รีวิวฉบับที่ 1924 … Kara อารีย์ – พระราม 6 เป็นคอนโด Low Rise ที่มีความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตเพียง 28 ยูนิต เน้นห้องขนาดใหญ่ 2 ห้องนอนเหมาะกับกลุ่มครอบครัวที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยในห้องเยอะๆ ไม่เน้นพื้นที่ส่วนกลาง โครงการตั้งอยู่บนถนนพระราม 6 ซอย 41 ซึ่งเราแทบจะไม่เห็นคอนโดมาขึ้นในทำเลนี้กันเท่าไหร่นะคะ ส่วนราคาเริ่มต้นนั้นอยู่ที่ประมาณ 12 ล้านบาท  ภายในโครงการจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันค่ะ

Fact @ 8 AUG 2019

  • KARA Ari – Rama6 (คาร่า อารีย์ – พระราม6)
  • บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด
  • LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ถนนพระรามที่ 6 เขต พญาไท
  • ที่ดินประมาณ 0-1-71.1 ไร่
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 28 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 4 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 28 คัน คิดเป็น 100% (Automatic Parking)
  • เริ่มก่อสร้าง :  n/a
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : สร้างเสร็จพร้อมอยู่
  • 2 Bedrooms 60.00 – 61.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 12 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 190,000 – 200,000 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • โทร  : 02-652-4000

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.790141, 100.536911
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ Kara อารีย์ – พระราม 6 ตั้งอยู่บนถนนพระรามที่ 6 ในซอยพระราม 6 41 ใกล้แยกประดิพัทธ์ จากที่ตั้งของโครงการมีถนนเส้นหลักให้เลือกหลายสาย อย่างถนนพระรามที่ 6 สามารถใช้ถนนประดิพัทธ์เชื่อมต่อไปยังถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดีรังสิตไปจนถึงรัชดาภิเษกหรือออกเมืองไปทางถนนพระราม 5 และถนนเทอดดำริได้ ข้อดีของทำเลนี้ก็คืออยู่ใกล้กับจุดขึ้นทางด่วนค่ะ จากโครงการสามารถไปขึ้นทางพิเศษศรีรัชที่ด่านคลองประปาได้ด้วยระยะทางประมาณ 700 เมตร บรรยากาศภายในซอยพระราม 6 41 เองก็เป็นซอยที่เงียบสงบ ด้านในเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบเป็นส่วนใหญ่ ถ้าจะไปหาของกินก็ต้องออกไปยังถนนประดิพัทธ์กันค่ะ

การเดินทางถือว่าสะดวกเพราะมีถนนใหญ่หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนพระรามที่ 6, ถนนพหลโยธิน, ถนนวิภาวดีรังสิต มีทางพิเศษศรีรัช ออกเมืองไปยังนนทบุรี หรือเข้าเมืองไปทางสีลม สาทรได้สะดวก นอกจากนั้นถ้ามายังถนนวิภาวดีรังสิตก็สามารถใช้ทางยกระดับอุตราภิมุขเข้าเมืองไปทางดินแดง-อโศก, ดาวคะนอง และบางนา หรือว่าจะออกนอกเมืองไปยังแถบรังสิตได้เช่นกัน

ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะ จะไม่ค่อยเหมาะกับทำเลนี้มากนัก เนื่องจากเป็นทำเลที่ไม่ได้อิงรถไฟฟ้า ห่างจากสถานีอารีย์ประมาณ 2.5 กิโลเมตร และภายในซอยพระราม 6 41 เองก็ไม่มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ สำหรับคนที่ต้องการเดินทางด้วยรถสาธารณะจะต้องออกมาเรียก Taxi ที่ถนนพระราม 6 หรือเรียกผ่าน Application แทนค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์หลักรอบๆโครงการส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่โซนอารีย์ หรือแนวถนนพหลโยธิน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากถนนพระรามที่ 6 มากนัก โดยซอยพหลโยธินฝั่งเลขคู่จะค่อนข้างเงียบสงบเพราะเป็นชุมชนอยู่อาศัยและคนส่วนใหญ่ก็มักใช้เป็นทางผ่านทางลัดซะส่วนใหญ่ แต่ซอยพหลโยธินฝั่งเลขคี่ (ฝั่งที่ใกล้กับโครงการ) จะมีร้านค้า ร้านอาหารอยู่พอสมควร นอกจากนั้นยังมีโรงพยาบาล และโรงเรียนหลายแห่ง เช่น รพ.ประสานมิตร, รพ.พญาไท 2, รพ.ราชวิถี, รร.สุรศักดิ์มนตรี, และม.หอการค้าไทย รวมถึงสถานที่ราชการและอาคารสำนักงานหลายแห่ง สำหรับรอบๆโครงการในระยะเดินนั้นไม่ค่อยมีร้านค้า ร้านอาหารมากนัก ผู้คนแถวนี้จึงมักจะไปหาของกินกันที่ซอยประดิพัทธ์ ซึ่งมีร้านอาหาร ตลาดให้จับจ่ายใช้สอยได้มากกว่าค่ะ

