รีวิวฉบับที่ 2747 … เมื่อปลายปี 2562 เราเคยพาทุกคนไปชม Sale Gallery และห้องตัวอย่างของ Ideo Sukhumvit – Rama 4 (ไอดีโอ สุขุมวิท – พระราม 4) คอนโด High Rise 32 ชั้น ติดถนนพระราม 4 จาก Ananda ซึ่งปัจจุบันคอนโดเพิ่งสร้างเสร็จพร้อมเปิดตึกให้ยลโฉมกันแล้ว โดยโครงการมีการปรับแบบห้องจากเดิมไปเล็กน้อย แต่ขอบอกเลยว่าตอบโจทย์การใช้งานของลูกบ้านมากกว่าเดิมแน่นอน ในราคาเริ่มต้น 4.39 ล้านบาท เราได้เข้าชมโครงการแล้วรวบรวม Highlight ที่น่าสนใจมาให้แล้ว ดังนี้
- ใกล้ BTS พระโขนง : ในระยะเดินได้เพียง 350 เมตร และมีรถรับ-ส่ง ทำให้เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก
- ใกล้แหล่งกินเที่ยวช้อป : อย่าง Summer Hills และ W District ประมาณ 400 เมตร ถือว่าอยู่ในระยะที่เดินไหวเช่นกัน
- มี Urban Courtyard : พร้อมน้ำตกสูง 18 เมตร ให้ความรู้สึกว่าถูกโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ เอาใจคนชอบพื้นที่สีเขียว
- ฟิตเนส 24 ชั่วโมง : ห้องออกกำลังกายส่วนกลางเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ตอบโจทย์วัยทำงานที่กว่าจะกลับมาถึงห้องก็ดึกแล้ว
- มี Facility ส่วนกลางอยู่ชั้นบนสุด : มี Sky Lounge บนชั้นสูงสุดของอาคาร ทำให้สามารถชมวิวแบบ 360 องศา ไม่มีอาคารไหนบังวิวในระยะประชิด
- ที่จอดรถเยอะ : ถึง 53 % นับว่าเยอะกว่าคอนโดใกล้รถไฟฟ้าในโซนนี้นะคะ
ข้อมูลโครงการ
Ideo Sukhumvit – Rama 4 (ไอดีโอ สุขุมวิท – พระราม 4) ณ วันที่ 6 กันยายน 2567
ชื่อโครงการ | Ideo Sukhumvit – Rama 4 (ไอดีโอ สุขุมวิท – พระราม 4) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนพระราม 4 เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพฯ |
ที่ดิน | 3-2-50.9 ไร่ |
ประเภทคอนโด | High Rise 32 ชั้น 1 อาคาร 642 ยูนิต และร้านค้า 3 ยูนิต |
จำนวนยูนิต | 642 ยูนิต และร้านค้า 3 ยูนิต |
ที่จอดรถ | ที่จอดรถประมาณ 340 คัน คิดเป็น 53% |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2563 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2567 |
ประเภทห้องพัก |
|
ราคาเริ่มต้น | 4.39 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 145,000 บาท/ตร.ม. |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | ผ่านแล้ว |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
Call Center | 02-3162222 |
ทำเลที่ตั้ง
Highlight
- ใกล้รถไฟฟ้า BTS พระโขนงเพียง 350 เมตร ซึ่งอยู่ในระยะเดินได้ไปรถไฟฟ้าได้สะดวก และโครงการมีรถรับส่งจากคอนโดไป BTS พระโขนงด้วย
- ใกล้แหล่ง Community Mall เช่น Summer Hills และ W District ในระยะเดินถึง ประมาณ 400 เมตร สะดวกในการหาของกินของใช้
พิกัด Google Maps : 13.712916278473596, 100.58974475120753
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการ Ideo Sukhumvit – Rama 4 (ไอดีโอ สุขุมวิท – พระราม 4)
โครงการ Ideo Sukhumvit – Rama 4 (ไอดีโอ สุขุมวิท – พระราม 4) ตั้งอยู่ติดกับถนนพระราม 4 เกือบถึงแยกพระโขนงเลยค่ะ เมื่อก่อนทำเลตรงนี้ไม่พลุกพล่านมากนัก แต่ปัจจุบันเป็นเหมือนแหล่งความอุดมสมบูรณ์ที่ขยายมาจากโซนเอกมัย และเริ่มคึกคักมากขึ้นหลังจากมี Community Mall อย่าง Summer Hills และ W District มาเปิดตรงสถานนี BTS พระโขนง กลายเป็นย่านที่เหมาะกับการพักอาศัย เราจะสังเกตุได้ว่ามีคอนโดมาเปิดตัวในย่านนี้มากขึ้นกว่าสมัยก่อนเยอะพอสมควรเลยค่ะ ทำเลนี้ตรงนี้เหมาะกับคนอยากอาศัยอยู่ใกล้ๆตัวเมือง เดินทางไปทำงานในเมืองอย่างโซน เอกมัย , ทองหล่อ , อโศกและเพลินจิตได้ไม่ยาก หรือ ไปทำงานอีกฝั่งอย่างอ่อนนุชก็สะดวกเช่นกัน แต่ราคาเข้าถึงได้ง่ายกว่าที่พักอาศัยโซนในเมืองแท้ๆ อย่างอโศก , พร้อมพงษ์ และเอกมัยเป็นต้น
และถ้าพูดถึงคอนโดที่ใกล้แยกพระโขนงเหมือนกัน ก็มีอยู่ 3โครงการให้เลือก เรามองว่าจาก Ideo Sukhumvit – Rama 4 (ไอดีโอ สุขุมวิท – พระราม 4) เดินไปรถไฟฟ้าได้สะดวกที่สุด แม้จะไม่ใช่โครงการที่ใกล้รถไฟฟ้าที่สุด แต่อยู่ฝั่งเดียวกับสถานี BTS ทำให้เดินไปได้โดยไม่ต้องข้ามถนน ปลอดภัยกว่าค่ะ แต่ก็ต้องยอมรับว่าสำหรับการเดินทางแบบใช้รถยนต์นั้น หากจะมุ่งหน้าไปทางสีลมจะต้องเผื่อเวลาในการเดินทางมากกว่าโครงการอื่นๆ เพราะเราต้องกลับรถบริเวณสี่แยกที่รถติดมาก ในเรื่องของราคาโครงการนี้มีราคาที่สูงกว่าเพื่อนอยู่เล็กน้อยนะคะ
