
Fact @ 13 March 2012
- Le Monaco Residences เลอ โมนาโค เรสซิเดนซ์
- Developer : Upmost Projects
- LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด 30 ชั้น 67 ยูนิต
- ที่ดินประมาณ 1 – 0 – 20 ไร่
- จอดรถ 103 คัน (Fix 67 คัน เวียน 36 คัน) หรือ 154%
- 1-2-3 Bedrooms (ห้องที่ยังมีขายอยู่)
- พื้นที่ใช้สอย 79.77 – 173.55 ตารางเมตร
- ราคาขายต่อห้อง 10.9 – 28.0 ล้านบาท
- ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 135,000 – 148,000 บาท
- ขายแบบ Fully Fitted มีครัว สุขภัณฑ์ ตู้บางชิ้น แอร์
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS อารีย์ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS อารีย์ (N5)
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS สะพานควายได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS สะพานควาย (N7)
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
ทำเลที่ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 11 ไกล้ๆกับ The Crest ที่เพิ่งรีวิวไป ห่างกันไม่ถึง 200 เมตร แต่ไกล้ปากซอยมากกว่า โดยอยู่ลึกเข้ามาจากถนนพหลโยธินประมาณ 300 เมตร ทำเลที่ตั้งสำหรับคอนโดระดับราคาขนาดนี้ แน่นอนว่าจะอยู่ตรงซอยอารีย์เลยก็ยังได้ แต่เค้าต้องการทำเลที่ขยับออกมา สงบๆ ไม่พลุกพล่าน แต่ยังไปไหนต่อไหนด้วยรถส่วนตัวได้สะดวก เจ้าของและเพื่อนๆเป็นคนฝรั่งเศสที่อยู่เมืองไทยมานานและ มีความเชื่อว่ามีตลาดที่ชอบในทำเลและโครงการลักษณะแบบนี้เหมือนกัน
แผนที่โครงการ Le Monaco Residences พหลโยธิน 11
แผนที่ของจริงจาก Google โครงการตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 11 หรือซอยเสนาร่วม ระยะทางจากปากซอยมาถึงโครงการ 300 เมตร
แผนที่แสดงสภาพแวดล้อม
Zoom ชัดๆ รอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยว ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกันมี ชาโตว อิน ทาวน์ ของ CMC ลึกเข้าไปในซอยเป็น The Crest ของ SC Asset คอนโดแนว Tuscany ที่เพิ่งรีวิวไป (Click ที่นี่เพื่ออ่านรีวิว The Crest)
การเดินทาง เข้าทางด้านหน้าปากซอยสะดวกสุด แต่ซอยนี้ เป็นซอยที่ทะลุออกได้หลากหลายทางมาก นอกจากออกปากซอยพหลโยธิน 11 ตรงๆ แล้ว ท้ายซอยยังไปออกพระราม 6 เลียบคลองประปา เพื่อใช้ทางด่วน ตัวซอยมีซอยย่อยเชื่อมกันมากมาย โดยซอยข้างๆ The Crest ชือซอยสันติเสรี (ประดิพัทธิ์12) สามารถทะลุออกประดิพัทธิ์ได้ และซอยสันติเสรี1 ตรงข้างๆ Le Monaco ไปทะลุออกซอยอารีย์ หรือจะเลาะไปออกอารีย์สัมพันธ์ ก็ได้ ซึ่งจะทำให้การวิ่งเข้าวิภาวดีไปได้ง่าย และหลากหลายมากขึ้น
เส้นทางวิ่งไปออกพระราม 6 หรือจากทางด่วนวิ่งเข้าโครงการ ในช่วงเวลาที่บังคับห้ามผ่านหน้าโรงเรียนเรวดี เราจะไม่สามารถเข้ามาจากด้านท้ายซอย พหลโยธิน 11 ได้ จากโครงการถึงทางด่วนตรงพระราม 6 ระยะทางประมาณ 1.8 ก.ม.
