กลับมาอีกครั้งกับคอนโดใหม่ทำเลใกล้ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต คราวนี้เป็นโครงการใหม่จาก AssetWise ที่ประสบความสำเร็จและได้รับผลตอบรับที่ดีจากโครงการ Kave TU และ Kave Ava มาแล้ว โดยโครงการใหม่ Kave Wonderland (เคฟ วันเดอร์แลนด์) เป็น 1 ในกลุ่มคอนโดมิเนียม Low Rise ทำเลใกล้ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต และนับเป็นโครงการสุดท้ายบนที่ดินขนาดใหญ่ผืนนี้ด้วย จึงจัดเต็มทั้งขนาดพื้นที่โครงการและส่วนกลางที่ใหญ่ที่สุดในย่าน ด้วยราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท ซึ่งนอกจากจะตอบโจทย์กลุ่มนักศึกษาแล้ว ยังรองรับคนทำงานทั้งในมหาวิทยาลัย, รพ.ธรรมศาสตร์ฯ หรือนักลงทุนที่สนใจปล่อยเช่าด้วย โดยเราได้สรุปจุดเด่นมาดังนี้

  • ทำเล : โครงการตั้งอยู่บนถนนเชียงราก ฝั่งตรงข้ามกับ ม.ธรรมศาสตร์ เยื้องๆกับประตูเชียงราก 2 และโซน U-Square ที่เป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยหลักของนักศึกษา
  • ส่วนกลางมากถึง 55 รายการ : กระจายส่วนกลางทั้งบริเวณ Court กลางโครงการและพื้นที่ภายในของทุกอาคาร
  • Pet-Friendly : ใครที่เลี้ยงสัตว์ก็สามารถอยู่โครงการนี้ได้ เพราะมีออกแบบอาคารพักอาศัยและส่วนกลางรองรับสัตว์เลี้ยงด้วย
  • ตกแต่งแบบ Fully Furnished : ได้เฟอร์นิเจอร์ค่อนข้างครบ เพียงซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและชุดเครื่องนอนเพิ่มอีกนิดหน่อยก็พร้อมเข้าอยู่ได้เลย เหมาะทั้งอยู่อาศัยเอง ได้ประหยัดงบตกแต่ง และซื้อลงทุนปล่อยเช่าให้นักศึกษาค่ะ
  • ซื้อลงทุนปล่อยเช่า : หอพักส่วนใหญ่มีค่าเช่าเฉลี่ย 5,000 – 10,000 บาท/เดือน ซึ่งโครงการนี้เป็น Campus Condo พร้อมส่วนกลางเยอะ จึงปล่อยเช่าให้กับนักศึกษาหรือคนทำงานในทำเลได้ในราคา 10,000 – 17,000 บาท/เดือน

 

ข้อมูลโครงการ

Kave Wonderland (เคฟ วันเดอร์แลนด์) ณ วันที่ 15 มกราคม 2567

 ชื่อโครงการ  Kave Wonderland (เคฟ วันเดอร์แลนด์)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท แอสเซทไวส์ จํากัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS  MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนน เชียงราก อำเภอ คลองหลวง จังหวัด ปทุมธานี
 ที่ดิน  14-2-52.85 ไร่
 ประเภทคอนโด  Low Rise 8 ชั้น 6 อาคาร
 จำนวนยูนิต  ห้องพักอาศัย 1,423 ยูนิต และ ร้านค้า 1 ยูนิต
– อาคาร A จำนวน 234 ยูนิต
– อาคาร B จำนวน 231 ยูนิต
– อาคาร C (Pet-Friendly)จำนวน 268 ยูนิต
– อาคาร D จำนวน 226 ยูนิต
– อาคาร E จำนวน 249 ยูนิต
– อาคาร F จำนวน 215 ยูนิต และ ร้านค้า 1 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด   33-37 ยูนิต
 ที่จอดรถ   จำนวน 549 คัน คิดเป็น 39% รวมจอดซ้อนคัน
 เริ่มก่อสร้าง  ปี 2567
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  ปี 2568
 ประเภทห้องพัก
  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 23.10 – 24.40 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Exclusive พื้นที่ใช้สอย 25.70 – 27.70 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Extra  พื้นที่ใช้สอย 27.10 – 28.40 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus  พื้นที่ใช้สอย 34.30 – 35.70 ตร.ม.

 ฝ้าเพดานสูง  2.40 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  1.59 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  75,000 บาท/ตร.ม.
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด)  68,000 – 84,000 บาท/ตร.ม.
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  อยู่ระหว่างกระเประเมิน EIA
 เว็บไซต์โครงการ คลิกที่นี่
 Call Center  02-168-0000

ทำเลที่ตั้ง

Highlight

  • ตั้งอยู่บนถนนเชียงราก ตรงข้ามกับ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต เยื้องๆกับ U-Square และประตูเชียงราก 2
  • มีสะพานลอยด้านหน้าโครงการเชื่อมประตูเชียงราก 2 ทำให้น้องๆนักศึกษาเดินไปเรียนได้สบายๆ ซึ่งสะพานลอยในปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้าง
  • ซื้อลงทุนปล่อยเช่าได้ ทั้งน้องๆนักศึกษาและพนักงานที่ทำงานในสถานศึกษา รวมถึงพนักงานในโรงพยาบาลและนิคมฯ
  • ใกล้ทางด่วนอุดรรัถยา เพียง 3.5 กิโลเมตร และห่างจากทางยกระดับอุตราภิมุขประมาณ 12 กิโลเมตร

พิกัด Google Maps : 14.063470, 100.610777
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

Kave Wonderland (เคฟ วันเดอร์แลนด์) ตั้งอยู่บนถนนเชียงราก ตรงข้ามกับ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต เยื้องๆกับ U-Square และประตูเชียงราก 2 โดยตั้งอยู่บนผืนที่ดินขนาดใหญ่ของ AssetWise ที่ได้พัฒนาทั้งโครงการ Kave TU และ Kave Ava จนได้รับผลตอบรับที่ดีมาก ส่วน Kave Wonderland (เคฟ วันเดอร์แลนด์) จะเป็นคอนโดตัวสุดท้ายบนที่ดินเปล่าผืนนี้ที่ตั้งอยู่ข้างโครงการ Kave TU

อย่างที่ทราบกันดีว่าบริเวณโดยรอบ ม.ธรรมศาสตร์ เต็มไปด้วยหอพักอาศัยและคอนโดมิเนียม เนื่องจากจำนวนนักศึกษา พนักงานในสถานศึกษาและเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ สวทช. ที่มีจำนวนเยอะมาก และมีความต้องการอยู่อาศัยใกล้มหาวิทยาลัยและที่ทำงาน จึงทำให้มีโครงการต่างๆเพิ่มขึ้นมากมาย นอกจากนั้นยังมีพนักงานที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมนวนครที่อยู่ไม่ไกลก็เลือกอยู่อาศัยในย่านนี้ด้วย

ซึ่งโครงการนี้ก็ไม่ได้เป็นที่ต้องการเฉพาะกลุ่มคนที่ต้องการอาศัยในย่านนี้อย่างน้องๆนักศึกษาและพนักงานในย่านนี้เท่านั้น แต่ยังเป็นทำเลที่กลุ่มนักลงทุนจับตามอง เพื่อต้องการซื้อปล่อยเช่าอีกด้วย รวมถึงศักยภาพทำเลสูง โดยในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีแดง (ช่วงบางซื่อ – รังสิต) มาลงที่หน้า ม.ธรรมศาสตร์ เลย ทำให้จับกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้นทั้งคนทำงานในเมืองแล้วอยากได้คอนโดใกล้รถไฟฟ้าและพนักงานที่ทำงานในโซนดอนเมือง ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของ ครม.

จากภาพ เราสามารถแบ่งแยกโซนที่พักอาศัยของถนนเชียงรากออกได้อีกเป็น 4 โซน ซึ่งแต่ละโซนก็จะมีลักษณะ สภาพแวดล้อม และความเป็นอยู่ที่แตกต่างกันออกไป คือ

  • โซน U-Square : เป็นโซนที่อุดมสมบูรณ์และใกล้กับประตูมหาวิทยาลัยมากที่สุด มีหอพักนักศึกษาขึ้นอย่างหนาแน่น และมีร้านค้าต่างๆ หลายแห่ง เรียกได้ว่าเป็นโซนที่สะดวกสบาย ความอุดมสมบูรณ์สูง แต่ก็พลุกพล่านมากที่สุดโซนหนึ่ง ซึ่งหากใครที่ชื่นชอบความเงียบสงบและเป็นส่วนตัว ก็อาจยังไม่เหมาะกับโซนนี้นะคะ
  • โซน SUNTA : เป็นโซนที่ตั้งโครงการ อยู่ฝั่งตรงข้ามกับมหาลัยและ U-Square ซึ่งสามารถเดินข้ามไป – มาได้ด้วยสะพานลอย อาหารการกินก็พอจะมีตรงบริเวณริมถนนและปากซอยต่างๆ แต่ส่วนใหญ่น้องๆนักศึกษาก็จะหาซื้อของกินกันตั้งแต่ฝั่ง U-Square เสร็จแล้วค่อยข้ามฝั่งเพื่อกลับไปยังที่พักได้ โซนนี้จึงถือว่ายังมีความสะดวกสบาย และเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นมาหน่อย ไม่พลุกพล่านเหมือนฝั่งมหาลัย เหมาะแก่การอยู่อาศัยมากขึ้นค่ะ
  • โซน J-Park : เป็นอีกโซนที่อยู่ฝั่งเดียวกับมหาวิทยาลัย แต่จะอยู่บริเวณด้านหลัง ถ้าออกมาจากม. ก็จะต้องไปกลับรถมาก่อน 2 รอบ โซนนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นโซนที่มีหอพักราคาสูงอย่าง J-Park ตั้งอยู่ ด้านหน้ามี Plaza เป็นของตัวเอง ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และยังมีหอพักอื่นๆอยู่ด้านในซอยอีกด้วย จึงเป็นอีกหนึ่งทำเลที่ถือว่าสงบมากกว่า U-Square เพราะเดิมทีโดยรอบเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยดั้งเดิมค่ะ
  • โซน Golf View : โซนนี้ถือว่าเป็นโซนที่แยกตัวออกมาจากโซนอื่นๆ และได้ตั้งอาณาจักรขึ้นมาเป็นของตัวเองด้านใน แต่ด้วยความที่มันไกลและเดินทางลำบากมากสุดในบรรดาทุกๆโซน จึงทำให้ราคาหอพักค่อนข้างถูก เหมาะกับนักศึกษาที่ไม่เน้นเรื่องความอุดมสมบูรณ์ ไม่กลัวเรื่องเดินทางลำบาก แต่อันที่จริงแล้วทางหอก็มีรถรับ – ส่งนะคะ ดังนั้นถ้าใครที่เน้นเรื่องราคาถูกและความเป็นส่วนตัวก็จะเลือกอยู่ที่โซนนี้กันค่ะ