ตัวโครงการใกล้ BTS พระโขนงประมาณ 350 เมตร ถือว่าเดินได้สบายๆเลย ซึ่งเราจะใช้ทางลัดในการเดินกันนะคะ โดยเดินผ่านซอยสุขุมวิท 46 ที่มี Naiipa Art Complex , ร้านค้าชุมชนและบ้านพักอาศัยตั้งอยู่ตลอดแนว ทำให้ไม่เปลี่ยว เดินได้ปลอดภัยค่ะ พอออกปากซอยจะเจอสถานี BTS พอดีเลย หรือใครไม่อยากเดินจะนั่งรถตุ๊กๆรับ-ส่งของโครงการก็สะดวกค่ะ เพราะเราไม่ต้องรอให้รถเต็มเหมือนรถตู้จึงออกรถ มีลูกบ้านมารอ 2-3 คนก็ออกเดินทางได้เลย เรามองว่าจาก BTS พระโขนงเดินทางไปแหล่งทำงานได้ 2 โซน ไม่ว่าจะเป็นโซนอโศก เอกมัย ซึ่งเป็นย่านทำงานของคนเมืองเลย หรือโซนอ่อนนุช ปุณณวิถี ที่ตอนนี้เริ่มมีอาคารสำนักงานใหญ่ไปตั้งกันบ้างแล้ว
บรรยากาศรอบๆ BTS
ติดกับสถานี BTS มี Community Mall อย่าง Summer Hills และ W District อยู่ทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้บรรยากาศตรงนี้คึกคัก เราสามารถแวะซื้อของกินติดไม้ติดมือกลับเข้าห้องได้สะดวกเลย
บรรยากาศทางเดินไป BTS พระโขนง
ทางเดินระหว่างโครงการไปสถานี BTS พระโขนง ช่วงแรกก่อนเข้าซอยสุขุมวิท 46 จะเป็นฟุตบาทที่ยกระดับขึ้นมาจากถนนพระราม 4 มีขนาดกว้างทีเดียว ส่วนแผ่นปูพื้นก็เรียบร้อย ไม่มีน้ำขัง เดินได้สะดวกเลย แต่พอเข้ามาในซอยสุขุมวิท 46 จะไม่มีฟุตบาทนะ เราต้องเดินระวังๆนิดนึง เพราะมีรถเข้าออกซอยตลอด แต่ก็ทำให้ภายในซอยไม่เปลี่ยว เดินได้ปลอดภัยค่ะ
แผนที่ การเดินทางโดยรถสาธารณะ
สำหรับคนที่ใช้รถยนต์เป็นหลัก สามารถใช้เส้นทางซอยสุขุมวิท 46 เพื่อลัดเลาะไปถนนสุขุมวิทได้ เพื่อเลี่ยงรถติดบริเวณสี่แยกพระโขนง หรือใครที่มาจากถนนสุขุมวิทก็เข้าซอยสุขุมวิท 44/1 เพื่อมาโครงการได้เช่นกัน ซึ่งเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่รถตุ๊กๆรับ-ส่งของโครงการใช้เช่นกันนะ เพื่อความรวดเร็วในการเดินทางของลูกบ้าน
ส่วนจุดกลับรถใกล้ๆโครงการมีอยู่ 3 จุดด้วยกัน หากใครมาจากเส้นสุขุมวิท แล้วเข้ามายังเส้นพระราม 4 สามารถใช้จุดกลับรถ 2 ได้นะ แต่จะอยู่ในระยะประชิดกับโครงการมากๆ เราเลยแนะนำให้ขับรถเลยไปสักหน่อย เพื่อใช้จุดกลับรถ 3 จะสะดวกในการเลี้ยวเข้าโครงการมากกว่านะ สำหรับใครที่ต้องเดินทางไปฝั่งคลองเตย สีลม จะต้องใช้จุดกลับรถ 1 ซึ่งรถติดเอามากๆเลยค่ะ อาจจะต้องเผื่อเวลากันสักหน่อยนะ
เส้นทางไปจุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานคร
ทางด่วนที่ใกล้ที่สุดจะมี 2 จุด จุดแรกคือทางด่วนฉลองรัช ที่อยู่ห่างออกไป 1.7 กิโลเมตร ใช้เดินทางไปยังโซน พระราม 9 , ลาดพร้าว และรามอินทราได้ ส่วนทางด่วนเฉลิมมหานครที่อยู่ห่างจากโครงการออกไป 2.3 กิโลเมตร ก็ใช้เดินทางไปโซนพญาไทหรือจตุจักรได้ด้วย
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
โครงการ Ideo Sukhumvit – Rama 4 (ไอดีโอ สุขุมวิท – พระราม 4) ตั้งอยู่บนถนนพระราม 4 รอบๆโครงการในระยะใกล้เป็นอาคารที่สูงไม่เกิน 4 ชั้น ส่วนตึกสูงจะอยู่ห่างออกไปพอสมควร จึงไม่มีอาคารบังมาบังวิวค่ะ เนื่องจากวันที่เราไปรีวิวโครงการชั้นดาดฟ้าที่เป็นสวนส่วนกลางยังไม่เสร็จจึงไม่มีภาพมาฝากกันนะคะ
- ทิศเหนือ ติดกับ ชุมชนบ้าน1-2 ชั้นและซอยสุขุมวิท 44/1
- ทิศตะวันออก ติดกับ ชุมชนบ้าน1-2 ชั้นและตึกแถว 3-4 ชั้น
- ทิศใต้ ติดกับ ถนนพระราม 4 และปั๊มน้ำมัน
- ทิศตะวันตก ติดกับ ที่ว่างรอการพัฒนาในอนาคต
โครงการอยู่ติดถนนพระราม 4
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- Naiipa Art Complex ~ 260 m.
- Summer Hills / Summer hub ~ 400 m.
- W District ~ 450 m.
- Gateway เอกมัย ~ 1.2 km.
- Major สุขุมวิท ~ 1.6 km.
- Big C อ่อนนุช ~ 1.7 km.
- Park Lane ~ 1.8 km.
- Big C เอกมัย ~ 2.2 km.
- สวนเพลิน มาร์เก็ต ~ 2.6 km.
- Emporium & EmQuartier ~ 3.4 km.
- Terminal 21 ~ 5.7 km.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ~ 350 m.
- โรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์ ~ 1.6 km.
- โรงพยาบาลสุขุมวิท ~ 1.8 km.
- โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ ~ 3.6 km.
โรงเรียน
- โรงเรียนเซนต์แอนดรูส์อินเตอร์เนชันแนล กรุงเทพ ~ 850 m.
- โรงเรียนเซนต์แอนดรูส์อินเตอร์เนชันแนล (ประถมศึกษา) ~ 2.0 km.
- โรงเรียนนานาชาติเวลล์ ~ 2.2 km.
- โรงเรียนนานาชาติบางกอกเพรพ ~ 2.3 km.
- โรงเรียนนานาชาติทรีนีตี้ ~ 2.7 km.
- โรงเรียนนานาชาติเอกมัย ~ 3.0 km.
- โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ~ 4.0 km.
การเดินทาง
- BTS พระโขนง พระโขนง พระโขนง~ 350 m
- ทางด่วนฉลองรัช ~ 1.7 km.
- ทางด่วนเฉลิมมหานคร ~ 2.3 km.
รายละเอียดโครงการ
Highlight
- Sky Facility อยู่บนชั้น 32 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของโครงการทำให้ได้วิวเมืองโดยรอบ ไม่มีอาคารสูงบังในระยะประชิด
- มี Urban Courtyard และตกแต่งด้วยน้ำตกสูง 18 เมตรด้านหน้าโครงการเป็น Landmark ของโครงการ เพิ่มบรรยากาศให้ดูร่มรื่น
- Private Lobby อยู่ชั้น 6 เพื่อแยกพื้นที่สำหรับคนนอกและลูกบ้านอย่างชัดเจน ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ลูกบ้าน
Ideo Sukhumvit – Rama 4 (ไอดีโอ สุขุมวิท – พระราม 4) เป็นคอนโดมิเนียม High Rise 32 ชั้น มีจำนวนยูนิต 642 ยูนิต บนเนื้อที่ประมาณ 3-2-50.9 ไร่ และมี Shop ร้านค้าอยู่ 3 ยูนิต ที่ปัจจุบันเปิดเป็นร้านกาแฟแบรนด์ Fellow Everyday Cups & Cones เป็นที่นัดพบเพื่อนฝูง นัดคุยงานได้สะดวกเลย เพราะเปิดบริการให้คนภายนอกด้วยนะคะ ในอนาคตจะมีร้านสะดวกซื้อมาเปิดอีก 1 ยูนิต ทำให้ลูกบ้านหาของกินของใช้ได้สะดวก
ส่วน Facility ภายในโครงการแบ่งออกเป็น 4 ชั้น โดยชั้นแรกเป็น Urban Courtyard ตกแต่งด้วยน้ำตก สูง 18 เมตรอยู่กลางอาคาร ใครเดินผ่านก็ต้องสะดุดตาแน่นอน ซึ่งเรามองว่าเป็น Highlight เลยค่ะ เพราะมีไม่กี่โครงการที่จะทำสวนส่วนกลางแบบนี้ โครงการนำ Private Lobby , สระว่ายน้ำ , Fitness Center และส่วนกลางหลักมาอยู่ที่ชั้น 6 ส่วน Sky Lounge อยู่ชั้น 31 สามารถมองเห็นวิวเมือง และสุดท้ายคือสวนส่วนกลางบนดาดฟ้าของอาคาร
จาก Master Plan โครงการ Ideo Sukhumvit – Rama 4 (ไอดีโอ สุขุมวิท – พระราม 4) เราจะเห็นว่ามีทางเข้า-ออกเพียงทางเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นลูกบ้าน แขกที่มาเยี่ยมเยือน หรือแท็กซี่ก็ต้องผ่านซุ้มประตูโครงการก่อน ส่วนลูกบ้านและแขกสามารถวนรถไปจอดรอบๆอาคาร รวมถึงขึ้นไปจอดชั้น 2-5 ได้เลย
หน้าโครงการเป็น Shop เปิดให้คนอื่นๆเข้ามาใช้บริการได้ รวมถึง Urban Courtyard ที่เป็นจุดเด่นของโครงการก็เปิดให้คนทั่วไปมาชมได้เช่นกัน แต่หากจะผ่านเข้าไปยังโถงลิฟต์ต้องผ่านระบบ Face Scan เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวให้ลูกบ้าน
ซุ้มประตูโครงการ
ทางเข้าโครงการใช้ระบบจดจำป้ายเทียนในการเข้า-ออกโครงการ แต่ในวันที่ไปยังไม่ติดตั้งนะคะ ส่วนแขกจะต้องแลกบัตรก่อนนะ โครงการแยกทางเข้าออกอย่างชัดเจนแต่ ไม่ได้แยกช่องระหว่างลูกบ้านกับผู้มาติดต่อ จึงทำให้ต้องรอสักหน่อย หากรถคันหน้าเรามีการแลกบัตร
โครงการมีวงเวียน Drop-off ให้วนส่งลูกบ้านได้สะดวก
ภายในโครงการมี Drop-off อยู่ใกล้ซุ้มประตู แท็กซี่สามารถส่งลูกบ้านแล้ววนออกไปได้เลย ส่วนลูกบ้านที่ใช้รถยนต์สามารถขับไปจอดบนอาคารได้ แต่ความสูงของรถจะต้องไม่เกิน 2.10 เมตรนะ ถ้าใครใช้รถสูงเช่น Alphard สามารถจอดบริเวณรอบๆอาคารหรือชั้น 1 ได้เลย ส่วนคนที่ใช้รถไฟฟ้าทางโครงการเตรียมจุด Ev Charger ให้ 2จุดในปัจจุบัน แต่อนาคตมีแพลนเพิ่มอีก 5 จุดนะ ถือว่าเยอะมากเลยค่ะ เพราะโครงอื่นๆมักให้กันแค่ 2 จุดเท่านั้น แต่ในวันที่เราเข้าไปถ่ายรีวิว ทางโครงการยังติดตั้งไม่เรียบร้อยนะ เลยไม่ได้เก็บภาพมาฝากกัน
ทางขึ้นลานจอดรถ
ทางขึ้นไปลานจอดรถกว้างพอให้รถสวนกันได้ แต่ต้องชะลอความเร็วหน่อยนะเพราะทางลงเป็นทางลาดตรงยาว ส่วนบรรยากาศชั้นจอดรถค่อนข้างโล่ง ไม่แออัด และมีแสงธรรมชาติเข้าได้ 3 ทางทำให้ลานจอดรถสว่างปลอดภัย
โถงลิฟต์ของชั้นลานจอดรถ
ลูกบ้านสามารถเข้าโถงลิฟต์ได้โดยไม่ต้องสแกนอะไร แต่ในตัวลิฟต์จะต้องใช้ระบบ Face Scan จึงใช้งานได้เฉพาะคนที่ลงทะเบียนใบหน้าไว้กับทางโครงการเท่านั้น
ร้านกาแฟหน้าโครงการ
หน้าโครงการเป็นร้านกาแฟ Fellow Everyday Cups & Cones ที่ตอนนี้แบ่งพื้นที่ใช้เป็น Sale Gallery ด้วย ทำให้บรรยากาศหน้าโครงการดูคึกคัก ลูกบ้านคนไหนชอบบรรยากาศร้านกาแฟ แค่ลงมาจากห้องก็มาจิบกาแฟไปทำงานไปที่หน้าโครงการได้เลยนะ
ทางเข้าหลักออกแบบเป็นระแนงไม้ตามแนวโค้งหลายชั้น ให้บรรยากาศที่ผ่อนคลายเหมือนถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติ คนที่เดินเข้ามาจะรู้สึกถึงได้ถึงความอลังการของทางเข้าอาคารซึ่งอยู่ตรงพื้นที่ Drop-off พอดี มองเป็นเห็นหลังคา Sky Light ที่ปลายทางยิ่งดึงดูดสายตาของคนที่เดินอยู่ แล้วทางเข้านี้ยังให้ความรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวมากขึ้นของพื้นที่ด้านใน โดยไม่ต้องมีประตูกั้นเลยค่ะ
ทางเข้าไป Urban Courtyard ชั้น1
ทางขึ้นไปบริเวณสวนออกแบบเป็น Universal Design มีทั้งทางลาดสำหรับรถเข็น เพื่อให้ใช้งานสะดวก และบันไดสำหรับคนทั่วไป
บรรยากาศ Urban Courtyard
Urban Courtyard ตกแต่งด้วยน้ำตก สูง 18 เมตรเป็น Highlight ของส่วนกลางที่นี่ เพราะตั้งอยู่ใน Court กลางอาคารและมีขนาดใหญ่ ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ โปร่งโล่งและสดชื่นสุดๆ ใครเป็นชื่นชอบสวนคงถูกใจมุมนี้มากทีเดียว
เนื่องจากบริเวณชั้น 1 จะไม่ได้มี Lobby เป็นกิจจะลักษณะ เหมือนโครงการอื่นๆ บริเวณรอบๆสวนจึงมีมุมพักผ่อนให้ลูกบ้านได้นั่งชมบรรยากาศภายในสวนเพื่อพักคอยได้
ทางเข้าห้องน้ำผู้สูงอายุ
ถัดมาจะเป็นห้องน้ำส่วนกลางของโครงการที่แยกชาย,หญิงและผู้สูงอายุไว้เรียบร้อย
ห้อง Grab and Go
อีกฝั่งของสวนจะเป็นส่วน Service ประกอบไปด้วยห้องนิติบุคคล ลูกบ้านจึงติดต่อได้สะดวกทั้งช่วงก่อนออกไปทำงานหรือก่อนกลับเข้าห้อง นอกจากนี้ยังมีห้อง Grab & Go สำหรับให้ไรด์เดอร์วางอาหารหรือของได้ ไม่ต้องกลัวว่าของจะเปียกเวลาฝนตกเลย