ส่วนการเดินทางไป BTS สะพานควาย ระยะทาง 1.1 ก.ม. จากหน้าโครงการถึงปากซอยพหลโยธิน 11 พอเดินมาเพื่อขึ้น Taxi หรือรถเมล์ได้ มีป้ายอยู่ปากซอยพอดี เพราะซอยค่อนข้างร่มรื่น และปลอดภัยพอสมควร ไม่เปลี่ยว อ้อ ก่อนถึง BTS สะพานควายมี Big C และโรงพยาบาลเปาโลนะครับ
ถ้าจะมาอารีย์ เพื่อซื้อของ หรือหาของกิน การเดินทางก็ไม่ต้องออกปากซอยไปยูเทิร์นให้ยุ่งยาก ลัดเลาะตามซอยมาเลย ระยะทางถึงปากซอยอารีย์ 1.1 ก.ม.ตรงปากซอยอารีย์มี La Villa Community Mall ที่มีร้านอาหารดีๆเยอะเหมือนในห้าง
จตุจักร อตก สะดวก ออกปากซอย และตรงอย่างเดียวก็ถึงแล้ว ระยะทางไป อตก ประมาณ 1.8 ก.ม. ส่วนขากลับ ก็วิ่งเข้าพระราม 6 เลี้ยวเข้าเรวดี หรือประดิพัทธิ์ มาจากด้านท้ายซอยพหล 11 ก็ได้
การเดินทางด้วยรถส่วนตัวนี่ เรียกว่าสุดแสนจะสะดวก ไปได้หลากหลายทาง มีทางลัดทางเลี่ยงเยอะ จุดขึ้นลงทางด่วนสามสี่จุด แต่ถ้าไม่มีรถก็ไม่สะดวกเท่าที่ควร สิ่งอำนวยความสะดวกระยะเดินสบายไม่เกิน 500 เมตร มีแต่พวกร้านอาหาร ส่วนมินิมาร์ทต้องปากซอย ไม่ค่อยสะดวกเท่าไร แต่ถ้าใช้รถก็มีทางเลือกเยอะมาก ไล่ไปตั้งแต่ ตลาดและร้านค้าย่าน อารีย์ หรือ ประดิพัทธิ์ ตลาด อตก สวนจตุจักร Big C ถ้าใช้ BTS ก็ยาวๆไปสยามได้
ซอยพหลโยธิน 11
ทำเลตรงนี้จึงเหมาะกับคนใช้รถนะครับ ไม่มีรถ ลำบาก ยิ่งถ้ากลับดึกมากๆ หรือฝนตก นี่คงต้องนั่ง Taxi อย่างเดียวเลย เป็นทำเลที่อยู่ระหว่าง อารีย์ กับ สะพานควาย พอดี ข้อดีที่พอจะชดเชยความไม่สะดวกคึกคักเหมือนซอยอารีย์ คือความสงบ และเป็นโซนที่อยู่อาศัยจริงๆ
ป้ายรถเมล์ปากซอยพหลโยธิน 11
ทำเลและความสะดวก ดีกว่า The Crest เล็กน้อย ตรงเดินมาปากซอยสบายหน่อย ไม่ลำบากมาก ทางโครงการ มีจัด ลีมูซีน Service ไว้ให้ ก็คงจะช่วยให้สะดวกมากขึ้น ทำเลตรงนี้เรียกว่าไม่ได้ความคุ้มค่าด้านทำเล แต่อาจจะเหมาะกับคนที่ต้องการอยู่อาศัยในย่านนี้จริงๆ
หน้าโครงการ รั้วที่เห็นกำลังจะถูกรื้อออกทำใหม่นะครับ
ถนนในซอย หน้าโครงการ
เจาะลึกตัวสินค้า
ก่อนจะไปดูตัวโครงการ ต้องดูก่อนว่า Developer คือใคร 🙂 มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน เพราะ Upmost Projects ค่อนข้างจะใหม่ สำหรับตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่มือใหม่นะครับ เพราะ Director คือคุณ Jean-Luc Colonna d’Istria ชาวฝรั่งเศส มีประสบการณ์ในด้านอสังหาริมทรัพย์ในยุโรปเยอะครับ และลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในบ้านเรามานานแล้ว เพียงแต่ไม่ได้จับตลาดคอนโดเท่านั้นเอง และโครงการนี้สร้างไกล้จะเสร็จสมบูรณ์พร้อมโอนแล้ว ปัญหาเรื่องความเสี่ยงสูญเงิน ทิ้งโครงการ เป็นอันตัดทิ้งไปได้ และการเลือกห้อง ก็ได้เลือกจากห้องจริงของจริงทำเลจริง ตัดปัญหาเรื่องคุณภาพและ Finishing ไม่เนี้ยบไปได้อีก
โครงการที่เคยทำในเมืองไทย
เมอริเดียน
รางวัลที่ Le Monaco Residences ได้รับ บ่งบอกถึงมาตรฐานและความตั้งใจทำโครงการให้เป็นโครงการที่ดี
อย่างที่เคยเกริ่นไว้แล้วว่า Le Monaco Residences เป็นโครงการที่เจ้าของอยู่เอง คุมเอง โครงการนี้ล่าช้ากว่ากำหนดเสร็จเดิม นานอยู่ เพราะถ้าผู้รับเหมาทำอะไรไม่ตรง spec หรือไม่ตรงกับที่ต้องการ พี่แกสั่งรื้อทำใหม่หมด และวัสดุ การก่อสร้างและระบบหลายอย่าง ถูกจัดทำตามมาตรฐานยุโรป ของบางอย่างหาซื้อไม่ได้ในประเทศไทย เมื่อมีการตั้ง Spec สูงแบบนี้ แน่นอนว่าถ้าเกิดต้องมีงานแก้ไข ก็ต้องช้าแหงมๆ วันที่ผมเข้าไปดู ก็ยังไม่สมบูรณ์ มีหลายอย่างต้องถูกรื้อทิ้ง เพื่อสร้างใหม่ให้สวยงาม เช่นรั้วและงานเก็บรายละเอียด ส่วนจุดขายของโครงการคือ วัสดุ และระบบต่างๆในโครงการ ล้วนถูกติดตั้งครบหมดแล้ว
คุณ Philippe Bremard : Project Manager ของโครงการ Le Monaco Residences พี่แกพูดไทยได้เหมือนคนไทยครับ ผมเลยสบายไป 😀 คุณ Philippe อธิบายเรื่องวัสดุ และงานระบบที่พยายามใส่ลงไปในโครงการ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยอยู่สบายได้น่าสนใจครับ
ขอเริ่มที่งานผนังก่อนนะครับ ผนังไม่ใช่ผนังก่ออิฐ หรือคอนกรีตทั่วไป แต่เป็นผนัง 3 ชั้น บุด้วย Rockwool และปิดด้วย Gypsum Wall หนา 12 มม อีกที เพื่อให้ผนังมีคุณสมบัติ ทนไฟ กันความร้อน กันเสียง และไม่หดตัวแตกร้าว (Crack) เมื่อเวลาผ่านไปนานๆเหมือนผนังคอนกรีต ตัว Rockwool เองผ่านการเลือกสรรมาแล้วว่า ปลอดภัยต่อสุขภาพ ไม่มีสารพิษตกค้าง หรือสารก่อมะเร็ง ส่วน Gypsum แบบหนา ก็สามารถเจาะยึดได้
สีที่ใช้ทาผนัง เป็นชนิด Organic Paints ทำมาจากโคลน ไม่มีสารพิษ หรือเคมีที่ไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค เป็นสีที่สั่งจากเยอรมัน
กระจก Laminated Insulated Glass เป็นกระจก 3 ชั้น ที่แต่ละชั้นคั่นด้วยอากาศแห้ง กระจกด้านในสุดเป็นกระจกเขียวตัดแสง มีฟิล์ม PVB เคลือบยึดกระจกเพื่อความปลอดภัยจากการแตก กระจกตัวกลางเป็นกระจก Low E เคลือบ Silver ด้านนอกสุดเป็นกระจกใสธรรมดา เมื่อประกอบกันแล้วตัวกระจกชนิดนี้จะทำหน้าที่ สะท้อนความร้อนออกไปได้ประมาณ 70% ป้องกันรังสี UV และ อินฟาเรดได้ ในขณะที่กระจกธรรมดาจะปล่อยให้ความร้อนเข้ามาได้ 100% ไม่ต้องพูดถึง UV และ อินฟาเรด ส่วนเสียงจากภายนอก กันได้ ชนิดเงียบกริบครับ 🙂
กระจกระเบียง
ประตูหน้าตาเหมือนประตูไม้ทั่วไป แต่จริงๆแล้วมีความหนากว่ามาก เพราะเป็นประตูที่ทำมาเพื่อกันความร้อน กันเสียงรบกวน และเพื่อความปลอดภัยจากการกระแทกหรือโจรกรรม ตัวประตูมี Insulation ในตัวเนื้อไม้ ด้านบนเป็น Metal Sheet เสริมความแข็งแรงของประตูด้วยโครงโลหะกันการงัดและกระแทก ส่วนตรงกลางประตูสอดใส้ด้วย PU Foam ป้องกันความร้อนเข้าความเย็นออก และช่วยลดเสียง ขอบประตูก็ถูก Seal โดยรอบด้วย แน่นอนประตูนี้หนัก ตัวบานพับก็เลยต้องเป็นแบบชนิดพิเศษไปด้วย
บานพับ
พื้น เป็น Engineer Flooring Plank เป็นไม้พื้นสำเร็จรูปที่ประกอบไปด้วยไม้ 3 ชั้น ด้านหน้าไม้ที่เราเห็นเป็นลายไม้สวยๆ เป็นไม้เนื้อแข็งจริงๆ ทนทานตามแต่ชนิดของไม้ มีความหนา 3-4 มม ตรงกลางเป็นไม้สน หรือ Solid Core Board ซ้อนๆกันอีก 3 ชั้น หนารวม 8 มม และชั้นล่างสุดเป็นไม้วีเนียร์หนา 2 มม ตัว Engineer Flooring Plank นี้จะถูกเคลือบผิวหน้าด้วยโพลียูรีเทนยูวีอคลิลิคแลกเกอร์ หนา 6 ชั้น เพื่อเพิ่มความทนทาน ไม้ชนิดนี้จะทนทานกว่าลามิเนตมากมาย ที่สำคัญดีกว่าไม้จริงตรง ไม่ยืดหดตัว ไม่บวมเมื่อโดนน้ำ แต่สวยงามเช่นเดียวกับไม้จริงเลย
ระบบแอร์ เป็นแอร์ของ Daikin ระบบ VRV III inverter รุ่นล่าสุด (VRV = Variable Refrigerant Volume) ตัวระบบจะมี Condensing Air ตั้งอยู่ข้างนอก (โครงการมีห้องเก็บมิดชิดอยู่ข้างระเบียง) และแยกการทำงานเป็นห้องๆไป การทำงานแอร์จะใช้การปรับน้ำยาทำความเย็นเข้าที่ fan coil ไม่ใช่เป่าลมเย็นเฉยๆเหมือนแอร์ทั่วไป มีการควบคุมอุณภูมิที่ดีคงที่กว่า และประหยัดพลังงานได้มากกว่าแอร์ทั่วไปมาก น้ำยาที่ใช้ เป็น R22 Recovery ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม มีระบบดูดอากาศบริสุทธิ์และออกซิเจนเข้าสู่ห้องตลอด ระบบแอร์ที่ควบคุมอุณภูมิได้นิ่ง ไม่แกว่งตัวต่างกัน และคุณภาพอากาศที่ดีกว่า ทำให้นอนหลับสนิท ไม่เหนื่อย ไม่เพลีย ผิวไม่แห้ง เมื่อเทียบกับแอร์ทั่วๆไป
เมื่อประกอบกับ ผนัง กระจก และประตู ที่โครงการออกแบบไว้และทำไว้ให้ ห้องแต่ละห้อง จึง เย็น เงียบ อยู่สบาย และประหยัดพลังงานมาก
ไม่มีคอมแอร์ให้เห็นเกะกะ Condensing จะถูกเก็บไว้ ด้านข้างระเบียง และปิดเรียบร้อย
ระบบน้ำ โครงการมีน้ำร้อน เย็น และน้ำดื่ม ติดตั้งไว้ให้เรียบร้อยแล้ว โดยตัวโครงการแทบจะเรียกว่าเป็นโรงงานผลิตน้ำดื่มขนาดเล็กได้เลย เริ่มจากน้ำประปาที่มาจากการประปาจะถูกกรอง UV ฆ่าเชื้อก่อน ที่จะเข้าสู่ระบบโครงการ โดยน้ำเย็นก็จะถูกปล่อยผ่านท่อน้ำเย็น ส่วนน้ำร้อนโครงการมี Solar Panel เป็นหลักในการทำน้ำร้อน แต่ถ้าวันไหนไม่มีแดด ก็จะใช้ Heat Pump ช่วย ใช้ความร้อนจากระบบแอร์เป็นตัวเสริม ส่วนน้ำดื่มโครงการต่อก๊อกน้ำดื่มไว้ให้ทุกห้อง น้ำดื่มที่โครงการผลิต เป็นน้ำดื่มระบบ RO ซึ่งเอาน้ำประปาที่กรอง UV แล้วมาผ่านระบบ RO อีกที คุณภาพทัดเทียมกับที่ยุโรป สะอาดและสะดวกยิ่งนัก
ก๊อกน้ำประปาที่ผ่านการกรองแล้ว และข้างๆกันเป็นก็อกน้ำดื่ม
ระบบท่อต่อมาให้ถึงที่
ระบบท่อน้ำดีที่ใช้ในโครงการ เลยต้องพิเศษไปด้วย เพราะน้ำเค้ามีคุณภาพดื่มได้อยู่แล้ว โดยท่อที่ใช้จะเป็นท่อ PPR (Polypropylene Random) ทนทานไม่รั่วซึม ไม่ต้องกลัวน้ำจะถูกปนเปื้อนตลอดอายุการใช้งาน 50 ปี ทนความร้อนได้ 95 C ทนแรงดันได้ดี สะอาด ไม่มีสารก่อมะเร็ง ไม่เป็นสนิม ไม่มีโลหะหนัก และไม่เกิดตะใคร่น้ำ
ระบบไฟในห้อง ตัวโครงการจะ Concern เรื่อง electro magnatic field ที่ปล่อยออกมาจากระบบไฟ และสายไฟมาก ดังนั้นตั้งแต่ผังการเดินสายไฟ จึงเลี่ยงการวางสายไว้ตรงจุดที่เรานั่งหรือนอนนานๆ นอกจากนี้ตรงปลั๊กและสวิทช์จะมีดิมเมอร์ และเบรคเกอร์ เอาไว้ทุกจุด เพื่อปรับและควบคุมไฟให้ได้อย่างที่เราต้องการ ตัวปลั๊กไฟของที่นี่จะมี 2 ชุด Direct และ Indirect พวกตู้เย็น หรือ Fax ที่ต้องเสียบไฟไว้ตลอดเวลา ก็เสียบที่ Direct เวลาเราจะไม่อยู่บ้านแค่สับเบรคเกอร์ เครื่องไฟฟ้าก็ดับหมด เหลือแต่ ตู้เย็น และ Fax ที่เสียบ Direct อยู่ ปลอดภัยและประหยัดพลังงาน และมีเสริมความปลอดภัยด้วยระบบไฟนำทาง ตรงห้องน้ำ
พื้นที่ส่วนกลาง เช่น โถงหน้าลิฟท์ จะติด Censor จับการเคลื่อนไหว เพื่อความปลอดภัย และเปิดปิดไฟอัตโนมัติ ประหยัดพลังงาน ส่วน Lobby ที่ต้องเปิดแอร์ตลอด 24 ชม ก็จะนำความร้อนที่ได้จากแอร์ ไปปรับอุณหภูมิน้ำในสระว่ายน้ำและจากุชชี่ Indoor ให้คงที่อยู่ที่ 27 C ตลอดเวลา
ลิฟท์ เป็นยี่ห้อ Elevent ได้รับรางวัลชนะเลิศด้านการออกแบบลิฟท์ในปี 2008 ความเร็ว 1 Floor ต่อ 1 วินาที เร็ว นิ่มนวล ปลอดภัยและเงียบมาก
สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ
- สระว่ายน้ำ Indoor ปรับอุณหภูมิ ระบบ iOnizer ปลอดคลอรีน
- สระเด็ก
- จากุชชี่
- ซาวน์น่า
- Fitness
- ห้องซ้อมกอล์ฟ
- Lobby with concierge services, Day time limousine service, hissed Wi-Fi, Receptionist
- Hispeed ลิฟท์ 2 ตัว Service ลิฟท์ 1 ตัว
- จอดรถ Fix 67 คัน เวียน 36 คัน รวม 103 คัน
ความปลอดภัย
- รปภ 24 ชม
- CCTV มากกว่า 100 จุด
- Key Card
- รองรับแผ่นดินไหว
- ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ บนดาดฟ้า
- Sprinkler ระบบอัตโนมัติ เมื่อเกิดเพลิงไหม้
สระว่ายน้ำ ยังทดสอบระบบอยู่
จากุชชี่
Fitness
ห้องซ้อมกอล์ฟ
Lobby
ผังชั้น 10
ผังชั้น 15 ชั้นนี้เป็นชั้นของห้องตัวอย่างนะครับ เรื่องทิศและทำเลห้อง แนะนำให้เลือกตามวิวที่ชอบได้่เลย ความร้อนมีผลกับแต่ละห้องไม่ได้เยอะมาก ดูห้องจริง วิวจริง เลือกได้เลย
ตัวโครงการวางเสาไว้ด้านนอก ข้อเสียคือ บังวิว ทำให้เดินระเบียงรอบไม่ได้ แต่ข้อดีคือ ปรับเปลี่ยนรูปแบบภายในห้องได้ง่าย และหลากหลายมากไม่ติดเสา
เสา เสา เสา
Product Walkthrough
ห้องขายแบบ Fully Fitted แบบห้องค่อนข้างหลากหลาย ผมหยิบมาให้ดู 2 ห้องนะครับ ใครชอบแนวนี้ก็แวะไปดูเพิ่มเติมเอง จะได้ดูห้องจริงเลย ความสูงพื้นถึงฝ้า 2.6 เมตร
ไปดูห้องแรกกันครับ ห้อง 1 Bedroom 79.77 ตารางเมตร
ผังห้อง ห้องนี้เป็น 1 Bedroom ที่ใหญ่มากครับ เปิดประตูเข้ามาซ้ายมือจะเป็นชั้นวางของ ขวามือเป็น Power room ห้องน้ำสำหรับแขก ถัดไปเป็นห้องอเนกประสงค์ที่จะเก็บเสื้อผ้า หรือทำเป็นห้องทำงานก็ได้ (ในผังห้องนี้เป็นห้องทำงาน แต่ห้องตัวอย่างจัดเป็นห้องเสื้อผ้า) ถัดเข้าไปเป็นส่วนครัว มีสตูบาร์ จะทานข้าวหรือนั่งจีบแม่ครัวก็ตามสะดวก ส่วนโซฟารับแขกพื้นที่กว้างสบายนอนกลิ้งเกลือกได้ไม่อึดอัด ข้อด้อยของห้องนี้คือระเบียงและบานหน้าต่างที่ได้ช่องเล็กไม่อลัง ส่วนห้องนอนกับ Living room กั้นด้วยประตูบาน Slide 1 ชั้นก่อน เพื่อสัดส่วนที่สวยงาม แล้วจึงเป็นประตูจริงของห้องนอนอีกที
ประตูหน้าห้อง
เปิดประตูมาก็จะประมาณนี้
ชั้นวางของ มองจากด้านในห้องออกมา
ครัว
ครัวอีกมุม
Pantry ตัวเคาน์เตอร์ TOP หล่อเข้ารูปเป็นชิ้นเดียวกัน หัวก็อกของ FRANKE
โซฟาห้องนั่งเล่น
TV
ผนังด้านนี้เมื่อ Slide ประตูปิด ก็ดูเนียนๆเรียบร้อยไม่เห็นห้องนอน
เปิดบาน Slide ถึงจะเจอประตูทางเข้าห้องนอนอีกที
ห้องนอน
ปลายเตียง
วิวห้องนอน
ห้องน้ำ ได้ชุด Shower Box ฉากกระจก Temper พร้อม Rain Shower เครื่องทำน้ำร้อนไม่ต้องติด เพราะได้น้ำร้อนจ่ายมาจากส่วนกลาง
อ่างล้างหน้า ชุดสุขภัณฑ์ทั้งหมดของ American Standard
ไปดูห้อง 2 Bedrooms 132.43 ตารางเมตรกันบ้าง
ผังห้อง ห้องนี้มีห้องลับด้วยครับ 🙂 เปิดประตูมาห้องลับอยู่ขวามือ เป็นบาน slide ในห้องนี้จะเป็นที่วางเครื่องซักผ้า และโต๊ะทำงาน ที่สงบมากๆ ส่วนของ Living Room ขนาดใหญ่ จะมีครัว และ โต๊ะทานอาหารสี่ที่นั่งด้วย ห้องนอนใหญ่มีประตูสองชั้นเพื่อความ Privacy เพราะห้องน้ำห้องนี้เปิดโล่ง Sexy มาก มีอ่างล้างหน้าคู่ Shower Box พร้อม Rain และอ่างอาบน้ำส่วนห้องนอนเล็กมีทีเด็ดที่ Bay Window ได้วิวสองด้าน
เปิดประตูเข้ามาเจอ Living Room
อีกมุม
ห้องลับ
ที่วางเครื่องซักผ้า
ห้องทำงาน
ครัว
Pantry
ชุดรับแขก
อีกมุม
ห้องนอนใหญ่
อีกมุม
ปลายเตียง
วิว
วิวก้ม
ระเบียงค่อนข้างแคบ
ห้องน้ำอยู่หลังประตูกระจกบาน Slide ขนาดใหญ่
ห้องน้ำ
อ่างล้างหน้าแบบคู่
พื้นส่วนแห้ง
โถสุขภัณฑ์
ชุด Rain Shower American Standard
ห้องนอนเล็ก
Bay Window
โต๊ะทำงานเล็กๆ
รายละเอียดห้องอื่นๆ ถ้ามีจะค่อยๆมาเพิ่มเติมนะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 13/03/2012
ราคาห้องมีหลายแบบอยู่เหมือนกัน และไม่เท่ากันในแต่ละทำเลของห้องด้วย ผมมีมาให้ดูเป็นตัวอย่าง 4 ห้องนะครับ
- 1 Bedroom 79.77 ตารางเมตร ชั้น 14 ราคา 10.9 ล้านบาท หรือ 137,000 บาท ต่อ ตรม
- 2 Bedrooms 132.43 ตารางเมตร ชั้น 11 ราคา 17.9 ล้านบาท หรือ 135,000 บาทต่อ ตรม
- 2 Bedrooms 126.81 ตารางเมตร ชั้น 19 ราคา 18 ล้านบาท หรือ 142,000 บาท ต่อ ตรม
- 3 Bedrooms 173.55 ตารางเมตร ชั้น 17 ราคา 24.3 ล้านบาท หรือ 140,000 บาทต่อ ตรม
จอง 100,000 บาท ทำสัญญา 30% โอน 70%
ค่าส่วนกลาง 45 บาทต่อ ตรม กองทุนส่วนกลาง 540 บาท ต่อ ตรม
เจาะลึกรวบยอด
Le Monaco Residences พหลโยธิน 11 เป็นโครงการที่คัดผู้อยู่อาศัยด้วยลักษณะและทำเลของตัวโครงการเองครับ โครงการเล็กๆ แค่ 67 units แต่มาตรฐานค่อนข้างสูง เน้นความสงบ และ Privacy จึงได้เลือกมาตั้งที่ทำเลนี้ ซึ่งค่อนข้างจะเหมาะกับการใช้รถส่วนตัว ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่มีเงินซื้อระดับเกินสิบล้านบาทขึ้นไป และอาจจะเป็นแค่บ้านหลังที่สอง ที่สาม ด้วยซ้ำไป
ความตั้งใจในการออกแบบ ระบบ และวัสดุต่างๆ ที่ค่อนข้างจะดีกว่ามาตรฐานทั่วไป และการควบคุมดูแลการก่อสร้างให้ตรง Spec อย่างเข้มงวด ทำให้ราคาของโครงการนี้สูงมากในวันนี้ แต่ในระยะยาว โครงการนี้ จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและ ให้ความสบาย และสุขอนามัยที่ดีในการอยู่อาศัย ซึ่งตีเป็นมูลค่าได้ยาก เพราะสำหรับบางคน สุขภาพ ก็สำคัญกว่า เงิน มากมายนัก วัสดุที่ให้มาล้วนเป็นของดี และคัดแล้วว่า ปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
การออกแบบโดยรวม ยึดถือความสบายในการอยู่อาศัยเป็นหลัก เราจึงเห็น เสารับน้ำหนักออกไปอยู่ที่ระเบียง เพื่อให้ห้องพักอาศัย ยืดหยุ่น และจัดให้เข้ากับ Lifestyle ของเจ้าของห้องแต่ละคนได้ ส่วนกลางสระว่ายน้ำ และทุกอย่าง Indoor เพื่อควบคุมอุณหภูมิให้อุ่นสบายและใช้ได้จริงตลอดเวลา
เมื่อพิจารณาถึง จำนวน Unit เพียงแค่ 67 ห้อง ขนาดของห้อง และราคาขั้นต่ำที่ 10 ล้านบาท เงินมัดจำทำสัญญา 30% โครงการนี้เจ้าของโครงการที่อยู่อาศัยที่นี่ คงเลือกเพื่อนบ้านพอสมควรครับ 🙂
Judgement
โครงการนี้ วัดผลด้วยมาตรฐานของเรา อาจจะไม่ตรงเท่าไรนะครับ เพราะกลุ่มเป้าหมายของโครงการนี้ ไม่ได้ใช้ความคุ้มค่าทางด้านวัตถุเป็นตัวตัดสินเป็นหลัก แต่จะใส่คะแนนให้ดูเพื่อเป็นไอเดียเท่านั้นเองครับ 🙂
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคาเฉลี่ย 140,000 บาทต่อตารางเมตร Mar 13, 2012
- ทำเล 7.25/10 – ทำเลในซอยพหลโยธิน11 สงบแต่ไม่สะดวกยังดีที่ไกล้ปากซอย
- เดินทางด้วยรถ 8.5/10 – การเดินทางด้วยรถสะดวก ทางลัดทางเลี่ยงเยอะ
- ไม่ใช้รถ 6.5/10 – ราคานี้ มีทำเลอื่นที่สะดวกมากกว่านี้
- วัสดุ 10/10 – ยอดเยี่ยม วัสดุที่ดี อาจจะไม่ใช่แค่ “สวย” ครับ
- แบบ 9/10 – เกือบเต็ม เพราะห้องจัดได้แทบจะตามใจ แต่มีจุดด้อยตรงระเบียง
- สาธารณูปโภค 10/10 – ใช้ได้จริง และใช้ได้สบายด้วย มี 67 units แต่ยังได้เยอะ และดีขนาดนี้ เอาคะแนนเต็มไปเลยดีกว่า
- LUXURY CLASS
- 8.18 / 10.00
BOTTOM LINE
Le Monaco Residences พหลโยธิน 11 เหมาะกับคนที่ชอบบ้านสงบๆ ไม่วุ่นวาย ในทำเลนี้ ใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก ใส่ใจสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม รู้คุณค่าของตัวเองและครอบครัว ต้องการคอนโดที่อยู่สบาย และมีงบพร้อมจ่ายระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไป
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