การเดินทางที่เราจะพาไปวันนี้เริ่มจากสถานีรถไฟฟ้า BTS อารีย์ ขึ้นเหนือไปตามถนนพหลโยธินแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอย พหลโยธิน 11 หรือซอยเสนาร่วมไปทะลุออกถนนพระราม 6 แล้วจะเห็นโครงการทางด้านซ้ายมือ บริเวณพระราม 6 ซอย 41 ค่ะ

ขอเริ่มจากเดินทางมาลงที่ BTS สถานีอารีย์ กันก่อนนะคะ สำหรับใครที่ไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัวสามารถเดินทางตามเส้นทางนี้ได้เลยค่ะ

เดินลงมาแล้วให้เราเดินทางไปยังทางออกที่ 3 นะคะ เพราะเราจะเดินทางต่อไปยังซอยพหลโยธิน 11 ค่ะ ภายในสถานีเองก็จะมีร้านค้า ร้านขนมให้เลือกซื้อกันได้เพลินๆค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบสถานี BTS อารีย์ ประกอบไปด้วย Community Mall หลักของอารีย์ La Villa Ari ซึ่งจะตั้งอยู่ฝั่งพหลโยธินซอยเลขคู่ ภายในมี Villa Market เป็นแหล่งซื้อของกินของใช้ทั้งในไทยและต่างประเทศมาให้เลือกกันค่ะ

ฝั่งถนนพหลโยธินฝั่งเลขคี่ ซึ่งเป็นฝั่งที่เราจะพาไปวันนี้ ก็จะมี ร้านค้า, ร้านอาหาร, 7-eleven และแผงลอยต่างๆ ให้คึกคักอยู่พอสมควรเลย ภายในซอยอารีย์เองก็มีความอุดมสมบูรณ์อยู่หลากหลายทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านนั่งชิลยามราตรีด้วยค่ะ

เมื่อเราเดินลงมาแล้วจะเจอกับวินมอเตอร์ไซค์ สามารถเรียกวินตรงนี้ไปยังโครงการได้ค่ะ

ทางที่เราจะไปกันคือมุ่งหน้าตามถนนพหลโยธินไปยังสะพานควาย

จะมีป้ายซอยลัดไปออกถนนพระรามที่ 6 ได้หลายซอยเลยค่ะ

เมื่อเราตรงมาเรื่อยๆ ก็จะผ่านอาคารสำนักงาน และสถานที่ราชการอย่างกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนอยู่ฝั่งซ้ายมือ ให้เราตรงไปอีกค่ะ

ตรงมาเรื่อยๆก็จะผ่านอาคารชินวัตร 2 ให้เราตรงไปเรื่อยๆ จนถึงซอยพหลโยธิน 11 ค่ะ

เมื่อมาถึงซอยพหลโยธิน 11 หรือซอยเสนาร่วม ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอย เราจะใช้ซอยนี้เพื่อทะลุไปยังถนนพระรามที่ 6 ค่ะ

หน้าปากซอยเสนาร่วมเองก็มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่เช่นกันค่ะ ให้เราตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 1 กิโลเมตรค่ะ

ตรงเข้าซอยมาจนสุดซอยจะเจอกับถนน ซอยประดิพัทธ์ 4 ให้เราเลี้ยวซ้าย

วิ่งตามถนนซอยประดิพัทธ์ 4 แล้วชิดขวาเพื่อกลับรถไปยังถนนพระรามที่ 6 ค่ะ

เมื่อเจอสะพานกลับรถให้เลี้ยวขวาข้ามสะพานเพื่อจะกลับรถ

ข้ามสะพานมาแล้วให้เลี้ยวขวาเข้าถนนพระรามที่ 6

วิ่งตรงไปตามถนนพระรามที่ 6 ให้ชิดซ้ายไว้ค่ะ

ตรงจากจุดกลับรถมาประมาณ 100 เมตร ก็จะเห็นซอย 41 อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าพระราม 6 ซอย 41 ค่ะ

เราจะเห็นโครงการจากด้านหน้าพระราม 6 ซอย 41 เลยค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ Kara อารีย์ – พระราม 6 เป็นอาคาร Low Rise เป็นส่วนใหญ่ ไม่มีอาคารสูงอยู่ใกล้ๆมากนัก ล้อมรอบโครงการเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น และอาคารพักอาศัยสูง 3- 5 ชั้น ทำให้วิวจากภายในโครงการเมื่อมองออกไปด้านนอกค่อนข้างโล่ง ไม่มีอาคารสูงมาบดบังวิวและทิศทางลมเข้าค่ะ

  • ทิศเหนือ ติดกับ บ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินเปล่า และ ถนนพระรามที่ 6
  • ทิศใต้ ติดกับ พระราม 6 ซอย 41 และอาคารสูง 3 – 5 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านพักอาศัย สูง 2 ชั้น