ทางเข้าโถงลิฟต์ของโครงการ
ทางเข้าโถงลิฟต์จะต้องใช้ระบบ Face scan เพื่อเข้าไป ตรงนี้จึงเป็นจุดคัดกรองแบ่งแยกลูกบ้านและบุคคลภายนอก เพื่อความปลอดภัยในการอยู่อาศัย
เข้ามาในโถงลิฟต์ของอาคารจะมีลิฟต์โดยสาร 4 ตัว ซึ่งโครงการนี้มีอัตราส่วนลิฟต์ 1 : 160.5 เทียบกับคอนโดส่วนใหญ่ในราคาพอๆกัน ถือว่าค่อนข้างดีแล้วค่ะ น่าจะไม่ต้องรอลิฟต์นานในช่วงเวลาเร่งด่วน
ภายในลิฟต์ดูสว่างดี มีการเสริมความปลอดภัยด้วยการติดตั้งกล้อง CCTV ไว้ให้ และต้องใช้ Face Scan จึงมีแค่ลูกบ้านเท่านั้นที่จะใช้ได้
แผงกดปุ่มภายในลิฟต์มี 2 แบบคือแบบแนวตั้งปกติ อีกแบบที่ตำแหน่งอยู่ต่ำลงมาหน่อย รองรับผู้ที่ใช้วีลแชร์และเด็ก
ชั้น 6 จะเป็นMain Facilities ของโครงการ แบบจัดเต็มทั้งชั้น โดยที่ Facilities เหล่านั้นอยู่ล้อม Courtyard ที่เป็น Urban Courtyard ทำให้หลายๆฟังก์ชันบนชั้นนี้ มองลงไปเห็นสวนด้านล่าง ที่นี่ยก Lobby มาไว้บนชั้น 6 เพราะชั้นล่างมีหลายส่วนที่เปิดให้คนนอกเข้ามาได้ ดังนั้น Private Lobby ชั้นนี้จึงไม่มีคนนอกมาใช้งานเลย นอกจากจะเป็นแขกที่ลูกบ้านพามาเองเท่านั้น
โถงลิฟต์ชั้น 6 ติดกับผนังกระจก 2 ด้าน ทำให้มีแสงส่องเข้าได้มาก ดูสว่างตาดีค่ะ
บรรยากาศ Private Lobby
Private Lobby มีขนาดใหญ่มาก โอบล้อมลิฟต์เป็นรูปตัว L มีทั้งมุมพักผ่อนและมุมนั่งทำงาน ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานสามารถมาใช้พื้นที่ส่วนนี้ได้เลย เราชอบที่โครงการมีฉากกั้นบางๆระหว่างโซฟาแต่ละชุด ช่วยให้เราใช้งานได้อย่างเป็นส่วนตัว
Digital Mailbox Room
สำหรับห้อง Mailbox ของโครงการนี้จะใช้เป็นรหัสในการเปิดเอาจดหมาย ลูกบ้านไม่จำเป็นต้องพกกุญแจสำหรับไข Mailbox ทำให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น
ส่วน Semi-Outdoor เป็นสนามเด็กเล่นเล็กๆ ครอบครัวไหนมีลูกวัยอนุบาล ก็สามารถพามาเล่นบริเวณนี้ได้
ห้องน้ำส่วนกลาง
ห้องน้ำส่วนกลางของชั้นนี้แบ่งแยกชาย หญิงและห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุไว้อย่างชัดเจน ภายในห้องน้ำชาย-หญิงแบ่งเป็นห้องสุขา 3 ห้อง และห้องอาบน้ำ 2 ห้อง สำหรับคนที่มาเล่นฟิตเนสหรือว่ายน้ำ
24-HR Fitness Center
อีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการนี้คือ 24-HR Fitness Center ลูกบ้านสามารถมาใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตอบโจทย์คนที่ทำงานดึกๆ ไม่มีเวลาว่างมาออกกำลังกายในเวลาปกติ ภายในห้องแบ่งเป็นส่วน Cardio และ Weight Training ครบครัน นอกจากนี้เรายังสามารถออกกำลังพร้อมกับชมวิวเมืองได้ด้วย เพราะชั้นนี้อยู่สูงกว่าอาคารรอบข้างอยู่แล้ว ทำให้ไม่มีอาคารไหนมาบังในระยะประชิด
สระว่ายน้ำส่วนกลาง
สระว่ายน้ำกลางแจ้งมีขนาด 6.6 x 25 เมตร ลูกบ้านใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายได้อย่างจริงจัง สระว่ายน้ำมีส่วนของสระเด็ก , Aqua Exercise Equipment และ Jacuzzi ให้อย่างเพียบพร้อม เราแนะนำให้มาใช้งานเวลาช่วงเช้าเพราะมีเงาจากส่วน Tower บังแดดให้ หรือเวลาเย็นที่แดดไม่ร้อนมากนัก
ข้างๆสระว่ายน้ำมีพื้นที่อาบน้ำล้างตัวมาให้ 1 จุด
บรรยากาศทางเดินในสวนชั้น 6
ด้านข้างสระว่ายน้ำเป็นสวนส่วนกลาง ที่เห็นวิวได้กว้างมากขึ้น ลูกบ้านสามารถมาเดินเล่น หรือนั่งพักผ่อนหย่อนใจ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศได้
มุมพักผ่อนที่ยื่นออกไปกลาง Courtyard จากตรงนี้เราจะสามารถเห็นสวนชั้น 1 ได้ชัดเจน
มุมมองจากชั้น 6 ลงไปยัง Courtyard
Co-Creative Space
นอกจากจะมี Private Lobby ที่ใช้ทำงานได้แล้ว ยังมี Co-Creative Space ที่เป็นพื้นที่ทำงานโดยเฉพาะ จะทำงานเดี่ยว งานกลุ่มก็สะดวกในการใช้งาน
Meeting Room
โครงการมีห้องประชุมขนาด 8 ที่นั่ง 1 ห้องสำหรับลูกบ้านนัดประชุมกับเพื่อนๆ ใครจะใช้งานต้องจองผ่าน Application ก่อนนะ
Golf Simulator Room
อีกหนึ่งฟังก์ชันพิเศษคือ Golf Simulator Room เอาใจคนชอบออกรอบได้ดีมากเลย เป็นเหมือนสถานที่ซ้อมมือก่อนไปสนามจริง ลูกบ้านจะได้ตีกอล์ฟไปพร้อมอากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนแดดเหมือนตีกลางแจ้ง
ชั้น 7 – 31 เป็นชั้นพักอาศัย แปลนอาคารเป็นรูปตัว L ล้อมส่วนกลางไว้ ทำให้อาคารพักอาศัยได้วิวเมืองและวิวส่วนกลางด้วย โครงการออกแบบให้ลิฟต์อยู่ตรงกลางรูปตัว L เพื่อให้ลูกบ้านทั้ง 2 ฝั่งใช้งานสะดวก โดยห้องพักที่น่าสนใจมีดังนี้
กรอบสีส้ม : เป็นห้อง 2 Bedroom และยังเป็นห้องมุมอีกด้วยค่ะ มีแค่ชั้นละ 3 ห้องเท่านั้น จึงเป็นเหมือน Rare Item ของโครงการ หากใครชอบความเป็นส่วนตัวแนะนำให้จองห้องฝั่งขวานะ เพราะเป็น Single Corridor ไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม
กรอบสีแดง : เป็นห้อง 2 Bedroom ขนาดใหญ่ที่สุดมีชั้นละ 1 ห้องเท่านั้น ซึ่งปัจจุบัน Sold Out ไปเป็นที่เรียบร้อย
กรอบสีน้ำเงิน : เป็นห้องที่อยู่ใกล้ลิฟต์มากที่สุด ทำให้ขึ้น-ลงได้สะดวก
บรรยากาศทางเดินภายในอาคารพักอาศัย จะสังเกตได้ว่าประตูแต่ละห้องไม่ตรงกันเลย ทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัว
ชั้น 32 เป็นชั้นที่มีทั้งห้องพักอาศัยและ Facility แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวนะคะ เพราะโครงการแยกโซนห้องพักกับส่วนกลางไว้คนละโซน ซึ่งโซนห้องพักจะมี Face Scan อีกชั้น แปลว่ามีแต่ผู้พักอาศัยเท่านั้นที่จะผ่านเข้าได้
ส่วน Facility ชั้นนี้มี Sky Lounge ทั้งแบบ Indoor และ Semi-Outdoor ให้ลูกบ้านมาใช้งานพร้อมชมวิวเมือง
ถัดจากโถงลิฟต์ เป็นพื้นรับรองขนาดใหญ่ เวลาโครงการจัดงานอะไร จะได้มีพื้นที่จัดกิจกรรมเพิ่มเติม ทำให้คนไม่แออัด
ห้องน้ำส่วนกลาง
ชั้นนี้มีห้องน้ำสำหรับลูกบ้านเช่นกัน โดยแยกเป็นชาย-หญิงและห้องน้ำผู้สูงอายุอย่างละ 1 ห้อง
Sky Lounge
Sky lounge เป็นห้องแอร์สำหรับนั่งพักผ่อนบนชั้น 32 ของโครงการ ไม่ว่าลูกบ้านจะมีห้องพักอยู่ชั้นไหน ก็สามารถขึ้นมาชมวิวเมืองมุมสูงบนชั้นนี้ได้
Semi Outdoor Sky Desk
Semi Outdoor Sky Desk เป็นพื้นที่สำหรับนั่งกินลมชมวิวบนชั้นสูงสุดของโครงการ ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้เหมาะกับการชมพระอาทิตย์ตกมากเลยนะ
ชั้นดาดฟ้าเป็นสวนส่วนกลางทั้งชั้น เอาจริงๆเราอยากเห็นมากเลยนะเพราะยังไม่เคยเห็นกระทั่งรูป Perspective และในวันที่เข้าไปถ่ายรีวิวชั้นนี้ก็ยังไม่เสร็จดี เลยไม่มีโอกาสได้เห็น แต่คาดว่าต้องสวยมากแน่ๆ เพราะดูจากแปลนเป็นพื้นที่เปิดโล่งและเล่นระดับ ทำให้เปิดมุมมองวิวเมืองได้แบบ 360 องศาไว้ใครได้มาเยี่ยมชมตึกหลังจากชั้นดาดฟ้าเสร็จ เอามาอวดกันได้นะคะ 🙂
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
1st Floor
- Urban Courtyard
- Juristic
- Shop 3 ยูนิต
- สวนหย่อมที่ชั้น 1, 6, ดาดฟ้า
6th Floor
- Private Lobby
- Digital Mailbox Room
- Co-Creative Space
- Meeting Room
- Golf Simulator Room
- Garden & Floating Pavilion
- สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ขนาด 6 x 25 เมตร ลึก 1.20 เมตร พร้อม Aqua Exercise Equipment และ Jacuzzi
- มีการแบ่งสระเด็ก ลึก 0.60 เมตร ขนาดประมาณ 6 x 4 เมตร
- 24-HR Fitness Center ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 22 เครื่อง
32th Floor
- Semi-Outdoor Playtivity
- Sky Lounge
33th Floor
- Sky Garden
- ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 160.5 : 1
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถประมาณ 340 คันคิดเป็น 53%
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / ระบบอ่านป้านทะเบียน / Face Scan
แบบห้อง
Highlights :
- มีห้องหน้ากว้างให้เลือก กั้นห้องนอนด้วยผนังทึบ ได้ความเป็นส่วนตัว และได้วิวทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอน
- ฝ้าเพดานสูง 2.90 เมตร ซึ่งถือว่าสูงพิเศษกว่าโครงการระดับราคานี้
โครงการ Ideo Sukhumvit – Rama 4 (ไอดีโอ สุขุมวิท – พระราม 4) ทำห้องออกมาทั้งหมด 5 แบบ แต่ Type ใหญ่สุดขายหมดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ ปัจจุบันจึงมีห้องให้เลือกอยู่ 4 แบบ โดยขายแบบ Fully Fitted คือให้ชุดครัว Built in , ตู้เสื้อผ้า , เครื่องปรับอากาศ และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ
- 1 BED NEW SERIES พื้นที่ใช้สอยภายใน 29.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.39 ล้านบาท
- 1 BEDROOM พื้นที่ใช้สอยภายใน 34.50 ตร.ม.ราคาเริ่มต้น 4.99 ล้านบาท
- 1 BEDROOM PLUS พื้นที่ใช้สอยภายใน 44.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.39 ล้านบาท
- 2 BEDROOM พื้นที่ใช้สอยภายใน 65.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 10.59 ล้านบาท
- 2 BEDROOM พื้นที่ใช้สอยภายใน 75.00 ตร.ม. Sold Out
สรุปวัสดุภายในห้อง
- รูปแบบการขาย Fully Fitted
- วัสดุพื้น ส่วนห้องนอน/นั่งเล่น : พื้น ลามิเนต 8 มม.
- วัสดุพื้น ส่วนระเบียง : กระเบื้อง ขนาด 30×30 ซม. สีเทา
- ประตู HDF โครงประตู Hollow Core ขนาด 0.90 x 2.20 ม. หนา 3.5 ซม. กรุผิวลามิเนต 2 ด้าน พร้อมชุดอุปกรณ์ Digital Door Lock ของ SECUON
- ประตู-หน้าต่าง บานเลื่อนอลูมิเนียมทำสีดำ
- หน้าบานเฟอร์นิเจอร์ เมลามีน
ห้องครัว
- วัสดุพื้นห้องครัว : กระเบื้อง ขนาด 60×60 ซม. สีเทาอ่อน
- ท็อปหินสังเคราะห์ Quartz พร้อม Hob & Hood ของ Teka
- หน้าบานตู้ ไม้ลามิเนต
- Backsplash กระจกเงาสีดำ
ห้องน้ำ
- วัสดุพื้นห้องน้ำ : กระเบื้อง ขนาด 60×60 ซม. สีเทาอ่อน
- ชุดสุขภัณฑ์ จาก American Standard
- ประตูห้องน้ำ UPVC
- ตู้เก็บของภายในห้องน้ำไม้ลามิเนต
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันวันนี้จะมี 3 แบบนะคะ คือห้อง 1 BED NEW SERIES , 1 BEDROOM PLUS และ 2 BEDROOM ห้องแต่ละแบบจะมีความน่าสนใจนยังไงไปชมกันเลยค่ะ
1 BED NEW SERIES
เดิมทีห้องนี้เป็นห้องแบบ STUDIO คือจะไม่มีฉากกั้นระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอน แต่ปัจจุบันโครงการได้ดัดแปลงมาเป็นห้อง 1 BED NEW SERIES ซึ่งมีการกั้นห้องด้วยกระจก ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นแต่ยังได้รับแสงธรรมชาติได้อย่างพอเหมาะ ห้องแบบนี้จะได้ห้องครัวแบบปิด เหมาะกับคนชอบทำอาหารจริงจังโดยไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นจะลอยไปห้องอื่นๆ ส่วนห้องน้ำมีช่องใส่เครื่องซักผ้าไว้ให้ ช่วยคลายกังวลเรื่องความชื้นเพราะห้องน้ำรองรับความชื้นอยู่แล้วค่ะ
เริ่มต้นจากประตูทางเข้าห้องเป็นประตูบานไม้เทียม HDF กรุผิวลามิเนต 2 ด้านพร้อมชุดอุปกรณ์ Digital Door Lock ของ SECUON ลูกบ้านสามารถเข้าห้องได้โดยไม่ต้องพกกุญแจห้อง เอาใจสายขี้ลืมให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น
ทางเข้าห้องมีธรณีประตูเพื่อช่วยกันฝุ่นกันน้ำจากทางเดินส่วนกลางไม่ให้เข้าห้อง
ห้องครัวแบบปิด
ส่วนแรกของห้องพักคือห้องครัวแบบปิด กั้นสัดส่วนแยกกับห้องนั่งเล่นอย่างชัดเจน ทำให้ทำอาหารกลิ่นฉุนๆได้ ไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นจะลอยไปห้องอื่นๆ โครงการให้ชุด Built-in Pantry มาให้ค่อนข้างครบ ทางเดินกว้างประมาณ 1.20 เมตร พอให้คนเดินผ่านขณะที่มีคนทำอาหารอยู่
ตู้เก็บรองเท้าหน้าห้อง
บริเวณหน้าห้องโครงการให้ตู้เก็บรองเท้าและตู้เก็บของมาด้วย เราสามารถถอดรองเท้าแล้วเก็บเข้าตู้ได้เลยหลังจากกลับมาถึงห้อง
ใต้เคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของและช่องสำหรับใส่ไมโครเวฟ
เคาน์เตอร์ครัว Built-in มาเรียบร้อย Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์ Quartz แข็งแรงทนความร้อน ทนต่อการขีดข่วน ทำความสะอาดง่าย ส่วนใต้เคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของด้านล่าง ที่มีบานเปิดตู้เก็บของเป็นผิวลามิเนต ซึ่งอาจจะไม่ทนต่อความชื้นมากนัก เราต้องคอยเช็ดทำความสะอาดอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังมีช่องใส่ไมโครเวฟ สำหรับอุ่นอาหารไว้ด้วย เราสามารถซื้ออาหารมาอุ่นแล้วอุ่นทีละมื้อได้สะดวก
เคาน์เตอร์ครัวมีขนาดกว้าง ใช้เตรียมอาหารได้สะดวก
เคาน์เตอร์แบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งซิงค์ล้างจาน และฝั่งทำอาหาร โครงการให้เตาไฟฟ้าชนิด 2 หัวเตาพร้อมที่ดูดควันของ Teka ส่วน Backsplash ด้านหลังโครงการให้มาเป็นกระจกเงาสีดำ ทำความสะอาดง่ายเวลาทำอาหาร
ซิงค์ล้างจานมีความลึกมากกว่าปกติ เราเลยลองเอากระป๋องอาหารลงไปวางต่อกัน 2 ชั้นแล้วยังสูงไม่ถึงขอบซิงค์ เวลาล้างจานไม่ต้องกลัวน้ำกระเด็นออกมาด้านนอกเลย
ตู้เก็บของและชั้นวางของด้านบน
ตู้ลอยด้านบนเป็นตู้เก็บของที่บานเปิดตู้เป็นแบบกดกระเด้ง เราคิดว่าใช้งานได้ง่ายทั้งเวลาปกติหรือเวลาเปิดที่ดูดควันอยู่ พร้อมชั้นเก็บของแบบ Pull Down ใช้งานง่ายตอบโจทย์สาวๆที่หยิบของจากที่สูงลำบาก
ฉากกั้นห้องครัวเป็นบานเลื่อน 3 ตอน ช่วยกันกลิ่นอาหารลอยไปภายในห้อง และกั้นแอร์จากห้องนั่งเล่นไหลมาห้องครัว ซึ่งประหยัดค่าไฟได้ด้วย
ชุดแผงควบคุมไฟฟ้าให้มาเป็นกล่องเรียบร้อยและดู Minimal ดีค่ะ
บริเวณห้องน้ำมีธรณีประตูมากั้นไว้ เพื่อแยกโซนการใช้งานจากตัวห้อง และช่วยให้เวลาล้างห้องน้ำ ไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะกระเด็นออกมาด้านนอก
ห้องน้ำมีชุดสุขภัณฑ์มาให้ครบครัน
ภายในห้องน้ำมีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งที่ชัดเจน ทำให้ใช้งานได้ง่าย พร้อมมีชุดสุขภัณฑ์ของ American Standard มาให้ครบครัน
ส่วนอาบน้ำ
ส่วนอาบน้ำเป็นประตูบานเลื่อน เราชอบมือจับฉากกั้นแบบฝังเพราะไม่กินพื้นที่และใช้งานสะดวก ภายในส่วนอาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.00×0.80 เมตร พร้อม Hand Shower , Rain Shower และที่วางอุปกรณ์อาบน้ำ ใช้งานได้สะดวก
บรรยากาศของห้องนั่งเล่น
Common Area อยู่ระหว่างห้องครัวและห้องนอน ตอนเดินเข้ามาเรารู้สึกว่ามันโปร่งมากเพราะบริเวณนี้มีความสูงพื้น-ฝ้าอยู่ที่ 2.90 เมตร ซึ่งมากกว่ามาตรทั่วไปถึง 30-40 เซนติเมตรทีเดียว ส่วนนั่งเล่นมีระยะดูทีวีประมาณ 3.00 เมตร เหมาะกับการติดตั้งทีวีขนาด 44-46 นิ้ว มีพื้นที่พอที่จะวางโซฟา 2 ที่นั่งกับโต๊ะหน้าทีวีไว้วางของกินขณะดูทีวี ส่วนพื้นปูด้วยลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตรทำให้แข็งแรงมากกว่าแบบ 4 มิลลิเมตรที่เป็นมาตรฐานทั่วไป
โครงการให้ชั้นเก็บของมาด้วย เหมาะกับการตั้งโชว์ของสะสม
ห้องนอนกับห้องนั่งเล่นจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน
บริเวณนี้เป็นประตูบานเลื่อน 4 ตอนที่โครงการเพิ่มให้จากห้องรูปแบบเดิม ทำให้ห้องเป็นสัดส่วนมากขึ้น ช่วยให้คนที่อยู่ห้องนั่งเล่นกับห้องนอนทำกิจกรรมได้อย่างไม่รบกวนกันมากนัก หากใครอยู่กันหลายคนเราแนะนำให้ติดผ้าม่านเพิ่มเพื่อให้ไม่ให้แสงแต่ละห้องรบกวนกัน
ส่วนของห้องนอน
ห้องนอนมีขนาดค่อนข้างกว้าง เมื่อวางเตียง 5 ฟุตแล้วยังเหลือพื้นที่ปลายเท้าพอให้คนเดินผ่านได้ โดยมีทั้งหน้าต่างบานเลื่อนและประตูริมระเบียงจึงได้แสงธรรมชาติห้องดูสว่าง
มุมทำงานภายในห้องนอน
ภายในห้องมีพื้นที่เหลือทำเป็นมุมทำงาน ตรงกับหน้าต่างบานเลื่อนพอดีเหมาะกับการเขียน-อ่านหนังสือ แต่หากใครใช้โน๊ตบุ๊คหรือจอคอมฯ เราแนะนำให้ติดตั้งผ้าม่านกันย้อนแสงนะ
โครงการให้ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งมาด้วย
ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งมีลิ้นชักและช่องเก็บของไว้ให้ตามนี้เลย เป็นตู้บานทึบกรุผิวลามิเนต
ตรงระเบียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนสำหรับเปิดรับลมและระบายอากาศได้เต็มที่
ระหว่างพื้นห้องและพื้นระเบียงมีธรณีประตูกั้นไว้ กั้นน้ำไหลย้อนและฝุ่นจากภายนอก
พื้นที่ระเบียงภายนอก
ระเบียงที่มีขนาดประมาณ 1.40×12.0 เมตร ซึ่งโครงการติดตั้ง Condensing Unit ของแอร์ด้านบน เราจึงสามารถใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่ ถ้าใครซักผ้าเองเราแนะนำให้เลือกติดราวตากผ้าแบบเเขวน เพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ใช้งานนะ
1 BEDROOM PLUS
จากการที่เราพูดคุยกับเซลล์หน้าโครงการ ได้รู้ว่าห้อง 1 BEDROOM PLUS เป็นห้องที่ขายดีที่สุดเลย ปัจจุบันเหลืออยู่ไม่กี่ห้องแล้วนะ เรามองว่าห้องนี้สามารถจัดเป็นห้องนอนได้ 2 ห้อง แต่มีราคาประมาณ 6.39 ล้านบาท ซึ่งจับต้องได้ง่ายกว่าแบบ 2 BEDROOM ที่เริ่มต้นประมาณ 10.59 ล้านบาท
ภายในห้องวาง Common Area กับห้องครัวไว้คนละฝั่ง ทำให้เราสามารถเดินเข้าห้องโดยไม่ต้องผ่านห้องครัวก่อน ทำให้ห้องเป็นสัดส่วนมากขึ้นและเข้า-ออกง่ายมากขึ้น ส่วนห้องน้ำสามารถเข้าถึงได้ทั้งจากห้องนอนและห้องครัว ทำให้ทั้งเจ้าของห้องและแขกใช้งานสะดวก
จริงๆแล้วฟังก์ชันของห้องจะเป็น 1 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ แต่เราดูจากขนาดแล้วสามารถจัดเป็นห้องนอนรองได้เลยค่ะ ทั้งยังติดระเบียงเปิดรับลมได้ง่ายๆ ห้องนี้จึงเหมาะกับคนพักอาศัย 2 คน ที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัว เช่น คู่พี่น้อง ที่แต่ละคนอยากจะมีห้องส่วนตัวของตัวเอง
บรรยากาศ Common Area ภายในห้อง
เริ่มจาก Common Area จะรวมเอาพื้นที่ประทานอาหาร 2 ที่นั่งและห้องนั่งเล่นไว้ด้วยกัน มีความสูงพื้น-ฝ้าอยู่ที่ 2.90 เมตร ทำให้บรรยากาศภายในห้องโปร่งโล่ง และทำชั้นวางของด้านบนได้มากขึ้นด้วย ส่วนห้องนั่งเล่นมีระยะดูทีวีประมาณ 2.35 เมตร เหมาะกับการติดตั้งทีวีขนาด 40-43 นิ้ว
ภายใน Common Area มีพื้นที่กว้างสามารถวางโซฟา 2-3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะเล็กๆข้างโซฟา
บริเวณหน้าห้องจะมีตู้เก็บรองเท้าและตู้เก็บของ Built-in มาให้ สามารถเก็บได้เกือบๆ 20 คู่เลยนะ ตอบโจทย์คนชอบรองเท้าได้ดีเลย
ถ้าใครจะจัดมุมนี้เป็นพื้นที่รับประทานอาหารแบบห้องตัวอย่าง เราแนะนำให้ใช้โต๊ะที่มีขนาดเล็กลงหน่อยนะคะ จะได้ไม่ขวางบานเปิดของตู้เก็บรองเท้า
ห้องครัวถูกจัดไว้เป็นสัดส่วนพร้อมมีประตูกระจกกั้น กันกลิ่นควันลอยออกไปห้องอื่นๆ
ใต้เคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของและช่องสำหรับใส่เครื่องซักผ้า
เคาน์เตอร์ครัว Built-in มาให้ Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว L ง่ายต่อการแบ่งส่วนใช้งาน ใต้เคาน์เตอร์ Built-in เป็นตู้เก็บของด้านล่างมีช่องใส่เครื่องซักผ้าดูเรียบร้อยดีค่ะ นอกจากนี้ยังมีช่องใส่ไมโครเวฟสำหรับอุ่นอาหาร
เคาน์เตอร์รูปตัว L แบ่งเป็นฝั่งซิงค์ล้างจาน เตรียมอาหาร และฝั่งทำอาหาร เตรียมอาหาร
เคาน์เตอร์เป็นรูปตัว L กว้างพอที่จะให้คนมาช่วยทำอาหารได้ประมาณ 2-3 คน โครงการให้เตาไฟฟ้าชนิด 2 หัวเตาพร้อมที่ดูดควันมาให้
ตู้เก็บของและชั้นวางของด้านบน
ตู้ลอยด้านบนเป็นแนวยาวใช้เก็บของได้เยอะ
ห้องน้ำมีชุดสุขภัณฑ์มาให้ครบครัน
ห้องน้ำมีการแยกส่วนเปียก-แห้งได้อย่างชัดเจน และสามารถเข้าได้จาก 2 ฝั่ง คือฝั่งห้องนอนและห้องครัว ส่วนอาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.90 x 0.90 เมตร กว้างพอให้คนที่อาบน้ำอยู่หมุนตัวอาบน้ำได้สะดวก
ห้องอเนกประสงค์ กั้นด้วยประตูกระจก ถ้าใครต้องการทำห้องนี้เป็นห้องนอน แนะนำให้ติดม่านเพิ่มเพื่อความเป็นส่วนตัวนะคะ
ห้องอเนกประสงค์สามารถจัดเป็นห้องนอนรองได้
ห้องอเนกประสงค์มีขนาดประมาณ 2.40×2.40 เมตรพอที่จะวางเตียงเดี่ยว 3.5 ฟุตได้ ถ้าใครชอบดูทีวีจะติดตั้งทีวีแบบแขวนก็ได้นะ
ระเบียงมีความกว้างประมาณ 1.1 x 2.40 เมตร สามารถเดินออกมารับลม สูดอากาศเพื่อความสดชื่นได้ สามารถแขวน Condensing Unit 3 ตัวไว้ด้านบน ทำให้เราใช้งานระเบียงได้เต็มพื้นที่
ห้องนอนวางเตียง 5 ฟุตได้สบายๆ และยังเหลือพื้นที่รอบๆเตียงอยู่
ห้องนอนมีขนาดค่อนข้างกว้าง สามารถวางเตียง 6 ฟุตแล้วยังเหลือพื้นที่ปลายเท้าพอให้คนเดินผ่านได้ หากใครอยากติดตั้งทีวีแนะนำให้เลือกแบบติดผนังเพื่อประหยัดพื้นที่
โครงการให้ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่มาด้วย พร้อมมีช่องแบ่งเก็บเสื้อผ้ามาให้เรียบร้อย
2 BEDROOM
ห้อง Type นี้เรียกว่า 2 Master Bedroom ก็ว่าได้เพราะห้องนอนทั้ง 2 ห้องมีขนาดใหญ่พอๆกัน พร้อมมีห้องน้ำในตัวทั้ง 2 ห้อง ส่วนตัวห้องกั้นด้วยผนังทึบทำให้คนในห้องได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ทุกฟังก์ชันติดช่องแสงทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาอย่างทั่วถึง ครัวของห้องแบบนี้เป็นครัวเปิด เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหารทำให้การใช้งานต่อเนื่อง
ห้องนี้มีระเบียงที่ยาวเป็นพิเศษ เข้า-ออกได้จาก Common Area และห้องนอน ลูกบ้านสามารถใช้งานได้เต็มที่
ครัวเปิดเชื่อมต่อกับ Common Area ใครชอบทำอาหารหนักๆแนะนำให้ทำฉากกั้น กันกลิ่นลอยไปรบกวนห้องอื่นๆ
ราคา
Ideo Sukhumvit – Rama 4 (ไอดีโอ สุขุมวิท – พระราม 4) ราคา ณ วันที่ 6 กันยายน 2567
- 1 BED NEW SERIES พื้นที่ใช้สอยภายใน 29.50 ตร.ม.
-ฟังก์ชัน 1 ห้องนอน / 1 ห้องน้ำ
-ราคาเริ่มต้น 4.39 ล้านบาท - 1 BEDROOM พื้นที่ใช้สอยภายใน 34.50 ตร.ม.
-ฟังก์ชัน 1 ห้องนอน / 1 ห้องน้ำ
-ราคาเริ่มต้น 4.99 ล้านบาท - 1 BEDROOM PLUS พื้นที่ใช้สอยภายใน 44.00 ตร.ม.
-ฟังก์ชัน 1 ห้องนอน / 1 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์
-ราคาเริ่มต้น 6.39 ล้านบาท - 2 BEDROOM พื้นที่ใช้สอยภายใน 65.00 ตร.ม.
-ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ
-ราคาเริ่มต้น 10.59 ล้านบาท - 2 BEDROOM พื้นที่ใช้สอยภายใน 75.00 ตร.ม.
-ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ
-Sold Out - รูปแบบการขาย Fully Fitted
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.90 เมตร
- Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์ / Hob & Hood ของยี่ห้อ Teka
- มีรถตุ๊กๆรับ-ส่งไปกลับ BTS พระโขนง
- จอง 20,000-50,000 บาท
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน ( โปรโมชัน ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน ฟรีค่าส่วนกลาง 1 ปี)
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : จุดเด่นของ Ideo Sukhumvit – Rama 4 (ไอดีโอ สุขุมวิท – พระราม 4) คืออยู่ใกล้สถานี BTS พระโขนงประมาณ 350 เมตร ใช้เดินทางไปทำงานโซนในเมืองได้สะดวก สถานีรถไฟฟ้าติดกับ Community Mall เช่น Summer Hills และ W District สะดวกในการหาของกิน หรือแวะซื้อของกินก่อนกลับคอนโด
ปัจจุบันนี้รอบข้างอาคารยังไม่มีตึกสูงขึ้นในระยะประชิด ทำให้ลูกบ้านทุกห้องได้วิวบรรยากาศเมืองแบบ 360 องศา
การเดินทางโดยใช้รถ : พื้นที่ตรงนี้ใกล้สี่แยกพระโขนง ซึ่งเป็นบริเวณที่รถติดค่อนข้างหนัก แต่เราสามารถใช้ทางลัดเลาะไปถนนสุขุมวิทได้สะดวก หน้าโครงการมีจุดกลับรถทั้งฝั่งขาเข้า-ออกจากถนนพระราม 4 สามารถใช้งานได้สะดวก ทั้งยังไม่ไกลจากจุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานคร และทางด่วนฉลองรัช ทำให้เดินทางไปโซนอื่นๆของเมืองเช่น ลาดพร้าว , รามอินทราและพญาไทได้สะดวก
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ถือว่าเดินทางได้สะดวกมากค่ะ เพราะห่างจาก BTS พระโขนงเพียง 350 เมตร ทั้งยังอยู่ฝั่งเดียวกับสถานี BTS เดินไปได้สบายๆ ไม่ต้องข้ามถนนให้ยุ่งยาก ปลอดภัยต่อลูกบ้านด้วย นอกจากกนี้โครงการยังมีรถตุ๊กๆรับ-ส่งระหว่างโครงการไป BTS ด้วย
วัสดุ : โดยปกติโครงการขายแบบ Fully Fitted ให้ชุดครัว Built in , ตู้เสื้อผ้า , ตู้เก็บของ , ตู้รองเท้า ,เครื่องปรับอากาศ และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ประตูทางเข้าหลักของห้องให้ Digital Door Lock มาให้ด้วย ส่วนพื้นครัวปูกระเบื้องมาให้เหมาะกับการใช้งาน พื้นห้องเป็นพื้นไม้ลามิเนต 8 มิลลิเมตรทนต่อการใช้งาน แต่ต้องระวังความชื้น ส่วนชุดครัวและห้องน้ำได้เหมือนในห้องตัวอย่าง วัสดุอื่นๆให้ตามมาตรฐานราคานี้
การออกแบบโครงการ : โครงการใช้ระบบจดจำป้ายทะเบียนในการเข้า-ออก ภายในแบ่งเป็นโซนที่เปิดให้คนทั่วไปมาใช้งานคือ ร้านกาแฟ , Shop 2 ยูนิต และ Urban Courtyard ชั้น 1 โครงการจึงเอา Main Facilities มาไว้ชั้น 6 เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้าน
Main Facilities ที่ชั้น 6 โอบล้อมสวนชั้น 1 อยู่จึงสามารถมองเห็น Urban Courtyard ได้ ฟิตเนสสระว่ายน้ำเรียงตัวเป็นแนวยาวหันหน้าออกไปทางหน้าอาคาร ซึ่งชั้น 6 อยู่สูงกว่าอาคารรอบๆข้าง จึงเห็นวิวเมืองแบบ 360 องศา ในส่วนของฟิตเนสยังเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงอีกด้วยนะ นอกจากนี้ยังมี Sky Facilities ที่ให้ทุกคนได้เห็นเมืองในมุมสูง
ชั้นพักอาศัยออกแบบเป็นรูปตัว L ล้อม Facilities ที่ชั้น 6 ทำให้ห้องพักฝั่งหนึ่งได้วิวสระและสวน อัตราส่วนของลิฟต์อยู่ที่ 160 เมื่อเทียบกับคอนโดรอบข้างถือว่าดีเลยค่ะ ไม่ต้องรอลิฟต์นาน
การออกแบบห้องพัก : ภายในห้องพักออกแบบได้เป็นสัดส่วน ทั้งครัวแบบปิดหรือการแยกห้องนอนกับห้องนั่งเล่นออกจากกันอย่างชัดเจน ทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ห้องแบบตอนลึกจะกั้นด้วยฉากกระจก ทำให้แสงเข้าถึงได้ ส่วนห้องที่กั้นด้วยผนังทึบก็ออกแบบให้ทุกฟังก์ชันมีหน้าต่าง รับแสงธรรมชาติได้ดี ยกเว้นห้องน้ำที่ต้องพึ่งพางานระบบของอาคารนะคะ
สาธารณูปโภค : Highlight ของโครงการคือ Urban Courtyard ที่ทำเป็น Urban Courtyard เมื่อเดินเข้าไปแล้วให้ความรู้สึกถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติ ถือเป็น Landmark ของที่นี่เลย ส่วน Main Facilities มีมาให้ครบครัน ที่โดดเด่นอีกหนึ่งจุดคือ Fitness ที่เปิด 24 ชั่วโมง ตอบโจทย์คนชอบออกกำลังเวลากลางคืน นอกจากนี้ยังมี Sky Lounge กับสวนบนชั้นดาดฟ้าให้ขึ้นไปชมวิวได้แบบ 360 องศา
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 145,000 บาท/ตร.ม., 6 กันยายน 2567
- ทำเล 8 /10 – ใกล้ BTS พระโขนงและ Community Mall
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – ใกล้ทางด่วน 2 จุด มีเส้นทางลัดเลาะเพื่อเลี่ยงรถติด
- ไม่ใช้รถ 8.5 /10 – เดินไป BTS ได้สะดวกเพียง 350 เมตร , มีรถรับส่งจาก BTS มาโครงการ
- วัสดุ 8/10 – ขายแบบ Fully Fitted ต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์เพิ่ม
- แบบ 8.5/10 – ฝ้าเพดานสูง 2.9 เมตร มีห้องหน้ากว้างให้เลือก
- สาธารณูปโภค 8.5/10 – มี Urban Courtyard ตกแต่งด้วยน้ำตกสูง 18 เมตร และ Fitness 24 ชั่วโมง
- UPPER CLASS
- 8.17 / 10.00
Ideo Sukhumvit – Rama 4 (ไอดีโอ สุขุมวิท – พระราม 4) เหมาะกับใคร
โครงการ Ideo Sukhumvit – Rama 4 (ไอดีโอ สุขุมวิท – พระราม 4) เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดย่านพระโขนง-พระราม 4 ใกล้ BTS ในระยะเดินได้ และหาของกินของใช้ได้ไม่ยาก และเหมาะเป็นอย่างยิ่งกับคนที่ชอบบรรยากาศธรรมชาติ และใช้ฟิตเนสได้ 24 ชั่วโมง มีห้องให้เลือกหลากหลาย เน้นความเป็นสัดส่วนในห้องได้ครัวปิด มีงบประมาณ 4.39 ล้านบาทขึ้นไป หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 30,730 บาท/เดือนขึ้นไป
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่