รีวิวฉบับที่ 2023 … วันนี้พามาดูอีก 1 โครงการใหม่จาก Ananda กับ IDEO จุฬา-สามย่าน ตัวนี้ตั้งอยู่บนถนนสี่พระยา เดินจาก MRT สามย่านมาประมาณ 400 เมตร (คนละตัวกับ IDEO Q จุฬา-สามย่านนะ) ข้างๆร้านขนมปังเพลินชัย โครงการนี้มี Triple Facilities อยู่ที่ชั้นดาดฟ้าซึ่งรวม สระว่ายน้ำ และ Co-Living Space + Fitness ที่เปิด 24 ชั่วโมง อยู่ด้วยกัน ตอนนี้เปิดขายมาสักพักแล้ว ซึ่งแบบห้อง Studio ของโครงการ Ideo Chula Samyan ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านบาท ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไร เราไปชมกันค่ะ 

ข้อมูลโครงการ

8 January 2020

  • IDEO Chula – Samyan (ไอดีโอ จุฬา-สามย่าน)
  • บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
  • HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ : ถนน สี่พระยา เขต บางรัก
  • ที่ดินประมาณ 3-1-45.5 ไร่
  • คอนโด High-Rise 2 อาคาร อาคาร A สูง 34 ชั้น และ อาคาร B สูง 35 ชั้น
  • จำนวนห้องชุด 773 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 21 ยูนิตที่อาคาร A
  • ที่จอดรถประมาณ 385 คัน คิดเป็น 50% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
  • เริ่มก่อสร้าง : พฤษภาคม 2020
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : พฤศจิกายน 2022
  • Studio 26 – 30.5 ตร.ม.
  • 1 Bedroom 30.5 –  41.50 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus 45 – 48 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 52 – 70.50 ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.70 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้นที่เปิดขายในปัจจุบัน 5.039 ล้านบาท ( Studio 28.5 ตร.ม. )
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 160,000 บาท/ตร.ม.
  • ช่วงราคาต่อตารางเมตร ต่ำสุด – สูงสุดประมาณ 130,000 – 180,000  บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
  • ว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ >> https://anan.ly/ideochula
  • โทร  : 02-316-2222

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มค่ะ

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.731811, 100.525579
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

 IDEO จุฬา-สามย่าน ตั้งอยู่บนถนนสี่พระยา ห่างจาก MRT สามย่านประมาณ 400 เมตร ถ้าใครที่คุ้นเคยย่านนี้ดี โครงการจะอยู่ข้างๆร้านขนมปังเพลินชัย ร้านขนมหวานโบราณชื่อดังในย่านนี้เลยค่ะ สำหรับการเดินทางโดยใช้รถยนต์ถือว่าสะดวก เพราะตั้งอยู่ใจกลางเมืองและที่ตั้งโครงการยังอยู่บนถนนสี่พระยาช่วงก่อนถึงแยกนเรศทำให้ถนนหน้าโครงการยังเป็น Two-Way อยู่  โดยถนนสี่พระยาเองก็เป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนพระราม4 ถนนเส้นหลักที่สามารถใช้เดินทางไปยัง ถนนพญาไท, ถนนอังรีดูนังต์, ถนนราชดำริ ถนนวิทยุ หรือไปยังย่านเพลินจิต-สีลม-สาทรได้ อีกทั้งในซอยเองสามารถใช้ซอยย่อยต่างๆเพื่อร่นระยะเวลาการเดินทางได้ เช่น จากถนนสี่พระยาบริเวณหน้าโครงการสามารถใช้ถนนทรัพย์ลัดไปออกถนนสุรวงศ์และถนนสีลมได้เลย เป็นต้น 

สำหรับทางด่วน จากโครงการสามารถใช้ทางพิเศษศรีรัช เพื่อออกเมืองไปทางพระราม 3 หรือไปทางแจ้งวัฒนะ -ดินแดงได้ โดยทางขึ้นทางด่วนนั้นจะต้องวิ่งออกถนนพระราม 4 มุ่งหน้าไปยังหัวลำโพงระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร ส่วนทางลง สามารถลงมาที่ถนนสาทรและเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสี่พระยาได้เลยค่ะ ถือว่าไม่ไกลเลย โดยโครงการ Ideo Chula Samyan ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านบาท เรียกได้ว่ามีราคาที่ใกล้เคียงกับเพื่อนบ้านที่อยู่รอบๆเลยค่ะ ถ้าใครที่กำลังมองหาคอนโดราคาประมาณนี้อยู่ ก็อาจลองมอง Ideo Chula Samyan เป็นตัวเลือกกันดูได้นะคะ

ความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้จะมีพวกร้านค้า ร้านอาหารหรือร้านสะดวกซื้ออยู่ตามใต้ตึกแถวริมถนน ตามสไตล์ทำเลที่เป็นชุมชนดั้งเดิม ถ้าออกมาที่ถนนพระราม4 ก็จะมีจามจุรีสแควร์ หรือจะเดินไปห้างใหม่อย่างสามย่านมิตรทาวน์ ที่มีร้านอาหารเปิด 24 ชั่วโมงได้ สะดวกสำหรับคนที่ชอบนอนดึกหรือชอบนั่งทำงานนอกสถานที่ ทำเลนี้อยู่ใกล้กับสถานศึกษาชื่อดังอย่าง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสาธิตจุฬาฯ สาธิตปทุมวันฯ และเตรียมอุดมศึกษา ซึ่งมีปริมาณนักเรียนนักศึกษาในพื้นที่เยอะมากๆ ซึ่งจะมีพื้นที่ของจุฬาฯ จะมีการพัฒนาทำพื้นที่การค้าและพาณิชย์ขนาดใหญ่เป็น Chula Smart City ในอนาคต นอกจากนั้นยัง มีโรงพยาบาลเอกชน และสวนสาธารณะขนาดใหญ่อย่าง อุทยาน 100 ปี และสวนลุมพินี ถือเป็นทำเลที่ครบครันค่ะ

ถ้าใครชอบเดินห้างใหญ่ๆ ก็จะมี “สยาม” ที่ถือเป็นศูนย์รวมความเจริญมากที่สุด ซึ่งจะเดินทางไปด้วยรถยนต์หรือรถไฟฟ้าก็ได้ค่ะ และถ้าเป็นคนชอบแนว street food ก็จะพลาดไม่ได้กับ “ตลาดเยาวราช” ที่จะคึกคักมาในเวลากลางคืน หรือถ้าใครทำงานอยู่แถวสีลม-สาทร ก็จะดวกไม่แพ้กันค่ะ เพราะเป็นแหล่งออฟฟิศขนาดใหญ่ และสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืน และมี Mega Project ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอย่าง One Bangkok ที่เป็น Mixed-use ขนาดใหญ่อีกด้วยนะคะ

การเดินทางในวันนี้เราเริ่มจาก MRT สามย่าน ทางออก 1 ซึ่งพอขึ้นมาก็จะเจอกับวัดหัวลำโพงพอดี และฝั่งตรงข้ามเป็นจามจุรี สแควร์พอดี จากนั้นให้เราเดินเลี้ยวเข้าถนนสี่พระยาแล้วเดินมาตามทางประมาณ 400 เมตร ก็จะถึงกับโครงการค่ะ

เส้นทางการเดินทาง

Image 1/21
เริ่มต้นที่ MRT สถานีสามย่าน ให้ใช้ทางออกที่ 1 ทางซ้ายมือ เพื่อไปออกวัดหัวลำโพงนะ

เริ่มต้นที่ MRT สถานีสามย่าน ให้ใช้ทางออกที่ 1 ทางซ้ายมือ เพื่อไปออกวัดหัวลำโพงนะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

ตัวโครงการ IDEO Q จุฬา-สามย่าน ตั้งอยู่ติดกับถนนสี่พระยา ถ้ามองสภาพแวดล้อมโดยรอบนั้นส่วนใหญ่คือตึกแถว อาคารพาณิชย์ ชุมชนเก่า แต่เนื่องจากเป็นทำเลใจกลางเมืองจึงทำให้มีคอนโดทั้ง High Rise และ Low Rise มาขึ้นขนาบ ตำแหน่งที่มีตึกสูงจะมีทางทิศเหนือที่มีคอนโด Vertiq พระราม 4 – สยาม และ Wish @ Samyan ส่วนทางฝั่งทิศตะวันออกนั้นเป็นคอนโด Low Rise ซึ่งมีผลต่อกับมุมมองเฉพาะห้องที่อยู่ชั้นเตี้ยๆ พอสูงเกิน 8 ชั้นก็พ้นแล้วค่ะ สรุปเพื่อนบ้านโดยรอบได้ดังนี้

  • ทิศเหนือ – ติดกับถนนสี่พระยา แนวตึกแถว คอนโด Vertiq พระราม 4 – สยาม สูง 23 ชั้น และ Wish @ Samyan สูง 25 ชั้น
  • ทิศตะวันออก – ติดกับคอนโด Low Rise 8 ชั้น Altitude สามย่าน–สีลม  และ Altitude Define
  • ทิศใต้ – ติดกับกลุ่มอาคารพาณิชย์และบ้านพักอาศัย
  • ทิศตะวันตก – ติดกับกลุ่มอาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงานและบ้านพักอาศัย

ทิศเหนือ ติดกับถนนสี่พระยา ฝั่งที่ติดถนนเป็นแนวตึกแถว ได้อารมณ์เมืองเก่าไปอีกแบบ และยังมีคอนโด Vertiq พระราม 4 – สยาม สูง 23 ชั้น และ Wish @ Samyan สูง 25 ชั้น

ทิศตะวันออก ติดกับคอนโด Low Rise 8 ชั้น Altitude สามย่าน–สีลม  และ Altitude Define

ทิศใต้ หรือฝั่งด้านหลังโครงการติดกับกลุ่มอาคารพาณิชย์และบ้านพักอาศัย

ทิศตะวันตก  ติดกับร้านเพลินชัย แบบรั้วติดกันเลย วันไหนอยากกินขนมปัง+กาแฟโบราณสักแก้วก็ลงมาได้เลย นอกนั้นก็จะเป็นกลุ่มอาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงานและบ้านพักอาศัย

ไหนๆก็มาแล้ว เลยจัดสักหน่อย

ถัดจากร้านเพลินชัยไปจะเป็นร้านขายเครื่องจักรสาน ทำเลนี้เห็นร้านประเภทนี้มีหลายร้านเหมือนกันนะ สะดวกต่อการหา package ของขวัญแบบไทยๆในช่วงเวลาปีใหม่หรือเทศกาลต่างๆค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • สามย่านมิตรทาวน์ ∼ 500 เมตร (ระยะเดิน)
  • มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ (คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี) ∼ 650 เมตร  (ระยะเดิน)
  • จามจุรี สแควร์ ∼  650 เมตร   (ระยะเดิน)
  • โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ∼ 800 เมตร
  • มาบุญครอง ∼  1.6 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลจุฬาฯ ∼  1.7 กิโลเมตร
  • สวนลุมพินี ∼  1.7 กิโลเมตร
  • สยามสแควร์วัน ∼ 2.5 กิโลเมตร
  • สยามพารากอน ∼ 2.8 กิโลเมตร
  • เซ็นทรัลเวิลด์ ∼ 3 กิโลเมตร
  • สยามดิสคัฟเวอรี่ ∼ 3 กิโลเมตร
  • อาคารคิงเพาเวอร์ มหานคร ∼  2.2 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

 IDEO จุฬา-สามย่าน เป็นคอนโด High-Rise 2 อาคาร อาคาร A สูง 34 ชั้น และ อาคาร B สูง 35 ชั้น มี จำนวนห้องพักทั้งหมด 773 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต โครงการออกแบบด้วย Concept “Nature Linkage เชื่อมโยงธรรมชาติ เข้ากับการใช้ชีวิตภายในโครงการ” โครงการนี้จึงจัดพื้นที่สีเขียวมาให้ค่อนข้างเยอะรวมพื้นที่สีเขียวทั้งโครงการ กว่า 2,800 ตร.ม. ทั้งสวนหย่อมและสวนเล่นระดับ และอีกจุดเด่นหนึ่งก็คือ Triple Facilities อยู่ที่ชั้นดาดฟ้าค่ะ ซึ่งแบบห้อง Studio ของโครงการ Ideo Chula Samyan ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านบาท

เรามาดูภาพรวมภายโครงการกันค่ะ โดยโครงการนี้จะแบ่งออกเป็น 2 อาคาร อาคาร A จะอยู่ฝั่งด้านหน้า ส่วนอาคาร B จะอยู่ด้านหลังวางตัวขนานกับถนนสี่พระยา พื้นที่ส่วนกลางที่ชั้นล่างจะมี Lobby อยู่ทั้ง 2 อาคาร และด้านหน้าจะเป็น Shop ซึ่งตอนนี้ยังไม่ทราบว่าจะเป็นร้านอะไรนะคะ ที่จอดรถจะอยู่ในอาคาร A เท่านั้นโดยจะจอดได้ตั้งแต่ชั้น 2-10 เป็นช่องจอดแบบปกตินะ ห้องพักอาศัยของอาคาร A จะเริ่มที่ชั้น 11 ส่วนอาคาร B จะเริ่มที่ชั้น 2 เลยค่ะ บนอาคาร A ตั้งแต่ชั้น 11 เป็นต้นไปจะมีบางชั้นที่มีสวนหย่อม ที่ลูกบ้านสามารถออกมาใช้งานได้ และจะมี Facilities อีกจุดหนึ่งที่ชั้นบนสุดเลย โดยชั้น 33 ของอาคาร A จะเป็นสระว่ายน้ำ ชั้น 34 ของอาคาร A เป็นฟิตเนส ซึ่งจะเชื่อมกับชั้น 35 ของอาคาร B ที่มี Co-Living และสวนหย่อมอยู่ สำหรับความแตกต่างของแต่ละอาคาร เราสามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้ค่ะ

  • อาคาร A –  เป็นอาคารที่อยู่ใกล้ทางเข้า-ออก มีที่จอดรถและ Facilities (สระว่ายน้ำ + ฟิตเนส) อยู่ด้านใน จึงเหมาะกับคนที่ชอบความสะดวกสบาย เข้า-ออกโครงการง่าย เดินไปใช้ Facilities ได้สะดวก ห้องพักของอาคารนี้เน้นห้องขนาดเล็ก Studio , 1 Bedroom  , 1 Bedroom Plus เป็นหลัก โดยจะมีห้อง 2 Bedroom อยู่ด้วยบ้างตามมุมของอาคาร โดยอาคารนี้จะมีจำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดอยู่ที่ 21 ห้อง
  • อาคาร B – อาคารนี้จะเหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว เพราะมีจำนวนยูนิตไม่เยอะเท่าอาคาร A ไม่มีที่จอดรถในอาคาร สำหรับ Facilities จะมี Co-Living และสวนหย่อมอยู่ที่ชั้นบนสุด และอาคารนี้เค้าจะเน้นแต่ห้องพักที่มีขนาดใหญ่ 1 Bedroom , 1 Bedroom Plus , 2 Bedroom ค่ะ

ทางเข้า-ออกของโครงการตั้งอยู่ติดกับถนนสี่พระยาเลย พอขับรถเข้ามาจะต้องวนรถแบบทางเดียวอ้อมไปจอดด้านหลังของอาคาร บริเวณชั้นล่างจะมีสวนหย่อมอยู่ 2 จุด อยู่บริเวณหน้าโครงการ ลูกบ้านสามารถลงมาใช้เป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนได้ และความร่มรื่นของต้นไม้ยังช่วยปรับอารมณ์ให้เราสดชื่นก่อนกลับเข้าบ้าน ช่วยทำให้ลูกบ้านในโครงการมีความเป็นส่วนตัวเนื่องจากพอมองจากถนนใหญ่เข้ามาจะเจอกับแนวต้นไม้ก่อน และช่วยกรองฝุ่นและควันบางส่วนจากถนนใหญ่ได้อีกด้วย

จากทางเข้าถ้าเราจะเอารถไปจอดในอาคารจะต้องวนมาทางหลังตึก ส่วนขาออกก็วนรถออกแบบ One Way เช่นเดียวกัน ที่จอดรถของโครงการนี้มีประมาณ 385 คัน คิดเป็น 50% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) และมี EV Charger สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าด้วยค่ะ

จากแปลนจะเห็นว่ามี Shop อยู่ด้านหน้าอาคาร A ถัดมาจึงเป็นอาคาร B โดยจะมี Drop off อยู่บริเวณด้านหน้า Lobby ของทั้ง 2 อาคาร มีห้องนิติบุคคลอยู่ที่อาคาร A และใน Lobby จะมีห้องจดหมายที่ทางโครงการแจ้งว่า เป็น Digital Mailbox ที่ลูกบ้านไม่ต้องพกกุญแจ ซึ่งของจริงจะเป็นอย่างไรนั้นต้องรอดูตอนตึกเสร็จค่ะ สำหรับลิฟต์ทางโครงการมีลิฟต์โดยสารอาคารละ 3 ตัว มีลิฟต์ Service อยู่อีก 1 ตัว อัตราส่วนลิฟต์โดยรวมเท่ากับ 128 : 1 อยู่ในระดับกลางๆค่อนไปทางหนาแน่น เวลาเร่งด่วนเราจะต้องรอลิฟต์นานหรือไม่ขึ้นอยู่กับความเร็วลิฟต์ที่โครงการเลือกใช้ด้วยค่ะ

Lobby ของโครงการนี้มีการตกแต่งแบบ Twin Tone คืออาคาร A และ อาคาร B จะใช้โทนสีไม่เหมือนกัน มีทั้งโทนสีอ่อนและโทนสีเข้ม

ตั้งแต่ชั้น 11 ของอาคาร A และ ชั้น 2 ของอาคาร B จะเป็นห้องพักอาศัย ซึ่งบนอาคาร A จะมีสวน Vertical Garden ขนาดพื้นที่สวนเริ่มตั้งแต่ 40 ตร.ม. – 220 ตร.ม. ให้ลูกบ้านออกมานั่งเล่นชมวิวได้

ระหว่าง A และ B จะอยู่จุดที่เชื่อมกันอยู่ 2 จุดได้แก่ จุดแรกคือบริเวณชั้น 2 เชื่อมจากที่จอดรถอาคาร A เข้าไปยังอาคาร B แต่สำหรับคนที่มีคีย์การ์ดเท่านั้นนะคะ และอีกจุดหนึ่งคือบน Facilities ชั้นบน โดยในชั้น 34 ของอาคาร A ที่เป็นส่วนของฟิตเนส จะสามารถเดินเชื่อมไปยังชั้น 35 ของอาคาร B ที่เป็น Co-Living Space ได้ ทั้ง 2 โซนนี้เปิด 24 ชั่วโมงเหมือนกันค่ะ

สำหรับห้องพักอาศัยนั้น ในอาคาร B จะมี 13 ห้องต่อชั้น เริ่มต้นที่ชั้น 2 เลยค่ะซึ่งคนที่เลือกชั้นเตี้ยๆนั้นจะไม่ได้วิวเท่าไรอยู่แล้ว แต่จะได้ราคาห้องที่ย่อมเยามาแทน ถ้าดูจากผังจะเห็นว่าทางโครงการก็มีการออกแบบตัวอาคารให้ระเบียงไม่หันออกไปชนกับห้องอื่นๆ เช่นบริเวณที่อาคาร B ชนกับอาคาร A (วงเส้นสีน้ำเงิน) ทางโครงการจะวางเป็นผนังทึบและโถงลิฟต์ ระเบียงจะหันออกไปทางทิศเหนือที่เปิดโล่ง ส่วนอีกมุมหนึ่ง (วงเส้นสีแดง) จะอยู่ติดกับโครงการ Altitude Define คอนโด Low Rise 8 ชั้นข้างเคียง ระเบียงก็จะหันออกไปทางทิศที่ไม่ชนกับอาคารข้างเคียง ตำแหน่งของลิฟต์นั้นจะอยู่ค่อนมาทางฝั่งทิศตะวันตกทำให้มีห้องที่ทั้งเดินใกล้และเดินไกลลิฟต์แต่ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมาแทน บริเวณโถงทางเดินมีช่องแสงทั้ง 2 ฝั่งซึ่งเวลากลางวันนั้นน่าจะได้รับแสงสว่างที่เพียงพอและการระบายอากาศที่ดีค่ะ ส่วนชั้น 3-10 แปลนจะเหมือนกันเลยนะแค่ไม่มีสะพานเชื่อมระหว่างอาคาร A และ B

ชั้น 11 แปลนอาคาร B ยังเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือมีห้องพักอาศัยในอาคาร A แล้วค่ะ ชั้นนี้จะมีสวนหย่อมด้วยข้อดีคือคนที่อยู่ชั้นนี้สามารถออกไปนั่งเล่นที่สวนได้ และ ห้องตำแหน่ง 15 -19 (วงเส้นสีแดง) มองออกไปก็จะเห็นวิวสวนด้วย  สำหรับการวางผังอาคาร A ส่วนใหญ่คือห้องแบบ Studio เลยค่ะ โดยจะมีห้อง 1 Bedroom , 1 Bedroom Plus , 2 Bedroom แทรกอยู่ไม่กี่ห้องเท่านั้น โถงลิฟต์ในอาคาร A ก็เช่นเดียวกันกับอาคาร B คืออยู่ค่อนมาทางฝั่งทิศใต้เลยทำให้มีห้องที่ใกล้ลิฟต์มากๆและจะมีห้อง 2 Bedroom ตำแหน่ง 01 (วงเส้นสีน้ำเงิน) ที่ทางเข้าอยู่หลบมุมทำให้ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวค่ะ

ชั้น 12 – 16 การวางผังจะคล้ายๆกับชั้น 11 ค่ะแค่จะไม่มีสวนและตั้งแต่ชั้นนี้เป็นต้นไป บนอาคาร A ในบางชั้นก็จะมีสวนแทรกอยู่ และมีการร่นระยะตาม Setback ของถนน แต่หลักๆแล้วการวางตำแหน่งห้องพักจะคล้ายกันค่ะ

คลิกเพิ่มชมแปลนชั้นอื่นๆได้ที่นี่

Image 1/16
แปลนชั้น 17

แปลนชั้น 17

พอขึ้นมาที่ชั้น 33 ของอาคาร B แปลนยังเหมือนเดิมแต่อาคาร A จะไม่มีห้องพักอาศัยแล้วแต่จะเป็นพื้นที่ของงานระบบสระว่ายน้ำแทน

ตั้งแต่ชั้น 34 เป็นต้นไปจะเป็นส่วนของ Facilities ของโครงการ ซึ่งจัดออกมาในรูปแบบของ Triple Facilities ที่ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ  Co-Living Space และ Fitness ให้เราได้ใช้งานพร้อมกับชมวิวมุมสูง และจะมีบางโซนที่เปิด 24 ชั่วโมงด้วย

ชั้น 33 ของอาคาร A เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ยาว 25 เมตร รอบๆสระจัดเป็นที่นั่งพักผ่อน ชั้นนี้จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางยกชั้นเลยและแยกออกมาจากอาคาร B ที่เป็นชั้นพักอาศัย ทำให้เวลาใช้งานมีความเป็นส่วนตัวพอสมควรค่ะ

ชั้น 34 ของอาคาร A จะเป็นฟิตเนส ซึ่งจะเชื่อมกับ Co-Living Space ของอาคาร B ทั้ง 2 โซนนี้จะเปิด 24 ชั่วโมง ถือเป็นส่วนกลางที่เอาไว้ตอบโจทย์กลุ่มนักศึกษาและคนทำงานที่อยากจะทำงานนอกเวลา หรือ นัดประชุมกันดึกๆ โดยไม่ต้องออกไปหาร้านกาแฟนอกคอนโดค่ะ และข้างๆห้อง Co-Living Space ก็มีสวนหย่อมให้ออกไปพักผ่อนหย่อนใจกันได้

ทั้งฟิตเนสและห้อง Co-Living Space นี้มีชั้นลอยด้วยนะ ถ้าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็ขึ้นมาใช้งานได้ ต้องรอดูตอนตึกเสร็จว่าเค้าจะจัดชั้นนี้ให้มีฟังก์ชันอะไรนะคะ

มาดูภาพจำลองบรรยากาศกัน Facilities หลักของโครงการนี้จะอยู่ในชั้นบนสุดนะคะ แยกจากชั้นพักอาศัยออกมาเลยทำให้มีความเป็นส่วนตัวเวลาขึ้นมาใช้งานและสามารถชมวิวมุมสูงได้ด้วย เรามาดูภาพแต่ละส่วนกันค่ะ

สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือยาว 25 เมตร ออกแบบให้ยื่นออกมาและใช้ราวกันตกเป็นกระจกทั้งหมด เพื่อเปิดให้เห็นวิวแบบพาโนรามา โดยจะมีบางส่วนเป็น Semi-Outdoor ที่สามารถว่ายในร่มได้

นี่คือห้อง Co-Living Space ที่เชื่อมต่อกับสวนหย่อมที่อยู่ด้านนอก ห้องนี้เป็น Double Space ฝ้าเพดานสูงโปร่งโล่ง ผนังถูกออกแบบให้เป็นกระจกโดยรอบเห็นวิวได้เต็มๆ ช่วยเพื่อบรรยากาศในการทำงานได้ เราชอบการจัดที่นั่งที่มีการแยกโต๊ะออกเป็นกลุ่มเล็ก 2-3 ที่สำหรับคนที่มาไม่กี่คนและอยากได้ความเป็นส่วนตัว และมีโต๊ะยาวๆสำหรับใช้ประชุมหรือนั่งคุยงานอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีชั้นลอยให้ขึ้นไปนั่งทำงานแบบเป็นส่วนตัวด้วยค่ะ

Co-Living Space จะมีอีกโซนหนึ่งที่เป็นส่วนตัวขึ้นมาหน่อย มีการกั้นโซนเป็นสัดส่วนเหมาะกับการคุยงานที่ต้องใช้ความเงียบ ด้านหลังจะเป็นห้องประชุมค่ะ มุมนี้ก็ยังได้วิวมุมสูงเช่นเดียวกันค่ะ

ห้องฟิตเนสมีการเล่น Lighting มาให้แบบจัดเต็ม กลางคืนน่าจะสวยดี โดยพื้นที่ถูกออกแบบมาให้เป็นแบบ Double Space เช่นเดียวกับห้อง Co-Living  และมีชั้นลอยด้านบนที่อาจจะเอาไปทำเป็นพวกห้องคลาสต่างๆได้ ซึ่งฟิตเนสนี้จะเปิด 24 ชั่วโมงดึกแค่ไหนก็ลงมาออกกำลังกายกันได้

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

เมื่อขึ้นมาถึงชั้นดาดฟ้าก็ต้องชมวิวกันสักหน่อย เรา Zoom-Out แผนที่ออกเพื่อให้เห็นสภาพแวดล้อมในภาพกว้าง เนื่องจากโครงการอยู่ใจกลางเมือง พื้นที่รอบๆโครงการนั้นจึงมีทั้งวิวที่โดนบล็อกด้วยโครงการข้างเคียง และวิวที่เปิดโล่ง ต้องขึ้นอยู่กับว่าเราชอบห้องทิศไหน โดยวิวที่เอามาให้ดูกันนั้นจะมีชั้น 7 ซึ่งเป็นวิวที่อยู่เตี้ยหน่อย และ ชั้น 19 ที่วิวสูงขึ้นมาหน่อยค่ะ

ทิศเหนือ หรือฝั่งที่ติดถนนสี่พระยา วิวที่เห็นในชั้นเตี้ยๆหน่อยจะถูกบล็อกด้วยกลุ่มคอนโด High Rise เช่น  Vertiq พระราม 4 – สยาม , Wish @ Samyan และ IDEO Q จุฬา – สามย่าน ส่วนด้านข้างจะมีเห็นคอนโด Low Rise อย่างพวก Altitude บ้าง แต่ถ้าในชั้นสูงๆขึ้นมาหน่อยเช่นชั้น 20 เป็นต้นไป ก็จะเริ่มพ้นและเห็นเป็นวิวชุมชนในย่านนี้ และรวมถึงพื้นที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วยค่ะ

ทิศตะวันออกจะเห็น Altitude สามย่าน–สีลม  และ Altitude Define บางส่วน ถัดไปจะเป็นวิวชุมชน วัดหัวลำโพง สามย่านมิตรทาวน์ จามจุรีสแควร์ และ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ทิศใต้ เป็นวิวที่อยู่อาศัยแนวราบ ถ้าถัดไปไกลๆหน่อยจะเป็นวิวเมืองย่านสีลม สาทรซึ่งจะเห็นอาคารคิงพาวเวอร์ มหานครด้วยต่ะ

ทิศตะวันตก เป็นวิวชุมชนสี่พระยา และถ้ามองไกลๆจะมุ่งหน้าไปทางชุมชนเจริญนคร และ Icon Siam

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • Triple Volume Facilities

  • สระว่ายน้ำ (Sky Pool)
  • Fitness (24 HR Fitness Center)
  • Co – Living Space
  • สวนดาดฟ้า

  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร (รวมทั้งหมด 6 ตัว)
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 128 : 1
  • Service Lift 1 ตัว/อาคาร (รวมทั้งหมด 2 ตัว)
  • ที่จอดรถประมาณ 385 คัน คิดเป็น 50% (ไม่รวมซ้อนคัน)
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ
  • แบบห้อง

    สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชม จะมีห้องแบบ 2 Bedroom 70 ตร.ม. และ 1 Bedroom 34.50 ตร.ม. โดยโครงการขายแบบ Fully – Fitted ให้ครัว สุขภัณฑ์ และตู้เสื้อผ้า พร้อมมี แอร์ Digital Door Lock มาให้ เราไปชมกันค่ะ

    ห้องแรกที่จะพาไปชมคือ 2 Bedroom 70 ตร.ม. ห้องนี้จะเป็น 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ การวางผังโดยรวมถือว่าลงตัว ครัวเป็นแบบครัวเปิด ไม่เน้นการทำอาหารหนักๆเพราะทำเลโดยรอบมีของกินเยอะอยู่แล้ว สามารถออกไปหาอะไรทานแล้วอุ่นเอาได้ โดยเคาน์เตอร์จัดมาให้เป็นรูปตัวยู โดยพื้นที่นั่งทานข้าวจะรวมอยู่บริเวณนี้เลย มีตู้รองเท้าอยู่ข้างประตูทางเข้า พอเข้าห้องมาก็สามารถถอดเก็บได้สะดวก ถัดเข้าไปจะเป็นห้องนั่งเล่น วางอยู่ข้างๆทางออกไปที่ระเบียง สังเกตว่าผนังด้านข้างโซฟาจะเป็นผนังทึบเพื่อเอาไว้บัง Condensing Unit ของแอร์ เวลาเราอยู่ในห้องจะมองไม่เห็น สำหรับห้องนอนจะถูกเป็นออกเป็น 2 ฝั่ง สามารถวางเตียง 6 ฟุตและมีมุมทำเป็น Walk-in Closet ได้ทั้งสองห้อง โดยห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัวและหน้าต่างแบบเข้ามุม ส่วนห้องนอนเล็กห้องน้ำจะต้องใช้ร่วมกับห้องนั่งเล่นค่ะ

    เข้ามาในห้องจะเจอกับครัวและพื้นที่รับประทานอาหารก่อน ถัดเข้าไปจึงเป็นห้องนั่งเล่น ส่วนห้องนอนจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง โดยความสูงของฝ้าเพดานคือ 2.70 เมตรซึ่งถูกปรับจาก IDEO โครงการอื่นของอนันดาที่สูง 2.50 เมตร ส่วนพื้นวัสดุคือไม้ลามิเนต

    Digital Door Lock โครงการให้มาเป็นของ Secuon สามารถใช้งานได้ทั้งรหัส Keycard และ กุญแจ

    พื้นที่หน้าห้องถูกจัดเป็นครัวเปิดและโต๊ะทานอาหาร ฟังก์ชันที่ออกแบบมาจะไม่เน้นให้ทำอาหารหนักๆที่มีกลิ่นในห้อง แต่จะเน้นซื้อจากข้างนอกมาอุ่นทานมากกว่า ดังนั้นพื้นบริเวณนี้จึงไม่ได้ทำเป็นพวกกระเบื้องมาให้ แต่เป็นไม้ลามิเนตเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นไปเลย และประตูทางเข้าห้องทางโครงการมีการอัพสเปคให้สูง 2.2 เมตรค่ะ

    เคาน์เตอร์ครัวถูกออกแบบเป็นรูปตัวยู โดยโต๊ะอาหารและรวมอยู่ในโซนนี้ด้วยเลย สามารถจัดที่นั่งได้สูงสุด 4 ที่นั่ง ชุดครัวทั้งหมดนี้ทางโครงการให้มาค่ะ (ยกเว้นไมโครเวฟ)

    โต๊ะอาหารจัดได้ 4 ที่นั่ง มีความสูงต่ำกว่าเคาน์เตอร์ครัวเล็กน้อยเพื่อความสะดวกในการใช้งาน คือนั่งแล้วกำลังพอดีไม่สูงไปนั่นเอง เก้าอี้ทางโครงการไม่ได้แถมมาให้นะ แนะนำว่าให้หาที่ขนาดไม่ใหญ่มากสามารถสอดลงไปใต้โต๊ะได้ค่ะ

    ตู้ล่าง ตู้บนทางโครงการให้มาแบบนี้เลย หน้าบานเป็นลามิเนต ส่วน Top เป็นหินสังเคราะห์ซึ่งมีความทนทาน ทนต่อกรดด่างได้ดี และมี Backsplash หรือ ผนังกันเปื้อนด้านหลังมาให้ด้วยค่ะ

    และภายในตู้บนจะมีชั้นที่สามารถดึงลงมาได้ ของ Panasonic ซึ่งดีกับผู้หญิงตัวเล็กๆที่เอื้อมหยิบของไม่ถึงค่ะ

    ข้างๆเคาน์เตอร์จะเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น สามารถวางตู้เย็นขนาดใหญ่แบบ 2 ประตูได้เลย

    ด้านบนตู้เย็นเป็นตู้สามารถใช้เก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้ได้ เพราะระยะการใช้งานมันจะสูงหน่อย

    อ่างล้างจานได้เป็นแบบหลุมเดียว หน้าตาแบบนี้ค่ะ

    ส่วนเตาไฟฟ้าให้มาแบบ 4 หัว เครื่องดูดควันแบบต่อท่อออกด้านนอกซึ่งดูดได้ดีกว่าแบบหมุนเวียน ทั้งสองอันนี้เป็นของ Teka

    ฝั่งตรงข้ามห้องครัวเป็นห้องน้ำนะคะ สามารถใช้เป็นห้องน้ำแขกและห้องน้ำจะใช้ร่วมกับห้องนอนเล็กด้วยค่ะ

    บริเวณหน้าประตูก่อนทางเข้าห้องน้ำ ทางโครงการทำตู้รองเท้าและตู้เก็บของมาให้

    โดยตรงกลางทำเป็นที่ห้อยกุญแจและชั้นเอาไว้วางของแบบนี้ และมีการย้ายตู้ควบคุมไฟจากที่โครงการทั่วๆไปมักจะเอาซ่อนไว้ในตู้ ให้อยู่ในระยะที่เข้าถึงได้ง่าย ซึ่งเป็นข้อกำหนดของการไฟฟ้า ข้อดีคือมันใช้งานง่าย ไฟดับทีไม่ต้องต่อเก้าอี้ขึ้นไปสับคัทเอาท์ค่ะ

    สำหรับชั้นวางรองเท้าให้มาเป็นของ Panasonic ซึ่งจะมีลูกเล่นนิดนึงคือ มัน…หมุน…ได้ ใส่รองเท้าได้ทั้งสองฝั่ง วางสับหว่างกัน ช่วยให้มีพื้นที่ในการเก็บรองเท้ามากขึ้น

    และถ้าใครมีรองเท้าบูทหรือรองเท้าทรงสูงทั้งหลายก็สามารถใส่ได้ค่ะ เพราะถ้าสังเกตด้านข้างจะมีรางที่สามารถปรับระดับชั้นได้

    ห้องน้ำฝั่งที่อยู่หน้าห้องแบ่งพื้นที่เป็นส่วนแห้ง ส่วนเปียกแบบนี้เลย มีกระจกนิรภัยมาให้ครบ พื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้นะคะ

    หน้าห้องน้ำมีการยกธรณีสูงขึ้นมาเพื่อกันไม่ให้น้ำไหลไปโดนส่วนอื่นๆของห้อง และมีการปิดหินด้านบนธรณีมาให้ด้วย

    ห้องน้ำห้องนี้จะเป็นห้องที่ใช้ร่วมกับห้องนอนเล็กนะคะ คือสามารถเข้า-ออกได้ทั้ง 2 ทางเลย

    อ่างล้างหน้าเราได้แบบที่มีเคาน์เตอร์ด้านล่าง พร้อมทั้งมีการติดตั้งกระจกเงามาให้เรียบร้อย

    อ่างล้างหน้าเป็นของ American Standard วางอยู่ด้านบนตู้ซึ่งสามารถเปิดออกมาเก็บของได้

    โถสุขภัณฑ์ก็เป็นของ American Standard เช่นเดียวกัน

    พื้นที่อาบน้ำกั้นด้วยฉากกั้นกระจกนิรภัยมาให้เรียบร้อย

    โดยพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.90 x 1.15 เมตร สามารถยืนอาบได้สบายๆ มีธรณียกสูงขึ้นมากั้นส่วนแห้งส่วนเปียกให้ด้วย

    พื้นที่อาบน้ำทางโครงการติดตั้งมาให้ทั้ง Rain Shower และฝักบัวแบบมือถือธรรมดา และที่ผนังด้านข้างมีการเจาะช่องเอาไว้สำหรับวางของมาให้ด้วย

    หน้าตาฝักบัวแบบมือจับที่โครงการให้มาค่ะ

    ถัดเข้าไปด้านในคือห้องนั่งเล่นซึ่งอยู่เชื่อมต่อกับระเบียงพอดี ส่วนห้องนอนจะแยกออกเป็น 2 ฝั่ง

    ห้องนั่งเล่นจะได้รับแสงสว่างจากประตูทางออกระเบียง ทำให้บรรยากาศโปร่งโล่ง ระยะดูทีวีของห้องนี้ค่อนข้างกว้างประมาณ 4 เมตรเลยทีเดียว

    แอร์ทางโครงการให้มาแบบ Wall Type ของ Daikin นะคะ จำนวน BTU ขึ้นอยู่กับขนาดห้องนะ

    ระเบียงห้องนี้ยาว 4.25 เมตร ถือว่ายาวพอสมควร สามารถเอาเก้าอี้ออกมาวางเพื่อนั่งเล่นชมวิวได้สบายๆเลยหรือใครอยากจัดสวนก็ทำได้ค่ะ เราไม่ต้องเสียพื้นที่ให้กับเครื่องซักผ้าเพราะถูกจัดวางให้อยู่บริเวณห้องครัวแล้ว

    เรามาดูห้องนอนเล็กก่อนนะ ซึ่งทางเข้าจะอยู่บริเวณทีวี

    จริงๆแล้วห้องนอนทั้ง 2 ห้องสามารถวางเตียงแบบ King Size ได้ทั้งคู่นะคะ แต่ที่เรียกห้องนี้เป็นห้องนอนเล็กเพราะขนาดเล็กกว่าหน่อยและห้องน้ำต้องใช้ร่วมกันกับห้องนั่งเล่น

    บริเวณข้างเตียงจะมีหน้าต่างบานเลื่อน สามารถเปิดระบายอากาศหรือชมวิวได้

    พื้นที่ข้างเตียงทางฝั่งซ้ายสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานได้ ส่วนทางฝั่งขวานั้นวางโต๊ะข้างเตียงได้ค่ะ

    และบริเวณข้างเตียง ทางโครงการได้ติดตั้งปลั๊ก USB มาให้ด้วยนะ หน้าตาปลั๊ก สวิตช์ไฟก็เป็นแบบนี้ค่ะ

    ปลายเตียงมีระยะให้เดินผ่านได้สบายๆ ประมาณ 75 เซนติเมตร

    อีกฝั่งเป็นห้องน้ำซึ่งพื้นที่หน้าห้องถูกออกแบบมาให้เป็น Walk-in Closet พออาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวได้สะดวก

    โดยตู้เสื้อผ้าทางโครงการให้มาแบบนี้ แต่หน้าบานจะเป็นบานทึบนะคะ

    การจัดฟังก์ชันในตู้มีครบทั้งราวแขวนชุดสั้น ชุดยาว ลิ้นชัก ตู้เก็บของและชั้นบนยังมีชั้นที่เอาไว้เก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้อีกด้วย

    เราไปดูห้อง Master Bedroom กันอยู่ฝั่งตรงข้ามนี้เอง

    ภายในห้องนอนใหญ่วางเตียง 6 ฟุได้และยังมีหน้าต่างแบบเข้ามุม (Bay Window) มาให้อีกด้วย ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูโปร่ง

    วางโต๊ะข้างเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่งนะจ้ะ

    ส่วนปลายเตียงมีระยะประมาณ 67 เซนติเมตร สามารถเดินผ่านได้ แต่ถ้าอยากดูทีวีแนะนำให้แขวนผนังนะคะ

    บริเวณหน้าห้องน้ำถูกจัดเป็น Walk-in Closet เช่นเดียวกัน

    ตู้เสื้อผ้าห้องนี้เป็นรูปตัว L นะคะ เราได้ตามนี้ยกเว้นหน้าบานจะเป็นบานทึบ

    ภายในห้องน้ำใช้วัสดุอุปกรณ์เหมือนห้องก่อนหน้า แบ่งออกเป็นส่วนแห้ง ส่วนเปียกชัดเจนค่ะ

    อีกห้องคือ 1 Bedroom 34.50 ตารางเมตร ห้องนี้เข้ามาจะเจอกับครัวเปิดเช่นเดียวกัน แต่ด้วยพื้นที่ที่เป็นสัดส่วน ถ้าใครอยากจะกั้นเป็นครัวปิดเองก็สามารถทำได้นะ โดยพื้นที่นั่งรับประทานอาหารจะอยู่ในโซนนี้เลย เตรียมอาหารเสร็จก็ยกมาทานได้สะดวก ข้อดีของห้องนี้คือการมี พื้นที่นั่งทานข้าว ห้องนั่งเล่น และ โต๊ะทำงานเป็นสัดส่วน ไม่เหมือนห้องที่วางผังให้ดูหนัง กินข้าว ทำงานในที่เดียวกัน ทำให้เราสามารถแยกฟังก์ชันได้ ระเบียงของห้องนี้จะอยู่บริเวณถัดจากโต๊ะทำงานไป ส่วนห้องนอนก็กั้นเป็นสัดส่วน มีมุม Walk-in Closet และ ห้องน้ำในตัวเลย ซึ่งสะดวกต่อการใช้งานเวลาอยู่ในห้องนอน แต่ถ้ามีเพื่อนๆมาหาจะต้องเดินผ่านห้องนอนนะคะ เพราะฉะนั้นแนะนำว่าอย่าทำห้องรกล่ะ ^^

    เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องเราจะเจอกับส่วนครัวและโต๊ะทานอาหารก่อน  ถัดเข้าไปจึงเป็นพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอน ห้องนี้วัสดุต่างๆเหมือนห้องก่อนหน้านะคะ

    เคาน์เตอร์ครัวเราได้ตามนี้ (ยกเว้นไมโครเวฟ) โดยวัสดุของหน้าบานลามิเนต Top หินสังเคราะห์ และ Backsplash เป็นกระจกเงา

    มีชั้นที่สามารถดึงลงมาได้เช่นเดียวกัน สะดวกต่อการใช้งานดี

    ซ้ายมือสุดจะเป็นตู้รองเท้าที่สามารถเลื่อนออกมาได้แบบนี้ครับ ซึ่งฟังก์ชันนี้นอกจากจะประหยัดพื้นที่ในการเปิด เพราะไม่มีระยะบานสวิงแล้ว ก็ยังทำให้เก็บรองเท้าได้มากขึ้นอีกด้วย

    ส่วนพื้นที่รับประทานอาหารนั่งได้ 2 ที่นั่ง ตำแหน่งอยู่ติดกับโซฟาและพื้นที่วางตู้เย็นเลย แนะนำให้เลือกเก้าอี้ที่มีขนาดไม่ใหญ่ สามารถวางสอดเข้าไปใต้โต๊ะก็จะช่วยประหยัดพื้นที่ได้

    บริเวณด้านหลังโต๊ะทานข้าวจะมีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น ซึ่งด้านบนมีตู้เก็บของ มีหน้าบานปิดมิดชิด

    ที่ผนังข้างห้องจะมีตู้ควบคุมไฟฟ้าและชั้นวางกุญแจเล็กๆมาให้แบบนี้

    ถัดเข้ามาด้านในจึงจะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องทำงานและห้องนอน

    บริเวณหน้าห้องนอนสามารถจัดเป็นโต๊ะยาวๆได้แบบนี้ และที่ผนังเราสามารถ Built-in เป็นตู้เก็บของได้อีก

    ระเบียงห้องนี้ฟังก์ชันเอาไว้สำหรับซักล้าง สามารถวางเครื่องซักผ้าได้ ตำแหน่งของ Condensing Unit ของแอร์หันเข้าด้านข้างเวลาออกมาใช้ระเบียงขณะเปิดแอร์อาจจะโดนลมร้อนได้ แนะนำให้หา Grill เปลี่ยนทิศทางลมมาติดเพิ่มค่ะ

    พื้นที่ระเบียงมีขนาด 0.95 x 1.89 เมตร ปูกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ผิวด้านเหมาะกับการใช้งานมาให้

    บริเวณทางเข้าห้องนอนจะมีการเจาะช่องแสงมาให้แบบนี้ ทำให้ห้องดูโปร่งมากขึ้นแต่ถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัว เช่นเวลานอนไม่อยากให้แสงเข้าก็แนะนำให้ติดตั้งม่านเพิ่มค่ะ

    ภายในห้องนอนจะแบ่งออกเป็นส่วนนอนพักผ่อน ซึ่งพอกั้นห้องด้วยผนังทึบแล้วทำให้มีความเป็นส่วนตัว

    สำหรับพื้นที่ข้างเตียงทางฝั่งซ้ายจะมีระยะแค่พอให้ม่านพาดผ่าน ส่วนฝั่งขวามีพื้นที่ค่อนข้างเยอะสามารถวางโต๊ะตัวยาวๆได้

    ปลายเตียงมีระยะประมาณ 67 เซนติเมตรค่ะ

    อีกฝั่งจะเป็นพื้นที่แต่งตัวและห้องน้ำ โดยห้องนี้ก็จัดตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet ค่ะ

    ภายในห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนเปียกแห้งไว้ด้วยฉากกั้นอาบน้ำ ผนังและพื้นโดยรอบเป็นกระเบื้องทั้งหมดค่ะ

    พื้นที่วางโถสุขภัณฑ์มีขนาดการใช้งานที่พอเหมาะ ไม่อึดอัด พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆมาให้ครบ

    พื้นที่แบ่งออกเป็นส่วนแห้ง ส่วนเปียกโดยสุขภัณฑ์ต่างๆให้เหมือนกับห้องก่อนหน้านะคะ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    แบบแปลน

    สำหรับแปลนห้องพักอาศัยทั้งหมดสามารถคลิกชมได้ที่นี่ค่ะ

    Image 1/14
    แปลนอาคาร A

    แปลนอาคาร A

    ราคา

    8 January 2020

    • Studio 28.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.039 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณ  176,807 บาท / ตร.ม.
    • 1 Bedroom 34.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.569 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณ 161,420 บาท / ตร.ม.
    • 2 Bedroom 45.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.904 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณ  151,736 บาท / ตร.ม.
      2 Bedroom 70 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 9.413 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณ 134,471 บาท / ตร.ม.
    • รูปแบบการขาย Fully Fitted
    • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.70 เมตร
    • Kitchen & Sink / Top หินสังเคราะห์
    • Hob & Hood / ของยี่ห้อ Teka
    • จอง 10,000 – 30,000 บาท
    • ทำสัญญา 3%
    • ดาวน์ 4% ผ่อนดาวน์ 31 งวด
    • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
    • ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

    บทสรุป

    ทำเล :

    IDEO จุฬา-สามย่าน ตั้งอยู่บนถนนสี่พระยา ข้างๆร้านขนมปังเพลินชัย บนถนนเส้นนี้มีสภาพแวดล้อมเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยเก่าแก่ดั้งเดิม บรรยากาศบนถนนนี้จะค่อนข้างเงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากกว่าถนนข้างเคียงอย่างถนนสุรวงศ์ ถนนสีลม และถนนสาทร ที่เป็นย่านธุรกิจที่มีอาคารสำนักงานตึกสูง โรงแรมและร้านอาหารมากมาย รวมทั้งถนนพระราม 4 ที่ใกล้กับมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ส่วนเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของอาหารการกินบนถนนนี้จะเป็นอาหารข้างทางและอาหารใต้อาคารพาณิชย์เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งถ้าจะไป Hangout กับเพื่อนหรือนั่งร้านอาหารบรรยากาศดีขึ้นมาหน่อยส่วนใหญ่ก็จะอยู่บนถนนสุรวงศ์ ซึ่งสามารถเดินไปตามถนนทรัพย์ทะลุออกถนนสุรวงศ์ได้ไม่ยากค่ะ หรือถ้าอยากจะไปห้างต้องเดินข้ามไปจามจุรีสแควร์ สามย่านมิตรทาวน์ หรือไปสยามค่ะ โดยแบบห้อง Studio ของโครงการ Ideo Chula Samyan ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านบาท นับว่าเป็นราคามาตรฐานทั่วไปของย่านนี้ ซึ่งแต่ละโครงการก็มีความน่าสนใจแตกต่างกันออกไป ยังไงก็ลองพิจารณาเลือกกันดูได้นะคะ

    การเดินทางโดยใช้รถ :

    การเดินทางโดยใช้รถยนต์ถือว่าสะดวก ใช้เส้นทางได้หลากหลาย เนื่องจากโครงการยังอยู่บนถนนสี่พระยาช่วงก่อนถึงแยกนเรศทำให้ถนนหน้าโครงการยังเป็น Two-Way เดินทางเข้าเมืองไปทางพระราม 4 สีลม สาทร หรือขึ้นทางด่วนได้สะดวก ถนนสี่พระยาสามารถเชื่อมต่อกับถนนพระราม4 ถนนเส้นหลักที่สามารถใช้เดินทางไปยัง ถนนพญาไท, ถนนอังรีดูนังต์, ถนนราชดำริ ถนนวิทยุ หรือไปยังย่านเพลินจิต-สีลม-สาทรได้ อีกทั้งในซอยเองสามารถใช้ซอยย่อยต่างๆเพื่อร่นระยะเวลาการเดินทางได้ เช่น จากถนนสี่พระยาบริเวณหน้าโครงการสามารถใช้ถนนทรัพย์ลัดไปออกถนนสุรวงศ์และถนนสีลมได้เลย เป็นต้น 

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถจะมี MRT สามย่านที่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุดโดยห่างจากโครงการไปประมาณ 400 ม.จากทางออก 1 หน้าวัดหัวลำโพง ถือเป็นระยะที่เดินได้สบาย ทั้ง 2 ข้างทางมีฟุตบาทให้เดินได้ตลอดทาง แต่ถ้าเป็นเวลากลางคืนอาจจะเปลี่ยวหน่อยนอกจากนี้ยังมีตัวเลือกเข้าถึงโครงการอื่นๆ อีกเช่น พี่วินมอเตอร์ไซต์ที่คอยให้บริการอยู่หน้ามูลนิธิร่วมกตัญญูตรงปากทางเข้าถนนสี่พระยา และมีตุ๊กตุ๊ก Taxi วิ่งผ่านหน้าโครงการตลอด เรียกได้ไม่ยากค่ะเพราะโครงการอยู่ติดถนนเลยค่ะ

    วัสดุ :

    ให้มาตามมาตรฐานค่อนข้างไปทางดี โครงการขายแบบ Fully – Fitted ให้ครัวพร้อมเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน ของ Teka อ่างล้างจานแบบหลุมเดียว ตู้ด้านบนมีติดตั้งชั้นวางของที่สามารถดึงลงมาใช้งานได้สะดวก ตู้เก็บรองเท้า Built in ที่ทำฟังก์ชันออกมาให้เก็บของได้เยอะแต่ประหยัดเนื้อที่ ได้ชุดปลั๊กข้างเตียงที่มีช่องเสียบ USB สุขภัณฑ์ต่างๆของ American Standard พื้นที่อาบน้ำมี Rain Shower มาให้ ตู้เสื้อผ้าให้แบบ Walk-in Closet พร้อมมี แอร์ Digital Door Lock มาให้ด้วย

    การออกแบบ :

    การวางผังทำได้ดี ถึงแม้ว่าจะมี 2 อาคารแต่ก็มีการแยกโซนให้อาคาร A เน้นห้องขนาดเล็ก อาคาร B เน้นห้องขนาดใหญ่ รวมถึงมีการแยก Facilities เอาไว้ชั้นบน ทำสามารถขึ้นไปใช้งานได้อย่างเป็นส่วนตัว ตำแหน่งของห้องไหนที่โดนบังวิวจะมีการวางผังให้เป็นโถงลิฟต์แทน แลกกับที่จะมีบางห้องที่เดินไกลลิฟต์หน่อย จุดที่ชอบอีกอย่างคือพื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบได้สวยงามน่าใช้ บริเวณที่เน้นวิวก็จะใช้กระจกใสในการตกแต่งเพื่อเปิดให้เห็นวิวแบบเต็มๆ ฟังก์ชันห้องพักลงตัว จัดพื้นที่ใช้สอยได้ดี  ไม่มี Waste Space เน้นครัวเปิด และในห้อง 1 ห้องนอน 34.5 ตร.ม. มีการวางผังให้มีพื้นที่ทานข้าว นั่งเล่น และทำงานเป็นสัดส่วน

    สาธารณูปโภค :

    สาธารณูปโภคถือว่าให้มาครบครันค่ะ อาจจะไม่ได้หลากหลายแต่มีขนาดใหญ่น่าใช้งาน และตอบโจทย์ลูกบ้านที่เป็นนักศึกษาและคนทำงานได้ดี ชั้นล่างมี Lobby แยกอาคารที่มีการตกแต่งเป็น Two Tone สีอ่อนกับสีเข้ม ส่วนชั้นบนสุดจะมี Facilities หลักที่ถูกออกแบบมาให้เป็น Triple Facilities ซึ่งรวม สระว่ายน้ำ และ Co-Living Space + Fitness ที่เปิด 24 ชั่วโมงเอาไว้ พื้นที่สีเขียวโครงการนี้จัดมาให้เยอะทั้งสวนหย่อมรอบโครงการ และ สวนเล่นระดับที่แทรกอยู่ตามชั้นต่างๆค่ะ

    Judgement

    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 160,000 – 200,000 บาท/ตร.ม., 8 January 2020

    • ทำเล 7.75/10 – ติดถนนสี่พระยา ใกล้ห้างและออฟฟิศย่านจุฬาฯ สยาม สีลม สาทร สามย่าน
    • เดินทางด้วยรถ 8.25/10 – สะดวก สามารถใช้ซอยลัดได้ ทางด่วนอยู่ไม่ไกล ที่จอดรถ 50%
    • ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ระยะ 400 เมตรถึง MRT สามย่าน อยู่ฝั่งเดียวกับจุดขึ้นลง MRT ไม่ต้องข้ามถนนใหญ่ เรียกรถอื่นๆได้สะดวก
    • วัสดุ 7.75 /10 –
    • แบบ 8.5/10 – ออกแบบได้ดี ทำให้โครงการเป็นส่วนตัวทั้งๆที่มี 2 อาคาร ฟังก์ชันห้องพักลงตัว
    • สาธารณูปโภค 8 /10 – ให้มาครบครัน มี  Triple Facilities อยู่ที่ชั้นดาดฟ้า สระว่ายน้ำ Co-Living Space และ ฟิตเนส

    • LUXURY CLASS
    • 7.90 / 10.00

    BOTTOM LINE

    IDEO จุฬา-สามย่าน เหมาะกับคนที่มองหาคอนโด High Rise ในทำเลสามย่าน ไม่จำเป็นต้องติดถนนหลักแต่ราคาต่ำลงมาหน่อย ใกล้ห้าง เดินทางไปรถไฟฟ้าได้สะดวก  โดยอาจจะเป็นผู้ปกครองมองหาคอนโดให้นักศึกษา หรือกลุ่มคนทำงานย่านสีลม สาทร ชอบโครงการที่มี Sky Facilities ให้ใช้ มีงบประมาณ 5-10 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 35,000 – 70,000 บาท/เดือน


    ติดตามพวกเราได้ที่
    Website : www.thinkofliving.com
    Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
    YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
    Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
    Facebook : ThinkofLiving