อีกที่หนึ่งก็คือ TU Dome โครงการ Mixed-use ของมหาลัย ที่ด้านในจะเป็นหอพักนักศึกษา และด้านหน้าจะทำเป็นเหมือนศูนย์การค้า หรือ Community Mall ที่มีร้านค้าต่างๆค่อนข้างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น MK, Yayoi, Chester’s Grill และ Watson เป็นต้น รวมถึงบริเวณด้านหน้าก็จะมีตลาดนัดเล็กๆ ที่เปิดทุกวันให้เดินด้วยค่ะ เรียกได้ว่าเป็นโซนมหาลัยที่มีความคึกคักมากๆ เลย

สำหรับการเดินทางจากโครงการไปยัง ม.ธรรมศาสตร์ จะต้องเดินไปขึ้นสะพานลอยที่อยู่ค่อนข้างไกลจากโครงการ แต่ในปัจจุบันได้มีการก่อสร้างสะพานลอยด้านหน้าทางเข้าโครงการเลย คาดเสร็จเดือน มี.ค.-เม.ย.นี้ เพื่อเชื่อมไปถึงประตูเชียงราก 2 ได้เลย มีระยะเดิน 280 เมตรเอง ทำให้น้องๆนักศึกษาเดินไปเรียนได้สะดวก นอกจากนั้นทางโครงการจะมีรถ Shuttle Bus บริการรับ-ส่งตรงสะพานลอยนี้และตรงประตูเชียงราก 1 ค่ะ

Image 1/2
ทางด่วนอุดรรัถยา

ทางด่วนอุดรรัถยา

สำหรับใครที่ใช้ทางด่วน ตัวโครงการจะอยู่ไม่ไกลจากทางด่วนอุดรรัถยา มีระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตร สามารถเดินทางไปแจ้งวัฒนะ ดินแดง ดาวคะนอง และบางนา ได้ครับ และห่างจากทางยกระดับอุตราภิมุขประมาณ 12 กิโลเมตร สามารถเดินทางเข้าเมืองไปทางดอนเมืองและห้าแยกลาดพร้าวได้เลย จึงทำให้เดินทางเข้า – ออกเมืองได้ง่าย

การเดินทางด้วยรถยนต์ไป-กลับจาก ม.ธรรมศาสตร์

Image 1/2
จากโครงการไป ม.ธรรมศาสตร์

จากโครงการไป ม.ธรรมศาสตร์

สำหรับน้องๆ นักศึกษาที่ขับรถไปมหาวิทยาลัย โดยเข้าประตูเชียงราก 1 เราจะต้องไปกลับรถมาก่อน แล้วจึงเลี้ยวซ้ายเข้ามหาลัยที่ประตูเชียงราก 1 ค่ะ ซึ่งมีระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตร ส่วนขากลับมายังโครงการ สามารถออกทางประตูเชียงราก 2 แล้วไปกลับรถก่อนเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการ มีระยะทางประมาณ 1.6 กิโลเมตรค่ะ

Image 1/3
ด้านหน้า Sales Gallery

ด้านหน้า Sales Gallery

สำหรับ Sales Gallery ของโครงการจะอยู่ใกล้ๆกับประตูเชียงราก 2 เลย ซึ่งเป็น Sale Gallery เดิมที่ใช้เป็นสำนักงานขายหลายโครงการของทาง AssetWise ค่ะ โดยภายในก็ตกแต่งด้วยธีม Alice in Wonderland โดยใช้ลายข้าวหลามตัดสีแดงตกแต่งค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการ Kave Wonderland (เคฟ วันเดอร์แลนด์) ถือว่าค่อนข้างโล่ง บรรยากาศก็ค่อนข้างเงียบสงบ ยังไม่พลุกพล่านหรือแออัดมากนักโดยมีโครงการ Kave TU ที่เป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น อยู่ด้านข้าง ทำให้ห้องพักอาศัยที่หันหน้าไปทางฝั่งนี้อาจจะโดนบังวิวบ้าง แต่บริเวณรอบๆส่วนใหญ่เป็นที่ดินเปล่า

  • ทิศเหนือ ติดกับคลองหนึ่งและถนนคลองหลวงหรือถนนเชียงราก
  • ทิศใต้ ติดกับ บ้านพักอาศัยปทุมธานีโมเดล
  • ทิศตะวันออก ติดกับ บ้านพักอาศัยปทุมธานีโมเดลและที่ดินเปล่า
  • ทิศตะวันตก ติดกับ โครงการ Kave TU

สะพานลอยที่เชื่อมไปประตูเชียงราก 2 กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง คาดเสร็จ มี.ค.-เม.ย. ปีนี้ค่ะ

สะพานลอยอยู่ด้านหน้าทางเข้าโครงการเลย ทำให้น้องๆนักศึกษาเดินไปเรียนได้สะดวกมากๆ

พอเข้าจากถนนเชียงรากแล้ว จะเจอป้ายโครงการจาก AssetWise ทั้ง Kave TU และ Kave Ava จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเพื่อไป Kave Wonderland (เคฟ วันเดอร์แลนด์)

ที่ตั้งโครงการ Kave Wonderland (เคฟ วันเดอร์แลนด์) จะอยู่ติดกับโครงการ Kave TU ค่ะ

พื้นที่โครงการในปัจจุบันยังเป็นจุดวินมอเตอร์ไซค์อยู่และยังไม่ได้ขึ้นป้าย Hoarding นะคะ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • ฟลิค ทียู ~ 4.4 กิโลเมตร
  • ตลาดนัดอินเตอร์โซน (ตลาดกลางคืน ธรรมศาสตร์) ~ 5.5 กิโลเมตร
  • Makro คลองหลวง ~ 6.6 กิโลเมตร
  • Lotus’s คลองหลวง ~ 6.6 กิโลเมตร
  • ตลาดไท ~ 8.5 กิโลเมตร
  • มิงเกิ้ล มอลล์ ~ 10.3 กิโลเมตร
  • ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ~ 14.4 กิโลเมตร
  • เซ็นทรัลรังสิต (โครงการในอนาคต)

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ~ 5.0 กิโลเมตร

สถานศึกษา

  • สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ~ 4.5 กิโลเมตร
  • หอสมุดป่วย อึ้งภากรณ์ ~ 4.7 กิโลเมตร
  • อุทยานเรียนรู้ป๋วย 100 ปี ~ 4.8 กิโลเมตร
  • อาคารเรียนรวมสังคมศาสตร์ (SC) ~ 4.8 กิโลเมตร
  • โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ~ 5.6 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ~ 9.9 กิโลเมตร

สถานที่อื่นๆ

  • ศูนย์ประชุม ธรรมศาสตร์รังสิต ~ 4.9 กิโลเมตร
  • กิติยาคาร ~ 4.8 กิโลเมตร
  • อาคารโดมบริหาร ~ 5.3 กิโลเมตร
  • สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ~ 6.1 กิโลเมตร
  • สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ~ 6.2 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

Highlight

  • ออกแบบทั้ง 6 อาคาร โอบล้อมส่วนกลาง บริเวณพื้นที่ Court ตรงกลาง ทำให้ห้องส่วนหนึ่งของโครงการที่หันเข้ามาด้านในจะได้วิวและบรรยากาศสวยๆของโครงการค่ะ
  • ส่วนกลางจัดเต็ม 55 รายการ กระจายอยู่ทั้ง Court กลางโครงการและภายในแต่ละอาคาร เป็นส่วนกลางที่มีขนาดใหญ่และมากกว่าคอนโด Kave TU และ Kave Ava
  • Building C เป็นอาคาร Pet-Friendly ถือเป็นโครงการแรกในทำเลที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ พร้อมออกแบบส่วนกลางสำหรับน้องๆสัตว์เลี้ยงด้วย

Kave Wonderland (เคฟ วันเดอร์แลนด์) เป็นคอนโดมิเนียม Low rise จาก AssetWise โครงการที่ 3 ต่อจากโครงการ Kave TU และ Kave Ava ซึ่งนับเป็นโครงการสุดท้ายบนที่ดินขนาดใหญ่ผืนนี้ด้วยค่ะ โดยตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 14-2-52.85 ไร่ และมีห้องพักอาศัย 1,423 ยูนิต + ร้านค้า 1 ยูนิต ถือว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่กว่าโครงการ Kave TU และ Kave Ava ค่ะ

ทุกคนน่าจะพอคาดเดากันได้จากชื่อโครงการว่าแนวคิดของโครงการนี้มาจาก “Alice in Wonerland” นั่นเอง ทำให้ตกแต่งบรรยากาศแบบ Festival มีการใช้สีแดง เส้นซิกแซก และลวดลายต่างๆที่ให้ความรู้สึกสนุกสนาน ตื่นเต้นค่ะ รวมถึงการจัดเต็มส่วนกลางมามากถึง 55 รายการ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ Court ตรงส่วน Outdoor และภายในอาคาร 

Kave Wonderland (เคฟ วันเดอร์แลนด์) ตั้งอยู่บนที่ดิน 14-2-52.85 ไร่ มีทั้งหมด 6 อาคาร รวมเป็นห้องพักอาศัย 1,423 ยูนิต และ ร้านค้า 1 ยูนิต โดยแบ่งเป็น

  • อาคาร A จำนวน 234 ยูนิต
  • อาคาร B จำนวน 231 ยูนิต
  • อาคาร C (Pet-Friendly) จำนวน 268 ยูนิต
  • อาคาร D จำนวน 226 ยูนิต
  • อาคาร E จำนวน 249 ยูนิต
  • อาคาร F จำนวน 215 ยูนิต และ ร้านค้า 1 ยูนิต

สำหรับการวางผังโครงการ จะวางตัวอาคารทั้ง 6 อาคารล้อมรอบพื้นที่ Court ตรงกลางที่เป็น Facilities และสวนสีเขียวของโครงการ ทำให้ห้องพักอาศัยส่วนหนึ่งที่หันเข้ามาด้านใน จะได้วิวและบรรยากาศสวยๆที่ทางโครงการออกแบบและดูแลรักษาให้สวยงามกว่าวิวโดยรอบโครงการด้วยค่ะ ซึ่งถือเป็นการวางผังอาคารที่เหมาะกับคอนโดมิเนียมแบบ Low rise อย่างโครงการนี้นั่นเอง

โดยอาคาร A, B, E และ F จะออกแบบเป็นอาคารตัว I ที่มีพื้นที่ยื่นออกมา ซึ่งจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางภายในตึก ทำให้ห้องพักตรงพื้นที่นั้นได้วิว Court ส่วนกลางโครงการ ส่วนอาคาร C และ F จะเป็นอาคารตัว I ไม่มีตำแหน่งห้องที่บังวิวกันเอง และอาคาร D ออกแบบเป็นตัว U ที่มีสระว่ายน้ำตรงกลาง ทำให้ห้องฝั่งหนึ่งได้วิวสระว่ายน้ำนั่นเอง

สำหรับอาคาร B, C,E และ F จะมีห้องพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 1 ทำให้อาจได้ยินเสียงรบกวนและความวุ่นวายอยู่เหมือนกัน จึงเหมาะกับคนที่เน้นความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยมากกว่าทั้งเวลาใช้รถยนต์และส่วนกลาง โดยส่วนใหญ่จะเป็นห้อง 1 Bedroom Extra แต่ก็มีห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus เหมือนกัน ทำให้คนที่มีงบจำกัดก็เลือกดูเป็นห้องพักชั้นนี้ได้ เพราะก็มีข้อดีที่ความสะดวกสบายนี่แหละ

โดยจุดเด่นอย่างที่เราบอกไป คือ พื้นที่ส่วนกลางแบบจัดเต็มด้วยพื้นที่สีเขียวและส่วนกลางรวม 55 รายการ ที่กระจายอยู่ตรง Court กลางโครงการและภายในแต่ละอาคาร ซึ่งมีขนาดมากกว่า Kave TU และ Kave Ava อีกด้วย สามารถใช้งานร่วมกันได้ทั้งหมดทุกอาคาร ไม่ว่าเราจะอยู่อาคารไหนก็ตาม โดยพื้นที่ส่วนกลางที่มีทุกอาคารเลยก็คือพื้นที่สำหรับนั่งอ่านหนังสือ นั่งทำงาน

รวมถึงตัวอาคารที่โอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางตรงกลาง ทำให้ได้สระว่ายน้ำในโครงการถึง 3 สระเลย แบ่งเป็นสระว่ายน้ำ 1 สระ บริเวณด้านหน้าโครงการที่สร้างบรรยากาศน่าอยู่อาศัยให้โครงการ ลึกประมาณ 0.90 เมตร และสระว่ายน้ำแนวยาวอีก 2 สระให้มาเล่นน้ำ ออกกำลังกายกันค่ะ

นอกจากนี้แต่ละอาคารจะมีสัญลักษณ์สัตว์ประจำอาคาร เพื่อสะท้อนถึงจุดเด่นของแต่ละอาคาร ดังนี้

  • อาคาร A : Majestic Lion ตั้งอยู่ด้านหน้าโครงการเหมือนกับสิงโตที่เป็นจ่าฝูงและเจ้าป่า ที่คอยอยู่ด่านหน้าของสัตว์อื่นๆ ทำให้เวลาเข้า-ออกโครงการก็จะมองเห็นอาคารนี้อยู่เสมอ
  • อาคาร B : Playful Pig ออกแบบเอาใจน้องๆนักศึกษาด้วยพื้นที่เล่นเกมที่หลากหลายให้มาเล่นสนุกกับเพื่อนๆได้ตลอด โดยมีหมูที่มีนิสัยขี้เล่น ร่าเริงเป็นสัญลักษณ์ของอาคารนี้ค่ะ
  • อาคาร C : Friendly Rabbit ด้วยอาคารนี้ที่เป็นอาคาร Pet-Friendly สามารถเลี้ยงสัตว์ภายในห้องพักอาศัยได้ จึงใช้เป็นกระต่ายที่สื่อถึงความเป็นมิตรนั่นเอง
  • อาคาร D : Energetic Tiger จะเป็นอาคารอยู่ด้านในสุดของโครงการที่มี Fitness และเดินเชื่อมออกมาสระว่ายน้ำด้านนอกได้ จะเป็นส่วนกลางที่เน้นการออกกำลังกาย ใช้พละกำลัง ดังนั้นเสือที่มีความแข็งแรง ว่องไวจึงเหมาะเป็นตัวแทนสัตว์ของอาคารนี้
  • อาคาร E : Agile Kangaroo ฟังก์ชันส่วนกลางภายในอาคารนี้จะมีหลากหลายประเภททั้งพื้นที่นั่งเล่น ทำอาหาร หรือถ่ายรูป ทางโครงการเลยเลือกใช้เป็นจิงโจ้ที่มีความคล่องแคล่ว กระฉับกระเฉง
  • อาคาร F : Enchanting Elephant เป็นอาคารด้านหน้าโครงการอยู่คู่กับอาคาร A จึงเลือกเป็นช้างที่เป็นสัตว์ขนาดใหญ่และมีเสน่ห์น่ามอง จึงจัดเต็มส่วนกลาง 5 ชั้น บริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการเลยค่ะ

ทางเข้า – ออกของโครงการมีจุดเดียวนะคะ อยู่บนถนนเลียบคลองหนึ่ง ติดกับโครงการ Kave TU ค่ะ โดยระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่มีประตูทางเข้า-ออกโครงการแบบรั้วไม้กระดก และรปภ.คอยดูแลอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง

โดยการเดินรถภายในโครงการจะเป็นแบบ One way พอเราขับตรงเข้าไปแล้วต้องเลี้ยวซ้าย เพื่อไปพื้นที่จอดรถกลางแจ้งรอบอาคาร พื้นที่จอดรถใต้อาคารและวนออกนอกโครงการค่ะ ส่วนใครที่มีพ่อแม่มารับ-ส่งหรือนั่งรถ Taxi มา จะมีจุดจอดรถด้านหน้าทางเข้าอาคารที่เป็นจุด Drop Off และวนรถออกนอกโครงการ

ทางเข้าไปภายในพื้นที่โครงการ จะต้องเดินผ่านอาคารส่วนกลางสูง 5 ชั้น ที่เป็นส่วนหนึ่งของอาคาร F ก่อน ซึ่งจะมีส่วนกลางอยู่หลากหลาย เช่น พื้นที่นั่งเล่น พื้นที่อ่านหนังสือ พื้นที่ทำงาน ห้องออกกำลังกาย พื้นที่ทำอาหารและห้องเล่นเกม เป็นต้น รวมถึงมีร้านค้าอยู่ 1 ยูนิตด้วย

อีกทั้งมีการจำกัดโซนของบุคคลภายนอกที่จะเข้ามาได้เฉพาะตรง Reception area ของอาคาร F เท่านั้น เพราะว่าการขึ้น-ลงอาคารจะมีระบบ Keycard Access / Face Scan เพิ่มความปลอดภัยของลูกบ้าน และจะเข้าออกได้เฉพาะชั้นของลูกบ้านและชั้นส่วนกลางเท่านั้น ทำให้พ่อแม่ไม่ต้องกังวลและเป็นห่วงค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศอาคารส่วนกลางสูง 5 ชั้น ที่เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของอาคาร F ออกแบบในโทนสีแดงและเลือกใช้ลวดลายข้าวหลามตัด เพิ่มลูกเล่นน่าสนใจให้กับอาคาร

ภาพจำลองบรรยากาศ Co-working ของอาคาร F มีพื้นที่นั่งเล่นหรือทำงานกับเพื่อนๆในบรรยากาศที่ไม่เคร่งเครียดเกินไป มีสัญลักษณ์ของอาคารอย่างรูปปั้นช้างตกแต่งด้วย ส่วนโทนสีในการออกแบบจะเน้นไปโทนร้อนอย่างสีแดง ส้มและเหลือง มีการแทรกสีน้ำเงินเข้ามาตัดบรรยากาศไม่ให้ดูโทนร้อนเกินไป

ภาพจำลองบรรยากาศ Co-working ของอาคาร F มีโต๊ะ โซฟาและที่นั่งหลากหลายให้เลือกใช้งาน มาทำงานกลุ่มกับเพื่อนๆก็สะดวก

ภาพจำลองบรรยากาศ Game area ของอาคาร F เป็นพื้นที่รวมตัวมาเล่นสนุกกับเพื่อนๆได้

ภาพจำลองบรรยากาศ Theatre ของอาคาร F ที่ดูหนังต่างๆกับเพื่อนได้เลย โดยไม่ต้องเดินทางไปดูถึงโรงหนังในห้างค่ะ

สำหรับ Rooftop ของอาคารส่วนกลางนี้ จะมีประตูเข้า-ออกได้จากอาคาร F เลย นอกจากนั้นยังมีทางเดินเชื่อมไปอาคาร A ได้ด้วย ทำให้ลูกบ้านในอาคาร A และ F ไปใช้งานส่วนกลางของแต่ละอาคารได้ง่าย ไม่ต้องเดินไปถึงชั้นล่างเพื่อเข้าใช้ส่วนกลางของอาคารอื่น

พอผ่านเข้ามาด้านในโครงการแล้ว จะเจอเป็น Court ส่วนกลางขนาดใหญ่ที่มีทั้งพื้นที่สีเขียว สระว่ายน้ำลึก 0.90 เมตร และ Skywalk พร้อมพื้นที่นั่งพักผ่อนกระจายในพื้นที่สวนด้วยค่ะ

เมื่อเข้ามาด้านในแล้ว จะเจอพื้นที่ Court กลางโครงการ ที่มีออกแบบ Pattern ตรงพื้นทางเดิน และเจอกับสระว่ายน้ำและพื้นที่สีเขียว โดยมีอาคาร A อยู่ด้านข้างทางเข้า-ออกโครงการเลยค่ะ

สำหรับการออกแบบอาคาร A จะมีการยื่นพื้นที่ออกไปตรงพื้นที่กลางโครงการ เชื่อมกับสระว่ายน้ำ โดยชั้น 1 ของอาคาร A จะเป็น Lobby และพื้นที่นั่งพักผ่อนริมสระว่ายน้ำ ส่วนชั้น 6 จะเป็น Sky co-working พื้นที่นั่งอ่านหนังสือหรือทำงาน โดยมีทางเดินเชื่อมไปอาคาร F ได้

ภาพจำลองบรรยากาศ เมื่อมองจาก Court กลางโครงการไปทางเข้า-ออก บริเวณด้านหน้าโครงการ

ภาพจำลองบรรยากาศ Lobby A ที่เน้นโทนสีขาว และเลือกใช้สีแดง น้ำเงินและเหลืองตกแต่งให้ห้องมีสีสันสดใส รวมถึงรูปปั้นสิงโตที่เป็นสัตว์ประจำอาคาร มีที่นั่งหลากหลายรูปแบบเพื่อเป็นพื้นที่มานั่งพูดคุยหรือทำงานก็ได้เหมือนกัน

สระว่ายน้ำลึก 0.90 เมตร จะอยู่ระหว่างอาคาร A และ B ทำให้ห้องพักส่วนหนึ่งได้วิวสระว่ายน้ำนี้ด้วยค่ะ ซึ่งสระนี้ไม่ได้มีความลึกมากนัก จึงไม่เหมาะกับใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายจริงจัง จึงเป็นสระน้ำที่ไว้สร้างบรรยากาศเย็นสบาย น่าอยู่อาศัยภายในโครงการ ให้คนมาถ่ายรูปและเล่นน้ำกันมากกว่า

รวมถึงมีบันไดเดินขึ้น-ลง Skywalk ตรงบริเวณด้านหน้าอาคาร A และ B เลย โดย Skywalk นี้จะยาวไปเชื่อมกับพื้นที่นั่งแบบ Amphitheatre บริเวณกลางโครงการ และมีออกแบบซุ้มนั่งพักผ่อนตรง Skywalk ได้วิวสระว่ายน้ำด้วย

ถัดจากสระน้ำบริเวณด้านหน้าโครงการแล้ว ต่อมาเราจะพาไปดูบริเวณกลางโครงการกัน ที่มี Skywalk ยาวมาถึงบริเวณนี้เลยค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศจากทางเข้า-ออกโครงการ มองไปด้านในโครงการ จะเห็นซุ้มบันไดที่ออกแบบเหมือนเต็นท์ละครสัตว์อยู่บริเวณด้านหน้าอาคาร B

อาคาร B ก็ออกแบบยื่นพื้นที่ออกมาจากตัวอาคารเหมือนกัน ห้องพักตรงส่วนนี้จะได้วิวสระว่ายน้ำและสวนสีเขียว โดยส่วนกลางของอาคาร B จะอยู่ที่ชั้น 1 และ 8 ซึ่งจะเน้นเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนและพื้นที่เล่นเกมหลากหลายประเภทเลย

อาคาร C ที่เป็นอาคารเลี้ยงสัตว์ได้ จะมี Lobby และ Dog/Cat play zone อยู่ที่ชั้น 1 ส่วนชั้น 8 จะเป็น Co-living ที่มีทางเดินเชื่อมกับ Co-living ของอาคาร B ค่ะ

หากสังเกตแล้วพื้นที่ระหว่างอาคาร B และ C จะมีประตูกั้นปิดอีกชั้น เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงวิ่งหลุดไปในพื้นที่ด้านในโครงการค่ะ แต่ว่าทางโครงการก็มีออกแบบพื้นที่วิ่งเล่นของน้องๆสัตว์เลี้ยงด้วยนะคะ เดี๋ยวเราจะพาไปดูกันต่อค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศ Lobby B มีพื้นที่ให้นั่งเล่นเกมกับเพื่อนๆได้เลย โดยการตกแต่งภายในจะใช้เส้นโค้ง ให้ความรู้สึกเคลื่อนไหว ตื่นเต้น แต่ก็คงบรรยากาศความเรียบๆ คลูๆไว้อยู่

ภาพจำลองบรรยากาศ Lobby C ที่มี Dog/Cat play zone ให้พาสัตว์เลี้ยงมานั่งเล่นได้ รวมถึงเป็นพื้นที่สังคมคนรักสัตว์ด้วยค่ะ ไว้มาแลกเปลี่ยนข้อมูล คำแนะนำและหาเพื่อนให้น้องๆสัตว์เลี้ยงนั่นเอง บรรยากาศการตกแต่งจึงใช้เป็นสีขาวและสีเขียวที่ให้บรรยากาศสบายๆ

อย่างที่เราได้เกริ่นไปว่าน้องๆสัตว์เลี้ยงจะมี Pet playground เป็นพื้นที่วิ่งเล่นแยกกับพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆเลย ไม่ให้ใช้พื้นที่ร่วมกันเพราะว่าลูกบ้านบางคนอาจจะเป็นภูมิแพ้หรือกลัวสัตว์ค่ะ โดยสวนนี้จะอยู่บริเวณด้านหลังอาคาร C ทำให้เราพาสัตว์เลี้ยงลงจากอาคารมาเดินเล่นได้สะดวกในทุกช่วงเวลาเลย

เราพากลับเข้ามาพื้นที่กลางโครงการกันต่อ จะมี Amphitheatre ที่เชื่อม Skywalk ตรงอาคาร A ให้เดินมาลงตรงที่นี่ โดยจะเป็นที่นั่งเล่นแบบขึ้นบันได สำหรับใครที่ชอบนั่งเล่นกลางแจ้งที่ล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว นอกจากนั้นยังไว้ใช้เชียร์เวลามีกิจกรรมหรือเล่นกีฬา เพราะมีสนามหญ้าขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้า Amphitheatre

ภาพจำลองบรรยากาศอาคาร E ที่ออกแบบยื่นพื้นที่ออกมา เพื่อรับวิวสวนได้กว้างมากขึ้น

ภาพจำลองบรรยากาศ Lobby E มีโต๊ะเก้าอี้รองรับการนั่งทำงาน อ่านหนังสือของน้องๆนักศึกษา และตกแต่งห้องด้วยสีสันหลากหลาย มีออกแบบเหมือนซุ้มม้าหมุนเพื่อสื่อถึงแนวคิด Festival ของโครงการด้วยค่ะ

หลังจากเราผ่านสนามหญ้าและ Amphitheatre กันมาแล้ว จะเป็นพื้นที่ของสระว่ายน้ำยาว 2 สระ ที่เหมือนเป็นสวนน้ำเลยค่ะ เพราะมีที่นั่งพักผ่อนและสไลเดอร์ให้เล่นกันด้วย

สำหรับพื้นที่ของสระว่ายน้ำ 2 สระนี้จะอยู่ระหว่างอาคาร C, D และ E ค่ะ โดยลูกบ้านอาคาร D จะเดินเชื่อมถึงสระว่ายน้ำยาว 24 เมตรได้ที่ชั้น 2 เลย ส่วนอาคารอื่นก็เดินมาเล่นที่สระว่ายน้ำยาว 45 เมตร ตรงชั้น 1 ได้ หรือจะเดินขึ้นบันไดที่ด้านข้างไปเพื่อเล่นสระว่ายน้ำอีกสระตรงชั้น 2 รวมถึงมีสไลเดอร์ที่ออกแบบเป็นเต็นท์ละครสัตว์ให้เล่นด้วย

ภาพจำลองบรรยากาศ Fitness ที่มีอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน จะสาย Weight Training หรือ Cardio ก็ครบหมด รวมถึงมีพื้นที่เล่นโยคะด้วยค่ะ โดยห้องนี้จะได้วิวสระว่ายน้ำและมีประตูทางเชื่อมไปสระว่ายน้ำด้านนอกอาคารได้เลยค่ะ

เราพามาดูชั้น 2 ที่เป็นชั้นพักอาศัยกันต่อค่ะ สำหรับอาคาร E และ F ฝั่งที่หันออกนอกอาคารไปเห็นโครงการ Kave TU จะเป็นห้องเริ่มต้นอย่าง 1 Bedroom ส่วนห้องส่วนใหญ่ที่หันเข้าหา Court ส่วนกลางจะเป็น 1 Bedroom Extra

ส่วนห้องพักอาศัยในอาคาร B, C และ D ฝั่งที่หันเข้าด้านใน Court จะเป็น 1 Bedroom Extra เหมือนกัน ส่วนฝั่งที่หันออกนอกอาคารจะเป็น 1 Bedroom Exclusive ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาจาก 1 Bedroom รวมถึงบริเวณโดยรอบไม่มีอาคารบังวิวห้องด้วย

สำหรับอาคาร A ก็วางตำแหน่งห้องที่หันไปนอกอาคารเป็น 1 Bedroom Exclusive เหมือนกับอาคาร B, C และ D  แต่ตำแหน่งห้องที่หันเข้ามาด้านในโครงการจะมีทั้งห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Extra ในจำนวนที่เท่าๆกัน หากสังเกตตรงปลายอาคาร A จะเห็นว่าโดนผนังด้านข้างอาคาร B บังวิวนั่นเอง ทำให้โครงการเลือกวางเป็น 1 Bedroom แบบห้องเริ่มต้น แต่ด้วยตำแหน่งอาคารที่อยู่ด้านหน้า เดินเข้า-ออกโครงการได้ง่าย ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเหมือนกันค่ะ


ต่อมาเราเอาแปลนชั้นพักอาศัยของอาคาร A และ E ซึ่งเป็นอาคารที่ทางโครงการเปิดขายแล้วมาให้ดูกันค่ะ

Building A

Image 1/2
อาคาร A : ชั้น 3-5

อาคาร A : ชั้น 3-5

จากที่เราได้บอกไปนะคะว่าอาคาร A จะอยู่ด้านหน้าสุด เข้า-ออกโครงการได้ง่าย มีทางเดินเชื่อมตรงชั้น 6 ไปใช้งานอาคารส่วนกลางตรงอาคาร F ได้ จึงเป็นอาคารพักอาศัยที่น่าสนใจมากๆเลยค่ะ

ตัวอาคารออกแบบเป็นตัว I และมีพื้นที่ยื่นออกมา ทำให้บริเวณที่ยื่นออกมานี้ได้วิวกว้างขึ้น ส่วนภายในอาคารออกแบบเป็น Double load Corridor มีห้องอยู่ทั้ง 2 ฝั่งโถงทางเดิน แต่มีการออกแบบช่องแสงของอาคารที่เพิ่มความสว่างให้โถงทางเดินในอาคาร รวมถึงเปิดเพื่อระบายอากาศได้ด้วย ส่วน Core Lift จะอยู่เยื้องมาอีกฝั่ง ทำให้ห้องที่อยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะมีระยะเดินที่ไกลหน่อย นอกจากนั้นเราได้วงกรอบตำแหน่งห้องพักที่น่าสนใจมาให้ดูกันด้วยค่ะ

  • กรอบสีน้ำเงิน – ห้องไซซ์เล็กที่ได้วิวสวนในโครงการ ถึงแม้จะมีโดนบังวิวไปบ้าง แต่มีราคาไม่สูงและแชร์ผนังกับห้องอื่นเพียงด้านเดียว
  • กรอบเขียว – ตำแหน่งที่ติดกับเพื่อนบ้านน้อย โดยอยู่ติดกับเพื่อนบ้านเพียงด้านเดียว ได้ความเป็นส่วนตัว และอยู่ใกล้โถงลิฟต์ ใช้งานได้สะดวก
  • กรอบสีชมพู – ห้องมุมอาคารและติดกับผนังเพื่อนบ้านเพียงด้านเดียว
  • กรอบสีแดง – ห้องไซซ์เล็กที่หันหน้าเข้าด้านในโครงการ ที่ถึงแม้จะไม่ได้วิวส่วนกลาง แต่ก็ไม่มีห้องจากอาคารอื่นที่หันหน้ามาชน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวดี รวมถึงมีผนังด้านเดียวที่ติดกับเพื่อนบ้าน
  • กรอบสีเหลือง – ห้องที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด เพราะว่าไม่ติดกับห้องอื่นเลย และอยู่ใกล้โถงลิฟต์ ทำให้ขึ้น-ลงอาคารได้สะดวกสบาย

Building E

การออกแบบตัวอาคาร E เหมือนอาคาร A เลย จะเป็นอาคารตัว I และมีพื้นที่ยื่นออกมา ซึ่งออกแบบเป็น Double load Corridor มีช่องแสงเพิ่มความสว่างและระบายอากาศในอาคาร ส่วน Core Lift ก็จะเยื้องมาฝั่งทิศเหนือ มาดูตำแหน่งที่ห้องพักที่น่าสนใจกันค่ะ

  • กรอบสีน้ำเงิน – ห้องไซซ์เล็กห้องเดียวในชั้นที่ได้วิวสวนในโครงการ แต่ก็มีห้องส่วนที่ยื่นบังวิวไปบางส่วน แต่ก็ถือเป็นห้องที่ราคาไม่สูงและแชร์ผนังกับห้องอื่นเพียงด้านเดียว
  • กรอบเขียว – ห้องที่ได้ความเป็นส่วนตัวดี อยู่ติดกับเพื่อนบ้านเพียงด้านเดียวและเป็นโซนที่มีเพื่อนบ้านน้อย
  • กรอบสีชมพู – ห้องมุมอาคารหรือติดกับบันไดหนีไฟ ทำให้ห้องมีผนังติดกับเพื่อนบ้านเพียงด้านเดียวค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

Building A

  • ชั้น 1 : Juristic, Lobby A, Vending machine, Co-working space, Mail box, Restroom & Locker และ Laundry
  • ชั้น 6 : Sky co-working มีทางเดินเชื่อมไป Building F

Building B

  • ชั้น 1 : Mail box, Lobby B, Vending machine, Games room (Table tennis /Football), Private room, Arcade game machine + Board Game, Pool Table และ ROV Mobile Zone
  • ชั้น 8 : E-sport, ROV Mobile Zone, Vending machine, Relaxing zone และ Co-living มีทางเดินเชื่อมไปชั้น 8 ของ Building B

Building C : Pet-Friendly

  • ชั้น 1 : Mail box, Lobby B, Dog /Cat play zone และ Pet playground (Landscape)
  • ชั้น 8 : Co-living มีทางเดินเชื่อมไปชั้น 8 ของ Building B

Building D

  • ชั้น 1 : Lobby D
  • ชั้น 2 : Fitness / Yoga, Boxing, Weight training และ Cardio zone ส่วนกลางของชั้นนี้เดินออกมาสระว่ายน้ำด้านนอกได้

Building E

  • ชั้น 1 : Lobby E, Lucky photo booth, Mail box, Photo/Live studio, Co-meeting room, Thinking space, Cooking lap, Vending machine และ Music studio
  • ชั้น 8 : Sky lounge, Semi meeting & study, Co-meeting area, Living lounge และ Private meeting

Building F

  • ชั้น 1 : Reception area, Lobby F, Co-working, Kave café, Private meeting และ Mail box
  • ชั้น 3 : Multi-function area, Working & exercise area, Game area, Theater และ Game booth
  • ชั้น 4 : Multi function space, Secret library, Fun meeting (board game/ etc), Study stack และ Private meeting
  • ชั้น 5 : Outdoor co-kitchen, Multi function area และ Private lounge room & Cooking zone มีทางเดินเชื่อมไปชั้น 6 ของ Building A

 

  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 119 :  1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 117 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 116 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก C 134 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก D 113 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก E 125 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก F 108 : 1
  • ที่จอดรถจำนวน 549 คัน คิดเป็น 39% (รวมจอดซ้อนคัน)
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ
    – รูปแบบประตูทางเข้า-ออกโครงการ : รั้วไม้กระดก
    – ระบบในการเข้า-ออก (เดินเข้าออก ขึ้นลงอาคาร) : Keycard Access / Face Scan
    – CCTV ส่วนกลาง
    – รูปแบบรั้วรอบโครงการ : รั้วทึบ

แบบห้อง

Highlight

  • เน้นแบบห้อง 1 Bedroom จึงอยู่อาศัยคนเดียวได้สบายๆ รวมถึงมี 1 Bedroom Plus ที่อยู่กัน 2 คนได้หรือทำเป็นห้องสัตว์เลี้ยง สำหรับห้องพักในอาคาร C
  • ห้องครัวแบบปิดและระเบียงส่วนตัวในทุกยูนิต ถูกใจคนชอบทำอาหารและมีพื้นที่
  • ตกแต่งแบบ Fully Furnished เพียงซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและชุดเครื่องนอนเพิ่มก็เข้าอยู่ได้เลย

Kave Wonderland (เคฟ วันเดอร์แลนด์) จะมีแบบห้องเป็น 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus เหมาะกับนักศึกษาหรือคนที่หาที่พักใกล้ที่ทำงาน ถ้าอยู่อาศัยคนเดียวก็มีพื้นที่ห้องกว้าง อยู่ได้สบายๆ รวมถึงการตกแต่งแบบ Fully Furnished ที่ซื้อของเพิ่มนิดหน่อยก็พักอาศัยได้เลย แต่จะมีห้องพักอาศัยที่วาง Layout แตกต่างกันไป แต่จะออกแบบมีครัวปิดและระเบียงในทุกแบบห้องเลย ซึ่งมีแบบห้องให้เลือกถึง 4 แบบ

  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 23.10 – 24.40 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Exclusive พื้นที่ใช้สอย 25.70 – 27.70 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Extra  พื้นที่ใช้สอย 27.10 – 28.40 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus  พื้นที่ใช้สอย 34.30 – 35.70 ตร.ม.

ทางโครงการตกแต่งห้องแบบ Fully Furnished โดยให้เฟอร์นิเจอร์มาค่อนข้างครบเลยทั้ง ตู้รองเท้า, ชั้นวางทีวี, โซฟา, เคาน์เตอร์ครัว พร้อมอ่างล้างจานและชั้นเก็บของด้านบน, โต๊ะรับประทานอาหารและเก้าอี้, ฐานเตียง 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะแต่งหน้า และ แอร์ เราเพียงซื้อพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า ชุดเครื่องนอนและผ้าม่านก็สามารถเข้าอยู่ได้เลย

มีเพียงเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นที่จะมีดีไซน์และจำนวนที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับแบบห้อง ได้แก่
1 Bedroom : ตู้วางรองเท้าแบบกว้าง และโต๊ะแต่งหน้า พร้อมเก้าอี้
1 Bedroom Exclusive : เคาน์เตอร์ครัว พร้อมชั้นวางของด้านข้าง, โต๊ะรับประทานอาหาร พร้อมเก้าอี้ 2 ตัว และแอร์ 2 เครื่อง
1 Bedroom Extra : โต๊ะรับประทานอาหาร พร้อมเก้าอี้ 1 ตัว, โต๊ะแต่งหน้า พร้อมเก้าอี้ และแอร์ 2 เครื่อง
1 Bedroom Plus : เคาน์เตอร์ครัวแบบตัว L มีชั้นวางของด้านบน พร้อมเว้นช่องวางเครื่องซักผ้า, โต๊ะรับประทานอาหารแบบยาว พร้อมเก้าอี้ 2 ตัว และแอร์ 3 เครื่อง

วัสดุภายในห้อง
– พื้นห้อง : พื้น SPC ลายไม้
– ผนังห้องฉาบเรียบทาสีขาว
– ไฟดาวน์ไลท์
– เครื่องปรับอากาศแบบ Wall Type จาก Daikin (จำนวนชิ้นขึ้นอยู่กับแบบห้อง)
– Smart digital Door lock รองรับ 5 ระบบ เช่น Keycard, Password, Finger Scan, กุญแจ และ Wireless Access ผ่านแอปพลิเคชัน

วัสดุห้องครัว
– พื้นห้องครัว : พื้น SPC ลายไม้
– Top Counter หินสังเคราะห์ พร้อมอ่างล้างจาน จาก TEKA

วัสดุห้องน้ำ
– พื้นและผนังห้องน้ำ : กระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 เซนติเมตร และ 40×40 เซนติเมตร
– ก๊อกน้ำ, อ่างล้างมือ และ โถสุขภัณฑ์ จาก COTTO
– ฝักบัว จาก American Standard และ Prema
– ฉากกั้นกระจกอาบน้ำ จาก ShowerKing

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

งั้นเราจะพาไปเดินดูรายละเอียดของทั้ง 4 แบบห้องเลย แต่เราจะเจาะลึกที่ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 23.50 ตร.ม. และ 1 Bedroom Extra พื้นที่ใช้สอย 27.40 ตร.ม. นะคะ


 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 23.50 ตร.ม.

สำหรับห้องแรกที่เราพามาดูคือ 1 Bedroom ซึ่งแบบห้องนี้เป็นแบบห้องเริ่มต้นของโครงการ ส่วนมากจะอยู่ตำแหน่งที่หันหน้าออกด้านนอกอาคาร แต่ก็มีบางตำแหน่งที่ห้องหันหน้าได้วิว Court ส่วนกลางโครงการด้วยเหมือนกัน โดยเราได้สรุปจุดเด่นของห้องนี้มาให้อ่านกันค่ะ

  • ห้องครัวแบบปิด ทำอาหารจริงจังได้ มีพื้นที่ในการประกอบอาหารได้กว้าง รวมถึงช่วยป้องกันกลิ่นและควันลอยเข้าไปห้อง
  • Open Plan เชื่อมต่อพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่นอน ทำให้ห้องดูโปร่ง จัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ยืดหยุ่น
  • ห้อง Walk-in Closet แยกจากส่วนห้องนอน ทำให้ได้ความเป็นสัดส่วน แตกต่างกับแบบห้องอื่นของโครงการที่จะตั้งตู้เสื้อผ้าอยู่ภายในห้องนอน
  • ห้องน้ำ แบ่งเป็นสัดส่วนทั้งอ่างล้างมือ สุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำ
  • ระเบียง มีพื้นที่ด้านล่างตั้งเครื่องซักผ้าได้ โดยแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน

พอเราเดินเข้าห้องมาจะเป็นครัวแบบปิดขนาด 1.10×1.90 เมตร ที่มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นก่อนที่จะไปพื้นที่ด้านในห้องที่เป็นนั่งเล่นและพื้นที่นอน

ทุกแบบห้องจะปูพื้นห้องครัว พื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนเป็น SPC ลายไม้ ที่ทนต่อพวกรอยขีดข่วน ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับอาคาร C ที่เลี้ยงสัตว์ภายในห้อง ก็ทำให้ช่วยลดรอยขีดข่วนจากสัตว์นั่นเอง

อย่างที่บอกไปว่าทางโครงการจะตกแต่งแบบ Fully Furnished อย่างห้องครัวก็มีทำ Built-in เคาน์เตอร์ครัว เว้นช่องด้านข้างสำหรับวางตู้เย็น รวมถึงมีชั้นวางรองเท้าอยู่ด้านข้างห้องด้วย

ชั้นวางรองเท้าที่ทางโครงการ Built-in มาให้จะอยู่บริเวณเดียวกับห้องครัว ทำให้เข้าห้องมาก็เก็บรองเท้าได้เลย แต่ว่าชั้นวางรองเท้านี้ไม่ได้ติดตั้งหน้าบานมา ก็เลยต้องระวังนิดนึงเวลาทำอาหารที่มีกลิ่นและควัน หรือจริงๆแล้วเราก็ติดตั้งหน้าบ้านเพิ่มได้เองเหมือนกัน

Image 1/3
ห้องครัวที่ทางโครงการมี Built-in เคาน์เตอร์มาให้ด้วย

ห้องครัวที่ทางโครงการมี Built-in เคาน์เตอร์มาให้ด้วย

เคาน์เตอร์ครัวที่ทางโครงการ Built-in มาให้ จะมีอ่างล้างจานหลุมเดี่ยวจาก TEKA มาให้ 1 จุด แต่จะไม่ได้เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันนะคะ จึงเหมาะกับซื้ออาหารมาอุ่นหรือเตรียมอาหารเบาๆ ได้ แต่ใครที่ต้องการทำอาหารรับประทานเองก็สามารถซื้อเตาไฟฟ้าหรือเครื่องดูดควันเพิ่มได้ รวมถึงด้านหลังเคาน์เตอร์ก็ติดตั้ง Backsplash มาให้แล้ว ทำให้ทำความสะอาดได้ง่ายด้วย

ชั้นเก็บของบริเวณเคาน์เตอร์ครัวจะติดตั้งมาให้ 2 จุดค่ะ คือ ช่องวางของด้านล่างอ่างล้างจาน เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ อีกทั้งมีติดตั้งถังขยะมาให้แล้ว ใช้งานได้สะดวก และมีออกแบบเว้นช่องวางเครื่องไมโครเวฟ ทำให้ช่วยประหยัดพื้นที่บนเคาน์เตอร์ได้ ได้พื้นที่เตรียมอาหารกว้าง ส่วนชั้นวางของด้านบน ก็ไว้เก็บพวกจาน ชาม แก้วน้ำ หรืออุปกรณ์ทำอาหารต่างๆ

ก่อนจะเข้าไปด้านในห้องจะมีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนกั้นระหว่างห้องไว้ พอเลือกใช้เป็นประตู 3 ตอน ก็ทำให้เปิดประตูได้กว้างขึ้นด้วย

สำหรับพื้นที่นั่งเล่นและเตียงนอนจะอยู่บริเวณเดียวกันเลย มีขนาด 2.45×3.75 เมตร โดยออกแบบเป็น Open Plan จึงทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง รวมถึงจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ยืดหยุ่น

จริงๆแล้วทางโครงการจะมีชั้นวางทีวีและโซฟา 2 ที่นั่งแถมมาให้ด้วย แต่ว่าจะไม่ได้หน้าตาเหมือนกับห้องนี้นะคะ จะได้ตามภาพ Furniture Lists ข้างบนเลย ส่วนระยะดูทีวีจะอยู่ที่ 2.15 เมตร จึงเหมาะตั้งทีวีขนาด 45 นิ้วขึ้นไปได้เลย และแบบห้องนี้จะได้เครื่องปรับอากาศเพียงเครื่องเดียว โดยติดตั้งตรงบริเวณนี้นะคะ

พื้นที่ว่างระหว่างโซฟาและเตียงนอนจะมีพื้นที่ว่างวางโต๊ะเล็กๆ ไว้ตั้งโคมไฟหรือมือถือก่อนนอนได้ค่ะ

ส่วนฐานเตียงนี้ทางโครงการก็ Built-in มาให้นะคะ จะเป็นฐานเตียงขนาด 5 ฟุต ที่มีช่องเก็บของ 2 ช่อง ไว้เก็บพวกหนังสือหรือของกระจุกกระจิกได้ค่ะ ส่วนด้านข้างเตียงจะเป็นหน้าต่างไว้ชมวิวและรับแสงธรรมชาติค่ะ

ทางโครงการมีเตรียมช่องปลั๊กไว้สำหรับใครที่อยากแขวนทีวีตรงปลายเตียงนอนไว้ให้ด้วย แต่เรามองว่าเวลาเรานอนบนเตียงก็มองเห็นทีวีตรงพื้นที่นั่งเล่นเหมือนกัน ก็เลยคิดว่าไม่ต้องมีทีวีอีกเครื่องก็ได้ค่ะ

จากพื้นที่นั่งเล่นและเตียงนอนจะเชื่อมต่อไป Walk-in Closet แต่ว่าทางโครงการไม่ได้ติดประตูกั้นปิดมาให้นะคะ ก็จะได้ในความโปร่งโล่งของพื้นที่ดี แต่สำหรับใครที่อยากได้ความเป็นสัดส่วนก็ติดประตูปิดได้หรือใช้เป็นผ้าม่านก็ได้เหมือนกัน อีกทั้งยังเป็นการกั้นแอร์ให้ความเย็นอยู่แค่ในบริเวณนี้ด้วย

แบบห้อง 1 Bedroom นี้จะเป็นแบบห้องเดียวของโครงการที่มีพื้นที่ Walk-in Closet แยกออกมาจากพื้นที่เตียงนอน เหมาะกับน้องๆผู้หญิงเลยที่จะได้พื้นที่แต่งตัวที่มีความเป็นสัดส่วน โดยมีขนาด 1.40×2.60 เมตร ซึ่งทางโครงการได้ Built-in ตู้เสื้อผ้า พร้อมโต๊ะแต่งหน้าและเก้าอี้มาให้ค่ะ

ตู้เสื้อผ้าจะเป็นบานทึบลายไม้และบานกระจก ส่วนด้านในมีราวแขวนเสื้อผ้าและช่องเก็บของด้านบน สำหรับเก็บพวกกระเป๋าเดินทางได้ด้วย ส่วนพื้นที่ยืนแต่งตัวจะกว้างประมาณ 0.85 เมตร

เรามีไอเดียแนะนำสำหรับใครที่ไม่ค่อยสบายใจเวลามีเพื่อนแวะมาที่ห้อง แล้วต้องเห็นเสื้อผ้าภายในตู้เราที่อาจจะไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ เราจะติดสติกเกอร์ขุ่นตรงบานกระจกของตู้เสื้อผ้า เพื่อช่วยพรางสายตา ได้ความเป็นส่วนตัว รวมถึงติดพวกสติกเกอร์สีสันสดใสอันเล็กๆเพิ่มด้วย จะได้ดูเหมือนเป็นการตกแต่งตัวตู้เสื้อผ้านั่นเอง

สำหรับโต๊ะแต่งหน้ากับเก้าอี้จะไม่ได้หน้าตาตามนี้นะคะ จะได้เป็นอีกแบบ แต่นี่ทางโครงการตกแต่งมาให้เป็นไอเดีย หรือใครที่อยากได้แบบนี้เลย ก็ติดต่อกับทางโครงการได้ค่ะ โดยโต๊ะแต่งหน้าจะ Built-in ติดกับตู้เสื้อผ้ามาเลย และมีช่องว่างวางของได้

ห้องน้ำจะติดกับโต๊ะแต่งหน้า และทางโครงการมีติดตั้งกระจกเงาไว้ส่องแบบเต็มตัวได้ รวมถึงช่วยทำให้ห้องดูกว้างขึ้นด้วย

ห้องน้ำจะมีขนาด 1.80×2.15 เมตร มีออกแบบลดระดับพื้นให้ต่ำลงกว่าพื้นห้อง ช่วยกันน้ำท่วมไม่ให้ไหลเข้ามาภายในห้องได้ มีการแบ่งส่วนเปียกและแห้งไว้อย่างชัดเจน วัสดุตกแต่งใช้กระเบื้องโทนสีขาว ทำให้ห้องดูสว่าง สุขภัณฑ์ได้ครบชุดเหมือนในห้องตัวอย่าง ส่วนอาบน้ำได้ฉากกั้นด้วยค่ะ

ทางโครงการมีออกแบบแบ่งฝั่งอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ด้วย ก็ได้ความเป็นสัดส่วนดีเหมือนกันค่ะ

สุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมดทั้งก๊อกน้ำ อ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์มาจากแบรนด์ COTTO ค่ะ และเราชอบที่มีช่องเก็บของด้านล่างอ่างล้างมือด้วย ทำให้เก็บพวกผ้าขนหนู ทิชชู หรืออุปกรณ์เครื่องใช้ในห้องน้ำได้ค่ะ

พื้นที่ส่วนแห้งและเปียกจะมีฉากกั้นกระจกอาบน้ำแบบ 3 ตอนจาก ShowerKing ทำให้เปิดได้กว้างขึ้นและทำให้น้ำไม่กระเด็นไปเลอะส่วนอื่นๆค่ะ

พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.90×1.30 เมตร ยืนอาบน้ำได้สะดวก มีสิ่งที่เราชอบเลยคือการเจาะช่องกว้างประมาณ 0.35×0.45 เมตร ไว้วางพวกครีมอาบน้ำ แชมพู ครีมนวดต่างๆได้ หรือใครที่มีอุปกรณ์อาบน้ำเยอะก็หาชั้นวางเล็กๆมาตั้งเพิ่มได้ค่ะ ส่วนฝักบัวจะเป็นแบบ Hand Shower จาก American Standard และก๊อกน้ำจาก Prema

ต่อมาเราจะพาไปดูพื้นที่ระเบียงห้องกัน โดยจะอยู่ติดกับ Walk-in Closet เลยค่ะ ก็แนะนำว่าให้ติดม่านด้วยนะคะ จะได้บังสายตาจากภายนอก ได้ความเป็นส่วนตัว และแต่งตัวได้อย่างสบายใจค่ะ

ประตูระเบียงจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนเหมือนกันค่ะ จะสังเกตได้ว่าโครงการจะเลือกใช้เป็นบานเลื่อน 3 ตอนทั้งหมดเลย ทำให้เราเปิดประตูได้กว้างขึ้น อีกทั้งได้ความโปร่งโล่งด้วยค่ะ

ระเบียงจะมีขนาด 1.10×1.40 เมตร ซึ่งทางโครงการแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน ทำให้เราใช้พื้นที่ด้านล่างได้จริง สามารถตั้งเครื่องซักผ้า ราวตากผ้า ปลูกต้นไม้หรือวางอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงอย่างแผ่นรองซับได้ด้วย ส่วนตัวราวกันตกจะออกแบบเป็นระแนงเหล็กสีดำ ที่ช่วยพรางสายตาจากด้านนอก ได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้น

สำหรับห้องพักอาศัยในบางอาคารของโครงการนี้ที่เริ่มตั้งแต่ชั้น 1 เลย จะออกแบบระแนงระเบียงสูงเต็มความสูงห้อง เพื่อความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย เพราะว่าอยู่ติดกับสวนส่วนกลางนั่นเอง แต่ระเบียงของห้องพักอาศัยชั้นอื่นๆจะมีเว้นช่องเหมือนห้องตัวอย่างนี้ ที่เปิดรับวิวได้ค่ะ


1 Bedroom Extra พื้นที่ใช้สอย 27.40 ตร.ม.

แบบห้อง 1 Bedroom Extra จะมีจำนวนเยอะที่สุดในโครงการค่ะ ด้วยความโดดเด่นเรื่องครัวปิดติดระเบียงและห้องน้ำที่เข้า-ออกได้ 2 ทาง ทำให้ใช้งานได้สะดวก และตำแหน่งห้องที่หันหน้าเข้ามา Court ส่วนกลางโครงการ ทำให้ได้วิวส่วนกลางนั่นเอง งั้นเราจะพามาดูจุดเด่นของแบบห้องนี้กันค่ะ

  • พื้นที่ห้องนั่งเล่นและรับประทานอาหาร มีพื้นที่ขนาดใหญ่และโปร่ง วางเฟอร์นิเจอร์ได้ยืดหยุ่น
  • ห้องครัวแบบปิด ติดระเบียง สามารถทำอาหารได้จริงจัง รวมถึงเปิดประตูระบายกลิ่นและควันไปทางระเบียงได้เลย
  • ระเบียง ใช้พื้นที่ด้านล่างได้จริง สามารถที่ตั้งเครื่องซักผ้าได้ เพราะว่าแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน
  • ห้องนอนขนาดใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอยภายในห้องเยอะ
  • ห้องน้ำเข้า-ออกได้ 2 ทาง สามารถเข้าได้จากพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอน ทำให้ใช้งานได้ง่าย เป็นส่วนตัว เวลามีเพื่อนแวะมานั่งเล่นที่ห้อง

สำหรับแบบห้องนี้จะเดินเข้ามาแล้วเจอกับพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารที่ออกแบบเป็น Open Plan พื้นที่เชื่อมต่อกัน ทำให้พื้นที่ภายในห้องดูโปร่งโล่งดีค่ะ โดยจะมีขนาดอยู่ที่ 2.50×3.10 เมตร

ทางโครงการจะมีชั้นวางรองเท้า ชั้นวางทีวีและโซฟา 2 ที่นั่งมาให้ แต่หน้าตาเฟอร์นิเจอร์จะเป็นอีกแบบ ไม่เหมือนกับห้องนี้นะคะ อันนี้ทางโครงการตกแต่งมาให้เป็นไอเดียค่ะ ส่วนเครื่องปรับอากาศจะติดตั้งมาให้ 2 เครื่อง ตรงบริเวณพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอน

สำหรับระยะดูทีวีอยู่ที่ 2.20 เมตร เหมาะวางทีวีขนาด 50 นิ้วขึ้นไปได้ จะได้ดูซีรี่ส์หรือเล่นเกมแบบจอใหญ่ๆ เต็มตาเลย รวมถึงมีพื้นที่วางโต๊ะกลางได้ด้วย ส่วนตรงผนังก็ติดราวแขวนกระเป๋าและหมวกต่างๆที่ใช้บ่อยๆเพิ่มได้ ก็ใช้งานได้สะดวกเวลาเข้า-ออกห้องค่ะ

ตรงข้างๆชั้นวางทีวีจะมีชั้นวางรองเท้าที่ทางโครงการแถมมาเหมือนภาพด้านขวาเลย จะเป็นชั้น 3 ช่อง ไม่มีบานปิด แต่ทางโครงการตกแต่งชั้นวางรองเท้าให้ตามภาพด้านซ้าย โดยติดหน้าบ้านและทำ Built-in เป็นชั้นวางของยาวไปถึงเพดานเลย ก็เป็นไอเดียให้ไปแต่งตามกันได้ค่ะ

พื้นที่รับประทานอาหารจะอยู่ระหว่างพื้นที่นั่งเล่นและห้องครัว ทำให้เราทำอาหารและจัดเสิร์ฟและเก็บล้างได้สะดวกค่ะ โดยโครงการจะให้โต๊ะสำหรับนั่งรับประทานอาหารและเก้าอี้ 1 ตัว ซึ่งหน้าตาเฟอร์นิเจอร์จะได้เป็นอีกแบบนะคะ

ทางโครงการทำ Built-in ชั้นวางของตรงบริเวณพื้นที่นั่งรับประทานอาหารมาให้เป็นไอเดีย นำไปปรับใช้กันได้ สำหรับใครที่มีของสะสม หรือจะทำเป็นตู้มีบานปิดสำหรับเก็บของก็ได้ ห้องก็ดูเรียบร้อยสวยงามดี

ห้องครัวเป็นแบบปิดที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ทำให้เวลาที่เราทำอาหารไม่มีกลิ่นและควันลอยเข้าไปติดเฟอร์นิเจอร์ด้านในห้องค่ะ

ห้องครัวมีขนาด 1.40×2.50 เมตร ที่ทางโครงการได้ทำ Built-in เคาน์เตอร์ครัวและชั้นวางของด้านบนมาให้แล้ว พร้อมมีพื้นที่ด้านข้างวางตู้เย็นได้ โดยจะมีพื้นที่ยืนประกอบอาหารประมาณ 0.80 เมตร

นอกจากนั้นยังเป็นห้องครัวแบบปิด ติดระเบียงที่เป็นแบบห้องที่ไม่ค่อยมีในคอนโด Kave TU และ Kave Ava ของทาง AssetWise เลย จึงเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารเองหรือไม่ชอบให้กลิ่นอาหารลอยเข้าไปในห้องค่ะ

Image 1/3
เคาน์เตอร์ Built-in ที่ทางโครงการให้มา เก็บของได้ทั้งตู้ด้านบนและล่างเลย

เคาน์เตอร์ Built-in ที่ทางโครงการให้มา เก็บของได้ทั้งตู้ด้านบนและล่างเลย

ทางโครงการมี Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้เหมือนห้องก่อนหน้านี้เลย แต่ว่าแบบห้องนี้จะมีความกว้างของเคาน์เตอร์และชั้นวางของด้านบนที่กว้างกว่า ส่วนสีหน้าบานเคาน์เตอร์ก็จะแตกแต่งกันไปในแต่ละห้องนะคะ

เคาน์เตอร์มีอ่างล้างจานแบบหลุมเดี่ยวจาก TEKA ส่วนด้านหลังเคาน์เตอร์มีติด Backsplash มาให้ รวมถึงด้านล่างอ่างล้างมือมีติดตั้งถังขยะมาให้เหมือนแบบห้องอื่นๆค่ะ

ส่วนระเบียงจะอยู่ติดกับห้องครัวเลย ทำให้เปิดประตูเพื่อระบายกลิ่นและควันในห้องครัวได้ โดยไม่จำเป็นต้องติดเครื่องดูดควัน ช่วยให้ประหยัดเงินไปได้ด้วย

ระเบียงมีขนาด 1.10×1.40 เมตร มีพื้นที่ตั้งเครื่องซักผ้าหรือปลูกต้นไม้ได้ เพราะว่าทางโครงการได้แขวน Condensing Unit ไว้ด้านบนนั่นเอง

ถัดจากห้องครัวจะเป็นห้องนอนและห้องน้ำที่เข้า-ออกได้จากห้องนอนและพื้นที่นั่งเล่นค่ะ โดยเราจะพาไปดูห้องนอนกันก่อนนะคะ

ห้องนอนมีขนาด 2.55×4.00 เมตร โดยทางโครงการให้มาทั้งฐานเตียงนอน 5 ฟุต ตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะแต่งหน้า ตั้งอยู่บริเวณเดียวกันเลย ไม่ได้มีแบ่งเป็นห้องแต่งตัวเหมือนห้อง 1 Bedroom ค่ะ จึงเหมาะกับคนที่ไม่ได้มีเสื้อผ้าเยอะมากนักค่ะ

เมื่อดูจากพื้นที่ห้องตัวอย่างแล้วก็ยังมีพื้นที่ว่างเหลืออยู่เยอะเลย ทำให้ใครที่มีสัตว์เลี้ยงอยู่ด้วย ก็วางเบาะนอน ถาดอาหารและของเล่นของน้องๆในห้องได้ค่ะ

ฐานเตียงนอนที่ทางโครงการให้มาก็มีช่องเก็บของด้านล่าง ไว้เก็บหนังสือ หรือ ถาดอาหารและของเล่นของสัตว์เลี้ยงได้ค่ะ

สำหรับใครที่ติดดูทีวีก่อนนอน ก็แนะนำให้ใช้ทีวีแบบแขวนนะคะ เพราะว่าจะได้มีพื้นที่เดินตรงปลายเตียง เข้าไปเปิด-ปิดผ้าม่าน เช็ดกระจกหน้าต่างหรือเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้สะดวกดี ตำแหน่งเตียงก็จัดไว้ใกล้หน้าต่าง ไว้ชมวิวสวนส่วนกลางได้ รวมถึงให้แสงส่องเข้ามาในห้องได้ด้วย

ถัดจากเตียงนอนก็เป็น Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะแต่งหน้า แต่ทางโครงการเปลี่ยนโต๊ะแต่งหน้าเป็นโต๊ะทำงานแทนนะคะ เป็นไอเดียให้สำหรับคนที่ไม่ได้มีเครื่องสำอางหรือ Skin Care เยอะค่ะ

ตู้เสื้อผ้าก็ออกแบบเหมือนแบบห้องอื่นๆเลย ภายในตู้มีราวแขวนเสื้อผ้าและแบ่งช่องเก็บเสื้อผ้าหรือกระเป๋าอยู่ด้านบนด้วย ส่วนบานตู้ก็เป็นบานทึบลายไม้และบานกระจก ซึ่งเรามองว่าการออกแบบบานตู้เป็นกระจกนี้ ที่ทำให้เลือกหาเสื้อผ้าได้ง่ายๆ เป็นการออกแบบที่เหมาะกับแบบห้องนี้ที่เพื่อนหรือแขกไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนเรานั่นเองค่ะ โดยมีพื้นที่ยืนแต่งตัวหน้าห้องน้ำประมาณ 0.95 เมตร

ห้องน้ำมีขนาด 1.50×2.50 เมตร มีแบ่งโซนแห้งและเปียกอย่างชัดเจน เราจะได้สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำครบตามห้องตัวอย่างแบบนี้เลยค่ะ

เลือกใช้ก๊อกน้ำ อ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์จาก COTTO และทางโครงการออกแบบมีช่องเก็บของด้านล่างอ่างล้างมือ สำหรับเก็บพวกอุปกรณ์เครื่องใช้ในห้องน้ำได้ด้วย

ฉากกั้นอาบน้ำจะเป็นแบบบานเลื่อน 3 ตอน จาก ShowerKing ทำให้เปิดออกได้กว้างมากขึ้น เดินเข้า-ออกก็จะสะดวกดี  รวมถึงทำให้น้ำไม่กระเด็นไปเลอะส่วนอื่นๆด้วย

พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.90×1.00 เมตร ภายในมี Hand Shower จาก American Standard และก๊อกน้ำจาก Prema พร้อมผนังข้างๆมีการเจาะช่องให้เราสามารถวางอุปกรณ์อาบน้ำและหยิบใช้งานได้ง่าย

จากที่เราได้บอกไปนะคะว่าห้องน้ำนี้จะเข้า-ออกได้ 2 ทาง ทั้งจากพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอน ทำให้เวลามีเพื่อนแวะมานั่งทำงานกลุ่มหรือนั่งเล่นก็เข้าห้องน้ำได้ โดยไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนเรานั่นเอง ทำให้เราได้ความเป็นส่วนตัวด้วย


เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Extra ที่เราได้พาไปเจาะลึกกัน หากใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ อยากดูแบบห้องอื่นอีก เราก็ได้เก็บภาพบรรยากาศของห้องตัวอย่าง 1 Bedroom Exclusive และ 1 Bedroom Plus มาให้ด้วยนะคะ

1 Bedroom Exclusive พื้นที่ใช้สอย 25.90 ตร.ม.

แบบห้อง 1 Bedroom Exclusive นี้ จะจัดวางฟังก์ชันห้องคล้ายกับ 1 Bedroom Extra แต่จะแตกต่างที่เน้นพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ ส่วนพื้นที่ห้องนอนจะมีขนาดพอดีๆ และห้องน้ำที่เข้าออกได้เพียงทางเดียว แบบปกติทั่วไปค่ะ


1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.60 ตร.ม.

แบบห้องสุดท้ายเป็น 1 Bedroom Plus ที่เป็นแบบห้องขนาดใหญ่สุดของโครงการ ที่ออกแบบแตกต่างทั้งห้องครัวที่มีเคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L พื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ ห้องน้ำเข้า-ออกได้ 2 ทาง และห้องอเนกประสงค์ติดระเบียง ที่ปรับเป็นห้องอ่านหนังสือ ห้องทำงานหรือห้องเลี้ยงสัตว์ได้นั่นเอง

Image 1/18
พื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารขนาดใหญ่

พื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารขนาดใหญ่

ราคา

Kave Wonderland (เคฟ วันเดอร์แลนด์) ราคา ณ วันที่ 15 มกราคม 2567

  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 23.10 – 24.40 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.59 – 2.03 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Exclusive พื้นที่ใช้สอย 25.70 – 27.70 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.91 – 2.14 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Extra พื้นที่ใช้สอย 27.10 – 28.40 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.12 – 2.45 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.30 – 35.70 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.63 – 3.03 ล้านบาท

 

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished ได้แก่ ตู้รองเท้า, ชั้นวางทีวี, โซฟา, เคาน์เตอร์ครัว พร้อมอ่างล้างจานและชั้นเก็บของด้านบน, โต๊ะรับประทานอาหารและเก้าอี้, ฐานเตียง 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะแต่งหน้า (ดีไซน์เฟอร์นิเจอร์และจำนวนชิ้นขึ้นอยู่กับแบบห้อง)
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร
  • ชุดครัว Top Counter หินสังเคราะห์ พร้อมอ่างล้างจาน จาก TEKA
  • ก๊อกน้ำ, อ่างล้างมือ และ โถสุขภัณฑ์ จาก COTTO
  • ฝักบัว จาก American Standard และ Prema
  • ฉากกั้นกระจกอาบน้ำ จาก ShowerKing
  • เครื่องปรับอากาศแบบ Wall Type จาก Daikin (จำนวนชิ้นขึ้นอยู่กับแบบห้อง)
  • รถ Shuttle Bus รับ-ส่งฟรี ที่สะพานลอยหน้าโครงการ ข้ามไปประตูเชียงราก 2 และสะพานลอยข้ามไปประตูเชียงราก 1
  • ค่าจองและทำสัญญา 20,000 – 30,000 บาท
  • ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 21 งวด
  • ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ 2% ของราคาประเมิน (ชำระคนละครึ่ง)
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม. ชำระครั้งเดียว
  • ค่าส่วนกลาง 49 บาท/ตร.ม./เดือน โดยเรียกเก็บล่วงหน้า 1 ปี

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :

โครงการ Kave Wonderland (เคฟ วันเดอร์แลนด์) ตั้งอยู่บนถนนเชียงราก เยื้องๆกับประตูเชียงราก 2 ของ ม.ธรรมศาสตร์ และ U-Square โดยเป็นโซนที่อยู่ถนนฝั่งตรงข้ามมหาลัยแบบนี้ก็จะมีความเงียบสงบและไม่พลุกพล่านเหมือนฝั่งเดียวกับมหาลัย โดยทางโครงการกำลังก่อสร้างสะพานลอยด้านหน้าโครงการให้เดินข้ามไปก็เข้าม.ได้เลย ตอบโจทย์ทั้งนักศึกษา บุคลากร และพนักงานของมหาวิทยาลัย โรงพยาบาล สวทช. ไปจนถึงนิคมอุตสาหกรรมนวนครที่อยู่ไม่ไกล นอกจากนั้นความอุดมสมบูรณ์โดยรอบมหาวิทยาลัยก็คึกคักอยู่แล้ว โดยเฉพาะบริเวณ U-Square ที่มีร้านค้าร้านอาหารเยอะ ให้จับจ่ายซื้อของกินได้สะดวก

การเดินทางโดยใช้รถ :

โครงการอยู่ห่างจากประตูมหาวิทยาลัยประมาณ 1.6 – 3.5 กิโลเมตรเท่านั้น และรถบนถนนเชียงรากเองก็ไม่ติดเลยค่ะ ทำได้เดินทางถึงมหาวิทยาลัยได้ไม่กี่นาที แต่ภายในโครงการมีที่จอดรถ 39% รวมจอดซ้อนคัน ซึ่งเราคิดว่าก็น้อยไปหน่อยค่ะ เพราะถ้ารองรับพนักงานที่ทำงานในย่านนี้ด้วย อาจจะมีความจำเป็นต้องใช้ที่จอดรถเพิ่มมากขึ้น ส่วนใครที่จะใช้ทางด่วน ก็มีทางด่วนอุดรรัถยาที่อยู่ใกล้ที่สุด ห่างจากโครงการเพียง 3.5 กิโลเมตร กับทางยกระดับอุตราภิมุขที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 12 กิโลเมตรค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

ปัจจุบันทาง AssetWise กำลังก่อสร้างสะพานลอยตรงบริเวณด้านหน้าโครงการ เพื่อใช้ข้ามถนนไปยังประตูเชียงราก 2 ได้เลย ซึ่งคาดเสร็จ มี.ค.-เม.ย. ปีนี้ ก็จะทำให้นักศึกษาและบุคลากรใน ม.ธรรมศาสตร์ ที่อยู่ในโครงการ เดินข้ามไปได้สะดวก โดยมีระยะประมาณ 280 เมตร นอกจากนั้นยังมีรถรับ-ส่งจากโครงการออกมาส่งที่สะพานลอยและประตูเชียงราก 1 ด้วยค่ะ

วัสดุ :

รูปแบบการขายของโครงการนี้เป็น Fully Furnished ที่เราซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและชุดเครื่องนอนเพิ่มเติมนิดหน่อยก็เข้าอยู่ได้เลยค่ะ โดยปูพื้นเป็น SPC ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบ ทาสี มีไฟดาวน์ไลท์ มีสุขภัณฑ์ในห้องน้ำครบ และมีแอร์มาให้ด้วยค่ะ

การออกแบบ :

แนวคิดการออกแบบคือ Festival จึงเลือกใช้โทนสีแดง รูปข้าวหลามตัดและเส้นสายต่างๆเพื่อสื่อถึงความสนุกสนาน ตื่นเต้น มีการจำลองเต็นท์ละครสัตว์ ม้าหมุนและสไลเดอร์ใส่เข้ามาในโครงการด้วย โดยจัดเต็มพื้นที่และส่วนกลางเพื่อให้บรรยากาศที่คึกคักนั่นเอง โครงการนี้ถือว่าเป็นโครงการที่ค่อนข้างใหญ่ มีที่ดิน 14-2-52.85 ไร่ ทั้งหมด 6 อาคาร รวมทั้งหมด 1,423 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต จึงมีการวางผังอาคารทั้ง 6 อาคาร ให้ล้อมรอบพื้นที่ส่วนกลางตรงกลางอย่างสวนและสระว่ายน้ำเอาไว้ ทำให้ห้องพักที่หันเข้ามาด้านในได้วิวที่สวยงาม นอกจากนั้นยังกระจายส่วนกลางไปในแต่ละอาคารด้วย นอกจากนั้นยังมีอาคาร Pet-Friendly สำหรับคนที่เลี้ยงสัตว์ด้วยค่ะ

รูปแบบห้องเริ่มต้นคือ 1 Bedroom และแบบห้องใหญ่สุดคือ 1 Bedroom Plus ซึ่งเหมาะสำหรับอยู่อาศัย 1-2 คน ฟังก์ชันภายในห้องค่อนข้างลงตัว ได้พื้นที่ครัวปิดและมีระเบียงในทุกยูนิต โดยระเบียงทำมุมพักผ่อนได้ ไม่ใช่แค่ใช้เป็นส่วนของ Service อย่างเดียวด้วยค่ะ

สาธารณูปโภค :

ด้วยแนวคิดโครงการมาจากสวนสนุกแล้ว จึงจัดเต็มส่วนกลางมาใหญ่และมากถึง 55 รายการ และถือเป็นจุดเด่นที่สุดของโครงการนี้เลยค่ะ โดยมีพื้นที่รองรับกิจกรรมของนักศึกษาไม่ว่าจะเป็นพื้นที่นั่งทำงาน อ่านหนังสือมีอยู่ในทุกอาคารเลย นอกจากนั้นจะมี Fitness ขนาดใหญ่, ห้อง E-Sport และสระว่ายน้ำถึง 3 สระเลย เรียกได้ว่าจัดเต็มเหมือนสวนสนุกและสวนน้ำอยู่หน้าห้องจริงๆ แต่ก็ต้องแลกมากับจำนวนลูกบ้านที่ต้องมีการแชร์การใช้งานกันค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าใครที่ชอบใช้งานส่วนกลางบ่อยๆก็ถือว่าคุ้มเลย เพราะไม่ต้องออกไปเสียเงินใช้ด้านนอกโครงการเพิ่มเลยค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 90,000 บาท/ตร.ม., 15 มกราคม 2567

  • ทำเล 7.5/10 – อยู่บนถนนเชียงราก ฝั่งตรงข้าม ม.ธรรมศาสตร์ หาของกินได้ไม่ยาก และเดินทางไปเรียนได้สะดวก
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – เดินทางค่อนข้างสะดวก สามารถไปขึ้นทางด่วนได้ง่าย ถ้าขับไปมหาวิทยาลัยต้องไปกลับรถวนมาหน่อย และได้ที่จอดรถค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน
  • ไม่ใช้รถ 7.75/10 – เดินข้ามสะพานลอยหน้าโครงการไป ม.ธรรมศาสตร์ได้ในระยะ 280 เมตร และมี Shuttle Service รับ-ส่ง
  • วัสดุ 8.5/10 – Fully Furnished ได้เกรดตามมาตรฐานระดับราคานี้
  • แบบ 8.5/10 – ผังโครงการโอบล้อมส่วนกลาง แบ่งโซนการใช้งานดี ออกแบบห้องพักฟังก์ชันครบ เป็นสัดส่วน
  • สาธารณูปโภค 9/10 – ส่วนกลางมากถึง 55 รายการ กระจายอยู่ทั้ง Court กลางโครงการและภายในของทุกอาคาร

  • MAIN CLASS
  • 7.97 / 10.00

Kave Wonderland (เคฟ วันเดอร์แลนด์) เหมาะกับใคร

โครงการ Kave Wonderland (เคฟ วันเดอร์แลนด์) เหมาะกับนักศึกษาหรือบุคลากรในมหาวิทยาลัยที่หาคอนโดใกล้ ม.ธรรมศาสตร์ สามารถเดินไปเรียนได้ หรือคนที่กำลังหาที่พักใกล้ที่ทำงานในย่านนี้ รวมถึงคนที่มีสัตว์เลี้ยงด้วย ซึ่งชอบคอนโดที่มีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ เลือกใช้งานได้หลากหลาย อีกทั้งยังเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องกลางปล่อยเช่าเพื่อทำกำไร เนื่องจากหอพักทำเลนี้เป็นที่ต้องการของนักศึกษาจำนวนมาก ขนาดห้องพักอาศัยสามารถอยู่คนเดียวได้สบาย ได้ครัวปิดและมีระเบียงในทุกยูนิต มีงบเริ่มต้น 1.59-3.03 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 9,540 – 21,210 บาท/เดือน


Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่