ทิศตะวันออก ของโครงการติดกับพื้นที่ดินโล่งของสาธารณะ และถนนพระรามที่ 6

ทิศเหนือ ติดกับพื้นที่บ้านพักอาศัย สูงประมาณ 2 ชั้น

ทิศใต้ เป็นด้านหน้าโครงการติดกับพระราม 6 ซอย 41

ฝั่งตรงข้ามทางทิศใต้ เป็นอาคารสูง 3 – 5 ชั้น

ทางทิศตะวันตก ติดกับบ้านพักอาศัยสูงประมาณ 2 ชั้นค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • TIPCO ~ 350 เมตร
  • รร.สามเสนวิทยาลัย ~ 750 เมตร
  • รพ.วิชัยยุทธ ~ 1.0 กิโลเมตร
  • สำนักงบประมาณ ~ 1.5 กิโลเมตร
  • สถานีกลางบางซื่อ ~ 1.8 กิโลเมตร
  • ตลาดนัดจตุจักร ~ 2.6 กิโลเมตร
  • LA Villa ~ 2.6 กิโลเมตร
  • รพ.รามาธิบดี ~ 3.3 กิโลเมตร
  • กระทรวงการต่างประเทศ ~ 4.0 กิโลเมตร


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ Kara อารีย์-พระราม 6 เป็นโครงการคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ที่ออกแบบมาเพื่อกลุ่มลูกค้าที่เป็นครอบครัว ต้องการพื้นที่ใช้สอยภายในห้องเยอะ ไม่เน้นพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่หาได้ยาก (Rare Item) เลยค่ะ เนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่รายล้อมด้วยโรงพยาบาล, โรงเรียน และไม่ไกลจากสำนักงาน บุคคลากรที่ทำงานอย่างคุณหมอ, ผู้บริหาร ที่อยากได้ที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงาน โครงการนี้จึงตอบโจทย์ค่ะ ด้วยการที่ทำออกมาเป็นห้องใหญ่ (2 Bedroom 60 ตารางเมตร) ทั้งหมด และพื้นที่โครงการจำกัด จึงทำให้มีจำนวนยูนิตต่อชั้นน้อยมากๆเพียง 4 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากโครงการอื่นๆที่ซอยเป็นห้องเล็กๆ จึงทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูงค่ะ

โครงการนี้มีขอบเขตที่ดินเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดประมาณ  171 ตารางวา มีทางเข้า-ออกอยู่ในซอย พระราม6 41  ชั้น 1 จะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด ซึ่งสามารถจอดรถได้ทั้ง Conventional และ Automatic Parking รวม 28 คัน หรือ 100% เลยค่ะ  สำหรับใครที่เดินทางด้วยรถสาธารณะหรือเดินจะสามารถเดินเข้าอาคารไปยัง Lobby ได้เลย ภายใน Lobby ก็จะมีที่นั่งพักคอย และจุดสแกนบัตรเพื่อมารับรถจาก  Automatic Parking ได้ค่ะ ส่วนโถงลิฟต์จะอยู่กลางอาคาร มีลิฟต์โดยสารมาให้ 2 ตัว ทำให้อัตราส่วนลิฟต์เฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ที่ 14 : 1 ถือว่าน้อยมากๆ ทำให้เราไม่ต้องรอลิฟต์นานเลย บรรยากาศภายในโครงการจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันค่ะ

บรรยากาศทางเดินเข้าโครงการไปยัง Lobby เราจะเห็นชื่อของโครงการก่อน ถัดมาจะเป็นประตูทางเข้าสำหรับคนเดินที่ดีไซน์เป็นระแนงล้อไปกับรั้วของโครงการค่ะ

ถัดมาอีกหน่อยจะเป็นทางเข้ารถยนต์ สำหรับคนที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวนะคะ ตรงนี้จะมีประตูรั้วเปิด-ปิดและมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ

ป้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะอยู่ทางขวามือ คอยดูแลผู้ที่เข้า-ออกโครงการ และมี CCTV ติดตั้งมาให้ค่ะ

ด้านในฝั่งขวามือจะเป็นที่จอดรถแบบ Conventional ประมาณ 4 – 7 คัน แต่จะเป็นแบบ Out Door นะคะ ฝนตกอาจจะต้องกางร่มเพื่อเดินเข้าอาคารค่ะ

เข้ามาด้านในโครงการฝั่งขวาจะมีทางเข้าไปยังส่วนของ Lobby และที่จอดรถแบบ Automatic Parking ค่ะ

การจอดรถที่ Automatic Parking  จะต้องรอสัญญาณให้ประตูเปิด แล้วเข้าไปจอดด้านใน พอเราเก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้วให้ออกมาแตะบัตรด้านนอก ถาดจอดรถจะยกเราขึ้นไปที่ชั้นจอด เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ สามารถจอดได้ทีละ 1 คัน

ฝั่งขวาเป็นประตูทางเข้าไปยัง Lobby Lounge ค่ะ

เรามาดูทางเข้า Lobby จากด้านหน้าโครงการกันค่ะ เข้ามาจะมีพื้นที่นั่งพักคอย และส่วน Office สำหรับนิติบุคคล

บรรยากาศภายใน Lobby จะเน้นโทนสีขาวสะอาดตา มีผนังกระจกเต็มบานทั้ง 2 ด้านทำให้แสงเข้ามาได้มาก และมีเก้าอี้นั่งเป็นส่วนๆ สำหรับนั่งรอรับรถจาก Automatic Parking ได้

การรับรถก็สามารถทำได้ไม่ยากโดยการแตะบัตรที่จุดสแกน ระบบจะบอกคิวและระยะเวลาในการรอให้ค่ะ โดยรวมแล้วจะไม่เกิน 3 นาที แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาเร่งด่วนด้วยค่ะ

เดินเข้ามาจะเจอกับโถงฝั่งขวาสามารถออกไปยังลานจอดรถได้ ส่วนประตูทางฝั่งซ้ายเป็นทางเข้าโถงลิฟต์ค่ะ

ประตูทางเข้าโถงลิฟต์จะต้องแตะ Key Card ก่อนเข้า ช่วยคัดกรองความปลอดภัยได้ค่ะ

เข้ามาภายในโถงลิฟต์แล้วจะเจอกับ Mail Box และลิฟต์โดยสาร 2 ตัว ทำให้มีอัตราส่วนลิฟต์เพียง 14 : 1 ถือว่าน้อยมากๆ ทำให้ไม่ต้องรอลิฟต์นานในช่วงเวลาเร่งด่วนค่ะ

Mail Box จะอยู่จุดเดียวกันทั้ง 28 ยูนิตสามารถรับจดหมายได้สะดวกก่อนขึ้นห้องเลยค่ะ

ชั้นพักอาศัยจะอยู่ที่ชั้น 2 – 8 จะมี Layout ที่เหมือนกันค่ะ โดยแต่ละชั้นจะมีจำนวนยูนิตเพียง 4 ยูนิตเท่านั้น และการวางผังให้มีโถงลิฟต์ตรงกลางและมีห้องพักอาศัยโดยรอบจึงทำให้มีโถงทางเดินแบบ Single Corridor และแต่ละยูนิตเดินไม่ไกลจากโถงลิฟต์ค่ะ ส่วนห้องพักอาศัยจะแบ่งเป็น 4 แบบ ห้องที่ติดกับ Automatic Parking จะได้ผนัง 2 ชั้นช่วยกันเสียงไม่ให้เข้ามารบกวนภายในห้อง มีห้องมุมอาคาร 3 ยูนิต จะได้ช่องแสงทั้ง 2 ฝั่งค่ะ

บรรยากาศโถงลิฟต์ชั้นพักอาศัย เน้นเป็นโทนสีขาวเรียบสะอาดตา มีช่องแสงและช่องเปิดระบายอากาศ 1 จุด ให้โถงทางเดินไม่อึดอัดนักค่ะ

เนื่องจากมีจำนวนยูนิตต่อชั้นน้อย จึงมีโถงทางเดินที่ไม่ไกลมากนัก ให้บรรยากาศค่อนข้างอบอุ่นคล้ายกับอยู่บ้านค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby Lounge
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 14 :  1
  • Service Lift – ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 28 คัน คิดเป็น 100% (Automatic Parking)
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card


Product Walkthrough

มาดูแปลนห้องกันก่อน ห้องนี้มีขนาด 60.00 ตารางเมตร มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ เป็นห้องหน้ากว้าง มีการวางผังโดยเน้นที่ใช้สอยภายในห้องให้คุ้มค่า พื้นที่ระเบียงจึงทำออกมาไม่ใหญ่เท่าไหร่ มีฟังก์ชั่นเอาไว้ซักล้างและวาง Condensing Unit มากกว่าค่ะ  มีส่วน Common Area อยู่ตรงกลาง เข้ามาแล้วจะเจอกับส่วนครัวก่อน ครัวที่ได้เป็นครัวเปิดมีเคาน์เตอร์เป็นครัวรูปตัว L และมี Island อยู่ตรงกลางที่สามารถปรับเป็นโต๊ะรับประทานอาหารได้ พื้นที่ครัวจะเชื่อมต่อไปยังห้องนั่งเล่น และมีช่องแสงใหญ่ตรงกลางทำให้ห้องดูโปร่ง กว้างพอสมควรเลย ส่วนห้องนอนจะแยกออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งซ้ายเป็นห้องนอน Master Bedroom มีห้องน้ำในตัว เพื่อความสะดวกในการใช้งาน และฝั่งขวาเป็นห้องนอนเล็ก ซึ่งจะใช้ห้องน้ำรวมกับพื้นที่ Common Area โดยรวมแล้วห้องนี้เหมาะกับคนที่อยู่ 2-4 คน เป็นครอบครัวเล็กๆที่ต้องการขยับขยายพื้นที่ ชอบห้องนั่งเล่นและครัวกว้าง ไม่ใช้งานระเบียง และต้องการความเป็นส่วนตัวของห้องนอน เป็นต้นค่ะ

ประตูทางเข้าด้านหน้าเป็นบานไม้กรุด้วยลามิเนตลายไม้ วงกบสีน้ำตาลแบบเดียวกับในรูปเลยค่ะ มี Digital Door Lock จาก Dormakaba มาให้ด้วย

Digital Door Lock สามารถรองรับได้ 3 ระบบ คือ Key card, รหัส และใช้กุญแจ สำรองในกรณีที่แบตหมดได้ค่ะ

เข้ามาภายในห้องจะเห็นพื้นที่ครัวเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น และได้แสงธรรมาติเข้ามาจากช่องแสงใหญ่เกือบเต็มผนังค่ะ ห้องนี้จะได้ความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.40 เมตร พื้นส่วนครัวปูกระเบื้องแกรนิตโต้มาให้ ทำให้ทำความสะอาดได้ง่าย และพื้นห้องปูพื้นลามิเนตหนา 12 มม. มาให้ค่ะ ส่วนฝ้าเพดานจะได้ฝ้าหลุมซ่อนไฟมาให้แบบเดียวกับห้องตัวอย่างเลยค่ะ ทำให้ห้องสวยงามและมีมิติมากขึ้น

มาดูครัวกันค่ะ สำหรับครัวของห้องนี้จะได้เป็นครัวเปิด ซึ่งเหมาะกับการซื้ออาหารเข้ามาทานในห้องหรือทำอาหารที่มีกลิ่นไม่แรงมากนัก เพราะกลิ่นอาจจะฟุ้งกระจายภายในห้องได้ เคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L และ Island ตรงกลางให้มาเหมือนกับห้องตัวอย่างเลยค่ะ

Island ตรงกลางสามารถใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารและโต๊ะรับประทานอาหารได้ในตัวเลย เพราะมีดีไซน์ Top ยื่นออกมารองรับเก้าอี้ สำหรับนั่งสอดขาได้สบายๆค่ะ ในส่วนของพื้นครัวน่าจะยื่นออกไปครอบคลุม Island สักหน่อยเพื่อการทำความสะอาดที่ง่ายขึ้น

Top ของ Island เป็นหินสังเคราะห์สีขาว เหมือนกับเคาน์เตอร์ครัวนะคะ จะสังเกตได้ว่ามีดีไซน์ที่เน้นความเรียบให้ดูเหมาะกับระดับ Luxury ไม่มีมือจับที่บานเปิดต่างๆ จะใช้การเว้าเข้าด้านในเพื่อให้เปิดบานได้สะดวกแทน เมื่อเปิดออกมาแล้วจะเป็นช่องสำหรับเก็บของ 2 ชั้น มีชั้นวางจานสเตนเลสมาให้ด้วยค่ะ

ส่วนเคาน์เตอร์จะมีระยะเดินทำครัวอยู่ที่ประมาณ 1.00 เมตร เดินผ่านได้สบายๆค่ะ

มาดูเคาน์เตอร์ครัวด้านข้างกันก่อนนะคะ ตรงนี้จะมีช่องเว้นด้านล่างสำหรับวางเครื่องซักผ้ามาให้ด้วย และใต้อ่างล้างจานเป็นช่องเก็บของพร้อมถังขยะภายในตัว ส่วนด้านบนเป็นชั้นเก็บของ หน้าบาน Hi Gloss และติดตั้ง Soft Close มาให้ทุกบาน ช่วยลดการกระแทกและเสียงดังจากการเปิด-ปิดได้

เคาน์เตอร์ครัวมี Top เป็นหินสังเคราะห์ สีขาว ติดตั้งอ่างล้างจานสเตนเลสมาให้จาก Teka และด้านหลังมี Backsplash เป็นกระจกเงามาให้ ทำความสะอาดได้ง่ายและช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้นด้วยค่ะ

ส่วนเคาน์เตอร์ด้านยาวจะมีเครื่องใช้ไฟฟ้าติดตั้งมาให้ 3 อย่าง คือ เตาอบ, เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันจาก Teka เนื่องจากเป็นเคาน์เตอร์ยาว จึงมีพื้นที่ด้านข้างสำหรับเตรียมอาหารค่อนข้างเยอะเลยค่ะ ส่วนด้านหลังติดตั้ง Backsplash กระจกเงามาให้เช่นกันค่ะ

เตาไฟฟ้าที่ได้เป็นเตา 4 ตัว มีเครื่องดูดควันแบบดูดลมออกด้านนอก ติดตั้งมาให้ด้านบน และที่ชั้นเก็บของด้านล่างมีเตาอบมาให้ สามารถใช้ได้ 2 ระบบ คือเป็นเตาอบและเตาไมโครเวฟได้ในตัวค่ะ

ด้านบน Built-in เป็นช่องเก็บของทั้งหมด หน้าบาน Hi Gloss และติด Soft Close มาให้ ส่วนด้านล่างจะเป็นลิ้นชักเก็บของเป็นส่วนใหญ่ค่ะ สะดวกในการใช้งาน และช่วยลดพื้นที่ด้านหน้าเวลาเลื่อนเปิดด้วยค่ะ

มีช่องเก็บอุปกรณ์ หรือเครื่องปรุงต่างๆภายในลิ้นชักมาให้ เพื่อความสะดวกเวลาทำอาหารค่ะ

ด้านข้างมีช่องสำหรับวางตู้เย็นมาให้ ประมาณ 75 เซนติเมตร มีช่องเก็บของด้านข้างด้วยตรงนี้สามารถใช้เก็บรองเท้าตอนเข้าห้องมาได้ค่ะ

ห้องนั่งเล่นได้ฝ้าหลุมซ่อนไฟมาให้ และมีช่องแสงขนาดใหญ่เต็มผนัง ทำให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาให้ห้องได้มาก และมองเห็นวิวได้กว้างค่ะ พื้นที่ส่วนนั่งเล่นนี้กว้างประมาณ 3.50 เมตร เหมาะกับการวาง TV ประมาณ 40 นิ้วค่ะ

ผนังฝั่ง TV กว้างประมาณ 2.60 เมตร สามารถ Built-in เป็นชั้นเก็บของเพิ่มเติมได้นะคะ

ส่วนพื้นที่วางโซฟา สามารถวางได้ถึง 3-4 ที่นั่ง ถ้าใครชอบวางโต๊ะหรือเครื่องเสียงด้านข้าง ก็สามารถทำได้โดยเลือกโซฟาที่เล็กลงหน่อยค่ะ ส่วนโต๊ะกลางมีพื้นที่วางได้โดยไม่ขวางทางเดินค่ะ

มาดูห้องน้ำกันบ้างห้องนี้เป็นห้องที่ใช้รวมกันระหว่าง Common Area และห้องนอนเล็กนะคะ ประตูห้องน้ำเป็นบานไม้สีขาว และมีมีจับเป็นสเตนเลสค่ะ

ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งมาให้ชัดเจน พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้านมาให้ ช่วยให้ไม่ลื่นเวลามีน้ำขังอยู่ค่ะ ส่วนผนังใช้กระเบื้องเงาลายหินดูสวยงามค่ะ

พื้นห้องน้ำลดระดับลงจากพื้นห้องเล็กน้อยช่วยให้น้ำไม่กระเด็นไปยังด้านนอกเวลาเราล้างห้องน้ำค่ะ

กระจกเงาที่ได้ติดตั้งยื่นออกจากผนังและซ่อนไฟมาให้ดูมีมิติมากขึ้น ตัวอ่างล้างหน้าเป็นอ่างเซรามิคสีขาว มีช่องเก็บของด้านล่างมาให้ จาก Cotto ค่ะ

สุขภัณฑ์ยื่นออกมาจากผนังเล็กน้อย สามารถวางของด้านบนได้ เช่นแจกันดอกไม้ ของตกแต่งหรือน้ำหอมดับกลิ่นเป็นต้น โถสุขภัณฑ์ จาก American Standard และมีอุปกรณ์ประกอบจาก Grohe หรือเทียบเท่าค่ะ

พื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นกระจกมาให้ เปิดเข้าด้านใน ทำให้น้ำไม่หยดออกมาด้านนอก ช่วยแยกพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียกออกจากกันค่ะ

ภายในส่วนอาบน้ำพื้นที่ประมาณ 1.55 x 0.85 เมตร ค่อนข้างกว้างยืนอาบได้สบายค่ะ มีฝักบัวสายอ่อน จาก Grohe ติดตั้งมาให้ พร้อมเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เลย แค่ซื้อเครื่องมาติดตั้งก็ใช้งานได้เลยค่ะ

มาดูห้องนอนเล็กกันบ้าง ห้องนอนจะได้ประตูแบบเดียวกับประตูด้านหน้าห้องเลยค่ะ

ภายในห้องนี้มีขนาดประมาณ 2.80 x 2.60 เมตร มีช่องเปิดอยู่ที่ริมผนัง ไม่ได้ช่องแสงเต็มเนื่องจากติดโครงสร้างเสาไปหน่อยนะคะ แต่ก็ยังได้แสงเข้ามาในห้องอยู่บ้างและสามารถเปิดระบายอากาศได้ค่ะ ห้องนี้ถ้าใครอยากติด TV แนะนำให้แขวนผนังจะช่วยให้มีระยะเดินรอบเตียงมากขึ้นค่ะ

ห้องนี้สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้พอดีๆ สามารถวางโต๊ะข้างเตียงเล็กๆทั้ง 2 ฝั่งได้ แต่สำหรับคนที่ต้องการพื้นที่ห้องเยอะและอยู่ห้องนี้คนเดียว ถ้าเลือกใช้เป็นเตียง 3.5 ฟุต จะทำให้เหลือพื้นที่ภายในห้องมากขึ้นค่ะ

ช่องแสงของห้องได้เป็นกรอบบานอลูมิเนียม Powder Coat สีน้ำตาล มีช่องเปิดบานกระทุ้งมาให้ช่วยระบายอากาศภายในห้องนอน

อีกฝั่งของห้องที่เห็นเป็นส่วนสีขาว คือช่องผนังสำหรับ Built-in ตู้เสื้อผ้าค่ะ (ห้องจริงที่ได้ไม่ได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in นะคะ) มีความกว้างประมาณ 1.60 เมตร

ห้อง Master Bedroom ได้ประตูแบบเดียวกับประตูห้องหลัก เป็นประตูลายไม้กรอบบานสีน้ำตาลเข้มค่ะ

ภายในห้อง Master Bedroom มีพื้นที่พักผ่อนสำหรับวางเตียงประมาณ 3.60 x 2.70 เมตร สามารถวางเตียง 6 ฟุตและ มีพื้นที่เดินรอบเตียงได้ค่ะ ส่วนปลายเตียงถ้าใครอยากมีพื้นที่เหลือเยอะแนะนำให้ติดตั้ง TV แบบแขวนนะคะ

ฝั่งขวาของเตียงริมผนังได้เป็น Bay Window มีช่องแสง และมีช่องเปิดระบายอากาศ ตรงนี้สามารถทำเป็นโซฟานั่งเล่น หรือมุมพักผ่อนได้ค่ะ

ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่สำหรับ Built-in ตู้เสื้อผ้า และห้องน้ำ แนะนำให้เลือกตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อนนะคะ จะช่วยลดการใช้พื้นที่สำหรับยืนแต่งตัวได้ค่ะ

ห้องน้ำภายในห้อง Master Bedroom จะเหมือนกับห้องน้ำด้านนอกเลยค่ะ ทั้งสไตล์การตกแต่งและวัสดุอุปกรณ์ภายใน จะแบ่งพื้นที่ส่วนเปียก-ส่วนแห้งมาให้ชัดเจน และมีฉากกั้นกระจกอาบน้ำมาให้ค่ะ

อ่างล้างหน้าเป็นอ่างเซรามิค สีขาวมีช่องเก็บของให้ด้านล่าง สำหรับเก็บของเช่นอุปกรณ์ทำความสะอาด หรือขวดสบู่ แชมพูต่างๆค่ะ ส่วนกระจกเงามีซ่อนไฟมาให้เช่นกัน

โถสุขภัณฑ์ จาก American Standard มีอุปกรณ์ประกอบอย่างสายชำระ และที่แขวนกระดาษชำระมาให้ค่ะ

ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นกระจกมาให้เหมือนกับห้องน้ำแรกเลย

พื้นที่อาบน้ำในห้องนี้กว้างประมาณ 1.00 x 1.55 เมตร สามรถยืนอาบได้สบายๆ มีฝักบัวและ Rain Shower ติดตั้งมาให้ จาก Grohe และห้องนี้จะได้เป็นระบบน้ำร้อนค่ะ

สวิทซ์ไฟที่ได้เป็นสีขาวดีไซน์เรียงง่าย จาก Schneider

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 8 AUG 2019

  • 2 Bedroom / เนื้อที่ 60.92 ตร.ม. / ราคา 11.51 ล้านบาท หรือประมาณ 188,900 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedroom / เนื้อที่ 62.02 ตร.ม. / ราคา 12.28 ล้านบาท หรือประมาณ 198,000 บาท/ตร.ม.

  • รูปแบบการขาย Fully Fitted
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท๊อปหินสังเคราะห์
  • Hob & Hood / ของยี่ห้อง Teka
  • จอง 100,000 บาท
  • ทำสัญญา 200,000 บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ค่ากองทุน 800 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 85 บาท/ตร.ม./เดือน   (ปกติแล้วโครงการที่ไม่มีพื้นที่ส่วนกลางจะมีค่าส่วนกลางที่ไม่สูงมากนัก แต่โครงการนี้มีการเก็บค่าส่วนกลางที่ค่อนข้างสูง มาจากค่าใช้จ่ายในการดูแลพื้นที่ ลิฟต์โดยสาร และระบบ Automatic Parking ที่มีค่าบำรุงรักษาค่อนข้างสูง และมีจำนวนยูนิตเป็นตัวหารที่น้อยค่ะ)

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล :

โครงการ Kara อารีย์ – พระราม 6 เป็นโครงการที่มีการออกแบบมาเพื่อกลุ่มลูกค้าที่เป็นครอบครัว ต้องการพื้นที่ใช้สอยในห้องเยอะ ไม่เน้นพื้นที่ส่วนกลาง ทำเลตั้งอยู่ในซอยพระราม 6 41 บรรยากาศภายในซอยค่อนข้างเงียบสงบเหมาะกับการอยู่อาศัย เป็นโครงการที่อิงเส้นพระราม 6 รายล้อมด้วยโรงพยาบาล, โรงเรียน และไม่ไกลจากสำนักงาน จึงเหมาะกับแพทย์และกลุ่มผู้บริหารที่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงาน ชอบทำเลสงบ เป็นส่วนตัวเป็นต้น ส่วนเรื่องความอุดมสมบูรณ์จะเน้นไปที่ถนนประดิพัทธ์และโซนอารีย์ จะมีร้านอาหาร และแหล่งของกินหลากหลาย นอกจากนั้นจะมีโรงเรียน, อาคารสำนักงาน และโรงพยาบาลอยู่ไม่ไกลจากโครงการ เช่น รพ.วิชัยยุทธ, รร.สามเสนวิทยาลัย, สำนักงาน Tipco เป็นต้น

การเดินทางโดยใช้รถ :

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวถือว่าสะดวกเพราะมีถนนใหญ่หลายเส้นทาง สามารถใช้ถนนประดิพัทธ์ไปออกถนนพหลโยธิน, ถนนวิภาวดีรังสิต หรือไปจนถึงถนนรัชดาภิเษกได้ และสำหรับคนที่ใช้ทางด่วนศรีรัชจะถือว่าสะดวกมากๆเนื่องจากมีทางขึ้น – ลง ทางพิเศษด่านคลองประปาห่างไปประมาณ 700 เมตรเท่านั้น

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

การเดินทางโดยไม่ใช้รถที่ทำเลนี้ไม่ค่อยสะดวกนัก เนื่องจากอยู่ไกลจากรถไฟฟ้า ห่างจากสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีอารีย์ไปประมาณ 2.5 กิโลเมตร และไม่มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ใกล้กับโครงการ จึงต้องออกมาเรียก Taxi หรือเรียกรถผ่าน Application แทนค่ะ

วัสดุ :

โครงการขายแบบ Fully Fitted ได้ชุดครัวตัว L , Island พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ประกอบ (เตาไฟฟ้า,เครื่องดูดควัน และอ่างล้างมือ) จาก Teka พื้นปูด้วยลามิเนต หนา 12 มิลลิเมตร ส่วนครัวและห้องน้ำปูกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 เซนติเมตร สุขภัณฑ์จาก American Standard , Cotto ก๊อกจาก Grohe ถือว่าไม่ได้หวือหวาเมื่อเทียบกับโครงการในระดับราคาเดียวกันค่ะ

การออกแบบ :

การออกแบบพื้นที่ใช้งานส่วนของโครงการค่อนข้างลงตัว เข้ามาแล้วสามารถจอดรถและเดินเข้าตัวอาคารได้เลย ภายในชั้นพักอาศัยมีโถงทางเดินแบบ Single Corridor เดินไม่ไกลจากโถงลิฟต์ และเนื่องจากมียูนิตน้อยทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง ห้องพักอาศัยที่นี่มีจุดเด่นคือเป็นห้อง 2 Bedroom ขนาดประมาณ 60 ตารางเมตรทั้งหมด จึงเหมาะกับคนที่ต้องการห้องขนาดใหญ่ แต่ละชั้นมีห้องให้เลือก 4 แบบแบ่งพื้นที่การใช้งานแตกต่างกันไป โดยรวมแล้วภายในห้องค่อนข้างเป็นสัดส่วน เน้นพื้นที่ Common Area กว้างค่ะ

สาธารณูปโภค :

โครงการนี้เป็นโครงการที่ไม่มีพื้นที่ส่วนกลาง สาธารณูปโภคที่ได้จะมี Lobby Lounge 1 จุด , ลิฟต์โดยสาร 2 ตัวอัตราส่วนลิฟต์ 14 : 1 ซึ่งถือว่าน้อยมากๆ และมีที่จอดรถให้ 100 % ค่ะ (Conventional รวมกับ Automatic Parking)

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 190,000 บาท/ตร.ม., 8 AUG 2019

  • ทำเล 7/10 – อยู่ในซอย ใกล้ถนนพระราม 6 บรรยากาศเงียบสงบ ไม่ค่อยมีความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดิน
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – ไปถนนเส้นหลักได้หลายสาย ใกล้ทางพิเศษศรีรัช
  • ไม่ใช้รถ 7/10 – ไม่อิงรถไฟฟ้า จะต้องเรียกรถผ่าน Application
  • วัสดุ 7/10 – ขายแบบ Fully Fitted วัสดุธรรมดา
  • แบบ 8.75/10 – แบบเฉพาะตัว 2 Bedroom ทั้งโครงการ วางผังลงตัว ยูนิตน้อยมีความเป็นส่วนตัวสูง

  • LUXURY CLASS
  • 7.36 / 10.00

BOTTOM LINE

โครงการ Kara อารีย์ – พระราม 6 เป็นโครงการขนาดเล็ก จำนวนยูนิตน้อยเหมาะกับ คนที่ต้องการอยู่ใกล้กับทำเลพระราม 6 บรรยากาศเงียบสงบ ชอบห้องขนาดใหญ่  2 Bedroom อยู่อาศัย 2 – 4 คน ไม่เน้นใช้พื้นที่ส่วนกลาง ชอบความเป็นส่วนตัวสูง มีงบประมาณระดับ 12 ล้านขึ้นไป หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 84,000 บาท/เดือนขึ้นไป


ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving