Kensington พหลโยธิน 63 คอนโด Low Rise ใกล้รถไฟฟ้าสถานีอนุเสาวรีย์หลักสี่(สายสีเขียว) จาก Origin [รีวิวฉบับที่ 1153]

รีวิวฉบับที่ 1153 … สวัสดีค่ะ วันนี้มีคอนโดในย่านสะพานใหม่มาฝากกับโครงการ Kensington พหลโยธิน 63 จาก Origin  ตัวโครงการเป็นคอนโด 8 ชั้น ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 63  ห่างจากปากซอยพหลโยธินประมาณ 100 เมตร โดยโครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสถานีอนุเสาวรีย์หลักสี่ ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยโครงการยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการแต่จะเปิดรอบ VIP ปลายเดือนนี้แล้ว หากใครสนใจไปดูโครงการพร้อมๆกันเลยค่ะ ^^

โครงการ Kensington พหลโยธิน 63 มีปรับแบบใหม่พร้อม EIA Approved เรียบร้อยแล้วค่ะ อ่านข้อมูลโครงการใหม่ (คลิกที่นี่)

Fact @ 16 August, 2016

• Kensington พหลโยธิน 63 (เคนซิงตัน พหลโยธิน 63)
• บริษัท ออริจิ้น พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
•  ECONOMY-MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่ในเขต : ซอยพหลโยธิน 63 เขต บางเขน กรุงเทพฯ
• คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 231 ยูนิต 
• ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 33 ยูนิต
• ที่จอดรถประมาณ n/a คันคิดเป็น n/a% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 40%
• ที่ดินประมาณ 1-3-31 ไร่
• เริ่มก่อสร้าง :  Q1 ปี 2560
• คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q2 ปี 2561
• 1 Bedroom | Superior ขนาด 23.40 ตร.ม. 
• 1 Bedroom | Deluxe ขนาด 25.90 – 30.70 ตร.ม.
• 1 Bedroom | Suite Terrace ขนาด 32.50 – 33.70 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus | Suite ขนาด 34.80 ตร.ม.
• 1 Bedroom | Suite ขนาด 37.40 – 37.50 ตร.ม.
• 2 Bedroom | Penthouse 47.60 ตร.ม. 
• ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
• ราคาห้องเริ่มต้น 1.59  ล้านบาท หรือประมาณ 67,948 บาท/ตร.ม. (ราคาโปรโมชั่น 1.49 ล้านบาท หรือประมาณ 63,675 บาท/ตร.ม.)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 71,670 บาท/ตร.ม. 
• เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
• โทร : 092-716-7070

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ

• ทำเล
• โครงการ
• ห้องตัวอย่าง
• สรุป

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด :13.884586, 100.600757

ตัวโครงการอยู่เลยแยกรามอินทราค่อนมาทางสะพานใหม่ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยในย่านชานเมือง ใกล้เขตทหาร ใกล้สนามบินดอนเมือง และเมื่อมีแผนพัฒนาเส้นทางรถไฟฟ้าขึ้นมาแถวกรุงเทพตอนเหนืออย่างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มที่ต่อจากสถานีบางซื่อวิ่งมาตามถนนพหลโยธินเลยมีการยกระดับความเจริญ โดยเฉพาะที่ดินติดสถานีรถไฟฟ้าต่างๆ เนื่องจากเป็นทำเลในอนาคตที่เส้นทางรถไฟฟ้ายังอยู่ในการก่อสร้างทำให้อาจจะยังเห็นภาพไม่ชัดมาก แต่ก็มีคอนโดตึกสูงเริ่มมาปักหมุดกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สถานที่เด่นๆในย่านนี้จะมีกรมทหารราบ 11 ทีโอที และ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ล้วนเป็นแหล่งงานที่มีคนอยู่หลายพันคน อีกทั้งยังถือว่าไม่ไกลจากแหล่งสถานศึกษาทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัยอาทิเช่น รร.ไผทอุดมศึกษา รร.เจริญผลวิทยา ม.ราชภัฏพระนคร ม.เกริก ม.ศรีปทุม และม.เกษตรศาสตร์ รวมถึงโรงพยาบาล

หากโฟกัสบริเวณที่ตั้งโครงการจะอยู่ในซอยพหลโยธิน 63 ที่เป็นซอยตันและไม่ใช่เส้นทางลัดไปซอยสำคัญใดๆส่งผลให้ภายในซอยเงียบสงบและไม่มีรถติด ตัวโครงการจะห่างจากปากซอยพหลโยธินประมาณ  100 เมตร ระหว่างทางจะเป็นโชว์รูมโตโยต้าและบ้านพักอาศัย 2 ชั้น หากจะหาความอุดมสมบูรณ์ต้องออกมาที่ถนนใหญ่ เพราะภายในซอยไม่มีร้านค้า โดยอาหารการกินใกล้ที่สุดจะมีอยู่บนถนนพหลโยธินเดินย้อนขึ้นมาช่วงปากซอยพหลโยธิน 61 และ 59 จะมี 7/11 ร้านค้า ร้านอาหารหลากหลาย มี Tesco lotus อยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกันอีก 1 ที่ หรือจะขับรถไปหน่อยจะเจอ BigC ติดกับถนนรัตนโกสินทร์สมโภช เขยิบออกไปหน่อยมีตลาดยิ่งเจริญ ส่วนอีกจุดนั่นคือ Max Value ภายในก็จะมีซูปเปอร์มาร์เก็ต Mcdonald เปิดตลอด 24 ชม. และห้างที่ใหญ่ที่สุดในย่านนี้คือ Central Plaza รามอินทรา ที่อยู่เลยม.เกริกไปนิดนึง

การเดินทางโดยใช้รถหลักๆคือใช้การเดินทางบนถนนพหลโยธิน ถ้ามองในแง่คนที่อาศัยอยู่ภายในพื้นที่อยู่แล้วจะถือว่าอยู่ในตำแหน่งที่เดินทางสะดวก แต่ปริมาณรถบนถนนเส้นนี้ค่อนข้างมาก เนื่องจากถนนพหลโยธินนั้นผ่านตั้งแต่พื้นที่ในเมือง ลาดพร้าว และขึ้นไปยังพื้นที่ที่อยู่อาศัย รวมถึงขนานกับเส้นวิภาวดีรังสิตที่เป็นถนนเส้นหลัก รวมถึงมีศูนย์ราชการ และสถานที่ราชการอยู่ไม่ไกล ทำให้การเดินทางในบางช่วงเวลาอาจใช้เวลานานกว่าที่คิด แต่ล่าสุดถนนตัดใหม่ เส้นพหลโยธิน-รัตนโกสินทร์สมโภชซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถนนพหลโยธินไปทางตะวันออกถึงแยกวัชรพล-สุขาภิบาล 5 ที่ใกล้กับทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ได้สร้างเสร็จและเปิดให้ใช้เรียบร้อยแล้ว ก็จะเป็นตัวที่ช่วยระบายรถจากถนนเส้นนี้ได้ส่วนหนึ่ง

นอกจากนี้โครงการยังอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้แยกรามอินทราหรือวงเวียนอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นวงเวียนของจุดตัดถนนใหญ่ๆตั้งแต่ถนนพหลโยธินที่วิ่งขนานกับถนนวิภาวดีรังสิต ถนนแจ้งวัฒนะ และถนนรามอินทรา โดยจากถนนแจ้งวัฒนะไปถนนรามอินทราจะมีสะพานข้ามวงเวียน แต่จากถนนรามอินทราไปถนนแจ้งวัฒนะก็ต้องเข้าวงเวียนปกติ ส่วนการเดินทางบนถนนพหลโยธินถ้ามาจากแยกรัชโยธินมุ่งหน้าสะพานใหม่ก็จะมีทางลอดใต้วงเวียนช่วยลดรถติดไปได้เยอะพอสมควร

ส่วนการเดินทางโดยใช้รถโดยใช้ทางด่วน ด่านทางขึ้นที่ใกล้ที่สุดคือทางยกระดับอุตรภิมุข(ดอนเมืองโทลล์เวย์) ที่ต้องไปกลับรถ วนเข้าวงเวียนแยกรามอินทราแล้วเข้าถนนแจ้งวัฒนะแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนวิภาวดีก็เจอเลย ส่วนถ้าออกนอกเมืองไปทางรังสิตให้ไปกลับรถแถวหน้าทีโอทีก่อนถึงศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ แล้วกลับเข้ามาวิภาวดีรังสิตอีกครั้งก็เจอทางขึ้นฝั่งออกเมือง

ส่วนการเดินทางโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะ สามารถเลือกใช้มอเตอร์ไซค์รับจ้างหน้าปากซอย หรือจะเดินออกมารอรถเมล์ รถตู้ ที่ถนนใหญ่ก็มีให้เลือกใช้บริการหลายสาย หากใครต้องการใช้บริการรถไฟฟ้าจะมีสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีอนุสาวรีย์หลักสี่ ซึ่งเป็นสถานีของเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มที่วิ่งต่อมาจากสถานีหมอชิตบนถนนพหลโยธิน ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง  

โดยแยกรามอินทรามีเส้นทางรถไฟฟ้า 2 สายตัดกันคือสายสีเขียวเข้ม (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) วิ่งบนถนนพหลโยธินที่กำลังอยู่ในช่วงก่อสร้างและสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) วิ่งจากถนนแจ้งวัฒนะไปยังถนนรามอินทรากำลังอยู่ในช่วงแผนรอเสนออนุมัติ ปัจจุบันมีการปรับตำแหน่งที่ตั้งสถานีไปแล้วหลายครั้ง โดยสายสีเขียวเข้มและสายสีชมพูจะสามารถเปลี่ยนสถานีได้ที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (สายสีเขียวเข้ม) และสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (สถานีวงเวียนหลักสี่) สายสีชมพู ซึ่งถือเป็นทำเลที่ดีในการเดินทางเข้า-ออกเมือง รวมถึงข้ามไปนนทบุรีและรามอินทรา รวมถึงมีจุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้าสายสีสีแดงเข้มไปรังสิต (กำลังก่อสร้าง)

การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มจากแยกรามอินทราตรงไปเรื่อยเพื่อดูบรรยากาศสองข้างทางของถนนพหลโยธิน เมื่อเจอซอยพหลโยธิน 63 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยโดยมีจุดสังเกตคือต้นซอยจะมีโชว์รูมโตโยต้า ขับเข้าไปประมาณ 100 เมตร ก็จะเจอที่ดินของโครงการอยู่ทางขวามือค่ะ

ส่วนสำนักงานขายของโครงการจะไม่ได้อยู่บนแปลงที่ดินแต่จะอยู่บนถนนพหลโยธินขาเข้าเลยโรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัลมาอีกหน่อย ซึ่งเป็นสำนักงานขายเดียวกันกับของโครงการ Notting Hill สะพานใหม่

เราเริ่มจากแยกรามอินทราฝั่งมุ่งหน้าไปทางสะพานใหม่นะคะ

เข้ามาสู่เส้นพหลโยธินสองข้างทางค่อนข้างคึกคัก ทางซ้ายมือเป็นคอนโด Silk Place ส่วนทางขวามือก็จะเป็นอุโมงค์ลอดใต้วงเวียนที่ช่วยลดปัญหาลดติด โดยฝั่งตรงข้ามถนนจะเป็นห้างสรรพสินค้าอย่าง Tesco Lotus

โดยสิ่งปลูกสร้างบนถนนเส้นนี้ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ที่ชั้นล่างเป็นเป็นร้านค้า บริการ อาหาร และที่ค่อนข้างจะฮิตในพื้นที่นี้จะเป็นบริการที่เกี่ยวกับรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นโชว์รูม, ปั้มน้ำมันแบรนด์ต่างๆอย่างเช่น ปตท.ทางซ้ายมือ, เต้นท์รถมือสอง รวมไปถึงร้านรับซ่อมเครื่องยนต์

ซึ่งตัวถนนพหลโยธินเป็นถนนที่ยาวตั้งแต่ในเมืองไปยังนอกเมืองแถบปทุมธานี ขนานกับเส้นวิภาวดีรังสิต ทำให้มีรถเมล์ รถตู้ แท๊กซี่ให้บริการจอดรับ-ส่งเยอะมากๆ รวมถึงมีจุดกลับรถและสะพานลอยอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งปัจจุบันบนถนนพหลโยธินมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งเราจะเห็นว่าทางขวามือนี่กำลังล้อมรั้วกั้นถนนเพื่อสร้างรถไฟฟ้ากันอยู่เลย

ขับมาเรื่อยๆจะเจอสภาทนายความ

ต่อมาเป็นปั้มน้ำมัน ซึ่งภายในก็จะมีร้านรับล้างรถ ร้านเปลี่ยนอะไหล่ ร้านซ่อมแซมจุดต่างๆ รวมถึงร้านกาแฟสำหรับนั่งรอ

ข้างๆกันคือร้านทำฟันเป็นอาคาร 2 ชั้นขนาดไม่ใหญ่

ร้านอาหารและคาราโอเกะก็มี เผื่อใครอยากมาสังสรรค์เบาๆ

เลยมาหน่อยเป็นปากซอยพหลโยธิน 59 ที่ด้านหน้าซอยมี 7/11 และอาหารรถเข็นค่อนข้างคึกคัก เมื่อเข้าไปก็จะเจอซอยย่อยอีกหลายซอย ภายในส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนพักอาศัยที่มีทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และอพาร์ตเมนท์ให้เช่า

ระหว่างทางที่เรามาก็จะเจอรถติดเป็นระยะๆเนื่องจากรถเยอะ และมีรถเมล์ที่หยุดรับส่งผู้โดยสารเป็นช่วงๆ

ถัดมาเป็นหน้าปากซอยพหลโยธิน  61 ที่ช่วงต้นซอยก็คึกคักไม่แพ้ช่วงซอยพหลโยธิน 59 เลย ตรงนี้มีทั้งร้านอาหารรถเข็น 7/11 และป้ายรถเมล์ จึงทำให้การจราจรหนาแน่นพอสมควร

ขับมาอีกนิดก็จะเจอซอยพหลโยธิน 63 แล้ว จุดสังเกตคือช่วงต้นซอยจะเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น และโชว์รูมโตโยต้าค่ะ

หน้าปากซอยจะมีวินมอเตอร์ไซค์วินเล็กๆให้ไปใช้บริการกันได้

เข้ามาภายในซอยพหลโยธิน 63 จะเป็นถนน 2 เลน  บรรยากาศในซอยค่อนข้างเงียบสงบเพราะเป็นซอยตัน

เราขับตรงมาเรื่อยๆทางขวามือเป็นโชว์รูมโตโยต้า ส่วนทางซ้ายมือเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ไม่มีตึกสูงข้างเคียงนะคะ

มาถึงตรงนี้จะเจอกับที่ดินของโครงการ Kensington พหลโยธิน 63 แล้วค่ะ ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น

ที่ดินที่ติดกับโครงการก็ยังเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้นเหมือนกับส่วนอื่นๆ หากตรงไปเรื่อยๆก็จะเจอบ้านพักอาศัยไปจนสุดซอย ซึ่งซอยนี้เป็นซอยตันไม่สามารถทะลุไปถนนเส้นอื่นได้จึงทำให้ภายในซอยเงียบสงบ ไม่มีรถวิ่งเข้าออกมากมายนอกจากคนที่พักอาศัยหรือต้องมาทำธุระในซอยเท่านั้น

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

ตัวโครงการเข้ามาในซอยพหลโยธิน 63 ประมาณ 100 เมตร เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้อยู่ใกล้เขตทหารและสนามบินดอนเมือง จึงถูกควบคุมกฏหมายเรื่องอาคารสูง สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการส่วนใหญ่จึงเป็นที่พักอาศัยแนวราบอย่างเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น โชว์รูมรถ อาคารพาณิชย์ อพาร์ทเม้นต์หรือคอนโดความสูง 8-10 ชั้น จึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการโดนบังวิวในระยะประชิดสักเท่าไหร่ โดย

• ทิศเหนือ ติดกับคลองสาธารณะ ฝั่งตรงข้ามคลองเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ถัดไปเป็นบ้านพักอาศัยและอาคารพาณิชย์ 4-5 ชั้นซะเป็นส่วนใหญ่จึงไม่มีตึกสูงมาบังวิวในระยะประชิด
• ทิศตะวันออก ติดกับโชว์รูมโตโยต้าโดยที่ดินของโครงการจะติดกับส่วน Service ที่จะมีประตูทางเข้า-ออกด้านหลังของโชว์รูม จึงจะเห็นรถของพนักงานโตโยต้าเข้า-ออกอยู่เป็นช่วงๆ
• ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านพักอาศัย 2 ชั้น บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ และไม่มีตึกสูงมากวนสายตา
• ทิศใต้ ติดกับซอยพหลโยธิน 63 ที่เป็นถนนทางเข้า-ออกหลักของโครงการ ฝั่งตรงข้ามถนนเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น  จากอาคารถ้ามองออกมาไกลหน่อยจะเจออพาร์ทเม้นต์สูง 8-10 ชั้นบ้าง แต่เป็นระยะไกลๆ

เดินเข้ามาดูมุมมองจากที่ดินภายในโครงการกันบ้างนะคะ มองออกไปทางทิศใต้จะติดกับซอยพหลโยธิน 63 ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ซึ่งมองไปทางขวามือจะเห็นยูวีแมนชั่น ตึกสูง 10 ชั้นในระยะไกลๆ

ทางทิศตะวันออก ติดกับอาคารหลังโชว์รูมโตโยต้าซึ่งเป็นอาคารซ่อมบำรุงสูงประมาณ 1 ชั้น

ทางทิศเหนือ จะติดกับแนวคลองสาธารณะที่ไม่มีกลิ่นเหม็น ซึ่งผู้รีวิวไม่สามารถเอื้อมไปถ่ายให้ดูได้เพราะรั้วสูงเกินไป >< ต้องขออภัยนะคะ ถัดจากแนวคลองไปเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น

ทางทิศตะวันตก ติดกับบ้านพักอาศัย 2-3 ชั้น มองขึ้นไปบนฟ้าจะเห็นเครื่องบินบินผ่านบ่อยๆนะคะ เนื่องจากโครงการนี้อยู่ไม่ไกลจากสนามบินดอนเมือง

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

• โรงพยาบาลเซ็นทรัล เยนเนอรัล ~850 เมตร
• Tesco Lotus ~900 เมตร
• สำนักงานเขตบางเขน ~1.5 กิโลเมตร
• วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร ~1.6 กิโลเมตร
• ตลาดยิ่งเจริญ ~1.8 กิโลเมตร
• Max Valu ~2 กิโลเมตร
• Central รามอินทรา ~ 2 กิโลเมตร
• BigC Supermarket ~2.1 กิโลเมตร
• กรมทหารราบที่ 11 ~ 3 กิโลเมตร
• ม.ศรีปทุม ~ 4.4 กิโลเมตร
• มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ~6.9 กิโลเมตร
• โรงเรียนสารวิทยา~ 7 กิโลเมตร
• สนามบินดอนเมือง ~9.4 กิโลเมตร

เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ Kensington พหลโยธิน 63 เป็นคอนโด Low Rise 1 อาคาร จำนวน 231 ยูนิต ตัวอาคารเป็นรูปตัว L มีการจัดวาง Facilities ตรงกลาง ออกแบบโดยใช้คอนเซปต์ Resort Condo ตัวอาคารใช้สีขาว-เทาและแซมสีน้ำตาลในส่วนของ Facilities ด้านหน้าโครงการติดกับซอยพหลโยธิน 63 ซึ่งเป็นทางเข้า-ออกหลักของโครงการ

ประตูทางเข้าโครงการแบ่งออกเป็น 2 จุด คือ ประตูเล็กทางซ้ายมือและประตูใหญ่ทางขวามือ เข้า-ออกด้วย Access Card  ผ่านรั้วกั้นไม้กระดก โดยมีป้อม รปภ.อยู่ทางซ้ายมือด้านหลังรั้วโครงการ

การเดินรถจะวนซ้ายตามเข็มนาฬิกาเป็น One-way มีจุด Drop Off ที่หน้าทางเข้า Facilities หลัก หากต้องการจอดรถก็วนไปจอดใต้อาคาร โดยมีที่จอดแบบรวมซ้อนคันประมาณ 40 %

Facilities ของโครงการประกอบด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 5 x 15 เมตร รอบๆมีส่วนใช้งานอื่นๆ อย่าง Tree House ที่เป็นห้องอเนกประสงค์ให้นั่งพักผ่อน มีห้อง Fitness ที่ด้านบนเป็น Roof Top Garden อีกด้านหนึ่งเป็น Pool Deck ที่มี Daybed มาให้พร้อมพื้นที่สวน

เริ่มกันที่ด้านหน้าทางเข้า Facilities หลัก จะเป็นบันไดทางขึ้นรอบๆเป็นสนามหญ้าและต้นไม้ให้ร่มเงา

ภาพจำลองทางเดินไปยัง Facilities

พอเข้ามาจะเจอกับ Tree House ซึ่งเป็นพื้นที่แบบ Semi-outdoor อเนกประสงค์ โดยห้องนี้จะติดตั้งประตูบานเฟี้ยมทำให้เวลาเปิดประตูจะได้ช่องเปิดกว้าง พื้นที่จะเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำทำให้บรรยากาศภายในน่าใช้งานมากขึ้นค่ะ ตรงกลางมีการปลูกต้นไม้และเจาะช่องให้ต้นไม้ทะลุขึ้นไปบนหลังคา เมื่อมองจากอาคารลงมาจะเห็นเป็นพุ่มไม้เขียวๆด้วย

ภาพจำลองทัศนียภาพของ Tree House

ถัดไปเป็นอาคาร Fitness ที่ด้านล่างสามารถจอดรถได้ประมาณ 5 คัน ชั้นสองเป็นพื้นที่ Fitness เต็มชั้น ส่วนหลังคาปูด้วยสนามหญ้าและที่นั่งเล่น โดยเราสามารถขึ้นบันไดจากชั้น 1 ไปถึงชั้นดาดฟ้าได้จากด้านนอกอาคารเลยค่ะ

ภาพจำลองทัศนียภาพเมื่อมองจากสระว่ายน้ำเข้าไปยัง Fitness

โดยปกติแล้ว โครงการที่มีอาคารโอบล้อม Facilities มักจะมีปัญหาตรงห้องที่อยู่ใกล้กับสระว่ายน้ำหรือสวนมักจะเสียความเป็นส่วนตัว ส่วนใหญ่มักจะแก้ปัญหาโดยการปลูกไม้พุ่มบังสายตาและกั้น Circulation ทางเดินไม่ให้คนนอกเข้าถึงห้องได้ง่าย ซึ่งที่นี่มีวิธีการแก้ปัญหาที่น่าสนใจโดยการใช้ห้องที่อยู่ชั้น 2 มาเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำแทน ทำให้ระดับความสูงของห้องไม่ตรงกับระดับสายตาของสระว่ายน้ำ ห้องแบบนี้คือห้อง 1 Bedroom Suite Terrace นอกจากนี้ยังมีบันไดต่อเนื่องลงมายังสวนและสระว่ายน้ำด้านล่างพร้อมทำราวบันไดและล้อมรั้วเพื่อเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้นแต่ยังคงได้วิวสระว่ายน้ำด้วย

ถัดจากส่วน Facilities ไปจะมีทางเดินไปยังสวนด้านหลังโครงการ

ด้านหลังของโครงการติดกับคลองสาธารณะเล็กๆ จึงมีการออกแบบให้พื้นที่สวนด้านหลังมีการยกระดับพื้นขึ้น เพื่อเปิดมุมมองให้เห็นวิวคลองชัดเจน

โดยอาคารทางด้านหลังจะมีห้องพักแบบ 1 Bedroom suite terrace ที่ได้วิวสวนแบบนี้ด้วย

ฝั่งอาคารทางด้านทิศใต้ จะเป็นห้องพักล้วนๆโดยห้องที่อยู่ทางทิศนี้จะเป็นห้อง 1 Bedroom ทั้งหมด ส่วนใต้อาคารจะเป็นที่จอดรถค่ะ

จากผังชั้น 1 ของโครงการจะเห็นว่าทางเข้าโครงการอยู่ติดซอยพหลโยธิน 63 เมื่อเข้ามายังโครงการจะเจอป้อม รปภ. อยู่ทางซ้ายมือ โดยทางเดินรถจะเป็น One way วนซ้ายตามเข็มนาฬิกา ให้ที่จอดรถมาประมาณ 40% สามารถจอดได้ทั้งใต้อาคารและ Outdoor พื้นที่ตรงกลาจะเป็น Facilities หลัก ที่ประกอบด้วย Tree House หรือพื้นที่ Semi outdoor อเนกประสงค์ Fitness  สระว่ายน้ำขนาด 5 x 15 เมตร Pool Deck และมีการจัดสวนรอบๆเพิ่มความร่มรื่น ส่วนด้านหลังโครงการทางทิศเหนือจะมีสวนหย่อมที่ติดกับคลองสาธารณะ

ชั้น 2 ของโครงการเป็นยูนิตพักอาศัยทั้งหมด 33  ยูนิต โถงทางเดินภายในอาคารเป็น Double Corridor โดยในชั้นนี้จะมีบันไดทางเข้า-ออกสวนด้านหลังโครงการเพิ่มออกมาอีกจุด เพื่อให้ผู้ที่อยู่ด้านในอาคารสามารถออกไปใช้งานสวนได้ มีลิฟต์โดยสารให้ 2 ตัวหรือคิดเป็นอัตราส่วนประมาณ 116 : 1 หนาแน่นไปหน่อย ห้องที่อยู่ในชั้นนี้จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ทั้งหมด โดยมีห้องยูนิตพิเศษคือห้อง 1 Bedroom suilt terrace (สีเทาอมฟ้าอ่อน) ซึ่งเป็นห้องที่ระเบียงมีบันไดสามารถเดินลงมายังชั้น 1 ที่เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำ และสวนได้

ขึ้นมาที่ชั้น 3-8 จะมีการวางอาคารคล้ายๆกับชั้น 2 แต่ตัดบันไดที่เชื่อมต่อกับชั้น 1 ออกไปเท่านั้น โดยผังชั้น 3-8 จะเหมือนกันคือมีห้องพักจำนวน 33 ยูนิต เป็นห้องแบบ 2 Bedroom อยู่ทางทิศเหนือเพียงชั้นละห้องเท่านั้นนอกนั้นเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ค่ะ

มาดูที่สำนักงานขายกันบ้าง โดยตัวสำนักงานขายของโครงการจะอยู่ติดถนนใหญ่พหลโยธิน ฝั่งมุ่งหน้าสู่แยกรามอินทรา

ภายในจะเป็นสำนักงานขายของโครงการ Notting Hill และ Kensington พหลโยธิน 63 จากตรงนี้เดี๋ยวเราจะพาไปดูห้องตัวอย่างกันค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 5 x 15 เมตร ลึก 1.2 เมตร
• ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
• สวนหย่อมรอบโครงการ
• ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ต่อ 1 อาคาร
• อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 116 :  1
• ที่จอดรถประมาณ n/a คันคิดเป็น  n/a% รวมจอดซ้อนคัน n/a คัน คิดเป็น 40%
• ระบบ CCTV / Access Card

Product Walkthrough

ห้องพักของโครงการ Kensington พหลโยธิน 63 จะเน้นไปที่ห้อง1 Bedroom ที่มีให้เลือก 5 แบบ สามารถเลือกได้ตามความต้องการใช้พื้นที่ และมีห้อง 2 Bedroom 1 แบบสำหรับคนที่ต้องการพื้นที่ใช้งานมากขึ้น โดยห้องพักประกอบด้วย

• 1 Bedroom | Superior ขนาด 23.40 ตร.ม.
• 1 Bedroom | Deluxe ขนาด 25.90 – 30.70 ตร.ม.
• 1 Bedroom | Suite Terrace ขนาด 32.50 – 33.70 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus | Suite ขนาด 34.80 ตร.ม.
• 1 Bedroom | Suite ขนาด 37.40 – 37.50 ตร.ม.
• 2 Bedroom | Penthouse 47.60 ตร.ม.

โครงการขายแบบ Fully Furnished คือให้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและ Built-in ซึ่งรายละเอียดเราจะบอกเพิ่มเติมในผังห้องแบบต่างๆ โดยห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปดูมีทั้งหมด 2 แบบ คือห้อง 1 Bedroom | Deluxe ขนาด 25.90 – 30.70 ตร.ม. และห้อง 1 Bedroom Plus | Suite ขนาด 34.80 ตร.ม. ส่วนห้อง 1 Bedroom | Superior ขนาด 23.40 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องขนาดเล็กที่สุด เราจะนำมาให้ดูพอเป็นน้ำจิ้ม หากใครสนใจสามารถเข้าไปดูได้ที่สำนักงานขายค่ะ

เริ่มกันที่ห้อง 1 Bedroom Deluxe ขนาด 28.50 – 30.70 ตารางเมตร แบบห้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบ เหมาะการอยู่อาศัย 1-2 คน พื้นที่ใช้สอยของห้องนี้ค่อนข้างครบและ Fix ปรับเปลี่ยนพื้นที่ไม่ได้มากนัก เนื่องจากโครงการให้แบบ Fully Furnised ที่ Built-in และจัดเฟอร์นิเจอร์มาให้เรียบร้อย ซึ่งก็มีข้อดีตรงที่เราไม่ต้องทำอะไรมาก สามารถหิ้วกระเป๋าแล้วเข้าอยู่ได้เลย เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาเราจะเจอกับห้องนั่งเล่นที่มีโซฟา รวมทั้ง Built-in โต๊ะวางทีวีและตู้รองเท้ามาให้เรียบร้อย

ข้างๆกันเป็นห้องน้ำรวมที่มีฟังก์ชั่นครบทั้งอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน หน้าห้องน้ำมีโต๊ะอเนกประสงค์ที่โครงการ Built-in มาให้ เราสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามใจชอบทั้งเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะเขียนหนังสือ หรือเป็นมุมทำงานก็ได้ ถัดไปเป็นครัวปิดที่มีการ Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้เรียบร้อย ติดกับระเบียงที่วาง Compressor แอร์แบบเป่าลมร้อนเข้าในระเบียง อาจทำให้ระเบียงร้อนแต่ตากผ้าแห้งเร็ว ส่วนพื้นที่ใต้ compressor แอร์ สามารถวางเครื่องซักผ้าได้ ถัดไปเป็นห้องนอนที่โครงการให้เตียงขนาด 5 ฟุต และมีการ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้เรียบร้อย

สรุปเฟอร์นิเจอร์ที่ให้ : โซฟา โต๊ะวางทีวีและชั้นวางรองเท้า Built-in เตียง ตู้เสื้อผ้า เคาน์เตอร์ครัว ซิงค์ล้างจาน เตาและที่ดูดควัน

Digital Door lock พร้อมมือจับก้านโยกไว้เปิดเข้า-ออก สามารถเปิดได้ด้วยการแตะ Keycard และกดรหัสค่ะ

พื้นห้องนอนเป็นลามิเนตลายไม้หนา 8 มิลลิเมตร มีคิ้วธรณียื่นขึ้นมาเล็กๆเพื่อปิดรอยต่อระหว่างพื้นโถงทางเดินและพื้นห้องนอน

เปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่น ที่ติดกันทางซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ถัดไปเป็นห้องนอนและครัวปิดที่เชื่อมต่อกับระเบียง ซึ่งหน้าต่างห้องนอนกับประตูห้องครัวเป็นช่องเปิดกระจกที่ค่อนข้างกว้าง ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าห้องได้ดี ฝ้าเพดานห้องนี้สูง 2.4 เมตร

มองกลับไปยังประตูทางเข้าจะเห็นภาพรวมว่าพื้นที่นั่งเล่นจะติดกับห้องน้ำแบบนี้

เฉพาะพื้นที่นั่งเล่นมีขนาดประมาณ 2.55 x 2.10 เมตร มีระยะดูทีวีประมาณ 2.25 เมตร เหมาะกับการวางทีวีขนาด 46″-52″ จะเป็นระยะที่พอกับสายตาค่ะ ภายในห้องนั่งเล่นจะแถมเฟอร์นิเจอร์มีโซฟา โต๊ะวางทีวี  พร้อมตู้รองเท้าให้ยกเว้นของตกแต่งเล็กๆน้อยๆ

โครงการแถมโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง ไม่ระบุสีและยี่ห้อมาให้ ส่วนโต๊ะทานข้าวไม่มีให้นะคะ แต่ถ้าใครอยากจัดฟังก์ชั่นแบบนี้ก็สามารถนำไอเดียไปไช้ได้ โดยห้องตัวอย่างจะวางโต๊ะขนาด 0.60 x 0.60  เมตร ซึ่งจะมีพื้นที่ให้วางเก้าอี้เล็กๆได้ 2 ตัวแบบนี้พอดี หากใครตัวใหญ่หน่อยก็ขยับเก้าอี้ตัวนึงออกมาในลักษณะนั่งหันหน้าเข้าผนังก็จะลดความอึดอัดลงได้นิดหน่อย

เอาโซฟามาให้ดูกันชัดๆว่ามีขนาดและหน้าตาประมาณไหน

ตรงข้ามกันเป็นโต๊ะวางทีวีแบบ Built-in และชั้นวางรองเท้า เมื่อเปิดตู้ออกมาจะเห็นว่าฟังก์ชั่นภายในใส่ของได้พอสมควร มีลิ้นชักและชั้นวางของใต้ทีวีแบบ 3 ตอน สามารถเก็บของเล็กๆน้อยๆจำพวกซีดี รีโมท หนังสือเล่มเล็กๆได้ ทางซ้ายมือมีชั้นวางรองเท้าให้ 5 ชั้น ด้านบนเป็นช่องวางของและซ่อนเมนบอร์ดไฟ 1 ตู้

มือจับตู้ด้านบนและด้านล่าง

ถัดไปเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ระหว่างห้องน้ำกับห้องนอน ซึ่งโครงการ Built-in โต๊ะแบบลอยตัวมาให้ เราสามารถใช้มุมนี้เป็นโต๊ะเครื่องแป้ง หรือมุมทำงานโดย Built-in ชั้นวางของด้านบนเพิ่มแบบห้องตัวอย่างได้

โดยโต๊ะ Built-in ที่โครงการแถมให้มีเฉพาะส่วนนี้นะคะ ตัวโต๊ะมีลิ้นชักตรงกลาง ขนาบด้วยช่องใส่ของเล็กๆที่ค่อนข้างแคบแต่ลึก สามารถวางหนังสือหรือของกระจุกกระจิกได้พอสมควร

เข้ามาให้ห้องน้ำที่มีการใช้โทนสีขาว-เทาเข้ม ด้านในจัดวางพื้นที่ใช้งานเป็น 3 ส่วนคือ อ่างล้างหน้าแบบลอยตัวพร้อมกระจกเงาเป็นบานกระจกติดผนังเต็มบาน, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่เปียกสำหรับอาบนำ้ที่กั้นด้วยฉากบานเลื่อน 3 ตอน ความสูงพื้นถึงฝ้าของห้องน้ำจะเหลือ 2.3 เมตร จากความสูงปกติที่ห้องด้านนอก 2.4 เมตร

พื้นห้องน้ำมีการยกธรณีกั้นไม่ให้น้ำไหลจากห้องน้ำไปเปียกพื้นห้องที่เป็นลามิเนต พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาเข้ม ขนาด 40 x 40 เซนติเมตร

อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสขนาดกระทัดรัด ของ Cristina หรือเทียบเท่า

โถสุขภัณฑ์ของ Cristina  พร้อมติดตั้งสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่มาให้เรียบร้อย

ซูมหน้าตาสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่ให้ดูใกล้ๆ

ที่พื้นมีการยกธรณีกันน้ำไหลไปสู่ส่วนแห้ง ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาขนาด 40 x 40 เซนติเมตร เหมือนกระเบื้องส่วนอื่นๆในห้องน้ำ พื้นที่อาบน้ำประมาณ 1.1 x 0.8  เมตร เป็นขนาดที่ยืนอาบ 1 คนกำลังดี

ติดตั้งชุดฝักบัวอาบน้ำพร้อมที่วางสบู่มาให้เรียบร้อย

ฝักบัวขนาดพอดีมือ

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดาน ติดตั้งพัดลมดูดอากาศมาให้และมีไฟดาวน์ไลท์ให้แค่ 1 ดวง แสงสว่างจึงค่อนข้างน้อยไปหน่อยนะ

ถัดไปเป็นห้องนอนที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน และห้องครัวที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบบานเปิดเดี่ยว จะเห็นว่าเมื่อเปิดประตูบานเลื่อนออกจนสุด ทั้งห้องนอนและห้องครัวจะได้ที่ว่างสำหรับใช้เดินเข้าออกได้เต็มที่และลงตัวกับเฟอร์นิเจอร์ที่จัดมาให้พอดี เป็นการออกแบบช่องเปิดที่ช่วยให้ใช้พื้นที่ได้เต็มที่ค่ะ

ภายในห้องครัวปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ซึ่งมีข้อดีที่ช่วยให้ทำความสะอาดคราบสกปรกได้ง่าย และไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องความชื้นสะสมเหมือนพื้นจำพวกลามิเนต

เข้ามาภายในห้องครัวขนาดประมาณ 2.2 x 1.3 เมตร ที่โครงการจะ Built-in ชุดครัว มาให้แบบนี้เลย ที่เคาน์เตอร์ครัวทั้งด้านบนและด้านล่างมีหน้าบานปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้สีอ่อน

ผนังเคาน์เตอร์ครัวของจริงจะเป็นผนังปูนธรรมดา แนะนำให้หากระเบื้องหรือกระจกเงาแบบในห้องตัวอย่างมาติด เพื่อช่วยให้ทำความสะอาดง่ายขึ้นนะคะ ที่ท็อปเคาน์เตอร์ครัวติดตั้งซิงค์ล้างจาน พร้อมเตาและที่ดูดควัน

ซิงค์ล้างจานทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสขนาดปานกลางและก็อกน้ำสแตนเลสทรงโค้ง ลูกบิดแบบก้านโยกใช้งานได้สะดวกดี

เตา Induction และที่ดูดควันของ Teka

พื้นมีการยกธรณีขึ้นมา รวมกับรางเลื่อนประตูรวมแล้วประมาณ 17 เมตร เพื่อกันน้ำไหลเข้ามาในห้อง พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ  1.30 x  0.8 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาอ่อนขนาด 40 x 40 เซนติเมตร

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานติดตั้งไฟมาให้ 1 ดวง

เตียงที่โครงการให้มาเป็นเตียง Queen size ขนาด 5 ฟุตไม่รวมฟูก ใต้เตียงมีลิ้นชักสามารถเปิดออกมาใส่ของได้

ภายในตู้เสื้อผ้าก็มีฟังก์ชั่นครบตามลักษณะของตู้เสื้อผ้าทั่วไปที่มีราวแขวนผ้า ลิ้นชักเก็บของ และช่องใส่ชุดเครื่องนอนจำพวกหมอน ผ้าห่มด้านบน

มือจับตู้เสื้อผ้าเป็นแบบนี้ค่ะ

ระยะจากปลายเตียงถึงผนังประมาณ 0.5 เมตร เป็นระยะที่ไม่กว้างมากนัก ไม่เหมาะกับการวางโต๊ะวางทีวีเพราะจะทำให้ไม่มีทางเดินผ่านเตียง แนะนำให้ติดตั้งทีวีติดผนัง จะช่วยประหยัดพื้นที่ได้ดีกว่าค่ะ โดยโครงการติดตั้งเต้ารับและที่เสียบสายเคเบิลมาให้เรียบร้อย

ถัดมาเป็นห้อง 1 Bedroom Plus Suite ขนาด 34.80 เมตร ขายแบบ Fully Furnished เช่นกัน โดยห้องนี้จะพิเศษหน่อยตรงที่มีห้องอเนกประสงค์เพิ่มเข้ามาอีกห้องหนึ่ง แต่ขนาดห้องไม่ใหญ่นัก เราสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามใจชอบ เช่น เป็นห้องทำงาน ห้องนอนอีกห้อง หรือห้องหนังสือก็ได้

เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับห้องนอน โดยมีฉากกั้นกระจกแบ่งแยกพื้นที่ไว้ ทางขวามือเป็นห้องครัวแบบเปิด ที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำและห้องอเนกประสงค์จะมีประตูเลื่อนออกไปยังระเบียงด้านนอกได้ ข้อดีของการวางผังแบบนี้คือการผลักส่วน Service อย่างห้องน้ำและห้องครัวมาไว้รวมกันด้านในอาคารทั้งหมด และให้ส่วนพักผ่อนอย่างห้องนอน ห้องอเนกประสงค์ ผลักให้ไปอยู่ด้านหน้าที่มีหน้าต่างไว้รับวิวได้ช่วยให้ห้องมีแสงธรรมชาติเข้าดี เหมาะกับคนที่ชอบห้องโปร่งๆและมองวิว

สรุปเฟอร์นิเจอร์ที่ให้ : โซฟา โต๊ะวางทีวีและชั้นวางรองเท้า Built-in เตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะ Built-in ตู้ใส่เครื่องซักผ้าที่ปรับเป็นโต๊ะวางของได้ เคาน์เตอร์ครัว ซิงค์ล้างจาน เตาและที่ดูดควัน

เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับห้องนอน ทางขวามือเป็นห้องอเนกประสงค์ ครัว และห้องน้ำ

มองกลับไปที่ประตูทางเข้า จะเห็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นทั้งหมด โดยโครงการจะแถมเฟอร์นิเจอร์ให้โซฟา โต๊ะวางทีวีและตู้วางรองเท้า Built-in เหมือนห้องแบบแรกทุกประการ ยกเว้นของตกแต่งเล็กๆน้อยๆ ห้องนั่งเล่นมีระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ  2.36 เมตร เหมาะกับการวางทีวีขนาด 52″-55″ จะเป็นขนาดที่พอกับสายตา

โซฟาที่โครงการแถมโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง ไม่ระบุสีและยี่ห้อมาให้ ข้างๆกันจะเป็นพื้นที่ว่างเปล่าที่สามารถวางโต๊ะรับประทานหรือโต๊ะเขียนหนังสือเหมือนในห้องตัวอย่างได้

ถัดไปเป็นห้องนอนที่ใช้ประตูกระจกบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ที่มีข้อดีคือช่วยให้เวลาเราเปิดประตูจะได้ช่องเปิดกว้างกว่าแบบสองตอนปกติ สามารถเดินเข้า-ออกสบายๆเพราะมีพื้นที่ว่างเยอะ วัสดุประตูเป็นกระจกใสเขียวตัดแสง กรอบอลูมิเนียมสีดำ พื้นห้องนอนเป็นลามิเนตลายไม้หนา 8 มิลลิเมตร เหมือนกับห้องนั่งเล่น

เข้ามาในห้องนอนขนาดประมาณ 2.7 x 3 เมตร โครงการให้เตียง Queen size ขนาด 5 ฟุตแบบมีลิ้นชักใต้เตียง ไม่รวมฟูก     และตู้เสื้อผ้า Built-in แบบสูงถึงฝ้าเพดานเหมือนห้องแบบแรกทุกประการ ผนังข้างเตียงติดตั้งหน้าต่างบาน Fix ขนาบด้วยบานกระทุ้ง 2 บาน โดยรวมแล้วห้องค่อนข้างสว่าง แสงธรรมชาติเข้าดี

ระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่น จะมีทางเดินไปยังห้องครัว ซึ่งทางเดินนี้ไม่มีประตูหรือฉากกั้นระหว่างครัวกับห้องนั่งเล่น ทำให้ระหว่างที่ประกอบอาหารจะทำให้กลิ่นลอยมาถึงส่วนอื่นๆของห้องได้ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ไม่สามารถกั้นฉากเพื่อทำเป็นครัวปิดได้ด้วยเนื่องจากโครงการให้โต๊ะกลางอเนกประสงค์นี้มาให้ด้วย

โดยข้างๆโต๊ะนี้จะมีบานเปิดที่สามารถดึงขึ้นมาให้เป็นโต๊ะอเนกประสงค์ชั่วคราวจะช่วยในเรื่องการเตรียมอาหาร ซึ่งฟังก์ชั่นตรงนี้เหมือนห้องพักคนญี่ปุ่นในเมืองที่มีพื้นที่ค่อนข้างน้อยที่ต้องใช้ทุกตารางเมตรอย่างคุ้มค่า

ส่วนอีกด้านของโต๊ะนี้จะเป็นช่องว่างสำหรับใส่ตู้เสื้อผ้าฝาหน้าได้อีกด้วย

ตรงผนังเคาน์เตอร์ครัวของจริงจะเป็นผนังปูนธรรมดา แนะนำให้หากระเบื้องหรือกระจกเงาแบบในห้องตัวอย่างมาติด เพื่อช่วยให้ทำความสะอาดง่ายขึ้นนะคะ ที่ท็อปเคาน์เตอร์ครัวติดตั้งซิงค์ล้างจาน พร้อมเตาและที่ดูดควันของ Teka

ถัดไปเป็นห้องอเนกประสงค์ที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนคู่ กระจกใสเขียวตัดแสง กรอบอลูมิเนียมสีดำโดยห้องนี้มีขนาดประมาณ 2.65 x 2.7 เมตร ซึ่งโครงการจะให้เป็นห้องเปล่า ไม่แถมเฟอร์นิเจอร์ใดๆ เพื่อจะได้ไม่เป็นการ Fix ฟังก์ชั่นการใช้งาน โดยเราสามารถจัดพื้นที่ให้เป็นห้องนอนเด็กเล็ก ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน หรือห้องอื่นๆได้ตาม Lifestyle ของแต่ละคนเลยค่ะ

อย่างห้องตัวอย่างนี้เค้าจะจัดมาในแนวญี่ปุ่นคือยกระดับพื้นขึ้นมาแล้วเบาะโซฟาขนาดใหญ่เพื่อให้นั่งเล่นได้สะดวกขึ้นและด้านบนก็ทำชั้นเก็บของได้เยอะขึ้นด้วย ห้องนี้การใช้งานจะเน้นไปที่มีความเป็นส่วนตัวหรือต้องการความสงบระดับนึง

ถัดจากห้องอเนกประสงค์ไปจะเป็นระเบียงที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนคู่

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานติดตั้งไฟมาให้ 1 ดวง

กระจกติดผนังบานใหญ่จุใจ

ติดตั้งชุดฝักบัวอาบน้ำพร้อมที่วางสบู่มาให้เรียบร้อย

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดาน ติดตั้งพัดลมดูดอากาศมาให้และมีไฟดาวน์ไลท์ 1 ดวง

ถัดมาเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Superior ขนาด 23.40 ตารางเมตร เป็นขนาดเล็กที่สุดของโครงการ แบบห้องมีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบ เมื่อเข้าสู่ตัวห้องจะเจอพื้นที่ครัวที่โครงการ Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้เรียบร้อยทางซ้ายมือ ส่วนทางขวามือเป็นห้องน้ำ ตรงเข้าเป็นพื้นที่นั่งเล่น ติดกันเป็นห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ภายในห้องนอนวางเตียง 5 ฟุต ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in ข้างๆเตียงเป็นโต๊ะเขียนหนังสือและประตูบานเลื่อนออกไปสู่ระเบียง

สรุปเฟอร์นิเจอร์ที่ให้ : โซฟา โต๊ะวางทีวีและชั้นวางรองเท้า Built-in เตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเขียนหนังสือ เคาน์เตอร์ครัว ซิงค์ล้างจาน เตาและที่ดูดควัน

เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอกับโถงห้องครัวที่โครงการ Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้ ทางซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ตรงไปจะเป็นห้องนั่งเล่นที่โครงการให้โซฟาพร้อมติดตั้งตู้วางทีวีแบบ Buit-in มาให้ครบชุด ติดกันเป็นห้องนอนที่ถูกกั้นไว้ด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอน ภายในห้องนอนจะให้เตียงขนาด 5 ฟุต พร้อมโต๊ะเขียนหนังสือ และ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ ข้างๆกันเป็นประตูบานเลื่อนออกไปยังระเบียง โดยห้องนี้เราเอาภาพมาให้ดูพอเป็นน้ำจิ้ม ใครสนใจสามารถไปดูห้องตัวอย่างได้ที่โครงการค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @16 August, 2016

• 1 Bedroom  Superior ขนาด 23.40 ตร.ม. ราคา 1.69 – 1.79 ล้านบาท หรือประมาณ 72,222 – 76,495 บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom  Deluxe(S) ขนาด 25.9 – 27.1 ตร.ม. ราคา 1.79 – 1.99 ล้านบาท หรือประมาณ 69,111 – 73,431 บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom  Deluxe (M) ขนาด 28.5– 29.6 ตร.ม. ราคา 1.89 – 2.14 ล้านบาท หรือประมาณ 66,315 – 72,297 บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom  Deluxe(L) ขนาด 30 – 30.7 ตร.ม. ราคา 2.04 – 2.24 ล้านบาท หรือประมาณ 68,000 – 72,964 บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom Suite Terrace ขนาด 32.50 – 33.70 ตร.ม. ราคา 2.34 – 2.44 ล้านบาท หรือประมาณ 72,000 – 72,403 บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus Suite ขนาด 34.80 ตร.ม.ร ราคา  2.44 – 2.59  ล้านบาทหรือประมาณ 70,114- 74,425 บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom  Suite ขนาด 37.40 – 37.50 ตร.ม. ราคา 2.64 – 2.79 ล้านบาท หรือประมาณ 70,588 – 74,400 บาท/ตร.ม.
• 2 Bedroom Penthouse 47.60 ตร.ม. ราคา 3.34 – 3.44 ล้านบาท หรือประมาณ 70,168 -72,268 บาท/ตร.ม.

• Fully Furnished 
• ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
• Kitchen & Sink
• Hob & Hood
• จอง 10,000 บาท
• ทำสัญญา 

• ห้อง 1 Bedroom Superior/ 1 Bedroom Deluxe (S) 30,000 บาท
• ห้อง 1 Bedroom Deluxe (M,L) 40,000 บาท
• ห้อง 1 Bedroom Extra 50,000 บาท
• ห้อง 2 Bedroom Extra 60,000 บาท

• ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ 15 งวด
• ค่ากองทุน 400 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

เจาะลึกรวบยอด

โครงการ Kensington พหลโยธิน 63 เป็นคอนโดที่มีขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของคนที่มองหาคอนโดในแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่หวังพึ่งพิงการใช้งานรถไฟฟ้าในอนาคต ก่อนการมาของรถไฟฟ้าสภาพแวดล้อมแถวนี้ก็เป็นอาคารแนวราบ เหมือนทำเลชานเมืองส่วนใหญ่ แต่พอรถไฟฟ้ามาปุ๊บก็เริ่มมีคอนโดมาปักหมุดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการพัฒนาเหล่านี้จะเป็นตัวผลักดันให้สภาพแวดล้อมแถวนี้มีวามเจริญมากขึ้น

ทำเลของโครงการอยู่ในซอยพหลโยธิน 63 ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 100 เมตร ภายในซอยไม่มีความอุดมสมบูรณ์ หากจะกินข้าวหรือซื้อของใช้ก็ต้องเดินมาที่ถนนใหญ่จะสะดวกกว่า แต่ก็มีข้อดีกว่าโครงการที่ติดถนนใหญ่อยู่บ้างคือเงียบสงบ สภาพแวดล้อมภายในซอยจะเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ตัวซอยพหลโยธิน 63 เองเป็นซอยตันจึงไม่มีรถวิ่งผ่านวุ่นวายและได้อานิสงค์เรื่องวิวตรงที่ไม่มีตึกสูงมาบังในระยะประชิด

การเดินทางโดยใช้รถ หลักๆจะเดินทางโดยใช้ถนนพหลโยธินที่เชื่อมต่อกับถนนใหญ่หลายสายทั้งถนนรามอินทรา ถนนสายไหม ถนนรัตนโกสินทร์สมโภชที่เพิ่งเปิดใช้ใหม่ หรือถนนคู่ขนานวิภาวดีที่สามารถไปขึ้นลงทางด่วนโทลล์เวย์ได้ด้วย แม้ว่าการเดินทางจะค่อนข้างสะดวก แต่หลายๆคนก็คงรู้ว่าการจราจรบนถนนพหลโยธินค่อนข้างหนาแน่น ทั้งช่วงเช้า กลางวัน เย็น เนื่องจากปริมาณรถที่ใช้เส้นทางนี้ค่อนข้างเยอะและการก่อสร้างรถไฟฟ้าก็ยิ่งเป็นตัวเพิ่มรถติดเข้าไปอีก แต่ก็เป็นการติดแบบชั่วคราวนะ พอรถไฟฟ้าสร้างเสร็จคาดว่าการจราจรน่าจะดีขึ้นนะคะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ เนื่องจากเป็นโครงการอยู่ในซอยทำให้ต้องมีระยะเดินสักหน่อยประมาณ 100 เมตรถึงจะมาปากซอยได้ และตรงปากซอยจะมีพี่วินให้ใช้ไปยังสถานที่ใกล้ๆได้ หรือไม่ก็เรียกแท๊กซี่ รถเมล์ รถตู้ที่วิ่งผ่านถนนพหลโยธินก็ได้หาได้ไม่ยากค่ะเพราะเป็นถนนใหญ่ ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเขียวจะมีกำหนดเปิดใช้ในช่วงปี 2563 โดยมีสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีอนุเสาวรีย์หลักสี่ ที่สามารถนั่งต่อไปสถานี BTS หมอชิตแบบตรงๆได้เลยไม่ต้องเปลี่ยนสถานี และจะมีสถานี Interchange กับสายสีชมพูอยู่ที่สถานีวัดพระศรีฯ แต่สายนี้ก็คงต้องรอกันอีกนานค่ะ

วัสดุของโครงการให้มาตามมาตรฐานของคอนโดราคานี้ โดยโครงการขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in และลอยตัวแต่ไม่ได้ให้ครบแบบเต็มพิกัดเพราะไม่มีชุดโต๊ะกินข้าวมาให้ ห้องแบบ 1 Bedroom plus จะได้ตู้ใส่เครื่องซักผ้าแบบมีบานเปิดขึ้นมาเป็นโต๊ะอเนกประสงค์ได้  ประตูหน้าห้องเป็นบานสำเร็จรูปสีขาวมี Digital Door lockให้พร้อม พื้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็นลามิเนตลายไม้สีน้ำตาลอ่อนหนา 8 มม. พื้นส่วนครัวบางห้องที่กั้นแยกและระเบียงด้านนอกเป็นกระเบื้องขนาด 40 x 40 ซม. ผนังเป็นฉาบปูนเรียบ ห้องครัวได้เคาน์เตอร์ครบพร้อม Hob and Hood ขนาดค่อนข้างเล็ก บาง Type ไม่ได้กั้นห้องแยกออกมาเป็นสัดส่วนทำให้ไม่เหมาะกับการประกอบอาหารอย่างจริงจัง อุปกรณ์และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำให้ของ Cristina พร้อมฉากกั้นอาบน้ำแบบสามตอน โดยรวมให้มาค่อนข้างครบแบบหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย

อาคารออกแบบมาเป็นรูปตัว L โอบล้อม Facilities เอาไว้ ทำให้ไม่มีห้องพักที่เปิดหน้าต่างออกมาไม่จ้ะเอ๋กันกันแบบตรงๆ ตัวอาคารมีทั้งหมด 231 ยูนิต ที่ให้ลิฟต์โดยสารมา 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนประมาณ 116 : 1 ค่อนข้างหนาแน่น

การออกแบบห้องพักอาศัยภายในโครงการส่วนใหญ่เน้นไปที่ห้องแบบ 1 Bedroom ซึ่งมีทั้งหมด 5 แบบ ขนาดตั้งแต่ 23.40- 37.50 ตารางเมตร สามารถเลือกได้ตามความต้องการแล้วแต่ขนาดคนอยู่อาศัยและความต้องการใช้พื้นที่ ห้องครัวมีทำทั้งแบบเปิดและแบบปิด แบบเปิดจะเหมาะกับคนที่ประกอบอาหารเบาๆ ส่วนครัวปิดเหมาะกับคนชอบทำครัวหนักๆ นอกจากนี้ยังมีห้องแบบแปลกๆด้วยค่ะ แบบ  1 Bedroom suite terrace ที่จะอยู่ในตำแหน่งติดสระว่ายน้ำและสวน  ซึ่งห้องนี้มีทั้งข้อดีตรงที่ได้วิวสวนและสระว่ายน้ำและมีบันไดให้เดินลงมาสระว่ายน้ำได้เลย แต่ข้อเสียก็คือห้องติดกับพื้นที่ส่วนกลางทำให้ขาดความเป็นส่วนตัวไปหน่อย สำหรับใครที่ต้องการห้องสำหรับ 3-4 คน ก็มีห้อง 2  Bedroom ให้เลือก  1 แบบขนาด 47.60 ตารางเมตร ซึ่งมีเป็นส่วนน้อยแค่ชั้นละ 1 ห้องเท่านั้น

สาธารณูปโภคของโครงการให้ตามมาตรฐานคอนโด Low Rise ทั่วไปแต่ดีตรงที่มี Clubhouse แยก ประกอบด้วย Fitness สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 5 x 15 เมตร และห้อง Tree House ที่เป็นห้องอเนกประสงค์ซึ่งยกความสูงมาไว้ที่ชั้น 2 ทำให้มีความเป็นส่วนตัวและน่าใช้งานมากขึ้น ด้านหลังโครงการมีสวนสาธารณะเล็กๆให้ สำหรับค่าส่วนกลาง 40 บาท/ ตารางเมตร ก็ถือว่าเป็นราคาที่กลางๆสำหรับ Facilities โดยรวม เนื่องจากมีเครื่องออกกำลังกาย งานระบบสระว่ายน้ำและมีพื้นที่สีเขียวเป็นสวนสาธารณะที่ต้องได้รับการดูแล หากเราต้องการให้ความสวยงามของโครงการอยู่กับเราไปนานๆก็เป็นราคาที่น่าจ่ายค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 71,670 บาท/ตร.ม.,16 August, 2016

• ทำเล 7.5/10 – ทำเลเข้ามาในซอย 100 เมตร ไม่มีของกินใกล้ๆต้องไปบนถนนใหญ่พหลโยธิน
• เดินทางด้วยรถ 7.5/10 -ห่างจากถนนใหญ่พหลโยธินประมาณ 100 เมตร และให้ที่จอดรถมา 40% 
• ไม่ใช้รถ 7.5/10  ณ ปัจจุบันที่ยังไม่มีรถไฟฟ้า -เดินไป 100 เมตร หน้าปากซอยมีวินมอเตอร์ไซค์ บนถนนใหญ่จะมีรถตู้ รถเมล์ แท๊กซี่ผ่านตลอดทั้งวัน
• ไม่ใช้รถ 8/10 อนาคตเมื่อมีรถไฟฟ้า -เดินไปหน้าปากซอยแล้วเลี้ยวไปทางขวาก็จะเจอสถานีรถไฟฟ้าอนุเสาวรีย์หลักสี่
• วัสดุ 7.25/10 -Fully furnished ให้ครบแบบหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย
• แบบ 7.75/10 -เน้นห้องแบบ 1 Bedroom แบบห้องมีให้เลือกหลากหลายตามการใช้งาน 
• สาธารณูปโภค 7.5/10 -เนื่องจากโครงการไม่มีผังชั้น 1 มาให้จึงยังไม่ทราบ Facilities ที่แน่นอนจึงของดให้คะแนนในส่วนนี้ค่ะ

• ECONOMY-MAIN CLASS
• 7.48 / 10.00 คะแนน ณ ปัจจุบันที่ยังไม่มีรถไฟฟ้า
• 7.56 / 10.00 คะแนน เมื่อรถไฟฟ้าเปิดให้บริการ

BOTTOM LINE

 Kensington  พหลโยธิน เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดใกล้รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวในย่านพหลโยธิน สะพานใหม่ ชอบโครงการที่มีห้องพักให้เลือกหลากหลาย ให้ Facilities มาครบ ชอบความสงบ มีงบประมาณระดับ 1.59-3.44 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 11,130 – 24,080 บาท/เดือน 

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปค่ะ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )